ใบความรู้ วชิ าพลงั งาน ทรัพยากรและสง่ิ แวดลอ้ ม (Energy, Resources and Environment Conservation) รหสั วชิ า ๒๐๐๐๑-๑๐๐๒ รายวิชาพลังงาน ทรัพยากรและสง่ิ แวดลอ้ ม จานวน ๒ หนว่ ยกติ 2–0-2 จุดประสงคร์ ายวชิ า เพอ่ื ให้ 1. เข้าใจหลกั การวิธีการป้องกนั แกไ้ ข้ ปญั หาและการอนุรกั ษพ์ ลงั งาน ทรพั ยากรและสงิ่ แวดลอ้ ม 2. สามารถประยุกตใ์ ชห้ ลักการและวิธกี ารเพ่อื ปอ้ งกันแก้ไข้ ปญั หาและอนุรกั ษพ์ ลังงาน ทรัพยากรและสง่ิ แวดลอ้ มในงานอาชีพ 3. มเี จตคตทิ ่ดี ตี ่อการอนรุ ักษพ์ ลงั งาน ทรัพยากรและส่งิ แวดล้อมในงานอาชีพ สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรู้เกย่ี วกับพลังงาน ทรพั ยากรและสงิ่ แวดล้อม หลกั การและวธิ ีการป้องกนั แก้ไขปัญหาและอนรุ ักษพ์ ลงั งาน ทรพั ยากรและ ส่งิ แวดล้อม 2. วเิ คราะหส์ ภาพปัญหาและผลกระทบทเี่ กดิ จากการใชพ้ ลงั งาน ทรัพยากรและสง่ิ แวดล้อม 3. วางแผนปอ้ งกนั แกไ้ ข้ ปัญหาและผลกระทบทีเ่ กิดจากการใชพ้ ลังงาน ทรพั ยากรและส่งิ แวดลอ้ มในงานอาชีพ 4. วางแผนการอนรุ กั ษ์พลงั งาน ทรพั ยากรและส่งิ แวดล้อมในงานอาชีพ คาอธิบายรายวิชา ศึกษาเก่ยี วกบั พลังงานทรพั ยากรและสิง่ แวดล้อม ประเภทของพลงั งาน ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมความสัมพันธข์ องพลงั งาน ทรัพยากร และส่ิงแวดล้อมกับการดาํ รงชีวติ การใชป้ ระโยชนข์ องพลงั งาน พลังงานทดแทนและทรัพยากร สถานการณป์ ัญหาและผลกระทบทีเ่ กิดจากการ ใช้พลงั งานและทรัพยากรแนวทางป้องกันและแก้ไข ปญั หาพลงั งาน ทรพั ยากรและสง่ิ แวดลอ้ ม หลักการและวธิ กี ารอนรุ กั ษพ์ ลังงานทรัพยากร และส่ิงแวดล้อม กฎหมายและนโยบายทีเ่ กีย่ วข้อง
หน่วยที่ 2 ความหลากหลายทางชีวภาพ
ความหมาย การสูญพนั ธ์ุ ประเภท ความหลากหลาย ทางชีวภาพ การสูญเสียความ ความสาคญั หลากหลายทาง ชีวภาพ
1.ความหมายของความหลากหลายทางชีวภาพ “ความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity)” ตามรากศพั ท์ หมายถึง “ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต” นอกจากน้ี ยงั พบกลุ่มคาใน ความหมายเดียวกนั เช่น Biological diversity หรือ Diversity เป็นตน้
2.ประเภทของความหลากหลายทางชีวภาพ ความหลากหลายทางชีวภาพ แบ่งออกเป็น 3 ลกั ษณะ คือ 1. ความหลากหลายของชนิดพนั ธุ์ 2. ความหลากหลายของพนั ธุกรรม 3. ความหลากหลายของระบบนิเวศ
2.1 ความหลากหลายของชนิดพนั ธุ์ของส่ิงมีชีวติ หมายถึง ความหลากหลายชนิดของสิ่งมีชีวิตที่มีอยใู่ นพ้ืนที่ หน่ึงๆโดยดูจาก 2 ลกั ษณะ คือ *1. ความมากชนิด (Species richness) หมายถึง จานวนชนิดของ สิ่งมีชีวติ ต่อหน่วยเน้ือที่ *2. ความสม่าเสมอของชนิด (Species evenness) หมายถึง สดั ส่วนของสิ่งมีชีวิตต่างๆ ท่ีมีอยใู่ นระบบนิเวศหน่ึง ๆ
*ความหลากหลายทางชนิดพนั ธุ์จึงสามารถวดั ไดจ้ ากจานวนของ ส่ิงมีชีวิตและจานวนประชากรของสิ่งมีชีวติ แต่ละชนิด *ความหลากหลายของชนิดพนั ธุ์จะแตกต่างกนั ไปตามพ้นื ที่
ส่ิงมชี ีวติ ท้งั หมดทว่ี วิ ฒั นาการอยู่บนโลก แบ่งออกเป็ น 5 อาณาจกั ร 1. อาณาจกั รโมนีรา (Kingdom Monera) 2.อาณาจกั รโพรทิสตา (Kingdom Protista) 3.อาณาจกั รพชื (Kingdom Plantae) 4.อาณาจกั รเห็ดรา (Kingdom Fungi) 5.อาณาจกั รสตั ว์ (Kingdom Animalia)
1.อาณาจกั รโมนีรา (Kingdom Monera) - สิ่งมีชีวิตท่ีเป็ นโปรคาริโอท เป็ นส่ิงมีชีวิตเซลล์เดียว ได้แก่ แบคทีเรียและ ไซยาโนแบคทีเรีย - มีโครงสร้างง่ายๆ ไม่ซบั ซอ้ น - อาจมีเซลลเ์ ดียวหรือหลายเซลลก์ ไ็ ด้ แต่ยงั ไม่รวมเป็นเน้ือเยอื่ - เซลลไ์ ม่มีเยอ่ื หุม้ นิวเคลียส - สารพนั ธุกรรม ไดแ้ ก่ กรดนิวคลิอิคประกอบดว้ ย DNA และ RNA กระจายอยู่ ในไซโทพลาซึม - ไม่มีออร์แกแนลที่มีระบบเยอ่ื บางๆ หุม้ - ภายในเซลลม์ ีไรโบโซมขนาดเลก็ ไม่มีระยะเอมบริโอ - บางชนิดสามารถสังเคราะห์ด้วยแสงได้ แต่คลอโรฟิ ลล์ไม่ได้อยู่ใน คลอโรพลาสต์
1.อาณาจกั รโมนีรา (Kingdom Monera) แบ่งไดเ้ ป็น 2 ดิวชิ นั ดงั น้ี 1. Division Schizophyta (ดิวิชนั ซิโซไฟตา) ไดแ้ ก่ แบคทีเรีย 2. Division Cyanophyta หรือ Cyanobacteria (ไซยาโน แบคทีเรีย) ไดแ้ ก่ สาหร่ายสีเขียวแกมน้าเงิ บางชนิดสามารถสงั เคราะห์ ดว้ ยแสงได้ แต่คลอโรฟิ ลลไ์ มไ่ ดอ้ ยใู่ นคลอโรพลาสต์
2.อาณาจกั รโปรทิสตา (Kingdom Protista) เป็ นสิ่งมีชีวิตที่มีเซลล์ชนิดยูแคริโอต มีท้งั ชนิดเซลล์เดียวและ หลายเซลล์ ไดแ้ ก่ สัตวเ์ ซลล์เดียว (protozoa) สาหร่ายต่างๆ ไดแ้ ก่ สาหร่ายสีเขียว สาหร่ายสีน้าตาล สาหร่ายสีแดง สาหร่ายสีทอง
2.อาณาจกั รโปรทิสตา (Kingdom Protista) โพรทิสตท์ ี่มีลกั ษณะคลา้ ยสตั ว์ ไดแ้ ก่ ส่ิงมีชีวิตในไฟลมั โพรโทซวั คือ พวกโพรโทซวั หรือที่เราเรียกวา่ สตั วเ์ ซลลเ์ ดียว จดั อยใู่ นไฟลมั โพรโทซวั
2.อาณาจกั รโปรทิสตา (Kingdom Protista) โพรทีส์ท่ีมีลกั ษณะคลา้ ยพืช ไดแ้ ก่ สิ่งมีชีวิตพวกสาหร่าย (Algae) แบ่งไดเ้ ป็น 6 ไฟลมั คือ 1.ไฟลมั คลอโรไฟตา (Phylum Chlorophyta) ไดแ้ ก่ สาหร่ายสีเขียว 2. ไฟลมั ทคริโซไฟตา (Phylum Chrysophyta) ไดแ้ ก่ สาหร่ายสีน้าตาลแกมทอง 3.ไฟลมั ยกู ลีโนไฟตา (Phylum Euglenophyta) ไดแ้ ก่ พวกยกู ลีนา 4.ไฟลมั ฟี โอไฟตา (Phylum Phaeophyta) ไดแ้ ก่ สาหร่ายสีน้าตาล 5.ไฟลมั ไพร์โรไฟตา (Phylum Pyrrophyta) ไดแ้ ก่ พวกสาหร่ายเปลวไฟหรือ ไดโนแฟลเจลเลต 6.ไฟลมั โรโดไฟตา (Phylum Rhodophyta) ไดแ้ ก่ พวกสาหร่ายสีแดง
2.อาณาจกั รโปรทิสตา (Kingdom Protista) โพรทีสต์พวกราและราเมือก คือ ไฟลมั ยไู มโคไฟตา ไฟลมั มิกโซไม โคไฟตา ไดแ้ ก่ เห็ด รา ยสี ต์ และ ราเมือก
3.อาณาจกั รฟังไจ (Kingdom Fungi) เป็นส่ิงมีชีวิตหลายเซลล์ (Multicellular Organisms) ท่ีเป็นยคู าริโอโต กินอาหารโดยการยอ่ ยสลายสารอินทรียต์ ่างๆ ไดแ้ ก่ เห็ด และรา
3.อาณาจกั รฟังไจ (Kingdom Fungi) แบ่งออกเป็น 4 ไฟลมั คือ 1.ไฟลมั ไซโกไมโคตา 2.ไฟลมั แอสโคไมโคตา 3.ไฟลมั แบสิดิโอไมโคตา 4.ไฟลมั ดิวเทอโรไมโคตา
4.อาณาจกั รพืช (Kingdom Plantae) เป็ นส่ิงมีชีวิตพวกพืชซ่ึงเป็ นพวกยูคาริโอตที่มีหลายเซลล์ มีผนงั เซลล์ (cell wall) ไม่สามารถเคลื่อนที่ไดด้ ว้ ยตวั เอง มีความสามารถในการ สงั เคราะห์แสง
4.อาณาจกั รพชื (Kingdom Plantae) แบ่งออกเป็น 9 ดิวิชนั (ใชค้ าวา่ ดิวชิ นั แทนไฟลมั ) แต่มี 6 ดิวิชนั ท่ีสาคญั ดงั น้ี 1.ดิวชิ นั ไบรโอไฟตา ไดแ้ ก่ มอส ลิเวอร์เวิร์ท ฮอร์นเวิร์ท 2. ดิวิชนั เทอโรไฟตา ไดแ้ ก่ เฟิ ร์น (Fern) 3. ดิวชิ นั โคนิเฟอโรไฟตา ไดแ้ ก่ สนสองใบ และสนสามใบ 4.ดิวชิ นั ไซแคโดไฟตา ไดแ้ ก่ ปรง (Cycad) 5.ดิวชิ นั กิงโกไฟตาไดแ้ ก่ แป๊ ะกว๊ ย (Ginkgo biloba) 6.ดิวชิ นั อแนโทไฟตา ไดแ้ ก่ พืชดอก (Flower plant)
5.อาณาจกั รสัตว์ (Kingdom Animalia) เป็ นสิ่งมีชีวิตพวกสัตว์ท่ีเป็ นพวกยูคาริโอตที่มีหลายเซลล์ ไม่มีผนัง เซลล์ กินอาหาร
5.อาณาจกั รสัตว์ (Kingdom Animalia) แบ่งออกเป็น 9 ไฟลมั คือ 1.ไฟลมั พอริเฟอรา ไดแ้ ก่ ฟองน้า 2.ไฟลมั ซีเลนเทอเรตาหรือไฟลมั ไนดาเรีย ไดแ้ ก่ ไฮดรา แมงกะพรุนน้าจืด 3.ไฟลมั แพลทีเฮลมินเทส ไดแ้ ก่ หนอนตวั แบน 4.ไฟลมั เนมาโทดา (Phylum Nematoda) ไดแ้ ก่ หนอนตวั กลม
5.อาณาจกั รสัตว์ (Kingdom Animalia) 5.ไฟลมั มอลลสั กา (Phylum Mollusca) แบ่งออกเป็น 6 คลาส คือ 5.1 Monoplacophora ไดแ้ ก่ หอยฝาละมี 5.2 Polyplacophora ไดแ้ ก่ ลิ่นทะเล 5.3 Gastropoda ไดแ้ ก่ หอยทาก หอยโข่ง 5.4 Pelecypoda ไดแ้ ก่ หอยกาบ หอยนางรม 5.5 Scaphopoda ไดแ้ ก่ หอยงาชา้ ง 5.6 Cephalopoda ไดแ้ ก่ หมึก
5.อาณาจกั รสัตว์ (Kingdom Animalia) 6.ไฟลมั แอนเนลิดา (Phylum Annelida) แบ่งออกเป็น 3 คลาส คือ 6.1 Polycheata ไดแ้ ก่ แมงเพรียง บุง้ ทะเล 6.2 Oligochaeta ไดแ้ ก่ ไสเ้ ดือนดิน 6.3 Hirudinea ไดแ้ ก่ ปลิงน้าจืด ทาก
5.อาณาจกั รสตั ว์ (Kingdom Animalia) 7.ไฟลมั อาร์โทรโพดา (Phylum Arthopoda) แบ่งออกเป็น 6 คลาส คือ 7.1 Merostomata ไดแ้ ก่ แมงดาทะเล 7.2 Arachnida ไดแ้ ก่ แมงมุม แมงป่ อง เห็บ หิด 7.3 Crustacea ไดแ้ ก่ กงุ้ ก้งั ปู เหาไม้ เพรียงดิน 7.4 Insecta ไดแ้ ก่ แมลง 7.5 Chilopoda ไดแ้ ก่ ตะขาบ 7.6 Diplopoda ไดแ้ ก่ กิ้งกือ
5.อาณาจกั รสัตว์ (Kingdom Animalia) 8.ไฟลมั เอชิโนเดอร์มาตา (Phylum Echinodermata) ไดแ้ ก่ ดาวทะเล 9.ไฟลมั คอร์ดาตา (Phylum Chordata) แบ่งออกเป็น 4 คลาส คือ 9.1 คลาสแอมฟิ เบีย (Class Amphibia) ไดแ้ ก่ สตั วค์ ร่ึงน้าคร่ึงบก 9.2 คลาสเรปทิเลีย (Class Reptilia) ไดแ้ ก่ สตั วเ์ ล้ือยคลาน 9.3 คลาสเอวสี (Class Aves) ไดแ้ ก่ สตั วป์ ี ก 9.4 คลาสแมมมาเลีย (Class Mammalia) ไดแ้ ก่ สตั วท์ ่ีเล้ียงลกู ดว้ ยน้านม
2.2 ความหลากหลายของพนั ธุกรรม หมายถึง ความหลากหลายของยนี ท่ีมีอยใู่ นส่ิงมีชีวติ แต่ละชนิด ท่ี ไดร้ ับการถา่ ยทอดมาจากรุ่นพอ่ แม่และส่งต่อไปยงั รุ่นต่อไป ส่ิงมีชีวติ ชนิดเดียวกนั อาจมียนี แตกต่างกนั ตามสายพนั ธุ์
2.3 ความหลากหลายของระบบนิเวศหรือแหล่งที่อยอู่ าศยั หมายถึง สภาวะแวดลอ้ มท่ีเป็นแหลง่ ท่ีอยอู่ าศยั ของส่ิงมีชีวิตชนิด ต่างๆ รวมถึงสิ่งไม่มีชีวิตอ่ืนๆ ซ่ึงจดั เป็นปัจจยั ทางกายภาพ ไดแ้ ก่ อุณหภมู ิ ความช้ืน ดิน น้า เป็นตน้
2.3 ความหลากหลายของระบบนิเวศหรือแหล่งที่อยอู่ าศยั ความหลากหลายของระบบนิเวศหรือแหล่งที่อยอู่ าศยั มีอยู่ 3 ประเภท คือ 1) ความหลากหลายของถิ่นที่อยอู่ าศยั ตามธรรมชาติ 2) ความหลากหลายของการทดแทน 3) ความหลากหลายของภูมิประเทศ
3.ความสาคญั ของความหลากหลายทางชีวภาพ ความหลากหลายทางชีวภาพ เป็ นสิ่งสาคัญที่ทาให้ระบบใน ธรรมชาติสามารถดารงอยู่ไดภ้ ายใต้สภาพการณ์ของส่ิงแวดลอ้ มที่ เปลี่ยนแปลงอยเู่ สมอ
3.ความสาคญั ของความหลากหลายทางชีวภาพ 1. ความหลากหลายทางชีวภาพเป็นทรัพยากรของโลก 2. ความหลากลายทางชีวภาพเป็นแหล่งสะสมทางพนั ธุกรรม 3. ความหลากหลายทางชีวภาพมีผลต่อความอุดมสมบูรณ์ของพืช อาหารโลก 4. ความหลากหลายทางชีวภาพเป็นทรัพยากรสาหรับอนาคต
4.การสูญเสียความความหลากหลายทางชีวภาพ การสูญเสียชนิดพนั ธุ์ การสูญเสียระบบนิเวศ และการสูญเสีย พันธุกรรม ทาให้โลกลดความร่ ารวยทางชีวภาพลง และทาให้ ประชากรสูญเสียโอกาสในการใชป้ ระโยชน์จากทรัพยากรชีวภาพใน ดา้ นต่างๆ
5. สาเหตุการสูญพนั ธุ์ การสูญเสียชนิดพนั ธุ์มีสาเหตุท้งั โดยตรงและทางออ้ มมาจาก กิจกรรมของมนุษย์
5.1 การสูญเสียระบบนิเวศ 1) ระบบนิเวศแหลง่ น้าในแผน่ ดิน 2) ระบบนิเวศทะเลและชายฝ่ัง 3) ระบบนิเวศป่ าไม้ 4) ระบบนิเวศภูเขา 5) ระบบนิเวศการเกษตร
5.2 การสูญเสียพนั ธุกรรม การสูญเสียชนิดพนั ธุ์และระบบนิเวศอย่างรวดเร็ว ทาให้ความ หลากหลายทางพนั ธุกรรมในชนิดพนั ธุ์ถูกทาลายไปดว้ ย
5.3 สาเหตขุ องการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ - การนามาใชป้ ระโยชน์มากเกินไป - การคา้ ขายสตั วแ์ ละพืชป่ าแบบผิดกฎหมาย - การรบกวนแหลง่ ที่อยอู่ าศยั ตามธรรมชาติ - การสูญเสียแหล่งที่อยอู่ าศยั แมว้ า่ ทรัพยากรชีวภาพเป็นทรัพยากรท่ีเกิดทดแทนได้ หมายถึง สามารถสืบพนั ธุ์ไดโ้ ดยธรรมชาติเอ้ืออานวยใหม้ นุษยไ์ ดเ้ กบ็ เก่ียว นาไปใชป้ ระโยชน์ แต่ทวา่ ในอดีตการล่าสตั วม์ ากเกินไป ส่งผลให้ ประชากรและชนิดของสตั วป์ ่ าลดลง
5.4 การอนุรักษค์ วามหลากหลายของทอ้ งถิ่น การอนุรักษค์ วามหลากหลายทางชีวภาพ ทาไดห้ ลายวิธี ดงั น้ี 1. จดั ระบบนิเวศใหใ้ กลเ้ คียงตามธรรมชาติ โดยฟ้ื นฟูหรือพฒั นา พ้ืนที่เสื่อมโทรมใหค้ งความหลากหลายทางชีวภาพไวม้ ากที่สุด 2. จดั ใหม้ ีศูนยอ์ นุรักษห์ รือพิทกั ษส์ ่ิงมีชีวิตนอกถิ่นกาเนิด เพื่อ เป็นท่ีพกั พิงชวั่ คราวที่ปลอดภยั ก่อนนากลบั ไปสู่ธรรมชาติ 3. ส่งเสริมการเกษตรแบบไร่นาสวนผสม และใชต้ น้ ไมล้ อ้ มร้ัว บา้ นหรือแปลงเกษตร เพ่ือใหม้ ีพืชและสัตวห์ ลากหลายชนิดมาอาศยั อยรู่ ่วมกนั
Search
Read the Text Version
- 1 - 35
Pages: