Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 13040_วิจัยในชั้นเรียน ปี61_2สุริยา

13040_วิจัยในชั้นเรียน ปี61_2สุริยา

Published by suratin kongmuang, 2019-09-18 04:04:10

Description: 13040_วิจัยในชั้นเรียน ปี61_2สุริยา

Search

Read the Text Version

[พิมพ์ชือเรื องรอง เอกสาร] การวจิ ยั ในชนั เรียน เรือง……………… …………………… …… [พมิ พ์บทคดั ยอ่ ของเอกสารทีนี โดยปกตแิ ล้วบทคดั ยอ่ คือสรุปแบบสนั ๆ เกียวกบั เนือหาของเอกสาร พิมพ์บทคดั ยอ่ ของเอกสารทีนี โดยปกติแล้วบทคดั ยอ่ คอื สรุปแบบสนั ๆ เกียวกบั เนือหาของเอกสาร]

วิจยั เพื่อพัฒนาผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น 1 รายงานการวิจยั เรอ่ื ง การปรับเปลยี่ นพฤติกรรมการเรียนใหม ีวนิ ัยและความรบั ผดิ ชอบ ในการเรยี นรายวชิ าคอมพวิ เตอรแ ละสารสนเทศเพอ่ื งานอาชพี 2001-2001 โดย นายสุริยา ทองนพคณุ ตาํ แหนงครู ชาํ นาญการ วทิ ยาลยั เทคนิคสุราษฎรธานี สํานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา กระทรวงศกึ ษาธิการ

2 ช่ือเรอ่ื ง : การปรบั เปลยี่ นพฤตกิ รรมการเรยี นใหม วี ินยั และความรับผดิ ชอบของครผู ูส อน รายวิชา คอมพวิ เตอรและสารสนเทศเพือ่ งานอาชพี 2001-2001 ช่อื ผวู จิ ัย : นายสรุ ยิ า ทองนพคณุ บทคัดยอ การศึกษาวจิ ยั คร้งั นมี้ ีวตั ถปุ ระสงคและจุดมุงหมายเพือ่ เปนการปรับเปลี่ยนพฤตกิ รรมการเรยี นใหเปน ผูมีวนิ ยั และความรับผิดชอบตอหนาท่แี ละการเรียนใหดีขึ้น ในรายวิชาคอมพิวเตอรและสารสนเทศเพื่องาน อาชีพ 2001-2001 ของนักศึกษาแผนกวิชาชางไฟฟา วิทยาลัยเทคนิคสุราษฎรธานี โดยมีการเก็บรวบรวม ขอ มูลจากการสงั เกต การสัมภาษณข อ มลู ดานการเรยี นของแตละวชิ าและการตอบแบบสอบถามจากนักเรียน การใชแ รงจูงใจเสรมิ แรงโดยใหคํา ชมเชยแก นักเรียน รวมท้ังดูแลดานการเรียนใหมีความรับผิดชอบ สนใจ เรยี น ทาํ ใหนักเรียนมีความกระตอื รือรน ตอการมาเรยี นและการเรียนมากขึ้น ทาํ ใหบรรยากาศการเรียนภายใน หองเรียนท่ีเอ้ีอตอการเรียนรูมีความต้ังใจเรียนมากขึ้น มีความรับผิดชอบตอหนาที่ไมขาดเรียนหรือมาสาย ทาํ งานที่ไดร ับมอบหมายและสงงานตรงกําหนดเวลา รจู กั ชว ยเหลอื ซึง่ กันและกันดวยความเต็มใจ ในการวิจัย ครั้งน้ีใชประชากรและกลุมตัวอยาง ไดแก ผูเรียนปวช.3ชฟ1 แผนกวิชาชางไฟฟา ซ่ึงกําลังศึกษาอยูใน วิทยาลัยเทคนคิ สุราษฎรธานี ไดโดยเลอื กแบบเจาะจง จาํ นวน 36 คน 1. ความเปน มาและความสําคัญของปญหา ปจจบุ นั สงั คมที่มกี ารเปล่ียนแปลงในทุก ๆ ดา นทัง้ ในดา นเศรษฐกจิ สังคม การเมอื ง การปกครอง จึง จํา เปนตองอาศัยองคป ระกอบตางๆ มาเกอื้ หนุนกันซง่ึ ตองมกี ารพฒั นาโดยตองคํานงึ ถงึ ทรพั ยากรทม่ี ีคุณภาพ และส่งิ ท่ีสําคัญ ทสี่ ุดคือทรัพยากรบุคคลทมี่ คี ุณภาพ โดยจะตองมีคุณสมบัติดา นสมรรถภาพทางรางกายและ จิตใจ ท่ีดมี สี ตปิ ญญา มคี วามรคู วามสามารถ มคี วามอดทน ขยนั ขันแขง็ ไมยอทอตอ ความยากลาํ บากกลาเผชิญ ปญ หา และอุปสรรคดวยความมงุ มั่นถามนษุ ยทุกคนมีคณุ สมบัติดังกลาวก็จะเปน ผูมีวินัยในตนเอง ซ่ึงจะเปน วัฒนธรรมทท่ี กุ คนในสงั คมตองปฏิบัติเพราะจะทําใหสังคมอยูรวมกันอยางมีความสุข วนิ ัยจงึ เปนคุณธรรมท่ี ควรสรางและปลูกฝงใหท ุกคนใชเปนแนวทางสาํ หรบั บงั คบั พฤตกิ รรมของตนเอง ทําใหบรรลุตามจุดหมายของ ชวี ติ และประสบความสาํ เรจ็ ในชีวิต เพราะฉะน้นั ครูควรสรางสรรควินัยใหเกิดแกนักเรียนเมื่อนักเรียนมีวินัยมี ความรบั ผดิ ชอบในหนาทีข่ องตนจะทําใหส ามารถควบคมุ พฤตกิ รรมของตนใหเ ปน ไปในทางที่ดงี ามจงึ ควรมี การ ปลูกฝงใหยึดถือและปฏิบัติอยางเครงครัด ถาหากในสังคมไมมีการปลูกฝงและพัฒนาเด็กใหมีวินัยและมี คุณภาพแลวการพฒั นาสงั คมและประเทศกจ็ ะเปน ไปอยางไมมปี ระสิทธภิ าพจงึ ควรตอ งปลูกฝงวนิ ัยในตนเองให เปนพ้นื ฐาน ในทสี่ ดุ กจ็ ะสามารถพัฒนาประเทศชาตใิ หมีความกาวหนา มากย่ิงข้ึน

3 วทิ ยาลยั เทคนิคสุราษฎรธ านี เปน หนว ยงานทางการศึกษาทมี่ กี ารจดั การศึกษา 2 ประเภทวิชาคือ 1) ประเภทชา งอตุ สาหกรรม และ2) ประเภทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สาร ดวยความตระหนกั ถึงคณุ ภาพ ของการบริหารและการจัดการเรยี นรู ซ่งึ สงผลตอ คณุ ภาพของผูเรยี น ครูผูสอนจาํ เปนตองทราบขอมูลสะทอน ผลในการจัดการเรียนรูจากผูเรียน เพื่อการปรับปรุงและพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู และเพ่ือเปนการ ประกนั คณุ ภาพของผเู รยี น ซงึ่ สอดคลองกับการประกันคุณภาพการศึกษาตามรัฐธรรมนูญป พ.ศ.2550 และ พระราชบญั ญัติการศกึ ษาแหง ชาติ ปพทุ ธศกั ราช 2542 (ปรบั ปรุง พ.ศ. 2545) กาํ หนดใหครูตองทําการศึกษา หรือประเมนิ ตนเอง การปรบั เปล่ียนพฤตกิ รรมการเรยี นใหม ีวนิ ัย และความรับผดิ ชอบ ตอพฤติกรรมการจัดการ เรียนรขู องผูสอนขา พเจานายสรุ ยิ า ทองนพคณุ ตําแหนง ครู ระดับ ค.ศ.2 ซง่ึ เปนผสู อนในรายวิชาคอมพิวเตอร และสารสนเทศเพ่อื งานอาชีพ 2001-2001หลักสตู รประกาศนยี บตั รวชิ าชพี (ปวช.) จงึ ไดดําเนนิ การวจิ ยั เรอ่ื ง การปรับเปล่ียนพฤติกรรมการเรียนใหมีวินัย และความรบั ผิดชอบของครูผูสอน รายวิชาคอมพิวเตอรและ สารสนเทศเพือ่ งานอาชพี 2001-2001 เพอ่ื นําผลการการศกึ ษาไปปรับปรงุ พัฒนากระบวนการเรียนการสอน เพอื่ พัฒนาคุณภาพของผเู รียน พรอ มรับการประเมนิ ภายในและภายนอกสถานศึกษา ของวิทยาลัยเทคนิค สุ ราษฎรธ านตี อไป การศึกษาวิจัยในคร้งั นท้ี าํ ใหท ราบถงึ ดานพฤตกิ รรมการเรียน เม่อื นักเรยี นมกี ารปรบั เปลี่ยนพฤติกรรม ใหเ ปนผูท มี่ วี นิ ยั ในตนเองและความรับผิดชอบ จะทาํ ใหนกั เรยี นสนใจเรียนและมีความขยันอดทน มีแรงจูงใจ ทํา ใหม ผี ลการเรียนดีขน้ึ ซึง่ จะเปน ประโยชนตอครผู ูสอน และครทู กุ ทานที่จะนํามาเสรมิ สรา ง พัฒนานักเรียน ให มคี ณุ คา มคี ุณประโยชนตอครอบครวั สถานศึกษา สังคมและประเทศชาติตอ ไป 2. วตั ถปุ ระสงคข องการวจิ ยั เพื่อเปนการปรับเปล่ยี นพฤตกิ รรมการเรยี นใหม วี ินัยและความรบั ผิดชอบตอ หนาที่และการเรียนดีขึ้น ของผูเรยี น ในรายวิชาคอมพิวเตอรและสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ 2001-2001หลักสูตรประกาศนียบัตร วชิ าชพี (ปวช.) วิทยาลัยเทคนิคสรุ าษฎรธ านี ปการศึกษา 2561 3. สมมตุ ฐิ านการวจิ ยั การปรับเปลีย่ นพฤติกรรมการเรยี นใหมวี ินยั และความรบั ผิดชอบตอหนาท่ีของนักเรยี น ทาํ ใหสามารถ พฒั นาศักยภาพดานพฤตกิ รรมและการเรียนใหด ขี ้ึน 4. วิธีดําเนนิ การวจิ ยั การรายงานการวจิ ัยเร่ืองการปรบั เปลยี่ นพฤตกิ รรมการเรียนใหมีวินยั และความรับผดิ ชอบของนกั เรียน รายวชิ าคอมพวิ เตอรและสารสนเทศเพื่องานอาชีพ 2001-2001ผวู จิ ยั ไดดาํ เนนิ การ ดังตอไปนี้ 1. ประชากร ไดแกผูเรียน คือนักศึกษาท่ีกําลังศึกษารายวิชาคอมพิวเตอรและสารสนเทศเพื่องาน อาชีพ 2001-2001 ตามหลักสตู รประกาศนยี บตั รวิชาชีพ (ปวช.) ซ่ึงปฏบิ ตั กิ ารสอนโดยนายสุรยิ า ทองนพคุณ

4 กลุมตวั อยาง : ผูวิจยั ไดใชประชากรและกลุม ตัวอยา งแบบเจาะจง โดยการเลอื กกลมุ ผูเรยี นทเี่ รียนกบั ครผู สู อนในแตล ะรายวิชา/หลกั สตู ร เปน ผใู หขอมูล จํานวน 36 คน 2. ระยะเวลาดําเนินการตงั้ แต ตลุ าคม 2561 ถงึ มกราคม 2562 3.ตัวแปรทศ่ี ึกษา 3.1 ตวั แปรอสิ ระ คอื พฤติกรรมดา นวนิ ยั และความรับผดิ ชอบตอ ตนเองไดแ ก วินยั ในตนเอง ความรับผดิ ชอบ แรงจงู ใจในการเรียน 3.2 ตวั แปรตาม คือ พฤตกิ รรมดานความมวี นิ ยั ในตนเอง 5. เครือ่ งมอื ท่ใี ชในการศกึ ษา เคร่ืองมอื ใชแ บบสอบถามเกีย่ วกับการปรับเปล่ียนพฤติกรรมการเรียนใหมีวินัยและความรบั ผิดชอบ ของนักเรียน ระดับ ปวช. ประกอบดวยความมีวินัย ความรับผิดชอบและความสนใจการเรียน คือ ดาน เตรียมการสอน, ดานความประพฤติทั่วไป, ดานการปฏิบัติตอผูเรียน ดานการวัดและประเมินผล, และดาน การบรู ณาการหลักปรชั ญาเศรฐกจิ พอเพยี งสูก ารจัดการเรียนรู ลกั ษณะคาํ ถามเปนแบบมาตรสวนประมาณคา (Rating Scale) ซงึ่ คาํ ถามครอบคลมุ ถึงประเดน็ ดา นความพึงพอใจ แบงเปน 5 ระดับคือ มากทีส่ ุด มาก ปาน กลาง นอย และนอยทสี่ ุด แลว ทําเคร่อื งหมาย  ลงในแบบสอบถาม การสรา งเคร่ืองมือทใ่ี ชใ นการเกบ็ รวบรวมขอ มลู ในการวจิ ยั ครง้ั นี้ ไดด ําเนนิ การดงั น้ี 1. ศึกษาเอกสาร บทความและรายงานการวิจัย เปนการศึกษาคนควาเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยน พฤติกรรมการเรียนใหมีวินัยและความรับผิดชอบของนักเรียน ในรายวิชาตาง ๆ ตามหลักสูตรหลักสูตร ประกาศนยี บตั รวชิ าชพี (ปวช.) 2. นําขอมลู จากการศกึ ษาคน ความาสรางแบบสอบถาม 3. นาํ แบบสอบถามท่ีไดจากการตรวจสอบแลว นาํ มาปรับปรุงแกไขใหด ยี ิง่ ขึ้น และนําไปใชใ นการวจิ ยั ตอไป 6. นยิ ามศพั ยเฉพาะ ความมวี นิ ยั ในตนเอง หมายถึงการประพฤตปิ ฏบิ ตั ติ ามกฎระเบยี บและไมท าํ ผดิ ตอ กฎระเบยี บในการ เปนนกั เรียน ความรบั ผดิ ชอบ หมายถึงความมงุ มนั่ ของนกั เรยี นทจี่ ะทํางานทีไ่ ดร ับมอบหมายใหสําเรจ็ ลลุ วงดวยดี และต้ังใจเรียนอยา งเตม็ ความสามารถ แรงจงู ใจในการเรยี น หมายถงึ การแสดงพฤติกรรมเมอ่ื ถกู กระตุนจากสง่ิ เรา เชน คาํ ชมเชย การให รางวลั ฯลฯ แลวสามารถประพฤตติ นไดบรรลเุ ปาหมายโดยการเรียนรขู องแตล ะคน

5 7. วธิ กี ารเกบ็ รวบรวมขอ มลู ในการเก็บรวบรวมขอ มลู ผูวจิ ยั ไดใชการสงั เกตและนําเครอ่ื งมอื ท่ีสรางข้ึนใหนักเรียนระดับ ประกาศนียบตั รวชิ าชพี (ปวช.) ชน้ั ปท ่ี 3/1 สาขางานวชิ าชางไฟฟา วิทยาลยั เทคนคิ สุราษฎรธ านี จาํ นวน 36 คน ไดต อบแบบสอบถามและเกบ็ ขอ มลู ดว ยตนเอง 8. การวิเคราะหขอ มูล การวเิ คราะหข อมลู ไดด าํ เนนิ การดังน้ี 1. นําแบบสอบถามท่ีไดรบั คืนมาทงั้ หมด ตรวจสอบความสมบรู ณ ฉบบั ทสี่ มบูรณแลว นํามาตรวจให คะแนนโดยใชม าตราสว นประมาณคา ของลเิ คิรต (Likert) มีนาํ้ หนกั คะแนน 5 ระดบั (บุญชม ศรสี ะอาด. 2545: 62) ดงั นี้ มากทส่ี ดุ มคี า ระดบั คะแนน 5 คะแนน มาก มคี าระดบั คะแนน 4 คะแนน ปานกลาง มคี า ระดบั คะแนน 3 คะแนน นอ ย มีคาระดบั คะแนน 2 คะแนน นอ ยที่สดุ มีคา ระดับคะแนน 1 คะแนน 2. การวิเคราะหข อมูล ผศู ึกษาใชส ถิติในการวิเคราะหขอมลู ประกอบดวย 2.1 สถานภาพของผูต อบแบบสอบถาม วิเคราะหโดยการแจกแจงความถี่ หาคารอยละของขอมูล เปนตารางแสดงรอยละ 2.2 วิเคราะหโ ดยการหาคา เฉลี่ย (Mean) และสว นเบีย่ งเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) 2.3 เกณฑในการแปลความหมายขอ มลู การแปลความหมายของคาเฉลย่ี กาํ หนดขอบเขตคาเฉล่ยี ดงั น้ี คาระดับคะแนนเฉลย่ี ความหมาย 4.51 - 5.00 มีคา ระดบั ความพึงพอใจอยใู นระดบั มากท่ีสุด 3.51 - 4.50 มคี า ระดบั ความพึงพอใจอยใู นระดบั มาก 2.51 - 3.50 มคี า ระดบั ความพึงพอใจอยูในระดบั ปานกลาง 1.51 - 2.50 มคี า ระดบั ความพึงพอใจอยูใ นระดับนอ ย 1.00 - 1.50 มีคาระดับความพึงพอใจอยใู นระดบั นอยที่สุด 9. สถิติท่ีใชในการวิเคราะหขอ มูล ผูวจิ ยั ใชสถิติพืน้ ฐานไดแก 1. คารอ ยละ (Percentage)

6 รอยละ = ตวั เลขที่ตองการเปรียบเทยี บ X 100 จํานวนเตม็ 2. มชั ฉิมเลขคณิตหรอื คาเฉล่ยี (Arithmetic Mean) X  X N เมื่อ X แทน คาเฉล่ีย  แทน ผลรวมของคะแนนทั้งหมด N แทน จํานวนของขอมลู 10. ผลการวิเคราะหข อ มูล ผูว้ จิ ยั ใชค้ า่ ร้อยละในการวิเคราะห์ขอ้ มูล การวิเคราะหขอมูล ผูวิจัยไดดําเนินการศึกษาและสังเกตพฤติกรรมของนักศึกษาระดับ ประกาศนียบตั รวิชาชีพ (ปวช.) 3ชฟ1 วิทยาลัยเทคนคิ สรุ าษฎรธานี โดยการสังเกตพฤตกิ รรมและการเรียนของ นกั เรยี นในช่ัวโมง Home-room ขณะท่ีทําการสอน และสอบถามจากครูผูสอนในแต ละวชิ าพบวา มีนกั เรียนท่ี มปี ญหาดานพฤติกรรมการเรยี น ขาดวินัยและความรับผิดชอบ เชน มาสาย ไมสนใจ เรียน ไมสงงานตามกํา หนดเวลา บางครั้งไมม าเรยี น มกี ารจดบันทึกและตดิ ตามนักเรยี นเปนรายกรณีโดยการวากลาวตักเตือนและมี การบนั ทกึ เปน ลายลักษณอ ักษรและมกี ารใหน ักเรียนตอบแบบสอบถาม สรปุ ไดดังน้ี ตารางแสดงความมวี ินัยความรับผิดชอบและความสนใจการเรียน (ครั้งท1ี่ ) ขอ รายการ เกณฑก ารประเมิน ทาํ เปนประจาํ ทําเปน บางคร้งั ไมเคยทาํ 1 นักเรียนนํางานวชิ าอน่ื มาทํา ขณะทีค่ รูกําลังสอน 72.3 18.2 9.5 2 นักเรยี นพดู คยุ และเลนกับเพือ่ นในขณะทคี่ รูสอน 74.4 17.5 8.1 3 นักเรียนสง งานและการบา นตรงตามเวลาทค่ี รูกาํ หนด 58 32.5 9.5 4 นกั เรยี นนอนหลับในหอ งเรียนขณะท่คี รูสอน 36.5 16.2 47.3 5 นกั เรียนไมทาํ การบา นและลอกการบา นเพอ่ื น 49.2 28.5 22.3 จากแบบสอบถามนักเรียนเกี่ยวกับความมวี นิ ยั และรบั ผิดชอบในหอ งเรยี น (คร้ังท1่ี ) สรปุ ไดด งั น้ี -นกั เรยี นนาํ งานวิชาอนื่ มาทาํ ขณะท่ีครูกาํ ลังสอน ทําเปนประจาํ คิดเปน รอยละ 72.3 -นักเรยี นพดู คยุ และเลน กบั เพื่อนในขณะท่ีครูสอน ทําเปน ประจาํ คดิ เปนรอ ยละ 74.4 -นกั เรยี นสงงานและการบา นตรงตามเวลาทคี่ รูกาํ หนด ทาํ เปน ประจาํ คดิ เปนรอ ยละ 58 -นกั เรยี นนอนหลบั ในหองเรียนขณะทีค่ รูสอน ทาํ เปน ประจําคดิ เปน รอ ยละ 36.5 -นักเรยี นไมทาํ การบา นและลอกการบานเพือ่ น ทาํ เปนประจําคิดเปน รอ ยละ 49.2

7 หลังจากทีผ่ ูวจิ ัยไดทําการสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นและไดใชแบบสอบถามเกี่ยวกับความมีวินัย ความรับผิดชอบและความสนใจการเรียน โดยใหนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ชั้นปท่ี3ชฟ1 จํานวน 36 คน ตอบ แบบสอบถามดวยความจริงแลวนํา มาสรุปโดยใชคารอยละ ทําใหผูวิจัยไดทําการ สงั เกตเหน็ นักเรียนที่มี พฤติกรรมในลกั ษณะดงั กลา วและมผี ลการเรยี นคอ นขางต่าํ ซงึ่ ผวู ิจัยจะทําการวิจัยเพื่อ ปรับเปลี่ยนดานพฤตกิ รรมใหนกั เรียนมวี นิ ัยและความรบั ผิดชอบตง้ั ใจเรยี น ผูวจิ ยั ไดสังเกตพบวาพฤติกรรมของนักเรียนภายในหองหลังจากมกี ารแบงกลุมเปนกลุมยอยๆ แลว ให เพ่อื นคอยเปน พี่เล้ยี งแนะนํา เพ่อื นไมวา จะเปน ดา นพฤตกิ รรมและการเรยี น ทําใหม บี รรยากาศท่ีเออ้ื ตอ การ เรยี น การสอนมากข้นึ เม่อื นาํ นกั เรียนมารวมกันทํากจิ กรรมของโรงเรยี น พบวานักเรียนมีความกระตือรอื รน ใน การ เขา รวมกจิ กรรม และเอาใจใสต อการเรยี นมากข้ึน หลังจากผวู ิจยั เหน็ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใหนักเรยี นเปนผมู ีวินัย มีความรับผิดชอบตอการเรียน และ มีบรรยากาศภายในหอ งเรยี นดขี น้ึ ครูก็มีการพดู คยุ และรว มกนั ประเมนิ ผลการเปลยี่ นแปลงพฤตกิ รรมของ แตละคน โดยการสัมภาษณและใหนักเรียนแตละคนตอบแบบสอบถามชุดเดิมอีกคร้ัง แลวนํามาสรุป เปรยี บเทยี บกับการตอบแบบสอบถามครงั้ แรก พบวา นักเรยี นมีความรัก สามัคคีในหมูคณะ มีความรบั ผิดชอบ มาเรยี นเปน ประจําตั้งใจเรียนและทํางานท่ไี ดร ับมอบหมาย มีผลการเรียนดีขึ้น ทําใหเกิดความภาคภูมิใจใน ตนเอง ผลการวิเคราะหข อมลู จากผลการวเิ คราะหขอมลู จากการสังเกต การสัมภาษณข อมูลดานการเรยี นของแตละวิชา การตอบ แบบสอบถามจากนักเรยี นและจากการใชแรงจงู ใจเสริมแรงโดยใหค าํ ชมเชยแกนักเรียน รวมท้ังดูแลดานการ เรียนใหมคี วามรับผดิ ชอบ สนใจเรยี น ปรากฏวานักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ชั้นปที่3ชฟ1 มี ความเอาใจใสตอการเรียน รับผิดชอบและสนใจเรียนมากข้ึน โดยสังเกตจากบรรยากาศการเรียนภายใน หองเรียนท่ีเอ้ือตอการเรียนรูทําให นักเรียนมีความกระตือรือรนตอการมาเรียน มีความต้ังใจเรียน มีความ รบั ผิดชอบตอหนาท่ี ไมขาดเรยี นหรอื มาสายยังสงผลทาํ ใหผลการเรยี นมวี ินัย โดยสรุปจากผลการเปรียบเทียบ จากการตอบแบบสอบถาม ดงั น้ี ตารางแสดงความมวี นิ ัยความรับผดิ ชอบและความสนใจการเรยี น (ครั้งท2ี่ ) ขอ รายการ เกณฑการประเมิน ทําเปน ประจาํ ทาํ เปนบางครง้ั ไมเคยทํา 75.2 1 นกั เรยี นนํางานวชิ าอนื่ มาทาํ ขณะทค่ี รูกาํ ลงั สอน 11.2 13.6 65.7 3.6 2 นักเรียนพดู คุยและเลน กับเพอ่ื นในขณะทคี่ รูสอน 21.6 12.7 81.8 65 3 นกั เรยี นสงงานและการบา นตรงตามเวลาท่คี รูกาํ หนด 81.2 15.2 4 นกั เรยี นนอนหลบั ในหอ งเรยี นขณะทค่ี รสู อน 8.8 9.4 5 นกั เรยี นไมท ําการบา นและลอกการบา นเพ่ือน 8.3 26.7

8 จากแบบสอบถามนักเรียนเกี่ยวกับความมวี นิ ยั และรบั ผิดชอบในหอ งเรียน (คร้ังท2่ี ) สรปุ ไดด ังนี้ -นักเรียนนาํ งานวิชาอ่นื มาทาํ ขณะทคี่ รกู าํ ลังสอน ไมเ คยทําคิดเปน รอ ยละ 75.2 -นักเรยี นพดู คยุ และเลนกบั เพื่อนในขณะทคี่ รูสอน ทําเปนบางคร้ังคดิ เปนรอยละ 12.7 -นักเรียนสงงานและการบานตรงตามเวลาทีค่ รูกาํ หนด ไมเคยทําคดิ เปน รอยละ 3.6 -นักเรียนนอนหลับในหอ งเรยี นขณะที่ครูสอน ไมเคยทาํ คดิ เปน รอยละ 81.8 -นกั เรียนไมท าํ การบา นและลอกการบา นเพ่อื น ไมเ คยทําคดิ เปนรอยละ 65 11. สรุปผลการวเิ คราะหขอ มลู จากผลการวิเคราะหขอมูลจากการสังเกต ขอมูลดานการเรียนของแตละวิชาและการตอบ แบบสอบถาม จากนักเรียน การใชแรงจูงใจเสริมแรงโดยใหคําชมเชยแกนักเรียน รวมทั้งดูแลดา นการเรียนใหมี ความรบั ผดิ ชอบ สนใจเรียน นักเรยี นใหความรวมมือเปนอยางดีทําใหนักเรียนมีความกระตือรือรนตอการมา เรียน และการเรียนมากขึน้ ในการทาํ วจิ ัยครั้งน้ีปรากฏวา นกั เรยี น มีความเอาใจใสต อการเรียน รับผิดชอบและ สนใจ เรียนมากขึ้นโดยสงั เกตจากบรรยากาศการเรียนภายในหอ งเรียนท่ี เอื้อตอการเรียนรูมีความตั้งใจเรียน มากขึ้น มี ความรบั ผิดชอบตอหนาท่ี ไมข าดเรียนหรอื มาสาย รูจักชว ยเหลอื ซึ่งกันและกันดวยความเต็มใจ โดย ดจู ากการสงั เกต การสัมภาษณผ ลการเรียนและสรุปผลการเปรียบเทียบจากการตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับ ความมีวนิ ยั ความรับผดิ ชอบและความสนใจการเรียนของนักเรียน ดังน้ี ตารางเปรยี บเทียบความมีวนิ ยั ความรับผดิ ชอบและความสนใจการเรียน ขอ รายการ ครั้งท่ี 1 ครง้ั ที่ 2 ทาํ เปน ทําเปน ไมเคย ทาํ เปน ทาํ เปน ไมเ คย ประจํา บางครง้ั ทาํ ประจํา บางครัง้ ทํา 1 นักเรียนนํางานวิชาอื่นมาทํา ขณะที่ครู 72.3 18.2 9.5 11.2 13.6 75.2 กาํ ลงั สอน 2 นักเรียนพูดคุยและเลนกับเพื่อนในขณะท่ี 74.4 17.5 8.1 21.6 12.7 65.7 ครสู อน 3 นกั เรยี นสงงานและการบานตรงตามเวลาที่ 58 32.5 9.5 81.2 15.2 3.6 ครูกาํ หนด 4 นักเรียนนอนหลับในหองเรียนขณะที่ครู 36.5 16.2 47.3 8.8 9.4 81.8 สอน 5 นักเรียนไมทําการบานและลอกการบาน 49.2 28.5 22.3 8.3 26.7 65 เพื่อน

9 จากแบบสอบถามนักเรยี นเกี่ยวกับความมวี ินยั และรับผิดชอบในหองเรียน เม่ือนําผลสรุปของการ ตอบ แบบสอบถามคร้ังที่ 1 และคร้ังที่ 2 พบวา นกั เรียนมีความกระตือร้ือรน เอาใจใสตอการเรียน และมีวินัย และความ รับผิดชอบมากขึ้น จากตารางพบวาในการตอบแบบสอบถามคร้ังที่ 2 นกั เรียนมีพฤติกรรมดังกลาว มากกวา คร้ังท1ี่ หากพิจารณาในภาพรวมจะเห็นไดวาดีข้นึ อยางเห็นไดชัดทําใหนักเรียนสามารถปรับเปลี่ยน พฤติกรรมการเรียนใหเ ปนผูวจิ ยั และความรับผดิ ชอบตอ หนาทแี่ ละการเรยี น สง ผลใหการเรยี นดีขนึ้ และเปนผูท่ี มคี วามสาํ เร็จ ในชีวติ ตามจุดหมายท่ีต้ังไว 12.ขอ เสนอแนะ 1. ควรมีการตดิ ตามอยางใกลชิดและตอ เน่ืองควรมกี ารติดตามอยางตอเน่ือง 2. ครผู ูปกครองนักเรยี นและผูที่เกี่ยวของควรรวมมือกันแกไขและสะทอนปญหาตาง ๆ ของนักเรียน ทําให นกั เรียนมกี ารปรับเปลย่ี นพฤติกรรมและการเรยี น

10 บรรณานกุ รม ธีรศกั ด์ิ อคั รบวร. ความเปน คร.ู กรงุ เทพฯ : ก. พลพมิ พ, 2542. ประจง ประสารฉ่ํา. คณุ ธรรมของครู : รากฐานอนั มนั่ คงของสงั คม. ขา ราชการครู,2541. ปรดี า บญุ เพลงิ . เกณฑม ารฐานวิชาชีพครู. พมิ พค รัง้ ที่ 4 . กรุงเทพ ฯ : โรงพมิ พค ุรสุ ภา ลาดพรา ว, 2541. พรพมิ ล และ อนันคช ยั พงษส วุ รรณ. ลกั ษณะครดู ี 10 ประการ. มติ รคร,ู 2534. . ภาวณิ ี เจริญยงิ่ . ครูของแผน ดิน. วทิ ยาจารย. หนา 18, 2542. บุญชม ศรีสะอาด. การวจิ ัยเบื้องตน. กรุงเทพฯ : สวุ รี ิยาสาสน , 2545.

11


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook