Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิชาการส่งกำลังและการซ่อมบำรุงสายสื่อสาร ชั้นนายร้อย

วิชาการส่งกำลังและการซ่อมบำรุงสายสื่อสาร ชั้นนายร้อย

Published by art-weerasak, 2023-01-06 16:42:32

Description: วิชาการส่งกำลังและการซ่อมบำรุงสายสื่อสาร ชั้นนายร้อย

Search

Read the Text Version

๑๓๐ การสง่ กำลงั บำรุง LOGISTICS กล่าวทว่ั ไป ความหมายของ การส่งกำลังบำรุง เป็นงานสาขาหนึ่งของการช่วยรบ ซึ่งจะประกอบไปด้วย การวางแผน และการปฏิบัตกิ ารสนบั สนนุ หน่วย เกี่ยวกบั งานชว่ ยรบ รวมท้ังกจิ กรรมทง้ั ปวงที่นอกเหนอื ไปจาก การยทุ ธซ่งึ ประกอบด้วยกจิ กรรม ดงั ต่อไปน้ี ๑. การกำหนดนโยบาย การวางแผนและการวจิ ัยและพัฒนาการ การทำงบประมาณในการส่งกำลงั บำรุง ๒. การออกแบบและพัฒนาการจัดหา การเก็บรักษา การแจกจ่าย การเคลื่อนย้าย การซ่อมบำรุง การส่งกลับ และการจัดจำหนา่ ยยทุ โธปกรณ์ ๓. การเคลื่อนย้าย การสง่ กลับ และการรกั ษาพยาบาลกำลังพล ๔. การจัดหา หรือ การก่อสร้าง การซ่อมแซม การดำเนินงาน และการจดั ตั้งส่ิงอำนวยความสะดวก ต่างๆ ๕. การจดั หา หรือ จัดให้มกี ารบริการต่างๆ วัตถุประสงค์ เพ่ือให้หน่วยรับการสนับสนุน ได้รับ สป. และการบริการอย่างเพียงพอ และทันเวลาตามที่ ต้องการ หรือ การสนบั สนุนทกุ วิถีทาง เพอ่ื ใหห้ น่วยรบสามารถทำการรบได้ชัยชนะในทสี่ ุด ปจั จัยสำคญั ในการส่งกำลงั บำรงุ ๑. MEN (คน) ๒. MONEY (เงนิ ) ๓. MATERIEL (ยุทธภัณฑ์ ) ๔. MANAGEMENT (ระบบ / การจดั การ ) ขอบเขตของงานการส่งกำลงั บำรงุ ๑. การสง่ กำลงั (SUPPLY) ๒. การซ่อมบำรุง (MAINTENANCE) ๓. การขนสง่ (TRANSPORTATION) ๔. การบริการทางการแพทย์ (HEALTH SERVICES SUPPORT) ๕. การบริการอ่ืนๆ (OTHER SERVICES)

๑๓๑ การสง่ กำลัง (SUPPLY) หมายถงึ การปฏิบัติการในเรื่อง - ความต้องการ (REQUIREMENT) - การจดั หา (PROCUREMENT) - การแจกจ่าย (DISTRIBUTION) - การจำหนา่ ย (DISPOSAL) - การควบคุม (CONTROL) วงรอบการส่งกำลัง (SUPPLY CYCLE) หรือ วงจรชีวิตของ สป. หมายถึง การปฏิบัติการต่อ สป. ตามลำดับขั้นตอน คือ… - การกำหนดความตอ้ งการ - การจัดหา - การแจกจา่ ย - การจำหนา่ ย - และการควบคุมทกุ ข้นั ตอนการปฏิบตั ิ ความตอ้ งการ การจำหน่าย การควบคุม การจัดหา การแจกจ่าย ความตอ้ งการ หมายถึง การเสนอคำขอในเร่ือง สป. ตามจำนวน และเวลาท่ีบ่งไว้หรือตามเวลาที่ กำหนดให้ การจัดหา การแจกจา่ ย หมายถงึ กรรมวธิ เี พอ่ื ใหไ้ ดม้ าซงึ่ สป.ต่างๆ การจำหน่าย หมายถึง การรบั , การเกบ็ รกั ษา, การจ่าย, การขน สป. การควบคมุ หมายถึง การดำเนนิ กรรมวธิ ี ตัดยอด สป.ออกจากความรับผิดชอบของ ทบ. หมายถงึ การควบคุมทางบัญชี และการควบคุมทางการสง่ กำลงั

๑๓๒ วงรอบการสง่ กำลงั วงรอบการส่งกำลัง หรือ วงจรชีวิตของ สป. หมายถึง การปฏิบัติต่อ สป. ตามลำดับขั้นตอน คือ ความตอ้ งการ การจดั หา การแจกจ่าย การจำหน่าย และมีการควบคุมทกุ ขั้นตอน ส่วนในเรื่อง การส่งกำลัง หมายถึงการปฏิบัติในเรื่อง ความต้องการ การจัดหา การแจกจ่าย การจำหน่าย และการควบคมุ ทบ. ได้กำหนดเป็นระเบียบว่าด้วยการส่งกำลัง สป. ๒ และ สป.๔ พ.ศ. ๒๕๓๔ ลง ๓๐ ธ.ค. ๓๔ ให้หน่วยใน ทบ.ยึดถอื ปฏบิ ัติ ความต้องการ REQUIREMENT ความต้องการ หมายถึง การกำหนดหรือการเสนอหรือคำขอในเร่ืองสิ่งอุปกรณต์ ามจำนวนและในเวลาทบี่ ่งไว้ หรอื ตามเวลาที่กำหนดไว้ ลกั ษณะความตอ้ งการ ๑. ความต้องการประจำ คอื ความต้องการประจำ เพอ่ื ทดแทน สป.ท่ีใชห้ มดไปหรอื ใช้สิน้ เปลืองและเพ่ือเพ่ิม ระดับสง่ กำลงั และใช้เปน็ ขอ้ มลู การคำนวณความต้องการ เพื่อใช้จัดหาและเพอื่ การเบกิ ๒. ความต้องการคร้ังคราว คือ ความต้องการท่ีเกิดขึ้นครั้งคราวเดียวในห้วงเวลา ๑๒ เดือน สำหรับความมุ่ง หมายอย่างเดียวกัน และหมายรวมถงึ ความต้องการขน้ั ตน้ เพ่ือสนองความต้องการตามอัตรา ความต้องการเพื่อ รกั ษาระดับส่งกำลังที่เพิ่มข้ึนและความตอ้ งการตามโครงการพิเศษต่างๆ เชน่ ความต้องการเพื่อการซ่อมบำรุง สิ่งอุปกรณ์สำเร็จรูป เป็นต้น ความต้องการลักษณะน้ใี ชเ้ ปน็ ข้อมลู สำหรับคำนวณ ความตอ้ งการเพอ่ื การจดั หา เท่านน้ั ความต้องการ แบง่ ได้ ๔ ประเภท ๑. ความต้องการข้ันต้น Initial Requirement ( IR ) หมายถึง ความต้องการส่ิงอุปกรณ์ท่ีทหารหรือหน่วย ต้องการมีไว้เพ่ือปฏิบัติภารกิจของตน ซ่ึงส่ิงอุปกรณ์น้ัน ๆ ยังไม่เคยได้รับมาก่อนและเป็นความต้องการ ส่งิ อปุ กรณ์ดังตอ่ ไปนี้ ๑.๑ การรับทหารเข้าประจำการใหม่ ๑.๒ การจดั ตงั้ หนว่ ยใหม่ ๑.๓ การกำหนดมาตราฐานส่ิงอปุ กรณใ์ หม่ ๑.๔ การเพมิ่ จำนวนและรายการเน่ืองจากการแกอ้ ัตรา ๑.๕ รายการที่ไดร้ บั อนมุ ตั ิให้จา่ ยคร้งั แรกแก่หนว่ ยทยี่ ังไม่ได้รบั อนมุ ตั อิ ัตรา

๑๓๓ ๑.๖ รายการทไ่ี ดร้ ับอนุมัติใหจ้ า่ ยครั้งแรกซงึ่ เกนิ จำนวนจากอัตรา ๑.๗ การอนุมัติจ่ายสิ่งอุปกรณ์ใหม่เพ่ือทดแทนสิ่งอุปกรณ์เดิมท่ียังใช้การได้ ซึ่งได้รับคืนจากหน่วย ทหาร ๑.๘ การแจกจา่ ยครง้ั แรก ให้แก่หนว่ ยนอกกองทัพบก ตามคำสั่งกองทพั บก ๒. ความต้องการทดแทน Replacement Requirement ( RR ) หมายถึง ความต้องการเพ่ือทดแทนสิ่งอุปกรณ์ท่ีหน่วยเคยได้รับมาแล้วและเป็นความต้องการสิ่งอุปกรณ์ใน กรณีดังต่อไปนี้ ๒.๑ เพื่อทดแทนสิ่งอุปกรณ์ท่ีหมดเปลืองหรือชำรุดเน่ืองจากการใช้และรวมท้ังทดแทนชิ้นส่วนซ่อมที่ ชำรดุ ดว้ ย ๒.๒ เพ่ือทดแทนส่ิงอุปกรณ์ที่ถูกละทิ้ง, ทำลายข้าศึกทำให้เสียหาย, โจรกรรม หรือเสียหายโดยเหตุ อน่ื ๆ ๒.๓ เพอ่ื ทดแทนสง่ิ อปุ กรณ์ที่อยู่ในระหว่างการซอ่ มบำรุงโดยใชส้ งิ่ อุปกรณ์สำรองเพ่ือการซ่อมบำรุง ๓. ความต้องการเพ่ือรกั ษาระดบั สง่ กำลัง Level & Intransit Requirement ( L&IR ) หมายถงึ ความต้องการส่งิ อปุ กรณ์ทห่ี น่วยสง่ กำลงั ตอ้ งการเพ่มิ เติมให้เต็มระดับสง่ กำลงั ๓.๑ ระดับปลอดภยั (Safety Level ; SL) ๓.๒ ระดับปฏิบัติการ ( Operating Level ; OL) หรือ วงรอบในการเบิกและจัดส่งหรือวงรอบการสั่ง เพม่ิ เติม (Reorder cycle ; Reo/Cye) หรอื วงรอบการจัดหา (Procurement ; Pro/Cye) ๓.๓ เวลาในการเบิกและจัดส่ง (Order Shipping Time ; OST) หรือ เวลาล่วงหน้าในการจัดหา (Procurement Lead Time ; PLT) ๔. ความตอ้ งการตามโครงการ Project Requirement ( PR ) หมายถงึ ความตอ้ งการสิ่งอุปกรณ์ทีน่ อกเหนือไปจากความตอ้ งการตามปกติ เป็นความต้องการส่ิงอุปกรณ์เพ่ือ สนับสนุนโครงการหรือการปฏิบัติการพิเศษตามแผนและวัตถุประสงค์ของ ทบ. เช่น สป.๔, โครงการจัดต้ัง หนว่ ยใหม่ และ โครงการระดมสรรพกำลัง เปน็ ตน้ การเสนอความตอ้ งการ ๑. สป.ตามอัตรา ตามระดับส่งกำลังหรือตามโครงการท่ีได้รับอนุมัติแล้ว กรม ฝยบ .หรือ กรม ฝกษ.ท่ี รบั ผิดชอบ เป็นผ้รู วบรวมความตอ้ งการ สป.เสนอไปยงั กบ.ทบ.ตามท่ี ทบ.กำหนด ๒. สป.นอกเหนือจากทีก่ ล่าวแล้วใน ขอ้ ๑. ใหป้ ฏิบตั ดิ งั นี้ ๒.๑ หนว่ ยใช้ เสนอความตอ้ งการไปตามสายการส่งกำลังจนถึง กรม ฝยบ.หรอื กรม ฝกษ.ท่รี ับผิดชอบ ๒.๒ กรม ฝยบ.หรือ กรม ฝกษ.รวบรวมความต้องการ แลว้ เสนอไปยงั กบ.ทบ.ตามที่ ทบ. กำหนด

๑๓๔ ระดบั สง่ กำลัง และการคำนวณ = ๔๕๐ วันส่งกำลงั คลัง ส. = ๖๐ วันส่งกำลงั เกณฑค์ วามตอ้ งการ / เบิก ( RO ) ระดบั ปฏิบัตกิ าร ( OL ) = ๔๕ วนั สง่ กำลัง ระดบั ปลอดภัย ( SL ) เวลาเบิกและจดั ส่ง สป.( OST ) = ๓๔๕ วนั ส่งกำลงั จุดเพ่ิมเติม ( RP ) RP=SL+OST เกณฑ์เบกิ ( RO ) RO=OL+SL+OST = ๔๕+๓๔๕ = ๓๙๐ วันส่งกำลัง = ๖๐+๔๕+๓๔๕ = ๔๕๐ วันส่งกำลัง บชร. = ๗๕ วนั ส่งกำลัง เกณฑเ์ บกิ ( RO ) ระดับปฏิบัติการ ( OL ) = ๓๐ วันส่งกำลงั ระดับปลอดภัย ( SL ) เวลาเบิกและจัดส่ง สป.( OST ) = ๑๕ วันสง่ กำลัง จุดเพม่ิ เตมิ ( RP ) RP=SL+OST เกณฑเ์ บกิ ( RO ) RO=OL+SL+OST = ๓๐ วันส่งกำลงั = ๑๕+๓๐ = ๔๕ วนั สง่ กำลัง = ๓๐+๑๕+๓๐ = ๗๕ วันสง่ กำลัง พนั .ส.พล.หรอื กรม สน.พล. = ๖๐ วนั สง่ กำลงั เกณฑ์เบิก ( RO ) ระดบั ปฏบิ ัติการ ( OL ) = ๓๐ วันสง่ กำลงั ระดบั ปลอดภัย ( SL ) เวลาเบิกและจัดสง่ สป.( OST ) = ๑๕ วนั สง่ กำลงั จดุ เพม่ิ เติม ( RP ) RP=SL+OST เกณฑเ์ บกิ ( RO ) RO=OL+SL+OST = ๑๕ วนั ส่งกำลงั = ๑๕+๑๕ = ๓๐ วนั ส่งกำลงั = ๓๐+๑๕+๑๕ = ๖๐ วนั สง่ กำลัง

๑๓๕ สูตรการคำนวณ SO OL SL RO BP OST / PTL RO = OL + SL + OST SO = SL + OL RP = SL + OST ความหมาย และตวั ยอ่ SO Stockage Objective เกณฑส์ ะสม หมายถงึ จำนวน สป.สงู สดุ ในครอบครอง SO = OL (REO/Cye) + SL RP Reorder Point จุดเพ่มิ เติม หมายถงึ จำนวน สป.ตำ่ สดุ ในสายทางส่งกำลัง OL Operation Level ระดับปฏิบัตกิ าร คือ จำนวน สป.ในห้วงเวลาที่กำหนดไวร้ ะหว่างการจดั หา การส่ัง หรือ การเบกิ คร้ังหน่ึงกับอีกครั้งหนง่ึ กำหนดเปน็ วนั สง่ กำลงั หรือ OL = REO/Cye (Reorder Cycle) วงรอบการส่งั เพม่ิ เตมิ หรอื OL = PRO/Cye (Procurement Cycle) วงรอบการจัดหา หรอื OL = REQ/Cye (Requisitioning Cycle) วงรอบในการเบกิ SL Safety Level ระดับปลอดภัย หมายถึงจำนวน สป.ตำ่ สุดในครอบครอง OST Order Shipping Time เวลานับตงั้ แตว่ นั ที่หนว่ ยเบกิ ทำการเบิก สป.จนถึงวนั ท่ีไดร้ ับ สป. และหมายถึง จำนวน สป.ในสายทางเดนิ ส่งกำลังที่ไม่อยใู่ นครอบครอง - เวลาทก่ี ล่าวถงึ คอื เวลาล่วงหนา้ ทางธุรการ หรอื เวลาลว่ งหน้าในการผลิตและสง่ มอบ PLT Procurement Lead Time เวลาลว่ งหน้าในการจัดหา หมายถึง เวลานับตั้งแต่เร่ิมทำการจัดหา จนถึงวนั ท่ีไดร้ ับ สป.งวดแรกเขา้ สูร่ ะบบการสง่ กำลัง RO Requirement Objective เกณฑ์ความต้องการ หมายถึง ปรมิ าณสงู สุดของ สป.คงคลังรวมกบั ที่ส่ังซื้อ ซึง่ จำเปน็ สำหรบั สนับสนุนการปฏิบัติการในระยะน้นั และเพียงพอสำหรบั ความต้องการทีค่ าดวา่ จะมี

๑๓๖ ในอนาคต หรือ คือ ผลรวมของ สป.ตาม ระดับปลอดภัย (SL) ,วงรอบการจัดหา (PRO/Cye) , เวลาล่วงหน้า ในการจดั หา (PLT) และเวลาทเี่ สียไปในการรายงานสถานภาพ RO Requisitioning Objective เกณฑ์เบิก หมายถึง ปริมาณสงู สุดของ สป.คงคลัง (OH) รวมกับ ค้างรับ (DI) และเพียงพอสำหรับความต้องการที่คาดว่าจะมีในอนาคต หรือ คือผลรวมของ เกณฑ์สะสม (SO) กับ เวลาในการเบกิ และจดั สง่ (OST) หรือ RO คือ ปริมาณสงู สุดของ สป.ในครอบครอง หรือ คงคลงั รวมกบั ท่เี บกิ หรอื สง่ั ซ้อื ไว้ หรอื คอื ปรมิ าณสูงสุดในสายทางเดนิ สง่ กำลงั ปัจจยั และเวลาใชใ้ นการคำนวณ ๑. ปัจจยั ทดแทน Replacement Factor ( RF) คือ ตัวเลขแสดงความสิน้ เปลือง สป.ถาวร (/ เดอื น) ๒. อตั ราสนิ้ เปลอื ง Consumption Rate ( CR) คือ ตวั เลขแสดงความสน้ิ เปลือง สป.สนิ้ เปลอื ง (/ วนั ) ๓. พยากรณ์หรือสถิติสิ้นเปลือง (FORECAST : FC) คือ ตัวเลขแสดงความส้ินเปลืองกรณีไม่มี RF และ CR มีหนว่ ยเป็นเวลา (/วนั หรอื เดอื น) การคำนวณหาจำนวน สป. องคป์ ระกอบในการคำนวณ ประกอบด้วย - ความต้องการขนั้ ตน้ (IR) - ปจั จัย (RF, CR , FC) - เวลาในสายทางเดินสง่ กำลัง (/วัน/เดือน) ความตอ้ งการขัน้ ต้น (IR) หาไดจ้ าก ๑. อัตราการจัดและยทุ โธปกรณ์ (อจย.) Table of Organization and Equipment ( TOE) ๒. อตั ราสง่ิ อุปกรณ์ (อสอ.) Table of Allowance ( TA ) ๓. อตั ราอนมุ ตั ิอื่นๆ ๓.๑ อัตราพกิ ัด Prescribe Load List ( PLL ) ๓.๒ อัตราสะสม Authorize Stockage List ( ASL ) ๓.๓ อัตรากระสนุ มูลฐาน Basic Load ( BL ) สูตรคำนวณหาจำนวน สป. ๑. ปรมิ าณ สป. = ความต้องการขน้ั ต้น (IR) X ปจั จัย X เวลาในสายสง่ กำลงั ๒. ปริมาณ สป. = สถิตคิ วามสน้ิ เปลอื ง X เวลาฯ ในสายสง่ กำลัง

ประเภท สป. ปจั จยั ๑๓๗ ถาวร ปจั จัยทดแทน (RF.) อตั ราส้นิ เปลอื ง (CR.) เวลาในสายฯ ส่งกำลัง ส้ินเปลือง สถิตสิ ิ้นเปลอื ง (FC.) /เดอื น ถาวร/สิน้ เปลอื ง /วัน ไม่มี RF., CR. /วนั /เดือน (ขึ้นกับ FC.) - อัตราสน้ิ เปลอื ง ใชก้ ับ สป.สิน้ เปลือง - อตั ราส้ินเปลอื งไม่กำหนดเป็นความสิ้นเปลืองต่อเดือนเสมอไป แต่จะกำหนดเป็นมาตรการอย่าง ใดอยา่ งหนึง่ เปน็ หน่วยนบั เชน่ กิโลกรัม/วนั /คน หรอื ลติ ร , ไมล์ ฯลฯ - ปัจจัยทดแทนใช้กับ สป.ถาวร ปัจจัยทดแทนกำหนดเป็นร้อยละหรือพันละต่อเดือน ปัจจัย ทดแทน ๐.๐๐๕ คือ ตวั เลขแสดงความสนิ้ เปลอื ง ดังน้ี.- ของ ๑,๐๐๐ ชิน้ มีความสน้ิ เปลอื ง ๕ ชนิ้ /เดอื น การคำนวณหาความต้องการ สป. ๑. ความตอ้ งการขน้ั ต้น (IR) = สป.ตามอัตรา X จำนวน (หนว่ ย,ทหาร) ตามอัตรา ๒. ความตอ้ งการทดแทน (RR) = ความตอ้ งการขนั้ ต้น (IR) X ปจั จยั ทดแทน (RF)/อัตราสน้ิ เปลือง (CR) X เดอื น/วนั ทท่ี ดแทน ๓. ความตอ้ งการเพ่อื รกั ษาระดับส่งกำลัง ( L&IR ) = ความตอ้ งการขัน้ ตน้ (IR) X ปจั จัยทดแทน (RF)/อัตราส้นิ เปลือง (CR) X เดอื น/วันในสายทางเดินส่งกำลัง ๔. ความต้องการตามโครงการ (PR) การคิดคำนวณขึ้นอยู่กับโครงการ หรือ การปฏิบัติการพิเศษตามแผน และวัตถุประสงค์ของ ทบ. ๕. ความต้องการรวม (GROSS RO) = ความต้องการขนั้ ตน้ (IR) + ความตอ้ งการเพอื่ รักษาระดบั สง่ กำลงั ( L&IR )/ ความตอ้ งการ ทดแทน (RR) + ความตอ้ งการตามโครงการ (PR) (ความตอ้ งการ สป.๔) ๖. ความต้องการสุทธิ (NET RO) = ความต้องการรวม (RO) + คา้ งจ่าย (DUE OUT) – คงคลงั (ON HAND) – ค้างรบั (DUE IN) หรอื ความตอ้ งการสุทธิ (หรอื จำนวนเบกิ จรงิ ) = RO + DO – OH - DI หรอื ความต้องการสทุ ธิ = ความต้องการรวม – ทรพั ย์สนิ

๑๓๘ RO = IR  RF  SL + OL + OST REO/Cye PLT CR FC เกณฑร์ วม (GROSS RO) ( ปัจจยั เพ่มิ ) SSLT = RO + SSLT + DO DO OH เกณฑ์สุทธิ (NET RO) ( ปจั จยั ลด ) = GROSS - OH - DI DI SSLT ( Stock Status Lag Time ) คือ เวลาท่ีเสียไปในการรายงานสถานภาพ DO ( Due Out ) คอื ค้างจา่ ย OH ( On Hand ) DI ( Due In ) คอื สป.คงคลัง ณ วนั ตดั ยอดรายงาน คือ จำนวนค้างรบั ตัวอยา่ งการคำนวณระดบั ส่งกำลัง และปรมิ าณ สป. สมมุติ ระดบั ปฏิบตั กิ าร (OL) = ๖ วนั ส่งกำลัง ระดับปลอดภัย (SL) = ๔ วนั ส่งกำลัง เวลาในการจัดเบิกและจัดส่ง (OST) = ๕ วันส่งกำลัง วิธีทำ RO = OL+SL+OST RO = ๖ + ๔ + ๕ RO = ๑๕ วนั สง่ กำลัง ๑ วันส่งกำลัง = จำนวน สป.ใช้สน้ิ เปลอื งใน ๑๒ เดือน ๓๖๐ เนอื่ งจาก สป.ท่ีใช้สนิ้ เปลอื งใน ๑๒ เดือน = ๗๒๐ ชิ้น เพราะฉะนนั้ ๑ วนั สง่ กำลัง = ๗๒๐ = ๒ ชิ้น

๑๓๙ ๓๖๐ RO = ๑๕ วนั สง่ กำลงั ตอบ ตอบ = ๑๕  ๒ ตอบ = ๓๐ ช้นิ RP = SL+ OST = ๔+๕ = ๙ วันส่งกำลัง = ๙๒ = ๑๘ ชิ้น SO = OL+SL = ๖+๔ = ๑๐ วันส่งกำลัง = ๑๐  ๒ = ๒๐ ช้นิ ตัวอย่างการคำนวณการเบกิ เพม่ิ เตมิ เพอ่ื รักษาระดับส่งกำลงั ความต้องการสุทธิ / จำนวนเบกิ จริง = RO (ความต้องการ) – OH (คงคลงั ) – DI (คา้ งรบั ) + DO (คา้ งจา่ ย) สมมตุ ิ RO = ๙๐๐ ช้นิ , OH = ๗๐๐ ช้นิ , DI = ๕๐ ชน้ิ และ DO = ๓๐ ชน้ิ จำนวนเบิก จะเป็นเทา่ ไร ? จากสูตร จำนวนเบกิ = RO - OH - DI + DO = ๙๐๐ - ๗๐๐ - ๕๐ + ๓๐ = ๑๘๐ ชน้ิ ตอบ ต้องเบกิ เพิ่มอีก ๑๘๐ ชนิ้ เพอื่ รกั ษาระดับส่งกำลังให้ได้ RO = ๙๐๐ ชิ้น

๑๔๐ การจดั หา PROCUREMENT กลา่ วท่วั ไป การจดั หา คือ กรรมวธิ เี พ่ือให้ไดม้ าซ่ึง สง่ิ อปุ กรณ์ และบริการตา่ งๆ ทีถ่ กู ตอ้ งตามกฎหมาย งานของการจดั หา มีงานทีเ่ กี่ยวขอ้ งดังนี้ ๑. การกำหนดแบบ สป. ๒. การกำหนดคณุ ลักษณะเฉพาะ สป. ๓. การกำหนดมาตรฐาน สป. ๔. การกำหนดราคากลาง ๕. การกำหนดแบบสญั ญา ๖. การทำสัญญา ๗. เง่อื นไขเกยี่ วกบั การสงวนสิทธิต์ ่าง ๆ ๘. การปฏบิ ัตติ ามสญั ญา ๙. การแกไ้ ขสญั ญา ๑๐. การตรวจรบั สป. ๑๑. ขอ้ ปฏบิ ตั ิท่ีเกย่ี วกับการเงิน ๑๒. ขอ้ กำหนดอน่ื ๆ ทีเ่ กีย่ วขอ้ งกับการจัดหา แหล่งทรัพยากรในการจดั หา ๑. ภายในยุทธบรเิ วณ ๒. เขตภายใน ๓. จากยุทธบรเิ วณอน่ื ๔. ประเทศพันธมติ ร ภายในยุทธบรเิ วณ จะสามารถกระทำได้โดยการจดั หาในทอ้ งถ่ิน การซอ่ มคืนสภาพ/ การเก็บซอ่ ม และจาก ยุทโธปกรณ์ท่ียดึ ได้

๑๔๑ การได้มาซงึ่ สป. และบรกิ ารของ ทบ.ไทย ๑. การจดั หา ตาม พ.ร.บ.การจัดซ้ือจดั จา้ งและการบรหิ ารพสั ดภุ าครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ ( บงั คับใชต้ ัง้ แต่ วันที่ ๒๓ ส.ค.๖๐ ) แบง่ การจัดหาได้ ๔ วธิ ี ๑.๑ การซ้ือหรือการจ้าง (รูปแบบใหม่) ตาม พ.ร.บ.การจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุ ภาครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐ กระทำได้ ๓ วธิ ี คอื ๑) ประกาศเชิญชวน ๒) วธิ ีคดั เลอื ก ๓) วธิ ีเฉพาะเจาะจง ๑.๒ การแลกเปลี่ยน ๑.๓ การเชา่ ๑.๔ การจัดทำเอง ๒. การรับความช่วยเหลือจากต่างประเทศ ปฏิบัตติ าม คำสง่ั ทบ. ที่ ๖๕๓/๒๕๓๗ ๓. การซ่อมบำรงุ ปฏิบตั ิตาม รบ.ทบ.ว่าด้วยการการซอ่ มบำรงุ ยปก. พ.ศ.๒๕๒๔ ๔. การเก็บซอ่ ม ปฏิบัตติ าม รบ.ทบ.วา่ ด้วยการซ่อมบำรุง ยปก. พ.ศ.๒๕๒๔ ๕. การบรจิ าค ปฏิบัติตาม คำสัง่ ทบ. ท่ี ๖๕๓/๒๕๓๗ ๖. การยมื ปฏิบัติตาม รบ.ทบ.ว่าดว้ ยการส่งกำลัง สป.๒ และ ๔ พ.ศ.๒๕๓๔ ๗. การโอน ปฏิบัติตาม รบ.ทบ. วา่ ดว้ ยการสง่ กำลงั สป.๒ และ ๔ พ.ศ.๒๕๓๔ ๘. การเบิก ปฏบิ ัตติ าม รบ.ทบ. วา่ ด้วยการสง่ กำลงั สป.๒ และ ๔ พ.ศ.๒๕๓๔ ๙. การผลิต ปฏบิ ัตติ าม รบ.ทบ. วา่ ด้วยความรับผิดชอบ สป. พ.ศ.๒๕๕๕ ๑๐. การแลกเปลย่ี น ปฏบิ ัตติ าม รบ.ทบ. ว่าดว้ ยความรบั ผดิ ชอบ สป. พ.ศ.๒๕๕๕ ๑๑. การเกณฑ์ ปฏิบตั ิตาม พ.ร.บ.การเกณฑ์ช่วยราชการทหาร พ.ศ.๒๕๓๐ และ การยดึ ปฏิบัติ ตาม พ.ร.บ. กฏอยั การศกึ พ.ศ.๒๔๕๗ ๑๒. การจดั ซอ้ื จัดจ้าง ของส่วนราชการในสงั กดั กระทรวงกลาโหม ปฏิบตั ติ าม คำสง่ั (เฉพาะ) ท่ี ๔๐๐/๖๐ เรอื่ ง การจดั ซ้อื จัดจา้ ง และการพสั ดขุ องกระทรวงกลาโหม

๑๔๒ ประเภทการจัดหา แบ่งเปน็ ๒ ประเภท ๑. ประเภทรวมการ ได้แก่ การจัดหาในลกั ษณะดังตอ่ ไปนี้ ๑.๑ หน่วยจดั หา ไดแ้ ก่ กรมฝ่ายยทุ ธบรกิ าร และกรมฝา่ ยกจิ การพเิ ศษ ซ่ึงจัดหาเปน็ ส่วนรวมใน ระดับ ทบ. ๑.๒ ความมุ่งหมาย จัดหาเพือ่ สะสมและแจกจ่ายใหแ้ ก่คลังกองบัญชาการชว่ ยรบ และ คลงั สว่ น ภมู ิภาค หรือบางกรณอี าจจะแจกจา่ ยโดยตรงใหก้ ับหนว่ ยใช้ก็ได้ ๑.๓ ลักษณะส่ิงอุปกรณ์ท่ีจัดหา เป็นสิ่งอุปกรณ์สำเร็จรูปท่ีความต้องการมีปริมาณมากมีความถ่ี ในความต้องการสงู เป็นยทุ โธปกรณ์ทางทหาร หรอื ยุทโธปกรณท์ างเทคนิค ๑.๔ งบประมาณท่ีใช้ในการจดั หา ใชเ้ งนิ งบส่งกำลงั บำรุงหรือเงนิ งบอนื่ ใดท่ีกองทพั บกอนุมตั ิ ๑.๕ ราคาส่ิงอปุ กรณ์ส่วนมากราคาแพง หรือมวี งเงินในการจดั หามาก ๑.๖ รายการส่ิงอุปกรณ์ท่ีกรมฝ่ายยุทธบริการหรือกรมฝ่ายกิจการพิเศษรับผิดชอบจัดหา ถือ ปฏบิ ัติตามระเบียบกองทัพบก ว่าด้วยความรับผิดชอบในสิ่งอปุ กรณ์ ๒. ประเภทแยกการ ได้แก่ การจัดหาในลักษณะดังต่อไปน้ี ๒.๑ หนว่ ยจดั หา ไดแ้ ก่ บชร. และส่วนภมู ิภาค หรอื หน่วยใช้ท่ไี ดร้ ับอนุมัติให้ดำเนินการ ๒.๒ ความมุ่งหมาย จัดสนับสนุนหน่วยใชเ้ พ่ือแก้ปญั หาเฉพาะหนา้ หรอื เพอ่ื ใช้เอง ๒.๓ ลักษณะ สป. ที่จัดหา เป็นสิ่งอุปกรณ์เบ็ดเตล็ดที่มีขายในท้องตลาดโดยท่ัวไป ปริมาณ ความตอ้ งการไมม่ ากและความถีใ่ นความต้องการไม่สูง ๒.๔ งบประมาณท่ีใช้ในการจัดหา ใช้เงินงบบริหารและเงินงบเครื่องช่วยฝึก หรืออาจจะเป็น งบอนื่ ใดทีก่ องทัพบกอนุมัติเปน็ กรณพี ิเศษ ๒.๕ ราคาสง่ิ อุปกรณ์ส่วนมากราคาไมแ่ พงหรือมีวงเงนิ ในการจัดหาไม่มากนัก ๒.๖ รายละเอยี ดในการปฏบิ ตั ิ ให้ถอื ปฏิบตั ิตามคำสง่ั ทบ. ดังตอ่ ไปน้ี ๒.๖.๑ คำสัง่ ทบ. ท่ี ๙๖/๒๕๒๔ ลง ๒๐ ก.พ.๒๔ เร่อื ง การจัดหาและซ่อมบำรุงรายย่อย โดยใช้เงินงบบริหารทวั่ ไปของหน่วย ๒.๖.๒ คำสั่ง ทบ. ท่ี ๔๗๖/๒๕๒๔ ลง ๒๓ ก.ย.๒๔ เร่ือง การจัดหาและซ่อมบำรุง รายย่อยโดยใช้เงินงบเคร่ืองช่วยฝกึ ๒.๖.๓ คำสั่งหรืออนุมัติของ ทบ. เร่ืองอื่นใดที่กำหนดหรืออนุมตั ิ โดยเฉพาะเกี่ยวกับการ จดั หาประเภทแยกการของกองบัญชาการชว่ ยรบสว่ นภมู ิภาค หรอื หน่วยใช้

๑๔๓ ความรบั ผิดชอบในการจัดหา ๑. กรมฝ่ายยุทธบรกิ ารหรือกรมฝ่ายกจิ การพิเศษ รับผิดชอบจัดหาส่ิงอุปกรณเ์ ป็นส่วนรวม ประเภท รวมการ โดยเจา้ หนา้ ทขี่ องกรมฝ่ายยุทธบรกิ าร หรือกรมฝา่ ยกิจการพเิ ศษ ดงั น้ี.- ๑.๑ รวบรวมความต้องการเสนอไปยังกรมส่งกำลังบำรุงทหารบก ตามที่กำหนดไว้ในเรื่องการ เสนอความต้องการ ๑.๒ เสนองบประมาณไปยังสำนักงานปลัดบัญชีกองทัพบกตามระยะเวลาที่กองทัพบก กำหนด เพ่ือพจิ ารณาจดั สรรงบประมาณตอ่ ไป ๑.๓ ทำแผนจัดหาโดยถือมูลฐานจากงบประมาณที่ได้รับแต่ละปี เสนอกรมส่งกำลังบำรุง ทหารบก ตามระยะเวลาท่ีกำหนดเพอื่ ขอรบั อนมุ ัตจิ ากกองทัพบก ๑.๔ ดำเนินการจดั หาเพื่อสะสมและแจกจา่ ยตามงบประมาณทไี่ ดร้ บั ๒. กองบัญชาการช่วยรบและส่วนภูมภิ าค รับผิดชอบจัดหาสิ่งอุปกรณ์ ประเภทแยกการ โดยเจ้าหน้าท่ี ของกองบญั ชาการช่วยรบ หรือสว่ นภมู ภิ าค ๓. หน่วยใช้ โดยปกตไิ มม่ หี น้าทใี่ นการจดั หา เว้นแต่จะไดร้ บั อนมุ ัตจิ าก ทบ. เป็นกรณพี ิเศษ     

๑๔๔ การจดั ซ้อื จัดจ้าง ตาม พ.ร.บ. จดั ซอ้ื จัดจ้างและการบรหิ ารพัสดภุ าครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐ สาระสำคัญ พ.ร.บ.ฯ - การจดั ซือ้ จัดจา้ ง หมายความว่า การซ้อื จา้ ง เชา่ แลกเปลยี่ น - การบริการพัสดุ หมายความว่า การเก็บ การบันทึก การเบิกจ่าย การยืม การตรวจสอบ การบำรงุ รักษา และการจำหน่ายพสั ดุ - ไม่บังคับใช้กับการจัดซ้ือจัดจ้างยุทโธปกรณ์และบริการท่ีเกี่ยวกับความม่ันคง ของชาติ โดยวิธรี ฐั บาลต่อรฐั บาลหรือที่ กม. ประเทศนนั้ กำหนดไว้อย่างอน่ื - ปลดั กห. มีอำนาจสูงสุด ในการอนมุ ตั สิ ัง่ ซ้ือส่ังจ้าง - งานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้าง กระทำได้ ๔ วิธี คือ วิธีประกาศ เชญิ ชวนทวั่ ไป, วิธคี ัดเลือก , วิธีเฉพาะเจาะจง และ วิธปี ระกวดแบบ - การจัดซอ้ื จดั จ้างพัสดุ มี ๓ วิธี คอื วิธีประกาศเชญิ ชวนทั่วไป, วธิ ีคัดเลอื ก , วิธเี ฉพาะเจาะจง ๑. วิธีประกาศเชิญชวนท่ัวไป ได้แก่ การท่ีหน่วยงานของรัฐเชิญชวนผู้ประกอบการทั่วไปที่มี คุณสมบตั ติ รงตามเงือ่ นไขทีห่ น่วยงานของรฐั กำหนดใหเ้ ข้ายื่นข้อเสนอ ๒. วิธีคัดเลือก ได้แก่ การที่หน่วยงานของรัฐเชิญชวนเฉพาะผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตรงตาม เง่ือนไขที่หน่วยงานของรัฐกำหนด ซ่ึงต้องไม่น้อยกว่า ๓ ราย ให้เข้ายื่นข้อเสนอ เว้นแต่ในงานน้ันมี ผปู้ ระกอบการทมี่ ีคณุ สมบตั ิตรงตามทกี่ ำหนดน้อยกว่า ๓ ราย ๓. วิธีเฉพาะเจาะจง ได้แก่ การท่ีหน่วยงานของรัฐเชิญชวนผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตรงตาม เง่ือนไขที่หน่วยงานของรัฐกำหนดรายใดรายหน่ึงให้เข้ายื่นข้อเสนอ หรือให้เข้ามาเจรจาต่อรองราคา รวมทั้ง การจัดซื้อจัดจ้างพัสดุกับผู้ประกอบการโดยตรง ในวงเงินเล็กน้อย ตามท่ีกำหนดในกฎกระทรวงท่ีออกตาม ความในมาตรา ๙๖ วรรค ๒ ของกฎหมายว่าดว้ ยการจดั ซื้อจัดจา้ งและการบริหารพัสดภุ าครัฐ     

๑๔๕ ข้นั ตอนการจัดซือ้ จดั จ้าง ทารายงานขอซ้ือ/จา้ ง วิธีจดั ซ้ือจดั จา้ งทวั่ ไป ๓ วธิ ี ดาเนินการจดั หา ( วิธีประกาศเชิญชวน วิธีคดั เลือก วิธีเฉพาะเจาะจง ) ขออนุมตั ิสง่ั ซ้ือ/จา้ ง การทาสญั ญา ผูม้ อี านาจอนุมตั สิ ง่ั ซ้ือ/ส่งั จา้ ง การตรวจรับพสั ดุ ๑) หน.หน่วยงานของรัฐ ๒) ผูม้ ีอานาจเหนือข้ึนไปหน่ึงช้นั หน.หน่วยงานของรฐั คณะกรรมการตรวจรบั พสั ดุ คณะกรรมการทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกับการซอ้ื การจ้าง ❖ ในการดำเนนิ การจดั ซ้อื หรือจดั จ้างแต่ละคร้งั ให้หวั หนา้ หนว่ ยงานของรัฐแต่งตงั้ คณะกรรมการการ จดั ซอื้ จดั จ้างขึน้ เพอ่ื ปฏิบัติการตามระเบียบน้ี พร้อมกับกำหนดระยะเวลาในการพจิ ารณาของคณะกรรมการ แล้วแตก่ รณี คือ (1) คณะกรรมการพจิ ารณาผลการสอบราคา (2) คณะกรรมการพจิ ารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (3) คณะกรรมการจดั ซือ้ จดั จา้ งโดยวธิ ีคัดเลอื ก (4) คณะกรรมการจดั ซื้อจดั จ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจง ให้คณะกรรมการการจัดซือ้ จัดจ้างแต่ละคณะ รายงานผลการพิจารณาตอ่ หัวหนา้ หนว่ ยงานของ รัฐภายในระยะเวลาท่ีกำหนด ถ้ามีเหตุท่ีทำให้การรายงานล่าช้า ให้เสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐพิจารณา ขยายเวลาใหต้ ามความจำเปน็ องค์ประกอบของคณะกรรมการ ➢ ประธาน ๑ คน แต่งตั้งจากข้าราชการชัน้ สญั ญาบัตร ท่ีมชี ั้นยศตงั้ แต่ พ.ต. ขึ้นไปตามลำดบั ➢ กรรมการอ่ืนอยา่ งน้อย ๒ คน แต่งตงั้ จากขา้ ราชการชั้นสญั ญาบัตรหรอื ผ้ทู ่ีทำหน้าที่ในตำแหน่ง นายทหารสญั ญาบัตร

๑๔๖ อำนาจการสัง่ ซื้อและส่งั จา้ งคร้ังหนง่ึ และ อำนาจการส่งั จา้ งทป่ี รึกษาและสง่ั จ้างออกแบบหรอื คุมงาน สำหรับสว่ นราชการในสังกัดกระทรวงกลาโหม ประกอบคำสง่ั กห. (เฉพาะ) ท่ี ๔๐๐/๖๐ ลง ๒๖ ส.ค.๖๐ เร่อื ง การจดั ซื้อจดั จา้ ง และการบรหิ ารพัสดุของกระทรวงกลาโหม อำนาจอนุมตั ิ วิธีประกาศ วธิ ีคัดเลือก วิธเี ฉพาะเจาะจง การจา้ งทีป่ รกึ ษา การจ้างออกแบบ ตำแหน่ง เชญิ ชวนท่ัวไป หรือคุมงาน ปล.กห > ๗๐๐ ลา้ นบาท > ๓๐๐ ล้านบาท > ๓๐๐ ล้านบาท > ๑๐๐ ล้านบาท > ๕๐ ลา้ นบาท ผบ.ทสส. ≤ ๗๐๐ ลา้ นบาท ≤ ๓๐๐ ลา้ นบาท ≤ ๓๐๐ ล้านบาท > ๑๐๐ ลา้ นบาท > ๕๐ ล้านบาท ผบ.ทบ. ≤ ๒๐๐ ลา้ นบาท ≤ ๑๐๐ ล้านบาท ≤ ๕๐ ล้านบาท ≤ ๑๐๐ ลา้ นบาท ≤ ๕๐ ลา้ นบาท ≤ ๔๐ ล้านบาท ≤ ๒๐ ล้านบาท ≤ ๑๐ ลา้ นบาท ≤ ๒๐ ลา้ นบาท ≤ ๑๐ ล้านบาท มทภ. หรอื ≤ ๒๐ ล้านบาท ≤ ๑๐ ลา้ นบาท ≤ ๕ ลา้ นบาท ≤ ๑๐ ลา้ นบาท ≤ ๕ ลา้ นบาท เทยี บเท่า ผบ.พล ผบ.กรม ≤ ๔ ล้านบาท ≤ ๒ ลา้ นบาท ≤ ๑ ล้านบาท - - หมายเหตุ – อนุมัติ ผบ.ทบ.ท้าย น. กบ.ทบ.ที่ กห ๐๔๐๔/๒๖๙๔ ลง ๔ ก.ย.๖๐ อนุมัติให้ จก.ฝ่ายยุทธ บริการ ท่ีมียศ พล.ต. และ จก.ฝ่ายกิจการพิเศษ ท่ีรับผิดชอบ สป. ทีมียศ. พล.ต. มีอำนาจสั่งซ้ือจ้าง โดยวิธี ประกาศเชิญชวนท่ัวไป ไม่เกนิ ๔๐,๐๐๐,๐๐๐ บาทบาท , วิธีคัดเลือก ไม่เกนิ ๒๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท และ วิธี เฉพาะเจาะจง ไม่เกิน ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยลงนามอนุมัติ สั่งซ้ือหรือสั่งจ้างน้ัน ให้ จก. ท่ีได้รับอำนาจ อนมุ ตั ลิ งนาม “ รบั คำสงั่ ผบ.ทบ.”     

๑๔๗ การแจกจ่าย DISTRIBUTION กล่าวท่ัวไป การแจกจ่าย หมายถึง การรบั , การเก็บรกั ษา, การจา่ ย และการขน สป. หรอื การแจกจา่ ย คือ การ ดำเนินกรรมวิธตี ่อ สป. ท่ีไดม้ าจนกระทง่ั สป. นน้ั ถงึ มอื ผ้ใู ช้หรอื หน่วยใช้ หลักมูลฐานของการแจกจ่าย ๑. ระบบการแจกจา่ ยต้องออ่ นตวั ได้ ตามการเปล่ยี นแปลงของสถานการณ์ ๒. สป.ต้องมีอยู่ในครอบครองอย่างเพียงพอท่ีจะทดแทนการใช้สิ้นเปลืองในแต่ละวัน ก่อนท่ีจะเริ่ม ปฏิบัติการในวันต่อไป ๓. สป.ควรจะจดั วางไว้ ณ ตำบลซึ่งจะลดความล่าช้าลงได้ในเม่อื เผชญิ กับความต้องการท่ีจะแจกจ่าย ๔. ระบบการแจกจ่ายตอ้ งใช้การขนส่งท่ีมอี ยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และจะตอ้ งขจัดการขนสง่ ทไี่ ม่ จำเป็น และการยกขนซำ้ ใหห้ มดส้นิ ไป ๕. หนว่ ยแตล่ ะระดบั ควรมี สป.อยู่ในความควบคุมเท่าท่ีจำเป็นสำหรบั ทำให้บรรลภุ ารกิจได้เท่านนั้ วธิ กี ารแจกจ่าย สป. เพ่ือให้ สป.ถงึ มือผใู้ ช้หรอื หน่วยใช้ ทง้ั ในยามปกติและยามสงคราม แบ่งวธิ ีการ แจกจ่ายออกเปน็ ๒ วธิ ี ๑. การแจกจ่าย ณ ตำบลส่งกำลัง เป็นกรรมวิธีการแจกจ่าย สป.ของหน่วยจ่าย โดยให้เจ้าหน้าท่ี ของหนว่ ยใช้นำยานพาหนะไปรับ สป. จากหนว่ ยจ่าย ณ ตำบลส่งกำลงั หรอื ตำบลจา่ ยทีใ่ หก้ ารสนับสนนุ ๒. การแจกจ่าย ณ ท่ีต้งั หน่วย (หรือจ่ายถึงหน่วย) เป็นกรรมวิธกี ารแจกจา่ ย สป. โดยให้เจา้ หน้าที่ของ หนว่ ยจ่ายขนสง่ สป.ไปสง่ ถึงที่ตั้งของหนว่ ยใช้นนั้ ๆ หรอื อาจจา่ ยถึงผ้ใู ช้โดยตรงก็ได้ การเก็บรกั ษา คอื การดำเนนิ กรรมวธิ ตี ่อ สป. ตงั้ แตร่ ับเข้าสู่ระบบจนถึงแจกจ่ายออกไป ซงึ่ มีงานที่จะต้องดำเนนิ การ คอื การแยก สป.เป็นประเภท, การเก็บไว้ ณ ตำบลท่ีกำหนด รวมทั้งการจดั ระบบการรกั ษาความปลอดภัยใน การเก็บรกั ษา สป. ด้วย การเกบ็ รักษาจะสำเร็จได้ต้องอาศยั ปัจจยั ๓ ประการ คอื สถานที่, กำลังคน และ เครอ่ื งยกขน หรือ เครอื่ งท่นุ แรง ซ่ึงในยามสงครามปจั จยั ทง้ั ๓ นี้ หาไดไ้ ม่งา่ ยนัก วัตถปุ ระสงค์ของการเกบ็ รักษา คือ เกบ็ และป้องกัน สป.ท่รี บั เขา้ มาจนกวา่ จะถงึ เวลาท่ีตอ้ งการ ดงั น้ัน จึงมีความจำเปน็ ทจ่ี ะต้องระวงั รกั ษา สป. เป็นอย่างดี และในเมอื่ ตอ้ งการใช้กจ็ ะตอ้ งมจี ำนวน

๑๔๘ เพยี งพอ และอยู่ในสภาพท่ีใช้การได้ จะตอ้ งวางแผนการเก็บรกั ษา สป.ที่ได้รบั อยเู่ สมอ จะตอ้ งใชพ้ นื้ ท่ีและส่ิง อำนวยความสะดวกให้เกดิ ประสิทธิภาพสูงสุด ซ่ึงแบบของพืน้ ท่ที ีใ่ ช้ในการเก็บรกั ษาในปัจจุบนั มีดังนี้.- ๑. คลงั เปดิ (Open Storage Space) หมายถงึ พื้นที่เกบ็ รกั ษาทจ่ี ัดทำข้นึ กลางแจง้ ๑.๑ คลังเปิดพน้ื เรียบ หรอื ปรับปรงุ พนื้ ท่ี (Improved) ๑.๒ คลงั เปดิ ไม่ปรบั พน้ื ท่ี หรอื พ้ืนทีย่ ังมิไดป้ รับปรงุ (Unimproved) ๒. คลังปิด (Covered Storage Space) หมายถึง พื้นท่ีเก็บรักษาที่มีหลังคา ซึ่งคลังปิดน้ีจะหมาย รวมทงั้ คลงั ทัว่ ไปและคลงั เก็บเฉพาะ ๒.๑ คลังทวั่ ไป หรือคลงั เก็บสามัญ (General Purpose Warehouse) เปน็ อาคารที่สร้างข้ึนโดย มหี ลงั คา ฝาผนังด้านข้างและหัวท้ายเป็นส่วนประกอบอยา่ งสมบรู ณ์ ๒.๒ คลังพิเศษ (Special Purpose Warehouse) สำหรับการเก็บรักษา สป.ท่ีต้องใช้การยก ขนพิเศษ หรอื การเกบ็ รกั ษาเปน็ พิเศษ เพ่อื ให้เกิดความปลอดภยั ก. คลังเก็บเย็น (Refrigerated Warehouse) ใช้สำหรับเก็บรายการ สป.ที่เสียง่าย แบ่ง ออกเป็น ๒ พืน้ ที่ พื้นท่หี นง่ึ ความเยน็ ระหวา่ ง ๓๒-๕๐ และอีกพน้ื ท่ี มอี ณุ หภมู ติ ำ่ กว่า ๓๒ ข. คลังเก็บวัสดุไวไฟ หรือคลังเก็บเชื้อเพลิง (Flammable Storage Warehouse) สร้าง ด้วยวัตถทุ นไฟ มีผนงั กนั ไฟมอี ตั ราทนไฟได้ ๔ ชม. มีการปอ้ งกนั ไฟ และระบบสัญญาณไฟ ค. คลังเก็บกระสุนบนพ้ืนดิน หรือคลังเก็บกระสุนและวัตถุระเบิด (Above Ground Magazine) สร้างด้วยวัสดุทนไฟ มีการระบายอากาศ และตั้งกระจายกันอยู่ห่าง ๆ เพ่ือลดอันตรายของการ ระเบดิ ทเี่ กิดขึน้ และลดความเสียหายใหน้ อ้ ยท่สี ุด ง. คลังอก๊ิ ลู (Igloo) ใช้สำหรับ เก็บกระสุนและวัตถุระเบดิ แรงสูง สร้างแบบกอ่ อิฐหลังคา โคง้ คลมุ ทบั ด้วยดนิ และวัชพืช มกี ารถา่ ยเทอากาศดี อณุ หภมู ิ ๔๐-๕๐O F ในฤดูหนาว และ ๖๐-๗๐ O F จ. คลังควบคุมความช้ืน หรือคลังเก็ บป้องกันความชื้น (Controlled Humidity Warehouse) คลังท่ีไม่ให้อากาศถ่ายเทโดยธรรมชาติ และทำการปรับอากาศภายใน การเก็บวิธนี ี้เปน็ วธิ ีการที่ ประหยัดและมีประสทิ ธิภาพมากท่สี ุดสำหรับใช้เกบ็ สป.ได้มากมายหลายประเภท ฉ. คลังแบบถังแห้ง (Dry Tank) สร้างด้วยเหล็กกล้าพ้ืนคอนกรีต มีการควบคุมอุณหภูมิ และความชื้น หลังนำ สป.เกบ็ แลว้ สบู อากาศออก อัดไนโตรเยนดว้ ยความกดดัน ๕ ปอนด์ต่อตารางนิ้วแลว้ ปิด ไมใ่ หอ้ ากาศเขา้ ใช้เก็บ สป.ระยะยาว ช. คลังข้างเปิด หรือโรงเก็บ หรือเพิง (Shed) มีหลังคา ไม่มีฝาผนังด้านข้างและหัวท้าย สมบูรณ์ ใชเ้ ก็บรักษา สป.ท่ตี ้องการระบายอากาศมาก และไม่ต้องการมกี ารป้องกันสภาพดินฟ้าอากาศ ซ. คลังผ่าน หรอื เพงิ เก็บพัก (Transit Shed) ส่วนใหญ่เปน็ คลงั ท่ีต้ังอยูข่ ้าง ๆ หรือใกลก้ ับ ส่ิงอำนวยความสะดวก ส่วนมากไม่เปิดข้าง มีฝาผนังปิดด้านข้างและหัวท้าย เพื่อป้องกัน สป.จากละอองน้ำ หรอื ฝนในขณะเม่ือมีลมพัดจัดหรอื มีพายุจดั

๑๔๙ การแบ่งประเภทคลัง ๔ ประเภท ๑. รูปการจดั ๒. ตาม สป.ท่เี กบ็ รักษา ๓. ตามภารกิจ ๔. ตามที่ตั้ง ๑. คลงั แบง่ ประเภทตามรปู การจัด - คลงั ใหญ่/คลังท่วั ไป - คลังสายงาน - คลงั สนาม คลังสนาม คือคลังใหญ่ แต่จัดต้ังในยุทธบริเวณที่เขตหลัง เคล่ือนท่ีได้ คลังน้ีจะดำเนินการต่อ สป.ท่ีใช้ หมดเรว็ จะกระจายทตี่ ง้ั เพอ่ื ตอบสนองต่อการเปลีย่ นแปลงสถานการณ์ทางยุทธวิธไี ดร้ วดเร็ว ๒. คลังแบ่งประเภทตาม สป. ที่เกบ็ - คลัง สป.๑ , สป.๒, สป.๓, สป.๔ และ สป.๕ ๓. คลงั แบง่ ประเภทตามภารกิจ - คลังเฉพาะ - คลังแจกจา่ ย - คลังสำรอง ๔. คลงั แบง่ ประเภทตามทต่ี ้ัง - คลังกองทัพ (บชร.) , คลงั ส่วนภมู ภิ าค (มทบ./จทบ.) - คลังสว่ นหนา้ เขตหลงั - คลงั สว่ นหลงั เขตหลัง การรับ สป. คือ การดำเนนิ กรรมวธิ เี พ่ือเขา้ ครอบครอง สป. ทไ่ี ดม้ า ๑. การเตรยี มการรับ สป. ๑.๑ ตรวจสอบเอกสารการรบั สิง่ อุปกรณ์ ๑.๒ เตรียมสถานท่ีและส่ิงอำนวยความสะดวกในการรบั สงิ่ อปุ กรณ์ ๒. การรบั สป. จากการเบกิ ๒.๑ หน่วยเบิกไปรบั สิ่งอุปกรณ์เอง ๒.๑.๑ ผู้รับส่ิงอุปกรณ์ดำเนินการตาม ในระเบียบ ทบ.ว่าด้วยการส่งกำลังสิ่งอุปกรณ์ ประเภท ๒ และ ๔ พ.ศ.๒๕๓๔ ตอนที่ ๔ การเบิก การยืม การโอน และการส่งคืน ข้อ ๑๘.๕.๑.๔ หรือ ๑๘.๕.๒.๔ แลว้ แตก่ รณี

๑๕๐ ๒.๑.๒ สำหรบั สิ่งอุปกรณ์ที่ไม่ประสงค์จะเปิดหีบห่อ ให้ผู้รับรับส่ิงอุปกรณ์ตามจำนวนที่ ระบไุ ว้ และใหผ้ จู้ ่ายบันทกึ ในใบเบกิ ไว้ด้วยวา่ \"ไม่เปดิ หีบ\" ๒.๑.๓ การนำส่ิงอุปกรณ์ออกจากหน่วยจ่าย ให้ผู้ปฏิบัติตามระเบียบและคำแนะนำของ หน่วยจ่าย ๒.๑.๔ เมือ่ ผู้รับนำสิ่งอุปกรณ์ไปถงึ หน่วยเบกิ ใหผ้ ้บู ังคับหน่วยเบกิ ต้งั กรรมการตรวจรับ สิ่งอุปกรณ์ จำนวน ๓ นาย ประกอบด้วย นายทหารสัญญาบัตร อย่างน้อย ๒ นาย โดยเฉพาะควรจะตั้ง เจ้าหน้าทใี่ นสายงานท่รี บั ผิดชอบต่อสิ่งอปุ กรณน์ ้ันเข้าร่วมดว้ ย ๒.๑.๕ ให้คณะกรรมการรายงานผลการตรวจรับให้ผู้บงั คับหน่วยเบกิ ทราบ ถา้ ปรากฏว่า ส่ิงอุปกรณ์คลาดเคลื่อนไปจากใบเบิก หรือ มีการชำรุดเสียหาย ให้คณะกรรมการสอบสวนสาเหตุแล้วแนบ สำเนาการสอบสวนไปพร้อมกบั รายงานด้วย ๒.๑.๖ ถ้ามีสิ่งอุปกรณ์ชำรุด หรือสูญหาย ให้ปฏิบัติตามระเบียบ กองทัพบกว่าด้วยการ จำหนา่ ยสงิ่ อุปกรณ์ พ.ศ.๒๕๒๔ ลง ๓๐ ก.ย.๒๔ ๒.๑.๗ ให้คณะกรรมการตรวจรับ มอบส่ิงอุปกรณ์ให้แก่เจ้าหน้าที่คลัง หรือเจ้าหน้าที่ เกบ็ รกั ษา ๒.๑.๘ เจ้าหน้าทบี่ ญั ชคี ุมบนั ทกึ การรบั สง่ิ อปุ กรณ์ ในบตั รบัญชีคุม ๒.๒ หน่วยเบิกรบั สง่ิ อุปกรณ์จากสำนักงานขนส่งปลายทาง ๒.๒.๑ เม่ือหน่วยเบิกได้รับส่ิงอุปกรณ์จากสำนักงานขนส่งปลายทาง ให้ปฏิบัติตาม ระเบียบกองทัพบก ว่าด้วยการส่งและรับสิ่งอุปกรณ์ พ.ศ.๒๕๐๐ และคำส่ังกองทัพบก (คำชี้แจง) ที่ ๕๗/ ๑๓๑๖๖ ลง ๑๑ ต.ค.๒๕๐๔ เรอ่ื ง ชแ้ี จงการปฏิบตั ิการสง่ และรบั สงิ่ อปุ กรณ์ของ ทบ.(ครงั้ ที่ ๓) ๒.๒.๒ เจ้าหน้าที่บัญ ชีคุม บันทึกการรับส่ิงอุปกรณ์ในบัตรบัญ ชีคุมหลังจาก คณะกรรมการตรวจรับไดต้ รวจรับเรียบรอ้ ยแล้ว ๓. การรับส่งิ อุปกรณจ์ ากกรณอี นื่ ใหถ้ ือปฏบิ ตั ิดงั นี้ ๓.๑ ตรวจรับสงิ่ อปุ กรณ์ ๓.๒ ขน้ึ บัญชีคมุ สิง่ อุปกรณ์ ๓.๓ รายละเอียดการดำเนินการให้ปฏิบัติตามระเบียบหรือคำส่ังต่าง ๆ ท่ีเกย่ี วข้องกับที่มาของ สิ่งอปุ กรณ์นั้น ๆ

๑๕๑ การเกบ็ รกั ษา การเก็บรักษา ได้แก่ การเตรียมพื้นที่ การนำส่ังอุปกรณ์เข้า-ออก การเกบ็ หรอื การวาง การระวงั รกั ษา ส่งิ อุปกรณใ์ นทเ่ี ก็บ รวมท้งั การปรนนบิ ัตบิ ำรุง และการซอ่ มบำรุงขณะเก็บและกอ่ นจา่ ยด้วย ๑. ความรบั ผดิ ชอบในการเกบ็ รักษา ๑.๑ เจ้ากรมฝ่ายยุทธบริการ และ/หรอื เจ้ากรมฝ่ายกจิ การพิเศษ ผู้บัญชาการกองบัญชาการชว่ ย รบ ผูบ้ ญั ชาการมณฑลทหารบก ผบู้ ังคบั การจงั หวัดทหารบก ผู้บังคับหนว่ ยสนับสนนุ โดยตรง ผบู้ ังคบั หนว่ ยใช้ จะต้องวางระเบียบและจัดงานเก็บรักษาสิง่ อุปกรณใ์ นท่เี ก็บใหป้ ลอดภยั และอยูใ่ นสภาพที่ใช้การได้ ๑.๒ เจ้าหน้าท่ีเก็บรักษา จะต้องเก็บรักษาสิ่งอุปกรณ์ให้เป็นไปตามระเบียบที่ผู้บังคับบัญชา กำหนด ๒. ปัจจัยในการเก็บรักษา เพ่ือให้การเก็บรักษาได้ผลดี ผู้บังคับหน่วยเก็บรักษาจะต้องคำนึงถึงปัจจัย ดังตอ่ ไปนี้ ๒.๑ พนื้ ทเ่ี กบ็ รักษา ๒.๒ กำลงั คน ๒.๓ เคร่อื งมอื ยกขน ๓. การเตรยี มทีเ่ กบ็ รักษา ๓.๑ ที่เก็บ เตรยี มทำที่เก็บในพื้นที่คลงั ปิด หรอื คลังกลางแจง้ แบ่งเปน็ คลัง หรือพ้ืนที่ แถว ตอน และช่อง โดยใช้ตัวอักษรผสมกับตัวเลข ตัวอยา่ งเช่น ๑-ก-๒-๔ หมายความวา่ คลังหรือพื้นท่ี ๑ แถว ก ตอนที่ ๒ และช่องที่ ๔ ๓.๒ ใหเ้ ขยี นผังแสดงท่ีเกบ็ ตามที่จัดระบบไวใ้ นขอ้ (๓.๑) เพ่อื สะดวกในการวางแผนนำสิ่ง อปุ กรณ์เข้าเก็บ ๔. การนำ สป. เข้าที่เก็บ เจ้าหน้าท่ีเก็บรักษาดำเนินการดงั นี้ ๔.๑ บันทึกบัตรแสดงท่เี ก็บ โดยใช้แบบพิมพ์ ทบ.๔๐๐-๐๐๙ สำหรับหน่วยสนับสนุน และแบบ พิมพ์ ทบ.๔๐๐-๐๖๘ สำหรับหนว่ ยใช้ ๔.๒ ทำการบำรุงรกั ษาส่ิงอปุ กรณก์ อ่ นนำเขา้ เก็บ ๔.๓ ผูกปา้ ยประจำสิง่ อุปกรณ์ โดยใชแ้ บบพิมพ์ ทบ.๔๐๐-๐๑๐ โดยอนุโลม ๔.๔ นำสงิ่ อปุ กรณ์เข้าเก็บในท่ที ก่ี ำหนดให้

๑๕๒ ๕. การเกบ็ หรอื การวาง สป. ๕.๑ กำหนดทางเดนิ ในพื้นที่เกบ็ รักษา เพอื่ ความสะดวกในการใชแ้ รงงานหรือเคร่ืองทุ่นแรง ดังน้ี ๕.๑.๑ ทางเดินหลัก อาจมีทางเดียวตรงกึง่ กลางตามความยาวของพืน้ ที่เก็บรกั ษา หรอื มี ท้งั สองข้างของพืน้ ท่เี กบ็ รกั ษาก็ได้ ควรให้มีความกวา้ งพอท่ี รถยก ๒ คนั สวนทางกันได้ ๕.๑.๒ ทางเดิน ตั้งฉากกับทางเดนิ หลักควรกำหนดใหต้ รงกบั ประตู ๕.๑.๓ ทางเดนิ ระหว่างที่เก็บของ ควรใหร้ ถเข็น หรอื รถยกเขา้ ไปปฏิบตั งิ านได้ ๕.๑.๔ ทางเดินฉกุ เฉนิ จัดสำรองไว้สำหรบั ใช้ในกรณฉี ุกเฉิน ๕.๒ เกบ็ สงิ่ อุปกรณ์ให้เต็มที่วา่ งทัง้ ทางด่งิ และทางระดับ ๕.๓ เกบ็ สิ่งอปุ กรณ์ให้พน้ จากอนั ตราย ๕.๔ เก็บส่งิ อปุ กรณใ์ นท่ีเก็บรกั ษา ใหต้ รงกบั ลกั ษณะและคณุ สมบัติของสิ่งอปุ กรณ์ ๖. การระวงั รกั ษา เจา้ หนา้ ทจ่ี ะตอ้ งระวงั รกั ษา สป.ให้ปลอดภยั และอย่ใู นสภาพใช้การได้ ดังตอ่ ไปน้ี ๖.๑ ภยั ธรรมชาติ ๖.๑.๑ เก็บสิ่งอุปกรณใ์ นคลังเก็บรกั ษา ซึง่ สามารถระบายอากาศหรอื ปอ้ งกันความชืน้ ได้ ๖.๑.๒ ตรวจ ปอ้ งกนั และทำลายจำพวกสัตวแ์ ละแมลงตา่ ง ๆ ๖.๑.๓ ในกรณีพนื้ ทีค่ ลังปดิ ไมเ่ พียงพอ ใหแ้ ยกเกบ็ สง่ิ อปุ กรณท์ มี่ ีความคงทนต่อ สภาพดินฟ้าอากาศไว้ในคลงั เปิด ๖.๑.๔ ใช้ไมร้ อง และทาสี / ทาน้ำมัน สำหรับสงิ่ อุปกรณท์ ่ีเก็บในคลงั เปิด ๖.๒ อัคคีภยั ๖.๒.๑ กำหนดเขตและกวดขนั ไม่ใหน้ ำเชื้อเพลิงเข้าบรเิ วณทเ่ี ก็บรักษา ๖.๒.๒ รักษาความสะอาดและขจดั เชือ้ เพลิงบรเิ วณท่เี ก็บรักษา ๖.๒.๓ ดูแลรกั ษาเครือ่ งมอื ดบั เพลิง ให้อยใู่ นสภาพพร้อมท่ีใชก้ ารได้ ๖.๒.๔ จัดเจา้ หน้าที่ดับเพลิงและหมัน่ ฝึกซ้อมอยูเ่ สมอ ๖.๒.๕ กำหนดขอ้ ปฏบิ ัติเกย่ี วกับการใช้เครือ่ งมือและแรงงาน เพ่ือลดความเสยี หาย เมอ่ื เกดิ อัคคภี ัย ๖.๒.๖ จดั ทำปา้ ยเตือนภัย เช่น ปา้ ย \"ห้ามสูบบุหร่ี\" หรอื \"ไวไฟ\" เปน็ ต้น ๖.๒.๗ หมั่นตรวจตราสภาพการอน่ื ๆ อนั อาจกอ่ ใหเ้ กิดอัคคีภยั เชน่ สายไฟฟา้ เปน็ ตน้ ส่วนรายละเอียดในการปฏบิ ตั อิ ่ืน ๆ ใหถ้ อื ปฏบิ ัติตามระเบยี บกองทัพบก ว่าดว้ ยการป้องกนั อคั คีภัย และการปฏบิ ตั ิเมือ่ เกดิ อัคคีภยั พ.ศ.๒๕๐๓ และทแี่ กไ้ ขเพ่มิ เติม

๑๕๓ ๖.๓ การทุจริต ๖.๓.๑ สป. ที่มีค่าสูง ขนย้ายและขายง่าย ต้องเก็บไว้ในท่ีปลอดภัย และมอบความ รับผดิ ชอบใหเ้ ฉพาะบคุ คล ๖.๓.๒ คลังทุกคลัง จะตอ้ งปิดประตูใส่กุญแจและตีตราใหเ้ รียบรอ้ ยเมอ่ื เลิกงาน ๖.๓.๓ ระมัดระวังมิใหบ้ คุ คลลกั ลอบนำส่งิ อุปกรณอ์ อกจากคลงั ๖.๔ วนิ าศกรรม ๖.๔.๑ จัดเจ้าหน้าท่ีรักษาการณ์หรือเวรยาม พร้อมอาวุธเพื่อตรวจรอบ บริเวณท่ีเก็บ รักษาตามความจำเปน็ ถ้าหากบริเวณกวา้ งขวาง อาจจดั ให้มียานพาหนะและเคร่ืองมอื สือ่ สารด้วยก็ได้ ๖.๔.๒ กวดขันบุคคลและยานพาหนะทจ่ี ะผา่ นเข้า-ออก ๖.๔.๓ จัดให้มีเครื่องกีดขวาง หรอื เครอื่ งเตอื นภยั ในบริเวณทเ่ี กบ็ รกั ษาตามทีเ่ ห็น สมควร รายละเอียดในการปฏิบัติอื่น ๆ ให้ถือปฏิบัติตามระเบียบ ว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๑๗ ๖.๕ อุบัตเิ หตุ ๖.๕.๑ อบรมช้ีแจงการใช้เครอื่ งมือยกขน วธิ ีการขนย้าย และวธิ ีการจดั วางส่ิงอปุ กรณ์ ๖.๕.๒ หม่นั ตรวจและปรนนบิ ัตบิ ำรุงเครอื่ งมือยกขนอย่เู สมอ ๖.๕.๓ ทำความสะอาดในท่ีเกบ็ รกั ษา ๖.๖ การชำรดุ หรือเสื่อมสภาพ ส่ิงอุปกรณ์ซ่ึงอยู่ในที่เก็บรักษา จะต้องได้รับการดูแลรักษาให้อยู่ในสภาพใช้การได้ หรือมิให้เสื่อมสภาพก่อนนำไปใช้ โดยจะต้องปฏิบัติตามระเบียบ หรือคำสั่งที่ทางราชการกำหนด หรือตาม คำแนะนำของผ้ผู ลิต หรอื ทำหน้าที่ทางเทคนคิ ๗ การนำสง่ิ อุปกรณ์ออกจากทีเ่ ก็บ ๗.๑ การนำสงิ่ อุปกรณ์ออกจากทเี่ กบ็ ต้องมีหลักฐานการนำออก ๗.๒ การย้ายทเี่ กบ็ สิ่งอุปกรณ์ ต้องบนั ทึกการย้ายไวเ้ ปน็ หลกั ฐาน ๗.๓ ส่ิงอปุ กรณใ์ ดท่ีนำเข้าเก็บกอ่ น ใหน้ ำออกจา่ ยก่อน

๑๕๔ การจา่ ยส่งิ อปุ กรณ์ การจา่ ยสิง่ อุปกรณ์ ได้แก่ การดำเนินการตอบสนองความต้องการท่หี น่วยเบกิ ได้ส่งคำขอมา ๑. ข้อพิจารณา ในการจา่ ยสง่ิ อปุ กรณ์ หลักเกณฑ์ท่ีจะต้องพิจารณาว่าควรจ่ายรายการใด จำนวน เทา่ ใดนนั้ ให้คำนึงถงึ ปัจจัยดงั ตอ่ ไปนี้ ๑.๑ ความต้องการของหน่วยรบั การสนบั สนุน ๑.๒ สถานการณ์ทางยุทธวธิ ี ๑.๓ ระดบั ส่งกำลงั หรอื อัตราของหน่วยรับการสนับสนุน ๑.๔ สง่ิ อำนวยความสะดวกในการขนสง่ ๑.๕ สถานท่เี ก็บรักษาของหน่วยรับการสนับสนุน ๑.๖ ปรมิ าณส่งิ อปุ กรณ์คงคลังของหน่วยจา่ ย ๑.๗ ขดี ความสามารถในการซอ่ มบำรุงของหน่วยรบั การสนับสนุน ๒. การเตรยี มการจา่ ยส่ิงอุปกรณ์ ๒.๑ จดั ทำแผนการแจกจา่ ยหรือเอกสารการแจกจา่ ยส่ิงอุปกรณ์แลว้ แตก่ รณี ๒.๒ ดำเนนิ การปรนนบิ ัตบิ ำรงุ ส่ิงอุปกรณก์ อ่ นจ่าย ถ้าจำเปน็ ๒.๓ จัดสถานที่เตรียมจ่าย โดยแบง่ สว่ นงานดงั นี้ - สว่ นจ่ายและคัดแยก - ส่วนบรรจหุ บี ห่อและจัดสง่ ๓. วิธดี ำเนินการจ่ายสง่ิ อปุ กรณ์ ๓.๑ สว่ นบญั ชคี มุ ๓.๑.๑ รบั ใบเบิก, ลงทะเบียนเอกสารโดยใชแ้ บบพมิ พ์ทบ.๔๐๐-๐๐๒ ๓.๑.๒ ตรวจสอบใบเบกิ ในเรอ่ื งตอ่ ไปนี้.- - ลายมือช่อื ผู้มีสทิ ธเิ บกิ - ความเรียบร้อยและความถูกต้องของใบเบิก เช่น การอ้างหลักฐานท่ีใช้ใน การเบิก รายการและจำนวนทขี่ อเบกิ เป็นตน้ - ความผูกพนั ระหว่างหน่วยเบิกกบั หนว่ ยจ่าย เชน่ ค้างรบั และคา้ งจา่ ย - ห้วงเวลากำหนดใหท้ ำการเบิก ๓.๑.๓ การดำเนินการทางบญั ชี - จำนวนท่ีขอเบิกมาอาจเพิ่มหรือลดก็ได้ ทั้งน้ีเพื่อความเหมาะสมกับ มาตรฐานการบรรจหุ ีบห่อ - พิจารณาจ่ายตามลำดับทะเบียนหน่วยจ่าย เว้นแต่จะได้รับอนุมัติจากผู้มี อำนาจอนมุ ัติสงั่ จา่ ยใหด้ ำเนินการเปน็ อย่างอ่ืน - ถ้าไม่มีสิ่งอุปกรณ์จ่าย ให้บันทึกค้างจา่ ย โดยผู้ตรวจสอบลงนามใน ใบ เบกิ ส่งใบเบกิ ฉบบั ท่ี ๒ คืนหนว่ ยเบกิ สว่ นทเ่ี หลือเก็บไวใ้ นแฟม้ รอเรอื่ ง

๑๕๕ - ถา้ มีสงิ่ อุปกรณจ์ ่ายให้บนั ทกึ การจ่าย ผู้ตรวจสอบลงนามแลว้ เสนอ ผู้มี อำนาจส่ังจ่ายลงนามอนมุ ตั ิ เก็บใบเบิกฉบับที่ ๓ ไว้ในแฟ้มรอเรื่อง สว่ นใบเบิกทเี่ หลอื สง่ ใหส้ ่วนเก็บรกั ษา ดำเนนิ การตอ่ ไป เมอ่ื ไดร้ บั ใบเบิกฉบับที่ ๑ คนื แลว้ ใหส้ ำเนาชือ่ ผรู้ ับผ้จู ่ายลงในใบเบิกฉบบั ท่ี ๓ แล้วส่งให้ ส่วนเกบ็ รกั ษาไวเ้ ป็นหลักฐาน ๓.๒ สว่ นเก็บรกั ษา ๓.๒.๑ ลงนามผูจ้ ่ายในใบเบกิ ๓.๒.๒ จดั เตรียมและคดั แยกสิง่ อปุ กรณ์ใหค้ รบถว้ นตามใบเบกิ ๓.๒.๓ เขียนป้ายประจำสงิ่ อุปกรณ์ โดยใชแ้ บบพมิ พ์ ทบ.๔๐๐-๐๑๐ ๓.๒.๔ ในกรณีที่หน่วยเบกิ มารับส่ิงอปุ กรณ์เอง ให้ตรวจสอบลายมือชื่อผมู้ ีสิทธิรับ ส่ิงอปุ กรณใ์ ห้ถกู ต้อง ๓.๒.๕ มอบส่ิงอุปกรณ์ให้ผู้รับไปพร้อมกับใบเบิก ฉบบั ท่ี ๒ และสง่ ใบเบกิ ฉบับที่ ๑ คืนส่วนบัญชีคมุ ๓.๒.๖ ให้ความช่วยเหลอื ในการบรรทุกส่ิงอุปกรณ์ ๓.๒.๗ ในกรณีท่ีผู้รับไม่สามารถรับส่ิงอุปกรณ์ตามใบเบิกได้ครบในคร้ังเดียว ใหผ้ จู้ า่ ยและผ้รู บั ทำบันทกึ ไว้ดา้ นหลังใบเบิกแล้วลงนามรบั รองไว้ ๓.๒.๘ ในกรณีที่หน่วยจ่ายส่งส่ิงอุปกรณ์ ให้หน่วยเบิกผ่านสำนักงานขนส่ง ให้ปฏิบัติตามระเบียบ ทบ.ว่าดว้ ยการส่งและรบั ส่ิงอุปกรณ์ พ.ศ.๒๕๐๐ และระเบยี บ ทบ. ว่าด้วยการทำหบี ห่อ และทำเครอ่ื งหมายเพ่ือการขนส่งสิ่งอปุ กรณ์ พ.ศ.๒๔๙๙ ๔. การจ่ายสง่ิ อปุ กรณโ์ ดยอัตโนมัติ ได้แก่ การจ่ายสิง่ อุปกรณใ์ ห้หน่วยรับการสนับสนุน โดยหน่วย ทร่ี ับการสนับสนนุ น้ันไม่ตอ้ งทำใบเบกิ ๔.๑ ข้อพจิ ารณาในการจา่ ยอัตโนมตั ิ ๔.๑.๑ เมื่อมีคำส่ังของผมู้ ีอำนาจสง่ั จ่าย ๔.๑.๒ เมอื่ หน่วยจ่ายพิจารณาเหน็ สมควร ๔.๒ วธิ ดี ำเนนิ การจา่ ยอตั โนมัติ ๔ .๒ .๑ ห น่ ว ยจ่ายท ำใบ เบิ ก ๑ ชุด โด ยใช้แบ บ พิ มพ์ ท บ .๔ ๐ ๐ -๐ ๐ ๗ ห รือ ทบ.๔๐๐-๐๐๗-๑ แล้วแต่กรณี ๔.๒.๒ ลงทะเบียนเอกสารแล้วบันทึกคำว่า \"อัตโนมตั ิ\" ไว้ดา้ นบนของใบเบิกด้วยอักษร สแี ดง ๔.๒.๓ บนั ทึกการจา่ ย ๔.๒.๔ ผู้ตรวจสอบลงนามแล้วเสนอผูม้ อี ำนาจส่งั จ่ายลงนามอนุมัติ ๔.๒.๕ เก็บใบเบิกฉบับท่ี ๓ ไว้ในแฟ้มรอเรื่อง สว่ นทเ่ี หลือส่งไปให้หนว่ ยรับการสนับสนุน พรอ้ มกับส่งิ อุปกรณ์

๑๕๖ ๔.๒.๖ หน่วยรับการสนับสนุน ลงท่ีใบเบิกลงนามผู้เบิก และผู้รับส่ิงอุปกรณ์ในใบเบิก ฉบับท่ี ๑,๒,๔ หรือ ๕ แล้วแต่กรณี ส่งใบเบิกฉบับท่ี ๑ คืนหน่วยจ่าย ภายใน ๗ วัน นับจากวันที่ได้รับ ส่งิ อุปกรณ์ สว่ นใบเบกิ ท่ีเหลือให้ดำเนินการเชน่ เดียวกบั การเบกิ ตามปกติ ๔.๒.๗ หากหน่วยรับการสนับสนุนส่งใบเบิกฉบับท่ี ๑ คืนหน่วยจ่ายช้าเกินกว่า กำหนด ใหห้ นว่ ยจ่ายแจง้ ให้ผู้บังคบั บญั ชาชน้ั เหนอื ของหน่วยรับการสนับสนุนนั้นทราบ เพ่ือพจิ ารณาสอบสวน หาสาเหตแุ ห่งความลา่ ชา้ ต่อไป ๕. การปลดเปลอ้ื งค้างจ่าย ๕.๑ การปลดเปลือ้ งค้างจา่ ย ได้แก่ การจ่ายสิ่งอปุ กรณท์ ค่ี า้ งจ่ายใหก้ ับหน่วยเบิกโดยอัตโนมัติ ๕.๒ วธิ ีดำเนนิ การปลดเปลอ้ื งค้างจา่ ย ๕.๒.๑ หนว่ ยจ่ายทำใบเบกิ ๑ ชดุ ใช้แบบพิมพ์ ทบ.๔๐๐-๐๐๗ หรือ ทบ.๔๐๐-๐๐๗-๑ แล้วแต่กรณี โดยใช้ทใี่ บเบกิ เดมิ ๕.๒.๒ บันทึกทะเบียนเอกสารในใบเบิก โดยใช้เลขทะเบียนเดิม แล้วเพิ่มจำนวนครั้งท่ี ปลดเปล้ืองทา้ ยทะเบยี นนน้ั กับบนั ทึกคำว่า \"ปลดเปลือ้ งค้างจ่าย\" ไวด้ ้านบนของใบเบิกด้วยอกั ษรสีแดง ๕.๒.๓ บันทึกการจา่ ย ๕.๒.๔ ตรวจสอบลงนามแลว้ เสนอผู้มีอำนาจสั่งจา่ ย ลงนามอนมุ ตั ิ ๕.๒.๕ เก็บใบเบิกฉบับท่ี ๓ ไว้ในแฟม้ รอเร่อื ง ส่วนท่เี หลอื ส่งไปให้หน่วยรับการสนบั สนุน พร้อมกบั ส่ิงอุปกรณ์ ๕.๒.๖ หน่วยรับการสนับสนุนลงนามผู้เบิก และผู้รับสิ่งอุปกรณ์ในใบเบิกฉบับท่ี ๑,๒,๔ หรือ ๕ แล้วแต่กรณี ส่งใบเบิกฉบับท่ี ๑ คืนหน่วยจ่าย ภายใน ๗ วัน นับจากวันท่ีไดร้ ับสงิ่ อุปกรณ์ ส่วนใบเบิก ท่เี หลอื ใหด้ ำเนินการเช่นเดียวกบั การเบกิ ตามปกติ ๕.๒.๗ หากหน่วยรบั การสนบั สนุนส่งใบเบกิ ฉบับที่ ๑ คนื หน่วยจา่ ยล่าชา้ เกินกว่ากำหนด ให้หน่วยจ่ายแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาช้ันเหนือของหน่วยรับการสนับสนุนน้ันทราบ เพ่ือพิจารณาสอบสวนหา สาเหตแุ ห่งความลา่ ชา้ ตอ่ ไป ๖. อำนาจสงั่ จ่ายในใบเบกิ ๖.๑ การเบิก ๖.๑.๑ ส่ิงอุปกรณ์สำคัญและสิ่งอุปกรณ์หลกั เม่ือผู้บัญชาการทหารบก อนุมัติหลักการ แจกจ่ายแล้ว ผู้อำนวยการกองหรือหัวหน้ากอง ตามที่เจ้ากรมฝ่ายยุทธบริการ และ /หรือ เจ้ากรมฝ่าย กิจการพิเศษ กำหนดผู้บัญชาการกองบัญชาการช่วยรบ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบก หรือผู้บังคับการจังหวัด ทหารบก เปน็ ผสู้ ง่ั จา่ ย ๖.๑.๒ สิ่งอุปกรณ์รองและชิน้ ส่วนซ่อม ผู้อานวยการกองหรือหัวหน้ากอง ตามท่ี เจา้ กรมฝ่ ายยุทธบริการ และ/หรือ เจา้ กรมฝ่ายกิจการพิเศษ กาหนด ผูบ้ ญั ชาการกองบัญชาการช่วยรบ ผบู้ ญั ชาการมณฑลทหารบก ผบู้ งั คบั การจงั หวดั ทหารบก หรอื ผทู้ ไี่ ดร้ บั มอบหมายเป็นผสู้ ่งั จ่าย

๑๕๗ ๖.๒ การยมื ๖.๒.๑ สิ่งอุปกรณ์สำคัญ เมื่อผู้บัญชาการทหารบกอนุมัติหลักการยืมแล้ว ผู้อำนวยการ กองหรือหัวหน้ากอง ตามท่ีเจ้ากรมฝ่ายยุทธบรกิ าร และ/หรอื เจา้ กรมฝ่ายกิจการพิเศษ กำหนด ผู้บัญชาการ กองบญั ชาการชว่ ยรบ ผู้บญั ชาการมณฑลทหารบก หรอื ผู้บงั คับการจังหวดั ทหารบก เป็นผูส้ งั่ จ่าย ๖.๒.๒ สิ่งอุปกรณ์อ่ืน ๆ เมื่อได้รับหลักการจากผู้มีอำนาจให้ยืมแล้ว ผู้อำนวยการกอง หรือหัวหน้ากอง ตามที่เจ้ากรมฝ่ายยุทธบริการ และ/หรือเจ้ากรมฝ่ายกิจการพิเศษ กำหนดผู้บัญชาการ กองบัญชาการช่วยรบ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบก ผู้บังคับการจงั หวัดทหารบก หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็น ผสู้ ง่ั จ่าย     

๑๕๘ การจำหนา่ ย DISPOSAL กลา่ วทวั่ ไป ก. การจำหน่าย หมายถึง การดำเนินกรรมวธิ ีเพ่ือตัดยอด สป. ออกไปจากความรับผิดชอบ ของ ทบ. เนอ่ื งจากสูญไป, สญู หาย, ชำรดุ เสียหาย ไม่สามารถซอ่ มคืนสภาพได้คุ้มคา่ , เส่ือมสภาพจนใช้การไมไ่ ด้, ตาย, ล้าสมัย หรือหมดความจำเปน็ หรือหากใช้ราชการต่อไปจะสน้ิ เปลอื งค่าใช้จ่ายมาก ในเรื่องการจำหน่ายนอกจากจะปฏิบัติตาม รบ.ทบ.ว่าด้วยการส่งกำลัง สป.๒ และ สป.๔ พ.ศ.๒๕๓๔ ลง ๓๐ ธ.ค.๓๔ แล้ว ทบ.ยังได้ออก รบ.ทบ. ว่าด้วยการจำหน่าย สป. พ.ศ. ๒๕๕๗ ลง ๓๑ ม.ค. ๕๗ เป็น แนวทางปฏิบตั อิ กี ฉบบั หน่ึง ข. สาเหตุของการจำหน่าย ๑. ชำรดุ ตามสภาพ ๒. ชำรุดสูญหายเนื่องจากภัยธรรมชาติ ๓. ชำรุดสญู หายจากการกระทำของบุคคล ๓.๑ จากการกระทำของขา้ ศกึ ๓.๒ จากอุบัติเหตุ ๓.๓ จากการบกพรอ่ งหรือประมาทเลินเล่อของเจ้าหนา้ ท่ี ค. การแบ่งประเภท สป. เพอ่ื การจำหน่าย ๑. สป.สนิ้ เปลอื ง ๒. สป.ถาวร แบง่ ออกเป็น ๒ ชนดิ คือ… ๒.๑ สป.ถาวรกำหนดอายุ ๒.๒ สป.ถาวรไม่กำหนดอายุ ๓. ชิ้นสว่ นซ่อม ๔. สิ่งมชี ีวติ ง. สภาพของ สป. ทจ่ี ำหน่าย ๑. สป. ใชส้ ิ้นเปลืองซงึ่ ใช้หมดไป ๒. สป. ถาวรซึง่ หาย, ชำรดุ ซอ่ มไม่คมุ้ คา่ , เสือ่ มสภาพจนใช้การไมไ่ ด้ ๓. สป. เกนิ ต้องการ ๔. สป. ล้าสมยั จ. วธิ กี ารจำหน่าย (การดำเนินการตอ่ ซาก) ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าดว้ ยการพสั ดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ และฉบับแก้ไขเพม่ิ เตมิ ไดก้ ำหนดวธิ ีการจำหนา่ ยไว้ ๔ วิธี คอื .... ๑. การขาย ๒. การแลกเปลีย่ น

๑๕๙ ๓. การโอน ๔. การแปรสภาพหรอื ทำลาย ฉ. การจำหน่ายเปน็ สญู หมายถึง การจำหน่ายในกรณี สป.สูญไปโดยไมป่ รากฏตวั ผู้รับผิดชอบ หรือ มี ตัวผ้รู ับผิดแต่ไม่สามารถชดในทางแพ่งและทางละเมิดได้ หรือ มี สป.แต่ไม่สามารถ ขาย, แลกเปลย่ี น, โอน, แปรสภาพ หรือทำลายได้ ช. หนา้ ท่แี ละความรบั ผิดชอบ - จก.กบ.ทบ. - จก.ฝยบ. / ฝกษ. - มทภ. / เทียบเท่า - ผบ.บชร., ผบ.มทบ. - ผบ.หน่วยทหารขนาดกองพนั / เทียบเท่าขึ้นไป ซ. การดำเนินกรรมวิธขี ออนมุ ัตจิ ำหนา่ ย สป. ๑. การรายงานขออนุมัติจำหน่าย ของหน่วยใช้ หน่วยระดับกองร้อย / เทียบเท่า รายงานตาม สายการบังคับบัญชา ใหร้ ายงานทนั ทีเม่อื ทราบวา่ สป.ชำรุด ๒. การต้ังคณะกรรมการสอบสวน หน่วยระดับกองพัน / เทียบเท่า (น. ๓ นาย) เมื่อได้รับ รายงานตอ้ งตง้ั กรรมการทนั ที ๓. สรุปความเห็นของคณะกรรมการ ต้องสอบสวนให้ได้ความจริงว่าสาเหตุเกิดจากเหตุใด และ ตอ้ งระบใุ หช้ ัดเจนวา่ จะต้องมผี ูร้ บั ผดิ ชอบชดใช้หรือไม่ ๔. การขออนุมัติจำหน่าย สป.ตาม อจย. / อสอ. ท่ีชำรุด ต้องนำส่งซ่อมถึงระดบั คลงั เมื่อหน่วย ซอ่ มลงความเห็นซอ่ มไมค่ ุ้มค่า หน่วยท่ีทำเรอ่ื งจึงจะดำเนินการต่อไปได้ ฌ. แบบพมิ พ์ และเอกสารทแ่ี นบไปพร้อมรายงานขออนมุ ตั จิ ำหนา่ ย ๑. แบบรายงานขออนุมตั ิจำหนา่ ย ทบ.๔๐๐ - ๐๖๕ ๒. เอกสารทีแนบไปพร้อมแบบรายงาน ฯ ๒.๑ รายงานของหน่วยเร่ิมรายงาน ๒.๒ สำเนาคำส่ังตงั้ กรรมการสอบสวน ๒.๓ คำใหก้ ารของบุคคลท่เี กย่ี วข้อง ฉบับตวั จริง ๒.๔ สรปุ ผลการสอบสวนของคณะกรรมการ ฉบบั ตวั จริง ๒.๕ เอกสารอนื่ ทเ่ี กย่ี วข้อง ญ. ตำบลรวบรวม สป. จำหนา่ ย ๑. กรม ฝยบ. , มทบ. และ บชร. ๒. พธ.ทบ. กำหนดระเบยี บเก่ียวกบั การดำเนนิ งานของตำบลรวบรวม สป.จำหนา่ ย     

สายงานส่งกำลัง แผนผงั ข้ันตอนก เมอ่ื สป.มีสภาพสมควรจำหน่าย หนว่ ยใช้ : ให้รายงานตามสายการบงั คบั บญั ชา หนว่ ยบังคบั บญั ชาระดับกองพนั ขนึ้ ไป : ให้แต่งต้ังคณะกรรมการสอบสวนขอ้ เท็จ คณะกรรมการสอบสวนข้อเทจ็ จริง : รายงานผลใหผ้ แู้ ตง่ ตั้งทราบ หน่วยบงั คับบัญชาระดับกองพนั ขนึ้ ไป : รายงานตามสายการสง่ กำลัง จนถงึ ผู้มีอ ผู้มีอำนาจอนุมัตจิ ำหนา่ ย ๑. พิจารณาอนุมตั จิ ำหนา่ ย และส่ังการดำเนกิ ารต่อซาก สป. ๒. แจ้งตามสายการสง่ กำลังจนถึงหนว่ ยใช้ ๓. สำเนาให้กรม ฝยบ. ทราบ ๔. กรณีมกี ารละเมดิ ใหแ้ จง้ ผรู้ ับผิดชอบดำเนนิ การตามที่ ทบ. ส่งั การ หนว่ ยใช้ : ตดั ยอด สป. ออกจากบญั ชคี ุม กรม ฝยบ. : รบั ทราบและ ของหน่วย และเบกิ ทดแทน จำหนา่ ย

๑๖๐ การจำหน่าย สป. สายงานกาลังพล หน่วยบงั คับบัญชาระดับกองพนั ขน้ึ ไป : รายงานตามสายกำลงั พล ถึง ทบ. (ผ่าน สธน. จจรงิ ทบ.) เพ่อื แตง่ ตง้ั คณะกรรมการสอบขอ้ เทจ็ จริง ความรับผดิ ทางละเมดิ อำนาจอนมุ ตั จิ ำหนา่ ย กรรมการสอบข้อเท็จจรงิ ความรบั ผดิ ทาง ละเมดิ สอบสวนขอ้ เท็จจรงิ รายงาน ทบ. และ ทบ. ได้ส่ังการชดใช/้ ไม่ตอ้ งชดใช้ ตำบลรวบรวม สป. จำหนา่ ย. : ดำเนินการตอ่ ซาก แล้วแจ้ง กรม ฝยบ. ทราบภายใน ๓๐ วนั ะบนั ทึกหลกั ฐาน กรม ฝยบ. : รับทราบและตัดยอด สป. ออกจากบัญชคี ุมของ ทบ.

๑๖๑ อำนาจอนุมัติในการจำหน่าย สป. อำนาจอนุมัติ สป.สิ้นเปลอื ง จำหนา่ ยเปน็ สญู จำหนา่ ยเปน็ สญู ตำแหนง่ สป.ถาวร ไม่เกนิ ๔๐,๐๐๐ บาท ( สป.ท่ไี ดร้ บั ชว่ ยเหลือทางทหาร สป.มีชีวติ ชน้ิ ส่วนซอ่ ม ในภาวะไมป่ กติ/ฉกุ เฉนิ ) ผบ.พล./เทียบเท่า ไมเ่ กิน ๑๕๐,๐๐๐ บาท ไมเ่ กนิ ๕๐,๐๐๐ บาท มทภ./เทียบเท่า ไมเ่ กนิ ๓๐๐,๐๐๐ บาท ไม่เกนิ ๘๐,๐๐๐ บาท ไมเ่ กิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท จก.ฝยบ./ฝกษ. ไม่เกนิ ๖๐๐,๐๐๐ บาท พล.ต. ไมเ่ กนิ ๔๐,๐๐๐ บาท พล.ต. ไม่เกิน ๕๐,๐๐๐ บาท พล.ท. ไมเ่ กิน ๘๐,๐๐๐ บาท พล.ท. ไมเ่ กิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท ผบ.ทบ. ไม่กำหนดวงเงิน ไมเ่ กนิ ๕๐๐,๐๐ บาท ไม่เกนิ ๕ แสนบาท หมายเหตุ ผบ.ทบ. จำหน่ายเปน็ สญู สป.ในโครงการช่วยเหลือทางทหาร ไม่เกนิ ๔๐๐,๐๐๐ บาท ( ในภาวะปกติ )     

๑๖๒ การควบคุม CONTROL การควบคุม สป. เปน็ กรรมวิธีใน การจัดทำบัญชี, การสง่ กำลัง, การแจกจา่ ย, การซอ่ มคืนสภาพ และ/ หรือ การจำหน่าย สป. แต่ละชิ้นส่วน ในการดำเนินงานจะผ่านทางระบบการรายงาน, การคิดคำนวณและ การประเมินค่า ซึ่งจะทำให้การปฏิบัติงานส่งกำลังมีความแน่นอนในด้านการคิดงบประมาณ การจัดหา การจำหนา่ ย หรือการจัดสรร การควบคุม แบ่งเป็น ๒ ประเภท ๑. การควบคุมทางการส่งกำลัง หน่วยในสายการส่งกำลังระดับต่ำกว่า ต้องอยู่ในความควบคุมของ หนว่ ยระดับเหนือกวา่ ในสายการส่งกำลังเดยี วกัน โดยถือว่ามลู ฐาน ภารกิจ และความรับผิดชอบในการควบคุม ดังตอ่ ไปน้ี ๑.๑ มูลฐานการควบคมุ ทางการส่งกำลงั มีดังนี้ - นโยบายการสง่ กำลงั ของหน่วยเหนอื - หลักฐานการควบคมุ สง่ิ อปุ กรณ์ - การพยากรณ์ความตอ้ งการสิ่งอปุ กรณ์ในอนาคต ตามห้วงระยะเวลาที่กำหนด - ปัจจัยทงั้ มวลท่ีอาจเป็นอุปสรรคและขดั ต่อสถานภาพทางการสง่ กำลัง ๑.๒ ภารกิจการควบคมุ ทางการสง่ กำลัง มีดงั น้ี.- - สำรวจการทำบญั ชรี ายการส่ิงอปุ กรณ์ - คำนวณความต้องการ - อำนวยการจดั หา - จดั งานการแจกจ่าย - อำนวยการซอ่ มสร้าง - อำนวยการจำหน่าย ๑.๓ ความรบั ผดิ ชอบในการควบคมุ ทางการส่งกำลัง - กองทัพบกกำหนดระดบั สง่ กำลัง - หน่วยสนับสนุนทางการส่งกำลัง - คำนวณปรมิ าณส่ิงอุปกรณต์ ามวันส่งกำลัง ที่กองทพั บกกำหนด - รักษาระดับสง่ กำลงั - รวบรวมข้อมูลท่ีมีผลกระทบกระเทือนต่อสถานภาพการส่งกำลัง แล้วเสนอขอ อนมุ ัติเปล่ียนแปลงระดบั สง่ กำลัง

๑๖๓ ๒. การควบคุมทางบัญชี ผู้บังคับหน่วยสนับสนุนทางการส่งกำลัง และหน่วยใช้จะต้องรับผิดชอบ ดำเนินการควบคุมทางบัญชีต่อสิ่งอุปกรณ์ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยเหมาะสม เพ่ือให้ทราบสถานภาพ ส่ิงอปุ กรณ์ไดต้ ลอดเวลา โดยถอื มลู ฐาน ภารกิจและความรับผดิ ชอบในการควบคุม ดงั ตอ่ ไปนี้ ๒.๑ มลู ฐานการควบคุมทางบัญชี มดี งั น้ี.- - บัตรบัญชีคุมส่ิงอุปกรณ์และข้อมูลต่างๆ ที่เก่ียวข้องกับบัตรบัญชีคุม รวมท้ัง ประวัติสิ่งอุปกรณ์ - สถานภาพสิ่งอปุ กรณ์ - ประสบการณใ์ นการรบั -จ่ายส่งิ อปุ กรณ์ ๒.๒ ภารกิจการควบคมุ ทางบัญชี มดี ังน้ี.- - บันทึก รายงาน และจดั ทำขอ้ มูลเกี่ยวกบั จำนวนสภาพและสถานภาพสิง่ อุปกรณ์ - จัดทำแผนการแจกจ่ายหรือเอกสารการแจกจา่ ยสิง่ อปุ กรณ์แลว้ แตก่ รณี - พจิ ารณาจำนวนสงิ่ อุปกรณ์ให้หนว่ ยสนับสนนุ ตามความจำเป็น ให้น้อยท่สี ดุ ๒.๓ ความรับผิดชอบการควบคมุ ทางบัญชี ๒.๓.๑ หนว่ ยสนบั สนนุ ทางการสง่ กำลัง - ดำเนินการรวบรวมหลักฐาน จัดทำสถิติและข้อมูลสำหรับส่ิงอุปกรณ์แต่ละ รายการ - จัดทำบัญชีคุมส่ิงอุปกรณ์โดยใช้แบบพิมพ์ ทบ.๔๐๐-๐๐๓ และ แบบพิมพ์ ทบ.๔๐๐-๐๐๓-๒ - จัดทำบัญชีคุมส่ิงอุปกรณ์ถาวรที่อยู่ในความครอบครองของหน่วยใช้ โดยใช้ แบบพมิ พ์ ทบ.๔๐๐-๐๐๓-๓ และ แบบพมิ พ์ ทบ.๔๐๐-๐๐๓-๔ ๒.๓.๒ หนว่ ยใช้ - ดำเนินการรวบรวมหลักฐานจัดทำสถิติและข้อมูลสำหรับส่ิงอุปกรณ์แต่ละ รายการ - จัดทำบญั ชีคุมสง่ิ อุปกรณ์ถาวรโดยใช้แบบพิมพ์ ทบ.๔๐๐-๐๐๕ สำหรับบัญชีคุม ชน้ิ ส่วนซอ่ มและส่ิงอปุ กรณ์ใช้สน้ิ เปลอื งน้นั ให้ใชแ้ บบพมิ พ์ ทบ.๔๐๐ - ๐๖๘ ความรับผิดชอบ ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ต้องรับผิดชอบในการควบคุมสิ่งอุปกรณ์ให้เป็นไปโดยเรียบร้อย เหมาะสม ถกู ต้องตามความมุง่ หมายของทางราชการ การควบคมุ ทางการส่งกำลงั เปน็ หนา้ ทีเ่ ฉพาะของหน่วยสนับสนนุ ทางการส่งกำลงั การควบคุมทางบญั ชี เปน็ หน้าทีท่ ง้ั ของหน่วยใช้ และหนว่ ยสนับสนนุ ทางการส่งกำลงั

๑๖๔ ๑. หน่วยใช้ทุกระดับ สป. ประเภทวิทยุ, ทางสาย, เคร่ืองตรวจวัด, การบันทึกเสียง, การขยายเสียง และอุปกรณ์การภาพ ให้นำหลักฐานใบเบิกและรายการรายละเอียดประกอบชุด (PACKING LIST) หรือ รายการรายละเอียดในค่มู อื ใช้งาน (TM) ดำเนนิ การบนั ทึกหลักฐานและควบคุมทางบัญชี ดังน้ี. - ทะเบยี นหลกั ฐานการสง่ กำลัง ทบ.๔๐๐-๐๐๒ - บตั รบญั ชีคุม สป.ของหน่วย ทบ.๔๐๐-๐๐๕ - บญั ชสี ่วนประกอบชุด ทบ.๔๖๓-๐๔๐ ๒. หน่วยใช้ทุกระดับ รายการช้ินส่วนซ่อมตามอัตราพิกัด PLL และแบตเตอรี่แห้ง ดำเนินการบันทึก หลักฐานและควบคุมทางบญั ชี ดังน้ี.- - ทะเบยี นหลักฐานการสง่ กำลงั ทบ.๔๐๐-๐๐๒ - บตั รบญั ชคี มุ (แบตเตอรีแ่ ห้ง) ทบ.๔๐๐-๐๐๓ - บัตรบัญชีคุมชนิ้ สว่ นซอ่ มและ สป.ใชส้ นิ้ เปลอื ง (ช้นิ ส่วนซอ่ มตามอัตราพกิ ดั PLL) ทบ.๔๐๐-๐๖๘ ๓. หน่วยสนับสนุนโดยตรง/ท่ัวไป รายการช้ินส่วนซ่อมที่สะสม ASL และแบตเตอร่ีแห้ง ดำเนินการ บันทกึ หลกั ฐานและควบคมุ ทางบัญชี ดงั นี้.- - ทะเบียนหลักฐานการสง่ กำลัง ทบ.๔๐๐-๐๐๒ - บัตรบัญชคี ุม (แบตเตอรแี่ หง้ ) ทบ.๔๐๐-๐๐๓ - บตั รบัญชีช้นิ ส่วนซอ่ มท่ีสะสม ( ASL ) ทบ.๔๐๐-๐๖๙ ๔. ความรบั ผดิ ชอบทางบัญชี และการควบคมุ สิง่ อุปกรณ์ ๔.๑ ผบ.หน่วยสนับสนุนทางการส่งกำลัง และ ผบ.หน่วยใช้ รับผิดชอบการดำเนนิ การทางบัญชี ตอ่ สิง่ อปุ กรณใ์ หเ้ ปน็ ไปดว้ ยความเรียบรอ้ ย ๔.๒ ผบ.ทกุ ระดับช้ัน รับผดิ ชอบในการควบคุมส่ิงอุปกรณใ์ ห้เป็นไปด้วยความเรียบรอ้ ยเหมาะสม ถูกต้องตามความม่งุ หมายของทางราชการ ๕. การเกบ็ เอกสารหลักฐาน/บัญชีคุม สป.ตาม อจย./อสอ.ให้ยกแฟ้มเก็บอยา่ ให้ปะปนกนั เพื่อง่ายต่อ การตรวจสอบและคน้ หา ดงั นี้.- - ทะเบยี นหลกั ฐานการสง่ กำลงั ทบ.๔๐๐-๐๐๒ - บตั รบญั ชีคุม ทบ.๔๐๐-๐๐๓ - บัญชีสงิ่ อปุ กรณข์ องหน่วย ทบ.๔๐๐-๐๐๕ ข้อแนะนำในการควบคุม สป. ๑. ให้ปฏิบัติตามระเบียบ ทบ.ว่าด้วยการส่งกำลัง สป.ประเภท ๒ และ ๔ พ.ศ.๒๕๓๔ วิธีเขียนบัญชี สิง่ อุปกรณข์ องหนว่ ย ตามหมายเหตุและปฏิบตั ิดังนี้.- ๒. สป.ตาม อจย./อสอ. และ สป.๔ ใหแ้ ยกแฟม้ เกบ็

๑๖๕ ๓. จัดทำสารบัญรายการ สป.ตาม อจย./อสอ. และ สป.๔ ปะหน้าไว้โดยกำหนดลำดับรายการ แผ่นท่ี ไว้มุมบนหรอื มุมล่าง ของบญั ชสี ิง่ อปุ กรณข์ องหน่วย ๔. บนั ทึกรับรองของ ผบ. รอ้ ยข้นึ ไปปะหน้า คำว่า “ ขา้ พเจ้าขอรับรองว่าบัญชีสิ่งอุปกรณ์ทีเ่ จ้าหนา้ ที่ ได้บันทึกไว้ถูกต้องทุกประการ ”และลงนามรับรอง/ตำแหน่ง/ว.ด.ป. เม่ือหน่วยต้องการจัดทำหรือลอกใหม่ ตอ้ งได้รบั อนุมัติจากผู้รับรองไว้ทกุ ครัง้ เพอ่ื ป้องกนั การทจุ ริตของเจา้ หน้าท่ี ๕. ดา้ นหน้าของบัญชสี ิง่ อุปกรณ์ของหน่วย ให้บนั ทกึ การได้มากับการส่งคืน สป.หน่วยสนับสนนุ ทางการ ส่งกำลงั เท่าน้นั ๖. ถ้าหน่วยใช้ดำเนินการสำรวจโดย ผบ.หน่วยใช้สั่งสำรวจ ไม่ควรทำการบันทึกของคณะกรรมการ สำรวจลงในบัญชีส่ิงอปุ กรณข์ องหน่วย ทบ.๔๐๐-๐๐๕ สมควรบนั ทกึ ผลการสำรวจของคณะกรรมการปะหน้า ไวเ้ ท่านั้น ๗. หลักฐานอ้างองิ - ระเบียบ ทบ.วา่ ด้วยการส่งกำลัง สป.ประเภท ๒ และ ๔ พ.ศ.๒๕๓๔ ลง ๓๐ ธ.ค.๓๔ - ระเบียบ ทบ.ว่าดว้ ยชิ้นส่วนตามอัตราพิกัดและชิน้ สว่ นซอ่ มทส่ี ะสม พ.ศ.๒๕๑๒ ลง ๙ ม.ิ ย.๑๒     

๑๖๖ การซ่อมบำรงุ ( MAINTENANCE ) กลา่ วทั่วไป การซอ่ มบำรงุ หมายถงึ การกระทำใดๆทีม่ ุง่ หมายจะรักษายทุ โธปกรณ์ให้อยู่ในสภาพทีใ่ ช้การได้ หรือ ม่งุ หมายจะรักษายุทโธปกรณ์ให้อยู่ในสภาพท่ีใช้การได้ หรือมุ่งหมายจะทำให้ยุทโธปกรณ์ท่ีชำรดุ กลับ คืนมา อยู่ในสภาพทีใ่ ช้การได้ และให้ หมายรวมถึง - การตรวจสภาพ (INSPECTION) - การทดสอบ (TEST) - การบริการ (SERVICE) - การซอ่ มแก้ (REPAIR) - การซอ่ มใหญ่ (OVERHAUL) - การซอ่ มสร้าง (REBUILT) - การดัดแปลงแก้ไข (MODIFICATION) - การซอ่ มคืนสภาพ (RECLAMATION) หลกั การซ่อมบำรุง ๑. ตอ้ งปฏบิ ัติตามคู่มือท่ีได้รบั จาก ฝยบ. / ฝกษ. ที่รับผดิ ชอบ ๒. การซ่อมแก้ ต้องพยายามกระทำ ณ.ท่ซี ่งึ ยุทโธปกรณ์ตง้ั อยู่ ๓. ยุทโธปกรณ์ท่ีชำรุดเกินขีดความสามารถของหน่วย สง่ ซ่อมหน่วย ซบร.ขัน้ ทีส่ ูงกวา่ หรือขอร้องให้ หนว่ ย ซบร.ท่สี ูงกวา่ มาซ่อมให้ ๔. ห้ามทำการยุบรวม เวน้ แต่ได้รบั อนุมตั ิ หรอื สถานการณ์ทางยุทธวิธีบงั คับ ประเภทการซ่อมบำรุง Class of maintenance แบง่ ได้ ๔ ประเภท ๑. การ ซบร.ระดบั หนว่ ย (ข้ัน ๑,๒) ๒. การ ซบร.สน.โดยตรง (ขั้น ๓) ๓. การ ซบร.สน.ทั่วไป (ขนั้ ๔) ๔. การ ซบร.ระดบั คลัง (ข้นั ๕)

๑๖๗ ๑. การซอ่ มบำรงุ ระดับหน่วย คือ การซอ่ มบำรุงทหี่ น่วยได้รับอนมุ ัติให้กระทำได้และอยู่ในความรับผิดชอบของ หน่วยท่ีใช้ยุทโธปกรณ์น้ันๆ การซ่อมบำรุงประเภทนี้ประกอบด้วยการตรวจสภาพ, การทำความสะอาด, การ ดูแลรักษา, การหล่อลื่น, การปรับ, การเปลี่ยนชิ้นส่วนอะไหล่เล็ก ๆ ที่ไม่ต้องใช้ความชำนาญทางเทคนิคมาก การซอ่ มบำรุงระดับหน่วย อยู่ในความรบั ผิดชอบของ ผบ.หน่วยใช้ ๒. การซ่อมบำรงุ สนับสนุนโดยตรง คอื การซอ่ มท่ีอนุมัติให้กระทำโดยหนว่ ยซอ่ มบำรงุ ที่ได้รับมอบหน้าท่ีให้ สนบั สนุนหนว่ ยใช้ยทุ โธปกรณ์น้ันๆ การซ่อมบำรุงสนับสนุนโดยตรงเป็นการซอ่ มแกอ้ ย่างจำกัดต่อยุทโธปกรณ์ ครบชุดหรือซ่อมแก้ส่วนประกอบท่ีใช้งานไม่ได้ เพ่ือสนับสนุนหน่วยใช้ ประกอบด้วยการซ่อมและการเปลี่ยน ส่วนท่ีใช้งานไม่ได้ รวมท้ังการซ่อม และการเปล่ียนแปลงส่วนประกอบย่อย การซ่อมประเภทน้ีอยู่ในความ รับผดิ ชอบของ ผบ.หน่วยซ่อมบำรุงสนับสนนุ โดยตรง ๓. การซ่อมบำรุงสนับสนนุ ท่วั ไป คือ การซ่อมแกย้ ทุ โธปกรณ์ ซึ่งเกนิ ขดี ความสามารถของหน่วยซอ่ มบำรงุ สนับสนุนโดยตรง รวมท้ังการซ่อมส่วนประกอบใหญ่ส่วนประกอบย่อย หรือเพื่อสนับสนุนการแลกเปลี่ยน โดยตรง และเพ่ือส่งเข้าสายงานส่งกำลังต่อไป การซ่อมประเภทนี้อยู่ในความรับผิดชอบของ ผบ.หน่วยซ่อม บำรุงสนับสนนุ ท่วั ไป ๔. การซ่อมบำรุงระดับคลัง คือ การซ่อมบำรุงโดยหน่วยซ่อมขนั้ คลงั ของกรมฝ่ายยุทธบรกิ าร ซึ่งจะทำการ ซ่อมใหญ่ต่อยุทโธปกรณ์ท่ีใช้การไม่ได้ให้กลับคืนสู่สภาพใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ ตามคู่มือทางเทคนิค หรือทำ การซอ่ มสรา้ งยทุ โธปกรณ์ให้อยใู่ นสภาพเหมอื นของใหม่ การซอ่ มประเภทน้อี ยใู่ นความรับผิดชอบของ เจา้ กรม ฝ่ายยทุ ธบริการ สาเหตุท่ที ำให้เกดิ ขอ้ บกพร่องในการซ่อมบำรงุ ๑. ผูใ้ ช้ ใช้เคร่อื งมือไมถ่ กู ต้อง ใช้อยา่ งไมเ่ อาใจใส่ ๒. ผใู้ ชข้ าดการ ปบ.เครอื่ งมอื กอ่ น ขณะและหลังจากการใชง้ าน ๓. ผูใ้ ช้ทำการซอ่ มเกินกวา่ ข้ันท่ีได้รบั อนุมัติใหก้ ระทำได้ ๔. ขาดการตรวจสภาพการ ซบร. ๕. การส่งกำลงั ช้ินสว่ นซอ่ มไมเ่ พียงพอ ๖. หน่วย ซบร. สนบั สนุนไมเ่ ต็มท่ี ปจั จัยในการซอ่ มบำรุงให้ไดผ้ ลดี ๑. ผู้บังคบั หนว่ ย และฝา่ ยอำนวยการ มีความร้คู วามสามารถ และสนใจที่จะสง่ั การ,ควบคุม, ใหแ้ นวทาง รวมท้งั กำกบั ดูแลการซ่อมบำรุงภายในหนว่ ยของตน ๒. ผู้ใชต้ อ้ งได้รบั การฝกึ ใหใ้ ชง้ านอยา่ งถกู ต้อง ๓. ช่างซ่อมหรือเจา้ หน้าที่เทคนคิ ของหน่วยมีความรู้ความสามารถที่จะทำการซ่อมบำรุงไดต้ ามประเภท ที่ต้องรบั ผิดชอบอยา่ งแท้จริง ๔. ปจั จัยเวลามเี พียงพอทจี่ ะทำการซ่อมให้ได้ผล ๕. มีเครือ่ งมือ และชิน้ ส่วนซ่อมอย่างเพยี งพอ

๑๖๘ ๖. มคี ูม่ อื ทางเทคนคิ อย่างเพยี งพอ ๗. ถ้าทำได้ ควรมียุทธภัณฑ์ท่ีเป็นมาตรฐานเดียวกัน (STANDARDIZATION) เพราะจะช่วยลดภาระ การฝกึ อบรมชา่ งเทคนิค, ลดจำนวน และรายการในการสะสมชิน้ ส่วนซอ่ มลงได้มาก ความรบั ผิดชอบในการซ่อมบำรุง ๑. ความรับผิดชอบโดยตรง ๑.๑ ความรบั ผดิ ชอบของบคุ คล Personal responsibility คอื ผู้ที่ได้รบั ยุทโธปกรณ์ประจำตวั หรือได้รับมอบหมายให้เป็นพนักงานประจำยุทโธปกรณ์ จะต้องรับผิดชอบในการดูแลรักษารวมทั้ง ปบ.ในข้นั ของผูใ้ ช้ ๑.๒. ความรับผิดชอบในการตรวจตรา Supervisory responsibility ผู้บังคับหนว่ ยตั้งแต่ ผบ.หมู่ข้ึน ไปรบั ผดิ ชอบดแู ลรกั ษา ในขั้นของหนว่ ยใช้ ๒. ความรับผดิ ชอบทางการบงั คับบัญชา Command responsibility - ผบ.ช. ทุกระดบั ชั้นจะต้องสอดส่องดูแลยุทโธปกรณ์ ในความรบั ผิดชอบของตนให้ไดร้ ับการ ปบ.และ การ ซบร.อย่างดีและอยูใ่ นสภาพใช้การไดอ้ ยู่เสมอ ความหมายของคำท่ใี ช้ในการซอ่ มบำรงุ ๑. การตรวจสภาพ ( INSPECTION ) หมายถึง การพิจารณาถึงสภาพการใช้การได้ของยทุ โธปกรณ์ โดยการ เปรยี บเทยี บคุณลักษณะทางฟิสกิ ส์ เคมี จักรกล และทางไฟฟา้ ตามมาตรฐานทไ่ี ด้กำหนดไว้ ๒. การทดสอบ ( TEST ) หมายถงึ การพสิ ูจนส์ ภาพการใช้งานได้ของยุทโธปกรณ์ และการแก้ไขข้อ บกพร่องทางไฟฟ้า เคมี จักรกล โดยการใชเ้ คร่อื งมอื หรือวิธกี ารทดสอบต่าง ๆ ๓. การบริการ ( SERVICE ) หมายถึง การทำความสะอาด การดูแลรักษา การประจุไฟฟ้า การเติมน้ำมัน เชื้อเพลิง น้ำมันหล่อลื่น การเติมสารระบบความเย็น และการเติมลม เติมก๊าซ นอกจากน้ันยังหมายถึง ความตอ้ งการบรกิ ารพเิ ศษทีอ่ าจกำหนดข้ึนตามความจำเปน็ เช่น การพ่นสี การหลอ่ ล่ืน ๔. การซ่อมแก้ ( REPAIR ) หมายถึง การซ่อมยุทโธปกรณ์ชำรุดให้ใช้การได้ และยังหมายถึงการปรับ การถอดเปล่ียน การเชอ่ื ม การยำ้ และการทำให้แข็งแรง ๕. การซ่อมใหญ่ ( OVER HAUL ) หมายถึง การซ่อมยุทโธปกรณ์ที่ชำรุดให้ใช้ได้อย่างสมบูรณ์ โดยกำหนด มาตรฐานการซ่อมบำรุงไว้เป็นเอกสารโดยเฉพาะ การซ่อมใหญ่อาจจะกระทำได้สำเร็จได้โดยการแย ก สว่ นประกอบ การตรวจสภาพส่วนประกอบ การประกอบส่วนประกอบย่อย และชิ้นส่วนต่าง ๆ ท้ังน้ีจะต้องมี การตรวจสภาพ และการทดสอบการปฏบิ ตั ิการประกอบด้วย ๖. การซอ่ มสรา้ ง ( REBUILT ) หมายถงึ การซ่อมยุทโธปกรณ์ทช่ี ำรดุ ใหก้ ลับคืนสสู่ ภาพมาตรฐานให้ใกล้เคียง สภาพเดมิ หรือเหมือนของใหมท่ ั้งในรปู รา่ ง คณุ สมบตั ิการทำงาน และอายกุ ารใชง้ าน การซ่อมสรา้ งอาจกระทำ ใหส้ ำเร็จโดยการถอดชิน้ สว่ นของยุทโธปกรณน์ ้นั ออกเพ่อื นำไปตรวจสภาพชนิ้ ส่วนประกอบ และทำการซอ่ มแก้ หรือเปลย่ี นชน้ิ สว่ น และสว่ นประกอบทชี่ ำรดุ หรือใช้การไม่ได้แลว้ นำมาประกอบเป็นยุทโธปกรณต์ ่อไป

๑๖๙ ๗. การดัดแปลงแก้ไข ( MODIFICATION ) หมายถึง การเปลี่ยนแปลงยุทโธปกรณ์ตามคำส่ังการดัดแปลง การดัดแปลงน้ีตอ้ งไมเ่ ปลี่ยนลกั ษณะมูลฐานเดิมของยทุ โธปกรณ์ เพยี งแต่เพอื่ เปลีย่ นภารกจิ หรือความ สามารถ ในการทำงาน และเพิม่ ความปลอดภยั แก่ผใู้ ช้ และเพอ่ื ผลทีต่ ้องการตามแบบทก่ี ำหนดให้เปล่ยี นแปลงนนั้ ๘. การซ่อมคืนสภาพ ( RECLAMATION ) หมายถึง การดำเนินกรรมวธิ ีซ่อมยุทโธปกรณ์ที่ใช้การไมไ่ ด้เลิกใช้ ละท้งิ หรอื เสยี หาย ให้ใชป้ ระโยชน์ได้ หรือซ่อมชิ้นสว่ นประกอบ หรือองค์ประกอบของยทุ โธปกรณ์เหลา่ นั้นให้ ใชป้ ระโยชนไ์ ด้ และนำกลบั คืนสายสง่ กำลังตอ่ ไป ๙. การปรนนิบัติบำรุง (Preventive Maintenance) หมายถึง การดูแล และการให้บำริการโดยเจ้าหน้าที่ เพ่ือรักษายุทโธปกรณ์ และเคร่ืองมือเคร่อื งใช้ให้อยู่ในสภาพใชก้ ารได้ดี โดยจัดให้มีระบบการตรวจสภาพ การ ตรวจคน้ และการแก้ไขขอ้ บกพรอ่ งทจ่ี ะเกดิ ขึ้น หรอื ทจ่ี ะชำรุดมากขึน้ ๑๐. การถอดปรน (CANNIBALIZATION) หมายถึง การถอดชิ้นส่วนและส่วน ตามที่ได้รับอนุมัติจาก ยุทโธปกรณ์ครบชุด หรือองค์ประกอบทเี่ ก่ียวข้อง ซึ่งสามารถซ่อมได้คุ้มค่า หรอื ที่จำหน่ายแล้วเพ่ือนำไปใชแ้ ก่ ยุทโธปกรณอ์ นื่ ๑๑. ยุบรวม (CANNIBALIZE) หมายถึง การถอดช้ินส่วนใช้การได้จากยุทโธปกรณ์หนึ่งไปประกอบอีก ยุทโธปกรณห์ นึง่ ๑๒. ยุทธภัณฑ์สำรองการซ่อมบำรุง (MAINTENANCE FLOATS) หมายถึง ยุทธภัณฑ์ท่ีหน่วยซ่อมมีไว้เพ่ือ จ่ายทดแทนให้กับหน่วยใช้ในกรณีที่เห็นว่าจะซ่อมไม่คุ้มค่า หรือซ่อมให้ไม่ทันตามความต้องการ หากไม่จ่าย ทดแทนในทนั ทแี ลว้ หนว่ ยจะขาดความพรอ้ มรบ และไม่สามารถบรรลุภารกจิ สำคญั ท่เี ร่งดว่ นได้ การตรวจสภาพการซ่อมบำรุง มีความมุ่งหมาย เพ่ือทราบสภาพของยุทโธปกรณ์ที่ใช้ราชการได้ และ ความสามารถในการซอ่ มบำรุงของหน่วย แบ่งออกได้ ๓ ประเภท ๑. การตรวจสภาพโดยผูบ้ ังคับบัญชา ๒. การตรวจสภาพเฉพาะอย่าง ๓. การตรวจสภาพทางเทคนคิ การตรวจสภาพโดยผู้บงั คบั บัญชา ผบ.หนว่ ยใชย้ ุทโธปกรณ์ และผู้บังคับบัญชาช้นั เหนอื จะตอ้ งทำการตรวจ สภาพยุทโธปกรณ์ตามระยะเวลาท่ีกำหนด เพื่อให้ทราบถึงการใช้การประหยัด และหลักการซ่อมบำรุง และ ประเมินค่าความพร้อมรบของหนว่ ย การตรวจสภาพเฉพาะอย่าง กระทำเพื่อต้องการทราบความสามารถในการซ่อมบำรุงประจำหน่วยเป็น อยา่ งไรเพียงพอหรือไม่ สายยทุ ธบรกิ ารทกุ สายรับผิดชอบในการตรวจ โดยออกระเบียบปฏิบัตใิ นการตรวจ การตรวจสภาพทางเทคนิค กระทำเพื่อตอ้ งการทราบสภาพของยุทโธปกรณ์ที่ใช้การได้ และการคาดคะเนถึง ความหนักเบาของการซ่อมบำรุง และความต้องการที่จะเปล่ียนแปลงในภายหน้า สายยุทธบริการทุกสาย จะต้องกำหนดระเบียบ, วิธีดำเนินการ และระยะเวลาในการตรวจ และอาจกระทำภายใต้การกำกับดูแลของ ผบ.พล. หรือ มทภ. ซึง่ เปน็ ผ้รู บั ผิดชอบโดยตรงต่อการซ่อมบำรงุ     

๑๗๐ การขนสง่ ( TRANSPORTATION ) หมายถึง การใชเ้ ครอื่ งมือ และสิ่งอำนวยความสะดวกอนั จำเปน็ มาสนับสนนุ การเคล่อื นยา้ ย โดยมุ่งที่จะ ให้การเคลอ่ื นย้ายสามารถบรรลุภารกจิ ไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ การเคล่ือนย้าย คือ การนำกำลังพล ยุทโธปกรณ์ หรือ สป. จากตำบลหนี่งไปยังอีกตำบลหนึ่ง ตามท่ี กำหนดความมงุ่ หมายไว้ โดยแบง่ ตามความมุ่งหมายได้ ๒ ประเภท ๑. การเคลื่อนย้ายทางยุทธวิธี ภายใต้สภาพการรบ ยังไม่มีการปะทะกับข้าศึก ( น.ฝยก.รับผิดชอบ เวน้ ทางอากาศ) ๒. การเคลื่อนยา้ ยทางธุรการ ห่างจากความกดดนั ของขา้ ศกึ ( น.ฝกบ.รบั ผิดชอบ ) ประเภทการขนสง่ แบง่ ได้ ๖ วิธี ๑. ทางทอ่ เชอื้ เพลงิ เหลว ประหยดั จนท. และคา่ ใชจ้ า่ ย ๒. ทางนำ้ ขนส่งได้ปรมิ าณมาก แตล่ า่ ชา้ ๓. ทางรถไฟ ขนสง่ ไดป้ รมิ าณมาก ระยะทางไกลดว้ ยความเรว็ สงู ๔. ทางถนน ออ่ นตวั เชื่อมโยงการขนสง่ ชนิดอน่ื ได้ดี ๕. ทางอากาศ ความเรว็ สงู อ่อนตัวมากเลือกเส้นทางไมจ่ ำกดั ๖. เบด็ เตล็ด หาบ หาม สตั ว์ต่าง ลอ้ เล่ือน เคเบิล      การบริการทางการแพทย์ ( HEALTH SERVICE SUPPORT ) หมายถึง การถนอมกำลังพล ด้วยการดำรงไว้ซ่ึงคุณภาพและพลานามัยท่ีเหมาะสมต่อการปฏิบัติทาง ทหาร โดยจัดบริการป้องกานทางการแพทย์ เพ่ือมิให้กำลังพลเกิดความเจ็บป่วย จัดให้มีการรักษาพยาบาล และการบริการอ่ืน ๆ เพอ่ื เพิ่มพนู ประสิทธิภาพของการบรกิ ารสายแพทย์ การบริการสายแพทย์ ประกอบดา้ ย ๑. การส่งกลับ และการรกั ษาพยาบาล ทง้ั ยามปกติ และสงคราม ๒. บริการเวชกรมป้องกนั ป้องกัน และควบคุมโรค

๑๗๑ ๓. บริการทันตกรรม ๔. บรกิ ารชณั สูตรโรค ค้นคว้า วจิ ยั หาสมุหฐานของโรค ๕. บรกิ ารโลหติ ๖. บริการโรคจิตประสาท ๗. บริการท่ีตรวจโรค และทปี่ ฐมพยาบาล ในสนาม และค่ายพัก ๘. บริการตรวจสขุ ภาพทหาร ร่างกาย สุขภาพจติ ทันตอนามัย สุขศาสตร์ส่วนบคุ คล      การบริการอ่ืน ๆ ( OTHER SERVICES ) หมายถงึ การบรกิ ารแกห่ น่วย และกำลังพล นอกเหนอื ไปจากการบริการทางการแพทย์ ประกอบดว้ ย ๑. การกอ่ สร้าง และซอ่ มแซมในสนาม สงิ่ ปลูกสร้าง เส้นทาง พนั .ช.สนาม ๒. การก่อสร้าง และซอ่ มแซมในที่ต้ังปกติ ส่ิงปลูกสร้าง เสน้ ทาง ทง้ั จ้างเอกชน และทำเอง ยย.ทบ. ๓. การอสงั หาริมทรัพย์ อาคาร ท่ีดิน ยย.ทบ. ๔. การสาธารณปู โภค ไฟฟ้า ประปา สุขาภบิ าล ยย.ทบ. ๕. การดบั เพลงิ สป. ดับเพลิง เว้นรถดับเพลงิ วศ.ทบ. ๖. การทพ่ี กั ทพี่ ักหนว่ ยทหารทง้ั ปกติ และสนาม การเกณฑ์ทีพ่ กั ในยามสงคราม ยย.ทบ. ๗. การประปา ท่ตี ั้งปกติ ยย.ทบ. ๘. การปอ้ งกนั นชค. สำรวจ และทำลายล้างพนื้ ท่ีเปน็ พษิ วศ.ทบ. ๙. การทำลายลา้ งวตั ถรุ ะเบิด สพ.ทบ. ๑๐. การพราง วัสดุพราง แนะนำเทคนคิ การพราง กช.     

๑๗๒ การแบ่งประเภทสิ่งอุปกรณ์ ทบ.ไทย แบ่งสิ่งอปุ กรณ์ออกเป็น ๕ ประเภท คือ สป.๑, สป.๒, สป.๓, สป.๔ และ สป.๕ สิง่ อปุ กรณ์ประเภท ๑ (สป.๑) สป.๑ หมายถึง เสบียง (อาหาร) ที่ใช้บริโภคสำหรับคนหรือสัตว์ ที่ได้กำหนดเกณฑ์จ่ายไว้เป็นรายวัน โดยไม่คำนึงถึงความเปล่ียนแปลงตามภาวะการณ์ต่างๆ และไม่เปลี่ยนแปลงเพื่อสนองความต้องการเฉพาะ บุคคลแต่อยา่ งใด เสบยี ง (อาหารคน) ทบ.แบง่ เป็น ๕ ประเภท คอื เสบียงประเภท ก. หมายถึง อาหารสดและแห้งทุกชนิด รวมถึงเคร่ืองปรุงตามส่วนสัมพันธ์หน่วยใช้ บริโภคตามรายการอาหารประจำวันหรือตามรอบเสบียงทก่ี ำหนด เสบียงประเภทน้ี กอ่ นรบั ประทานจะต้อง หุงต้ม และปรุงแต่งก่อน อีกทั้งเป็นเสบียงท่ีเสียง่ายหากจะเก็บอาหารสดให้ได้นานวันก็จะต้องเก็บไว้ในที่เก็บ เย็น เชน่ เน้อื สด, ผกั สด, ไขส่ ด, ปลาสด เสบียงประเภท ข. หมายถึง อาหารประเภทเครือ่ งกระป๋อง หรอื บรรจใุ นภาชนะอื่นใด ทำนองเดียวกัน น้ี เสบียงประเภทน้ี สามารถเก็บไวใ้ นอุณหภมู ิปกติเสียยาก ก่อนรบั ประทานอาจต้องอ่นุ ให้รอ้ น หรอื ปรุงแต่ง รสตามต้องการได้ เสบียงประเภท ค. หมายถึง อาหารสำเร็จรูปบรรจุในภาชนะท่ีเหมาะสม หรืออาจเป็นเสบียงชุด ใช้รับประทานได้ทันที เสบียง ประเภทนใ้ี ช้รบั ประทานประทงั ชีวิตในกรณีฉุกเฉนิ หรอื เม่ือไม่สามารถประกอบ เลี้ยงดว้ ยเสบียงอ่ืนๆ ได้ เสบียงประเภท ง. หมายถึง อาหารท่ีใช้บริโภคสำหรับคนไข้หรือผู้ป่วยเจ็บ เพื่อชูกำลังคนไข้หรือให้ ยอ่ ยงา่ ย เช่น อาหารออ่ น, นม, เนย และ น้ำผลไม้ เสบียงเสริมเบ็ดเตล็ด หมายถึง ส่ิงของจำเป็นต่อความสะดวกสบาย และอำนวยประโยชน์ต่อชีวิต ประจำวันของบุคคล เช่น ของใช้สอยส่วนบคุ คล, แปรงสีฟนั , ยาสฟี ัน, สบ,ู่ ไมข้ ีดไฟ, บุหร่ี, และลูกกวาด การเบกิ จ่าย สป. ๑ ๑. การร้องขอหรือเบิกเสบียงประเภท ก. หน่วยใช้ไม่ต้องดำเนินการเบิก เพียงแต่แจ้งยอดกำลังพล ไปยังหน่วยให้การสนับสนุนเท่าน้ัน หน่วยสนับสนุนจะเป็นผู้ดำเนินการเอง โดยการยึดถือยอดกำลังพล ประจำวนั ของหนว่ ยใช้ เปน็ เกณฑ์การจา่ ยให้ตามวงรอบเสบียงทกี่ ำหนด ๒. การร้องขอเสบียงประเภท ข.และเสบียงประเภท ค. ผบ.หน่วยใช้ จะต้องดำเนินการตามระเบียบ โดยให้หน่วยใช้ระดับกองร้อยเป็นหน่วยเล็กท่ีสุดในการเบิกด้วยการใช้ใบเบิกท่ีสายพลาธิการกำหนดให้ แล้วเสนอไปตามสายการส่งกำลงั จนถงึ กอง พธ.พล.ที่ใหก้ ารสนับสนนุ เพ่อื ดำเนินการใหต้ ่อไป ๓. เสบียงประเภท ง. การเบกิ เป็นหนา้ ที่ของเจา้ หน้าท่สี ่งกำลังสายแพทย์ เปน็ ผู้ดำเนนิ การ

๑๗๓ ๔. เสบียงเสริมเบ็ดเตล็ด หน่วยเหนือจะเป็นผู้พิจารณาแจกจ่ายให้เป็นครั้งคราว ตามยอดกำลังพล ของหน่วย และจะดำเนนิ การแจกจ่ายไปพรอ้ มกบั การจา่ ยเสบียงของหนว่ ยใช้นั้น ๆ สำหรับการแจกจา่ ยเสบยี ง แต่ละประเภท หน่วยสนับสนุนโดยตรงจะดำเนินการแจกจา่ ยตามสายการสง่ กำลงั ซงึ่ อาจจะกำหนดห้วงการ แจกจา่ ยตามวงรอบเสบยี ง หรอื ย่านเสบยี งท่กี ำหนดไว้ใน รปจ.ของหน่วย สง่ิ อุปกรณป์ ระเภท ๒ (สป.๒) หมายถงึ สป.ที่ ทบ.กำหนดอัตราจา่ ยไวป้ ระจำหน่วยหรือประจำตวั ตามท่ี ทบ.กำหนดไว้ใน อจย. หรือ อสอ.หรือบัญชแี บ่งมอบอืน่ ๆ เช่นอาวุธ ยานพาหนะ ชุดวิทยุ เม่ือหน่วยเข้าทำการรบ สป.๒ ที่ได้รับจ่ายไว้ในครอบครองข้ันต้น อาจได้รับความเสียหาย เน่ืองจาก การรบ สูญหาย หรือชำรดุ จนใช้การไม่ได้ หนว่ ยใช้นั้นๆ จะต้องดำเนินการจัดหามาทดแทน วธิ ีการจัดหาตาม ระเบียบปฏิบตั ทิ ่ีกำหนดให้กระทำได้ มี ๒ วิธี คือ... สป.๒ รายการที่ควบคุม หมายถึง สป.๒ ที่ ผบ. ยุทธบริเวณ มีบัญชีประกาศให้ควบคุมระบบการ เบิกจ่าย หน่วยใช้จะต้องดำเนินการร้องขอ และเบิกจ่ายตาม สายการบังคับบัญชา เพ่ือขออนุมัติจากผู้มี อำนาจอนุมตั จิ ่าย สป.๒ รายการทมี่ ิได้ควบคมุ หมายถงึ สป.๒ ท่มี ไิ ด้มกี ารควบคุมระบบการเบกิ จา่ ย ซ่ึงหน่วยใชส้ ามารถ ทำการเบกิ จา่ ยตามสายการสง่ กำลัง ระเบียบปฏิบัตใิ นการรอ้ งขอ และเบิก สป.๒ หน่วยใช้จะตอ้ งทำบันทึกเป็นเอกสารดว้ ยการแสดงเหตุผล เก่ียวกบั ทรพั ยส์ นิ ทเี่ สียหาย หรือการใชส้ ิ้นเปลืองไปเน่ืองจากการรบ โดย ผบ.หน่วยใช้เป็นผู้ทำบนั ทกึ ดงั กลา่ ว การจ่าย สป.๒ หน่วยที่ให้การสนับสนุนจะแจกจ่ายตามสายการส่งกำลังหรืออาจ \" แจกจ่ายแบบสาย ตรง \" ถึงที่ตง้ั ของหน่วยใช้โดยตรง หรอื อาจเรียกว่า \"การจ่ายแบบสง่ ผ่าน\" เพื่อให้ สป.๒ ถงึ หนว่ ยใชห้ รอื ผู้ใช้ โดยตรงก็ได้ การแจกจ่ายวิธีนี้สะดวกรวดเร็วกว่าจ่ายตามสายการส่งกำลงั เป็นวิธีท่ีหน่วยใช้พึงประสงค์มาก ท่สี ุด การส่งกำลงั ส่งิ อุปกรณ์ประเภท ๓ (สป.๓) หมายถงึ น้ำมันเชื้อเพลงิ และน้ำมันอุปกรณ์ซึ่งใชเ้ กี่ยวกับยานยนต์, เคร่อื งจักรกล, เคร่ืองบิน, เครื่องให้ แสงสว่าง และเคร่ืองใหค้ วามร้อน โดยทบ.กำหนดความรบั ผดิ ชอบ ให้กับ พธ.ทบ.เป็นผ้ดู ำเนินการสนับสนุน หน่วยใน ทบ.และหนว่ ยอน่ื ๆ ตามคำสงั่ ของ ทบ. การร้องขอและเบิก สป.๓ หน่วยใช้จะต้องดำเนินการตามสายการส่งกำลังข้ึนไป จนถึงผู้มีอำนาจสั่ง จ่าย สำหรับหน่วยใช้ระดับกรมลงมาจะไดร้ ับเครดิตน้ำมนั ตามอัตราพิกัด เพื่อใช้เติมเต็มถังประจำรถ และ ถังอะไหล่ ท่ีจัดไว้ตามอัตราของยานยนต์ชนิดน้ันๆ เพื่อให้สามารถใช้ปฏิบัติการได้ทันทีในข้ันต้นและเม่ือใช้ พร่องไปจะต้องดำเนินการทดแทนให้เต็มอัตราพิกัดท่ีกำหนด การเพ่ิมเติมหรือทดแทน สป.๓ ประเภท เชือ้ เพลงิ ในหน่วยระดับกรมลงมาเมอ่ื ปฏิบตั ริ าชการในสนาม มหี ลักปฏบิ ตั ิ ๒ ประเภท คือ... ๑. ใช้ถังเปล่าแลกเปลี่ยนน้ำมันเต็มถังหรือใช้รถยนต์บรรทุกน้ำมันถังเปล่าแลกเปล่ียน รถยนต์ บรรทุกน้ำมันเต็มถัง ณ ตำบลจ่ายทีใ่ ห้การสนับสนุน

๑๗๔ ๒. ยานพาหนะท่ีต้องไปปฏิบัติงานทางธุรการในพื้นที่ส่วนหลัง ก่อนที่จะกลับขึ้นไปยังพ้ืนท่ี ส่วนหน้าหรือที่ต้ังหน่วย จะต้องทำการเติม สป.๓ จากตำบลส่งกำลัง หรือตำบลจ่าย สป.๓ ในพื้นที่นั้น ๆ ให้เตม็ ถงั ประจำรถ และถงั อะไหล่ประจำรถ การแจกจ่าย หนว่ ยจัดต้ังตำบลจา่ ย สป.๓ เพ่ือสนับสนุนใหก้ ับหน่วยใช้ ตอ้ งทำเอกสารบันทึกการจ่าย น้ำมนั เพ่อื ป้องกันการทุจริตของเจ้าหน้าทแี่ จกจ่าย และเพ่อื ใช้เปน็ หลกั ฐานการจัดทำรายงานสถานภาพ สป.๓ ประจำวนั ของหนว่ ย การสง่ กำลังสงิ่ อปุ กรณป์ ระเภท ๔ (สป.๔) หมายถึง สป. ท่ี ทบ.มิได้กำหนดอัตราจ่ายให้แก่หน่วยเป็นประจำไว้ แต่เป็น สป.ที่จะต้องจัดหาเป็น ครั้งคราวเพื่อตอบสนองความต้องการหน่วย หรืออาจเรียกว่า สป.นอกอัตรา เมื่อจบภารกิจ หรือหมด ความจำเป็นต่อการใช้ หรือเมื่อมคี ำส่ังจากหน่วยเหนอื ให้สง่ คนื หน่วยใช้จะต้องดำเนนิ การส่งคืนหน่วยจา่ ยตาม ระเบยี บปฏิบัติท่ี ทบ.กำหนด เช่น เครื่องแต่งกายพเิ ศษ, อาวุธพิเศษ, ยานพาหนะพเิ ศษ และ วัสดุป้อมสนาม การร้องขอและการเบิก สป.๔ ทุกรายการ หน่วยใช้จะต้องดำเนินการตามสายการบังคับบัญชา จนถึง ผ้มู อี ำนาจอนมุ ัตใิ หย้ ืมหรือสั่งจา่ ยได้ การจ่ายถือระเบียบปฏิบัติเช่นเดียวกับ สป.๒ คือ อาจจ่ายตามสายการส่งกำลัง หรือจ่ายแบบสายตรง หรือแบบส่งผ่านก็ได้ เพื่อความรวดเร็วทันเวลาหรือถ้า สป.๔ จำนวนน้อย อาจแจกจ่ายไปพร้อมกับการจ่าย เสบยี งของหนว่ ยใช้ก็ได้ การสง่ กำลงั ส่ิงอุปกรณป์ ระเภท ๕ (สป.๕) หมายถึง กระสุน, วัตถุระเบิด, วัตถุเคมี ซึ่งอยู่ในความรบั ผิดชอบ ทางการส่งกำลังของ สพ.ทบ.และ วศ.ทบ.เช่น กระสนุ , ระเบดิ ขว้าง, ดินระเบดิ ระบบการสง่ กำลงั สป.๕ แตกต่างจากการส่งกำลงั สป.ประเภทอน่ื สรปุ ได้ดงั น้ี - การเบิก กองพล ไม่ทำการส่งกำลัง สป.๕ ให้กับหนว่ ยรองโดยตรงแต่จะจัดต้ังสำนักงานกระสุนของ กองพล (สกน.) ในบริเวณพ้ืนที่สนับสนุนของกองพล ปฏิบัติงานโดยนายทหารกระสุนของกองพล และ เจ้าหน้าที่สายสรรพาวุธจำนวนหน่ึง เพ่ือควบคุมการใช้ สป.๕ ในกองพล และทำหน้าท่ีติดต่อประสานงาน ระหวา่ งหน่วยใช้กับหนว่ ยที่ให้การสนับสนุนระดบั ต่าง ๆ ตลอดจนการรวบรวมและรายงานสถานภาพ สป.๕ ภายในกองพล เสนอไปยังสายงานท่ีรับผิดชอบต่อไป สำหรับแบบพิมพ์ ทบ.ท่ีใช้ในการเบิกกระสุน ได้แก่ ทบ.๔๖๘–๕๑๒ ซึ่งหนว่ ยใช้ ระดับกองพัน, กรม จะมีเจ้าหนา้ ท่สี ่งกำลงั กระสุนของหน่วย ดำเนนิ การรวบรวม ความตอ้ งการของหน่วยใช้ แล้วจัดทำเปน็ ใบเบกิ พรอ้ มกับนำยานพาหนะทใ่ี ช้ลำเลยี ง ไปยงั สำนักงานกระสุน ของกองพล เพ่ือให้นายทหารกระสุนของกองพลตรวจความถูกต้อง และลงนามรับรองในใบเบิกกระสุนก่อน จากนั้นเจ้าหน้าที่กระสุนจะต้องเดินทางตอ่ ไป เพื่อขอรบั กระสุน จากตำบลสง่ กระสุนของ ทภ. ณ พนื้ ท่ชี ่วยรบ ของ ทภ.

๑๗๕ - การจ่าย ณ ตำบลส่งกระสุนของ ทภ.จะทำการบรรทุกกระสุนให้ตามจำนวนท่ีต้องการในใบเบิก ของเม่ือหน่วยใช้ไดร้ ับกระสนุ ครบตามจำนวนถูกต้อง ก็จะนำพาหนะเดินทางกลับไปยงั ท่ีตง้ั ตำบลจ่ายกระสุน ของตน เพ่ือแจกจ่ายใหผ้ ู้ใช้ต่อไป ในกรณีที่หนว่ ยใช้ได้รับกระสุนชนิดใดไมค่ รบจำนวนตามรายการในใบเบิก ในเทีย่ วกลับ ให้เจ้าหน้าท่ีกระสุนไปแสดงหลักฐาน และจำนวนที่ได้รับไมค่ รบตามรายการนน้ั ๆ กับนายทหาร กระสุนของกองพลทราบ เพอื่ จะไดด้ ำเนนิ การให้ได้รับในโอกาสต่อไป ศพั ท์เฉพาะท่เี กย่ี วข้องกับ สป.๕ อตั รากระสุนมูลฐาน คือ จำนวนกระสุนที่ ทบ. กำหนดให้หน่วยใช้ระดับต่าง ๆ มีไว้เพ่ือปฏิบัติการรบ หรือใช้ปฏิบัติการกรณีฉุกเฉินในข้ันต้น โดยกำหนดเป็นจำนวนนัดต่อกระบอกของแต่ละชนิดอาวุธ ซึ่งทหาร จะต้องนำไปเป็นบุคคล หรือดว้ ยยานพาหนะประจำหน่วย หรือดว้ ยเคร่ืองมอื ขนสง่ ชนดิ อ่ืน สำหรบั สป.๕ ชนิด อื่น ๆ ที่มีลักษณะและวิธีใช้แตกต่างไปจากกระสุน ตามรายการอนุมัติจ่าย อาจกำหนดหน่วยนับแตกต่าง กันออกไป ซึ่งมักจะกำหนดอัตรามลู ฐานไวเ้ ปน็ หนว่ ย เพ่ือใหม้ ีใช้เป็นสว่ นรวม เชน่ หนว่ ยนบั เป็นลกู เปน็ ปอนด์ เป็นฟุต และจำนวนอัตรามูลฐานน้ี มทภ. อาจกำหนดให้มากหรือน้อยได้ โดยการพิจารณาถึงจำนวน ยานพาหนะในอตั ราของหนว่ ย เป็นพื้นฐานในการกำหนดหรือพจิ ารณาจากแผนการยทุ ธท่ไี ด้คาดคิดไวล้ ่วงหน้า ดังน้ันการเพ่ิมเติมกระสุนอัตรามูลฐาน จึงเป็นความรับผิดชอบของ ผบ.หน่วยทุกระดับ จะต้องดำรงอัตรา กระสุนมูลฐานในความรับผิดชอบ ใหม้ จี ำนวนครบถ้วนอยูเ่ สมอ ตลอดจนการหมุนเวยี นใชเ้ พื่อให้อยู่ในสภาพที่ ใช้การไดด้ ตี ลอดไป อัตรากระสุนที่ต้องการ (อกต.) คือ จำนวนที่หน่วยเหนือหรือหน่วยใช้ประมาณการว่าหน่วยใด หน่วยหนึ่ง มีความจำเป็นต้องใช้ปฏิบัติการตามภารกิจที่มอบหมายให้ และสามารถใช้ทำการรบได้อย่าง เพียงพอต่อเนื่องในห้วงเวลาหน่ึง โดยไม่จำกัดการใช้ สำหรับ สป.๕ ชนิดอน่ื ๆ จะทำประมาณความต้องการ เป็นหน่วย เช่น ระเบิดขวา้ ง, ทุ่นระเบิดดักรถถัง, ดินระเบิด การประมาณความต้องการ สป.๕ เป็นหน้าท่ีของ สธ.๔ กองพล จะประสานกับ สธ.๓ กองพล แล้วกำหนดความต้องการ วิธีกำหนดความต้องการจะคิดเฉพาะ อาวธุ ที่ใช้ทางยุทธวิธีในภารกิจนั้นๆ โดยคิดเป็นจำนวนนัดตอ่ กระบอก จากประสบการณ์รบครั้งท่ีผ่านมาเป็น พนื้ ฐานในการประมาณการ อัตรากระสุนท่ีใช้ได้ ( อกช.) คือ จำนวนกระสุนจำนวนหนึ่งท่ีจำกัดให้หน่วยใช้ดำรงความต่อเนื่องใน การยงิ เทา่ ทจ่ี ำนวนกระสุนจะมสี นบั สนนุ ให้ไดใ้ นห้วงเวลาหนึ่ง หรือ ตามหว้ งเวลาทีก่ ำหนดใหใ้ ชไ้ ด้ โดยกำหนด เป็นจำนวนนัดตอ่ กระบอกต่อวัน ส่วนอาวุธใดท่ีหน่วยเหนือมไิ ด้กำหนดอตั รากระสนุ ท่ีใช้ได้ให้ อาวุธเหล่าน้ัน จะต้องทำการรบด้วยการใช้อัตรากระสุนมูลฐาน โดยปกติ ผบ.ยุทธ-บริเวณ จะเป็นผู้กำหนดอัตรากระสนุ ที่ ใช้ได้ ของแต่ละชนิดอาวุธตามความเหมาะสมกบั ภาวะการณ์น้ันๆ ท้ังน้ี เพื่อควบคมุ ระบบการส่งกำลงั กระสุน ระหวา่ งหนว่ ยใช้ และ หน่วยทใ่ี หก้ ารสนบั สนุนในระดบั ตา่ ง ๆ

๑๗๖ หนว่ ยในระดับกองทัพภาค, กองพล, กรม และ กองพัน อาจมคี วามจำเปน็ ต้องกำหนดอัตรากระสนุ ท่ี ใช้ได้ภายในหน่วยของตนขึ้นอีกข้ันหน่ึงได้ โดยมีหลักการพึงปฏิบัติ คือ จะกำหนดอัตรากระสุนที่ใช้ได้ไม่ เกินกว่าอัตรากระสุนท่ตี อ้ งการ ซ่งึ หน่วยเหนอื ไดป้ ระกาศใชอ้ ยูใ่ นห้วงระยะเวลาทีก่ ำหนด สำหรับ สป.ชนิดอ่ืน ๆ ท่ี ทบ.มิได้กำหนดรายการไว้ใน สป.ท้ัง ๕ ประเภท ท่ีกล่าวแล้วนน้ั ใหถ้ ือว่าเป็น สป.เบ็ดเตลด็ เช่น น้ำ, แผนที่, สง่ิ ของทยี่ ดึ จากข้าศึก การส่งกำลังเบด็ เตลด็ นำ้ พัน.ช.สนาม ของกองพล จัดต้ังตำบลจ่ายน้ำประปาในพ้ืนที่ขบวนสัมภาระของกรม ๑ แห่ง / กรม และจัดตั้งอีกหน่วยรบั นำ้ จากตำบลจา่ ยไปแจกจา่ ยอีกทอดหนงึ่ แผนที่ พนั .ช.พล.จะรับแผนท่ีสำหรับกองพลจากคลังแผนที่ของ ทภ.ไปจ่ายให้กบั นขต.พล. และหน่วย ข้ึนสมทบ พร้อมทั้งเก็บรักษาแผนท่ีสำรองไว้ด้วย หน่วยใช้เสนอความต้องการแผนท่ีไปยัง ผบ.ช.พล. เพ่ือ คำนวณความต้องการภายใต้การกำกบั ดูแลของ สธ.๒ กองพล สำหรับการแจกจ่ายแผนทใ่ี ห้ปฏิบัติตามลำดับ ความเรง่ ดว่ นตามท่ี สธ.๒ กองพล กำหนด สป. สายสารบรรณ กองร้อยกองบัญชาการกองพล (ร้อย บก.พล.) รับผิดชอบในการกำหนดความ ต้องการ, เบิก, รับเก็บรักษาและแจกจ่ายส่ิงพิมพ์ของทางราชการ เช่น คู่มือราชการสนาม, คู่มือทางเทคนิค, แบบฟอรม์ และแบบพมิ พอ์ ่นื ๆ ใหแ้ ก่หนว่ ยของกองพล โดยให้หน่วยระดับกองพนั เสนอใบเบกิ ผ่าน ร้อย บก. พล. เพอื่ สรุปรวบรวมใบเบกิ เสนอไปยงั คลังสงิ่ พมิ พข์ อง ทภ.     

๑๗๗ สิ่งอุปกรณ์ สาย ส. ตาม รบ.ทบ. วา่ ด้วย ความรับผิดชอบในส่ิงอุปกรณ์ พ.ศ.๒๕๕๕ ลง ๕ มี.ค.๒๕๕๕ กำหนดให้ สส. รับผดิ ชอบ สป. จำนวน ๙ รายการ ดังตอ่ ไปนี้. ๑. เครื่องมือสอ่ื สาร และ ระบบการติดต่อสื่อสาร ๒. เครอ่ื งมือ เครื่องใช้ สำหรับการภาพ สอื่ มลั ติมีเดยี ร โสตทัศนูปกรณ์ เคร่ืองเสียง ส่ิงอุปกร์ใช้งาน ทวั่ ไปท่ีใชอ้ เิ ลก็ ทรอนืกส์ ๓. เคร่ืองคอมพิวเตอร์ เครื่องมือเครื่องใช้ และอุปกรณ์ ประกอบ ในระบบคอมพิวเตอร์ ระบบเครอื ข่าย และระบบสารสนเทศ รวมท้ังชดุ คำส่ัง หรอื โปรแกรมทงั้ มวล ท่ีมีใช้งานท่ัวไปและใช้ ในการติดต่อส่อื สาร ๔. เครอ่ื งช่วยฝึกที่มีเทคโนโลยสี งู เกินขีดความสามารถของสายยุทธบริการอ่นื ๕. แหล่งจ่าย และ/หรือ สำรองพลงั งานไฟฟา้ ๖. เครอ่ื งกำเนดิ ไฟฟ้า สำหรบั เครอ่ื งมอื ส่อื สาร ๗. เคร่ืองมือในการค้นหาทิศ ตำแหน่ง กำหนดท่ีตั้ง ที่ใช้อิเล็กทรอนิกส์ อิเล็กทรอนิกส์การบินและ ระบบส่ือสารการบิน ระบบเรดาร์ และระบบเฝา้ ตรวจท่ใี ชอ้ ิเลก็ ทรอนกิ ส์ ๘. เครื่องมือ เครอ่ื งใช้ สำหรับการอตุ นุ ยิ มวทิ ยา ๙. เครื่องอเิ ล็กทรอนิกส์ที่มิได้กำหนดไว้ใหอ้ ยใู่ นความรบั ผิดชอบของสายงานอนื่ สป.สาย ส. สามารถจดั แบ่งไดด้ ังนี้ ประเภท อำนาจควบคุม จำหนา่ ย อัตรา ความรับผิดชอบ สป. ๒ และ ๔ สป.สำคญั สป.สิ้นเปลือง อจย. ๙ รายการ ตาม สป.หลกั สป.ถาวร อสอ. รบ.ทบ.วา่ ด้วย สป.รอง ชิน้ ส่วนซอ่ ม ความรบั ผดิ ขอบ สป. พ.ศ.๒๕๕๕ ลง ๕ มี.ค.๕๕     

๑๗๘ ระบบการแยกประเภทรายการส่ิงอปุ กรณ์ (SYSTEM OF IDENTIFICATION) ความมงุ่ หมาย เพื่อให้เจ้าหน้าท่ีซึ่งมีหน้าท่ีเก่ียวข้องกับการ ควบคุม จัดหา เก็บรักษา และแจกจ่ายส่ิงอุปกรณ์ ได้รู้ถึง หลักการและวิธีการท่ีจะแยกสิ่งอุปกรณ์ต่างๆ อันมีจำนวนมากมายและมีชื่อ รูปร่าง ลักษณะเหมือนกันหรือ คล้ายคลึงกันออกจากกันได้ โดยมิให้ของเหลา่ น้ันสับสนปะปนกัน ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาข้อยุ่งยากต่างๆ อาทิ เชน่ ๑. หลกั ฐานทางบญั ชคี ุม สป.ตา่ งๆ จะสับสนปะปนกนั เกย่ี วกบั ประเภทและจำนวน ๒. จา่ ยของผดิ ประเภท เพราะเก่ยี วกบั ชื่อ, ขนาดและมลี ักษณะเหมอื นๆ กนั ๓. เก็บของปะปนกัน โดยอาจจะรวมของท่ีมีชอื่ , ขนาดเหมือนกันไว้ในที่แห่งเดียวกนั ซ่ึงความจริงของ ไมเ่ หมือนกัน โดยมขี ้อแตกต่างกันอยา่ งใดอย่างหนงึ่ เล็กนอ้ ย ๔. จัดหาของผดิ ประเภทมาสะสมไว้โดยเปลา่ ประโยชน์ ๕. จำนวนสิ่งอุปกรณ์ทม่ี ไี ม่ตรงตามบัญชคี มุ ๖. การทำหลักฐานต่างๆ เช่น บัญชีคุม, ใบเบิก จะต้องใส่ข้อความยืดยาว เพราะต้องพรรณนา คุณลักษณะของสงิ่ อปุ กรณข์ องแตล่ ะอย่าง อยา่ งละเอียดละออ ๗. เสยี กำลงั งาน, เสียเวลาในการดำเนินการและการแกไ้ ขขอ้ ผิดพลาดตา่ งๆ ระบบการแยกประเภทรายการส่งิ อปุ กรณ์ ๑. ระบบการเรยี กช่อื มาตรฐาน (STANDRED NOMENCLATURE SYSTEM) ๒. ระบบการกำหนดหมายเลขให้กับสงิ่ ของ (STOCK NUMBERING SYSTEM) ๓. ระบบการบอกรายละเอยี ดของสิง่ ของ (STANDRED ITEM DISCRIPTION) ระบบการเรยี กชอื่ มาตรฐาน (STANDARD NOMENCLATURE SYSTEM) ประกอบดว้ ย ๒ ส่วน - ชอื่ ส่ิงของ (ITEM NAME) - หมายเลขบอกแบบ (TYPE NUMBER) หมายเลขบอกแบบ แบ่งออกเป็น ๒ ชนดิ ๑. หมายเลขบอกแบบของเหล่าทหารส่ือสาร (SIGNAL CORPS TYPE NUMBER) เช่น TA-312-A สว่ นท่ี ๑ TA = อักษรแสดงชนิดของส่ิงของ คอื เครื่องโทรศพั ท์ สว่ นที่ ๒ 312 = เปน็ ตัวเลขแสดงลำดบั แบบ สว่ นท่ี ๓ A = เปน็ อักษรแสดงการดัดแปลงแกไ้ ขคร้ังท่ี ๑