แผนพฒั นาตนเอง ประจาปกี ารศกึ ษา 2563 (Individual Development Plan : ID Plan) นายเชาวลติ สินสถิตพร ตาแหน่ง ครู โรงเรียนบ้านย่านดนิ แดง สานักงานเขตพนื้ ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาสุราฏร์ธานี เขต 3 สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
คานา เอกสาร “แผนพัฒนาตนเอง ประจาปีการศึกษา 2563” เล่มน้ี เกิดข้ึน ตามที่ ก.ค.ศ.ได้กาหนด หลักเกณฑ์และวิธกี ารพฒั นาตนเองและวิชาชพี ครู (ว22/2560) เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 ขอ้ 1. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ต้องได้รับการพัฒนาอย่างต่อเน่ืองทุกปี โดยให้ประเมินตนเอง ตามแบบ ท่ี ก.ค.ศ. กาหนด พรอ้ มทง้ั จัด ทาแผนการพฒั นาตนเองเป็นรายปี ตามแบบท่ีส่วนราชการกาหนด และเข้ารับการพัฒนาตามแผนอย่างเป็นระบบ และต่อเน่ืองฉะน้ัน ครูจะต้องประเมินตนเอง จัดทา แผนพัฒนาตนเอง เพ่ือให้ผู้บริหารอนุมัติหลักสูตร ตาม ID Plan การปฏิรูปการศึกษาและการเรียนรู้อย่าง เป็นระบบใน 3 ประเด็นหลักคือ การพัฒนาคุณภาพ มาตรฐานการศึกษา และการเรียนรู้ของคนไทย เพ่ิม โอกาสทางการศึกษา และการเรียนรู้ที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึง ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการ บริหารและการจัดการศึกษา ท้ังน้ีได้กาหนดกรอบแนวทางในการปฏิรูปการศึกษาและการเรียนรู้อย่างเป็น ระบบไว้ 4 ประการ คอื การพัฒนาคณุ ภาพคนไทยยุคใหม่ การพัฒนาคุณภาพครูยคุ ใหม่ การพฒั นาคุณภาพ สถานศึกษา และแหล่งเรยี นร้ยู ุคใหม่ และการพฒั นาคุณภาพการบรหิ ารจัดการใหม่ และจากการที่สานกั งาน เขตพื้นที่การศึกษาคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ได้ประกาศการใช้เกณฑ์วิทยฐานะ ว21/2560 ซ่ึง กาหนดข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาจัดทาแผนพัฒนาตนเองเพ่ือประโยชน์ในการจัดการเรียน การสอน และวางแผนการทางานของขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ได้จัดหลักสูตรการพัฒนาสถานศึกษาท่ัวประเทศ ด้วยการอบรมบุคลากร ทางการศึกษา เพราะปัจจัยสาคัญที่สุดท่ีมีผลต่อคุณภาพการจัดการศึกษา คือ “ครูผู้สอน” โดยต้องการเพิ่ม ประสิทธิภาพการจัดการศึกษาในระดับสถานศึกษาโดยเฉพาะตัวครูผู้สอน ซึ่งเป็นบุคคลสาคัญที่สุดท่ีจะ ขับเคล่ือนงานการจัดการศึกษาของโรงเรียนให้พัฒนาก้าวหน้า โดยการประเมินสมรรถนะของตนเอง และ จัดทาแผนพัฒนาตนเองข้ึนเป็นการสร้างนิสัยการทางานโดยใช้ข้อมูลเป็นฐานการพัฒนาตนเอง และการ พัฒนางานด้วยการสร้างแรงบันดาลใจ จึงได้ประเมินตนเองเพื่อสรุปข้อมูลจัดทาเอกสาร “แผนพัฒนา ตนเอง” เสร็จสมบูรณ์ สาหรับปฏิบัติใช้ในปีการศึกษา 2563 หวังว่าเอกสารเล่มน้ี จะเป็นประโยชน์ต่อ ตนเอง ครู และบุคลากรทางการศึกษา ในการพัฒนาตนเอง ให้บรรลเุ ปา้ หมายการจดั การศกึ ษาตอ่ ไป เชาวลิต สินสถติ พร 30 มถิ นุ ายน 2563
สารบญั เรือ่ ง หนา้ บทท่ี 1 บทนา 1 Individual Development Plan (ID Plan) คอื อะไร บทท่ี 2 แผนการพฒั นาตนเองในการจดั ห้องเรยี นทมี่ ีคุณภาพ 4 (Individual Development Planning : IDP) แผนการพัฒนาตนเองในการจัดหอ้ งเรียนท่ีมีคุณภาพ บทที่ 3 การดาเนินงานตามแผนการพฒั นาตนเอง 6 ด้านสมรรถนะหลัก 6 ดา้ นสมรรถนะประจาสายงาน 11 16 ส่วนที่ 2 รายละเอียดการพัฒนาตนเอง 19 สว่ นท่ี 3 ตารางสรปุ แผนพฒั นาตนเองและคารับรองแผนพฒั นาตนเองของผู้บังคบั บญั ชา 21 ผลการประเมนิ สมรรถนะครู สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พื้นฐาน บรรณานกุ รม
1 บทท่ี 1 บทนา Individual Development Plan (ID Plan) คืออะไร สถาบนั พัฒนาครู คณาจารย์ และบคุ ลากรทางการศึกษา ได้ใหค้ วามหมายของ Individual Development Plan (IDPlan) หมายถึงการพัฒนาบุคลากรโดยยดึ หลกั การประเมินสมรรถนะ (Competency Based Approach) จะทาให้ผ้ปู ฏบิ ัติงานสามารถร้จู ุดเดน่ จดุ ด้อยของความสามารถใน การปฏิบัตงิ านของตน และสามารถพฒั นาตนเองให้สอดคล้องกับความต้องการจาเปน็ ของหน่วยงาน และ ของตนเองอย่างแทจ้ ริง อีกท้ังจะทาให้การพัฒนาครูดาเนนิ ไปอยา่ งประหยดั และสอดคล้องกบั นโยบายของ รัฐบาล การพฒั นาครแู ละบุคลากรทางการศึกษามงุ่ เนน้ ใหม้ สี มรรถนะตามมาตรฐานตาแหนง่ และ มาตรฐานวชิ าชพี ทัง้ สมรรถนะหลกั (Core Competency) สมรรถนะการปฏิบตั ิงานในหนา้ ท่ี หรือ สมรรถนะประจาสายงาน (Functional Competency) และสมรรถนะเฉพาะตามกลุ่มสาระ (Specificational Competency) ตามท่ี ก.ค.ศ.กาหนด โดยยดึ หลกั การประเมินสมรรถนะ (Competency Based Approach) เพราะจะทาใหผ้ ู้ปฏบิ ัตงิ านสามารถรจู้ ุดเดน่ จุดด้อยของความสามารถ ในการปฏิบัติงานของตน และสามารถพัฒนาตนเองให้สอดคล้องกับความต้องการจาเปน็ ของตนเอง และ หน่วยงาน ระบบการพฒั นาครูและบคุ ลากรทางการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในปัจจุบัน ไดม้ งุ่ เน้นให้ ครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา พฒั นาตนเองตามแนวทางดังกล่าว โดยเริ่มต้นจากการประเมนิ สมรรถนะ การจัดทาแผนพัฒนาตนเอง และดาเนนิ การพัฒนาตามแผนพัฒนาตนเองจนมีสมรรถนะตาม ความตอ้ งการของหน่วยงาน เพื่อใหค้ รูและบคุ ลากรทางการศกึ ษาสามารถดาเนินการพัฒนาตนเองตาม ระบบการพัฒนาครูและบคุ ลากรทางการศึกษาไดอ้ ยา่ งถูกต้องตามกระบวนการ สามารถพัฒนาสมรรถนะ ของตนเองเพ่ิมขึ้น และส่งผลตอ่ ผู้เรียนท่ีรบั ผดิ ชอบ (สถาบันพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการ ศึกษา. 2551) ประสิทธิภาพ ประสิทธิผลของงานข้ึนอยู่กับคุณภาพของคนหรือบุคคล ในการปฏิบัติงาน ถ้าบุคคลใดเป็น บุคคลท่ีมีคุณภาพหรือทางการ(วิชาการ)จะเรียกว่า มีสมรรถนะ (Competency) (ความสามารถของบุคคล ในทุก ๆ ด้านทั้งด้านความรู้ ความคิด ความสามารถ ทักษะและคุณลักษณะ คุณธรรมท่ีจาเป็นต่อการ ปฏิบัติงานให้บรรลุได้อย่างมีประสิทธิภาพ) ที่สูง ย่อมส่งผลต่อคุณภาพของงานในหน้าท่ีที่ได้รับมอบหมาย ปัจจุบนั ในวงราชการกไ็ ด้นาสมรรถนะเปน็ ตัวชีว้ ดั ความสามารถของบุคคล ซึ่งสมรรถนะโดยท่วั ไปจะแบ่งเป็น 2 สมรรถนะ คือ สมรรถนะหลัก (Core Competency) หมายถึง สมรรถนะท่ีทุกคนต้องมีหรือปฏิบัติได้ เป็น คุณลักษณะร่วมกันของบุคคลทุกตาแหน่ง ตัวอย่าง สมรรถนะหลักของครูและบุคลากรทางการศึกษา ประกอบดว้ ย การมุ่งผลสมั ฤทธ์ิ การบรกิ ารท่ดี ี การพฒั นาตนเอง การทางานเปน็ ทมี
2 และสมรรถนะประจาสายงาน (Functional Competency) เป็นสมรรถนะท่ีกาหนดเฉพาะสาหรับ แต่ละตาแหน่ง เพ่ือให้บุคคลที่ดารงตาแหน่งนั้น แสดงพฤติกรรมท่ีเหมาะสมกับหน้าท่ีและสามารถปฏิบัติ หน้าที่ได้ดียิ่งขึ้น ตัวอย่าง สมรรถนะประจาสายงานของครู ประกอบด้วย การจัดการเรียนรู้ การพัฒนา ผู้เรียน การบริหารจัดการชั้นเรียน การวิเคราะห์ สังเคราะห์และการวิจัย การสร้างความร่วมมือกับชุมชน ตัวอย่าง สมรรถนะหลกั ของบคุ ลากรทางการศึกษา ประกอบด้วย การวเิ คราะห์ สังเคราะหแ์ ละการวิจัย การ สื่อสารและการจูงใจ การพัฒนาศกั ยภาพบคุ คล การมีวสิ ยั ทัศน์ สาหรับการพัฒนาบุคคลในอดีตที่ผ่านมา เป็นการพัฒนาแบบเหมารวมหรือยกเข่ง หมายความว่า เม่ือเรื่องใดที่หน่วยงานต้องการพัฒนา ก็จะพัฒนาแบบปูพรมคือพัฒนาทุกคนไม่รู้ว่ามีความรู้หรือไม่มี ต้องการหรือไม่ต้องการ เป็นปัญหาหรือไม่เป็นปัญหา แต่จะพัฒนาหมด ส่ิงที่เป็นปัญหาของการพัฒนา รูปแบบน้ีก็คือความไม่คุ้มค่า คือผู้เข้าร่วมพัฒนาจะสนใจเฉพาะบุคคลที่ต้องการ อยากรู้ อยากทราบเท่านั้น สาหรับกลุ่มคนท่ีเหลือเป็นกลุ่มบุคคลท่ีไม่ต้องการ ก็จะไม่ให้ความสาคัญ ไม่สนใจ ทาให้เป็นอุปสรรคในการ พฒั นา ทางแก้ที่คิดว่าน่าจะเป็นไปได้ คือ การพัฒนาบุคคลตามแผนพัฒนาตนเองรายบุคคล(Individual Development Plan: ID PLAN)โดยจะต้องผ่านกระบวนการประเมินสมรรถนะ ท่ีประกอบด้วย การ ประเมินตนเอง ร่วมกับเพื่อนร่วมงานหรือผู้บังคับบัญชาร่วมประเมิน นาผลสรุปผล ว่าสมรรถนะใดท่ี จาเป็นต้องพัฒนาและสมรรถนะใดท่ีไม่จาเป็นต้องพัฒนา ต่อจากนั้นนามาจัดอันดับสมรรถนะท่ีจาเป็นต้อง พัฒนา พร้อมให้เหตุผลประกอบ ว่าการพัฒนาสมรรถนะดังกล่าวจะส่งผลต่ออะไร ต่อใคร เช่น จะส่งผลต่อ คุณภาพของนักเรียน หน่วยงาน ชุมชน วงการวิชาชีพ หรือตนเอง เป็นต้น หลักการจัดอันดับความสาคัญ สมรรถนะทีจ่ าเป็นเรง่ ด่วนในการพฒั นาของครู คือ ส่งผลต่อคุณภาพของนักเรียนเปน็ หลัก สาหรับตอ่ ตนเอง ควรเปน็ อนั ดบั สดุ ท้าย จากน้ันนาไปสู่การเขยี นแผนพัฒนาตนเองรายบุคคล โดยให้นาเสนอรปู แบบ วธิ ีการพฒั นาในแต่ละ สมรรถนะ หลาย ๆ รูปแบบเพ่ือเป็นทางเลือกในการพัฒนา พร้อมกับกาหนด ช่วงระยะเวลาท่ีจะพัฒนา (เร่ิมตน้ และสิ้นสดุ ) และหนว่ ยงานหรือองคก์ รทจ่ี ะขอรับการสนบั สนุนในการพัฒนา ซ่ึงจะเห็นว่าการพัฒนา โดยใช้ ID-PLAN จะเป็นการพัฒนาท่ีสนองตอบความต้องการแต่ละบุคคล สนองความสนใจในรูปแบบวิธีการพัฒนา ก็จะสง่ ผลต่อสมรรถนะในการปฏิบัติหน้าที่ท่ีมีประสิทธิภาพต่อไป และจะเปน็ การพฒั นาท่ีต่อเนอ่ื งจนทาให้การปฏิบัติหนา้ ท่มี ีความ สมบูรณ์ มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล และเป็นขา้ ราชการท่ีดตี อ่ ไป (ยนื ยง ราชวงษ,์ 2551)
3 แผนการพัฒนาตนเองสาหรับครู ( Individual Development Plan : ID Plan ) ส่วนท่ี 1 ข้อมูลผู้จัดทาแผนพฒั นาตนเอง ชื่อ นายเชาวลิต ชื่อสกลุ สินสถิตพร ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ไมม่ ี อายกุ ารทางาน 2 ปี 9 เดอื น ระยะเวลาดารงตาแหน่งปจั จุบนั 2 ปี 9 เดอื น วฒุ กิ ารศกึ ษา ศิลปกรรมศาสตรบ์ ณั ฑิต (ศศ.บ.) วิชา ดนตรี วชิ าโท- เงนิ เดือน อันดบั ครู ค.ศ.1 ขั้น - อัตราเงินเดือน 18,050 บาท สถานที่ทางาน โรงเรยี นบา้ นยา่ นดินแดง ตาบลอิปัน อาเภอ/เขต พระแสง จังหวัดสุราษฎรธ์ านี สานกั งานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาสุราษฏรธ์ านี เขต 3 โทรศัพท์มือถอื 0653563354 งานในหนา้ ท่ที ี่รับผิดชอบ 1. ครปู ระจาสายชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 5 โดยสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ศลิ ปะ 2. กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น ( ลูกเสือ-เนตรนารี) ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 จานวน 1 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ รวมงานสอน จานวน 21 ช่ัวโมง / สปั ดาห์ งานทไี่ ดร้ ับมอบหมายเป็นงานพิเศษ ดงั น้ี (เช่น) 1. ครทู ่ปี รกึ ษาช้นั ศึกษาศกึ ษาปที ่ี 5/1 2. กลุม่ งานอาคารสถานที่ 3. งานประชาสมั พันธ์ 4. งานตามภาระหน้าท่ี ที่ได้รบั มอบหมายอ่นื
4 บทท่ี 2 แผนการพัฒนาตนเองในการจัดหอ้ งเรยี นทมี่ คี ุณภาพ (Individual Development Planning : IDP) แผนการพัฒนาตนเองในการจัดห้องเรยี นทีม่ คี ณุ ภาพ (Individual Development Planning : IDP) ครผู ูส้ อน นายเชาวลติ สนิ สถิตพร ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศลิ ปะ ป.5 กิจกรรม มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. Output Outcome Impact 1)วเิ คราะห์ ผเู้ รยี น(CAR1) ไดข้ ้อมูล ครูนาขอ้ มูลนักเรียน ผู้เรียนเกดิ พฤตกิ รรม นักเรยี น เป็น เป็นรายบุคคลมา การเรียนรู้ตามท่ี รายบคุ คล ออกแบบการจดั การ คาดหวัง เรียนรู้ จานวน ....คน เรียนรู้ที่มีความ อย่างมีความสุข เหมาะสมกับผเู้ รยี น 2)ออกแบบการ ไดแ้ ผนการ ครูนาแผนการจดั การ ผเู้ รยี นเกิดพฤตกิ รรม จัดการเรยี นรู้อิง จัดการเรียนรู้ เรียนรไู้ ปใช้จดั กิจกรรม การเรียนรตู้ ามที่ มาตรฐาน องิ มาตรฐาน ได้ตรงตามมาตรฐาน คาดหวัง จานวน 1 นกั เรียนมพี ฤติกรรม แผน การเรียนร้ตู รงตาม มาตรฐาน 3)ประเมินการ ได้เอกสารผล ทราบผลการจัดการ การจดั การเรยี นการ สอนของตนเอง การประเมนิ (CAR2) การสอน เรียนร้มู ี/ไมม่ ี สอนเกดิ จานวน 1 ชุด ประสิทธิภาพ ครูนา ประสิทธภิ าพตาม ผลการประเมิน มา มาตรฐานการเรยี นรู้ ปรับปรุง พฒั นาและ และตัวชีว้ ัดท่ีกาหนด หรอื ขยายผลแผนการ ไว้ จัดการเรียนรู้
5 กจิ กรรม มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. Output Outcome Impact 4)ศกึ ษาราย ได้ผล ครนู าผลการศึกษา การจดั การเรยี นรู้เกดิ กรณี : การศึกษาราย รายกรณี ไปเป็น ประสิทธภิ าพตาม แกป้ ญั หา กรณี จานวน แนวทางในการ มาตรฐานการเรียนรู้ นกั เรียน(CAR3) 1 เลม่ พฒั นาการจดั การ และตวั ช้วี ดั ทีก่ าหนด เรยี นรูใ้ นช้นั เรียน ไว้ 5)ICT / PD / ไดน้ วัตกรรม ครไู ด้นวัตกรรมไปใช้ ครูมนี วตั กรรมในการ สร้างนวัตกรรม ทใี่ ช้ในการ ในการจัดกจิ กรรม จดั การเรียนร้ใู หก้ บั (CAR4) จัดการเรยี นรู้ การเรยี นรู้ นกั เรียนเกดิ จานวน 1 พฤติกรรมการเรยี นรู้ ชิ้น ตามทีค่ าดหวงั 6) การทา ICT / ไดท้ ดลองการ ครไู ด้ทดลองการใช้ ครสู ามารถพัฒนา PD / นา ใช้นวัตกรรม นวตั กรรมท่จี ดั ทาข้ึน นวัตกรรมในการ นวตั กรรมไปใช้ จัดการเรยี นร้ใู หก้ ับ นักเรียน 7) การสรุปและ ไดร้ ายงานผล ครไู ดร้ ายงานผลการ ครูมีขอมูลในการ รายงานการใช้ การใช้ ใช้นวตั กรรมเพ่ือ ดาเนินงานการ นวัตกรรม นวัตกรรม นาไปพฒั นาการ จัดการเรียนรู้ในช้นั จานวน 1 จัดการเรยี นรูต้ อ่ ไป เรยี น เพื่อเปน็ ข้อมลู เร่ือง ในการพฒั นาวิชาชีพ ตอ่ ไป
6 บทที่ 3 การดาเนินงานตามแผนการพัฒนาตนเอง การวางแผนการพัฒนาตนเองในการจัดห้องเรียนที่มีคุณภาพ (Individual Development Planning : IDP) ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5 รายวิชา ศิลปะ ป.5 โรงเรียนบ้านย่านดินแดง อาเภออิปัน จังหวัดสุ ราษฎร์ธานี มีผลที่คาดว่าจะได้รับจากการวางแผนการพัฒนาตนเอง 2 ด้าน คือ ดานสมรรถนะหลัก และสมรรถนะประจาสายงาน ซง่ึ มีรายละเอยี ดดังนคี้ ือ ดา้ นสมรรถนะหลกั มกี ารพัฒนาตนเองใน 4 ดา้ น คือ 1. การม่งุ ผลสัมฤทธ์ิ ไดแ้ ก่ 1.1 ความสามารถในการวางแผนการปฏิบัตงิ าน 1.2 ความสามารถในการปฏบิ ตั ิงาน 1.3 ผลการปฏบิ ัติงาน 2. การบริการที่ดี ได้แก่ 2.1 ความสามารถในการสร้างระบบการใหบ้ รกิ าร 2.2 ความสามารถในการให้บริการ 3. การพัฒนาตนเอง ไดแ้ ก่ 3.1 ความสามารถในการพัฒนาตนเอง 3.2 ความสามารถในการใช้ภาษาไทยเพ่ือการส่ือสาร 3.3 ความสามารถในการใชภ้ าษาอังกฤษเพือ่ การแสวงหาความรู้ 3.4 ความสามารถในการตดิ ตามความเคลื่อนไหวทางวชิ าการและวชิ าชพี 3.5 ความสามารถในการประมวลความรแู้ ละนาความรไู้ ปใช้ 4. การทางานเป็นทีม ได้แก่ 4.1 ความสามารถในการวางแผนเพื่อการปฏิบัติงานเป็นทีม 4.2 ความสามารถในการปฏบิ ัติงานร่วมกนั ด้านสมรรถนะประจาสายงาน มีการพฒั นาตนเองใน 5 ดา้ น คือ 1. การจัดการเรยี นรู้ 1.1 ความสามารถในการสรา้ งและพฒั นาหลกั สูตร 1.2 ความสามารถในเนื้อหาสาระที่สอน 1.3 ความสามารถในการจดั กระบวนการเรียนรู้ทเ่ี นน้ ผู้เรยี นเปน็ สาคญั 1.4 ความสามารถในการใช้และพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจดั การเรียนรู้ 1.5 ความสามารถในการวดั และประเมินผลการเรียนรู้
7 2. การพัฒนาผเู้ รยี น 2.1 ความสามารถในการปลกู ฝังคุณธรรม จริยธรรม 2.2 ความสามารถในการพัฒนาทักษะชวี ติ สขุ ภาพกายและสุขภาพจติ 2.3 ความสามารถในการปลกู ฝงั ความเปน็ ประชาธปิ ไตย 2.4 ความสามารถในการปลกุ ฝงั ความเปน็ ไทย 2.5 ความสามารถในการจัดระบบดแู ลและช่วยเหลือผู้เรยี น 3. การบรหิ ารจดั การชั้นเรียน 3.1 ความสามารถในการจัดบรรยากาศการเรียนรู้ 3.2 ความสามารถในการจัดทาข้อมลู สารสนเทศและเอกสารฯ 3.3 ความสามารถในการกากับดูแลช้ันเรียน 4. การวิเคราะห์ สังเคราะห์ และการวิจยั 4.1 ความสามารถในการวเิ คราะห์ 4.2 ความสามารถในการสงั เคราะห์ 4.3 ความสามารถในการเขยี นเอกสารทางวิชาการ 4.4 ความสามารถในการวิจัย 5. การสรา้ งความร่วมมือกับชมุ ชน 5.1 ความสามารถในการนาชมุ ชนมีสว่ นร่วมในกิจกรรมสถานศึกษา 5.2 ความสามารถในการเข้ารว่ มกิจกรรมของชุมชน นอกจากนี้ จะตอ้ งมกี ารพัฒนาด้านคุณลกั ษณะท่ีจาเปน็ ในการพัฒนาวชิ าชพี คือ ดา้ นวนิ ัย คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และจรรยาบรรณในวชิ าชพี ไดแ้ ก่ 1. การมีวนิ ัย 2. การประพฤติ ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี 3. การดารงชีวิตอย่างเหมาะสม 4. ความรกั และศรทั ธาในวิชาชพี ครู 5. ความรบั ผดิ ชอบในวชิ าชีพ
8 ผลงานที่เกดิ จากการปฏบิ ตั หิ นา้ ทใี่ นตาแหน่งปจั จุบัน (ยอ้ นหลงั ไมเ่ กิน 2 ปี) 1. ผลทเ่ี กดิ จากการจัดการเรยี นรู้ 1.1 ร่วมกับคณะครูจัดทาหลกั สตู รสถานศกึ ษา วิเคราะหห์ ลกั สูตร จดั ทาแผนการจดั การ เรยี นรู้ และนาแผนการจดั การเรยี นรู้ไปใชใ้ นการจัดประสบการณใ์ หก้ ับนักเรยี น 1.2 ครูมีการวางแผนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้อย่างเป็นระบบมีการจดั การเรยี นรทู้ เ่ี นน้ ผเู้ รยี น เปน็ สาคัญ โดยใชส้ ื่อทห่ี ลากหลาย เน้นกระบวนการคดิ 1.3 มีการวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ตามสภาพจรงิ โดยใชเ้ คร่ืองมอื อยา่ งหลากหลายและนา ผลไปใช้ในการพฒั นาผูเ้ รียน 1.4 นกั เรยี นมรี ะดับผลการเรียนตัง้ แต่ 2 ข้นึ ไป คิดเป็นร้อยละ 85 ได้ดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้กับนักเรียน โดยร่วมกับคณะครูจัดทาหลักสูตรสถานศึกษา ระดับประถมศกึ ษา วเิ คราะห์หลักสตู ร จดั ทาแผนการจัดการเรยี นรู้ และนาแผนการจดั การเรียนรู้ไปใช้ใน การจัดการเรียนการสอนให้กับนักเรียน มีการวัดผลประเมินผลตามสภาพจริง โดยใช้แฟ้มสะสมผลงาน ชิ้นงาน แบบฝึก โดยการวัดผลประเมินผลดังกล่าวครอบคลุมทุกๆด้าน ได้แก่ ด้านความรู้ การปฏิบัติ กระบวนการและคณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ ท้ังนี้เพื่อส่งเสริมพัฒนาการของนักเรียนทั้ง 4 ดา้ น ไดแ้ ก่ ด้าน ร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม และสตปิ ัญญา และมีคุณธรรม จรยิ ธรรม ท้ังนี้เพ่ือใหน้ ักเรียนมีพัฒนาการท่ี ดี มีคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ ตลอดจนมีการบันทึกหลังการจัดกิจกรรมการสอนอย่างสม่าเสมอ ทั้งนี้เพ่ือ จะได้ช่วยแกไ้ ขขอ้ บกพร่องให้กบั นักเรยี นท่มี ปี ญั หา 2. ผลทีเ่ กดิ จากการพัฒนาวิชาการ 2.1 มกี ารจัดหา พฒั นา ประยุกตใ์ ชส้ อื่ นวัตกรรมในการจดั การเรียนรู้ สามารถนาไปใช้ไดผ้ ลดี 2.2 การใช้ความคิดเชิงระบบในการพฒั นางานอย่างครบวงจร และมปี ระสิทธภิ าพอยา่ งต่อเน่อื ง 2.3 การนาความร้ดู า้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศมาพัฒนาระบบการเรยี นรไู้ ด้ 2.4 การสง่ เสรมิ การคิดท่เี นน้ ผลคุณภาพทตี่ ัวผูเ้ รยี น 2.5 การนาวิธีการวิจยั และพัฒนามาแกป้ ัญหา พร้อมทงั้ พัฒนางานอยา่ งครบวงจร ผลท่เี กิดจากการพัฒนาตนเองทางด้านวิชาการ สง่ ผลให้ตนเองไดร้ ับการปรับวฒุ ิการศึกษาให้สงู ขึ้น และผ่านประเมินพัฒนาอย่างเข้มเปน็ ตาแหน่ง ครู โดยพัฒนาผู้เรยี นด้านคุณธรรม จริยธรรมความมีวินัยใน ตนเอง ซึง่ มผี ลงานเป็นทีป่ ระจักษ์ ตลอดจนได้รว่ มพฒั นาบุคลากรในโรงเรยี น โรงเรียนมีการเปลย่ี นแปลงไป ในทางท่ีดีขึ้นโดยบุคลากรในโรงเรียน และโรงเรียนเป็นท่ียอมรับของบุคคลท่ัวไปและหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง โดยมีการเผยแพร่ผลงานทางด้านวิชาการ นอกจากนั้นโรงเรียนยังสนับสนุนและส่งเสริมให้บุคลากรได้ พฒั นาสอ่ื และนวัตกรรม 3. ผลทเ่ี กิดกับผเู้ รยี น 3.1 นกั เรยี นมีคุณธรรม จริยธรรม และมีคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ตามสถานศึกษากาหนด 3.2 นักเรยี นมีผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นผ่านเกณฑก์ าหนดของโรงเรียน 3.3 นักเรียนไดร้ ับการพัฒนาทันตอ่ ความก้าวหน้าทางวิชาการและการเปลยี่ นแปลงทาง
9 ด้านเศรษฐกิจและสังคม การจัดกิจกรรมการการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ มีการให้นักเรียนได้ฝึกการ ปฏิบัติ จริง เพื่อให้นักเรียนได้มีทักษะต่างๆ ตลอดจนสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมที่ดีงาม ความมีวินัยในตนเอง ส่งผลให้ผู้เรียนมีคุณธรรมจริยธรรม มีวินัยในตนเอง มีสัมมาคารวะมีมารยาทตามวัฒนธรรมไทย มี ความสามารถในการใช้ภาษาในการส่ือสาร และการมีจินตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ ซงึ่ เป็นส่ิงทผี่ ู้เรียน สามารถนาความรู้ความเข้าใจและทักษะไปบูรณาการและประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันเป็นการเพิ่มพูน สมรรถนะตนเองให้มากขึ้นและส่งผลให้การใช้ชีวิตภายหน้า บนพื้นฐานคุณธรรม นาความรู้ และเศรษฐกิจ พอเพียง ตลอดจนการอยรู่ ่วมกนั ในสังคมไดอ้ ย่างมีความสุข 4. ผลที่เกิดกับสถานศึกษา 4.1 สถานศกึ ษาไดร้ ับการสนับสนนุ จากผปู้ กครอง ชุมนมุ หนว่ ยงาน องค์กรตา่ งๆ 4.2 มบี รรยากาศทั้งในและนอกหอ้ งเรยี นทเ่ี อื้อต่อการเรยี นรู้ของครแู ละผู้เรยี น 4.3 เป็นแหล่งเรียนรขู้ องสถานศกึ ษาหรือหนว่ ยงานตา่ งๆ 4.4 การนเิ ทศติดตามผลการปฏิบัติงานของครทู าให้การปฏิบตั งิ านมีความสมบรู ณ์ และเปน็ ไป ตามเวลาท่ีกาหนด 4.5 มรี ะบบการทางานเป็นทีมมากขึ้น 4.6 มแี นวปฏบิ ตั ิดา้ นเอกสาร หลักฐานทางการศึกษาท่ถี ูกต้อง 4.7 การพัฒนางานมีระบบถกู ตอ้ งและครบวงจร จากการท่ีสถานศึกษามกี ารวางแผนปฏบิ ัติราชการในการพัฒนา มเี ป้าหมาย มีทิศทางในการ ดาเนนิ งานเพื่อพฒั นาสถานศึกษา นักเรียน โดยมีการจดั กิจกรรม โครงการต่างๆอย่างเป็นรูปธรรม ซง่ึ นักเรียนและครูมสี ่วนรว่ มในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ทาใหผ้ ลการดาเนินงานเป็นทย่ี อมรบั ของผู้ปกครอง ชมุ ชน ท้องถิ่น 5. ผลทเ่ี กดิ กับชุมชน 5.1 ครู ผู้บริหาร และผปู้ กครอง มกี ารประชมุ ทุกภาคเรียน 5.2 ครู และผบู้ รหิ ารรว่ มกจิ กรรมสาคัญในชุมชนอย่างสมา่ เสมอ 5.3 โรงเรียนให้บริการแหลง่ เรยี นรู้แกช่ ุมชนในด้านต่างๆ รวมทง้ั ส่งเสริม สนับสนนุ ให้ ชุมชนมคี วามเข้มแข็ง 5.4 ชุมชนให้ความร่วมมือและสนับสนุนกจิ กรรมต่างๆ ของโรงเรยี นดว้ ยดี สถานศึกษามีส่วนร่วมกับชุมชน ในกิจกรรมต่างๆตลอดปีการศึกษา โดยเฉพาะกิจกรรมที่เก่ียวกับ วัฒนธรรม ประเพณี และพิธีกรรมทางศาสนา เช่น ประเพณีลอยกระทง ประเพณีสงกรานต์ การ ทอดผ้าป่า ทอดกฐิน เป็นต้น ตลอดจนกิจกรรมท่ีเป็นประโยชน์ กิจกรรมวันสาคัญ ได้แก่ กิจกรรมวันแม่ กจิ กรรมส่งเสริมภูมิปัญญาทอ้ งถ่นิ จนทาให้เกดิ ความรว่ มมือ ความเข้าใจท่ีดีตอ่ กัน เกิดความรักและความ ภาคภูมิใจในโรงเรียนและท้องถ่ิน นอกจากนี้โรงเรียนยังได้จัดกิจกรรมการประชุมผู้ปกครอง ประชุม
10 คณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐานในแต่ละภาคเรียนเพื่อช้ีแจงนโยบายของโรงเรียนและเพ่ือหาแนวทางใน การร่วมพฒั นาโรงเรยี นทงั้ พฒั นาอาคารสถานทแ่ี ละพฒั นาทางวิชาการใหเ้ ป็นไปในทางทศิ ทางเดยี วกัน
ส่วนท่ี 2 รายละเอียดการพัฒนาตนเอง อนั ดับ วธิ ีการ / ความ รปู แบบ ที่ สมรรถนะที่จะพฒั นา สาคญั การพฒั นา สมรรถนะหลกั 1 (T) 1 การมงุ่ ผลสัมฤทธ์ิ (S) 8 (OJT) 1.1 ความสามารถในการวางแผนการปฏบิ ตั ิงาน 1.2 ความสามารถในการปฏบิ ัตงิ าน 4 (T) 1.3 ผลการปฏิบัติงาน (T) 2 การบริการท่ีดี 2.1 ความสามารถในการสรา้ งระบบการให้บริการ (S) 2.2 ความสามารถในการใหบ้ ริการ (A) 3 การพฒั นาตนเอง (OJT) 3.1 ความสามารถในการวเิ คราะห์ตนเอง 3.2 ความสามารถในการใช้ภาษาไทยเพ่ือการสื่อสาร (S) 3.3 ความสามารถในการใชภ้ าษาองั กฤษ (C) เพ่ือการแสวงหาความรู้ 3.4 ความสามารถในการตดิ ตามความเคล่ือนไหว ทางวิชาการและวิชาชพี 3.5 ความสามารถในการประมวลความรู้และ การนาความรู้ไปใช้
11 ระยะเวลา การขอรับงบประมาณ ในการพัฒนา สนับสนุนจาก ประโยชนท์ ค่ี าดว่าจะไดร้ ับ า เร่มิ ต้น สน้ิ สุด หน่วยงาน มิ.ย.63 เม.ย.64 - จัดทาโครงการตาม - จดั การเรยี นรไู้ ดต้ ามเปา้ หมายของ มิ.ย.63 เม.ย.64 ปีงบประมาณ หลกั สูตร ม.ิ ย.63 เม.ย.64 ม.ิ ย.63 เม.ย.64 - จดั ทาโครงการตาม - มีระบบการให้บริการท่ดี ี ม.ิ ย.63 เม.ย.64 ปีงบประมาณ มิ.ย.63 เม.ย.64 - ไม่ใช้งบประมาณ - ปฏิบัติหน้าท่ีไดอ้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพ มิ.ย.63 เม.ย.64 - ไม่ใช้งบประมาณ - สามารถสอ่ื สารได้อยา่ งถกู ต้อง มิ.ย.63 เม.ย.64 - งบประมาณอบรม - ใช้ภาษาองั กฤษเพ่อื การแสวงหา ความรไู้ ด้ พัฒนาบคุ คลากร - มีความรู้ทางวชิ าการและวชิ าชีพ ม.ิ ย.63 เม.ย.64 - งบประมาณอบรม - ประมวลความรแู้ ละการนาความรู้ พฒั นาบุคคลากร ไปใชไ้ ดอ้ ย่างเหมาะสม ม.ิ ย.63 เม.ย.64 - ไมใ่ ชง้ บประมาณ
สว่ นที่ 2 รายละเอียดการพัฒนาตนเอง (ต่อ) อนั ดับ วธิ กี าร / ความ รปู แบบ ที่ สมรรถนะท่จี ะพฒั นา สาคญั การพฒั นา 4 การทางานเป็นทีม 5 (T) 4.1 ความสามารถในการวางแผนเพ่อื การปฏิบัติงาน เปน็ ทมี (P) 4.2 ความสามารถในการปฏิบัติงานร่วมกัน สมรรถนะประจาสายงาน 2 1 การจดั การเรยี นรู้ ( T) 1.1 ความสามารถในการสรา้ งและพัฒนาหลกั สูตร 1.2 ความสามารถในเน้อื หาสาระทสี่ อน (F) 1.3 ความสามารถในการจดั กระบวนการเรยี นรู้ (T) ทเี่ น้นผู้เรยี นเป็นสาคญั (T) 1.4 ความสามารถในการใช้และพัฒนานวัตกรรม เทคโนโลยี สารสนเทศเพื่อการจัดการเรียนรู้ 1.5 ความสามารถในการวัดและประเมินผล (T) การเรยี นรู้
12 ระยะเวลา การขอรบั งบประมาณ ในการพฒั นา สนับสนนุ จาก ประโยชนท์ ่คี าดว่าจะไดร้ ับ า เร่มิ ตน้ ส้ินสุด หนว่ ยงาน ม.ิ ย.63 เม.ย.64 - จัดทาโครงการตาม - วางแผนเพ่ือการปฏิบัตงิ านเปน็ ทมี ได้ ปีงบประมาณ มิ.ย.63 เม.ย.64 - จัดทาโครงการตาม - ปฏิบตั ิงานร่วมกันได้อย่างมี ปงี บประมาณ ประสทิ ธภิ าพ ม.ิ ย.63 เม.ย.64 - จัดทาโครงการตาม - สร้างและพฒั นาหลกั สตู ร ปีงบประมาณ ไดเ้ หมาะสมกบั ผู้เรียน มิ.ย.63 เม.ย.64 - จดั ทาโครงการตาม - สามารถสอนเน้อื หาสาระได้ถูกต้อง ปีงบประมาณ แม่นยา ม.ิ ย.63 เม.ย.64 - จดั ทาโครงการตาม - ความสามารถในการจัดกระบวนการ ปีงบประมาณ เรยี นรูท้ เ่ี น้นผูเ้ รยี นเปน็ สาคญั ได้ มิ.ย.63 เม.ย.64 - จัดทาโครงการตาม - ความสามารถในการใชแ้ ละพัฒนา ปงี บประมาณ นวัตกรรม เทคโนโลยี สารสนเทศ เพื่อการจัดการเรยี นรู้ ม.ิ ย.63 เม.ย.64 - จัดทาโครงการตาม - ความสามารถในการวดั และ ปีงบประมาณ ประเมินผลการเรยี นรู้
ส่วนที่ 2 รายละเอียดการพัฒนาตนเอง (ต่อ) อนั ดบั วิธกี าร / ความ รปู แบบ ท่ี สมรรถนะทจี่ ะพฒั นา สาคญั การพัฒนา 2 การพัฒนาผู้เรยี น 6 (T) 2.1 ความสามารถในการปลูกฝังคณุ ธรรม จริยธรรม 2.2 ความสามารถในการพัฒนาทักษะชีวติ (A) (T) สขุ ภาพกายและสขุ ภาพจติ (T) (OJT) 2.3 ความสามารถในการปลูกฝงั ความเป็น ประชาธิปไตย 2.4 ความสามารถในการปลูกฝงั ความเป็นไทย 2.5 ความสามารถในการจดั ระบบดแู ลและช่วยเหลอื 7 (A) ผู้เรยี น (S) 3 การบรหิ ารจัดการช้นั เรียน 3.1 ความสามารถในการจดั บรรยากาศการเรยี นรู้ 3.2 ความสามารถในการจดั ทาขอ้ มลู สารสนเทศ (T) และเอกสาร (S) 3.3 ความสามารถในการกากับดูแลชั้นเรยี น
13 ระยะเวลา การขอรับงบประมาณ ในการพัฒนา สนบั สนนุ จาก ประโยชนท์ ่คี าดว่าจะได้รับ า หน่วยงาน มิ.ย.63 เม.ย.64 - จดั ทาโครงการตาม - สามารถปลกู ฝงั คุณธรรม จรยิ ธรรม ปงี บประมาณ ม.ิ ย.63 เม.ย.64 - จัดทาโครงการตาม - สามารถพฒั นาทักษะชีวติ ปีงบประมาณ สขุ ภาพกายและสขุ ภาพจติ ม.ิ ย.63 เม.ย.64 - จดั ทาโครงการตาม - สามารถปลูกฝังความเป็น ปงี บประมาณ ประชาธปิ ไตยได้ มิ.ย.63 เม.ย.64 - จดั ทาโครงการตาม - สามารถปลกู ฝังความเป็นไทย ปงี บประมาณ มิ.ย.63 เม.ย.64 - จัดทาโครงการตาม - สามารถจัดระบบดูแล และช่วยเหลอื ปีงบประมาณ ผเู้ รียนได้ ม.ิ ย.63 เม.ย.64 - จัดทาโครงการตาม - สามารถจัดบรรยากาศการเรียนรู้ท่ีดี ปงี บประมาณ ม.ิ ย.63 เม.ย.64 - จดั ทาโครงการตาม - สามารถจดั ทาข้อมูลสารสนเทศ ปงี บประมาณ และเอกสารได้ มิ.ย.63 เม.ย.64 - ตามปีงบประมาณ - สามารถการกากบั ดูแลชั้นเรียน
ส่วนที่ 2 รายละเอียดการพัฒนาตนเอง (ต่อ) ท่ี สมรรถนะทีจ่ ะพฒั นา อนั ดับ วิธกี าร / ความ รปู แบบ 4 การวิเคราะห์ สงั เคราะห์และการวจิ ัย สาคญั การพฒั นา 4.1 ความสามารถในการวิเคราะห์ 3 (T) 4.2 ความสามารถในการสงั เคราะห์ (T) 4.3 ความสามารถในการเขยี นเอกสารทางวชิ าการ (E) 4.4 ความสามารถในการวิจัย (T) 5 การสรา้ งความรว่ มมือกบั ชมุ ชน 10 5.1 ความสามารถในการนาชุมชนมสี ว่ นร่วมใน กิจกรรมสถานศึกษา (S) 5.2 ความสามารถในการเข้าร่วมกิจกรรมของชมุ ชน (S)
14 ระยะเวลาใน การขอรับงบประมาณ การพฒั นา สนบั สนุนจาก ประโยชน์ทีค่ าดว่าจะไดร้ ับ า เร่ิมตน้ สน้ิ สดุ หนว่ ยงาน มิ.ย.63 เม.ย.64 - จดั ทาโครงการตาม - มีความสามารถในการวเิ คราะหไ์ ด้ ปีงบประมาณ มิ.ย.63 เม.ย.64 - จดั ทาโครงการตาม - มีความสามารถในการสังเคราะห์ได้ ปีงบประมาณ ม.ิ ย.63 เม.ย.64 - จดั ทาโครงการตาม - สามารถเขยี นเอกสารทางวชิ าการได้ ปงี บประมาณ มิ.ย.63 เม.ย.64 - จดั ทาโครงการตาม - มีสามารถในการทาการวจิ ยั ได้ ปงี บประมาณ ม.ิ ย.63 เม.ย.64 - จัดทาโครงการตาม - สามารถนาชมุ ชนเข้ามามีส่วนรว่ ม ปีงบประมาณ ในกิจกรรมสถานศึกษาได้ มิ.ย.63 เม.ย.64 - จัดทาโครงการตาม - สามารถเขา้ ร่วมกิจกรรมของชุมชนได้ ปงี บประมาณ
สว่ นท่ี 2 รายละเอียดการพัฒนาตนเอง (ต่อ) อันดบั วิธกี าร / ท่ี สมรรถนะทจ่ี ะพฒั นา ความ รปู แบบ การพฒั นา สาคญั (S) 6 วินัย คณุ ธรรม จรยิ ธรรมและจรรยาบรรณวชิ าชีพ 9 6.1 การมีวินยั 6.2 การประพฤติ ปฏบิ ตั ิตนเป็นแบบอย่างท่ีดี (S) 6.3 การดารงชีวิตอย่างเหมาะสม (S) 6.4 ความรกั และความศรัทธาในวิชาชพี (S) 6.5 ความรับผดิ ชอบในวิชาชพี (S)
15 ระยะเวลาใน การขอรับงบประมาณ การพฒั นา สนบั สนุนจาก ประโยชน์ที่คาดว่าจะไดร้ บั า เริม่ ต้น สิ้นสุด หนว่ ยงาน มิ.ย.63 เม.ย.64 - จดั ทาโครงการตาม - มีวินัยในตนเอง ปงี บประมาณ มิ.ย.63 เม.ย.64 - จดั ทาโครงการตาม - ประพฤติ ปฏบิ ตั ติ นเป็นแบบอยา่ ง ปงี บประมาณ ทด่ี ไี ด้ ม.ิ ย.61 เม.ย.64 - จดั ทาโครงการตาม - ดารงชีวติ ไดอ้ ย่างเหมาะสม ปงี บประมาณ ม.ิ ย.61 เม.ย.64 - จดั ทาโครงการตาม - รกั และความศรัทธาในวชิ าชีพ ปงี บประมาณ มิ.ย.61 เม.ย.64 - จัดทาโครงการตาม - รบั ผิดชอบในวชิ าชีพ ปงี บประมาณ
สว่ นท่ี 3 ตารางสรุปแผนพัฒนาตนเองและคารับรองแผนพฒั นาตนเองของผ้บู ังค อันดับ สมรรถนะที่จะพัฒนา วิธกี าร / รูปแบบการพัฒนา ความสาคญั 1 การมงุ่ ผลสมั ฤทธ์ิ (T) (S) (OJT) 2 การจัดการเรียนรู้ (T) 3 การวิเคราะห์ สงั เคราะหแ์ ละ (T) การวิจยั (S) (A) (OJT) (C) 4 การพัฒนาตนเอง 5 การทางานเป็นทมี (T) (P) 6 การพัฒนาผู้เรียน (OJT) (T) (A) 7 การบรหิ ารจัดการชนั้ เรยี น (S) (T)
16 คบั บัญชา ระยะเวลา การขอรบั งบประมาณ ประโยชนท์ คี่ าดว่าจะได้รบั ในการพฒั นา สนบั สนนุ จากหน่วยงาน เร่มิ ต้น สนิ้ สดุ มิ.ย.63 เม.ย.64 - จดั ทาโครงการ ยกระดับผลสมั ฤทธิ์ ตามปีงบประมาณ มิ.ย.63 เม.ย.64 - จัดทาโครงการ ความสามารถในการจดั การเรียนรู้ ตามปงี บประมาณ มิ.ย.63 เม.ย.64 - จัดทาโครงการ การวเิ คราะห์ สงั เคราะหแ์ ละการวิจยั ตามปีงบประมาณ มิ.ย.63 เม.ย.64 - จัดทาโครงการ พัฒนาตนเองให้มีความกา้ วหนา้ ตามปีงบประมาณ ในวชิ าชีพ มิ.ย.63 เม.ย.64 - จัดทาโครงการ มีทกั ษะในการทางานเป็นทีม ตามปงี บประมาณ ม.ิ ย.63 เม.ย.64 - จดั ทาโครงการ พัฒนาผ้เู รียนให้มีความรู้ ตามปีงบประมาณ ความสามารถตรงตามหลกั สูตร มิ.ย.63 เม.ย.64 - จดั ทาโครงการ สามารถจดั การชั้นเรยี นใหเ้ หมาะสม ตามปงี บประมาณ กับการจดั การเรยี นการสอน
ส่วนที่ 3 ตารางสรุปแผนพัฒนาตนเองและคารับรองแผนพฒั นาตนเองของผู้บังค อันดับ ความสาคญั สมรรถนะที่จะพฒั นา วธิ ีการ / รูปแบบการพัฒนา 8 การบริการที่ดี (T) 9 วนิ ัย คุณธรรม จริยธรรมและ (S) จรรยาบรรณวชิ าชพี (S) 10 การสรา้ งความรว่ มมือกบั ชุมชน ความคดิ เหน็ ของผบู้ ังคบั บัญชา..................................................................................... ............................................................................................................................. .........
17 คบั บัญชา (ต่อ) การขอรับงบประมาณ ประโยชน์ท่ีคาดวา่ จะไดร้ บั ระยะเวลา สนับสนนุ จากหนว่ ยงาน ในการพัฒนา มีระบบในการให้บริการท่ดี ี - จัดทาโครงการ เร่มิ ตน้ สิน้ สุด ตามปีงบประมาณ มวี ินัย คณุ ธรรม จริยธรรมและ ม.ิ ย.63 เม.ย.64 - จดั ทาโครงการ จรรยาบรรณในวิชาชีพ ตามปงี บประมาณ ใหช้ ุมชมมีบทบาทในการจัดการศึกษา ม.ิ ย.63 เม.ย.64 - จัดทาโครงการ และให้ความรว่ มมอื กบั กจิ กรรมใน ตามปงี บประมาณ ชุมชน ม.ิ ย.63 เม.ย.64 ลงช่อื .................................................... (นายเชาวลติ สนิ สถิตพร) ผู้จดั ทาแผนพฒั นาตนเอง ............. ............................................................................... .......................................... ............................................................................... ....................................................... ลงชอ่ื .................................................... (นายศักด์ิศรี รกั ษธ์ รรม) ผอู้ านวยการโรงเรยี นบา้ นยา่ นดินแดง
หมายเหตุ คาอธิบายวิธีการพัฒนาส A : Active Learning (เรียนรจู้ ากการปฏิบัติ) CE : Continuing Education (ศึกษาต่อ) F : Field Trip (ศึกษาดูงาน) M : Mentoring (ตดิ ตามโดยพ่ีเล้ยี ง) OJT : On the Job Training (สอนขณะปฏบิ ตั ิงาน) S : Self Study (ศึกษาดว้ ยตนเอง)
18 สมรรถนะ สญั ลกั ษณ์ และความหมาย C : Coaching (การสอนงาน) E : Expert Briefing (พบผ้เู ชี่ยวชาญ) J : Job Swap (แลกเปล่ยี นงาน) JR : Jop Rotation (หมุนเวียนงาน) ) P : Project Assignment (มอบหมายงาน) T : Training, Workshop (การฝึกอบรม/ประชมุ ปฏบิ ัตกิ าร)
19 ผลการประเมินสมรรถนะครู สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน ช่ือ นายเชาวลิต สินสถิตพร ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ไม่มี โรงเรยี น บา้ นยา่ นดินแดง สานกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาสุราษฏร์ธานี เขต 3 สมรรถนะ คะแนนเฉลย่ี ระดับคณุ ภาพ สมรรถนะหลัก (Core Competency) 001. การมุ่งผลสมั ฤทธใ์ิ นการปฏิบตั ิงาน 4.74 สงู 002. การบริการทด่ี ี 4.76 สูง 003. การพฒั นาตนเอง 4.71 สงู 004. การทางานเปน็ ทมี 4.83 สูง 005. จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชพี 4.73 สูง สมรรถนะประจาสายงาน (Functional Competency) 001. การบรหิ ารจัดการหลักสตู รและการจดั การเรยี นรู้ 4.83 สงู 002. การพัฒนาผ้เู รียน 4.85 สงู 003. การบริหารจดั การช้ันเรียน 4.50 สงู 004. การวเิ คราะห์ สงั เคราะห์และการวิจัยเพื่อพฒั นาผเู้ รียน 4.58 สงู 005. ภาวะผนู้ าครู 4.54 สงู 006. การสร้างความสัมพนั ธแ์ ละความร่วมมือกับชมุ ชน 4.67 สงู สรุปผล จานวน 11 สมรรถนะ สมรรถนะระดับคุณภาพสูง จานวน - สมรรถนะ สมรรถนะระดับคุณภาพปานกลาง จานวน - สมรรถนะ สมรรถนะระดบั คุณภาพควรปรบั ปรุง
20 แนวทางการประเมินการให้คะแนนและการแปลผลการประเมนิ สมรรถนะครู 1. การประเมินตามแนวทางนใ้ี ชแ้ บบประเมนิ สมรรถนะสาหรับครูผ้สู อนทาการประเมินสมรรถนะในการ ปฏิบัติงานตามสภาพจริง เพ่ือจะได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับสมรรถนะของครูผู้สอน และนาผลการประเมินไปใช้ใน การกาหนดกรอบการพัฒนาสมรรถนะครูใหม้ ีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลสูงสดุ ต่อการพฒั นาผูเ้ รยี น สถานศกึ ษาและวิชาชีพ ผใู้ ชแ้ บบประเมินสมรรถนะครู ดงั น้ี 1. ครผู ้สู อน : ประเมินตนเอง 2. เพอ่ื นครูผู้สอนในสถานศกึ ษาเดยี วกนั : ประเมนิ ครูผสู้ อน 3. ผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา : ประเมินครผู ู้สอน 2. การให้คะแนนการประเมินสมรรถนะครู 2.1 การให้คะแนนในแต่ละขอ้ รายการจะมีระดบั คณุ ภาพของสภาพการปฏบิ ตั ิงาน 5 ระดบั ได้แก่ ปฏบิ ัตินอ้ ยทส่ี ุด ปฏิบัตินอ้ ย ปฏบิ ัติปานกลาง ปฏบิ ัตมิ าก และปฏิบัติมากทส่ี ดุ โดยกาหนดค่าคะแนน เปน็ 1, 2, 3, 4 และ 5 ตามลาดับ 2.2 การตดั สินผลในแต่ละสมรรถนะ ใหท้ าการคานวณหาคะแนนเฉลีย่ รายสมรรถนะ และทั้งฉบับของครูเป็นรายบุคคล โดยนับจานวนความถ่ีของระดับการปฏิบัติ แล้วนาจานวนความถ่ีท่ีได้นับได้ ทั้งหมดมาคานวณหาคะแนนรวม โดยการนาจานวนความถ่ีในแต่ละระดับการปฏิบตั ิมาคูณคะแนนในแตล่ ะระดับ คุณภาพการปฏิบัติงานดังน้ี คอื ปฏิบัติน้อยทสี่ ดุ คุณดว้ ย 1 ปฏิบัตนิ ้อย คูณดว้ ย 2 ปานกลาง คูณดว้ ย 3 ปฏิบัติมาก คูณด้วย 4 และปฏิบัติมากท่ีสุด คูณด้วย 5 แล้วนาคะแนนมารวมกัน จากนั้นนาคะแนนรวมที่ได้ คานวณหาคะแนนเฉล่ยี 3. การแปลผลการประเมนิ สมรรถนะครู เปน็ การนาคะแนนเฉล่ยี มาเปรยี บเทยี บกบั เกณฑ์การแปลผล ที่กาหนดไว้ โดยกาหนดเกณฑจ์ ากผลการวเิ คราะห์คา่ เฉล่ีย (x) สว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐาน (S.D.) ของข้อมูลท่เี ก็บ รวบรวมได้ทัง้ หมดดังน้ี ค่าคะแนนเฉลย่ี ระดบั คุณภาพ มากกวา่ คา่ เฉล่ยี รวม + S.D. รวม ดี ระหว่าง ค่าเฉล่ีย รวม ± S.D. รวม พอใช้ น้อยกว่า ค่าเฉล่ยี รวม - S.D. รวม ปรบั ปรงุ การใหค้ ะแนนและแปลผลการประเมินสมรรถนะ คา่ คะแนนเฉลยี่ ระดบั คุณภาพ 4.01 – 5.00 สงู 3.01 – 4.00 ปานกลาง ต้งั แต่ 3.00 ลงมา ควรปรับปรุง
21 4. การนาเสนอผลการประเมินสมรรถนะครู การนาเสนอผลการประเมนิ ใหน้ าคะแนนเฉล่ีย และระดับคุณภาพในแต่ละสมรรถนะมากรอกลงในแบบ สรปุ ผลการประเมินสมรรถนะของครูผูส้ อนในตอนท้ายของแบบประเมิน แลว้ จึงรายงานผลการประเมิน ให้ผูบ้ ริหารหรือหน่วยงานท่เี ก่ียวข้องนาไปเป็นแนวทางในการพฒั นาสมรรถนะครตู ่อไป
22 บรรณานกุ รม จัดการความรู้, ศนู ย,์ สพป.ชพ1. . http://area.obec.go.th/chumpron1/kmc/modules.php?name=News&file =article&sid=450. 29 ก.ย. 2551. ธีรศกั ดิ์ โกรธกล้า. http://gotoknow.org/blog/kruteerasark/208594. 29 ก.ย. 2551 พฒั นาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา, สถาบัน. http://www.nidtep.go.th/competency/ book.htm 29 ก.ย. 2551 ยนื ยง ราชวงษ์. http://gotoknow.org/blog/yuenyong/180318. 29 ก.ย. 2551
Search
Read the Text Version
- 1 - 34
Pages: