แนวคิดสำคญั ( Main Idea) การบญั ชีเป็ นศิลปะของการเกบ็ รวบรวม บนั ทึก จาแนก และสรุปขอ้ มลู เก่ียวกบั เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจและใหข้ อ้ มลู ทางการเงิน ซ่ึงแตกต่างจากการทาบญั ชีในดา้ นการวเิ คราะห์ จดั ประเภท และบนั ทึกรายการของผมู้ ีอาชีพทางดา้ นการบญั ชี คือ ผทู้ าบญั ชี และนกั บญั ชี ดงั น้นั จุดประสงคข์ องการบญั ชีเพ่อื จดบนั ทึกรายการคา้ ท่ีเกิดข้ึน และนาขอ้ มูลไปใชว้ างแผน และช่วยในการตดั สินใจลงทุน แม่บทการบญั ชี หมายถึง กรอบหรือแนวคิดพ้นื ฐานในการจดั ทาและนาเสนองบการเงินการกาหนด และนามาตรฐานการบญั ชีมาปฏิบตั ิภายใตข้ อ้ สมมติในการจดั ทา และนาเสนองบการเงินตามเกณฑค์ งคา้ ง การดาเนินงานต่อเนื่อง และลกั ษณะเชิงคุณภาพของงบการเงิน
ผงั มโนทศั น์ (Concept maps)มีผลสมั ฤทธ์ิ การประยกุ ตใ์ ช้ ทดสอบความรู้ ทกั ษะการประยกุ ตใ์ ช้ มีความรับผิดชอบต่อตนเอง ประเมนิ ตามสภาพจริงเก่ง ผเู้ รียน ดี กระบวน มีความรู้ การทางาน เบ้ืองตน้ มีความสุข วธิ ีกา เก่ียวกบั บญั ชี รมีความรู้เบ้ืองตน้ เก่ียวกบั บญั ชี CIPPA MODEL ความรู้เบือ้ งต้นเกยี่ วกบั การบัญชีประวตั ิและววิ ฒั นาการ สาระ ความหมายของการ ของการบญั ชี บญั ชีและการทาบญั ชีผมู้ ีอาชีพทางดา้ นการบญั ชี วตั ถุประสงคข์ องการบญั ชีประโยชนข์ องการบญั ชี แม่บทการบญั ชี ขอ้ แนะนาเบ้ืองตน้ ในการทา จรรยาบรรณของผปู้ ระกอบ บญั ชี วชิ าชีพบญั ชี
แบบประเมินผลกำรเรยี นรกู้ อ่ นเรยี น หน่วยท่ี 1 ความรู้เบือ้ งต้นเกย่ี วกบั การบัญชีจงเลอื กคาตอบทถี่ ูกทสี่ ุดเพยี งคาตอบเดยี ว1. การบญั ชีมีความหมายเกี่ยวกบั เร่ืองใด ก. การรวบรวม ข. การบนั ทึก ค. การสรุปผล ง. การคน้ ควา้2. ขอ้ ใดหมายถึงผทู้ าบญั ชี ก. ผปู้ ระกอบธุรกิจ ข. นกั บญั ชีตน้ ทุน ค. ผทู้ าบญั ชีอิสระ ง. ผตู้ รวจสอบภายในธุรกิจ3. ขอ้ ใด คือ วตั ถุประสงคข์ องการบญั ชี ก. จดบนั ทึกรายการคา้ ข. ตรวจสอบผลงาน ค. จดั ทาสถิติ ง. ใชป้ ระกอบการใหเ้ ครดิต4. ประโยชน์ของการบญั ชีที่เกี่ยวกบั ผลการดาเนินงานคืออะไร ก. ฐานะการเงิน ข. ผลกาไร ค. ป้ องกนั ขอ้ ผดิ พลาดในการทางาน ง. ตดั สินใจลงทุน5. แม่บทการบญั ชีขอ้ ใดท่ีเกี่ยวกบั การใหข้ อ้ มูลตอ่ ผใู้ ชง้ บการเงิน ก. ลกั ษณะเชิงคุณภาพ ข. ขอ้ สมมติ ค. วตั ถุประสงคข์ องงบการเงิน ง. เกณฑค์ งคา้ ง6. เหตุการณ์ท่ีนามาวิเคราะห์และจดบนั ทึกเรียกวา่ อะไร ก. ขอ้ มูล
ข. การวเิ คราะห์ ค. รายการคา้ ง. งวดบญั ชี7. การจดั ทางบการเงินของกิจการตามขอ้ สมมติของแม่บทการบญั ชีตรงกบั ขอ้ ใด ก. มีความเก่ียวขอ้ งในการตดั สินใจ ข. การดาเนินงานตอ่ เนื่อง ค. ลกั ษณะท่ีเขา้ ใจไดท้ นั ที ง. การเปรียบเทียบกนั ได้8. ขอ้ ใดคือการเขียนตวั เลขท่ีถูกตอ้ งตามหลกั บญั ชี ก. 1500 ข. 10,50 ค. 10,50.50 ง. 1,500.509. ขอ้ ใดถูกตอ้ งเกี่ยวกบั การเขียนตวั เลขทางบญั ชี ก. การเขียนตวั เลขนิยมเขียนตวั เลขไทย ข. การเขียนตวั เลขต้งั แต่ 3 หลกั ข้ึนไปใหเ้ วน้ วรรค ค. ถา้ เขียนตวั เลขผดิ ใหข้ ีดฆ่าเซ็นชื่อยอ่ แลว้ เขียนตวั เลขที่ถูกตอ้ งไวด้ า้ นบน ง. การเขียนตวั เลขบรรทดั แรกเป็นหลกั หน่วย10. การบนั ทึกบญั ชีของธุรกิจมีหลกั ปฏิบตั ิอยา่ งไร ก. เขียน วนั เดือน ปี เรียงตามลาดบั ข. เจา้ ของกิจการและกิจการไมต่ อ้ งแยกบนั ทึกบญั ชี ค. มีการจา่ ยซ้ือสินทรัพยเ์ พ่ือลงทุนเป็นหลกั ง. สรุปผลการดาเนินงานจากการไดม้ าของสินทรัพยท์ ่ีใชง้ าน
1. ประวตั ิและววิ ฒั นาการของการบญั ชี วชิ าการบญั ชีเป็นวชิ าหน่ึงที่มีความรับผดิ ชอบสูง เพราะผลจากการทางานของนกั บญั ชีน้นัผบู้ ริหารกิจการตอ้ งนาไปใชใ้ นการวางแผนนโยบายทางการเงินของกิจการโดยภาพรวม จากการคน้ พบหลกั ฐานการจดบนั ทึกรายการทางบญั ชีสมยั 5,000 ปี ท่ีแลว้ ต้งั แต่สมยั บาบิโลเนียและอียปิ ตจ์ ะมีการบนั ทึกบญั ชีเป็นปริมาณแทนการบนั ทึกเป็นจานวนเงิน และในสมยั โรมนั เริ่มมีการบนั ทึกเก่ียวกบั เงินสดและรับจา่ ย ในตน้ ศตวรรษที่ 14 มีการนาหลกั การบญั ชีคู่ (Double Entry System) มาใชโ้ ดยคน้ พบหลกั ฐานท่ีกรุงเจนวั ประเทศอิตาลี ซ่ึงเป็นประเทศที่เป็นศูนยก์ ลางทางการคา้ ในขณะน้นั ตอ่ มาในศตวรรษที่ 15 ชาวอิตาเลียน คือ ลูกา ปาซิโอลี (Luca Pacioli) ไดร้ ับการยกยอ่ งวา่ เป็น “บิดาแห่งวชิ าการบัญชี” เป็นผแู้ ต่งหนงั สือเกี่ยวกบั วชิ าการคานวณเลขคณิต พีชคณิต เรขาคณิต เม่ือ ค.ศ. 1494 และในหนงั สือเล่มน้นั ไดเ้ ขียนเร่ืองของการบญั ชีไวด้ ว้ ย หลงั จากน้นั มีการปฏิวตั ิอุตสาหกรรมในศตวรรษท่ี 20 ประเทศต่าง ๆ ในยโุ รปและสหรัฐอเมริกาไดก้ ่อต้งั สมาคมนกั บญั ชี ซ่ึงสมาคมนกั บญั ชีแตล่ ะประเทศก็ไดก้ าหนดมาตรฐานการบญั ชีไว้เป็นแนวทางใหน้ กั บญั ชีถือปฏิบตั ิ ส่วนประวตั ิทางการบญั ชีในประเทศไทย จะเร่ิมต้งั แตส่ มยั การเปลี่ยนแปลงการปกครองใน พ.ศ.2475 รัฐบาลเห็นความสาคญั ของการบญั ชีซ่ึงมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยมีพระยาไชยยศสมบตั ิ (เสริม กฤษณามระ) และหลวงดาริอิศรานุวรรต (ม.ล.ดาริ อิศรางกรู ณ อยธุ ยา) รับราชการอยใู่ นสานกั งานตรวจเงินแผน่ ดิน เป็นนกั บญั ชีท่ีพยายามเผยแพร่ความรู้ทางการบญั ชี โดยจดั ใหม้ ีหลกั สูตรการสอนวชิ าบญั ชีในระดบั ก่อนอุดมศึกษา และระดบั อุดมศึกษา โดยมีวตั ถุประสงคใ์ หค้ นไทยมีความรู้ทางการบญั ชีมากข้ึน เพ่ือทาใหเ้ กิดวชิ าชีพการสอบบญั ชีสาธารณะสอดคลอ้ งกบั ประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชยท์ ่ีระบุไวเ้ กี่ยวกบั การจดั ทาบญั ชีและการสอบบญั ชีของธุรกิจ และในปี พ.ศ.2491 ไดร้ ่วมกนั ก่อต้งั สมาคมนกั บญั ชีแห่งประเทศไทย ซ่ึงต่อมาไดเ้ ปลี่ยนช่ือเป็ น“สมาคมนักบญั ชีและผ้สู อบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย” ปัจจุบนั ไดเ้ ปลี่ยนชื่อเป็น “สภาวชิ าชีพบญั ชี” สภาวชิ าชีพบญั ชี (Federation of Accounting Professions) มีบทบาทหนา้ ท่ีในการพฒั นาวชิ าชีพบญั ชี ไดแ้ ก่ การกาหนดมาตรฐานการบญั ชี การสอบบญั ชี บญั ญตั ิศพั ทท์ างบญั ชีและความรู้อ่ืน ๆ ท่ีเก่ียวกบัการบญั ชี ช่วยเหลือเกี่ยวกบั การจดั สัมมนาและอบรมให้แก่นกั บญั ชี ท้งั น้ีเพ่อื ใหผ้ ปู้ ระกอบวชิ าชีพไดใ้ ช้เป็นมาตรฐานการปฏิบตั ิงานไปในแนวทางเดียวกนั ดงั น้นัการบญั ชีจึงมีบทบาทและความสาคญั อยา่ งมากในปัจจุบนั นอกจากน้ี การบญั ชียงั ตอ้ งมีการพฒั นาและเปล่ียนแปลงไปตามสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมอยา่ งต่อเนื่อง ผทู้ ่ีทาหนา้ ที่เป็ นนกั บญั ชีก็ตอ้ งปรับตวั เองใหท้ นั ต่อการเปล่ียนแปลงของสงั คม เศรษฐกิจและเทคโนโลยที ่ีไดม้ ีการเปล่ียนแปลงและพฒั นาวชิ าชีพของตนเองใหท้ นั สมยั ตลอดเวลา
2. ความหมายของการบัญชีและการทาบัญชี 2.1 ความหมายของการบญั ชี การบัญชี (Accounting) หมายถึง ศิลปะของการเก็บรวบรวม บนั ทึก จาแนกขอ้ มูลในรูปตวั เงินเพื่อเป็ นประโยชนแ์ ก่เจา้ ของกิจการและบุคคลภายนอกท่ีเก่ียวขอ้ ง สมาคมนกั บญั ชีและผสู้ อบบญั ชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย ซ่ึงเรียกชื่อยอ่ วา่ ส.บช. (TheInstitute of Certified Accountants and Auditor of Thailand : ICAAT) ไดใ้ หค้ วามหมายของการบญั ชีไว้ดงั น้ี การบญั ชี (Accounting) หมายถึง ศิลปะของการเกบ็ รวบรวม บนั ทึก จาแนก และสรุปขอ้ มูลอนัเกี่ยวกบั เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจในรูปตวั เงิน ผลงานข้นั สุดทา้ ยของการบญั ชีกค็ ือการใหข้ อ้ มลู ทางการเงินซ่ึงเป็นประโยชน์แก่บุคคลหลายฝ่ าย และผทู้ ี่สนใจในกิจกรรมของกิจการ สมาคมนกั บญั ชีและผสู้ อบบญั ชีรับอนุญาตของประเทศสหรัฐอเมริกา (The American Instituteof Certified Public Accountants : AICPA) ไดใ้ หค้ วามหมายของการบญั ชีไวด้ งั น้ี “การบญั ชี เป็ นศิลปะของการบนั ทึกรายการหรือเหตุการณ์ที่เกี่ยวกบั การเงินไวใ้ นรูปของเงินตราจดั หมวดหมรู่ ายการเหล่าน้นั สรุปผล พร้อมท้งั ตีความหมายของผลน้นั ” จากความหมายดงั กล่าว การจดั บนั ทึกรายการหรือเหตุการณ์ตา่ ง ๆ ของกิจการคา้ ซ่ึงเป็ นผลทาให้เกิดการเปล่ียนแปลงในสินทรัพย์ หน้ีสิน และส่วนของเจา้ ของกิจการ รวมถึงรายการที่เก่ียวขอ้ งกบับุคคลภายนอก เช่น การซ้ือวตั ถุดิบ การขายสินคา้ การใหบ้ ริการ เป็ นตน้ ซ่ึงในธุรกิจปัจจุบนั มีเป็ นจานวนมาก นกั บญั ชีจะตอ้ งนารายการหรือเหตุการณ์ท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั การเงินที่เกิดข้ึนแลว้ และมีหลกั ฐานถูกตอ้ งเชื่อถือได้ รวมถึงตอ้ งมีหน่วยเงินตรากาหนดไวเ้ พ่ือนามาจดบนั ทึกรายการทางบญั ชีได้ ซ่ึงรายการดงั กล่าวเรียกวา่ รายการคา้ (Business transaction) รายการคา้ แต่ละรายการที่นามาลงบญั ชีคือ เอกสารประกอบการลงบญั ชี หมายถึง เอกสารใด ๆ ท่ีใชเ้ ป็นหลกั ฐานในการลงรายการในบญั ชี แลว้ นามาจดั หมวดหมูต่ ามลกั ษณะและประเภทของรายการน้นั ดว้ ย หลงั จากน้นั ให้นารายการคา้ ที่ไดม้ ีการจดั หมวดหมู่แลว้ มาทาการสรุปผลในรูปของรายการงบการเงิน (Financial statement) ตามระยะเวลาท่ีไดก้ าหนด ระยะเวลาดงั กล่าวปกติจะตอ้ งจดั ทาปี ละ 1 คร้ัง การสรุปผลในรูปของงบการเงินดงั กล่าว ไดแ้ ก่ งบกาไรขาดทุน (Incomestatement หรือ Profit and loss statement) เป็นงบที่แสดงถึงฐานะการเงินของกิจการในวนั สิ้นงวดบญั ชีหรือ ณ วนั ใดวนั หน่ึง จากน้นั นางบการเงินที่ไดจ้ ดั ทามาตีความหมายและสรุปผลของงบการเงินเหล่าน้นัและรายงานตอ่ ฝ่ ายบริหารเพ่ือนาไปใชใ้ นการตดั สินใจและวางแผนการดาเนินงานของธุรกิจในอนาคตต่อไป สรุป การบัญชี หมายถึง การจดบนั ทึก จดั ประเภท การรวบรวมและสรุปผลเหตุการณ์ทางการเงินท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ธุรกิจอยา่ งมีหลกั เกณฑ์ เพ่อื จดั ทาเป็นรายงานทางการเงิน โดยแสดงขอ้ มลู เก่ียวกบั ฐานะ
ทางการเงิน และผลการดาเนินงานและการเปล่ียนแปลงฐานะการเงินของกิจการแสนอต่อผใู้ ชง้ บการเงินทุกประเภทท้งั บุคคลภายในและภายนอกกิจการ เพื่อประโยชนใ์ นการนาเสนอขอ้ มูลและใชใ้ นการตดั สินใจทางเศรษฐกิจ จากความหมายดงั กล่าว จึงแตกตา่ งจากคาวา่ “การทาบญั ชี” (Bookkeeping) 2.2 การทาบญั ชี (Bookkeeping) หมายถึง การจดบนั ทึกทางการบญั ชี การจดั หมวดหมู่บญั ชีโดยการแยกประเภทรายการแลว้ สรุปผลจดั ทาเป็นรายงานทางการเงิน หนา้ ท่ีของการทาบญั ชีจึงเป็ นหนา้ ที่ส่วนหน่ึงของการบญั ชี ดงั ภาพประกอบ การบญั ชี การวางระบบบัญชี(Accounting) เอกสาร การจดบันทกึ สรุปผล ใบสาคญั - สมุดรายวนั - สมุดแยกประเภท การทาบญั ชี (Bookkeeping) การรายงานทางการเงิน - งบแสดงฐานะการเงิน - งบกระแสเงินสด - งบกาไรขาดทุน - งบแสดงการเปล่ียนแปลงในส่วนของเจา้ ของ - นโยบายการบญั ชีและหมายเหตปุ ระกอบงบการเงิน การวเิ คราะห์และตคี วามหมาย จากคาจากดั ความขา้ งตน้ สรุปไดว้ า่ ขบวนการทางการบญั ชี (The Accounting Process) มี 4ข้นั ตอน ดงั น้ี ข้นั ตอนท่ี 1 การรวบรวมขอ้ มูล ( Date Collecting) ข้นั ตอนท่ี 2 การบนั ทึกรายการ ( Recording) ข้นั ตอนท่ี 3 การจาแนก (Classifying) ข้นั ตอนท่ี 4 การสรุปขอ้ มูล (Summarizing)
การรวบรวมข้อมูล ( Date Collecting) การบันทกึ รายการ ( Recording) การจาแนก (Classifying) การสรุปขอ้ มลู (Summarizing) 2.2.1 การรวบรวมขอ้ มลู ( Collecting) หมายถึง การรวบรวมขอ้ มูลหรือรายการคา้ ท่ีเกิดข้ึนประจาวนั และหลกั ฐานท่ีเก่ียวกบั การดาเนินธุรกิจ เช่น การซ้ือ และการขาย การรับเงิน และการจา่ ยเงิน เป็ นตน้ 2.2.2 การบนั ทึกรายการ ( Recording) หมายถึง การจดบนั ทึกรายการคา้ ที่เกิดข้ึนแต่ละคร้ังให้ถูกตอ้ งตามหลกั การบญั ชีที่รับรองทว่ั ไป พร้อมกบั บนั ทึกขอ้ มูลให้อยใู่ นรูปของหน่วยเงินตรา 2.2.3 การจาแนก (Classifying) หมายถึง การนาขอ้ มูลท่ีจดบนั ทึกไวแ้ ลว้ มาจาแนกใหเ้ ป็นหมวดหมู่ของบญั ชีประเภทต่าง ๆ เช่น หมวดสินทรัพย์ หมวดหน้ีสิน หมวดส่วนของเจา้ ของ หมวดรายได้และหมวดค่าใชจ้ า่ ย 2.2.4 การสรุปขอ้ มูล (Summarizing) เป็นการนาขอ้ มูลท่ีไดจ้ าแนกให้เป็นหมวดหมู่แลว้ มาสรุปเป็นรายงานทางการเงิน (Accounting Report) ซ่ึงแสดงถึงผลการดาเนินงานและฐานะการเงินของธุรกิจ ตลอดจนการไดม้ าและใชไ้ ปของเงินสดในรอบระยะเวลาบญั ชีหน่ึง 2.3 การใหข้ อ้ มลู ทางการเงิน เพือ่ ประโยชน์แก่บุคคลท่ีเกี่ยวขอ้ งหลายฝ่ าย เช่น ฝ่ ายบริหารผใู้ หก้ ู้ เจา้ หน้ี รัฐบาล นกั ลงทุน เป็นตน้ นอกจากน้ีขอ้ มลู ทางการเงินสามารถนาไปใชป้ ระโยชน์ในการวเิ คราะห์ทางดา้ นการเงิน การจดั ทางบประมาณ การปรับปรุงระบบบญั ชี เป็นตน้ จากความหมายของการบญั ชีท่ีกล่าวขา้ งตน้ ลว้ นแลว้ เก่ียวขอ้ งกบั การตดั สินใจ ขบวนการความสัมพนั ธ์ระหวา่ งการบญั ชีกบั การตดั สินใจ แสดงไดด้ งั ภาพที่ 1.2
เหตุการณ์ การวเิ คราะห์และจด งบการเงนิ ผู้ใช้งบการเงนิ บันทกึ โดยนักบัญชี3. ผู้มอี าชีพทางด้านการบัญชี หลาย ๆ คนยงั สับสนระหวา่ งคาวา่ นกั บญั ชี และผทู้ าบญั ชี 3.1 นกั บญั ชี (Accountants) คือ เป็นผทู้ าหนา้ ที่ออกแบบเอกสารทางธุรกิจ ออกแบบหรือการวางระบบบญั ชี การจดั ทารายงานทางบญั ชี การจดั ทางบประมาณ การควบคุม และการตรวจสอบบญั ชีโดยปฏิบตั ิตามมาตรฐานสากล การวเิ คราะห์ขอ้ มลู การแปลความหมายของขอ้ มลู จากรายงานทางการเงินเพอ่ื ใหธ้ ุรกิจนามาใชใ้ นการตดั สินใจดาเนินงาน 3.2 ผทู้ าบญั ชี (Bookkeepers) คือ เป็ นผทู้ ี่ทาหนา้ ที่รับผดิ ชอบการทาบญั ชีตามลาดบั ข้นั ตอนโดยการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล จดบนั ทึกขอ้ มูลประจาวนั การบนั ทึกอาจทาดว้ ยมือหรือใชค้ อมพิวเตอร์ และจดั ทารายงานทางการเงิน 4. จุดประสงค์ของการบัญชี การบัญชีมีจุดประสงค์หลกั ดงั นี้ 4.1 เพ่อื ช่วยใหเ้ จา้ ของกิจการสามารถควบคุมรักษา สินทรัพยข์ องกิจการได้ 4.2 เพอ่ื ช่วยใหท้ ราบฐานะการเงินของกิจการ ณ วนั ใดวนั หน่ึงวา่ กิจการมีสินทรัพย์ หน้ีสินและทุน ซ่ึงเป็นส่วนของเจา้ ของกิจการเป็นจานวนเทา่ ใด 4.3 เพ่ือช่วยใหท้ ราบผลการดาเนินงานของกิจการ ในรอบระยะเวลาใดเวลาหน่ึงวา่ ผลการดาเนินงานท่ีผา่ นมากิจการมีกาไรหรือขาดทุนเป็นจานวนเงินเท่าใด 4.4 การทาบญั ชีเป็ นการรวบรวมสถิติอยา่ งหน่ึงท่ีช่วยในการบริหาร และใหข้ อ้ มูลอนั เป็นประโยชน์ในการวางแผนการดาเนินงาน การตดั สินใจ และควบคุมกิจการใหป้ ระสบผลสาเร็จตามความมุ่งหมาย และใชเ้ ป็นแหล่งขอ้ มูลทางการเงินของบุคคลท้งั ภายในและภายนอกกิจการ 4.5 เพ่อื บนั ทึกรายการคา้ ที่เกิดข้ึนตามลาดบั ก่อนหลงั และจาแนกประเภทรายการคา้ ไว้ 4.6 เพอื่ ใหถ้ ูกตอ้ งตามพระราชบญั ญตั ิวา่ ดว้ ยการทาบญั ชีของกิจการต่าง ๆ
5. ประโยชน์ของข้อมูลการบัญชี 5.1 เพือ่ เป็นเครื่องมือวดั ความสาเร็จในการดาเนินธุรกิจ การทาบญั ชีจะทาใหก้ ิจการทราบผลการดาเนินงาน ฐานะทางการเงิน และความมน่ั คงของธุรกิจ โดยในการจดั ทาบญั ชีน้นั จะบนั ทึกบญั ชีรายการตา่ ง ๆ ที่เกิดข้ึนในการดาเนินธุรกิจ 5.2 เพอื่ ช่วยในการวางแผนและตดั สินใจของธุรกิจ ขอ้ มูลบญั ชีจะเป็นประโยชน์ตอ่ การวางแผนและการตดั สินใจ โดยประเมินจากขอ้ มลู เหตุการณ์ในอดีต ปัจจุบนั และอนาคต ซ่ึงอาจจะอยใู่ นรูปของรายงานวเิ คราะห์ตา่ ง ๆ อนั เป็ นเคร่ืองมือช่วยใหผ้ บู้ ริหารงานสามารถดาเนินงานอยา่ งมีประสิทธิภาพมากข้ึน 5.3 เพอื่ ช่วยในการวางแผนกาไร และควบคุมค่าใชจ้ า่ ยของกิจการเม่ือขอ้ มลู ทางบญั ชีถูกตอ้ ง จะทาใหก้ ิจการทราบจานวนตน้ ทุนและคา่ ใชจ้ า่ ยที่เกิดข้ึน และคานวณตน้ ทุนของสินคา้ และบริการไดถ้ ูกตอ้ งซ่ึงจะช่วยในการตดั สินใจกาหนดราคาสินคา้ หรือบริการของธุรกิจ ช่วยควบคุมตน้ ทุนการผลิตและค่าใชจ้ ่ายต่าง ๆ ใหเ้ ป็นไปตามประมาณการท่ีไดก้ าหนดไว้ และสามารถนาไปวเิ คราะห์ ปรับปรุงรายจ่ายที่ไมจ่ าเป็นออก รวมถึงช่วยในการวางแผนการดาเนินงานไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสมกบั ทรัพยากรที่กิจการมีอยู่ 5.4 เพ่อื เป็ นเคร่ืองมือช่วยในการหาแหล่งเงินทุน ในการจดั ทาบญั ชีจะทาใหไ้ ดร้ ายงานทางการเงินท่ีใชเ้ ป็นสื่อกลางในการติดตอ่ ทางธุรกิจต่าง ๆ อนั เป็นหลกั ฐานในการสร้างความเช่ือมนั่ ใหก้ บั เจา้ หน้ีและสถาบนั การเงิน 5.5 เพื่อใหม้ ีระบบการควบคุมภายในที่ดี และเป็นสัญญาณเตือนภยั ของกิจการการมีระบบบญั ชีท่ีดีจะทาใหม้ ีระบบการควบคุมภายในที่ดีท่ีช่วยใหก้ ิจการป้ องกนั การทุจริตท่ีอาจจะเกิดข้ึน เน่ืองจากขอ้ มูลทางการเงิน ตลอดจนรายการตา่ ง ๆ ท่ีเกิดข้ึน จะตอ้ งมีหลกั ฐานท่ีสามารถยนื ยนั ถึงที่มาท่ีไปได้ สามารถป้ องกนั การทุจริตได้ 5.6 เพ่อื ประโยชนใ์ นการวางแผน เพ่ือเสียภาษีไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและประหยดั ขอ้ มลู บญั ชีท่ีถูกตอ้ งจะทาใหท้ ราบกาไรขาดทุนที่แน่นอน สามารถวางแผนภาษีอากรไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ประหยดั และเสียภาษีไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งตามกฎหมาย ผา่ นกระบวนการออกมาเป็นงบการเงิน (Financial Statement) จะมีประโยชน์ในการตดั สินใจ ซ่ึงผทู้ ่ีมีหนา้ ท่ีเก่ียวกบั การตดั สินใจจะมีหลายกลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มจะมีจุดประสงคต์ า่ งกนัเพอื่ ความเขา้ ใจยงิ่ ข้ึน ขอใหพ้ ิจารณาบุคคลและกลุ่มบุคคลท่ีมีความเกี่ยวขอ้ งกบั ธุรกิจ แสดงดงั ภาพท่ี 1.3
ผถู้ ือหุน้ ผสู้ ่งวตั ถดุ ิบ รัฐบาล สหภาพแรงงาน คูแ่ ข่งขนั นกั ลงทุน ฝ่ ายบริหาร ลูกคา้ ชุมชน ฝ่ ายปฏิบตั ิการ สมาคมการคา้ เจา้ หน้ี กลุ่มนกั ธุรกิจ จากภาพที่ 1.4 ผทู้ ่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ธุรกิจแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ1. กลุ่มภายใน ไดแ้ ก่ ฝ่ ายบริหาร และฝ่ ายปฏิบตั ิ2. ก พร ร รรจากความสัมพนั ธ์ระหวา่ งการบญั ชีกบั การตดั สินใจ แบ่งผใู้ ชง้ บการเงินออกเป็ น กลุ่มภายใน และกลุ่มภายนอกตามบุคคลและกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวขอ้ งกบั ธุรกิจ งบ ผใู้ ชง้ บ กลุ่มภายในเหตุการ การวเิ คราะห์และ การเงิ การเงิน กลุ่มณ์ จดบนั ทึกโดยนกั น ภายนอก บญั ชีผู้ใช้ข้อมูลทางการบัญชี (Users of Accounting Information) 1. เจ้าของกจิ การ (The Owner) หากกิจการเป็ นกิจการเจา้ ของคนเดียว เจา้ ของก็คือ ผกู้ ่อต้งักิจการ แต่ถา้ เป็ นกิจการหา้ งหุน้ ส่วนเจา้ ของกิจการก็คือผเู้ ป็นหุน้ ส่วนทุกคน และถา้ เป็นกิจการบริษทั จากดัเจา้ ของกิจการกค็ ือผถู้ ือหุน้ ซ่ึงเจา้ ของกิจการเหล่าน้ีจะนาขอ้ มลู ทางการบญั ชีของกิจการไปใชใ้ นการวาง
นโยบายของกิจการ เช่น จะขยายกิจการ หรือจะเลิกกิจการซ่ึงการตดั สินใจในเร่ืองเหล่าน้ีตอ้ งอาศยั ขอ้ มลูทางการบญั ชีของกิจการวา่ ที่ผา่ นมากิจการมีผลการดาเนินงานเป็นอยา่ งไร และ ณ ปัจจุบนั กิจการมีฐานะทางการเงินเป็นอยา่ งไร เป็นตน้ 2. ผู้บริหาร (Manager) ในกิจการประเภทหา้ งหุน้ ส่วนและบริษทั จากดั เจา้ ของกิจการอาจจะเป็นคนเดียวกบั ผบู้ ริหารหรือไมก่ ไ็ ด้ ซ่ึงผบู้ ริหารน้ีจะใชข้ อ้ มลู ทางการบญั ชีของกิจการไปใชใ้ นการบริหารกิจการใหป้ ระสบผลสาเร็จตามนโยบายที่ไดร้ ับจากเจา้ ของกิจการ 3. เจ้าหนีห้ รือแหล่งเงินกู้ต่าง ๆ (Creditors) เจา้ หน้ีจะใชข้ อ้ มลู ทางการบญั ชีของกิจการไปใชใ้ นการตดั สินใจที่จะใหเ้ ครดิตกบั กิจการ โดยจะพจิ ารณาจากฐานะทางการเงินของกิจการ ความสามารถในการชาระคืนเงินตน้ และดอกเบ้ียของกิจการ เป็นตน้ 4. นักลงทุน (Investors) นกั ลงทุนจะใชข้ อ้ มูลทางการบญั ชีของกิจการไปใชใ้ นการตดั สินใจในการที่จะเขา้ มาลงทุนในกิจการ โดยผลู้ งทุนจะพจิ ารณาจากผลการดาเนินงานของกิจการ ฐานะทางการเงินของกิจการ ผลตอบแทนที่คาดวา่ จะไดร้ ับนโยบายการจ่ายเงินปันผลของกิจการ เป็ นตน้ 5. ลูกค้าและซัพพลายเออร์ (Customers and Suppliers) ลูกคา้ และซพั พลายเออร์จะใชข้ อ้ มูลทางการบญั ชีของกิจการไปใชใ้ นการตดั สินใจท่ีจะคา้ ขายกบั กิจการ โดยจะพิจารณาจากผลการดาเนินงานของกิจการ ฐานะทางการเงินของกิจการ สภาพคล่องของกิจการ เป็นตน้ 6. พนักงานหรือลกู จ้าง (Employees) พนกั งานหรือลูกจา้ งจะใชข้ อ้ มลู ทางการบญั ชีของกิจการไปใชใ้ นการตดั สินใจในการทางานกบั กิจการ โดยจะพจิ ารณาจากความมน่ั คงคือฐานะทางการเงินของกิจการ ผลการดาเนินงานของกิจการ เพอื่ ประเมินความสามารถในการจา่ ยคา่ จา้ งค่าตอบแทน และโอกาสในการจา้ งงาน 7. คู่แข่ง (Competitors) คูแ่ ขง่ จะใชข้ อ้ มลู ทางการบญั ชีของกิจการไปใชใ้ นการตดั สินใจบริหารงานของคู่แขง่ เพ่ือจะใหส้ ามารถแข่งขนั กบั กิจการได้ 8. รัฐบาลและหน่วยงานราชการ (Government Agencies) หมายถึง หน่วยงานราชการที่ตอ้ งการขอ้ มลู ทางการบญั ชีของกิจการไปใชใ้ นงานต่าง ๆ ของทางราชการ เช่น กรมสรรพากรตอ้ งการนาขอ้ มูลทางการบญั ชีของกิจการไปใชค้ านวณการจดั เก็บภาษี หรือนาไปเป็นฐานในการคานวณรายไดป้ ระชาชาติหรือจดั ทาสถิติต่าง ๆ 9. บุคคลทวั่ ไป เช่น นิสิต นกั ศึกษา อาจารย์ ท่ีตอ้ งการนาขอ้ มลู ทางการบญั ชีของกิจการไปใช้ในการเรียนการสอน สื่อมวลชนตอ้ งการนาไปเสนอขา่ ว เป็นตน้ จะเห็นไดว้ า่ ผทู้ ี่ใชข้ อ้ มลู ทางการบญั ชีของกิจการมีดว้ ยกนั มากมายหลายฝ่ าย ซ่ึงแตล่ ะฝ่ ายก็ตอ้ งการขอ้ มลู ที่แตกตา่ งกนั ไป โดยเราจะแบ่งผใู้ ชข้ อ้ มลู ทางการบญั ชีไดเ้ ป็น 2 ฝ่ ายใหญ่ ๆ คือ ฝ่ ายผใู้ ช้ภายในกิจการ (Internal Users) อนั ไดแ้ ก่ เจา้ ของและผบู้ ริหารกิจการ กบั ฝ่ ายผใู้ ชภ้ ายนอกกิจการ (ExternalUsers) อนั ไดแ้ ก่ เจา้ หน้ี ผลู้ งทุน หน่วยงานรัฐบาล และอ่ืน ๆ ดงั น้นั ขอ้ มูลทางการบญั ชี จึงสามารถแบ่ง
ไดเ้ ป็น 2 ส่วน เช่นเดียวกนั คือขอ้ มลู ทางการบญั ชีท่ีนาเสนอแก่ผใู้ ชภ้ ายในกิจการ เรียกวา่ การบญั ชีบริหารหรือการบญั ชีเพื่อการจดั การ (Managerial Accounting) กบั ขอ้ มูลทางการบญั ชีที่นาเสนอแก่ผใู้ ช้ภายนอกกิจการเรา เรียกวา่ การบญั ชีการเงิน (Financial Accounting) 6. แม่บทการบัญชี (Accounting Framework) คณะกรรมการกาหนดมาตรฐานการบญั ชี สภาวชิ าชีพบญั ชี ไดก้ าหนดแมบ่ ทการบญั ชีฉบบั น้ีข้ึนจากมาตรฐานการบญั ชีระหวา่ งประเทศเร่ือง แม่บทการบญั ชี (Framework for the Preparation andPresentation of Financial Statements) โดยไมม่ ีความแตกต่าง แม่บทการบญั ชี (ปรับปรุง 2552) ใชแ้ ทนแม่บทการบญั ชีฉบบั เดิมซ่ึงไม่มีเน้ือหาแตกต่างจากแม่บทการบญั ชี (ปรับปรุง 2550) โดยมี ระ คท์ ่ีจะใชแ้ มบ่ ทการบญั ชีเป็นเกณฑใ์ นการปรับปรุงมาตรฐานการบญั ชีท่ีมีอยใู่ นปัจจุบนั และพฒั นามาตรฐานการบญั ชีท่ีจะใชใ้ นอนาคตใหส้ อดคลอ้ งกนั และสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการบญั ชีระหวา่ งประเทศ (Internatinal Accounting Standard : IAS) ท้งัยงั มีความ ระสงคใ์ หผ้ จู้ ดั ทาและผใู้ ชง้ บการเงินเขา้ ใจถึงที่มาและเน้ือหาของมาตรฐานการบญั ชีไดล้ ึกซ้ึงยง่ิ ข้ึน เพอื่ สามารถนาไปใชอ้ า้ งอิงในการนามาตรฐานการบญั ชีท่ีมีอยมู่ าถือปฏิบตั ิ รวมท้งั การปฏิบตั ิทางบญั ชีในเรื่องที่ยงั ไม่มีมาตรฐานการบญั ชีกาหนดไว้ แม่บทการบญั ชี (Accounting Framework) ไม่ถือเป็นมาตรฐานการบญั ชี แตเ่ ป็นกรอบหรือแนวคิดพ้นื ฐานในการจดั ทาและนาเสนองบการเงิน ตลอดจนกาหนดและนามาตรฐานการบญั ชีมาปฏิบตั ิและเป็นแนวทางในการปฏิบตั ิสาหรับเร่ืองที่ยงั ไม่มีมาตรฐานการบญั ชีรองรับ เพ่ือใหผ้ ใู้ ชง้ บการเงินทุกฝ่ ายมีความเขา้ ใจและปฏิบตั ิในแนวทางเดียวกนั แมบ่ ทการบญั ชีเกี่ยวขอ้ งกบั เร่ืองต่อไปน้ี 6.1 วตั ถุประสงคข์ องงบการเงิน 6.2 ลกั ษณะเชิงคุณภาพท่ีกาหนดวา่ ขอ้ มูลในงบการเงินมีประโยชน์ 6.3 คานิยาม การรับรู้รายการ และการวดั มลู คา่ ขององคป์ ระกอบที่ประกอบข้ึนเป็นงบการเงิน 6.4 และการรักษาระดบั ทุน
แม่บทการบัญชีสาหรับการจัดทาและนาเสนองบการเงนิ ลกั ษณะของงบการเงนิวตั ถุประสงค์ ใหข้ อ้ มูลท่ีมีประโยชน์ต่อการตดั สินใจเชิงเศรษฐกิจ ข้อสมมติ เกณฑค์ งคา้ ง การดาเนินงานต่อเนื่องข้อจากดั ทนั ต่อเวลา ความสมดุลระหวา่ งประโยชน์ ความสมดุลของ ที่ไดร้ ับกบั ตน้ ทนุ ท่ีเสียไป ลกั ษณะเชิงคุณภาพลกั ษณะเชิงคุณภาพ ถูกตอ้ งและยตุ ิธรรมหรือถูกตอ้ งตามควรลกั ษณะแรก เขา้ ใจได้ เก่ียวขอ้ งกบั การตดั สินใจ เช่ือถือได้ เปรียบเทียบกนั ได้ แรก นยั สาคญัลกั ษณะรองตวั แทนอนั เที่ยงธรรม เน้ือหาสาคญั กวา่ รูปแบบ ความเป็นกลาง ความระมดั ระวงั ความครบถว้ น 6.1 วตั ถุประสงคข์ องงบการเงิน งบการเงินจดั ทาข้ึนเพ่ือใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั ฐานะการเงิน ผลการดาเนินงาน การเปล่ียนแปลงฐานะการเงินของกิจการ ซ่ึงแสดงไวใ้ นงบแสดงฐานะการเงิน งบกาไรขาดทุนและงบกระแสเงินสด รวมถึงหมายเหตุประกอบงบการเงิน รายละเอียดประกอบ และขอ้ มูลอ่ืน ๆ ซ่ึงระบุไวว้ า่ เป็นส่วนหน่ึงของงบการเงิน โดยฝ่ ายบริหารของกิจการมีหนา้ ท่ีรับผดิ ชอบในการจดั ทาและนาเสนองบการเงินขอ้ มลู ในงบการเงินตอ้ งมีประโยชน์ต่อการตดั สินใจเชิงเศรษฐกิจของผใู้ ชง้ บการเงินทุกประเภทกล่าวคือขอ้ มลู ที่นาเสนอตอ้ งมีลกั ษณะร่วม สามารถตอบสนองความตอ้ งการทวั่ ไปของผใู้ ชง้ บการเงินได้ แม่บทการบญั ชีมิไดเ้ นน้ ถึงความสาคญั ของผใู้ ชง้ บการเงินกลุ่มใดกลุ่มหน่ึงโดยเฉพาะ แตใ่ หถ้ ือความตอ้ งการของผลู้ งทุนเป็ นเกณฑ์ งบการเงินไม่อาจใหข้ อ้ มูลทุกประเภทที่ผใู้ ชต้ อ้ งการไดเ้ น่ืองจากขอ้ มูลส่วนใหญ่แสดงถึงผลกระทบทางการเงินจากเหตุการณ์ในอดีต โดยที่งบการเงินไมจ่ าเป็นตอ้ งแสดงขอ้ มูลที่มิใช่ขอ้ มลู ทางการเงิน แมข้ อ้ มลู ในงบการเงินจะเป็ นขอ้ มูลในอดีตแต่สามารถช่วยผใู้ ชง้ บการเงินในการประมาณการและการคาดการณ์ในอนาคต เพื่อใชต้ ดั สินใจทางเศรษฐกิจได้ รวมถึงประเมินผลการบริหารงาน ความสามารถในการทากาไรและการก่อกระแสเงินสดของกิจการ เพื่อใชป้ ระกอบการตดั สินใจ
ในกรณีใดกรณีหน่ึง เช่น การตดั สินใจโยกยา้ ยหรือเปลี่ยนผบู้ ริหาร การขายหรือถือเงินลงทุนในกิจการตอ่ ไป การอนุมตั ิสินเชื่อ การดาเนินงานตอ่ เน่ือง และการกากบั ดูแลของหน่วยงานราชการ เป็นตน้ 6.1.1 ขอ้ สมมติตามแม่บทการบญั ชี เพอ่ื ใหบ้ รรลุวตั ถุประสงคข์ องงบการเงิน แมบ่ ทการบญั ชีไดก้ าหนดขอ้ สมมติไว้ 2 ขอ้ คือ 6.1.1.1 เกณฑค์ งคา้ ง (Accrual Basis) ตามเกณฑค์ งคา้ งรายการ และเหตุการณ์ทางการบญั ชีจะรับรู้เม่ือรายการน้นั เกิดข้ึน โดยไมค่ านึงวา่ รายการดงั กล่าวมีการรับหรือจ่ายเงินสดหรือรายการเทียบเท่าเงินสดหรือไม่ ซ่ึงรายการต่าง ๆ ดงั กล่าวจะถูกบนั ทึก และแสดงในงบการเงินในงวดที่เกี่ยวขอ้ ง โดยงบการเงินที่จดั ทาข้ึนตามเกณฑค์ งคา้ งน้นั จะสะทอ้ นใหเ้ ห็นถึงรายการคา้ ในอดีตท่ีไดร้ ับ และจ่ายเงินสดตลอดจนรายการท่ีจะตอ้ งรับและจ่ายเงินสดในอนาคต เช่น ลูกหน้ีการคา้ จะสะทอ้ นถึงเงินสดท่ีคาดวา่ จะไดร้ ับในอนาคต ในขณะท่ีเจา้ หน้ีการคา้ จะสะทอ้ นถึงการจ่ายเงินสดในอนาคต ดงั น้นั จึงใหข้ อ้ มลูรายการและเหตุการณ์ทางบญั ชีในอดีตซ่ึงเป็นประโยชน์แก่ผใู้ ชง้ บการเงินในการตดั สินใจเชิงเศรษฐกิจ 6.1.1.2 การดาเนินงานต่อเน่ือง (Going concern) งบการเงินของกิจการจะจดั ทาข้ึนภายใตข้ อ้ สมมติท่ีวา่ กิจการจะดาเนินงานอยา่ งต่อเน่ือง และดารงอยตู่ ่อไปในอนาคต โดยไมม่ ีเจตนาหรือความจาเป็นท่ีจะเลิกกิจการหรือลดขนาดของการดาเนินงานอยา่ งมีสาระสาคญั หากกิจการมีเจตนาหรือความจาเป็นดงั กล่าว งบการเงินตอ้ งจดั ทาข้ึนโดยใชเ้ กณฑ์อ่ืนและตอ้ งเปิ ดเผยเกณฑน์ ้นั ในงบการเงิน 6.1.2 ขอ้ จากดั ของขอ้ มูลท่ีมีความเกี่ยวขอ้ งกบั การตดั สินใจและความเชื่อถือได้ 6.1.2.1 ความทนั ต่อเวลา (Timeliness) ผใู้ ชง้ บการเงินตอ้ งการขอ้ มูลไปใชใ้ นการตดั สินใจเชิงเศรษฐกิจ ดงั น้นั ขอ้ มลู ท่ีใชใ้ นการตดั สินใจตอ้ งเป็ นขอ้ มูลที่มีความเชื่อถือไดแ้ ละทนั ต่อเวลา 6.1.2.2 วามสมดุลระหวา่ งประโยชนท์ ่ีไดร้ ับกบั ตน้ ทุนที่เสียไป (Balance betweenbenefit and cost) ในการจดั ทางบการเงินกิจการตอ้ งใชด้ ุลยพินิจในการพิจารณาถึงประโยชน์ที่รับจากขอ้ มลูกบั ตน้ ทุนที่เสียไปในการจดั ทา ซ่ึงประโยชนท์ ่ีจะไดร้ ับควรมีมากกวา่ ตน้ ทุนท่ีเสียไป 6.1.2.3 ความสมดุลของลกั ษณะเชิงคุณภาพ (Balance in qualitative characteristics)ลกั ษณะเชิงคุณภาพ ไดแ้ ก่ ความเขา้ ใจได้ ความเกี่ยวขอ้ งกบั การตดั สินใจ ดงั น้นั ในการจดั ทางบการเงินผจู้ ดั ทาจึงจาเป็นตอ้ งใชด้ ุลยพนิ ิจในการตดั สินใจเลือกความสมดุลระหวา่ งลกั ษณะเชิงคุณภาพตา่ งๆ เพ่ือให้ผใู้ ชง้ บการเงินนาไปประกอบการตดั สินใจเชิงเศรษฐกิจไดอ้ ยา่ งสัมฤทธ์ิผล 6.2 ลกั ษณะเชิงคุณภาพของงบการเงิน งบการเงินจะมีประโยชน์ต่อผใู้ ชง้ บการเงินตามวตั ถุประสงคท์ ่ีวางไวก้ ็ต่อเมื่องบการเงินน้นั มีลกั ษณะเชิงคุณภาพ ตามที่แม่บทการบญั ชีกาหนดไว้ ดงั น้ี 6.2.1 ความเขา้ ใจได้ ขอ้ มลู ในงบการเงินตอ้ งสามารถเขา้ ใจไดใ้ นทนั ทีที่ผใู้ ชง้ บการเงินใช้ขอ้ มลู ดงั กล่าว ภายใตข้ อ้ สมมติท่ีวา่ ผใู้ ชง้ บการเงินมีความรู้ตามควรเกี่ยวกบั ธุรกิจ กิจกรรมเชิงเศรษฐกิจและการบญั ชี รวมท้งั มีความต้งั ใจตามควรที่จะศึกษาขอ้ มูลดงั กล่าว 6.2.2 ร ะ ระโยชนต์ ่อการตดั สินใจเชิงเศรษฐกิจของผใู้ ชง้ บการเงินไดน้ ้นั ตอ้ งเป็ นขอ้ มูลที่ช่วยใหผ้ ใู้ ชง้ บการเงินสามารถประเมินเหตุการณ์ในอดีต ปัจจุบนั
และอนาคต รวมท้งั ช่วยยนื ยนั หรือช้ีขอ้ ผดิ พลาดของผลการประเมินที่ผา่ นมาของผใู้ ชง้ บการเงินได้ อยา่ งไรก็ตามผใู้ ชง้ บการเงินควรคานึงถึงความมีนยั สาคญั ในการพฒั นาความเก่ียวขอ้ งกบั การตดั สินใจของขอ้ มูลน้นัขอ้ มูลจะถือวา่ มีนยั สาคญั เม่ือมีการละเวน้ ที่จะแสดงขอ้ มลู น้นั หรือการแสดงขอ้ มูลน้นั อยา่ งผดิ พลาด ทาให้ผใู้ ชง้ บการเงินตดั สินใจเชิงเศรษฐกิจผดิ พลาด หรือตดั สินใจแตกตา่ งไปจากท่ีควรจะเป็น หากผใู้ ชง้ บการเงินไดท้ ราบขอ้ มูลน้นั 6.2.3 ความเช่ือถือไดข้ อ้ มูลท่ีเป็นประโยชน์ตอ้ งเช่ือถือไดโ้ ดยเป็ นขอ้ มูลท่ีปราศจากความผดิ พลาดท่ีมีนยั สาคญั และความลาเอียง ซ่ึงประกอบดว้ ยลกั ษณะดงั ต่อไปน้ี 6.2.3.1 การเป็นตวั แทนอนั เที่ยงธรรม หมายถึง ขอ้ มูลควรแสดงตามเหตุการณ์ท่ีได้เกิดข้ึนแลว้ คือเป็นขอ้ มูลที่เขา้ เกณฑก์ ารรับรู้รายการ ณ วนั ที่เสนอรายงาน 6.2.3.2 เน้ือหาสาคญั กวา่ รูปแบบ หมายถึง ขอ้ มลู ตอ้ งบนั ทึกและแสดงตามเน้ือหาและความเป็นจริงเชิงเศรษฐกิจ ไม่ใช่ตามรูปแบบทางกฎหมายเพยี งอยา่ งเดียว 6.2.3.3 ความเป็นกลาง หมายถึง ขอ้ มลู ท่ีแสดงตอ้ งมีความเป็นกลาง หรือปราศจากความลาเอียง โดยไมม่ ีวตั ถุประสงคท์ ่ีจะช้ีนาผใู้ ชง้ บการเงิน 6.2.3.4 ความระมดั ระวงั หมายถึง การใชด้ ุลยพนิ ิจท่ีจาเป็นในการประมาณการภายใตค้ วามไม่แน่นอนเกี่ยวกบั เหตุการณ์ตา่ ง ๆ เพอ่ื ใหง้ บการเงินมีความน่าเชื่อถือ 6.2.3.5 ร รรพร ะ รพ พร การเงินเขา้ ใจผดิ 6.2.4 การเปรียบเทียบกนั ได้ ผใู้ ชง้ บการเงินตอ้ งเปรียบเทียบงบการเงินในรอบระยะเวลาตา่ งกนั ของกิจการเดียวกนั และงบการเงินในรอบระยะเวลาเดียวกนั ของกิจการแตล่ ะกิจการได้ แตม่ ิได้หมายความวา่ ขอ้ มลู ตอ้ งอยใู่ นรูปแบบเดียวกนั ตลอดไป และไม่สามารถยกเป็นขอ้ อา้ งที่จะไมน่ ามาตรฐานการบญั ชีที่เหมาะสมกวา่ มาถือปฏิบตั ิ เพื่อใหข้ อ้ มลู สามารถเปรียบเทียบกนั ได้ การเปรียบเทียบกนั ไดข้ องขอ้ มูลช่วยใหผ้ ใู้ ชง้ บการเงินสามารถคาดคะเนถึงแนวโนม้ ของฐานะการเงิน และผลการดาเนินงานของกิจการน้นั รวมท้งั เปรียบเทียบแนวโนม้ กบั กิจการอ่ืนก่อนที่จะตดั สินใจลงทุน 6.3 คานิยาม การรับรู้ และการวดั มูลคา่ ขององคป์ ระกอบต่าง ๆ ท่ีประกอบข้ึนเป็นงบการเงิน 6.3.1 ระ ร ะา องคป์ ระกอบของงบการเงิน คือ ประเภทของรายการและเหตุการณ์ทางบญั ชีตามลกั ษณะเชิงเศรษฐกิจของรายการและเหตุการณ์น้นั ท่ีแสดงไวใ้ นงบการเงิน ซ่ึงแม่บทการบญั ชีไดใ้ ห้คานิยมองคป์ ระกอบตา่ ง ๆ เพอ่ื ประโยชน์ในการตีความเพ่ือจาแนกรายการต่าง ๆ ในงบการเงิน ดงั น้ี 6.3.1.1 องคป์ ระกอบซ่ึงเก่ียวขอ้ งโดยตรงกบั การวดั ฐานะการเงินในงบแสดงฐานะการเงิน ไดแ้ ก่
(1) สินทรัพย์ หมายถึง ทรัพยากรท่ีอยใู่ นความควบคุมของกิจการทรัพยากรดงั กล่าวเป็นผลของเหตุการณ์ในอดีตซ่ึงคาดวา่ จะไดร้ ับประโยชน์เชิงเศรษฐกิจในอนาคต (2) ภ ระ พ ร ระ พน ผลของเหตุการณ์ในอดีตซ่ึงการชาระภาระผกู พนั น้นั คาดวา่ จะส่งผลใหก้ ิจการสูญเสียทรัพยากรที่มีประโยชน์เชิงเศรษฐกิจ (3) ถึง ส่วนไดเ้ สียคงเหลือในสินทรัพยข์ องกิจการหลงั จากหกั หน้ีสินท้งั สิ้นออกแลว้ 6.3.1.2 องคป์ ระกอบซ่ึงเกี่ยวขอ้ งโดยตรงกบั การวดั ผลการดาเนินงานในงบกาไรขาดทุน ไดแ้ ก่ (1) รายได้ หมายถึง การเพิ่มข้ึนของประโยชน์เชิงเศรษฐกิจในรอบระยะเวลาบญั ชีในรูปกระแสเขา้ หรือการเพ่มิ คา่ ของสินทรัพย์ หรือการลดลงของหน้ีสิน อนั ส่งผลใหส้ ่วนของเจา้ ของเพม่ิ ข้ึน ท้งั น้ีไมร่ วมถึงเงินทุนที่ไดร้ ับจากผมู้ ีส่วนร่วมในส่วนของเจา้ ของ (2) คา่ ใชจ้ ่าย หมายถึง การลดลงของประโยชน์เชิงเศรษฐกิจในรอบระยะเวลาบญั ชีในรูปกระแสออกหรือการลดค่าของสินทรัพย์ หรือการเพมิ่ ข้ึนของหน้ีสิน อนั ส่งผลใหส้ ่วนของเจา้ ของลดลง ท้งั น้ีไมร่ วมถึงการแบง่ ปันส่วนทุนใหก้ บั ผมู้ ีส่วนร่วมในส่วนของเจา้ ของ 6.3.2 การรับรู้องคป์ ระกอบของงบการเงิน การรับรู้รายการ หมายถึง การรวมรายการเขา้ เป็นส่วนหน่ึงของงบดุล และงบกาไรขาดทุน หากรายการน้นั เป็นไปตามคานิยามขององคป์ ระกอบ และเขา้ เกณฑก์ ารรับรู้รายการทุกขอ้ดงั ตอ่ ไปน้ี 6.3.2.1 มีความเป็นไปไดค้ ่อนขา้ งแน่ท่ีประโยชนเ์ ชิงเศรษฐกิจในอนาคตของรายการดงั กล่าวจะเขา้ หรือออกจากกิจการ ซ่ึงหลกั เกณฑน์ ้ียดึ หลกั ความน่าจะเป็น ในการพจิ ารณาการบนั ทึกรายการในงบการเงิน 6.3.2.2 รายการดงั กล่าวมีราคาทุน หรือมลู ค่าที่สามารถวดั ไดอ้ ยา่ งน่าเช่ือถือ ซ่ึงหลกั เกณฑน์ ้ียดึ หลกั การประมาณ ที่สมเหตุสมผลในการพิจารณาการบนั ทึกรายการในงบการเงิน สาหรับรายการท่ีไม่เขา้ เกณฑ์ กิจการไมค่ วรรับรู้รายการน้นั แต่ควรเปิ ดเผยในหมายเหตุประกอบงบการเงิน หรือคาอธิบายเพ่ิมเติม หากรายการน้นั มีความเก่ียวขอ้ งกบั การตดั สินใจเชิงเศรษฐกิจของผใู้ ชง้ บการเงินของกิจการ 6.3.1 หลกั การวดั มูลคา่ เกณฑใ์ นการวดั ค่าต่าง ๆ ตามแมบ่ ทบญั ชีมีดงั น้ี 6.3.1.1 ราคาทุนเดิม การบนั ทึกสินทรัพยด์ ว้ ยจานวนเงินสด หรือรายการเทียบเท่าเงินสดที่จา่ ยไป หรือบนั ทึกดว้ ยมูลค่ายตุ ิธรรมของสิ่งที่นาไปแลกสินทรัพยม์ า ณ เวลาที่ไดม้ าซ่ึงสินทรัพย์น้นั และการบนั ทึกหน้ีสินดว้ ยจานวนเงินที่ไดร้ ับจากการก่อภาระผกู พนั หรือบนั ทึกดว้ ยจานวนเงินสดหรือรายการเทียบเทา่ เงินสดท่ีคาดวา่ จะตอ้ งจา่ ยเพื่อชาระหน้ีสินที่เกิดจากการดาเนินงานตามปกติของกิจการ
6.3.1.2 ราคาทุนปัจจุบนั การแสดงสินทรัพยด์ ว้ ยจานวนเงินสดหรือรายการเทียบเท่าเงินสดท่ีตอ้ งจา่ ยในขณะน้นั เพอ่ื ใหไ้ ดม้ าซ่ึงสินทรัพยช์ นิดเดียวกนั หรือสินทรัพยท์ ี่เทา่ เทียมกนั และการแสดงหน้ีสินดว้ ยจานวนเงินสดหรือรายการเทียบเท่าเงินสดท่ีตอ้ งใชช้ าระภาระผกู พนั ในขณะน้นั 6.3.1.3 มลู ค่าท่ีจะไดร้ ับ การแสดงสินทรัพยด์ ว้ ยจานวนเงินสดหรือรายการเทียบเทา่เงินสดท่ีอาจไดม้ าในขณะน้นั หากกิจการขายสินทรัพยโ์ ดยมิใช่การบงั คบั ขาย และการแสดงหน้ีสินดว้ ยมูลคา่ ท่ีตอ้ งจา่ ยคืนหรือดว้ ยจานวนเงินสดหรือรายการเทียบเท่าเงินสดที่คาดวา่ จะตอ้ งจา่ ยเพ่อื ชาระหน้ีที่เกิดจากการดาเนินงานตามปกติของกิจการ 6.3.1.4 มลู คา่ ปัจจุบนั การแสดงสินทรัพยด์ ว้ ยมลู คา่ ปัจจุบนั ของกระแส เงินสดรับสุทธิในอนาคตซ่ึงคาดวา่ จะไดร้ ับในการดาเนินงานตามปกติของกิจการ และการแสดงหน้ีสินดว้ ยมลู คา่ปัจจุบนั ของกระแสเงินสดจ่ายสุทธิซ่ึงคาดวา่ จะตอ้ งจา่ ยในการชาระหน้ีสินภายในการดาเนินงานตามปกติของกิจการ 6.4 และการรักษาระดบั ทุน กิจการส่วนใหญ่นาแนวคิดเรื่องทุนทางการเงินมาใชใ้ นการจดั ทางบการเงิน ซ่ึงตามแนวคิดเร่ืองทุนทางการเงิน (เช่น เงินที่ลงทุน หรืออานาจซ้ือที่ลงทุน) ทุนมีความหมายเดียวกบั สินทรัพยส์ ุทธิหรือส่วนของเจา้ ของ อีกแนวคิดหน่ึงซ่ึงใชใ้ นการจดั ทางบการเงิน คือ ทุนทางกายภาพ เช่น ระดบั ความสามารถในการดาเนินงาน ตามแนวคิดเรื่องทุนทางกายภาพ ทุนหมายถึงกาลงั การผลิตท่ีกิจการมี และสามารถผลิตได้จริง เช่น ผลผลิตตอ่ วนั กิจการตอ้ งนาแนวคิดเรื่องทุนที่เหมาะสมใชใ้ นการจดั ทางบการเงิน โดยคานึงถึงความตอ้ งการของผใู้ ชง้ บการเงินเป็นหลกั ดงั น้นั หากผใู้ ชง้ บการเงินใหค้ วามสนใจในการรักษาระดบั ของทุนที่ลงไปในรูปของตวั เงินหรือในรูปของอานาจซ้ือ กิจการตอ้ งนาแนวคิดเร่ืองทุนทางทางการเงินมาใช้ แต่ถา้ ผใู้ ชง้ บการเงินใหค้ วามสนใจกบั ระดบั ความสามารถในการดาเนินงาน กิจการตอ้ งนาแนวคิดเรื่องทุนทางกายภาพมาใช้ การเลือกใชแ้ นวคิดใดในการจดั ทางบการเงินช้ีใหเ้ ห็นความตอ้ งการท่ีจะบรรลุเป้ าหมายที่ใชใ้ นการวดั กาไรของกิจการ 7. อาชีพทางการบัญชีและจรรยาบรรณของผู้ประกอบวชิ าชีพบัญชี 7.1 อาชีพทางการบญั ชี (Accounting Careers) แนวทางในการประกอบอาชีพของนกั บญั ชี แบ่งออกเป็ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ 7.1.1 การบญั ชีส่วนบุคคล (Private Accounting) คือ การทาบญั ชีของนกั บญั ชีในหน่วยงานใดหน่วยงานหน่ึง ท้งั กิจการท่ีหวงั ผลกาไร เช่น กิจการเจา้ ของคนเดียว หา้ งหุ้นส่วน บริษทั จากดั บริษทัจากดั (มหาชน) และกิจการที่ไมห่ วงั ผลกาไร เช่น มลู นิธิ สมาคม โดยเป็นพนกั งานประจาและไดร้ ับคา่ ตอบแทนเป็นรายเดือน หนา้ ที่ของนกั บญั ชีส่วนบุคคล ไดแ้ ก่
7.1.1.1 การบญั ชีทว่ั ไป (General Accounting) 7.1.1.2 การบญั ชีตน้ ทุน (Cost Accounting) 7.1.1.3 การบญั ชีภาษีอากร (Tax Accounting)7.1.2 การบญั ชีสาธารณะ (Public Accounting) คือการทาบญั ชีของนกั บญั ชีแบบอิสระโดยไม่เป็นลูกจา้ งของธุรกิจใด คลา้ ยกบั การประกอบวชิ าชีพของทนายความ วศิ วกร หรือแพทย์ โดยรับทาบญั ชีใหก้ บั หน่วยงานตา่ ง ๆ หลาย ๆ หน่วยงาน โดยคิดค่าบริการตามขนาดและลกั ษณะของการประกอบธุรกิจ หนา้ ที่ของนกั บญั ชีสาธารณะ ไดแ้ ก่ 7.1.2.1 การสอบบญั ชี (Auditing) นกั บญั ชีที่ทาหนา้ ที่น้ีตอ้ งเป็ นผสู้ อบบญั ชีรับอนุญาต (Certified Public Accountant หรือ CPA) หรือผสู้ อบบญั ชีภาษีอากร (Tax Auditor หรือ TA) 7.1.2.2 การใหค้ าปรึกษาทางดา้ นภาษี (Tax Services) 7.1.2.3 การใหค้ าปรึกษาทางดา้ นการบริหาร (Management Advisory Services)7.1.3 การบญั ชีรัฐบาลหรือส่วนราชการ (Government Accounting) คือการทาบญั ชีของนกับญั ชีในหน่วยงานราชการ ซ่ึงจะแตกตา่ งจากธุรกิจที่หวงั ผลกาไรหรือเอกชนและจะตอ้ งปฏิบตั ิตามกฎระเบียบของกรมบญั ชีกลาง นกั บญั ชีอาจเป็นลูกชวั่ คราว ลูกจา้ งประจาหรือเป็ นขา้ ราชการและไดร้ ับค่าตอบแทนเป็ นรายเดือน7.2 จรรยาบรรณของผปู้ ระกอบวชิ าชีพตามพระราชบญั ญตั ิวชิ าชีพบญั ชี พ.ศ. 2547 มีดงั น้ีมาตรา 46 ระ พบญั ชีหรือผซู้ ่ึงข้ึนทะเบียนไวก้ บั สภาวชิ าชีพบญั ชีมีหนา้ ที่ตอ้ งปฏิบตั ิตามจรรยาบรรณของผปู้ ระกอบวชิ าชีพบญั ชี และตอ้ งปฏิบตั ิหนา้ ท่ีของตนตามมาตรฐานการบญั ชีมาตรฐานการสอบบญั ชี หรือมาตรฐานอื่นใดท่ีเกี่ยวขอ้ งท่ีกาหนดตามพระราชบญั ญตั ิน้ีบุคคลตามวรรคหน่ึงผใู้ ดไมป่ ฏิบตั ิตามจรรยาบรรณหรือมาตรฐานที่กาหนดตามพระราชบญั ญตั ิน้ีใหถ้ ือวา่ ผนู้ ้นั ประพฤติผดิ จรรยาบรรณมาตรา 47 ใหส้ ภาวชิ าชีพบญั ชีจดั ทาจรรยาบรรณของผปู้ ระกอบวชิ าชีพบญั ชีข้ึนเป็ นภาษาไทย และอยา่ งนอ้ ยตอ้ งประกอบดว้ ยขอ้ กาหนดในเรื่องดงั ต่อไปน้ี1. ร ระ รร ะ ร2. ความรู้ความสามารถและมาตรฐานในการปฏิบตั ิงาน3. ร ร บริการและการรักษาความลบั4. ความรับผดิ ชอบต่อผถู้ ือหุน้ ผเู้ ป็ นหุน้ ส่วน บุคคลหรือนิติบุคคลท่ีผปู้ ระกอบวชิ าชีพบญั ชีปฏิบตั ิหนา้ ท่ีได้
พระราชบญั ญัติการบัญชี พ.ศ. 2543 โดยท่ีเป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายวา่ ดว้ ยการบญั ชี พระราชบญั ญตั ิน้ีมีบทบญั ญตั ิบางประการเก่ียวกบั การจากดั สิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซ่ึงมาตรา 29 ประกอบกบั มาตรา 35 มาตรา 48 และมาตรา 50 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย บญั ญตั ิใหก้ ระทาไดโ้ ดยอาศยั อานาจตามบทบญั ญตั ิแห่งกฎหมาย ในท่ีน้ีจะกล่าวถึงเฉพาะบางมาตราเท่าน้นั มาตรา 4 ในพระราชบญั ญตั ิน้ี “งบการเงิน” หมายความวา่ รายงานผลการดาเนินงาน ฐานะการเงินหรือการเปลี่ยนแปลงฐานะการเงินของกิจการ ไมว่ า่ จะรายงานโดยงบแสดงฐานะการเงิน งบกาไรขาดทุน งบกาไรสะสม งบกระแสเงินสด งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของผถู้ ือหุน้ งบประกอบหรือหมายเหตุประกอบงบการเงิน หรือคาอธิบายอ่ืนซ่ึงระบุไวว้ า่ เป็ นส่วนหน่ึงของงบการเงิน “มาตรฐานการบญั ชี” หมายความวา่ หลกั การบญั ชีและวิธีปฏิบตั ิทางการบญั ชีท่ีรับรองทว่ั ไปหรือมาตรฐานการบญั ชีท่ีกาหนดตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการน้นั “ผมู้ ีหนา้ ท่ีจดั ทาบญั ชี” หมายความวา่ ผมู้ ีหนา้ ที่จดั ใหม้ ีการทาบญั ชีตามพระราชบญั ญตั ิน้ี “ผทู้ าบญั ชี” หมายความวา่ ผรู้ ับผดิ ชอบในการทาบญั ชีของผมู้ ีหนา้ ท่ีจดั ทาบญั ชีไมว่ า่ จะได้กระทาในฐานะเป็นลูกจา้ งของผมู้ ีหนา้ ที่จดั ทาบญั ชีหรือไมก่ ต็ าม “สารวตั รใหญบ่ ญั ชี” หมายความวา่ อธิบดี และใหห้ มายความถึงผซู้ ่ึงอธิบดีมอบหมายดว้ ย “สารวตั รบญั ชี” หมายความวา่ ผซู้ ่ึงอธิบดีแตง่ ต้งั ใหเ้ ป็ นสารวตั รบญั ชีประจาสานกั งานบญั ชีประจาทอ้ งท่ี “อธิบดี” หมายความวา่ อธิบดีกรมทะเบียนการคา้ “รัฐมนตรี” หมายความวา่ รัฐมนตรีผรู้ ักษาการตามพระราชบญั ญตั ิน้ี มาตรา 8 ใหห้ า้ งหุน้ ส่วนจดทะเบียน บริษทั จากดั บริษทั มหาชน จากดั ที่จดั ต้งั ข้ึนตาใหม้ ีกฎหมายไทย นิติบุคคลท่ีต้งั ข้ึนตามกฎหมายต่างประเทศที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทย กิจการร่วมคา้ตามประมวลรัษฎากร เป็นผมู้ ีหนา้ ท่ีจดั ทาบญั ชี และตอ้ งจดั ทาใหม้ ีการทาบญั ชีสาหรับการประกอบธุรกิจของตนโดยมีรายละเอียด หลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการตามท่ีบญั ญตั ิไวใ้ นพระราชบญั ญตั ิน้ี มาตรา 10 ผมู้ ีหนา้ ที่จดั ทาบญั ชีตอ้ งปิ ดบญั ชีคร้ังแรกภายในสิบสองเดือนนบั แต่วนั เริ่มทาบญั ชีที่กาหนดตามมาตรา 8 วรรคหกหรือวนั เร่ิมทาบญั ชีตามมาตร 9 แลว้ แต่กรณี และปิ ดบญั ชีทุกรอบสิบสองเดือน นบั แตว่ นั ปิ ดบญั ชีคร้ังก่อน เวน้ แต่ 1. เมื่อไดร้ ับอนุญาตจากสารวตั รใหญ่บญั ชีหรือสารวตั รบญั ชีใหเ้ ปลี่ยนรอบปี บญั ชีแลว้ อาจปิ ดบญั ชีก่อนครบรอบสิบสองเดือนได้ 2. ในกรณีมีหนา้ ท่ีจดั ทาบญั ชีตามมาตรา 8 วรรคสอง ใหป้ ิ ดบญั ชีพร้อมกบั สานกั งานใหญ่
มาตรา 11 ผมู้ ีหนา้ ที่จดั ทาบญั ชีซ่ึงเป็นหา้ งหุน้ ส่วนจดทะเบียนที่จดั ต้งั ข้ึนตามกฎหมายไทย นิติบุคคลท่ีต้งั ข้ึนตามกฎหมายต่างประเทศ และกิจการร่วมคา้ ตามประมวลรัษฎากร ตอ้ งจดั ทางบการเงิน และยนื่ งบการเงินดงั กล่าวตอ่ สานกั งานกลางบญั ชี หรือสานกั งานบญั ชีประจาทอ้ งที่ภายในหา้ เดือนนบั แต่วนั ปิ ดบญั ชีตามมาตรา 10 สาหรับกรณีของบริษทั จากดั หรือบริษทั มหาชนจากดัท่ีจดั ต้งั ตามกฎหมายไทย ใหย้ น่ื ภายในหน่ึงเดือนนบั แต่วนั ท่ีงบการเงินน้นั ไดร้ ับอนุมตั ิในท่ีประชุมใหญ่ท้งั น้ี เวน้ แตม่ ีเหตุจาเป็นทาใหผ้ มู้ ีหนา้ ที่จดั ทาบญั ชีไมส่ ามารถจะปฏิบตั ิตามกาหนดเวลาดงั กล่าวได้ อธิบดีอาจพิจารณาส่ังใหข้ ยายหรือเล่ือนกาหนดเวลาออกไปอีกตามความจาเป็นแก่กรณีได้ การยน่ื งบการเงินใหเ้ ป็นไปตามหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการท่ีอธิบดีกาหนด งบการเงินตอ้ งมีรายการยอ่ ตามที่อธิบดีประกาศกาหนดโดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีเวน้ แต่กรณีท่ีไดม้ ีกฎหมายเฉพาะกาหนดเพมิ่ เติมจากรายการยอ่ ของงบการเงินท่ีอธิบดีกาหนดไวแ้ ลว้ ใหใ้ ช้รายการยอ่ ตามที่กาหนดในกฎหมายเฉพาะน้นั งบการเงินตอ้ งไดร้ ับการตรวจสอบและแสดงความเห็นโดยผสู้ อบบญั ชีรับอนุญาต เวน้ แต่งบการเงินของผมู้ ีหนา้ ที่จดั ทาบญั ชี ซ่ึงเป็นหา้ งหุน้ ส่วนจดทะเบียนที่จดั ต้งั ข้ึนตามกฎหมายไทยที่มีทุนสินทรัพย์ หรือรายได้ รายการใดรายการหน่ึงหรือทุกรายการ ไมเ่ กินที่กาหนดโดยกฎกระทรวง มาตรา 12 ในการจดั ทาบญั ชีผมู้ ีหนา้ ที่จดั ทาบญั ชีตอ้ งส่งมอบเอกสารท่ีตอ้ งใชป้ ระกอบการลงบญั ชีใหแ้ ก่ผทู้ าบญั ชีใหถ้ ูกตอ้ งครบถว้ น เพอ่ื ใหบ้ ญั ชีท่ีจดั ทาข้ึนสามารถแสดงผลการดาเนินงานฐานะการเงิน หรือการเปลี่ยนแปลงฐานะการเงินท่ีเป็ นอยตู่ ามความเป็นจริงและตามมาตรฐานการบญั ชี มาตรา 13 ผมู้ ีหนา้ ที่จดั ทาบญั ชีตอ้ งเก็บรักษาบญั ชีและเอกสารที่ตอ้ งใชป้ ระกอบการลงบญั ชีไว้ ณ สถานที่ทาการ หรือสถานท่ีที่ใชเ้ ป็นท่ีทาการผลิตหรือเก็บสินคา้ เป็ นประจาหรือสถานท่ีท่ีใชเ้ ป็นท่ีทางานเป็ นประจา เวน้ แต่ผมู้ ีหนา้ ท่ีจดั ทาบญั ชีจะไดร้ ับอนุญาตจากสารวตั รใหญบ่ ญั ชีหรือสารวตั รบญั ชี ให้เกบ็ รักษาบญั ชีและเอกสารท่ีตอ้ งใชป้ ระกอบการลงบญั ชีไว้ ณ สถานที่อื่นได้ การขออนุญาตและการอนุญาตตามวรรคหน่ึงใหเ้ ป็ นไปตามหลกั เกณฑ์ และวธิ ีการที่อธิบดีกาหนด และระหวา่ งรอการอนุญาตใหผ้ มู้ ีหนา้ ท่ีจดั ทาบญั ชีเก็บรักษาบญั ชีและเอกสารท่ีตอ้ งใช้ประกอบการลงบญั ชีไวใ้ นสถานท่ีท่ียน่ื ขอน้นั ไปพลางก่อนได้ ในกรณีท่ีจดั ทาบญั ชีดว้ ยเครื่องคอมพวิ เตอร์หรือเครื่องมืออื่นใด ในสถานท่ีอ่ืนใด ในราชอาณาจกั รท่ีมิใช่สถานที่ตามวรรคหน่ึง แตม่ ีการเช่ือมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์หรือเคร่ืองมือน้นั มายงัสถานที่ตามวรรคหน่ึง กรณีดงั กล่าวน้ีใหถ้ ือวา่ ไดม้ ีการเก็บรักษาบญั ชีไว้ ณ สถานที่ตามวรรคหน่ึงแลว้ มาตรา 14 ผมู้ ีหนา้ ท่ีจดั ทาบญั ชีตอ้ งเก็บรักษาบญั ชีและเอกสารท่ีตอ้ งใชป้ ระกอบการลงบญั ชีไว้เป็นเวลาไม่นอ้ ยกวา่ หา้ ปี นบั แตว่ นั ปิ ดบญั ชีหรือจนกวา่ จะมีการส่งมอบบญั ชีและเอกสารตามมาตรา 17 เพ่ือประโยชน์ในการตรวจสอบบญั ชีของกิจการประเภทใดประเภทหน่ึง ใหอ้ ธิบดีโดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีมีอานาจกาหนดใหผ้ มู้ ีหนา้ ท่ีจดั ทาบญั ชีเก็บรักษาบญั ชีและเอกสารที่ตอ้ งใช้ประกอบการลงบญั ชีไวเ้ กินหา้ ปี แตต่ อ้ งไม่เกินเจด็ ปี ได้
มาตรา 17 เม่ือผมู้ ีหนา้ ท่ีจดั ทาบญั ชีเลิกประกอบธุรกิจดว้ ยเหตุใดๆ โดยมิไดม้ ีการชาระบญั ชี ให้ส่งมอบบญั ชีและเอกสารท่ีตอ้ งใชป้ ระกอบการลงบญั ชีแก่สารวตั รใหญ่บญั ชี หรือสารวตั รบญั ชีภายในเกา้สิบวนั นบั แต่วนั เลิกประกอบธุรกิจ และใหส้ ารวตั รใหญบ่ ญั ชีหรือสารวตั รบญั ชีเกบ็ รักษาบญั ชีและเอกสารท่ีตอ้ งใชป้ ระกอบการลงบญั ชีดงั กล่าวไวไ้ มน่ อ้ ยกวา่ หา้ ปี มาตรา 19 ผมู้ ีหนา้ ท่ีจดั ทาบญั ชีตอ้ งจดั ใหม้ ีผทู้ าบญั ชีซ่ึงเป็นผมู้ ีคุณสมบตั ิตามที่อธิบดีกาหนดตามมาตรา 7(6) เพ่อื จดั ทาบญั ชีตามพระราชบญั ญตั ิน้ี และมีหนา้ ที่ควบคุมดูแลผทู้ าบญั ชีใหจ้ ดั ทาบญั ชีตรงตอ่ ความเป็นจริงและถูกตอ้ งตามพระราชบญั ญตั ิน้ี ผมู้ ีหนา้ ที่จดั ทาบญั ชีซ่ึงเป็นบุคคลธรรมดาจะเป็นผทู้ าบญั ชีสาหรับกิจการของตนเองกไ็ ด้ มาตรา 20 ผทู้ าบญั ชีตอ้ งจดั ทาบญั ชีเพื่อใหม้ ีการแสดงผลการดาเนินงาน ฐานะการเงินหรือการเปล่ียนแปลงฐานะการเงินของผมู้ ีหนา้ ที่จดั ทาบญั ชีท่ีเป็ นอยตู่ ามความเป็นจริงและตามมาตรฐานการบญั ชีโดยมีเอกสารท่ีตอ้ งใชป้ ระกอบการลงบญั ชีใหถ้ ูกตอ้ งครบถว้ น มาตรา 21 ในการลงรายการในบญั ชี ผทู้ าบญั ชีตอ้ งปฏิบตั ิดงั ต่อไปน้ี 1. ลงรายการเป็นภาษาไทย หากลงรายการเป็นภาษาตา่ งประเทศใหม้ ีภาษาไทยกากบั หรือลงรายการเป็นรหสั บญั ชีใหม้ ีคู่มือคาแปลรหสั ท่ีเป็ นภาษาไทยไว้ 2. เขียนดว้ ยหมึก ดีดพมิ พ์ ตีพิมพ์ หรือทาดว้ ยวธิ ีอื่นใดท่ีไดผ้ ลในทานองเดียวกนั มาตรา 45 ใหผ้ ทู้ ี่มีหนา้ ที่จดั ทาบญั ชีจดั ใหม้ ีผูท้ าบญั ชีใหถ้ ูกตอ้ งตามมาตรา 19 ภายในหน่ึงปี นบัแต่วนั ท่ีพระราชบญั ญตั ิน้ีมีผลใชบ้ งั คบัพระราชบญั ญตั กิ ารบัญชี พ.ศ. 2547 เหตุผลในการประกาศใชพ้ ระราชบญั ญตั ิฉบบั น้ี คือ เน่ืองจากในปัจจุบนั น้ีการประกอบวชิ าชีพบญั ชีไดข้ ยายครอบคลุมออกไปหลายดา้ นไมว่ า่ การทาบญั ชี การสอบบญั ชี การบญั ชีบริหาร กางวางระบบบญั ชี การบญั ชีภาษีอากร การศึกษาและเทคโนโลยกี ารบญั ชี หรือบริการดา้ นอื่น ซ่ึงมีความเกี่ยวขอ้ งสัมพนั ธ์กบั กิจกรรมในทางธุรกิจตา่ ง ๆ อยา่ งกวา้ งขวาง สมควรส่งเสริมใหผ้ ปู้ ระกอบวชิ าชีพบญั ชีอยภู่ ายใต้การดูแลของสภาวชิ าชีพเดียวกนั เพื่อเป็ นศูนยร์ วมและส่งเสริมความเป็นปึ กแผน่ รวมท้งั ใหค้ วามรู้และพฒั นาส่งเสริมมาตรฐานการประกอบวชิ าชีพ เพ่ือใหผ้ ปู้ ระกอบวชิ าชีพมีคุณภาพและมาตรฐาน และมีความกา้ วหนา้ ในวชิ าชีพ ตลอดจนเพอ่ื ใหม้ ีการควบคุมจรรยาบรรณการประกอบวชิ าชีพ จึงจาเป็นตอ้ งตราพระราชบญั ญตั ิน้ี ในที่น้ีจะกล่าวถึงมาตราบางมาตราเทา่ น้นั มาตรา 4 ในพระราชบญั ญตั ิน้ี “วชิ าชีพบญั ชี” หมายความวา่ วชิ าชีพในดา้ นการทาบญั ชี ดา้ นการสอบบญั ชี ดา้ นการบญั ชีบริหาร ดา้ นการวางระบบบญั ชี ดา้ นการบญั ชีภาษีอากร ดา้ นการศึกษาและเทคโนโลยกี ารบญั ชี และบริการเกี่ยวกบั การบญั ชีดา้ นอื่นตามท่ีกาหนดโดยกฎกระทรวง
“ผทู้ าบญั ชี” หมายความวา่ ผทู้ าบญั ชีตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการบญั ชี มาตรา 6 ใหม้ ีสภาวชิ าชีพบญั ชี มีฐานะเป็ นนิติบุคคล โดยมีวตั ถุประสงคเ์ พื่อส่งเสริมและพฒั นาวชิ าชีพบญั ชี มาตรา 7 สภาวชิ าชีพบญั ชีมีอานาจหนา้ ท่ี ดงั ตอ่ ไปน้ี (1) ส่งเสริมการศึกษา การอบรม และการวจิ ยั เก่ียวกบั วชิ าชีพบญั ชี (2) ส่งเสริมความสามคั คีและผดุงเกียรติของสมาชิก จดั สวสั ดิการและการสงเคราะห์ระหวา่ งสมาชิก (3) กาหนดมาตรฐานการบญั ชี มาตรฐานการสอบบญั ชี และมาตรฐานอื่นท่ีเก่ียวกบั วชิ าชีพบญั ชี (4) กาหนดจรรยาบรรณผปู้ ระกอบวชิ าชีพบญั ชี (5) รับข้ึนทะเบียนการประกอบวชิ าชีพบญั ชี ออกใบอนุญาต พกั ใช้ หรือเพกิ ถอนใบอนุญาตผู้ประกอบวชิ าชีพบญั ชี (6) รับรองปริญญาหรือประกาศนียบตั รในวชิ าการบญั ชีของสถาบนั การศึกษาตา่ ง ๆ เพ่ือประโยชนใ์ นการรับสมคั รเป็ นสมาชิก (7) รับรองความรู้ความชานาญในการประกอบวชิ าชีพบญั ชี (8) รับรองหลกั สูตรการฝึกอบรมเป็นผชู้ านาญการและการศึกษาตอ่ เนื่องในดา้ นต่าง ๆของผู้ประกอบวชิ าชีพบญั ชี (9) ควบคุมความประพฤติและการดาเนินงานของสมาชิกและผขู้ ้ึนทะเบียนอนั เก่ียวกบั การประกอบวชิ าชีพบญั ชีใหถ้ ูกตอ้ งตามจรรยาบรรณแห่งวชิ าชีพบญั ชี (10) ช่วยเหลือ แนะนา เผยแพร่ และใหบ้ ริการวชิ าการแก่ประชาชนเกี่ยวกบั วชิ าชีพบญั ชี (11) ออกขอ้ บงั คบั สภาวชิ าชีพบญั ชี (12) เป็นตวั แทนของผปู้ ระกอบวชิ าชีพบญั ชี (13) ใหค้ าปรึกษาและเสนอแนะต่อรัฐบาลเกี่ยวกบั นโยบายและปัญหาของวชิ าชีพบญั ชี (14) ดาเนินการอ่ืนเพอื่ ใหเ้ ป็ นไปตามวตั ถุประสงคแ์ ละอานาจหนา้ ที่ของสภาวชิ าชีพบญั ชีตามพระราชบญั ญตั ิน้ี มาตรา 9 ภายในบงั คบั บทบญั ญตั ิหมวด 5 การควบคุมการประกอบวชิ าชีพบญั ชีดา้ นการสอบบญั ชีและหมวด 6 การควบคุมการประกอบวชิ าชีพดา้ นการทาบญั ชี ในกรณีที่การประกอบวชิ าชีพบญั ชีดา้ นใดมีผลกระทบต่อประโยชนไ์ ดเ้ สียของประชาชน หรือเพือ่ ประโยชนท์ ี่จะใหม้ ีการคุม้ ครองประชาชนและพฒั นาหรือจดั ระเบียบการประกอบวชิ าชีพบญั ชีดา้ นใด จะตราพระราชกฤษฎีกากาหนดใหก้ ารประกอบวชิ าชีพบญั ชีดา้ นน้นั ตอ้ งไดร้ ับใบอนุญาต หรือตอ้ งข้ึนทะเบียนไวก้ บั สภาวชิ าชีพบญั ชีก็ได้ มาตรา 10 เม่ือมีพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา 9 ใชบ้ งั คบั สาหรับวชิ าชีพดา้ นใด หา้ มมิใหผ้ ใู้ ดประกอบวชิ าชีพบญั ชีดา้ นน้นั เวน้ แตไ่ ดร้ ับใบอนุญาตหรือข้ึนทะเบียนกบั สภาวชิ าชีพบญั ชี
การขอรับใบอนุญาต การอนุญาต การออกใบอนุญาต และการข้ึนทะเบียนผปู้ ระกอบวิชาชีพตามวรรคหน่ึง ใหเ้ ป็นไปตามแบบ หลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเง่ือนไขที่กาหนดในขอ้ บงั คบั สภาวชิ าชีพบญั ชี ในการข้ึนทะเบียนประกอบวชิ าชีพบญั ชี สภาวชิ าชีพบญั ชีจะกาหนดใหผ้ ขู้ ้ึนทะเบียนซ่ึงมิไดเ้ ป็นสมาชิกตอ้ งเสียค่าธรรมเนียมเป็นรายปี ก็ได้ แต่จะกาหนดคา่ ธรรมเนียมดงั กล่าวใหส้ ูงกวา่ คา่ บารุงสมาชิกและค่าธรรมเนียมใบอนุญาตที่เรียกเกบ็ จากสมาชิกสภาวชิ าชีพบญั ชีเป็นรายปี ไม่ได้ มาตรา 38 ผใู้ ดจะเป็นผสู้ อบบญั ชีรับอนุญาตตอ้ งไดร้ ับใบอนุญาตจากสภาวชิ าชีพบญั ชีการขอรับใบอนุญาต การอนุญาต และการออกใบอนุญาตเป็นผสู้ อบบญั ชีรับอนุญาตใหเ้ ป็นไปตามแบบและหลกั เกณฑท์ ี่กาหนด ในขอ้ บงั คบั สภาวชิ าชีพบญั ชี มาตรา 44 หา้ มมิใหผ้ ใู้ ดประกอบวชิ าชีพเป็นผทู้ าบญั ชี เวน้ แต่เป็ นสมาชิกสภาวชิ าชีพบญั ชี หรือข้ึนทะเบียนไวก้ บั สภาวชิ าชีพบญั ชี หลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเงื่อนไขในการข้ึนทะเบียนตามวรรคหน่ึง ใหเ้ ป็ นไปตามขอ้ บงั คบั สภาวชิ าชีพบญั ชี มาตรา 45 ผทู้ าบญั ชีท่ีจะข้ึนทะเบียนกบั สภาวชิ าชีพบญั ชีตอ้ งมีคุณสมบตั ิและไมม่ ีลกั ษณะตอ้ งหา้ ม ดงั ต่อไปน้ี (1) มีภมู ิลาเนาหรือถิ่นท่ีอยใู่ นราชอาณาจกั ร (2) มีความรู้ภาษาไทยเพียงพอท่ีจะทาบญั ชีเป็นภาษาไทยได้ (3) ไมเ่ คยตอ้ งคาพพิ ากษาถึงที่สุดใหจ้ าคุก เน่ืองจากกระทาความผดิ ตามฐานความผิดหรือกฎหมายท่ีกาหนดในมาตรา 39(3) เวน้ แต่ตอ้ งคาพพิ ากษาหรือพน้ โทษมาแลว้ ไมน่ อ้ ยกวา่ สามปี (4) มีคุณวุฒิการศึกษาตามท่ีกาหนดในขอ้ บงั คบั สภาวชิ าชีพบญั ชี (5) ไมม่ ีลกั ษณะตอ้ งหา้ มอ่ืน ตามท่ีกาหนดในขอ้ บงั คบั สภาวชิ าชีพบญั ชี8. ข้อแนะนาเบือ้ งต้นในการทาบัญชี8.1 หลกั การใชห้ น่วยเงินตราในการบญั ชี คือ หน่วยเงินตราและอานาจซ้ือ8.2 หลกั รอบเวลา แม่บทบญั ชีไดก้ ล่าวถึงการจดั ทางบการเงินที่จดั ทาข้ึนเพื่อสนองความตอ้ งการของผใู้ ชง้ บการเงินทุกประเภทเป็นส่วนใหญ่ ซ่ึงโดยปกติจดั ทาและเสนองบการเงินอยา่ งนอ้ ย ปี ละ 1 ร8.3 ตวั เลขในทางบญั ชีน้นั ส่วนใหญ่จะเป็นตวั เลขท่ีเป็ นเงินตรา ซ่ึงจะตอ้ งนาไปคานวณและเป็นหลกั ฐานในการอา้ งอิง และจะมีผลตอ่ การดาเนินงานและฐานะการเงินของกิจการ การเขียนตวั เลขตามหลกับญั ชี จะตอ้ งปฏิบตั ิดงั น้ี8.3.1 การเขียนตวั เลขใหเ้ ขียนดว้ ยตวั เลขอารบิค และจะตอ้ งเขียนใหช้ ดั เจน อา่ นง่ายสะอาด เรียบร้อย และถูกตอ้ ง8.3.2 ร พ กข้ึนไป เช่น
จานวนเงนิ จานวนเงนิ ถูกต้อง ผดิ บาท สต. บาท สต. 1,274 25 3,400 50ถูกต้อง 24,000 - 125,000 - 3,400 50 4,600 75 8.3.3 ใส่จุด ( . ) และเครื่องหมายขีด ( - ) แสดงวา่ สิ้นสุดแลว้ เช่น 3,000.- 8.3.4 เขียนจานวนเงินเป็นตวั อกั ษรกากบั ทุกคร้ังเพื่อป้ องกนั ความผดิ พลาด และการทุจริต 8.3.5 ตรงหลกั กรณีท่ีมีหลายบรรทดั 8.3.6 ถา้ เขียนตวั เลขผดิ ใหข้ ีดเส้นฆา่ ตวั เลขที่ผดิ แลว้ เขียนตวั เลขใหมท่ ่ีถูกตอ้ งไวข้ า้ งบนตวัเลขท่ีผดิ และลงชื่อยอ่ กากบั ไว้ ไม่ควรขดู ลบตวั เลขท่ีผดิ หรือเขียนตวั เลขอื่นทบั ตวั เลขท่ีผดิ เช่น ตวั เลขท่ีถูกตอ้ งคือ 3,500.- แต่เขียนเป็น 3,600.- ดงั น้นั จึงแกไ้ ขใหถ้ ูกตอ้ ง คือ 3,500.- 3,600.- 8.4 การเขียน วนั เดือน ปี ใหใ้ ชห้ ลกั เกณฑด์ งั น้ี ถา้ ขอ้ มูลอยใู่ นหนา้ เดียวกนั ใหเ้ ขียนปี พ.ศ.เพียงคร้ังเดียว การเขียนเดือนใหใ้ ชอ้ กั ษรยอ่ เช่น เดือนพฤษภาคม ใหเ้ ขียนวา่ พ.ค. ถา้ ขอ้ มลู อยใู่ นหนา้เดียวกนั ใหเ้ ขียนเพียงคร้ังเดียวเช่นกนั ส่วนวนั ท่ีใหเ้ ขียนเรียงลาดบั รายการที่เกิดข้ึน สมุดรายวนั ทวั่ ไป หนา้ 1 พ.ศ.25xx รายการ เลขที่ เดบิด เครดิตเดือน วนั ท่ี บญั ชี บาท สต. บาท สต.พ.ค. 5 เงินสด 101 3,000 - รายไดค้ ่าบริการ 401 3,000 - รับเงินค่าซ่อมโทรทศั น์8 อุปกรณ์ในการซ่อม 104 15,000 - เจา้ หน้ี-ร้านเสริมสวสั ด์ิ 201 15,000 - ซ้ืออุปกรณ์ในการซ่อมเป็ นเงินเช่ือ
บทสรุปสาระสาคญั การบญั ชี หมายถึง ศิลปะของการจดบนั ทึก การจาแนกใหเ้ ป็นหมวดหมู่ และการสรุปผลสิ่งสาคญั ในรูปตวั เงิน รายการ และเหตุการณ์ตา่ ง ๆ ซ่ึงเกี่ยวขอ้ งดา้ นการเงิน รวมท้งั การแปลความหมายของผลการปฏิบตั ิดงั กล่าว ในการจดั ทาบญั ชีควรคานึงถึงวตั ถุประสงคแ์ ละประโยชน์ของขอ้ มลู การบญั ชีเป็นหลกั เนื่องจากเป็ นส่วนท่ีช่วยใหก้ ิจการดาเนินงานไปในทิศทางท่ีถูกตอ้ ง ตามพระราชบญั ญตั ิการบญั ชีและยงั เป็นประโยชน์ตอ่ ผใู้ ชข้ อ้ มูลทางบญั ชี และสิ่งท่ีสาคญั ต่อผศู้ ึกษาวชิ าบญั ชีกค็ ือการปฏิบตั ิตนให้สม่าเสมอตอ่ การเรียน จึงจะบรรลุตามเป้ าหมายในชีวติ ที่ต้งั ใจไว้ แม่บทการบญั ชี (Accounting Framework) ไมถ่ ือเป็นมาตรฐานการบญั ชี แต่เป็นกรอบหรือแนวคิดข้นั พ้นื ฐานในการจดั ทาและนาเสนองบการเงิน ตลอดจนกาหนดและนามาตรฐานการบญั ชีมาปฏิบตั ิ และเป็นแนวทางในการปฏิบตั ิสาหรับเรื่องท่ียงั ไมม่ ีมาตรฐานการบญั ชีรองรับเพ่อื ใหผ้ ใู้ ชง้ บการเงินทุกฝ่ ายมีความเขา้ ใจและปฏิบตั ิในแนวทางเดียวกนั ศัพท์บญั ชี ศัพท์บัญชี ศัพท์ภาษาองั กฤษการบญั ชี Accountingการทาบญั ชี Bookkeepingผทู้ าบญั ชี Bookkeeperการรวบรวม Collectingการบนั ทึก Recordingการจาแนก Classifyingการสรุปขอ้ มลู Summarizingแม่บทการบญั ชี Accounting Frameworkเกณฑค์ งคา้ ง Accrual Basisการดาเนินงานต่อเน่ือง Going Concernความทนั ต่อเวลา Timelinessความสมดุลของลกั ษณะเชิงคุณภาพ Balance in qualitative characteristics
Search
Read the Text Version
- 1 - 26
Pages: