Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชุดกิจกรรมที่ 1

ชุดกิจกรรมที่ 1

Published by walaipond62, 2020-06-16 02:28:31

Description: ชุดกิจกรรมที่ 1

Search

Read the Text Version

1 ชุดกิจกรรมที่ 1 เรือ่ ง สมบตั ิของสาร หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 สารในชวี ติ ประจาวัน รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว21101 ระดับชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 1 นางภาวดี สงิ คนภิ า ครชู านาญการ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนศีขรภูมพิ ิสัย อาเภอศขี รภูมิ จังหวัดสุรินทร์ สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศกึ ษา เขต 33 สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

2 คาแนะนาในการใช้ชุดกจิ กรรมท่ี 1 เรอ่ื ง สมบตั ขิ องสาร สาหรับครู ข้อปฏิบัติในการใช้ชุดกิจกรรม เรื่อง สมบัติของสาร กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สาหรับ นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1 เพ่ือช่วยให้การดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้บรรลุจุดประสงค์การ เรียนรู้และมีประสทิ ธภิ าพ ครผู ู้สอนควรดาเนนิ การดงั น้ี 1. ขนั้ เตรยี มกอ่ นสอน 1.1 ศึกษาคาชีแ้ จงในการใช้ชุดกิจกรรม ให้เข้าใจก่อนอย่างละเอยี ด 1.2 ตรวจดูอุปกรณ์ต่างๆ ในชุดกิจกรรม ว่ามีครบตามท่ีระบุไว้หรือไม่ และอยู่ใน สภาพใชไ้ ด้หรือไม่ จดั เตรยี มวัสดุอปุ กรณท์ ่ีจะใช้ใหเ้ ปน็ ไปตามลาดับก่อนหลงั 1.3 ศึกษามาตรฐาน ตัวช้ีวัด จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ท่ีจะสอน และ ขน้ั ตอนตา่ งๆ ในแผนการจดั การเรียนรู้ใหเ้ ข้าใจชดั เจน 2. ข้ันสอน 2.1 ดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ โดยใช้การสอนแบบ Inquiry Cycles (5Es) แ ล ะ ก า ร จั ด กิ จ ก ร ร ม ก า ร เรี ย น รู้ แ บ บ ร่ ว ม มื อ (Cooperative Learning) 2.2 ขณะท่ีนักเรียนทากิจกรรม ครูคอยให้ความช่วยเหลือ แนะนา กระตุ้น ให้ นักเรียนทากิจกรรมอย่างกระตือรือร้นและตอบข้อสงสัยต่างๆ ระหว่างเรียน รวมท้ังสังเกต และประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และจิต วทิ ยาศาสตรแ์ ละแบบการใหค้ ะแนนจิตวิทยาศาสตร์ 3. ขั้นหลงั สอน 3.1 เมื่อส้ินสุดการปฏิบัติกิจกรรมการเรียนการสอน ครูควรให้นักเรียนได้ร่วม ตรวจสอบและเกบ็ อุปกรณใ์ ห้เรียบรอ้ ย เพ่อื สะดวกในการใช้คร้งั ต่อไป 3.2 ประเมนิ ผลการเรียนรู้ ตามแบบประเมินจากการทากจิ กรรมแตล่ ะชดุ กิจกรรม

3 คาแนะนาในการใช้ชดุ กจิ กรรมที่ 1 เร่ือง สมบตั ขิ องสาร สาหรับนักเรยี น คาแนะนาในการใชช้ ุดกิจกรรม ชุดกิจกรรมน้ี คือชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ที่เน้นให้นักเรียนได้คิด ได้ปฏิบัติกิจกรรมการทดลอง และได้ทากิจกรรมกลุ่ม ที่นักเรียนสามารถปฏิบัติได้ด้วยตนเอง ทากิจกรรมร่วมกับเพื่อนในกลุ่ม ผเู้ รียนจะได้รับประโยชน์ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดจากชุดกิจกรรมนักเรียนควรปฏิบัติตามคาช้ีแจง ดังต่อไปน้ี 1. ชดุ กิจกรรม หน่วยการเรียนรู้ สารในชีวิตประจาวัน ชุดท่ี 1 เรอื่ ง สมบตั ิของสาร ใชเ้ วลา 3 ช่วั โมง 2. นกั เรียนจดั กลมุ่ แบบคละความสามารถกลมุ่ ละ 4-5 คน 3. นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรยี น จานวน 10 ขอ้ 4. นักเรยี นศึกษาจุดประสงค์การทดลองและเนอ้ื หาประกอบในชดุ กิจกรรมให้เขา้ ใจ 5. ศกึ ษาใบความรแู้ ละปฏบิ ตั กิ จิ กรรมในชุดกจิ กรรม 6. ในขณะปฏิบัติงานต่างๆ ในชุดกิจกรรม หากนักเรียนมีข้อสงสัย หรือมีปัญหาสามารถ ปรกึ ษาครผู สู้ อนได้ 7. ใหน้ ักเรียนแตล่ ะคนศึกษาหาข้อสรุปของตนเองนาข้อสรุปที่แตล่ ะคนได้มาร่วมกนั วิเคราะห์ เป็นข้อสรุปของกลุม่ 8. ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มสง่ ตัวแทนออกมานาเสนอข้อสรุปของกลุ่มสูห่ ้องเรยี นเพื่อร่วมกันสรปุ 9. การประเมินคะแนนการบันทึกกิจกรรม การตอบคาถาม การทาแบบทดสอบ ต้องทาได้ ถกู ตอ้ ง 80% ขึ้นไป หากผเู้ รียนคนใดคนหน่ึงหรือท้งั กลุ่มทาได้ถกู ต้องน้อยกวา่ 80% ให้ทา ใหถ้ กู ตอ้ ง จนกว่าจะถูกตอ้ ง 80% ข้นึ ไป จงึ จะผ่านได้ 10. ทาแบบทดสอบหลงั เรียนจานวน 10 ข้อ

4 สาระ มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชว้ี ดั ที่เกย่ี วขอ้ งกบั ชุดกจิ กรรม กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 1 หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 2 สารในชีวติ ประจาวนั ชดุ ที่ 1 เรื่อง สมบัติของสาร สาระที่ 3 : สารและสมบตั ขิ องสาร มาตรฐาน ว 3.1 : เขา้ ใจสมบตั ิของสาร ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งสมบตั ิของสารกบั โครงสร้าง และแรงยึดเหนย่ี วระหวา่ งอนุภาคมกี ระบวนการสบื เสาะ หาความรูแ้ ละจิตวทิ ยาศาสตร์ สอ่ื สารส่ิงท่ี เรียนรู้ นาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ตวั ช้ีวัด ว 3.1 ม.1/1 ทดลองและจาแนกสารเป็นกลุม่ โดยใช้เนอื้ สารหรอื ขนาดอนภุ าคเป็นเกณฑ์ และอธบิ ายสมบัติของสารในแต่ละกลุม่ สาระที่ 8 : ธรรมชาตขิ องวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตวั ชี้วัด มาตรฐาน ว 8.1 ใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละจติ วิทยาศาสตร์ในการสืบเสาะหา ความรู้ การแก้ปญั หา รู้ว่าปรากฏการณ์ทางธรรมชาตทิ ่ีเกิดขึ้นส่วนใหญม่ ีรปู แบบทแี่ น่นอน สามารถ อธบิ ายและตรวจสอบได้ ภายใต้ข้อมูลและเคร่อื งมือท่ีมีอยู่ในชว่ งเวลาน้นั ๆ เข้าใจว่า วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สงั คม และสงิ่ แวดลอ้ มมีความเก่ยี วขอ้ งสมั พันธก์ ัน ว 8.1 ม.1-3/1 ตัง้ คาถาม ที่กาหนดประเด็นหรือตวั แปรทสี่ าคัญในการสารวจตรวจสอบ หรอื ศกึ ษาค้นคว้าเรื่องทส่ี นใจไดอ้ ยา่ งครอบคลุ่ม และเชอื่ ถอื ได้ ว 8.1 ม.1-3/2 สร้างสมมติฐานที่สามารถตรวจสอบได้ และวางแผนการสารวจตรวจสอบ หลาย ๆ วิธี ว 8.1 ม.1-3/3 เลือกเทคนิควิธกี ารสารวจตรวจสอบทั้งเชงิ ปริมาณและเชงิ คุณภาพท่ไี ดผ้ ล เทย่ี งตรงและปลอดภยั โดยใชว้ ัสดแุ ละเครอื่ งมือที่เหมาะสม ว 8.1 ม.1-3/4 รวบรวมข้อมลู จัดกระทาข้อมูลเชงิ ปริมาณและคุณภาพ ว 8.1 ม.1-3/5 วิเคราะห์และประเมนิ ความสอดคลอ้ งของประจักษ์พยานกบั ขอ้ สรปุ ทง้ั ที่ สนับสนนุ หรือขัดแยง้ กบั สมมติฐานและความผิดปกตขิ องข้อมูลจากการสารวจตรวจสอบ

5 ว 8.1 ม.1-3/6 สร้างแบบจาลอง หรือรปู แบบ ที่อธบิ ายผลหรอื แสดงผลของการสารวจ ตรวจสอบ ว 8.1 ม.1-3/7 สรา้ งคาถามท่ีนาไปสกู่ ารสารวจตรวจสอบในเรอ่ื งท่เี ก่ยี วขอ้ งและนาความรู้ ท่ไี ด้ไปใช้ ในสถานการณ์ใหม่หรอื อธิบายเกีย่ วกับแนวคดิ กระบวนการและผลของโครงงานหรอื ชิน้ งานให้ผู้อื่นเข้าใจ ว 8.1 ม.1-3/8 บนั ทกึ และอธิบายผลการสงั เกต การสารวจ ตรวจสอบ คน้ ควา้ เพม่ิ เติมจาก แหล่งความรูต้ ่างๆ ให้ไดข้ ้อมลู ทเ่ี ชอื่ ถอื ได้ และยอมรับการเปลย่ี นแปลงความรู้ที่คน้ พบ เม่อื มีข้อมูล และประจักษ์พยานใหมเ่ พ่ิมขน้ึ หรือโต้แยง้ จากเดมิ ว 8.1 ม.1-3/9 จัดแสดงผลงาน เขยี นรายงาน และ/หรอื อธบิ ายเกย่ี วกับแนวคดิ กระบวนการ และผลของโครงงานหรอื ชิ้นงานใหผ้ ู้อนื่ เข้าใจ สาระสาคญั สาร หมายถงึ ส่งิ ท่ีมีตวั ตน มมี วลหรือน้าหนัก ตอ้ งการท่อี ยแู่ ละสามารถสมั ผัสได้ เชน่ ดิน หิน นา้ อากาศ พืช และสัตว์ ทกุ สิง่ ทกุ อย่างท่อี ยูร่ อบๆตวั เราจัดเป็นสารทั้งส้ิน สารรอบตัวมจี านวน มากมาย แต่ละชนิดอาจมีสมบัติบางอย่างเหมือนกัน หรอื มสี มบัตบิ างอยา่ งต่างกนั สมบตั ิของสาร จึงเปน็ ลักษณะประจาเฉพาะตัวของสารแต่ละชนดิ ทจ่ี ะบอกให้ทราบว่า สารนั้นเป็นอยา่ งไร จาแนกเปน็ 2 ประเภท คือ สมบัตทิ างกายภาพ และ สมบตั ิทางเคมี จุดประสงค์การเรยี นรู้ ด้านความรู้ (Knowledge) 1. บอกความหมายของสสารและสารได้ 2. อธบิ ายเกีย่ วกบั สมบัติทางกายภาพและสมบัติทางเคมขี องสารได้ 3. จาแนกสารต่างๆโดยใช้สมบัติทางกายภาพและสมบตั ทิ างเคมีของสารเป็นเกณฑ์ 4. ระบสุ มบตั ิของสารโดยใชก้ ารทดลองในการสงั เกตสมบตั ิของสาร ด้านกระบวนการ (Process) 1. นกั เรยี นสามารถสังเกตสมบตั ขิ องสารได้ 2. นักเรียนมีทกั ษะในการปฏิบัติงานกลุม่ ด้านเจตคติ (Attitude) 1 มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ 2 ทางานรว่ มกับผอู้ ่นื ได้ 3. ยอมรับฟงั ความคิดเหน็ ของผอู้ นื่

6 สอื่ - ใบความรทู้ ่ี 1 สมบตั ิของสารและการจาแนกสาร - ใบงานที่ 1 เรอ่ื ง การจาแนกสารตามสมบตั ิของสาร - ใบกิจกรรมที่ 1 สมบตั ิบางประการของสาร - ชุดกิจกรรมที่ 1 เรอ่ื ง สมบัติของสาร - แบบทดสอบย่อยก่อน-หลังเรียน หน่วยยอ่ ยท่ี 1 เร่อื ง สมบัติของสาร แหลง่ เรียนรู้ - ห้องปฏบิ ัตกิ ารวิทยาศาสตร์ การวดั ผลและประเมินผล วธิ กี ารวัด เครื่องมอื ที่ใชว้ ัด เกณฑก์ ารผ่าน ด้านความรู้ (Knowledge) -ใบงานท่ี 1 เรื่อง การจาแนกสารตามสมบัติของสาร - ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 80 ดา้ นกระบวนการ -ใบกิจกรรมท่ี 1 สมบัตบิ างประการของสาร - ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 80 (Process) ด้านเจตคติ -แบบทดสอบย่อยก่อน-หลังเรียน - ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ 80 (Attitude) -ใบกจิ กรรมที่ 1 สมบตั บิ างประการของสาร - ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 80 - แบบสังเกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ัตงิ านกล่มุ - ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ 80 - แบบประเมินเจตคติทางวิทยาศาสตร์ - ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80

7 แบบทดสอบยอ่ ยก่อนเรียน หน่วยย่อยท่ี 1 เรอ่ื ง สมบัตขิ องสาร คาชแี้ จง เลอื กคาตอบที่ถูกต้องที่สดุ เพยี งคาตอบเดียวแล้วทาเครือ่ งหมายกากบาทลงใน กระดาษคาตอบ ******************************************************************************************* 1. ขอ้ ใดกล่าวเกย่ี วกับความหมายของสารไม่ถูกต้อง ก. สารเป็นส่ิงท่มี ตี ัวตน ข. สารเปน็ สงิ่ ทมี่ ีน้าหนัก ค. สารเป็นส่ิงที่สัมผัสได้ ง. สว่ นใหญส่ ารตอ้ งการท่ีอยู่ 2. ข้อใดไมใ่ ช่สสาร ก. ลมหายใจ ข. แสงสว่าง ค. ฝนุ่ ละออง ง. น้าเกลอื 3. ขอ้ ใด “ไม่ใช่” สมบัติทางกายภาพของสาร ก. สถานะ ข. จุดหลอมเหลว ค. ความเป็นกรด-เบส ง. สี 4. ข้อใด “ไมใ่ ช่” สมบัตทิ างเคมขี องสาร ก. การสลายตวั ได้สารใหม่ ข. การตดิ ไฟ ค. ความเป็นกรด-เบส ง. การละลาย 5. ขอ้ ใดเปน็ สมบตั ิทางเคมี ก. ปุก๊ นัง่ ปั้นดนิ น้ามนั เป็นรูปแมวและสุนขั ข. ก้อนนา้ ยาดับกลิน่ ในห้องนา้ มีขนาดเลก็ ลง ค. น้าส้มคั้นมีสีส้ม มีเนือ้ สม้ ผสมอยู่ มรี สชาตดิ ี ง. น้าแอมโมเนยี เปลย่ี นสีกระดาษลติ มัสจากสีแดงเป็นสนี า้ เงิน 6. ข้อใดไม่ใชส่ มบตั ิทางเคมขี องสาร ก. เป็นสมบัติที่ตรวจสอบได้โดยดูการเปล่ียนแปลงเมื่อเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมี ข. เปน็ สมบตั ิที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างภายในของสาร ค. เปน็ สมบตั ิทีส่ ังเกตได้ง่ายจากลักษณะภายนอก ง. เป็นสมบตั ิที่ใช้ปฏิกิริยาเคมีเป็นตัวบ่งชี้

8 7. ขอ้ ใดกล่าวเกย่ี วกบั สมบัตทิ างกายภาพของสารไม่ถูกตอ้ ง ก. เปน็ สมบัตทิ ่ีตรวจสอบได้ง่ายจากลักษณะภายนอกของสาร ข. เป็นสมบัติท่ีสังเกตได้จากโครงสร้างภายในของสาร ค. เป็นสมบตั ิทส่ี งั เกตได้ง่ายด้วยประสาทสัมผัส ง. เป็นสมบตั ิท่ีไม่ใช้ปฏิกิริยาเคมีเป็นตัวบ่งชี้ 8. ขอ้ ใดคอื ความแตกต่างทีเ่ ด่นชัดท่สี ุดของสมบัติทางกายภาพระหว่างถา่ นกบั เกลอื แกง ก. การละลายน้า ข. จุดหลอมเหลว ค. จดุ เยอื กแขง็ ง. จดุ เดอื ด 9. ควนั ไฟอยูใ่ นสถานะใด ก. ของแขง็ ข. ของเหลว ค. แก๊ส ง. ถกู ทุกขอ้ 10. ลูกเหมน็ อยใู่ นสถานะใด ก. ของแข็ง ข. ของเหลว ค. แก๊ส ง. ถกู ทุกข้อ

9 ใบกจิ กรรมที่ 1 เรือ่ ง สมบตั บิ างประการของสาร ทดลองวัน..............................ที่ ............เดอื น………………………..พ.ศ............................. กลมุ่ ที่ .............. ม.1/ …… สมาชิก 1. ……………………………………............. เลขที่............... 2. ……………………………………............. เลขท่ี............... 3. ……………………………………............. เลขที่............... 4. ……………………………………............. เลขที่............... 5. ……………………………………............. เลขที่............... -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- จดุ ประสงค์ 1. ระบสุ มบัตขิ องสารโดยใช้การทดลองในการสังเกตสมบัติของสาร 2. นกั เรียนสามารถสังเกตสมบัตขิ องสารได้ วสั ดอุ ุปกรณแ์ ละสารเคมี รายการ จานวน/กลุ่ม 1. หลอดทดลอง 8 หลอด 2. บีกเกอร์ 1 อัน 3. แทง่ แกว้ 4 อัน 4. คมี หนบี 1 อัน 5. ตะเกยี งแอลกอฮอล์ 1 อัน 6. สารตัวอย่าง (นา้ แข็ง เกลือแกง น้าตาลทราย แผน่ ทองแดง หนิ ปนู และกระดาษ) วธิ กี ารทดลอง

10 1. นักเรียนสงั เกตสถานะและสีของ น้าแข็ง เกลือแกง นา้ ตาลทราย แผน่ ทองแดง หินปูน และกระดาษ 2. นาหลอดทดลองขนาดกลาง 4 หลอด มาบรรจนุ ้าแขง็ เกลอื แกง น้าตาลทราย ชนดิ ละ 1 ช้อนเบอร์ 1 และแผน่ ทองแดงขนาด 1 × 3 ตารางเซนตเิ มตร ตามลาดบั จากนั้น ใสห่ ลอดทดลองลงในบีกเกอร์ท่มี นี า้ เดือด สังเกตการหลอมเหลวของสาร 3. นาหลอดทดลองขนาดกลาง 4 หลอด มาบรรจุ หนิ ปูน เกลอื แกง น้าตาลทราย ชนดิ ละ 1 ชอ้ นเบอร์ 1 และแผ่นทองแดงขนาด 1 × 3 ตารางเซนติเมตร ตามลาดับ ใสน่ า้ ในหลอด ทดลองทกุ ชนิด หลอดละ 5 ลกู บาศก์เซนติเมตร คนดว้ ยแทง่ แกว้ สังเกตการละลายของสาร

11 4. ใช้คีมหนีบกระดาษ หินปูน และแผน่ ทองแดง นาไปเผาท่ีเปลวไฟจากตะเกียงแอลกอฮอล์ ทีละสาร สงั เกตการเผาไหมข้ องสารแต่ละชนิด ตารางบนั ทึกผลการทดลอง สาร ผลการสังเกตสมบัติทางกายภาพ ผลการสังเกต สมบัติทางเคมี สถานะ สขี องสาร การหลอมเหลว การละลาย การเผาไหม้ น้าแขง็ เกลือแกง น้าตาลทราย ทองแดง กระดาษ หินปูน

12 คาถามหลังการทดลอง 1. สารใดบ้างที่มสี ถานะเปน็ ของแข็ง………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………..... 2. สารใดบ้างที่เกิดการหลอมเหลวในน้าเม่อื นาไปตม้ …………………………………………………………… 3. สารใดบ้างทีไ่ มเ่ กิดการละลายในน้า……………………………………………………………………………….. 4. สารที่เกดิ การเปลยี่ นแปลงเม่ือนาไปเผาไหม้ ไดแ้ ก่สารใดบ้าง…………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………..... สรปุ ผลการทดลอง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………

13 ใบความรทู้ ่ี 1 สมบตั ิของสาร ความหมายของสารและสสาร สสารคอื ส่ิงตา่ ง ๆ ที่มีตัวตน มีมวล ต้องการท่อี ยู่ และสมั ผสั ได้ จากลักษณะทีส่ าคัญของสสารจะพบวา่ สิ่งตา่ ง ๆ เหล่านั้นจะเป็นภาพหรอื คารวม ๆ ของสิ่งท่ี เรียกว่า สาร ซ่ึงสารแต่ละชนิดจะมีชอื่ เรยี กต่างกนั ไปมีองค์ประกอบ ลักษณะภายนอก สมบัติท่ไี ม่ เหมอื นกัน สาร หมายถึง สสารทท่ี ราบสมบตั ิ หรอื สสารทจ่ี ะศกึ ษา ดังนั้นสารจึงเปน็ สสารทจี่ าเพาะเจาะจง สมบัตขิ องสาร สารรอบตัวมีจานวนมากมาย แต่ละชนิดอาจมีสมบัติบางอย่างเหมือนกัน หรือมีสมบัติ บางอย่างต่าง กัน สมบัติของสารจึงเป็นลักษณะประจาเฉพาะตัวของสารแต่ละชนิด ท่ีจะบอกให้ ทราบว่า สารนน้ั เปน็ อยา่ งไร จาแนกเปน็ 2 ประเภทคอื 1. สมบตั ทิ างกายภาพ เป็นลกั ษณะทสี่ งั เกตเหน็ ภายนอกได้ ตรวจสอบไดด้ ว้ ยการ สงั เกต หรือตรวจสอบด้วยเครื่องมือและการทดลองง่าย ๆ ไม่เกี่ยวขอ้ งกับปฏกิ ริ ิยาเคมี เช่น สถานะสี กลนิ่ รส การละลาย ความหนาแน่น การนาไฟฟ้า ลักษณะผลกึ จดุ เดือด เปน็ ต้น 2. สมบตั ทิ างเคมี เป็นลักษณะท่ีเก่ียวขอ้ งกบั องค์ประกอบภายในของสารตรวจสอบ ได้โดยอาศัยการเปลี่ยนแปลงทางเคมี เช่น การตดิ ไฟ การเผาไหม้ การระเบิด ความเปน็ กรด – เบส การสลายตวั ได้สารใหม่ และการเกิดปฏกิ ิรยิ าเคมกี บั สารชนดิ อื่น ๆ เป็นต้น ถา้ ใชส้ ถานะเปน็ เกณฑ์ในการจาแนกสาร จะแบ่งสารออกได้ 3 สถานะคือ 1. สารทมี่ ีสถานะเปน็ ของแขง็ หมายถึง สารทมี่ รี ปู ร่างและปรมิ าตรคงท่ี อนุภาคของสาร จะอย่ชู ิดกันและยึดกันแน่น เพราะมีแรงยึดเหนีย่ วระหว่างอนุภาคมากท่สี ุด ตัวอย่างเช่น หิน เหล็ก ทองแดง กามะถัน ดา่ งทบั ทิม เป็นตน้ 2. สารทมี่ ีสถานะเปน็ ของเหลว หมายถงึ สารทีม่ รี ปู ร่างไมค่ งที่ เปลี่ยนไปตามภาชนะท่ี บรรจุ สามารถไหลได้ แต่ปริมาตรคงท่ี แรงยึดเหน่ียวระหว่างอนุภาคน้อยกว่าของแข็ง เน่ืองจาก อนุภาคของสารจะอยู่ห่างกัน และมชี อ่ งวา่ งมากกวา่ ของแขง็ เช่น น้า นา้ ส้มสายชู เปน็ ต้น 3. สารที่มีสถานะเป็นแก๊ส หมายถึง สารทมี่ ีรปู ร่างและปริมาตรไม่คงท่ี ฟุ้งกระจายเต็ม ภาชนะท่ีบรรจุ อนุภาคของก๊าซจะอยู่ห่างกันมากกว่าของแข็งและของเหลว ทาให้แรงยึดเหน่ียว ระหว่างอนุภาคน้อยมาก จึงเกิดช่องว่างระหว่างอนุภาคมากกว่าของแข็งและของเหลว ดังน้ันสาร จึงเคล่ือนทไี่ ด้อย่างอิสระ

14 ใบงานท่ี 1 เรือ่ ง การจาแนกสารตามสมบตั ขิ องสาร ชอื่ -สกลุ ......................................................................เลขที.่ ......................ชั้น....................... วตั ถุประสงค์ 1. บอกความหมายของสสารและสารได้ 2. จาแนกสง่ิ ท่เี ป็นสสารและสง่ิ ท่ีไม่ใช่สสารพร้อมทงั้ บอกเหตผุ ลได้ 3. จาแนกสารตา่ งๆโดยใช้สมบตั ิทางกายภาพและสมบตั ทิ างเคมีของสารเป็นเกณฑ์ 4. ระบสุ มบตั ขิ องสารโดยใช้การทดลองในการสังเกตสมบตั ิของสารได้ ***************************************************************************************** 1. จงตอบคาถามตอ่ ไปน้ี สสาร หมายถึง .................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. สาร หมายถึง ................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................. 2. ให้นกั เรยี นเลอื กสง่ิ ท่ีกาหนดในกรอบสี่เหล่ยี มต่อไปน้ี เติมลงในตารางเพื่อจาแนกวา่ สิ่งใดจัดเป็น สสาร สง่ิ ใดไม่จัดเปน็ สสาร พรอ้ มท้งั ระบเุ หตผุ ล นา้ ตาลทราย ทองแดง ความรอ้ น หนิ ปนู เสียงเพลง ไอนา้ สนมิ เหล็ก ความมืด น้าเช่ือม แสงแดด สิ่งทจ่ี ดั เป็นสสาร สิง่ ทีไ่ ม่จัดเปน็ สสาร สสาร เหตุผล ไมใ่ ชส่ สาร เหตุผล ………………………………. ……………………………….. ……………………………….. …………………………….. ……………………………….. ……………………………….. ……………………………….. …………………………….. ……………………………….. ……………………………….. ……………………………….. …………………………….. ……………………………….. ……………………………….. ……………………………….. …………………………….. ……………………………….. ……………………………… ……………………………….. ……………………………

15 3. จากกลมุ่ สารที่กาหนดใหใ้ นตารางข้างล่าง ให้นกั เรียนระบวุ า่ สารกลมุ่ ใดใชส้ มบัติทางกายภาพ หรือสมบตั ิทางเคมใี นการจาแนก กลุม่ สาร สมบตั ทิ างกายภาพ สมบตั ทิ างเคมี นา้ หวานและน้าตาลมีรสหวาน ก้อนหินและกอ้ นกรวดเป็นของแข็ง พลาสตกิ ติดไฟได้ นา้ หอมแตล่ ะยีห่ ้อมีกล่นิ หอม แกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์ (CO2 ) ทาให้ นา้ ปนู ใสข่นุ

16 แบบทดสอบย่อยหลังเรยี น หนว่ ยยอ่ ยท่ี 1 เรือ่ ง สมบตั ิของสาร คาช้แี จง เลอื กคาตอบท่ีถกู ต้องท่ีสุดเพยี งคาตอบเดยี วแลว้ ทาเคร่ืองหมายกากบาทลงใน กระดาษคาตอบ ************************************************************************************** 1. ข้อใดไมใ่ ช่สมบัติทางเคมขี องสาร ก. เปน็ สมบัตทิ ี่ตรวจสอบได้โดยดกู ารเปลี่ยนแปลงเม่ือเกดิ ปฏิกริ ิยาเคมี ข. เปน็ สมบตั ิที่เก่ียวขอ้ งกับโครงสร้างภายในของสาร ค. เป็นสมบตั ิท่สี ังเกตได้ง่ายจากลักษณะภายนอก ง. เปน็ สมบตั ิทใ่ี ช้ปฏิกิริยาเคมีเป็นตัวบ่งช้ี 2. ขอ้ ใด “ไม่ใช่” สมบตั ทิ างกายภาพของสาร ก. สถานะ ข. จดุ หลอมเหลว ค. ความเปน็ กรด-เบส ง. สี 3. ขอ้ ใดเปน็ สมบัติทางเคมี ก. ปุ๊กน่ังป้ันดินนา้ มนั เปน็ รปู แมวและสุนขั ข. กอ้ นนา้ ยาดับกลิ่นในห้องน้ามขี นาดเลก็ ลง ค. นา้ สม้ คน้ั มสี สี ้ม เน้ือส้มผสมอยู่ มรี สชาตดิ ี ง. นา้ แอมโมเนียเปล่ียนสกี ระดาษลติ มัสจากสีแดงเปน็ สีน้าเงนิ 4. ข้อใดกล่าวเกี่ยวกับความหมายของสารไม่ถูกต้อง ก. สารเปน็ ส่ิงทม่ี ตี ัวตน ข. สารเปน็ ส่งิ ทมี่ นี ้าหนัก ค. สารเป็นส่ิงท่ีสัมผัสได้ ง. สว่ นใหญส่ ารตอ้ งการที่อยู่ 5. ข้อใด “ไม่ใช่” สมบตั ิทางเคมีของสาร ก. การสลายตัวไดส้ ารใหม่ ข. การติดไฟ ค. ความเป็นกรด-เบส ง. การละลาย

17 6. ขอ้ ใดไม่ใชส่ สาร ก. ลมหายใจ ข. แสงสว่าง ค. ฝนุ่ ละออง ง. น้าเกลือ 7. ขอ้ ใดคือความแตกตา่ งทีเ่ ดน่ ชัดทส่ี ุดของสมบตั ิทางกายภาพระหวา่ งถา่ นกบั เกลอื แกง ก. การละลายนา้ ข. จุดหลอมเหลว ค. จดุ เยือกแขง็ ง. จดุ เดอื ด 8. ลกู เหม็นอยใู่ นสถานะใด ก. ของแข็ง ข. ของเหลว ค. แก๊ส ง. ถูกทุกข้อ 9. ควนั ไฟอยู่ในสถานะใด ก. ของแขง็ ข. ของเหลว ค. แก๊ส ง. ถกู ทกุ ขอ้ 10. ขอ้ ใดกล่าวเกี่ยวกบั สมบตั ิทางกายภาพของสารไมถ่ ูกต้อง ก. เปน็ สมบัตทิ ่ีตรวจสอบไดง้ า่ ยจากลกั ษณะภายนอกของสาร ข. เป็นสมบัติที่สังเกตได้จากโครงสรา้ งภายในของสาร ค. เป็นสมบัตทิ ี่สงั เกตได้ง่ายดว้ ยประสาทสัมผัส ง. เปน็ สมบัติที่ไม่ใช้ปฏิกิริยาเคมีเป็นตัวบ่งชี้

18 กระดาษคาตอบแบบทดสอบก่อนเรยี น - หลงั เรยี น เร่ือง สมบัตขิ องสาร ชอ่ื -สกลุ …………………………………….. เลขที่ ………..ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี ………….… วนั ท่ี ……..……. เดอื น ………………………พ.ศ. ……….……. คาช้ีแจง. ใหน้ ักเรียนเลอื กคาตอบในแบบทดสอบแล้วทาเครือ่ งหมาย  ลงใน กระดาษคาตอบขอ้ ท่ีถูกตอ้ งทีส่ ุดเพียงข้อเดยี ว คะแนน กอ่ นเรยี น หลงั เรยี น คะแนนเตม็ 10 10 คะแนนท่ไี ด้ ทดสอบกอ่ นเรียน ง ทดสอบหลังเรยี น ข้อ ก ข ค ขอ้ ก ข ค ง 1 1 2 2 3 3 4 4 5 5 6 6 7 7 8 8 9 9 10 10

19 เฉลยแบบทดสอบย่อยก่อนเรียน หนว่ ยยอ่ ยท่ี 1 เรอื่ ง สมบตั ขิ องสาร 1.ง. 6.ค. 2.ข. 7.ข. 3.ค. 8.ก. 4.ง. 9.ค. 5.ง. 10.ก.

20 เฉลยใบกจิ กรรมท่ี 1 เร่ือง สมบัตบิ างประการของสาร ตารางบนั ทึกผลการทดลอง สาร ผลการสังเกตสมบัติทางกายภาพ ผลการสังเกต สถานะ สีของสาร การหลอมเหลว การละลาย สมบตั ิทางเคมี น้าแข็ง ของแขง็ ใสไมม่ สี ี หลอมเหลว ละลาย ละลาย เกลอื แกง ของแข็ง สขี าว หลอมเหลว ละลาย เกิดการเผาไหม้ น้าตาลทราย ของแข็ง สขี าว หลอมเหลว ละลาย เกดิ การเผาไหม้ ทองแดง ของแขง็ สีสม้ แดง ไม่หลอมเหลว ไมล่ ะลาย ไมเ่ กิดการเผาไหม้ กระดาษ ของแข็ง สีขาว ไมห่ ลอมเหลว ไมล่ ะลาย เกิดการเผาไหม้ หินปนู ของแขง็ สีขาว ไม่หลอมเหลว ไม่ละลาย ไมเ่ กดิ การเผาไหม้ คาถามหลงั การทดลอง 1. สารใดบ้างที่มีสถานะเปน็ ของแขง็ นา้ แขง็ เกลอื แกง น้าตาลทราย ทองแดง กระดาษ และหินปูน 2. สารใดบ้างที่เกดิ การหลอมเหลวในนา้ เมื่อนาไปต้ม เกลือแกง และน้าตาลทราย 3. สารใดบ้างทไ่ี มเ่ กดิ การละลายในน้า ทองแดง กระดาษ และหนิ ปูน 4. สารที่เกดิ การเปลย่ี นแปลงเมือ่ นาไปเผาไหม้ ไดแ้ ก่สารใดบ้าง กระดาษ สรุปผลการทดลอง

21 น้าแข็ง เกลอื แกง น้าตาลทราย แผ่นทองแดง กระดาษ และหนิ ปูน มสี ถานะเหมือนกนั คือ สถานะของแขง็ ซึ่งเปน็ สมบตั ทิ างกายภาพ แต่มีสมบัติอ่นื ๆแตกต่างกัน เช่น น้าแขง็ หลอมเหลว ได้ง่ายทส่ี ุด ทองแดงไม่ลายนา้ ส่วนเกลอื แกงและนา้ ตาลทรายละลายน้าไดด้ ี กระดาษตดิ ไฟงา่ ย สว่ นทองแดงและหินปูนตดิ ไฟไดย้ าก

22 เฉลยใบงานท่ี 1 เรือ่ ง การจาแนกสารตามสมบตั ิของสาร 1. จงตอบคาถามต่อไปน้ี สสารคือ สิ่งตา่ ง ๆ ท่มี ีตวั ตน มมี วล ตอ้ งการทอี่ ยู่ และสมั ผัสได้ สาร หมายถงึ สสารทท่ี ราบสมบัติ หรือสสารทจี่ ะศกึ ษา ดังนน้ั สารจงึ เปน็ สสารที่จาเพาะเจาะจง 2. ให้นกั เรียนเลอื กสงิ่ ท่ีกาหนดในกรอบสเ่ี หลย่ี มต่อไปนี้ เตมิ ลงในตารางเพื่อจาแนกวา่ ส่งิ ใดจดั เป็น สสาร สิ่งใดไมจ่ ดั เป็นสสาร พรอ้ มทั้งระบเุ หตุผล นา้ ตาลทราย ทองแดง ความรอ้ น หินปนู เสียงเพลง ไอน้า สนมิ เหล็ก ความมืด น้าเชอ่ื ม แสงแดด สง่ิ ท่จี ัดเป็นสสาร สง่ิ ทีไ่ ม่จัดเปน็ สสาร สสาร เหตุผล ไมใ่ ชส่ สาร เหตุผล น้าตาลทราย มีมวล มนี ้าหนัก ความรอ้ น เสียงเพลง ไม่มีมวล สมั ผัสได้ ทองแดง หนิ ปูน ไอน้ ต้องการทีอ่ ยู่ สมั ผัสได้ ความมืด แสงแดด เปน็ พลงั งาน สนมิ เหลก็ นา้ เชอื่ ม 3. จากกลุ่มสารที่กาหนดให้ในตารางข้างล่าง ใหน้ ักเรียนระบวุ ่าสารกลุ่มใดใช้สมบตั ิทางกายภาพหรือ สมบัติทางเคมีในการจาแนก กลมุ่ สาร สมบัติทางกายภาพ สมบตั ทิ างเคมี น้าหวานและนา้ ตาลมีรสหวาน ✓ กอ้ นหนิ และก้อนกรวดเปน็ ของแข็ง ✓ พลาสติกติดไฟได้ ✓ น้าหอมแต่ละย่หี อ้ มกี ล่ินหอม ✓ แก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์ (CO2 ) ทาให้ ✓ นา้ ปูนใสขุน่

23 เฉลยแบบทดสอบยอ่ ยหลงั เรยี น หน่วยยอ่ ยท่ี 1 เรอ่ื ง สมบตั ขิ องสาร 1.ค. 6.ข. 2.ค. 7.ก. 3.ง. 8.ก. 4.ง. 9.ค. 5.ง. 10.ข.

24 เอกสารอา้ งองิ ศรลี ักษณ์ ผลวัฒนะ และคณะ. (2552). วทิ ยาศาสตร์ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 1. กรงุ เทพฯ : สานักพมิ พน์ ิยมวิทยา. สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ. (2553). วิทยาศาสตร์ 1. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์ สกสค. ลาดพรา้ ว. ประดบั นาคแก้ว และคณะ. (2551). หนังสือเรียนสาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์ ม.1. กรุงเทพฯ : แมค็ .


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook