\\ชุดกิจกรรมการเรียนร้วู ิชาชีววทิ ยา 5 (ว 33245) ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 6 เรอื่ ง : การเคล่ือนทขี่ องมนุษย์ นางรญั จวน คาชนะ ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ โรงเรยี นเชยี งกลาง“ประชาพฒั นา” สานกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษาน่าน สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
ก คำนำ ชุดกิจกรรมการเรยี นรูร้ ายวชิ าชีววทิ ยา 5 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 เรื่องการเคลอ่ื นทีข่ อง มนษุ ย์ ผสู้ อนไดด้ ำเนนิ การจดั ทำขน้ึ เพอ่ื ประกอบในการจดั กิจกรรมการการเรียนการสอน กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าชีววิทยา 5 รหสั วชิ าว33245 สาระชวี วทิ ยา4 ซ่งึ ผู้เรยี นสามารถเรยี นรแู้ ละปฏิบตั ิกิจกรรมได้ดว้ ยตนเอง เรียนร้แู ละสรา้ งองคค์ วามรูต้ ามลำดับ ขนั้ ศักยภาพและความสามารถของตนเอง ช่วยพัฒนาให้ผเู้ รยี นมีทักษะในการแสวงหาความรู้ ทกั ษะความคิด สามารถดำรงชวี ติ ในโลกแห่งการเปลีย่ นแปลงอยา่ งรเู้ ท่าทัน เม่ือผเู้ รยี นศกึ ษาชุดกิจกรรมการเรยี นรนู้ ี้แลว้ ผ้เู รยี นมีความรคู้ วามเขา้ ใจ ทักษะและ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ตามจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เพราะนอกจากความรู้ คำถาม สอ่ื การ เรียนรทู้ ่ีถกู จัดวางเปน็ ระบบตามขั้นตอนแล้ว ยังมีการเชื่อมโยงกบั แหลง่ ข้อมลู วดิ ีทศั นเ์ พอ่ื ช่วย ขยายขอบเขตของการรบั ร้ขู องผเู้ รียนอีกด้วย ผู้สอนหวงั ว่า ชดุ กิจกรรมการเรยี นรูเ้ ลม่ นี้ จะเปน็ ประโยชนอ์ ยา่ งยิง่ กบั ผเู้ รยี น ครูผสู้ อนและผู้ทส่ี นใจนำไปใชใ้ นการพฒั นาผเู้ รยี นใหเ้ ปน็ บคุ คลแห่งการเรยี นรู้ละมคี วามปกตสิ ขุ ในการดำรงชีวติ รญั จวน คำชนะ
ข สารบัญ หนา้ ก เร่ือง ข คานา 1 สารบญั 2 คาช้ีแจงการใชช้ ุดกิจกรรมการเรียนรู้ 3 คาแนะนาสาหรับครู 4 คาแนะนาสาหรับนกั เรียน 5 ข้นั ตอนการการใช้ 5 มาตรฐานการเรียนรู้ 6 ผลการเรียนรู้ 8 แบบทดสอบก่อนเรียน 9 - 26 ตารางวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ ชุดการเรียนรู้เร่ืองการเคล่ือนที่ของมนุษย์ 27 35 - บตั รเน้ือหา 37 - บตั รกิจกรรม 38 - บตั รเฉลย แบบทดสอบหลงั เรียน เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน บรรณานุกรม
1 คำชี้แจง เร่ืองการเคลื่อนท่ีของมนุษย์ 1. กิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาชีววิทยา 5 ว33245 เร่ืองการเคล่ือนท่ีของมนุษย์ สาหรับ นกั เรียนมธั ยมศึกษาปี ท่ี 6 2. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาชีววิทยา 5 ว33245 เร่ืองการเคลื่อนทขี่ องมนุษย์ มี จุดประสงคก์ ารเรียนรู้และเน้ือหาท่ีสอดคลอ้ งกบั สาระและมาตรฐานกลุ่มสารารเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระชีววทิ ยา 4 ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 6 3. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาชีววทิ ยา 5 ว33245 เรื่องการเคลื่อนท่ีของมนุษย์ จะเสร็จ สมบูรณ์ในตวั เอง นกั เรียนสามารถทบทวนไดต้ ามที่ตอ้ งการ นอกจากน้ียงั มีการ เช่ือมโยงไปยงั วดิ ีทศั นเ์ พอ่ื ใชศ้ ึกษาและคน้ ควา้ เพิม่ เติม 4. นกั เรียนนสามารถประเมินตนเองไดโ้ ดยการตรวจคาตอบจากเฉลย 5. ควรศึกษาคาแนะนาในการใชช้ ุดกิจกรรมการเรียนรู้ก่อนใชช้ ุดกิจกรรม
2 คำแนะนำสำหรับครู 1. ข้นั ตอนการจดั การเรียนรู้ 1. ศึกษารายละเอียดของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ใหเ้ ขา้ ใจก่อนสอน 2. จดั เตรียมสิ่งแวดลอ้ ม ระบบสนบั สนุน เคร่ืองมือวดั และประเมินผลใหพ้ ร้อมใช้ 2.ข้นั ตอนการสอน ครูเป็นผใู้ หค้ าแนะนาและอานวยความสะดวกในการดาเนินกิจกรรม ท้งั น้ีควรกระตนุ้ และส่งเสริมใหน้ กั เรียนมีส่วนร่วมในการปฏบิ ตั ิกิจกรรม เพือ่ พฒั นาทกั ษะการคิด กลา้ แสดง ความคิดเห็น การทางานเป็นทีม และรับผิดชอบต่อหนา้ ท่ี 3.ข้ันสรุป เมื่อสิ้นสุดการปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนการสอน ครูควรประเมินผลการเรียนรู้ ของผเู้ รียนโดยใชแ้ บบทดสอบประจาชุดกิจกรรมการเรียนรู้
3 คำแนะนำสำหรับนกั เรยี น การจัดกิจกรรมการเรียนร้รู ายวชิ าชีววทิ ยา 5 ว33245 เรอื่ งการเคลอื่ นท่ีของมนุษย์ สำหรับนักเรียนชนั้ มธั ยมศึกษาทปี่ ี 6 ใหน้ กั เรยี นปฏิบตั ติ ามขน้ั ตอนด้วยความซื่อสตั ยแ์ ละตงั้ ใจ ดังน้ี 1. ศึกษาจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 2. ทำแบบทดสอบก่อนเรยี น ชุดกจิ กรรมการเรียนร้รู ายวชิ าชวี วทิ ยา 5 ว33245 เรอ่ื งการ เคลอื่ นทข่ี องมนุษยส์ ำหรบั นกั เรียนชน้ั มัธยมศึกษาที่ปี 6 3. ศึกษาเนอ้ื หาในบัตรเน้อื หาและปฏิบตั ิกิจกรรมและศึกษาสื่อตา่ ง ๆ ตามคำแนะนำของชุด กิจกรรมการเรยี รู้ ซง่ึ สอ่ื วดิ ีทศั น์จะเช่ือมโยงไดใ้ นรูปของ QRcode 4. ทำแบบฝกึ ในบตั รกจิ กรรมเกย่ี วกับกจิ กรรมการเรยี นรู้ เพอื่ ประเมินความรูค้ วามเขา้ ใจใน บทเรยี น 5. ทำแบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการเรยี นรกู้ ารเคลอื่ นทข่ี องมนษุ ย์ สำหรบั นกั เรียนช้นั มธั ยมศกึ ษาทีป่ ี 6 เรอ่ื งการเคลอ่ื นที่ของมนุษย์ 6. หากมีข้อคำถามหรอื ข้อสงสยั ให้ถามครผู ้สู อนได้ 7. เกณฑก์ ารผา่ นการประเมินจะผ่านเม่อื นกั เรียนทำคะแนนได้ คดิ เป็นรอ้ ยละ 70 หาก นกั เรยี นไมผ่ ่านการประเมิน ให้ศึกษาเนื้อหาและทำกิจกรรมอกี คร้งั อแลว้ ทำการ ประเมินผลใหม่ จนกว่าจะไดค้ ะแนนผา่ นเกณฑ์ เพอ่ื ให้มน่ั ใจวา่ นักเรยี นมคี วามรู้ ความ เข้าใจตามวัตถุประสงคก์ ารเรียนรู้ 8.
4 ข้นั ตอนการใช้ ในการเรียนรู้ดว้ ยชุดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาชีววทิ ยา 5 ว33245 หน่วยการเรียนรู้ การเคลื่อนที่ของสิ่งมีชีวิต สาหรับนกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาท่ีปี 6 เรื่องการเคลื่อนที่ของมนุษย์ นกั เรียนควรปฏิบตั ิดงั น้ี 1.ทาแบบทดสอบก่อนเรียน เพื่อตรวจสอบความรู้เดิม 2.ศึกษาจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรียนรู้และเน้ือหาใหเ้ ขา้ ใจ 3.ทากิจกรรมในชุดกิจกรรมการเรียนรู้ใหค้ รบถว้ น 4.ทาแบบฝึกในบตั รกิจกรรมใหถ้ กู ตอ้ ง 5.ทาแบบทดสอบหลงั เรียน เพอ่ื ประมวลผลความกา้ วหนา้ ในการเรียนรู้
5 มาตรฐานการเรียนรู้ สาระชีววทิ ยา 4 เขา้ ใจการยอ่ ยอาหารของสัตวแ์ ละมนุษย์ รวมท้งั การหายใจและการแลกเปลี่ยน แกส๊ การลาเลียงสารและการหมุนเวียนเลือด ภูมิคุม้ กนั ของร่างกายการขบั ถ่าย การรับรู้และการ ตอบสนอง การเคล่ือนท่ี การสืบพนั ธุ์และการเจริญเติบโต ฮอร์โมนกบั การรักษาดุลยภาพ และ พฤติกรรมสตั วร์ วมท้งั การนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ผลการเรียนรู้ 1. สืบคน้ ขอ้ มลู และอธิบายโครงสร้างและหนา้ ท่ีของกระดูกและกลา้ มเน้ือที่ เก่ียวขอ้ งกบั การ เคลื่อนไหวและการเคล่ือนทขี่ องมนุษย์ 2. สังเกตและอธิบายการทา งานของขอ้ ต่อชนิดตา่ งๆ และการทางานของกลา้ มเน้ือ โครงร่าง ที่เกี่ยวขอ้ งกบั การเคลื่อนไหวและการเคล่ือนที่ของมนุษย์ หน่วย ช่อื หน่วยการ มาตรฐาน/ สาระการเรียนรู้ เวลา การ เรยี นรู้ ตวั ชวี้ ดั / (ช่วั โมง) เรียนรู้ที่ ผลการเรียนรู้ 19 การเคลื่อนที่ของ มนุษย์ 1-2 1.การเคลื่อนที่ของมนุษย์ 4
6 แบบทดสอบ ชุดกจิ กรรมการ ก่อนเรียน เร่ืองการเคล่ือนท่ีของมนุษย์ คาช้ีแจง 1.แบบทดสอบน้ีขอ้ สอบจานวน 10 ขอ้ ใชเ้ วลา 10 นาที 2.จงเลือกคาตอบท่ีถกู ตอ้ งท่ีสุด แลว้ เขียงเครืองหมาย x ในกระดาษคาตอบ 1.ขอ้ ใดคอื กระดูกระยางคเ์ ม่ือแบ่งตามตาแหน่งที่อยู่ ก. กระดูกอก ข. กระดูกซี่โครง ค. กระดูกเชิงกราน ง. กระดูกกะโหลกศีรษะ 2.กระดูกมี......ชิ้น ประกอบดว้ ยกระดูกระยางค.์ ....ชิ้นและส่วนที่เหลือคือกระดูกแกน จงเติมใหส้ มบรู ณ์ เรียงตามลาดบั ข. 206 ชิ้นและ 126 ชิ้น ก. 206 ชิ้นและ 80 ชิ้น ง. 216 ชิ้นและ 136 ชิ้น ค. 216 ชิ้นและ 80 ชิ้น ข. เอน็ ยดึ ขอ้ รองและเช่ือมกระดูกสนั หลงั 3. หมอนรองกระดูกคอื ขอ้ ใด และทาหนา้ ท่ีอย่างไร ก. เอน็ ยดึ ขอ้ แผน่ เช่ือมกระดูกสนั หลงั ค. กระดูกออ่ น แผน่ เชื่อมกระดูกสันหลงั ง. กระดูกอ่อน รองและเช่ือมกระดูกสันหลงั 4. ขอ้ ต่อที่บริเวณใดของร่างกายที่ สามารถเคลื่อนไหวไดห้ ลายทิศทาง ก. หวั ไหล่ ข. คอ ค. ขอ้ สอก ง. ขอ้ เทา้ 5. ขอ้ ต่อชนิดประกบสวมกนั ทาใหบ้ ิดซา้ ย ขวา ข้นึ บน ลงลา่ งไดเ้ ป็นขอ้ ต่อชนิดใด พบอยบู่ ริเวณใด ก. กลมในเบา้ กระดุก , หวั ไหล่ ข. เดือย , คอ ค. บานพบั , ขอ้ เทา้ ง. อานมา้ ขอ้ มือ 6. ขอ้ ต่อท่ีกะโหลกศีรษะ เป็นขอ้ ชนิดใด ก. บานพบั ข. อานมา้ ค. เคลื่อนท่ีไม่ได้ ง. เดือย
7 7. ขอ้ ใดคือลกั ษณะของเซลลก์ ลา้ มเน้ือลายหรือกลา้ มเน้ือโครร่าง ก. หวั ทา้ ยแหลม ข. ไม่มีแถบลายพาดขวาง ค. ตอนปลายของเซลลม์ ีการแตกแขนง ง. แตล่ ะเซลลม์ ีหลายนิวเคลียส 8. การหดตวั ของกลา้ มเน้ือลาย เกิดจากขอ้ ใด ก. แอกทินที่เล่ือนตวั เขา้ หากนั ข. ไมโอซินเลื่อนตวั เขา้ หากนั ค. ไมโอซินเล่ือนเขา้ หาแอกทิน ง. แอกทินและไมโอตินเล่ือนเขา้ หากนั 9. กลา้ มเน้ือของสัตวช์ ้นั สูงและคนอาจจะแบง่ ไดเ้ ป็น 3 ชนิด คือกลา้ มเน้ือโครงร่าง (กลา้ มเน้ือลาย ) กลา้ มเน้ือเรียบ กลา้ มเน้ือหวั ใจ ซ่ึงปกติแลว้ มีการทางานที่ควบคมุ โดยระบบประสาทดงั น้ี ก. การทางานของกลา้ มเน้ือเรียบ อยภู่ ายใตอ้ านาจการควบคุมของจิตใจ ข. การทางานของกลา้ มเน้ือหวั ใจ ไม่อยภู่ ายใตก้ ารควบคุมของอานาจจิตใจ ค. การทางานของกลา้ มเน้ือท้งั 3 ชนิด อยภู่ ายใตก้ ารควบคุมของอานาจจิตใจ ง. การทางานของกลา้ มเน้ือยดึ กระดูกไมอ่ ยภู่ ายใตก้ ารควบคุมของอานาจจิตใจ 10. ถา้ เกิดอาการเมื่อยลา้ เลยเหยยี ดแขนออกใหต้ รง กลา้ มเน้ือไบเซพและไตรเซพทางานอยา่ งไร ก. กลา้ มเน้ือไบเซพหดตวั และไตรเซพคลายตวั ต่อเน่ือง ข. กลา้ มเน้ือไบเซพหดตวั และไตรเซพคลายตวั พร้อมกนั ค.กลา้ มเน้ือไบเซพคลายตวั และไตรเซพหดตวั ต่อเน่ือง ง. กลา้ มเน้ือไบเซพคลายตวั และไตรเซพหดตวั พร้อมกนั
8 การเคลือ่ นไหวของมนษุ ย์ เราสามารถเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ของร่างกายไดอ้ ยา่ งไร ? การเคล่ือนไหวเป็นคณุ ลกั ษณะหน่ึงของสิ่งมีชีวติ ไม่วา่ เป็นอากปั กิริยาต่าง ๆ เช่นการกิน การนอน การวงิ่ การดิน ลว้ นเป็นการเคล่ือนไหวที่เกิดจากระบบโครงกระดูก และระบบกลา้ มเน้ือท้งั สิ้น ในเรื่องน้ีเรา จะมาศึกษาในเร่ืองระบบโครงกระดูกและระบบกลา้ มเน้ือ ที่มา https://www.pw.ac.th/bodysystem/ske/page/p1.html
9 บัตรเนื้อหาที่ 1 เรื่องโครงกระดูก โครงกระดูกมนุษย์ ประกอบไปดว้ ย กระดูกชิ้น ต่างๆ ในร่างกาย ซ่ึงเชื่อมต่อกนั ดว้ ย โครงสร้างของขอ้ ต่อ เอ็น กลา้ มเน้ือ กระดูกออ่ น และอวยั วะต่างๆ กระดูก ในมนุษย์ ผใู้ หญ่ มีประมาณ 206 ชิ้น และคดิ เป็นประมาณ 20 % ของ น้าหนกั ร่างกาย อยา่ งไรกด็ ี จานวน ของกระดูก อาจแตกต่างกนั ไปในแต่ละบุคคล ทารกแรกเกิด จะมีกระดูก จานวน ประมาณ 300 ชิ้น ซ่ึงต่อมากระดูกบางชิ้น จะมีการเชื่อมรวมกนั ระหวา่ งการเจริญเติบโต เช่น ส่วนกระเบนเหนบ็ และ ส่วนกน้ กบ ของกระดูกสนั หลงั นอกจากน้ีในทารกแรกเกิด ยงั มีโครงสร้างของกระดูกออ่ น อยมู่ าก เพอ่ื ใหม้ ีการสร้าง โครงสร้าง ของกระดูก ระหว่าง การเจริญเติบโต และจะมีการพฒั นา ไปเป็นกระดูกท้งั หมด เมื่อสิ้นสุดช่วงวยั รุ่น ท่ีมาภาพ : http://www.myfirstbrain.com/ thaidata/ image.asp?ID=428814 หน้าท่ีของกระดูก โครงกระดูกมีหนา้ ที่ท่ีสาคญั หลายประการ ไดแ้ ก่ 1. ค้าจุนโครงสร้างของร่างกาย 2. เป็นท่ียดึ เกาะของกลา้ มเน้ือ และเอน็ ตา่ งๆ สาหรับ การเคล่ือนไหว 3. ป้องกนั อวยั วะภายในท่ีสาคญั เช่น กะโหลกศีรษะ ท่ีห่อหุม้ สมอง หรือ ซ่ีโครง ป้องกนั ปอด และหวั ใจ จากการ กระทบ กระเทือน
10 4. เป็นแหลง่ ผลิตเมด็ เลือดท่ีสาคญั 5. เป็นแหลง่ เก็บสะสมแคลเซียมที่สาคญั ของร่างกาย โดยการควบคุมของฮอร์โมนและวิตามิน B3 ท่ีมาภาพ : http://www.ppkstudent.com/content.php?view=20130308124009MvnCYvn ประเภทของโครงกระดกู โครงกระดูกในมนุษย์ สามารถแบ่งออกไดเ้ ป็นสองกลุ่มใหญ่ คอื 1. โครงกระดูกแกน (axial skeleton) 2. โครงกระดูกรยางค์ (appendicular skeleton) • กระดูกแกน (axial skeleton)หมายถึง เป็นชุดของกระดูกที่ประกอบดว้ ยกระดูก ในร่างกายมนุษยจ์ านวน 80 ชิ้น ในศีรษะและลาตวั ของมนุษย์ ไดแ้ ก่ กะโหลกศีรษะมนุษย์ กระดูกอก ซ่ีโครง กระดูกสนั หลงั 1.1 กระดูกกะโหลกศีรษะ (Skull) 22 ชิ้น ภายในกะโหลกศีรษะเป็นโพรง สาหรับ บรรจุสมองจะมี กระดูกกะโหลกศีรษะและกระดูกยอ่ ยหลายๆ ชิ้นเช่ือม ติดกนั กระดูกกะโหลกศีรษะจึงท าหนา้ ที่ห่อหุม้ และ ป้องกนั สมองดว้ ย 1.2 กระดูกสันหลงั (Vertebra) 33 ชิ้น เป็นส่วนของกระดูกแกนท่ีช่วย ค ้้าจุนและรองรับน ้้า หนกั ของร่างกาย กระดูกสนั หลงั เป็นแนวกระดูกที่ทอดอยู่ ทางดา้ นหลงั ของร่างกาย ประกอบดว้ ยกระดูกชิ้น เลก็ ๆ เป็นขอ้ ๆ ติดกนั ดว้ ย กลา้ มเน้ือและเอน็ 1.3 กระดูกซ่ีโครง (Ribe) มีลกั ษณะเป็นซ่ีๆ มีท้งั หมด 12 คู่ หรือ 24 ชิ้น ท าหนา้ ท่ีเป็น ก าแพงให้
11 ส่วนอก กระดูกซ่ีโครงจะเช่ือมกบั กระดูกอก (Sternum) ที่เป็นกระดูกอ่อน 1 ชิ้น ระหวา่ งกระดูกซ่ีโครงมี กลา้ มเน้ือยดึ ซี่โครงท้งั แถบนอกและแถบใน • กระดูกรยางค์ (appendicular skeleton) หมายถึง กระดูกทีแยกออกจากกระดูกแกน เพื่อพยงุ ร่างกายและ ป้องกนั อวยั วะภายใน มีท้งั หมด 126 ชิ้นไดแ้ ก่ กระดูกแขน มือ กระดูกขา เทา้ กระดูกไหปลาร้า กระดูก สะบกั ขา้ งละ กระดูกเชิงกราน
12 บตั รกจิ กรรมที่ 1 เร่ืองระบบโครงกระดกู
13 บัตรเนื้อหาท่ี 2 เรื่องข้อต่อ ข้อต่อ (joint) คือบริเวณท่ีกระดูก 2 ชิ้นมาเช่ือมต่อกนั เมื่อจาแนกขอ้ ต่อ ตามลกั ษณะการเคล่ือนไหว สามารถ แบ่งไดเ้ ป็น 3 แบบ คอื 1. ข้อต่อทเ่ี คล่ือนไหวไม่ได้ ( fibrous joint ) ไดแ้ ก่ ขอ้ ตอ่ ของกระโหลกศีรษะ 2ข้อต่อที่เคล่ือนไหวได้เลก็ น้อย ( cartilagenous joint ) เป็นขอ้ ต่อท่ีประกอบดว้ ยกระดูกออ่ นอยรู่ ะหวา่ งปลาย กระดูกท้งั สองท่ีมาต่อกนั สามารถเคลื่อนไหวไดเ้ ลก็ นอ้ ย เรียกวา่ ขอ้ ต่อกระดูกอ่อน ไดแ้ ก่ ขอ้ ต่อกระดูกสนั หลงั ขอ้ ต่อกระดูก เชิงกราน 3.ข้อต่อท่เี คลื่อนไหวได้มาก ( sylnovial joint ) เป็นขอ้ ตอ่ ท่ีมีช่องวา่ งอยภู่ ายใน และภายในโพรงน้ี จะมีเยอื่ บุท่ี ทา หนา้ ที่ขบั ของเหลวซ่ึงมีลกั ษณะคลา้ ยไข่ขาว เรียกวา่ น้าไขขอ้ (sylnovial fluid ) ช่วยใหข้ อ้ ต่อ เคลื่อนที่ได้ สะดวก ไมเ่ สียดสี กนั ชนดิ ของข้อต่อ ข้อต่อแบบบานพบั ( hinge joint )การเคลื่อนไหวจะจากดั ไดเ้ พยี งทิศทางเดียว ไดแ้ ก่ ขอ้ ต่อบริเวณขอ้ ศอก หวั เขา่ นิ้ว มือ นิ้วเทา้ (ยกเวน้ นิ้วหวั แม่มือ ) ท่ีมาภาพ :http://stream1.gifsoup.com/view2/4754471/hinge-joint-o.gif
14 ข้อต่อแบบบอลล์ แอนด์ ซอกเคท หรือกลมในเบ้า( ball and socket joint )ขอ้ ต่อแบบน้ีเกิดจากหวั กระดูกชิ้นหน่ึง มี ลกั ษณะเป็น ทรงกลม สวมเขา้ ไปใน เบา้ ซ่ีงมีลกั ษณะทรงกลม ของกระดูกอีกชิ้นหน่ึง ทาใหส้ ามารถเคลื่อนไหว ได้ อิสระหลายทิศทาง ไดแ้ ก่ ขอ้ ต่อหวั ไหล่ ขอ้ ต่อบริเวณกระดูกโคนขา กบั กระดูกเชิงกราน ที่มาภาพ : http://stream1.gifsoup.com/view3/4754465/ball-and-socket-joint-o.gif ข้อต่อแบบอานม้า ( saddle joint ) เป็นขอ้ ตอ่ ที่มีลกั ษณะคลา้ ยแบบบานพบั เป็นขอ้ ตอ่ ท่ีสามารถเคล่ือนไหวได้ 2 ทิศทาง ไดแ้ ก่ พบในขอ้ ต่อระหวา่ ง กระดูกโคนนิ้วหวั แม่มือกบั ขอ้ มือ ท่ีมาภาพ : http://stream1.gifsoup.com/view1/4754497/saddle-joint-o.gif
15 ข้อต่อแบบเดือย ( pivot joint ) เป็นขอ้ ตอ่ ที่มีกระดูกชิ้นหน่ึงหมุนเคลื่อนท่ี ไปรอบๆแกนของกระดูกอีกชิ้นหน่ึง ขอ้ ต่อชนิดน้ีสามารถเคลื่อนไหว ไดแ้ บบเดียว คือ บิดหมุนไดค้ ร่ึงรอบ เช่น ขอ้ ตอ่ ของกระดูกคอชิ้นที่ 1 และชิ้นท่ี 2 (atlantoaxial joint)ไดแ้ ก่ บริเวณ รอยต่อของปลายแขน ขอ้ ต่อท่ีตน้ คอ กบั ฐานของกะโหลกศีรษะ ท่ีมาภาพ : http://stream1.gifsoup.com/ view8/ 4754501/ gliding-joint-o.gif ข้อต่อแบบไกลดิง ( gliding joint ) เป็นขอ้ ตอ่ ระหวา่ งกระดูกที่มีหนา้ ตดั เรียบ เป็นขอ้ ต่อที่มีลกั ษณะแบนราบ ทาใหเ้ กิดการเคลื่อนไหวในลกั ษณะ เลื่อนถูกนั ไปมา พบในขอ้ ตอ่ ท่ีกระดูกขอ้ มือและขอ้ ต่อกระดูกขอ้ เทา้ ที่มาภาพ : http://stream1.gifsoup.com/ view8/ 4754501/ gliding-joint-o.gif ข้อต่อแบบป่ มุ (condyloid joint) มีลกั ษณะคลา้ ยขอ้ ต่อแบบลกู กลมในเบา้ แต่เคลื่อนไหวไดน้ อ้ ยกวา่ เช่น ขอ้ ตอ่ ระหวา่ งกระดูกฝ่ามือกบั กระดูกนิ้วมือ
16 บตั รกจิ กรรมท้่ี 2 เรื่องข้อต่อกบั การเคล่ือนไหว จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. สังเกตการทา งานของขอ้ ต่อชนิดต่างๆ ท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั การเคล่ือนไหวของมนุษย์ 2. จาแนกชนิดของขอ้ ต่อโดยใชเ้ กณฑท์ ี่กาหนดข้ึนเอง สมาชิกภายในกลุม่ ท่ี .......................... ช้นั ............... 1.............................................................................เลขที่................................. 2.............................................................................เลขที่................................. 3.............................................................................เลขท่ี................................. 4.............................................................................เลขท่ี................................. 5.............................................................................เลขท่ี................................. วนั ที่ที่ทดลอง.......................................................... วสั ดุอุปกรณ์ - วิธีการทากจิ กรรม 1. ใชม้ ือขวาจบั ขอ้ ศอกแขนซา้ ยใหแ้ น่นแลว้ เคล่ือนส่วนปลายแขนไปมาดงั รูป ก. สงั เกตลกั ษณะทิศ ทางการเคล่ือนไหวของปลายแขน บนั ทึกผล 2. หมุนแขนดงั รูป ข สังเกตลกั ษณะทิศทางการเคลื่อนไหวของแขน บนั ทึกผล 3. เคล่ือนไหวคอ ดงั รูป ค. สงั เกตลกั ษณะทิศทางการเคลื่อนไหวของศีรษะ บนั ทึกผล 4. เคล่ือนไหวขอ้ ต่อบริเวณอ่ืน ๆ เช่น นิ้วมือ ขอ้ มือ ขอ้ เทา้ และหวั เขา่ สังเกตลกั ษณะทิศทางการ เคล่ือนไหวของส่วนตา่ ง ๆ บนั ทึกผล
17 ตารางบันทึกผลกจิ กรรม ขอ้ ต่อบริเวณตา่ งๆ ของร่างกาย ลกั ษณะทิศทางการเคล่ือนไหว ขอ้ ศอก หวั ไหล่ คอ นิ้วมือ หวั เขา่ ขอ้ มือ ขอ้ เทา้ คาถามท้ายกจิ กรรม - ทุกๆ ส่วนของร่างกายท่ีใชท้ ากิจกรรมมีขอบเขตในการเคล่ือนไหวเหมือนหรือแตกตา่ งกนั อยา่ งไร มี ตอบ……………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………. -------------------- - สิ่งท่ีจา กดั ขอบเขตในการเคลื่อนไหวของร่างกายส่วนท่ีทา ในกิจกรรมคืออะไร ตอบ ………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………….. --------------------- - ถา้ กาหนดเกณฑเ์ องเพ่อื จาแนกขอ้ ต่อจากการทา กิจกรรม จะใชเ้ กณฑใ์ ดและจาแนกขอ้ ต่อ อยา่ งไร คาตอบ ……………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………….. ---------------------- สรุปผลกจิ กรรม ……………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………
18 บัตรเนื้อหาท่ี 3 เรื่องระบบกล้ามเนื้อ ร่างกายแบง่ กลา้ มเน้ือออกเป็น 3 ชนิด คือ 1. กล้ามเนื้อยดึ กระดกู หรือกล้ามเนื้อลาย (skeletal muscle or striated muscle) 2. กล้ามเนื้อเรียบ (smooth muscle) 3. กล้ามเนื้อหัวใจ (cardiac muscle) โดยที่กลา้ มเน้ือลายน้นั ถูกควบคุมอยู่ ภายใตอ้ านาจจิตใจ หรือรีเฟลก็ ซ์ ส่วนกลา้ มเน้ือเรียบ และกลา้ มเน้ือ หวั ใจ ทางานนอกอานาจจิตใจ กล้ามเนื้อลาย หรือกลา้ มเน้ือโครงร่าง ( skeletal muscle) เป็นกลา้ มเน้ือท่ีเกาะติดกบั โครงกระดูก เช่น กลา้ มเน้ือแขน กลา้ มเน้ือขา จึงทาหนา้ ท่ี เกี่ยวกบั การเคลื่อนไหวของร่างกายโดยตรง มีลกั ษณะ เป็นทรงกระบอกยาว แตล่ ะเซลล์ มีหลายนิวเคลียสอยทู่ ่ีขอบของเซลล์ มีลายตามขวางสีเขม้ และสีจางสลบั กนั ซ่ึงเห็นไดช้ ดั เจน เม่ือยอ้ มดว้ ยสี คนท่ีออกกาลงั เสมอเส้นใยกลา้ มเน้ือจะโตข้นึ และหนาข้ึน แตจ่ านวนไม่เพ่ิมข้ึนการทางานของกลา้ มเน้ือยดึ กระดูกถูก ควบคุมโดยระบบประสาทโซมาติก การทางานของกลา้ มเน้ือชนิดน้ี ร่างกายสามารถบงั คบั ไดซ้ ่ึงถือวา่ อยใู่ นอานาจ จิตใจ โดยกลา้ มเน้ือลายมีหนา้ ที่เคลื่อนไหวร่างกายท่ีขอ้ ต่อต่างๆ เคลื่อนไหวลกู ตาช่วยในการเค้ยี ว และการกลืน เคลื่อนไหวลิ้น เคลื่อนไหวใบหนา้ แสดงอารมณ์ต่างๆและยงั ประกอบเป็นผนงั อก และผนงั ทอ้ งตลอดจน การควบคุม การขบั ถา่ ยปัสสาวะและอจุ จาระ ท่ีมาภาพ: https://www.pw.ac.th/bodysystem/ske/page/p3.html กล้ามเนื้อหวั ใจ ( cardiac muscle )ประกอบเป็นกลา้ มเน้ือหวั ใจเพียงแห่งเดียว อยนู่ อกอานาจจิตใจ โดย ควบคุมโดย ระบบประสาทอตั โนมตั ิ มีลกั ษณะ เป็นเซลลร์ ูปทรงกระบอก มีลายตามขวางเป็นแถบสีทึบสลบั กบั สีจาง เซลลก์ ลา้ มเน้ือตอนปลายของเซลล์ มีการแตกแขนง ไปประสานกบั แขนงของเซลลใ์ กลเ้ คียง เซลลท์ ้งั หมดจึงหดตวั พร้อมกนั และหดตวั เป็นจงั หวะตลอดชีวิต
19 ที่มาภาพ: https://www.pw.ac.th/bodysystem/ske/page/p3.html กล้ามเนื้อเรียบ ( smooth muscle ) เป็นกลา้ มเน้ือที่พบอยตู่ ามอวยั วะภายใน ทาหนา้ ท่ีควบคมุ การ ทางานของอวยั วะภายใน ตา่ งๆ เช่น ผนงั กระเพาะอาหาร ผนงั ลาไส้ ผนงั หลอดเลือด และม่านตา เป็นตน้ กลา้ มเน้ือเหลา่ น้ี ประกอบดว้ ยเซลลท์ ี่มีลกั ษณะยาว หวั ทา้ ยแหลม แต่ละเซลลม์ ี 1 นิวเคลียส ไมม่ ีลายพาดขวาง การทางานของกลา้ มเน้ือเรียบ ถกู ควบคุมโดยระบบประสาทอิสระ (Autonomie Nervous System) มีลกั ษณะ เป็น เซลลร์ ูปกระสวย มีนิวเคลียสรูปไข่อยตู่ รงกลาง ท่ีมาภาพ: https://www.pw.ac.th/bodysystem/ske/page/p3.html คลปิ วิดโี อระบบกล้ามเนื้อ
20 บตั รกิจกรรมที่ 3 เร่ืองระบบกลา้ มเน้ือ คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนเปรียบเทียบของลกั ษณะของกลา้ มเน้ือชนิดตา่ ง ๆ ตามประเด็นท่ีกาหนดมาให้ ลกั ษณะท่ีเปรียบเทียบ กลา้ มเน้ือโครงร่าง กลา้ มเน้ือหวั ใจ กลา้ มเน้ือเรียบ รูปร่าง (กลา้ มเน้ือลาย) จานวนนิวเคลียส ลวดลาย การทางาน แหล่งที่พบ
21 บตั รเนื้อหาท่ี 4 เรื่องกล้ามเนื้อของแขน ท่ีมาภาพ : https://fitbert.wordpress.com/2014/08/11/triceps/ กล้ามเนื้อของแขน แบ่งออกเป็นส่วน ๆ ดงั น้ี (1) กล้ามเนื้อของไหล่ ที่สาคญั ไดแ้ ก่ กลา้ มเน้ือ deltoid เน้ือใหญห่ นา มีรูปเป็นสามเหล่ียม คลุมอยทู่ ี่ขอ้ ไหล่ ต้งั ตน้ จากปลายนอกของกระดูก ไหปลาร้า และกระดูกสะบกั แลว้ ไปยดึ เกาะ ท่ีพ้ืนนอกตอนกลางของกระดูกแขนทอ่ น บน ทาหนา้ ที่ยกตน้ แขนข้นึ มาขา้ งบนใหไ้ ดร้ ะดบั กบั ไหลเ่ ป็นมุมฉาก (2) กล้ามเนื้อของต้นแขน ที่สาคญั ไดแ้ ก่ - ไบเซฟส์แบรคไิ อ (biceps brachii) เป็นกลา้ มเน้ือท่ีอยดู่ า้ นหนา้ ของ ตน้ แขน มีรูปคลา้ ยกระสวย ทาหนา้ ที่งอขอ้ ศอกและหงายมือ - ไตรเซฟส์ แบรคิไอ (triceps brachii) เป็นกลา้ มเน้ือ มดั ใหญ่อยดู่ า้ น หลงั ของตน้ แขน ปลายบนแยกออกเป็น 3 หวั ช่วยทาหนา้ ท่ี เหยยี ดปลายแขนหรือขอ้ ศอก (3) กล้ามเนื้อของปลายแขน มีอยหู่ ลายมดั จาแนกออกเป็น ดา้ นหนา้ และ ดา้ นหลงั ในแตล่ ะดา้ นยงั แยก เป็น 2 ช้นั คือ ช้นั ต้ืน และช้นั ลึก ทาหนา้ ที่เหยยี ดขอ้ ศอก เหยยี ดและงอมือ เหยยี ดนิ้วมือ กระดกขอ้ มือ งอขอ้ มือ พลิก แขนและคว่าแขน ฯลฯ (4) กล้ามเนื้อของมือ เป็นกลา้ มเน้ือส้นั ๆ ทาหนา้ ที่เคลื่อนไหว นิ้วมือเม่ือสมองสง่ั ใหร้ ่างกายเคลื่อนไหว กลา้ มเน้ือจะเกิดการหดตวั และคลายตวั ทางานประสานเป็นคู่ ๆ พร้อมกนั แต่ตรงขา้ มกนั ในขณะท่ีกลา้ มเน้ือมดั หน่ึง หดตวั กลา้ มเน้ืออีกมดั หน่ึงจะคลายตวั การทางานของกลา้ มเน้ือในลกั ษณะน้ี เรียกวา่ Antagonisticmuscle มดั กลา้ มเน้ือไบเซพ (Biceps) อยดู่ า้ นบน และไตรเซพ (Triceps) อยดู่ า้ นล่างของแขน ไบเซพหรือ (Flexors)คลายตวั ไตรเสพ หรือ (Extensors) หดตวั »»แขนเหยียดออก ไบเซพหรือ (Flexors)หดตวั ไตรเสพ หรือ (Extensors) คลายตวั »»แขนงอเข้า
22 ทมี่ าภาพ : https://fitbert.wordpress.com/2014/08/11/triceps/
23 บตั รกจิ กรรมท่ี 4 การทางานของกล้ามเนื้อโครงร่างท่แี ขน จุดประสงค์ สังเกตและเปรียบเทียบความแตกต่างระหวา่ งกลา้ มเน้ือบริเวณตน้ แขนดา้ นบนกบั ดา้ นลา่ ง เม่ือทา กิจกรรมท่ีแตกต่างกนั สมาชิกภายในกลุม่ ท่ี .......................... ช้นั ............... 1.............................................................................เลขที่................................. 2.............................................................................เลขท่ี................................. 3.............................................................................เลขท่ี................................. 4.............................................................................เลขท่ี................................. 5.............................................................................เลขที่................................. วนั ท่ีท่ที ดลอง.......................................................... วสั ดุอุปกรณ์ - วธิ กี ารทากจิ กรรม 1. วางปลายแขนราบไปกบั พ้ืนโตะ๊ ในลกั ษณะหงายฝ่า มือ แลว้ จบั กลา้ มเน้ือบริเวณตน้ แขนดา้ นบนเปรียบเทียบกบั ตน้ แขนดา้ นล่าง บนั ทึกผล 2. วางหนงั สือลงบนฝ่ามือและยกหนงั สือข้นึ โดยการงอ ตรงขอ้ ศอกเทา่ น้นั ลองจบั กลา้ มเน้ือท้งั 2 ตาแหน่งเดิมน้นั อีกคร้ัง บนั ทึกการเปลี่ยนแปลงของกลา้ มเน้ือ 3. นาหนงั สืออออกจากฝ่ามือ วางปลายแขนราบไปกบั พ้นื โต๊ะในลกั ษณะหงายฝ่ามือ แลว้ ออกแรงใหป้ ลายแขนกดพ้ืนโต๊ะ ลองจบั กลา้ มเน้ือท้งั 2 ตาแหน่ง พร้อม ท้งั บนั ทึกการเปล่ียนแปลงของกลา้ มเน้ือ ตารางบนั ทึกผลกจิ กรรม ลกั ษณะการวางแขน การเปลยี่ นแปลงของกล้ามเนื้อ วางปลายแขนราบไปกบั พ้นื โตะ๊ ในลกั ษณะหงายฝ่ามือ วางหนงั สือลงบนฝ่ามือและยกหนงั สือข้นึ วางปลายแขนราบไปกบั พ้นื โตะ๊ ในลกั ษณะหงายฝ่ามือ แลว้ ออกแรงใหป้ ลายแขนกดพ้ืนโตะ๊
24 คาถามท้ายกจิ กรรม - กลา้ มเน้ือแขนขณะที่ออกแรงยกหนงั สือและกดพ้ืนโตะ๊ กบั ขณะวางราบบนพ้ืน มีลกั ษณะ แตกต่างกนั หรือไม่ อยา่ งไร คาตอบ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… -------------------------------- - นกั เรียนจะสรุปผลการทดลองเกี่ยวกบั การทา งานของกลา้ มเน้ืออยา่ งไร คาตอบ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………… -------------------------------
25 บตั รกจิ กรรมที่ 5 เชื่อมโยงการทางานของกล้ามเนื้อโครงร่างกบั วถิ ีน่าน คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนศึกษารูปภาพเก่ียวกบั ประเพณีวถิ ีน่านแลว้ อธิบายการทางานของกลา้ มเน้ือโครงร่างที่แขน ประเพณกี ารแข่งเรือ .................................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................................. การเกบ็ ไก .................................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................................................................
26 ฟ้อนล่องน่าน .................................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................................. สมาชิกกล่มุ 1...............................................................เลขท่ี..............ช้นั ........... 2...............................................................เลขท่ี..............ช้นั ........... 3...............................................................เลขที่..............ช้นั ........... 4...............................................................เลขที่..............ช้นั ........... 5...............................................................เลขท่ี..............ช้นั ...........
27 เฉลยบตั รกจิ กรรมท้่ี 1 เรื่องโครงสร้างของระบบกระดกู
28 เฉลยบตั รกจิ กรรมท้ี่ 2 เรื่องข้อต่อกบั การเคลื่อนไหว จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. สงั เกตการทา งานของขอ้ ต่อชนิดต่างๆ ที่เกี่ยวขอ้ งกบั การเคลื่อนไหวของมนุษย์ 2. จาแนกชนิดของขอ้ ต่อโดยใชเ้ กณฑท์ ี่กาหนดข้ึนเอง สมาชิกภายในกลุ่มที่ .......................... ช้นั ............... 1.............................................................................เลขที่................................. 2.............................................................................เลขท่ี................................. 3.............................................................................เลขท่ี................................. 4.............................................................................เลขท่ี................................. 5.............................................................................เลขท่ี................................. วันท่ีทท่ี ดลอง.......................................................... วสั ดุอุปกรณ์ - วิธกี ารทากจิ กรรม 1. ใชม้ ือขวาจบั ขอ้ ศอกแขนซา้ ยใหแ้ น่นแลว้ เคล่ือนส่วนปลายแขนไปมาดงั รูป ก. สงั เกตลกั ษณะทิศ ทางการเคล่ือนไหวของปลายแขน บนั ทึกผล 2. หมนุ แขนดงั รูป ข สังเกตลกั ษณะทิศทางการเคล่ือนไหวของแขน บนั ทึกผล 3. เคลื่อนไหวคอ ดงั รูป ค. สงั เกตลกั ษณะทิศทางการเคลื่อนไหวของศีรษะ บนั ทึกผล 4. เคลื่อนไหวขอ้ ต่อบริเวณอื่น ๆ เช่น นิ้วมือ ขอ้ มือ ขอ้ เทา้ และหวั เข่า สงั เกตลกั ษณะทิศทางการ เคล่ือนไหวของส่วนต่าง ๆ บนั ทึกผล
29 ตารางบันทึกผลกจิ กรรม ลกั ษณะทิศทางการเคลื่อนไหว ทิศทางเดียว ขอ้ ต่อบริเวณต่างๆ ของร่างกาย หลายทิศทาง ขอ้ ศอก หวั ไหล่ หลายทิศทาง ( กม้ เงย บิดซา้ ย บิดขวาได้ ) คอ ทิศทางเดียว นิ้วมือ ทิศทางเดียว หวั เข่า 2 ทิศทาง ขอ้ มือ หลายทิศทาง ขอ้ เทา้ คาถามท้ายกจิ กรรม - ทกุ ๆ ส่วนของร่างกายที่ใชท้ ากิจกรรมมีขอบเขตในการเคลื่อนไหวเหมือนหรือแตกตา่ งกนั อยา่ งไร มี คาตอบ ขอบเขตในการเคล่ือนไหวแตกตา่ งกนั บางบริเวณเคล่ือนไหวไดใ้ นทิศทางเดียว เช่น ขอ้ ศอก บางบริเวณ เคลื่อนไหวไดห้ ลายทิศทาง เช่น หวั ไหลแ่ ละคอ -------------------- - สิ่งท่ีจา กดั ขอบเขตในการเคลื่อนไหวของร่างกายส่วนท่ีทา ในกิจกรรมคืออะไร คาตอบ ลกั ษณะของขอ้ ต่อ --------------------- - ถา้ กาหนดเกณฑเ์ องเพ่ือจาแนกขอ้ ต่อจากการทา กิจกรรม จะใชเ้ กณฑใ์ ดและจาแนกขอ้ ต่อ อยา่ งไร คาตอบ ขอ้ น้ีข้นึ อยกู่ บั การเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่างกายท่ีนกั เรียนทดลอง เช่น ถา้ ใช้ ทิศทางการเคลื่อนไหว ของร่างกายบริเวณน้นั เป็นเกณฑใ์ นการแบ่งชนิดของขอ้ ต่อ อาจแบ่ง ขอ้ ตอ่ เป็น 2 กลุม่ คือขอ้ ต่อที่ทา ใหม้ ีการ เคลื่อนไหวทิศทางเดียว เช่น ขอ้ ศอก และขอ้ ต่อท่ีทาใหม้ ีการเคล่ือนไหวไดห้ ลายทิศทาง เช่น หวั ไหล่และคอ ---------------------- สรุปผลกจิ กรรม ขอ้ ต่อช่วยใหอ้ วยั วะต่างๆ เคลื่อนไหวไดข้ อ้ ต่อบาง ชนิดสามารถเคล่ือนไหวไดห้ ลายทิศทาง บางชนิด เคลื่อนไหวไดน้ อ้ ย และบางชนิดเคล่ือนไหวไม่ได้
30 เฉลยใบกจิ กรรมที่ 3 เร่ืองระบบกล้ามเนื้อ คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนเปรียบเทียบของลกั ษณะของกลา้ มเน้ือชนิดตา่ ง ๆ ตามประเด็นที่กาหนดมาให้ ลกั ษณะที่เปรียบเทียบ กลา้ มเน้ือโครงร่าง กลา้ มเน้ือเรียบ กลา้ มเน้ือหวั ใจ (กลา้ มเน้ือลาย) เซลลม์ ีลกั ษณะหวั ทา้ ย ทรงกระบอกยาว แตส่ ้ันกวา่ รูปร่างของเซลล์ ทรงกระบอกยาว แหลม กลา้ มเน้ือโครงร่าง แตส่ ่วนปลายของเซลลม์ ีการ จานวนนิวเคลียส แตล่ ะเซลลม์ ีหลาย แต่ละเซลลม์ ี 1 แตกแขนง นิวเคลียส นิวเคลียส แต่ละเซลลม์ ี 1 นิวเคลียส ลวดลาย เห็นเป็นลาย ไมม่ ีลาย เห็นเป็ นลาย การทางาน อยภู่ ายใตอ้ านาจจิตใจ อยนู่ อกเหนืออานาจ อยนู่ อกเหนืออานาจจิตใจ แหลง่ ท่ีพบ จิตใจ เกาะติดอยกู่ บั กระดูก พบท่ีผนงั อวยั วะภายใน ท่ีหวั ใจ เช่นท่ีกลา้ มเน้ือแขน เช่น ผนงั กระเพาะ และกลา้ มเน้ือท่ีขา อาหาร ผนงั ลาไส้ ผนงั หลอดเลือด และมา่ นตา
31 เฉลย ใบกจิ กรรมที่ 4 การทางานของกล้ามเนื้อโครงร่างท่ีแขน จุดประสงค์ สังเกตและเปรียบเทียบความแตกตา่ งระหวา่ งกลา้ มเน้ือบริเวณตน้ แขนดา้ นบนกบั ดา้ นล่าง เมื่อทา กิจกรรมที่ แตกต่างกนั สมาชิกภายในกลมุ่ ที่ .......................... ช้นั ............... 1.............................................................................เลขท่ี................................. 2.............................................................................เลขท่ี................................. 3.............................................................................เลขที่................................. 4.............................................................................เลขท่ี................................. 5.............................................................................เลขที่................................. วันท่ีท่ีทดลอง.......................................................... วสั ดุอปุ กรณ์ - วธิ ีการทากจิ กรรม 4. วางปลายแขนราบไปกบั พ้นื โตะ๊ ในลกั ษณะหงายฝ่ามือ แลว้ จบั กลา้ มเน้ือบริเวณตน้ แขนดา้ นบน เปรียบเทียบกบั ตน้ แขนดา้ นลา่ ง บนั ทึกผล 5. วางหนงั สือลงบนฝ่ามือและยกหนงั สือข้ึน โดยการงอตรงขอ้ ศอกเท่าน้นั ลองจบั กลา้ มเน้ือท้งั 2 ตาแหน่ง เดิมน้นั อีกคร้ัง บนั ทึกการเปลี่ยนแปลงของกลา้ มเน้ือ 6. นาหนงั สืออออกจากฝ่ามือ วางปลายแขนราบไปกบั พ้ืนโต๊ะในลกั ษณะหงายฝ่ามือ แลว้ ออกแรงใหป้ ลาย แขนกดพ้นื โต๊ะ ลองจบั กลา้ มเน้ือท้งั 2 ตาแหน่ง พร้อมท้งั บนั ทึกการเปล่ียนแปลงของกลา้ มเน้ือ ตารางบันทกึ ผลกจิ กรรม ลกั ษณะการวางแขน การเปลย่ี นแปลงของกล้ามเนื้อ วางปลายแขนราบไปกบั พ้ืนโต๊ะในลกั ษณะหงายฝ่ามือ กลา้ มเน้ือแขนดา้ นบนและกลา้ มเน้ือดา้ นล่างจะอยใู่ น ลกั ษณะคลาย วางหนงั สือลงบนฝ่ามือและยกหนงั สือข้ึน กลา้ มเน้ือแขนดา้ นบนจะตึง กลา้ มเน้ือแขนดา้ นลา่ งจะคลาย วางปลายแขนราบไปกบั พ้ืนโตะ๊ ในลกั ษณะหงายฝ่ามือ กลา้ มเน้ือแขนดา้ นบนจะคลาย แลว้ ออกแรงใหป้ ลายแขนกดพ้ืนโต๊ะ กลา้ มเน้ือแขนดา้ นล่างจะตึง
32 คาถามท้ายกจิ กรรม - กลา้ มเน้ือแขนขณะที่ออกแรงยกหนงั สือและกดพ้ืนโต๊ะกบั ขณะวางราบบนพ้นื มีลกั ษณะ แตกตา่ งกนั หรือไม่ อยา่ งไร คาตอบ แตกต่างกนั ขณะท่ีออกแรงยกหนงั สือ กลา้ มเน้ือตน้ แขนดา้ นบนจะเกร็งมีลกั ษณะแขง็ มากกวา่ ขณะท่ีกด พ้ืนโตะ๊ หรือขณะวางแขนราบบนพ้นื โต๊ะเพราะกลา้ มเน้ือตน้ แขนดา้ นบน หดตวั และกลา้ มเน้ือตน้ แขนดา้ นล่าง คลายตวั และเม่ือออกแรงกดบนพ้นื โต๊ะกลา้ มเน้ือ ตน้ แขนดา้ นล่างจะเกร็งมีลกั ษณะแขง็ มากกวา่ ขณะท่ียกหนงั สือ หรือขณะวางแขนราบบน พ้ืนโตะ๊ เพราะกลา้ มเน้ือตน้ แขนดา้ นล่างหดตวั และกลา้ มเน้ือตน้ แขนดา้ นบนคลายตวั -------------------------- - นกั เรียนจะสรุปผลการทดลองเก่ียวกบั การทา งานของกลา้ มเน้ืออยา่ งไร คาตอบ เม่ือกลา้ มเน้ือตน้ แขนดา้ นบนหรือไบเซพหดตวั กลา้ มเน้ือตน้ แขนดา้ นลา่ งหรือไตรเซพจะ คลายตวั ทา ให้ แขนงอเขา้ หากนั เม่ือกลา้ มเน้ือไตรเซพหดตวั กลา้ มเน้ือไบเซพจะคลายตวั ทา ใหแ้ ขนเหยยี ดออก --------------------------
33 เฉลยใบกจิ กรรมท่ี 5 เชื่อมโยงการทางานของกล้ามเนื้อโครงร่างกบั วถิ ีน่าน คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนศึกษารูปภาพเกี่ยวกบั ประเพณีวถิ ีน่านแลว้ อธิบายการทางานของกลา้ มเน้ือโครงร่างท่ีแขน ประเพณกี ารแข่งเรือ ขณะที่ฝีพายจว้ งไมพ้ ายสมั ผสั กบั น้าแขนจะเหยยี ดออก ขณะท่ีฝีพายยกไมพ้ ายข้ึนแขนจะงอทาใหก้ ลา้ มเน้ือ ทาใหก้ ลา้ มเน้ือไบเซพคลายตวั และกลา้ มเน้ือไตรเซพตวั หด ไบเซพหดตวั และกลา้ มเน้ือไตรเซพคลายตวั การเกบ็ ไก ขณะที่เกบ็ ข้นึ วางพาดแขนทาใหแ้ ขนงอเขา้ ทาให้ ขณะท่ีเหยยี ดแขนออกไปเก็บไกในน้าจะทาใหแ้ ขน กลา้ มเน้ือไบเซพหดตวั และกลา้ มเน้ือไตรเซพกลายตวั เหยยี ดออกทาใหกลา้ มเน้ือไบเซพคลายตวั ไตรเซพหดตวั
34 ฟ้อนล่องน่าน ขณะที่ยกแขนต้งั วงฟ้อนแขนจะงอเขา้ ทาใหก้ ลา้ มเน้ือ ขณะที่ฟ้อนทา่ กางแขนเหยยี ดออกทาใหก้ ลา้ มเน้ือ ไบเซพหดตวั และกลา้ มเน้ือไตรเซพตลายตวั ไบเซพคลายตวั และกล่ามเน้ือไตรเซพหดตวั สมาชิกกล่มุ 1...............................................................เลขท่ี..............ช้นั ........... 2...............................................................เลขท่ี..............ช้นั ........... 3...............................................................เลขท่ี..............ช้นั ........... 4...............................................................เลขที่..............ช้นั ........... 5...............................................................เลขท่ี..............ช้นั ...........
35 แบบทดสอบ ชุดกจิ กรรมการ หลงั เรียน เรื่องการเคล่ือนทข่ี องมนุษย์ คาชีแ้ จง 1.แบบทดสอบน้ีขอ้ สอบจานวน 10 ขอ้ ใชเ้ วลา 10 นาที 2.จงเลือกคาตอบท่ีถูกตอ้ งที่สุด แลว้ เขยี งเครืองหมาย x ในกระดาษคาตอบ 1.กระดูกมี......ชิ้น ประกอบดว้ ยกระดูกระยางค.์ ....ชิ้นและส่วนที่เหลือคือกระดูกแกน จงเติมใหส้ มบูรณ์ เรียงตามลาดบั ก. 206 ชิ้นและ 80 ชิ้น ข. 206 ชิ้นและ 126 ชิ้น ค. 216 ชิ้นและ 80 ชิ้น ง. 216 ชิ้นและ 136 ชิ้น 2.ขอ้ ใดคอื กระดูกระยางคเ์ มื่อแบง่ ตามตาแหน่งที่อยู่ ก. กระดูกอก ข. กระดูกซี่โครง ค. กระดูกเชิงกราน ง. กระดูกกะโหลกศีรษะ 3. ขอ้ ต่อท่ีกะโหลกศีรษะ เป็นขอ้ ชนิดใด ก. บานพบั ข. อานมา้ ค. เคลื่อนท่ีไม่ได้ ง. เดือย 4. ขอ้ ต่อที่บริเวณใดของร่างกายท่ี สามารถเคล่ือนไหวไดห้ ลายทิศทาง ก. หวั ไหล่ ข. คอ ค. ขอ้ สอก ง. ขอ้ เทา้ 5. หมอนรองกระดูกคอื ขอ้ ใด และทาหนา้ ท่ีอยา่ งไร ก. เอน็ ยดึ ขอ้ แผน่ เชื่อมกระดูกสนั หลงั ข. เอน็ ยดึ ขอ้ รองและเช่ือมกระดูกสันหลงั ค. กระดูกออ่ น แผน่ เชื่อมกระดูกสันหลงั ง. กระดูกอ่อน รองและเช่ือมกระดูกสันหลงั 6. ขอ้ ต่อชนิดประกบสวมกนั ทาใหบ้ ิดซา้ ย ขวา ข้นึ บน ลงล่างไดเ้ ป็นขอ้ ต่อชนิดใด พบอยบู่ ริเวณใด ก. กลมในเบา้ กระดุก , หวั ไหล่ ข. เดือย , คอ ค. บานพบั , ขอ้ เทา้ ง. อานมา้ ขอ้ มือ 7. ขอ้ ใดคือลกั ษณะของเซลลก์ ลา้ มเน้ือลายหรือกลา้ มเน้ือโครร่าง ก. หวั ทา้ ยแหลม ข. ไม่มีแถบลายพาดขวาง ค. ตอนปลายของเซลลม์ ีการแตกแขนง ง. แตล่ ะเซลลม์ ีหลายนิวเคลียส
36 8. ถา้ เกิดอาการเมื่อยลา้ เลยเหยยี ดแขนออกให้ตรง กลา้ มเน้ือไบเซพและไตรเซพทางานอยา่ งไร ก. กลา้ มเน้ือไบเซพหดตวั และไตรเซพคลายตวั ต่อเน่ือง ข. กลา้ มเน้ือไบเซพหดตวั และไตรเซพคลายตวั พร้อมกนั ค.กลา้ มเน้ือไบเซพคลายตวั และไตรเซพหดตวั ต่อเนื่อง ง. กลา้ มเน้ือไบเซพคลายตวั และไตรเซพหดตวั พร้อมกนั 9. กลา้ มเน้ือของสัตวช์ ้นั สูงและคนอาจจะแบง่ ไดเ้ ป็น 3 ชนิด คือกลา้ มเน้ือโครงร่าง (กลา้ มเน้ือลาย ) กลา้ มเน้ือเรียบ กลา้ มเน้ือหัวใจ ซ่ึงปกติแลว้ มีการทางานที่ควบคมุ โดยระบบประสาทดงั น้ี ก. การทางานของกลา้ มเน้ือเรียบ อยภู่ ายใตอ้ านาจการควบคมุ ของจิตใจ ข. การทางานของกลา้ มเน้ือหวั ใจ ไมอ่ ยภู่ ายใตก้ ารควบคมุ ของอานาจจิตใจ ค. การทางานของกลา้ มเน้ือท้งั 3 ชนิด อยภู่ ายใตก้ ารควบคมุ ของอานาจจิตใจ ง. การทางานของกลา้ มเน้ือยดึ กระดูกไมอ่ ยภู่ ายใตก้ ารควบคุมของอานาจจิตใจ 10. การหดตวั ของกลา้ มเน้ือลาย เกิดจากขอ้ ใด ก. แอกทินที่เลื่อนตวั เขา้ หากนั ข. ไมโอซินเลื่อนตวั เขา้ หากนั ค. ไมโอซินเล่ือนเขา้ หาแอกทิน ง. แอกทินและไมโอตินเลื่อนเขา้ หากนั
37 เฉลยแบบทดสอบ ชุดกจิ กรรมการ เรื่องการเคลื่อนที่ของมนุษย์ ก่อนเรียน ค หลงั เรียน ข ขอ้ 1 ข ขอ้ 1 ค ขอ้ 2 ง ขอ้ 2 ค ขอ้ 3 ก ขอ้ 3 ก ขอ้ 4 ข ขอ้ 4 ง ขอ้ 5 ค ขอ้ 5 ข ขอ้ 6 ง ขอ้ 6 ง ขอ้ 7 ก ขอ้ 7 ง ขอ้ 8 ข ขอ้ 8 ข ขอ้ 9 ง ขอ้ 9 ก ขอ้ 10 ขอ้ 10
38 บรรณานุกรม กระทรวงศึกษาธิการ. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาตพิ .ศ. 2542 และทแ่ี ก้ไขเพม่ิ เตมิ (ฉบบั ท2ี่ ) พ.ศ. 2545.กรุงเทพฯ : โรงพิมพอ์ งคก์ ารรับส่งสินคา้ และพสั ดุภณั ฑ์, 2545. กระทรวงศึกษาธิการ. ตัวชี้วดั และสาระการเรียนรู้แกนกลางกลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ตาม หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : คุรุสภาลาดพร้าว, 2551 กระทรวงศึกษาธิการ. หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน ปี พทุ ธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : คุรุสภา ลาดพร้าว, 2551. สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลย.ี คู่มือครู รายวิชาเพมิ่ เติม ชีววิทยา เล่ม 5 กล่มุ สาระ การเรียนรู้วิทยาศาสตร์. พมิ พค์ ร้ังท่ี 2. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ สกสค, 2554. สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย.ี หนงั สือเรียนรายวิชาเพมิ่ เติม ชีววิทยา เล่ม 5 กลุ่ม สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์. พิมพค์ ร้ังท่ี 2. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ สกสค, 2554.
Search
Read the Text Version
- 1 - 41
Pages: