58 ใบงานที่ 7.3 เรือ่ ง การประยุกตใ์ ช้ฟังกช์ นั ของ Microsoft Word 2010 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. บอกประเภทของฟังกช์ นั ได้ 2. อา้ งองิ เซลลไ์ ด้ 3. คานวณโดยใชฟ้ ังกช์ นั ได้ 4. บอกขอ้ ผดิ พลาดในการใชง้ านของโปรแกรมได้ คาชี้แจง นักเรยี นปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ดงั น้ี 1. พมิ พข์ อ้ มลู ตามแบบฟอรม์ ทก่ี าหนดให้ 2. ช่องเกรดใหใ้ ชฟ้ ังกช์ นั IF โดยมเี งอ่ื นไขดงั น้ี - ถา้ ไดค้ ะแนน น้อยกว่า 50 จะไดเ้ กรด F - ถา้ ไดค้ ะแนน มากกว่าหรอื เท่ากบั 50 จะไดเ้ กรด D - ถา้ ไดค้ ะแนน มากกวา่ หรอื เท่ากบั 60 จะไดเ้ กรด C - ถา้ ไดค้ ะแนน มากกว่าหรอื เท่ากบั 70 จะไดเ้ กรด B - ถา้ ไดค้ ะแนน มากกวา่ หรอื เทา่ กบั 80 จะไดเ้ กรด A - ถา้ ไดค้ ะแนน มากกวา่ 100 จะแสดงขอ้ ความเงนิ เดอื นเกนิ 3. ช่องสถานะแสดงขอ้ ความไม่ผ่าน ถา้ ไดเ้ กรด F 4. ชอ่ งผลสรปุ ใหแ้ สดงขอ้ ความตามเงอ่ื นไขดงั น้ี - ถา้ ไดเ้ กรด F จะแสดงขอ้ ความ ควรปรบั ปรงุ - ถา้ ไดเ้ กรด D จะแสดงขอ้ ความ พอใช้ - ถา้ ไดเ้ กรด C จะแสดงขอ้ ความ ปานกลาง - ถา้ ไดเ้ กรด B จะแสดงขอ้ ความ ดี - ถา้ ไดเ้ กรด A จะแสดงขอ้ ความ ดมี าก
59 ใบงานท่ี 7.4 เรอื่ ง การประยกุ ตใ์ ช้ฟังกช์ นั ของ Microsoft Word 2010 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. บอกประเภทของฟังกช์ นั ได้ 2. อา้ งองิ เซลลไ์ ด้ 3. คานวณโดยใชฟ้ ังกช์ นั ได้ 4. บอกขอ้ ผดิ พลาดในการใชง้ านของโปรแกรมได้ คาชี้แจง นกั เรยี นปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ดงั น้ี 1. พมิ พข์ อ้ มลู ตามแบบฟอรม์ ทก่ี าหนดให้ 2. คา่ คอมมชิ ชนั่ คานวณจากยอดขายดงั น้ี ตงั้ แต่ 200,000 ขน้ึ ไป คดิ ค่าคอมมชิ ชนั่ 3% ตงั้ แต่ 300,000 ขน้ึ ไป คดิ ค่าคอมมชิ ชนั่ 4% ตงั้ แต่ 400,000 ขน้ึ ไป คดิ คา่ คอมมชิ ชนั่ 5% ตงั้ แต่ 500,000 ขน้ึ ไป คดิ คา่ คอมมชิ ชนั่ 6% 3. รายไดส้ ทุ ธิ = เงนิ เดอื น + เบย้ื เลย้ี ง + คอมมชิ ชนั่
60 บนั ทึกหลงั การสอน ขอ้ สรปุ หลงั กำรสอน ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ปัญหำท่ีพบ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ แนวทำงแกป้ ัญหำ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................
61 แผนการจดั การเรียนรแู้ บบบรู ณาการท่ี 11 หน่วยท่ี - รหสั วิชา 20001-2001 วิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ ชื่อหน่วย ทบทวน/สอบกลางภาคเรียน จานวนชวั่ โมง 2 ช.ม. สาระสาคญั - สาระการเรียนรู้ ทบทวน/สอบกลางภาคเรียน จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. นักเรยี นเกดิ การเรยี นรเู้ น้อื หาสาระ และนาความคดิ รวบยอดไปประยุกตใ์ ชต้ อ่ ไป 2. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคท์ ผ่ี สู้ อนสามารถสงั เกตเหน็ ได้ ในดา้ นความมีมนุษยสมั พนั ธ์ ความมวี นิ ัย ความรบั ผดิ ชอบ ความเช่อื มนั ่ ในตนเอง ความ สนใจใฝ่รู้ ความรกั สามคั คี ความกตญั ญกู ตเวที กจิ กรรมการเรียนการสอน ขนั้ นำเข้ำสบู่ ทเรียน - ขนั้ สอน - ขนั้ สรปุ และกำรประยุกต์ - สือ่ การเรียนการสอน - การวดั และการประเมินผล -
62 บนั ทึกหลงั การสอน ขอ้ สรปุ หลงั กำรสอน ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ปัญหำที่พบ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ แนวทำงแกป้ ัญหำ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................
63 แผนการจดั การเรียนรแู้ บบบูรณาการที่ 12 หน่วยที่ 7 รหสั วิชา 20001-2001 วิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ ชื่อหน่วย การใชโ้ ปรแกรมนาเสนอขอ้ มูล จานวนชวั่ โมง 2 ช.ม. Microsoft PowerPoint 2010 สาระสาคญั การสรา้ งงานนาเสนอขอ้ มูล ต้องประกอบดว้ ยขอ้ ความ ภาพนิ่ง ภาพเคล่อื นไหว เพ่อื ใหม้ คี วามเขา้ ใจ เน้อื หาทน่ี าเสนอและมคี วามน่าสนใจ โปรแกรม Microsoft PowerPoint 2010 มกี ารจดั เตรยี มเครอ่ื งมอื ตงั้ แตก่ าร ออกแบบสไลด์จนถึงการเตรยี มการนาเสนอ โดยมเี คร่อื งมอื และคาสงั ่ ในการออกแบบจดั เตรยี มรูปแบบสาเร็จ การปรบั แต่งช้นิ งาน คาสงั ่ ในการพมิ พ์สไลด์ สาหรบั งานนาเสนอ ทาให้งานนาเสนอมีความหลากหลายและ น่าสนใจ สาระการเรียนรู้ 1. การเรม่ิ ตน้ ใชง้ านโปรแกรม Microsoft PowerPoint 2010 2. การจดั การภาพนง่ิ (Slide) จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. เรม่ิ ตน้ ใชง้ านโปรแกรม Microsoft PowerPoint 2010 ได้ 2. จดั การภาพน่ิง (Slide) ได้ 3. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคท์ ผ่ี สู้ อนสามารถสงั เกตเหน็ ได้ ในดา้ นความมมี นุษยสมั พนั ธ์ ความมวี นิ ัย ความรบั ผดิ ชอบ ความเชอ่ื มนั ่ ในตนเอง ความสนใจ ใฝ่รู้ ความรกั สามคั คี ความกตญั ญกู ตเวที กิจกรรมการเรียนการสอน ขนั้ นำเขำ้ สบู่ ทเรียน 1. นักเรยี นทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ ่อนเรยี น 2. ครสู นทนากบั นักเรยี นเกย่ี วกบั โปรแกรม Microsoft PowerPoint 2010 ว่าเป็นโปรแกรมในกลมุ่ Microsoft Office เหมาะสาหรบั การจดั สรา้ งงานนาเสนอขอ้ มลู (Presentation) สามารถนาไป ประยุกตใ์ ชใ้ นงานไดห้ ลายประเภท เชน่ การนาเสนอขอ้ มลู สนิ คา้ และบรกิ าร การจดั ทาสไลด์ (Slide) และ งาน Slide Show รปู ภาพ เป็นตน้ 3. ครกู ล่าวเพม่ิ เตมิ ว่าการสรา้ งงานนาเสนอดว้ ยโปรแกรม Microsoft PowerPoint 2010 สามารถทา ไดง้ า่ ยและรวดเรว็ สามารถแกไ้ ขเปลย่ี นแปลงงานนาเสนอตามความตอ้ งการไดอ้ ยา่ งสะดวก สวยงามและมลี ูกเล่น (Effect) มากมายทท่ี าใหง้ านดงึ ดดู ความสนใจของผชู้ มไดด้ กี วา่ วธิ กี าร นาเสนอแบบเดมิ
64 ขนั้ สอน 4. ครอู ธบิ ายความรเู้ บอ้ื งตน้ เกย่ี วกบั โปรแกรม Microsoft PowerPoint 2010 หลกั การทางานของ โปรแกรม หลกั การสรา้ งงานนาเสนอขอ้ มลู Presentation จะสรา้ งออกเป็นสไลด์ ย่อยๆ แต่ละ สไลด์ สามารถใส่ขอ้ มลู รปู ภาพ ภาพเคล่อื นไหว หรอื เสยี ง ไฟลว์ ดี โี อ เพอ่ื สรา้ งความน่าสนใจ เพมิ่ ขน้ึ และสามารถกาหนดใหง้ านนาเสนอออกมาในรปู แบบอตั โนมตั ไิ ดด้ ว้ ย โดยไมจ่ าเป็นตอ้ งมี คลกิ เมาสใ์ หแ้ สดงทลี ะสไลด์ 5. ครใู หน้ ักเรยี นชมตวั อย่างงานนาเสนอขอ้ มลู ทส่ี รา้ งดว้ ยโปรแกรม PowerPoint 6. ครสู าธติ การใชเ้ ครอ่ื งมอื ของโปรแกรม Microsoft PowerPoint 2010 และหลกั การออกแบบหน้า สไลด์ รปู เคร่อื งมอื บนแถบ Ribbon ของโปรแกรม PowerPoint 7. แสดงแทบ็ ภาพนงิ่ (Slide View) โดยเรยี งลาดบั จากภาพน่งิ แรกจนถงึ ภาพนงิ่ สุดทา้ ย และแสดง แทบ็ เคา้ รา่ ง (Outline View) ซง่ึ จะแสดงเฉพาะรายละเอยี ดไวด้ า้ นซา้ ย โดยแสดงจากทห่ี วั ขอ้ ภาพนงิ่ ขน้ั สรุปและการประยกุ ต์ 8. ครใู ชค้ าถามหรอื กาหนดปัญหาโดยใหน้ ักเรยี นระดมสมองชว่ ยกนั คดิ หาคาตอบแลว้ อธบิ ายคาตอบ ใหเ้ พ่อื นในกลุม่ ของตนเองเขา้ ใจ 9. ครใู ชว้ ธิ สี มุ่ นกั เรยี นทุกกลมุ่ ตอบคาถามและอธบิ ายใหเ้ พ่อื นฟังหน้าชนั้ เรยี น สือ่ การเรียนการสอน 1. หนังสอื เรยี นวชิ า คอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศเพ่อื งานอาชพี (20001-2001) ของบรษิ ทั สานกั พมิ พ์ เอมพนั ธ์ จากดั 2. เฉลยแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 3. ตวั อย่างงานนาเสนอทส่ี รา้ งดว้ ยโปรแกรม PowerPoint การวดั และการประเมนิ ผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล 2. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม 3. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 7 4. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เครอื่ งมือวดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล 2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 3. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 7
65 4. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละนักเรยี นร่วมกนั ประเมนิ เกณฑก์ ำรประเมินผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล เกณฑผ์ า่ น ตอ้ งไมม่ ชี ่องปรบั ปรงุ 2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ เกณฑผ์ า่ น 50% ขน้ึ ไป 3. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 7 เกณฑผ์ า่ น ทาถกู ตอ้ ง 50% ขน้ึ ไป 4. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ ประเมนิ ตามสภาพจรงิ กจิ กรรมเสนอแนะ ทากจิ กรรมใบงานและแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
66 ใบงำนท่ี 7.1 เรอ่ื ง กำรใช้โปรแกรมนำเสนอขอ้ มูล Microsoft PowerPoint 2010 จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ 1. เรมิ่ ตน้ ใชง้ านโปรแกรม Microsoft PowerPoint 2010 ได้ 2. จดั การภาพนิ่ง (Slide) ได้ คำชี้แจง จงพจิ ารณารปู ภาพน้วี า่ เกย่ี วขอ้ งกบั เรอ่ื งใด จงอธบิ าย ใส่ภาพหน้าจอของการปรบั แต่ง Themes presentation ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................
67 บนั ทึกหลงั การสอน ขอ้ สรปุ หลงั กำรสอน ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ปัญหำที่พบ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ แนวทำงแกป้ ัญหำ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................
68 แผนการจดั การเรียนรแู้ บบบรู ณาการท่ี 13 หน่วยท่ี 7 รหสั วิชา 20001-2001 วิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ ช่ือหน่วย การใชโ้ ปรแกรมนาเสนอขอ้ มูล จานวนชวั่ โมง 2 ช.ม. Microsoft PowerPoint 2010 สาระสาคญั การสรา้ งงานนาเสนอขอ้ มูล ต้องประกอบดว้ ยขอ้ ความ ภาพนิ่ง ภาพเคล่อื นไหว เพ่อื ใหม้ คี วามเขา้ ใจ เน้อื หาทน่ี าเสนอและมคี วามน่าสนใจ โปรแกรม Microsoft PowerPoint 2010 มกี ารจดั เตรยี มเครอ่ื งมอื ตงั้ แต่การ ออกแบบสไลด์จนถงึ การเตรยี มการนาเสนอ โดยมเี คร่อื งมือและคาสงั ่ ในการออกแบบจดั เตรยี มรูปแบบสาเร็จ การปรบั แต่งช้นิ งาน คาสงั ่ ในการพิมพ์สไลด์ สาหรบั งานนาเสนอ ทาให้งานนาเสนอมคี วามหลากหลายและ น่าสนใจ สาระการเรียนรู้ 1. การออกแบบการนาเสนอ 2. การใส่เน้อื หาใหก้ บั ภาพนงิ่ 3. การแทรกวตั ถุลงในภาพนง่ิ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. ออกแบบการนาเสนอได้ 2. ใส่เน้อื หาใหก้ บั ภาพนงิ่ ได้ 3. แทรกวตั ถลุ งในภาพนงิ่ ได้ 4. มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคท์ ผ่ี สู้ อนสามารถสงั เกตเหน็ ได้ ในดา้ นความมมี นุษยสมั พนั ธ์ ความมวี นิ ยั ความรบั ผดิ ชอบ ความเช่อื มนั ่ ในตนเอง ความสนใจ ใฝ่รู้ ความรกั สามคั คี ความกตญั ญกู ตเวที กจิ กรรมการเรียนการสอน ขนั้ นำเข้ำสบู่ ทเรยี น 1. ครูนาสนทนาถงึ เร่อื ง การนาเสนอรายงาน การประชุมในลกั ษณะต่างๆ จาเป็นตอ้ งนาเสนอใน รปู แบบทร่ี วดเรว็ และทนั สมยั ดงั นัน้ การเปิดโปรแกรม Microsoft PowerPoint 2010 เพ่อื สรา้ ง สไลด์ใหม่ จงึ ควรศกึ ษาใหเ้ ขา้ ใจ ใหน้ าไปใชไ้ ดอ้ ย่างเหมาะสม 2. นักเรยี นยกตวั อยา่ งประโยชน์ทจ่ี ะไดร้ บั ของการใชโ้ ปรแกรม Microsoft PowerPoint 2010 ในการ นาเสนอขอ้ มลู ขนั้ สอน 3. ครอู ธบิ ายและสาธติ การออกแบบการนาเสนอดว้ ย Microsoft PowerPoint 2010 และ การสรา้ งสไลดใ์ หม่ การจดั การพน้ื หลงั ของสไลด์ ใหผ้ เู้ รยี นปฏบิ ตั ติ ามขนั้ ตอน ครใู ชว้ ดี โี อสาธติ
69 การแทรกรปู ทรงและการเพม่ิ ขอ้ ความในรปู ทรง โดยคลกิ ทร่ี บิ บอน Insert ทห่ี มวดหมู่ lllustrations เลอื ก Shapes กจ็ ะปรากฏรปู ทรงใหเ้ ลอื กรปู ทรงตามทต่ี อ้ งการ จากนนั้ ใหค้ ลกิ และ ลาก เพอ่ื วาดรปู ทรงบนภาพน่งิ ไดท้ นั ที ซง่ึ วตั ถใุ นสไลด์ ไดแ้ ก่ ภาพตดั ปะ (ClipArt) รปู ภาพ รปู วาด ภาพเคลอ่ื นไหว แผนภมู ิ ซง่ึ ตอ้ งใชค้ าสงั ่ ในการจดั ลาดบั ของวตั ถใุ นสไลด์ การปรบั ขนาดของ วตั ถุ การปรบั สี เสน้ เพอ่ื เพมิ่ ความสวยงามใหก้ บั วตั ถุ และใหผ้ เู้ รยี นปฏบิ ตั ติ าม 4. ครูอธิบายและสาธิตส่วนประกอบต่างๆ ของโปรแกรม ท่ีใช้ในการพิมพ์ข้อความ ด้วยกล่อง ขอ้ ความ และการใสเ่ อฟเฟ็กตต์ า่ งๆ ใหก้ บั วตั ถุ โดยใหผ้ เู้ รยี นปฏบิ ตั ติ าม 5. ใหผ้ เู้ รยี นฝึกปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี 1) คดิ นทิ านคณุ ธรรมจากรปู ภาพตดั ปะ (ClipArt) โดยใช้ Shapes ในการสรา้ งกล่องคาพดู ใหก้ บั ตวั ละครโดยใหค้ ดิ ชอ่ื เร่อื ง เสนอครพู รอ้ มโครงเรอ่ื ง เพ่อื จดั ทาเป็นงานนาเสนอดว้ ยโปรแกรม Microsoft Office PowerPoint 2010 2) เรอ่ื งทจ่ี ะนาเสนอตอ้ งมสี ไลดต์ งั้ แต่ 10 สไลดข์ น้ึ ไป โดยใส่เอฟเฟ็กตแ์ ละกาหนดเวลาใหพ้ อดี 3) สง่ ไฟลง์ านนาเสนอในคาบเรยี นต่อไป ขนั้ สรปุ และกำรประยุกต์ 6. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรุปเน้อื หาทไ่ี ด้ และปัญหาต่างๆ ทเ่ี จอในการปรบั แตง่ สไลดใ์ หน้ ่าสนใจ ครู แนะนาเทคนคิ ตา่ งๆ ซง่ึ มมี ากมายในโปรแกรม ซง่ึ เป็นประโยชน์ในการสรา้ งผลงานนาเสนอดว้ ย โปรแกรม Microsoft Office PowerPoint 2010 โดยนกั เรยี นสามารถฝึกปฏบิ ตั ไิ ดด้ ว้ ยตนเอง 7. ครใู หน้ ักเรยี นนาวธิ กี ารใหมๆ่ ทน่ี กั เรยี นคน้ พบจากการฝึกใชโ้ ปรแกรมดว้ ยตนเองมาแนะนาให้ เพอ่ื นๆ ในชนั้ เรยี นไดท้ ราบดว้ ย สือ่ การเรียนการสอน 1. หนังสอื เรยี นวชิ า คอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศเพอ่ื งานอาชพี (20001-2001) ของบรษิ ทั สานกั พมิ พ์ เอมพนั ธ์ จากดั 2. เฉลยแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 3. วดี โี อสาธติ การสรา้ งงานนาเสนอบนโปรแกรม Microsoft PowerPoint 2010 การวดั และการประเมินผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล 2. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 3. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 7 4. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เคร่อื งมือวดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล 2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุม่
70 3. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 7 4. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละนักเรยี นร่วมกนั ประเมนิ เกณฑก์ ำรประเมินผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล เกณฑผ์ า่ น ตอ้ งไมม่ ชี ่องปรบั ปรงุ 2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุม่ เกณฑผ์ า่ น 50% ขน้ึ ไป 3. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 7 เกณฑผ์ า่ น ทาถูกตอ้ ง 50% ขน้ึ ไป 4. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ ใหน้ กั เรยี นในแตล่ ะกลุ่มระดมสมองวา่ สามารถนาโปรแกรม PowerPoint มาใชป้ ระโยชนใ์ น ดา้ นใดไดบ้ า้ ง ใหน้ ักเรยี นรว่ มกนั คดิ และสรา้ งผลงานออกมาในทางสรา้ งสรรค์ และนาผลงานมา แลกเปลย่ี นเรยี นรกู้ บั เพ่อื นๆ ในกลมุ่ อน่ื ๆ
71 บนั ทึกหลงั การสอน ข้อสรปุ หลงั กำรสอน ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ปัญหำที่พบ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ แนวทำงแก้ปัญหำ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................
72 แผนการจดั การเรียนรแู้ บบบูรณาการที่ 14 หน่วยที่ 8 รหสั วิชา 20001-2001 วิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ ชื่อหน่วย การประยุกตใ์ ชโ้ ปรแกรมนาเสนอขอ้ มูล จานวนชวั่ โมง 2 ช.ม. Microsoft PowerPoint 2010 สาระสาคญั การสรา้ งงานนาเสนอขอ้ มลู ตอ้ งคานึงถงึ เน้อื หาทจ่ี ะนาเสนอใหผ้ เู้ กย่ี วขอ้ งมคี วามเขา้ ใจ และยงั ตอ้ ง นาเสนอใหเ้ กดิ ความน่าสนใจตดิ ตามเพ่อื ใหต้ รงกบั จดุ ประสงค์ การใส่ลูกเล่นหรอื เอฟเฟ็กตเ์ พม่ิ เตมิ จงึ เป็นสงิ่ สาคญั ทจ่ี ะทาใหง้ านนาเสนอมคี วามสมบูรณ์ ลกู เลน่ และเอฟเฟ็กตม์ หี ลายลกั ษณะซง่ึ โปรแกรมไดจ้ ดั เตรยี มไวแ้ ลว้ รวมถงึ การนางานไปเผยแพรใ่ นรปู แบบต่างๆ แต่ก่อนจะนาเสนอควรต้องมกี ารทดสอบงานนาเสนอวา่ เป็นไป ตามทอ่ี อกแบบไว้ สาระการเรียนรู้ 1. การใส่ Transition 2. กาหนดการเคล่อื นไหวของวตั ถุ (Animations) 3. การนาเสนอดว้ ยมลั ตมิ เี ดยี 4. การเช่อื มโยงหลายมติ ิ (Hyperlink) 5. การเผยแพร่งานนาเสนอ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. ใส่ Transition ได้ 2. กาหนดการเคลอ่ื นไหวของวตั ถุ (Animations) ได้ 3. นาเสนอดว้ ยมลั ตมิ เี ดยี ได้ 4. สรา้ งการเช่อื มโยงหลายมติ ิ (Hyperlink) ได้ 5. เผยแพรง่ านนาเสนอได้ 6. มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคท์ ผ่ี สู้ อนสามารถสงั เกตเหน็ ได้ ในดา้ นความมมี นุษยสมั พนั ธ์ ความมวี นิ ัย ความรบั ผดิ ชอบ ความเช่อื มนั ่ ในตนเอง ความ สนใจใฝ่รู้ ความรกั สามคั คี ความกตญั ญกู ตเวที กจิ กรรมการเรียนการสอน ขนั้ นำเข้ำสบู่ ทเรยี น 1. ครแู ละนักเรยี นทบทวนการนาเสนองานในลกั ษณะตา่ งๆ เพ่อื ใหง้ านน่าสนใจ ซง่ึ ขน้ึ อยกู่ บั ความคดิ สรา้ งสรรคผ์ ลงานของแต่ละคน ซง่ึ แตกตา่ งกนั ในการออกแบบซง่ึ ตอ้ งใหส้ อดคลอ้ งกบั เน้อื หาดว้ ย ขนั้ สอน 2. ครอู ธบิ ายและสาธติ การจดั การสไลด์ ปรบั แต่งพรเี ซนเตชนั ใหส้ มบูรณ์ คอื การใส่ Transition หรอื การสรา้ งเอฟเฟ็กตใ์ นการเปลย่ี นแผน่ สไลด์ และการปรบั พน้ื หลงั ของสไลด์ การกาหนดเวลาใน
73 การแสดงผลของสไลดแ์ ต่ละแผน่ รวมถงึ การแทรกเสยี งลงในสไลด์ โดยไฟลเ์ สยี งทใ่ี ชไ้ ดต้ อ้ งมี รปู แบบไฟลเ์ ป็นนามสกุล .WMA การแทรกไฟลว์ ดี โี อ นักเรยี นปฏบิ ตั ติ ามขนั้ ตอนต่างๆ โดย ลูกเล่นบางอยา่ งอาจยงั ไมจ่ าเป็นตอ้ งใชก้ ไ็ ด้ ซง่ึ ขน้ึ อย่กู บั ความเหมาะสมกบั เน้อื หาเป็นหลกั ในการ เลอื กใชเ้ อฟเฟ็กต์ 3. ครเู ปิดงานนาเสนอทม่ี ตี วั อย่างการเช่อื มโยงหลายมติ ิ (Hyperlink) ใหน้ กั เรยี นเหน็ ถงึ ความสามารถ ของโปรแกรมอกี อยา่ งหน่งึ โดยนกั เรยี นสามารถเชอ่ื มตอ่ ระหวา่ งภาพนิ่งหน่งึ ไปยงั อกี ภาพนิ่งหน่งึ ในไฟลเ์ ดยี วกนั หรอื ตา่ งไฟลง์ านนาเสนอ สามารถเช่อื มโยงระหว่างโปรแกรมได้ ซง่ึ เหมาะกบั ไฟล์ งานนาเสนอทม่ี คี วามซบั ซอ้ น นกั เรยี นฝึกปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ดงั น้ี 1) นักเรยี นสรา้ งสไลดอ์ ยา่ งน้อย 7 สไลด์ โดยมหี วั ขอ้ เกย่ี วกบั ประวตั นิ กั เรยี น 2) นักเรยี นตกแตง่ สไลดด์ ว้ ยรปู ภาพใหส้ วยงาม 3) กาหนดจุดเช่อื มโยงใหแ้ ตล่ ะหวั ขอ้ สามารถลงิ กไ์ ปยงั สไลดห์ น้าต่างๆ ได้ เชน่ หวั ขอ้ ประวตั สิ ่วนตวั เมอ่ื คลกิ แลว้ กจ็ ะไปยงั สไลดห์ น้าประวตั สิ ่วนตวั ในหน้าทเ่ี ป็นหวั ขอ้ ให้ สรา้ งปุ่มทล่ี งิ กก์ ลบั มาหน้าหลกั 4) ใหม้ กี ารทา Animation พรอ้ มกาหนดเวลาระหว่างรปู ภาพกบั เพลงใหพ้ อดี 5) สง่ ไฟลง์ านนาเสนอในคาบเรยี นต่อไป 4. นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม ประมาณ 3-4 คน สรา้ งงานนาเสนอ เรอ่ื ง การทอ่ งเทย่ี วภายในประเทศไทย โดย เลอื กแหล่งท่องเทย่ี วมากลุ่มละ 1 แห่ง เพ่อื นาเสนอเชญิ ชวนนักท่องเท่ยี วในแหล่งท่องเทย่ี วนัน้ อย่างน้อย 10 สไลด์ โดยคน้ หาขอ้ มลู จากหอ้ งสมดุ หรอื อนิ เทอรเ์ นต็ กไ็ ด้ 5. ครอู ธบิ ายถงึ วธิ กี ารเผยแพร่งานนาเสนอทส่ี รา้ งเสรจ็ แล้ว ซ่งึ มรี ูปแบบหลากหลายเพ่อื สนองตอบ ความต้องการในการใช้งานและเพ่อื ความสะดวกในการนาไปใช้หากไม่มีโปรแกรม PowerPoint เช่น เผยแพร่ผ่านเวบ็ ไซต์ ผ่านอีเมล ผ่านแผ่น CD หรอื ไฟล์ รวมถึงการบนั ทกึ และการเปล่ยี น รปู แบบไฟลข์ อ้ มลู นักเรยี นฝึกการบนั ทกึ ไฟลต์ ามขนั้ ตอนและวธิ กี ารทค่ี รอู ธบิ ายและสาธติ ขัน้ สรุปและการประยกุ ต์ 6. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ บทเรยี น และเปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นซกั ถามขอ้ สงสยั 7. นักเรยี นทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ เสรจ็ แลว้ จบั ค่สู ลบั กนั ตรวจบนั ทกึ ผลการประเมนิ สง่ ใหค้ รู 8. ครตู รวจสอบความถูกตอ้ งและเปรยี บเทยี บผลการประเมนิ กอ่ นเรยี นและหลงั เรยี น แจ้งผลการประเมนิ ใหน้ กั เรยี นแต่ละคนทราบความกา้ วหน้าในการเรยี นการสอน สือ่ การเรียนการสอน 1. หนังสอื เรยี นวชิ า คอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศเพ่อื งานอาชพี (20001-2001) ของบรษิ ทั สานกั พมิ พ์ เอมพนั ธ์ จากดั 2. เฉลยแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 3. อนิ เทอรเ์ น็ต หนังสอื ในหอ้ งสมุด 4. ตวั อย่างงานนาเสนอขอ้ มลู PowerPoint
74 การวดั และการประเมนิ ผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล 2. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม 3. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 8 4. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เครื่องมอื วดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล 2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม 3. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 8 4. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั ประเมนิ เกณฑก์ ำรประเมินผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล เกณฑผ์ ่าน ตอ้ งไมม่ ชี ่องปรบั ปรุง 2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม เกณฑผ์ ่าน 50% ขน้ึ ไป 3. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 8 เกณฑผ์ ่าน ทาถูกตอ้ ง 50% ขน้ึ ไป 4. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู บั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ งานนาเสนอขอ้ มลู เกย่ี วกบั การท่องเทย่ี วทท่ี าเสรจ็ แลว้ มานาเสนอ (Present) ใหเ้ พ่อื นในชนั้ เรยี นไดช้ ม ผลงานจนครบทุกกลมุ่ โดยใหเ้ พ่อื นๆ ช่วยกนั ตชิ ม และเสนอแนะ รวมทงั้ ตดั สนิ วา่ ผลงานของกลุ่มใดทท่ี าไดด้ ี และสมบูรณ์ทส่ี ดุ ครแู นะนาเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนวา่ ตอ้ งพจิ ารณาจากสว่ นใดบา้ ง เช่น ความถกู ตอ้ งของเน้อื หา เป็นตน้
75 ใบงำนท่ี 8.1 เรอ่ื ง การปรบั แต่งงานนาเสนอ จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ 1. ออกแบบการนาเสนอได้ 2. ใสเ่ น้อื หาใหก้ บั ภาพนิ่งได้ 3. แทรกวตั ถลุ งในภาพนงิ่ ได้ 4. ใส่ Transition ได้ 5. กาหนดการเคล่อื นไหวของวตั ถุ (Animations) ได้ 6. นาเสนอดว้ ยมลั ตมิ เี ดยี ได้ 7. สรา้ งการเชอ่ื มโยงหลายมติ ิ (Hyperlink) ได้ 8. เผยแพร่งานนาเสนอได้ คาชี้แจง จากรปู ภาพตอ่ ไปน้ี จงอธบิ ายความหมายตามหมายเลขกากบั หน้าจอแสดงแถบเคร่อื งมอื ในโปรแกรม PowerPoint มลี กู ศรชใ้ี นคาสงั ่ และเคร่อื งมอื ตา่ งๆ พรอ้ มกบั มตี วั เลข กากบั ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ...........................................................................................................................................................
76 ใบงำนท่ี 8.2 เรอื่ ง การปรบั แต่งงานนาเสนอ จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ 1. ออกแบบการนาเสนอได้ 2. ใสเ่ น้อื หาใหก้ บั ภาพนิ่งได้ 3. แทรกวตั ถลุ งในภาพนิง่ ได้ 4. ใส่ Transition ได้ 5. กาหนดการเคลอ่ื นไหวของวตั ถุ (Animations) ได้ 6. นาเสนอดว้ ยมลั ตมิ เี ดยี ได้ 7. สรา้ งการเชอ่ื มโยงหลายมติ ิ (Hyperlink) ได้ 8. เผยแพร่งานนาเสนอได้ คาชี้แจง ให้นักเรยี นออกแบบสไลด์ในเร่อื งท่นี ักเรยี นสนใจคนละ 1 สไลด์ และจบั ภาพหน้าจอโดยใช้คาสงั ่ PrintScreen นาภาพมาตดิ ในกรอบดา้ นล่าง พรอ้ มกบั เขยี นคาอธบิ ายถงึ วธิ กี ารสรา้ งสไลด์ ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ...........................................................................................................................................................
77 บนั ทึกหลงั การสอน ขอ้ สรปุ หลงั กำรสอน ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ปัญหำท่ีพบ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ แนวทำงแก้ปัญหำ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................
78 แผนการจดั การเรียนรแู้ บบบรู ณาการท่ี 15 หน่วยที่ 9 รหสั วิชา 20001-2001 วิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ ชื่อหน่วย ความรูเ้ บ้ืองตน้ เก่ยี วกบั อินเทอร์เน็ต จานวนชวั่ โมง 2 ช.ม. สาระสาคญั ปัจจุบนั ระบบขา่ วสารขอ้ มลู สารสนเทศระบบเครอื ข่ายอนิ เทอร์เน็ตหรอื ทเ่ี รยี กว่าเวบ็ เพจ มคี วามสาคญั มากในหน่วยงานต่างๆ ทงั้ ภาครฐั เอกชนหรอื สถานศกึ ษา ต่างใชช้ ่องทางน้ีตดิ ต่อส่อื สาร ประชาสมั พนั ธข์ อ้ มูล เกย่ี วกบั องคก์ ร และเป็นทร่ี วบรวมขอ้ มลู จานวนมาก เพ่อื ใหผ้ ทู้ ส่ี นใจทาการคน้ หา ดงั นนั้ การศกึ ษาอนิ เทอรเ์ น็ต และเวบ็ เพจจงึ มคี วามสาคญั เป็นอย่างมาก สาระการเรียนรู้ 1. ความหมายของอนิ เทอรเ์ น็ต 2. ระบบชอ่ื โดเมน (DNS: Domain Name System) 3. การบรกิ ารของอนิ เทอรเ์ นต็ 4. คาศพั ทท์ ใ่ี ชใ้ นอนิ เทอรเ์ นต็ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. บอกความหมายของอนิ เทอรเ์ น็ตได้ 2. อธบิ ายระบบช่อื โดเมนได้ 3. บอกการบรกิ ารของอนิ เทอรเ์ น็ตได้ 4. อธบิ ายคาศพั ทท์ ใ่ี ชใ้ นอนิ เทอรเ์ น็ตได้ 5. มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคท์ ผ่ี สู้ อนสามารถสงั เกตเหน็ ได้ ในดา้ นความมมี นุษยสมั พนั ธ์ ความมวี นิ ัย ความรบั ผดิ ชอบ ความเช่อื มนั ่ ในตนเอง ความสนใจ ใฝ่รู้ ความรกั สามคั คี ความกตญั ญกู ตเวที กิจกรรมการเรียนการสอน ขนั้ นำเขำ้ สบู่ ทเรยี น 1. นกั เรยี นทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ อ่ นเรยี น 2. ครสู นทนากบั นักเรยี นว่าในปัจจุบนั เป็นยคุ ของขอ้ มลู ขา่ วสาร ชอ่ งทางในการสอ่ื สารมคี วาม หลากหลายและมปี ระสทิ ธภิ าพมากขน้ึ อนิ เทอรเ์ นต็ เป็นช่องทางทม่ี กี ารตดิ ต่อส่อื สารกนั มากและ นยิ มใชง้ านเพม่ิ ขน้ึ อยา่ งรวดเรว็ การประยุกตใ์ ชอ้ นิ เทอรเ์ น็ตทาไดห้ ลากหลาย 3. ครยู กตวั อย่างการประยกุ ตใ์ ชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ เช่น ไปรษณียอ์ เิ ลก็ ทรกนกิ ส์ หรอื อเี มล (E-mail) สนทนา (Chat) อ่านหรอื แสดงความคดิ เหน็ ในเวบ็ บอรด์ การตดิ ตามขา่ วสาร การสบื คน้ ขอ้ มลู การคน้ หา ขอ้ มลู การชมหรอื ซ้อื สนิ คา้ ออนไลน์ การดาวน์โหลดเกม เพลง ไฟลข์ อ้ มลู เป็นตน้
79 4. นกั เรยี นร่วมสนทนาเกย่ี วกบั ประโยชน์ของอนิ เทอร์เนต็ ทน่ี กั เรยี นใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ว่ามอี ะไรบา้ ง และร่วมกนั อภปิ รายว่าเป็นสงิ่ ทด่ี อี ยา่ งไร เป็นสงิ่ ทไ่ี มด่ อี ยา่ งไร และควรนามาใชอ้ ย่างไรจงึ จะได้ ประโยชน์สงู สุด ขนั้ สอน 5. ครอู ธบิ ายความรเู้ บอ้ื งตน้ เกย่ี วกบั อนิ เทอรเ์ นต็ ความหมายของอนิ เทอรเ์ น็ต จากสอ่ื PowerPoint และสาธติ การใชโ้ ปรแกรม Internet Explorer โดยเปิดหน้าเวบ็ เพจจาเป็นตอ้ งมโี ปรแกรมทใ่ี ชส้ าหรบั อ่านขอ้ มลู บนเวบ็ ไซต์ ซง่ึ โปรแกรมทไ่ี ดร้ บั ความนยิ ม และตดิ ตงั้ มากบั ระบบปฏบิ ตั กิ าร Windows คอื Internet Explorer คณุ สมบตั ขิ องโปรแกรมทใ่ี ชง้ านงา่ ยและสนนั สนุนการใชง้ านรว่ มกบั โปรแกรมอน่ื ของ Microsoft เป็นอยา่ งดี และมกี ารพฒั นาอยา่ งต่อเน่อื ง ทาใหเ้ ป็นทน่ี ยิ มเป็นอยา่ งมาก ซง่ึ เราเรยี กวา่ Web Browser 6. ครใู หน้ กั เรยี นดสู ว่ นประกอบของ Internet Explorer บนหน้าจอ และสาธติ การใชเ้ ครอ่ื งมอื ใน การคน้ หาขอ้ มลู ผ่านอนิ เทอรเ์ น็ต และใหผ้ เู้ รยี นปฏบิ ตั ติ าม 7. ครูยกตวั อย่างเวบ็ ไซต์ท่นี ักเรยี นรูจ้ กั และชอบมา 3 เว็บไซต์ โดยใหน้ ักเรยี นดูความแตกต่างของ เวบ็ ไซต์ทงั้ 3 จากนัน้ ครอู ธบิ ายเร่อื งระบบช่อื โดเมนทก่ี าหนดใหเ้ ป็นมาตรฐาน โดยแบ่งตามลาดบั ขนั้ ตามสภาพภูมศิ าสตร์ เป็นประเทศ ประเภทขององค์กร และช่อื องค์กร โดยให้นักเรยี นศกึ ษาเพม่ิ เติม จากสอ่ื Powerpoint 8. ครใู หน้ ักเรยี นแต่ละกลุม่ รวบรวมชอ่ื เวบ็ ไซตต์ ่างๆ ทม่ี ชี ่อื โดเมนแตกตา่ งกนั และจดั ใหเ้ ป็นหมวดหมู่ ตามหลกั การแบง่ ตามทน่ี ักเรยี นไดศ้ กึ ษามาโดยคน้ หาไดจ้ ากอนิ เทอรเ์ น็ต 9. ครอู ธบิ ายถงึ บรกิ ารตา่ งๆ ทม่ี บี รกิ ารบนอนิ เทอรเ์ นต็ ซง่ึ มปี ระโยชน์กบั นกั เรยี นโดยนามาใชง้ านใน การเรยี น และการประกอบอาชพี ได้ เชน่ การใชอ้ เี มล โดยผเู้ รยี นจะตอ้ งลงทะเบยี นเป็นสมาชกิ เพ่อื ขอ ใช้ E-mail Address ก่อน จากนนั้ ใหน้ ักเรยี นเขยี น E-mail ถงึ เพอ่ื นในกล่มุ อย่างน้อย 3 คน 10. ครใู หน้ ักเรยี นรวบรวมคาศพั ท์ทใ่ี ชใ้ นอนิ เทอรเ์ น็ตวา่ มคี าว่าอะไรบา้ ง โดยใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลุ่มไป คน้ หาความหมายมารายงานใหเ้ พ่อื นในกลุ่มอ่นื ๆ ฟังหน้าชนั้ เรยี น โดยอาจคน้ ควา้ จากหอ้ งสมุด หรอื จากอนิ เทอรเ์ นต็ กไ็ ด้ ขนั้ สรปุ และกำรประยกุ ต์ 13. เปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นซกั ถามขอ้ สงสยั 14. ครแู ละนักเรยี นชว่ ยกนั สรุปเน้อื หาในบทเรยี น สือ่ การเรียนการสอน 1. หนังสอื เรยี นวชิ า คอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศเพอ่ื งานอาชพี (20001-2001) ของบรษิ ทั สานักพมิ พ์ เอมพนั ธ์ จากดั 2. เฉลยแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 3. ส่อื PowerPoint และอนิ เทอรเ์ นต็
80 การวดั และการประเมินผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล 2. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ 3. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 9 4. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เคร่ืองมอื วดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล 2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 3. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 9 4. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละนักเรยี นร่วมกนั ประเมนิ เกณฑก์ ำรประเมินผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล เกณฑผ์ ่าน ตอ้ งไมม่ ชี ่องปรบั ปรุง 2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม เกณฑผ์ ่าน 50% ขน้ึ ไป 3. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 9 เกณฑผ์ า่ น ทาถูกตอ้ ง 50% ขน้ึ ไป 4. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ ใหน้ กั เรยี นทกุ คนสมคั รเป็นสมาชกิ เพ่อื ขอมี E-mail Adress เป็นของตวั เอง โดยเพม่ิ เพอ่ื นทุกคนใน ชนั้ เรยี นเป็นสมาชกิ ในเครอื ขา่ ยของนกั เรยี น เพอ่ื เป็นประโยชน์ในการตดิ ต่อสอ่ื สารทป่ี ระหยดั และเป็นช่องทาง การส่งไฟลเ์ อกสาร รายงานตา่ งๆ ถงึ กนั ได้ โดยนักเรยี นศกึ ษาวธิ กี ารดว้ ยตนเองจากการคน้ ควา้ ทางอนิ เทอรเ์ น็ต
81 ใบงำนท่ี 9.1 เรอ่ื ง อินเทอรเ์ น็ต จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ 1. ความหมายของอนิ เทอรเ์ น็ต 2. ระบบช่อื โดเมน (DNS: Domain Name System) 3. การบรกิ ารของอนิ เทอรเ์ น็ต 4. คาศพั ทท์ ใ่ี ชใ้ นอนิ เทอรเ์ นต็ คำชี้แจง จงอธบิ ายขนั้ ตอนในการใชง้ านอนิ เทอรเ์ นต็ จากหน้า Internet Explorer หน้าเวบ็ บราวเซอร์ Internet Explorer ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………...
82 บนั ทึกหลงั การสอน ข้อสรปุ หลงั กำรสอน ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ปัญหำที่พบ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ แนวทำงแก้ปัญหำ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................
83 แผนการจดั การเรียนรแู้ บบบรู ณาการท่ี 16 หน่วยท่ี 10 รหสั วิชา 20001-2001 วิชา คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ ชื่อหน่วย การประยกุ ต์ใช้เทคโนโลยีอบุ ตั ิใหม่ในงานอาชีพสงั คม จานวนชวั่ โมง 2 ช.ม. ออนไลน์ สาระสาคญั เทคโนโลยีอุบตั ิใหม่ (Emerging Technology) ได้มีการนามาประยุกต์ใช้ในชีวิต ประจาวนั ทงั้ ด้าน การศกึ ษา ดา้ นธุรกจิ ดา้ นการแพทย์ ดา้ นความมนั ่ คง และอ่นื ๆ อกี มากมาย เช่น อนิ เทอร์เน็ต เพ่อื ทุกสรรพสงิ่ (IoT) ปัญญาประดษิ ฐ์ (AI) การประมวลผลกลุ่มเมฆ (Cloud Computing) เทคโนโลยเี หล่าน้ีมกี ารเช่อื มโยงกนั โดยเฉพาะการใชเ้ ทคโนโลยอี นิ เทอรเ์ น็ตในการเชอ่ื มตอ่ เขา้ กบั อุปกรณ์และแอปพลเิ คชนั เพอ่ื ทางานรว่ มกนั ทาให้ เกดิ การเปล่ยี นแปลงรูปแบบการทางานใหเ้ กดิ ความสะดวก รวดเรว็ สามารถทางานร่วมกนั ไดใ้ นเวลาเดยี วกนั เพม่ิ ประสทิ ธภิ าพใหก้ บั โปรแกรมในรปู แบบออนไลน์ สาระการเรียนรู้ 1. เทคโนโลยอี บุ ตั ใิ หม่ 2. การประยกุ ตใ์ ชโ้ ปรแกรมผ่านการประมวลผลกลุ่มเมฆ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. บอกความหมายของเทคโนโลยอี บุ ตั ใิ หม่ได้ 2. อธบิ ายเทคโนโลยี Internet of Things ได้ 3. อธบิ ายเทคโนโลยปี ัญญาประดษิ ฐไ์ ด้ 4. มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคท์ ผ่ี สู้ อนสามารถสงั เกตเหน็ ได้ ในดา้ นความมมี นุษยสมั พนั ธ์ ความมวี นิ ัย ความรบั ผดิ ชอบ ความเช่อื มนั ่ ในตนเอง ความ สนใจใฝ่รู้ ความรกั สามคั คี ความกตญั ญกู ตเวที กิจกรรมการเรียนการสอน ขนั้ นำเขำ้ สบู่ ทเรยี น 1. นกั เรยี นทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ ่อนเรยี น 2. ครแู ละผเู้ รยี นกล่าวถงึ การใชเ้ วบ็ ไซตต์ ่างๆ ในการตดิ ต่อส่อื สารกนั ภายในกลุ่มเพ่อื น ครอบครวั หรอื เพ่อื นร่วมงาน ซง่ึ เราเรยี กวา่ สงั คมออนไลน์ ซ่งึ นยิ มใชก้ นั มาในปัจจุบนั 3. ครสู นทนากบั นักเรยี นถงึ เทคโนโลยอี ุบตั ใิ หม่ (Emerging Technology) ไดม้ กี ารนามาประยุกตใ์ ช้ ในชีวติ ประจาวนั ทงั้ ด้านการศึกษา ด้านธุรกิจ ด้านการแพทย์ ด้านความมนั ่ คง และอ่นื ๆ อีก มากมาย เช่น อนิ เทอร์เน็ต เพ่อื ทุกสรรพสง่ิ (IoT) ปัญญาประดษิ ฐ์ (AI) การประมวลผลกลุ่มเมฆ (Cloud Computing) เทคโนโลยเี หล่าน้ีมกี ารเช่อื มโยงกนั โดยเฉพาะการใชเ้ ทคโนโลยอี นิ เทอร์เน็ต ในการเช่อื มต่อเขา้ กบั อุปกรณ์และแอปพลเิ คชนั เพ่อื ทางานร่วมกนั ทาให้เกิดการเปล่ยี นแปลง
84 รูปแบบการทางานให้เกดิ ความสะดวก รวดเรว็ สามารถทางานร่วมกนั ไดใ้ นเวลาเดียวกัน เพ่ิม ประสทิ ธภิ าพใหก้ บั โปรแกรมในรปู แบบออนไลน์ทเ่ี บ่อื การหลอกลวงจากการใชช้ ่อื แฝงในเวบ็ ไซต์ อ่นื หนั มาใชเ้ ฟซบุ๊กกนั มากขน้ึ จนเป็นเวบ็ ไซต์ทเ่ี ป็นทน่ี ิยมไปทวั่ โลก ขนั้ สอน 4. ครอู ธบิ ายถงึ เทคโนโลยที เ่ี กดิ ขน้ึ ใหมโ่ ดยนาวทิ ยาการคอมพวิ เตอรม์ าพฒั นา และกาลงั มบี ทบาทใน ชวี ติ ประจาวนั ในด้านต่างๆ โดยการนาวทิ ยาการคอมพิวเตอร์ซ่ึงเป็นศาสตร์ท่เี รียนรู้เก่ียวกับ การศกึ ษาทฤษฎีการคานวณ และทฤษฎกี ารประมวลผลสารสนเทศ โดยประกอบดว้ ย ฮาร์ดแวร์ และซอฟตแ์ วร์ และมกี ารพฒั นาไปอย่างรวดเรว็ ทงั้ ดา้ นอุปกรณ์และซอฟตแ์ วร์ รวมถงึ เทคโนโลยี อน่ื ๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง เช่น เทคโนโลยดี า้ นการสอ่ื สาร เพ่อื ตอบสนองการใชง้ านดา้ นตา่ งๆ ทพ่ี บเหน็ ได้ ในชวี ติ ประจาวนั เช่น การจดั ทารายงานดว้ ยโปรแกรม Microsoft Word การคานวณยอดขายดว้ ย โปรแกรม Microsoft Excel การนาเสนอขอ้ มูลด้วยโปรแกรม Microsoft PowerPoint การค้นหา ขอ้ มลู จาก Google Chrome การตดิ ต่อสอ่ื สารผา่ นสอ่ื สงั คมออนไลน์ดว้ ย Facebook, Messenger, Line เป็นตน้ 5. ครสู นทนากบั นักเรยี นอนิ เทอรเ์ น็ตเพ่อื ทุกสรรพสง่ิ หรอื อนิ เทอรเ์ น็ตในทุกสง่ิ คอื การนาอุปกรณ์ ต่างๆ มาเช่อื มโยงกบั เครอื ข่ายอินเทอร์เน็ต และสามารถส่อื สารและควบคุมการใช้งานอุปกรณ์ เหล่านัน้ โดยใชผ้ ่านระบบคอมพวิ เตอร์ เช่น Smart Phone หรอื Tablet ซ่งึ จะต้องมแี อปพลเิ คชนั ในการสัง่ การ โดยสงั ่ การจากแอปพลิเคชันด้วย Computer หรือ Smart Phone เป็ นต้น เช่น เคร่อื งจกั รในโรงงาน รถยนต์ เคร่อื งใช้ภายในบ้านช่วยทาให้การดาเนินชีวติ มคี วามสะดวกและ ปลอดภยั ยงิ่ ขน้ึ 6. ครซู กั ถามนกั เรยี นวา่ เทคโนโลยี Internet of Things คอื อะไร นามาประยุกตใ์ ชใ้ นงานดา้ นใด ขนั้ สรปุ และกำรประยุกต์ 7. นกั เรยี นทาแบบฝึกปฏบิ ตั ิ และแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 8. ครแู ละนักเรยี นชว่ ยกนั สรปุ บทเรยี น และเปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นซกั ถามขอ้ สงสยั 9. เม่อื นกั เรยี นทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรเู้ สรจ็ แลว้ จบั คสู่ ลบั กนั ตรวจบนั ทกึ ผลการประเมนิ ส่งใหค้ รู 10. ครตู รวจสอบความถูกตอ้ งและเปรยี บเทยี บผลการประเมนิ กอ่ นเรยี นและหลงั เรยี น แจ้งผลการประเมนิ ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะคนทราบความกา้ วหน้าในการเรยี นการสอน สือ่ การเรียนการสอน 1. หนังสอื เรยี นวชิ า คอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศเพ่อื งานอาชพี (20001-2001) ของบรษิ ทั สานกั พมิ พ์ เอมพนั ธ์ จากดั 2. เฉลยแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 3. อนิ เทอรเ์ น็ต
85 การวดั และการประเมินผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบคุ คล 2. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม 3. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 10 4. การสงั เกตและประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เครือ่ งมอื วดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล 2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 3. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 10 4. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละนักเรยี นร่วมกนั ประเมนิ เกณฑก์ ำรประเมินผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล เกณฑผ์ ่าน ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรงุ 2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ เกณฑผ์ ่าน 50% ขน้ึ ไป 3. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 10 เกณฑผ์ า่ น ทาถูกตอ้ ง 50% ขน้ึ ไป 4. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู บั การ ประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ -
86 บนั ทึกหลงั การสอน ขอ้ สรปุ หลงั กำรสอน ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ปัญหำท่ีพบ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ แนวทำงแก้ปัญหำ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................
87 แผนการจดั การเรียนรแู้ บบบรู ณาการท่ี 17-18 หน่วยท่ี - รหสั วิชา 20001-2001 วิชา คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ ช่ือหน่วย ทบทวน/สอบปลายภาคเรียน จานวนชวั่ โมง 2 ช.ม. สาระสาคญั จากการทน่ี ักเรยี นไดศ้ กึ ษาวชิ าน้ี จะไดร้ บั ความรคู้ วามเขา้ ใจ และเกดิ ทกั ษะการฝึกปฏบิ ตั กิ จิ กรรมการ เรยี นโดยเน้นนักเรยี นเป็นสาคญั ใหน้ ักเรยี นฝึกคดิ เพ่อื ใหส้ อดคลอ้ งกบั พระราชบญั ญตั กิ ารศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 (แกไ้ ขปรบั ปรงุ เพมิ่ เตมิ พ.ศ.2545) โดยยดึ หลกั การนาไปใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ในการพฒั นาสงั คม พรอ้ มทงั้ นาหลกั คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยมและคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์มาประยุกต์ใช้กบั กิจกรรมการเรยี นอย่าง เหมาะสม จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. นาเร่อื งทท่ื บทวนตามเน้อื หาวชิ าไปใชป้ ระโยชน์ได้ 2. แจง้ คะแนนระหวา่ งภาคเรยี นใหน้ กั เรยี นทราบ 3. แกป้ ัญหาการเรยี นของนกั เรยี นได้ 4. นักเรยี นนาความรทู้ ศ่ี กึ ษามาไปสอบปลายภาคเรยี นได้ 5. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องนักเรยี นทค่ี รสู ามารถ สงั เกตไดใ้ นขณะทาการสอน เน้ อื หาสาระ 1. ทบทวนเน้อื หาวิชาทไ่ี ด้ศึกษามาแบบย่อ 2. รวบรวมคะแนนระหว่างภาคเรียน 3. ปัญหารการเรยี นของนักเรียน 4. สอบปลายภาคเรียน กิจกรรมการเรียนการสอน 1. ครแู จง้ ใหน้ กั เรยี นทราบคะแนนระหวา่ งภาค และกลางภาค จุดประสงคท์ น่ี ักเรยี นยงั ไมไ่ ดป้ ฏบิ ตั ิ หรอื ไมผ่ ่าน หรอื ไมไ่ ดส้ อบ ใหน้ กั เรยี นดาเนินการโดยพบครู กาหนดวนั เวลาทจ่ี ะปฏบิ ตั หิ รอื สอบหรอื เรยี น เพมิ่ เตมิ 2. นักเรยี นรบั ทราบจดุ ประสงคก์ ารสอบปลายภาควา่ จะมกี ารสอบเรอ่ื งใดบา้ ง นักเรยี นไม่เขา้ ใจเร่อื งใด กใ็ หซ้ กั ถาม 3. ครแู ละผเู้ รยี นรว่ มกนั ทบทวนบทเรยี นทผ่ี ่านมาโดยสรุป สือ่ การเรียนการสอน 1. ขอ้ มลู การเกบ็ คะแนน 2. จดุ ประสงคก์ ารสอบปลายภาค
88 การวดั และการประเมนิ ผล เป็นไปตามเกณฑท์ ไ่ี ดแ้ จง้ ไวใ้ นแผนการจดั การเรยี นรสู้ ปั ดาหท์ ่ี 1-18 กจิ กรรมเสนอแนะ แจง้ การประเมนิ ผลนกั เรยี นทต่ี ดิ ร. มส.
89 ภาคผนวก ก ตวั อยา่ ง แบบประเมินด้วยแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) ประเมนิ จากผลงานทน่ี ักเรยี นจดั ทาและนามาจดั เกบ็ ไวใ้ นแฟ้ม แฟ้มนนั้ จะประกอบดว้ ย 1. ปก 2. คานา 3. ขอ้ มลู ส่วนตวั 4. สารบญั 5. จุดประสงค์ 6. เกณฑก์ ารประเมนิ งาน 7. งานทงั้ หมด 8. แบบทดสอบต่างๆ 9. งานทม่ี อบหมาย/ใบงาน 10. การประเมนิ ตนเอง/เพ่อื น/ผสู้ อน/ผปู้ กครอง 11. ความคดิ เหน็ ตอ่ วชิ า ตวั อยำ่ งขอ้ มลู ส่วนตวั 1. ช่อื ………………………………………………………………………………………………………. 2. เกดิ วนั ท…่ี ………………………เดอื น………………………………พ.ศ. ………………….……… 3. ช่อื บดิ า…………………………………………ช่อื มารดา……………………………………………. พ…่ี …………………………………………คน น้อง…………………………...………………คน 4. ทอ่ี ย่…ู ………………………………………………………………………………………………….. 5. วชิ าทช่ี อบ………………………………………………………………………………………………. 6. กจิ กรรมทช่ี อบ…………………………………………………………………………………………. 7. สงิ่ ทป่ี ระทบั ใจในการเรยี น……………………………………………………………………………... 8. รางวลั ทเ่ี คยไดร้ บั ………………………………………………………………………………………. 9. ความสามารถพเิ ศษ……………………………………………………………………………………. 10. อุดมคตขิ องการทางาน………………………………………………………………………………… 11. ผลงานทส่ี ะสม………………………………………………………………………………………….. หมำยเหตุ : สะสมงานไดท้ ุกหน่วย นักเรยี นนาผลงานทพ่ี อใจใสแ่ ฟ้มสะสมไว้
90 ภาคผนวก ข ตวั อยา่ ง แบบสงั เกตพฤติกรรมการปฏิบตั ิงานรายบุคคล ที่ พฤติกรร กำรแสดง กำรตอบ กำรยอม ทำงำน ม ควำมสนใจ ควำมคิดเหน็ คำถำม รบั ฟังคนอ่ืน ตำมท่ีได้รบั มอบหมำย หมำยเหตุ 43214321432143214321 ช่ือ-สกลุ เกณฑก์ ำรวดั ผล ใหค้ ะแนนระดบั คณุ ภาพของแตล่ ะพฤตกิ รรมดงั น้ี ดมี าก = 4 สนใจฟัง ไมห่ ลบั ไม่พดู คุยในชนั้ มคี าถามทด่ี ี ตอบคาถามถูกตอ้ ง ทางานส่งครบตรง เวลา ดี = 3 การแสดงออกอยใู่ นเกณฑป์ ระมาณ 70% ปานกลาง = 2 การแสดงออกอยใู่ นเกณฑป์ ระมาณ 50% ปรบั ปรงุ = 1 เขา้ ชนั้ เรยี น แต่การแสดงออกน้อยมาก ส่งงานไมค่ รบ ไม่ตรงเวลา ลงช่ือ……………………………….ผสู้ งั เกต (……………………………….) …………/…………/………..
91 ภาคผนวก ค ตวั อย่าง แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม กลุม่ ที่……………ชนั้ /แผนก……………… พฤติกรรม ลำดบั ช่ือ-สกลุ ควำมร่วมมอื กำรแสดง กำรรบั ฟัง ควำมตงั้ ใจ กำรมีส่วน รวม ที่ สมำชิกกลุ่ม ควำมคิดเหน็ ควำมคิดเหน็ ในกำร ร่วมในกำร ทำงำน อภิปรำย 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 20 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เกณฑก์ ำรให้คะแนน 4 ประสทิ ธภิ าพอย่ใู นเกณฑ์ 90-100% หรอื ปฏบิ ตั บิ อ่ ยครงั้ 3 ประสทิ ธภิ าพอยใู่ นเกณฑ์ 70-89% หรอื ปฏบิ ตั บิ างครงั้ ดมี าก = 2 ประสทิ ธภิ าพอย่ใู นเกณฑ์ 50-69% หรอื ปฏบิ ตั คิ รงั้ เดยี ว ดี = 1 ประสทิ ธภิ าพต่ากวา่ เกณฑ์ 50% หรอื ไมป่ ฏบิ ตั เิ ลย ปานกลาง = ปรบั ปรุง = ลงช่ือ………………………………ผสู้ งั เกต (…………………………….) ………./……………/………
92 ภาคผนวก ง ตวั อยา่ ง แบบประเมินการนาเสนอผลงานรายบคุ คล ชื่อ-สกลุ พฤติกรรม บคุ ลิก มำรยำทใน กำรใช้ วิธีกำร เนื้อหำที่ รวม กำรแต่งกำย กำรพดู ภำษำ นำเสนอ นำเสนอ 50 1. 2. 10 10 10 10 10 3. 4. 5. 6. ขอ้ เสนอแนะเพมิ่ เตมิ …………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………. เกณฑผ์ ่ำน 25 คะแนน เกณฑก์ ำรสงั เกต บคุ ลกิ การแต่งกาย : มคี วามเชอ่ื มนั ่ ในตนเอง แต่งกายสะอาด ถกู ระเบยี บ เสอ้ื ไม่หลดุ ลยุ่ มารยาทในการพดู : มองหน้าและสบตาผฟู้ ัง ไมเ่ หนบ็ แนม เสยี ดสผี อู้ น่ื การใชภ้ าษา : ชดั เจน ตามหลกั ภาษา ตวั ร ล คาควบกลา้ ถอ้ ยคาขอ้ ความสภุ าพ วธิ กี ารนาเสนอ : น่าสนใจหลากหลาย เชน่ ใชแ้ ผน่ ใส รปู ภาพ ตงั้ คาถาม เลน่ เกม ไมเ่ ยนิ่ เยอ้ เน้อื หาทน่ี าเสนอ : มสี าระสาคญั ตรงกบั หวั ขอ้ เร่อื ง ใชเ้ วลาตามทก่ี าหนด ลงชื่อ……………………………….ผ้สู งั เกต (……………………………….) …………/…………/………..
93 ภาคผนวก จ ตวั อยา่ ง แบบประเมินคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ชื่อผปู้ ระเมิน/กลุ่มประเมิน………………………………………………………………………………………….. ชื่อกลมุ่ รบั กำรประเมิน……………………………………………………………………………………………… ประเมินผลครงั้ ท่ี…………………....…….. วนั ที่ ……………..…. เดอื น ………..………. พ.ศ. ……...….…... เร่ือง……………………………………………………………………………………………………………………. ที่ ณลกั ษณะ/พฤติกรรมบง่ ชี้ ใชร้ไดะด้ บั พฤตคิกวรรรปมรคบั ุ ปรงุ คะแนนท่ีได้ =1 = 0 1 ควำมมีมนษุ ยสมั พนั ธ์ แสดงกริ ยิ าทา่ ทางสุภาพตอ่ ผอู้ น่ื ใหค้ วามร่วมมอื กบั ผอู้ ่นื 2 ควำมมวี ินยั ปฏบิ ตั ติ ามกฎระเบยี บ ขอ้ บงั คบั และขอ้ ตกลง ตา่ งๆ ของวทิ ยาลยั ไดแ้ ก่ แตง่ กายถูกตอ้ งตาม ระเบยี บและขอ้ บงั คบั ตรงต่อเวลา 3 ควำมรบั ผิดชอบ มกี ารเตรยี มความพรอ้ มในการเรยี นและการ ปฏบิ ตั งิ าน ปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความตงั้ ใจ มคี วามเพยี รพยายามในการเรยี นและการ ปฏบิ ตั งิ าน 4 ควำมเชื่อมนั ่ ในตนเอง กลา้ แสดงความคดิ เหน็ อยา่ งมเี หตุผล 5 ควำมสนใจใฝ่ รู้ ซกั ถามปัญหาขอ้ สงสยั 6 ควำมรกั สำมคั คี ร่วมมอื ในการทางาน 7 ควำมกตญั ญกู ตเวที มสี มั มาคารวะต่อคร-ู อาจารยอ์ ย่างสม่าเสมอ ทงั้ ต่อหน้าและลบั หลงั รวมคะแนนท่ีได้ทงั้ หมด = …………… คะแนน หมำยเหตุ : แบบประเมนิ น้ใี ชแ้ บบเดยี วกนั ทงั้ ครูและประธานกลุ่ม และประเมนิ คุณลกั ษณะดงั กล่าวตลอดภาคการศกึ ษา
94 ภาคผนวก ฉ ตวั อย่าง แบบรวมคะแนนการประเมินคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ช่ือ-สกลุ …………………………………………………………....รหสั ประจำตวั ………………………………… ระดบั ชนั้ ……………………….……..…..กลุ่ม…………………………...แผนกวิชำ…………………….……… ครงั้ ที่ประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 คะแนนรวม หารจานวนครั้งท่ีประเมิน คะแนนท่ีได้ คะแนนที่ได้ 1.ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 2.ความมวี นิ ัย 3.ความรบั ผดิ ชอบ 4.ความเช่อื มนั ่ ในตนเอง 5. ความสนใจใฝ่ รู้ 6.ความรกั สามคั คี 7.ความกตญั ญกู ตเวที ลงช่ือ…………………………….ผปู้ ระเมิน (…………………………….) .………/…………/………. หมำยเหตุ : แบบรวมคะแนนน้ใี ชแ้ บบเดยี วกนั ทงั้ ครแู ละประธานกลุ่ม
95 ภาคผนวก ช ตวั อย่าง แบบสรปุ ผลกำรประเมินคณุ ธรรม จริยธรรม คำ่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ภำคเรียนท่ี…………………ปี กำรศึกษำ…………………. รหสั วิชำ…………………………………….. ความมีม ุนษยสัมพันธ์ ชื่อวิชำ……………………………………… ความมีวินัย ระดบั ชนั้ …………………………………… ความรับผิดชอบ แผนก/กลมุ่ …………………………….…. ความเช่ือมั ่นในตนเอง ความสนใจใ ่ฝรู้ ความรักสามัคคี ความกตัญญูกตเวที รวม (ใน ่สวนของผู้สอน) รวม (ในส่วนของประธานก ุ่ลม) รวมคะแนนท่ีได้จากทั้ง 2 ส่วน ลำดบั รหสั ช่ือ-สกลุ 2 1 3 1 1 1 1 10 10 20 ที่ ประจำตวั
96 ภาคผนวก ฌ ตวั อย่าง บนั ทึกหลงั การสอน ผลกำรใช้แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… ผลกำรเรียนของนักเรยี น …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… ผลกำรสอนของครู …………………………………………………………………………………………………………….…...… ……………………………………………………………………………………………………………..…….. …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ……………………………….ผบู้ นั ทึก (……………………………….) …………/…………/……….. หมำยเหตุ : บนั ทกึ น้ใี ชบ้ นั ทกึ ทุกแผนการจดั การเรยี นรู้ ภาคผนวก ญ
97 ตวั อย่าง บนั ทึกหลงั กำรสอน ช่ือผ้สู อน………………………………….. รหสั 20001-2001 วิชำ คอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศเพ่อื งานอาชพี ภำคเรียนที่…………………………………………........... ปี กำรศกึ ษำ………………………………………….. ห้องเรยี น วนั /เดือน/ปี เวลำ บนั ทึกควำมคิดเหน็ หมำยเหตุ หมำยเหตุ : บนั ทกึ น้ใี ชบ้ นั ทกึ ทา้ ยสดุ ของทกุ แผนการจดั การเรยี นรู้
Search