ความรู้ทางดา้ นดาราศาสตร์ เร่อื งระบบสรุ ิยะ ระบบสรุ ิยะ ระบบสุรยิ ะ คือระบบดาวทม่ี ีดาวฤกษเ์ ป็นศนู ยก์ ลาง และมีดาวเคราะห์ (Planet) เปน็ บรวิ ารโคจรอยู่ โดยรอบ ระบบสุริยะประกอบด้วยดวงอาทิตย์และวัตถุอนื่ ๆ ทีโ่ คจรรอบดวงอาทิตย์เน่ืองจากแรงโนม้ ถว่ ง ไดแ้ ก่ ดาวเคราะห์ 8 ดวงกับดวงจนั ทร์บริวาร ดาวเคราะห์แคระ กับวัตถขุ นาดเล็กอื่น ๆ อกี นับล้านช้ิน ซงึ่ รวมถงึ ดาวเคราะห์น้อย วัตถุในแถบไคเปอร์ ดาวหาง สะเก็ดดาว และฝุ่นระหว่างดาวเคราะห์ องคป์ ระกอบของระบบสรุ ยิ ะ ดวงอาทิตย์ (The Sun) ดวงอาทติ ยเ์ ปน็ ดาวฤกษร์ ะดับกลางๆ ซ่งึ เราไม่อาจมีชีวิตอย่ไู ด้หากขาดพลังงานจาก ดวงอาทิตย์ไป ดวงอาทิตย์ประกอบดว้ ยสสารเปน็ มวลกวา่ 99.8%ของมวลระบบสรุ ิยะ ซึ่งมวลระบบ สุรยิ ะท่ีเหลอื ส่วนใหญ่อยู่กบั ดาวพฤหัสบดี ดวงอาทิตย์มีองคป์ ระกอบหลักเป็นไฮโดรเจน (75%) และ ฮเี ลียม (24%) นอกจากน้นั ยังมอี อกซเิ จน คาร์บอน นีออนและเหลก็ ดวงอาทิตย์กาเนดิ จากเมฆฝนุ่ แก๊สขนาดใหญ่ ซ่ึงยบุ ตวั ลงภายใตค้ วามโน้มถว่ งของตวั เอง ระหว่างท่เี มฆฝุ่นแกส๊ ยุบตวั ลงก็เกดิ ความรอ้ นและความดันมหาศาล และเมื่ออณุ หภูมิทีใ่ จกลางดวง อาทติ ย์เพิ่มขนึ้ จนถึง 1 ล้านองศาเซลเซยี ส จะเร่ิมเกิดการจุดปฏกิ ริ ยิ านิวเคลียรฟ์ วิ ชนั ซึง่ ทาใหด้ วง อาทติ ย์ผลิตแสง ความร้อน และพลังงานได้ดว้ ยตวั มันเอง โดยพลังงานจากใจกลางดวงอาทิตยใ์ ช้เวลา ประมาณ 50 ลา้ นปใี นการเดินทางจากใจกลางถึงพนื้ ผิวดวงอาทิตย์ และใชเ้ วลาอีกราว 8 นาทีกว่า แสงจากดวงอาทิตย์จะเดินทางมาถงึ โลก นักดาราศาสตร์ได้คานวณไว้ว่าดวงอาทติ ย์มีอายุประมาณ 4,500 ลา้ นปี และจะยังคงแผ่พลังงานเช่นนีต้ อ่ ไปอีก 5,000 ล้านปี ก่อนทเ่ี ช้อื เพลงิ จะหมดลงและ เผชิญกับการหมดอายขุ ยั อยา่ งสงบ ดวงอาทติ ยเ์ ป็นสถานที่ที่คกุ รุน่ มาก อย่างท่ีคุณเหน็ ในอนเิ มชนั จาก ยาน SOHO และเห็นได้ถงึ ความเปลยี่ นแปลงท่เี กิดข้ึนบนดวงอาทติ ย์ในแตล่ ะวันแตล่ ะปี กิจกรรม ต่างๆบนดวงอาทติ ยน์ เี้ ป็นผลมาจากการโคง้ งอและบิดตัวของเสน้ แรงแม่เหลก็ ในชัน้ บรรยากาศดวง อาทิตย์ ซงึ่ สง่ ผลให้เกิดจดุ บนดวงอาทิตย์ (Sunspots) และเปลวสรุ ยิ ะ (Solar flares)
ดาวเคราะห์ (Planets) คือบริวารขนาดใหญ่ของดวงอาทิตย์ 8 ดวง เรียงลาดับจากใกล้ไปไกล ได้แก่ ดาวพธุ ดาวศกุ ร์ โลก ดาวองั คาร ดาวพฤหสั บดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส และดาวเนปจนู ดาวเคราะหท์ ้ังแปดโคจรรอบดวงอาทิตย์ โดยมรี ะนาบใกลเ้ คียงกบั ระนาบสุรยิ ะวถิ ี ดาวเคราะห์ชน้ั ใน 4 ดวงแรก มีองค์ประกอบหลักเป็นของแข็ง ดาวเคราะห์ชน้ั นอก 4 ดวงหลังมีองคป์ ระกอบหลักเป็นแกส๊ ไฮโดรเจนเชน่ เดยี วกับดวงอาทิตย์ ดาวเคราะห์เกือบทกุ ดวงหมนุ รอบตวั เองและโคจรรอบดวงอาทิตย์ในทิศทางเดยี วกัน 1.ดาวพธุ (Mercury) ดาวพธุ ถูกแทนดว้ ยเทพนามวา่ เมอร์คิวรี่ ซ่ึงเป็นเทพแห่งการ ส่ือสาร เนื่องจากปรากฏใหเ้ ห็น ในช่วงเวลาดวงอาทิตยข์ ้ึนและ หลงั ดวงอาทิตยต์ ก เพยี งชวั่ ครู่ เท่าน้นั ดาวพธุ เปน็ ดาวเคราะห์ทอี่ ยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากท่ีสุด ไม่มีดาวบรวิ าร และเป็นดาวเคราะห์ ทเ่ี ลก็ ที่สดุ ในระบบสุริยะ และดว้ ยความที่เป็นดาวทม่ี ีขนาดเลก็ (เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 4,878 กโิ ลเมตร) จึงทาให้มันไม่สามารถสร้างสนามโนม้ ถ่วงทม่ี ีพลงั มากพอท่ีจะดึงดูดและกักเกบ็ บรรยากาศจงึ ไม่มีบรรยากาศ ทาใหว้ ัตถอุ วกาศพงุ่ ชนได้งา่ ย พน้ื ผิวดาวจงึ ขรขุ ระจากการพุง่ ชนเหลา่ น้ัน ดาวพุธใชเ้ วลาโคจรรอบดวงอาทติ ย์รอบละ 88 วัน แต่กลับหมุนรอบตวั เอง 1 รอบ ใช้เวลาถึง 180 วัน นนั่ หมายความวา่ ดา้ นท่ีดาวพธุ หนั เขา้ หาดวงอาทิตย์ยาวนาน ประกอบกับไมม่ ีช้นั บรรยากาศ จงึ ทาให้ พน้ื ผวิ ดาวร้อนมาก สว่ นด้านที่หนั ทศิ ตรงขา้ มดวงอาทติ ย์ กเ็ ยน็ มากเชน่ กนั ดาวพธุ จึงได้รับฉายาว่า เตาไฟแช่ แขง็ ทั้งน้ี ดาวพุธมักปรากฏใกล้ หรอื อยู่ภายใต้แสงจา้ ของดวงอาทติ ย์ ทาใหส้ งั เกตเห็นไดย้ าก แต่ก็พอมองเห็น ไดด้ ว้ ยตาเปล่าในเวลาพลบค่า 2. ดาวศุกร์ (Venus) ดาวศุกร์ ถกู แทนดว้ ยเทพีนาม วา่ วนี สั หรือเทพอะโฟร์ได ซ่ึง เป็ นเทพแี ห่งงามและความรัก เน่ืองจากปรากฏเห็นสวา่ งเด่น สวยงามบนทอ้ งฟ้ ายามคื่น
ดาวศกุ ร์ เปน็ ดาวเคราะหท์ ี่อยู่ใกล้โลกมากท่สี ดุ ไม่มีดวงจันทรเ์ ป็นดาวบริวาร มีขนาดเล็กกวา่ แต่ กใ็ กล้เคยี งกับโลกมาก จนไดช้ ่ือวา่ เป็นฝาแฝดกับโลก เราสามารถสังเกตเหน็ ดาวศุกร์ได้ด้วยตาเปลา่ โดย สามารถมองเหน็ ไดท้ างขอบฟ้าด้านทิศตะวนั ตกในเวลาใกล้คา่ เราเรยี กว่า ดาวประจาเมือง (Evening Star) สว่ นชว่ งเช้ามืดปรากฏให้เหน็ ทางขอบฟ้าดา้ นทิศตะวนั ออกเรยี กวา่ ดาวรุง่ (Morning Star) เรามักสังเกตเห็น ดาวศกุ รม์ ีแสงส่องสวา่ งมากเนอ่ื งจาก ดาวศุกร์มีชัน้ บรรยากาศทีป่ ระกอบไปด้วยกา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซด์ มีผล ทาใหอ้ ุณหภมู ิพน้ื ผิวสงู ขึน้ ดาวศกุ ร์มีขนาดเสน้ ผ่านศูนยก์ ลาง 12,104 กโิ ลเมตร หมนุ รอบตวั เอง 1 รอบใช้เวลา 224 วัน และมที ิศทางการหมนุ ทไี่ ม่เหมอื นดาวเคราะห์ดวงอื่นในระบบสุรยิ ะ คือในขณะทีด่ าวเคราะห์ดวงอืน่ หมนุ ทวน เขม็ นาฬิกา ดาวศุกรก์ ลบั หมุนตามเขม็ นาฬิกา สว่ นชัน้ บรรยากาศบนดาวนนั้ ประกอบด้วยคาร์บอนไดออกไซด์ ถึง 97% ทาให้ดาวศุกร์ร้อนมาก อณุ หภมู ิสูงเฉียด 500 องศาเซลเซียส และสะท้อนแสงอาทิตย์ไดด้ ี จึงสุกสวา่ ง เม่ือมองเหน็ 3.โลก (Earth) โลก ถกู แทนดว้ ยเทพีนามวา่ ไกอา ซ่ึงเป็ นพระแมธ่ รณี พระแมแ่ ห่ง โลก พระแม่ผใู้ หก้ าเนิดสรรพส่ิง ท้งั ปวง โลก เป็นดาวเคราะห์ดวงเดียวท่มี สี ่งิ มชี วี ติ อาศยั อยู่ เนื่องจากมชี น้ั บรรยากาศและมรี ะยะห่าง จากดวง อาทติ ย์ที่เหมาะสมต่อการเจริญเตบิ โตและการดารงชวี ิตของส่งิ มชี วี ติ นกั ดาราศาสตร์อธบิ ายเกยี่ วกับการเกิด โลกว่า โลกเกดิ จากการรวมตัวของกลุม่ กา๊ ซ และมีการเคลื่อนทีส่ ลับซับซ้อนมาก แตม่ ีพื้นผวิ เปน็ หนิ เชน่ เดียวกับ ดาวเคราะหช์ ้ันในดวงอื่น ๆ ทั้งนี้ โลกมดี วงจันทร์เปน็ บรวิ าร โคจรอยรู่ อบโลกเพียงดวงเดียว มี ขนาดเสน้ ผา่ ศูนยก์ ลาง 3,476 กิโลเมตร หรือประมาณ 1 ใน 4 ของเสน้ ผา่ ศนู ย์กลางโลก และโคจรอยูห่ า่ งจาก โลกโดยเฉลย่ี ประมาณ 384,400 กโิ ลเมตร และโคจรรอบโลกในระยะเวลาประมาณ 29.5 วนั เป็นดวงจันทร์ เป็นดาวดวงเดยี วทีม่ นษุ ย์เดินทางไปสารวจ โดยการนาตัวอยา่ งดนิ และหินจากดวงจนั ทร์กลบั มาตรวจวเิ คราะห์ บนโลก
4. ดาวอังคาร (Mars) ดาวองั คาร ถกู แทนดว้ ยเทพนามวา่ มาร์ส หรือ เทพแอรีส ซ่ึงเป็นเทพแห่งสงครามและ การสูร้ บ เนื่องจากสีของดาวองั คารมีสีแดง คลา้ ยกบั เลือด ดาวองั คาร มีขนาดเลก็ กวา่ โลก เส้นผา่ นศูนย์กลางราว 6,794 กิโลเมตร พื้นผิวดาวองั คารมี ปรากฏการณเ์ มฆและพายุฝุ่นเสมอ เปน็ ทีน่ ่าสนใจในการศึกษาของนักวทิ ยาศาสตร์เป็นอยา่ งมาก เน่ืองจาก มีลกั ษณะและองค์ประกอบ ท่ีใกล้เคียงกับโลก เชน่ มรี ะยะเวลาในการหมนุ รอบตวั เอง 1 วัน เทา่ กบั 24.6 ช่วั โมง และระยะเวลาใน 1 ปี เม่ือเทียบกับโลกเท่ากับ 1.9 มีการเอยี งของแกน 25 องศา ดาวอังคารมดี วง จันทร์เป็นบรวิ าร 2 ดวง และมอี ุณหภูมิพ้นื ผิวค่อนข้างเยน็ อยทู่ ่ปี ระมาณ -65 องศาเซลเซียส ปัจจบุ ันนักวทิ ยาศาสตร์อยูร่ ะหวา่ งการศึกษาดาวอังคารอยา่ งละเอยี ด โดยการส่งยานคิวรอิ อสซิตขี้ ึ้น ไปศกึ ษาสภาพบนดาว เพือ่ วเิ คราะห์ความเป็นไปได้ในการเปน็ โลกใบทีส่ อง และน่ันอาจเป็นขา่ วดีสาหรับมวล มนุษยชาติ 5. ดาวพฤหสั บดี (Jupiter) ดาวพฤหัสบดี ถกู แทนดว้ ยเทพ นามวา่ จูปิ เตอร์ หรือ เทพซูส ซ่ึงเป็ น เทพแห่งสายฟ้ า เป็ นจอมเทพ ผปู้ กครองเทพท้งั ปวงในสรวง สวรรค์ ดาวพฤหสั บดี เปน็ ดาวเคราะห์ท่ใี หญท่ ี่สุดในระบบสุริยะจักรวาล มีขนาดเสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลางยาวกว่า โลก 11 เทา่ หมนุ รอบตวั เอง 1 รอบใชเ้ วลา 9.8 ชั่วโมง ซง่ึ เรว็ ท่ีสุดในบรรดาดาวเคราะห์ท้งั หลาย และโคจร รอบดวงอาทิตย์ 1 รอบ ใช้เวลา 12 ปี นกั ดาราศาสตร์อธิบายว่า ดาวพฤหัสเป็นกลุม่ กอ้ นก๊าซหรือของเหลว ขนาดใหญ่ ท่ีไมม่ สี ่วนทีเ่ ปน็ ของแข็งเหมือนโลก และเป็นดาวเคราะห์ทีม่ ีดาวบรวิ ารมากถึง 79 ดวง ดาวพฤหสั บดี เปน็ ดาวเคราะห์แกส๊ หมายความวา่ ตวั ดวงท่ีเห็นใหญโ่ ตมโหฬารน้นั ไม่มีพน้ื ผิวแขง็ ให้เหยียบ เพราะเปน็ แกส๊ เกอื บทง้ั ดวง
* ดาวพฤหัสบดกี ็มวี งแหวนดว้ ย แตอ่ งค์ประกอบของวงแหวนดาวพฤหสั บดีเป็นฝุ่นเล็กจิ๋ว ตา่ งจากวงแหวน ของดาวเสารท์ ่ีประกอบดว้ ยหิน * ดวงจันทร์ดวงใหญท่ ่สี ดุ ของดาวพฤหัสบดี คือแกนิมดี เป็นดวงจันทรท์ ม่ี ขี นาดใหญ่ที่สุดในระบบสุรยิ ะ ใหญ่ กว่าดาวพุธและดาวพลูโต * ดวงจันทร์ 4 ดวงหลักของดาวพฤหัสบดไี ด้แก่ ไอโอ ยูโรปา แกนิมีด และแคลลสิ โต ทัง้ สี่ดวงนถี้ ูกค้นพบเป็น คร้ังแรกโดยกาลเิ ลโอ จึงมชี ือ่ เรยี กว่า ดวงจนั ทร์กาลเิ ลโอ * องคป์ ระกอบสว่ นใหญ่ของดาวพฤหสั บดปี ระกอบดว้ ยไฮโดรเจนเป็นหลกั รองลงมาคือฮีเลียม * แม้จะมีขนาดใหญโ่ ต แต่ดาวพฤหัสบดมี ีความหนาแนน่ ต่ากว่าโลกมาก มีความหนาแน่นเฉล่ยี ประมาณ 1.3 กรัมตอ่ ลูกบาศกเ์ ซนติเมตรเท่านนั้ 6.ดาวเสาร์ (Saturn) ดาวเสาร์ ถูกแทนดว้ ยเทพนามวา่ แซทเทิน หรือ เทพโครนอส ซ่ึงเป็ น เทพแห่งการเกษตรและการเพาะปลกู มีศกั ด์ิเป็ นบิดาของเทพจูปิ เตอร์ ดาวเสาร์ เป็นดาวเคราะห์ที่เราสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เป็นดาวท่ีประกอบไปด้วยก๊าซและ ของเหลวสีค่อนข้างเหลือง หมุนรอบตัวเอง 1 รอบใช้เวลา 10.2 ชั่วโมง และโคจรรอบดวงอาทิตย์ 1 รอบใช้ เวลา 29 ปี ลักษณะเด่นของดาวเสาร์ คือ มีวงแหวนล้อมรอบ ซ่ึงวงแหวนดังกล่าวเป็นอนุภาคเล็ก ๆ หลาย ชนิดรวมกนั และดาวเสารม์ ีวงแหวนถงึ 3 ชั้น นอกจากน้ี ดาวเสาร์ยงั มีดาวบริวารมากที่สุด 82 ดวง หนึ่งในนั้น คือดวงจันทร์ไททัน (Titan) ซ่ึงถือว่าเป็นดวงจันทร์ที่แปลกท่ีสุดในระบบสุริยะจักรวาล เพราะเป็นดวงจันทร์ ดวงเดยี วในระบบสุรยิ ะท่ีมีบรรยากาศ และนกั วทิ ยาศาสตรว์ ิเคราะห์ดวงจันทร์ดวงนี้มีสภาพเหมือนโลกยุคแรก ๆ หากดวงอาทติ ยร์ อ้ นขนึ้ เม่ือไร นา้ แขง็ บนดวงจันทรจ์ ะละลาย และมวี ิวฒั นาการคล้ายกนั กับโลกเลยทเี ดียว
7.ดาวยเู รนสั (Uranus) ดาวยเู รนัส ถกู แทนดว้ ยเทพนามวา่ อโู รนอส หรือ เทพยเู รนสั ซ่ึงเป็ น เทพแห่งทอ้ งฟ้ า ผใู้ หก้ าเนิดเทพ โครนอส ดาวยูเรนัส หรือดาวมฤตยู เป็นดาวเคราะห์แก๊สขนาดใหญ่ มีดวงจันทร์บริวาร 27 ดวง หมุนรอบ ตัวเอง 1 รอบ ใช้เวลา 16.8 ชั่วโมง และโคจรรอบดวงอาทิตย์ 1 รอบ ใช้เวลานานถึง 84 ปี ดาวยูเรนัส ประกอบด้วยกา๊ ซและของเหลว เช่นเดียวกับดาวพฤหัสบดี และดาวเสาร์ทั้งนี้ ดาวยูเรนัสเป็นดาวเคราะห์ใหญ่ เป็น ที่ 3 รองจากดาวพฤหสั บดี และดาวเสาร์ โคจรหา่ งจากดวงอาทิตยโ์ ดยเฉลี่ย 2,871 ล้านกิโลเมตร 8.ดาวเนปจูน (Neptune) ดาวเนปจูน ถูกแทนดว้ ยเทพนามวา่ เนปจูน หรือ เทพโพไซดอน ซ่ึงเป็ น เทพแห่งทอ้ งทะเลและมหาสมุทร ดาวเนปจูน หรือดาวเกตุ เป็นดาวเคราะห์ขนาดใหญ่เป็นที่ 4 ในระบบสุริยะ มีเส้นผ่านศูนย์กลางราว 50,000 กิโลเมตร จุโลกได้ถึง 60 ดวง ระยะห่างเฉล่ียจากดวงอาทิตย์ 4,504 ล้านกิโลเมตร หมุนรอบตัวเอง ครบรอบในเวลา 16 ช่ัวโมงอยู่ไกลจากโลกมากจนไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ต้องใช้กล้องโทรทรรศน์ ขนาดใหญ่เท่านั้นจึงจะเห็นเป็นจุดริบหรี่ได้ ส่ิงท่ีมนุษย์รู้เก่ียวกับดาวเนปจูน ในทุกวันนี้ จึงเป็นข้อมูลท่ีได้มา จากยาน วอยเอเจอร์ 2 ซ่งึ โคจรสารวจดาวเนปจนู ระยะใกล้ เมือ่ พ.ศ. 2532 ดาวเคราะห์แคระ (Dwarf Planets) เป็นนิยามใหม่ของสมาพันธ์ดาราศาสตร์สากล (International Astronomical Union) ท่ีกล่าวถึง วัตถุขนาดเล็กที่มีรูปร่างคล้ายทรงกลม ที่มีวงโคจรเป็นรอบดวงอาทิตย์ ซ้อนทับกับดาวเคราะห์ดวงอ่ืน และไม่อยู่ในระนาบของสุริยวิถี ยกตัวอย่าง ดาวพลูโตถูกจัดเป็นดาวเคราะห์
แคระ เนอื่ งจากมลี ักษณะคล้ายทรงกลม มวี งโคจรรอบดวงอาทิตย์ซ้อนทับกับวงโคจรของดาวเนปจูนและเอียง ตัดกบั ระนาบสรุ ิยวถิ ีเป็นมุม 17° ดาวเคราะห์นอ้ ยซรี สี ถูกจัดเป็นดาวเคราะห์แคระ เน่ืองจากมีลักษณะคล้าย ทรงกลม มีวงโคจรรอบดวงอาทติ ยซ์ ้อนทบั กบั วตั ถุอ่นื ๆ ทีอ่ ยใู่ นแถบเขม็ ขัดดาวเคราะห์น้อย ดาวเคราะห์น้อย (Asteroids) เป็นวัตถทุ ี่ไม่สามารถรวมตวั กันเปน็ ดาวเคราะห์ได้ เน่อื งจากถกู รบกวนจากแรงโนม้ ถ่วงของดาว เคราะห์ขนาดใหญ่ เช่น ดาวพฤหสั บดี และดาวเสาร์ ทาให้แรงไทดัลท่ีเกิดขึ้นมกี าลงั มากกว่าแรงยึดเหนย่ี ว ระหว่างสสารภายในดาว ดาวเคราะหน์ อ้ ยส่วนใหญ่มีองค์ประกอบหลักเปน็ หนิ แต่บางดวงมีโลหะปนอยู่ ดาว เคราะหน์ ้อยส่วนใหญ่อยู่ที่ \"แถบดาวเคราะห์น้อย\" (Asteroid belt) ซง่ึ อยู่ระหวา่ งวงโคจรของดาวอังคารและ ดาวพฤหัสบดี ดาวเคราะห์น้อยมรี ปู ทรงเหมือนอกุ กาบาต เนือ่ งจากมวลน้อยจงึ มีแรงโน้มถ่วงน้อยไมส่ ามารถ ยุบรวมเนอ้ื ดาวใหม้ รี ปู รา่ งทรงกลม วงโคจรของดาวเคราะห์น้อยมีความรีมากกว่าวงโคจรของดาวเคราะห์ โดย วงโคจรส่วนใหญเ่ อียงทามุมกับระนาบสุรยิ วิถเี ล็กน้อย ในปัจจุบนั ได้มกี ารค้นพบดาวเคราะห์นอ้ ยมากกวา่ 3 แสนดวง เนือ่ งจากดาวเคราะหน์ อ้ ยไมส่ ามารถรวมตวั เป็นดาวเคราะหไ์ ด้ มันจึงไม่มีการเปลีย่ นแปลงโครงสร้าง ภายในมาหลายพนั ล้านปีแล้ว นกั ดาราศาสตรจ์ งึ เปรียบว่า ดาวเคราะห์น้อยเปน็ เสมือนฟอสซลิ ของระบบสรุ ยิ ะ วตั ถใุ นแถบไคเปอร์ (Kuiper Belt Objects) มีองคป์ ระกอบหลักเปน็ หนิ ปนนา้ แขง็ มวี งโคจรรอบ ดวงอาทติ ย์อยถู่ ดั จากดาวเนปจนู ออกไป วงโคจรของัวัตถุในแถบคอยเปอร์เอยี งทามมุ กับระนาบสุรยิ วถิ ี เล็กนอ้ ย โดยมรี ะยะห่างจากดวงอาทติ ย์ 40 – 500 AU (AU ยอ่ มาจาก Astronomical Unit หรือ หนว่ ย ดาราศาสตร์ เทา่ กบั ระยะทางระหวา่ งโลกถงึ ดวงอาทติ ย์ หรือ 150 ลา้ นกโิ ลเมตร) ดาวพลูโตและดาวเคราะห์ แคระซึ่งถกู คน้ พบใหม่เป็นวัตถใุ นแถบคอยเปอร์ เช่น เอรสิ เซดนา วารนู า ปจั จบุ ันมีการค้นพบวตั ถุประเภทน้ี แล้วมากกว่า 35,000 ดวง ดาวหาง (Comets) เปน็ วัตถุขนาดเลก็ เช่นเดียวกบั ดาวเคราะหน์ ้อย แต่มวี งโคจรรอบดวงอาทติ ย์ เป็นวงรแี คบ และทามมุ เอยี งตดั กับระนาบของสุรยิ วิถเี ปน็ มุมสูง ดาวหางมอี งค์ประกอบเปน็ นา้ แขง็ (Ice water) และแก๊สในสถานะของแข็ง เมื่อดาวหางเคลอ่ื นท่เี ข้าหาดวงอาทติ ย์ พลังงานจากดวงอาทิตย์ทาให้มวล ของดาวหางระเหดิ กลายเปน็ แก๊ส ลมสรุ ยิ ะเป่าใหแ้ ก๊สเหลา่ นใี้ ห้พ่งุ ไปในทิศทางตรงขา้ มกบั ดวงอาทติ ย์ ปรากฏเปน็ หางยาวหลายลา้ นกโิ ลเมตร เมฆออรต์ (Oort Cloud) นักดาราศาสตรช์ าวเนเธอรแ์ ลนดช์ ่อื แจน ออร์ต (Jan Oort) ตงั้ ทฤษฏีว่า บรเิ วณขอบนอกของระบบสรุ ิยะเปน็ ทรงกลม ซ่งึ มีขนาดรัศมีประมาณ 50,000 AU จากดวงอาทติ ย์ หอ่ หุ้ม ด้วยวสั ดุจาพวกน้าแข็ง ซ่ึงหากมีแรงโนม้ ถว่ งจากภายนอกมากระทบกระเทือน นา้ แขง็ เหลา่ น้จี ะหลุดเข้าสูว่ ง โคจรรอบดวงอาทติ ย์ กลายเปน็ ดาวหางวงโคจรคาบยาว (Long-period comets) ซง่ึ มีคาบวงโคจรรอบดวง อาทิตยน์ านหลายหมน่ื ปี เม่ือดาวหางโคจรเข้าใกลด้ วงอาทิตย์ แรงโนม้ ถว่ งจากดาวเคราะหจ์ ะสง่ อทิ ธิพลให้ เปลย่ี นเปน็ ดาวหางวงโคจรคาบส้นั (Short-period comets) เช่น ดาวหางฮลั เลยม์ ีวงโคจรรูปวงรีแคบและ คาบเก่ียวกับวงโคจรของดาวยเู รนสั มีคาบการโคจรรอบดวงอาทิตย์เพียง 78 ปี
Search
Read the Text Version
- 1 - 7
Pages: