Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สรุปโครงการอบรม

สรุปโครงการอบรม

Published by kiettikun31, 2019-09-01 02:31:21

Description: สรุปโครงการอบรม

Search

Read the Text Version

จดั ทำโดย ว่ำทร่ี อ้ ยตรีเกียรติคุณ แก้วสอน รหัส 61170106 เลขท่ี 10 เสนอ อำจำรย์ ดร. วลิ ำวัลย์ สมยำโรน ปริญญำกำรศกึ ษำมหำบณั ฑติ สำขำกำรบรหิ ำรกำรศกึ ษำ วทิ ยำลยั กำรศึกษำ มหำวิทยำลัยพะเยำ

วันที่ 31 สงิ หำคม 2562 ตั้งแต่เวลำ 08.00 น. – 12.00 น. ณ อำคำรเทคโนโลยีสำรสนเทศและกำรสอื่ สำร มหำวทิ ยำลัยพะเยำ

จากการเขา้ รบั การอบรม สามารถสรุปออกเปน็ 4 หวั ข้อหลัก ดงั นี้ 1. กอ่ นที่จะเริ่มเขียนบทความวิชาการ และบทความวิจัย 2. 11 ข้ันตอนทีต่ ้องทา 3. สดุ ทา้ ยต้องตรวจสอบ 4. วิธีการเลือกวารสาร 1. กอ่ นทีจ่ ะเริม่ เขียนบทความวชิ าการ และบทความวิจัย ต้องคานงึ ถึง 2 สิ่งสาคัญ ดังนี้ 1. กาหนดสมมติฐาน และวัตถุประสงค์ 2. ทบทวนวรรณกรรมทีเ่ กีย่ วข้อง (30 เรื่อง) 2. 11 ขั้นตอนทีต่ ้องทา 1. เตรยี มตัวเลข และตาราง การใส่ภาพประกอบและตารางเป็นวิธีท่มี ีประสิทธิภาพ ทีส่ ดุ ในการแสดงผลการวิจยั และมีความสาคัญมาก 2. เขียนวธิ ีการดาเนนิ การวิจยั เปน็ ส่วนของการวิธีการแกป้ ัญหา หากเปน็ การเสนอ วิธีการใหม่ทไ่ี ม่เคยมีใครทามาก่อน ต้องรวบรวมข้อมูลโดยละเอียด อธบิ ายวิธกี ารสารวจและ สถติ ทิ ีใ่ ช้ในการวิจยั 3. เขียนผลการวิจยั เขียนให้ครอบคลุมผลการวิจยั ว่าไดอ้ ะไร ระบุผลการทดสอบ ทางสถิตทิ ้ังหมดที่เราใช้ 4. เขียนคาอภปิ ราย เปน็ ส่วนที่ง่ายที่สดุ ในการเขียน แต่ยากที่จะเขียนให้ถูก และเป็น ส่วนสาคัญทีส่ ดุ ในบทความวิจยั ที่จะสามารถนางานวิจัยไปต่อยอดได้ ซง่ึ สอดคล้องกบั คาถาม หรือวัตถปุ ระสงค์ บทนา ควรหลีกเลย่ี งการเขยี นทเ่ี กินกว่าผลการวิจยั ทไ่ี ด้ 5. เขียนสรปุ ท่ชี ดั เจน โดยเขียนขอ้ เสนอแนะให้สัมพันธ์กับวตั ถปุ ระสงค์

6. การเขียนบทนา ประกอบด้วย ปัญหาทีต่ ้องการแกไ้ ขคืออะไร มีวธิ ีแกไ้ ขอะไรบ้าง อนั ไหนดีทส่ี ดุ ข้อจากัดคืออะไร หวงั จะบรรลุวตั ถุประสงคอ์ ะไร และไม่ควรมีการอา้ งองิ วารสาร ทม่ี ากเกินไป 7. การเขียนบทคดั ย่อ ใช้คาอธิบายสั้นๆ เกีย่ วกับมมุ มองและวตั ถปุ ระสงค์ของการ วิจยั ผลลพั ธ์ที่เกดิ ขึ้น มีการทาอะไรบ้าง เขียนรายละเอยี ดการดาเนนิ การวิจัยให้น้อยที่สดุ การเขียนบทคดั ย่อตอ้ งสั้นที่สดุ และให้ครอบคลมุ เนื้อหาท้ังหมด อา่ นแล้วเข้าใจง่าย โดยปกตจิ ะ ใช้คาประมาณ 200 - 250 คา 8. การเขียนชื่อเรือ่ ง ให้อธบิ ายถงึ การศึกษาเรือ่ งทีท่ าอย่างกวา้ งๆ และน่าสนใจ สะท้อนให้เหน็ เนื้อหาในงานวิจัย 9. เลือกคาสาคัญ หลีกเลีย่ งคาทม่ี ีความหมายกวา้ งเกินไป เวอร์มากไป 10. การเขียนกติ ติกรรมประกาศ ให้ขอบคุณผู้สนบั สนนุ ด้านงบประมาณ 11. เขียนอา้ งองิ อา้ งองิ เอกสารที่ใช้ทงั้ หมด ซง่ึ ส่วนนเี้ ปน็ ส่วนที่นกั วจิ ยั เกดิ ข้อผดิ พลาดมากทีส่ ดุ 3. สุดทา้ ยตอ้ งตรวจสอบ - การสะกดชือ่ ผู้แต่ง - ปีทพ่ี ิมพ์ - การใช้ “ETal” - เครื่องหมายวรรคตอน - ข้อมลู อา้ งองิ ท้ังหมด 4. วิธกี ารเลอื กวารสาร “ TCI ศนู ย์ดัชนีการอ้างอิงวารสารไทย”

ณ หอ้ ง 102 วิทยำลัยกำรศกึ ษำ มหำวทิ ยำลัยพะเยำ

สรุป Clip VDO เรื่อง ทฤษฎี ความหมาย ขอบเขต แนวคิดความสาคัญทางนวตั กรรม เทคโนโลยสี ารสนเทศเพือ่ การศกึ ษา โดย รองศาสตราจารย์ ดร.ถนอมพร เลาหจรัสแสง การพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยเฉพาะอย่างยิง่ ในด้านการศกึ ษา ทาให้ เกิดนวตั กรรมเพื่อการศกึ ษาขนึ้ อย่างมากมายท้ังในรูปแบบทเ่ี ป็นเครื่องมือ อุปกรณ์ สื่อการสอน รวมไปถึงแนวคดิ และทฤษฎตี ่างๆ ซ่งึ จากอดีตจนถึงปัจจบุ นั มกี ารนานวัตกรรมเขา้ มา ประยุกต์ใชก้ ับการเรียนการสอนอย่างต่อเนือ่ ง ส่งผลให้ผเู้ รียนเกดิ การเรียนรู้อย่างมี ประสิทธภิ าพ และยงั ทาให้การเรียนรู้บรรลตุ ามวตั ถุประสงค์ทต่ี ้ังไว้ นวัตกรรมทีถ่ ูกนามาใชเ้ พื่อการเรียนการสอน สามารถเปน็ ได้ทงั้ ในรูปแบบทเ่ี ปน็ IT และไม่ใช่ IT หลายคนอาจคดิ ว่า เมื่อพูดถงึ คาว่านวตั กรรมแล้ว จะต้องเปน็ อะไรที่เกย่ี วกบั เทคโนโลยี แตจ่ ริงๆ แล้วนวัตกรรมทีใ่ ชใ้ นการศกึ ษาอาจไม่ใช่เทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว การใช้ วิธีการสอน หรือทฤษฏีการสอนแบบใหม่ๆ เครือ่ งมือ อุปกรณ์ ทไ่ี ม่ใชเ่ ทคโนโลยี เราก็เรียกส่งิ นี้ ว่าเป็นนวตั กรรมได้เชน่ กนั นวัตกรรม หมายถึง แนวความคดิ การปฏิบตั ิหรือสิง่ ประดิษฐ์ใหม่ๆ ทีย่ งั ไม่เคยมีใช้มา กอ่ นหรือเปน็ การพฒั นา ดัดแปลงจากของเดิมทีม่ อี ยู่แลว้ ให้ทันสมัยและใชไ้ ด้ผลดียงิ่ ขนึ้ นวตั กรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศทน่ี ามาใชใ้ นการเรียนการสอน เชน่ คอมพิวเตอร์ เครือ่ ง Visualizer เครือ่ งแอลซดี ี เปน็ ต้น รวมท้ังการใช้สือ่ การสอนใหม่ เชน่ บทเรยี น courseware การเรยี นการสอนผ่านเวบ็ e-Leaning Video Streaming รวมถงึ Social media for Learning รปู แบบการสอนใหม่ๆ ที่สถานศึกษาสามารถนามาใช้ เชน่ การสอนแบบห้องเรียน กลับทาง หรือ Flipped Classroom การจดั การเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเปน็ ฐาน หรือ Activity- Based Learning รวมไปถงึ การจัดการเรียนรู้แบบใชป้ ญั หาเปน็ ฐาน หรือ Problem-Based Learning เปน็ ต้น

เทคนิคการสอน เชน่ เทคนิคการเรียนรู้กลุ่มเล็ก เทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือ เป็นต้น จากการศกึ ษาของ Everett M. Rogers เรือ่ งการเผยแพร่นวัตกรรม หรือ Diffusion of Innovation Model แสดงให้เหน็ สัดส่วนของการยอมรบั นวัตกรรมที่แตกต่างกนั ซง่ึ สามารถแบ่ง ได้ดงั นี้ 1. กลมุ่ คนแบบ Innovator หรือที่เราเรียกกันว่ากลุ่มนวัตกร กลมุ่ คนเหล่านีจ้ ะเป็นกลุ่ม แรกๆ ที่ตอ้ งการใช้หรืออยากลองนวตั กรรม แนวคิด วิธีการทีเ่ กิดขึน้ ใหม่ๆ แรงจูงใจสาคัญก็คือ การคดิ ว่าตัวเองเปน็ สว่ นหนึ่งของการเปลย่ี นแปลง คนกลุ่มน้ีจะยินดีใชน้ วัตกรรมหรือเทคโนโลยี ใหม่ โดยยอมรับกบั ปญั หาและความเสย่ี งทีจ่ ะเกิดขนึ้ ในระยะแรกๆ ในการใช้สง่ิ ใหม่ๆ เหล่านั้น เชน่ การนาสมาร์ทบอร์ด หรือ การนา MOOC มาใช้ในห้องเรียน กลมุ่ นวตั กร จะเปน็ คนกลมุ่ แรกทีส่ นใจ เข้าไปศกึ ษาเรียนรู้ และนาไปใช้ในการเรียนการสอนทนั ที 2. กลมุ่ Early Adopters คือ กลมุ่ คนท่พี ร้อมจะเปล่ยี นแปลงตนเองเมื่อเห็นคนอืน่ เริม่ ใช้ และมองเหน็ ประโยชนจ์ ากนวัตกรรมหรือเทรนด์ใหม่ๆ ทีเ่ กิดขึน้ มีความตระหนักถงึ ความ จาเป็นทจ่ี ะต้องมีการเปลี่ยนแปลง ไม่จาเป็นตอ้ งโน้มนา้ วหรือชกั จูงให้เปลย่ี นแปลง 3. กลมุ่ Early Majority คนกลมุ่ นมี้ ีความพร้อมทจ่ี ะเปลี่ยนแปลงตนเอง และมองเห็น ประโยชนจ์ ากนวัตกรรมหรือเทรนด์ใหม่ๆ ทีเ่ กดิ ขึ้น แต่จะระมัดระวงั และใช้เหตุผลในการ ตัดสินใจพอสมควร เพราะต้องการความม่ันใจว่าเทคโนโลยีน้ีจะประสบความสาเร็จ โดยอาจจะ ดจู ากกลุ่มคนท่ใี ชเ้ ทคโนโลยนี แี้ รกๆ ว่าใช้ไดผ้ ล มีประโยชน์ จึงจะค่อยๆ เปลี่ยนแปลงตนเอง 4. กลมุ่ Late Majority คือ คนกลมุ่ นจี้ ะเป็นกลมุ่ คนท่จี ะเปลี่ยนแปลงตนเองช้าท่สี ดุ หรืออาจจะเรียกวา่ เปลีย่ นแปลงตนเองในนาทีสดุ ทา้ ย ถา้ ไม่โดนสง่ั หรือบังคับ กจ็ ะไม่ยอม เปล่ยี นแปลง 5. กลมุ่ Laggards คือกลมุ่ ที่ลา้ หลัง ซง่ึ มักเปน็ กลมุ่ ผู้มีอายุ ท่เี คยใช้เทคโนโลยีเดมิ ๆ จนเคยชนิ ไม่อยากเปลีย่ นแปลง เนื่องจากไม่ตอ้ งการเรียนรู้ใหม่ มกั พอใจกบั สิ่งทต่ี วั เองมีอยู่แล้ว และไม่เชือ่ ในเรื่องเทคโนโลยีใหม่ๆ แถมบางทีอาจจะต่อตา้ นการเปลี่ยนแปลงเสียด้วยซา้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook