ilovepdf_merged

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาฟิ สิกส์ บรู ณาการคุณธรรมอัตลักษณ์ ปี การศึกษา 2563

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 8 รายวชิ าฟสิ กิ ส์ รหัสวชิ า ว 33202 กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2563 หนว่ ยการเรยี นรู้ เรื่อง ฟิสกิ ส์นิวเคลียร์ การเรียนรูย้ ่อย เรอื่ ง ครึง่ ชีวิต เวลา 4 ชั่วโมง ผลการเรียนรู้ 18. สำรวจ ตรวจสอบ วเิ คราะหเ์ ก่ียวกับปรากฏการณ์กัมมันตภาพรงั สี จุดประสงค์การเรยี นรู้ ด้านความรู้ (K) 1. บอกความหมายของค่าคงตัวการสลาย กมั มันตภาพ ครึ่งชีวติ ได้ 2. บอกความสัมพันธร์ ะหว่างจำนวนนิวเคลียสของธาตุกมั มันตรังสเี รมิ่ ต้นทเี่ วลา t=0,จำนวน นิวเคลียสของธาตกุ ัมมนั ตรังสีท่เี หลือ ค่าคงตัวการสลาย  และค่ากัมมนั ตภาพ A ไดแ้ ละใช้ ความสัมพันธ์ดงั กล่าวหาปริมาณทีเ่ ก่ยี วข้องได้ 3. บอกความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งครึง่ ชีวติ กบั ค่าคงตัวการสลายและหาปรมิ าณดังกล่าวได้ ด้านกระบวนการ (P) ปฏิบัตกิ ารทดลองตามกจิ กรรมท่ี 20.2 สถานการณจ์ ำลองครึง่ ชีวิต ได้ ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (A) ซือ่ สัตย์สจุ ริต ด้านจติ วทิ ยาศาสตร์(A) ความรอบคอบ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการคดิ คุณธรรมอตั ลักษณ์ของสถานศึกษา ความพอเพยี ง เนอื้ หา กฎการสลายตวั ของธาตกุ มั มันตรังสี 1. สมมตฐิ านการสลายตวั ของธาตุกมั มันตรังสี ของรัทเทอร์ฟอรด์ และซอดดี (Soddy) กลา่ วว่า 1.1 การสลายตัวของธาตุกัมมันตรังสีเป็นการสลายตัวที่เกิดขึ้นเอง โดยไม่ข้ึนกับสภาวะ แวดล้อมของนวิ เคลียส (เช่น การจัดตวั ของอเิ ล็กตรอน ความดนั อุณหภูมิ) 1.2 การสลายตัวเป็นกระบวนการสมุ่ (Random Process) ในชว่ งเวลาใดๆ ทกุ ๆ นิวเคลียสมี โอกาสทจี่ ะสลายตวั เท่ากัน ดังนั้น ในช่วงเวลาหนึง่ ๆ ปริมาณนิวเคลยี สที่สลายตัวจงึ เป็นสดั ส่วน โดยตรงกับปรมิ าณนิวเคลียสทเ่ี หลืออยู่

กฎการสลายมสี ตู ร N/t = - N ……….(1) เม่อื N คอื จำนวนนวิ เคลยี สทส่ี ลายในช่วงเวลาt  เป็นค่าสลายตัวคงที่ (decay constant) ปริมาณ – dN/dt = N , ปริมาณ dN/dt เป็นปริมาณท่บี อกอตั ราการลดลงของ จำนวนนวิ เคลยี สของธาตกุ ัมมันตรงั สี ซึ่งกค็ ืออัตราการแผร่ ังสีออกมาในขณะหนึ่งนัน่ เอง เรียก ปริมาณนวี้ า่ กมั มันตภาพ (activity) ของธาตุกัมมนั ตรังสี นิยมแทนดว้ ยสญั ลกั ษณ์ A A = N ……….(2) 2. อตั ราการสลายตวั ของนิวเคลยี ส หมายถงึ ในชว่ งเวลาใดๆ เปน็ 1 หนว่ ยเวลา ปรมิ าณ นวิ เคลียสท่สี ลายตวั ใน 1 หน่วยเวลา ดงั นน้ั อัตราการสลายตัวของนวิ เคลยี สจึงเปน็ สดั ส่วนโดยตรง กับปริมาณนวิ เคลียสที่มอี ยู่ (พร้อมจะสลายตัว)  เปน็ ค่าสลายตัวคงท่ี ซง่ึ มีคา่ เฉพาะของนิวเคลียสแตล่ ะชนดิ เคร่ืองหมายลบแสดงว่า จำนวนนิวเคลียสลดลงเมื่อเวลาผ่านไป 3. กมั มนั ตภาพของธาตุกมั มนั ตรังสี หมายถงึ ความสามารถของธาตุกัมมนั ตรังสใี นการแผ่รงั สี ออกมาได้มากน้อยเพียงใด ณ เวลาขณะหนงึ่ ขณะใด กมั มันตภาพมหี น่วยเป็น sec-1 หรอื จำนวน นิวเคลียสที่สลายตวั ตอ่ วนิ าที นิยมวัดเป็นครู ี่ กมั มนั ตภาพ 1 คูร่ี เท่ากบั 3.7 x 1010 sec-1 4. การหาค่า N ในรปู function ของเวลา N = N0e-t ………..(3) 5. ช่วงเวลาคร่งึ ชีวิต (Half life) ของธาตุกัมมนั ตภาพรังสี หมายถงึ ช่วงเวลาทธี่ าตุนั้นๆ สลายตัว เหลอื นวิ เคลียสเปน็ ครึง่ หนง่ึ ของจำนวนท่มี ีอยูก่ ่อนสลายตัว มสี ตู ร ดังน้ี N=N0/2n ……….(4) หรอื =0.693/ T½ ………..(5) 6. เมื่อเวลาเพม่ิ ขึ้นปริมาณนิวเคลยี สของธาตุกัมมันตรังสีจะลดลงเร่ือยๆ แตป่ ริมาณนวิ เคลยี สจะ ไมล่ ดลงเป็นศูนย์ ไมว่ า่ เวลาจะผ่านไปเทา่ ใดกต็ าม การพดู ถึงเวลาทธ่ี าตกุ ัมมนั ตรงั สสี ลายตวั หมดจึง ไม่มีความหมาย ในทางทฤษฎจี ึงพูดถงึ เวลาทีธ่ าตุสลายตัวเหลอื เปน็ ครงึ่ หน่ึงของปรมิ าณเดิม N N0 N0/2 N/ N0 = e-t N0/4 t

T½ 2T½ กราฟแสดงการลดจำนวนนวิ เคลยี สของธาตุกัมมนั ตรังสี ณ เวลาตา่ งๆ สภาพสมดุลของธาตุกัมมันตรังสี หมายถึง ในธรรมชาติมีธาตกุ มั มันตรงั สที ี่สลายตัวแลว้ กลายเปน็ นิวเคลียสของธาตใุ หม่ แต่ธาตใุ หมท่ ี่ได้นย้ี งั ไมเ่ สถยี รภาพทเี ดยี ว จงึ เกิดการสลายตอ่ ไป จะ พิจารณากรณีธาตุ A สลายตัวให้ธาตุ B สลายตวั ใหธ้ าตุ C สตู รคอื ดงั นน้ั ANA = BNB 1 Number daughter nuclide (B) ½ ¼ 1/8 Parent nuclides (A) 1/16 T 2T 3T 4T time กราฟแสดงอตั ราการสลายของธาตุ A จะเทา่ กับอตั ราการเกดิ ของธาตุ B เม่ือเวลาเพิ่มข้ึนปริมาณนิวเคลียสของธาตุกัมมันตรังสีจะลดลงเรื่อยๆ แต่ปริมาณนิวเคลียส จะไมล่ ดลงเป็นศนู ย์ ไม่วา่ เวลาจะผา่ นไปเท่าใด การพดู ถึงเวลาทธี่ าตุกัมมันตรังสสี ลายตวั หมดจึงไมม่ ี ความหมาย ในทางทฤษฎจี ึงพดู ถึงเวลาทธ่ี าตสุ ลายตัวเหลอื เปน็ คร่งึ หนง่ึ ของปรมิ าณเดิม กระบวนการจดั การเรียนรู้ 1. ข้นั สร้างความสนใจ 1. ครทู บทวนเกี่ยวกับการสลายตัวของนิวเคลียสให้ รังสีแอลฟา บตี าและแกมมา 2. ครูอธิบายให้นักเรียนทราบว่า ในการศึกษาเชิงปริมาณของการแผ่รังสีของธาตุและ ไอโซโทปกัมมันตรังสี นอกจากมีการใช้กัมมันภาพในการบอกถึงอัตราการแผ่รังสีแล้ว ยังมีการใช้ คร่ึงชีวิต (haft-life) เพ่ือบ่งบอกถึงช่วงเวลาท่ีธาตุมันมันตรังสีสลายจนกระทั่งลดลงเหลือคร่ึงหน่ึง ของปรมิ าณเริม่ ต้น

2. ขนั้ สำรวจและค้นหา 1. ครูให้นักเรียนทำกิจกรรมท่ี 20.2 สถานการณ์จำลองคร่ึงชีวิต ตามรายละเอียดใน หนังสอื เรยี น 2. ครูคอยสังเกตพฤติกรรมนักเรียนในระหว่างทำกิจกรรมที่ 20.2 สถานการณ์จำลองคร่ึง ชีวติ ดา้ นความพอเพียง พรอ้ มบันทึกลงในแบบสงั เกตพฤตกิ รรมตามคุณธรรมอตั ลักษณ์ 3. ครูให้ความรู้เก่ียวกับ ความหมายของคำว่า คร่ึงชีวิต คือ ช่วงเวลาท่ีนิวเคลียสของธาตุน้ัน สลายจนจำนวนลดลงเหลอื คร่ึงหนึง่ ของจำนวนเรม่ิ ตน้ จากนน้ั จึงช้ีให้นักเรียนเห็นว่า การทธ่ี าตุแตล่ ะ ชนิดมีค่าครึ่งชีวิตแตกต่างกันนี้ แสดงว่า อัตราการสลายของธาตุแต่ละชนิดย่อมแตกต่างกัน เพื่อ นำไปสู่การศึกษาเกี่ยวกบั กฎการสลายของธาตุกมั มันตรังสตี ่อไป 4. ครูนำอภิปรายเก่ียวกับการตัง้ สมมติฐานการสลายของธาตุกัมมันตรังสี ความหมายของกัม มันตภาพและหน่วยของกัมมันตภาพ ตามรายละเอียดในใบความรู้ เพื่อนำไปสู่สมการที่ (2),(3),(4) จากน้ัน ครูชใี้ หน้ กั เรียนศกึ ษาหนว่ ยของ  โดยใชส้ มการที่ (5) ซง่ึ จะไดว้ า่  มีหนว่ ย ต่อเวลา 5. ครูให้ความรู้เก่ียวกับ กราฟแสดงการลดจำนวนนิวเคลียสของธาตุกัมมันตรังสี ณ เวลา ต่างๆ และกราฟแสดงอัตราการสลายของธาตุ A จะเท่ากับอัตราการเกิดของธาตุ B ตามรายละเอียด ในใบความรู้ 6. เพ่ือเสริมความเข้าในการใชส้ มการคำนวณท่ีเรียนมา ครูยกตวั อย่าง ดังนี้ ตวั อยา่ งที่ 1 กำหนด Half life ของธอเรยี ม เป็น 20 วนั , โปรแตกติเนยี ม เป็น 2 นาที , ยูเรเนียม เปน็ 25,000 ปี เดมิ ธอเรยี มมีจำนวน 2.4 x 1012 อะตอม ก. คา่ สลายคงท่ี  ขอธอเรยี มเปน็ เทา่ ใด ตอบ  = 0.693/ T½ = 0.693/20 = 0.03465 /วนั ➔ 9.625x10-6 /วินาที ข. กัมมนั ตภาพของธอเรยี มเปน็ เท่าใด ตอบ dN/dt = N = 9.625x10-6 (2.4x1012 ) = 2.31 x 107 นวิ เคลียส/วินาที ตวั อยา่ งที่ 2 จงหาค่าคงตวั ของการสลายของพอโลเนียม-218 ซงึ่ มีค่าครึ่งชวี ติ 3.05 นาที วิธีทำ  = 0.693/ T½ แทนค่า T½ ในสมการจะได้  = 0.693 = 3.78 x 10-3 ตอ่ นาที 3.05x60 ดงั น้ัน ค่าคงตัวของการสลายของพอโลเนียม-218 เทา่ กบั 3.78 x 10-3 ตอ่ นาที ตอบ ตัวอย่างที่ 3 ถา้ มีเรเดยี ม-226 ซึง่ มคี า่ ครึง่ ชีวิต 1,600 ปอี ยู่ 2.66 x 1021 อะตอม จงคำนวณหา จำนวนอะตอมของเรเดียมทเ่ี หลืออยู่เมื่อเวลาผา่ นไป 8,000 ปี วธิ ที ำ เรเดียม-226 มคี ร่ึงชวี ิต 1,600 ปี เวลาที่ผา่ นไป 8,000 ปี ดงั นั้นเวลาท่ีผา่ นไป = 8,000/1,600 = 5 เทา่ ของคา่ คร่งึ ชีวิต เน่อื งจากจำนวนอะตอมของเรเดยี ม-226 ท่ีมอี ยู่เดิม = N0 = 2.66 x 1021 อะตอม จากสมการ N0 = 2n ดงั นน้ั 2.66x1021 = 25 = 32 NN

N = 2.66x1021 = 8.3 x 1019 อะตอม 32 คำตอบ จำนวนอะตอมทีเ่ หลือเท่ากบั 8.3 x 1019 อะตอม 8. ครูเปดิ โอกาสให้นักเรียนสอบถามเนอ้ื หาเรื่อง การสลายของนิวเคลียสกัมมันตรังสี วา่ มี ส่วนไหนท่ยี ังไมเ่ ข้าใจและให้ความรู้เพิ่มเติมในสว่ นนัน้ 3. ขั้นลงข้อสรปุ ครูสอบถามนักเรยี นด้วยประเด็นต่างๆ ดังต่อไปนี้ 1. กมั มนั ตภาพของธาตกุ ัมมนั ตรังสี หมายถึงอะไร (ความสามารถของธาตุกัมมนั ตรังสีในการ แผร่ งั สอี อกมาไดม้ ากนอ้ ยเพยี งใด ณ เวลาขณะหนึ่งขณะใด) 2. สมมติฐานเพอื่ ใชอ้ ธิบายการสลายของธาตุกัมมนั ตรงั สี กลา่ ววา่ อยา่ งไร (1. การสลายตัวของธาตุกมั มันตรงั สเี ปน็ การสลายตวั ทเี่ กิดขึ้นเอง ไมข่ ึ้นกบั สภาวะ แวดลอ้ มของนิวเคลียส (เช่น การจัดตัวของอเิ ล็กตรอน ความดนั อณุ หภูมิ) (2. การสลายตวั เป็นกระบวนการสมุ่ ในช่วงเวลาใดๆ ทุกๆ นวิ เคลียสมีโอกาสทจี่ ะ สลายตัวเทา่ กนั ) 3. ชว่ งเวลาครึง่ ชวี ติ (Half life) ของธาตุกมั มนั ตภาพรงั สี หมายถงึ อะไร (ชว่ งเวลาทีธ่ าตุ นนั้ ๆ สลายตวั เหลอื นวิ เคลียสเป็นคร่ึงหนง่ึ ของจำนวนท่ีมีอยกู่ ่อนสลายตัว) 4. ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งจำนวนนวิ เคลยี สของธาตุกัมมนั ตรงั สีเริม่ ต้นทเี่ วลา t=0,จำนวน นิวเคลียสของธาตุกัมมันตรงั สีทีเ่ หลอื ค่าคงตัวการสลาย  และค่ากัมมันตภาพ A เขียนเปน็ สมการได้ ว่าอย่างไร (ปริมาณ – dN/dt = A = N ) 5. ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งครงึ่ ชวี ิตกบั ค่าคงตวั การสลาย เป็นอย่างไร ( = 0.693/ T½ ) ครูมอบหมายให้นักเรียนไปทำแบบฝกึ เสริมประสบการณ์ในใบงานให้เรยี บรอ้ ยและศกึ ษา เนอ้ื หา เรอื่ ง ไอโซโทป ซง่ึ จะเรยี นในคาบต่อไปมาล่วงหน้า ส่ือและแหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียนวิชาฟสิ ิกส์ เลม่ 6 ของ สสวท. 2. ลูกเตา๋ แตม้ สีหน้าเดียว 6 ชดุ การวัดและประเมินผล 1. ความรู้เกยี่ วกับกัมมนั ตภาพรังสรี งั สกี ารสลาย กมั มนั ตภาพ และ ครงึ่ ชีวิต จากคำ ถามตรวจ สอบความเข้าใจ 20.2 2. ทกั ษะการทดลอง การใชจ้ ำนวน การจัดกระทำ และส่ือความหมายข้อมลู การตคี วามหมาย ข้อมลู และลงข้อสรปุ ความร่วมมือ การทำงานเป็นทมี และภาวะผู้นำ จากการทำ กิจกรรม 20.2 3. ทักษะดา้ นการคดิ จากการแก้โจทย์ปญั หาและการคำนวณปริมาณต่าง ๆ เกย่ี วกบั สมการ การสลาย กมั มนั ตภาพ และ ครึง่ ชีวิต ในแบบฝกึ หัด 20.2 4. จิตวิทยาศาสตร์ดา้ นความรอบคอบ จากการอภปิ รายรว่ มกัน และการทำกิจกรรม 20.2 5. จิตวทิ ยาศาสตร์ด้านความซอ่ื สัตยจ์ ากรายงานผลการทำกจิ กรรม 6. คุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียงตามคุณธรรมอตั ลักษณ์ จากการทำงานกลุ่ม

แบบประเมนิ แบบฝึกหดั ตรวจสอบความเขา้ ใจท่ี 20.2 และแบบประเมินรายงานการทดลอง กิจกรรมที่ 20.2 สถานการณจ์ ำลองครึง่ ชีวิต (ด้านความรู้ K) แบบฝึกหดั รายงาน สรปุ ผล ตรวจสอบ การ เลขท่ี ชอื่ – สกลุ ความเข้าใจ ทดลอง รวม ไม่ ที่ 20.2 (6) ผ่าน 1 นางสาวจินตนา พึ่งเศรษฐกิจ ( 24 ) ผ่าน 2 นางสาวณัฐชยา ใจเลิศฤทธิ์ ( 18 ) 3 นางสาวดารณุ ี วศินเพม่ิ พล 4 นางสาวลัดดาพร ภมรไพร 5 นางสาวสุวพร อุทศิ สงิ ขร 6 นางสาววรรณดิ า บชู าพุทธรจุ ิรา 7 นางสาวกณิกา แซ่เฮ่อ 8 นางสาวกนกวนั กติ ตพิ ันธ์เุ สนา 9 นางสาวจนั ทรก์ วี นราภรณ์กูล 10 นางสาวจินตนา วนั สิริแสงเพชร 11 นางสาวจีราภา บุญเลศิ 12 นางสาวดวงฤทัย กลการหาญ 13 นางสาวภัคจิรา สมพงษ์วฒั นา 14 นางสาววารี สิรวิ าณิชอุดม 15 นางสาวสุดาพร เนอื งนิธิโชค 16 นางสาวสดุ ารตั น์ เด่นกังวาน 17 นางสาวสุทธิตา วเิ ชียรกระจา่ ง 18 นางสาวสุพตั รา จารุววี รรณ 19 นางสาวรุ่งนภา พริ ยิ ะเดชากุล รวมคะแนน เฉลย่ี เฉล่ยี ร้อยละ เกณฑ์การตัดสิน การตรวจแบบฝกึ หัดตรวจสอบความเขา้ ใจท่ี 20.2 และ รายงานการ ทดลองกจิ กรรมท่ี 20.2 สถานการณ์จำลองครึง่ ชวี ิต คะแนนเตม็ 24 คะแนน ได้ 15 คะแนน ขึ้นไปถือว่า ผา่ นเกณฑ์

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน แบบฝกึ หัดตรวจสอบความเขา้ ใจที่ 20.2 วธิ ที ำถกู และคำตอบถูกต้อง ให้ 2 คะแนน วธิ ที ำถูกต้องแตค่ ำตอบไม่ถกู ต้อง ให้ 1 คะแนน วธิ ีทำไม่ถูกตอ้ งแตค่ ำตอบถกู ต้อง ให้ 0 คะแนน วิธีทำและตอบไม่ถูกต้อง ให้ 0 คะแนน เกณฑก์ ารให้คะแนน รายงานการทดลองกจิ กรรมท่ี 20.2 สถานการณ์จำลองครึง่ ชวี ติ ปัญหา ระบปุ ัญหาสอดคลอ้ งกบั วัตถุประสงค์ ให้ 1 คะแนน ระบปุ ัญหาไมส่ อดคลอ้ งกบั วตั ถุประสงค์ ให้ 0 คะแนน สมมตฐิ าน ตง้ั สมมตฐิ านได้ถกู ตอ้ ง ตามวตั ถุประสงค์ ให้ 1 คะแนน ตัง้ สมมติฐานไมถ่ ูกตอ้ ง ตามวตั ถปุ ระสงค์ ให้ 0 คะแนน ตวั แปรตน้ ระบตุ วั แปรตน้ ไดถ้ ูกตอ้ ง ตามสมมติฐาน ให้ 1 คะแนน ระบตุ วั แปรตน้ ไม่ถูกตอ้ ง ตามสมมตฐิ าน ให้ 0 คะแนน ตารางบันทกึ ผลการทดลอง ให้ 1 คะแนน แสดงคา่ ของแปรต้นและตัวแปรตามครบถว้ น ให้ 0 คะแนน แสดงค่าของแปรต้นและตวั แปรตามไม่ครบ สรปุ ผลการทดลอง ให้ 1 คะแนน สรุปผลการทดลองถูกต้องตามวตั ถุประสงค์ ให้ 0 คะแนน สรุปผลการทดลองไม่ถูกต้องตามวตั ถุประสงค์ คำถามท้ายการทดลอง ให้ 1 คะแนน คำตอบถกู ต้อง ให้ 0 คะแนน คำตอบไม่ถกู ต้อง สรุปผล นกั เรยี นผ่านเกณฑ์การประเมนิ จำนวน ……… คน คิดเป็น รอ้ ยละ ………..

แบบประเมนิ ทักษะการทดลองระหวา่ งการทำกิจกรรมที่ 20.2 สถานการณจ์ ำลองครึ่งชวี ติ (ด้านทักษะกระบวนการ P) รายการประเมนิ เลขท่ี ชื่อ – สกลุ 4 คะแนน การระ ุบ ัปญหาการทดลอง สรุปผล 4 คะแนน การกำหนด ัตวแปร การ 4 คะแนน การ ้ัตงสมมตฐาน ประเมิน 4 คะแนน การแปรผลการทดลอง 4 คะแนน การสรุปผลการทดลอง ผ มผ รวม 20 คะแนน 1 นางสาวจนิ ตนา พง่ึ เศรษฐกิจ 2 นางสาวณัฐชยา ใจเลศิ ฤทธิ์ 3 นางสาวดารณุ ี วศินเพ่ิมพล 4 นางสาวลดั ดาพร ภมรไพร 5 นางสาวสุวพร อทุ ิศสงิ ขร 6 นางสาววรรณิดา บชู าพุทธรจุ ริ า 7 นางสาวกณกิ า แซ่เฮอ่ 8 นางสาวกนกวนั กติ ตพิ นั ธ์ุเสนา 9 นางสาวจันทรก์ วี นราภรณก์ ลู 10 นางสาวจนิ ตนา วนั สริ ิแสงเพชร 11 นางสาวจีราภา บุญเลศิ 12 นางสาวดวงฤทัย กลการหาญ 13 นางสาวภคั จริ า สมพงษว์ ฒั นา 14 นางสาววารี สิรวิ าณิชอดุ ม 15 นางสาวสดุ าพร เนืองนิธิโชค 16 นางสาวสดุ ารัตน์ เด่นกังวาน 17 นางสาวสทุ ธติ า วเิ ชยี รกระจา่ ง 18 นางสาวสพุ ตั รา จารุวีวรรณ 19 นางสาวรุ่งนภา พิริยะเดชากุล เกณฑต์ ัดสนิ นักเรียนได้ 15 คะแนนขึ้นไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์ สรุปผล นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมนิ จำนวน ……... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ………

เกณฑ์การให้คะแนนทกั ษะการทดลอง ประเด็นการประเมนิ เกณฑ์การให้คะแนน 4 คะแนน 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน 1. การระบุปัญหาการ มีการระบุปัญหาการ มีการระบุปัญหาการ มีการระบุปัญหาการ มีการระบุปัญหาการ ทดลอง ท ด ล อ งได้ ถู ก ต้ อ ง ท ด ล อ งได้ ถู ก ต้ อ ง ท ด ลองได้ ไม่ ค่อ ย ทดลองได้ไม่ถูกต้อง ชัดเจน นำไปสู่การต้ัง บางส่วน นำไปสู่การ ชัดเจน นำไปสู่การ ไม่สามารถนำไปสู่ สมมตุ ฐิ านได้ ตัง้ สมมุติฐานได้ ตั้ ง ส ม มุ ติ ฐ า น ได้ การตง้ั สมมตุ ิฐานได้ บางสว่ น 2. การกำหนดตัวแปร มกี ารกำหนดตวั แปร มกี ารกำหนดตัวแปร มีการกำหนด มีการกำหนด ต้น ตัวแปรตามและ ต้น และตัวแปร ตัวแปรไดถ้ ูกต้อง ตวั แปรตา่ ง ๆ ไม่ ตัวแปรควบคมุ ได้ ตามแต่ไมร่ ะบุตวั แปร บางสว่ น ถูกต้อง ถูกต้อง ครบถว้ น ควบคมุ 3. การตัง้ สมมตฐิ าน ตัง้ สมมติฐานของ ตง้ั สมมตฐิ านของ ต้ังสมมตฐิ านของ ตัง้ สมมตฐิ านของ เร่อื งที่จะทดลองได้ เร่อื งทจ่ี ะทดลองได้ เรอื่ งทจี่ ะทดลองยงั เรอ่ื งทจ่ี ะทดลองไม่ ชัดเจนถกู ต้องครบ ถกู ต้องบางส่วนแต่ไม่ ไมค่ ่อยชัดเจน ถูกต้อง ทุกส่วนและแสดง แสดงความสัมพนั ธ์ ถูกต้องและไม่แสดง ความสมั พันธ์ระหว่าง ระหว่างเหตผุ ล ความสัมพนั ธ์ เหตผุ ล ระหว่างเหตุกับผล 4. การปฏิบัติ ดำเนนิ การทดลอง ดำเนนิ การทดลอง ดำเนนิ การทดลอง ดำเนินการทดลองไม่ การทดลอง เป็นขั้นตอนตามแผน เปน็ ขั้นตอนมี ตอ้ งให้ความ เป็นไปตามข้นั ตอน ทีก่ ำหนดมเี ป้าหมาย เปา้ หมายตรวจสอบ ชว่ ยเหลอื อยา่ งใน ไม่ทำกจิ กรรมตาม เพ่อื ตรวจสอบ สมมติฐานตามท่ีต้งั ไว้ การดำเนนิ การตาม แผนท่ีกำหนดไว้ สมมตฐิ านตามที่ตง้ั ไว้ แต่ปฏบิ ัติตามแผน แผนและการใช้ และใชอ้ ุปกรณต์ ่างๆ และการใช้อปุ กรณไ์ ด้ อปุ กรณ์เป็นบางส่วน ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ถกู ต้องบางสว่ น ครบถว้ น 5. การสรุปผล บนั ทึกข้อมลู ได้ บนั ทึกข้อมูลได้ บนั ทึกข้อมูลต้องให้ บนั ทกึ ข้อมลู ไม่ การทดลอง สอดคล้องกบั สอดคล้องกบั คำชีแ้ นะในการ ชดั เจนและบางสว่ น จดุ ประสงค์ท่ีต้องการ จดุ ประสงค์ที่ต้องการ บันทึกผลการ ไมบ่ นั ทึกตามที่ ศึกษามกี ารทดลอง มีการทดลองรัดกุม ทดลองการสรุปผล เป็นจริง รัดกมุ บันทึกการ แต่การนำเสนอยงั ไม่ การทดลองและการ นำเสนอเปน็ ขั้นตอน เป็นขน้ั ตอนและ นำเสนอจึงจะปฏบิ ัติ ชดั เจนและสรปุ ผลได้ สรปุ ผลไดค้ รอบคลมุ ได้ ครอบคลุมตาม ตามวตั ถุประสงค์ วตั ถุประสงค์ การทดลองบางส่วน การทดลอง

แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) ความซ่ือสตั ย์สจุ ริต คะแนน สรุปผล เลขท่ี ชอื่ – สกลุ ความซื่อสตั ย์สุจริต การประเมนิ 1 นางสาวจินตนา พงึ่ เศรษฐกิจ 3 2 1 ผ มผ 2 นางสาวณฐั ชยา ใจเลศิ ฤทธิ์ 3 นางสาวดารุณี วศินเพ่มิ พล 4 นางสาวลดั ดาพร ภมรไพร 5 นางสาวสุวพร อทุ ิศสงิ ขร 6 นางสาววรรณิดา บชู าพุทธรุจริ า 7 นางสาวกณกิ า แซเ่ ฮอ่ 8 นางสาวกนกวนั กติ ตพิ ันธเ์ุ สนา 9 นางสาวจันทร์กวี นราภรณก์ ูล 10 นางสาวจนิ ตนา วันสิริแสงเพชร 11 นางสาวจีราภา บญุ เลิศ 12 นางสาวดวงฤทยั กลการหาญ 13 นางสาวภัคจริ า สมพงษ์วัฒนา 14 นางสาววารี สริ วิ าณิชอุดม 15 นางสาวสดุ าพร เนอื งนธิ ิโชค 16 นางสาวสุดารตั น์ เดน่ กังวาน 17 นางสาวสุทธิตา วิเชยี รกระจ่าง 18 นางสาวสพุ ัตรา จารวุ ีวรรณ 19 นางสาวรุ่งนภา พริ ยิ ะเดชากุล เกณฑต์ ดั สิน นกั เรยี นได้ 2 คะแนนขึ้นไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์ สรปุ ผล นักเรยี นผ่านเกณฑ์ประเมิน จำนวน ……... คน คดิ เปน็ ร้อยละ ….…. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางครัง้ ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมน้อยคร้งั

แบบประเมินจติ วทิ ยาศาสตร์ของผู้เรียน (A) ความรอบคอบ คะแนน สรปุ ผล เลขที่ ชอ่ื – สกลุ ความรอบคอบ การประเมนิ 1 นางสาวจินตนา พ่งึ เศรษฐกิจ 3 2 1 ผ มผ 2 นางสาวณัฐชยา ใจเลิศฤทธ์ิ 3 นางสาวดารุณี วศนิ เพิม่ พล 4 นางสาวลดั ดาพร ภมรไพร 5 นางสาวสวุ พร อุทศิ สงิ ขร 6 นางสาววรรณดิ า บชู าพทุ ธรจุ ริ า 7 นางสาวกณิกา แซ่เฮอ่ 8 นางสาวกนกวนั กิตติพันธุเ์ สนา 9 นางสาวจนั ทรก์ วี นราภรณ์กลู 10 นางสาวจินตนา วนั สริ ิแสงเพชร 11 นางสาวจรี าภา บุญเลศิ 12 นางสาวดวงฤทัย กลการหาญ 13 นางสาวภคั จิรา สมพงษ์วฒั นา 14 นางสาววารี สิรวิ าณิชอุดม 15 นางสาวสุดาพร เนอื งนิธโิ ชค 16 นางสาวสุดารัตน์ เด่นกังวาน 17 นางสาวสทุ ธิตา วิเชียรกระจ่าง 18 นางสาวสพุ ัตรา จารุววี รรณ 19 นางสาวรงุ่ นภา พิริยะเดชากุล เกณฑต์ ัดสิน นักเรยี นได้ 2 คะแนนข้นึ ไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์ สรุปผล นักเรยี นผ่านเกณฑป์ ระเมิน จำนวน ……... คน คดิ เปน็ ร้อยละ ….…. เกณฑ์การให้คะแนนจติ วทิ ยาศาสตร์ ความรอบคอบ ให้ 3 คะแนน ทำกิจกรรมตามขน้ั ตอนโดยไมม่ ีความผดิ พลาด ให้ 2 คะแนน เกิดความผดิ พลาดในการทำกิจกรรมบางคร้ัง ให้ 1 คะแนน เกิดความผดิ พลาดในการทำกิจกรรมบ่อยคร้ัง

แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน สมรรถนะดา้ นการคดิ เลขที่ ช่ือ – สกลุ คะแนนสมรรถนะ สรุปผล ด้านการคดิ การประเมนิ 1 นางสาวจนิ ตนา พง่ึ เศรษฐกิจ 2 นางสาวณัฐชยา ใจเลศิ ฤทธ์ิ 321 ผ มผ 3 นางสาวดารุณี วศนิ เพมิ่ พล 4 นางสาวลัดดาพร ภมรไพร 5 นางสาวสวุ พร อุทิศสงิ ขร 6 นางสาววรรณิดา บชู าพทุ ธรุจริ า 7 นางสาวกณกิ า แซเ่ ฮ่อ 8 นางสาวกนกวัน กิตติพันธุ์เสนา 9 นางสาวจนั ทร์กวี นราภรณ์กลู 10 นางสาวจินตนา วนั สิรแิ สงเพชร 11 นางสาวจรี าภา บญุ เลิศ 12 นางสาวดวงฤทยั กลการหาญ 13 นางสาวภัคจริ า สมพงษ์วฒั นา 14 นางสาววารี สริ วิ าณชิ อุดม 15 นางสาวสดุ าพร เนอื งนิธโิ ชค 16 นางสาวสดุ ารัตน์ เด่นกงั วาน 17 นางสาวสทุ ธิตา วิเชยี รกระจ่าง 18 นางสาวสุพัตรา จารวุ วี รรณ 19 นางสาวร่งุ นภา พริ ิยะเดชากุล เกณฑต์ ดั สิน นักเรยี นได้ 2 คะแนนข้ึนไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์ สรปุ ผล นักเรียนผ่านเกณฑ์ประเมิน จำนวน ……... คน คิดเปน็ ร้อยละ ….…. เกณฑ์การประเมนิ ดา้ นสมรรถนะดา้ นการคดิ 3 คะแนน ใชก้ ารคดิ วเิ คราะห์เพื่อนำไปสูก่ ารสรา้ งองค์ความรู้ สามารถวางแผนการ ทดลองและทำได้อยา่ งเปน็ ขน้ั ตอน เป็นระบบไดเ้ ปน็ อยา่ งดี 2 คะแนน ใชก้ ารคดิ วิเคราะหเ์ พ่ือนำไปสกู่ ารสร้างองคค์ วามรู้ แต่มีการวางแผนการ ทดลองไม่ขน้ั ตอน 1 คะแนน มกี ารคดิ วิเคราะห์เพ่อื นำไปสู่การสร้างองค์ความรบู้ า้ ง และไม่สามารถวาง แผนการทดลองและทำงานไม่ เป็นระบบ

แบบสงั เกตพฤติกรรมตามคุณธรรมอัตลักษณ์ ความพอเพียง พฤตกิ รรมตัวบง่ ช้ี การแบ่งงานในก ุ่ลมตาม สรปุ ผล ศักยภาพของสมา ิชกก ุ่ลม การประเมนิ เลขที่ ีมการวางแผนในการ ทำงาน ผา่ น ไม่ผา่ น ช่ือ - สกลุ เ ็กบวัสดุ ุอปกรณ์ห ัลงการ ทำกิจกรรม 1 นางสาวจินตนา พ่ึงเศรษฐกิจ รวม 9 คะแนน 2 นางสาวณัฐชยา ใจเลศิ ฤทธิ์ 3 นางสาวดารณุ ี วศินเพิม่ พล ระ ัดบ ุคณภาพ 4 นางสาวลดั ดาพร ภมรไพร 5 นางสาวสวุ พร อทุ ศิ สิงขร 333 6 นางสาววรรณิดา บูชาพุทธรจุ ิรา 7 นางสาวกณกิ า แซ่เฮอ่ 8 นางสาวกนกวนั กิตติพนั ธเ์ุ สนา 10 นางสาวจนั ทร์กวี นราภรณ์กูล 11 นางสาวจินตนา วนั สิรแิ สงเพชร 12 นางสาวจรี าภา บุญเลศิ 13 นางสาวดวงฤทัย กลการหาญ 14 นางสาวภัคจริ า สมพงษ์วฒั นา 15 นางสาววารี สริ วิ าณิชอุดม 16 นางสาวสดุ าพร เนืองนธิ ิโชค 17 นางสาวสดุ ารัตน์ เดน่ กังวาน 18 นางสาวสุทธิตา วเิ ชียรกระจา่ ง 19 นางสาวสพุ ตั รา จารุวีวรรณ เกณฑ์การประเมิน ระดับคณุ ภาพ 3 เท่ากบั ดีมาก ช่วงคะแนน 7 – 9 คะแนน ระดับคุณภาพ 2 เทา่ กบั พอใช้ ช่วงคะแนน 4 – 6 คะแนน ระดบั คุณภาพ 1 เท่ากบั ปรับปรุง ชว่ งคะแนน ต่ำกว่า 3 คะแนน หมายเหตุ ระดับคุณภาพ 2 ขนึ้ ไป จงึ ถือว่าผา่ นเกณฑ์

เกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบประเมนิ พฤตกิ รรมตามคณุ ธรรมอัตลกั ษณ์ ประเด็น เกณฑ์การให้คะแนน การประเมนิ ใช้เวลาในการทำ 32 1 กจิ กรรม 20.2 ได้ อย่างเหมาะสม ส่งรายงานการ สง่ รายงานการ ส่งรายงานการ มีการวางแผนในการ ทำงาน ทดลองก่อนเวลาท่ี ทดลองตรงเวลาที่ ทดลองหลงั เวลาท่ี เกบ็ วัสดุอปุ กรณ์หลงั กำหนด กำหนด กำหนด การทำกจิ กรรม มกี ารวางแผนการ มกี ารวางแผนการ ไมไ่ ดว้ างแผนในการ ทำงานท่ชี ดั เจน ทำงานแต่ไม่ได้ทำ ทำงาน ตามแผน เกบ็ วัสดุอุปกรณห์ ลงั เกบ็ วสั ดุอุปกรณ์หลงั ไมเ่ ก็บวัสดุอปุ กรณ์ การทำกจิ กรรมได้ การทำกิจกรรมแต่ หลงั การทำกจิ กรรม เรียบร้อย ยงั ไมเ่ รียบร้อย

บันทึกผลการจัดการเรยี นรู้ 1. ผลจากการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………….………………………………………… ……………………………………………………………….…………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………….………………………………………… ……………………………………………………………….…………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………….………………………………………… ……………………………………………………………….…………………………………………………………………………… ปัญหา/อปุ สรรคทีพ่ บจากการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………….………………………………………… ……………………………………………………………….…………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………….………………………………………… ……………………………………………………………….…………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………….………………………………………… ……………………………………………………………….…………………………………………………………………………… 3. ขอ้ เสนอแนะเพอื่ ปรบั ปรงุ แก้ไขการจัดกิจกรรมการเรียนรูค้ ร้งั ต่อไป ………………………………………………………………………………………………….………………………………………… ……………………………………………………………….…………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………….………………………………………… ……………………………………………………………….…………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………….………………………………………… ……………………………………………………………….…………………………………………………………………………… 4. ผลการสงั เกตพฤติกรรมการทำงานและบรรยากาศในการจดั การเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………….………………………………………… ……………………………………………………………….…………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………….………………………………………… ……………………………………………………………….…………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………….………………………………………… ……………………………………………………………….…………………………………………………………………………… ลงช่ือ..............................................ผสู้ อน (นายอนพุ งษ์ ประดิษฐ์) ตำแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู ำนาญการพิเศษ

ขอ้ เสนอแนะและความคิดเห็นของผู้บรหิ าร 1. กระบวนการเรียนรู้  มีความสอดคล้องกับจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เหมาะสมกบั ความสนใจและความถนัด ของนักเรยี น  ไม่สอดคลอ้ งกบั จุดประสงค์ ควรปรบั ปรุง 2. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้  คำนึงถงึ ลำดบั ขัน้ การเรียนรู้ โดยจดั ให้ผเู้ รยี นไดม้ ีโอกาสเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง ฝกึ ปฏิบัติ กระบวนการคิดอย่างหลากลาย สรา้ งองคค์ วามรดู้ ว้ ยจนเอง ส่งเสริมใหผ้ ู้เรียนมีทกั ษะ กระบวนการทำงาน และคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์  ลำดบั ขน้ั การเรยี นรไู้ มส่ อดคล้อง ควรปรับปรงุ 3. การวดั และประเมนิ ผล  ระบวุ ิธีวัดและเครอ่ื งมอื วดั ไดเ้ หมาะสม สอดคล้องกบั จุดประสงค์การเรียนรู้ และกิจกรรมการเรียนรู้  ระบุวิธีวัดและเคร่ืองมือวดั แต่ไม่เหมาะสม ไมส่ อดคลอ้ งกับจุดประสงค์การเรียนรู้ และกจิ กรรมการเรยี นรู้ ควรปรับปรุง 4. ความเหมาะสมในการนำแผนการจัดการเรียนรไู้ ปใช้ในการจัดการเรียนการสอน  สามารถนำไปใช้จัดกจิ กรรมการเรียนการสอนได้จรงิ  ควรปรบั ปรงุ ก่อนนำไปใช้จัดกิจกรรมการเรยี นการสอน 5. ขอ้ เสนอแนะอนื่ ………………………………………………………………………………………………….………………………………………… ……………………………………………………………….…………………………………………………………………………… ……………………...…………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื ( นายศฤงคารใจปันทา) ผู้อำนวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 21