คำและชนิดของคำ

แบบทดสอบก่อนเรยี น เร่ืองคำและชนิดของคำ ทง้ั ๗ ชนิด ข้อสอบมีทง้ั หมดจำนวน ๓๐ ขอ้ ละ ๑ คะแนน เวลำ ๖๐ นำที คำช้ีแจง: ให้นักเรียนเลือก คำตอบท่ีถูกท่ีสุดเพยี งหน่ึงคำตอบ 1. พสกนิกร ร่วมกิจกรรมจกั รยานเฉลิมพระเกยี รติ \"ปั่นเพือ่ พ่อ Bike for Dad\" คำที่ ๖. คาว่า “ เขา” ในข้อใดเปน็ สรรพนามบรุ ษุ ที่ ๓ ขีดเส้นใต้เป็ นคำนำมชนิดใด ก. นกเขาตัวน้ันขันเสยี งใส ข. เราใช้มีดเขาควายคว้านมะพร้าวน้าหอม ก. ลักษณนาม ค. ฉันจะพูดใหเ้ ขาใจออ่ นเอง เธอรอหนอ่ ยนะ ข. อาการนาม ง. ภเู ขาลกู โน้นอย่ใู นเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ค. สามานยนาม ง. วสิ ามานยนาม ๗. ประโยคในขอ้ ใดที่มสี รรพนามทาหนา้ ท่เี หมือนกับประโยคกาหนดให้ 2. การออกกาลงั กายสม่าเสมอและการรับประทานอาหารใหค้ รบหา้ หมใู่ นปริมาณที่ “นกั เรยี นบา้ งกอ็ ่านหนงั สอื บ้างก็ทาการบา้ น” พอเหมาะจะสง่ ผลดีต่อสขุ ภาพรา่ งกายเราคาท่ีขดี เส้นใต้เปน็ คานามชนดิ ใด ก. พวกเขาวง่ิ กนั ไปที่ไหน ก. ลักษณนาม ข. ประชาชนตา่ งกม็ ารว่ มป่ันเพ่อื แม่ ข. อาการนาม ค. ใครๆกบ็ อกว่าเธอสวยทสี่ ดุ ในห้อง ค. สามานยนาม ง. เขาใหค้ วามช่วยเหลอื ซง่ึ กันและกัน ง. วิสามานยนาม 3. ขอ้ ใดทาหน้าท่ีสมหุ นามได้ถูกต้อง ๘. \"ใคร\" ในข้อใดเป็ นอนิยมสรรพนำม ก. โขลง ช้างเดินที่ชายปา่ ก. วนั นเี้ วรของใครทำควำมสะอำดห้อง ข. ผึง้ ๑ ฝูง กาลงั ทารัง ข. ใคร ๆ กอ็ ยำกสวยด้วยกนั ท้งั น้นั ค. นกนางนวล บินโฉบเฉีย่ วบนทอ้ งฟ้า ค. เพื่อนสนทิ ของเธอเป็ นใคร ง. กรรมการ คณะนน้ั กาลังตรวจบัญชี ง. ใครอย่ใู นห้องนำ้ ชำย 4. ขอ้ ใดใชล้ ักษณะนามไมถ่ ูกตอ้ ง ก. วนิ ยั มปี ี่ 1 เลำ ๙. ข้อใด คือควำมหมำยของ ประพนั ธสรรพนำม ข. น้องมตี กุ๊ ตา 2 ตวั ค. พอ่ จดุ ธูป 3 ดอก ก. คาสรรพนามไม่ชี้เฉพาะ ง. แม่ซอื้ อวนมา 4 ตวั ข. คาสรรพนาม ชีเ้ ฉพาะ เจาะจง 5. คาใดในประโยคทาหนา้ ทเี่ ชอื่ มคานามกับคานาม ค. คาสรรพนาม เพอื่ ทาหนา้ ที่เช่ือมประโยค ก. พวกเราพยายามใกล้สาเร็จแล้ว ง. คาสรรพนามที่ใชเ้ พ่ือแสดงการแบง่ พวก ข. ฉันจะไปเยยี่ มเธอเพรำะฉันคดิ ถึงเธอ ๑๐. คาว่า \"ขน\" ในขอ้ ใดทาหนา้ ทเ่ี ป็นกิริยาของประโยค ค. โต๊ะในห้องเรียนมที ง้ั หมดสามสิบเจ็ดตวั ก.อมรใชไ้ มข้ นไก่ปัดฝนุ่ ง. เขาชอบกนิ แกงเผ็ดแตฉ่ ันชอบกนิ แกงจดื ข.บงั อรมขี นตางอนงาม ค.สนุ ัขขนขาวดนู า่ รัก ง.นภาใชร้ ถขนผกั ไปตลาด

แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่องคำและชนิดของคำ ทั้ง ๗ ชนิด ๑๑. ประโยคใดมชี นิดของคำกริยำแตกต่ำงจำกประโยคอื่น ๑๖. จากประโยค “ คุณแมต่ กั บาตรทกุ เช้า” คาใดเป็นคาวเิ ศษณ์ และเป็นคาวเิ ศษณช์ นิดใด ก. คณุ ยำยสวดมนต์ก่อนนอน ก. คุณแม่ เปน็ คาวิเศษณ์บอกลกั ษณะ ข. คณุ แม่รดนำ้ ต้นไม้ก่อนทำอำหำร ข. ตกั บำตร เป็ นคำวเิ ศษณ์บอกสถำนท่ี ค. นกั เรียนทบทวนหนังสือก่อนสอบ ค. ทุก เป็นคาวิเศษณบ์ อกปริมาณ ง. คณุ พ่อคำดเขม็ ขัดนิรภัยก่อนขบั รถ ง. เชา้ เปน็ คาวเิ ศษณบ์ อกเวลา ๑๒.ประโยคในข้อใดเป็นวิกตรรถกริยา ๑๗. จากประโยค “เราท้งั หลายเปน็ คนไทย” คาใดเป็นคาวิเศษณ์ ทาหนา้ ทใ่ี ดในประโยค ก. ฐติ ิมาเปน็ ประธานนกั เรยี น ก. เรา ขยายนาม ข. ครูยืนอยขู่ า้ งสนามฟตุ บอล ข. เป็ น ขยำยกริยำ ค. นักเรียนเพลดิ เพลนิ กับการซอ้ มกีฬา ค. คนไทย ขยายวเิ ศษณ์ ง. เม่อื เขา้ ส่ฤู ดูฝนเกษตรกรกาลงั ไถนา ง. ท้ังหลาย ขยายสรรพนาม ๑๓. “ผู้ใหญ่เพลดิ เพลนิ เล่นสำดนำ้ ในวนั สงกรำนต์” เป็ นกริยำชนดิ ใด ๑๘. คาใดในประโยคทาหน้าทีค่ าบพุ บทขยายคานาม ก. สกรรมกรยิ า ก. นักเรยี นอยใู่ นห้อง ข. อกรรมกริยา ข. ฉันจะอยู่ใกล้เธอ ค. วกิ ตรรถกริยา ค. ปากกาของฉนั อยู่ท่ีเขา ง. กรยิ านุเคราะห์ ง. เขาเก็บอาหารไวส้ าหรบั รบั ประทาน ๑๔. ข้อใดมคี าวิเศษณบ์ อกสถานที่ ๑๙.ขอ้ ใดใช้คาบพุ บทได้ถกู ตอ้ ง ก. เขาอ่านหนงั สอื เสียงดัง ก. เขาอยูเ่ หนอื ฉนั อยใู่ ต้ ข. รถไฟขบวนนนั้ หยดุ อยู่กบั ที่ ข. ป้ำอยู่ในร้ำน ลุงอยู่นอกร้ำน ค. เขาลอ่ งเรือไปทางทศิ ใต้ ค. คณุ พอ่ อย่ไู กล คณุ แมอ่ ยู่ใกล้ ง. พวกเราทุกคนตอ้ งขยันเรยี น ง. เขาให้รางวัล แก่คนทีแ่ ต่งกลอนได้ทหี่ น่งึ ๑๕. คาท่ีขีดเสน้ ใต้ในข้อใดเปน็ คาวิเศษณข์ ยายกรยิ า ๒๐. คา “ของ” ในข้อใดเป็นคาบพุ บท ก. เขาว่ิงเรว็ ก. รังสนิ นั เปน็ นักกฬี าของโรงเรียน ข. บญุ มากสวมเส้อื เก่า ข. น้องวางของเกล่อื นกลาดห้อง ค. อารคี ัดลายมือไดส้ วยมาก ค. ฉนั ซอ้ื ของขวญั ปีใหมใ่ ห้เธอ ง. กางเกงสดี าตากอยู่บนราวผ้า ง. หนังสอื การ์ตูนอย่ใู นห้องเก็บของ

แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่องคำและชนดิ ของคำ ทั้ง ๗ ชนดิ ๒๑. ข้อใดใช้คำบุพบทไม่ถูกต้อง ๒๖.ข้อใดใช้คำอทุ ำนได้ถูกต้อง ก. บ้ำนของฉันอย่ใู กล้โรงเรียน ก. อนิจจัง ! ทำไมสวยเหลือเกนิ ข. พ่อคือพ่อของแผ่นดนิ ข. หื้อหือ ! เธอรีบมำทำงนเี้ ร็วๆด้วยนะ ค. ลกู ศิษย์ปรึกษำครูประจำช้ัน ค. ไชโย! ทีมฟุตบอลไทยทำไมไปไม่ถงึ ดวงดำว ง. คณุ ป่ ูออกไปเดนิ เล่นนอกบ้ำน ง. โอ๊ย! ทำไมเขำจึงได้รับควำมเจบ็ ปวดมำกขนำดน้นั ๒๒.ข้อใดใช้คำสันธำนเช่ือมประโยคทเี่ ป็ นเหตเุ ป็ นผลกนั ๒๗.ข้อใดใช้คำอทุ ำนเพ่ือแสดงควำมรำพงึ รำพนั ได้ถูกต้อง ก. เพรำะเขำขยนั เรียนจงึ สอบได้คะแนนดี ก. โอ้ว่ำ ! รักหนอรักนีห้ นกั จติ บำงครำวคดิ ว่ำสนุกเป็ นสุขี ข. เพรำะอำกำศร้อนฝนจงึ ตกในตอนกลำงคืน ข. เฮ้ย ! รักหนอรักนีห้ นักจติ บำงครำวคดิ ว่ำสนุกเป็ นสุขี ค. เพรำะฉันต้องกำรลดควำมอ้วนจงึ ไม่ทำนข้ำวเช้ำ ค. เอ๊ะ ! รักหนอรักนีห้ นักจิต บำงครำวคดิ ว่ำสนุกเป็ นสุขี ง. เพรำะน้องต้องกำรไปโรงเรียนกบั พเี่ ขำมจี ักรยำน ง. แหม ! รักหนอรักนีห้ นักจติ บำงครำวคดิ ว่ำสนุกเป็ นสุขี ๒๓.ข้อใดใช้คำสันธำนไม่ถูกต้อง ๒๘.ข้อใดใช้คำอุทำนเสริมบทไม่ถูกต้อง ก. ดำเป็ นตอตะโก ก. ลกู เต้ำ เล้ำอ่อน ข. เสียงดงั รำวกบั เสียงระฆงั ข. ผกั หญ้ำ ปลำยำ ค. บริสุทธ์ิเหมือนหยำดนำ้ ค้ำง ค. สิงห์ สำ หน้ำไม้ ง. แห้งแล้งเหมือนทะเลทรำย ง. ลด ลำ วำศอก ๒๔.ข้อใดใช้คำสันธำนเช่ือมประโยคทีข่ ดั แย้งกนั ได้ถูกต้อง ๒๙.ข้อใดใช้คำอทุ ำนบอกอำกำรได้ถูกต้อง ก. ถงึ เขำจะเป็ นนักมวยฉันกไ็ ม่กลวั เขำ ก. พทุ โธ่ ! เขำตำยเสียแล้วหรือ ? ข. เพรำะเขำอยำกมเี งนิ แต่เขำกต็ ้องทำงำน ข. สนุก นิ เรำเศร้ำสิ้น สบหน้ำหมนั่ เกษม ค. ใบไม้ร่วงเพรำะฉะน้นั สนำมจงึ สกปรก ค. เดก็ เอย ทำไมจงึ ร้อง ง. ถ้ำเขำมคี วำมสุขฉันกย็ นิ ดกี บั เขำด้วย ง. ฉันไม่รู้ ฉันไม่ชี้ อะไรเลย ๒๕.จงเตมิ คำเชื่อมลงในช่องว่ำงประโยคท่กี ำหนดให้ ข้อใดมใี จควำมขดั แย้งกนั ๓๐. “วนั หยุดนคี้ รอบครัวของฉันจะไปพกั ผ่อน ........ พทั ยำ ............. ลงเรือไปเที่ยวเกำะด้วย” ก. ............เคนกลบั ถึงบ้ำนฝน............ตกทันที ควรเตมิ คำใดจงึ จะทำให้เป็ นประโยคท่สี มบูรณ์ ข. ปอไปห้องสมุด...........ต้อยไปร้ำนอำหำร ก. ณ , ท่ี ค. .........ไฟฟ้ำดบั ก้อย..........ไม่ได้ทำกำรบ้ำน ข. ท่ี , และ ง. นภำขยนั เรียนมำก .........สอบเข้ำเรียนช้ัน ม.๑ ได้ ค. และ , ที่ ง. ที่ , เพรำะ























































































แบบทดสอบหลังเรยี น เรื่องคำและชนดิ ของคำ ทัง้ ๗ ชนิด ข้อสอบมีทง้ั หมดจำนวน ๓๐ ขอ้ ละ ๑ คะแนน เวลำ ๖๐ นำที คำชแี้ จง: ให้นักเรียนเลือก คำตอบท่ีถูกท่ีสุดเพยี งหน่ึงคำตอบ 1. พสกนิกร ร่วมกิจกรรมจกั รยานเฉลิมพระเกียรติ \"ปั่นเพอ่ื พอ่ Bike for Dad\" คำท่ี ๖. คาว่า “ เขา” ในข้อใดเปน็ สรรพนามบรุ ษุ ที่ ๓ ขีดเส้นใต้เป็ นคำนำมชนิดใด ก. นกเขาตัวน้ันขันเสยี งใส ข. เราใช้มีดเขาควายคว้านมะพรา้ วน้าหอม ก. ลักษณนาม ค. ฉันจะพูดใหเ้ ขาใจออ่ นเอง เธอรอหนอ่ ยนะ ข. อาการนาม ง. ภเู ขาลกู โน้นอย่ใู นเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ค. สามานยนาม ง. วสิ ามานยนาม ๗. ประโยคในขอ้ ใดที่มีสรรพนามทาหนา้ ท่เี หมือนกบั ประโยคกาหนดให้ 2. การออกกาลงั กายสม่าเสมอและการรับประทานอาหารให้ครบหา้ หมใู่ นปริมาณที่ “นกั เรยี นบ้างกอ็ ่านหนงั สอื บ้างกท็ าการบา้ น” พอเหมาะจะส่งผลดีต่อสขุ ภาพรา่ งกายเราคาท่ีขดี เส้นใตเ้ ป็นคานามชนดิ ใด ก. พวกเขาวง่ิ กนั ไปทไี่ หน ก. ลักษณนาม ข. ประชาชนตา่ งกม็ ารว่ มป่นั เพื่อแม่ ข. อาการนาม ค. ใครๆกบ็ อกว่าเธอสวยทส่ี ุดในห้อง ค. สามานยนาม ง. เขาใหค้ วามช่วยเหลอื ซึ่งกันและกัน ง. วิสามานยนาม 3. ขอ้ ใดทาหนา้ ที่สมุหนามไดถ้ กู ต้อง ๘. \"ใคร\" ในข้อใดเป็ นอนิยมสรรพนำม ก. โขลง ชา้ งเดนิ ที่ชายปา่ ก. วนั นเี้ วรของใครทำควำมสะอำดห้อง ข. ผง้ึ ๑ ฝงู กาลงั ทารัง ข. ใคร ๆ กอ็ ยำกสวยด้วยกนั ท้งั น้นั ค. นกนางนวล บินโฉบเฉี่ยวบนทอ้ งฟ้า ค. เพื่อนสนทิ ของเธอเป็ นใคร ง. กรรมการ คณะนน้ั กาลังตรวจบัญชี ง. ใครอย่ใู นห้องนำ้ ชำย 4. ข้อใดใชล้ กั ษณะนามไมถ่ ูกต้อง ก. วินยั มีปี่ 1 เลำ ๙. ข้อใด คือควำมหมำยของ ประพนั ธสรรพนำม ข. น้องมตี ุ๊กตา 2 ตวั ค. พ่อจดุ ธปู 3 ดอก ก. คาสรรพนามไม่ชี้เฉพาะ ง. แม่ซือ้ อวนมา 4 ตวั ข. คาสรรพนาม ชีเ้ ฉพาะ เจาะจง 5. คาใดในประโยคทาหนา้ ท่ีเชื่อมคานามกบั คานาม ค. คาสรรพนาม เพอื่ ทาหน้าที่เชือ่ มประโยค ก. พวกเราพยายามใกล้สาเร็จแลว้ ง. คาสรรพนามที่ใชเ้ พ่ือแสดงการแบง่ พวก ข. ฉันจะไปเยยี่ มเธอเพรำะฉันคดิ ถงึ เธอ ๑๐. คาว่า \"ขน\" ในขอ้ ใดทาหน้าทเ่ี ป็นกริ ิยาของประโยค ค. โต๊ะในหอ้ งเรยี นมที ง้ั หมดสามสบิ เจ็ดตัว ก.อมรใชไ้ มข้ นไก่ปัดฝนุ่ ง. เขาชอบกินแกงเผ็ดแต่ฉันชอบกินแกงจดื ข.บงั อรมขี นตางอนงาม ค.สนุ ัขขนขาวดนู า่ รัก ง.นภาใชร้ ถขนผกั ไปตลาด

แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่องคำและชนิดของคำ ทั้ง ๗ ชนิด ๑๑. ประโยคใดมชี นิดของคำกริยำแตกต่ำงจำกประโยคอื่น ๑๖. จากประโยค “ คุณแมต่ กั บาตรทกุ เช้า” คาใดเป็นคาวเิ ศษณ์ และเป็นคาวเิ ศษณช์ นิดใด ก. คณุ ยำยสวดมนต์ก่อนนอน ก. คุณแม่ เปน็ คาวิเศษณ์บอกลกั ษณะ ข. คณุ แม่รดนำ้ ต้นไม้ก่อนทำอำหำร ข. ตกั บำตร เป็ นคำวเิ ศษณ์บอกสถำนท่ี ค. นกั เรียนทบทวนหนังสือก่อนสอบ ค. ทุก เป็นคาวิเศษณบ์ อกปริมาณ ง. คณุ พ่อคำดเขม็ ขัดนิรภัยก่อนขบั รถ ง. เชา้ เปน็ คาวเิ ศษณบ์ อกเวลา ๑๒.ประโยคในข้อใดเป็นวิกตรรถกริยา ๑๗. จากประโยค “เราท้งั หลายเปน็ คนไทย” คาใดเป็นคาวิเศษณ์ ทาหนา้ ทใ่ี ดในประโยค ก. ฐติ ิมาเปน็ ประธานนกั เรยี น ก. เรา ขยายนาม ข. ครูยืนอยขู่ า้ งสนามฟตุ บอล ข. เป็ น ขยำยกริยำ ค. นักเรียนเพลดิ เพลนิ กับการซอ้ มกีฬา ค. คนไทย ขยายวเิ ศษณ์ ง. เม่อื เขา้ ส่ฤู ดูฝนเกษตรกรกาลงั ไถนา ง. ท้ังหลาย ขยายสรรพนาม ๑๓. “ผู้ใหญ่เพลดิ เพลนิ เล่นสำดนำ้ ในวนั สงกรำนต์” เป็ นกริยำชนดิ ใด ๑๘. คาใดในประโยคทาหน้าทีค่ าบพุ บทขยายคานาม ก. สกรรมกรยิ า ก. นักเรยี นอยใู่ นห้อง ข. อกรรมกริยา ข. ฉันจะอยู่ใกล้เธอ ค. วกิ ตรรถกริยา ค. ปากกาของฉนั อยู่ท่ีเขา ง. กรยิ านุเคราะห์ ง. เขาเก็บอาหารไวส้ าหรบั รบั ประทาน ๑๔. ข้อใดมคี าวิเศษณบ์ อกสถานที่ ๑๙.ขอ้ ใดใช้คาบพุ บทได้ถกู ตอ้ ง ก. เขาอ่านหนงั สอื เสียงดัง ก. เขาอยูเ่ หนอื ฉนั อยใู่ ต้ ข. รถไฟขบวนนนั้ หยดุ อยู่กบั ที่ ข. ป้ำอยู่ในร้ำน ลุงอยู่นอกร้ำน ค. เขาลอ่ งเรือไปทางทศิ ใต้ ค. คณุ พอ่ อย่ไู กล คณุ แมอ่ ยู่ใกล้ ง. พวกเราทุกคนตอ้ งขยันเรยี น ง. เขาให้รางวัล แก่คนทีแ่ ต่งกลอนได้ทหี่ น่งึ ๑๕. คาท่ีขีดเสน้ ใต้ในข้อใดเปน็ คาวิเศษณข์ ยายกรยิ า ๒๐. คา “ของ” ในข้อใดเป็นคาบพุ บท ก. เขาว่ิงเรว็ ก. รังสนิ นั เปน็ นักกฬี าของโรงเรียน ข. บญุ มากสวมเส้อื เก่า ข. น้องวางของเกล่อื นกลาดห้อง ค. อารคี ัดลายมือไดส้ วยมาก ค. ฉนั ซอ้ื ของขวญั ปีใหมใ่ ห้เธอ ง. กางเกงสดี าตากอยู่บนราวผ้า ง. หนังสอื การ์ตูนอย่ใู นห้องเก็บของ

แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่องคำและชนดิ ของคำ ทั้ง ๗ ชนดิ ๒๑. ข้อใดใช้คำบุพบทไม่ถูกต้อง ๒๖.ข้อใดใช้คำอทุ ำนได้ถูกต้อง ก. บ้ำนของฉันอย่ใู กล้โรงเรียน ก. อนิจจัง ! ทำไมสวยเหลือเกนิ ข. พ่อคือพ่อของแผ่นดนิ ข. หื้อหือ ! เธอรีบมำทำงนเี้ ร็วๆด้วยนะ ค. ลกู ศิษย์ปรึกษำครูประจำช้ัน ค. ไชโย! ทีมฟุตบอลไทยทำไมไปไม่ถงึ ดวงดำว ง. คณุ ป่ ูออกไปเดนิ เล่นนอกบ้ำน ง. โอ๊ย! ทำไมเขำจึงได้รับควำมเจบ็ ปวดมำกขนำดน้นั ๒๒.ข้อใดใช้คำสันธำนเช่ือมประโยคทเี่ ป็ นเหตเุ ป็ นผลกนั ๒๗.ข้อใดใช้คำอทุ ำนเพ่ือแสดงควำมรำพงึ รำพนั ได้ถูกต้อง ก. เพรำะเขำขยนั เรียนจงึ สอบได้คะแนนดี ก. โอ้ว่ำ ! รักหนอรักนีห้ นกั จติ บำงครำวคดิ ว่ำสนุกเป็ นสุขี ข. เพรำะอำกำศร้อนฝนจงึ ตกในตอนกลำงคืน ข. เฮ้ย ! รักหนอรักนีห้ นักจติ บำงครำวคดิ ว่ำสนุกเป็ นสุขี ค. เพรำะฉันต้องกำรลดควำมอ้วนจงึ ไม่ทำนข้ำวเช้ำ ค. เอ๊ะ ! รักหนอรักนีห้ นักจิต บำงครำวคดิ ว่ำสนุกเป็ นสุขี ง. เพรำะน้องต้องกำรไปโรงเรียนกบั พเี่ ขำมจี ักรยำน ง. แหม ! รักหนอรักนีห้ นักจติ บำงครำวคดิ ว่ำสนุกเป็ นสุขี ๒๓.ข้อใดใช้คำสันธำนไม่ถูกต้อง ๒๘.ข้อใดใช้คำอุทำนเสริมบทไม่ถูกต้อง ก. ดำเป็ นตอตะโก ก. ลกู เต้ำ เล้ำอ่อน ข. เสียงดงั รำวกบั เสียงระฆงั ข. ผกั หญ้ำ ปลำยำ ค. บริสุทธ์ิเหมือนหยำดนำ้ ค้ำง ค. สิงห์ สำ หน้ำไม้ ง. แห้งแล้งเหมือนทะเลทรำย ง. ลด ลำ วำศอก ๒๔.ข้อใดใช้คำสันธำนเช่ือมประโยคทีข่ ดั แย้งกนั ได้ถูกต้อง ๒๙.ข้อใดใช้คำอทุ ำนบอกอำกำรได้ถูกต้อง ก. ถงึ เขำจะเป็ นนักมวยฉันกไ็ ม่กลวั เขำ ก. พทุ โธ่ ! เขำตำยเสียแล้วหรือ ? ข. เพรำะเขำอยำกมเี งนิ แต่เขำกต็ ้องทำงำน ข. สนุก นิ เรำเศร้ำสิ้น สบหน้ำหมนั่ เกษม ค. ใบไม้ร่วงเพรำะฉะน้นั สนำมจงึ สกปรก ค. เดก็ เอย ทำไมจงึ ร้อง ง. ถ้ำเขำมคี วำมสุขฉันกย็ นิ ดกี บั เขำด้วย ง. ฉันไม่รู้ ฉันไม่ชี้ อะไรเลย ๒๕.จงเตมิ คำเชื่อมลงในช่องว่ำงประโยคท่กี ำหนดให้ ข้อใดมใี จควำมขดั แย้งกนั ๓๐. “วนั หยุดนคี้ รอบครัวของฉันจะไปพกั ผ่อน ........ พทั ยำ ............. ลงเรือไปเที่ยวเกำะด้วย” ก. ............เคนกลบั ถึงบ้ำนฝน............ตกทันที ควรเตมิ คำใดจงึ จะทำให้เป็ นประโยคท่สี มบูรณ์ ข. ปอไปห้องสมุด...........ต้อยไปร้ำนอำหำร ก. ณ , ท่ี ค. .........ไฟฟ้ำดบั ก้อย..........ไม่ได้ทำกำรบ้ำน ข. ท่ี , และ ง. นภำขยนั เรียนมำก .........สอบเข้ำเรียนช้ัน ม.๑ ได้ ค. และ , ที่ ง. ที่ , เพรำะ