อบรมนักธรรมช้ันตรี ปี การศึกษา ๒๕๕๘ พระมหาสุริยา โอภาโส วดั โรงวาสสงขลา
สติ สัมปชัญญะ หิริ โอตตปั ปะอุปการธรรม โลกปาลธรรม โสภณธรรม ทุกะ คือ หมวด ๒ ทุลลภปคุ ฺคโลขันติ โสรัจจะ บุพการี กตญั ญู กตเวที
ตกิ ะ คือ หมวด ๓๑. รัตนะ ๓ ๔. ทุจริต + สจริต ๖. สัปปุริสบัญญตั ิ๒. คุณของรัตนะ ๓ ๕. อกศุ ลมูล + กศุ ลมูล ๗. อปัณณกปฏิปทา๓. อาการทพ่ี ระพทุ ธเจ้าทรงสั่งสอน ๘. บุญกริ ิยาวตั ถุ ๙. สามัญลกั ษณ์
จตุกกะ คือ หมวด ๔๑. วุฑฒิ ๗. อทิ ธิบาท ๑๓. ธาตุกมั มฏั ฐาน๒. จกั ร ๘. ความไม่ประมาทที่ควรทา ๑๔. อริยสัจ๓. อคติ ๙. ปาริสุทธิศีล๔. อนั ตรายของภิกษุสามเณรผู้บวชใหม่ ๑๐. อารักขกมั มฏั ฐาน๕. ปธาน ๑๑. พรหมวหิ าร๖. อธิษฐานธรรม ๑๒. สติปัฏฐาน
ปัญจกะ คือ หมวด ๕๑. อนนั ตริยกรรม ๖. อานิสงส์แห่งการฟังธรรม๒. อภิณหปัจจเวกขณ์ ๗. พละ๓. เวสารัชชกรณธรรม ๘. นิวรณ์๔. องคแ์ ห่งภิกษุบวชใหม่ ๙. ขนั ธ์๕. องคแ์ ห่งธรรมกถึก
ฉักกะ คือ หมวด ๖ สัตตกะ คือ หมวด ๗๑. คารวะ ๑. อปริหานิยธรรม๒. สารณยี ธรรม ๒. อริยทรัพย์๓. อายตนะภายใน ๓. สัปปรุ ิสธรรม๔. อายตนะภายนอก ๔. สัปปรุ ิสธรรมอกี๕. วญิ ญาณ ๕. โพชฌงค์๖. สัมผสั๗. เวทนา๘. ธาตุ
อฏั ฐกะ คือ หมวด ๘๑. โลกธรรม๒. ลกั ษณะตดั สินพระธรรมวนิ ัย๓. มรรค
อฏั ฐกะ คือ หมวด ๙๑. โกธะ โกรธ๒. มักขะ ลบหลู่คุณท่าน๓. อสิ สา ริษยามละ ๔. มจั ฉริยะ ตระหน่ี๕. มายะ มารยา๖. สาเถยยะ มกั อวด๗. มุสาวาท พูดปด๘. ปาปิ จฉา มีความปรารถนาลามก๙. มิจฉาทิฏฐิ เห็นผดิ
ทสกะ คือ หมวด ๑๐อกศุ ลกรรมบถ ๑. ปาณาตบิ าต เวรมณี กศุ ลกรรมบถ ๒. อทินนาทาน เวรมณี ๑. ปาณาตบิ าต กายกรรม ๓. กาเมสุ มจิ ฉาจาร ๒. อทินนาทาน วจีกรรม เวรมณี ๓. กาเมสุ มจิ ฉาจาร มโนกรรม ๔. มุสาวาท เวรมณี ๔. มุสาวาท ๕. ปิ สุณวาจา เวรมณี ๕. ปิ สุณวาจา ๖. ผรุสวาจา เวรมณี ๖. ผรุสวาจา ๗. สัมผปั ปลาปะ เวรมณี ๗. สัมผปั ปลาปะ ๘. อภิชฌา เวรมณี ๘. อภชิ ฌา ๙. พยาบาท เวรมณี ๙. พยาบาท ๑๐. มจิ ฉาทฏิ ฐิ เวรมณี ๑๐. มิจฉาทิฏฐิ
ทสกะ คือ หมวด ๑๐ บุญกริ ิยาวตั ถุ ๑๐ นาถกรณธรรม๑. ทานมยั ๑. สีล๒. สีลมัย ๒. พาหุสัจจะ๓. ภาวนามยั ๓. กลั ยาณมิตตตา๔. อปจายนมยั ๔. โสวจสั สตา๕. เวยยาวจั จมยั ๕. กงิ กรณีเยสุ ทกั ขตา๖. ปัตตทิ านมยั ๖. ธัมมกามตา๗. ปัตตานุโมทนามยั ๗. วริ ิยะ๘. ธัมมสั สวนามยั ๘. สันโดษ๙. ธัมมเทสนามยั ๙. สติ๑๐. ทฏิ ฐุชุกมั ม์ ๑๐. ปัญญา
ทสกะ คือ หมวด ๑๐ กถาวตั ถุ อนุสสติ๑. อปั ปิ จฉกถา ๑. พุทธานุสสติ๒. สันตุฏฐิกถา ๒. ธัมมานุสสติ๓. ปวเิ วกกถา ๓. สังฆานุสสติ๔. อสังสัคคกถา ๔. สีลานุสสติ๕. วรี ิยารัมภกถา ๕. จาคานุสสติ๖. สีลกถา ๖. เทวตานุสสติ๗. สมาธิกถา ๗. มรณัสสติ๘. ปัญญากถา ๘. กายคตาสติ๙. วมิ ุตตกิ ถา ๙. อานาปานัสสติ๑๐. วมิ ุตตญิ าณทสั สนกถา ๑๐. อปุ สมานุสสติ
ปกณิ ณกะ คือ หมวดเบ็ดเตลด็ อุปกเิ ลส ๑๖๑. อภชิ ฌาวสิ มโลภะ ละโมบ เพง็ เลง็ ๙. มายา มารยา ๑๐. สาเถยยะ โอ้อวด๒. โทสะ ร้ายกาจ ๑๑. ถัมภะ หัวดือ้ ๑๒. สารัมภะ แข่งดี๓. โกธะ โกรธ ๑๓. มานะ ถือตัว ๑๔. อตมิ านะ ดูหมน่ิ๔. อปุ นาหะ ผูกโกรธ ๑๕. มทะ มวั เมา ๑๖. ปมาทะ เลน่ิ เล่อ๕. มกั ขะ ลบหลู่คุณท่าน๖. ปลาสะ ตเี สมอ๗. อสั สา ริษยา๘. มจั ฉริยะ ตระหนี่
คหิ ิปฏบิ ัติ
จตุกกะ คือ หมวด ๔๑. กเิ ลส ๔ อย่าง ๘. ความปรารถนาทส่ี มหมายได้โดยยาก ๔ อย่าง๒. อบายมุข ๔ อย่าง ๙. ธรรมเป็ นเหตุให้สมหมาย ๔ อย่าง๓. ทฏิ ฐธัมมกิ ตั ถประโยชน์ ๔ อย่าง ๑๐. ตระกลู อนั มง่ั คง่ั จะต้ังอยู่นานไม่ได้เพราะสถาน๔. สัมปรายกิ ตั ถประโยชน์ ๔ อย่าง ๑๑. ธรรมของฆราวาส ๔ อย่าง๕. มิตรเทยี ม ๔ จาพวก๖. มติ รแท้ ๔ จาพวก๗. สังคหวตั ถุ ๓
ปัญจกะ คือ หมวด ๕๑. ประโยชน์เกดิ แต่การถือโภคทรัพย์ ๕ อย่าง๒. ศีล ๕ ประการ๓. มจิ ฉาวณชิ ชา ๕๔. สมบตั ขิ องอุบาสก ๕ ประการ
ฉักกะ คือ หมวด ๖ ทศิ ๖๑. ปุรัตถิมทสิ คือ ทศิ เบือ้ งหน้า มารดาบิดา๒. ทกั ขิณทสิ คือ ทศิ เบื้องขวา ครูอาจารย์๓. ปัจฉิมทสิ คือ ทศิ เบื้องหลงั บุตรภรรยา๔. อตุ ตรทสิ คือ ทศิ เบือ้ งซ้าย มติ รสหาย๕. เหฏฐิมทสิ คือ ทศิ เบื้องตา่ บ่าวไพร่๖. อปุ ริมทสิ คือ ทศิ เบื้องบน สมณพราหมณ์
อบายมุข ๖ อบายมุข ๖๑. ดื่มนา้ เมา๒. เทย่ี วกลางคืน๓. เทยี่ วดูการละเล่น๔. เล่นการพนัน๕. คบคนช่ัวเป็ นมติ ร๖. เกยี จคร้านทาการงาน
Search
Read the Text Version
- 1 - 17
Pages: