04 เทคนิคการเรยี นรู ้ ทหี่ ลากหลาย
ศาสตรก์ ารสอน หมายถงึ ความรเู ้ กยี่ วกบั การเรยี นรู ้ และการสอนทสี่ งั คมโลกไดส้ ง่ั สม มาตง้ั แตอ่ ดตี จวบจนปัจจบุ นั ซง่ึ ผูส้ อนสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ น การชว่ ยใหผ้ ูเ้ รยี นสามารถเรยี นรไู ้ ดต้ ามเป้ าหมาย/จดุ หมาย/ วตั ถปุ ระสงคข์ องการสอนทกี่ าหนด ความรดู ้ งั กลา่ วไดม้ าจากการคดิ การวเิ คราะหข์ องนักปราชญ ์ และนักคดิ ทง้ั หลาย หรอื ไดม้ าจาก การศกึ ษา คน้ ควา้ พสิ จู นท์ ดสอบตามกระบวนการวทิ ยาศาสตรข์ อง นักจติ วทิ ยาและนักการศกึ ษาตา่ ง ๆ ขอ้ ความรดู ้ งั กลา่ ว ประกอบดว้ ยปรชั ญทางการศกึ ษา บรบิ ททางการสอน ทฤษฎี หลกั การ แนวคดิ ระบบ รปู แบบ วธิ กี าร เทคนิค และจติ วทิ ยา ทางการเรยี นรแู ้ ละการสอน การวางแผนและออกแบบการจดั การ เรยี นการสอน การดาเนินการเรยี นการสอน การวดั และประเมนิ ผล สอื่ เทคโนโลยที างการสอน นวตั กรรมและการวจิ ยั การเรยี นการสอน เป็ นตน้ .
การจดั การเรยี นใหเ้ หมาะสมกบั เนือ้ หาวชิ าทสี่ อน หมายถงึ การจดั การเรยี นการสอนทมี่ เี นือ้ หาทตี่ รงและเหมาะสมกบั วชิ าทต่ี อ้ งการจะ สอน โดยยกตวั อยา่ งวธิ กี ารสอนมา 1 วธิ คี อื - วธิ สี อนแบบสาธติ (Demonstration Method) ความหมาย วธิ ี สอนแบบสาธติ หมายถงึ การทค่ี รหู รอื นักเรยี นคนใดคนหน่ึง แสดงบางสง่ิ บางอยา่ ง ใหน้ ักเรยี นดู หรอื ใหเ้ พอื่ นๆดู อาจเป็ นการแสดงการใชเ้ ครอื่ งมอื แสดงใหเ้ ห็น กระบวนการวธิ กี าร กลวธิ หี รอื การทดลองทมี่ อี นั ตราย ซง่ึ ไม่เหมาะทจี่ ะใหน้ ักเรยี น ทาการทดลอง การสอนวธิ นี ีช้ ว่ ยใหน้ ักเรยี นเกดิ ความรคู ้ วามเขา้ ใจและสามารถทา ในสง่ิ นั้นไดถ้ กู ตอ้ ง และยงั เป็ นการสอนใหน้ ักเรยี นไดใ้ ชท้ กั ษะในการสงั เกต และถอื วา่ เป็ นการไดป้ ระสบการณต์ รงวธิ หี น่ึง วธิ สี อนแบบสาธติ จงึ เป็ นการสอนทยี่ ดึ ผูส้ อนเป็ นศนู ยก์ ลาง เพราะผูส้ อนเป็ นผูว้ างแผน ดาเนินการ และลงมอื ปฏบิ ตั ิ ผูเ้ รยี นอาจมสี ว่ นรว่ มบา้ งเล็กนอ้ ย วธิ สี อนแบบนีจ้ งึ เหมาะสาหรบั จดุ ประสงคก์ าร สอนทต่ี อ้ งการใหผ้ ูเ้ รยี นเห็นขน้ั ตอนการปฏบิ ตั ิ เชน่ วชิ าพลศกึ ษา ศลิ ปศกึ ษา อตุ สาหกรรมศลิ ป์ วชิ าในกลมุ่ การงานและพนื้ ฐานอาชพี เป็ นตน้
การจดั การเรยี นใหเ้ หมาะสมกบั เนือ้ หาวชิ าทสี่ อน ความมุ่งหมาย เพอื่ แสดงใหผ้ ูเ้ รยี นไดเ้ ห็นขนั้ ตอนการปฏบิ ตั ติ า่ ง ๆ ซง่ึ จะชว่ ยใหผ้ ูเ้ รยี นเกดิ ความเขา้ ใจไดอ้ ยา่ งแจม่ แจง้ และสามารถปฏบิ ตั ติ ามได ้ เมอื่ ใดจงึ จะใชก้ ารสอนแบบสาธติ 1. เมอื่ นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น ผูส้ อนสาธติ ใหผ้ ูด้ ูเพอื่ ใหผ้ ูเ้ รยี นตงั้ ปัญหาและเกดิ ความอยากรู ้ อยากเหน็ อยากคน้ หาคาตอบตอ่ ไป 2. เพอื่ สรา้ งปัญหาใหผ้ ูเ้ รยี นคดิ 3. เพอื่ ตอ้ งการสรา้ งความเขา้ ใจในความคดิ รวบยอด ความจรงิ หลกั ทฤษฎี โดยนกั เรยี นสามารถมองเหน็ โดยตรง
การจดั การเรยี นใหเ้ หมาะสมกบั เนือ้ หาวชิ าทสี่ อน 4. เมอื่ อธบิ ายเครอื่ งมอื วทิ ยาศาสตรส์ ่วนไหนทาหนา้ ทอี่ ะไร 5. เมอื่ เครอื่ งมอื ทจี่ ะทาการทดลองมรี าคาแพง หรอื เกดิ อนั ตรายไดง้ ่าย 6. ควรคานึงถงึ ฤดูกาล โอกาศในการใช้ เพอื่ กระตนุ้ ความสนใจของนกั เรยี นใหม้ คี วามสนใจในบทเรยี น ชว่ ยอธบิ ายเนือ้ หาวชิ าทยี่ าก ตอ้ งใช้ เวลานานใหเ้ ขา้ ใจง่ายขนึ้ และประหยดั เวลา เพอื่ แสดงวธิ กี ารหรอื กลไกวธิ ใี นการปฏบิ ตั งิ านซงึ่ ไมส่ ามารถอธบิ ายไดด้ ว้ ย คาพูด เชน่ การทากจิ กรรม วชิ าศลิ ปะ หตั ถกรรม งานประดษิ ฐ ์ นาฏศลิ ป์ เพอื่ ชว่ ยสรุปบทเรยี น เพอื่ ใชท้ บทวนบทเรยี น เพอื่ สรา้ งความเขา้ ใจ ความคดิ รวบยอด ความจรงิ หลกั ทฤษฎี โดยนกั เรยี นมองเหน็ ไดโ้ ดยตรง เพอื่ ทดสอบหรอื ยนื ยนั การ สงั เกตในครง้ั กอ่ นๆ วา่ ผลเหมอื นเดมิ หรอื ไม่ ประเภทของการสาธติ
การจดั การเรยี นใหเ้ หมาะสมกบั เนือ้ หาวชิ าทสี่ อน ประเภทของการสาธติ แบบที่ 1 1. สาธติ ใหด้ ูทงั้ ชน้ั การสาธติ ใหด้ ูทง้ั ชน้ั ผูส้ อนจะตอ้ งระวงั ใหท้ ุกคนมองเห็นและเขา้ ใจการสาธติ ในแตล่ ะครงั้ อยา่ งไรกต็ าม การสาธติ ใหด้ ูทงั้ ชน้ั ย่อมมผี ูเ้ รยี นบางคนไมเ่ ขา้ ใจดพี อเนื่องจากบางคนมพี นื้ ความรูห้ รอื ประสบการณแ์ ตกตา่ งกนั 2. การสาธติ ใหด้ ูเป็ นกลุ่มหรอื เป็ นหมู่ เมอื่ มผี ูเ้ รยี นจานวนหนึ่ง เรยี นไม่เขา้ ใจดพี อ จงึ จาเป็ นตอ้ งสาธติ ใหด้ ใู หมเ่ ป็ นกลมุ่ เล็ก ในแตล่ ะชนั้ เรยี นอาจมผี ูเ้ รยี นไดเ้ รว็ มาก 3. การสาธติ ใหด้ ูเป็ นรายบุคคล เมอื่ ผูส้ อนสาธติ ใหด้ ูเป็ นหมู่ เป็ นกลุ่มแตผ่ ูเ้ รยี นบางคนไมอ่ าจจะเขา้ ใจการสาธติ ทง้ั ชนั้ หรอื เป็ นกล่มุ ได้ หรอื ผูเ้ รยี นบางคนไม่ไดเ้ ขา้ รว่ ม ผูส้ อนจงึ ตอ้ งสาธติ ใหด้ ูเป็ นรายบุคคล
การจดั การเรียนให้เหมาะสมกบั เเน้อหหาวชิ าที่สหน 1. ครูแสดงการสาธิตคนเดยี ว ( Teacher- แบบที่ 2 3. กลุ่มนักเรียนล้วนเป็ นผ้สู าธิต (Student Demonstration ) Group Demonstration ) 2. ครูและนักเรียนช่วยกนั แสดงสาธิต (Teacher-Student- Demonstration ) 4. นักเรียนคนเดยี วเป็ นผู้สาธิต 5. วทิ ยากรเป็ นผู้สาธิต ( Guest (Individual Student Demonstration ) Demonstration )
การจดั การเรยี นรูท้ เี่ หมาะสมกบั ตวั ผูเ้ รยี น หมายถงึ การจดั การเรยี นการสอนทม่ี เี นือ้ หาทตี่ รงและเหมาะสมกบั ผูเ้ รยี นที่ ตอ้ งการจะเรยี นเผอ่ื ใหต้ รงกบั ศกั ยภาพของตวั ผูเ้ รยี น 1. การวเิ คราะหส์ อ่ื การเรยี นการสอน การวเิ คราะหส์ อื่ การเรยี นการ สอน มจี ดุ มุ่งหมาย เพอื่ ใหไ้ ดข้ อ้ มูลทน่ี าไปตดั สนิ ใจในการออกแบบสอ่ื เนื่องจากสอ่ื การเรยี นการสอนมหี ลากหลายประเภท การวเิ คราะหส์ อื่ จะชว่ ยใหค้ รทู ราบวา่ สอ่ื ประเภทใดทเ่ี สรมิ สรา้ งความรคู ้ วามเขา้ ใจของนักเรยี นตอ่ บทเรยี นไดด้ ที ส่ี ดุ และมี ความเหมาะสมกบั การนาไปใช ้ ไดแ้ ก่
การจดั การเรยี นรูท้ เี่ หมาะสมกบั ตวั ผูเ้ รยี น 1) สอื่ การเรยี นการสอนตอ้ งสอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรแู ้ ละเนือ้ หาการเรยี นรู ้ ทง้ั นีเ้ พราะสอ่ื แตล่ ะประเภทมปี ระสทิ ธภิ าพในการสรา้ ง ประสบการณก์ ารเรยี นรทู ้ แ่ี ตกตา่ งกนั เชน่ การใช ้ คอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอนเหมาะสาหรบั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นการสอนทเี่ ป็ นการพฒั นาผูเ้ รยี น เป็ นรายบุคคล มจี ดุ มุ่งหมายเพอื่ ซอ่ มเสรมิ หรอื สง่ เสรมิ ความสามารถเฉพาะบุคคล 2) สอ่ื การเรยี นการสอนตอ้ งเหมาะสมกบั ผูเ้ รยี น ผูเ้ รยี นแตล่ ะคนมคี วามแตกตา่ งกนั ทง้ั ในดา้ นพฒั นาการของรา่ งกาย สตปิ ัญญา อารมณแ์ ละ สงั คมในแตล่ ะชว่ งวยั ซงึ่ เกย่ี วขอ้ งอยา่ งมากกบั ความสามารถในการเรยี นรู ้ 3) สอื่ การเรยี นการสอนตอ้ งเหมาะสมกบั วธิ สี อนหรอื รปู แบบการเรยี นการสอนทใี่ ช ้ เนื่องจากวธิ สี อน และรปู แบบการเรยี นการสอนแตล่ ะรปู แบบมี ลกั ษณะเฉพาะเพอื่ ตอบสนองจดุ ประสงค ์ การเรยี นรเู ้ ฉพาะทแ่ี ตกตา่ งกนั ดงั นั้นจงึ ตอ้ งอาศยั สอ่ื การเรยี นการสอนทส่ี อดคลอ้ งกบั วธิ สี อนหรอื รปู แบบการเรยี นการสอนอยา่ งเหมาะสม 4) สอื่ การเรยี นการสอนตอ้ งสอดคลอ้ งกบั สภาพของการนาไปใชแ้ ละคา่ ใชจ้ า่ ย มสี อ่ื หลายชนิดทส่ี ามารถทาใหผ้ ูเ้ รยี นเกดิ การเรยี นรตู ้ าม จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรเู ้ ดยี วกนั ได ้ ผูส้ อนสามารถเลอื กใช ้ใหเ้ หมาะสมกบั สภาพของการนาไปใชแ้ ละคา่ ใชจ้ า่ ย ตวั อย่าง เชน่ การน าผูเ้ รยี นไป เรยี นรใู ้ นสถานทจี่ รงิ เป็ น การสรา้ งประสบการณต์ รงซงึ่ เป็ นการเรยี นรทู ้ ด่ี ที สี่ ดุ
การจดั การเรยี นรูท้ เี่ หมาะสมกบั ตวั ผูเ้ รยี น 5) สอื่ การเรยี นการสอนตอ้ งมคี วามสะดวกใชแ้ ละสอดคลอ้ งกบั ความสามารถของผูใ้ ช ้สอ่ื การเรยี นรบู ้ างชนิดเป็ นสอ่ื สมยั ใหม่ทผี่ ูใ้ ชอ้ าจไม่มคี วาม ชานาญในการใชด้ พี อ เชน่ สอื่ อเิ ล็กทรอนิกส ์ ผูใ้ ชจ้ ะตอ้ งศกึ ษาและใชส้ อื่ นั้น ๆ ใหเ้ ขา้ ใจอยา่ งถอ่ งแท ้ 6) สอื่ การเรยี นการสอนตอ้ งทาหนา้ ทไี่ ดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ สอ่ื การเรยี นการสอนที่ นามาใชน้ ั้นควรทาหนา้ ทไี่ ดอ้ ยา่ งคมุ ้ คา่ คมุ ้ เวลาและสรา้ ง ความพงึ พอใจใหก้ บั ผูเ้ รยี น สอื่ การเรยี นการ สอนทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพจงึ เป็ นสอื่ ทม่ี ลี กั ษณะดงึ ดดู ความสนใจของผูเ้ รยี น สามารถสรา้ งความเขา้ ใจ เนือ้ หา สาระใหก้ บั ผูเ้ รยี นไดถ้ กู ตอ้ งตรงตามจดุ ประสงคข์ องการเรยี นรู ้ โดยไม่เสยี เวลามาก
การจดั การเรยี นรูแ้ บบบูรณาการ หมายถงึ การจดั การเรยี นการสอนทมี่ เี นือ้ หาทต่ี รงและเหมาะสมกบั ผูเ้ รยี นที่ ตอ้ งการจะเรยี นเผอื่ ใหต้ รงกบั ศกั ยภาพของตวั ผูเ้ รยี น หมายถงึ เป็ นการเชอื่ มโยงวชิ าหนึ่งเขา้ กบั วชิ าอน่ื ๆ ในการสอน เพอื่ ใหผ้ ูเ้ รยี นเกดิ องคค์ วามรทู ้ ห่ี ลากหลาย และสามารถนาไปใชป้ ระโยชนใ์ น ชวี ติ ประจาวนั เหตผุ ลทส่ี นับสนุนการเชอ่ื มโยงวชิ าตา่ ง ๆ เขา้ ดว้ ยกนั ในการสอนมี ดงั ตอ่ ไปนี้ 1. สงิ่ ทเ่ี กดิ ขนึ้ ในชวี ติ จรงิ ไม่ไดจ้ ากดั วา่ จะเกยี่ วขอ้ งกบั สาขาวชิ าใดสาขาวชิ าหนึ่ง โดยเฉพาะ ตวั อยา่ ง เชน่ การเกดิ อทุ กภยั ซง่ึ เป็ นเหตกุ ารณเ์ ดยี วแตก่ อ่ ใหเ้ กดิ ผลกระทบหลายอยา่ ง เชน่ บา้ นเรอื นไรน่ าเสยี หาย ธรุ กจิ หยดุ ชะงกั โรงเรยี นและ สถานทต่ี า่ ง ๆ ตอ้ งหยดุ งาน กอ่ ใหเ้ กดิ ความเดอื ดรอ้ นหลายประการ ในการ แกป้ ัญหาตา่ ง ๆ เหลา่ นี้ เราจาเป็ นจะตอ้ งใชค้ วามรแู ้ ละทกั ษะจากหลาย ๆ สาขาวชิ า มารว่ มกนั แกป้ ัญหา การเรยี นรเู ้ นือ้ หาวชิ าตา่ งๆ ในลกั ษณะเชอื่ มโยงสมั พนั ธก์ นั จะ ชว่ ยใหผ้ ูเ้ รยี นเขา้ ใจถงึ ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งวชิ า และความสมั พนั ธข์ องวชิ าตา่ ง ๆ เหลา่ น้ันกบั วชิ าจรงิ
การจดั การเรยี นรูแ้ บบบูรณาการ 2. การจดั การเรยี นการสอนแบบบูรณาการจะชว่ ยใหเ้ กดิ ความสมั พนั ธเ์ ชอื่ มโยง ระหวา่ งความคดิ รวบยอดในศาสตรต์ า่ ง ๆ ทาใหเ้ กดิ การเรยี นรทู ้ ม่ี ี ความหมาย การเรยี นการสอนในวชิ าวทิ ยาศาสตร ์ ไม่จาเป็ นวา่ ความคดิ รวบยอดจะตอ้ งแยกจากความคดิ รวบรวมยอดในวชิ าอนื่ ๆ ไม่วา่ จะเป็ น คณิตศาสตร ์ภาษา หรอื สงั คมศกึ ษา เนือ้ หาและกระบวนการทเี่ รยี นในวชิ าหน่ึงอาจชว่ ยใหน้ ักเรยี นมคี วามเขา้ ใจในวชิ าอนื่ ดขี นึ้ ได ้ 3. การสอนทสี่ มั พนั ธเ์ ชอ่ื มโยงความคดิ รวบยอดจากหลาย ๆ สาขาวชิ าเขา้ ดว้ ยกนั มปี ระโยชนห์ ลายอยา่ ง ทสี่ าคญั ทส่ี ดุ คอื ชว่ ยใหเ้ กดิ การถา่ ยโอน ความรู ้ การจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนแบบบูรณาการจะชว่ ยใหน้ ักเรยี นเชอื่ มโยงสงิ่ ทเี่ รยี นเขา้ กบั ชวี ติ จรงิ ไดแ้ ละในทางกลบั กนั ก็จะสามารถ เชอื่ มโยงเรอ่ื งของชวี ติ จรงิ ภายนอกหอ้ งเรยี นเขา้ กบั สง่ิ ทเ่ี รยี นได ้ 4. หลกั สตู รและการเรยี นการสอนแบบบรู ณาการมปี ระโยชนใ์ นการขจดั ความซา้ ซอ้ นของเนือ้ หาตา่ ง ๆ ในหลกั สตู ร ในปัจจบุ นั เราประสบปัญหาใน เรอ่ื งทค่ี วามรแู ้ ละขอ้ มูลตา่ ง ๆ เพมิ่ ขนึ้ อยา่ งรวดเรว็ มเี รอื่ งทจ่ี าเป็ นตอ้ งเรยี นรเู ้ พม่ิ ขนึ้ จานวนมากมายในแตล่ ะปี การเพมิ่ ขนึ้ อยา่ งมากมายและรวดเรว็ ของความรแู ้ ละขอ้ มูลตา่ ง ๆ นี้ ทาใหก้ ารเรยี นแบบสมั พนั ธว์ ชิ ามคี วามสาคญั มากกวา่ ทต่ี า่ งวชิ าตา่ งเพม่ิ เนือ้ หาเขา้ ไปในหลกั สตู รของตน
การจดั การเรยี นรูแ้ บบบูรณาการ 5. การเรยี นการสอนแบบบูรณาการสามารถตอบสนองตอ่ ความสามารถของผูเ้ รยี นซงึ่ มหี ลายดา้ น เชน่ ภาษา คณิตศาสตร ์การมองพนื้ ท่ี ความ คลอ่ งของรา่ งกาย และความเคลอื่ นไหวดนตรี สงั คมหรอื มนุษยส์ มั พนั ธแ์ ละความรแู ้ ละความเขา้ ใจ 6. กระบวนการเรยี นการสอนทใี่ ชใ้ นหลกั สตู รแบบบรู ณาการสอดคลอ้ งกบั ทฤษฎกี ารสรา้ งความรโู ้ ดยผูเ้ รยี น ซง่ึ กาลงั ไดร้ บั ความสนใจอยา่ ง กวา้ งขวางในวงการศกึ ษาขณะนี้ ประเภทของการสอนแบบบูรณาการ มี 2 แบบ คอื 1. การบรู ณาการภายในกลมุ่ วชิ าหรอื สาขาวชิ าเดยี วกนั โดยกาหนดหวั เรอื่ งขนึ้ แลว้ บรู ณาการขอบขา่ ยวชิ าตา่ งๆ ในการสอนตามหวั เรอื่ งนั้น 2. การบูรณาการระหวา่ งวชิ า เป็ นการเชอ่ื มโยงหรอื รวมศาสตรต์ า่ ง ๆ ตงั้ แต่ 2 สาขาวชิ า ขนึ้ ไป
การบูรณาการปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง การบูรณาการกบั หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง พอประมาณ คอื การรว่ มมอื รว่ มใจในการประหยดั พลงั งานเพอ่ื ลดโลกรอ้ นถอื เป็ นสว่ นทมี่ กี ารรณรงคม์ ากทส่ี ดุ ในปัจจบุ นั สามารถทาไดโ้ ดยหลายวธิ ี เชน่ การใชถ้ งุ ผา้ การใชพ้ ลงั งานเท่าที่ จาเป็ น การรไี ซเคลิ ขยะ หรอื ขา้ วของเครอ่ื งใชท้ ม่ี อี ยมู่ าทาใหเ้ กดิ ประโยชน์ รจู ้ กั ความพอประมาณไม่ทาใหต้ นเองและผูอ้ นื่ เดอื ดรอ้ น ฯลฯ
การบูรณาการปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง มเี หตผุ ล คอื การรจู ้ กั นึกถงึ ผลกระทบทจี่ ะเกดิ ขนึ้ จากการกระทาตา่ งๆของเรา เชน่ การทเี่ รานาขวดไปทงิ้ ก็สามารถนามาทาเป็ นกระถางตน้ ไมไ้ ด ้ มภี มู คิ มุ ้ กนั ในตวั เองคอื การเตรยี มตวั ใหพ้ รอ้ มรบั ผลกระทบหรอื การเปลย่ี นแปลงดา้ นตา่ งๆทจี่ ะเกดิ ขนึ้ เงอื่ นไขความรู ้ หมายถงึ ความรอบรเู ้ กย่ี วกบั วชิ าการตา่ งๆทเี่ กยี่ วขอ้ งอยา่ งรอบดา้ นและรอบคอบ เชน่ การวางแผนงานทจ่ี ะทากอ่ นแลว้ คอ่ ยลงมอื ทา อยา่ งระมดั ระวงั เงอ่ื นไขคณุ ธรรม ทจ่ี ะตอ้ งเสรมิ สรา้ งประกอบดว้ ย มคี วามตระหนักในคณุ ธรรม ซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ และอดทนใชส้ ตปิ ัญญาในการดาเนินชวี ติ เชน่ -การใชส้ ตปิ ัญญา คอื การทเี่ ราใชค้ วามคดิ ในการประดษิ ฐก์ ระถางตน้ ไมจ้ ากขวดนา้ ทม่ี อี ยเู่ ป็ นจานวนมากมาใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ -ความอดทน ขยนั หม่นั เพยี ร คอื ใชค้ วามอดทนทจ่ี ะทางาน และมคี วามขยนั ทจ่ี ะทางานใหอ้ อกมาไดด้ ที สี่ ดุ
การบูรณาการเนือ้ หาและภาษา ความหมายของ การเรยี นรแู ้ บบบูรณาการภาษาและเนือ้ หา เป็ นการเรยี นรทู ้ เี่ ปิ ด โอกาสใหผ้ ูเ้ รยี นไดใ้ ชภ้ าษาอน่ื ๆทไี่ ม่ใชภ่ าษาตวั เองไดอ้ ยา่ งเป็ นธรรมชาติ จนรสู ้ กึ วา่ ตนเองไม่ไดเ้ รยี นภาษาแตก่ าลงั ใชภ้ าษาในการแสวงหาความรใู ้ นเรอ่ื งทกี่ าลงั เรยี น ซง่ึ การเรยี นรแู ้ บบบรู ณาการภาษาและเนือ้ หาสามารถจดั ในชว่ั โมงเรยี นวชิ า ใดวชิ าหนึ่งโดยมจี ดุ มุ่งหมายสองอยา่ งคอื พฒั นาภาษาและเนือ้ หาวชิ าน้ันๆ ซง่ึ บางครงั้ เรยี กวธิ กี ารสอนแบบนีว้ า่ การศกึ ษาทเี่ นน้ สองทาง เป็ นวธิ สี อนภาษาแบบ บูรณาการภาษาและเนือ้ หามพี นื้ ฐานแนวคดิ มาจากการศกึ ษาสองภาษา เป็ น กระบวนการจดั การศกึ ษาทใ่ี ชส้ องภาษาเป็ นสอื่ ในการจดั การเรยี นรใู ้ นหอ้ งเรยี น ลกั ษณะของโปรแกรมจงึ นิยมแยกออกเป็ นโปรแกรมระดบั ประถมศกึ ษา มธั ยมศกึ ษา และหลงั มธั ยมศกึ ษา ดงั นี้ 1.1 โปรแกรมสองภาษาระดบั ประถมศกึ ษา แบ่งได ้ 3 ลกั ษณะ ดงั นี้
การบูรณาการเนือ้ หาและภาษา 1.1.1 โปรแกรมเปลย่ี นผ่าน ความมุ่งหมายของโปรแกรมเพอื่ ใหผ้ ูเ้ รยี นใชท้ งั้ สองภาษาคอื ภาษาทห่ี น่ึงและภาษาใหม่ (ภาษาทส่ี อง) ในการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู ้ ระยะเวลาของโปรแกรมประมาณ 1-3 ปี 1.1.2 โปรแกรมระดบั พฒั นา เป้ าหมายของโปรแกรม เพอื่ ใหค้ วามรดู ้ า้ นเนือ้ หาวชิ าตา่ งๆทง้ั ภาษาทหี่ น่ึงและภาษาทส่ี อง ลกั ษณะเดน่ ของโปรแกรม คอื การยงั คงไวข้ องการเรยี นภาษาทห่ี น่ึง 1.1.3 โปรแกรมการเรยี นภาษาทสี่ องเหมอื นภาษาทหี่ นึ่ง เรยี กวา่ “immersion program” โปรแกรมนีเ้ รม่ิ ครงั้ แรกทแี่ คนาดา เป็ นการเรยี นสอง ภาษา ภาษาทหี่ น่ึงคอื ภาษาของตวั เอง และภาษาทสี่ องคอื ภาษาของกลมุ่ ใหญห่ รอื ภาษาของชนกลมุ่ นอ้ ยในประเทศน้ัน
การบูรณาการเนือ้ หาและภาษา 1.2 โปรแกรมสองภาษาระดบั มธั ยมศกึ ษา ลกั ษณะของโปรแกรมสองภาษาในระดบั มธั ยมขนึ้ อยกู่ บั แตล่ ะโรงเรยี น แตม่ จี ดุ รว่ มกนั คอื การเรยี นใน ระดบั นีเ้ นน้ การสอนเนือ้ หาวชิ ามากขนึ้ 1.3 โปรแกรมสองภาษาระดบั หลงั มธั ยมศกึ ษา โปรแกรมนีจ้ ดั ใหก้ บั ผูเ้ รยี นทพ่ี น้ เกณฑก์ ารศกึ ษาภาคบงั คบั ซงึ่ มคี วามหลากหลายมากกวา่ ระดบั มธั ยม ปัจจยั สาคญั ในการจดั โปรแกรมการศกึ ษาสองภาษาคอื ผูส้ อนตอ้ งมคี วามรคู ้ วามสามารถอยา่ งนอ้ ย 1 ภาษา และมคี วามสามารถในการจดั กจิ กรรมเพอ่ื ใหผ้ ูเ้ รยี นไดม้ คี วามรใู ้ นดา้ นเนือ้ หาวชิ า
การบูรณาการเนือ้ หาและภาษา เป้ าหมาย The National Centre for Languages กลา่ วถงึ จดุ ประสงคข์ องการจดั กจิ กรรมตามวธิ กี ารสอนภาษาแบบบูรณาการเนือ้ หาและภาษา ตอ้ งการใหผ้ ูเ้ รยี นบรรลจุ ดุ ประสงค ์ 4 ประการ ดงั นี้ 1.เนือ้ หา หมายถงึ ความกา้ วหนา้ ทางดา้ นความรู ้ ทกั ษะและความเขา้ ใจวชิ าใดวชิ าหน่ึงทกี่ าหนดไวใ้ นหลกั สตู ร 2.การสอื่ สาร หมายถงึ ภาษาทผี่ ูส้ อนใชใ้ นการจดั กจิ กรรมการเรยี นรภู ้ าษา 3.ความรู ้ หมายถงึ ความเขา้ ใจในเนือ้ หาและภาษา 4.วฒั นธรรม หมายถงึ การเรยี นรคู ้ วามคดิ เห็นและความรทู ้ หี่ ลากหลายอนั จะนาไปสคู่ วามเขา้ ใจตนเองและผูอ้ น่ื
การบูรณาการเนือ้ หาและภาษา 5. ผูส้ อน ผูส้ อนอาจเป็ นนักภาษาศาสตรท์ ไี่ ม่ใชเ่ จา้ ของภาษาและไมม่ คี วามเชย่ี วชาญดา้ นเนือ้ หา หรอื อาจเป็ นครทู เี่ ป็ นเจา้ ของภาษาทมี่ คี วาม เชยี่ วชาญดา้ นเนือ้ หาสามารถสอนคนเดยี วและสอนเป็ นทมี แลว้ แตค่ วามเหมาะสม การแกป้ ัญหาอาจทาได ้ ดงั นี้ 5.1 การสอนเป็ นทมี ทาไดโ้ ดยในหนึ่งรายวชิ าใชค้ รผู ูส้ อน 2 คน คอื ครสู อนภาษา และครสู อนเนือ้ หา โดยแบง่ หนา้ ทกี่ นั ชดั เจน 5.2 การสอนโดยครสู อนภาษาทส่ี อง การแกป้ ัญหาวธิ นี ีท้ าไดโ้ ดยการเตรยี มครทู ส่ี อนภาษาทสี่ อง โดยใหค้ รทู จ่ี ะสอนลงทะเบยี นเรยี นวธิ สี อนแบบ บรู ณาการภาษาและเนือ้ หา และเนือ้ หาวชิ าทจี่ ะสอนเพมิ่ เตมิ
การบูรณาการเนือ้ หาและภาษา 6. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู ้ โมฮนั (Mohan) กลา่ ววา่ วธิ กี ารสอนแบบบูรณาการภาษาและเนือ้ หาเป็ นทนี่ ิยมโดยเฉพาะประเทศทเ่ี รยี น ภาษาองั กฤษเป็ นภาษาตา่ งประเทศ เพราะเปิ ดโอกาสใหโ้ รงเรยี นไดเ้ ชอ่ื มโยงภาษาตา่ งประเทศทเ่ี รยี นกบั วชิ าตา่ งๆ ทาใหผ้ ูเ้ รยี นไดเ้ รยี นภาษาและ เนือ้ หาวชิ าไปพรอ้ มๆกนั
การบูรณาการเนือ้ หาและภาษา 6. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู ้ โมฮนั (Mohan) กลา่ ววา่ วธิ กี ารสอนแบบบูรณาการภาษาและเนือ้ หาเป็ นทนี่ ิยมโดยเฉพาะประเทศทเี่ รยี น ภาษาองั กฤษเป็ นภาษาตา่ งประเทศ เพราะเปิ ดโอกาสใหโ้ รงเรยี นไดเ้ ชอ่ื มโยงภาษาตา่ งประเทศทเี่ รยี นกบั วชิ าตา่ งๆ ทาใหผ้ ูเ้ รยี นไดเ้ รยี นภาษาและ เนือ้ หาวชิ าไปพรอ้ มๆกนั 7. ขอ้ ดี การสอนแบบบูรณาการภาษาและเนือ้ หาคอ่ นขา้ งยากสาหรบั ผูเ้ รยี นในระยะแรกแตเ่ มอ่ื ผูเ้ รยี นคนุ ้ เคยแลว้ ก็จะสามารถเรยี นรเู ้ นือ้ หาและ ภาษาไดร้ วดเรว็ กวา่ การใชก้ จิ กรรมการเรยี นรตู ้ ามปกติ นอกจากนีย้ งั เชอ่ื มโยงกบั วชิ าตา่ งๆในหลกั สตู รโดยผูส้ อนใชส้ อื่ จรงิ 8. ขอ้ เสนอแนะ วธิ กี ารสอนแบบบรู ณาการภาษาและเนือ้ หา มุ่งเนน้ ดา้ นเนือ้ หาวชิ าเป็ นหลกั แตไ่ ม่ใชก่ ารยดึ ตาราเรยี นและการเรยี นรศู ้ พั ทใ์ นตารา เลม่ ใดเลม่ หน่ึง การจดั กจิ กรรมการเรยี นมุ่งเนน้ ใหผ้ ูเ้ รยี นไดเ้ รยี นเนือ้ หาวชิ าจากสอ่ื จรงิ โดยไม่ดดั แปลงตาราเรยี นแตอ่ ยา่ งใด
อา้ งองิ ศาสตรก์ ารสอน (Science of Teaching Pedagogy) http://www.jaturapad.com/archives/1179 เทคนิควธิ กี ารสอนแนวใหม่ https://teachermaykricy047.wordpress.com/category หลกั การจดั การเรยี นการสอน https://sites.google.com/site/bthreiyn1234/hlak-kar- cadkar-reiyn-kar-sxn
สมาชกิ กลุม่ นาย วศนิ สหี ะเดช 62003126001 นาย ภาคภมู ิ ศรจี นั ทรน์ วน 62003126005 นาย วรวฒุ ิ แสวงศิรผิ ล 62003126012 นาย อทิ ธพิ ล ขาเหม 62003126030 คณะครุศาสตร ์ สาขาวชิ าคอมพวิ เตอรศ์ กึ ษา
Search
Read the Text Version
- 1 - 24
Pages: