เม่อื ใส่ชื่อ CDG เขา้ ไป แมวจะพดออกมาเปน็ ตัวอักษรทีละตวั โดย count ก็ จะเพ่มิ ขนึ เรอ่ื ย ๆ ตังแต่ 1 ตามจานวนตวั อกั ษรของคา 49
สว่ นหน้าตาของสครปิ ต์จะยังมสี ่วนทไี่ ม่คนุ้ เคยอยบ่ า้ ง เราจะได้เรยี นรก้ นั ตอ่ ในหวั ข้อตอ่ ไป มาดตัวอยา่ งการประยุกต์ใชก้ ารดาเนนิ การทางคณติ ศาสตรม์ าคานวณการหาดา้ น ตรงข้ามมมุ ฉากของพีทาโกรัส และนาการดาเนนิ การข้อความมาประกอบการใช้งาน เริ่มจากการวาดสามเหลย่ี มมมุ ฉาก นาตัวแปรไปวางรอเกบ็ ค่าจากผใ้ ช้ และนาเจ้าแมว สม้ ไปคอยบอกค่าดา้ นตรงข้ามมมุ ฉากจากการคานวณ 50
ใสส่ ครปิ ตใ์ หก้ บั ตัวแมวเมื่อคลิกธงเขียวใหเ้ รม่ิ ทางานโดยรบั ค่าความยาวดา้ น a และ ความยาวดา้ น b เพ่ือนามาคานวณ 51
เสรจ็ แล้วเจา้ แมวก็จะบอกคา่ ด้านตรงข้ามมมุ ฉากจากการคานวณมาให้ นีค่ ือสครปิ ต์ทใี่ ชใ้ นโปรแกรม เนน้ ประยุกต์ใชค้ วามรท้ ี่ผา่ นมา 52
การสรา้ งเงือ่ นไขและการวนซา การสร้างเง่ือนไข ในชวี ติ ประจาวันเราสรา้ งเงอื่ นไขใหก้ บั การกระทาบางอยา่ งแบบไมร่ ้ตวั เชน่ เราตัง เงื่อนไขของวนั หยุด กับวนั ธรรมดา เปน็ เหตกุ ารณท์ ส่ี ง่ ผลต่อการกระทาทตี่ า่ งกนั โดยรปแบบ เงื่อนไขของการสร้างโปรแกรมมี 2 รปแบบ ได้แก่ “เ้า.. แลว้ .. มิฉะนัน..” และ “เ้า.. แลว้ ..” ซ่ึง แบบแรกจะเปน็ การบอกวา่ เา้ เงื่อนไขดงั กลา่ วเปน็ จรงิ จะมีการกระทาบางอยา่ ง แต่เา้ ไมต่ รง ตามเงอ่ื นไขนนั จะกระทาอีกแบบหนงึ่ แตแ่ บบท่ีสองจะกระทาบางอยา่ งเมื่อเงอ่ื นไขเปน็ จรงิ เท่านนั เ้าไมเ่ ปน็ จรงิ จะไมม่ กี ารกระทาอะไรทเ่ี กิดขึนต่อ ตวั อย่าง รปแบบเง่ือนไข “เา้ .. แล้ว.. มิฉะนนั ..” - เา้ วนั นเี ปน็ วนั หยุด แล้วฉนั จะไปเท่ียว มฉิ ะนันฉนั จะไปโรงเรียน - เา้ วันนเี ป็นวนั พระ แลว้ ฉันจะออกไปใส่บาตร มฉิ ะนนั ฉนั จะนอนตอ่ ตัวอยา่ ง รปแบบเงื่อนไข “เ้า.. แลว้ ..” - เา้ ช่วงนีเปน็ ฤดฝน แลว้ ฉนั จะพกร่มออกจากบ้าน - เ้าฝนไม่ตกเย็นวันองั คาร แลว้ ฉนั จะซักผา้ สาหรับโปรแกรมของเราจะมคี าสัง่ ทเี่ ปน็ รปแบบคลา้ ยกับเรอ่ื งราวที่ยกใหด้ ้านบน ดงั นี 1. เ้า.. แล้ว.. 53
ตัวอย่างการใชง้ าน เมื่อรนั สครปิ ตน์ ี โปรแกรมจะให้เราใส่คา่ คะแนนลงไป 54
จากนนั เจา้ แมวจะตอบกลบั มาวา่ คณุ ได้ A เ้าคะแนนคุณมากกว่า 79 แต่เ้าคะแนนทคี่ ุณใสไ่ ปไมม่ ากกวา่ 79 หละ สิ่งที่แมวจะทาคือ อยน่ ่งิ ๆ ไม่พดอะไร เพราะเงื่อนไขไมเ่ ปน็ จรงิ 55
2. เา้ .. แล้ว.. มฉิ ะนนั .. เรามาประยุกตเ์ พม่ิ เตมิ จากตวั อย่างก่อนหนา้ นี เมอ่ื แมวรบั คา่ คะแนนไปแลว้ แต่ คะแนนกลบั ไมม่ ากกวา่ 79 เราอยากใหแ้ มวทาอย่างอน่ื เชน่ บอกวา่ เราไม่ได้ A นะ เปน็ ต้น เราจะใชเ้ ง่อื นไขแบบ “เ้า.. แลว้ .. มิฉะนัน” ลองดตวั อยา่ งสครปิ ตน์ ี เราได้เปลี่ยนจากเงอ่ื นไขแบบ “เ้า.. แล้ว..” เป็น “เ้า.. แลว้ .. มฉิ ะนัน..” 56
จะทาให้เมอ่ื เราใสค่ ะแนนท่ไี มม่ ากกวา่ 79 เข้าไป จะไดผ้ ลลพั ธ์บอก กลับมาว่าเราไมไ่ ด้ A แทนทจ่ี ะเงยี บ ๆ ไป มากไปกวา่ นนั เราสามารเเพิม่ กรณีทมี่ ากขนึ กวา่ เดมิ ได้โดยใชเ้ ง่อื นไข “เา้ .. แลว้ .. มิฉะนัน..” ซ้อนกันเขา้ ไป 57
ตวั อยา่ งการสรา้ งโปรแกรมตดั เกรด ให้สามารเบอกไดท้ ุกเกรดของการ เรียน 58
ทาใหเ้ มื่อเราใส่คะแนนเท่าไหร่กต็ ามเราก็จะสามารเร้ไดว้ ่าเราไดเ้ กรด เท่าไหร่ 59
การวนซา การวนซาเป็นเร่ืองทค่ี อมพวิ เตอรส์ ามารเทาได้ดีกว่ามนษุ ย์ ชว่ ยทนุ่ แรงไดเ้ ยอะ เพราะคอมพิวเตอร์เนดั ในการทางานซา ๆ ท่เี ราตังคาสง่ั เอาไวโ้ ดยไม่เหนือ่ ย รวดเรว็ เปน็ หลักมลิ ลวิ นิ าที และท่ีสาคัญคือมคี วามแมน่ ยามากเพราะคอมพิวเตอรม์ ปี จั จยั ทม่ี า รบกวนนอ้ ย เราเลยเลอื กใชค้ อมพิวเตอรใ์ นการทางานแทนเราในบา้ งครังทเี่ ราตอ้ งทา อะไรซา ๆ เปน็ จานวนมาก ๆ ๆ ๆ เชน่ การคานวณเลขจานวนมากซา ๆ การหาคา่ รากท่สี องของจานวนจรงิ ท่ไี มล่ งตวั การคณเลขจานวนหลายหลกั หลาย ๆ ครงั หรือ การแสดงผลซา ๆ กนั หลายพนั ครงั เป็นต้น Block สาหรบั การวนซาในโปรแกรม Scratch มี 3 รปแบบ ไดแ้ ก่ 1. การวนซาตามจานวนรอบท่ีกาหนด 2. การวนซาไปเรื่อย ๆ ไมร่ จ้ บ 3. การวนซาจนกระทงั่ เป็นไปตามเง่ือนไขที่กาหนด 60
1. การวนซาตามจานวนรอบท่กี าหนด ใชก้ บั โปรแกรมท่ีสามารเกาหนดจานวนรอบไดเ้ ปน็ ตวั เลข ตัวอย่าง โปรแกรมการแสดงดาวตามจานวนที่กาหนด เรมิ่ จากการนาดาวมาใสไ่ วด้ า้ นบนตรงกลาง ตามด้วยตวั แปรเกบ็ จานวนดาวท่จี ะกระจายออกมา และตวั แปรเก็บ ตาแหน่ง x ทีเ่ ปลย่ี นไป 61
เราจะนาสองสครปิ ต์นใี ส่ไว้ท่ดี าว เพ่อื ทาให้ดาวกระจายออกมาตาม จานวนที่ใส่เขา้ ไป 62
เมื่อเรม่ิ โปรแกรมด้วยการคลกิ ทธี่ งเขยี ว โปรแกรมจะใหใ้ สจ่ านวนดาวเข้า ไป เราจะไดด้ าวกระจายตวั ออกมาจานวน 4 ดวง 63
กรณที เ่ี ราใส่จานวนดาวไป 10 ดวง ดาวกจ็ ะกระจายออกมา 10 ดวง เม่อื เปลีย่ นจานวนดาวเปน็ 50 ดาว และเปลย่ี นตาแหนง่ x ใหเ้ พิ่มขนึ ทลี ะ 10 จะได้ดาวกระจายเรยี งกนั ออกมามากมายตอ่ เน่อื งกนั ซง่ึ เา้ เราคอ่ ย ๆ กาหนดดาวทีละดวงให้กระจายออกมาเปน็ ชดุ ลักษณะนีทลี ะดวงคงเสียเวลามาก ลองจินตนาการว่าเราจะทาให้ดาวกระจายออกมา 1 ลา้ นดวงดส.ิ . เราคงต้องใช้ เวลาเป็นปีในการสร้างมนั เกไหม แตก่ ารเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอรช์ ว่ ยเราได้ มากในการทาอะไรซา ๆ ๆ ๆ กนั ในลักษณะนี 64
2. การวนซาไปเร่อื ย ๆ ไม่ร้จบ เราลองมาทาดาวหมนุ ๆ ไปเรือ่ ย ๆ ไม่ร้จบกนั โดยดาวจะเกดิ เพม่ิ ขนึ เร่อื ย ๆ ไมร่ ้ จบเชน่ กนั เร่ิมจากนาดาวหนงึ่ ดวงมาไวต้ รงกลางหนา้ จอ 65
เราจะใสส่ คริปต์ 3 ก้อนนีเขา้ ไปในดาว สงั เกตไดว้ ่าทัง 3 ชุดคาสง่ั จะมสี ่วนของ การวนซาตลอด อยใ่ นชุดสครปิ ต์ เพ่อื ให้บางสว่ นของสคริปต์ไดท้ างานตลอดเวลา 66
สว่ นแรกเป็นส่วนทาใหด้ าวตรงกลางเรม่ิ หมนุ โดยเปลยี่ นสีไปเร่อื ย ๆ สว่ นที่สองเป็นส่วนทใ่ี ช้สรา้ งดาวออกมาเรื่อย ๆ ทุก ๆ 0.5 วนิ าที โดย ทุกครงั ที่มีการสรา้ งดาว ใหเ้ ล่นเสียง pop ออกมาดว้ ย แสดงวา่ ทกุ ครงั ทเ่ี ราได้ยนิ เสยี ง pop แสดงวา่ มีดาวเกิดขนึ 67
สว่ นที่สาม เปน็ สว่ นทบ่ี อกให้ดาวท่เี กสร้างขนึ มาใหมเ่ กดิ ในตาแหน่งท่ี เกส่มุ ขนึ มาและทาการหมุนและเปล่ยี นสีไปเรอื่ ย ๆ เหมอื นดาวดวงแรก เม่ือเวลาผา่ นไปชว่ งหนง่ึ เราจะเห็นดวงดาวระยบิ ระยับกระจายอย่บน หน้าจอของเรามากมาย 68
3. การวนซาจนกระทงั่ เป็นไปตามเง่อื นไขท่กี าหนด ก่อนหนา้ นเี ราสามารเวนซาได้จนไม่มที ส่ี ินสดุ ซึ่งบางครงั เราอาจจะอยากให้ การวนซานนั วนไปไดเ้ รือ่ ย ๆ แต่ก็อยากใหห้ ยุดด้วยในบางเงอื่ นไข เราจะสามารเทา ได้โดยใช้ Block “ทาซาจน..” จากการสร้างดาวหมุนในตวั อย่างก่อนหนา้ โดยการใช้ Block “วนซาตลอด” คราวนลี องมาใสเ่ ง่ือนไขการหยดุ ให้กับการสร้างดาว การหมนุ และการเปลย่ี นสขี อง ดาวกนั ดดีกว่า เราจะเปลย่ี น Block จาก “วนซาตลอด” เปน็ Block “ทาซาจน..” กอ่ น แลว้ ใส่ เง่ือนไขเกย่ี วกบั เวลาเขา้ ไป ว่าจะใหห้ ยุดเม่อื เวลาผา่ นไปเท่าไร โดยเงือ่ นไขทเ่ี ลือกใสไ่ ปในตวั อยา่ งนีจะเปน็ เรอ่ื งของเวลา คือ เม่ือเวลาผา่ นไป จานวนหน่งึ ตามการสุ่มจะทาให้การหมนุ กบั การเปลยี่ นสีหยดุ ลง ซงึ่ ดว้ ยการสมุ่ เวลา ทาให้เอฟเฟกตข์ องดาวหยดุ ไมพ่ ร้อมกัน สว่ นการสรา้ งดาวใหมจ่ ะหยุดสร้าง ก่อนท่ดี าวจะหยดุ หมนุ และเปลย่ี นสี 69
มาดสครปิ ต์กัน.. 70
การออกแบบและสร้างโปรแกรม เราไดเ้ รยี นรบ้ ทเรยี นการเขียนโปรแกรมกนั มาเตม็ ที่แลว้ เึงเวลาสรา้ งสรรคโ์ ปรเจคของ ตัวเองกนั เตม็ ท่ี! แต.่ . ก่อนท่ีเราจะเริ่มทา มาลองศกึ ษาขันตอนกระบวนการสรา้ งโปรเจค ได้แก่ 1. สารวจ (Explore) 2. วางแผน (Plan) 3. พฒั นา (Develop) 4. แบง่ ปัน (Share) สารวจ วางแผน แบง่ ปัน พฒั นา 71
เราลองมาดรายละเอยี ดของแต่ละขนั ตอนกันดีกว่าว่าในวงกลมแตล่ ะอันนา่ สนใจ อย่างไร 1. สารวจ (Explore) กอ่ นเร่มิ ขนั ตอนของการพัฒนาโปรแกรม จากแผนภาพขา้ งตน้ จะเห็นไดว้ า่ ขนั ตอนของการสารวจ จะมาแยกจากขนั ตอนอนื่ ๆ ท่ีวงเปน็ วนรอบ เพราะเราควร ทราบก่อนวา่ เราอยากท่จี ะทาอะไรจรงิ ๆ เรามแี รงบนั ดาลใจในการแกไ้ ขปญั หาอะไร สง่ิ เหล่านีจะทาให้เราพฒั นาโปรแกรมได้อยา่ งเตม็ ความสามารเ โดยเรามีขนั ตอน การสารวจความสนใจด้วยคาเามเหลา่ นี a. โปรเจคทเี่ รียนรผ้ า่ นมาโปรเจคไหนทช่ี อบทส่ี ดุ b. มีความสนใจในเร่ืองใด (เรอื่ งอะไรก็ได้ในชวี ิต) c. ส่งิ ใดบา้ งทเ่ี ราอยากจะใชโ้ ปรแกรมทเ่ี ราจะพัฒนาขนึ ในการแก้ปญั หา d. การพัฒนาโปรแกรมแบบใดทต่ี อบโจทย์การแกป้ ญั หาของเรา เปน็ เกม เรือ่ งราว การทาภาพเคลอ่ื นไหว หรืออนื่ ๆ e. อะไรเป็นความเนัด หรอื ความสามารเพิเศษของเรา คาเามด้านบนใช้สาหรบั สารวจตวั ตนของเรา เม่ือเราสารวจความตอ้ งการและ ความสามารเของเราไดเ้ รียบร้อย คาแนะนาเัดไปคอื การหาทมี แนน่ อนวา่ เรา อาจจะเนัดในบางอย่าง และไม่เนัดในบางอยา่ งแตส่ ่งิ ที่เราสนใจ อาจจะไมไ่ ด้มแี ต่เรา เพยี งคนเดียว เราสามารเหาเพ่ือนร่วมทมี ทมี่ ีความเนัดตา่ งจากเรา เพ่อื มาชว่ ยกัน แกไ้ ขปัญหาทสี่ นใจร่วมกนั ได้ หลังจากเราตอบคาเามดา้ นบน และหาเพื่อนรว่ มทมี ได้แลว้ เงึ เวลาคดิ เึง โปรแกรมที่เราจะร่วมกนั พัฒนาขนึ มา 72
2. วางแผน (Plan) ขันตอนการวางแผน เราจะได้คาตอบสาหรบั 4 คาเามนี a. เราจะสรา้ งโปรแกรมอะไร b. มีขนั ตอนอย่างไรบา้ งในการสร้างโปรแกรมนี c. ส่งิ ท่ีเรามีอยแ่ ลว้ สาหรบั โปรแกรมทเ่ี ราจะสร้าง เชน่ ทมี ตวั อยา่ งโปรแกรม ไฟล์ภาพ เปน็ ต้น d. สิ่งทเ่ี ราตอ้ งการเพม่ิ เติม เพ่ือใชใ้ นการสรา้ งโปรแกรม คาเามแรก เราจะสรา้ งโปรแกรมอะไร วิธที ่เี ราแนะนาในการการหาคาตอบของคาเามนี เรียกวา่ “การระดม ความคดิ (Brainstorm)” การระดมความคดิ มีขนั ตอน ดงั นี 1. ใหท้ ุกคนในทมี เสนอไอเดียทอ่ี ยากทาใหม้ ากท่สี ุดเท่าท่ีเป็นไปได้ใน เวลาท่จี ากัด เชน่ 3 นาที เป็นตน้ โดยอาจเขยี นใสก่ ระดาษโพสต-์ อทิ แลว้ พดออกมาวา่ ไอเดียในการแก้คืออะไรแลว้ แปะลงไปบนกระดาษ หรือกระดานทเ่ี ตรยี มไว้ 2. ทมี ช่วยกันจดั กลมุ่ ไอเดยี ทมี่ ีความใกลเ้ คยี งกนั เปน็ หมวดหม่ 3. พดคุยกนั เึงความนา่ สนใจ และความเปน็ ไปได้ของแตล่ ะไอเดยี 4. แตล่ ะคนเลอื กไอเดยี ทช่ี อบ 3 อนั ดบั ในใจ และเขยี นอนั ดับของตนเอง ลงใส่โพสต-์ อทิ ไอเดยี ทเี่ ลือกเปน็ คะแนน 1-3 โดย 3 คะแนน คือ ไอเดยี ทช่ี อบที่สดุ 5. รวมคะแนนแต่ละไอเดยี และจดั อนั ดับไอเดียทม่ี คี ะแนนมากทสี่ ดุ ไปหา น้อยท่ีสดุ 73
6. ช่วยกันเลือกไอเดยี ทท่ี กุ คนชอบมากทส่ี ุดอาจจะ 3-5 อนั ดับแรก โดย พดคยุ เงึ เหตุผลในการเลอื กของแตล่ ะคน ซง่ึ ผลสดุ ทา้ ยอาจจะได้ ข้อสรุป คอื การเลือกอนั ดับท่ี 3 ก็เปน็ ได้ 74
คาเามท่ีเหลือ - มีขนั ตอนอย่างไรบา้ งในการสรา้ งโปรแกรมนี สง่ิ ทเ่ี รามีอย่แลว้ - สาหรบั โปรแกรมที่เราจะสร้าง เช่น ทมี ตัวอยา่ งโปรแกรม ไฟลภ์ าพ เป็น ตน้ - สง่ิ ที่เราต้องการเพมิ่ เตมิ เพอ่ื ใช้ในการสรา้ งโปรแกรม หลังจากไดไ้ อเดียออกมาแลว้ ว่าจะทาอะไร ขนั ตอนนี เราจะมาชว่ ยกนั ใน ทมี ลองเขยี นขนั ตอนการสรา้ งโปรแกรมดว่า เราจะทาอะไรบา้ งเปน็ ลาดบั เพือ่ ด ว่าแตล่ ะขนั ตอนเราต้องการอะไรบ้าง สิ่งใดมอี ย่แลว้ ส่ิงใดตอ้ งทาเพ่ิม เรามี แบบฟอรม์ ในการเขยี นใหต้ ามเอกสารหนา้ เดั ไปนี 75
ชือ่ โปรแกรม ................................................................................................................................................................................... ลองเขียนภาพครา่ ว ๆ ของการดาเนนิ ของโปรแกรมเราดา้ นลา่ งนี และเขียนดา้ นล่างของหนา้ จอวา่ ในแตล่ ะขนั ตอนอาศัยส่ิงใดบา้ งทีใ่ ช้ในหน้านัน อธบิ ายส่งิ ท่ีจะเกิดขนึ ในหนา้ นี อธิบายสง่ิ ที่จะเกิดขึนในหนา้ นี สงิ่ ที่ตอ้ งใช้ในหนา้ นี เช่น ตัวละคร เสียง ตวั อยา่ งโปรเจค เปน็ ต้น สิ่งท่ีต้องใชใ้ นหนา้ นี เชน่ ตวั ละคร เสยี ง ตัวอย่างโปรเจค เปน็ ต้น อธบิ ายส่ิงที่จะเกิดขนึ ในหน้านี อธบิ ายส่ิงทจ่ี ะเกดิ ขึนในหน้านี ส่ิงทต่ี อ้ งใช้ในหน้านี เชน่ ตวั ละคร เสียง ตวั อย่างโปรเจค เปน็ ตน้ สิ่งทต่ี อ้ งใช้ในหน้านี เชน่ ตวั ละคร เสยี ง ตัวอย่างโปรเจค เปน็ ต้น 76
3. พัฒนา (Develop) ขนั ตอนนีคอื ขันตอนของการพฒั นาโปรแกรม ทุกคนในทีมจะมีหนา้ ทที่ ต่ี า่ งกนั ใน การพัฒนา ส่ิงที่แนะนาในขนั ตอนนคี ือ ในทมี ควรกาหนดเวลาการมาอัพเดทงานกัน ขนึ อยก่ บั เวลาวา่ มมี ากหรอื นอ้ ย กรณีเวลามีทังหมด 6 ชว่ั โมงในการทาโปรแกรม ทีม อาจจะมาอัพเดทขอ้ มลการทางานของสมาชิกในทีม กันทุก ๆ 1 ชว่ั โมง เพ่อื นาปญั หา ท่ีแตล่ ะคนเจอมาหาทางแกไ้ ขร่วมกนั หรือจัดแบ่งหนา้ ทีก่ นั ใหมใ่ ห้สาเร็จตามเวลา คาเามแนะนาสาหรบั การอัพเดทการทางาน 1. อะไรเปน็ ส่วนทชี่ อบทีส่ ดุ ในการทางานทผ่ี า่ นมา 2. ส่วนใดท่ียังต้องทาต่อไป 3. สว่ นไหนท่ีคนอน่ื ในทมี จะตอ้ งทาต่อจากเรา 4. ส่วนใดทีต่ ้องการความชว่ ยเหลือจากคนอนื่ เพอ่ื ให้งานเราไปต่อได้ 4. แบ่งปัน (Share) หลังจากท่ีเราวางแผน ออกแบบ พัฒนาไดเ้ งึ ระดบั หนงึ่ แล้ว เปน็ โอกาสดีทเ่ี ราจะ แบง่ ปันเร่ืองราวการทางานของโปรแกรมเราให้กบั คนอนื่ ๆ ร้ เพอ่ื รับความแนะนา ติชม (Feedback) และรับฟังไอเดยี การทางานของโปรแกรมของคนอน่ื เพื่อชว่ ยออก ความเหน็ เพ่ือการพฒั นาของเขาและได้รบั มมุ มองที่แตกต่างสาหรบั การพฒั นา โปรแกรมของเราเช่นกนั คาเามสาหรบั การให้ความเห็นกบั โปรแกรมของคนอนื่ 1. สง่ิ ที่ทางานได้ดีหรือสงิ่ ที่เราชอบมากในโปรแกรม 2. สง่ิ ทย่ี งั สบั สนอยว่ า่ ทางานอยา่ งไร แนะนาวา่ ควรปรบั เป็นแบบใด 3. สิง่ ทท่ี าใหด้ ขี นึ ได้หรอื สิง่ ทไ่ี ม่ควรอย่ในโปรแกรม 77
หลงั จากไดร้ บั คาแนะนาตชิ มมาเรยี บร้อย เราจะกลับไปทข่ี นั ตอนของการ วางแผน (Plan) พัฒนาโปรแกรม (Develop) และกลบั มาทีแ่ บ่งปนั (Share) ใหม่ วน ไปจนกระทัง่ เงึ เวลาทีจ่ ะแสดงใหค้ นอ่ืนเหน็ (Showcase) มาเงึ จุดนี เราอาจจะร้สึกกังวลหรอื มีความเครยี ดกับการทาโปรแกรมไมเ่ สรจ็ ดี นัก แต่จริง ๆ แล้วเราไดร้ ับประสบการณม์ ากมายทเี่ ปน็ จุดเริ่มต้นในการเปน็ ผพ้ ฒั นาโปรแกรม และการทเี่ ราทาโปรแกรมมาได้เงึ ขนาดนกี ็เอื วา่ สุดยอดมาก ๆ แลว้ สดุ ท้ายส่ิงทสี่ รา้ งจะมคี ณุ คา่ มากขนึ เมือ่ เราได้หนั กลบั มาเามตนเองวา่ สงิ่ ทเ่ี รา ได้สร้างสรรค์ ไดค้ ดิ อยา่ งเป็นระบบ ฯลฯ สง่ ผลอยา่ งไรต่อตัวเราบ้าง ซ่ึงเรามชี ุด คาเามใหต้ ามนี 1. โปรแกรมของเราคืออะไร 2. ไอเดียโปรแกรมของเราไดช้ ว่ ยแก้ปญั หาอย่างไร เราไดไ้ อเดยี นีมาอยา่ งไร 3. ขนั ตอนการพัฒนาโปรแกรมของกลมุ่ เราเปน็ อยา่ งไร 4. สิ่งใดในการพฒั นาทน่ี ่าสนใจ ทา้ ทาย และน่าประหลาดใจ และทาไมเงึ เกิด ความรส้ ึกแบบนันขนึ มา 5. เราไดเ้ รยี นร้อะไรบา้ ง 6. สิ่งท่ชี อบมากเกย่ี วกับโปรเจคนี 7. อะไรทเ่ี ราอยากจะเปล่ยี น เ้าเรากลบั ไปแก้ไขได้ 8. ความร้สึกต่อการเขียนโปรแกรมหรอื การสรา้ งโปรแกรมเปลย่ี นไปจากตอน แรกอยา่ งไร 78
Search
