Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือการปฏิบัติงานตามภารกิจหลัก

คู่มือการปฏิบัติงานตามภารกิจหลัก

Published by Tawesak Nasok, 2022-08-05 03:44:40

Description: คู่มือการปฏิบัติงานตามภารกิจหลัก

Search

Read the Text Version

คู่มือการปฏบิ ัติงานตามภารกิจหลกั และมาตรฐานการปฏิบตั งิ าน ปงี บประมาณ 2565 กลมุ่ กฎหมายและคดี สานักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษามัธยมศกึ ษาสุโขทัย สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

คานา สำนักงำนเขตพน้ื ท่กี ำรศกึ ษำมธั ยมศึกษำสโุ ขทยั ได้จดั ทำค่มู อื กำรปฏบิ ตั ิงำนตำมภำรกิจหลักและ มำตรฐำนกำรปฏิบัติงำนเล่มนี้ เพ่ือใช้เป็นแนวทำงในกำรดำเนินกำรทำงกฎหมำยและวินัย และ เป็นกำรเผยแพร่ให้แก่ข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำในเขตพื้นท่ีกำรศึกษำมัธยมศึกษำสุโขทัย และผู้ทีส่ นใจ โดยสำมำรถใชเ้ ป็นแนวปฏบิ ตั ใิ นกำรดำเนนิ งำนให้เกิดควำมชัดเจน สะดวก รวดเรววและถกู ต้อง สำนักงำนเขตพ้ืนที่กำรศึกษำมัธยมศึกษำสุโขทัย หวังเป็นอย่ำงยิ่งว่ำ เอกสำรคู่มือกำรปฏิบัติงำน ฉบับนี้ จะเปน็ ประโยชน์และอำนวยควำมสะดวกแก่ผ้ปู ฏบิ ตั ิงำน ผมู้ ีสว่ นไดเ้ สยี ตลอดจนประชำชนทัว่ ไป สำนกั งำนเขตพ้ืนท่ีกำรศึกษำมธั ยมศกึ ษำสุโขทยั

3 กลมุ่ กฎหมายและคดี สานกั งานเขตพื้นท่กี ารศึกษามัธยมศึกษาสุโขทยั วิสยั ทศั น์ (Vision) สำนกั งำนเขตพ้ืนท่ีกำรศึกษำมัธยมศึกษำสุโขทัย โดยกลุ่มกฎหมำยและคดี เป็นองค์กรหลัก ในกำรพฒั นำและสง่ เสริมสนับสนุนกำรบรหิ ำรงำนดำ้ นกฎหมำยและวินัยให้แก่ข้ำรำชกำรครูและบุคลำกร ทำงกำรศึกษำในสังกัดได้มีควำมรู้เกี่ยวกับกฎหมำยและกระบวนกำรทำงวินัยอย่ำงถูกต้องและท่ัวถึง โดยยึดหลกั คุณธรรมและจริยธรรมเป็นสำคญั พนั ธกิจ (Mission) ส่งเสริมและสนับสนุนให้ข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำในสังกัด ได้รับควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจในเรอื่ งกฎหมำย วินัย และกำรรักษำวินัย โดยสำมำรถนำองค์ควำมรู้ไปพัฒนำงำนขององค์กร ได้อยำ่ งมปี ระสิทธิภำพ เปา้ ประสงค์ (Goals) ภำยในปี ๒๕๖6 สำนักงำนเขตพื้นท่ีกำรศึกษำมัธยมศึกษำสุโขทัย และสถำนศึกษำในสังกัด มคี วำมเขม้ แขงว ในกำรบรหิ ำรงำนดำ้ นกฎหมำยและวินัย สำมำรถลดจำนวนเรื่องร้องเรยี นไดร้ อ้ ยละ ๕๐ คา่ นยิ ม (Value) มุ่งม่ันปฏิบตั ิงำนอย่ำงมืออำชีพ สรำ้ งสรรค์ มีคุณภำพและมำตรฐำนเป็นท่ียอมรบั ขอบข่าย/ภาระงาน 1. สง่ เสรมิ สนับสนนุ พฒั นำกำรมีวินัยและรักษำวินัย 2. ดำเนนิ กำรสืบสวนเกี่ยวกับเรือ่ งร้องเรียน 3. ดำเนินกำรสอบสวนเก่ยี วกับวนิ ยั และกำรตรวจพิจำรณำวนิ ัย 4. ดำเนินกำรเก่ยี วกบั กำรอทุ ธรณแ์ ละกำรพจิ ำรณำอทุ ธรณ์ 5. ดำเนินกำรเก่ยี วกับกำรร้องทกุ ข์และกำรพจิ ำรณำร้องทุกข์ 6. ดำเนินกำรเก่ยี วกบั ควำมรับผิดทำงละเมิดของเจ้ำหนำ้ ท่ี 7. ดำเนินกำรเก่ยี วกบั งำนคดีปกครอง คดแี พง่ คดีอำญำ และคดีอ่นื ๆ ของรฐั 8. ดำเนินกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทจุ รติ และประพฤตมิ ิชอบ 9. ศกึ ษำ วเิ ครำะห์ วิจยั จดั ทำขอ้ มลู และติดตำมประเมนิ ผลเพอ่ื พฒั นำงำนกฎหมำย และ งำนคดขี องรฐั 10. ปฏิบัติงำนรว่ มกับหรอื สนบั สนุนกำรปฏบิ ัตงิ ำนของหนว่ ยงำนอื่นทีเ่ กี่ยวข้องหรือ ทไี่ ด้รับมอบหมำย

4 บุคลากรกลุ่มกฎหมายและคดี นำยทวีศักด์ิ นำโสก นิตกิ รชำนำญกำรพเิ ศษ ปฏบิ ัติหนำ้ ทผ่ี ู้อำนวยกำรกลมุ่ กฎหมำยและคดี

5 ประเภทเอกสาร : คู่มือขั้นตอนการดาเนินงาน ชื่อเอกสาร : งานดา้ นกฎหมายและการดาเนินคดีของรฐั

6 1. ชื่องาน งำนดำ้ นกฎหมำยและกำรดำเนนิ คดขี องรัฐ 2. วตั ถปุ ระสงค์ เพ่ือเป็นแนวทำงสำหรับนิติกรในกำรดำเนินคดีของรัฐให้แก่หน่วยงำนรำชกำร สถำนศึกษำ รวมทั้งข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ สังกัดสำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำประถมศึกษำ และ สำนักงำนเขตพ้นื ที่กำรศกึ ษำมธั ยมศกึ ษำ 3. ขอบเขตของงาน ครอบคลุมต้ังแต่กำรดำเนินคดีแพ่ง คดีอำญำ คดีล้มละลำย และคดีปกครอง จนกระท่ังคดี ถึงท่ีสุด และกำรบังคับคดีหรือกำรใช้มำตรกำรบังคับทำงปกครอง อีกท้ังกำรพิจำรณำเปิดเผยข้อมูล ขำ่ วสำรของรำชกำร และกำรดำเนนิ กำรหำตัวผู้ตอ้ งรับผิดทำงละเมดิ และเรียกคำ่ สินไหมทดแทน 4. คาจากดั ความ – 5. ข้ันตอนการปฏบิ ตั งิ าน 1. ให้คำแนะนำปรึกษำเกี่ยวกับกฎหมำย ระเบียบ แก่หน่วยงำนและสถำนศึกษำ รวมถึง ข้ำรำชกำรครูและบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำในสงั กัด ตลอดจนผู้มำขอรบั บริกำรอ่นื ด้วย 2. รับเร่ืองจำกโรงเรียน สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำข้ันพ้ืนฐำน และหน่วยงำนอ่ืน ท่เี ก่ยี วกับคดีแพง่ คดอี ำญำ คดลี ้มละลำย และคดีปกครอง (ทีข่ อควำมชว่ ยเหลอื ) 3. เสนอเร่อื งใหผ้ ู้บังคับบญั ชำทรำบเพ่อื พิจำรณำสัง่ กำร 4. รวบรวมพยำนหลักฐำน ประสำนงำน และมหี นงั สอื ขอควำมอนเุ ครำะห์ไปยังสำนักงำนอัยกำร เพื่อจัดพนักงำนอัยกำรให้ว่ำต่ำงหรือแก้ต่ำงในคดีแพ่ง คดีอำญำ และคดีล้มละลำย ท่ีหน่วยงำนรำชกำร หรือเจ้ำหน้ำท่ีของรัฐฟ้องคดีหรือถูกฟ้องคดี คดีท่ีพนักงำนอัยกำรเป็นโจทก์ฟ้องคดีนั้น ไม่อำจขอควำม ช่วยเหลือให้แก้ต่ำงคดีได้) รวมท้ังดำเนินกำรอ่ืนตำมกระบวนวิธีพิจำรณำคดี จนกระทั่งศำลมีคำส่ังหรือ คำพิพำกษำ และรวมไปถึงกำรอุทธรณแ์ ละฎีกำคำสง่ั หรอื คำพิพำกษำจนกระทั่งคดถี ึงท่สี ดุ 5. รวบรวมพยำนหลักฐำนและจัดทำคำฟ้องในฐำนะผู้ฟ้องคดีหรือคำให้กำรในฐำนะผู้ถูกฟ้องคดี ให้กับหน่วยงำนรำชกำรหรือเจ้ำหน้ำท่ีของรัฐ เพ่ือส่งศำลปกครอง และดำเนินกำรอ่ืนตำมกระบวน วธิ ีพิจำรณำคดจี นกระทงั่ ศำลปกครองมคี ำสั่งหรือคำพพิ ำกษำจนกระทง่ั คดีถงึ ทีส่ ุด 6. กำรบังคับคดีและกำรใช้มำตรกำรบังคับทำงปกครอง รวมถึงกำรสืบหำทรัพย์สินหรือ หลกั ทรัพย์ของลกู หนี้ตำมคำพพิ ำกษำเพ่อื กำรบงั คับคดีด้วย 7. แต่งตั้งคณะกรรมกำรเพื่อดำเนินกำรหำตัวผู้ต้องรับผิดทำงละเมิดรวมทั้งเรียกค่ำสินไหม ทดแทน กรณีเกิดควำมเสียหำยแก่ทำงรำชกำร ตำมพระรำชบัญญัติควำมรับผิดทำงละเมิดของเจ้ำหน้ำท่ี พ.ศ. 2539 รวมทั้งกำรใช้มำตรกำรบังคับทำงปกครอง ตำมพระรำชบัญญัติวิธีปฏิบัติรำชกำร ทำงปกครอง พ.ศ. 2539 และท่ีแกไ้ ขเพ่ิมเติม

7 8. กำรพิจำรณำเปิดเผยขอ้ มูลข่ำวสำรของรำชกำร รวมถึงกำรเข้ำตรวจดูและคัดสำเนำเอกสำร ตำมพระรำชบัญญัติข้อมูลข่ำวสำรของรำชกำร พ.ศ. 2540 หมายเหตุ : บทบำทอำนำจหนำ้ ทใี่ นเรื่องกำรดำเนินงำนวนิ ยั และกำรอทุ ธรณร์ ้องทุกข์ ตำมทีก่ ลำ่ วมำ ข้ำงต้นนน้ั เปน็ เรอื่ งเฉพำะของขำ้ รำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำเท่ำน้ัน ไมไ่ ด้ หมำยควำมรวมไปถงึ พนักงำน รำชกำร ลกู จ้ำงประจำ และลกู จ้ำงชว่ั ครำวทใ่ี ชร้ ะเบยี บ กฎหมำยแยกต่ำงหำก 6. Flow Chart การปฏิบัตงิ าน เร่ิมตน้ ให้คำแนะนำปรึกษำเกย่ี วกับ รบั เร่ืองจำกโรงเรยี น สพฐ. และหน่วยงำนอน่ื กฎหมำย ระเบยี บ และนติ กิ รรม ท่เี กีย่ วกับคดแี พง่ คดีอำญำ คดลี ม้ ละลำย และคดีปกครอง ผู้บงั คับบัญชำ พิจำรณำส่งั กำร พิจำรณำเปดิ เผย แต่งตั้งคณะกรรมกำร รวบรวมพยำนหลักฐำน/ รวบรวมพยำนหลักฐำน/ขอควำม ขอ้ มูลข่ำวสำร เพื่อหำตวั ผตู้ ้องรับผดิ จัดทำคำฟ้อง คำให้กำร และ อนเุ ครำะห์พนกั งำนอัยกำร ของรำชกำร ทำงละเมดิ รวมทง้ั วำ่ ตำ่ ง แกต้ ำ่ งคดแี ทน และ เรยี กคำ่ สนิ ไหมทดแทน ดำเนินกำรอื่นจนกว่ำ ดำเนนิ กำรอ่นื จนกว่ำคดแี พ่ง คดจี ะถึงท่สี ุด คดอี ำญำ คดลี ้มละลำย และ คดีปกครองจะถึงทส่ี ดุ บังคับคดีหรือใช้มำตรกำร บังคับทำงปกครอง ดว้ ยกำรสบื หำทรัพยส์ ิน หรือหลกั ทรพั ย์ของลกู หน้ี

8 7. แบบฟอรม์ ท่ีใช้ 1. แบบฟอร์มหนังสือมอบอำนำจ หรือใบแตง่ ทนำยควำม 2. แบบฟอร์มใบมอบฉนั ทะ 3. แบบพมิ พ์คำฟ้อง 4. แบบพมิ พ์คำใหก้ ำร คำให้กำรเพิ่มเตมิ 5. แบบพิมพ์คำอุทธรณ์ คำแกอ้ ุทธรณ์ ฎีกำ หรือแก้ฎีกำ 6. แบบฟอร์มคำร้องทว่ั ไป 7. แบบฟอร์มคำร้องเรยี กคำ่ สนิ ไหมทดแทน มำตรำ 44/1 (คดแี พ่งเกย่ี วเน่ืองคดีอำญำ) 8. เอกสารหลกั ฐานอ้างอิง 1. ประมวลกฎหมำยแพง่ และพำณิชย์ ประมวลกฎหมำยอำญำ 2. ประมวลกฎหมำยวธิ ีพจิ ำรณำควำมแพง่ / ประมวลกฎหมำยวิธพี ิจำรณำควำมอำญำ 3. พระรำชบญั ญัติลม้ ละลำย พุทธศกั รำช 2483 และทแ่ี ก้ไขเพมิ่ เติม 4. พระรำชบัญญัติจดั ต้ังศำลปกครองและวิธพี ิจำรณำคดปี กครอง พ.ศ. 2542 5. พระรำชบญั ญัตวิ ธิ ปี ฏบิ ตั ริ ำชกำรทำงปกครอง พ.ศ. 2539 และท่ีแก้ไขเพม่ิ เติม 6. พระรำชบัญญัตขิ ้อมลู ขำ่ วสำรของรำชกำร พ.ศ. 2540 7. พระรำชบัญญตั คิ วำมรบั ผิดทำงละเมดิ ของเจำ้ หน้ำท่ี พ.ศ. 2539 8. ระเบียบสำนักนำยกรัฐมนตรีวำ่ ด้วยหลกั เกณฑ์กำรปฏบิ ัติเก่ียวกบั ควำมรับผดิ ทำงละเมดิ ของเจ้ำหนำ้ ท่ี พ.ศ. 2539 9. พระรำชบัญญัติระเบียบบริหำรรำชกำรกระทรวงศึกษำธิกำร พ.ศ. 2545 และท่ีแก้ไขเพิ่มเติม 10. กฎหมำย กฎ ระเบียบ และหนังสอื เวียนอน่ื ที่เก่ียวข้อง

9 ประเภทเอกสาร : คู่มือข้นั ตอนการดาเนินงาน ชอื่ เอกสาร : การดาเนนิ งานวินัยขา้ ราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษา พนกั งานราชการ ลกู จ้างประจา ลูกจ้างช่ัวคราว

10 1. ช่ืองาน กำรดำเนินงำนวินยั ข้ำรำชกำรครแู ละบุคลำกรทำงกำรศึกษำ พนกั งำนรำชกำร ลูกจำ้ งประจำ ลูกจ้ำงชว่ั ครำว 2. วตั ถปุ ระสงค์ เพอื่ เปน็ แนวทำงสำหรบั นิติกรในกำรดำเนนิ งำนวินัยขำ้ รำชกำรครแู ละบุคลำกรทำงกำรศึกษำ สงั กดั สำนักงำนเขตพ้ืนท่กี ำรศึกษำประถมศึกษำ และสำนักงำนเขตพื้นทก่ี ำรศกึ ษำมัธยมศกึ ษำ 3. ขอบเขตของงาน ครอบคลุมตั้งแต่กำรส่งเสริมวินัยและป้องปรำมมิให้กระทำผิดให้แก่ข้ำรำชกำรครูและบุ คลำกร ทำงกำรศึกษำ ตลอดจนรับเรื่องร้องเรียน สืบสวนข้อเทวจจริง แต่งตั้งคณะกรรมกำรสอบสวนทำงวินัย ร้ำยแรงและไม่ร้ำยแรง กำรดำเนินกำรทำงวินัย รวมถึงกำรส่ังพักรำชกำรและกำรส่ังให้ออกจำกรำชกำร ไว้ก่อน ในกำรดำเนินกำรน้ี กล่ำวถึงเฉพำะในส่วนของข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ ตำมพระรำชบัญญัติระเบียบข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เท่ำน้ัน ไม่ได้หมำยควำมรวมไปถึงกำรดำเนินงำนวินัยของพนักงำนรำชกำร ลูกจ้ำงประจำ และลูกจ้ำง ชวั่ ครำว ท่ีใช้กฎหมำย ระเบยี บแยกต่ำงหำก 4. คาจากดั ความ 4.1 ผู้อำนวยกำรสำนักงำนเขตพ้ืนที่กำรศึกษำ หมำยถึง ผู้อำนวยกำรสำนักงำนเขตพื้นที่ กำรศึกษำประถมศึกษำ และผ้อู ำนวยกำรสำนักงำนเขตพนื้ ท่กี ำรศึกษำมธั ยมศกึ ษำ 4.2 อ.ก.ค.ศ. เขตพ้ืนที่กำรศึกษำ หมำยถึง อ.ก.ค.ศ. เขตพ้ืนท่ีกำรศึกษำประถมศึกษำ และ อ.ก.ค.ศ. เขตพ้ืนท่ีกำรศกึ ษำมธั ยมศกึ ษำ 4.3 ผู้มีอำนำจตำมมำตรำ 53 หมำยถึง ผู้มีอำนำจส่ังบรรจุและแต่งต้ังตำม มำตรำ 53 แห่ง พระรำชบัญญัติระเบยี บข้ำรำชกำรครแู ละบุคลำกรทำงกำรศึกษำ พ.ศ. 2547 และทแี่ ก้ไขเพ่ิมเติม 5. ข้นั ตอนการปฏบิ ตั ิงาน 5.1 กำรส่งเสริมวินยั ขำ้ รำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ 5.1.1 ให้คำแนะนำปรึกษำเก่ียวกบั วินัยและระเบยี บกฎหมำยแกข่ ำ้ รำชกำรครูและ บคุ ลำกรทำงกำรศึกษำในสังกัด 5.1.2 สง่ เสริมให้สถำนศึกษำในสังกัดมีกำรเสริมสร้ำงและพัฒนำวินยั ให้แก่ผู้ใตบ้ ังคับบัญชำ รวมทั้งกำรป้องกันไม่ให้ผูใ้ ต้บังคับบญั ชำกระทำผิดวนิ ยั ดว้ ย 5.1.3 จัดทำหรอื เผยแพรห่ นังสอื หรอื เอกสำรท่ีเก่ียวกบั วนิ ัยใหแ้ ก่สถำนศกึ ษำในสังกัด 5.2. กำรดำเนนิ กำรทำงวนิ ยั ไมร่ ้ำยแรงข้ำรำชกำรครแู ละบุคลำกรทำงกำรศึกษำ 5.2.1 เสนอแต่งตั้งคณะกรรมกำรสืบสวนขอ้ เทจว จรงิ เมอื่ มีกำรร้องเรียนหรอื ปรำกฏ เป็นข่ำวในสื่อมวลชน หรอื ได้รบั รำยงำนจำกหนว่ ยงำนอืน่ หรอื ผ้บู งั คบั บัญชำพบเหนว กำรกระทำผิด 5.2.2 ตรวจสำนวนกำรสืบสวนข้อเทวจจริง ถ้ำเป็นกรณีไม่มีมูลกวเสนอผู้บังคับบัญชำ ยุติเร่ือง แต่ถ้ำเป็นกรณีมีมูลเป็นควำมผิดวินัยไม่ร้ำยแรงกวเสนอให้ผู้บังคับบัญชำแต่งตั้งคณะกรรมกำร สอบสวนวินยั ไมร่ ้ำยแรง

11 5.2.3 คณะกรรมกำรดำเนินกำรสอบสวนตำมกฎ ก.ค.ศ. วำ่ ด้วยกำรสอบสวนพิจำรณำ พ.ศ. 2550 5.2.4 เสนอรำยงำนกำรสอบสวนตำมแบบ สว.6 พรอ้ มสำนวนกำรสอบสวน ใหผ้ ูส้ ง่ั แต่งต้ัง คณะกรรมกำรสอบสวนพิจำรณำ ถ้ำไม่ผิดวินัยให้ยุติเรื่อง แต่ถ้ำผิดวินัยให้ออกคำสั่งลงโทษทำงวินัย ตำมระเบียบ ก.ค.ศ. ว่ำด้วยวิธีกำรออกคำส่ังเก่ียวกับกำรลงโทษทำงวินัยข้ำรำชกำรครูและบุคลำกร ทำงกำรศึกษำ พ.ศ. 2548 ประกอบกับ กฎ ก.ค.ศ. ว่ำด้วยอำนำจกำรลงโทษภำคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน หรอื ลดเงนิ เดือน พ.ศ. 2561 5.2.5 รำยงำนกำรดำเนินกำรทำงวินัยตำมมำตรำ 104 (1) แห่งพระรำชบัญญัติระเบียบ ข้ำรำชกำรครแู ละคลำกรทำงกำรศึกษำ พ.ศ. 2547 และท่แี ก้ไขเพมิ่ เติม ดังน้ี 5.2.5.1 กรณีผู้อำนวยกำรสถำนศึกษำดำเนินกำรทำงวินัยตำมข้อ 1.4 แล้ว ใหต้ รวจเสนอรำยงำนผู้อำนวยกำรสำนักงำนเขตพน้ื ที่กำรศึกษำเพ่ือพิจำรณำ เมอ่ื ผูอ้ ำนวยกำรสำนักงำน เขตพ้ืนท่ีกำรศึกษำได้รับรำยงำนแล้วเหวนว่ำกำรยุติเร่ือง กำรงดโทษ หรือกำรสั่งลงโทษไม่ถูกต้องหรือไม่ เหมำะสม กวมีอำนำจส่ังงดโทษ ลดโทษ เพ่ิมโทษ หรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อควำมในคำสั่งเดิมได้ และ หำกเหนว วำ่ กรณีเป็นกำรกระทำผิดวินัยอย่ำงร้ำยแรง กวมีอำนำจหรือแจ้งผู้มีอำนำจตำมมำตรำ53 แต่งต้ัง คณะกรรมกำรสอบสวนวินัยอย่ำงร้ำยแรงได้ เม่ือผู้อำนวยกำรสำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำได้พิจำรณำ ตำมอำนำจหน้ำท่แี ล้ว ใหเ้ สนอหรือรำยงำน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นท่ีกำรศึกษำพิจำรณำ เม่ือ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นท่ี กำรศกึ ษำพจิ ำรณำมีมติเป็นประกำรใด ใหผ้ ู้มีอำนำจตำมมำตรำ 53 หรือผู้อำนวยกำรสำนักงำนเขตพ้ืนท่ี กำรศึกษำดำเนนิ ไปตำมนัน้ แล้วรำยงำนกำรดำเนินกำรทำงวนิ ัยพรอ้ มสำนวนกำรสอบสวนไปยังสำนักงำน คณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพ้ืนฐำนเพื่อพิจำรณำ หำกสำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำข้ันพ้ืนฐำน มีควำมเหวนแย้งกับมติ อ.ก.ค.ศ. เขตพ้ืนที่กำรศึกษำ กวให้รำยงำนไปยัง ก.ค.ศ. เพื่อพิจำรณำต่อไป ถ้ำ ก.ค.ศ. เหวนด้วยกับมติ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นท่ีกำรศึกษำ กวถือว่ำกำรดำเนินกำรทำงวินัยกรณีน้ีสิ้นสุด ถ้ำ ก.ค.ศ. มีมติเปล่ียนแปลงกำรลงโทษหรือมีควำมเหวนเป็นประกำรใด ผู้มีอำนำจตำมมำตรำ 53 หรือ ผอู้ ำนวยกำรสำนักงำนเขตพน้ื ท่ีกำรศึกษำ ต้องดำเนนิ กำรให้เปน็ ไปตำมมติน้นั 5.2.5.2 กรณีผู้อำนวยกำรสำนักงำนเขตพ้ืนท่ีกำรศึกษำดำเนินกำรทำงวินัยตำม ข้อ 1.4 เองแล้วให้รำยงำน อ.ก.ค.ศ. เขตพ้ืนที่กำรศึกษำพิจำรณำ เมื่อ อ.ก.ค.ศ. เขตพ้ืนที่กำรศึกษำ พิจำรณำมีมติเป็นประกำรใด ให้ผู้อำนวยกำรสำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำดำเนินกำรไปตำมน้ัน แล้วรำยงำนกำรดำเนินกำรทำงวินัยพร้อมสำนวนกำรสอบสวนไปยังสำ นักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำ ขั้นพ้ืนฐำนเพ่ือพิจำรณำ หำกสำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำข้ันพ้ืนฐำนมีควำมเหวนแย้งกับมติ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นท่ีกำรศึกษำ ให้รำยงำนไปยัง ก.ค.ศ. เพ่ือพิจำรณำต่อไป ถ้ำ ก.ค.ศ. เหวนด้วยกับมติ อ.ก.ค.ศ. เขตพ้ืนที่กำรศึกษำ กวถือว่ำกำรดำเนินกำรทำงวินัยกรณีท่ีส้ินสุด ถ้ำ ก.ค.ศ. มีมติเปล่ียนแปลง กำรลงโทษหรอื มีควำมเหนว เป็นประกำรใด ผูม้ อี ำนำจตำมมำตรำ 53 หรือผู้อำนวยกำรสำนักงำนเขตพื้นท่ี กำรศกึ ษำ ตอ้ งดำเนนิ กำรให้เปน็ ไปตำมมติน้นั 5.3 กำรดำเนินกำรทำงวินัยอยำ่ งร้ำยแรงข้ำรำชกำรครูและบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ 5.3.1 เสนอแต่งต้ังคณะกรรมกำรสืบสวนข้อเทวจจริง เมื่อมีกำรร้องเรียน หรือปรำกฏ เปน็ ขำ่ วในส่ือมวลชนหรอื ได้รับรำยงำนจำกหนว่ ยงำนอ่ืน หรือผู้บงั คับบญั ชำพบเหนว กำรกระทำผดิ 5.3.2 ตรวจสำนวนกำรสืบสวนข้อเทวจจริง ถ้ำเป็นกรณีไม่มีมูลกวเสนอผู้บังคับบัญชำ ยุติเรื่อง แต่ถ้ำเป็นกรณีมีมูลเป็นควำมผิดวินัยอย่ำงร้ำยแรง กวเสนอให้ผู้มีอำนำจส่ังบรรจุและแต่งต้ัง ตำมมำตรำ 53 แต่งตง้ั คณะกรรมกำรสอบสวนวินยั อย่ำงรำ้ ยแรง

12 5.3.3 คณะกรรมกำรดำเนนิ กำรสอบสวนตำมกฎ ก.ค.ศ.ว่ำด้วยกำรสอบสวนพิจำรณำ พ.ศ. 2550 5.3.4 เสนอรำยงำนกำรสอบสวนตำมแบบ สว.6 พร้อมสำนวนกำรสอบสวนให้ ผ้สู ่ังแต่งต้งั คณะกรรมกำรสอบสวนพจิ ำรณำ ถำ้ ไม่ผิดวินยั กวให้ยตุ เิ รอื่ ง แต่ถำ้ ผิดวนิ ัยกวให้ดำเนนิ กำร ดงั นี้ 5.3.4.1 ในกรณีท่ีคณะกรรมกำรสอบสวนและผู้สั่งแต่งต้ังคณะกรรมกำรสอบสวน มีควำมเหวนพ้องกันในระดับโทษไม่ร้ำยแรง (ภำคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน หรือลดเงินเดือน) ให้ผู้สั่งแต่งต้ัง คณะกรรมกำรหรือผู้มีอำนำจตำมมำตรำ 53 ออกคำส่ังลงโทษให้เป็นไปตำมกฎ ก.ค.ศ. ว่ำด้วยอำนำจ กำรลงโทษภำคทณั ฑ์ ตดั เงนิ เดอื น หรอื ลดข้ันเงินเดือน พ.ศ. 2561 ประกอบกับระเบียบ ก.ค.ศ. ว่ำด้วย วิธีกำรออกคำส่ังเกี่ยวกับกำรลงโทษทำงวินัยข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ พ.ศ. 2548 จำกน้ันรำยงำนให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพ้ืนท่ีกำรศึกษำพิจำรณำ ในกรณีที่ อ.ก.ค.ศ.เขตพ้ืนที่กำรศึกษำมีมติ ประกำรใด ให้ผบู้ งั คับบญั ชำหรือผมู้ อี ำนำจตำมมำตรำ 53 สง่ั หรอื ปฏบิ ตั ิไปตำมมติน้ัน 5.3.4.2 ในกรณีที่คณะกรรมกำรสอบสวนและผู้ส่ังแต่งต้ังคณะกรรมกำรสอบสวน มีควำมเหวนในระดับโทษแย้งหรือต่ำงกันระดับโทษร้ำยแรงกับระดับโทษไม่ร้ำยแรง ให้นำเสนอ อ.ก.ค.ศ. เขตพ้ืนที่กำรศึกษำพิจำรณำควำมผิดและกำหนดโทษ เมื่อ อ.ก.ค.ศ. เขตพ้ืนที่กำรศึกษำมีมติเป็นประกำรใด ให้ผสู้ ัง่ แตง่ ตั้งคณะกรรมกำรสอบสวนหรอื ผู้มีอำนำจตำมมำตรำ 53 ส่งั หรอื ปฏิบัติให้เป็นไปตำมมตินนั้ 5.3.4.3 ในกรณีท่ีคณะกรรมกำรสอบสวนและผู้ส่ังแต่งตั้งคณะกรรมกำรสอบสวน มีควำมเหวนพ้องกันในระดับโทษว่ำเป็นควำมผิดวินัยอย่ำงร้ำยแรง ให้นำเสนอ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่ กำรศึกษำพิจำรณำควำมผิดและกำหนดโทษ เม่ือ อ.ก.ค.ศ. เขตพ้ืนที่กำรศึกษำมีมติเป็นประกำรใด ใหผ้ ู้สงั่ แต่งตัง้ คณะกรรมกำรสอบสวนหรอื ผมู้ ีอำนำจตำมมำตรำ 53 ส่งั หรือปฏิบัตใิ หเ้ ป็นไปตำมมตินั้น 5.3.5 รำยงำนกำรดำเนินงำนวินยั พรอ้ มสำนวนกำรสอบสวนให้ ก.ค.ศ. พิจำรณำ ตำม มำตรำ 104 (2) แห่งพระรำชบญั ญตั ิระเบยี บขำ้ รำชกำรครูและบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ พ.ศ. 2547 และ ท่ีแกไ้ ขเพม่ิ เตมิ 5.4. กำรสง่ั พกั รำชกำร 5.4.1 เมื่อมีกำรแต่งต้ังคณะกรรมกำรสอบสวนวินัยอย่ำงร้ำยแรงข้ำรำชกำรครูและ บุคลำกรทำงกำรศึกษำหรือมีกรณีถูกฟ้องคดีอำญำ หรือต้องหำว่ำกระทำผิดอำญำ และมีเหตุตำม กฎ ก.ค.ศ. ว่ำด้วยกำรส่ังพักรำชกำรและกำรส่ังให้ออกจำกรำชกำรไว้ก่อน พ.ศ. 2555 เช่น ถ้ำให้คงอยู่ ในหน้ำที่รำชกำรจะทำใหก้ ำรสอบสวนพิจำรณำไม่ได้ควำมจริง หรือจะก่อให้เกิดควำมไม่สงบเรียบร้อยข้ึน ฯลฯ แลว้ แตก่ รณี 5.4.2 ผ้มู อี ำนำจตำมมำตรำ 53 ออกคำสงั่ พกั รำชกำรครแู ละบุคลำกรทำงกำรศกึ ษำ เพ่อื รอฟังผลกำรสอบสวนพิจำรณำ 5.5 กำรสงั่ ใหอ้ อกจำกรำชกำรไวก้ ่อน 5.5.1 เม่ือมีกำรแต่งตั้งคณะกรรมกำรสอบสวนวินัยอย่ำงร้ำยแรงข้ำรำชกำรครูและ บุคลำกรทำงกำรศึกษำหรือมีกรณีถูกฟ้องคดีอำญำ หรือต้องหำว่ำกระทำผิดอำญำ ซ่ึงเป็นเหตุที่อำจ ถกู สงั่ พักรำชกำรตำมข้อ 3 และผู้มอี ำนำจตำมมำตรำ 53 พิจำรณำแลว้ เหวนวำ่ กำรสอบสวนพิจำรณำหรือ กำรพจิ ำรณำคดีทีเ่ ปน็ เหตุท่ีอำจถูกสงั่ พักรำชกำรนั้นจะไม่แลว้ เสรวจโดยเรวว 5.5.2 ผูม้ อี ำนำจตำมมำตรำ 53 ออกคำสงั่ ให้ขำ้ รำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศกึ ษำ ออกจำกรำชกำรไวก้ อ่ นเพื่อรอฟังผลกำรสอบสวนพจิ ำรณำ

13 6. Flow Chart การปฏิบตั ิงาน เร่มิ ตน้ ส่งเสรมิ วนิ ัยขำ้ รำชกำรครู มกี รณกี ลำ่ วหำ โดยกำรร้องเรยี น เปน็ ขำ่ วทำงสื่อมวลชน และบุคลำกรทำงกำรศึกษำ ผู้บังคบั บัญชำพบเหนว หรือไดร้ บั รำยงำนจำกหน่วยงำนอื่น แต่งตงั้ คณะกรรมกำรสืบสวนข้อเทจว จริง มมี ลู ไม่มี แตง่ ต้ังคณะกรรมกำรสอบสวนวนิ ยั รำ้ ยแรง แตง่ ต้ังคณะกรรมกำรสอบสวนวินยั ไมร่ ำ้ ยแรง มลู ยตุ เิ รื่อง พกั รำชกำร ใหอ้ อกจำกรำชกำรไว้กอ่ น ผู้บังคบั บัญชำสง่ั ตำมอำนำจหน้ำที่ ผู้มีอำนำจตำมมำตรำ 53 พจิ ำรณำสำนวน ผิดวินัย ไม่ผดิ วินัย ยุตเิ ร่อื ง รำยงำนตำมมำตรำ ๑๐๔ (๑) อ.ก.ค.ศ. พจิ ำรณำ เหนว พอ้ งในระดบั เหนว แย้งกัน เหวนพอ้ งในระดับ สพฐ. พจิ ำรณำ โทษไม่รำ้ ยแรง ในระดับโทษ โทษรำ้ ยแรง ผูม้ ีอำนำจ อ.ก.ค.ศ. ส่ังลงโทษ พิจำรณำ ผ้มู อี ำนำจส่งั หรือปฏิบตั ติ ำมมติ กรณเี หนว แย้งกับมติ อ.ก.ค.ศ. กรณเี หนว ดว้ ยกับมติ อ.ก.ค.ศ. รำยงำนตำมมำตรำ ๑๐๔ (2) ก.ค.ศ. พิจำรณำ (วนิ ยั สน้ิ สดุ ) ก.ค.ศ. พจิ ำรณำ วินยั ส้ินสดุ วินยั สิน้ สดุ

14 7. แบบฟอรม์ ทีใ่ ช้ 7.1 แบบ สว.1 (แต่งต้งั คณะกรรมกำรกำรสอบสวนวนิ ัยไม่ร้ำยแรง/รำ้ ยแรง) 7.2 แบบ สว.2 (บนั ทึกกำรแจง้ และรับทรำบข้อกล่ำวหำ ตำมข้อ 23) 7.3 แบบ สว.3 (บนั ทึกกำรแจง้ และรบั ทรำบขอ้ กลำ่ วหำและสรปุ พยำนหลักฐำนท่ีสนบั สนุน ข้อกลำ่ วหำ ตำมข้อ 24) 7.4 แบบ สว.4 (บนั ทกึ ถ้อยคำของผู้ถกู กล่ำวหำ) 7.5 แบบ สว.5 (บันทึกถอ้ ยคำพยำนของฝ่ำยกลำ่ วหำ /ฝำ่ ยผูถ้ ูกกลำ่ วหำ) 7.6 แบบ สว.6 (รำยงำนกำรสอบสวน) 7.7 แบบ พอค.1 (ให้พักรำชกำร) 7.8 แบบ พอค.2 (ให้ออกจำกรำชกำรไว้ก่อน) 7.9 แบบ พอค 3 (ให้กลบั โดยไม่มีควำมผดิ ) 7.10 แบบ พอด.4 (ให้กลบั โดยมีควำมผิด) 7.11 แบบฟอร์มอ่ืนที่เกี่ยวข้อง 8. เอกสาร/หลักฐานอา้ งอิง 8.1 พระรำชบัญญัติระเบียบข้ำรำชกำรครูและบุลำกรทำงกำรศึกษำ พ.ศ. 2547 และ ท่แี ก้ไขเพมิ่ เติม 8.2 กฎ ก.ค.ศ. วำ่ ด้วยกำรสอบสวนพจิ ำรณำ พ.ศ. 2550 8.3 กฎ ก.ค.ศ. วำ่ ด้วยกรณคี วำมผิดท่ีปรำกฏชดั แจง้ พ.ศ. 2549 8.4 กฎ ก.ค.ศ. ว่ำด้วยอำนำจกำรลงโทษภำคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน หรือลดขั้นเงินเดือน พ.ศ. 2561 8.5 ระเบียบ ก.ค.ศ. ว่ำด้วยวิธีกำรออกคำส่ังเก่ียวกับกำรลงโทษทำงวินัยข้ำรำชกำรครูและ บคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ พ.ศ. 2548 8.6 ระเบียบ ก.ค.ศ. ว่ำด้วยวันออกจำกรำชกำรของข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ พ.ศ. 2548 8.7 ระเบียบ ก.ค.ศ. ว่ำด้วยกำรรำยงำนกำรดำเนินกำรทำงวินัยและกำรออกจำกรำชกำรของ ขำ้ รำชกำรครูและบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำ พ.ศ. 2561 8.8 กฎ ก.ค.ศ. วำ่ ดว้ ยกำรส่งั พกั รำชกำรและกำรส่ังให้ออกจำกรำชกำรไว้กอ่ น พ.ศ. 2555 8.9 กฎหมำย กฎ ระเบยี บ และหนังสอื เวยี นอื่นท่ีเกยี่ วขอ้ ง

15 ประเภทเอกสาร : คูม่ ือขน้ั ตอนการดาเนินงาน ชอ่ื เอกสาร : การอุทธรณแ์ ละร้องทุกข์

16 1. ชอื่ งาน กำรอทุ ธรณ์และร้องทุกข์ 2. วัตถปุ ระสงค์ เพ่ือเป็นแนวทำงสำหรับนิติกรในกำรดำเนินงำนอุทธรณ์และร้องทุกข์ของข้ำรำชกำครู และ บุคลำกรทำงกำรศึกษำ สังกัดสำนักงำนเขตพ้ืนที่กำรศึกษำประถมศึกษำ และสำนักงำนเขตพื้นท่ี กำรศึกษำมัธยมศึกษำ 3. ขอบเขตของงาน ครอบคลุมตั้งแต่กำรรับเร่ืองอุทธรณ์และร้องทุกข์ของข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ ตลอดจนกำรดำเนินกำรแจ้งผลให้ทรำบกำรอุทธรณ์และกำรร้องทุกข์ กล่ำวถึงเฉพำะในส่วนของ ข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ ตำมพระรำชบัญญัติระเบียบข้ำรำชกำรครูและบุคลำกร ทำงกำรศึกษำ พ.ศ. 2547 และท่ีแก้ไขเพิ่มเติม เท่ำน้ัน ไม่ได้หมำยควำมรวมไปถึงกำรอุทธรณ์และ กำรรอ้ งทกุ ขข์ องพนักงำนรำชกำรลูกจำ้ งประจำและลูกจ้ำงช่ัวครำว ท่ใี ช้กฎหมำย ระเบียบแยกต่ำงหำก 4. คาจากดั ความ 4.1 สำนักงำนเขตพื้นท่ีกำรศึกษำ หมำยถึง สำนักงำนเขตพ้ืนที่กำรศึกษำประถมศึกษำ และ สำนักงำนเขตพืน้ ทกี่ ำรศกึ ษำมธั ยมศกึ ษำ 4.2 ผู้อำนวยกำรสำนักงำนเขตพ้ืนที่กำรศึกษำ หมำยถึง ผู้อำนวยกำรสำนักงำนเขตพ้ืนท่ี กำรศึกษำประถมศกึ ษำ และ ผ้อู ำนวยกำรสำนกั งำนเขตพน้ื ท่ีกำรศึกษำมธั ยมศกึ ษำ 4.3 อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นท่ีกำรศึกษำ หมำยถึง อ.ก.ค.ศ. เขตพ้ืนที่กำรศึกษำประถมศึกษำ และ อ.ก.ค.ศ. เขตพืน้ ทกี่ ำรศกึ ษำมัธยมศึกษำ 4.3 ผู้มีอำนำจตำมมำตรำ 53 หมำยถึง ผู้มีอำนำจสั่งบรรจุและแต่งต้ังตำมมำตรำ 53 แห่ง พระรำชบญั ญัติระเบยี บข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ พ.ศ. 2547 และทแ่ี กไ้ ขเพ่มิ เตมิ 5. ขั้นตอนการปฏิบัติงาน 5.1 การอุทธรณ์ 5.1.1 รับเรื่องอุทธรณ์คำส่ังลงโทษของข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ ผู้ท่ีถูกผู้อำนวยกำรสำนักงำนเขตพ้ืนท่ีกำรศึกษำ หรือผู้อำนวยกำรสถำนศึกษำ ลงโทษภำคทัณฑ์ ตดั เงนิ เดือน หรือลดเงินเดอื น 5.1.2 ตรวจพิจำรณำหนังสืออุทธรณ์ว่ำเข้ำข่ำยท่ีจะรับไว้พิจำรณำ ตำมกฎ ก.ค.ศ. ว่ำด้วยกำรอุทธรณ์และกำรพิจำรณำอุทธรณ์ พ.ศ. 2550 หรือไม่ เช่น อุทธรณ์คำสั่งลงโทษภำยใน 30 วนั นบั แต่วันที่ไดร้ บั แจ้งคำสัง่ หรือไม่ อทุ ธรณ์คำส่ังเพ่ือตนเองหรือมีผ้อู ืน่ อุทธรณ์คำส่ังแทน ฯลฯ 5.1.3 เสนอรำยงำนกำรอุทธรณ์ให้ อ.ก.ค.ศ. เขตพืน้ ทก่ี ำรศึกษำ พจิ ำรณำ 5.1.3.1 ถ้ำผู้อ่ืนอุทธรณ์แทนผู้ถูกลงโทษ หรืออุทธรณ์นั้นไม่ได้ทำเป็นหนังสือ และลงลำยมือชื่อของผู้ถูกลงโทษ หรือไม่ได้ย่ืนอุทธรณ์ภำยใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง ตำมข้อ 3 ข้อ 4 และข้อ 9 แห่งกฎ ก.ค.ศ. ว่ำด้วยกำรอุทธรณ์และกำรพิจำรณำอุทธรณ์ พ.ศ. 2550 อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นท่ีกำรศึกษำ จะมีมติไม่รับอุทธรณ์คำสั่งลงโทษนั้นไว้พิจำรณำ กรณีน้ีให้แจ้งมติดังกล่ำว พร้อมสทิ ธิในกำรฟ้องคดตี ่อศำลปกครองใหผ้ ู้อุทธรณ์ทรำบเป็นหนงั สือโดยเรวว

17 5.1.3.2 กรณีอุทธรณ์ถูกต้องและรับเร่ืองไว้พิจำรณำน้ัน อ.ก.ค.ศ. เขตพ้ืนที่ กำรศึกษำจะพิจำรณำมีมติตำมข้อ 14 แห่งกฎ ก.ค.ศ. ว่ำด้วยกำรอุทธรณ์และกำรพิจำรณำอุทธรณ์ พ.ศ. 2550 เม่ือมีมติแล้วให้ผู้มีอำนำจตำมมำตรำ 53 สั่งหรือปฏิบัติให้เป็นไปตำมมตินั้น และเม่ือได้สั่ง หรือปฏิบัติตำมมติแล้ว กวให้แจ้งผู้อุทธรณ์ทรำบซึ่งผู้อุทธรณ์จะอุทธรณ์ต่อไปอีกไม่ได้ เว้นแต่จะเป็นกรณี มีกำรเพิ่มโทษเป็นโทษปลดออกหรือไล่ออกจำกรำชกำร เช่นน้ีแล้วผู้อุทธรณ์มีสิทธิอุทธรณ์ต่อ ก.ค.ศ. ได้อีกชนั้ หนง่ึ 5.1.4 กรณีมีกำรอุทธรณ์คำสั่งลงโทษปลดออกหรือไล่ออกจำกรำชกำร หรือ กรณีอุทธรณ์คำสั่งลงโทษภำคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน หรือลดเงินเดือนของผู้บังคับบัญชำซึ่งสั่งตำมมติของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่กำรศึกษำให้เสนอ ก.ค.ศ. พิจำรณำตำมมำตรำ 122 แห่งพระรำชบัญญัติระเบียบ ข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ พ.ศ. 2547 และท่ีแก้ไขเพิ่มเติม ประกอบกับกฎ ก.ค.ศ. ว่ำด้วยกำรอุทธรณ์และพิจำรณำ พ.ศ. 2550 เมื่อ ก.ค.ศ. มีมติเป็นประกำรใด จะอุทธรณ์ต่อไปอีกไม่ได้ และให้ผู้มีอำนำจตำมมำตรำ 53 สั่งหรือปฏิบัติให้เป็นไปตำมมติน้ัน กรณีนี้ให้แจ้งผู้อุทธรณ์ทรำบ พร้อมสิทธฟิ ้องคดีตอ่ ศำลปกครองด้วย 5.2 การร้องทุกข์ 5.2.1 รบั เรือ่ งร้องทกุ ข์ของข้ำรำชกำรครแู ละบุคลำกรทำงกำรศึกษำผู้ทเ่ี หนว ว่ำตนไม่ได้ รบั ควำมเป็นธรรมหรือมีควำมคับขอ้ งใจเน่ืองจำกกำรกระทำของผ้บู ังคับบญั ชำ หรอื ถกู แตง่ ต้งั คณะกรรมกำรสอบสวนทำงวินยั 5.2.2 ตรวจพิจำรณำหนังสือร้องทุกข์ว่ำเข้ำข่ำยท่ีจะรับไว้พิจำรณำ ตำมกฎ ก.ค.ศ. ว่ำด้วยกำรอุทธรณ์และกำรพิจำรณำอุทธรณ์ พ.ศ. 2550 หรือไม่ เช่น ร้องทุกข์ภำยใน 30 วัน นับแต่ วนั ทีไ่ ด้รับแจง้ คำสง่ั หรือไม่ รอ้ งทกุ ขเ์ พือ่ ตนเองหรอื ร้องทุกข์แทนผอู้ นื่ ฯลฯ 5.2.3 สำนักงำนเขตพ้ืนที่กำรศึกษำมีหนังสือแจ้งพร้อมส่งสำเนำหนังสือร้องทุกข์ให้ ผู้บังคับบัญชำผู้เป็นต้นเหตุแห่งกำรร้องทุกข์ทรำบโดยเรวว เพื่อที่ผู้บังคับบัญชำน้ันจัดส่งเอกสำรหลักฐำน พร้อมคำชแี้ จงเพือ่ ประกอบกำรพจิ ำรณำของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นท่กี ำรศึกษำ หรอื ก.ค.ศ. แลว้ แต่กรณี 5.2.4 เสนอรำยงำนกำรร้องทุกขใ์ ห้ อ.ก.ค.ศ. เขตพนื้ ที่กำรศกึ ษำ พิจำรณำ 5.2.4.1 ถ้ำเหวนว่ำกำรร้องทุกข์ไม่ได้ทำเป็นหนังสือย่ืนภำยใน 30 วัน นับแต่ วันที่ทรำบเร่ืองอันเป็นเหตุแห่งกำรร้องทุกข์ หรือมีผู้ร้องทุกข์แทน ตำมข้อ 5 วรรคหนึ่ง หรือวรรคสอง และข้อ 7 แห่งกฎ ก.ค.ศ. ว่ำด้วยกำรร้องทุกข์และกำรพิจำรณำร้องทุกข์ พ.ศ. 2551 ให้มีมติไม่รับ คำรอ้ งทกุ ขไ์ วพ้ ิจำรณำ จำกน้นั มีหนังสอื แจ้งใหผ้ ้รู ้องทกุ ข์ทรำบโดยเรวว 5.2.4.2 ถ้ำเหวนว่ำกำรร้องทุกข์ถูกต้อง ให้มีมติตำมข้อ 14 แห่งกฎ ก.ค.ศ. ว่ำด้วยกำรร้องทุกข์และกำรพิจำรณำร้องทุกข์ พ.ศ. 2551 เม่ือมีมติเป็นประกำรใด ให้ผู้มีอำนำจตำม มำตรำ 53 ส่ังหรือปฏิบัติให้เป็นไปตำมนั้น และเมื่อได้สั่งหรือปฏิบัติตำมมติน้ันแล้ว ให้แจ้งผู้ร้องทุกข์ ทรำบเป็นหนงั สือพรอ้ มสทิ ธฟิ ้องคดีต่อศำลปกครองโดยเรวว 5.2.5 กรณีมีผู้ร้องทุกข์เพรำะเหตุถูกสั่งให้ออกจำกรำชกำร ถูกสั่งพักรำชกำร ถูกส่ังให้ ออกจำกรำชกำรไว้ก่อน หรือเหวนว่ำคำสั่งของผู้บังคับบัญชำซ่ึงส่ังตำมมติ อ.ก.ค.ศ. เขตพ้ืนที่กำรศึกษำ ไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นธรรม ให้เสนอ ก.ค.ศ. พิจำรณำตำมมำตรำ 122 และมำตรำ 123 แห่ง พระรำชบัญญัติระเบียบข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประกอบกับ กฎ ก.ค.ศ. ว่ำด้วยกำรร้องทุกข์และกำรพิจำรณำร้องทุกข์ พ.ศ. 2551 เม่ือ ก.ค.ศ. มีมติ เป็นประกำรใด ให้ผู้มีอำนำจตำมมำตรำ 53 สั่งหรือปฏิบัติให้เป็นไปตำมนั้น และเมื่อส่ังหรือปฏิบัติ ตำมมตนิ ัน้ แลว้ ให้แจง้ ผ้รู อ้ งทกุ ขท์ รำบเป็นหนงั สอื พร้อมสทิ ธฟิ อ้ งคดตี ่อศำลปกครองโดยเรวว

18 6. Flow Chart กำรปฏิบตั ิงำน 6.1 งำนอทุ ธรณ์ เริม่ ตน้ ขำ้ รำชกำรครฯู ถกู สงั่ ลงโทษทำงวนิ ยั อทุ ธรณ์ ถกู ลงโทษภำคทัณฑ์ ตดั เงนิ เดือน ถูกลงโทษไล่ออก ปลดออก หรือภำคทณั ฑ์ ตดั เงนิ เดือน หรือลดเงนิ เดอื น ลดเงนิ เดือน ซงึ่ ผู้บงั คับบญั ชำสงั่ ตำมมติ ก.ค.ศ. อ.ก.ค.ศ. ผู้อทุ ธรณม์ ีสิทธิ ก.ค.ศ. พจิ ำรณำ พจิ ำรณำ อทุ ธรณไ์ ดอ้ กี ชัน้ หน่ึง (มติเปน็ ทส่ี ดุ ) แจ้งผมู้ อี ำนำจตำมมำตรำ 53 กรณที ี่มีกำรเพ่ิมโทษเป็น แจ้งผู้มีอำนำจตำมมำตรำ 53 สงั่ หรอื ปฏิบตั ติ ำมมติ ไล่ออก หรือปลดออก สั่งหรือปฏิบตั ติ ำมมติ แจ้งผู้อุทธรณ์ทรำบ พร้อมแจ้ง แจ้งผู้อทุ ธรณ์ทรำบ พรอ้ มแจ้ง สิทธิฟอ้ งคดีต่อศำลปกครอง สิทธิฟอ้ งคดีต่อศำลปกครอง

19 6.2 งำนรอ้ งทกุ ข์ เรมิ่ ต้น ข้ำรำชกำรครเู หนว วำ่ ตนไมไ่ ด้รบั ควำมเป็นธรรมหรอื มีควำมคบั ข้องใจเนื่องจำกกำรกระทำของผูบ้ งั คบั บัญชำ รอ้ งทุกข์ เหวนว่ำตนไม่ไดร้ บั ควำมเป็นธรรม ถูกสง่ั ใหอ้ อกจำกรำชกำร ถกู สั่งพกั รำชกำร หรอื มคี วำมคบั ข้องใจเน่ืองจำก ถูกส่งั ใหอ้ อกจำกรำชกำรไว้กอ่ น หรอื เหนว วำ่ กำรกระทำของผู้บังคบั บญั ชำ หรอื คำสงั่ ของผบู้ ังคบั บัญชำซ่งึ ส่ังตำมมติ อ.ก.ค.ศ. ถกู แตง่ ต้ังคณะกรรมกำรสอบสวน ทำงวินยั ไม่ถูกต้องหรือไมเ่ ป็นธรรม แจง้ ผู้บงั คบั บัญชำผเู้ ป็นตน้ เหตุแหง่ กำรรอ้ งทุกข์ แจ้งผบู้ งั คบั บญั ชำผเู้ ปน็ ต้นเหตุแหง่ กำรร้องทกุ ข์ทรำบเพ่ือ ทรำบเพอื่ ใหจ้ ดั ส่งเอกสำรหลกั ฐำนพรอ้ มคำช้แี จง ให้จัดส่งเอกสำรหลักฐำนพร้อมคำช้แี จงประกอบกำรพจิ ำรณำ ประกอบกำรพิจำรณำ ก.ค.ศ. พจิ ำรณำ (มติเปน็ ทีส่ ดุ ) อ.ก.ค.ศ. พิจำรณำ (มตเิ ปน็ ที่สดุ ) แจง้ ผู้มอี ำนำจตำมมำตรำ 53 สั่งหรือปฏิบตั ติ ำมมติ แจง้ ผรู้ อ้ งทกุ ข์ทรำบ พรอ้ มแจง้ สิทธฟิ ้องคดีตอ่ ศำลปกครอง

20 7. แบบฟอร์มท่ใี ช้ – 8. เอกสารหลักฐานอ้างอิง 8.1 พระรำชบญั ญตั ริ ะเบยี บข้ำรำชกำรครแู ละบุคลำกรทำงกำรศึกษำ พ.ศ. 2547 และ ที่แก้ไขเพิ่มเติม 8.2 กฎ ก.ค.ศ. วำ่ ด้วยกำรอุทธรณแ์ ละกำรพิจำรณำอุทธรณ์ พ.ศ. 2550 8.3 กฎ ก.ค.ศ. ว่ำด้วยกำรรอ้ งทกุ ข์และกำรพจิ ำรณำกำรร้องทุกข์ พ.ศ. 2551 8.4 กฎหมำย กฎ ระเบียบ และหนังสือเวยี นอ่ืนทเี่ กี่ยวข้อง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook