แนวทางการจัดการปาลม นา้ํ มัน และผลิตภณั ฑต อเนอ่ื งท่ใี ชประโยชน จากน้าํ มนั ปาลม อยางย่ังยนื POLICY BRIEF ขอ เสนอเชงิ นโยบายเกษตร
แนวทางการจัดการปาลมนา้ํ มนั และผลิตภณั ฑต อเนอื่ งท่ีใชป ระโยชน จากนํ้ามันปาลมอยา งยั่งยืน
ขอ้ เสนอเชงิ นโยบายการเกษตร การจัดการทรัพยากรและของเสียจากปาล์มน้�ำมัน 1 อย่างเปน็ ระบบและมปี ระสิทธิภาพ ปาล์มน้ำ� มนั เป็นหนงึ่ ในพืชเศรษฐกิจส�ำคัญของประเทศไทย ผลผลติ ทีไ่ ด้จากโรงงานสกัดน�้ำมนั ปาลม์ คือ น�ำ้ มันปาล์มดบิ เม่อื น�ำมาแปรรูปเปน็ นำ้� มนั ปาลม์ ซ่ึงสามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย รูปแบบ ทั้งการบริโภค อุปโภค และพลงั งาน เช่น น้ำ� มนั ปาล์มบรสิ ุทธ์ิ ไขมนั ปาล์มอาหารสัตว์ มาการีน สบู่ การผลิต ไบโอ-ดเี ซลเพือ่ ทดแทนน้ำ� มนั ดีเซล การผลติ แกส๊ ชวี ภาพจากกระบวนการบำ� บดั น้�ำเสยี ของ โรงงานสกัดปาลม์ น�้ำมันปาลม์ ดบิ เพื่อน�ำไปผลิตไฟฟ้า การผลติ ไฟฟา้ และความรอ้ นจากทะลายปาลม์ เกา่ เปน็ ต้น แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก 25% ใน 10 ปี (พ.ศ. 2555 - 2564) ของ กระทรวงพลงั งาน จะตอ้ งเพ่มิ ปริมาณผลผลิต ส่งเสริมการปลกู ปาล์มน�ำ้ มันในพนื้ ทีท่ ีเ่ หมาะสมโดยไมแ่ ยง่ พื้นท่ีพชื อาหาร และส่งเสรมิ ใหม้ ีพืน้ ทป่ี ลกู ปาล์ม 5.5 ล้านไร่ โดยมีพืน้ ท่ีใหผ้ ลผลติ รวม 5.3 ล้านไร่ ภายใน ปี 2564 และมผี ลผลิตน�้ำมันปาลม์ ดิบ ไมน่ อ้ ยกวา่ 3.05 ลา้ นตนั /ปี ผลผลติ ทะลายปาล์มสดไม่น้อยกวา่ 3.2 ตนั /ไร่/ปี คณุ ภาพการใหน้ ำ�้ มนั (Oil Content) ไม่น้อยกว่า 18% เพอื่ รองรบั ความตอ้ งการใชน้ ้�ำมัน ปาลม์ และผลติ ภณั ฑต์ อ่ เนอ่ื งจากนำ�้ มนั ปาลม์ ทเ่ี พมิ่ ขน้ึ อยา่ งตอ่ เนอื่ ง ทงั้ น้ี ตลอดเสน้ ทางการไหลของปาลม์ น�้ำมันจะก่อให้เกดิ ของเสยี และผลพลอยได้ตา่ งๆ จำ� นวนมากซ่ึงสามารถน�ำกลบั มาใชป้ ระโยชนไ์ ด้ ดังนั้น“การศึกษาเพ่ือก�ำหนดแนวทางการจัดการปาล์มน�้ำมันและผลิตภัณฑ์ต่อเน่ือง ที่ใชป้ ระโยชนจ์ ากน�ำ้ มนั ปาล์มอยา่ งยั่งยืน” จะช่วยในการวิเคราะหก์ ารไหลของวสั ดุ (Material Flow Analysis : MFA) เพอ่ื ใช้เปน็ ฐานขอ้ มลู และการบรหิ ารจดั การสิง่ แวดลอ้ มอยา่ งเปน็ ระบบจากการประเมนิ ผลกระทบของเทคโนโลยีการใช้ประโยชน์ของเสียที่เกิดจากกระบวนการผลิตปาล์มน้�ำมันและผลิตภัณฑ์ ต่อเน่ือง ท้ังทางด้านผลกระทบส่ิงแวดล้อมและความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ เพื่อเป็นแรงกระตุ้นให้ ผปู้ ระกอบการทเ่ี กย่ี วขอ้ งในอตุ สาหกรรมนำ�้ มนั ปาลม์ และผลติ ภณั ฑต์ อ่ เนอ่ื งจากนำ�้ มนั ปาลม์ ไดต้ ระหนกั ถงึ ความส�ำคัญและมีการน�ำของเสยี มาใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสมและคุ้มค่า ประกอบกับเพ่ือชว่ ยสนับสนุน กระบวนการตดั สินใจให้เกดิ ใช้ประโยชน์จากปาลม์ น้ำ� มนั และน้ำ� มันปาลม์ อย่างยงั่ ยนื การศกึ ษาเพือ่ ก�ำหนดแนวทางการจัดการปาล์มน�้ำมันและผลิตภณั ฑ์ตอ่ เนื่องทีใ่ ชป้ ระโยชน์จากน�้ำมันปาลม์ อยา่ งยงั่ ยืน
ข้อเสนอเชิงนโยบายการเกษตร หว่ งโซ่อปุ ทานของอุตสาหกรรมปาล์มน้�ำมัน และน้ำ� มันปาล์มของประเทศไทย กล่มุ ผู้ปลูกปาล์มนำ�้ มัน (การผลติ วตั ถุดิบตน้ น้ำ� ) แบง่ ประเภทได้ 3 กลมุ่ หลกั ไดแ้ ก่ 1) บริษทั เอกชนผปู้ ลูกปาลม์ ที่มกี ารบริหารจัดการเชิงธุรกจิ ส่วนใหญ่จะเป็นอกี ธรุ กจิ ของโรงงานสกัดปาลม์ น�ำ้ มนั ทม่ี สี วนปาลม์ เปน็ ของตนเอง มีการบริหารจดั การที่ดี ผลผลติ เฉลย่ี ต่อไร่สงู 2) เกษตรกรรายย่อย ท่มี พี นื้ ท่ี ปลูกปาลม์ ตั้งแต่ 5 ไร่ ถึง 20,000 ไร่ แต่ส่วนใหญ่พนื้ ทป่ี ลกู เฉลีย่ รายละ 10 – 20 ไร่ เกษตรกรในกลุ่มนี้ มจี ำ� นวนมากและหลากหลาย พื้นที่ปลูกปาลม์ กระจดั กระจาย มผี ลผลิตเฉล่ยี ต่อไรต่ ำ่� ประมาณ 2 – 2.5 ตนั /ไร่ ส่วนรูปแบบการจำ� หนา่ ยผลผลติ ของเกษตรกรกล่มุ นจี้ ะจ�ำหน่ายทะลายปาล์มใหก้ บั พอ่ คา่ ทอ้ งถิ่น หรอื ลานเท และขายใหก้ บั โรงงานสกดั น�ำ้ มนั ปาลม์ โดยตรง 3) กล่มุ เกษตรกรในรปู สหกรณผ์ ้ปู ลกู ปาลม์ น้�ำมัน ท่ีมีการรวมพื้นที่เพาะปลูกเป็นลักษณะแปลงใหญ่ อย่างชัดเจน มีอ�ำนาจกาจต่อรองสูง เพราะ ท�ำงานระบบกลุ่ม มกี รรมการบริหาร ผู้จดั การ มปี ระสทิ ธิภาพการผลิตอย่ใู นระดับกลาง กลุ่มผูแ้ ปรรูปผลปาลม์ สด (อุตสาหกรรมแปรรูปผลิตภณั ฑ์ขน้ั ตน้ ) ได้แก่ โรงงานสกดั น้�ำมัน 2 ปาล์ม ซ่งึ ปัจจุบันมีโรงงานหบี สกดั น้ำ� มันปาลม์ กว่า 80 โรงงาน ต้งั อยู่ในพืน้ ที่ปลูกปาล์ม โรงงานสกัด นำ�้ มนั ปาลม์ สว่ นใหญจ่ ะผลติ นำ้� มนั ปาลม์ ดบิ เพอ่ื ขายตอ่ ใหโ้ รงกลนั่ นำ้� มนั ปาลม์ บรสิ ทุ ธ์ิ หรอื อตุ สาหกรรมอนื่ เพ่ือน�ำไปผลิตไบโอดีเซลต่อไป ผู้ประกอบการสกัดน้�ำมันปาล์มมีการรวมตัวในลักษณะสมาคมโรงงาน สกัดน�้ำมันปาล์ม การศึกษาเพอื่ ก�ำหนดแนวทางการจดั การปาลม์ นำ�้ มนั และผลติ ภณั ฑต์ ่อเนือ่ งทใี่ ช้ประโยชน์จากนำ�้ มันปาลม์ อยา่ งยัง่ ยืน
ข้อเสนอเชิงนโยบายการเกษตร กลุ่มผู้แปรรูปน้�ำมันปาล์มดิบ (อุตสาหกรรมแปรรูปผลิตภัณฑ์ขั้นกลาง) ได้แก่ โรงงานกล่ัน นำ�้ มนั ปาลม์ บรสิ ทุ ธิ์ โดยผปู้ ระกอบการกลมุ่ นมี้ ที งั้ สว่ นทรี่ บั ซอ้ื นำ้� มนั ปาลม์ ดบิ จากโรงงานสกดั นำ�้ มนั ปาลม์ มากล่นั ซ้อื ผลปาลม์ มาสกดั ในโรงงานกอ่ นทีจ่ ะสง่ น้ำ� มันปาลม์ ดบิ เข้าโรงกลน่ั หรือมีสวนปาลม์ เป็นของ ตนเองเพ่ือบริหารจดั การวัตถดุ บิ เขา้ โรงงานได้อย่างเพียงพอตั้งแตต่ น้ ทาง กลุ่มผู้แปรรูปอุตสาหกรรมต่อเนอ่ื ง (อตุ สาหกรรมแปรรปู ผลิตภัณฑข์ น้ั ปลาย) ไดแ้ ก่ การผลิต ไบโอดีเซล ซึ่งปจั จบุ ันมีกำ� ลังการผลิตไบโอดีเซลในประเทศไทยที่ได้รับการรบั รองจากกรมธุรกิจพลงั งาน มีจ�ำนวนทั้งส้ิน 12 ราย (กนั ยายน, 2559) โดยมวี ัตถุดิบหลกั จากอุตสาหกรรมปาลม์ น�ำ้ มนั หลกั ไดแ้ ก่ ผลติ จากน้�ำมันปาล์มดบิ (CPO) นำ้� มนั ปาล์มก่งึ บรสิ ุทธิ์ (Refine Bleaching Palm oil: RBDPO) Palm stearin และน้ำ� มนั พืชใชแ้ ล้ว 3 ทีม่ าของข้อมลู : กรมการค้าภายในและส�ำนักงานเศรษฐกจิ การเกษตร (2556) ท่ีมาของภาพ : สำ� นักงานนโยบายและยทุ ธศาสตรก์ ารค้าสินคา้ เกษตร, กระทรวงพาณิชย์ การศกึ ษาเพอื่ ก�ำหนดแนวทางการจดั การปาลม์ น้ำ� มนั และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องที่ใช้ประโยชนจ์ ากน้ำ� มนั ปาล์มอย่างยง่ั ยืน
ขอ้ เสนอเชงิ นโยบายการเกษตร สถานการณ์ปาล์มน้�ำมันและนำ�้ มนั ปาล์ม จากขอ้ มูลสถานการณส์ นิ ค้าเกษตรทส่ี �ำคัญของสำ� นักงานเศรษฐกิจการเกษตร (2558) ให้ขอ้ มูล เกี่ยวกบั สถานการณป์ าล์มน้ำ� มันของประเทศไทย พบวา่ การผลติ ปาลม์ น�้ำมนั ในปี พ.ศ. 2554 – 2558 เนื้อที่ใหผ้ ลและผลผลติ ปาลม์ นำ้� มนั ของไทย มแี นวโนม้ เพ่มิ ขน้ึ รอ้ ยละ 4.56 และรอ้ ยละ 1.45 ต่อปี ตามล�ำดับ เม่ือเปรียบเทยี บเนือ้ ทใ่ี ห้ผลระหว่าง ปี 2557 มีจ�ำนวน 4.02 ลา้ นไร่ และ ปี 2558 มีจ�ำนวน 4.28 ลา้ นไร่ เพม่ิ ขน้ึ คิดเป็นร้อยละ 6.47 ตอ่ มา เมื่อเปรยี บเทยี บผลผลิตระหว่างปี 2557 มจี ำ� นวน 12.47 ลา้ นตัน และ ปี 2558 มจี �ำนวน 11.01 ลา้ นตนั ลดลงคิดเปน็ ร้อยละ 11.71 เนอ่ื งจากสถานการณ์ภยั แล้งตงั้ แต่ปี 2557 ตอ่ เนอื่ งถงึ ปี 2558 สง่ ผลท�ำให้ การออกจน่ั ตวั เมยี และการตดิ ผลปาล์มในปี 2558 ลดลง จึงสง่ ผลทำ� ให้เมื่อเปรียบเทยี บผลผลิตเฉลย่ี ต่อไร่ ระหว่างปี 2557 มีประมาณ 3.1 ตัน/ไร่ และ ปี 2558 มปี ระมาณ 2.58 ตัน/ไร่ ลดลงคิดเป็นรอ้ ยละ 16.90 การตลาดนำ�้ มนั ปาลม์ ในปี พ.ศ. 2554 – 2558 ความตอ้ งการใชน้ ำ้� มนั ปาลม์ ของไทยมแี นวโนม้ 4 เพ่ิมข้ึนทั้งเพื่อการบริโภคและการผลิตไบโอดีเซลร้อยละ 2.05 และร้อยละ 20.03 ต่อปี ตามล�ำดับ เม่ือเปรยี บเทยี บความตอ้ งการใช้น�ำ้ มันปาล์มเพือ่ การบริโภคระหวา่ งปี 2557 มจี �ำนวน 939,368 ตนั และ ปี 2558 มจี �ำนวน 988,547 ตนั เพมิ่ ข้ึนคิดเป็นรอ้ ยละ 5.24 ต่อมาเมือ่ เปรียบเทียบความต้องการใช้น�ำ้ มนั ปาลม์ เพอ่ื การผลติ ไบโอดเี ซลระหวา่ งปี 2557 มจี ำ� นวน 842,397 ตนั และ ปี 2558 มจี ำ� นวน 809,137 ตนั ลดลงคดิ เปน็ รอ้ ยละ 3.95 เน่อื งจากกระทรวงพลงั งานประกาศสดั ส่วนการใชไ้ บโอดีเซลจาก B7 เป็น B3.5 ตง้ั แต่ในช่วงกลางเดือนกมุ ภาพันธ์ถึงวันที่ 22 เมษายน 2558 สง่ ผลทำ� ใหค้ วามตอ้ งการใช้นำ�้ มันปาลม์ เพอ่ื ผลติ ไบโอดีเซลในปี 2558 ลดลงเลก็ น้อย โดยภาพรวมการใชน้ �ำ้ มนั ปาล์มเพอ่ื การบรโิ ภคและการผลิต ไบโอดเี ซล ระหวา่ งปี 2557 มีจำ� นวน 1,781,765 ตัน และ ปี 2558 มีจ�ำนวน 1,797,684 ตัน เพ่ิมขนึ้ คิดเป็นร้อยละ 0.89 การศกึ ษาเพือ่ กำ� หนดแนวทางการจัดการปาลม์ น�ำ้ มนั และผลิตภณั ฑต์ ่อเนอ่ื งท่ใี ช้ประโยชน์จากน�ำ้ มนั ปาลม์ อยา่ งยงั่ ยนื
ขอ้ เสนอเชงิ นโยบายการเกษตร อนิ โฟ 5 การศึกษาเพื่อกำ� หนดแนวทางการจดั การปาลม์ น้ำ� มันและผลติ ภัณฑ์ตอ่ เนื่องท่ีใชป้ ระโยชนจ์ ากน�้ำมนั ปาล์มอย่างยงั่ ยนื
ขอ้ เสนอเชิงนโยบายการเกษตร การวิเคราะหก์ ระบวนการไหลของปาล์มน้ำ� มันและผลติ ภณั ฑต์ อ่ เนอื่ ง การบริหารจัดการปาล์มน้�ำมันอย่างยั่งยืน จ�ำเป็นต้องพิจารณาปัญหาและผลกระทบท่ีเกิดขึ้น อย่างครบถ้วน ท้ังด้านเศรษฐกิจและด้านสิ่งแวดล้อม จึงต้องมีความเข้าใจในภาพรวมของปาล์มน�้ำมัน ท้ังระบบ และส่ิงส�ำคัญที่สุดที่จะช่วยสนับสนุนกระบวนการตัดสินใจ คือ การมีข้อมูลท่ีมีความแม่นย�ำ และเครือ่ งมอื วิเคราะหข์ อ้ มูล เพอื่ นำ� ไปใชใ้ นการบริหารจัดการอยา่ งเหมาะสม การวิเคราะหก์ ารไหลของ วัสด/ุ ผลติ ภณั ฑ์ (Material Flow Analysis : MFA) เป็นเครือ่ งมอื หนง่ึ ท่มี ปี ระสิทธภิ าพ สามารถใช้ใน การบรหิ ารจัดการส่ิงแวดล้อมไดอ้ ย่างเปน็ ระบบ การวิเคราะหก์ ารไหลของวัสดุ (Material Flow Analysis : MFA) สามารถอธบิ ายเส้นทางเข้า ออกของผลติ ภัณฑ์ จากจดุ ทีว่ สั ด/ุ ผลติ ภณั ฑน์ นั้ เรมิ่ ต้นผา่ นขน้ั ตอนทง้ั หมดของกระบวนการผลติ นำ� ไปใช้ เปน็ สว่ นผสม หรอื ส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ สินคา้ และบรกิ ารต่างๆ เพื่ออุปโภค บรโิ ภค จนถงึ ขัน้ ตอน การก�ำจัด รวมถึงการปล่อยสารน้ันออกสู่สิ่งแวดล้อม โดยใช้แนวคิดสมดุลมวลสาร (Mass Balance) 6 ตามกฎการอนรุ กั ษม์ วลสารวา่ “สสารตอ้ งไมส่ ญู หาย หรอื ถกู ทำ� ลาย” การวเิ คราะหน์ เ้ี รยี กวา่ การทำ� บญั ชี การไหลของวสั ดุ (Physical Flow) ผลทไี่ ด้รับจะน�ำมาประเมนิ ผลกระทบส่ิงแวดล้อมตลอดวฏั จักรชวี ิต เพื่อพิจารณาผลกระทบจากการเกิดภาวะฝนกรด (Acidification) การเกิดภาวะพืชน�้ำเจริญผิดปกติ (Eutrophication) การเกิดภาวะโลกร้อน (Global Warming) การลดลงของชนั้ โอโซน (Ozone Layer Depletion) และการเกดิ ความเปน็ พษิ ต่อมนษุ ย์ (Human Toxicity) แผนผังการวิเคราะห์กระบวนการไหลของปาล์มน้ำ� มนั และผลติ ภัณฑต์ ่อเน่อื ง การศึกษาเพื่อก�ำหนดแนวทางการจัดการปาล์มน้�ำมนั และผลิตภัณฑต์ ่อเนื่องทีใ่ ช้ประโยชน์จากน้�ำมนั ปาล์มอย่างยัง่ ยืน
ขอ้ เสนอเชิงนโยบายการเกษตร ผลวเิ คราะหข์ องปาลม์ นำ้� มนั และผลติ ภณั ฑต์ อ่ เนอื่ ง เพอ่ื คาดการณป์ รมิ าณนำ้� มนั ทสี่ ญู เสยี 7 ในห่วงโซ่การผลิต พบว่า การสูญเสียในกระบวนการผลิตเกิดขึ้นมากท่ีสุดในกระบวนการสกัดน้�ำมัน ปาลม์ ดิบ โดยมกี ารสูญเสียเฉลยี่ ร้อยละ 1.38 ของนำ�้ หนักทะลายปาลม์ สดทีเ่ ข้าสู่กระบวนการหีบ ปัจจบุ ัน โรงงานสกัดน้�ำมันปาล์มดิบสามารถสกัดน�้ำมันปาล์มดิบได้ในช่วงร้อยละ 17-19 เฉล่ียร้อยละ 17.54 (กรมการคา้ ภายใน, 2556) และเมอ่ื นำ� มารวมกบั นำ้� มนั สว่ นทสี่ ญู เสยี ไปกบั กระบวนการผลติ (รอ้ ยละ 1.38) จะพบว่า สามารถประเมินปริมาณมวลสารของน�้ำมันท่ีหน้าโรงงานสกัดได้ประมาณร้อยละ 19 ท�ำให้ สรุปไดว้ า่ เปอรเ์ ซน็ ตน์ ำ�้ มนั เฉล่ียของทะลายปาล์มสดที่หน้าโรงงาน คดิ เปน็ รอ้ ยละ19 ซึ่งไมส่ อดคลอ้ ง กับข้อมูลเปอร์เซ็นต์น้�ำมันของพันธุ์ปาล์มชนิดต่างๆท่ีมีค่าอยู่ที่ร้อยละ 20 ทั้งน้ีสัดส่วนน้�ำมันที่หายไป อาจเนื่องมาจากเกิดการสูญเสียเปอร์เซ็นต์น�้ำมันต้ังแต่ข้ันตอนการเก็บเก่ียวและขนส่งผลผลิตจากสวน ปาลม์ และลานเทมายังโรงงานสกัดนำ�้ มันปาล์ม ซงึ่ การขนส่งทะลายปาล์มสดหลงั เกบ็ เกี่ยวเกิน 24 ชว่ั โมง จะสง่ ผลใหส้ กดั นำ�้ มนั ไดล้ ดลง สว่ นการสญู เสยี ในกระบวนการกลน่ั และกระบวนการผลติ ไบโอดเี ซล พบวา่ ในกระบวนการกลั่นนำ้� มนั ปาล์มนนั้ มกี ารสญู เสียเกดิ ขึ้นในปริมาณนอ้ ย เนอื่ งจากกระบวนการผลติ เป็น ระบบปิดและมีผลิตภณั ฑร์ ่วมเกิดข้ึนดว้ ย ผลวิเคราะห์การไหลของปาล์มนำ้� มนั และผลิตภณั ฑ์ต่อเนือ่ ง ภายใตแ้ ผนพัฒนาพลงั งาน ทดแทนและพลงั งานทางเลือก (AEDP ปี 2555-2564) พบวา่ หากในปี 2564 มีการขยายพื้นท่ี ปลกู ปาล์มเป็น 5.5 ลา้ นไร่ และมพี นื้ ท่ใี ห้ผลผลิต 5.3 ล้านไร่ และโรงงานสกดั นำ้� มนั ปาล์มมอี ัตราการ สกดั น้�ำมัน (Oil Extraction Rate: OER) ที่ 18% จะสามารถแปรรปู ผลติ ภัณฑข์ น้ั ต้นไดน้ �้ำมันปาลม์ ดบิ (CPO) ปรมิ าณ 3.26 ล้านตัน ข้อมลู จากแผนพัฒนาพลังงานฯ คาดวา่ ความตอ้ งการนำ้� มันปาล์มดบิ (CPO) เพอื่ ผลติ ไบโอดเี ซล (B100) เท่ากบั 2.35 ลา้ นตนั และเพื่อการบริโภค เทา่ กับ 1.20 ลา้ นตนั ดงั นน้ั ความต้องการรวมเทา่ กับ 3.55 ลา้ นตัน เมื่อเทยี บกบั ปริมาณนำ้� มันปาลม์ ดบิ (CPO) ท่ผี ลิตไดป้ รมิ าณ 3.26 ล้านตนั (คิดอัตราการ สกดั ท่ี 18%) ปริมาณนำ�้ มนั ปาล์มดิบ (CPO) ท่ผี ลิตไดจ้ ึงยงั ต่ำ� กวา่ ความต้องการเท่ากบั 0.28 ล้านตนั การศึกษาเพอ่ื ก�ำหนดแนวทางการจดั การปาลม์ น้ำ� มันและผลติ ภัณฑต์ อ่ เน่ืองทใ่ี ชป้ ระโยชน์จากน�้ำมนั ปาล์มอย่างยง่ั ยนื
ข้อเสนอเชิงนโยบายการเกษตร ดงั นั้น การขยายพ้ืนทีป่ ลกู ปาล์มน�ำ้ มนั ซง่ึ ตัง้ เปา้ หมายไวใ้ นปี พ.ศ. 2564 จงึ ยงั ไม่สามารถผลติ นำ�้ มนั ปาล์มดบิ ได้เพียงพอต่อความตอ้ งการใช้นำ�้ มนั ภายในประเทศ 8 แผนผงั เส้นทางการไหลของน�้ำมนั ปาล์มดิบและผลติ ภณั ฑต์ ่อเนอ่ื ง (ประเมนิ จากแผนพฒั นาพลงั งานทดแทนและพลังงานทางเลือก ปี 2555-2564) ผลการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมโดยใช้หลักการประเมินวัฏจักรชีวิต พบว่า ผลกระทบ สิ่งแวดล้อมส่วนใหญ่เกิดข้ึนจากข้ันตอนการเพาะปลูกเป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ปุ๋ยเคมี ซ่ึงผล กระทบสงิ่ แวดลอ้ มทเ่ี กดิ ขนึ้ ในขนั้ ตอนการปลกู ปาลม์ นำ�้ มนั จะสง่ ผลกระทบตลอดหว่ งโซอ่ ปุ ทานของปาลม์ นำ�้ มนั ดว้ ย ดงั นน้ั หากมกี ารสง่ เสรมิ การใชป้ ยุ๋ เคมใี นปรมิ าณทเ่ี หมาะสมกบั แตล่ ะพน้ื ที่ จะชว่ ยลดผลกระทบ สงิ่ แวดลอ้ มของปาลม์ น�ำ้ มนั และผลติ ภณั ฑ์ต่อเนอื่ งไดต้ ลอดวฏั จักรชวี ติ ผลกระทบสิ่งแวดล้อมของการผลิต น�้ำมันปาลม์ บรสิ ุทธิ์ ปริมาณ 1 ตัน โดยใช้หลกั การประเมนิ ตลอดวัฏจักรชวี ิต การศึกษาเพอ่ื กำ� หนดแนวทางการจัดการปาล์มน้ำ� มนั และผลิตภัณฑต์ ่อเน่ืองทีใ่ ช้ประโยชน์จากน�้ำมนั ปาลม์ อยา่ งยั่งยนื
ขอ้ เสนอเชงิ นโยบายการเกษตร 9อนิ โฟ การศกึ ษาเพ่อื ก�ำหนดแนวทางการจัดการปาลม์ น�้ำมนั และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องท่ีใชป้ ระโยชนจ์ ากน�้ำมนั ปาลม์ อยา่ งยง่ั ยืน
ข้อเสนอเชงิ นโยบายการเกษตร โปรแกรมวิเคราะห์ผังการไหลของวัสดุอย่างง่าย (MFA Pro) สำ� หรบั อตุ สาหกรรมแปรรูปปาลม์ น�ำ้ มันและผลิตภณั ฑ์ต่อเนอื่ ง MFA Pro เปน็ เครอื่ งมอื การวเิ คราะหข์ อ้ มลู ในรปู แบบโปรแกรมสำ� เรจ็ รปู ใชห้ ลกั การสมดลุ มวลสาร ในการวเิ คราะหก์ ารไหลของวสั ดอุ ยา่ งงา่ ย เพอ่ื ใชใ้ นการบรหิ ารจดั การ ส่ิงแวดล้อมอย่างเป็นระบบ สำ� หรบั อุตสาหกรรมน�ำ้ มนั ปาลม์ และผลิตภัณฑ์ตอ่ เนอื่ งทใี่ ช้ ประโยชนจ์ ากนำ�้ มันปาลม์ โปรแกรม MFA Pro ประกอบด้วย 1) ฐานขอ้ มลู รายการสารขาเข้า-สารขาออก ของกระบวนการผลติ ในอตุ สาหกรรมปาลม์ นำ้� มนั และผลติ ภณั ฑต์ อ่ เนอื่ ง 2) การประเมนิ ผลกระทบสง่ิ แวดลอ้ มตลอดวฏั จกั รชวี ิต และ 3) ทางเลือกเทคโนโลยกี ารจัดการของเสีย จดุ เด่นของโปรแกรม MFA Pro คอื สามารถน�ำไปใชใ้ นการประเมินการไหล ของวัสดุ การประเมนิ ผลกระทบสง่ิ แวดลอ้ มตลอดวฏั จกั รชวี ติ การประเมนิ คา่ คารบ์ อน 10 ฟตุ พรนิ้ ทเ์ บอื้ งตน้ และการประเมนิ ราคาของต้นทุนในแต่ละกระบวนการผลติ การศกึ ษาเพือ่ กำ� หนดแนวทางการจัดการปาล์มน้�ำมันและผลติ ภณั ฑ์ตอ่ เนอ่ื งที่ใช้ประโยชน์จากน�ำ้ มันปาล์มอยา่ งยง่ั ยืน
ข้อเสนอเชิงนโยบายการเกษตร เทคโนโลยีกำ� จัดของเสียจากการผลติ ปาล์มน้�ำมันและผลติ ภณั ฑ์ตอ่ เนอื่ ง กระบวนการผลิตปาล์มน�้ำมันและน�้ำมันปาล์ม ก่อให้เกิดของเสียที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อ 11 สงิ่ แวดล้อมได้ เชน่ นำ้� เสีย กากตะกอนนำ้� มัน ทะลายปาลม์ เกา่ กะลาปาล์ม และเส้นใยจากเปลือก ผลปาลม์ เป็นต้น โดยของเสียดงั กลา่ วมศี ักยภาพในการนำ� กลับมาใช้ประโยชน์ทงั้ ในเชงิ พลังงานและวสั ดุ ทดแทนตา่ งๆ ดงั นน้ั การวเิ คราะหเ์ ปรยี บเทยี บผลกระทบดา้ นสงิ่ แวดลอ้ มและความคมุ้ คา่ ททางเศรษฐศาสตร์ จึงเป็นข้อมูลสนับสนุนท่ีส�ำคัญในการเสนอทางเลือกการน�ำของเสียท่ีเกิดจากกระบวนการผลิตไปใช้ ประโยชนใ์ นอนาคต การจัดการน้�ำเสียในอุตสาหกรรมปาล์มน�้ำมันและน�้ำมันปาล์ม โดยเฉพาะโรงงานสกัดน้�ำมัน ปาลม์ ดบิ สว่ นใหญจ่ ะใชร้ ะบบบำ� บดั นำ้� เสยี แบบผลติ กา๊ ซชวี ภาพ เนอ่ื งจากนำ้� เสยี ทอ่ี อกจากระบวนการสกดั มีค่าซีโอดี (Chemical Oxygen Demand: COD) 80,000-100,00 มิลลิกรัม/ลติ ร ซ่ึงมคี า่ สงู มาก เหมาะ แก่การผลิตก๊าซชีวภาพ และระบบบ�ำบัดน้�ำเสียแบบผลิตก๊าซชีวภาพน้ีมีประสิทธิภาพในการบ�ำบัดสูง โดยใชร้ ะยะเวลาสั้น เทคโนโลยีหลกั ทีใ่ ช้ ไดแ้ ก่ ระบบบ่อปิดแบบไรอ้ อกซิเจน (Anaerobic Covered Lagoon หรือ Covered Lagoon) ระบบตรงึ ฟิล์มจลุ ินทรียช์ นดิ ไม่ใชอ้ ากาศ (Anaerobic Fixed Film หรอื Anaerobic Filter) ระบบยเู อเอสบี (Up-flow Anaerobic Sludge Blanket หรือ UASB) และ ระบบถงั กวนสมบูรณ์ (Continuous Stirred Tank Reactor หรอื CSTR) การประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยบี ำ� บดั นำ้� เสยี แตล่ ะแบบ ขน้ึ อยกู่ บั ขอ้ จำ� กดั ของโรงสกดั นำ�้ มนั ปาลม์ ดบิ เอง กลา่ วคือ ระบบ Covered Lagoon เหมาะสมสำ� หรับโรงงานทม่ี ีพนื้ ที่ไม่จำ� กัดส�ำหรบั ระบบบ�ำบดั น�้ำ เสยี การเดินระบบไม่ซบั ซ้อน และการลงทุนต�ำ่ แต่ต้องมีการบริหารจัดการกากตะกอนทีส่ ะสมในบ่อดว้ ย สว่ นระบบ Anaerobic Filter ระบบยเู อเอสบี และระบบ CSTR ต้องการการดแู ลรกั ษาระบบทซี่ บั ซ้อน กวา่ การลงทุนหรือต้นทนุ การดำ� เนินงานสูงกว่า แตม่ ีประสทิ ธิภาพในการบำ� บดั โดยเฉล่ยี สูงกวา่ อยา่ งไร ก็ตาม เทคโนโลยีท่ีเปน็ ที่นยิ มและโรงงานสกดั น�้ำมนั ปาลม์ ดบิ ส่วนใหญเ่ ลอื กใช้ คือ ระบบ CSTR เนอื่ งจาก เทคโนโลยีนี้จะมีการกวนน�้ำเสียท่ีมีน้�ำมันปาล์มผสมอยู่ เพ่ือให้จุลินทรีย์สามารถย่อยหรือบ�ำบัดน้�ำเสีย ไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพแต่ตอ้ งพึงระวงั การสึกกรอ่ นของใบกวนซ่ึงเปน็ ปญั หาหลกั ของเทคโนโลยนี ้ีสว่ นนำ้� เสียที่ผ่านการบ�ำบัดด้วยระบบผลิตก๊าซชีวภาพแล้ว ยังต้องถูกส่งไปบ�ำบัดต่อในระบบบ�ำบัดน้�ำเสียแบบ บอ่ เปดิ ทีต่ อ่ อนุกรมกัน เพ่อื ใหน้ ำ้� เสียมีคา่ COD อยู่ในเกณฑม์ าตรฐานนำ้� ท้งิ หรอื อยใู่ นเกณฑ์ที่นำ� ไปใช้ ในการเกษตรกรรมได้ เพอื่ ไมใ่ ห้สง่ ผลกระทบต่อส่ิงแวดลอ้ ม การศกึ ษาเพอ่ื ก�ำหนดแนวทางการจดั การปาลม์ น�้ำมนั และผลติ ภัณฑ์ต่อเนื่องทใี่ ช้ประโยชน์จากนำ�้ มันปาล์มอยา่ งยั่งยืน
ขอ้ เสนอเชงิ นโยบายการเกษตร ผลการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมของการจัดการนำ้� เสีย พบว่า การเปลย่ี นระบบบ�ำบัดน�้ำ เสียจากระบบดงั้ เดิม (บอ่ เปิด หรือ Open Pond) มาใชร้ ะบบบำ� บัดแบบไมใ่ ช้อากาศและผลิตกา๊ ซชีวภาพ เพือ่ นำ� ไปผลิตกระแสไฟฟ้า ชว่ ยลดผลกระทบทางดา้ นส่ิงแวดล้อมในทุกดา้ น โดยระบบถังกวนสมบรู ณ์ ผสมดว้ ยระบบยเู อเอสบี (CSTR + UASB) สง่ ผลกระทบต่อส่ิงแวดลอ้ มนอ้ ยท่ีสดุ ท้ังดา้ นการก่อให้เกิด ภาวะฝนกรด การเกดิ ภาวะพืชน�ำ้ เจรญิ ผิดปกติ ความเปน็ พิษต่อมนุษย์ และการปล่อยก๊าซเรอื นกระจก รองลงมาคือ การบ�ำบดั น�ำ้ เสียด้วยระบบถังกวนสมบรู ณ์ (CSTR) ระบบตรงึ ฟลิ ์ม (Fixed Film) และระบบ Covered Lagoon ตามล�ำดบั 12 ผลการประเมินความคุม้ คา่ ทางเศรษฐศาสตรข์ องการจดั การน้�ำเสยี พบว่าระบบบำ� บัดน�้ำเสีย แบบไรอ้ ากาศสามารถชว่ ยสรา้ งรายไดเ้ พมิ่ ใหก้ บั ผปู้ ระกอบการ เนอื่ งจากระบบบำ� บดั นำ้� เสยี แบบไรอ้ ากาศ สามารถน�ำก๊าซชีวภาพท่ีได้ไปผลิตกระแสไฟฟ้า เพื่อขายเข้าระบบสายส่งของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ ซึง่ จะให้ผลตอบแทนในการลงทุน 15-28% และมรี ะยะเวลาคนื ทนุ 3.3-5.2 ปี ขึ้นกบั เทคโนโลยีท่ีเลือกใช้ โดยระบบถงั กวนสมบูรณ์ (CSTR) มีค่ามลู ค่าปจั จุบนั สทุ ธิ (NPV) สูงสุด 82 ล้านบาท รองลงมาคือ ระบบ Covered Lagoon เทา่ กับ 76 ลา้ นบาท และแบบ Fixed Film เท่ากับ 44 ลา้ นบาท และเมอื่ พิจารณา ถึงอัตราผลตอบแทนภายใน (IRR) และระยะเวลาคนื ทนุ พบว่าเทคโนโลยแี บบ Covered Lagoon มคี ่า IRR สงู สดุ เทา่ กับ 28% และระยะเวลาคนื ทนุ 3.3 ปี รองลงมา คือ ระบบถังกวนสมบรู ณ์ (CSTR) มคี า่ IRR เท่ากบั 26% และระยะเวลาคนื ทนุ 3.5 ปี การศึกษาเพอ่ื ก�ำหนดแนวทางการจดั การปาลม์ น�้ำมนั และผลติ ภัณฑต์ ่อเน่ืองทใี่ ชป้ ระโยชนจ์ ากน้�ำมันปาล์มอยา่ งยง่ั ยืน
ข้อเสนอเชิงนโยบายการเกษตร การจดั การกากของเสยี ในอตุ สาหกรรมปาลม์ นำ�้ มนั และนำ้� มนั ปาลม์ กากของเสยี จำ� พวกทะลาย ปาลม์ เปลา่ เสน้ ใยเปลอื กผลปาล์ม กะลาปาล์ม กากเนอ้ื เมลด็ ในปาลม์ และกากตะกอนนำ้� มันปาลม์ มีศักยภาพในการน�ำไปผลิตปยุ๋ อนิ ทรีย์ ผลิตไฟฟ้าและพลังงานความร้อน หรือผลิตวัสดทุ ดแทนไม้ ซึง่ เป็น การจัดการของเสยี ท่ีชว่ ยลดปัญหาด้านสิ่งแวดลอ้ ม ผลกระทบด้านส่ิงแวดลอ้ มของการจดั การของเสยี ชีวมวล พบวา่ การใชข้ องเสยี ชีวมวลจาก กระบวนการผลิตน้�ำมันปาล์มดิบไปผลิตปุ๋ยชีวภาพ เพื่อทดแทนการซื้อปุ๋ยมาใช้นั้น ส่งผลกระทบด้าน การก่อใหเ้ กิดภาวะฝนกรด และการก่อให้เกดิ ภาวะพืชนำ�้ เจริญผิดปกตติ ำ่� กวา่ การนำ� ไปเผาเป็นเชือ้ เพลิง ชีวมวลเพอ่ื ผลติ ไฟฟ้า การผลติ วัสดุทดแทนไม้ และการกองทิง้ ในขณะที่ ผลกระทบดา้ นความเป็นพิษต่อ มนุษยข์ องการน�ำชีวมวลไปผลิตเปน็ วสั ดทุ ดแทนไม้ มคี า่ ผลกระทบตำ�่ สุด เมื่อเปรยี บเทยี บกบั การจัดการ ของเสียดว้ ยวธิ อี ื่น 13 ผลการประเมินความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ของการจัดการของเสียชีวมวล พบว่า การน�ำ ของเสียชวี มวลมาผลติ ป๋ยุ อินทรีย์ ไฟฟ้า และวัสดทุ ดแทนไม้ นอกจากจะช่วยลดผลกระทบสิง่ แวดลอ้ ม โดยเฉพาะด้านการปลอ่ ยก๊าซเรอื นกระจก ยังช่วยสร้างมูลคา่ เพ่มิ ใหก้ ับของเสยี ชวี มวลด้วย โดยการลงทนุ สรา้ งโรงไฟฟ้าชวี มวลตอ้ งใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง มีอตั ราผลตอบแทนภายใน (IRR) เทา่ กับ 23% คา่ มูลค่า ปจั จบุ นั สุทธิ (NPV) ที่ 15 ปี เท่ากับ 725 ล้านบาท ซงึ่ มคี า่ สงู ท่สี ุดเม่ือเทยี บกบั เทคโนโลยีอื่น และระยะ เวลาคนื ทนุ 4 ปี ส�ำหรับการลงทุนตั้งโรงงานผลิตวัสดุทดแทนไม้จากทะลายปาล์มเปล่าและเส้นใยจากเปลือกผล ปาล์ม จะให้ผลตอบแทนในการลงทุนสูงถงึ 33% คา่ NPV เท่ากับ 410 ลา้ นบาท และมรี ะยะเวลาคืนทุน 3 ปี ในขณะทก่ี ารลงทุนตงั้ โรงงานผลิตปยุ๋ อนิ ทรยี ์ มีคา่ IRR เทา่ กับ 29% คา่ NPV เทา่ กบั 156 ล้านบาท และระยะเวลาคืนทุน 3.3 ปี การศกึ ษาเพ่ือก�ำหนดแนวทางการจดั การปาลม์ น้ำ� มนั และผลิตภณั ฑต์ ่อเน่อื งท่ใี ชป้ ระโยชนจ์ ากน�้ำมนั ปาลม์ อย่างยั่งยืน
ขอ้ เสนอเชิงนโยบายการเกษตร อินโฟ 14 การศึกษาเพ่อื กำ� หนดแนวทางการจดั การปาลม์ นำ�้ มนั และผลติ ภัณฑ์ตอ่ เนื่องทใี่ ชป้ ระโยชนจ์ ากน�ำ้ มันปาล์มอยา่ งยั่งยนื
ข้อเสนอเชิงนโยบายการเกษตร ข้อเสนอแนวทางการจัดการปาล์มนำ้� มนั และผลิตภัณฑ์ตอ่ เนอ่ื งอย่างยงั่ ยนื การจดั การปาลม์ นำ้� มนั และผลติ ภณั ฑต์ อ่ เนอ่ื งจากนำ้� มนั ปาลม์ อยา่ งยงั่ ยนื มแี นวทางในการวางแผน 15 หรือก�ำหนดมาตรการ เพื่อลดผลกระทบสิง่ แวดล้อมและการจัดการของเสียตลอดทงั้ หว่ งโซอ่ ุปทาน ดงั นี้ 1. การใช้ข้อมูลจากการวิเคราะห์การไหลของปาล์มน�้ำมัน (Material Flow Analysis) เพอ่ื บริหารจัดการตลอดห่วงโซ่การผลติ คาดการณป์ รมิ าณน้ำ� มนั ท่ีสูญเสยี จากกระบวนการสกัดน้�ำมนั ปาลม์ และสามารถน�ำผล ไปใชว้ างแผนการผลิตเพ่ือลดการสูญเสยี น้ำ� มันทีเ่ กิดข้นึ ได้ วางแผนและก�ำหนดมาตรการรองรับเพื่อลดความสูญเสียจากกระบวนการสกัดน�้ำมัน ปาล์ม ตลอดจนก�ำหนดแนวทางปฏบิ ัตทิ เี่ หมาะสมให้แก่ผูท้ ่ีมสี ่วนเกยี่ วข้องตา่ งๆ ทัง้ ภาคการผลิตและการ แปรรปู เช่น เกษตรกร พ่อคา้ คนกลาง (ลานเท) และผปู้ ระกอบการ เป็นต้น 2. การใช้ข้อมูลจากการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ เพ่ือพจิ ารณาทางเลอื กในการลดผลกระทบอยา่ งเหมาะสม สนับสนุนผู้ประกอบการอุตสาหกรรมปาล์มน้�ำมันและน้�ำมันปาล์มในการตัดสินใจ เลือกใช้เทคโนโลยีการจัดการของเสียท่ีเกิดข้ึนจากกระบวนการผลิตปาล์มน�้ำมันและผลิตภัณฑ์ต่อเน่ือง อยา่ งเหมาะสมและคุม้ ค่า สนับสนุนภาครัฐในการก�ำหนดแนวทางส่งเสริมเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อม ในหว่ งโซ่อปุ ทานของอุตสาหกรรมปาลม์ น�้ำมันและน�้ำมนั ปาล์ม ส่งเสริมการให้ความรู้แก่เกษตรกรสวนปาล์มเก่ียวกับวิธีการหรือแนวปฏิบัติที่ดีในการ จัดการสวนปาล์มนำ้� มนั (Good Agricultural Practices) เพือ่ ช่วยลดผลกระทบทางส่ิงแวดล้อมจากการ ใช้ปยุ๋ เคมใี นข้ันตอนการเพาะปลกู การศึกษาเพื่อกำ� หนดแนวทางการจัดการปาลม์ น้�ำมันและผลิตภณั ฑต์ ่อเนอ่ื งทใี่ ช้ประโยชนจ์ ากนำ�้ มันปาล์มอยา่ งยั่งยืน
ขอ้ เสนอเชงิ นโยบายการเกษตร • จากนโยบายการเพิ่มพื้นท่ีปลูกปาล์มน�้ำมันของภาครัฐ คาดว่าในปี 2564 จะมี ปริมาณการผลิตน้�ำมันปาล์มและผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องเพ่ิมข้ึนอีกจ�ำนวนมาก รวมทั้ง ก่อใหเ้ กิดของเสยี และผลพลอยไดเ้ พม่ิ สงู ข้นึ ซ่งึ สามารถน�ำกลับมาใชป้ ระโยชนไ์ ด้ • ผลการประเมินผลกระทบสิง่ แวดล้อมของนำ้� มันปาล์มบรสิ ทุ ธิ์ ปริมาณ 1 ตนั โดย ใชห้ ลกั การประเมนิ วฏั จกั รชวี ติ เหน็ ไดช้ ดั วา่ ผลกระทบสว่ นใหญม่ าจากการเพาะปลกู ซง่ึ เกดิ จากการใชป้ ยุ๋ เคมี แตห่ ากสง่ เสรมิ ใหใ้ ชป้ ยุ๋ เคมใี นปรมิ าณทเ่ี หมาะสม จะชว่ ยลด ผลกระทบสิ่งแวดล้อมได้ตลอดวัฏจักรชีวิตของการผลิตปาล์มน้�ำมันและผลิตภัณฑ์ ต่อเนอ่ื ง 16 • การวเิ คราะหเ์ ปรยี บเทยี บผลกระทบดา้ นสงิ่ แวดลอ้ มและความคมุ้ คา่ ทางเศรษฐศาสตร์ เปน็ ขอ้ มลู สำ� คญั ในการตดั สนิ ใจเลอื กเทคโนโลยกี ารนำ� ของเสยี ทเี่ กดิ จากกระบวนการ ผลติ ไปใช้ประโยชนไ์ ด้อยา่ งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมคี วามคมุ้ ค่าทางเศรษฐกิจ การศกึ ษาเพือ่ กำ� หนดแนวทางการจัดการปาล์มน้�ำมนั และผลิตภณั ฑ์ตอ่ เนอ่ื งทใี่ ช้ประโยชน์จากน�้ำมันปาล์มอย่างยัง่ ยืน
ขอ้ เสนอเชิงนโยบายการเกษตร 17 • จากนโยบายการเพ่ิมพ้ืนที่ปลูกปาล์มน้�ำมันของภอาินคโฟรัฐ คาดว่าในปี 2564 จะมี ปริมาณการผลิตน้�ำมันปาล์มและผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องเพ่ิมข้ึนอีกจ�ำนวนมาก รวมทั้ง กอ่ ให้เกดิ ของเสียและผลพลอยได้เพ่ิมสูงขึน้ ซ่ึงสามารถน�ำกลบั มาใช้ประโยชน์ได้ • ผลการประเมนิ ผลกระทบสิ่งแวดลอ้ มของน�้ำมันปาล์มบรสิ ุทธ์ิ ปริมาณ 1 ตนั โดย ใชห้ ลกั การประเมนิ วฏั จกั รชวี ติ เหน็ ไดช้ ดั วา่ ผลกระทบสว่ นใหญม่ าจากการเพาะปลกู ซงึ่ เกดิ จากการใชป้ ยุ๋ เคมี แตห่ ากสง่ เสรมิ ใหใ้ ชป้ ยุ๋ เคมใี นปรมิ าณทเี่ หมาะสม จะชว่ ยลด ผลกระทบสิ่งแวดล้อมได้ตลอดวัฏจักรชีวิตของการผลิตปาล์มน้�ำมันและผลิตภัณฑ์ ตอ่ เน่ือง • การวเิ คราะหเ์ ปรยี บเทยี บผลกระทบดา้ นสง่ิ แวดลอ้ มและความคมุ้ คา่ ทางเศรษฐศาสตร์ เปน็ ขอ้ มลู สำ� คญั ในการตดั สนิ ใจเลอื กเทคโนโลยกี ารนำ� ของเสยี ทเ่ี กดิ จากกระบวนการ ผลติ ไปใช้ประโยชนไ์ ดอ้ ยา่ งเปน็ มิตรตอ่ ส่ิงแวดลอ้ มและมีความค้มุ คา่ ทางเศรษฐกิจ การศึกษาเพ่ือกำ� หนดแนวทางการจดั การปาลม์ น�้ำมันและผลิตภณั ฑต์ อ่ เน่อื งทใ่ี ช้ประโยชน์จากน�้ำมันปาล์มอยา่ งยั่งยนื
ขอเสขนอเอสเนชองิ เชนงิ โนยโยบบาายยกกาารรเกเกษตษรตร รายนามคณะผวู ิจัย นายเสกสรร พาปอง ศนู ยเ ทคโนโลยโี ลหะและวัสดแุ หง ชาติ ผศ.ดร.ปมทอง มาลากุล ณ อยุธยา สำนกั งานพัฒนาวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยแี หงชาติ รศ.ดร.เอจ็ สโรบล วิทยาลัยปโิ ตรเลยี มและปิโตรเคมี จฬุ าลงกรณมหาวทิ ยาลยั นางสาวประกายธรรม สุขสถติ ย คณะเกษตร มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร นางสาวฤทยั ตรงั ควชิรกุล ศูนยเ ทคโนโลยโี ลหะและวสั ดแุ หง ชาติ นางสุทธวิ รรณ ธรรมสกนธ สำนักงานพฒั นาวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยีแหงชาติ นางสาวทศั นยี ว รรณ ชมอนิ ทร ศนู ยเทคโนโลยโี ลหะและวัสดแุ หง ชาติ สำนกั งานพัฒนาวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยีแหงชาติ 18 นางเพชรดา เวณนุ ันท ศนู ยเทคโนโลยโี ลหะและวสั ดุแหงชาติ สำนกั งานพฒั นาวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยีแหง ชาติ ศนู ยเ ทคโนโลยโี ลหะและวัสดแุ หงชาติ สำนกั งานพัฒนาวิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยีแหงชาติ ศนู ยเทคโนโลยีโลหะและวัสดุแหง ชาติ สำนกั งานพฒั นาวทิ ยาศาสตรและเทคโนโลยีแหง ชาติ จดั ทำโดย สำนกั สง่ เสรมิ การใชป้ ระโยชน์ สำนกั งานพฒั นาการวิจยั การเกษตร (องคก์ ารมหาชน) 2003/61 ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตจุ กั ร กรุงเทพฯ 10900 โทรศพั ท์ : 0 2579 7435 ตอ่ 3301-3315 โทรสาร : 0 2579 7693 เว็บไซต์ : http://www.arda.or.th พพิมิมพพ์คค์ รร้งั้งั ทท่ีี่ 1 : พฤศจกิ ายน 2559 2 : กุมภาพันธ์ 2561 เอกสารนีสงั เคราะหจากงานวจิ ยั เรอื ง “การศึกษาเพือกำหนดแนวทางการจดั การปาลม น้ำมันและผลติ ภณั ฑตอ เนอื งทีใ ชป ระโยชนจากน้ำมันปาลมอยา งยังยืน” การศึกภษาายเพใตอื กง าานหนวิจดยัแนมวุงทเปางา กตาอรบจสัดนกอารงปคาวลาม มนตาอมงันกแาลระพผฒัลิตนภาณั ปรฑะต เอทเนศอืโดงยทเีใ ชรงป ดรวะโนยชกนลจมุากเรนอื า งมปันาปลาม ลนม อำ้ มยาันงยงั ยืน
Search
Read the Text Version
- 1 - 20
Pages: