การพฒั นาหลกั สตู รเพื่อส่งเสริมทกั ษะการส่ือสารภาษาองั กฤษ สาหรบั นักเรียนชนั้ ประถมศึกษาปี ท่ี 4-5 โรงเรียนบา้ นโนนตาลกดุ เวียนหนองหญ้ามา้ ตามแนวคิดปรชั ญาสาขาพิพฒั นาการนิยม Developing a Curriculum for Capacity Building English Communication Skills for Students of Grades 4-5 of Bannontankudweannongyama School through the Integration of the Progressivism Theory สุภาพร ทไุ ธสง และคณะ1 Supaporn Thuthaisong et al. 1 __________________________________ บทคดั ย่อ การวจิ ยั น้มี คี วามมงุ่ หมายเพอ่ื 1) ศกึ ษาสภาพปญั หาและความตอ้ งการพฒั นาการ จดั การเรยี นรู้ ดา้ นทกั ษะการสอ่ื สารภาษาองั กฤษของนกั เรยี นระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4-5 โรงเรยี นบา้ นโนนตาลกดุ เวยี นหนองหญ้ามา้ 2) พฒั นาหลกั สตู รเพอ่ื ส่งเสรมิ ทกั ษะการ สอ่ื สารภาษาองั กฤษ สาหรบั นกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4-5 โรงเรยี นบา้ นโนนตาลกดุ เวยี นหนองหญา้ มา้ ตามแนวคดิ ปรชั ญาสาขาพพิ ฒั นาการนยิ ม 3) ทดลองใชห้ ลกั สตู รเพอ่ื ส่งเสรมิ ทกั ษะการส่อื สารภาษาองั กฤษ สาหรบั นกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4-5 โรงเรยี น บา้ นโนนตาลกดุ เวยี นหนองหญา้ มา้ ตามแนวคดิ ปรชั ญาสาขาพพิ ฒั นาการนยิ ม __________________________________ 1 นางสาวชดิ ชนก พรอ้ มชาติ นายณภทั ร โชตบิ ุญ นางสาวณฐั กุล ศรรี าจนั ทร์ นางสาวจุฑาทพิ ย์ ใหญล่ า้ 1 Chidchanok Promchat Napat Chotiboon Nattakul Srirachan Jutatip Yailum
4) ประเมนิ การใชแ้ ละความพงึ พอใจทม่ี ตี อ่ หลกั สตู รเพ่อื ส่งเสรมิ ทกั ษะการส่อื สาร ภาษาองั กฤษ สาหรบั นกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4-5 โรงเรยี นบา้ นโนนตาลกุดเวยี นหนอง หญา้ มา้ ตามแนวคดิ ปรชั ญาสาขาพพิ ฒั นาการนิยม ดาเนนิ การวจิ ยั เป็น 4 ระยะ ประกอบดว้ ย ระยะท่ี 1 ศกึ ษาขอ้ มูลพน้ื ฐาน ระยะท่ี 2 การพฒั นาหลกั สูตรเพอ่ื ส่งเสรมิ ทกั ษะการส่อื สารภาษาองั กฤษ ระยะท่ี 3 ทดลองใชห้ ลกั สูตร กลมุ่ ตวั อยา่ ง ไดแ้ ก่ นกั เรยี น ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4-5 โรงเรยี นบา้ นโนนตาลกุดเวยี นหนองหญา้ มา้ ภาคเรยี นท่ี 2 ปี การศกึ ษา 2561 จานวน 16 คน ซ่งึ ไดม้ าโดยวธิ กี ารเลอื กแบบเจาะจง และระยะท่ี 4 ประเมนิ ความพงึ พอใจทม่ี ตี ่อหลกั สูตร ผลการวจิ ยั พบวา่ 1) ผลการศกึ ษาสภาพปญั หาและ ความตอ้ งการ พบวา่ พน้ื ฐานดา้ นภาษาองั กฤษโดยเฉพาะทกั ษะในการสอ่ื สารภาษาองั กฤษ อยูใ่ นระดบั ทค่ี อ่ นขา้ งต่า 2) การพฒั นาหลกั สูตรเพอ่ื ส่งเสรมิ ทกั ษะการสอ่ื สารภาษาองั กฤษ ตามแนวคดิ ปรชั ญาสาขาพพิ ฒั นาการนยิ ม พบวา่ กระบวนการของหลกั สูตรเพ่อื สง่ เสรมิ ทกั ษะการส่อื สารภาษาองั กฤษมี 4 ระยะ คอื ระยะการศกึ ษาขอ้ มลู พน้ื ฐาน ระยะการพฒั นา หลกั สูตร ระยะการทดลองใชห้ ลกั สูตรและ ระยะประเมนิ ความพงึ พอใจทม่ี ตี ่อหลกั สตู ร 3) จากแบบประเมนิ นกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4-5 หลงั การพฒั นาทกั ษะการสอ่ื สาร ภาษาองั กฤษ ตามแนวคดิ ปรชั ญาสาขาพพิ ฒั นาการนยิ ม พบวา่ ทกั ษะการพดู โดยรวม เทา่ กบั 1.55 อยใู่ นระดบั ดี จากระดบั 2 (ดมี าก) ทกั ษะการทางานกล่มุ โดยรวม เทา่ กบั 2.31 อย่ใู นระดบั ดี จากระดบั 3 (ดมี าก) ผลการวดั เจตคตใิ นการเรยี นภาษาองั กฤษโดยรวม เท่ากบั 3.90 อยใู่ นระดบั มาก จากระดบั 5 (มากทส่ี ดุ ) และ 4) ผลการประเมนิ ความพงึ พอใจทม่ี ตี อ่ หลกั สูตรโดยรวม เทา่ กบั 4.93 อยูใ่ นระดบั มาก จากระดบั 5 (มากทส่ี ดุ ) คาสาคญั : หลกั สูตร ภาษาองั กฤษ การสอ่ื สารภาษาองั กฤษ Abstract The research aimed 1) to study the problems and needs to develop English communication skills for grades 4-5 students at Bannontankudweannongyama school, 2) to develop a curriculum to capacity building English communication skills for grades 4-5 students at Bannontankudweannongyama school, 3) to study the results of using curriculum for capacity building English communication skills for students of grades 4-5 of Bannontankudweannongyama school based on the Progressivism theory, 4) to evaluate the using and satisfaction to the curriculum for capacity building English communication skills for students of grades 4-5 of
Bannontankudweannongyama school based on the Progressivism theory. The research was conducted in four stages: 1) study of basic information, 2) develops the curriculum to enhance for grades 4-5 students at Bannontankudweannongyama School, and 3) experimental use of the curriculum. The samples were 16 grades 4- 5 students at Bannontankudweannongyama School, in the second semester of the academic year 2018. Statistics used in data analysis were percentage and mean. The research findings were 1) The results from the study of basic information on problems and needs in English skills is low, especially in terms of communication skills 2) developing a curriculum to capacity building English communication skills through the integration of the Progressivism theory found that there are 4 stages in the process of curriculum for capacity building English communication skills, studying of basic information, developing the curriculum, experimental use of the curriculum, and evaluation of satisfaction to the curriculum 3) according to the evaluation form of grades 4-5 students, after developing English communication skills through the integration of the Progressivism theory showed that result of speaking skill evaluation of grades 4-5 students at Bannontankudweannongyama school was in a good level assessed at 1.55 from 2 points (very good). The result of group working was in a good level assessed at 2.31 from 3 points (very good). The results of attitude measurement at studying English assessed at 3.90 from 5 points. And 4) the result of evaluate the satisfaction to the curriculum of grades 4-5 students at Bannontankudweannongyama assessed at 4.93 from 5 points. Keywords: Curriculum, English, communication skill บทนา ในสงั คมโลกปจั จบุ นั น้ภี าษาองั กฤษนนั้ มคี วามสาคญั และจาเป็นอย่างยงิ่ เน่อื งจาก ภาษาองั กฤษมบี ทบาทในฐานะเป็นภาษานานาชาติ (International language) หรอื ภาษาสากลของโลก ทค่ี นทวั่ โลกใชเ้ ป็นเคร่อื งมอื สาคญั ในการตดิ ต่อสอ่ื สารกนั เป็นหลกั และ เขา้ ใจกนั มากทส่ี ดุ การจดั การเรยี นการสอนภาษาองั กฤษตามหลกั สตู รการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน เป็นการพฒั นาทงั้ 4 ทกั ษะ คอื ทกั ษะการฟงั ทกั ษะการพดู ทกั ษะการอ่าน และทกั ษะการ เขยี น ซง่ึ ทกั ษะการพดู เป็นทกั ษะทส่ี าคญั ทส่ี ดุ เน่อื งจากเป็นทกั ษะทแ่ี สดงใหเ้ หน็ วา่ ผพู้ ูดมี
ความรใู้ นภาษาอยา่ งชดั เจน เป็นการถา่ ยทอดความคดิ ความเขา้ ใจและความรสู้ กึ ในการใช้ ภาษาเพ่อื การส่อื สารในชวี ติ ประจาวนั (ประสทิ ธิ์ น่ิมจนิ ดา, 2541 : 234) ผทู้ ส่ี ามารถใช้ ภาษาองั กฤษในการสอ่ื สารไดด้ จี ะมโี อกาสในการจา้ งงาน และไดร้ บั การสนบั สนุนส่งเสรมิ ใน งานในหน้าทใ่ี หย้ งิ่ ขน้ึ ไปมากกวา่ ผทู้ ไ่ี มม่ ที กั ษะทางภาษาเลย นอกจากน้สี าหรบั ผทู้ ม่ี คี วามรู้ ความสามารถทางดา้ นภาษาองั กฤษทด่ี ี จะสง่ ผลตอ่ ความไดเ้ ปรยี บทจ่ี ะไดร้ บั โอกาสตา่ ง ๆ มากกวา่ ผอู้ น่ื เชน่ การสมคั รงาน หรอื การขอรบั ทุนเพอ่ื ศกึ ษาต่อต่างประเทศ เป็นต้น จากการศกึ ษาสภาพปญั หาในการเรยี นการสอนภาษาองั กฤษของนกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4-5 โรงเรยี นบา้ นโนนตาลกดุ เวยี นหนองหญา้ มา้ พบวา่ นกั เรยี นส่วนใหญ่ มปี ญั หาในการเรยี นรภู้ าษาองั กฤษดา้ นการสอ่ื สารทป่ี รากฏ ดงั น้ี 1. นกั เรยี นยงั มคี วามรพู้ น้ื ฐานทางดา้ นภาษาองั กฤษไมม่ ากพอทจ่ี ะตอ่ ยอดไปถงึ ทกั ษะการส่อื สาร จงึ ส่งผลใหไ้ มส่ ามารถนาภาษาองั กฤษไปใชใ้ นสถานการณ์จรงิ ได้ 2. นกั เรยี นบางส่วนยงั ไมเ่ หน็ ถงึ ความสาคญั ของการทางานเป็นกลมุ่ ซ่งึ การทางาน เป็นกลุ่มจะชว่ ยใหเ้ ดก็ มคี วามสามคั คชี ว่ ยสง่ ผลต่อการมปี ฏสิ มั พนั ธท์ ด่ี ี มคี วามรบั ผดิ ชอบ ตอ่ หน้าทข่ี องตนเอง มกี ารเคารพนบั ถอื เป็นพเ่ี ป็นน้อง ก่อใหเ้ กดิ การถอ้ ยทถี อ้ ยอาศยั และ สามารถบรรลเุ ป้าหมายตามทค่ี าดหวงั ได้ 3. นกั เรยี นบางสว่ นยงั กลวั ทจ่ี ะพูดภาษาองั กฤษ อกี ทงั้ ยงั มโี อกาสทไ่ี ดใ้ ช้ ภาษาองั กฤษในการพดู น้อยมาก นกั เรยี นจงึ ไมเ่ หน็ ความจาเป็นของการเรยี นภาษาองั กฤษ และประโยชน์ของภาษาองั กฤษ การพฒั นาทกั ษะการสอ่ื สารภาษาองั กฤษจะตอ้ งอาศยั แนวคดิ ปรชั ญาเขา้ รว่ มดว้ ย ปรชั ญาจะชว่ ยพจิ าณาและกาหนดเป้าหมายทางการศกึ ษาเป็นกจิ กรรมทท่ี าใหบ้ ุคคล เปลย่ี นแปลงพฤตกิ รรมไปในทางทพ่ี งึ ปรารถนา (อดุ มศกั ดิ์ มสี ขุ , 2555) ซ่งึ ปรชั ญาท่ี นามาใชค้ อื ปรชั ญาการศกึ ษาพพิ ฒั นาการนิยม (Progressivism) เพอ่ื ต่อตา้ นแนวคดิ และวธิ ี การศกึ ษาเดมิ ทเ่ี น้นแต่เน้ือหา สอนแต่ทอ่ งจา ไม่คานงึ ถงึ ความสนใจของเดก็ และพฒั นา เดก็ แตเ่ พยี งสตปิ ญั ญาเทา่ นนั้ (Wingo, 1974, p. 151) แนวคดิ หลกั ของการศกึ ษาแบบ พพิ ฒั นาการนยิ มน้คี อื เป็นกระบวนการเรยี นการสอนทย่ี ดึ เดก็ เป็นศนู ยก์ ลาง (Child centered) การเรยี นเป็นเรอ่ื งการกระทา (Doing) มากกวา่ รู้ (Knowing) จงึ ใหผ้ เู้ รยี นลงมอื กระทาเพอ่ื ใหเ้ กดิ ประสบการณ์และการเรยี นรู้ (สุรนิ ทร เสถยี รสริ วิ วิ ฒั น์, 2556) การเตรยี ม ตวั ของครจู ะทาใหท้ ราบล่วงหน้าวา่ จะใหเ้ ดก็ เรยี นรอู้ ะไร และเรยี นรดู้ ว้ ยวธิ ใี ด และวธิ ใี ด ไดผ้ ลดที ส่ี ดุ (กระทรวงศกึ ษาธกิ าร, 2525) ผสู้ อนไม่เป็นผอู้ อกคาสงั่ แตท่ าหน้าท่แี นะ แนวทางแกใ้ หแ้ กผ่ เู้ รยี น ผสู้ อนตอ้ งรจู้ กั ผเู้ รยี นเป็นอยา่ งดแี ละยอมรบั ความแตกตา่ งระหวา่ ง บุคคล สามารถวางแผนใหเ้ กดิ การเรยี นรทู้ เ่ี หมาะสมกบั ความสามารถและความตอ้ งการของ ผเู้ รยี น (สริ นิ ทร เสถยี รสริ วิ วิ ฒั น์, 2556)
จากทก่ี ล่าวมาขา้ งตน้ ในการเรยี นภาษาองั กฤษทป่ี ระสบความสาเรจ็ ทกั ษะทส่ี าคญั ทส่ี ุดคอื ทกั ษะการพดู เพอ่ื ทจ่ี ะตอ่ ยอดไปสคู่ วามสามารถในการสอ่ื สารภาษาองั กฤษ ซ่งึ เป็น ประโยชน์มากในภายภาคหน้าเพอ่ื ใหน้ กั เรยี นใชใ้ นการตดิ ต่อสอ่ื สารกนั ระหวา่ งตนเองและ เจา้ ของภาษา หรอื แมก้ ระทงั่ นาไปใชใ้ นการศกึ ษา การประกอบอาชพี เป็นตน้ ซง่ึ การจดั ทา หลกั สูตรเพอ่ื สง่ เสรมิ ทกั ษะการสอ่ื สารภาษาองั กฤษ ตามแนวคดิ ปรชั ญาสาขาพพิ ฒั นาการ นิยม (Progressivism) กเ็ ป็นอกี แนวทางหน่งึ ทจ่ี ะชว่ ยพฒั นาความสามารถทางดา้ น ภาษาองั กฤษซ่งึ เน้นทกั ษะการพูดส่อื สาร โดยมคี วามเชอ่ื วา่ นกั เรยี นเป็นบคุ คลทม่ี ที กั ษะ พรอ้ มทจ่ี ะปฏบิ ตั งิ านได้ และนกั เรยี นไดร้ บั ความรจู้ ากการปฏบิ ตั จิ รงิ (Learning by doing) ดงั นนั้ ครูจะตอ้ งจดั ประสบการณ์และสง่ิ แวดลอ้ มทเ่ี ออ้ื อานวยใหผ้ เู้ รยี นเกดิ การเรยี นรดู้ ว้ ย ตนเอง การเรยี นรไู้ ดด้ กี ต็ อ่ เมอ่ื ผเู้ รยี นไดม้ ปี ระสบการณ์ตรงหรอื ลงมอื ทา การศกึ ษาจะตอ้ ง พฒั นาเดก็ ทุกดา้ นไม่เฉพาะสตปิ ญั ญา เทา่ นนั้ จงึ เน้นประสบการณ์ของผเู้ รยี นเป็นสาคญั เดก็ จะตอ้ งพรอ้ มทจ่ี ะไปอยู่ในสงั คมไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข พรอ้ มทงั้ ผสานกบั การเรยี นรแู้ บบ การทากจิ กรรมเป็นกลมุ่ เพ่อื สง่ เสรมิ ใหน้ กั เรยี นมคี วามร่วมแรงรว่ มใจ รูร้ กั สามคั คี แบง่ ปนั ความคดิ สรา้ งสรรค์ และสรา้ งสมั พนั ธท์ ด่ี ภี ายในกลุ่ม วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพอ่ื ศกึ ษาสภาพปญั หาและความตอ้ งการพฒั นาการจดั การเรยี นรู้ ดา้ นทกั ษะ การส่อื สารภาษาองั กฤษของนกั เรยี นระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4-5 โรงเรยี นบา้ นโนนตาล กุดเวยี นหนองหญา้ มา้ 2. เพอ่ื พฒั นาหลกั สูตรเพอ่ื ส่งเสรมิ ทกั ษะการสอ่ื สารภาษาองั กฤษ สาหรบั นกั เรยี น ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4-5 โรงเรยี นบา้ นโนนตาลกุดเวยี นหนองหญา้ มา้ ตามแนวคดิ ปรชั ญา สาขาพพิ ฒั นาการนยิ ม 3. เพอ่ื ทดลองใชห้ ลกั สูตรเพอ่ื สง่ เสรมิ ทกั ษะการส่อื สารภาษาองั กฤษ สาหรบั นกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4-5 โรงเรยี นบา้ นโนนตาลกุดเวยี นหนองหญา้ มา้ ตามแนวคดิ ปรชั ญาสาขาพพิ ฒั นาการนยิ ม 4. เพ่อื ประเมนิ การใชแ้ ละความพงึ พอใจทม่ี ตี อ่ หลกั สูตรเพอ่ื ส่งเสรมิ ทกั ษะการ สอ่ื สารภาษาองั กฤษ สาหรบั นกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4-5 โรงเรยี นบา้ นโนนตาลกดุ เวยี นหนองหญา้ มา้ ตามแนวคดิ ปรชั ญาสาขาพพิ ฒั นาการนิยม
วิธีดาเนิ นการวิจยั 1. ขนั้ ตอนการวิจยั การวจิ ยั น้แี บง่ ขนั้ ตอนในการดาเนนิ การ ออกเป็น 4 ระยะ ดงั น้ี 1.1 การศกึ ษาขอ้ มูลพน้ื ฐาน แบง่ เป็น 2 ขนั้ ตอน ประกอบดว้ ย ขนั้ ตอนท่ี 1 การศกึ ษา เอกสาร ตารา และงานวจิ ยั ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั แนวทางการพฒั นาหลกั สตู รเพอ่ื ส่งเสรมิ ทกั ษะการสอ่ื สารภาษาองั กฤษ สาหรบั นกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4-5 โรงเรยี น บา้ นโนนตาลกดุ เวยี นหนองหญ้ามา้ ตามแนวคดิ ปรชั ญาสาขาพพิ ฒั นาการนยิ ม โดยใช้ การศกึ ษาเอกสารทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั แนวคดิ ปรชั ญาสาขาพพิ ฒั นาการนิยม ขนั้ ตอนท่ี 2 การศกึ ษาสภาพปญั หาและความตอ้ งการพฒั นาการจดั การเรยี นรู้ ดา้ นทกั ษะการสอ่ื สาร ภาษาองั กฤษของนกั เรยี นระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4-5 โรงเรยี นบา้ นโนนตาลกุดเวยี น หนองหญา้ มา้ โดยใชก้ ารสมั ภาษณค์ รูประจาวชิ าภาษาองั กฤษ โรงเรยี นบา้ นโนนตาลกดุ เวยี นหนองหญ้ามา้ 1.2 การพฒั นาหลกั สูตรโดยผวู้ จิ ยั ซง่ึ เป็นนสิ ติ คณะศกึ ษาศาสตร์ สาขาวชิ า ภาษาองั กฤษ ชนั้ ปีท่ี 3 แบ่งการดาเนนิ งานออกเป็น 2 ขนั้ ตอน ประกอบดว้ ยขนั้ ตอนท่ี 1 การรา่ งหลกั สูตรเพอ่ื สง่ เสรมิ ทกั ษะการสอ่ื สารภาษาองั กฤษ สาหรบั นกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4-5 โรงเรยี นบา้ นโนนตาลกดุ เวยี นหนองหญา้ มา้ ตามแนวคดิ ปรชั ญา สาขาพพิ ฒั นาการนยิ ม ขนั้ ตอนท่ี 2 ประเมนิ เพอ่ื ตรวจสอบ ยนื ยนั หลกั สูตรเพ่อื สง่ เสรมิ ทกั ษะการสอ่ื สารภาษาองั กฤษ สาหรบั นกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4-5 โรงเรยี นบา้ นโนน ตาลกดุ เวยี นหนองหญ้ามา้ ตามแนวคดิ ปรชั ญาสาขาพพิ ฒั นาการนยิ ม โดยใหผ้ เู้ ชย่ี วชาญ ทาแบบประเมนิ โครงรา่ งหลกั สตู ร 1.3 การทดลองใชห้ ลกั สูตรและการปรบั ปรุงแกไ้ ขหลกั สูตร เป็นการนา หลกั สูตรเพอ่ื สง่ เสรมิ ทกั ษะการสอ่ื สารภาษาองั กฤษ สาหรบั นกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4- 5 โรงเรยี นบา้ นโนนตาลกุดเวยี นหนองหญา้ มา้ ตามแนวคดิ ปรชั ญาสาขาพพิ ฒั นาการนยิ ม ไปใชก้ บั กล่มุ ตวั อย่าง มกี ารประเมนิ ทกั ษะการพูดของนกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4-5 หลงั การพฒั นาทกั ษะการสอ่ื สารภาษาองั กฤษ ตามแนวคดิ ปรชั ญาสาขาพพิ ฒั นาการนยิ ม การ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ ของนกั เรยี น การวดั เจตคตขิ องนกั เรยี นทม่ี ตี อ่ การเรยี น วชิ าภาษาองั กฤษ 1.4 ประเมนิ ความพงึ พอใจทม่ี ตี อ่ หลกั สตู รเพอ่ื สง่ เสรมิ ทกั ษะการส่อื สาร ภาษาองั กฤษ สาหรบั นกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4-5 โรงเรยี นบา้ นโนนตาลกดุ เวยี นหนอง หญ้ามา้ โดยกลมุ่ ตวั อยา่ ง
2. กล่มุ ตวั อย่าง กลุ่มตวั อยา่ งทใ่ี ชใ้ นการทดลองใชห้ ลกั สูตร คอื นกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4-5 โรงเรยี นบา้ นโนนตาลกุดเวยี นหนองหญา้ มา้ ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2561 จานวน 16 คนไดม้ าโดยวธิ กี ารเลอื กแบบเจาะจง โดยมี เกณฑใ์ นการเลอื ก คอื 1) เป็นกลุม่ ทค่ี รูและ ผบู้ รหิ ารยนิ ดอี นุญาตใหน้ กั เรยี นเขา้ รว่ มพฒั นาทกั ษะการส่อื สารภาษาองั กฤษตลอด โครงการ และ 2) เป็นนกั เรยี นทม่ี คี วามกระตอื รอื รน้ สนใจและยนิ ดเี ขา้ รว่ มพฒั นาทกั ษะการ ส่อื สารภาษาองั กฤษ ตามแนวคดิ ปรชั ญาสาขาพพิ ฒั นาการนยิ ม 3. เครอ่ื งมือที่ใช้ในการเกบ็ รวบรวมข้อมูล เคร่อื งมอื ทใ่ี ชใ้ นการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ประกอบดว้ ย 1) แบบสมั ภาษณ์ครปู ระจา วชิ าภาษาองั กฤษ โรงเรยี นบา้ นโนนตาลกุดเวยี นหนองหญา้ มา้ เกย่ี วกบั สภาพปญั หาและ ความตอ้ งการพฒั นาดา้ นทกั ษะการสอ่ื สารภาษาองั กฤษของนกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4- 5 โรงเรยี นบา้ นโนนตาลกดุ เวยี นหนองหญา้ มา้ 2) แบบประเมนิ ร่างหลกั สูตรสง่ เสรมิ ทกั ษะ การสอ่ื สารภาษาองั กฤษ สาหรบั นกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4-5 โรงเรยี นบา้ นโนนตาลกดุ เวยี นหนองหญ้ามา้ ตามแนวคดิ ปรชั ญาสาขาพพิ ฒั นาการนยิ ม 3) แบบประเมนิ ทกั ษะการ พดู ของนกั เรยี นหลงั การพฒั นาทกั ษะการสอ่ื สารภาษาองั กฤษ ตามแนวคดิ ปรชั ญาสาขา พพิ ฒั นาการนยิ ม โดยมเี กณฑก์ ารประเมนิ ระดบั ดมี ากตงั้ แต่ 9-10 ระดบั ดตี งั้ แต่ 7-8 ระดบั พอใชต้ งั้ แต่ 5-6 และระดบั ปรบั ปรงุ ตงั้ แต่ 0-4 4) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ 5) แบบวดั เจตคตขิ องนกั เรยี นทม่ี ตี อ่ การเรยี นวชิ าภาษาองั กฤษและ 5)แบบสอบถามความพงึ พอใจของนกั เรยี นทม่ี ตี ่อหลกั สตู รสง่ เสรมิ ทกั ษะการสอ่ื สารภาษาองั กฤษ สาหรบั นกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4-5 โรงเรยี นบา้ นโนนตาลกดุ เวยี นหนองหญ้ามา้ 4. แบบแผนการทดลอง การวางแผนการทดลองครงั้ น้ี ผวู้ จิ ยั ใชร้ ปู แบบการทดลองแบบ หน่งึ กลมุ่ ทดสอบ หลงั การทดลอง (One-group posttest only design) ดงั รปู ภาพท่ี 1 X O2 เมอ่ื X คอื การใหก้ ารพฒั นาทกั ษะการสอ่ื สารภาษาองั กฤษ O2 คอื การทดสอบหลงั การพฒั นาทกั ษะการสอ่ื สารภาษาองั กฤษ รปู ภาพที่1 แบบแผนการทดลอง
5. การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล การดาเนินการพฒั นาทกั ษะการสอ่ื สารภาษาองั กฤษ ตามแนวคดิ ปรชั ญาสาขา พพิ ฒั นาการนยิ มมกี ารดาเนินการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล ดงั น้ี 1. พฒั นาทกั ษะการสอ่ื สาร ภาษาองั กฤษโดยใชห้ ลกั สตู รสง่ เสรมิ ทกั ษะการสอ่ื สารภาษาองั กฤษ สาหรบั นกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4-5 โรงเรยี นบา้ นโนนตาลกดุ เวยี นหนองหญ้ามา้ ตามแนวคดิ ปรชั ญา สาขาพพิ ฒั นาการนยิ ม 2. ประเมนิ ทกั ษะการพดู ของนกั เรยี น หลงั การพฒั นาทกั ษะการ สอ่ื สารภาษาองั กฤษ ตามแนวคดิ ปรชั ญาสาขาพพิ ฒั นาการนิยม สงั เกตพฤตกิ รรมการ ทางานกลมุ่ และวดั เจตคตขิ องนกั เรยี นทม่ี ตี อ่ การเรยี นวชิ าภาษาองั กฤษ 3. สอบถามความ พงึ พอใจของนกั เรยี นทม่ี ตี อ่ หลกั สูตรส่งเสรมิ ทกั ษะการสอ่ื สารภาษาองั กฤษ สาหรบั นกั เรยี น ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4-5 โรงเรยี นบา้ นโนนตาลกุดเวยี นหนองหญา้ มา้ ตามแนวคดิ ปรชั ญา สาขาพพิ ฒั นาการนยิ ม ดว้ ยแบบสอบถามความพงึ พอใจ 6. การวิเคราะหข์ อ้ มลู การวเิ คราะหข์ อ้ มูลโดยการหาค่าความแตกตา่ งของคา่ เฉลย่ี คะแนนแบบประเมนิ วดั ทกั ษะการพูด การทางานกล่มุ และเจตคตใิ นการเรยี นวชิ าภาษาองั กฤษ หลงั การพฒั นา ทกั ษะการส่อื สารภาษาองั กฤษ ตามแนวคดิ ปรชั ญาสาขาพพิ ฒั นาการนยิ ม ผลการวิจยั 1. จากการศกึ ษาสภาพปญั หาและความตอ้ งการของโรงเรยี นบา้ นโนนตาลกุดเวยี น หนองหญ้ามา้ พบวา่ นกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท4่ี -5 จานวน 16 คน ยงั ออกเสยี งและอา่ น คาศพั ทไ์ ดไ้ ม่ถกู ตอ้ ง อกี ทงั้ ยงั มพี น้ื ฐานการศกึ ษาดา้ นภาษาองั กฤษน้อย โดยเฉพาะดา้ น ทกั ษะการพดู ซง่ึ ไมค่ อ่ ยไดฝ้ ึกฝน จงึ ทาใหป้ ระสบปญั หาดา้ นการสอ่ื สารภาษาองั กฤษ ครู ประจารายวชิ าจงึ ตอ้ งการใหช้ ว่ ยปรบั ปรงุ และพฒั นาทกั ษะการส่อื สารภาษาองั กฤษของ นกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท4่ี -5 โดยเฉพาะทกั ษะการพดู เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นสามารถอา่ นออก เสยี งไดถ้ ูกตอ้ งและสามารถพดู โตต้ อบภาษาองั กฤษได้ 2. การพฒั นาหลกั สตู รเพอ่ื ส่งเสรมิ ทกั ษะการสอ่ื สารภาษาองั กฤษ สาหรบั นกั เรยี น ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท4่ี -5 โรงเรยี นบา้ นโนนตาลกดุ เวยี นหนองหญ้ามา้ ตามแนวคดิ ปรชั ญา สาขาพพิ ฒั นาการนยิ ม พบวา่ กระบวนการของหลกั สตู รเพอ่ื ส่งเสรมิ ทกั ษะการสอ่ื สาร ภาษาองั กฤษมี 4 ระยะ คอื ระยะการศกึ ษาขอ้ มลู พน้ื ฐาน ระยะการพฒั นาหลกั สตู ร ระยะ การทดลองใชห้ ลกั สูตรและ ระยะประเมนิ ความพงึ พอใจทม่ี ตี อ่ หลกั สูตร 3. ผลการศกึ ษาการใชห้ ลกั สูตรเพอ่ื สง่ เสรมิ ทกั ษะการสอ่ื สารภาษาองั กฤษ สาหรบั นกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4-5 ตามแนวคดิ ปรชั ญาสาขาพพิ ฒั นาการนยิ ม พบวา่
นกั เรยี นไดร้ บั การพฒั นาตามหลกั สูตร มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ สามารถอ่านออกเสยี งไดอ้ ย่าง ถกู ตอ้ ง อย่างมนี ยั สาคญั ทางสถติ ิ ทกั ษะการพดู โดยรวม เทา่ กบั 1.55 อยู่ในระดบั ดี จาก ระดบั 2 (ดมี าก) ทกั ษะการทางานกลมุ่ โดยรวม เทา่ กบั 2.31 อยใู่ นระดบั ดี จากระดบั 3 (ดี มาก) และ4) ผลการวดั เจตคตใิ นการเรยี นภาษาองั กฤษโดยรวม เทา่ กบั 3.90 อย่ใู นระดบั มาก จากระดบั 5 (มากทส่ี ุด) 4. ผลการประเมนิ ความพงึ พอใจของนกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4-5 ทม่ี ตี ่อ หลกั สูตรเพอ่ื ส่งเสรมิ ทกั ษะการสอ่ื สารภาษาองั กฤษ ตามแนวคดิ ปรชั ญาสาขาพพิ ฒั นาการ นิยมโดยรวม เท่ากบั 4.93 อยใู่ นระดบั มาก จากระดบั 5 (มากทส่ี ดุ ) ตารางแสดงผลแบบประเมนิ ทกั ษะการพดู
ตารางแสดงผลแบบประเมนิ ทกั ษะการทางานกลุ่ม กจิ กรรม ผลการประเมนิ ทกั ษะการพดู ผลการประเมนิ การทางานกลุ่ม (2) (3) say and switch 1.63 2.23 Three steps interview 1.45 2.36 Inside-outside circle 1.62 1.93 Number head 1.53 2.72 together รวม 1.55 2.31 ตารางสรุปผลการประเมนิ ทกั ษะการพดู และการทางานกลมุ่
ตารางผลแบบสอบถามเพอ่ื วดั เจตคติ ตารางผลแบบประเมินความพงึ พอใจที่มีต่อหลกั สูตร ตามตารางข้างต้น ผลการประเมนิ ทักษะการพดู โดยรวม เท่ากบั 1.55 อยใู่ นระดบั ดี จากระดบั 2 (ดมี าก) ผลการประเมินการทางานกลมุ่ โดยรวม เท่ากบั 2.31 อยใู่ นระดับ ดี จาก ระดบั 3 (ดมี าก) ผลการวดั เจตคตใิ นการเรยี นภาษาองั กฤษโดยรวม เทา่ กบั 3.90 อยูใ่ น ระดบั มาก จากระดบั 5 (มากทส่ี ดุ )
ผลการประเมนิ ความพึงพอใจทมี่ ีต่อหลักสูตรเพอ่ื สง่ เสรมิ ทักษะการสือ่ สาร ภาษาองั กฤษ ตามแนวคิดปรัชญาสาขาพพิ ฒั นาการนยิ มโดยรวม เทา่ กับ 4.93 อยใู่ น ระดับ มาก จาก ระดับ 5 (มากที่สดุ ) อภิปรายผล 1. จากการศกึ ษาสภาพปญั หาและความตอ้ งการของโรงเรยี นบา้ นโนนตาลกดุ เวยี น หนองหญา้ มา้ พบวา่ นกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4-5 จานวน 16 คน ยงั ออกเสยี งและอา่ น คาศพั ทไ์ ดไ้ มถ่ กู ตอ้ ง อกี ทงั้ ยงั มพี น้ื ฐานการศกึ ษาดา้ นภาษาองั กฤษน้อย โดยเฉพาะดา้ น ทกั ษะการพดู ซง่ึ ไมค่ ่อยไดฝ้ ึกฝน จงึ ทาใหป้ ระสบปญั หาดา้ นการสอ่ื สารภาษาองั กฤษ ครู ประจารายวชิ าจงึ ตอ้ งการใหช้ ว่ ยปรบั ปรุงและพฒั นาทกั ษะการสอ่ื สารภาษาองั กฤษของ นกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4-5 โดยเฉพาะทกั ษะการพูด เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นสามารถอ่านออก เสยี งไดถ้ ูกตอ้ งและสามารถพดู โตต้ อบได้ 2. การพฒั นาหลกั สตู รเพอ่ื สง่ เสรมิ ทกั ษะการสอ่ื สารภาษาองั กฤษ สาหรบั นกั เรยี น ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4-5 โรงเรยี นบา้ นโนนตาลกดุ เวยี นหนองหญ้ามา้ ตามแนวคดิ ปรชั ญา สาขาพพิ ฒั นาการนยิ ม (progressivism) โดยผสานแนวคดิ ทฤษฎี Cooperative Learning พบวา่ มอี ยู่ 6 องคป์ ระกอบ คอื ชอ่ื หลกั สูตร หลกั การและทม่ี าของหลกั สูตร วตั ถปุ ระสงค์ ของหลกั สูตร เน้อื หาของหลกั สูตร กจิ กรรมของหลกั สตู ร การวดั และการประเมนิ ส่วน กระบวนการพฒั นาหลกั สูตรประกอบไปดว้ ย 4 ขนั้ ตอน คอื ขนั้ ท่ี 1 ศกึ ษาขอ้ มูลพน้ื ฐาน ขนั้ ท่ี 2 การพฒั นาหลกั สูตร ขนั้ ท่ี 3 การทดลองใชห้ ลกั สูตร ขนั้ ตอนท4่ี การวดั และประเมนิ ความพงึ พอใจและกจิ กรรมการเรยี นรู้ ซง่ึ ประกอบไปดว้ ยกจิ กรรมการเรยี นรู้ 4 กจิ กรรม ไดแ้ ก่ 1) say and switch 2) Three steps interview 3) Inside-outside circle 4) Number head together มคี วามเหมาะสมอยใู่ นระดบั มาก ผลการพฒั นาปรากฏออกมาน้อี าจ เน่อื งมาจาก การพฒั นาการจดั กจิ กรรมในครงั้ น้ผี วู้ จิ ยั ไดด้ าเนนิ การอย่างเป็นขนั้ ตอน โดยมี การสารวจสภาพปญั หาจากครูผสู้ อน และความตอ้ งการการจดั กจิ กรรมการเรยี นรูจ้ าก นกั เรยี น มกี ารศกึ ษาหลกั การและความสาคญั ของการจดั กจิ กรรมจากเอกสารตา่ ง ๆ กอ่ น สงั เคราะหแ์ ละพฒั นาเป็นขนั้ การสอน และยงั ผา่ นการตรวจสอบ แกไ้ ข จากอาจารยท์ ่ี ปรกึ ษาและผเู้ ชย่ี วชาญแลว้ เป็นอย่างดี 3.ผลการใชห้ ลกั สตู รเพอ่ื ส่งเสรมิ ทกั ษะการสอ่ื สารภาษาองั กฤษสาหรบั นกั เรยี น ประถมศกึ ษาปีท่ี 4-5 โรงเรยี นบา้ นโนนตาลกดุ เวยี นหนองหญา้ ม้า ปรากฏผลดงั น้ี 3.1 สรุปผลการประเมนิ ทกั ษะการพดู และการทางานกลมุ่ โดยใชภ้ าษาองั กฤษของ นกั เรยี นโรงเรยี นบา้ นโนนตาลกดุ เวยี นหนองหญา้ ม้าทผ่ี า่ นการทากจิ กรรม ไดผ้ ลการ
ประเมนิ ทกั ษะการพดู ดงั น้ี กจิ กรรม say and switch ผลการประเมนิ อยู่ในระดบั ดี ค่าเฉลย่ี คอื 1.63 กจิ กรรม Three steps interview ผลการประเมนิ อยใู่ นระดบั ดี คา่ เฉลย่ี คอื 1.45 กจิ กรรม Inside-outside circle ผลการประเมนิ อย่ใู นระดบั ดี คา่ เฉลย่ี คอื 1.62 กจิ กรรม Number head together ผลการประเมนิ อยู่ในระดบั ดี ค่าเฉลย่ี คอื 1.53 และไดผ้ ลการ ประเมนิ การทางานกลุม่ โดยรวม กจิ กรรม say and switch ผลการประเมนิ อยใู่ นระดบั ดี คา่ เฉลย่ี คอื 2.23 กจิ กรรม Three steps interview ผลการประเมนิ อยใู่ นระดบั ดี คา่ เฉลย่ี คอื 2.36 กจิ กรรม Inside-outside circle ผลการประเมนิ อยใู่ นระดบั ดี ค่าเฉลย่ี คอื 1.93 กจิ กรรม Number head together ผลการประเมนิ อยใู่ นระดบั ดี ค่าเฉลย่ี คอื 2.72 ซ่งึ จะเหน็ วา่ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรทู้ ผ่ี า่ นมานกั เรยี นมคี ะแนนเฉลย่ี อย่ใู นระดบั ดี และคะแนนเฉลย่ี รวมของนกั เรยี นดา้ นทกั ษะการพูด อยทู่ ่ี 1.55 และคา่ เฉลย่ี ของนกั เรยี นดา้ นทกั ษะการ ทางานกล่มุ อยทู่ ่ี 2.31 ซ่งึ ผเู้ รยี นทกุ คนผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ทงั้ น้เี น่อื งมาจาก การจดั กจิ กรรมการเรยี นรมู้ กี ารตอบสนองตอ่ ความตอ้ งการของนกั เรยี น ทาใหน้ กั เรยี นสนใจทจ่ี ะ ศกึ ษาเรยี นรู้ ปรชั ญาทน่ี ามาใชค้ อื แนวคดิ ปรชั ญาสาขาพพิ ฒั นาการนยิ ม (Progressivism) เพ่อื ต่อตา้ นแนวคดิ และวธิ กี ารศกึ ษาเดมิ ทเ่ี น้นแต่เน้ือหา สอนแตท่ อ่ งจา ไมค่ านึงถงึ ความ สนใจของเดก็ และพฒั นาเดก็ แตเ่ พยี งสตปิ ญั ญาเทา่ นนั้ (Wingo, 1974, p. 151) แนวคดิ หลกั ของการศกึ ษาแบบพพิ ฒั นาการนยิ มน้คี อื เป็นกระบวนการเรยี นการสอนทย่ี ดึ เดก็ เป็น ศนู ยก์ ลาง (Child centered) การเรยี นเป็นเรอ่ื งการกระทา (Doing) มากกวา่ รู้ (Knowing) จงึ ใหผ้ เู้ รยี นลงมอื กระทาเพอ่ื ใหเ้ กดิ ประสบการณ์และการเรยี นรู้ (สรุ นิ ทร เสถยี รสริ วิ วิ ฒั น์, 2556) การเตรยี มตวั ของครจู ะทาใหท้ ราบลว่ งหน้าวา่ จะใหเ้ ดก็ เรยี นรอู้ ะไร และเรยี นรดู้ ว้ ย วธิ ใี ด และวธิ ใี ดไดผ้ ลดที ส่ี ดุ (คาพอง ภูกนั ดาร, 2541) ผสู้ อนไมเ่ ป็นผอู้ อกคาสงั่ แต่ทา หน้าทแ่ี นะแนวทางแกใ้ หแ้ ก่ผเู้ รยี น ผสู้ อนตอ้ งรจู้ กั ผเู้ รยี นเป็นอย่างดแี ละยอมรบั ความ แตกต่างระหวา่ งบุคคล สามารถวางแผนใหเ้ กดิ การเรยี นรทู้ เ่ี หมาะสมกบั ความสามารถและ ความตอ้ งการของผเู้ รยี น (สริ นิ ทร เสถยี รสริ วิ วิ ฒั น์, 2556) 3.2 การวดั เจตคตใิ นการเรยี นภาษาองั กฤษหลงั ไดร้ บั การพฒั นาทกั ษะการส่อื สาร ภาษาองั กฤษ ตามแนวคดิ ปรชั ญาสาขาพพิ ฒั นาการนยิ ม ผลการวดั มเี จตคตอิ ยใู่ นระดบั ดี ทงั้ น้อี าจขน้ึ อยกู่ บั ความรสู้ กึ หรอื ความพรอ้ มทาง ดา้ นร่างกายและจติ ใจของนกั เรยี นแต่ละ คนไม่เหมอื นกนั ในขณะจดั กจิ กรรมการเรยี นรูแ้ ต่ละครงั้ ทาใหเ้ กดิ การแสดงทา่ ทใี นชนั้ เรยี น ทห่ี ลากหลาย เจตคตติ ่อวชิ าภาษาองั กฤษเป็นความรสู้ กึ ความเชอ่ื ของนกั เรยี นทม่ี ตี ่อการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ นกั เรยี นมอี สิ ระในการใชค้ วามรคู้ วามสามารถในการเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง โดยมคี รเู ป็นผแู้ นะแนว โดยเฉพาะการเรยี นรผู้ า่ นกจิ กรรมเกมทท่ี าใหน้ กั เรยี นเกดิ การ เรยี นรภู้ าษาองั กฤษอย่างเพลดิ เพลนิ โดยไมร่ ตู้ วั จากการจดั กจิ กรรมการเรยี นรตู้ ามแนวคดิ หลกั ของการศกึ ษาแบบพพิ ฒั นาการนยิ มนค้ี อื เป็นกระบวนการเรยี นการสอนทย่ี ดึ เดก็ เป็น
ศนู ยก์ ลาง (Child centered) การเรยี นเป็นเรอ่ื งการกระทา (Doing) มากกวา่ รู้ (Knowing) จงึ ใหผ้ เู้ รยี นลงมอื กระทาเพอ่ื ใหเ้ กดิ ประสบการณแ์ ละการเรยี นรู้ (สุรนิ ทร เสถยี รสริ วิ วิ ฒั น์, 2556) การเตรยี มตวั ของครูจะทาใหท้ ราบลว่ งหน้าวา่ จะใหเ้ ดก็ เรยี นรอู้ ะไร และเรยี นรดู้ ว้ ย วธิ ใี ด และวธิ ใี ดไดผ้ ลดที ส่ี ุด (คาพอง ภูกนั ดาร, 2541) ผสู้ อนไมเ่ ป็นผอู้ อกคาสงั่ แตท่ า หน้าทแ่ี นะแนวทางแกใ้ หแ้ ก่ผเู้ รยี น ผสู้ อนตอ้ งรจู้ กั ผเู้ รยี นเป็นอยา่ งดแี ละยอมรบั ความ แตกต่างระหวา่ งบุคคล สามารถวางแผนใหเ้ กดิ การเรยี นรทู้ เ่ี หมาะสมกบั ความสามารถและ ความตอ้ งการของผเู้ รยี น (สริ นิ ทร เสถยี รสริ วิ วิ ฒั น์, 2556) 4. ผลการประเมนิ ความพงึ พอใจของนกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4-5 ทม่ี ตี อ่ หลกั สตู รเพอ่ื สง่ เสรมิ ทกั ษะการสอ่ื สารภาษาองั กฤษ ตามแนวคดิ ปรชั ญาสาขาพพิ ฒั นาการ นยิ มโดยรวม เทา่ กบั 3.90 อย่ใู นระดบั มาก จาก ระดบั 5 (มากทส่ี ดุ ) การทผ่ี ลวจิ ยั ปรากฏ เชน่ น้เี น่อื งมาจากในการออกแบบกระบวนการพฒั นาหลกั สูตรเพ่อื ส่งเสรมิ ทกั ษะการสอ่ื สาร ภาษาองั กฤษ สาหรบั นกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4-5 โรงเรยี นบา้ นโนนตาลกุดเวยี นหนอง หญ้ามา้ ตามแนวคดิ ปรชั ญาสาขาพพิ ฒั นาการนิยม (progressivism) ไดด้ าเนนิ การ สงั เคราะหแ์ นวคดิ ทฤษฎเี ชอ่ื มโยงกบั กจิ กรรมการเรยี นรทู้ ม่ี คี ณุ ภาพ เหมาะกบั ความ ตอ้ งการของผเู้ ขา้ รบั การพฒั นา โดยการใชก้ ระบวนการทางานเป็นกลมุ่ และการเรยี นรตู้ าม แนวคดิ ปรชั ญาสาขาพพิ ฒั นาการนยิ ม (learning by doing) ควบคู่กบั การประเมนิ ทกั ษะ การพดู ทกั ษะการทางานเป็นกลุ่มและการวดั เจคตใิ นการเรยี นภาษาองั กฤษ จนสง่ ผลให้ ผเู้ รยี นไดร้ บั การพฒั นาทกั ษะการพดู อยา่ งตอ่ เน่อื ง สามารถสอ่ื สารได้ หลงั ออกจาก หอ้ งเรยี น ข้อเสนอแนะ 1. ขอ้ เสนอแนะในการนาไปใช้ 1.1 ครผู สู้ อน สามารถนาหลกั สตู รเพ่อื สง่ เสรมิ ทกั ษะการส่อื สารภาษาองั กฤษ สาหรบั นกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4-5 ตามแนวคดิ ปรชั ญาสาขาพพิ ฒั นาการนิยม (progressivism) ไปใชไ้ ด้ และควรจะตอ้ งมกี ารสมั ภาษณ์หรอื ใชแ้ บบทดสอบก่อนเรยี น เพอ่ื วดั ระดบั ทางภาษาและความเขา้ ใจของนกั เรยี นกอ่ น เน่อื งจากนกั เรยี นตา่ งสถานศกึ ษา มี ทกั ษะการสอ่ื สาร การใชภ้ าษาทแ่ี ตกต่างกนั และสามารถนากจิ กรรมกลมุ่ อ่นื ๆ มาชว่ ย เสรมิ สรา้ งทกั ษะการสอ่ื สารภาษาองั กฤษและทกั ษะการทางานกลมุ่ ของผเู้ รยี นใหพ้ ฒั นามาก ขน้ึ ได้ 1.2 ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา และศกึ ษานเิ ทศก์ ตอ้ งศกึ ษาทาความเขา้ ใจเกย่ี วกบั หลกั สตู รกอ่ นวา่ ตรงกบั หลกั สูตรแกนกลางขนั้ พน้ื ฐานหรอื หลกั สูตรสถานศกึ ษาของตนเอง
หรอื ไม่ เน่อื งจากหลกั สูตรเพ่อื ส่งเสรมิ ทกั ษะการส่อื สารภาษาองั กฤษ สาหรบั นกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4-5 ตามแนวคดิ ปรชั ญาสาขาพพิ ฒั นาการนยิ ม (progressivism) อาจจะ ไม่เหมาะกบั ทกุ สถานศกึ ษา เน่อื งจากบรบิ ทของสถานศกึ ษาอาจไมเ่ หมาะสม เชน่ โรงเรยี น รมิ แมน่ ้า เป็นตน้ 2. ขอ้ เสนอแนะเพอ่ื การวิจยั ครงั้ ต่อไป 2.1 ควรมกี ารพฒั นาหลกั สตู รในกลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ น่ื ๆ และในระดบั ชนั้ อน่ื ให้ ครบ ทกุ ระดบั ชนั้ เพ่อื เพมิ่ ประสทิ ธภิ าพของหลกั สูตรใหม้ กี ารพฒั นาอยา่ งต่อเน่อื ง 2.2 ควรศกึ ษาแนวคดิ อน่ื ๆ มาพฒั นาหลกั สตู รเพ่อื สง่ เสรมิ ทกั ษะการสอ่ื สาร ภาษาองั กฤษเพ่อื ใหน้ กั เรยี นไดพ้ ฒั นาทกั ษะการพดู และส่งผลตอ่ ผลสมั ฤทธทิ์ างการอา่ น ออกเสยี งของนกั เรยี น ไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธผิ ล เอกสารอ้างอิง สรุ นิ ทร เสถยี รสริ วิ วิ ฒั น์. 2556. ปรชั ญาการศกึ ษากบั การจดั การศกึ ษาในระดบั การศกึ ษา ขนั้ พน้ื ฐาน Philosophy of Education and Management in the Basic Education Standard. กรุงเทพฯ: คณะครศุ าสตรอ์ สุ าหกรรม สถาบนั เทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ เจา้ คุณทหารลาดกระบงั อดุ มศกั ดิ์มสี ขุ . 2555. ปรชั ญาและปรชั ญาการศกึ ษา. คน้ เมอ่ื วนั ท่ี 8 พฤศจกิ ายน 2561, จาก http://www.kroobannok.com/19891
Search
Read the Text Version
- 1 - 15
Pages: