บทนาเร่ือง’ รามเกยี รต์ิ มาจากคาวา่ ราม + เกยี รติ หมายถึง เกยี รติของพระราม ตามคติฮินดูมีความเชื่อวา่ พระราม คือ พระนารายณ์อวตาร ลงมาในโลกมนุษยเ์ พือ่ ปราบยคุ เขญ็
บทนาเร่ือง’ รามเกียรต์ิมาจากวรรณคดีอินเดียเร่ื อง รามายณะ ซ่ึ ง เ ป็ น ว ร ร ณ ค ดี ส า คัญ แ ล ะ มี ม า น า น ก ว่ า ๒ , ๐ ๐ ๐ ปี โดยอินเดียถือวา่ เป็นเรื่องที่ยง่ิ ใหญ่ และมีชื่อเสียง ส่วนไทยไดน้ า ว ร ร ณ ค ดี เ รื่ อ ง ร า ม เ กี ย ร ต์ิ ม า แ ส ด ง เ ป็ น ห นั ง ใ ห ญ่ โขน ละคร นอกจากน้ี ยงั นามาวาดเป็นภาพจิตรกรรม เช่น ภาพวาดท่ีผนังระเบียงรอบพระอุโบสถวดั พระศรี รัตนศาสดา ราม
ทมี่ าของเร่ือง’ บ่อเกิดแห่งรามเกียรต์ ิมาจาก คัมภีร์ รามายณะ คาว่า รามายณะ หมายถึง เรื่องของพระราม พระจริยวตั รของพระรามน้ันเป็ นแบบฉบบั ที่ดีเลิศทุกประการ ตน้ แบบ ของมหากษตั ริย์ เป็ นโอรสที่กตญั ญูต่อพระราชบิดา มีความเมตตาปรานีต่อญาติพ่ี นอ้ ง เป็นสามีที่ซ่ือตรงรักใคร่ภรรยา และเป็นกษตั ริยช์ าตินกั รบ ส่วนนางสีดาเป็นแบบอยา่ ง รามายณะของอินเดียมีหลายฉบบั กลุ สตรีที่ดี ซื่อตรงมนั่ คงต่อพระสวามี กิริยาวาจาเรียบร้อย มีความอดทนต่อ แต่ฉบบั ท่ีมีอิทธิพลต่อเน้ือเรื่องของรามเกียรต์ิไทย ความยากลาบาก มากท่ีสุด คือ รามายณะของวาลมกิ ิ
ท่ีมาของเร่ือง’ บทละครเร่ื อง รามเกียรต์ิ ตอน นารายณ์ปราบนนทก เป็ นบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มหาราช ซ่ึงรามเกียรต์ิฉบบั รัชกาลท่ี ๑ น้ีนบั เป็นฉบบั ที่สมบูรณ์ที่สุดตาม พระราชประสงคท์ ่ีจะใหเ้ ป็นตน้ ฉบบั สาหรับพระนคร สาหรั บประเทศไทยเร่ื องของพระรามแพร่ หลายมา ต้ังแต่สมัยสุโขทัย มีการต้ังพระนามพระเจ้าแผ่นดินเกี่ยวข้อง กบั คาว่า “ราม” เช่น พ่อขุนรามคาแหง พระราเมศวร
ลกั ษณะคาประพนั ธ์ คำประพันธ์ในบทละครเรื่อง รำมเกียรต์ิ ตอน นำรำยณ์ปรำบนนทก นัน้ เป็น ประเภทกลอนบทละครท่ีมีลกั ษณะคำประพนั ธ์คล้ำยกลอนแปด แต่สิ่งท่ีต่ำงออกไปคือ วรรคสดบั (วรรคแรก)ของกลอนจะตำ่ งกนั ออกไปตำมเนือ้ เร่ือง มาจะกล่าวบทไป ถงึ นนทกนา้ ใจกล้าหาญ ต้งั แต่พระสยมภูวญาณ ประทานให้ล้างเท้าเทวา อยู่บนั ไดไกรลาสเป็ นนิจ สุราฤทธ์ิตบหัวแล้วลูบหน้า บ้างให้ตักนา้ ล้างบาทา บ้ างถอนเส้ นเกศาวุ่นไป
ลกั ษณะคาประพนั ธ์ บดั น้ัน จะใชก้ บั ตวั ละครทวั่ ไป เมื่อน้ัน จะใชก้ บั ตวั ละครที่เป็น มาจะกล่าวบทไป จะใชเ้ ม่ือเปลี่ยนเร่ืองมาเล่าเร่ืองใหม่ กษตั ริย์ หรือเทวดา ซ่ึงเป็นรูปแบบพิเศษท่ีใชเ้ ฉพาะในกลอนบทละครเท่าน้นั ลกั ษณะกลอนบทละครยงั คงมีวรรคละ ๖-๙ คา เช่นเดียวกบั กลอนบทละครโดยทว่ั ไป
เน้ือเร่ืองยอ่ รามเกียรต์ิ ตอน นารายณ์ปราบนนทก
เนื้อเร่ืองย่อ นนทกเป็ นยกั ษอ์ ยทู่ ี่เชิงบนั ไดเขาไกรลาส มีหนา้ ท่ีลา้ งเทา้ เทวดาซ่ึงจะไปเขา้ เฝ้าพระอิศวร เทวดาเหล่าน้ันบ้างก็ถอนผมนนทก บ้างก็ตบหัว เ ย้า ห ย อ ก จ น หั ว ข อ ง น น ท ก โ ล้ น เ ก ล้ี ย ง นนทกแคน้ ใจมาก จึงไปทูลขอพรจากพระอิศวรให้ ประทานนิ้วเพชรแก่ตน เมื่อช้ีผู้ใดผู้น้ันจะตาย พระอิศวรก็ประทานให้ เพ่ือเป็ นรางวลั ที่นนทก ทาหนา้ ที่ดว้ ยความรับผดิ ชอบ
เนื้อเรื่องย่อ เม่ือไดน้ ิ้วเพชรนนทกกใ็ ชน้ ิ้วเพชรสังหารเทวดาท่ีมาแกลง้ เสียสิ้น พระอินทร์จึงนาความไปทูลพระอิศวร พระอิศวรจึงขอใหพ้ ระนารายณ์ไป ปราบนนทก พระนารายณ์แปลงเป็นนางฟ้าผงู้ ดงาม เม่ือนนทกเห็นนางฟ้า กค็ ิดผกู พนั รักใคร่ นางฟ้าแปลงจึงออกอุบายใหน้ นทกราตามท่าทางต่าง ๆ ท่าสุดทา้ ยเป็ นท่านาคามว้ นหาง ซ่ึงตอ้ งใช้นิ้วช้ีขาตนเอง เม่ือนนทกช้ี ไปถูกขา ขาของนนทกก็หักล้มลง นางฟ้าแปลงจึงกลับร่ างเป็ น พระนารายณ์เหยยี บนนทกไวจ้ ะสงั หาร
เนื้อเร่ืองย่อ นนทกเห็นดงั น้ันจึงกล่าวตดั พอ้ ว่าตนมีสองมือ หรือจะสูส้ ่ีมือได้ พระนารายณ์จึงตรัสวา่ ชาติหนา้ ใหน้ นทก มีสิบหน้ายี่สิบมือ ส่วนพระองค์จะเป็ นเพียงมนุษย์ที่มี สองมือสู้กบั นนทก ตรัสแลว้ ก็ตดั เศียรนนทกกระเด็นไป แลว้ พระนารายณ์ก็เสด็จคืนยงั เกษียรสมุทร (ทะเลน้านม ท่ี พ ร ะ น า ร า ย ณ์ บ ร ร ท ม โ ด ย ป ร ะ ทับ บ น ห ลัง พ ร ะ ย า อนนั ตนาคราช)
เนื้อเรื่องย่อ กล่าวถึงนางรัชดามเหสีทา้ วลสั เตียนแห่งกรุงลงกา ให้กาเนิดพระโอรสมีสิบเศียรสิบหน้าย่ีสิบกร ซ่ึงก็คือนนทก มาเกิดมีชื่อวา่ ทศกณั ฐ์ ตามลกั ษณะของตน คือ มีสิบคอสิบหนา้ (ทศ หมายถึง สิบ กณั ฐ์ หมายถึง คอ) เร่ืองราวน้ีเป็ นที่มาของ กาเนิดทศกณั ฐ์ ฝ่ ายนางเกาสุริยามเหสีทา้ วทศรถแห่งกรุงอโยธยาไดใ้ ห้ กาเนิดพระโอรสชื่อ พระราม ซ่ึงกค็ ือพระนารายณ์อวตารนนั่ เอง
วเิ คราะห์คุณค่า เน้ือเรื่องรามเกียรต์ิ ตอน นารายณ์ปราบนนทก ทาใหผ้ อู้ ่านไดร้ ับความสนุกสนานเพลิดเพลินดว้ ยกลวธิ ีต่อไปน้ี ๑. การดาเนินเร่ืองท่ีรวดเร็วฉบั ไว เช่น ตอนที่นนทกไดร้ ับพรใหม้ ีนิ้วเพชรจากพระอิศวร ก็ไปทาหน้าที่ลา้ งเทา้ เทวดาตามปกติ เม่ือถูกเทวดาหยอกลอ้ เหมือนเช่นเคยก็สุดท่ีจะอดกล้นั จึงใช้นิ้วเพชรสังหารเหล่าเทวดาไปเป็ นจานวนมาก ซ่ึงเน้ือเร่ืองสามารถอธิบายอย่างชัดเจน ไดใ้ นคาประพนั ธเ์ พียงบทเดียววา่ “ต้องสุบรรณเทวานาคี ดง่ั พษิ อสุนีไม่ทนได้ ล้มฟาดกลาดเกลื่อนลงทันใด บรรลยั ไม่ทนั พริบตา”
วเิ คราะห์คุณค่า ๒. เหตุการณ์ในเรื่องสร้างความตื่นเต้น แ ล ะ น่ า ติ ด ต า ม ต้ั ง แ ต่ เ ร่ิ ม ต้ น จ น จ บ ต อ น ต้งั แต่ท่ีนนทกถูกเทวดากลน่ั แกลง้ จนเกิดความแคน้ จึ ง ไ ป ข อ พ ร จ า ก พ ร ะ อิ ศ ว ร ใ ห้ ป ร ะ ท า น นิ้ ว เ พ ช ร เมื่อไดน้ ิ้วเพชรก็นาไปสังหารเทวดาจนพระอิศวร ตอ้ งขอให้พระนารายณ์มาช่วยปราบ พระนารายณ์ จึงแปลงเป็ นนางฟ้าแสนสวยมาหลอกนนทกให้ลุ่ม หลงและราตาม ในท่ีสุดก็ปราบนนทกได้ และ ก่อนท่ีนนทกจะถูกสังหารเน้ือเร่ืองก็ยงั ทิ้งทา้ ยไวใ้ ห้ ผอู้ ่านตอ้ งการติดตามตอนต่อไปอีกดว้ ย
วเิ คราะห์คุณค่า ๓. กาหนดฉากและตวั ละครน่าสนใจแตกต่าง จากเรื่ องอ่ืน เน้ือเร่ื องรามเกียรต์ิตอนน้ี เป็ นฉาก เขาไกรลาสบนสวรรค์ มีตัวละคร คือ พระอิศวร พระนารายณ์ พระอินทร์ ซ่ึ งเป็ นเทพผู้เป็ นใหญ่ มีเหล่าเทวดาต่าง ๆ และ
วเิ คราะห์คุณค่า เร่ืองรามเกียรต์ิ ตอน นารายณ์ปราบนนทกน้ี แสดงให้เห็น แนวคิดเก่ียวกบั การใชอ้ านาจให้เป็นและใหถ้ ูกตอ้ งท้งั เทวดาและนนทก การที่เทวดาไปตบหวั ถอนผมนนทกจนผมโกร๋น นบั วา่ เป็นการใชอ้ านาจ ในทางท่ีผิด เป็ นการรังแกผูน้ ้อย ซ่ึงไม่สมควรเลียนแบบ แมจ้ ะหยอก ลอ้ เล่นกนั กต็ าม ขณะเดียวกนั เมื่อนนทกไดน้ ิ้วเพชรสามารถช้ีให้ใครตายก็ได้ จึงใชอ้ านาจเกินไปจนทาใหเ้ ดือดร้อนไปทว่ั ท้งั สวรรค์
วเิ คราะห์คุณค่า สาหรับพระนารายณ์ไปสังหารนนทกตามบญั ชาของพระอิศวรซ่ึงถือเป็ นหน้าที่ต่อส่วนรวมเพ่ือให้ สวรรค์มีสันติสุข การทาให้คนชว่ั หมดไปไม่ไปทาร้ายคนอื่น ๆ อีกถือว่าเป็ นหน้าท่ีของพระนารายณ์โดยตรง ไม่ไดท้ าเพราะลุแก่โทสะเหมือนนนทก นอกจากน้ีการท่ีพระนารายณ์แปลงกายเป็นนางอปั สรยงั เป็นการแสดงให้ เห็นถึงการใชป้ ัญญาในการแกไ้ ขปัญหาแทนการใชก้ าลงั
วเิ คราะห์คุณค่า บทละครเร่ืองรามเกียรต์ิ ตอน นารายณ์ปราบนนทก มีลีลาการใชถ้ อ้ ยคา ดงั น้ี ๑. การเล่นคา เช่น ตอนชมความงามของนางฟ้าแปลงมีการซ้าคาเพอ่ื เนน้ ความหมายใหเ้ ห็นวา่ มีความงามทุกส่วน โดยเล่นคาวา่ งาม ดงั คาประพนั ธ์วา่ “เหลือบเห็นสตรีวไิ ลลกั ษณ์ พศิ พกั ตร์ผ่องเพยี งแขไข งามโอษฐ์งามแก้มงามจุไร งามนัยน์เนตรงามกร งามถนั งามกรรณงามขนง งามองค์ยงิ่ เทพอปั สร งามจริตกริ ิยางามงอน งามเอวงามอ่อนท้งั กายา”
วเิ คราะห์คุณค่า ๒. การใชอ้ ปุ มาเปรียบเทียบเพือ่ ใหเ้ ห็นภาพ เช่น “ฮึดฮัดขัดแค้นแน่นใจ ตาแดงด่ังแสงไฟฟ้า” “ต้องสุบรรณเทวานาคี ดง่ั พษิ อสุนีไม่ทนได้” อสุนี มาจากคาวา่ อสุนีบาต หมายถึง ฟ้าผา่
วเิ คราะห์คุณค่า สุราฤทธ์ิตบหัวแล้วลูบหน้า บ้ างถอนเส้ นเกศาวุ่นไป ๓. การใชค้ าใหเ้ กิดจินตภาพ (อารมณ์สะเทือนใจ) เช่น ดูเงาในนา้ แล้วร้องไห้” “อยู่บันไดไกรลาสเป็ นนิจ บ้างให้ตักนา้ ล้างบาทา จนผมโกร๋นโล้นเกลยี้ งถงึ เพยี งหู
วเิ คราะห์คุณค่า ๔. การสรรคาท่ีสื่อความหมายถึงสิ่งเดียวกนั มาใชอ้ ยา่ งหลากหลาย เช่น พระอศิ วร พระสยมภูวญาณ พระอศิ ราธิบดี เจ้าไตรโลกา พระศุลี พระนารายณ์ พระส่ีกร พระหริวงศ์ พระจักรา
คุณค่าข้อคดิ ๑. การใชอ้ านาจอยา่ งมีคุณธรรม ๔. ไม่ควรโออ้ วดวา่ ตนเอง มีความสามารถเหนือผอู้ ื่น ๒. การใชส้ ติปัญญาสาคญั กวา่ การใชก้ าลงั ๕. ควรมีเมตตาต่อผอู้ ื่น จึงจะทาใหส้ งั คมร่มเยน็ ๓. รู้จกั เอาใจเขามาใส่ใจเรา เป็ นสุข
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: