รปู แบบการนเิ ทศภายในแบบรว่ มพัฒนาสู่ครมู ืออาชพี คำนำ รูปแบบการนิเทศภายในแบบร่วมพัฒนาสู่มืออาชีพ ฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นแนวทางในการนิเทศ ภายในโรงเรยี น โดยมีวัตถปุ ระสงค์เพอ่ื พัฒนาครูใหม้ ีความรู้ทักษะ และส่งเสริมสนบั สนุนใหค้ ำแนะนำช่วยเหลือ ร่วมมือ อีกทั้งให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญให้มี ประสทิ ธิภาพประสิทธผิ ล เป็นไปตามเปา้ หมายของหลักสตู ร ซง่ึ คู่มือน้ีนำเสนอเป็น 8 สว่ น ประกอบดว้ ย สว่ นที่ 1 ท่มี าและความสำคญั ของการนเิ ทศภายใน ส่วนที่ 2 ความหมายของการนเิ ทศ สว่ นที่ ๓ ความจำเปน็ ในการนิเทศการศกึ ษา สว่ นที่ ๔ หลักการและแนวคดิ เก่ียวกบั การนิเทศภายใน สว่ นท่ี ๕ การนเิ ทศภายในแบบร่วมพฒั นาสมู่ ืออาชีพ สว่ นท่ี ๖ กระบวนการนิเทศภายในแบบร่วมพฒั นาสู่มอื อาชพี ส่วนท่ี ๗ ขนั้ ตอนการนิเทศภายในแบบรว่ มพัฒนาสมู่ อื อาชีพ ส่วนที่ ๘ เคร่อื งมอื การสังเกตการสอน สว่ นที่ ๙ เครือ่ งมอื การนเิ ทศการเรียนการสอนของครู ขอให้ผู้รับผิดชอบหรือผู้ได้มอบหมายการนิเทศภายในโรงเรียน ศึกษาและทำความเข้าใจการนิเทศ ภายในโรงเรยี น เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติอย่างจรงิ จังและต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการสอนของครซู ึง่ จะ สง่ ผลโดยตรงต่อคุณภาพของผเู้ รยี นเป็นสำคัญ โรงเรียนบ้านลำดวน ก
รปู แบบการนิเทศภายในแบบร่วมพัฒนาสคู่ รมู อื อาชพี สารบญั เรอ่ื ง หน้า ทีม่ าและความสำคัญของการนิเทศภายใน ………………………………………………………….. 1 ความหมายของการนเิ ทศ ………………………………………………………..……………………….. ๒ ความจำเป็นในการนเิ ทศการศกึ ษา ............................................................................. 2 หลักการและแนวคดิ ทเ่ี กย่ี วกับการนเิ ทศภายใน ........................................................... 3 การนิเทศภายในแบบร่วมพัฒนาสู่มืออาชพี …………………………………….…………………… ๔ กระบวนการนิเทศภายในแบบรว่ มพัฒนาสมู่ ืออาชพี …………………………………………… ๗ ขั้นตอนการนิเทศการสอนแบบร่วมพฒั นาสู่มืออาชีพ ……………………………….…………. ๘ เคร่อื งมือการสงั เกตการสอน ………………………………………………………………..…………. 12 เครอ่ื งมือการนิเทศการเรียนการสอนของครู………………………………………..……………. 14 ภาคผนวก ข
รปู แบบการนิเทศภายในแบบร่วมพัฒนาส่คู รมู อื อาชีพ เกรนิ่ นำ : ศาสตร์ด้านการนิเทศการศกึ ษา ๑. ที่มาและความสำคญั ของการนเิ ทศภายใน การนิเทศการศึกษานับว่ามีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาการจัดการศึกษาให้บรรลุผลสำเร็จ ตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของการจัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพ แต่การนิเทศการจัดการศึกษาภายใน โรงเรียนจากผู้นิเทศจากภายนอกโรงเรียนนั้น มีปัญหาอุปสรรคหลายประการที่ผู้นิเทศจากภายนอกโรงเรียน ไม่สามารถทำได้อย่างทั่วถึงและต่อเนื่อง เช่นผู้นิเทศจากภายนอกโรงเรียนมีจำนวนจำกัดเมื่อเปรียบเทียบกับ จำนวนโรงเรียนและครูในโรงเรียนต่างๆ ปัจจัยสนับสนุนและงบประมาณในการไปนิเทศของผู้นิเทศมีจำนวน จำกัด ประกอบกับปัจจุบันโรงเรียนโดยทั่วไปมีบุคลากรครูที่มีความรู้คุณวุฒิและความสามารถในการจัดการ เรียนการสอนได้เป็นอย่างดีอยู่พอสมควร รวมทั้งบุคลากรครูในโรงเรียนมีความรู้ความเข้าใจในสภาพปัญหา และความต้องการของโรงเรียนเป็นอย่างดีและตรงกับสภาพความเป็นจริง สามารถให้ความช่วยเหลือกันเอง ในการพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนการสอนได้เป็นอย่างดี ภายใต้เงื่อนไขของความตั้งใจจริงในการจัดการ เรียนการสอนให้เกิดคุณภาพสูงสุดตามที่ต้องการ ด้วยความสมัครสมานสามัคคีและร่วมมือร่วมใจกันของ บคุ ลากรภายในโรงเรยี น ดังนั้นการนิเทศภายในสถานศึกษาซึ่งเป็นระบบของความร่วมมือกันของผู้บริหารสถานศึกษาและ ครูผู้สอนในสถานศึกษาเพื่อพัฒนางานวิชาการของสถานศึกษาให้เป็นไปตามมาตรฐานการศึกษ าโดยการให้ คำปรึกษา แนะนำ ช่วยเหลือครูหรือบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาให้ปรับปรุงวิธีสอน การวัดผล ประเมินผลให้มีประสิทธิภาพเป็นไปตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายของการจัดการศึกษา ทำให้ครูผู้รับการ นิเทศได้รับการพัฒนาวิชาชีพ มีความพึงพอใจ มีกำลังใจที่จะพัฒนาการเรียนการสอนและยกระดับผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนของนกั เรียนใหส้ ูงขน้ึ จนสง่ ผลใหส้ ถานศึกษาเป็นทย่ี อมรับของผู้ท่ีเกี่ยวข้อง นิเทศการศึกษาเปน็ กระบวนการท่ีม่งุ เน้นให้ได้มาซึ่งผลผลติ ท่ีมคี ุณภาพ โดยการทำงานร่วมกันระหว่าง ผู้บริหาร ครู และผู้นิเทศหรือศึกษานิเทศก์ การนิเทศการศึกษามีจุดหมายสำคัญ 4 ประการ คือ ประการท่ี หนึ่ง “พัฒนาคน” คือ เป็นการทำงานร่วมกับครู ผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อให้ครูและบุคลากร เหล่านั้นได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในทางที่ดีขึ้น ประการที่สอง “พัฒนางาน” เนื่องจากการนิเทศการศึกษามี เป้าหมายสูงสุดอยู่ที่ผู้เรียน ซึ่งเป็นผลผลิตจากการเรียนรู้ให้ดีขึ้น ประการที่สาม “สร้างการประสานสัมพันธ์” เป็นผลที่เกิดจากการทำงานร่วมกันรับผิดชอบร่วมกัน ผลัดเปลี่ยนกันเป็นผู้นำผู้ตาม ประการสุดท้าย คือ “การสร้างขวัญกำลังใจ” เป็นสิ่งสำคญั ทจี่ ะทำใหบ้ ุคคลมีความต้ังใจทำงาน กระบวนการนิเทศมีหลากหลายรูปแบบ ที่จะช่วยแก้ปัญหาและพัฒนาสง่ เสริมการเรียนรู้ให้มีคุณภาพ เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า ในแต่ละชั้นเรียนจะมีนักเรียนที่มีความสามารถที่หลากหลายและแตกต่างกัน ดังพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่2) พุทธศักราช 2545 มาตรา 10 ทีร่ ะบวุ า่ การจดั การศกึ ษาต้องจัดให้บคุ คลมีสิทธแิ ละโอกาสเสมอกันในการรบั การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ไม่น้อยกว่าสิบสองปีที่รัฐต้องจัดให้อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย การจัดการศึกษาสำหรั บ บุคคลซึง่ มีความบกพร่องทางร่างกาย จิตใจ สตปิ ญั ญา อารมณ์ สังคม การส่ือสารและการเรียนรู้หรือมีร่างกาย 1
รูปแบบการนิเทศภายในแบบร่วมพัฒนาสู่ครูมอื อาชีพ พิการ หรือทุพพลภาพหรือบุคคลซึ่งไม่สามารถพึ่งตนเองได้หรือไม่มีผู้ดูแลหรือด้อยโอกาส ต้องจัดให้บุคคล ดงั กลา่ วมีสทิ ธแิ ละโอกาสไดร้ ับการศึกษาขนั้ พืน้ ฐานเปน็ พิเศษ การศกึ ษาสำหรับคนพกิ ารในวรรคสอง ให้จัดให้ตั้งแต่แรกเกิดหรือพบความพิการโดยไมเ่ สียคา่ ใช้จ่ายและให้บคุ คลดังกล่าวมีสิทธิได้รับความช่วยเหลอื อื่นใดทางการศึกษา นอกจากนี้แล้วในมาตรา 22 ยังระบุถึงหลักการจัดการศึกษาว่า ผู้เรียนทุกคนสามารถ เรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ ต้องจัดการศึกษาที่พัฒนาผู้เรียนตามธรรมชาติและเต็มศักยภาพ ครูทุกคนมีความ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องแสวงหาวิธีการที่จะช่วยให้นักเรียนทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ตามเจตนารมณ์ของ พระราชบญั ญตั ิดังกลา่ ว ซึ่งเหน็ วา่ การนเิ ทศแบบร่วมพฒั นาส่มู ืออาชีพตอ่ ไป ๒. ความหมายของการนิเทศ เมื่อกล่าวถึง “การนิเทศ” จะนึกถึงคำหลายคำที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน เช่น การนิเทศการศึกษา การนิเทศการสอน การนิเทศภายใน การบริหารงานวิชาการ เป็นต้น คำเหล่านี้มีความหมายที่คล้ายคลึงกัน แต่โดยกระบวนการทำงานจะแตกต่างกันออกไป ดังนั้น เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน ขอให้ความหมายของคำว่า “นิเทศการศกึ ษา” “ นิเทศการสอน” “ นเิ ทศภายใน” ดงั น้ี การนิเทศการศึกษา (General Supervision) หมายถึง นิเทศทั่ว ๆ ไป ที่ครอบคลุมภาระงาน ด้านการศึกษาในทุกเรื่อง ทุกระดับ อาทิ การพัฒนาหลักสูตร การจัดระบบการเรียนการสอน การจัดครู เข้าสอน การจัดสื่อและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ การปฐมนิเทศครูใหม่ การพัฒนาช่วยเหลือนักเรียน การวัดผลประเมนิ ผล เปน็ ต้นการชว่ ยเหลอื ชแี้ นะ พฒั นา หรือความพยายามทุกอย่างทจี่ ะชว่ ยให้ครู ผู้บรหิ าร ผู้เกี่ยวข้อง สามารถพัฒนางานด้านการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการร่วมมือกันทำงานมากกว่าการใช้ อำนาจสง่ั การ นิเทศการสอน (Instructional supervision) หมายถึง การช่วยเหลือ แนะนำ ให้ครูสามารถ ปรบั ปรงุ การสอน ปรบั ปรงุ วธิ กี ารพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุตามเปา้ หมายของการศึกษาได้ ซึง่ ในการนิเทศการสอน นเ้ี ปน็ การทำงานร่วมกับครูโดยตรง หรอื อกี นยั หนึ่ง กค็ อื “กระบวนการและความคดิ รวบยอดท่ีจะปรบั ปรุงการ สอนของครู เพ่ือผลประโยชน์ของนกั เรียนในอนั ทีจ่ ะเพ่ิมประสิทธิภาพและประสทิ ธผิ ลในการเรียนรใู้ ห้สูงขน้ึ ” การนิเทศภายใน (Line supervision) กระบวนการที่อาศัยความร่วมมือของบุคลากรในโรงเรียน ภายใต้การนำของผู้บรหิ ารโรงเรียน ในอนั ที่จะพัฒนาคุณภาพการเรยี นการสอน จนบคุ ลากรทุกฝา่ ยสามารถนำ ตนเองในการปฏบิ ตั งิ านได้ และก่อให้เกดิ ผลข้นั สุดทา้ ยคือการศกึ ษาของเด็กกา้ วหน้าไปอยา่ งมีประสิทธิภาพ ๓. ความจำเป็นในการนิเทศการศกึ ษา สภาพสังคมและเศรษฐกิจมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จึงส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลง ทางด้านการจัดการศึกษา เมื่อมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการดำเนินงาน หลักสูตร การจัด กระบวนการเรียนรูของครูก็ย่อมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปด้วย จึงจำเป็นจะต้องมีการ พัฒนาเพิ่มพูนให้ครู มคี วามรูและทักษะต่างๆ ให้สามารถจัดกระบวนการเรียนรูพฒั นางานในองคก์ รให้สอดคลองกบั สภาพลอมใหม่ ดังน้ัน ครจู ึงต้องไดรับการนิเทศและคำแนะนำ ชว่ ยเหลือ สังคมชุมชนเป็นสิ่งแวดล้อมของสถาบันการศึกษา มีความสำคัญมากเพราะจะส่งผลกระทบตั้งแต่ ปัจจัยการสอน(คืองบประมาณ ครูนักเรียน รวมทั้งนโยบายการบริหาร) โครงสร้างและกระบวนการบริหาร ในโรงเรียน (พฤติกรรมบริหารการจัด การเรียนการสอน) และผลผลิต (คุณภาพของนักเรียน) โดยเฉพาะ ครูผู้สอนอาจเกอดปัญหาทั้งด้านความคิดและความสามารถตามความคาดหวังของสังคม การนิเทศจึงมีความ 2
รปู แบบการนิเทศภายในแบบร่วมพัฒนาสู่ครมู อื อาชพี จำเป็นอยา่ งยิ่งทจี่ ะต้องชว่ ยเหลือบุคลากรทางการศกึ ษา เปลี่ยนแปลงตนเองให้สอดคล้องกับความตอ้ งการของ และความคาดหวงั ของสงั คม กล่าวคือ 1. สภาพเศรษฐกิจโลก มีการแข่งขันกันรุนแรงในด้านมาตรฐานสินค้า ซึ่งเน้นคุณภาพ กระบวนการ ผลิต บุคลากรทางการผลิต ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและอื่นๆ การศึกษาจำเป็นจะต้องสนองตอบในด้านสาระ การเรยี นรู้ทเี่ ก่ียวกับการผลติ การบริการและการแข่งขันใหเ้ ท่าเทียมหรอื ดีกว่ากับประเทศต่างๆ 2. สภาพสังคมและวัฒนธรรมของประเทศเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเรว็ จากสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคม ธุรกิจอุตสาหกรรม วิถีชีวิตของประชาชนที่ เคยสงบอยู่ท่ามกลางธรรมชาติก็จะเปลี่ยนเป็นวิถีของการแข่งขัน รีบเร่งตามวิถีของธุรกิจอุตสาหกรรม วัฒนธรรมประเพณีค่านิยม เปลี่ยนแปลงจากจิตนิยมซึง่ รักษาความดีงาม ความประณีต ความเอื้ออาทรมาเป็นการแข่งขันเน้นทางวัตถุความทันสมัย ความมีประสิทธิภาพและ ความได้เปรียบ การศึกษาต้องตอบสนองทางด้านความคิด ในการเลือกวัฒนธรรมท่ีเหมาะสมกับการดำรงชวี ิต ท่ีสำคัญ คือ อนุรักษว์ ฒั นธรรม ประเพณีคา่ นิยมทีด่ ีงามของชาตเิ พ่อื ดำรงเอกลกั ษณ์ของความเป็นไทย 3. สภาพการเมืองการปกครองของประเทศ ซึ่งเป็นแบบประชาธิปไตย มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข มีการปรับเปลยี่ นในรายละเอยี ดการปฏบิ ัติ เช่น การกระจายอำนาจจากส่วนกลางสสู่ ว่ นท้องถนิ่ สิทธิมนุษยชน และอื่นๆ รวมทั้งปรับกลไกการบริหารภาครัฐให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลง ของสังคมโลก การศึกษา จำเป็นตอ้ งตอบสนองในด้านการสรา้ งความตระหนักรู้ถึงสทิ ธิหน้าที่ของตนเอง และสทิ ธิทพี่ งึ มีต่อรัฐรวมถึงการ มสี ว่ นรว่ มทางการเมอื งการปกครองในระบอบประชาธิปไตย 4. สภาพเทคโนโลยที ี่เปลีย่ นแปลงไปอย่างรวดเรว็ การศึกษาจำเป็นต้องตอบสนองในดา้ นความรู้และ ทักษะการใชเ้ ทคโนโลยีเหลา่ นี้ตามตามความตอ้ งการของผู้เรยี น 5. ความรูในสาขาวชิ าตา่ งๆเพ่ิมพนู ขน้ึ อยา่ งรวดเรว็ และต่อเนื่อง เกิดการศกึ ษาอย่างเจาะลึก ในศาสตร์ สาขาต่างๆ ความรูเหล่านี้จำเป็นต้องถ่ายทอดสู่ผู้เรียนให้ทันและนำความรูไปใช้ประโยชน สอดคลองกับการ แขง่ ขนั 6.การพัฒนาศาสตร์ด้านการเรียนการสอน ซึ่งมีการพัฒนารุดหนาควบคู่กับเทคโนโลยี และความรู สาขาวิชาตา่ งๆ กอ่ ให้เกิดความรูหลักการและทฤษฎีตา่ งๆ มากมาย 7. มาตรฐานคุณภาพการศึกษาระดบั สากล จากการแข่งขันเชงิ ธุรกิจ และอุตสาหกรรม ก่อให้เกิดการ พัฒนามาตรฐานคุณภาพการศึกษา มาตรฐานคุณภาพของหน่วยงานธุรกิจ อุตสาหกรรม หลายๆระบบไดส่ง อทิ ธิพลมายงั หน่วยงานและสถานศกึ ษา ทำให้เกิดปรากฏการณในสถานศึกษาที่มี การแข่งขนั กนั เพอื่ ให้ไดมาซึ่ง มาตรฐาน ๔. หลักการและแนวคดิ ที่เกี่ยวข้องกับการนิเทศภายใน การนิเทศมีส่วนสำคัญอย่างมากต่อการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งครูผู้สอนเป็นหลักในระบบโรงเรียน สำหรับความหมายของการนิเทศภายในตั้งแต่อดีต จนกระทั่งถึงถึงปจั จุบัน ได้มีการเปล่ียนแปลงหรือมจี ุดเน้นแตกต่างกันออกไปในแต่ละยุคสมัยแต่อย่างไรก็ตาม การเปลีย่ นแปลงแต่ละยคุ น้ันมีจุดมงุ่ หมายท่ีตรงกันกค็ ือ ต้องการปรบั ปรงุ การเรยี นการสอนให้มีคุณภาพมากข้ึน ในสมัยก่อนนั้นเรามักจะนึกถึงการนิเทศในรูปของบุคคลที่เป็นครูของครู ให้คำแนะนำหรือสาธิตวิธีสอนใหม่ ๆ รวมทั้งการสร้างหรือการใช้อุปกรณ์การสอนให้เหมาะสมกับบทเรียนให้กับครูผู้สอน แต่ในปัจจุบันน้ีได้มี ขอบเขตและมีความหมายกวา้ งออกไปมาก จุดเน้นในปัจจุบนั จะคำนึงถงึ ทุกองค์ประกอบทางการศึกษา ทจ่ี ะทำ 3
รูปแบบการนเิ ทศภายในแบบรว่ มพัฒนาส่คู รมู อื อาชพี ให้การสอนของครูมีประสิทธิภาพสูงขึ้นองค์ประกอบเหล่านี้ได้แก่การช่วยเหลือครูผู้สอนโดยตรงให้มีการ ปรับปรุงด้วยตนเองอยู่เสมอ หลกั การนเิ ทศ การนิเทศในทุกระดบั มีหลกั การ (Principles) สำคญั ๆ ดงั นี้ ๑. มีความถูกต้องตามหลักวิชา (Theoretically) เป็นไปตามค่านิยม วัตถุประสงค์ นโยบาย ที่เกี่ยวข้อง เป็นไปตามความจริงและกฎเกณฑ์ของเรื่องนั้น ๆ มีวิวัฒนาการในด้านเครื่องมือ วิธีการ และมจี ดุ ประสงคท์ ี่แน่นอน ๒. การนเิ ทศควรเป็นวทิ ยาศาสตร์ (Scientific) มลี ำดับข้นั ตอนภายในขอบเขตของงาน ข้อมูลที่ได้ต้อง มคี วามถกู ตอ้ ง เช่อื ถือได้ ๓. การนิเทศควรเป็นประชาธิปไตย (Democratic) คือเคารพในความแตกต่างของคน เปิดโอกาส ให้ทุกคนมีส่วนรว่ ม ใชอ้ ำนาจน้อยทสี่ ุด ๔. การนิเทศต้องเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ (Creative) การนิเทศควรเป็นการแสวงหาความสามารถ พเิ ศษของแตล่ ะคน เปดิ โอกาสให้แสดงความสามารถนน้ั และต้องเป็นการปรับปรุงเปลย่ี นแปลงสภาพท่ีเป็นอยู่ ใหเ้ กิดความคล่องตัวในการทำงานให้มากทีส่ ุด ๕. การนเิ ทศภายในแบบร่วมพฒั นาสู่มืออาชีพ (Cooperaive Development Supervision for Professional) การนิเทศแบบร่วมพัฒนา คือ ปฏิสัมพันธ์ทางการนิเทศระหว่างผู้บริหารสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ และครู ในกระบวนการนิเทศการศึกษาที่มุ่งแก้ปัญหาและพัฒนาการเรียนการสอนอย่างเป็นระบบ โดยใช้ เทคนิคการนิเทศการสอนเป็นปัจจัยหลัก บนพื้นฐานของสัมพันธ์ภาพแห่งการร่วมคิด ร่วมทำ พ่ึงพา ช่วยเหลือ ยอมรับซึ่งกันและกัน ให้เกียรติและจริงใจต่อกันระหว่างผู้นิเทศ ผู้สอนและคู่สัญญา เพื่อร่วมกันพัฒนาทักษะ วิชาชพี อนั จะส่งผลโยตรงตอ่ การพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษา จดุ มุง่ หมายท่ัวไป การนิเทศแบบรว่ มพฒั นาเปน็ การนิเทศที่มุ่งแก้ปญั หา และพัฒนาการเรียนการสอน อย่างเป็นระบบ เพื่อยกระดับคุณภาพการเรียนของนักเรียน โดยการปรับปรุงการปฏิบัติงานของครูให้เกิด ประสิทธิภาพบนพ้นื ฐานของกระบวนการที่เกดิ จากความต้องการของครูในการพฒั นาทักษะวิชาชพี จุดมงุ่ หมายเฉพาะ 1). เพื่อพัฒนาทักษะการสอนและทักษะการนิเทศแก่ครูอย่างเป็นระบบ โดยใช้วิธีการนิเทศตนเอง นิเทศโดยเพ่อื นคสู่ ัญญา นิเทศโดยนเิ ทศภายในโรงเรียนและนเิ ทศโดยศกึ ษานเิ ทศก์ 2). เพ่อื เสริมสร้างสัมพนั ธภาพทางวชิ าชพี ระหว่างครแู ละศกึ ษานิเทศกใ์ ห้กระชับมนั่ ย่งิ ขึน้ 3). เพื่อสร้างเสริมเจตคติที่ดีต่อการนิเทศการสอนให้แก่ผู้บริหารสถานศึกษาและครู ให้เกิดความ มัน่ ใจวา่ การนิเทศการสอนสามารถชว่ ยครแู ก้ปญั หาและพัฒนาการเรียนการสอนได้ 4). เพื่อกระตนุ้ ให้ครูเป็นผู้นำในการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอน เห็นความสำคัญและประโยชน์ ของการนิเทศ พัฒนาตนเองเป็นผู้นำการนิเทศภายในโรงเรียน สามารถนิเทศตนเองและนิเทศเพื่อนครูด้วยกนั อย่างมีหลักวิชาและมีรูปแบบที่ชัดเจน 5). เพื่อให้ครูเกิดความภาคภูมิใจในวิชาชีพ และมุ่งมั่นพัฒนาตนเองเป็นครูมืออาชีพอย่างมาตรฐาน และรักษาระดับคุณภาพไว้อยา่ งต่อเน่ือง 6). เพื่อให้ครูมีความรู้ความเข้าใจและสามารถพัฒนาเทคนิควิธีการนิเทศ และนำไปสู่การพัฒนาครู อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ 4
รปู แบบการนเิ ทศภายในแบบรว่ มพัฒนาส่คู รมู อื อาชพี ลกั ษณะสำคญั ของการนเิ ทศแบบรว่ มพัฒนาสู่มืออาชีพ (Cooperaive Development Supervision for Professional) ปฏสิ ัมพนั ธท์ างการนิเทศจากใจถงึ ใจ บนพน้ื ฐานของความรัก ความเขา้ ใจและความจริงใจตอ่ กันใน การพฒั นาทักษะวิชาชีพ ซ่งึ มีลักษณะสำคัญดังนี้ 1). เป็นการนิเทศท่ีพฒั นามาจากการผสมผสานกันระหว่างการนิเทศจากบุคลากรภายนอกและ การนิเทศภายในโรงเรียน โดยมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนด้วยวิธีการทีเ่ ปน็ ระบบและมขี ้ันตอนการดำเนนิ งานท่ชี ดั เจน 2). ในกระบวนการปฏิสัมพันธ์ทางการนิเทศแบบร่วมพัฒนา จะมีศูนย์กลางอยู่ที่ตัวครูในกลุ่ม สาระการเรียนรู้และโรงเรียน ซึงมีบทบาทหน้าที่แตกต่างกัน เช่น หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้มีหน้าที่เป็นผู้ นเิ ทศหรอื คู่สัญญา (ถา้ ผู้รบั นิเทศต้องการ) เพ่ือนครทู สี่ นิทสนมที่ไดร้ ับความไวว้ างใจ กันและพร้อมท่ีจะร่วมมือ กันในการพัฒนาทักษะวชิ าชีพ มีบทบาทหนา้ ท่ีเปน็ คู่สัญญา และครูท่ีมีความสนใจต้องการมีส่วนร่วมแต่ยังขาด ความพร้อม สามารถมีส่วนร่วมได้ในบทบาทของเพื่อนร่วมอุดมการณ์ และมีเครือข่ายที่เป็นบุคลากรจาก ภายนอก เชน่ ศกึ ษานเิ ทศก์ หรือครผู รู้ ่วมนเิ ทศ ซึง่ กจ็ ะมีบทบาทเป็นผนู้ ิเทศหรือทปี่ รกึ ษา 3). เป็นรูปแบบการนเิ ทศทใี่ หค้ วามสำคัญทง้ั กระบวนการนิเทศทว่ั ไป และกระบวนการนเิ ทศการ สอน โดยทั้งสองกระบวนการจะเอ้ือประโยชน์ซ่ึงกันและกัน และสง่ ผลใหค้ ุณภาพการจัดการเรียนการสอนดีข้ึน และสำหรับการนิเทศการสอนในรูปแบบของการนิเทศแบบร่วมพัฒนานี้ได้พัฒนามาจากแนวคิดในการนิเทศ การสอนแบบคลินกิ และการนเิ ทศเชิงเน้นวัตถุประสงค์ 4). เป็นการวมกลุ่มกัน เพื่อพัฒนาวิชาชีพของครูที่มีความรับผิดชอบต่อวิชาชีพสูงและมีความ กระตือรือร้นที่จะพัฒนาความเจริญงอกงามทางวิชาชีพ โดยกำหนดเป็นโครงการนิเทศ มีระยะเวลาในการ ดำเนนิ งาน สามารถตดิ ตามผลการปฏิบัตงิ านได้ ซ่งึ ผ้บู รหิ ารสถานศึกษาและผนู้ เิ ทศจะตอ้ งรับร้มู สี ว่ นรว่ มในการ ติดตามผล ใหค้ วามสนับสนุนและอำนวยความสะดวก 5). เน้นหลักประชาธิปไตยในการนิเทศ โดยครูจะมีเสรีภาพในการนิเทศ เลือกผู้นิเทศ เลือก คสู่ ญั ญา เลือกเวลาในการปฏบิ ัติการนิเทศ เลอื กบทเรยี นท่ีจะสอน เลอื กเครื่องมือสงั เกตการสอน ในการนิเทศ การสอน ครูสามารถเลือกวิธีการนิเทศตนเอง คือ สังเกตพฤติกรรมการสอนของตนเองแทนที่จะให้ผู้นิเทศหรอื คู่สัญญาหรือศึกษานิเทศก์เข้าไปสังเกตการสอนหรือถ้าหากครูมีความพร้อมใจ ต้องการให้ผู้นิเทศหรือคู่สัญญา เข้าไปสังเกตการสอน ครูก็สามารถเลอื กหรือรบั รู้ทำความเข้าใจกับเครื่องมือสงั เกตการสอน จนเป็นทีพ่ อใจและ ไมม่ คี วามวิตกกงั วลตอ่ ผลของการใช้เครอื่ งมอื สังเกตการสอนน้นั ๆ 6). การสังเกตการสอนในกระบวนการนิเทศแบบร่วมพัฒนาสู่มืออาชีพ ผู้นิเทศต้องไม่สร้าง ภาพพจน์ในการวัดผลหรือประเมินผลการสอน แต่จะเป็นการบันทึกและอธิบายภาพที่เกิดขึ้นในห้องเรียนว่า ผู้สอนมีพฤตกิ รรมอย่างไร มากน้อยเทา่ ใด ไมใ่ ชด่ หี รอื ไมด่ อี ย่างไรเพราะไมต่ ้องการให้ครเู กิดความรู้สึกหว่ันกลัว การประเมินและวติ กกังวลตอ่ ปฏิสมั พนั ธท์ างการนเิ ทศ 7). การสังเกตการสอนในกระบวนการนิเทศแบบร่วมพัฒนาจะเน้นที่การสังเกตตนเองเชิงเน้น วัตถุประสงค์เป็นหลัก โดยมีเครื่องมือสังเกตการสอนที่สอดคล้องกับจุดประสงค์ที่ต้องการนิเทศซึ่งขึ้นอยู่กับ ปัญหาที่เกิดขึ้นในกระบวนการจัดการเรียนการสอน ส่วนการสังเกตการสอนโดยคู่สัญญาหรือผู้นิเทศอื่น ๆ เชน่ หัวหน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้ หรอื ศกึ ษานิเทศก์ จะเกดิ ข้ึนไดต้ ่อเม่ือเปน็ ความต้องการของครูผู้นั้น 5
รูปแบบการนเิ ทศภายในแบบร่วมพัฒนาสู่ครูมืออาชีพ 8). การวิเคราะห์พฤติกรรมการสอนของครู จะต้องขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ได้จากการสังเกตการสอน ไมใ่ ช่จากความคดิ เหน็ สว่ นตัว คา่ นิยม หรอื ประสบการณข์ องผนู้ ิเทศเอง 9). การใช้ข้อมูลป้อนกลับหลังจากการสังเกตการสอน และการวิเคราะห์พฤติกรรมการสอน ผู้นิเทศจะใช้เทคนิคนิเทศทางอ้อม เพื่อพัฒนาให้ครูสามารถวางแผนการสอนได้เอง วิเคราะห์การสอนของ ตนเองได้ ประเมนิ ผลการสอนของตนเองได้ และสามารถนเิ ทศตนเองไดใ้ นที่สดุ 10). การปฏิบัติการนิเทศ ยึดหลักการนิเทศแบบร่วมพัฒนาสู่มืออาชีพ คือ ทั้งผู้นิเทศและผู้รับ การนิเทศจะทำงานร่วมกันท้ังกระบวนการ ตั้งแต่การหาความต้องการจำเป็นในการนิเทศ การกำหนด วัตถุประสงค์ในการนิเทศ การวางแผนการนิเทศ การดำเนินการนิเทศและการประเมินผลการนิเทศด้วยความ เสมอภาคกัน ยอมรับ ยกยอ่ ง ให้เกียรติซึ่งกันและกนั ในฐานะผู้ร่วมวชิ าชพี 11). ในกระบวนการนิเทศแบบร่วมพัฒนาสู่มืออาชีพ ได้ให้ความสำคัญต่อการเสริมขวัญและ กำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติการในทุกขั้นตอนของการดำเนินงาน ทั้งนี้เพื่อให้ครูเกิดความภาคภูมิใจและเกิดความสุข ในวิชาชีพ มีพลังที่จะแก้ไข ปรับปรุงการปฏิบัติงาน แลละมีความพึงพอใจที่จะนำข้อนิเทศไปปฏิบัติให้เกิดผล อย่างต่อเนอื่ ง 12). การนิเทศแบบร่วมพัฒนาสมู่ ืออาชีพ เป็นการนิเทศทยี่ ดึ วัตถุประสงคเ์ ปน็ หลักสำคัญในการ แก้ปญั หาและพัฒนาการเรียนการสอน เปน็ การทำงานอยา่ งเป็นระบบ แตส่ ามารถยืดหยุ่นไดต้ ามสถานการณ์ที่ เหมาะสม 13). เปน็ การนเิ ทศท่ียดึ หลักการเชงิ มนษุ ย์นิยม เปน็ การทำงานร่วมกนั ดว้ ยความจริงใจ เช่ือม่ัน เขา้ ใจซ่ึงกันและกนั ช่วยเหลอื รว่ มมอื และสนบั สนุนต่อกนั ในการพัฒนาความกา้ วหนา้ ทางวชิ าชพี 14). ผู้นิเทศและครูมีโอกาสวเิ คราะห์พฤติกรรมการนิเทศและปฏิสัมพันธ์ทางการนิเทศร่วมกัน เพือ่ จะได้แก้ไขข้อบกพร่อง และช่วยกนั วางแผนในการพัฒนาปฏิสัมพันธท์ างการนิเทศให้เกิดประสิทธิภาพและ สัมพนั ธภาพทีด่ ตี ่อกนั 15). มีรูปแบบในการสร้างและพัฒนาเครือข่ายแนวร่วมในการขยายผลตามลำดับขั้นของการมี ส่วนร่วม เป็นการสร้างแรงจูงใจให้แก่ผู้ดำเนินงาน และผู้ที่มีความสนใจจะอาสาเข้าร่วมดำเนินงาน ใช้เทคนิค วิธีการขยายผลโดยการ \"ขายตรง\" และ \"การมีส่วนร่วม\" โดยค่อยๆขายความคิดและเชิญชวนให้เข้ ามามี ส่วนร่วมที่ละน้อย ในฐานะ \"เพื่อนร่วมอุดมการณ์\"จนกว่าจะเกิดความพร้อมที่จะอาสาเข้าร่วมดำเนินการด้วย อย่างเต็มตัว และเมื่อเข้าร่วมดำเนินการแล้ว มีผลการดำเนินงานดีเด่น มีประสิทธิภาพ มีเครือข่ายแนวร่วม เป็นจำนวนมาก ก็จะได้รับการเสริมแรงในลักษณะต่างๆ ซึ่งเทคนิคนี้เรียกว่าเทคนิค \"การสร้างรงจูงใจใฝ่ สัมฤทธ์ิ\" เพอ่ื การพฒั นาทต่ี อ่ เนือ่ งและไม่หยดุ ยั้ง ๖. กระบวนการนิเทศภายในแบบรว่ มพัฒนาส่มู ืออาชพี (Cooperaive Development Supervision for Professional) 1. การวางแผนการดำเนินงาน (Planning-P) เป็นขั้นตอนที่ผู้มสี ่วนรว่ มในการดำเนนิ งานทุกฝ่ายจะ ประชุมหารือกันถึงปัญหาในการจัดการเรียนการสอนที่เป็นปัญหาสำคัญเร่งด่วนควรแก้ไขก่อน และหรือ นโยบายในการปรบั ปรุงและพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนโดยจะระดมสมองหาความต้องการจำเป็น (Need Assessment) ในเรื่องที่จะต้องมกี ารนิเทศ รวมทั้งรว่ มกันวางแผนและกำหนดข้ันตอนการปฏิบัติงานนิเทศ ซึ่ง อาจจะดำเนนิ การในลักษณะของงานหรอื โครงการนเิ ทศเพื่อแก้ปัญหา หรอื พัฒนาการเรียนการสอน 6
รปู แบบการนิเทศภายในแบบรว่ มพัฒนาสู่ครูมืออาชพี 2. การเสริมสร้างความรู้ในการปฏิบัติงาน (Informing-I) เป็นขั้นตอนของการทำความเข้าใจ กระบวนการนิเทศทั้งระบบ และวิธีการดำเนินงานในแต่ละขั้นของการนิเทศ เพื่อให้ผู้ดำเนินงานมีความรู้ ความเข้าใจ ในทักษะ และมีเทคนิคในการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพขั้นตอนนี้นอกจากจะเป็นการช่วย ให้ผดู้ ำเนินงานสามารถทำงานได้อยา่ งมีคุณภาพแลว้ ยังเปน็ การเสริมสรา้ งความมั่นใจในการทำงานใหแ้ ก่ ผู้ ดำเนินงานอีกดว้ ย 3. การปฏิบัติงานตามแผน (Doing - D) เมื่อผู้ดำเนินงานได้ผ่านขั้นตอนการวางแผนและขั้นตอนการ เสริมสร้างความรู้ในการปฏิบัติงานไปแล้ว การปฏิบัติงานตามแผนที่วางไว้ในแต่ละขั้นตอนอย่างเป็นระบบ ทั้งในส่วนของผู้ให้การนิเทศ ผู้รับการนิเทศ และผู้สนับสนุนการนิเทศก็จะดำเนินไปตามปฏิทินปฏิบัติงานที่ได้ ตกลงร่วมกันและกำหนเดไว้ในแผน โดยจะได้รับความช่วยเหลือและขอความร่วมมือจากผู้นิเทศภายนอก เชน่ ศึกษานิเทศก์ ครูผู้ร่วมนิเทศ ศูนย์พัฒนาการเรียนการสอน และเครือข่ายจากหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและ เอกชน รวมท้งั ผู้นิเทศภายในโรงเรียนเช่น หัวหนา้ กลุม่ สาระ คสู่ ัญญา รองผอู้ ำนวยการสถานศึกษาฝ่ายวิชาการ และผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษา 4. การประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงาน (Evaluation - E) การประเมนิ ผลการปฏิบัติงานหรือโครงการนิเทศ ควรดำเนินการประเมินทั้งระบบ เพื่อให้ทราบประสิทธิภาพของโครงการจึงควรจะประเมินสิ่งต่างๆ ตามลำดับ ของความสำคัญ ดังน้ี 4.1 ผลผลติ ที่ได้จากการนเิ ทศ (Output) คือ สมั ฤทธผิ์ ลติ การเรียนของผเู้ รยี น และการ เปล่ยี นแปลงพฤติกรรมของผู้รบั การนเิ ทศตามเปา้ หมายของการนิเทศน้นั ไดแ้ ก่ ผลท่เี กิดขน้ึ จากการนเิ ทศ (ระดับความสามารถในการทำงานของผ้รู ับการนิเทศ การเพิ่มจำนวนของบคุ ลากรทม่ี ีคุณภาพภายในหนว่ ยงาน ความตง้ั ใจในการทำงานของบคุ ลากร และความสมั พันธร์ ะหว่างบคุ ลากรในหน่วยงาน) และผลที่เกดิ ขึน้ ระหวา่ ง การดำเนนิ การนเิ ทศ(เจตคติของผูร้ ับการนเิ ทศที่มตี อ่ งานและต่อผู้ร่วมงาน ระดับความพึงพอใจในการทำงาน ความผูกพันของผู้รับการนิเทศทีม่ ีต่อเป้าหมายในการทำงาน ระดบั ของจดุ มุง่ หมายท่ีจดั ตัง้ ขน้ึ ระดับความ ร่วมมอื ร่วมใจท่ีมตี อ่ กล่มุ ทำงาน ความเชอื่ มน่ั และความไวว้ ่างใจในตนเอง เพ่ือนร่วมงานและผู้บังคับบัญชา และความร้สู กึ ของผู้รบั การนเิ ทศท่มี ีตอ่ สภาพแวดลอ้ มในการทำงาน) 4.2 กระบวนการดำเนินงาน (Process) คือ ความเหมาะสมของข้ันตอนในการทำงาน ความเหมาะสมของการจดั กจิ กรรม ปฏิสัมพนั ธร์ ะหว่างผ้รู เิ ทศกบั ผูร้ บั การนเิ ทศและบรรยากาศในการทำงาน 4.3 ปัจจัยป้อนเข้า (Input) คือ การลงทนุ ในด้านทรพั ยากรมนษุ ย์ วสั ดอุ ุปกรณ์ ส่อื การนิเทศ เคร่อื งอำนวยความสะดวกตา่ ง ๆ งบประมาณการเงิน รวมทงั้ ระยะเวลาทใ่ี ชใ้ นการดำเนินงานตามโครงการ 5. การเผยแพรข่ ยายผล (Diffusing - D) ในรปู แบบท่ีหลากหลาย เพ่ือเป็นการเสรมิ สร้างขวญั และ กำลงั ใจแกผ่ ู้ปฏิบัตงิ าน สว่ นการขยายเครอื ข่ายการดำเนินงานนิเทศ โดยใช้เทคนิคการขายความคิด ให้เกดิ ความเชื่อถือ ศรทั ธา แลว้ จงึ ใช้เทคนิคการเชญิ ชวนใหเ้ ข้ามามีสว่ นร่วมที่ละนอ้ ย ในฐานะเพอื่ รว่ มอาชพี หรือ อุดมการณ์ จนเกดิ ความพร้อมทจ่ี ะเข้ารว่ มดำเนินการดว้ ยอย่างเต็มตัว ในฐานะ \"ครปู ฏบิ ตั ิการ\" หรอื ฐานะ \"คสู่ ัญญา\" และเมื่อดำเนนิ การงานไดผ้ ลดี มีเครือข่ายแนวร่วมเพม่ิ มากขึน้ ครูปฏิบตั กิ ารก็จะไดป้ รบั เปลี่ยน บทบาทขึน้ เป็นผูน้ เิ ทศเครอื ข่ายผูป้ ฏบิ ัตกิ ารรนุ่ ต่อไป ซง่ึ นับวา่ เปน็ การใหแ้ รงเสรมิ แกผ่ ู้ปฏิบตั ิงาน หรอื เรียกว่า ใช้เทคนคิ \"การสรา้ งแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธ์ิ\" นับวา่ เปน็ กลวิธีการเผยแพร่และขยายผลท่ีมปี ระสทิ ธภิ าพ โดยเนน้ ความพร้อมหรือความสมัครใจของครเู ป็นหลกั ข้ันเสรมิ การรว่ มใจและการเสรมิ สร้างขวญั และกำลงั ใจ (Cooperating – C, Reinforcing - R) นับว่าเป็นกลไกสำคัญท่ีจะทำให้ผลการดำเนนิ งานได้ทงั้ คน งานและ จติ ใจทผี่ ูกพันอยู่กบั งาน 7
รูปแบบการนเิ ทศภายในแบบรว่ มพัฒนาสู่ครูมอื อาชีพ ๗. ขน้ั ตอนการนเิ ทศการสอนแบบรว่ มพัฒนาสู่มืออาชีพ กระบวนการนเทศการสอนแบบรว่ มพัฒนาสู่มืออาชีพ เป็นกระบวนการนเิ ทศการสอนในชน้ั เรียนอย่าง มีระบบครบวงจร โดยเน้นการสังเกตการสอนอย่างมีวัตถุประสงค์ เพื่อนำข้อมูลมาแก้ปัญหาและพัฒนาการ เรียนการสอน โดยมีขั้นตอนการดำเนินงาน ดังตอ่ ไปน้ี ข้นั ตอนท่ี 1 คสู่ ัญญาตกลงร่วมกนั เปน็ ข้นั ตอนทีค่ รู 2 คนทส่ี นิทสนมไวว้ างใจซงึ่ กันและกนั ได้ตกลงรว่ มกนั ในการที่จะพฒั นาทักษะวชิ าชพี โดยมวี ตั ถุประสงคจ์ ะรว่ มกันแกป้ ัญหาการจดั การเรียนการสอน หรือปรับปรุงพฤติกรรมการสอน โดยฝ่ายหนึ่งเป็นผู้สอน และอีกฝ่ายหนึ่งทำหน้าที่เป็นคู่สัญญา คอยให้ความ ช่วยเหลือ แนะนำ ให้คำปรึกษาและให้กำลังใจ ซึ่งสัมพันธภาพของคู่สัญญา จะดำเนินไปในลักษณะของเพื่อน ร่วมอาชีพทม่ี เี จตนารมณ์และอดุ มการณ์เดียวกนั ความสัมพันธ์ของคูส่ ญั ญาทงั้ สองจะอยูบ่ นพืน้ ฐานของความ เป็นประชาธิปไตย ความเสมอภาค การยอมรับซึ่งกันและกัน มีความจริงใจ ให้เกียรติกัน มีความพร้อมที่จะ ร่วมมอื ช่วยเหลือกันในการแก้ปัญหา และพัฒนาการเรียนการสอนใหเ้ กิดสมั ฤทธิผลจนเป็นท่พี อใจร่วมกัน ขน้ั ตอนท่ี 2 วิเคราะหป์ ญั หาการเรียนการสอนรว่ มกัน เปน็ ขั้นทค่ี รผู ้สู อนจะนำปญั หาท่พี บ ในการจัดการเรียนการสอนมาปรึกษาหารือกับคู่สัญญา เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการแก้ปัญหาและ ร่วมกันวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหา ซึ่งอาจใช้แผนภูมิก้างปลาในการศึกษาสาเหตุของปัญหา และช่วยกัน รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ที่จะเป็นแนวทางในการวางแผนแก้ปัญหา โดยอาจนำปัญหาและสาเหตุที่วิเคราะห์ได้ ไปปรึกษาหวั หน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้ ซึง่ มบี ทบาทเป็นผ้นู ิเทศโดยตรงอยู่แล้ว หรอื ปรกึ ษาหารือเพ่ือนร่วมงาน ในกลุม่ สาระการเรยี นรู้ ซง่ึ อาจเป็นผเู้ ชี่ยวชาญหรอื มีประสบการณ์เก่ียวกบั ปัญหาในลักษณะเดียวกนั มาแล้ว ขั้นตอนที่ 3 กำหนดวัตถุประสงค์ในการแก้ปัญหาหรือพัฒนา เป็นขั้นตอนที่ผู้สอนจะตกลงใจ เลือกปัญหาที่สำคัญ และต้องการแก้ไขก่อนมาระบุวัตถุประสงค์ในการแก้ปัญหาหรือพัฒนา ส่วนคู่สัญญาจะมี หนา้ ที่คอยเปน็ คคู่ ิดใหค้ ำปรกึ ษาและให้กำลังใจ ขั้นตอนที่ 4 วางแผนการสอนและผลิตสื่อ เป็นข้ันตอนที่ผู้สอนจะนำจุดประสงค์การเรียนรู้ และเนื้อหาที่ต้องการให้ผู้เรียนได้เรียนทั้งจากในบทเรียน และสื่ออื่น ๆ มาวิเคราะห์ร่วมกับคู่สัญญา เพื่อวาง แผนการสอนและเตรียมการผลิตสื่อประกอบการสอน โดยคู่สัญญาจะทำงานร่วมกันกับผู้สอนพร้อมทั้งช่วย ปรับปรุง แก้ไขแผนการสอน และสื่อให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยทั้งคู่จะรับผิดชอบร่วมกันในผลของการสอน ในกรณีที่ผู้สอนต้องการให้คู่สัญญาเข้าไปสังเกตการสอน คู่สัญญาจะได้เข้าใจบทเรียนเพิ่มขึ้น จากการเข้าไปมี ส่วนร่วมในการวางแผนการสอน เมื่อผู้สอนเตรียมการสอนเรียบร้อยแล้ว คู่สัญญาก็จะให้กำลังใจ เพื่อช่วยให้ ผสู้ อนเกิดความมน่ั ใจ และเกดิ พลังท่จี ะดำเนินการสอนให้เกดิ สัมฤทธ์ิตามจดุ ประสงคท์ ต่ี งั้ ไว้ ขั้นตอนที่ 5 วางแผนการนิเทศการสอน เป็นขั้นที่ทั้งผู้สอนและคู่สัญญาจะวางแผนร่วมกัน โดยกำหนดวิธกี ารและแนวปฏิบัตใิ นการสงั เกตการสอนในชัน้ เรยี น รวมทง้ั ชว่ ยกนั สร้างเคร่ืองมอื สงั เกตการสอน ที่เฉพาะเจาะจงตามวัตถุประสงค์ในการนิเทศแต่ละครั้งหรือเลือกเครื่องมือสังเกตการสอนที่มีอยู่แล้ว และทำ ความเข้าใจเกี่ยวกับเครื่องมือสังเกตการสอนที่จะใช้รวมทั้งอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในขณะสังเกตการสอน ตลอดจนสร้างข้อตกลงร่วมกันว่าในขณะสอนและสังเกตการสอน ผู้สอนจะอนุญาตให้คู่สัญญาเข้าไปสังเกต การสอนอยู่หลังชั้นเรียน หรือจะให้คู่สัญญามีส่วนร่วมในการจัดการเรียนการสอนหรือร่วมกิจกรรมด้วย ตลอดจนตกลงร่วมกันว่าจะแจ้งใหผ้ ้เู รียนทราบหรือไมว่ ่าคาบเรยี นนี้จะมีผู้มาสังเกตการสอน จะสังเกตตลอดท้ัง คาบเรยี นหรอื ชว่ งเวลาหนึง่ ท้ังนี้ ขอ้ ตกลงทัง้ หมดตอ้ งอยใู่ นความยนิ ยอมพร้อมใจ หรือความตอ้ งการของผู้สอน ทั้งสิ้น เพื่อผู้สอนจะได้สบายใจไม่วิตกกังวลต่อพฤติกรรมการสังเกตการสอนของคู่สัญญา ในกรณีที่ผู้สอน ต้องการจะสังเกตการสอนด้วยตนเอง คู่สัญญาก็จะมีหน้าที่เพียงให้ความร่วมมือช่วยเหลือและให้ข้อเสนอแนะ ในการสร้างหรือเลือกใช้เครือ่ งมอื สงั เกตการสอนท่เี หมาะสมเท่านนั้ 8
รูปแบบการนเิ ทศภายในแบบร่วมพัฒนาสคู่ รูมืออาชพี ขั้นตอนที่ 6 สอนและสังเกตการสอน เป็นการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการเรียนการ สอนของนักเรยี นและครู ตลอดจนสภาพการณ์ทุกอย่างท่เี กิดขึน้ ในห้องเรียน การสงั เกตการสอนเปรียบเสมือน การนำกระจกบานใหญ่ไปตั้งไว้หลังชั้นเรียน เพื่อสะท้อนให้เห็นว่าในห้องเรียนนั้นมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง และผู้ สังเกตก็จะบันทึกข้อมูลที่รวบรวมได้ไปวิเคราะห์ สังเคราะห์ หรือพิจารณา วินิจฉัย เพื่อหาแนวทางในการ ปรบั ปรงุ แกไ้ ขพฤตกิ รรมการเรียนการสอนต่อไป ขั้นตอนที่ 7 วิเคราะห์ผลการสอนและผลการสังเกตการสอน เป็นขั้นที่คู่สัญญาจะร่วมกัน วเิ คราะหข์ อ้ มูลท่รี วบรวมได้จากการสงั เกตการสอน ซงึ่ จะคน้ พบพฤติกรรมทั้งที่ประสบความสำเรจ็ อย่างเด่นชัด ของผู้สอน และพฤติกรรมที่ควรปรับปรงุ แก้ไข ในด้านต่าง ๆ ซึ่งผู้สังเกตได้รวบรวมไว้ทั้งหมด ตลอดจนข้อมูล หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดข้ึนในขณะการเรียนการสอนกำลงั ดำเนินอยู่ ผู้สังเกตการสอนและผู้สอนจะร่วมกัน วิเคราะห์ แปลความ ตีความพฤติกรรมท่ีสงั เกตได้ และนำผลการวิเคราะห์ มาอภปิ รายแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกัน และกันบนพ้ืนฐานของความเสมอภาคจรงิ ใจ และมคี วามมงุ่ หวังอย่างเดยี วกัน คอื การพฒั นาคุณภาพการเรียน การสอน ขั้นตอนที่ 8 ให้ข้อมูลป้อนกลับซึ่งกันและกัน เป็นขั้นตอนเสริมสร้างขวัญกำลังใจที่ผู้ทำหน้าที่ นเิ ทศจะต้องใชเ้ ทคนิคหรือกลวิธหี รือทักษะท่ลี ะเอียดอ่อน ท่มี ปี ระสทิ ธภิ าพ (เทคนคิ วิธกี ารนิเทศทางอ้อม ของ นิพนธ์ ไทยพานิช ดังนี้ คือ ผู้นิเทศจะต้องพูดน้อย ฟังมาก ยอมรับและใช้ความคิดของครูให้เป็นประโยชน์ตอ่ การนิเทศ ใช้คำถามช่วยคลี่คลายทำให้กระจ่างชัดเจนขึ้น ให้คำยกย่อง ชมเชยในผลงานของครู หลีกเลี่ยงการ ให้คำแนะนำโดยตรง หากจำเป็นควรเสนอทางเลือกให้หลาย ๆ วิธีเพื่อให้ครูเลือกวิธีการที่เหมาะสมเอง การ สนับสนุนครูโดยคำพูดและการยอมรับการใช้ความรู้สึกของครูให้เป็นประโยชน์ หรือ ใช้แซนวิช เทคนิค ของ Bittlle ดังนี้ ชมเชย ยกย่อง ยอมรับในผลงานที่ประสบความสำเร็จของครู อภิปราย-พูดคุยถึงพฤติกรรมที่ควร ปรับปรุงแก้ไขเพียงเล็กน้อย สรุปผลงาน แนะวิธีแก้ไข ให้กำลังใจครูซ้ำอีกเพื่อจะได้เกิดพลังในการนำ ข้อเสนอแนะไปปฏบิ ัตใิ ห้เกิดผล) ประกอบกับต้องมีศิลปะในการพดู ผนวกกับการใช้จติ วทิ ยาในการให้คำปรึกษา ซงึ่ ไม่ควรให้มากเกินไปและไมค่ วรให้ในสง่ิ ท่ีเปน็ ข้อจำกดั ผนู้ เิ ทศจะตอ้ งเลือกเฉพาะพฤติกรรมท่ีคาดคะเนว่าครู จะสามารถปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงได้เท่านั้น การให้ข้อมูลป้อนกลับ ต้องคำนึงสัมพันธภาพทางวิชาชีพท่ี ตั้งอยู่บนพื้นฐานของพฤติกรรม ดังต่อไปนี้ คือ ต้องเกิดจากความต้องการของครู มุ่งพัฒนาทักษะวิช าชีพ ร่วมมือกันในฐานะเพื่อนร่วมวิชาชีพ มุ่งเฉพาะพฤติกรรมการเรียนการสอนไม่ใช่บุคลิกภาพของครู ครูมีความ พรอ้ มทีจ่ ะรับ สถานท่แี ละจังหวะเวลาที่เหมาะสม ครมู ีส่วนรว่ มทุกขัน้ ตอน อย่าใหม้ ากเกินไป หลีกเล่ียงการใช้ คำนิยมส่วนตัว ให้ในลักษณะเชิญชวน ไม่ใช่การวัดผลการสอนของครู อยู่บนพื้นฐานของการนิเทศทางอ้อม ประชาธิปไตย เสมอภาค จรงิ ใจ ให้เกยี รตกิ ัน ยอมรบั ซงึ่ กันและกนั ขั้นตอนที่ 9 วางแผนการสอนและการนิเทศการสอนต่อเนื่อง เป็นการเริ่มต้นวัฏจักรของ กระบวนการนิเทศอีกรอบหนึ่งเพื่อให้ครูและผู้นิเทศมีโอกาสทบทวนกระบวนการเรียนการสอ นร่วมกันอีกคร้ัง หนึ่ง และมีโอกาสเลือกพฤติกรรมการเรียนการสอนที่ประสบความสำเร็จ ไปใช้เพื่อการสอนครั้งต่อไป รวมทั้ง เลือกพฤติกรรมการเรียนการสอนที่ควรปรับปรุงในวัฏจักรเก่าไปร่วมกันศึกษาหาแนวทาง และวางแผนในการ ปรับปรุง โดยการนำไปทดลองสอนและสังเกตการสอนอีกครั้งหน่ึงในวัฏจักรใหม่ เทคนิคในการนิเทศของผู้ นิเทศและความมุ่งมั่นของผู้รับการนิเทศจะนำไปสู่ความเป็นครูมืออาชีพ (Professional Teacher) ในอนาคต ตอ่ ไป 9
รูปแบบการนเิ ทศภายในแบบร่วมพัฒนาสคู่ รมู อื อาชพี เครื่องมอื การสังเกตการสอน ชอ่ื ผู้สอน ............................................... วชิ า .................................................... ระดบั ชัน้ ................. ช่อื ผู้นเิ ทศ ...................................................................ตำแหน่ง..................................................................... ครง้ั ทน่ี ิเทศ ...................................................... วัน/เดือน/พ.ศ. ........................................................ คำช้ีแจง ใหก้ าเครื่องหมาย ในชอ่ งทางขวามือตามเกณฑ์การประเมนิ ดังนี้ เกณฑ์ 5 = ดีมาก 4 = ดี 3 = ปานกลาง 2 = นอ้ ย 1 = แกไข รายการประเมิน ระดับการปฏิบตั ิ ข้อค้นพบและ 54321 ข้อเสนอแนะ 1. ขัน้ เตรียมความพรอม(ขัน้ นำ) 10 1.1 มีกิจกรรมเตรียมความพรอมที่กระตุ้นสมองโดยใช้เวลา เหมาะสม (ไมยาวเกินไป)และนา่ สนใจ 2. ข้ันสอน 2.1 จัดกระบวนการเรียนรูสอดคลองกบั การทำงานของสมอง 2.2 จัดกระบวนการเรียนรู้สะท้อนมาตรฐานตัวชี้วัดของ หลักสตู ร 2.3 มลี ำดบั ขัน้ ตอนจากงา่ ยไปหายาก 2.4 เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการ สอน นกั เรยี นไดลงมอื ปฏบิ ตั ิ 2.5 มีการใชค้ ำถามสง่ เสริมกระบวนการคดิ ระดบั สูงแกผู้เรียน อยา่ งตอ่ เนื่อง 2.6 มีการใช้สื่ออุปกรณ์การเรียนรู และเทคโนโลยี ท่ี เหมาะสมกบั มาตรฐาน ตัวช้ีวัดในหลักสูตร 2.7 มีการใช้คำพูดเชงิ บวก เสรมิ แรงสร้างความภาคภูมใิ จ และความมั่นใจแกผ่ เู้ รยี น 2.8 มีความแมน่ ยำในเน้ือหา 2.9 เอาใจใส่ดแู ลช่วยเหลือผู้เรียนได้อย่างทวั่ ถงึ ทกุ กลมุ่ 2.10 จดั บรรยากาศสภาพแวดลอ้ มสง่ เสรมิ การเรยี นรู 2.11 สรา้ งวินยั ในชนั้ เรยี นด้วยความเปน็ กลั ยาณมิตร 2.12 จัดกิจกรรมการเรยี นการสอนไดค้ รบถวนตามแผน 3. ข้ันสรปุ 3.1 มีการทบทวนและสรุปความรูหรือทักษะที่สอนเพื่อให้ ผู้เรียนเข้าใจและแม่นยำในสิ่งที่เรียนรูมากขึ้นโดยให้ผู้เรียน ช่วยกนั สรุปบทเรยี น 3.2 มีวิธีการประเมินผลการเรียนรู ของผู้เรียนอย่าง หลากหลายและเหมาะสม
รปู แบบการนเิ ทศภายในแบบร่วมพัฒนาสู่ครมู ืออาชพี รายการประเมนิ ระดบั การปฏบิ ตั ิ ขอ้ ค้นพบและ 54321 ขอ้ เสนอแนะ 4. ด้านบคุ ลิกภาพ 4.1 เสียงดงั ชดั เจน 4.2 ใช้ภาษาถกู ต้อง 4.3 วางตนเหมาะสมกับความเปน็ ครู 4.4 ควบคุมอารมณ์ 4.5 แตง่ กายสภุ าพ รวม เฉลีย่ ผู้นิเทศให้ขอ้ มลู ย้อนกลับเพ่อื เปน็ แนวทางในการพฒั นาต่อยอดการเรยี นรู ดังน้ี 1. จุดเดนของการสอนในคาบนี้ ............................................................................................................................. .................................... ............................................................................................... ........................................................ ........................ ............................................................................................................................. .............. 2. ส่งิ ทคี่ วรปรับปรงุ / พฒั นาต่อยอด ................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... ลงช่ือ ........................................................ ผู้รบั การนเิ ทศ (..................................................) ลงชอ่ื ........................................................ผู้นิเทศ (................................................) 11
รูปแบบการนิเทศภายในแบบร่วมพัฒนาสู่ครูมอื อาชพี เครื่องมือการนิเทศการเรยี นการสอนของครู การนิเทศการเรยี นการสอนของ(นาย,นาง,นางสาว)................................................................................... โรงเรียนบ้านลำดวน กล่มุ สาระการเรยี นรู..................................................................................... ชนั้ ........................ครง้ั ท.่ี ...........วนั ท่.ี ...........เดือน....................................................พ.ศ. ......................... คำชแ้ี จง ให้กาเครือ่ งหมาย ชองอนั ดับคุณภาพตามความเป็นจรงิ ดังน้ี เกณฑ์ 5 = ดมี าก 4 = ดี 3 = ปานกลาง 2 = นอ้ ย 1 = แกไข รายการประเมนิ ระดบั การปฏิบตั ิ ข้อค้นพบและ 54321 ข้อเสนอแนะ 1. แผนการจัดการเรียนรู 1.1 มอี งคป์ ระกอบในแผนครบและเขียนไดสอดคลอง เหมาะสม 1.2 สือ่ สอดคลองกบั สาระการเรยี นรูและกิจกรรม 1.3 ประเมินผลสอดคลองกบั ตวั ช้วี ดั 1.4 ลำดบั ขั้นตอนของกิจกรรมเหมาะสม 1.5 แผนการจัดการเรยี นรู้เป็นปจั จุบัน 2. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู 2.1 วิธีการนำเขา้ สู่บทเรียน เรา้ ใจ/นำให้คดิ / อยากรอู ยากเรยี น 2.2 ครตู ัง้ ใจสอนและเตรยี มการสอนเปน็ อย่างดี 2.3 จดั กิจกรรมตามลำดบั ในแผนการจดั การเรยี นรู 2.4 ใช้เทคนคิ การสอนเหมาะสมกับสาระการ เรยี นรูและกจิ กรรม และมกี ารสอดแทรกคณุ ธรรม 2.5 ครแู ละนกั เรียนใช้สือ่ รว่ มกัน 2.6 มีการซักถามและสนทนาซึ่งกันและกันระหว่างครูและ นักเรยี น 2.7 ให้ความเอาใจใสนักเรยี นอยา่ งทว่ั ถงึ 2.8 ครูเสริมแรงไดดีและเหมาะสม 2.9 บรรยากาศการเรียนอบอ่นุ เป็นกนั เอง 2.10 นักเรยี นกลาแสดงออกไมเครยี ด 2.11 นักเรียนมีพฤติกรรมเป็นประชาธิปไตย เช่น รูจักหน้าที่ ยอมรบั ฟัง ความคดิ เห็นของผู้อืน่ เป็นผนู้ ำและผู้ตามทีด่ ี 2.12 นักเรียนมีความกระตือรือร้นทำงานอย่างตั้งใจและ เรยี บร้อย 2.13 ครูและนักเรียนร่วมกนั สรุปบทเรียน 12
รูปแบบการนเิ ทศภายในแบบรว่ มพัฒนาสูค่ รูมอื อาชีพ รายการประเมิน ระดับการปฏิบัติ ข้อคน้ พบและ 54321 ข้อเสนอแนะ 2.14 ครูให้งานและการบา้ นเหมาะสม 2.15 ครูเขาออกตรงเวลาและไมละท้งิ หอ้ งขณะชว่ั โมงสอน รวม เฉลยี่ ขอ้ คิดและข้อเสนอแนะของผู้นเิ ทศ ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................... ลงชื่อ................................................... ...............ผู้นิเทศ (.............................................................) สรุปผลการนิเทศภายในโรงเรียนบ้านลำดวน ในปีการศึกษา ๒๕๖๔ ครูผ้สู อนไดร้ บั การนเิ ทศจากผู้อำนวยการสถานศึกษาและครูทีไ่ ด้รับมอบหมาย ตามคำสัง่ การนิเทศ และรายงานผลตอ่ งานวชิ าการ นำข้อมูลมาแปลผลและรายงานการดำเนนิ งาน ไดด้ ังนี้ ครูได้รบั การนิเทศการจัดกิจกรรมการเรยี นรรู้ ้อย ๑๐๐ ครูมแี ผนการจัดการเรยี นรูท้ ีม่ ีคุณภาพ รอ้ ยละ ๑๐๐ ครูมขี ้อสอบวดั ผลที่มีคุณภาพและมีการสอดแทรกขอ้ สอบวัดผลระดับชาติ ครูมสี อื่ ทีส่ นับสนนุ การจัดกจิ กรรม การเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรเู้ น้นผ้เู รยี นเป็นสำคัญเปดิ โอกาสใหผ้ ู้เรยี นมีสว่ นร่วมในกจิ กรรมการเรยี นการสอน นักเรยี นได้ลงมือปฏิบัติ ครูผสู้ อนเข้าสอนตรงตามเวลา แต่งกายสุภาพเรียบร้อย ใชภ้ าษาได้อยา่ งเหมาะสม เน่อื งจากปีการศึกษา 256๔ ที่ผา่ นมา เปน็ ช่วงของการแพร่ระบาดของเช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 ทำให้การรูปแบบการดำเนินงานคลาดเคล่ือนไปจากเดมิ ครูผูส้ อนไม่สามารถจดั การเรียนการสอนใหเ้ ป็นไปตาม แผนการจัดการเรียนรู้ที่กำหนดไว้ไดเ้ ท่าทค่ี วร ข้อเสนอแนะ ครูควรหากลยทุ ธ์ในการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ท่ีเน้นกระบวนการ เพิ่มพูนทักษะการเรียนรูใ้ นศตวรรษ ที่ 21 (3Rs8Cs) ให้สูงขึ้นหรือเป็นไปตามเป้าหมายในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านสื่อต่าง ๆ ให้หลากหลาย หรือจัดหาช่องทางอื่นที่เป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับนักเรียน รวมทั้งการจัดบรรยากาศในห้องเรียนให้เอื้อต่อการ เรียนรู้ เช่น ปา้ ยนิเทศ มมุ หนงั สอื 13
รปู แบบการนิเทศภายในแบบร่วมพัฒนาสูค่ รูมืออาชีพ ภาคผนวก 14
รูปแบบการนเิ ทศภายในแบบร่วมพัฒนาสคู่ รมู ืออาชพี 15
รูปแบบการนเิ ทศภายในแบบร่วมพัฒนาสคู่ รมู ืออาชพี 16
รปู แบบการนิเทศภายในแบบร่วมพัฒนาสู่ครูมืออาชพี ชื่อโครงการ สนบั สนนุ การบรหิ ารงานวิชาการ แผนงาน บรหิ ารงานวิชาการ มาตรฐานการศึกษา มาตรฐานท่ี 1 ขอ้ 1.1 (1) และ 1.1 (2) มาตรฐานท่ี 2 ข้อ (1), (2), (3) และ (4) ผ้รู บั ผดิ ชอบโครงการ นางสาวศุภากร พันธศ์ รี ลกั ษณะโครงการ โครงการตอ่ เน่ือง ระยะเวลาดำเนนิ การ พฤษภาคม 2555 - เมษายน 2566 สนองกลยทุ ธโ์ รงเรียนที่ กลยทุ ธข์ ้อที่ 1 และ 3 1. หลักการและเหตุผล โรงเรยี นบา้ นลำดวน เปน็ สถานศึกษาทจี่ ดั การศึกษาระดับการศกึ ษาปฐมวยั และระดบั การศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐานซึ่งต้องปฏบิ ัติตามกฎกระทรวงซง่ึ ต้องรับการประเมินคณุ ภาพภายในโดยตน้ สังกดั และการประเมนิ คณุ ภาพ ภายนอกโดย สมศ. ตามทีก่ ฎหมายได้กำหนดไว้ โรงเรียนจึงต้องพฒั นาระบบประกันคุณภาพภายใน เพ่ือเปน็ การ พฒั นาระบบการบรหิ ารจดั การศึกษา และเปน็ การสร้างความพรอ้ มในการประเมนิ คุณภาพ การศกึ ษา ฝา่ ยงาน วิชาการจึงได้จัดทำโครงการนี้ข้นึ มาเพอ่ื เปน็ แนวทางการดำเนนิ งานประกนั คุณภาพภายใน โดยกำหนดให้มีการ วางแผน ดำเนนิ งาน ประเมนิ ผล และปรับปรงุ แก้ไข ใหก้ ระบวนการทำงานเปน็ ไปอย่างมี ประสิทธิภาพ เปน็ ระบบ มีมาตรฐาน และสามารถผดงุ รักษาคุณภาพการทำงานไว้ได้อย่างต่อเนื่อง การนเิ ทศภายในสถานศึกษามีความสำคัญและจำเปน็ อย่างยงิ่ ต่อการจดั การเรยี นรูแ้ ละการพฒั นา คณุ ภาพ การศึกษาใหบ้ รรลตุ ามเป้าหมาย ซ่ึงเป็นหน้าทขี่ องผบู้ ริหารสถานศึกษาและบุคลากรทกุ ฝา่ ยใน สถานศกึ ษาจะต้อง ร่วมมือร่วมใจกันดำเนินการพฒั นางานทกุ ดา้ นในสถานศึกษา เพ่อื ให้สถานศกึ ษาได้ใช้เป็น แนวทางในการกำหนด มาตรฐานของสถานศกึ ษาให้ร้อยรดั กัน ทำใหเ้ กิดผลในทางการปฏบิ ัติท่ีชดั เจนขนึ้ หลักสูตรสถานศกึ ษาถือเปน็ แมบ่ ทสำคัญในการจัดการเรยี นการสอน เพ่ือใหผ้ ู้เรยี นบรรลุเป้าหมายท่ี กำหนด การพัฒนาหลักสูตรจึงเปน็ ภารกิจสำคญั ของสถานศกึ ษาทตี่ อ้ งมกี ารดำเนนิ งานเป็นระเบียบแบบแผน ต่อเน่อื งกนั ไป ซึง่ เริ่มจากการวางจุดมุง่ หมายในการดำเนนิ งานที่ต้องคำนงึ ถงึ หลกั สตู รต่าง ๆ ท่สี ร้างข้ึนมาใหม่ ต้อง มปี ระสทิ ธภิ าพมากกวา่ หลกั สูตรเดมิ ตอ้ งสนองตอบความต้องการของผเู้ รียนและท้องถิน่ และนำไปใชเ้ ปน็ แนวทาง ในการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผเู้ รยี นเป็นสำคัญ ครูและผู้เก่ียวข้องกับการพฒั นาหลักสูตรจงึ จำเปน็ ต้องมีความรู้ ความเข้าใจในเป้าหมายของการพัฒนา โดยคำนึงถงึ ประโยชนใ์ นด้านการพัฒนาจิตใจและ ทัศนคติของนักเรียนดว้ ย การดำเนินงานจงึ ตอ้ งได้รับความรว่ มมอื และการประสานงานอย่างดีจากผ้เู กี่ยวข้องทางด้านหลกั สตู รทกุ ๆ ดา้ น การพฒั นาหลกั สตู รและกระบวนการเรียนรู้จึงเปน็ เครอ่ื งมือสำคญั ในการเปลย่ี นแปลงพฤติกรรมผู้เรยี น โรงเรียนจึง ตอ้ งพัฒนาหลักสตู รและพฒั นากระบวนการเรียนร้ไู ปพร้อมกัน ซ่งึ จะเกดิ ประโยชน์สูงสดุ ต่อการจัด การศึกษาท่ีมี คณุ ภาพแก่เด็กและผู้เรยี นตามเจตนารมณข์ องพระราชบัญญัตกิ ารศกึ ษาแห่งชาติ พทุ ธศกั ราช 2542 (แกไ้ ขเพมิ่ เตมิ พ.ศ. 2545) ดว้ ยเหตนุ ี้โรงเรยี นบ้านลำดวนจึงได้จัดทำโครงการสนับสนนุ การ บริหารงานวชิ าการขึน้ 2. วัตถุประสงค์ 2.1 เพอื่ ให้นักเรียนมีความสามารถในการอ่าน การเขียน การสือ่ สาร การคิดคำนวณ การคิดวิเคราะห์ คดิ อยา่ งมวี ิจารณญาณ อภปิ รายแลกเปลีย่ นความคดิ เหน็ และแก้ปัญหา 2.2 เพ่อื ใหโ้ รงเรยี นมเี ป้าหมาย วิสยั ทัศน์และพนั ธกิจทสี่ ถานศกึ ษากำหนดชดั เจน 17
รปู แบบการนิเทศภายในแบบรว่ มพัฒนาสคู่ รูมอื อาชีพ 2.3 เพอื่ ใหโ้ รงเรยี นมรี ะบบบรหิ ารจัดการคณุ ภาพของสถานศึกษาและดำเนินงานพัฒนาวิชาการท่ี เน้น คณุ ภาพผู้เรยี นรอบด้านตามหลักสตู รสถานศึกษาและทกุ กล่มุ เป้าหมาย 3. เป้าหมาย 3.1 เชงิ ปริมาณ 3.1.1 ครูมีความรู้ ความเข้าใจและความสามารถในการพฒั นาหลักสูตร สามารถจัดทำ หลักสูตรของกลุ่มสาระการเรียนรู้ครบทกุ กลุ่มสาระการเรียนร้ไู ดอ้ ยา่ งเหมาะสม สอดคล้องกบั ท้องถ่ิน และเทยี บเคยี งกบั มาตรฐานสากล รอ้ ยละ 80 3.1.2 ครู สามารถจัดกจิ กรรมการเรยี นรทู้ ห่ี ลากหลาย เนน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญควบคู่ไปกับ การสรา้ ง บรรยากาศใชช้ ้ันเรยี นใหเ้ ออื้ ต่อการเรียนรู้ของผเู้ รยี นไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ ร้อยละ 80 3.1.3 ครแู ละบุคลากรของสถานศกึ ษา มคี วามรู้ความเข้าใจตอ่ ระบบประกนั คุณภาพ การศกึ ษาสามารถปฏิบตั ิงานไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพเพื่อพฒั นาคณุ ภาพการจัดการศกึ ษาใหม้ คี ุณภาพ ตามมาตรฐาน การศกึ ษา ร้อยละ 80 3.2 เชงิ คุณภาพ 3.2.1 โรงเรียนมีหลกั สตู รทีส่ อดคล้องกับทอ้ งถ่ินและเทยี บเคียงกับมาตรฐานสากลทุก กลุม่ สาระการ เรยี นรู้ สามารถนำไปใช้ได้อย่างถูกต้องและมปี ระสทิ ธิภาพ 3.2.2 โรงเรยี นมีรูปแบบและกระบวนการในการนเิ ทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลนิเทศ ภายใน โรงเรยี น ด้านวชิ าการอย่างเป็นระบบ ชัดเจนและเกิดการพัฒนาเปลี่ยนแปลงในทางทดี่ ขี ึ้น 3.2.3 สถานศกึ ษามรี ะบบประกันคุณภาพการศึกษาท่ดี ีครูบุคลากร ผเู้ รยี น ผู้ปกครอง และผ้ทู ม่ี ี สว่ นเกีย่ วขอ้ งมีความเข้าใจ ให้ความรว่ มมอื ในการจัดการศึกษา เพ่ือพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาให้มี คณุ ภาพ ตามมาตรฐานการศึกษา 4. กิจกรรมและการดำเนนิ การ ระยะเวลา ผรู้ บั ผดิ ชอบ กิจกรรม/ขนั้ ตอนการดำเนินการ กิจกรรมท่ี 1 กิจกรรมพฒั นาระบบการประกนั ตลอดปีการศึกษา - ผู้อำนวยการ คณุ ภาพ การศึกษา ขนั้ ตอนการดำเนินงาน เมษายน 2565 - รองผอู้ ำนวยการ 1.1 ประชมุ วางแผนเสนอกจิ กรรม พฤษภาคม 2565 พฤษภาคม 2565 - ครูผู้รบั ผดิ ชอบ 1.2 แตง่ ตั้งคณะกรรมการดำเนนิ งาน กิจกรรม 1.3 ดำเนินงานตามกระบวนการประกนั คณุ ภาพ พฤษภาคม2565 การศกึ ษา พฤษภาคม 2565 - คณะกรรมการ - จดั ทำปฏทิ นิ ปฏิบตั ิงาน พฤษภาคม 2565 ประกนั คุณภาพ - จดั ทำคู่มอื การดำเนนิ งาน เมษายน 2566 ภายในสถานศกึ ษา - ประชุมเชิงปฏบิ ัตกิ าร เมษายน 2566 - เก็บรวบรวมและวเิ คราะหข์ ้อมูล - จดั ทำรายงานการประเมนิ ตนเอง (SAR) 18
รูปแบบการนิเทศภายในแบบร่วมพัฒนาสู่ครมู ืออาชพี กจิ กรรม/ข้ันตอนการดำเนินการ ระยะเวลา ผรู้ บั ผดิ ชอบ เมษายน 2566 - สรุปและรายงานผลการดำเนินงานเสนอต่อ หนว่ ยงานตน้ สงั กดั และเผยแพร่ตอ่ สาธารณชน/ผู้มี ส่วนได้ สว่ นเสยี กจิ กรรมที่ 2 กจิ กรรมการนิเทศภายใน ตลอดปี การศึกษา - ผอู้ ำนวยการ สถานศกึ ษา ข้ันตอนการดำเนินงาน 2.1 ประชมุ วางแผนและเสนอกิจกรรม เมษายน 2565 - รองผูอ้ ำนวยการ 2.2 แต่งต้ังคณะกรรมการดำเนนิ การ พฤษภาคม 2565 2.3 ดำเนนิ งานตามกระบวนการประกันคณุ ภาพ พฤษภาคม 2565 - ครผู ูร้ บั ผดิ ชอบ การศึกษา กิจกรรม 3.1 ประชุมกำหนดรูปแบบการนเิ ทศภายใน พฤษภาคม 2565 - คณะกรรมการ 3.2 จดั ทำตารางการนเิ ทศภายใน พฤษภาคม 2565 ประกนั คุณภาพภายใน 3.3 ดำเนินการนิเทศภายใน สถานศึกษา - นเิ ทศการเตรียมการสอน ม.ิ ย. 65 – ม.ี ค. 66 - นิเทศชน้ั เรยี น - นิเทศบคุ ลากร เมษายน 2566 นางสาวรชั นีกร จติ 2.4 สรปุ และรายงานผลการดำเนินงาน จำนง เมษายน 2565 นางสุภาวดี พชิ นาหะรี กจิ กรรมที่ 3 กจิ กรรมสนับสนนุ การจัดกิจกรรมการ เมษายน 2565 เรยี น การสอนและบรรยากาศในชั้นเรียน พฤษภาคม 2565 ขัน้ ตอนการดำเนนิ งาน พฤษภาคม 2565 4.1 จดั ทำโครงการ/เสนอโครงการ มิถุนายน 2565 4.2 ประชุมช้แี จง ทำความเข้าใจและหารือการ ดำเนินงาน 4.3 สำรวจความตอ้ งการวัสดุ-อปุ กรณ์ จากคณะครู 4.4 จดั ซอื้ จดั หาวัสดุ-อุปกรณ์ 4.5 สรปุ ผลการดำเนินงานและรายงานผลการ ปฏบิ ตั ิงาน 5. งบประมาณ 5.1 รวมทั้งหมด 43,000 บาท 5.2 ค่าใช้จา่ ยจำแนกตามกจิ กรรม 19
รปู แบบการนเิ ทศภายในแบบรว่ มพัฒนาสู่ครมู อื อาชีพ กิจกรรม รวม รายละเอยี ดการใช้จ่าย งบประมาณ งบประมาณ กจิ กรรมท่ี 1 กิจกรรมพัฒนาระบบการ ประกันคุณภาพการศึกษา ตอบแทน ใช้สอย วัสดุ - คา่ ใช้จ่าย 5,000 -- 5,000 - ค่าอุปกรณ์สำนักงาน กจิ กรรมท่ี 2 กิจกรรมการนิเทศภายใน 2,000 - - 2,000 สถานศกึ ษา - คา่ ใช้จา่ ย 36,000 - - 36,000 - คา่ อุปกรณ์สำนกั งาน กิจกรรมที่ 3 กิจกรรมสนบั สนุนการจดั วธิ ีการวัด เครือ่ งมือ กิจกรรมการเรยี นการสอนและบรรยากาศใน การประเมนิ แบบรายงานการประเมนิ ตนเอง ชัน้ เรียน - ค่าอุปกรณส์ ำนักงาน การประเมนิ แบบนิเทศการสอน 6. การประเมินผล การประเมนิ แบบบันทึกการเย่ียมชั้นเรยี น ตัวชี้วัด การประเมนิ แบบสอบถาม 1. โรงเรียนมรี ะบบการประกันคณุ ภาพภายใน สถานศึกษา ทมี่ ีประสิทธภิ าพ 2. ครูผู้สอนไดร้ ับการนิเทศและสามารถนำผล การนิเทศ ไปใชใ้ นการปรบั ปรุงและพฒั นาการ จัดการเรียนการสอน ของตนเองได้ 3. ครจู ัดบรรยากาศชัน้ เรยี นท่ีเอ้ือตอ่ การ เรียนรขู้ องผูเ้ รียนไดด้ ี 4. ผเู้ กีย่ วขอ้ ง มีความพึงพอใจในการ ดำเนินงานของ โรงเรียน ร้อยละ 80 7. ผลท่คี าดว่าจะได้รบั โรงเรยี นมกี ารจัดการบริหารงานวชิ าการไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพและเกิดประสิทธผิ ล ผเู้ ก่ียวข้องทุกฝ่ายมีความพึงพอใจในการจดั การศึกษาของโรงเรยี น (ลงชื่อ) ผู้เสนอโครงการ (ลงช่อื ) ผเู้ หน็ ชอบโครงการ (นางสาวศุภากร พันธศ์ ร)ี (นางสาวศุภากร พนั ธ์ศรี) รองผอู้ ำนวยการหัวหน้ากล่มุ งานวิชาการ (ลงช่อื ) ผูอ้ นมุ ัติโครงการ (นายสมบตั ิ ทองโพธ)ิ์ ผอู้ ำนวยกำรโรงเรยี นบำ้ นลำดวน 20
รปู แบบการนิเทศภายในแบบร่วมพัฒนาส่คู รมู อื อาชพี ปฏิทนิ การนเิ ทศการจดั การเรยี นการสอน โรงเรยี นบ้านลำดวน ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2565 วนั เดอื น ปี กจิ กรรม/การปฏิบตั ิ ผู้รับผดิ ชอบ 13 พฤษภาคม 2565 ประชมุ ชแ้ี จงคณะครเู กี่ยวกับการนิเทศภายใน ผอู้ ำนวยการโรงเรียน 17 พฤษภาคม 2565 แต่งตัง้ คณะกรรมการนเิ ทศภายใน 1-30 มิถนุ ายน 2565 นเิ ทศครง้ั ที่ 1 - ผู้อำนวยการโรงเรยี น 6-10 มิถุนายน 2565 - รองผู้อำนวยการโรงเรยี น 14-17 มิถนุ ายน 2565 - ระดบั ปฐมวัย - หวั หนา้ วชิ าการระดบั ตา่ งๆ 20-24 มิถุนายน 2565 - ระดบั ประถมศึกษาปที ่ี 1 -3 27-30 มิถนุ ายน 2565 - ระดบั ประถมศึกษาปีท่ี 4 -6 รองผอู้ ำนวยการและหัวหนา้ 30 มิถนุ ายน 2565 - ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 3 วิชาการรายงานผลการนิเทศ รองผ้อู ำนวยการและหัวหน้าวิชาการรายงานผลการ เสนอผู้อำนวยการโรงเรียน 1-31 กรกฎาคม 2565 นเิ ทศเสนอผู้อำนวยการโรงเรียน - ผอู้ ำนวยการโรงเรียน 4-8 กรกฎาคม 2565 - รองผูอ้ ำนวยการโรงเรียน 11-15 กรกฎาคม 2565 นิเทศครั้งท่ี 2 - หวั หน้าวชิ าการระดับตา่ งๆ 18-22 กรกฎาคม 2565 - ระดับปฐมวยั 25-29 กรกฎาคม 2565 - ระดับประถมศึกษาปที ี่ 1 -3 รองผอู้ ำนวยการและหัวหน้า 31 กรกฎาคม 2565 - ระดับประถมศึกษาปีท่ี 4 -6 วิชาการรายงานผลการนเิ ทศ - ระดบั มธั ยมศึกษาปีที่ 1 - 3 เสนอผู้อำนวยการโรงเรยี น 1-31 สงิ หาคม 2565 - ผูอ้ ำนวยการโรงเรียน 1-5 สิงหาคม 2565 รองผูอ้ ำนวยการและหัวหน้าวิชาการรายงานผลการ - รองผ้อู ำนวยการโรงเรยี น 8-11 สงิ หาคม 2565 นเิ ทศเสนอผู้อำนวยการโรงเรียน - หัวหนา้ วิชาการระดับต่างๆ 15-19 สิงหาคม 2565 22-26 สิงหาคม 2565 นิเทศครงั้ ท่ี 3 รองผู้อำนวยการและหัวหน้า 31 สิงหาคม 2565 - ระดบั ปฐมวยั วชิ าการรายงานผลการนเิ ทศ - ระดบั ประถมศึกษาปที ี่ 1 -3 เสนอผูอ้ ำนวยการโรงเรยี น 1-30 กนั ยายน 2565 - ระดับประถมศึกษาปที ่ี 4 -6 - ผอู้ ำนวยการโรงเรียน 5-9 กนั ยายน 2565 - ระดับมัธยมศึกษาปที ่ี 1 - 3 - รองผูอ้ ำนวยการโรงเรียน 12-16 กันยายน 2565 - หวั หนา้ วชิ าการระดบั ต่างๆ 19-23 กันยายน 2565 รองผอู้ ำนวยการและหวั หนา้ วิชาการรายงานผลการ 26-30 กนั ยายน 2565 นเิ ทศเสนอผู้อำนวยการโรงเรียน คณะกรรมการนิเทศ 31 สงิ หาคม 2565 นเิ ทศคร้งั ท่ี 4 - ระดับปฐมวัย - ระดับประถมศึกษาปีที่ 1 -3 - ระดับประถมศึกษาปีที่ 4 -6 - ระดบั มัธยมศึกษาปีท่ี 1 - 3 คณะกรรมการนเิ ทศสรุปและรายงานผลการนิเทศ เสนอผู้อำนวยการโรงเรยี น 21
รูปแบบการนิเทศภายในแบบร่วมพัฒนาสคู่ รูมอื อาชีพ ปฏิทินการนเิ ทศการจัดการเรียนการสอน โรงเรียนบ้านลำดวน ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2565 วนั เดอื น ปี กิจกรรม/การปฏบิ ตั ิ ผรู้ ับผิดชอบ 1-30 พฤศจกิ ายน 2565 นเิ ทศครง้ั ท่ี 1 7-11 พฤศจกิ ายน 2565 - ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี น 14-18 พฤศจิกายน 2565 - ระดับปฐมวยั - รองผอู้ ำนวยการ 21-25 พฤศจิกายน 2565 - ระดบั ประถมศึกษาปที ี่ 1 -3 โรงเรยี น 28-30 พฤศจิกายน 2565 - ระดับประถมศึกษาปีที่ 4 -6 - หัวหนา้ วิชาการระดับ 30 พฤศจกิ ายน 2565 - ระดบั มธั ยมศึกษาปีที่ 1 - 3 ตา่ งๆ รองผู้อำนวยการและหวั หน้าวิชาการรายงานผล 1-31 ธันวาคม 2565 การนเิ ทศเสนอผอู้ ำนวยการโรงเรียน รองผู้อำนวยการและ 6-9 ธันวาคม 2565 หวั หน้าวิชาการรายงาน 13-16 ธันวาคม 2565 นิเทศครั้งที่ 2 ผลการนเิ ทศเสนอ 19-23 ธนั วาคม 2565 - ระดบั ปฐมวยั ผอู้ ำนวยการโรงเรยี น 26-30 ธันวาคม 2565 - ระดับประถมศึกษาปีที่ 1 -3 30 ธนั วาคม 2565 - ระดับประถมศึกษาปีที่ 4 -6 - ผู้อำนวยการโรงเรยี น - ระดับมัธยมศึกษาปที ่ี 1 - 3 - รองผอู้ ำนวยการ 1-31 มกราคม 2566 โรงเรยี น 3-6 มกราคม 2566 รองผู้อำนวยการและหัวหน้าวิชาการรายงานผล - หวั หน้าวชิ าการระดับ 9-13 มกราคม 2566 การนิเทศเสนอผอู้ ำนวยการโรงเรียน ต่างๆ 16-20 มกราคม 2566 23-27 มกราคม 2566 นเิ ทศครั้งท่ี 3 รองผอู้ ำนวยการและ 31 มกราคม 2566 - ระดบั ปฐมวัย หวั หนา้ วชิ าการรายงาน - ระดับประถมศึกษาปีที่ 1 -3 ผลการนิเทศเสนอ 1-25 กุมภาพนั ธ์ 2565 - ระดับประถมศึกษาปที ่ี 4 -6 ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี น 6-10 กุมภาพนั ธ์ 2565 - ระดับมัธยมศึกษาปีท่ี 1 - 3 13-17 กมุ ภาพันธ์ 2565 - ผอู้ ำนวยการโรงเรยี น 20-24 กมุ ภาพนั ธ์ 2565 รองผอู้ ำนวยการและหัวหน้าวิชาการรายงานผล - รองผู้อำนวยการ 27-28 กุมภาพนั ธ์ 2565 การนเิ ทศเสนอผู้อำนวยการโรงเรยี น โรงเรียน 28 กุมภาพันธ์ 2565 - หวั หนา้ วิชาการระดับ นิเทศครงั้ ที่ 4 ต่างๆ - ระดับปฐมวัย - ระดบั ประถมศึกษาปที ่ี 1 -3 รองผอู้ ำนวยการและ - ระดบั ประถมศึกษาปที ่ี 4 -6 หัวหนา้ วชิ าการรายงาน - ระดับมัธยมศึกษาปที ี่ 1 - 3 ผลการนเิ ทศเสนอ ผู้อำนวยการโรงเรยี น คณะกรรมการนิเทศสรุปและรายงานผลการ นิเทศเสนอผู้อำนวยการโรงเรียน - ผอู้ ำนวยการโรงเรียน - รองผูอ้ ำนวยการ โรงเรียน - หวั หน้าวิชาการระดับ ต่างๆ คณะกรรมการนเิ ทศ 22
รปู แบบการนเิ ทศภายในแบบร่วมพัฒนาสคู่ รมู ืออาชีพ คำสัง่ โรงเรียนบ้านลำดวน ท่ี 18 / 2565 เร่อื ง แต่งต้ังคณะกรรมการนิเทศและเยีย่ มขัน้ เรียน ปกี ารศึกษา 2565 .................................................................................... ด้วยโรงเรียนบ้านลำดวน ได้กำหนดนโยบายใหม้ กี ารจัดทำระบบการนิเทศภายใน เพ่ือพัฒนา ตนเอง โดยใชก้ ระบวนการทำงานและการดำเนินกิจกรรมร่วมกันระหวา่ งผู้บริหารและบุคลากรภายในโรงเรียน ใน การแนะนำ ช่วยเหลอื สง่ เสรมิ เกี่ยวกบั การเรียนการสอนและพัฒนาการดำเนนิ งานให้เป็นไปตามมาตรฐาน ของโรงเรียน เพื่อปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้มีประสิทธิภาพเป็นไปตามวัตถุประสงค์ และ เปา้ หมายของการศึกษาท่กี ำหนดไว้ และเพ่ือให้ได้มาซ่ึงผลสัมฤทธิอ์ นั สูงสดุ ในการเรยี นของนักเรยี น เพอื่ ให้การ ดำเนนิ การ ดงั กล่าวเปน็ ไปดว้ ยความเรียบรอ้ ย จึงขอแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินกิจกรรม ดังน้ี 1. คณะกรรมการฝา่ ยอำนวยการ ประกอบด้วย 1.1 นายสมบตั ิ ทองโพธ์ิ ผอู้ ำนวยการโรงเรยี น ประธานกรรการ 1.2 นางสาวศุภากร พนั ธ์ศรี รองผูอ้ ำนวยการโรงเรียน รองประธานกรรการ 1.3 นางนนั ชลี จติ วริ ยิ ะพนั ธ์ ครู กรรมการ 1.4 นางสาวธนติ ร พทุ ธานุกลู ครู กรรมการ 1.5 นายอนนั ต์ ทองสิทธ์ิ ครู กรรมาการ 1.6 นางกนกวรรณ ยืนยง ครู กรรมการและเลขานุการ มีหน้าที่ 1. ให้คำปรกึ ษา เสริมสรา้ งความรคู้ วามเข้าใจ รว่ มประชุมวางแผนการนิเทศ ภายในสถานศึกษา 2. ประสานงานระหวา่ งผนู้ ิเทศและผู้รบั การนิเทศ 3. ใหก้ ารสนบั สนนุ ดา้ นงบประมาณในการดำเนินงานโครงการและก ากบั ตดิ ตาม ประเมินผลการจัดกิจกรรมนเิ ทศภายใน 2. คณะกรรมการนเิ ทศและเย่ียมชนั้ เรียน ระดับอนบุ าลปีท่ี 2 – 3 1. นายสมบัติ ทองโพธ์ิ ผู้อำนวยการโรงเรยี น ประธานกรรการ 2. นางสาวศุภากร พนั ธศ์ รี รองผูอ้ ำนวยการโรงเรยี น กรรมการ 3. นางสาวสวุ รกั ษ์ สขุ ศิริ ตำแหน่ง ครู กรรมการและเลขานุการ 3. คณะกรรมการนิเทศและเยย่ี มชน้ั เรียน ระดับชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 1 – 3 1. นายสมบัติ ทองโพธ์ิ ผอู้ ำนวยการโรงเรียน ประธานกรรการ 2. นางสาวศภุ ากร พันธ์ศรี รองผู้อำนวยการโรงเรยี น กรรมการ 3. นายเกษมทรัพย์ บญุ ชาติ ตำแหน่ง ครู กรรมการและเลขานุการ 23
รูปแบบการนเิ ทศภายในแบบร่วมพัฒนาสคู่ รมู ืออาชพี 4. คณะกรรมการนิเทศและเยยี่ มชัน้ เรยี น ระดับช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 4 – 6 1. นายสมบัติ ทองโพธิ์ ผู้อำนวยการโรงเรยี น ประธานกรรการ 2. นางสาวศภุ ากร พนั ธศ์ รี รองผูอ้ ำนวยการโรงเรียน กรรมการ 3. นางกนกวรรณ ยนื ยง ตำแหน่ง ครู กรรมการและเลขานุการ 5. คณะกรรมการนิเทศและเยยี่ มชัน้ เรยี น ระดบั ช้ันมธั ยศกึ ษาปีท่ี 1 – 3 1. นายสมบัติ ทองโพธ์ิ ผ้อู ำนวยการโรงเรียน ประธานกรรการ 2. นางสาวศภุ ากร พนั ธ์ศรี รองผอู้ ำนวยการโรงเรยี น กรรมการ 3. นายนพรตั น์ ดีโพธ์กิ ลาง ตำแหน่ง ครู กรรมการและเลขานุการ มหี นา้ ท่ี 1. ร่วมวางแผนการปฏบิ ัตงิ านโดยมสี ว่ นรว่ มในการคิดวเิ คราะห์สภาพปญั หาและ ความตอ้ งการ รวมทง้ั วางแนวทางในการปฏิบัตงิ าน 2. ดำเนนิ การนิเทศ ให้คำแนะนำปรกึ ษา ช่วยเหลอื แก้ไขจุดบกพร่องและช้แี นะให้ ผรู้ บั การนิเทศได้พัฒนาตนเอง สรา้ งขวัญและกำลงั ใจแก่ผู้รบั การนเิ ทศ เพ่ือกระต้นุ และ สนับสนุนให้ผู้รบั การนิเทศได้พัฒนาตนเอง 3. ดำเนนิ การประเมินผลการจัดกิจกรรมนเิ ทศภายใน เพื่อหาแนวทางปรบั ปรุง แก้ไขจดุ บกพร่องตา่ งๆและเพ่ือหาแนวทางยกระดบั คุณภาพการปฏบิ ตั ิงานของ บุคลากรให้สงู ขึน้ 4. สรปุ และรายงานผลตอ่ ผบู้ รหิ าร 6. กรรมการสรุปและรายงานผล ประกอบด้วย 3.1 นางสาวศภุ ากร พันธ์ศรี รองผอู้ ำนวยการโรงเรียน ประธานกรรมการ 3.2 นางกนกวรรณ ยนื ยง ครู กรรมการและเลขานุการ มีหนา้ ท่ี 1. สรปุ และรายงานผลการจัดกจิ กรรมนเิ ทศภายในต่อผบู้ ริหาร ขอให้คณะกรรมการที่ไดร้ บั แต่งตงั้ ปฏิบตั ิหนา้ ทท่ี ่ีไดร้ บั มอบหมายใหเ้ ปน็ ไปด้วยความเรียบรอ้ ย สำเรจ็ ตาม วัตถปุ ระสงคแ์ ละทันตามกำหนดเวลา เพอื่ ประโยชน์ของนกั เรียนและโรงเรียนสบื ไป สัง่ ณ วนั ท่ี 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 (นายสมบตั ิ ทองโพธ)์ิ ผ้อู ำนวยการโรงเรียนบ้านลำดวน 24
Search
Read the Text Version
- 1 - 28
Pages: