ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 1 รายวิชาโครงงานเพื่อพฒั นาทักษะการเรยี นรู้ (ทร02006) คำสั่ง ให้เลือกคาตอบท่ีถูกต้องท่ีสุดเพียงคาตอบเดียว 6. ขอ้ ใดคอื จดุ มงุ่ หมายของการทาโครงงาน ก. เพือ่ ให้ผูเ้ รียนรู้รกั สามัคคี 1. ข้อใดคอื ความหมายของโครงงาน ข. เพื่อใหผ้ ู้เรียนร้ถู ึงความเปน็ ไทย ก. การศึกษาวิชาการ ค. เพื่อให้ผเู้ รียนได้ผลประโยชน์จากกจิ กรรม ง. เพ่อื ให้ผเู้ รียนได้แสดงออกซ่งึ ความคิดริเร่ิม ข. การศกึ ษาเกีย่ วกับอาชีพ สร้างสรรค์ ค. การศกึ ษาเก่ียวกับชวี ิตจริง ง. การศกึ ษาเก่ียวกับสิง่ ท่ีต้องการอยากรู้ 7. การใชส้ มุนไพรในการปราบศัตรูพืชอยใู่ น โครงงานประเภทใด 2. ข้อใดคือประโยชนข์ องการทาโครงงาน ก. ตามอธั ยาศยั ก. ปฏิบัตเิ พื่อให้แล้วเสร็จ ข. ตามความถนัด ข. ปฏิบตั เิ พอ่ื ให้ได้ผลงาน ค. ตามความสนใจ ค. ปฏิบัตเิ พ่อื ใหเ้ กิดความรู้ความเข้าใจ ง. ตามสาระการเรียนรู้ ง. ปฏิบัตติ ามจุดมงุ่ หมายทกี่ าหนดไดถ้ ูกต้อง 8. ขน้ั ตอนแรกของการทาโครงงาน คือข้อใด 3. ข้อใดไมใ่ ชป่ ระเภทของโครงงาน ก. คดั เลอื กหัวขอ้ โครงงาน ก. สารวจข้อมลู ข. จัดทาเค้าโครงของโครงงาน ข. อ้างองิ ผลงาน ค. การนาเสนอและแสดงโครงงาน ค. สร้างสิ่งประดิษฐ์ ง. ศกึ ษา คน้ คว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล ง. ศกึ ษา ค้นควา้ ทดลอง 9. การปลกู พืชโดยไม่ใช้ดนิ เป็นโครงงานประเภทใด 4. ขนั้ ตอนการวางแผนการทาโครงงานอยู่ใน ก. โครงงานเก่ยี วกับการทดลอง ขั้นตอนใด ข. โครงงานเกี่ยวกบั ทฤษฎแี ละหลักการ ก. การจัดทาโครงงาน ค. โครงงานที่เก่ียวกบั การสารวจรวบรวมขอ้ มูล ข. การทาเค้าโครงงาน ง. โครงงานทเ่ี กยี่ วกับส่ิงประดิษฐห์ รือการ ค. การเลอื กหัวข้อโครงงาน พัฒนา ง. การศึกษาเอกสารท่ีเกย่ี วข้อง 10. ข้อใดไมใ่ ชป่ ระเด็นสาคัญในการจดั แสดงและ 5. ข้อใดกล่าวถกู ต้องเกี่ยวกบั โครงงาน การนาเสนอผลงาน ก. กจิ กรรมทน่ี กั เรยี นสนใจ ก. ผลงานทุกชน้ิ ท่ีทดลอง ข. กจิ กรรมท่นี กั เรียนมีความรู้ ข. ผลงานทเ่ี กิดขึ้นจากการทาโครงงาน ค. กจิ กรรมการเรยี นรทู้ ่ีนกั เรียนปฏบิ ตั ิ ค. ช่อื โครงงาน ช่ือผู้ทาโครงงาน ช่อื ที่ ง. กจิ กรรมสง่ เสรมิ การค้นคว้าผลงานตามท่ี ปรึกษา ตนเองถนดั และสนใจ ง. วิธกี ารดาเนินการ โดยเลือกเฉพาะ ขัน้ ตอนที่เด่นและสาคัญ
ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย 2 รายวชิ าโครงงานเพื่อพฒั นาทกั ษะการเรยี นรู้ (ทร02006) 11. มานขี อพบครูผสู้ อนวชิ าวิทยาศาสตรเ์ พ่ือขอ 16. ความหมายของโครงงานเนน้ ส่วนท่ีสาคัญคือ คาแนะนาการทาโครงงานพัฒนาโปรแกรมสอน ก. เป็นกจิ กรรมทีค่ รอู อกแบบให้ เรื่องระบบสุริยะ อยใู่ นขั้นตอนใดของการทา ข. เปน็ กจิ กรรมท่คี รคู ิดหวังขอ้ ให้ โครงงาน ค. เป็นกิจกรรมทผ่ี ู้เรียนปฏบิ ัตไิ ดด้ ว้ ย ก. ขั้นการลงมือทาโครงงาน ตนเอง ข. ขน้ั การจัดทาข้อเสนอโครงงาน ง. เปน็ กจิ กรรมท่ีผู้เรียนเรยี นได้จดั ทา เปน็ ไป ค. ขั้นการคัดเลอื กหัวข้อโครงงาน ตามการเรียนการสอนปกติ ง. ขั้นการศกึ ษาค้นควา้ จากเอกสารและ แหล่งขอ้ มลู 17. การนาเสนอโครงงานจะทาในรปู แบบใด เหมาะสมท่สี ุด 12. ข้อมูลประกอบการเขยี นสาในสว่ นเนอื้ หา ก. วางไวใ้ นห้องเรียน โครงงานควรมีลักษณะใด ข. แสดงเฉพาะในกล่มุ ก. ปจั จบุ ันตายตวั ค่อยเปน็ คอ่ ยไป ค. แสดงทา่ ทางประกอบ ข. ทันสมัยแม่นยากระชับ สมบูรณ์ ง. แสดงในรูปนิทรรศการ ค. ซ้าๆประจาเฉพาะเจาะจง จากดั ง. ยดื หยุน่ แตกตา่ งไม่สิ้นสุดเฉพาะกิจ 18. แนวคิดทีม่ าและความสาคญั ของเค้าโครงของ โครงงานต้องเขยี นอยา่ งไร 13. คาขอบคุณอยู่ในสว่ นใดของการเขียนรายงาน ก. อธบิ ายถึงลกั ษณะของผลงานว่าเปน็ โครงงาน อย่างไร ก. ที่มา ข. อธบิ ายถึงแผนการปฏบิ ัตงิ านว่ามขี น้ั ตอน ข. คานา ปฏิบัติอยา่ งไร ค. สารบัญ ค. อธิบายว่าเราจะได้รับความรู้อะไรบ้าง ง. กติ ติกรรมประกาศ หลงั จากท่ีทาโครงงานน้ี ง. อธิบายวา่ สาเหตใุ ดจึงเลอื กทาโครงงาน 14. ถ้าต้องการทาโครงงานประเภทสารวจ ต้องตัง้ น้ี โครงงานนี้สาคัญอยา่ งไร ตามข้อใดถูกตอ้ งทีส่ ดุ ก. การปลกู พืชโดยไมใ่ ชส้ ารเคมี 19. การออกแบบเสอ้ื ผา้ จัดอยู่ในโครงงาน ข. การคดิ สตู รเคร่ืองดมื่ จากธญั พชื ประเภทใด ค. การตรวจสอบประชากรวัยแรงงาน ก. โครงงานคณิตศาสตร์ ง. การประหยดั นา้ ประปาภายในชมุ ชน ข. โครงงานตามความถนดั ค. โครงงานตามความสนใจ 15. หลังจากได้หัวขอ้ เรื่องและแนวคิดทส่ี นใจแลว้ ง. โครงงานตามสาระการเรยี นรู้ ควรทาตามขนั้ ตอนใด ก. สรปุ ผลงานตอ่ ครู 20. การจดั กิจกรรมการเรยี นรูแ้ บบโครงงานมี ข. เสนอผลงานต่อครู ประสิทธภิ าพข้ึนอยู่กบั สิง่ ใด ค. เตรียมบนั ทกึ ผลงาน ก. การวางวางแผน ง. ศึกษาเอกสารในเรื่องท่ีเลือก ข. การนาเสนอผลงาน ค. การคิดอยา่ งสร้างสรรค์ ง. การกาหนดวัตถปุ ระสงค์อยา่ งชัดเจน
ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย 3 รายวิชาโครงงานเพือ่ พฒั นาทกั ษะการเรยี นรู้ (ทร02006) 21. ขอ้ ใดไมใ่ ชแ่ นวคิดของโครงงานเพือ่ พัฒนา 25. ในการนาเสนอโครงงานข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง ทักษะการเรียนรู้ ก. ความเหมาะสมกับเนอื้ หาทีจ่ ัดแสดง ก. มีการจัดการและบรหิ ารเวลา ข. ความปลอดภยั ในการจดั แสดงโครงงาน ข. ทาใหผ้ ้เู รียนมีผลสัมฤทธ์ิทีส่ ูงข้นึ ค. การแสดงไมต่ อ้ งเนน้ ประเดน็ สาคัญ ค. มีทกั ษะเกยี่ วกบั กระบวนการกลมุ่ มากเกนิ ไป ง. รู้จกั ตอบปญั หาโดยไม่ใช้กระบวนการทาง ง. ส่ิงท่แี สดงตอ้ งงใชข้ ้อความที่ถกู ต้อง วทิ ยาศาสตร์ ตัวสะกดไม่ผิด 22. สิง่ ท่จี ะดึงดูดความสนใจผู้เขา้ รับชมผลงาน 26. ผลดขี องการปฏิบัตทิ ดลองจะทาให้เกิดผลดี โครงงานคอื ข้อใด อยา่ งไร ก. ใชส้ ีสดใสเนน้ จดุ สนใจ ก. เพ่อื ความประหยัด ข. ทาอย่างไรกไ็ ด้ใหด้ เู รื่องงา่ ย ข. เพ่ือความระมัดระวัง ค. ใช้วสั ดทุ ีเ่ ป็นประเภทเดียวกัน ค. เพ่อื ให้ขอ้ มูลเป็นทนี่ ่าเชอ่ื ถือ ง. ใช้สสี ดใสเน้นจดุ สนใจแตใ่ ช้วสั ดตุ ่าง ง. เพอ่ื ใหไ้ ด้เป็นไปตามความคาดหวัง ประเภทกัน 27. ขอ้ ใดเป็นลกั ษณะการจดั การเรยี นการสอน 23. ขั้นตอนใดของการทาโครงงานทแี่ สดงออกถงึ แบบโครงงาน ผลิตผลของความคดิ ความพยายามในการ ก. สร้างมนุษยสมั พนั ธ์ ทางาน ข. มุ่งเนน้ ใหเ้ รยี นด้านเดียว ก. การลงมอื ทาโครงงาน ค. ไม่ช่วยในการฝึกฝนทักษะต่างๆ ข. การนาเสนอโครงงาน ง. เป็นการจดั ประสบการณใ์ นการ ปฏิบตั ิ ค. การเขยี นรายงานโครงงาน ใหแ้ ก่นักศึกษา ง. การอภิปรายผลและขอ้ เสนอแนะ 28. ถา้ ต้องการอธิบายความแตกต่างระหวา่ งสภาพ 24. ข้อใดเปน็ พฤติกรรมสาคญั ที่สุดของการทา ช้นิ งานเดิมกบั ชนิ้ งานใหมท่ ีท่ าขน้ึ ควรจัดทา โครงงานโดย เรียนรจู้ ากแหล่งเรียนรู้ โครงงานประเภทใด ก. ผู้เรยี นตอ้ งปฏบิ ตั ิตามกรอบทีก่ าหนด ก. โครงงานสารวจ ข. ผู้เรยี นตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามกรอบที่กาหนด ข. โครงงานสิ่งประดษิ ฐ์ ค. ผเู้ รยี นไดป้ ฏิบตั ิและคน้ คว้าความรู้ดว้ ย ค. โครงงานพฒั นาผลงาน ตนเอง ง. โครงงานศกึ ษาและทดลอง ง. ผูเ้ รียนเป็นผปู้ ระเมินผลการเรียนรู้ของ ตนเอง 29. การต้ังชือ่ โครงงานควรมลี กั ษณะใด ก. ตั้งชอ่ื เรอื่ งใหย้ าว ๆ ข. ต้งั ใหก้ ะทัดรดั น่าอ่าน ค. ตั้งอยา่ งไรก็ไดไ้ ม่สนใจเนอ้ื เรอ่ื ง ง. ต้ังตามใจตนเองไมร่ ับฟงั ความคดิ เหน็ ผู้อ่ืน
ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย 4 รายวิชาโครงงานเพ่อื พฒั นาทกั ษะการเรียนรู้ (ทร02006) 30. ข้อใดคือจดุ มุ่งหมายของการทาโครงงาน ก. เพ่อื ให้ผูเ้ รยี นร้สู ามคั คี ข. เพ่ือให้ผู้เรียนได้ผลประโยชน์จาก กจิ กรรม ค. เพื่อให้ผเู้ รียนร้ถู งึ ความเปน็ ไทยในการทา โครงงาน ง. เพือ่ ให้ผเู้ รียนไดแ้ สดงออกซึ่ง ความคิดสรา้ งสรรค์
Search
Read the Text Version
- 1 - 4
Pages: