แผนการจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ ประกอบวชิ า การดูแลสขุ ภาพอนามัย ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย รหสั วิชา ทช33088 จดั ทาโดย นายประภัสร์ อวะดี ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอทา่ บ่อ สานักงานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั จงั หวดั หนองคาย สานกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
แผนการจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ กกกกกกกแผนการจัดประสบการณก์ ารเรียนรู้ รายวชิ า ทช33088 การดแู ลสขุ ภาพอนามัย ระดบั มัธยมศกึ ษาตอน ปลาย เปน็ การนารายวิชานส้ี ู่การปฏบิ ตั ิจริงของครูผู้สอน ด้วยการวางแผนออกแบบการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ ไวล้ ว่ งหนา้ ว่าครูผูส้ อนจะจัดกจิ กรรมการเรยี นรใู้ ห้บรรลุมาตรฐานการเรยี นรู้ ตวั ชีว้ ัด และจดุ ประสงค์ ด้วยรูปแบบ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ONIE MODEL อยา่ งไร ซงึ่ ครูผู้สอนรายวิชานที้ กุ คนตอ้ งศกึ ษา และจดั ประสบการณ์การ เรียนรใู้ หเ้ ป็นไปกรอบของการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 จงึ จะทาให้การจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ในรายวชิ านี้ มีประสิทธภิ าพและเกดิ ประสิทธิผล กกกกกกกแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้รายวิชา ทช33088 การดูแลสุขภาพอนามัย กศน.ระดับมัธยมศึกษา ตอนปลาย ประกอบด้วย 18 แผน ดงั น้ี กกกกกกก1. แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ เรอ่ื งที่ 1 การปฐมนเิ ทศ 2. แผนการจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ เรอ่ื งที่ 2 การเรยี นรู้ด้วยตนเอง 3. แผนการจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ เรอ่ื งที่ 3 การใชแ้ หล่งเรียนรู้ โดยมรี ายละเอียดดงั น้ี
แผนการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ กลมุ่ สาระความรู้พน้ื ฐาน รายวชิ าการดูแลสขุ ภาพอนามัย ทช33088 ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย แผนการจดั การเรียนรูเ้ รอื่ งที่ 1 การปฐมนิเทศ เวลา 6 ช่ัวโมง สอนวันที่ …….……เดอื น กรกฎาคม พ.ศ 2563 ภาคเรยี นที่ 1ปีการศกึ ษา 2563 มาตรฐานการเรียนรูร้ ะดับ ความรู้ ความเข้าใจในการเรยี นวชิ าการดแู ลสุขภาพอนามัย ทช33088 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย เกี่ยวกับรายละเอยี ดคาอธบิ ายรายวชิ า กจิ กรรมการเรยี นการสอน ขอ้ ตกลง และขั้นตอนการปฏบิ ัติกิจกรรมให้ เป็นไปตามวัตถุประสงคก์ ารเรยี นรู้ เพอ่ื ให้ผเู้ รียนบรรลผุ ลตามที่คาดหวัง และช่วยให้กจิ กรรมการเรียนการสอนมี ประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด 1. เพ่ือใหผ้ เู้ รยี นมคี วามเขา้ ใจแนวทางการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอน ในรายวชิ า รายวชิ า การดแู ล สุขภาพอนามัย ทช33088 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย 2. เพือ่ เตรยี มตัวลว่ งหนา้ ในการเรยี น และมีสว่ นรว่ มในกจิ กรรมการเรียนการสอนอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ 3. เพ่ือทดสอบความร้พู ้ืนฐานเดมิ ของผ้เู รียน และเป็นแนวทางในการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ การปฐมนิเทศ 1. รายละเอยี ดคาอธบิ ายรายวชิ า การดแู ลสขุ ภาพอนามัย ทช33088 ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย 2. หลกั เกณฑก์ ารวดั ผล และการให้คะแนนรายวชิ า การดแู ลสขุ ภาพอนามัย ทช33088 ระดับมัธยมศึกษา ตอนปลาย 3. ขอ้ ตกลงเกย่ี วกับหลักการ ข้อปฏิบตั แิ ละกฎระเบยี บในการเรยี นการสอนในห้องเรียน กระบวนการจัดการเรียนรู้ 1. ข้นั กาหนดสภาพปญั หาความตอ้ งการในการเรียนรู้ 1.1 ครกู ลา่ วทักทายผเู้ รียน และแนะนาตวั เอง โดยบอกชอื่ นามสกลุ และชอ่ งทางการตดิ ตอ่ 1.2 ครสู อบถามผ้เู รียนถึงกิจกรรมทท่ี าในระหว่างปดิ ภาคเรียนท่ีผ่านมา และนาเขา้ ส่เู รอื่ งท่จี ะเรียน 1.3 ครแู จ้งให้ผู้เรียนทราบวา่ ในภาคเรียนน้ีจะได้เรียน รายวิชา การดแู ลสุขภาพอนามัย ทช33088 2. ขนั้ แสวงหาข้อมลู และจดั การเรยี นรู้ 2.1 ครูช้ีแจงรายละเอยี ดคาอธบิ ายรายวชิ า การดแู ลสุขภาพอนามยั ทช33088 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอน ปลาย ท่จี ะเรียนในภาคเรียนน้ี จานวน 6 เร่ือง คอื การฟงั การดู การพูด การอา่ น การเขียน หลกั การใช้ภาษา และ วรรณคดี วรรณกรรม ครูแจ้งตวั ชว้ี ัด และอภิปรายถงึ เนอ้ื หา ทีจ่ ะเรยี นรว่ มกนั กับผู้เรียน
2.2 ครู และผูเ้ รยี นตกลงหลักเกณฑก์ ารวดั ผล และการให้คะแนนในส่วนต่าง ๆ รว่ มกนั จากคะแนนเตม็ 100 คะแนน อัตราสว่ นคะแนนระหวา่ งภาคตอ่ ปลายภาค = 60 : 40 เปน็ ดังน้ี 1. คะแนนระหวา่ งเรียน 60 คะแนนแบ่งเก็บ ดังน้ี 1.1 คะแนนด้านความรู้ 30 คะแนน 1.2 คะแนนดา้ นทกั ษะ (โครงงาน/ชิน้ งาน) 20 คะแนน 1.3 คะแนนดา้ นคุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ 10 คะแนน 2. คะแนนปลายภาคเรยี น 40 คะแนน ดังนี้ เกณฑก์ ารประเมินผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นด้านความรู้ ของผู้เรยี นท่ีศกึ ษา หลักสูตรรายวชิ าการดแู ล สุขภาพอนามัย ทช33088 มดี งั น้ี หมายถึง ผูเ้ รียนมีคะแนนสอบปลายภาคเรียน ตงั้ แต่ 12.00 – 40.00 หรือ ร้อยละ 30 ของคะแนนเต็มขึ้น ไป ไมผ่ ่าน หมายถงึ ผ้เู รยี นมีคะแนนสอบปลายภาคเรียน ตัง้ แต่ 0.00 – 11.99 หรอื ร้อยละ 0.00 – 29.99 ของคะแนนเตม็ ขนึ้ ไป การตดั สนิ ผลการเรยี น รายวชิ า การดูแลสุขภาพอนามัย ทช33088 จะนาคะแนนระหวา่ งภาคมารวมกับ คะแนนปลายภาคเรยี น และจะต้องได้คะแนนไมน่ อ้ ยกว่าร้อยละ 50 จึงจะถือวา่ ผา่ น ทงั้ นี้ ผเู้ รยี นต้องเข้าสอบปลายภาคเรยี นดว้ ย แลว้ นาคะแนนไปเปรยี บเทียบกบั เกณฑท์ ่ีกาหนดให้ค่าระดบั ผลการ เรียนเปน็ 8 ระดับ ดงั น้ี ไดค้ ะแนนร้อยละ 80 – 100 ให้ระดับ 4 หมายถงึ ดีเย่ยี ม ได้คะแนนรอ้ ยละ 75 – 79 ใหร้ ะดับ 3.5 หมายถงึ ดีมาก ได้คะแนนรอ้ ยละ 70 – 74 ให้ระดบั 3 หมายถงึ ดี คะแนนรอ้ ยละ 65 – 69 ให้ระดับ 2.5 หมายถงึ ค่อนขา้ งดี ไดค้ ะแนนรอ้ ยละ 60 – 64 ใหร้ ะดบั 2 หมายถึง ปานกลาง ได้คะแนนร้อยละ 55 – 59 ใหร้ ะดบั 1.5 หมายถึง พอใช้ ได้คะแนนร้อยละ 50 – 54 ให้ระดับ 1 หมายถงึ ผา่ นเกณฑ์ข้ันตา่ ท่ีกาหนด ไดค้ ะแนนรอ้ ยละ 0 – 49 ใหร้ ะดับ 0 หมายถงึ ตา่ กว่าเกณฑ์ขน้ั ตา่ ทกี่ าหนด 2.3 ข้อตกลง ขอ้ ปฏบิ ัติ และกฎระเบียบในการเรียนการสอนในหอ้ งเรยี น ดงั น้ี 1. ผูเ้ รยี นตอ้ งเข้าเรยี นไมต่ า่ กวา่ 80 เปอร์เซ็นต์ ของเวลาเรยี นท้ังหมด 2. ผเู้ รยี นไมพ่ ดู คยุ เสยี งดัง หรอื สง่ เสียงรบกวนเพอื่ นในเวลาเรียน 3. ผเู้ รียนต้องเขา้ เรยี นให้ตรงเวลา 4. หากมคี วามจาเป็นต้องหยดุ เรียน ต้องขออนุญาตครูผ้สู อนก่อนทกุ ครั้ง 5. ไม่นาอาหารมารบั ประทานในหอ้ งเรยี นขณะครูสอน 6. หากมีขอ้ สงสยั ขณะเรียน ให้สอบถามครูไดท้ ันที 3 2.4 ครูชแ้ี จงรายละเอยี ดการพบกล่มุ วนั เวลา สถานทีใ่ ห้ผเู้ รยี นทราบ 3. ขนั้ ปฏิบัติ และนาไปประยุกต์ใช้ 3.1 ครูใหผ้ ู้เรียนแนะนาตวั ใหค้ รู และเพอื่ น ๆ ทกุ คนในหอ้ งเรยี นได้ร้จู ัก
3.2 ครแู จกแบบทดสอบก่อนเรยี น รายวชิ า การดูแลสุขภาพอนามยั ทช33088 ใหผ้ ู้เรยี นทาจากนั้นตรวจ แบบทดสอบพร้อมบันทกึ คะแนนไว้ และร่วมกนั สรุปถงึ การทาแบบทดสอบ กอ่ นเรียน รายวิชาการดแู ลสุขภาพ อนามัย ทช33088 4. ข้ันประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 4.1 ครถู ามผู้เรียนเก่ียวกบั เรอ่ื งทค่ี รูกล่าวมาขา้ งต้น ว่ามเี รอ่ื งอะไรบ้างมีรายละเอยี ดทส่ี าคัญอย่างไร (เร่อื งท่ี จะเรียน หลกั เกณฑ์การให้คะแนน กฎระเบียบ ขอ้ ตกลง ขอ้ ควรปฏบิ ตั ิ กตกิ าในการเรยี นการสอน) 4.2 ครถู ามผู้เรียนว่าพบกลุ่มวันไหน เวลาไหน และทไ่ี หน 4.3 ครูซักถามผูเ้ รียนว่ามขี ้อสงสัยหรือไม่ 4.4 ครูมอบหมายให้ผู้เรียนศึกษาเรอ่ื งทจ่ี ะเรียนในคร้ังต่อไปลว่ งหน้า (เรอื่ ง การฟงั และการด)ู การวัดผลประเมินผล วิธกี ารวดั ประเมินจากการสังเกต การซักถาม ตอบคาถาม และแบบทดสอบกอ่ นเรียน เคร่ืองมอื ไดแ้ ก่ แบบประเมนิ และแบบทดสอบกอ่ นเรยี น เกณฑก์ ารวัด ผา่ น ต้องทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น ไดค้ ะแนนไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 50 ของคะแนนเตม็ สอ่ื และแหล่งเรยี นรู้ 1. แบบทดสอบก่อนเรียน รายวิชา การดูแลสขุ ภาพอนามัย ทช33088 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 2. ใบความรู้ เอกสารประกอบการปฐมนเิ ทศ
บนั ทึกหลังสอน 1. ปญั หาหรืออปุ สรรคในการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ กกกกกกก……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. แนวทางการแกป้ ัญหาหรืออุปสรรค กกกกกกก……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. การปรบั ปรุงแผนการจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ เรือ่ ง การปฐมนเิ ทศ กกกกกกก……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื …………………………………………… (นายประภสั ร์ อวะด)ี ตาแหน่ง ครู กศน.ตาบล ความคิดเหน็ ของผู้นเิ ทศทไี่ ดร้ ับมอบหมายจากผบู้ ริหาร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …..…………………………………………………………………………………………………………………................................................... ....................................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื …………………………………………… () ตาแหนง่ ครูอาสาสมัคร ความคิดเห็นของผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …..………………………………………………………………………………………………………………………….......................................... .........................................…………………………………………………….........................................…………………………………... ลงช่อื ................................................ (นางจามรี ภูเมฆ) ตาแหนง่ ผ้อู านวยการศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอทา่ บอ่
แผนการจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ กลมุ่ สาระความร้พู ้ืนฐาน รายวิชา การดแู ลสุขภาพอนามัย ทช33088 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย แผนการจัดการเรียนรเู้ ร่อื งท่ี 2 เรอื่ ง หลกั การดแู ลสุขภาพอนามยั ของตนเอง ครอบครัวชุมชน/สังคม เวลา 6 ช่ัวโมง สอนวนั ที่ …….……เดอื น กรกฎาคม พ.ศ 2563ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2563 รายวิชา/หวั เรื่อง การดแู ลสขุ ภาพอนามยั (ทช33088) หลักการดูแลสุขภาพอนามยั ของตนเอง ครอบครัวชุมชน/สังคม ตวั ชีว้ ัด 1. อธบิ ายหลักการดแู ลสุขภาพและอนามัยองตนเอง ครอบครวั ชุมชน/สงั คม 2. วเิ คราะหแ์ ละประเมินสขุ ภาพพลานามยั ของชุมชนและดาเนินการสง่ เสรมิ แกไ้ ขปัญหาสุขภาพ อนามยั ในชมุ ชน ขอบขา่ ยเนอ้ื หา 1 หลกั การดูแลสุขภาพอนามัยของตนเอง ครอบครัว ชมุ ชน/สังคม ตอนท่ี 2 หลกั การประเมินสขุ ภาพอนามยั ในชุมชน ตอนท่ี การจดั กระบวนการเรยี นรู้ ผ้เู รยี นนำผลกำรเรยี นรู้ท่ีได้รบั ไปบันทึกในค่มู ือผเู้ รยี น/สมดุ บันทึก กำรประเมนิ ผลกำรเรยี นรู้ ๑ ครแู ละผู้เรยี นสรุปสำระสำคัญตำมมำตรฐำนกำรเรียนรู้ ๒ .ซักถำม ๓. ให้นกั ศกึ ษำทำใบงำนที่ 1 มอบหมำยงำน/กิจกรรมกำรเรยี นรู้ในสปั ดำห์ต่อไป ๑.มอบหมำยงำนกำรเรียนรูใ้ นหน่วยกำรเรยี นรู/้ กจิ กรรมในสัปดำห์ตอ่ ไป แจกใบควำมรู้ครง้ั ต่อไปให้ไปศึกษำก่อน เรยี น 2.ครูบันทกึ ควำมคิดเห็นหลงั กำรจัดกิจกรรมกำรพบกล่มุ
ใบความรู้ เรื่อง หลกั การดแู ลสขุ ภาพอนามัยของตนเอง ครอบครัวชุมชน/สังคม ความหมายและสาคัญของการมีสุขภาพดี สุขภาพดีหมายถึง การมีร่างกายแข็งแรงปราศจากโรคภัยไข้ เจบ็ ในทกุ ส่วน ของร่างกาย มสี ขุ ภาพจิตดี และสามารถปรับตัวให้อยูร่ ่วมกับผอู้ ื่นในสงั คมไดอ้ ย่างปกติสุข ผมู้ ีสุขภาพ ดีถอื วา่ เป็นกาไรของชวี ิต เพราะทาให้ ผูเ้ ป็นเจ้าของชวี ติ ดารงชีวิตอยอู่ ย่างเป็นสขุ ได้โรคต่างๆ และการรกั ษาเบอ้ื งต้น โรคเบาหวาน เกิดจากความผดิ ปกติของร่างกายทม่ี กี ารผลติ ฮอรโ์ มนอินซูลนิ ไม่เพียงพอ อนั ส่งผลทาให้ระดับน้าตาล ในกระแสเลือดสูงเกิน โรคเบาหวานจะมีอาการเกิดขึ้นเน่ืองมาจากการที่ร่างกายไม่สามารถใช้น้าตาลได้อย่าง เหมาะสม ซ่งึ โดยปกติน้าตาลจะเขา้ สู่เซลลร์ ่างกายเพื่อใช้เป็นพลงั งานภายใตก้ ารควบคมุ ของฮอร์โมนอินซูลิน ซ่งึ ผทู้ ่ี เป็นโรคเบาหวานร่างกายจะไม่สามารถนาน้าตาลไปใชง้ านไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ผู้เปน็ โรคเบาหวานจะมอี าการเบอื้ งตน้ คือ 1. ปวดปสั สาวะบอ่ ยครงั้ ขึน้ เนือ่ งจากในกระแสเลือดและอวัยวะต่างๆ มีนา้ ตาลคา้ งอย่มู าก ไตจึงทา การ กรองออกมาในปัสสาวะ ทาให้ปัสสาวะหวาน สงั เกตจากการท่ีมีมดมาตอมปัสสาวะ จึงเป็นท่ีมา ของการเรยี ก เบาหวาน 2. ปัสสาวะกลางคืนบ่อยขน้ึ 3. สายตาพรา่ มองไมช่ ดั เจน 4. อ่อนเพลยี เหนื่อยงา่ ยไม่มีเรี่ยวแรง 5. เบอื่ อาหาร 6. นา้ หนักตัวลดโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยเฉพาะถ้าหากนา้ หนักเคยมากมากอ่ น อันเนือ่ งมาจากรา่ งกาย ไม่ สามารถนานา้ ตาลไปสรา้ งพลงั งานไดเ้ ตม็ ท่จี ึงตอ้ งนาไขมันและโปรตนี จากกล้ามเนือ้ มาใช้ทดแทน 7. ตดิ เชือ้ บอ่ ยกว่าปรกตเิ ชน่ ติดเชื้อทางผวิ หนงั และกระเพาะอาหาร สังเกตได้จากเมอ่ื เปน็ แผลแล้ว แผลจะหายยาก 8. กระหายน้า และดื่มนา้ ในปรมิ าณมากๆต่อครง้ั 9. อาการชาไม่ค่อยมีความรู้สกึ เนอ่ื งมาจากเบาหวานจะทาลายเสน้ ประสาทใหเ้ สอื่ มสมรรถภาพลง ความสามารถในการรับรู้ความรูส้ กึ จึงถดถอยลง 10. อาจจะมอี าการของโรคหวั ใจ และโรคไต การปอ้ งกันการเป็นเบาหวาน 1. ควบคมุ นา้ ตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑป์ กติ และแกไ้ ขปจั จัยเส่ียงอ่ืนๆอนั จะกอ่ ให้เกดิ โรคเบาหวาน 2. ควบคมุ โภชนาการ ใหม้ ีความสมดุลท้งั ในด้านโภชนาการ การออกกาลงั กาย รวมไปจนถงึ การใช้ยา รกั ษาโรค 3. ควรตรวจเชค็ ระดบั นา้ ตาลในเลือดสม่าเสมอ โดยปรึกษาแพทยว์ ่าควรตรวจเช็คเม่ือใด และ ระยะเวลา ห่างในการตรวจทเ่ี หมาะสม 4. ยาบางชนิดหรอื ยาสมนุ ไพร อาจมีผลตอ่ การควบคุมน้าตาลในเลอื ด จะตอ้ งปรึกษาแพทยแ์ ละเภสัช กร กอ่ นใชย้ า หรือ สมนุ ไพร เหลา่ น้ี
โรคความดันโลหิต ความดนั โลหติ หมายถึง แรงดนั ของกระแสเลอื ดทกี่ ระทบตอ่ ผนังหลอดเลอื ด ซง่ึ เกดิ จากการสบู ฉีด ของหวั ใจ (คล้ายแรงลมท่ีดันผนังยางรถเวลาสูบลมเข้า) ซง่ึ สามารถวัดโดยใช้ เครอื่ งวัดความดนั เครอ่ื งวัดความ ดัน (Sphygmomano meter) วัดทีแ่ ขนและมีค่าทวี่ ัดได้ 2 คา่ คอื 1. ความดนั ชว่ งบน หรอื ความดันซสิ โตลี (Systolic blood pressure) หมายถึง แรงดนั เลอื ดขณะที่ หัวใจ บีบตวั ซ่ึงอาจจะสูงตามอายุ ความดันช่วงบนในคน ๆ เดียวกนั อาจมีค่าแตกตา่ งกันบา้ งเล็กนอ้ ย ตามทา่ ของร่างกาย การเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ และปรมิ าณของการออกกาลงั 2. ความดนั ช่วงลา่ ง หรอื ความดนั ไดแอสโตลี (Diastolic blood pressure ) หมายถงึ แรงดันเลอื ด ขณะที่ หวั ใจคลายตัว ในปจั จุบนั ได้มกี ารกาหนดค่าความดนั โลหิต และระดับความรนุ แรงของโรคความดนั โลหติ สงู สาหรบั ผู้ทมี่ อี ายุตั้งแต่ 18 ปขี นึ้ ไป (โดยการวัดในทา่ นงั่ วัดอย่างนอ้ ย 2 ครงั้ ข้นึ ไปแล้วคิดเป็นค่าเฉลยี่ ) ดงั นี้ ความดันช่วงบน ปกติ มีคา่ ต่ากวา่ 130 มม.ปรอท (ทอร)์ ปกตแิ ต่ค่อนข้างสูง มคี ่าระหวา่ ง 130- 139 มม. ปรอท ความดนั สูงเล็กน้อย มีคา่ ระหว่าง 140-159 มม.ปรอท ความดันสงู ปานกลาง มีคา่ ระหวา่ ง 160-179 มม. ปรอท ความดนั สงู รนุ แรง มคี ่าระหวา่ ง 180-209 มม.ปรอท ความดันสงู รนุ แรงมาก มีคา่ ต้งั แต่ 210 มม.ปรอทขนึ้ ไป ความดันชว่ งลา่ ง ปกติ มคี ่าต่ากว่า 85 มม.ปรอท ปกติแตค่ ่อนข้างสูง มคี า่ ระหวา่ ง 85-89 มม.ปรอท ความดนั สงู เลก็ น้อย มีคา่ ระหวา่ ง 90-99 มม.ปรอท ความดนั สงู ปานกลาง มีค่าระหว่าง 100-109 มม.ปรอท ความดันสูงรุนแรง มีค่าระหวา่ ง 110-119 มม.ปรอท ความดันสูงรุนแรงมาก มีคา่ ตัง้ แต่ 120 มม.ปรอทข้นึ ไป อาการของโรคความดนั โลหติ สูง โรคความดนั โลหิตสงู สว่ นใหญ่จะไมม่ อี าการ เนอ่ื งจากความดนั โลหติ จะเพิ่มอยา่ ง ชา้ ๆทาให้ร่างกาย โดยเฉพาะหลอดเลอื ดปรบั ตวั ทันขงึ ไมม่ ีอาการ ผูป้ ่วยความดนั โลหิตส่วนใหญจ่ ะมาด้วยโรคแทรก ซ้อนโดยทไ่ี มร่ ู้ วา่ เปน็ ความดนั โลหิตสูง ดังนัน้ จงึ แนะนาใหว้ ัดความดันทุก 2 ปีสาหรับคนท่ีความดันโลหิตปกติ อาการท่ผี ปู้ ่วย ความดันโลหิตสูงท่พี าผปู้ ว่ ยมาโรงพยาบาลได้แก่ ปวดศีรษะ ผู้ป่วยมักจะมีอาการปวดศรี ษะในกรณที ี่ ความดันข้นึ อยา่ งรวดเรว็ หรือเกิด ภาวะ Hypertensive crisis โดยท่ัวไปความดันโลหติ ตวั บน Systolic จะ มากกวา่ 110 มม ปรอท หรือ Diastolic มากกว่า 110 มม. ปรอท อาการปวดศีรษะมักจะปวดมึนๆบางคนปวด ตลอดวนั ปวดมากเวลา ถ่ายอจุ าระ หากเป็นมากจะมีอาการคลืน่ ไสอ้ าเจยี น เลอื ดกาเดาไหล มะเร็ง คอื กลุ่มของโรคทเี่ กิดเน่อื งจากเซลลข์ องรา่ งกายมีความผดิ ปกติ ท่ี DNA หรอื สารพันธกุ รรม ส่งผล ใหเ้ ซลล์มกี ารเจริญเตบิ โต มีการแบ่งตวั เพือ่ เพ่ิมจานวนเซลล์ รวดเร็ว และมากกวา่ ปกติ แนวทางการรักษาโรคมะเร็ง การเฝา้ ตดิ ตาม เมอื่ บอกว่าเป็นมะเร็งคนทว่ั ไปมักจะคดิ วา่ ตอ้ งผ่าตัด หรือใหเ้ คมบี าบดั แต่มมี ะเร็งบางประเภทท่ไี ม่ แพรก่ ระจาย และเจริญเติบโตช้ามาก การรักษาจงึ เฝา้ ตดิ ตามการเปลยี่ นแปลงของ มะเรง็ การผ่าตดั การฉายแสง โรคภูมแิ พ้ โรคภูมแิ พ้ คอื โรคทีเ่ กิดขน้ึ เนอ่ื งจากปฏกิ ริ ยิ าของร่างกายต่อสงิ่ แปลกปลอม หรือทเี่ รยี กอีก อยา่ งว่า สารก่อภูมิแพ้ ท่ีผา่ นเข้าไปใน ร่างกายในคนปรกติ ปฏิกิริยาเชน่ วา่ น้ีจะเกดิ ข้ึนนอ้ ยมากและไมม่ ีอาการแต่ อยา่ งใด แต่ในผูป้ ว่ ยโรคภูมิแพ้ปฏกิ ริ ยิ าของร่างกายต่อสารกอ่ ภมู ิแพจ้ ะเกิดข้ึนอยา่ งรนุ แรง ทาใหผ้ ู้ปว่ ยมีอาการ ผิดปรกติเกิดขนึ้ เนอื่ งจากพยาธสิ ภาพในอวยั วะตา่ ง ๆ ซึง่ อาจจะเกดิ เฉพาะท่หี รอื กระจาย ไปกไ็ ด้ ผูท้ ่เี ปน็ โรค ภมู ิแพ้ มี ปฏิกริ ิยาภูมิไวเกินต่อ ฝนุ่ ตวั ไรฝ่นุ เชอื้ ราในอากาศ อาหาร ขนสตั ว์ เกสรดอกไม้ เปน็ ตน้ สารทีก่ อ่ ให้เกดิ ปฏกิ ริ ิยาภูมไิ วเกินน้ีเรยี กว่า 'สารกอ่ ภมู ิแพ้
ใบงาน 1. ฮอรโ์ มนสาคญั ทส่ี ร้างจากตอมไทรอยดม์ อี ะไรบา้ ง และฮอรโ์ มนเหลา่ น้นั มีหน้าทอี่ ย่างไร ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. 2. โรคมะเร็ง คืออะไร ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. 3. หลกั 8 ประการของการดูแลรกั ษาสขุ ภาพ มอี ะไรบา้ ง ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ..............................................................................................................................................................................
บันทกึ หลงั สอน 1. ปญั หาหรืออปุ สรรคในการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ กกกกกกก……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. แนวทางการแกป้ ญั หาหรืออปุ สรรค กกกกกกก……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. การปรับปรงุ แผนการจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ เรื่อง การปฐมนิเทศ กกกกกกก……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ …………………………………………… (นายประภัสร์ อวะดี ) ตาแหนง่ ครู กศน.ตาบล ความคิดเห็นของผ้นู ิเทศทีไ่ ดร้ ับมอบหมายจากผู้บริหาร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …..…………………………………………………………………………………………………………………................................................... ....................................................................................................................................................................................... ลงชอื่ …………………………………………… () ตาแหนง่ ครูอาสาสมัคร ความคิดเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …..………………………………………………………………………………………………………………………….......................................... .........................................…………………………………………………….........................................…………………………………... ...................................................................................................................................................................................... ลงชอื่ ................................................ (นางจามรี ภเู มฆ) ตาแหนง่ ผูอ้ านวยการศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอทา่ บ่อ
แผนการจัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้ กลุ่มสาระความรู้พ้นื ฐาน รายวิชา การดแู ลสขุ ภาพอนามยั ทช33088 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย แผนการจัดการเรียนรูเ้ รื่องที่ 3 เรือ่ ง การป้องกัน การควบคมุ และสร้างเสรมิ สขุ ภาพ เวลา 6 ชั่วโมง สอนวันที่ …….……เดอื น กรกฎาคม พ.ศ 2563 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2563 ตัวชี้วัด 1. ถา่ ยทอดความรูแ้ ละสรา้ งเครอื ขา่ ยดา้ นสุขภาพอนามัยแก่ชุมชน 2. สรา้ งชมุ ชนใหเ้ ปน็ ศนู ย์กลางในการแลกเปล่ยี นเรียนรดู้ ้านสขุ ภาพอนามัยในชุมชนเนอื้ หา ขอบข่ายเนอ้ื หา 1 การวางแผนและการจดั กิจกรรมเพอ่ื เสรมิ สรา้ งและแกป้ ญั หาสขุ ภาพอนามัยชมุ ชน 2 การประเมนิ และสรุปผลการจัดกิจกรรมด้านสขุ ภาพอนามยั การจัดกระบวนการเรยี นรู้ กาหนดสภาพปญั หาความต้องการในการเรียนรู้ ครูและผเู้ รยี นร่วมกันกาหนดการเรยี นรู้ในเร่ืองตอ่ ไปนี้ -เหตกุ ารณ์สาคัญของโลกทมี่ ผี ลตอ่ ปจั จุบนั -แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติ -ความรเู้ บื้องต้นเก่ียวกบั เศรษฐศาสตร์ -ให้ผู้เรียนศึกษาใบความรทู้ ่ี 3 แสวงหาข้อมลู และจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ครูผเู้ รียนรว่ มกนั กาหนดกรอบเนอ้ื เก่ียวกบั การเรยี นรู้ด้วยตนเอง การใช้แหล่งเรยี นรู้ การใช้แหล่งเรยี นรู้รวมทั้งการ จดั การความรู้ ตามทเ่ี รียนรู้ผา่ นมาแลว้ การปฏบิ ตั แิ ละการนาไปใช้ ๑.ครูและผู้เรียนสรุปสาระสาคญั และนาความรู้ที่สอดคลอ้ งกับวถิ ีชวี ติ ไปเป็นแนวทางในการดาเนนิ ชีวติ ๒.ผูเ้ รียนนาผลการเรยี นรู้ทไี่ ดร้ ับไปบันทึกในคู่มอื ผู้เรียน/สมุดบันทกึ การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๑ ครูและผูเ้ รียนสรปุ สาระสาคญั ตามมาตรฐานการเรยี นรู้ ๒ .ซกั ถาม ๓. ให้นักศกึ ษาทาใบงานท่ี 2 มอบหมายงาน/กิจกรรมการเรียนรู้ในสัปดาหต์ อ่ ไป ๑.มอบหมายงานการเรียนร้ใู นหน่วยการเรยี นรู้/กจิ กรรมในสัปดาห์ต่อไป แจกใบความร้คู รัง้ ต่อไปให้ไป ศกึ ษาก่อนเรยี น 2.ครูบนั ทึกความคิดเหน็ หลงั การจดั กจิ กรรมการพบกล่มุ
ใบความรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การปอ้ งกัน การควบคมุ และสร้างเสริมสขุ ภาพ หลัก 8 ประการของการดแู ลรกั ษาสุขภาพ 1. รบั ประทานอาหาร อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม อาหารเชา้ ผลทาใหค้ วามคิดต้ือตนั ไม่ปลอดโปร่ง วติ กกังวล ใจ สนั่ ออ่ นเพลีย หงุดหงิด โมโหง่าย ม้อื เชา้ รบั ประทานได้เชา้ ที่สดุ ย่ิงดี (ระหวา่ งเวลา 6.00 – 7.00 น.) เพราะท้องว่างมา นาน หากยงั ไม่มีอาหารให้ดืม่ น้าอุน่ หรอื นา้ ข้าวอนุ่ ๆ ก่อน ควรทานข้าวตม้ ร้อน ๆ จะช่วยใหง้ า่ ยต่อการขับถา่ ยอจุ จาระ ถ้าจาเป็นต้อง รับประทาน (สาย) ใกลอ้ าหารม้อื กลางวนั อยา่ รบั ประทานมากอาหารกลางวัน ควรเป็นอาหารหนัก เชน่ ขา้ วสวย พร้อมกับข้าวครบ 5 หมู่ เพราะร่างกายต้องใชพ้ ลังงานมาก และ ควรรับประทานใหเ้ พียงพอแก่ความตอ้ งการ ของรา่ งกาย 2. ขบั ถ่าย อุจจาระ ปัสสาวะ สมา่ เสมอทกุ วัน 3. ใส่เส้อื ผ้าใหเ้ หมาะสม กับฤดกู าล เชน่ หน้าหนาวกใ็ ส่เสื้อผ้าหนา ๆ สวมหมวก ถงุ มือ ถงุ เท้าขณะ นอน ตอนกลางคนื ควรห่มผ้าปดิ ถึงอก 4. ออกกาลังกาย ควรออกกาลงั กายกลางแจ้งทุกวัน 5. รักษาความสะอาดของสถานทีพ่ กั อาศยั เพอ่ื ชว่ ยให้สง่ิ แวดล้อมดี อากาศดี 6. รักษาอารมณใ์ ห้ปลอดโปร่ง แจม่ ใสตลอดทัง้ วัน และอย่าลมื นั่งสมาธิทกุ วัน 7. พกั ผอ่ นให้เพยี งพอ เหมาะสมกบั เพศ และวัยไม่ควรนอนดกึ เกิน 22.00 น. ตดิ ต่อกันหลายวัน 8. มีท่าทาง และอริ ยิ าบถท่ีถูกตอ้ งเหมาะสม ในการทางานในชวี ิตประจาวัน 7 ขั้นตอน วิธลี า้ งมือให้สะอาด ขน้ั ตอนท่ี 1 ฟอกฝา่ มอื และงา่ มนิ้วมอื ดา้ นหน้า 5 ครง้ั โดยเนน้ ซอกนิ้วมอื ขน้ั ตอนท่ี 2 ฟอกหลังมอื และงา่ มนิ้วมอื ด้านหลังขา้ งละ 5 ครัง้ โดยเน้นท่ีซอกนวิ้ มอื ขนั้ ตอนที่ 3 ฟอกนิว้ และขอ้ น้ิวมอื ด้านหลงั ข้างละ 5 คร้ัง ขัน้ ตอนท่ี 4 ฟอกนว้ิ หัวแม่มือ ข้างละ 5 ครั้ง ขั้นตอนที่ 5 ฟอกปลายนิว้ มอื เล็บ โดยหมุนวนไปบนฝา่ มือ ขา้ งละ 5 คร้ัง ขน้ั ตอนที่ 6 ฟอกรอบข้อมอื โดยรอบข้างละ 5 คร้ัง ข้นั ตอนที่ 7 ฟอกรอบข้อมือ
ใบงาน 1. การรบั ประทานอาหารทถ่ี ูกต้อง ควรรับประทานอย่างไร ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... 2.การล้างมือให้สะอาดควรปฏบิ ตั อิ ย่างไรให้ถกู ต้อง ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................... 3 การป้องกนั ตนจากการเกิดโรคควรมีแนวทางอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4.การไม่เกิดโรค หมายถึง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
บันทึกหลังสอน 1. ปญั หาหรอื อปุ สรรคในการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ กกกกกกก……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. แนวทางการแกป้ ัญหาหรอื อุปสรรค กกกกกกก……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. การปรบั ปรงุ แผนการจัดประสบการณก์ ารเรียนรู้ เรือ่ ง การปฐมนเิ ทศ กกกกกกก……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ …………………………………………… (นายประภสั ร์ อวะดี) ตาแหนง่ ครู กศน.ตาบล ความคิดเห็นของผู้นเิ ทศที่ไดร้ ับมอบหมายจากผบู้ ริหาร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …..…………………………………………………………………………………………………………………................................................... ....................................................................................................................................................................................... ลงช่อื …………………………………………… () ตาแหน่ง ครูอาสาสมัคร ความคิดเหน็ ของผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …..………………………………………………………………………………………………………………………….......................................... .........................................…………………………………………………….........................................…………………………………... ...................................................................................................................................................................................... ลงชื่อ................................................ (นางจามรี ภเู มฆ) ตาแหน่งผู้อานวยการศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอทา่ บ่อ
Search
Read the Text Version
- 1 - 15
Pages: