GRX-4000E

คู่มอื การใช้งาน วทิ ยถุ า่ ยทอด GRX-4000E 50 บทที่ 4 AFC : Adaptive Frequency Control กลา่ วท่วั ไป วทิ ยุถา่ ยทอดทางยุทธวธิ ี ออกแบบมาใหส้ ามารถทำงานไดถ้ ึงแมจ้ ะอยูใ่ นสภาวะท่ีมีความยุ่งยาก ในการใชค้ ลืน่ ความถ่ี วทิ ยุถา่ ยทอดตอ้ งทำให้ผใู้ ช้งานมีความม่ันใจว่า จะสามารถทำงานได้อย่างต่อเน่ือง ถึงแมว้ า่ จะอยภู่ ายใตเ้ งื่อนไขทยี่ ากลำบาก ท้งั จากสภาพแวดลอ้ ม หรอื จากการกระทำของขา้ ศกึ ก็ตาม วิทยุถ่ายทอดที่ ทบ. มีใช้งานในอดีต ตระกูล RL-series มีขีดความสามารถในการทำงานแบบ ความถี่ก้าวกระโดด (Frequency Hopping) หลักการคือวิทยุถ่ายทอดที่เป็นคู่สถานีกัน จะเปลี่ยน ความถ่ีใช้งานไปเป็นความถ่ีอ่นื เรอื่ ยๆ จากการสุ่ม หากความถีท่ ีใ่ ช้งาน ณ ปัจจบุ ันมีคุณภาพการส่ือสาร ที่ไม่ดี ซึ่งทั้งหมดนั้นจะอยู่ภายใต้การควบคุมของ Microprocessor อย่างไรก็ตาม การทำงานในแบบ ความถี่ก้าวกระโดดน้ัน จะมคี วามยุง่ ยากซับซ้อน แต่ก็เป็นส่ิงที่จะรับประกันได้ว่า วิทยุถ่ายทอดของเรา จะยังคงสามารถทำหน้าที่ของมันเอาไว้ได้ ถึงแม้จะถูกก่อกวนจากข้าศึก ยิ่งมีความยุ่งยากและซับซ้อน มากเทา่ ใด ขา้ ศึกกจ็ ะตอ้ งมคี วามยุ่งยากและซับซ้อนมากกว่าในการทจี่ ะขัดขวางการใชค้ ล่ืนของฝา่ ยเรา วิทยถุ า่ ยทอด GRX-4000E ไม่มีขดี มาตรการการตอบโต้การต่อต้านทางอิเล็กทรอนิกส์ (ECCM : Electronic Counter Counter Measure) ในแบบของความถ่กี ้าวกระโดด (Frequency Hopping) แต่ มีมาในรูปแบบของเปลี่ยนไปใช้ความถี่คู่อื่นที่ได้โปแกรมเอาไว้ล่วงหน้าแล้วหากถูกก่อกวนจากข้าศึก ซึ่งในวิทยุถ่ายทอดรุ่นนี้จะเรียกว่าระบบ AFC : Adaptive Frequency Control (เฉพาะใน Point to Point Mode เทา่ นน้ั ) ระบบ AFC จะเปลย่ี นแปลงความถี่รับ-สง่ หนา้ เคร่ือง ให้เป็นไปตามตารางความถท่ี ่ีได้กำหนดไว้ ล่วงหน้า จำนวน 5 คู่ความถี่ โดยแบ่งเป็นความถี่สง่ 5 ช่อง (เริ่มจากช่องที่ 1-5) และความถี่รับ 5 ช่อง (เริ่มจากช่องที่ 6-10) โดยจะจบั ครู่ ะหว่าง 1 คู่กับ 5, 2 คู่กบั 6 ไปจนถงึ 5 ค่กู ับ 10 น่ันแสดงว่าผ้ใู ช้งานจำเปน็ จะต้องทำการโปรแกรมความถี่เอาไว้ล่วงหน้าแล้วจำนวน 10 ความถ่ี ซึ่งการกำหนดว่าช่องไหนจะใช้ความถี่อะไร เป็นหน้าที่ของคนวางแผน ซึ่งจะต้องคิดให้รอบคอบ และ จะตอ้ งเปน็ ไปตามเงื่อนไขการกำหนดความถี่ ตัวอย่างตารางคคู่ วามถ่ีต่อไปนี้ เป็นเพียงตัวอย่างเพ่อื การศกึ ษาเทา่ นัน้ ยงั ไม่ใช่คู่ความถ่ีที่ดีท่ีสุด เนื่องจากว่า ถึงแม้ความถีท่ กุ ชอ่ งจะเป็นไปตามเงื่อนไขของการเลือกความถี่แล้วกต็ าม แต่เมื่อพิจารณา ถึงความเกี่ยวเนื่องระหว่างคู่ความถี่ยังมีปัญหาอยู่ (ให้ผู้ใช้งานใช้ความถี่ชุดนี้ในการศึกษา เพื่อเพ่ิม ความเข้าใจ)

คู่มือการใชง้ าน วิทยุถา่ ยทอด GRX-4000E 51 คทู่ ่ี ช่องสง่ ที่ ความถี่ ชอ่ งรบั ที่ ความถี่ 11 4425.000 MHz. 6 4725.000 MHz. 22 4480.000 MHz. 7 4780.000 MHz. 33 4560.000 MHz. 8 4860.000 MHz. 44 4650.000 MHz. 9 4950.000 MHz. 55 4450.000 MHz. 10 4750.000 MHz. *** คู่สถานตี ้องกำหนดความถใ่ี หส้ ลบั กัน ระหว่างความถีร่ ับกบั ความถส่ี ง่ เมื่อผู้ใช้งานได้กำหนดให้เคร่ืองทำงานในระบบ AFC (AFC : ON) จากเครื่องใดๆ วิทยุถ่ายทอด คสู่ ถานี จะปรบั การทำงานให้เปน็ ระบบ AFC ด้วยอัตโนมัติ และวิทยุถ่ายทอดทั้งคู่ จะพยายามติดต่อกัน โดยเริ่มตน้ ท่คี วามถคี่ ทู่ ี่ 1 เสมอ ถ้าหากระบบสามารถติดต่อได้ ก็จะดำรงการสื่อสารทค่ี วามถ่คี ู่ท่ี 1 ตอ่ ไป จนจบภารกิจ แต่ถ้าหากข้าศึกสามารถค้นหาและติดตามมาก่อนกวนที่ความถี่ดังกล่าวได้อีก วิทยุ ถา่ ยทอดก็จะเปล่ียนไปใชค้ วามถ่ีคทู่ ี่ 2 และจะเป็นวงรอบแบบนี้ไปจนถงึ ความถ่ีค่ทู ่ี 5 และถ้าหากข้าศึก ยังสามารถค้นหาและติดตามมาก่อนกวนที่ความถี่คู่ที่ 5 ได้อีก วิทยุถ่ายทอด GRX-4000E ก็จะไม่ สามารถหนไี ปยังความถค่ี ู่อนื่ ได้แล้ว และจะดำรงการสือ่ สารท่คี วามถค่ี ทู่ ี่ 5 ตอ่ ไป เราสามารถกำหนดให้วิทยุถ่ายทอดทำงานในระบบ AFC ได้ตามขั้นตอนดังนี้ (เมื่อ Interface เปน็ ETH ) 1. กด “SETUP” และทห่ี น้าจอจะโชว์ Menu TX Frequency 2. กด “NEXT PRMTR” และที่หน้าจอจะโชว์ Menu RX Frequency 3. กด “NEXT PRMTR” และที่หนา้ จอจะโชว์ Menu GRC Type 4. กด “NEXT PRMTR” และทห่ี น้าจอจะโชว์ Menu PTP # 5. กด “NEXT PRMTR” และทห่ี น้าจอจะโชว์ Menu ODU 6. กด “NEXT PRMTR” และทห่ี นา้ จอจะโชว์ Menu TX Level 7. กด “NEXT PRMTR” และที่หน้าจอจะโชว์ Menu Interface 8. กด “NEXT PRMTR” และทห่ี นา้ จอจะโชว์ Menu TX MDM Type 9. กด “NEXT PRMTR” และท่ีหน้าจอจะโชว์ Menu TX Bitrate 10. กด “NEXT PRMTR” และทห่ี นา้ จอจะโชว์ Menu RX MDM Type 11. กด “NEXT PRMTR” และทห่ี น้าจอจะโชว์ Menu RX Bitrate 12. กด “NEXT PRMTR” และทีห่ น้าจอจะโชว์ Menu RF IP 13. กด “NEXT PRMTR” และที่หน้าจอจะโชว์ Menu IP Management 14. กด “NEXT PRMTR” และที่หน้าจอจะโชว์ Menu Management Subnet Mask 15. กด “NEXT PRMTR” และทหี่ น้าจอจะโชว์ Menu SCH

คมู่ ือการใชง้ าน วทิ ยถุ ่ายทอด GRX-4000E 52 16. กด “NEXT PRMTR” และท่ีหน้าจอจะโชว์ Menu Buzzer 17. กด “NEXT PRMTR” และที่หนา้ จอจะโชว์ Menu Emergency 18. กด “NEXT PRMTR” และทห่ี นา้ จอจะโชว์ Menu AFC บรรทัดบนจะแสดงสถานะของ AFC ถา้ คา่ เปน็ “ON” แสดงว่า เครือ่ งทำงาน ใน AFC Mode แลว้ แต่ถา้ หากคา่ เป็น “OFF” ใหผ้ ู้ใช้งานปอ้ นคา่ AFC ใหม่ วิธีการทำได้โดยการกดปุ่ม “NEXT” ไปเรอื่ ยๆ จนเจอ ON หลงั จากนัน้ ใหก้ ด “ENTER” เมอ่ื ผใู้ ช้งานกดปุ่ม “ENTER” แล้ว สถานะของ AFC ในบรรทดั ที่ 1 จะเปลี่ยนไปตามค่าท่ปี อ้ นให้ ตามรปู เมื่อ AFC แสดงค่าเป็น ON แสดงว่าเครื่องทำงานใน AFC Mode แล้ว ให้กดปุ่ม “RESET” เรื่อยๆ เพื่อกลับสู่หน้าจอหลัก ในหน้าจอหลักจะแสดงความถี่ส่ง-รับ ผู้ใช้งาน สามารถตรวจสอบว่าเครื่องทำงานโหมด AFC หรือไม่ ดูได้จากความถี่ส่ง-รับ ซึ่งจะถูกเปลี่ยนเป็น ค่คู วามถตี่ ามช่องทเ่ี ราได้ต้งั ไว้ลว่ งหน้า

คูม่ อื การใช้งาน วทิ ยถุ า่ ยทอด GRX-4000E 53 หน้าจอหลกั กอ่ นความถีเ่ ปล่ียน ตามรูป ความถสี่ ง่ - รับ จะถกู เปล่ียนเป็นความถีค่ ่แู รก CH-T : 1 คกู่ บั CH-R : 6 ตามรูป หากความถ่ีของคู่ที่ 1 มีปัญหา วทิ ยุจะเปลย่ี นไปใช้ความถี่คู่ท่ี 2 ตามรปู หากความถ่ีของคู่ที่ 2 มีปญั หา วทิ ยจุ ะเปล่ยี นไปใชค้ วามถี่คู่ที่ 3 ตามรูป

คมู่ อื การใชง้ าน วิทยถุ า่ ยทอด GRX-4000E 54 หากความถข่ี องคู่ที่ 3 มีปัญหา วิทยุจะเปล่ียนไปใชค้ วามถี่คูท่ ่ี 4 ตามรูป หากความถี่ของคทู่ ี่ 4 มีปัญหา วทิ ยจุ ะเปลยี่ นไปใช้ความถี่ค่ทู ่ี 5 ตามรปู ---------

ค่มู ือการใช้งาน วิทยถุ า่ ยทอด GRX-4000E 55 บทที่ 5 Interface / Modulation / Data rate Interface วิทยุถ่ายทอด GRX-4000E ออกแบบมาให้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์พร้อมกันได้ 3 ชนิด (3 Protocol) ประกอบด้วย E.1, Eurocom และ Ethernet ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเลือกเพียง 1, 2 หรือ เลือกทง้ั 3 ชนดิ พร้อมกนั ก็ได้ ตามตาราง เลือก ความหมาย เลอื ก ETH เลือกการเชอ่ื มตอ่ แบบ Ethernet เพยี งอยา่ งเดยี ว 1 ชนิด 512K เลอื กการเชอ่ื มตอ่ แบบ Ethernet และ Eurocom 2 ชนดิ พร้อมกัน 1024K (EUROCOM D/1 ทค่ี วามเร็ว 512Kb/s) 2 ชนดิ พร้อมกัน 2048K เลือกการเชื่อมต่อแบบ Ethernet และ Eurocom 2 ชนิดพร้อมกัน 512K_E1 (EUROCOM D/1 ทคี่ วามเร็ว 1024Kb/s) 3 ชนดิ พรอ้ มกัน เลอื กการเชื่อมตอ่ แบบ Ethernet และ Eurocom 1024K_E1 (EUROCOM D/1 ทค่ี วามเรว็ 2048Kb/s) 3 ชนดิ พร้อมกนั เลอื กการเช่ือมต่อแบบ Ethernet, Eurocom (EUROCOM D/1 2048K_E1 ที่ความเร็ว 512Kb/s) และ E.1 (ITU-T Rec. G.703 3 ชนิดพร้อมกนั ทค่ี วามเรว็ 2048Kb/s) E1 เลือกการเชอ่ื มต่อแบบ Ethernet, Eurocom (EUROCOM D/1 2 ชนิดพรอ้ มกนั ทค่ี วามเร็ว 1024Kb/s) และ E.1 (ITU-T Rec. G.703 ทค่ี วามเร็ว 2048Kb/s) เลอื กการเชื่อมต่อแบบ Ethernet, Eurocom (EUROCOM D/1 ทคี่ วามเร็ว 2048Kb/s) และ E.1 (ITU-T Rec. G.703 ที่ความเร็ว 2048Kb/s) เลอื กการเชื่อมต่อแบบ Ethernet และ E.1 (ITU-T Rec. G.703 ที่ความเรว็ 2048Kb/s) การเลือก 1, 2 หรือ 3 ชนิดนั้น ขึ้นอยู่กับการใช้งานของเราเป็นหลัก เช่นถ้าเราต้องการ แค่นำเอาระบบ Internet เข้าไปในพื้นที่ปฏิบัติการ เราก็เลือกการเชื่อมต่อแบบ Ethernet เพียงอย่าง เดยี ว *** เม่ือวิทยถุ ูกกำหนดใหท้ ำงานแบบ Point to 2 Point Interface จะเป็น ETH ได้อย่างเดียวเทา่ น้ัน

ค่มู ือการใช้งาน วทิ ยถุ ่ายทอด GRX-4000E 56 เมือ่ ทำงานแบบ PTP เราสามารถเขา้ ไปตรวจสอบสถานะการเลอื กชนิดของการเชื่อมต่อไดด้ ังน้ี จาก Keypad หนา้ เครอ่ื ง 1. กด “STAT” จะขน้ึ System parameter 2. กด “ENTER” จะโชวค์ วามถ่ี 3. กด “NEXT PRMTR” เครอ่ื งจะโชว์ TX Level / AFC 4. กด “NEXT PRMTR” เครอ่ื งจะโชว์ GRC Type / ODU 5. กด “NEXT PRMTR” เครื่องจะโชว์ TX Modem / TX Bitrate 6. กด “NEXT PRMTR” เครื่องจะโชว์ RX Modem / RX Bitrate 7. กด “NEXT PRMTR” เคร่ืองจะโชว์ Interface / Emergency ซึ่งจากตัวอย่างนี้ วิทยุถ่ายทอดเลือกการเชื่อมต่อเป็นแบบ Ethernet และ Eurocom ทคี่ วามเรว็ 512Kb/s โดยสังเกตจากชอ่ ง “INTFC” ที่มีค่าเป็น “512K”

คูม่ ือการใช้งาน วทิ ยุถ่ายทอด GRX-4000E 57 หากการตรวจสอบข้างต้น ชนิดของการเชื่อมต่อไม่ถูกต้องตามแผน เราสามารถเปลีย่ นแปลงได้ โดยดำเนินการตามขั้นตอนดงั นี้ ตวั อย่างท่ี 1 เมือ่ ต้องการกำหนด Interface ให้เป็น ETH เพยี งอยา่ งเดยี ว จาก Keypad หน้าเคร่อื ง 1. กด “SETUP” และท่หี น้าจอจะโชว์ Menu TX Frequency 2. กด “NEXT PRMTR” และที่หนา้ จอจะโชว์ Menu RX Frequency 3. กด “NEXT PRMTR” และทห่ี นา้ จอจะโชว์ Menu GRC Type 4. กด “NEXT PRMTR” และที่หนา้ จอจะโชว์ Menu PTP # 5. กด “NEXT PRMTR” และทห่ี นา้ จอจะโชว์ Menu ODU 6. กด “NEXT PRMTR” และที่หน้าจอจะโชว์ Menu TX Level 7. กด “NEXT PRMTR” และที่หนา้ จอจะโชว์ Menu Interface ซงึ่ หนา้ จอน้ี ใช้ Interface เป็น Ethernet และ Eurocom โดยดูจาก INTFC : 512K

คูม่ อื การใชง้ าน วทิ ยถุ า่ ยทอด GRX-4000E 58 8. กด “NEXT” และท่หี น้าจอจะโชว์ “ENTER : 1024K” ตามรปู 9. กด “NEXT” และทห่ี น้าจอจะโชว์ “ENTER : 2048K” ตามรูป 10. กด “NEXT” และที่หน้าจอจะโชว์ “ENTER : 512K_E1” ตามรปู

ค่มู ือการใช้งาน วิทยถุ า่ ยทอด GRX-4000E 59 11. กด “NEXT” และที่หนา้ จอจะโชว์ “ENTER : 1024K_E1” ตามรปู 12. กด “NEXT” และท่ีหนา้ จอจะโชว์ “ENTER : 2048K_E1” ตามรูป 13. กด “NEXT” และทห่ี น้าจอจะโชว์ “ENTER : E1” ตามรปู 14. กด “NEXT” และที่หนา้ จอจะโชว์ “ENTER : ETH” ตามรูป แลว้ กด “ENTER” หลงั จาก “ENTER” แล้ว เคร่อื งจะเปลี่ยนไปใช้ Ethernet Protocol ตามรูป

คู่มือการใช้งาน วทิ ยุถ่ายทอด GRX-4000E 60 15. กด “RESET” 2 ครง้ั เพ่ือกลับไปสู่จุดเร่มิ ตน้ ใหม่ ตัวอย่างที่ 2 ต่อเนื่องจากตัวอย่างที่ 1 เมื่อต้องการเปลี่ยน Interface ให้เป็น ETH และ EUROCOM D/1 ท่คี วามเร็ว 512Kb/s 1. กด “SETUP” และท่ีหน้าจอจะโชว์ Menu TX Frequency 2. กด “NEXT PRMTR” และที่หน้าจอจะโชว์ Menu RX Frequency 3. กด “NEXT PRMTR” และที่หนา้ จอจะโชว์ Menu GRC Type 4. กด “NEXT PRMTR” และที่หนา้ จอจะโชว์ Menu PTP # 5. กด “NEXT PRMTR” และทหี่ นา้ จอจะโชว์ Menu ODU 6. กด “NEXT PRMTR” และท่หี น้าจอจะโชว์ Menu TX Level 7. กด “NEXT PRMTR” และทห่ี น้าจอจะโชว์ Menu Interface และสถานะปจั จบุ นั 8. กด “NEXT” และที่หนา้ จอจะโชว์ 512K หลังจากนั้นให้กด “ENTER”

คู่มอื การใช้งาน วทิ ยุถ่ายทอด GRX-4000E 61 หลังจาก “ENTER” แล้ว เครื่องจะเปลี่ยน Interface ไปเป็น Ethernet และ EUROCOM D/1 ทค่ี วามเร็ว 512Kb/s ตามรปู 9. กด “RESET” 2 ครง้ั เพอื่ กลับไปสจู่ ุดเรม่ิ ตน้ ใหม่ ตัวอย่างที่ 3 ตอ่ เน่อื งจากตัวอยา่ งที่ 2 เม่ือตอ้ งการเปลยี่ น Interface ไปเป็น ETH, EUROCOM D/1 ที่ความเร็ว 1024Kb/s และ E.1 (ITU-T Rec. G.703 ทคี่ วามเร็ว 2048Kb/s) 1. กด “SETUP” และทีห่ นา้ จอจะโชว์ Menu TX Frequency 2. กด “NEXT PRMTR” และทห่ี นา้ จอจะโชว์ Menu RX Frequency 3. กด “NEXT PRMTR” และทห่ี นา้ จอจะโชว์ Menu GRC Type 4. กด “NEXT PRMTR” และที่หน้าจอจะโชว์ Menu PTP # 5. กด “NEXT PRMTR” และทห่ี น้าจอจะโชว์ Menu ODU 6. กด “NEXT PRMTR” และทห่ี นา้ จอจะโชว์ Menu TX Level 7. กด “NEXT PRMTR” และทห่ี นา้ จอจะโชว์ Menu Interface และสถานะปจั จุบัน

คู่มอื การใชง้ าน วทิ ยถุ ่ายทอด GRX-4000E 62 8. กด “NEXT” และที่หนา้ จอจะโชว์ตามรปู “ENTER : 1024K” 9. กด “NEXT” และทีห่ น้าจอจะโชว์ตามรูป “ENTER : 2048K” 10. กด “NEXT” และท่ีหนา้ จอจะโชว์ตามรูป “ENTER : 512K_E1” 11. กด “NEXT” และทห่ี น้าจอจะโชวต์ ามรูป “ENTER : 1024K_E1” แลว้ กด “ENTER” หลังจาก “ENTER” แล้ว เครอ่ื งจะเปลี่ยนไปใช้ Ethernet, EUROCOM D/1 ที่ ความเร็ว 1024Kb/s และ E.1 ทีค่ วามเร็ว 2048Kb/s ตามรปู 12. กด “RESET” 2 ครั้ง เพื่อกลับไปส่จู ดุ เร่มิ ตน้ ใหม่ *** อยา่ ลมื ตงั้ คา่ Interface ของคูส่ ถานใี หเ้ หมือนกันด้วย ***

ค่มู ือการใช้งาน วิทยุถ่ายทอด GRX-4000E 63 Modulation / Data rate วิทยุถ่ายทอดสามารถเลือกการ Modulation ได้ 2 แบบด้วยกันคือ QPSK และ 16QAM ซึ่งการ Modulation ทั้ง 2 แบบ ก็มีข้อดีและข้อด้อยต่างกันคือ การ Mod แบบ QPSK จะสามารถ ส่งข้อมูลได้ช้า แต่จะสามารถทนกับสภาพแวดล้อมได้ดีกว่า ในขณะที่การ Mod แบบ 16QAM จะสามารถสง่ ข้อมลู ได้เรว็ แตจ่ ะออ่ นไหวกบั สภาพแวดล้อม Modulation Type Radio Data Rate (Mb/s) QPSK 2 QPSK 8 QPSK 34 16QAM 2 16QAM 8 16QAM 34 16QAM 52 16QAM 104 จากตารางขา้ งต้นจะเหน็ ว่า การ Modulation แบบ QPSK สามารถรองรบั Data Rate ได้ต้งั แต่ 2Mb/s, 8Mb/s และ 34Mb/s เท่านั้น แต่ถ้าหากเราเลือกการ Modulation แบบ 16QAM เราจะ สามารถเลอื ก Data Rate ได้ 2Mb/s, 8Mb/s, 34Mb/s, 52Mb/s และ 104Mb/s ถ้าเราสังเกตให้ดีจะเห็นว่าถ้าเราต้องการใช้ Data Rate 2Mb/s, 8Mb/s และ 34Mb/s เราจะ สามารถเลือกชนิดการ Modulation ได้ทั้ง QPSK และ 16QAM ส่วนผู้ใช้งานจะเลือกเป็นแบบไหนนัน้ ขน้ึ อยูก่ บั ความต้องการ

ค่มู ือการใชง้ าน วทิ ยถุ า่ ยทอด GRX-4000E 64 ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ ง Interface, การ Modulation และ Data rate จากรูปจะเห็นว่า “พระราม” กับ “พระลักษณ์” ติดต่อกันที่ความเร็ว 104 Mb/s โดยใช้การ Modulation เป็นแบบ 16QAM เลอื ก Interface แบบ ETH เพอ่ื สง่ ผา่ นระบบ Internet ในข้นั ตน้ ให้ผู้ใช้งานไปเลอื กรูปแบบของการ Interface ให้เป็น ETH ตามทไ่ี ดศ้ ึกษามาแล้ว หลงั จากน้ีจะเปน็ การเลอื ก Data Rate ซ่ึงสามารถดำเนินการไดด้ ังน้ี

คู่มือการใชง้ าน วทิ ยถุ ่ายทอด GRX-4000E 65 จาก Keypad หนา้ เครอื่ ง 1. กด “SETUP” และท่ีหนา้ จอจะโชว์ Menu TX Frequency 2. กด “NEXT PRMTR” และที่หนา้ จอจะโชว์ Menu RX Frequency 3. กด “NEXT PRMTR” และที่หน้าจอจะโชว์ Menu GRC Type 4. กด “NEXT PRMTR” และที่หนา้ จอจะโชว์ Menu PTP # 5. กด “NEXT PRMTR” และทหี่ นา้ จอจะโชว์ Menu ODU 6. กด “NEXT PRMTR” และที่หนา้ จอจะโชว์ Menu TX Level 7. กด “NEXT PRMTR” และทห่ี น้าจอจะโชว์ Menu Interface และสถานะปจั จบุ นั 8. กด “NEXT PRMTR” และที่หน้าจอจะโชว์ Menu TX MDM กด “NEXT” จนหน้าจอโชว์ 16QAM แล้วกด “ENTER” หลงั จากน้ัน เครือ่ ง จะเปลย่ี นไปใชก้ าร Mod แบบ 16QAM ตามรูป

คู่มอื การใช้งาน วทิ ยุถา่ ยทอด GRX-4000E 66 9. กด “NEXT PRMTR” และที่หนา้ จอจะโชว์ Menu TX Bitrate และแสดง Data rate ท่ใี ช้สง่ อยใู่ นปจั จุบนั (52Mb/s) 10. กด “NEXT” และทห่ี น้าจอจะโชว์ 104Mb/s หลังจากน้นั ให้กด “ENTER” หลังกด “ENTER” แล้วเครอื่ งจะปรบั ความเร็วในการส่งขอ้ มลู ไปที่ 104Mb/s ตามรูป 11. กด “NEXT PRMTR” และที่หนา้ จอจะโชว์ Menu RX MDM *ให้ทำเชน่ เดียวกันกับ การต้ัง TX MDM 12. กด “NEXT PRMTR” และทห่ี นา้ จอจะโชว์ Menu RX Bitrate และแสดง Data rate *ใหท้ ำเช่นเดียวกนั กับการต้ัง TX Bitrate 13. กด “RESET” 2 คร้งั เพอื่ กลบั ไปสู่หน้าจอหลัก

คมู่ อื การใชง้ าน วิทยถุ ่ายทอด GRX-4000E 67 ผลจากการกำหนดคา่ ตามตวั อย่างข้างบน จะทำให้ผูใ้ ช้งานที่สถานี “พระลักษณ์” สามารถเล่น Internet ได้ความเรว็ สูงสุดอยู่ท่ี 104Mb/s ตาม Data Rate ของวทิ ยุถ่ายทอด หมายเหตุ 1. การเลอื กความเร็วของการ รบั -สง่ ข้อมลู จะต้องคำนงึ ถงึ แบบของการ Modulation ดว้ ย 2. เมื่อเข้าสู่ Menu TX หรือ RX Bitrate และ เราจะเห็นค่าความเร็วในการส่ง หรือความเร็ว ในการรับทีใ่ ช้อย่แู สดงออกมา และเราอาจจะต้องกดปมุ่ “NEXT” มากกวา่ 1 คร้ัง ถงึ จะเห็น คา่ ของความเร็วทีเ่ ราตอ้ งการ หลังจากน้นั แล้วค่อยกด “ENTER” 3. ในกรณที เี่ ราเลือก Interface เป็น ETH เราสามารถเลอื กความเร็วในการ รบั -สง่ ทีไ่ ม่เทา่ กัน คอื สามารถทำงานแบบ Asymmetric ได้ เชน่ สง่ ที่ 104Mb/s แตร่ ับท่ี 52 Mb/s เปน็ ต้น 4. เมื่อเราเลือกชนิดของ Interface ที่ไม่ใช่ ETH วิทยุถ่ายทอดจะให้เราใส่แค่ LINK BR (Link Bitrate) ความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูล นั่นหมายความว่า ความเร็วทั้งส่งและรับจะเท่ากับท่ี เราไดโ้ ปรแกรมให้นั่นเอง วิทยุถ่ายทอด GRX-4000E สามารถเลือกการ Modulation ได้ทั้งหมด 2 แบบคือ QPSK และ 16QAM สามารถเลือก Data Rate ได้ตั้งแต่ 2Mb/s, 8Mb/s, 34Mb/s, 52Mb/s, และ 104Mb/s, ซ่งึ ทงั้ หมดน้ันจะข้ึนอย่กู ับชนดิ ของการ Modulation ด้วย วิทยุถ่ายทอด GRX-4000E ทำหน้าที่เป็น Link สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอกได้พร้อมกัน ทั้งหมด 3 ชนดิ (Protocol) ประกอบด้วย ITU-T Rec. G.703 (2Mb/s) Eurocom D/1 (512K, 1024K, 2048K) และ Ethernet (2-104Mb/s) โดยเราสามารถเลือกเชื่อมต่อเพียง 1 Protocol, 2 Protocol หรอื 3 Protocol พรอ้ มกันก็ได้ ในกรณีที่เราเลือกมากกว่า 1 Protocol ความเร็วในการรับ-ส่งของ Ethernet protocol จะมคี า่ เท่ากับ ความเรว็ ของ Data rate - (ความเรว็ ของ ITU-T Rec. G.703 (2Mb/s) + ความเร็ว ของ Eurocom D/1) ---------

คู่มือการใชง้ าน วิทยถุ า่ ยทอด GRX-4000E 68 บทที่ 6 การบริหารความถี่ วทิ ยุถ่ายทอด GRX-4000E มคี วามถีใ่ ช้งานตัง้ แต่ 4400 MHz. ถึง 5000 MHz. รวม 600 MHz. และมีระยะหา่ งระหว่างชอ่ ง 1 MHz. ดงั น้ันเม่ือนับรวมความถี่จะคำนวนได้ทง้ั หมด 600 ความถี่ แบง่ เปน็ 4 Band ประกอบด้วย Band A ความถ่ีต้ังแต่ 4400 MHz. – 4550 MHz. : 150 MHz. Band B ความถต่ี ง้ั แต่ 4700 MHz. – 4850 MHz. : 150 MHz. Band C ความถ่ตี งั้ แต่ 4550 MHz. – 4700 MHz. : 150 MHz. Band D ความถ่ตี งั้ แต่ 4850 MHz. – 5000 MHz. : 150 MHz. เราสามารถเลอื กชนดิ ของการ Modulation ได้ 2 แบบ คอื QPSK และ 16QAM และสามารถ เลือก Data rate ไดด้ ังน้ี 2, 8, 34, 52 และ 104 MHz. รายละเอยี ดตามตารางดา้ นล่าง Modulation Type Data Rate (Mb/s) Guard Band Requirement (MHz.) QPSK 2 2 QPSK 8 4 QPSK 34 12 16QAM 2 2 16QAM 8 3 16QAM 34 7 16QAM 52 9 16QAM 104 9

คู่มือการใชง้ าน วทิ ยถุ า่ ยทอด GRX-4000E 69 จากตารางจะเห็นอีกประการก็คือ เมื่อเราเลือกการ Modulation และ Data Rate เป็นอะไร จะต้องมี Guard Band เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราเลือกการ Modulation เป็น QPSK และ Data Rate เป็น 34 Mb/s ซึ่งการเลือกแบบนี้ จำเป็นจะต้องมี Guard Band อยู่ที่ 12 MHz. ดังนั้นแต่ละ Band จะมีความถ่ี ท่ีสามารถเลือกไดแ้ ค่ 126 ความถ่ี (126 MHz.) ตามน้ี Band A ความถี่ต้งั แต่ 4412 MHz. – 4538 MHz. เลือกได้ 126 MHz. Band B ความถี่ตั้งแต่ 4712 MHz. – 4838 MHz. เลอื กได้ 126 MHz. Band C ความถี่ตง้ั แต่ 4562 MHz. – 4688 MHz. เลอื กได้ 126 MHz. Band D ความถ่ตี ง้ั แต่ 4862 MHz. – 4988 MHz. เลือกได้ 126 MHz. อีกตัวอย่างเช่น เราเลือกการ Modulation เป็น 16QAM และ Data Rate เป็น 104 Mb/s ซึ่งการเลือกแบบนี้ จำเป็นจะต้องมี Guard Band อยู่ที่ 9 MHz. ดังนั้นแต่ละ Band จะมีความถี่ ที่สามารถเลอื กใช้งานได้แค่ 132 ความถี่ (132 MHz.) Band A ความถ่ีตง้ั แต่ 4409 MHz. – 4541 MHz. เลือกได้ 132 MHz. Band B ความถต่ี งั้ แต่ 4709 MHz. – 4841 MHz. เลอื กได้ 132 MHz. Band C ความถต่ี ั้งแต่ 4559 MHz. – 4691 MHz. เลอื กได้ 132 MHz. Band D ความถ่ตี ั้งแต่ 4859 MHz. – 4991 MHz. เลอื กได้ 132 MHz. ดังนั้นการเลือกความถี่เพื่อนำมาใช้งานนั้นเราจะต้องทราบก่อนว่า ในการติดตั้งใช้งาน เราจะเลือกการ Modulation และ Data Rate เป็นอะไร เราถึงจะเลือกความถี่ใช้งานได้ถูกต้อง ซึ่งถ้า หากความถที่ ่เี ราวางแผนไวไ้ ม่เปน็ ไปตามน้ี เราจะไมส่ ามารถโปรแกรมความถ่ใี ห้กบั เครอ่ื งได้ วิทยุถ่ายทอด GRX-4000E เป็นแบบ Point to Point ทำงานในแบบ Full Duplex ใช้ 2 ความถีใ่ นเวลาเดียวกนั 1 ความถ่ีสำหรบั ใช้เป็นความถี่รบั และอกี 1 ความถีส่ ำหรับใช้เป็นความถส่ี ่ง

คู่มือการใช้งาน วทิ ยถุ ่ายทอด GRX-4000E 70 ข้อกำหนดอีกประการของวทิ ยุถ่ายทอดรุน่ นี้ก็คือ ถ้าวิทยุใช้ความถีใ่ น Band A เป็นความถี่สง่ ความถี่รับจะต้องอยู่ใน Band B หรือถ้าวิทยุใช้ความถี่ใน Band B เป็นความถี่ส่ง ความถี่สำหรับรับก็ จะตอ้ งอยู่ใน Band A เทา่ น้ัน ถ้าวิทยุตัวใดๆ ใช้ความถี่ใน Band C เป็นความถี่ส่ง ความถี่รับจะต้องอยู่ใน Band D หรือ ในทางกลับกนั เท่านน้ั และจะเอาความถี่ Band A เพอ่ื ติดตอ่ กบั Band C หรอื Band D ไมไ่ ด้ สรุปว่า ความถี่ใน Band A ต้องคู่กับความถี่ใน Band B และความถี่ใน Band C ต้องคู่กับ ความถใี่ น Band D เท่านนั้ ส่วนจะใชค้ วามถ่ีอะไรได้บ้าง ใหค้ ำนงึ ถึงชนดิ ของการ Modulation, Guard band และ Data Rate ท่ีใชค้ วบคู่กันเสมอ ผิดเง่ือนไขขอ้ ใดไมไ่ ด้ จากตัวอย่างข้างต้น ถา้ เราตอ้ งการนำวิทยุถา่ ยทอด จำนวน 2 เครอ่ื งมาใช้งาน โดยมีข้อกำหนด ว่าต้องการ Data Rate ที่ 52 Mb/s ดังนั้นการ Modulation ต้องเป็น 16QAM เนื่องจากการ Mod แบบ QPSK ไมร่ องรบั ท่คี วามเรว็ นี้ จากเงื่อนไขและพิจารณาท่ี Guard band 9 MHz. ดังนั้น ถ้าเราเลือก Band A และ Band B ในการใชง้ าน ความถี่ท่ีใช้ไดจ้ ะเปน็ ดงั นี้ Band A ความถตี่ ง้ั แต่ 4409 MHz. – 4541 MHz. เลือกได้ 132 MHz. Band B ความถต่ี ัง้ แต่ 4709 MHz. – 4841 MHz. เลือกได้ 132 MHz.

คู่มอื การใชง้ าน วทิ ยุถ่ายทอด GRX-4000E 71 เช่น ตวั อยา่ งน้ีใช้ความถ่แี รกที่ใช้ได้ของทง้ั Band A และ Band B TX = 4409 MHz. RX = 4409 MHz. RX = 4709 MHz. TX = 4709 MHz. เมือ่ นำเอาความถี่ทีเ่ ลอื กไปเขียนไว้ในแผนผังวิทยุถ่ายทอด จะได้ตามรปู

คู่มอื การใชง้ าน วทิ ยุถ่ายทอด GRX-4000E 72 ตัวอย่างน้ีใชค้ วามถ่ีสุดทา้ ยทใี่ ช้ไดข้ องท้งั Band A และ Band B TX = 4841 MHz. RX = 4841 MHz. RX = 4541 MHz. TX = 4541 MHz. เมื่อนำเอาความถี่ทเ่ี ลือกไปเขียนไวใ้ นแผนผังวิทยุถ่ายทอด จะได้ตามรปู

คู่มอื การใชง้ าน วิทยุถ่ายทอด GRX-4000E 73 และถ้าเราเลอื ก Band C และ Band D ในการใช้งาน ความถ่ที ีใ่ ชไ้ ด้จะเป็นดงั นี้ Band C ความถต่ี ัง้ แต่ 4559 MHz. – 4691 MHz. เลอื กได้ 132 MHz. Band D ความถี่ตั้งแต่ 4859 MHz. – 4991 MHz. เลือกได้ 132 MHz. เชน่ ตวั อย่างน้ีใช้ความถแ่ี รกทใี่ ช้ได้ของทง้ั Band C และ Band D TX = 4559 MHz. RX = 4559 MHz. RX = 4859 MHz. TX = 4859 MHz. เมอ่ื นำเอาความถีท่ ี่เลอื กไปเขียนไว้ในแผนผงั วิทยุถา่ ยทอด จะไดต้ ามรูป

คู่มือการใช้งาน วทิ ยุถ่ายทอด GRX-4000E 74 ตัวอย่างน้ีใชค้ วามถ่ีสุดทา้ ยทใี่ ช้ไดข้ องท้งั Band C และ Band D TX = 4691 MHz. RX = 4691 MHz. RX = 4991 MHz. TX = 4991 MHz. เมื่อนำเอาความถี่ทเ่ี ลือกไปเขียนไวใ้ นแผนผังวิทยุถา่ ยทอด จะได้ตามรปู

คู่มอื การใชง้ าน วทิ ยถุ า่ ยทอด GRX-4000E 75 จากแผนผงั ข้างตน้ ถ้าเราต้องการนำวทิ ยุถา่ ยทอด จำนวน 2 เคร่ืองมาใชง้ าน โดยมีข้อกำหนด ว่าต้องการ Data Rate ที่ 8 Mb/s ดังนั้นการ Modulation เราสามารถเลือกได้ทั้ง 16QAM และแบบ QPSK ในตวั อยา่ งน้ีจะเลอื ก QPSK จากเงื่อนไขและพิจารณาท่ี Guard band 4 MHz. ดังนั้น ถ้าเราเลือก Band A และ Band B ในการใช้งานครัง้ นี้ ความถท่ี ่ีใช้ได้จะเปน็ ดังน้ี Band A ความถ่ีตงั้ แต่ 4404 MHz. – 4546 MHz. เลือกได้ 142 MHz. Band B ความถี่ต้งั แต่ 4704 MHz. – 4846 MHz. เลือกได้ 142 MHz.

คู่มอื การใชง้ าน วทิ ยุถ่ายทอด GRX-4000E 76 เช่น ตวั อยา่ งน้ีใช้ความถ่แี รกที่ใช้ได้ของทง้ั Band A และ Band B TX = 4404 MHz. RX = 4404 MHz. RX = 4704 MHz. TX = 4704 MHz. เมือ่ นำเอาความถี่ทีเ่ ลอื กไปเขียนไว้ในแผนผังวิทยุถ่ายทอด จะได้ตามรปู

คู่มอื การใชง้ าน วทิ ยุถ่ายทอด GRX-4000E 77 ตัวอย่างน้ีใชค้ วามถ่ีสุดทา้ ยทใี่ ช้ไดข้ องท้งั Band A และ Band B TX = 4846 MHz. RX = 4846 MHz. RX = 4546 MHz. TX = 4546 MHz. เมื่อนำเอาความถี่ทเ่ี ลือกไปเขียนไวใ้ นแผนผังวิทยุถ่ายทอด จะได้ตามรปู

คู่มอื การใชง้ าน วทิ ยุถ่ายทอด GRX-4000E 78 และถา้ เราเลือก Band C และ Band D ในการใชง้ านครั้งนี้ ความถี่ท่ีใชไ้ ดจ้ ะเปน็ ดงั น้ี Band C ความถต่ี ง้ั แต่ 4554 MHz. – 4696 MHz. เลือกได้ 142 MHz. Band D ความถี่ต้ังแต่ 4854 MHz. – 4996 MHz. เลอื กได้ 142 MHz. เช่น ตัวอย่างนใี้ ชค้ วามถี่แรกทีใ่ ช้ได้ของทัง้ Band C และ Band D TX = 4554 MHz. RX = 4554 MHz. RX = 4854 MHz. TX = 4854 MHz. เมอ่ื นำเอาความถีท่ ่ีเลอื กไปเขียนไว้ในแผนผงั วิทยถุ า่ ยทอด จะได้ตามรูป

คูม่ อื การใช้งาน วทิ ยถุ า่ ยทอด GRX-4000E 79 ตวั อยา่ งน้ีใช้ความถสี่ ดุ ท้ายท่ีใชไ้ ดข้ องท้ัง Band C และ Band D TX = 4696 MHz. RX = 4696 MHz. RX = 4996 MHz. TX = 4996 MHz. เม่อื นำเอาความถ่ที ่ีเลือกไปเขยี นไวใ้ นแผนผงั วิทยถุ า่ ยทอด จะได้ตามรูป

คมู่ อื การใช้งาน วทิ ยุถ่ายทอด GRX-4000E 80 ในการใชง้ านจริงน้นั วิทยถุ ่ายทอดไมไ่ ด้ใช้งานเพียงแค่ 2 เครอื่ ง แต่ทำงานเป็นระบบ จะมีวิทยุ ถ่ายทอดมากกว่า 2 เครื่อง ที่ใช้งานพร้อมกัน ดังนั้นการเลือกใช้งานความถี่ก็จะต้องพิจารณา ใหร้ อบคอบมากยิง่ ขึ้น ตวั อยา่ งนี้ มวี ิทยถุ า่ ยทอดทำงานพร้อมกันเปน็ ระบบจำนวน 4 เคร่อื ง ตอ้ งการความเร็วในการ รับ-ส่ง ที่ 8 Mb/s และใช้การ Modulation แบบ QPSK และในตัวอย่างนี้ เราจะพิจารณาใช้ความถ่ี ใน Band A และ Band B ใช้งาน เมื่อพิจารณาที่ Guard band 4 MHz. ดังนั้น ความถี่ที่ใช้ได้จะเป็น ดงั นี้ Band A ความถต่ี ั้งแต่ 4404 MHz. – 4546 MHz. เลือกได้ 142 MHz. Band B ความถ่ตี ั้งแต่ 4704 MHz. – 4846 MHz. เลอื กได้ 142 MHz. พระราม พระลกั ษณ์ พระอิศวร พระนารายณ์ TX : 4404 RX : 4404 TX : 4412 RX : 4412 RX : 4704 TX : 4704 RX : 4712 TX : 4712 ผังการใชค้ วามถข่ี องวทิ ยถุ ่ายทอดท้งั ระบบ จำนวน 4 เครื่อง

คู่มอื การใช้งาน วทิ ยถุ า่ ยทอด GRX-4000E 81 ตัวอย่างนี้ มวี ิทยถุ ่ายทอดทำงานพร้อมกนั เป็นระบบจำนวน 4 เครอื่ ง ต้องการความเร็วในการ รับ-สง่ ที่ 52 Mb/s และใช้การ Modulation แบบ 16QAM และในตัวอยา่ งน้ี เราจะพจิ ารณาใช้ความถ่ี ใน Band A และ Band B ใช้งาน เมื่อพิจารณาที่ Guard band 9 MHz. ดังนั้น ความถี่ที่ใช้ได้จะเป็น ดงั น้ี Band A ความถต่ี ั้งแต่ 4409 MHz. – 4541 MHz. เลอื กได้ 132 MHz. Band B ความถต่ี ้งั แต่ 4709 MHz. – 4841 MHz. เลอื กได้ 132 MHz. พระราม พระลักษณ์ พระอศิ วร พระนารายณ์ TX : 4409 RX : 4409 TX : 4427 RX : 4427 RX : 4709 TX : 4709 RX : 4727 TX : 4727 ผังการใช้ความถขี่ องวทิ ยถุ า่ ยทอดทั้งระบบ จำนวน 4 เครื่อง เมื่อวิทยุถ่ายทอดทำงานเพียง 1 คู่ การพิจารณาความถี่ที่จะนำมาใช้งาน ก็พิจารณาเพียงแค่ ชนิดของ Modulation เรื่องของ Data rate และ Guard band ของคู่ตัวเอง แต่เมื่อวิทยุถ่ายทอดต้อง ทำงานพร้อมกันเป็นระบบมากกว่า 2 เครื่องขึ้นไป จะต้องคิดถึงเรื่องของ Guard band ของวิทยุ ถ่ายทอดคู่อนื่ ๆ ดว้ ย ทง้ั นี้เพือ่ ปอ้ งกนั ปัญหาการรบกวนกันน่นั เอง

คมู่ อื การใช้งาน วทิ ยถุ า่ ยทอด GRX-4000E 82 จากตวั อยา่ งข้างตน้ สถานี “พระราม” จะต้องติดตอ่ กบั อีก 5 สถานี ซึง่ ท่สี ถานพี ระรามจะต้อง มีวิทยุถ่ายทอดติดตั้งจริงพร้อมกันจำนวน 5 เครื่อง เมื่อรวมทั้งระบบแล้วจะมีวิทยุถ่ายทอดจำนวน 10 เครื่องและใช้ความถี่ไปจำนวน 5 คู่ ความถี่สุดท้ายที่ใช้ไปก็คือ 4520MHz. และ 4820MHz. และถ้าดู ความถี่สุดท้ายของ Band A จะอยู่ที่ 4550MHz. และ Band B จะอยู่ที่ 4850MHz. ดังนั้น จะเหลือ ความถ่ีใหใ้ ช้งานไดอ้ กี เพยี ง 1 คเู่ ทา่ นั้น ใน Band A และ Band B

คมู่ อื การใชง้ าน วทิ ยุถา่ ยทอด GRX-4000E 83 ในภาพรวมวิทยุถ่ายทอด GRX-4000E สามารถตั้งความถี่ใช้งานได้ตั้งแต่ 4402MHz. ถึง 4998MHz. เทา่ นน้ั ท้งั น้ีขน้ึ อย่กู ับชนดิ ของการ Modulation และ Data Rate เน่อื งจากตอ้ งเผอ่ื Guard Band ด้วย ถ้าหากคิดที่ Guard Band ต่ำสุดที่ 2 MHz. วิทยุถ่ายทอด GRX-4000E สามารถตั้งความถ่ี ใช้งานได้ดังนี้ Band A ความถ่ตี ง้ั แต่ 4402 MHz. – 4548 MHz. : 146 MHz. Band B ความถ่ีตั้งแต่ 4702 MHz. – 4848 MHz. : 146 MHz. Band C ความถี่ตง้ั แต่ 4552 MHz. – 4698 MHz. : 146 MHz. Band D ความถี่ตั้งแต่ 4852 MHz. – 4998 MHz. : 146 MHz. และเม่ือตอ้ งทำงานเป็นระบบ เราจะเหลอื ความถ่ใี ชง้ านแค่ Band ละ 37 ความถี่เท่านน้ั ถ้าหากคิดที่ Guard Band สูงสุดที่ 12 MHz. วิทยุถ่ายทอด GRX-4000E สามารถตั้งความถ่ี ใช้งานได้ดงั น้ี Band A ความถ่ีตั้งแต่ 4412 MHz. – 4538 MHz. เลือกได้ 126 MHz. Band B ความถต่ี ง้ั แต่ 4712 MHz. – 4838 MHz. เลือกได้ 126 MHz. Band C ความถ่ีตั้งแต่ 4562 MHz. – 4688 MHz. เลือกได้ 126 MHz. Band D ความถต่ี ้ังแต่ 4862 MHz. – 4988 MHz. เลือกได้ 126 MHz. และเมือ่ ตอ้ งทำงานเปน็ ระบบ เราจะเหลือความถใ่ี ชง้ านแค่ Band ละ 6 ความถี่เทา่ นนั้ ซ่งึ มีให้ ใชน้ อ้ ยมาก เนือ่ งจากขอ้ จำกดั ของเคร่ือง เร่ืองระยะห่างระหวา่ งช่อง (Channel spacing) อยู่ที่ 1 MHz. นัน่ เอง ---------

คู่มอื การใช้งาน วทิ ยถุ ่ายทอด GRX-4000E 84 บทที่ 7 IP Address IP Address คืออะไร IP Address ย่อมาจาก Internet Protocal Address คือหมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ แตล่ ะเครือ่ งในระบบเครอื ข่ายท่ใี ช้โปรโตคอลแบบ TCP/IP ถา้ เปรยี บเทียบก็คอื บ้านเลขทีข่ องเคร่ืองคอม แต่ละเครื่องนั่นเอง ในระบบเครือข่ายจำเป็นจะต้องมีหมายเลข IP กำหนดไว้ให้กับคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่ต้องการ IP ทุกตัว ทั้งนี้เวลามีการโอนย้ายข้อมูล หรือสั่งงานใดๆ จะได้ไม่ผิดพลาด เวลาส่งข้อมูล ซึ่งประกอบด้วยตัวเลข 4 ชุด มีเครื่องหมายจุดขั้นระหว่างชุด เช่น 192.168.100.1 หรือ 172.16.10.1 เป็นต้น โดยหมายเลข IP Address ของเครื่องคอมพิวเตอร์ แต่ละเครื่องและอุปกรณ์อืน่ ๆ ในระบบจะต้องมคี า่ ไมซ่ ้ำกนั IP Address มีความจำเปน็ อยา่ งไรเก่ยี วกับวิทยถุ า่ ยทอด วิทยุถ่ายทอดเป็นอุปกรณ์หนึ่งที่ทำงานเป็นเครือข่ายที่ใช้โปรโตคอลแบบ TCP/IP ดังน้ัน จงึ มีความจำเป็นทีจ่ ะตอ้ งกำหนดหมายเลข IP Address ให้ IP Address ในวทิ ยุถา่ ยทอด GRX-4000E มีอะไรบ้าง หลักๆ แล้ววิทยถุ ่ายทอด GRX-4000E ในแต่ละเครอ่ื งจะมี IP Address เขา้ มาเกย่ี วขอ้ งจำนวน 3 IP Address แตท่ ี่ตอ้ งกำหนดให้กับเครือ่ งมี RF IP Address และ MNGMT IP Address 1. RF IP Address 2. Remote IP Address 3. MNGMT IP Address (Management IP Address) ❖ RF IP หมายเลข RF IP Address นน้ั มีไวเ้ พ่อื ให้วิทยุถา่ ยทอดรวู้ า่ บ้านเลขทขี่ องตนเองคืออะไร และ ในขณะเดยี วกันนั้น จะเปน็ การกำหนดบ้านเลขที่ของค่สู ถานีด้วย การทำงานของวิทยุถ่ายทอดในแบบ Point to Point วิทยุถ่ายทอดจะทำงานเป็นคู่ การกำหนดหมายเลข RF IP Address ก็จะพิจารณาเป็นคู่ๆ ไป และจะต้องพิจารณาให้ครบทุกคู่ เมือ่ วิทยุถา่ ยทอดทำงานร่วมกันเป็นระบบ

คมู่ อื การใช้งาน วทิ ยถุ า่ ยทอด GRX-4000E 85 จากรูปด้านบน จะเห็นว่ามีวิทยุถ่ายทอดอยู่ 2 เครื่อง คือเครื่องที่มีนามเรียกขานว่า “พระราม” และ “พระลักษณ์” ที่เครื่อง “พระราม” เมื่อกำหนดหมายเลข RF IP Address ให้เป็น 192.168.0.1 ดังนั้น ที่เครื่อง “พระลักษณ์” ก็ต้องกำหนดหมายเลขให้เป็น 192.168.0.2 เท่านั้น ถึงจะเป็นไปตามเงอื่ นไข ถา้ ท่ีเคร่อื ง “พระราม” กำหนดหมายเลข RF IP Address ให้เป็น 192.168.0.1 และ “พระลักษณ์” กำหนดหมายเลขให้เป็น 192.168.0.3 ถึงแม้ 192.168.0.1 และ 192.168.0.3 จะอยู่ใน Class เดียวก็ตาม แต่จะผิดเงื่อนไข ซึ่งเงื่อนไขก็คือ X.X.X.1 ต้องคู่กับ X.X.X.2, X.X.X.3 ตอ้ งค่กู ับ X.X.X.4 และเป็นแบบนี้ไปเร่ือยๆ จนสุดท้ายทีก่ ำหนดไดค้ ือ X.X.X.98 จากรูปด้านบน จะเห็นว่ามีวิทยุถ่ายทอดเพิ่มเข้ามาในระบบอีก 2 เครื่อง คือเครื่อง “พระอิศวร” และ “พระนารายณ์” การพิจารณาหมายเลข RF IP Address ก็พิจารณาต่อในคู่น้ี และ จะต้องไม่ซ้ำกับหมายเลข RF IP Address ที่มีอยู่แล้วในระบบ จากตัวอย่าง “พระอิศวร” มีหมายเลข เปน็ 192.168.0.3 และ “พระนารายณ์” หมายเลขเป็น 192.168.0.4 ซง่ึ ทัง้ หมดนัน้ เปน็ ไปตามเงอ่ื นไข สำหรบั วทิ ยุถ่ายทอด GRX-4000E น้นั มีการแบง่ กลุ่มหมายเลข IP Address ในรูปแบบดงั นี้ A . B . C . D / 192.168.0.1 A เรียกว่า Net A คือ 192 168 B เรียกวา่ Net B คอื 0 1 C เรียกวา่ Link คือ D เรยี กว่า PTP # คือ

ค่มู ือการใชง้ าน วทิ ยุถ่ายทอด GRX-4000E 86 เมอื่ เขยี นในรปู แบบใหมต่ าม Menu การต้งั ค่าของวิทยถุ า่ ยทอด GRX-4000E จะไดด้ งั นี้ Net A . Net B . Link #. PTP # ตัวเลขทเ่ี ปน็ ไปไดค้ ือ Net A = 1 ถงึ 255 Net B = 0 ถึง 255 Link = 0 ถงึ 255 PTP # = 1 ถึง 98 วิทยุถ่ายทอด จะมีค่า RF IP Address ติดมาด้วยทุกเครื่อง และหมายเลข RF IP Address ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความต้องการของผู้ใช้งาน ซึ่งต้องเป็นไปตามแผนผังวิทยุถ่ายทอด ทไ่ี ดว้ างแผนไว้แล้ว และเราสามารถตรวจสอบหมายเลข RF IP Address ของเคร่อื งวิทยุถา่ ยทอดไดด้ งั นี้ จาก Keypad หน้าเครื่อง 1. ให้กดปุ่ม ““STAT”” และทห่ี นา้ จอจะขน้ึ Menu System Parameter 2. กด “ENTER” และทหี่ นา้ จอจะโชวส์ ถานะความถ่สี ง่ และรบั ทใี่ ชอ้ ยู่ 3. กด Next Parameter (“NEXT PRMTR”) และทีห่ น้าจอจะโชวส์ ถานะ TX Level และ AFC 4. กด “NEXT PRMTR” และท่ีหน้าจอจะโชว์สถานะ GRC Type / ODU 5. กด “NEXT PRMTR” และที่หน้าจอจะโชว์สถานะ TX Modulation type และ TX Bitrate 6. กด “NEXT PRMTR” และที่หน้าจอจะโชว์สถานะ RX Modulation type และ RX Bitrate 7. กด “NEXT PRMTR” และที่หนา้ จอจะโชว์สถานะ Interface และ Emergency 8. กด “NEXT PRMTR” และทหี่ น้าจอจะโชว์สถานะ Call ID

คูม่ ือการใช้งาน วิทยุถา่ ยทอด GRX-4000E 87 9. กด “NEXT PRMTR” และทห่ี น้าจอจะโชว์สถานะ Local IP (Local IP คือ RF IP) จากข้างต้นจะทำให้เราทราบถึง Local IP Address หรือ RF IP Address ของเครื่องวิทยุ ถ่ายทอด คือ 192.168.10.99 ในกรณีที่หมายเลข RF IP Address ของเครื่องไม่ตรงตามแผน เราสามารถเขา้ ไปเปล่ยี นแปลงหมายเลขได้ จากแผนผังวิทยถุ ่ายทอดข้างต้น จะเห็นว่าวิทยุถ่ายทอด “พระราม” กำหนดให้มีหมายเลข RF IP Address เป็น 192.168.0.1 และ “พระลักษณ์” กำหนดให้มีหมายเลข RF IP Address เป็น 192.168.0.2 เราสามารถเข้าไปเปลีย่ นหมายเลข RF IP Address ให้กบั วทิ ยุถา่ ยทอดทง้ั สองเครื่องดงั นี้ วทิ ยถุ ่ายทอดเครอ่ื ง “พระราม” จาก Keypad หน้าเครื่อง

คู่มือการใช้งาน วิทยุถ่ายทอด GRX-4000E 88 1. กด “SETUP” และท่ีหนา้ จอจะโชว์ Menu TX Frequency 2. กด “NEXT PRMTR” และที่หน้าจอจะโชว์ Menu RX Frequency 3. กด “NEXT PRMTR” และทห่ี น้าจอจะโชว์ Menu GRC Type 4. กด “NEXT PRMTR” และทีห่ น้าจอจะโชว์ Menu PTP NUMBER ในตัวอย่างนี้ ค่าเดิมคือ 05 เราต้องเปลี่ยนให้เป็น 01 ตามตัวอย่าง (192.168.0.1) ดังนั้นให้กดเลข “1” แล้วกด “ENTER” ค่าของ PTP # ก็จะ เปลี่ยนไปเป็น 01 ตามรูป 5. กด “NEXT PRMTR” และที่หน้าจอจะโชว์ Menu ODU 6. กด “NEXT PRMTR” และทหี่ น้าจอจะโชว์ Menu TX Level 7. กด “NEXT PRMTR” และที่หน้าจอจะโชว์ Menu Interface 8. กด “NEXT PRMTR” และที่หน้าจอจะโชว์ Menu TX Modulation 9. กด “NEXT PRMTR” และท่ีหน้าจอจะโชว์ Menu TX Bitrate 10. กด “NEXT PRMTR” และทหี่ นา้ จอจะโชว์ Menu RX Modulation 11. กด “NEXT PRMTR” และที่หน้าจอจะโชว์ Menu RX Bitrate 12. กด “NEXT PRMTR” และท่ีหน้าจอจะโชว์ Menu RF IP 12.1 กด “ENTER” และเคร่ืองจะแสดงค่าเดิมของ Link # (99) ให้กดเลข “0” (คา่ ใหม่) แล้วกด “ENTER”

ค่มู อื การใชง้ าน วทิ ยถุ า่ ยทอด GRX-4000E 89 Net A . Net B . Link #. PTP Number 192.168.0.1 หลงั กด “ENTER” ค่าของ LINK ก็จะเปลยี่ นไปเปน็ 00 ตามรูป 12.2 กด “NEXT PRMTR” และเครือ่ งจะแสดงค่าเดิมของ Net B (168) ให้กดเลข “1”, “6”, “8” (ค่าใหม่) แลว้ กด “ENTER” หลังกด “ENTER” คา่ ของ Net B กจ็ ะเปล่ยี นไปเปน็ 168 ตามรูป

คูม่ ือการใชง้ าน วิทยถุ ่ายทอด GRX-4000E 90 12.3 กด “NEXT PRMTR” และเครอื่ งจะแสดงค่าเดิมของ Net A (192) ใหก้ ดเลข “1”, “9”, “2” (ค่าใหม่) แลว้ กด “ENTER” หลังกด “ENTER” ค่าของ Net A ก็จะเปลย่ี นไปเปน็ 192 ตามรูป 12.4 กด “NEXT PRMTR” เครอ่ื งจะแสดงคา่ Local IP ท้ังหมดในภาพรวม Net A . Net B . Link . PTP Number 192 . 168 . 0 . 1 ตามรูป

คู่มือการใช้งาน วทิ ยถุ า่ ยทอด GRX-4000E 91 12.5 ถ้าเรากด “NEXT PRMTR” เครือ่ งจะแสดงคา่ ของ Remote IP ซึ่งคา่ นจี้ ะเกิด ข้ึนมาเองตามเงอื่ นไขหมายเลข RF IP Address และเราไมส่ ามารถตั้งค่าได้ จากข้างต้น เครื่องวิทยุถ่ายทอดกำหนดค่า RF IP Address เป็น 192.168.0.1 ดังนั้น หมายเลข Remote IP จะเป็น 192.168.0.2 อัตโนมัติ ซึ่งนัน่ หมายความว่าวิทยถุ ่ายทอดเคร่ืองคู่สถานี ตอ้ งมี RF IP Address เป็น 192.168.0.2 เท่าน้ัน 13. กด “RESET” 1 ครั้ง หน้าจอจะกลบั ไปข้อ 10 (Menu RF IP) 14. กด “RESET” หลายๆ คร้งั เพื่อกลับสหู่ น้าจอหลกั วทิ ยุถ่ายทอดเครือ่ ง “พระลักษณ”์ จาก Keypad หนา้ เครือ่ ง 1. กด “SETUP” และท่หี น้าจอจะโชว์ Menu TX Frequency 2. กด “NEXT PRMTR” และที่หนา้ จอจะโชว์ Menu RX Frequency 3. กด “NEXT PRMTR” และที่หน้าจอจะโชว์ Menu GRC Type 4. กด “NEXT PRMTR” และท่หี นา้ จอจะโชว์ Menu PTP NUMBER

คูม่ อื การใช้งาน วทิ ยุถา่ ยทอด GRX-4000E 92 ในตัวอย่างนี้ ค่าเดิมคือ 05 เราต้องเปลี่ยนให้เป็น 02 ตามตัวอย่าง (192.168.0.2) ดังนั้นให้กดเลข “2” แล้วกด “ENTER” ค่าของ PTP # ก็จะ เปลี่ยนไปเปน็ 02 ตามรูป 5. กด “NEXT PRMTR” และทห่ี น้าจอจะโชว์ Menu ODU 6. กด “NEXT PRMTR” และท่หี นา้ จอจะโชว์ Menu TX Level 7. กด “NEXT PRMTR” และทห่ี น้าจอจะโชว์ Menu Interface 8. กด “NEXT PRMTR” และที่หนา้ จอจะโชว์ Menu TX Modulation 9. กด “NEXT PRMTR” และที่หนา้ จอจะโชว์ Menu TX Bitrate 10. กด “NEXT PRMTR” และที่หนา้ จอจะโชว์ Menu RX Modulation 11. กด “NEXT PRMTR” และทหี่ น้าจอจะโชว์ Menu RX Bitrate 12. กด “NEXT PRMTR” และทห่ี น้าจอจะโชว์ Menu RF IP ตามรูป

คู่มอื การใช้งาน วทิ ยุถ่ายทอด GRX-4000E 93 12.1 กด “ENTER” และเครอ่ื งจะแสดงค่าเดิมของ Link # (99) ใหก้ ดเลข “0” (ค่าใหม่) แล้วกด “ENTER” Net A . Net B . Link #. PTP Number 192.168.0.2 หลังกด “ENTER” ค่าของ LINK กจ็ ะเปลีย่ นไปเป็น 00 ตามรูป 12.2 กด “NEXT PRMTR” และเคร่อื งจะแสดงค่าเดิมของ Net B (168) ให้กดเลข “1”, “6”, “8” (ค่าใหม)่ แลว้ กด “ENTER” หลงั กด “ENTER” คา่ ของ Net B ก็จะเปล่ยี นไปเป็น 168 ตามรูป

คูม่ ือการใชง้ าน วิทยถุ ่ายทอด GRX-4000E 94 12.3 กด “NEXT PRMTR” และเครอื่ งจะแสดงค่าเดิมของ Net A (192) ใหก้ ดเลข “1”, “9”, “2” (ค่าใหม่) แลว้ กด “ENTER” หลังกด “ENTER” ค่าของ Net A ก็จะเปลย่ี นไปเปน็ 192 ตามรูป 12.4 กด “NEXT PRMTR” เครอ่ื งจะแสดงคา่ Local IP ท้ังหมดในภาพรวม Net A . Net B . Link . PTP Number 192 . 168 . 0 . 2 ตามรูป

คู่มือการใช้งาน วทิ ยุถ่ายทอด GRX-4000E 95 12.5 ถ้าเรากด “NEXT PRMTR” เคร่ืองจะแสดงคา่ ของ Remote IP ซ่ึงคา่ น้ีจะเกดิ ขึ้นมาเองตามเง่ือนไขหมายเลข RF IP Address และเราไม่สามารถต้ังค่าได้ 13. หลงั จากน้นั ให้ปฏิบัติตามการปฏบิ ตั ทิ ีเ่ ครอื่ ง “พระราม” เครื่องพระราม เคร่อื งพระลักษณ์

ค่มู อื การใช้งาน วทิ ยุถา่ ยทอด GRX-4000E 96 ❖ Remote IP Remote IP คือ หมายเลข IP Address ที่ระบบกำหนดให้เองอัตโนมัติ โดยดูจากหมายเลข RF IP ของเคร่อื ง หมายเลข Remote IP ไม่สามารถที่จะต้ังคา่ ได้ ยกตัวอย่างเช่น ถ้า RF IP ของเราเป็น 192.168.0.1 ดังนั้น Remote IP จะถูกกำหนดให้เป็น 192.168.0.2 ส่วนวิทยุถ่ายทอดคู่สถานี จะต้อง กำหนดหมายเลข RF IP ใหเ้ ป็น 192.168.0.2 และ Remote IP จะเปน็ 192.168.0.1 เทา่ นน้ั หมายเลข Remote IP จะมีไว้เพื่อตรวจสอบซึ่งกันและกันระหว่างคู่สถานี ถึงแม้ว่าวิทยุ ถ่ายทอดคู่ดังกล่าวจะตั้งความถี่ รับ-ส่ง เป็นไปตามเงื่อนไข สามารถสื่อสารกันได้ แต่การส่งผ่านข้อมูล จะมีปัญหา และเครื่องวิทยุถ่ายทอดจะ Alarm ถ้าวิทยุคู่ดังกล่าวได้ตรวจสอบ RF IP ของคู่สถานีแล้ว มีหมายเลขไมต่ รงกับ Remote IP ของตนเอง ตัวอย่างความสัมพนั ธ์ระหวา่ ง RF IP กบั Remote IP ** วทิ ยถุ า่ ยทอดเคร่ืองที่ หมายเลข RF IP หมายเลข Remote IP 1 192.168.0.1 192.168.0.2 2 192.168.0.2 192.168.0.1 3 192.168.0.3 192.168.0.4 4 192.168.0.4 192.168.0.3 5 192.168.0.5 192.168.0.6 6 192.168.0.6 192.168.0.5 n .. .. 98 192.168.0.98 192.168.0.97 ** เฉพาะ Point to Point Mode เท่านั้น จากภาพด้านบนจะเห็นได้ว่ามีวิทยุถ่ายทอดทำงานอยู่ 2 คู่ คือ คู่ของ “พระราม” กับ “พระลักษณ์” และคู่ของ “พระอิศวร” กับ “พระนารายณ์” ซึ่งเมื่อพิจารณาถึงหมายเลข RF IP และ Remote IP จะสมั พันธก์ นั ประเด็นสำคัญอยู่ท่ีการกำหนดหมายเลข RF IP ให้กบั แตล่ ะคู่ จะต้องกำหนดให้ถูกต้อง และเป็นไปตามเง่อื นไข สว่ นหมายเลข Remote IP น้นั ระบบจะเป็นผูก้ ำหนดใหเ้ อง

คู่มอื การใชง้ าน วิทยุถา่ ยทอด GRX-4000E 97 ให้ลองพิจารณารูปข้างบน “พระราม” กับ “พระอิศวร” ซึ่งเป็นคู่สถานีกัน ตั้งค่าการ ทำงานถูกต้องท้ังหมด ดแู ลว้ นา่ จะไม่มีปัญหาเรือ่ งการติดต่อสื่อสาร แต่เมือ่ พจิ ารณาท่ี “พระราม” ซ่ึงมี หมายเลข RF IP เป็น 192.168.0.1 ส่วนหมายเลข Remote IP ระบบกำหนดให้เป็น 192.168.0.2 ซึ่งนั่นหมายความว่า “พระราม” จะต้องมองหาว่าคู่สถานีที่มี RF IP เป็น 192.168.0.2 ตามที่ระบบ กำหนดไวใ้ น Remote IP เทา่ นน้ั สว่ น “พระอศิ วร” ซง่ึ เปน็ คูส่ ถานี มหี มายเลข RF IP เปน็ 192.168.0.3 และหมายเลข Remote IP ระบบกำหนดให้เป็น 192.168.0.4 ซึ่งนั่นหมายความว่า “พระอิศวร” ก็จะตอ้ งมองหาค่สู ถานที ม่ี ี RF IP เปน็ 192.168.0.4 เท่าน้ันเช่นเดยี วกนั ซ่งึ ดูจากแผนน้ี ทัง้ “พระราม” และ “พระอิศวร” จะไมส่ ามารถส่งข้อมูลถึงกันไดเ้ ลย ถงึ แมว่ า่ จะมีถนนถงึ หนา้ บา้ นของตนเองทัง้ คกู่ ็ตาม ดังนั้นเราจะตอ้ งต้งั ค่า RF IP ใหเ้ ปน็ ไปตามเง่ือนไข การกำหนด IP Address และ Remote IP Address ใน MPt2P เมื่อเครื่องทำงานในแบบ Multi Point to 2 Point (MPt2P) ก็ยังคงมี IP Address เข้ามา เกยี่ วขอ้ ง 2 อนั เช่นเคย คอื RF IP Address และ Remote IP Address

คูม่ อื การใช้งาน วิทยถุ า่ ยทอด GRX-4000E 98 RF IP Address เครอื่ งที่เป็น AU (Access Unit) จะถกู หนดใหม้ ีหมายเลข RF IP Address ใหเ้ ปน็ ดังน้ี Net A . Net B . Link . 1 X . Y . Z . 1 โดยท่ี X, Y และ Z สามารถเปล่ยี นแปลงได้ ตามท่ี ผใู้ ช้งานได้วางแผนไว้ เครื่องที่เป็น SU1 (Subscriber Unit 1) จะถูกกำหนดให้มีหมายเลข RF IP Address ใหเ้ ป็นดังนี้ Net A . Net B . Link . 11 X . Y . Z . 11 โดยที่ X, Y และ Z สามารถเปลี่ยนแปลงได้ และต้อง เหมือนกับ X, Y และ Z ของเครื่องที่เป็น AU (Access Unit) เครื่องที่เป็น SU2 (Subscriber Unit 2) จะถูกกำหนดให้มีหมายเลข RF IP Address ใหเ้ ป็นดังน้ี Net A . Net B . Link . 21 X . Y . Z . 21 โดยที่ X, Y และ Z สามารถเปลี่ยนแปลงได้ และต้อง เหมือนกับ X, Y และ Z ของเครื่องที่เป็น AU (Access Unit) ภาพรวมการกำหนดคา่ RF IP Address เมื่อวิทยทุ ำงานในแบบ MPt2P

คู่มอื การใชง้ าน วิทยถุ ่ายทอด GRX-4000E 99 Remote IP Address เครื่องที่เปน็ AU (Access Unit) จะถูกกำหนดให้มีหมายเลข Remote IP Address ให้ เปน็ ดังน้ี X . Y . Z . 11 และ X . Y . Z . 21 สว่ นเครื่องท่ีเปน็ SU1(Subscriber Unit 1) และเครอ่ื งที่เป็น SU2(Subscriber Unit 2) จะถูกกำหนดให้มีหมายเลข Remote IP Address เหมือนกันคอื X . Y . Z .1 ภาพรวมการกำหนดค่า RF / Remote IP Address เมอ่ื วทิ ยุทำงานในแบบ MPt2P ❖ MNGMT IP : Management IP Address