พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาประชาธปิ ก พระปกเกลา้ เจา้ อย่หู วั
พระราชประวตั ิ
พระราชประวตั ิ พระบาทสมเดจ็ พระปกเกล้าเจ้าอยหู่ ัว เปน็ พระราชโอรสพระองค์เล็กในพระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกลา้ เจ้าอยู่หัวทีป่ ระสตู ิแต่สมเด็จพระศรพี ชั รินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พระพันปีหลวง ทรงพระ ราชสมภพเมอื่ วันพุธ แรม ๑๔ ค่า เดอื น ๑๑ ปีมะเส็ง ตรงกบั วนั ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2436 ณ พระที่น่งั สุทธาศรภี ริ มย์ พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยหู่ วั พระราชทานพระนามเม่ือการสมโภช เดอื นวา่ \"สมเด็จพระเจ้าลกู ยาเธอ เจา้ ฟา้ ประชาธิปกศักดิเดชน์ ชเนศรมหาราชาธิราช จุฬาลงกรณนา รถวโรรส อุดมยศอุกฤษฐศักด์ิ อุภัยปกั ษนาวิล อสัมภินชาติพสิ ทุ ธ์ มหามงกฎุ ราชพงษบรพิ รรต บรมขัต ติยมหารชดาภิสญิ จนพรรโษทัย มงคลสมัยสมากร สถาวรวรัจฉรยิ คณุ อดุลยราชกุมาร\"[2] พระนาม ทัว่ ไปเรียกวา่ \"ทลู กระหมอ่ มเอียดน้อย
พระราชกรณยี กจิ ที่สา่ คญั
พระราชกรณยี กิจ ทรงส่งเสรมิ การศกึ ษาของชาตทิ ั้งส่วนรวมและส่วนพระองค์ โปรดให้สร้างหอพระสมดุ ส่าหรบั พระนคร เพ่อื เปดิ โอกาสให้ ประชาชนเข้าศกึ ษาได้อยา่ งเสรี ทรงต้งั ราชบณั ฑิตยสภา เพ่ือมีหน้าที่บริหารและเผยแพรว่ ิชาการดา้ นวรรณคดี โบราณคดี และศลิ ปกรรม ในดา้ นวรรณกรรม โปรด ตราพระราชบญั ญตั ิค้มุ ครองวรรณกรรมและศลิ ปกรรมใน พ.ศ. 2475 พระราชทาน เงนิ สว่ นพระองค์ เป็นรางวัลแก่ผู้แต่งหนงั สือยอดเยยี่ ม และใหท้ นุ นกั เรยี นไปศกึ ษาวชิ าวิทยาศาสตร์จากตา่ งประเทศ ทรง ปลูกฝงั เยาวชนให้มคี ณุ ธรรมดงี าม โดยยึดหลักค่าสอนของพระพทุ ธศาสนา โปรดใหร้ าชบณั ฑิตยสรา้ งหนังสือสอน พระพุทธศาสนาสา่ หรับเดก็ เปน็ พระมหากษัตรยิ ์พระองค์แรกทท่ี รงสร้างหนงั สือส่าหรับเดก็ ส่วนการศกึ ษาในพระพุทธศาสนา นั้น โปรดให้สร้างหนังสอื พระไตรปฎิ ก เรียกวา่ ฉบับสยามรัฐ โดยหนึ่งชดุ มีจา่ นวน 45 เล่ม
พระราชกรณยี กจิ ในดา้ นศิลปวัฒนธรรมของชาตนิ นั้ พระองคท์ รงสถาปนาราชบณั ฑิตยส์ ภาขนึ้ (เดิมคือ กรรมการหอพระสมุดส่าหรบั พระนคร) เพ่อื จดั การหอพระสมุดสา่ หรับพระนครและสอบสวนพจิ ารณาวิชาอกั ษรศาสตร์ เพอ่ื จดั การพพิ ิธภัณฑสถาน ตรวจรกั ษาโบราณสถานและโบราณวัตถุ และเพ่ือจดั การบ่ารงุ รกั ษาวชิ าช่าง ผลงานของราชบณั ฑติ สภาเป็นผลดีตอ่ การ อนรุ กั ษแ์ ละสง่ เสริมศลิ ปวัฒนธรรมของชาติเป็นอยา่ งมาก ทรงอนุรกั ษ์ดนตรีไทยไวด้ ว้ ยพระองค์เอง ทัง้ นี้เพราะได้ทรงสนพระราชหฤทัยในวิชาดนตรไี ทย ทรงพระกรณุ าโปรดเกล้า ฯ ให้หลวงประดิษฐไ์ พเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) เข้าถวายการฝึกสอนจนสามารถ พระราชนพิ นธท์ า่ นองเพลงไทยได้ ถึง 3 เพลง คือ เพลงราตรีประดับดาวเถา เพลงเขมรลออองคเ์ ถา และเพลงโหมโรงคลนื่ กระทบฝง่ั
พระราชกรณยี กิจ ดา้ นทางวฒั นธรรมและสถาปัตยกรรม ทรงสละทรพั ยส์ ว่ นพระองค์ปฏสิ งั ขรณ์วัดสวุ รรณดาราราม จังหวดั พระนครศรีอยุธยา โปรดฯใหเ้ ขยี นภาพพงศาวดาร สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราชไวท้ ผี่ นังพระวิหาร ทรงพยายามสรา้ งคา่ นยิ มใหม้ สี ามีภรรยาเพยี งคนเดียว โปรดใหต้ ราพระราชบญั ญตั ิแกไ้ ขเพม่ิ เตมิ กฎหมายลักษณะผัวเมยี พ.ศ. 2473 ริเริม่ ให้มกี ารจดทะเบยี นสมรส ทะเบยี นหย่า ทะเบยี นรบั รองบตุ ร อันเป็นการปลูกฝงั ค่านิยมแบบใหม่ทีละนอ้ ย ตามความสมัครใจ นอกจากนย้ี ังทรงปฏบิ ตั ิตนเปน็ แบบอย่างโดยทรงมแี ตพ่ ระบรมราชนิ เี พยี งพระองคเ์ ดยี ว
แบบอยา่ งความดที ี่นา่ มาประยกุ ตใ์ ช้
ด้านการศกึ ษาหาความรู้ คอื ท่านทรงสง่ เสริมดา้ นการศึกษาโดยการสร้างหอสมดุ เพี่อใหป้ ระชาชนเขา้ ศึกษาหาความรู้ การนา่ ไปปรับใชใ้ นชวี ตปิ ระจา่ วนั 1. ศึกหาความรู้ไดต้ ลอดเวลา 2. ตงั้ ใจในการศกึ
ดา้ นการศลิ ปวฒั นธรรม คือ ท่านทรงอนรุ กั ษ์ดนตรไี ทยไวด้ ว้ ยพระองค์เอง และทรงบ่ารุงรกั ษาวชิ างานชา่ งไว้ การนา่ ไปปรับใชใ้ นชวี ตปิ ระจา่ วัน 1. เลน่ เครือ่ งดนตรไี ทย 2. ศกึ ษาและเลา่ เรยี นงานชา่ ง
ด้านทางวฒั นธรรมและสถาปตั ยกรรม คือ ทา่ นทรงเสียสละทรัพยส์ ่วนพระองคป์ ฏิสงั ขรณว์ ัดสุวรรณดาราราม ใหเ้ ขียนภาพพงศาวดาร สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราชไวท้ ผ่ี นังพระวหิ าร รเิ ร่มิ ใหม้ กี ารจดทะเบยี นสมรส ทะเบยี นหย่า ทะเบียนรับรองบตุ ร อนั เปน็ การปลกู ฝังค่านยิ มแบบใหมท่ ลี ะนอ้ ยตามความสมคั รใจ การนา่ ไปปรบั ใชใ้ นชวี ตปิ ระจา่ วัน 1. ทา่ ความดใี หส้ มา่ เสมอ 2. ดแู ลและรกั ษารา่ บงุ ศาสนา
จัดทา่ โดย 1. นาย ชญานนิ คงมาก เลขท่ี 2 2. นาย ธนดล หอมกระแจะ เลขท่ี 3 3. นาย นที ลาบอนิ ทรยี ์ เลขท่ี 4 4. นาย วสันต์ ประสพจนั ทร์ เลขที่ 7 5. นาย จักรภทั ร เสนาไชย เลขที่ 10 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5/4 เสนอ คณุ ครู พกิ ลุ มีใจเจอื โรงเรยี นภาชี สุนทรวิทยานุกลู
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: