Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พระตำหนักดอยตุง

พระตำหนักดอยตุง

Published by logkonggu, 2016-02-15 04:28:16

Description: พระตำหนักดอยตุง

Keywords: none

Search

Read the Text Version

พระต าหนักดอยตุง ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 7 บ้านมูเซอลาบา ต าบลแม่ฟ้าหลวง อ าเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย บริเวณสันเขาของเทือกดอยนางนอน ระดับความสูงประมาณ 1,200 ม. เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนา ดอยตุง พระต าหนักดอยตุงเริ่มด าเนินการก่อสร้างเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2530 เมื่อสมเด็จพระศรีนครินทราบรม ราชชนนี มี พระชนมายุ 88 พรรษา โดยก่อนหน้านั้นมีพระราชกระแสว่า หลังพระชนมายุ 90 พรรษา จะไม่ เสด็จไปประทับที่ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ส านักงานราชเลขานุการในพระองค์ จึงได้เลือกดอยตุง ซึ่งมี ทิวทัศน์สวยงาม ขณะเดียว กันสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี เมื่อทรงทอดพระเนตรพื้นที่ เมื่อต้นปี พ.ศ. 2530 ก็ทรงพอพระราชหฤทัย และมีพระราชด าริจะสร้างบ้านที่ดอยตุงพร้อมกันนี้ ยังมีพระราชกระแส รับสั่งว่าจะ ปลูกป่าบนดอยสูงจึงก าเนิดเป็น โครงการพัฒนาดอยตุงขึ้น โครงการพัฒนาดอยตุงเริ่ม ด าเนินการโดยความร่วมมือจากหน่วยราชการทุกส่วน เช่น กรมป่าไม้ กรมชลประทาน หน่วยงานด้าน ปกครอง นอกจากท าการปลูกป่าฟื้นฟูสภาพพื้นที่แล้วยังมีการฝึกอาชีพ เพื่อ ยกระดับคุณภาพชีวิตของ ชาวเขาบนดอยตุง ซึ่งประกอบด้วยชาวเขาเผ่าอาข่าลาหู่ ไทยใหญ่ และจีนฮ่อ ขณะเดียว กันยังคงรักษา ขนบธรรมเนียมประเพณีของตนไว้

ภายในพระต าหนัก พระต าหนักแห่งนี้ ถือเป็นบ้านหลังแรกของสมเด็จย่า สร้างขึ้นโดยใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์โดยเน้นที่ ความ เรียบง่ายและการใช้ประโยชน์ ภายหลังการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จย่าพระต าหนักยังได้ รับการอนุ รักษไว้เป็น อย่างดีและเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าเที่ยวชม สถาปัตยกรรมของพระต าหนักเป็นการผสมผสา ระหว่างสถาปัตย กรรมแบบล้านนา กับบ้านพื้นเมืองของสวิส สร้างบนไหล่เนิน มองเห็นทิวทัศน์ได้ไกลสุด สายตา พระต าหนักมี สองชั้น และชั้นลอยชั้นบนแยกเป็นสี่ส่วน แต่เชื่อมต่อกันเป็นอาคารหลังเดียว ที่โดด เด่นสะดุดตา คือ กาแลและ ไม้แกะสลัก เป็นเชิงชาย ลาย เมฆไหล ที่อ่อนช้อยโดยรอบ ภายในต าหนักล้วน ใช้ไม้สน และไม้ลังที่ใส่สินค้า เป็นเนื้อไม้สีอ่อนที่สวยงามจุดน่าสน ใจอีกจุดคือ เพดานดาว ภายในท้องพระ โรง แกะสลักขึ้นจากไม้สนภูเขาเป็น กลุ่มดาวต่างๆ ล้อมรอบระบบสุริยะ ชมได้อย่างไม่รู้เบื่อ ส่วนบริเวณ ผนังเชิงบันได แกะสลักเป็นพยัญชนะไทย พร้อมภาพประกอบภายหลังการสวรรคตของสมเด็จย่า พระ ต าหนักยังได้รับการอนุรักษ์ ไว้เป็นอย่างดี และบางครั้งที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชกรณียกิจที่จังหวัดเชียงราย ก็จะเสด็จมาประทับ ณ พระต าหนักแห่งนี้ 1.หอพระราชประวัติ ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าสุดของพระต าหนัก สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2546 เพื่อ เทิดพระเกียรติสมเด็จย่า ภายในแบ่งเป็นห้องต่างๆ แปดห้อง ดังนี้ ห้องแรก แผ่นดินไทยฟ้ามืด กล่าวถึงการเสด็จถวายพระเพลิงพระบรมศพ เมื่อวันที่ 10 มี.ค.2539 ห้องที่ 2 ฉันจะเดินทางด้วยเรือล านี้ แสดงถึงปรัชญาในการด าเนินพระชนม์ชีพ ที่ประกอบด้วยหลักเหตุผล และการสร้างสรรค์ทางศิลปะ ห้องที่ 3 ภูมิธรรม ประมวลความสนพระทัยในหลักธรรมค าสั่งสอน

ห้องที่ 4 หนึ่งศตวรรษ เป็นการเทิดพระเกียรติสมเด็จย่า และเฉลิมฉลองในวาระ 100 ปีแห่งการพระราช สมภพ เมื่อปี พ.ศ. 2443 ทั้งนี้ ทรงพระปรีชาชาญ ในการอภิบาลพระธิดา และพระโอรสที่ต่อมาได้เถลิง ถวัลย ราชสมบัติ เป็น พระมหากษัตริย์ทั้งสองพระองค์ รวมทั้งทรงน าความรู้ใหม่ๆ มาใช้ในงานบ าบัดทุกข์ บ ารุงสุข ของพสกนิกร จนองค์การยูเนสโก ได้ประกาศพระนามในปฏิทินบุคคลส าคัญของโลก ห้องที่ 5 เวลาเป็นของมีค่า กล่าวถึงงานฝีมือต่างๆ ของพระองค์ที่ใช้พระราชทานแก่บุคคลต่างๆ ห้องที่ 6 พระมารดาแห่งการแพทย์ชนบทและการสาธารณสุขไทย ห้องที่ 7 พระผู้อภิบาล บรรยายถึงความเป็นพระผู้อภิบาลธรรมชาติ ห้องที่ 8 ดอยตุงกับการพัฒนาที่ยั่งยืน กล่าวถึงโครงการพัฒนาดอยตุงที่เป็นโครงการพัฒนาระยะยาว เน้น การ อนุรักษ์ธรรมชาติและคุณภาพชีวิตของประชาชน

2.สวนแม่ฟ้าหลวง เป็นสวนดอกไม้เมืองหนาว ในหุบเขา สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2535 เดิมมีพื้นที่ 12 ไร่ มีการปลูกดอกไม้ หมุนเวียนสลับ ให้ออกดอกไม่ซ ้ากันตลอดสามฤดู ล้อมรอบประติมากรรมชื่อ 'ความต่อเนื่อง' เป็นรูปเด็ก ยืนต่อตัวที่กลางสวน นอกจากนี้ ยังจัดแต่งสวนหินซึ่งประดับด้วยหินภูเขากลมเกลี้ยงขนาดใหญ่ สวนน ้า อุดมด้วยไม้น ้าพันธุ์ต่างๆ บัว และสวนปาล์มที่รวบ รวมปาล์มไว้มากมายในพื้นที่ 13 ไร่ สวนแม่ฟ้าหลวงจึง มีพื้นที่ทั้งสิ้น 25 ไร่ 3. อาคารพระต าหนักดอยตุง โดยลักษณะการก่อสร้าง เป็นการผสมผสานระหว่าง สถาปัตยกรรมล้านนา บ้านปีกไม้ และบ้านแบบ พื้นเมือง ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มี ๒ ชั้น และชั้นลอยที่ประทับ ชั้นบนแยกเป็น ๔ ส่วน ทว่าเชื่อมเป็น อาคารหลังเดียวกัน เสมอกับลานกว้าง ของยอดเนินเขาภายในประกอบด้วย ชั้นบนที่แยกออกเป็น ๔ ส่วน นั้น ได้แก่ ที่ประทับของ สมเด็จพระศรีนคริทราบรมราชชนนี ซึ่งประกอบด้วยห้องพระโรง และห้องเตรียม พระกระยาหาร นอกจากนี้ เป็นห้อง ท่านผู้หญิงทัศนาวลัยฯ และที่ประทับของ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้า ฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ชั้นล่าง ซึ่งสร้างให้เกาะไปตามไหล่เขา ทรงโปรดเกล้าฯ ให้เป็นที่อยู่ของข้าราชบริพาร ด้านนอกพระต าหนัก มีเชิงชายไม้แกะสลัก เป็นลายพื้นเมือง เรียกว่า “ ลาย เมฆไหล ” เหนือหลังคามี กาแลลงรักปิดทอง ๑๔ คู่ แยกเป็นลาย พรรณพฤกษาแบบล้านนา ๒ คู่ อีก ๑๒ คู่ เป็นลวดลายพฤกษา สลับกับสัตว์ทั้ง ๑๒ ราศี อันเป็นตัวแทน ของแต่ละปีในรอบนักษัตร

นอกจากนี้ ที่บานพระทวารเข้าพระต าหนัก มีลวดลายรูป พระอาทิตย์ฉายแสง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ ของพลังอัน แก่กล้า เหนือบานประตูเป็น ภาพต้นไม้ทิพย์ และหมู่วิหค ทางมุมซ้ายเป็นรูปนกเค้าแมว คอยดูแลสอดส่อง มิให้สิ่งชั่วร้ายเล็ดลอด เข้าไปในพระต าหนักได้ ที่กรอบทวารมีข้อความว่า “ สรีสวัสสดี พุทธศักราช ๒๕๓๑ ” อนึ่ง บนหลังคาพระต าหนัก มีท่อน ้าฝนท า จากเครื่องปั้นดินเผาชนิด ไม่เคลือบ รูปหัวเหรา ปลา กบ สลับ กับพญานาค ภายในพระต าหนัก ใช้ไม้สนภูเขาบุผนัง พื้นเป็นไม้สักทอง ซึ่งองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ กระทรวงเกษตร และสหกรณ์ น้อมเกลาฯ ถวาย ส าหรับผนัง ในท้องพระโรง ประดับด้วย ภาพวาดสีน ้ามัน ขนาดใหญ่ ๓ ภาพ ภาพแรกชื่อ “ ” ศิลปินคือ นายปัญญา ไชยะค า สองภาพหลังชื่อ “ ยามตะวันชิงพลบ ” และ “ ดอยตุงยามราตรีสงัด ” ฝีมือของนาย บรรณรักษ์ นาคบรรลังค์ ส่วนของเพดานท้องพระโรง ทรงโปรด เกล้าฯ ให้สมาคมดาราศาสตร์ แห่งประเทศไทย ออกแบบแกะสลัก เป็นสุริยจักรวาล ประกอบด้วย กลุ่มดาว ในระบบสุริยะเรียงราย กันไปตามองศา ของวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๔๓ อันเป็นวันพระราชสมภพ รวมทั้งรูปดาวนพเคราะห์ กลุ่มต่างๆ ซึ่งทรงเลือกมารวบรวมไว้ ด้วยพระองค์เอง ฝาผนังท้องพระโรงด้าน หนึ่ง บุด้วยผ้าปักรูปดอกไม้นานาพันธุ์ บนผ้าไหม ซึ่งชาวบ้านอ าเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ น้อมเกล้าฯ ถวาย ส่วนอีกด้านหนึ่ง แขวนผ้าปักครอสติสรูปดอกไม้ จากฝีพระหัตถ์ของพระองค์ บริเวณด้านหน้าของ พระต าหนัก ยังมีสวนดอกไม้ประดับนานาพันธุ์ เรียกว่า “ สวนแม่ฟ้าหลวง ” มีเนื้อที่ประมาณ ๑๐ ไร่ ออกแบบรูปทรง เป็นลายผ้าพื้นเมืองเหนือด้วยการปลูกไม้ดอกเมืองหนาว หลากหลายพันธุ์ เปิดให้ ประชาชนเข้าชม ได้โดยเก็บค่าบ ารุง

4. พระธาตุดอยตุง พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ประจ าปีกุน พระบรมธาตุดอยตุง เป็นปูชนียสถานที่ส าคัญที่สุดของเชียงราย ประดิษฐานอยู่บนยอดดอยตุง ในเขตกิ่ง อ าเภอ แม่ฟ้า หลวง มีถนนแยกจากบ้านห้วยไคร้ขึ้นไปจนถึงองค์พระบรมธาตุองค์พระธาตุบรมธาตุเจดีย์ อยู่ สูงจากระดับ น ้าทะเล ประมาณ 2000 เมตร ตามต านานมีว่า เดิมสถานที่ตั้งพระบรมธาตุดอยตุง มีชื่อว่า ดอย ดินแดง อยู่บน เขาสามเส้น ของพวกลาวจก ต่อมาสมัยพระเจ้าอุชุตะราช รัชกาลที่ 3 แห่งราชวงศ์สิงหนวัต ผู้ ครองนครโยนก นาคนคร เมื่อปี พ.ศ. 1452 พระมหากัสสป ได้น าพระบรมสารีริกธาตุในส่วนของพระราก ขวัญเบื้องซ้าย (ไหปลาร้า) ของพระพุทธเจ้ามาถวายซึ่งตรงตามค าท านายของพระพุทธองค์ว่าที่ดอยดินแดง แห่งนี้ ต่อไปจะเป็นที่ประดิษฐาน พระมหาสถูปบรรจุ ุุพระบรมสารีริกธาตุ ในภายภาคหน้าพระเจ้าอุชุตะ ราช มีพระราชศรัทธา ได้เรียกหัวหน้าลาวจก มาเฝ้าพระราชทานทองค าจ านวนแสนกษาปณ์ ให้เป็นค่าที่ดิน บริเวณดอยดินแดงแก่พวกลาวจก แล้วทรงสร้าง พระสถูปขึ้น โดยน าธง ตะขาบยาว 3000 วา ไปปักไว้บน ดอยมื่อหางธงปลิวไปไกลเพียงใด้ ให้ก าหนดเป็นฐาน พระสถูปเพียงนั้นดอย ดินแดงจึงได้ชื่อใหม่ว่า ดอยตุง (ค าว่า ตุง แปลว่า ธง) เมื่อสร้างพระสถูปเสร็จก็ได้น า พระบรมสารีริกธาตุดังกล่าวบรรจุบรรจุไว้ให้คน สักการบูชา ต่อมาสมัยพระเจ้าเม็งรายมหาราช แห่งราชวงศ์ลาวจก พระมหาวชิระโพธิเถระได้น าพระบรม สารีริกธาตุมาถวาย จ านวนองค์ พระเจ้าเม็งรายจึงโปรดเกล้า ฯ ให้สร้างพระ สถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ขึ้นอีกองค์หนึ่ง เหมือนกับพระสถูปองค์เดิมทุกประการ ตั้งคู่กัน ดังปรากฏอยู่จน ถึงทุกวันนี้ ชาวเชียงรายมี ประเพณีการเดิน ขึ้นดอยบูชาพระธาตุ ซึ่งจัดเป็นประจ าทุกปี สิ่งที่น่าสนใจ : พระธาตุดอยตุง เป็นเจดีย์สีทอง ขนาดเล็กสององค์ สูงประมาณ 5 ม. บนฐานสี่เหลี่ยมย่อมุม มีซุ้มจระน าสี่ทิศ องค์ระฆังและปลียอดมีขนาด เล็ก พระธาตุดอยตุง อยู่บนดอยสูงแวดล้อมด้วยป่ารกครึ้ม เรียกว่า สวนเทพารักษ์ เชื่อกันว่า เป็นที่สถิตของ เทพารักษ์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รอยปักตุง เป็นรอยแยกบนพื้น ยาวประมาณ 1 ฟุต อยู่ด้านหน้าพระธาตุ เชื่อกันว่า เป็นรอยแยกที่ใช้ปักฐานตุง บูชาพระธาตุ เมื่อ 1,000 ปีก่อน

การเข้าชมพระต าหนักดอยตุง สามารถสอบถามรายละเอียดๆได้ที่ โทร.053-767-015-7 ,053-767-001 และ เว็บไซต์ http://www.doitung.org เวลาเปิดเข้าชม พระต าหนักดอยตุง(เปิด 07.00-17.30) สวนแม่ฟ้าหลวง(เปิด07.00-18.00 น.) หอแห่งแรงบันดาลใจ(เปิด 08.00-17.00) สวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวง(เปิด06.30-18.00 น.) ค่าธรรมเนียมเข้าชมพระต าหนัก 90 บาท ชมสวนแม่ฟ้าหลวง 90 บาท หอแห่งแรงบันดาลใจ 90 บาท สวน รุกขชาติแม่ฟ้าหลวง(สวนกุหลาบพันปี) 90 บาท บัตรรวมเข้าชม ทั้งสี่ที่ 220 บาท มีร้านอาหารของครัวต าหนัก(เปิด 07.00-20.00 น.) ครัวดอยตุง(เปิด07.00-14.00 น.) ของโครงการฯ ร้าน กาแฟดอยตุง ร้านจ าหน่ายของที่ระลึก กาดดอยตุง (จ าหน่ายของฝากจากชาวบ้านดอยตุง) และโรงแรมที่พักดอยตุงลอด์จ 1. รถยนต์ส่วนตัว ใช้ทางขึ้นดอยตุงสายใหม่ ผ่านบ้านไทยใหญ่ร่มไทร กม.2 ผ่านจุดชมวิว กม.12 จากนั้นเลี้ยวซ้ายระหว่าง หลัก กม.12 และ 13 ไปอีก 2 กม. จะถึงพระต าหนัก ระยะทาง 15 กม. หรือใช้ทางขึ้นสายเก่า โดยขับเลยแยก บ้านสันกองราว 1 กม. เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 1149 ที่บ้านห้วยไคร้ ระหว่างหลัก กม.871-872 เป็นทางขึ้นดอยตุงสายเก่า เส้นทางสูงชันกว่าสายใหม่ แต่ระยะทางสั้นกว่าเล็กน้อย ถนนจะไปบรรจบกับ ทางขึ้นสายใหม่ใกล้ กม. ใช้ทางขึ้นดอยตุงสายใหม่ เมื่อผ่นทางแยกซ้ายไปพระต าหนักดอยตุง ถึงหลัก กม.14 จะมีทางแยกซ้ายถ้าขับ ตรงไปจะขึ้นตรงสู่พระธาตุดอยตุง ทางค่อนข้างแคบและชันมาก ระยะทาง 3 กม. ถ้าไปทางแยกซ้าย มือ จะ เป็น ทางอ้อม ผ่านสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าดอยตุง ทางแยกไปดอยช้างมูบ อ.แม่สาย และวัดน้อยดอยตุง ตรง หลัก กม.23 ระยะทาง 10 กม. จากวัดน้อยดอยตุง ต้องขับขึ้นดอยไปตามทางชัน แคบและคดเคี้ยว อีก 1 กม. บริเวณนี้ เรียกว่าสวนเทพารักษ์ ต้องขับด้วยความระมัดระวังเพราะอาจมีรถสวนลงมาได้

รถโดยสารประจ าทาง จาก อ. เมืองเชียงรายนั่งรถสายเชียงราย-แม่สาย ไปลงที่บ้านห้วยไคร้ เพื่อต่อรถสองแถวสีม่วงขึ้นไปดอยตุง ที่ สถานี ขนส่งท่องเที่ยวดอยตุง โทร.053-667-433 ค่าเช่าเหมา 750 บาท (ไปกลับ) นั่งได้ 12 คน หรือค่า โดยสาร คนละ 60 บาท ครบ 12 คน รถออก รถสองแถวจะพาไปยังพระธาตุดอยตุง ตลาดสินค้าพื้นเมือง ชาวเขา หน้าศูนย์ วิจัยพืชไร่ ใกล้อ่างเก็บน ้า และพระต าหนักดอยตุง ใช้เวลาเดินทางและพาเที่ยว 3 ชม. เข้า ชมพระต าหนัก 70 บาท ชมสวนแม่ฟ้าหลวง 80 บาท หอพระราชประวัติ 30 บาท บัตรรวมเข้าชมทั้งสามที่ 150 บาท


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook