และผ่อนคลาย กบั การออมในคร้งั นี้ 10. การออมจะตอ้ งมคี วามเสีย่ งทตี่ ่ากวา่ การลงทนุ เช่น หากคณุ คิดจะลงทนุ กับตลาดหลกั ทรัพย์โดยการเล่นหนุ้ คณุ ควรศกึ ษาข้อมูลให้ดีก่อนทุกครงั้ ทบทวนหา อตั ราความเส่ยี ง โดยคํานวณให้ตา่ํ กว่าจํานวนเงินที่ลงทุนลงไป เพ่ือที่คุณจะได้ไม่เจ็บตวั มาก เม่ือประสบกับ สภาวะลม้ เลวในบางช่วงจังหวะของชวี ิต 10 แนวคดิ นี้จะชว่ ยใหค้ ุณออมเงินได้งา่ ยข้ึนอยา่ งแน่นอน แถมยงั มีเงนิ เก็บออมอย่างรวดเร็วและ มากขน้ึ ภายในเวลาสนั้ ๆ อกี ด้วย ลองนาํ ไปทํากันดนู ะค่ะ สถาบนั การเงินสามารถแบง่ ออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ธนาคาร และสถาบนั การเงินทีไ่ ม่ใช่ธนาคาร 1. ธนาคาร 1.1 ธนาคารกลาง หมายถงึ สถาบันทางการเงนิ ของรฐั ซ่ึงมอี าํ นาจหน้าที่ควบคุมปรมิ าณเงนิ และ เครดิตของประเทศ ให้อยู่ในปริมาณทีเ่ หมาะสมเพ่ือให้เกิดความก้าวหนา้ และเสถยี รภาพต่อระบบเศรษฐกจิ ของประเทศ แต่ต้องอยู่ภายใต้นโยบายของรัฐบาล ไม่ไดแ้ สวงหาผลกําไรเป็นผลตอบแทนเหมอื นกับธนาคาร พาณิชย์ ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศไทย 1.2 ธนาคารพาณชิ ย์ หมายถงึ ธนาคารทีป่ ระกอบธุรกจิ ประเภทรับฝากเงนิ ที่ตอ้ งจ่ายเงินคืนเมื่อ ตอ้ งทวงถาม หรอื เมื่อส้ินระยะเวลาท่กี าํ หนดไว้ รวมทั้งให้กยู้ ืมหรือสนิ เชอ่ื แกป่ ระชาชน ให้บริการซื้อขายตั๋ว แลกเงนิ หรือซ้ือขายเงินตราตา่ งประเทศ 1.3 ธนาคารท่มี วี ัตถปุ ระสงคเ์ ป็นพเิ ศษ ไดแ้ ก่ 1) ธนาคารออมสิน เป็นธนาคารของรฐั บาล มหี น้าท่ีรับฝากเงินจากประชาชน ท่ัวไป โดยเฉพาะผมู้ เี งนิ ออมรายย่อย ออกพนั ธบตั ร สลากออมสนิ รับฝากเงินในรปู แบบตา่ ง ๆ เพื่อ สงเคราะหช์ ีวติ และการศึกษาโดยเฉพาะเยาวชนของชาติ และกจิ กรรมอืน่ ๆ เช่น ปล่อยเงนิ กู้ใหผ้ มู้ ีรายได้ น้อยในวงเงนิ ตา่ํ คนท่วั ไปจึงเรยี กวา่ ธนาคารคนจน 2) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เป็นธนาคารของรัฐบาล มีวัตถุประสงคเ์ พ่ือใหค้ วามอนุเคราะห์ แกป่ ระชาชนเก่ียวกบั การกูย้ ืม เพ่ือนาํ ไปซอ้ื ที่ดินหรอื อาคารสง่ิ ปลูกสร้าง หรือซอ่ มแซมต่อเติม ไถถ่ อนการ จาํ นองท่ดี ินและอาคาร หรอื เพ่ือการลงทนุ ในกิจการการเคหะ พร้อมกบั รบั ฝากเงินของประชาชนทว่ั ไปด้วย 3) ธนาคารเพ่ือการเกษตรและสหกรณก์ ารเกษตร (ธ.ก.ส.) สงั กดั กระทรวงการคลงั ตั้งขึ้น เพ่อื ชว่ ยเหลือดา้ นการเงนิ แก่เกษตรกร กลมุ่ เกษตรกร หรอื สหกรณ์การเกษตร ในรปู ของการกู้ยมื เงนิ ใน อัตราดอกเบย้ี ตาํ่ เพ่ือนาํ ไปลงทนุ ดา้ นการเกษตร 2. สถาบันการเงนิ ท่ีไม่ใช่ธนาคาร 2.1 บริษัทเงนิ ทุนหลกั ทรัพย์จากัด มีวตั ถปุ ระสงคค์ ล้ายกบั ธนาคารพาณิชยม์ ากทสี่ ดุ คอื ระดมา เงนิ ออมโดยออกตราสารเครดิตหรอื ตัว๋ แลกเงินเพื่อเป็นหลักฐานในการกเู้ งินจากประชาชน 2.2 บรรษทั เงินทนุ อตุ สาหกรรมแห่งประเทศไทย มวี ตั ถปุ ระสงค์เพื่อให้ความชว่ ยเหลอื ดา้ นการเงิน แกก่ ิจการอุตสาหกรรมเอกชน 2.3 บรรษทั เงนิ ทุนอุตสาหกรรมขนาดยอ่ ม มวี ัตถปุ ระสงคเ์ พื่อให้ความชว่ ยเหลือดา้ นการเงินแก่ อุตสาหกรรมขนาดย่อมและอุตสาหกรรมครัวเรือน 2.4 บริษัทเครดติ ฟองซเิ อร์ มีวัตถปุ ระสงค์ในการก้ยู มื เงินเพื่อการซ้ือทด่ี ิน สรา้ งบ้านหรือผอ่ นส่ง 2.5 บริษทั ประกนั ภัยและบรษิ ัทประกันชวี ติ เป็นสถาบันทางการเงินทีช่ ่วยเหลือผู้ประสบภัยให้ผอ่ น หนักเปน็ เบาได้ สถาบนั นีไ้ ม่คอ่ ยประสบผลสาํ เรจ็ เพราะขาดการประชาสัมพนั ธ์ และประชาชนไมเ่ ห็น
ผลประโยชนท์ ่พี งึ ได้รบั จากการนาํ เงินไปลงทุน ทําให้หลายบริษทั ลม้ เหลวและในท่สี ดุ ขาดความม่ันคงให้กบั ผปู้ ระกันภัย 2.6 สหกรณ์ออมทรัพย์ เปน็ สถาบันการเงนิ ที่ประชาชนเริ่มเห็นคุณค่าและเหน็ ประโยชนข์ องการ รว่ มมอื เพ่อื ช่วยเหลอื ชมุ ชน หรอื กลุม่ บุคคลทีม่ ีความคิดในแนวเดยี วกัน จัดทาํ ขน้ึ เพื่อออมทรัพย์และจัดทํา หนว่ ยธรุ กจิ ของกลุม่ ตนเอง หรือชมุ ชน 2.7 โรงรับจานา เป็นสถาบนั การเงินขนาดย่อม มี 3 ประเภท คือ โรงรบั จาํ นาํ เอกชน โรงรับ จํานําของกรมประชาสงเคราะห์ โรงรับจํานําของเทศบาล ซ่งึ ได้ให้บริการกู้ยืมเงนิ แก่บคุ คลทว่ั ไป โดยรับ จํานําสงิ่ ของเครือ่ งใชต้ า่ ง ๆ สถาบันการเงนิ เฉพาะกิจ (Specialized Financial Institutions : SFIs) หมายถึงสถาบันการเงนิ ของรัฐทม่ี กี ฎหมายเฉพาะจดั ต้ังขน้ึ เพื่อดาํ เนนิ การตามนโยบายของรฐั ในการพฒั นาสง่ เสริมเศรษฐกิจและสนับสนุนการลงทนุ ต่างๆโดยอยูภ่ ายใต้การกํากับดูแลของกระทรวงการคลงั ซง่ึ ไดม้ อบหมายให้ธปท. ทาํ หน้าที่ตรวจสอบผลการดาํ เนนิ งานและความเสีย่ งและรายงานผลการตรวจสอบไป ยังรฐั มนตรีวา่ การกระทรวงการคลงั SFIs แบง่ ออกเปน็ 2 ประเภทไดแ้ ก่ 1. สถาบันการเงนิ เฉพาะกิจท่ีทาํ หน้าทเ่ี ปน็ ธนาคารท่ใี ห้บริการทางการเงนิ ทั้งดา้ นเงินฝากและใหส้ ินเชอ่ื ซง่ึ ปัจจบุ ันมี 4 แห่ง คือ 1.1 ธนาคารออมสนิ (Government Savings Bank) เป็นรฐั วสิ าหกิจท่ีจดั ตัง้ ข้นึ ตามพระราชบญั ญตั คิ ลงั ออมสิน พ.ศ. 2456 มวี ตั ถุประสงค์เพื่อ เปน็ ธนาคารสําหรบั ประชาชน โดยม่งุ ให้บริการรับฝากเงนิ แกผ่ ฝู้ ากเงนิ รายย่อย สง่ เสริมการออมทรัพย์อย่าง กว้างขวางในกลุ่มนกั เรยี นและประชาชนโดยท่วั ไป
1.2 ธนาคารเพอ่ื การเกษตรและสหกรณ์ การเกษตร (Bank for Agriculture and Agricultural Co- operatives) มช๊ ื่อวา่ ธกส. เป็นรัฐวิสาหกิจทีจ่ ดั ตงั้ ขึน้ ตามพระราชบญั ญัตธิ นาคารเพอ่ื การเกษตรและสหกรณ์ การเกษตร มีวตั ถุประสงคเ์ พื่อช่วยเหลือทางการเงินแกเ่ กษตรกร กลุ่มเกษตรกร และสหกรณก์ ารเกษตร สาหรับการประกอบอาชพี เกษตรกรรมหรืออาชีพทีเ่ กี่ยวเน่ืองกบั เกษตรกรรม เพื่อเพิ่มรายไดห้ รอื พัฒนา คุณภาพชีวติ ของเกษตรกรหรอื ครอบครวั ของเกษตรกร 1.3 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (Government Housing Bank) เป็นรัฐวิสาหกจิ ที่จดั ตั้งขนึ้ ตามพระราชบัญญัติธนาคารอาคารสงเคราะห์ พ.ศ. 2496 มีวัตถุประสงค์เพ่ือให้สนิ เชื่อเก่ียวกบั ท่ีอยู่อาศยั ทงั้ ระยะสัน้ (สาํ หรับผูป้ ระกอบการเพอ่ื พัฒนาโครงการทดี่ นิ และท่ีอยูอ่ าศัย) และระยะยาว (สําหรบั ประชาชน) เพอ่ื การปลูกสรา้ ง ซื้อ หรือจดั หาทอี่ ย่อู าศยั 1.4 ธนาคารอิสลามแหง่ ประเทศไทย (Islamic Bank of Thailand) เป็นรัฐวิสาหกิจท่ีจัดตั้งขึน้ ตามพระราชบัญญัติธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2545 มี วตั ถุประสงค์เพอ่ื ให้มีช่องทางการเงินที่ถูกต้องตามแนวทางศาสนาอิสลาม และมชี ือ่ ท่รี ้จู กั กนั โดยท่วั ไปวา่ ไอแบงก์ (iBank) ที่มา : http://together1711.wordpress.com/ประเภทของสถาบันการเงิน/ http://www.trueplookpanya.com/new/cms_detail/knowledge/1918-00/
วามหมาย ความสาคัญและประโยชน์ของการจัดทาบัญชคี รัวเรอื น บัญชีครวั เรือน (home accounting) เป็นบัญชที ใ่ี ชส้ าํ หรบั บันทกึ รายไดแ้ ละรายจ่าย รายได้และ รายจ่ายที่บันทกึ อาจเป็นรายได้และรายจ่ายสว่ นบุคคล หรือรายได้และรายจ่ายทเ่ี ปน็ ต้นทุนในการผลิตของ ธรุ กิจขนาดย่อม เพ่ือทจี่ ะทาํ ใหผ้ ู้ประกอบกจิ การทราบถึงผลกาํ ไรหรือขาดทุนจากการประกอบธรุ กิจนนั้ จากสภาวะสงั คมปัจจุบันท่เี ต็มไปดว้ ยกระแสวตั ถุนยิ ม และความฟุมเฟือย ฟุูงเฟอู จนทําใหค้ นไทย หลงเดินทางผิดไปตามกระแสนยิ มจนกลายเปน็ ปญั หา โดยเฉพาะปญั หาหนสี้ ินที่ไม่มวี นั จบส้ิน อยา่ งไรก็ตาม คนไทย ยงั มีทางออก ซึ่งการจะดาํ รงชวี ิตให้อยู่รอดภายใตส้ งั คมในปัจจบุ นั แนวทางหน่ึงที่ประชาชนไทยควร ยึดถือ คือการพ่ึงตนเอง รู้จกั ความพอประมาณ และไมป่ ระมาท ตามแนวปรชั ญา “เศรษฐกจิ พอเพยี ง” ของ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั ทีท่ รงมองเห็นถึงความสาํ คัญของการสร้างภมู ิคุ้มกันให้กับตัวเอง รจู้ ักความ พอมพี อกนิ พอมีพอใชค้ ํานึงถงึ หลกั เหตผุ ลและการประมาณตนเอง พร้อมกับทรงเตอื นสติประชาชนคน ไทย ไมใ่ หป้ ระมาท โดยเฉพาะการใชจ้ ่ายเงินอนั เป็นปัจจัยสําคัญในการดําเนินชีวิต การทาํ บัญชี คือ การจดบันทึกข้อมูลเก่ียวกับเง่ือนไขปจั จัยในการดํารงชวี ิตของตัวเอง และภายใน ครอบครวั ชุมชน รวมถึงประเทศ ข้อมูลที่ไดจ้ ากการบนั ทึกจะเปน็ ตวั บ่งชี้อดตี ปัจจบุ ันและอนาคตของชีวิตของ ตวั เอง สามารถนําข้อมลู อดีตมาบอกปัจจุบันและอนาคตไดข้ อ้ มูลที่ได้ ทบ่ี นั ทึกไว้ จะเปน็ ประโยชน์ตอ่ การ วางแผนชีวติ และกจิ กรรมต่างๆในชีวิต ในครอบครวั บญั ชีครวั เรือน มิไดห้ มายถงึ การทาํ บัญชีหรือบนั ทึกรายรับรายจา่ ยประจําวันเทา่ น้ัน แต่อาจ หมายถงึ การบนั ทึกข้อมลู ด้านอน่ื ๆ ในชวี ิต ในครอบครัว เปน็ ตน้ ของเราได้ด้วย เช่น บัญชที รพั ยส์ ิน พันธุ์ พชื พนั ธไ์ุ ม้ ในบา้ นเราในชมุ ชนเรา บัญชคี วามรู้ความคิดของเรา บัญชีผูท้ รงคุณ ผู้รู้ในชุมชนเรา บัญชเี ดก็ และเยาชนของเรา บญั ชีภูมปิ ัญญาดา้ นต่าง ๆ ของเรา เป็นต้น หมายความว่า ส่งิ หรือเรื่องราวตา่ ง ๆ ในชีวิต ของเรา เราจดบนั ทึกไดท้ ุกเรื่อง หากประชาชนทุกคนจดบันทึกจะมีประโยชน์ตอ่ ตนเอง ครอบครวั ชุมชนและ ประเทศ จะเป็นแหลง่ เรียนรู้ ครอบครวั เรยี นรู้ ชมุ ชนเรียนรู้ และประเทศเรยี นรกู้ ารเรยี นรู้เป็นทมี่ าของปญั ญา ปญั ญาเปน็ ที่มาของความเจริญทง้ั กาย สงั คม ใจ และจติ วิญญาณของมนษุ ย์จะเห็นวา่ การทาํ บญั ชี หรอื การจด บันทึกนี้สําคญั ยิ่งใหญม่ าก บุคคลสําคัญในประเทศหลายท่านเป็นตัวอยา่ งที่ดีของการจดบันทกึ เช่น ท่านพทุ ธ ทาส ในหลวง และสมเด็จพระเทพ ลว้ นเปน็ นกั บนั ทึกท้ังส้ิน การบันทึก คอื การเขยี น เมื่อมีการเขยี นย่อมมี การคิด เม่ือมีการคดิ ย่อมก่อปัญญา แก้ไขปัญหาไดโ้ ดยใช้เหตผุ ลวเิ คราะหพ์ จิ ารณา ได้ถกู ตอ้ ง น่ันคือ ทางเจรญิ ของมนุษย์ การทาํ บัญชคี รวั เรือนในด้านเศรษฐกิจ หรือการบันทึกรายรับรายจา่ ยท่ีทางราชการพยายามส่งเสรมิ ใหป้ ระชาชนได้ทาํ กันนนั่ เปน็ เร่ืองการบนั ทึกรายรับรายจา่ ยประจําวันประจําเดือนว่า มีรายรับจากแหล่งใดบ้าง จาํ นวนเทา่ ใด มีรายจา่ ยอะไรบ้าง จํานวนเทา่ ใด ในแตล่ ะวัน สัปดาห์ เดอื น และ ปี เพื่อจะไดเ้ ห็นภาพรวมวา่ ตนเองและครอบครัวทรี ายรับเทา่ ใด รายจา่ ยเท่าใด คงเหลือเท่าใด หรือ เงินไม่พอใช้เทา่ ใด คือ รายจา่ ย มากกว่ารายรับ และสํารวจว่ารายการใดจา่ ยน้อยจ่ายมาก จาํ เปน็ น้อยจาํ เป็นมาก จําเปน็ นอ้ ยอาจลดลง จ่าย เฉพาะทจี่ าํ เปน็ มาก เชน่ ซ้อื กับข้าว ซือ้ ยา ซ้ือเสอ้ื ผ้า ซ่อมแซมบ้าน การศึกษา เป็นต้น สว่ นรายจ่ายท่ีไมจ่ าํ เป็น ใหล้ ด ละ เลกิ เชน่ ซอ้ื บุหร่ี ซ้ือเหลา้ เลน่ การพนัน เป็นต้น เมอื่ นาํ รายรบั รายจา่ ย มาบวกลบกันแลว้ ขาดดุล
เกินดลุ ไปเท่าใด เมื่อเห็นตัวเลข จะทําให้เราคดิ ได้ว่าสิ่งไม่จําเป็นนัน้ มีมากหรือน้อยสามารถลดไดห้ รอื ไม่ เลกิ ได้ ไหม ถ้าไมล่ ดไม่เลิกจะเกิดอะไร กบั ตวั เอง ครอบครวั ชมุ ชน และประเทศ หากเราวางแผนการรบั การจ่ายเงิน ของตนเองได้ เทา่ กับวา่ ร้จู ักความเป็นคนได้พฒั นาตนเอง ใหเ้ ปน็ คนมเี หตุมผี ล เปน็ คนรู้จักพอประมาณ เป็น คนรักตนเอง รักครอบครวั รกั ชุมชน และรกั ประเทศชาตมิ ากข้นึ จึงเห็นได้ว่า การทําบญั ชีครวั เรอื น ในเรอื่ ง รายรบั รายจา่ ย กค็ ือวิถแี ห่งการเรียนรูเ้ พอื่ พัฒนาชวี ิต ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง น่ันเอง เพราะปรชั ญา เศรษฐกจิ พอเพยี ง คือ ปรัชญาชวี ติ ที่ถกู ต้องเหมาะสม พอดี สอดคลอ้ งถูกต้องตามกฎธรรมชาติทีม่ ีท้ังความเปน็ เอกภาพและดุลยภาพอยู่เสมอ การทาํ บัญชคี รวั เรือนเปน็ การจดบันทกึ รายรบั รายจา่ ยประจําวนั ของครวั เรือนและสามารถนําขอ้ มลู มาวางแผนการใชจ้ ่ายเงนิ ในอนาคตได้อย่างเหมาะสม ทาํ ให้เกิดการออม การใชจ้ า่ ยเงนิ อยา่ งประหยดั คุ้มคา่ ไม่ ฟุมเฟือย ดงั นัน้ การทาํ บัญชชี ีครวั เรือนมคี วามสาํ คัญดังน้ี 1. ทําใหต้ นเองและครอบครวั ทราบรายรับ รายจ่าย หนส้ี นิ และเงนิ คงเหลอื ในแตล่ ะวนั รายรบั หรอื รายได้ คอื เงนิ หรือสนิ ทรพั ย์ทวี่ ัดมูลค่าได้ ทีไ่ ด้รับจากการประกอบอาชพี หรือ ผลตอบแทนท่ีได้รับจากการให้ผอู้ นื่ ใช้สนิ ทรัพย์ หรอื ผลตอบแทนจากการลงทนุ ในรูปแบบต่างๆ เช่น รายได้ จากค่าจ้างแรงงาน เงินเดือน ดอกเบย้ี รบั จากเงนิ ฝากธนาคาร หรอื จากเงนิ ให้กยู้ มื รายได้จากการขายสินคา้ หรือบริการ เป็นต้น รายจ่าย หรอื คา่ ใช้จ่าย คือ คือ เงนิ หรือสินทรัพย์ทีว่ ัดมลู ค่าได้ ที่จ่ายออกไปเพ่ือให้ไดส้ ิ่งตอบแทน กลับมา สงิ่ ตอบแทนอาจเป็นสินคา้ หรือบรกิ าร เชน่ คา่ อาหาร ค่านํ้าค่าไฟฟาู (ค่าสาธารณปู โภค) คา่ น้ํามนั คา่ หนังสือตํารา เปน็ ตน้ หรือรายจ่าย อาจไม่ได้รบั ส่ิงตอบแทนคอื สนิ คา้ หรือบรกิ ารก็ได้ เชน่ เงินบรจิ าคเพ่ือการ กศุ ล เงินทาํ บุญทอดกฐิน ทอดผา้ ปุา เปน็ ตน้ หนี้สนิ คอื ภาระผูกพันที่ต้องชดใช้คืนในอนาคต การชดใช้อาจจา่ ยเปน็ เงินหรือของมีค่าที่ครอบครัว หรือตนเอง มีอยู่ หนส้ี นิ เป็น เงนิ หรอื สิ่งของทม่ี ีคา่ ท่ีครอบครวั หรอื ตนเองได้รบั มาจากบคุ คลหรือแหล่งเงิน ภายนอก เชน่ การกยู้ ืมเงินจากเพื่อนบา้ น การกยู้ ืมเงินจากกองทุนตา่ งๆ การซื้อสนิ ค้าหรอื บริการเปน็ เงนิ เช่อื การซื้อสินทรัพย์เป็นเงินผอ่ นชําระ หรอื การเชา่ ซื้อ เป็นต้น เงนิ คงเหลอื คือ เงิน หรือ ทรัพยส์ นิ ทีว่ ดั มลู คา่ ได้ หลังจากนาํ รายรับลบดว้ ยรายจา่ ยแลว้ ปรากฏรายรับ มากกวา่ รายจ่ายจะทาํ ให้มเี งินคงเหลอื หรือในหลักทางบญั ชเี รียกว่า กาํ ไร แตห่ ากหลงั จากนํารายรบั ลบดว้ ย รายจ่ายแล้วปรากฏวา่ รายจา่ ยมากกว่ารายรับจะทาํ ใหเ้ งินคงเหลอื ติดลบหรือทางบัญชีเรียกวา่ ขาดทนุ นน่ั เอง 2. นําขอ้ มูลการใช้จ่ายเงินภายในครอบครวั มาจัดเรียงลาํ ดับความสําคัญของรายจ่าย และวางแผนการ ใชจ้ ่ายเงนิ โดยพจิ ารณาแต่ละรายการในแตล่ ะวันมีรายจา่ ยใดท่ีมีความสําคัญมาก และรายจ่ายใดไม่จาํ เปน็ ให้ ตัดออก เพือ่ ใหก้ ารใช้จ่ายเงนิ ภายในครอบครวั มพี อใชแ้ ละเหลือเกบ็ เพ่ือการออมทรพั ย์สําหรับใช้จา่ ยสิ่งท่ี จําเป็นในอนาคต บัญชคี รวั เรือนถือเปน็ สว่ นสาํ คัญในการปฏิบัตติ ามแนวเศรษฐกิจพอเพียง โดยยึดหลกั 3 ขอ้ คอื การพอประมาณ ถ้ารู้รายรับรายจา่ ย ก็จะใช้แบบพอประมาณ แต่ มีเหตผุ ล ร้วู า่ รายจา่ ยใดจําเป็นไมจ่ าํ เป็น และเม่ือเหลอื จากใชจ้ า่ ยกเ็ ก็บออม น่ันคือภมู ิคุ้มกัน ที่เอาไว้คุ้มกนั ตวั เราและครอบครวั บัญชคี รัวเรอื นสามารถ จัดได้หมด จึงนับวา่ มปี ระโยชนม์ าก ข้อควรระวังในการจัดทําบญั ชีครวั เรือน คือ ลมื บันทึกบญั ชี ทาํ ให้ขาดความตอ่ เนอื่ งในการ บนั ทึก และสง่ ผลให้ไมอ่ ยากบันทึก ผู้จดั ทําเขา้ ใจผิดในรายการบัญชี ไม่เขา้ ใจรายการทเี่ ปน็ รายรบั จงึ ไม่ได้ บนั ทึกบัญชี เช่น ลกู ส่งเงนิ มาให้พ่อแม่สําหรบั ใชจ้ า่ ยทุกวันสน้ิ เดือน แต่พ่อแม่ไมไ่ ด้บันทึกบัญชรี ายรบั เนอื่ งจาก เข้าใจวา่ เงินที่ไดร้ ับมานน้ั มิได้เกดิ จากการประกอบอาชีพของตนเองหรอื เขา้ ใจผิดรายการหนี้สนิ แตบ่ นั ทึกวา่ เป็นรายรับ ทําให้มิได้เก็บเงินไว้สาํ หรับจา่ ยชาํ ระหนใ้ี นอนาคต เชน่ ยืมเงนิ จากเพื่อนบ้านมาใช้จา่ ยภายใน
ครอบครัว ถึงแม้จะได้รับเงนิ มาแต่รายการดงั กล่าวไม่ถือว่าเปน็ รายรับเนือ่ งจากตนเองมีภาระผูกพนั ทต่ี ้องชดใช้ ในอนาคต ซงึ่ อาจต้องชดใชเ้ งินตน้ พรอ้ มดว้ ยดอกเบีย้ ดว้ ย จากสาเหตดุ ังกล่าวอาจทําให้ครอบครวั วางแผนการ ใชจ้ า่ ยเงินผิดพลาด การวางแผนการใชจ้ า่ ยเงนิ ให้เหมาะสมระหวา่ งรายรบั และรายจ่าย ครอบครัวตอ้ งมีรายรับมากกว่า รายจา่ ย หากพบวา่ รายรับน้อยกวา่ รายจา่ ย ต้องหาแนวทางนาํ เงินมาใช้จ่ายใหเ้ พียงพอ โดยอาจต้องกูย้ ืมเงิน มาใช้จา่ ย แต่การกยู้ มื เงินไมใ่ ชแ่ นวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ เพยี งแต่ชว่ ยใหก้ ารใช้จ่ายมสี ภาพคลอ่ งชว่ั ขณะ เท่านน้ั และในระยะยาวยงั สง่ ผลให้ครอบครวั มภี าระหน้สี นิ จํานวนมาท้งั เงนิ ตน้ และดอกเบี้ยซึ่งจะเพ่มิ จํานวน มากข้ึนตามระยะเวลาท่ยี าวนานในการกยู้ ืมเงนิ เปน็ ปญั หาที่แก้ไขไดย้ าก สําหรับการแก้ไขปัญหาการขาด สภาพคลอ่ งในการ ใชจ้ ่ายเงนิ หรอื ปัญหารายรบั ไม่เพียงพอกบั รายจ่ายน้นั มีแนวทางดังนี้ 1. การตดั รายจ่ายที่ไม่จําเป็นออก เพ่ือลดภาระการจ่ายเงินออกจากครอบครวั เชน่ รายจา่ ยเกี่ยวกบั การพนัน สง่ิ เสพตดิ ของมนึ เมา รายจา่ ยฟุมเฟือย เปน็ ตน้ เปน็ การสร้างนสิ ยั มใิ หใ้ ชจ้ ่ายฟุมเฟือย 2. การลดรายจ่ายท่ีจาํ เปน็ ลง เพือ่ สรา้ งนสิ ัยการประหยดั อดออม การใชท้ รัพยากรที่มีอยูจ่ ํากัดอยา่ ง คมุ้ คา่ เชน่ การปลกู ผัก ผลไมไ้ วร้ ับประทานเอง เพ่ือช่วยลดคา่ อาหาร และคา่ เดนิ ทางไปตลาด อีกท้ังทําให้ สุขภาพดอี ีกด้วย ลดการใชน้ ้าํ มันเช้ือเพลิงแลว้ หนั มาออกกําลงั กายโดยการปนั่ จักรยาน หรอื การเดิน การว่ิง แทนการ ขับรถจักรยานยนต์ หรอื รถยนต์ เปน็ ต้น 3. การเพ่ิมรายรบั หารายไดเ้ สรมิ นอกเวลาทาํ งานปกติ เช่น การใช้เวลาวา่ งรบั จา้ งตัดเย็บเสื้อผ้า การ ขายอาหารหลงั เลิกงาน การปลกู ผัก หรอื เล้ียงสตั วไ์ ว้ขาย เป็นต้น 4. การทาํ ความเขา้ ใจกันภายในครอบครัวเพื่อให้ทุกคนร่วมมือกนั ประหยัด รูจ้ กั อดออม การใช้ ทรพั ยากรต่างๆ ลด ละ เลิก รายจ่ายหรือสิ่งที่ไม่จําเปน็ และช่วยกนั สร้างรายรับให้เพยี งพอ เหมาะสมกับ เศรษฐกิจปจั จบุ นั บทสรปุ การจัดทําบญั ชคี รัวเรือน หรือ บญั ชีรายรับรายจ่ายน้ี ไม่ใช่เปน็ แตเ่ พียงการจดบนั ทึกรายการตา่ งๆ ท่เี ปน็ เงนิ เท่านั้น แต่ยงั เปน็ การสร้างความสามคั คีภายในครอบครวั รจู้ ักชว่ ยเหลอื แบ่งปนั กนั ในสงั คม มีการ เรยี นรู้ซ่งึ กันและกนั ซง่ึ เกดิ จากประสบการณต์ า่ งๆ ทีไ่ ดร้ ับจากการจดบนั ทกึ ข้อมูลท่ีเปน็ ประโยชน์ ทาํ ให้ ประชาชนทกุ คนรูจ้ ักการบริหารจดั การดา้ นการเงินและการวางแผนการทาํ งานทกุ อย่างเพ่อื ใหบ้ รรลุเปาู หมาย ได้ การทําบัญชคี รวั เรือนทําให้ครอบครัวมคี วามสุขใช้ชีวิตโดยยดึ หลกั ความพอเพียง มีเหตุมผี ล รจู้ กั พึ่งพา ตนเอง มคี วามพอประมาณ การเงินมสี ภาพคล่อง รูจ้ กั การเก็บออม ทุกคนรูถ้ ึงแหลง่ ท่ีมาของรายรับและการใช้ ไปของคา่ ใช้จา่ ยในแต่ละวันสามารถนําข้อมลู การใช้จา่ ยมาวางแผนบรหิ ารการเงนิ ในอนาคตได้ ประมาณการรายรับ-รายจา่ ยของตนเองและครอบครัว ความหมายความสาคัญของการจดั ทางบประมาณ ประมาณการ(Budjet) หมายถงึ แผนท่ีกําหนดประมาณการรายได้และประมาณการรายจ่ายใน อนาคตที่กาํ หนดไว้เป็นจาํ นวนเงิน ประมาณการ สามารถแยกออกได้เปน็ 2 ส่วน คือ 1. ประมาณการรายได้ 2. ประมาณการรายจ่าย
งบประมาณ รายได้ รายจ่าย ประมาณการรายได้ คือ การคาดการณ์ในอนาคตว่าจะมรี ายได้เป็นจํานวนเงินเท่าใด มีรายได้ ประเภทใดบ้าง ประมาณการรายจ่าย คือ การคาดการณ์ในอนาคตวา่ จะมีค่าใชจ้ ่าย หรอื รายจ่ายอะไรบ้าง คา่ ใช้จา่ ยแตล่ ะชนิดมมี ูลคา่ เท่าใด การทางบประมาณสาหรบั นักเรยี น งบประมาณทุกประเภทจะต้องประมาณด้วย 2 สว่ น คือ สว่ นประมาณการรายได้ และสว่ น ประมาณการรายจา่ ย ในการจดั ทํางบประมาณสาํ หรับนักเรียนพอจะแยกทม่ี าของรายได้และรายจา่ ยได้ดังนี้ 1. ประมาณการรายได้ของนักเรยี น นกั เรยี นมรี ายไดจ้ ากเงินทีไ่ ดร้ บั จากผปู้ กครอง บิดา มารดา ใหม้ าเป็นคา่ อาหารกลางวัน ค่าแบบเรยี น ค่ากิจกรรมในโรงเรยี นเปน็ ส่วนใหญ่ แตม่ ีนกั เรยี นบางราย อาจมีรายได้จากการทํางานหาเงนิ มาใช้เอง ตัวอย่าง รายไดข้ องนักเรียน จากผูป้ กครอง จากการหารายได้พเิ ศษ ฯลฯ 2. ประมาณการรายจ่ายของนักเรยี น โดยปกติแล้ว ค่าอาหาร คา่ ที่อยู่อาศยั ค่าเสอ้ื ผ้า เคร่อื งแตง่ กาย ค่ายารักษาโรค ผู้ปกครองของนักเรยี นจะเป็นผจู้ ดั ทาํ งบประมาณอยแู่ ล้ว เพราะจดั เป็น ค่าใช้จา่ ยภายในบ้าน ดงั นน้ั รายจา่ ยของนักเรียนจึงเป็นรายจ่ายที่เกิดข้นึ เพ่ือการเรียนของนกั เรียนท้งั ส้ิน เช่น คา่ รถไปโรงเรยี น คา่ เครือ่ งเขียน ค่าอาหารกลางวนั ค่าทําบุญ คา่ นนั ทนาการ กิจกรรมต่าง ๆ ในโรงเรียน และมเี งนิ ส่วนทีเ่ หลือเก็บไวเ้ ปน็ เงนิ ออม เปน็ ต้น
ตวั อยา่ ง รายจ่ายของนกั เรียน คา่ บํารงุ การศึกษา คา่ อาหาร คา่ พาหนะ คา่ เส้อื ผา้ นกั เรยี น ค่าเคร่ืองเขียน ค่ากจิ กรรม ค่านนั ทนาการ ฯลฯ ในการจัดทํางบประมาณ นักเรียนจะตอ้ งทําใหป้ ระมาณการรายไดส้ งู กวา่ รายจ่าย หาก ประมาณการรายจ่ายสงู กว่ารายได้ ต้องมีการแก้ไขงบประมาณ โดยจะต้องมีการตัดรายจา่ ยบางชนิดออกไป จนกวา่ แผนประมาณการใช้เงินจะเปน็ ท่ีพอใจ การทาประมาณการสาหรับครอบครวั ควรมีการกําหนดค่าใช้จา่ ยอย่างน้อย 3 ระยะ คือ 1. แผนการใชจ้ ่ายระยะยาว ควรมกี ารวางแผนการใชจ้ า่ ยสาํ หรบั การใชจ้ ่ายสาํ หรบั รายจ่าย ที่ทีน่ าน ๆ เกดิ ขึ้นครั้งหนึง่ เช่น ปลี ะ 1 ครง้ั หรอื 2 ครง้ั ได้แก่ การลงทะเบียนเรียนของครอบครัว คา่ ประกันชีวิต หรือการต้ังความหวังวา่ อีก 6 เดือนข้างหน้าจะเกบ็ เงินไว้ซ้อื โทรทศั น์สใี หม่ เปน็ ตน้ คา่ ใช้จา่ ย เหล่านี้จะตอ้ งมกี ารวางแผนกันเงนิ เปน็ เงินออมไว้ทุกเดือน 2. แผนการใช้จา่ ยระยะส้ัน ควรมีการวางแผนการใชจ้ ่ายระยะสั้นเป็นรายเดือน สาํ หรบั ผมู้ ี รายได้เป็นรายเดือน รายจา่ ยท่วี างแผนในระยะ 1 เดือน เชน่ ค่าขา้ วสาร อาหารแห้ง เครอื่ งกระป๋อง คา่ เชา่ บา้ น ค่านํา้ ค่าไฟ ค่าวัสดขุ องใชส้ ่วนตวั สาํ หรบั สมาชกิ ในบ้าน คา่ วัสดขุ องใช้ในบา้ น เป็นต้น เมื่อไดร้ ับ เงนิ เดือนมาแล้ว จะตอ้ งหกั ค่าใช้จา่ ยเหลา่ นอ้ี อกจากเงินเดอื น รวมทงั้ หักเงนิ ออมออกดว้ ย รายไดท้ ี่เหลือ จงึ นาํ มาเปน็ ค่าใชจ้ ่ายประจําวนั สําหรบั ผทู้ ี่มสี มาชิกในบ้านหลายคน ควรมีการกาํ หนดค่าใชจ้ า่ ยส่วนตัวของ สมาชกิ แต่ละคนเป็นรายเดือน 3. แผนการใชจ้ า่ ยประจาํ วนั ควรมกี ารวางแผนการใชจ้ า่ ยประจําวนั วา่ ในแตล่ ะวนั จะใช้ จ่ายเงนิ ในการซื้ออะไรบ้าง จํานวนเทา่ ไร การกําหนดคา่ ใช้จา่ ยแตล่ ะวัน ควรมีการยืดหยนุ่ ทจ่ี ะปรบั ให้ได้ เหมาะสม เชน่ ค่าอาหารกลางวัน คา่ พาหนะเดินทาง ค่าอาหารสด ค่าอาหารแหง้ ค่าใชจ้ ่ายเบด็ เตลด็ เปน็ ตน้
ตวั อย่างการจดั ทาํ ประมาณการรายได้-รายจา่ ย ประมาณการรายได้-รายจ่าย เดก็ หญิงวิไลเลขา เที่ยงตรง ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 25... ถึง 31 มกราคม 25.... ประมาณการรายได้ 1,000.- บาท รายไดป้ ระจําสัปดาห์ 200.- บาท รายได้จากการทํางานนอกเวลาเรียน 100.-บาท รายได้จากการประกอบอาชีพอิสระในโรงเรยี น 1,300.-บาท รวมประมาณการรายได้ 500.- บาท ประมาณการรายจ่าย 100.- บาท 300.- บาท คา่ อาหารกลางวัน 150.- บาท ค่ารถไปโรงเรียน 100.- บาท ค่าเครื่องเขียน 50.- บาท ค่าใชจ้ า่ ยเบ็ดเตล็ด 100.-บาท ค่านนั ทนาการ 1,300.- บาท คา่ ทําบญุ เงินออม รวมประมาณการรายจา่ ย
การบนั ทึกรายการรับ-จ่ายเงินในสมดุ เงินสด ความสาคัญของการบนั ทกึ รายการรับ-จ่ายในสมุดเงนิ สด การบนั ทกึ รายการรบั และจ่ายเงิน ทําใหท้ ราบไดว้ า่ รายได้ทร่ี บั จรงิ เปน็ เทา่ ไร จากท่ีไหน เมอ่ื ไร มีการใช้จา่ ยเงินนั้นในวนั ใด เปน็ คา่ อะไรบ้างจาํ นวนเทา่ ไร และมีเงินเหลือหรือพอใช้จา่ ยหรอื ไม่ กอ่ นท่ีจะบนั ทึกรายได้ การใช้จา่ ย ผู้บริโภคท่ีฉลาดจะตอ้ งมีการวางแผนการใชจ้ ่าย หรอื การทํางบประมาณ การใชจ้ ่าย เพื่อผูบ้ ริโภคจะได้ใช้ประโยชนเ์ ป็นแนวทางใชจ้ ่ายเงนิ ตนเองและครอบครัว โดยปฏบิ ัติหรือ ดําเนนิ การใช้จา่ ยตามแผนการใช้จา่ ยทไ่ี ดว้ างไว้ การบันทกึ รายการรบั -จา่ ยเงนิ จะเป็นหลกั ฐานขอ้ มลู ในการ ปรบั ปรุงการงานแผนการใชจ้ ่ายในอนาคตต่อไป การบนั ทึกรายการรับ-จา่ ยเงินในสมุดเงินสด การบนั ทึกรายการในสมดุ เงินสด ใชแ้ บบฟอร์มสมุดเงนิ สด ซง่ึ มรี ายละเอยี ด ดังนี้ สมดุ เงินสด ของ................................................ ประจาเดอื น................................................. พ.ศ. 1.1 รายการ 2 รายรบั จาํ นวนเงนิ 3 1 3.1 วนั ที่ รายจา่ ย คงเหลอื เดอื น 1.3 ยอดยกมา 3.2 3.3 1.2 รวม ยอดยกมา การบันทึกรายการในสมุดเงนิ สด ในแบบฟอรม์ ข้างต้นปฏบิ ัติ ดงั น้ี ช่องที่ 1 ช่อง “วัน เดอื น ปี” เขียนวนั เดือน ปี ท่มี ีการรบั และจา่ ยเงิน แบง่ เปน็ 3 ช่อง ชอ่ ง 1.1 เขยี น ปี พ.ศ. ท่มี ีการรบั หรือจา่ ยเงนิ ช่อง 1.2 เขยี น เดอื นทมี่ ีการรับหรอื จ่ายเงิน ช่อง 1.3 เขียน วนั ท่ี ท่ีมกี ารรบั และจา่ ยเงนิ
ช่องท่ี 2 ชอ่ ง “รายการ” เขยี นอธบิ ายรายละเอียดของรายการวา่ เป็นรายการรบั หรือจา่ ยเงนิ จาก ใคร เปน็ ค่าอะไร หรือจา่ ยเงินเปน็ ค่าใชจ้ า่ ยอะไร เชน่ รับเงนิ จากผูป้ กครอง จ่ายค่าอาหารกลางวัน เปน็ ต้น ชอ่ งที่ 3 ชอ่ ง “จํานวนเงิน” เขียนจํานวนเงนิ รายรับ รายจ่าย คงเหลือ โดยแยกเขียนจํานวน เงิน ตามช่องตา่ ง ๆ ดังน้ี ชอ่ งท่ี 3.1 เขยี นจํานวนเงินที่ได้รบั แต่ละรายการทเ่ี ป็นรายรับ ช่องท่ี 3.2 เขียนจาํ นวนเงินทจี่ า่ ยในแตล่ ะรายการท่ีเปน็ รายจ่าย ชอ่ งท่ี 3.3 เขียนจํานวนเงนิ คงเหลือหลงั จากทีร่ ายการรับและจ่ายเงนิ เกดิ ขึ้นในแต่ ละรายการหรอื รายการคงเหลือยกมา(ยอดยกมา) จากงวดก่อน เม่ือลงรายการรบั และจ่ายเงนิ ถึงรายการสุดท้ายแล้ว จะตอ้ งตเี ส้นปิดบญั ชี โดยตเี ส้นด้วยปากกาสี แดง 1 เส้น ตงั้ แตช่ ่องรายรับถึงชอ่ งคงเหลอื แลว้ เขียนคําว่า รวม ในชอ่ งรายการ แล้วรวมชอ่ งรับ ชอ่ งจ่าย ส่วนชอ่ งยอดคงเหลือจะเปน็ ยอดเงนิ คงเหลอื สดุ ท้ายของรายการ เมอื่ รวมเสรจ็ แลว้ ตเี สน้ ปิดบญั ชีเส้นคู่ด้วย ปากกาสีแดงทีช่ ่องวนั เดือนปี และต้งั แตช่ ่องรายรับถึงช่องคงเหลอื บรรทัดถดั จากคําวา่ รวม ในช่องวนั เดอื นปี เขยี นเดือน วนั ท่ี (ให้เขยี นวันที่ถดั มาจากรายการสุดท้าย) และเขยี นคาํ ว่า ยอดยกมา (เขียนในช่องรายการ) และออกยอดเงนิ คงเหลอื ในชอ่ งคงเหลือ ตวั อย่างการบันทกึ รายการในสมดุ เงินสด เด็กหญิงสฟี ูา สายฝน มียอดเงนิ คงเหลือยกมาจากสปั ดาหก์ อ่ นเมื่อ 7 กรกฎาคม 25... เป็นเงนิ 180.- บาท ในระหว่างสัปดาห์ที่ 8 – 14 กรกฎาคม 25.... เขามีรายการรับจ่ายเงนิ ดงั นี้ 8 กรกฎาคม25.... ไดร้ บั เงินจากผ้ปู กครอง 400.- บาท 9 กรกฎาคม 25... จา่ ยค่าอาหาร 10.- บาท 10 กรกฎาคม 25... จ่ายค่าเส้ือกีฬาสี 120.- บาท 11 กรกฎาคม 25... จา่ ยค่ารถประจําสปั ดาห์ 50.- บาท 12 กรกฎาคม 25... จ่ายคา่ หนังสือเรยี น 45.- บาท
สมดุ เงนิ สด ของเด็กหญงิ สีฟ้า สายฝน ประจาสปั ดาห์วันท่ี 8 – 14 กรกฎาคม 25.... พ.ศ. 25…… รายการ รายรับ จานวนเงนิ คงเหลือ เดือน รายจ่าย วันท่ี 180. - 180 - กรกฎาคม 400. - 30 - 580 - 8 ยอดยกมา 120 - 550 - 9 ได้รับเงินจากผูป้ กครอง 50 - 430 - 12 จา่ ยคา่ อาหาร 45 - 380 - 13 จ่ายคา่ เสอื้ กีฬาสี 335 14 จ่ายค่ารถประจาํ สปั ดาห์ จา่ ยค่าหนงั สือเรยี น ยอดยกมา 580. - 245 - 335 - กรกฎาคม 15 335 -
ใบงานท่ี 2.1 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 บัญชีครัวเgรiอน เร่อื ง ประมาณการรายรับ-รายจ่าย เรอื่ ง ประมาณการรายรับ-รายจา่ ย คาํ สงั่ ให้นักเรยี นทําประมาณการรายรับ-รายจา่ ยของ ด.ญ.มณฑา งามตา 1.เด็กหญงิ มณฑา งามตา มรี ายได้จากผปู้ กครอง สัปดาหล์ ะ 350.- บาท และเขาไดว้ างแผนการใช้ จ่ายของเขาเป็นร้อยละของรายได้ ดังนี้ ร้อยละ 40 ของรายได้ 1. ค่าอาหารกลางวนั รอ้ ยละ 25 ของรายได้ 2. คา่ รถประจาํ ทาง 3. คา่ การศกึ ษา ร้อยละ 10 ของรายได้ 4. ค่ากฬี าและบนั เทิง ร้อยละ 8 ของรายได้ 5. คา่ วัสดขุ องใชส้ ว่ นตัว รอ้ ยละ 5 ของรายได้ 6. คา่ ใชจ้ า่ ยเบด็ เตลด็ ร้อยละ 4 ของรายได้ เงนิ ท่ีเหลอื จากค่าใชจ้ า่ ยเขาไดฝ้ ากธนาคารเป็นเงนิ ออม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………..……………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ใบงานที่ 2.2 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 บญั ชีครัวเรือน เgigเร่ือง ประมาณการรายรับ-รายจา่ ย เร่อื ง ประมาณการรายรบั -รายจา่ ยของตนเอง คาํ สงั่ ใหน้ ักเรยี นทาํ ประมาณการรายรับ-รายจา่ ยของนักเรียน ประจําสัปดาห์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ใบงานท่ี 2.3 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2บญั ชคี รัวเรือน เรื่อง การบันทกึ รายการรับ-จ่ายในสมุดเงินสด เรื่อง การบนั ทกึ รายการรบั -จา่ ยเงินในสมดุ เงินสด คําส่งั 1. แบง่ กลมุ่ นกั เรยี น กลุ่มละ 4 คน 2. แบ่งภาระหนา้ ที่กนั เชน่ เป็น ผอู้ า่ นใบความรู้ เปน็ ผ้ศู ึกษาขั้นตอนการบนั ทกึ สมุดเงินสด เปน็ ผู้จดบนั ทึก เป็นผ้ปู ระเมิน 3. ใหน้ กั เรียนบนั ทกึ รายการรับและจ่ายเงินในสมุดเงินสดของเด็กชายสมชยั สุจรติ ประจาํ เดือนมิถุนายน 25.... จามโจทยข์ า้ งลา่ งนี้ ในสปั ดาหแ์ รกของเดือนมิถุนายน 25.... เด็กชายสมชัยมีเงนิ สดคงเหลือยกมาจากวันท่ี 31 พฤษภาคม 25.... จํานวนเงนิ 130.- บาท ในระหว่างเดือนเขามีการรับ จ่ายเงิน ดงั นี้ 1 มถิ ุนายน ได้รับเงนิ จากผปู้ กครอง 800.- บาท 3 มิถุนายน จา่ ยคา่ อาหารกลางวนั 27.- บาท จา่ ยคา่ รถประจําทาง 15.- บาท จ่ายค่าปากกาสมุดเครื่องเขยี น 43.- บาท 6 มถิ นุ ายน ไดร้ บั เงนิ คา่ จ้างซ้อื ของจากเพ่อื นบ้าน 50.- บาท จา่ ยค่าหนังสือ 125.- บาท จ่ายค่าชุดพละ 120.- บาท 15 มิถนุ ายน จ่ายคา่ อาหารกลางวนั 25.- บาท จา่ ยค่าวสั ดุฝกึ ในการเรียน 30.- บาท จา่ ยคา่ เชา่ วีดีโอ 15.- บาท 20 มถิ นุ ายน จ่ายคา่ ทาํ บุญ 5.- บาท ไดร้ ับเงนิ ค่าขายเศษกระดาษ 50.- บาท จ่ายคา่ รถประจําทาง 10.- บาท 25 มิถุนายน จ่ายค่าเรียนพเิ ศษ 250.-บาท จา่ ยค่าตัดผม 20.- บาท 30 มิถุนายน นาํ เงินฝากธนาคาร 65.-บาท จา่ ยคา่ สบู่ ยาสฟี ัน 75.- บาท
………………………………………………… …………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………. พ.ศ. 25…… รายการ จานวนเงิน เดอื น วันที่ รายรับ รายจ่าย คงเหลอื …………… …………… ……… …………………………………………………… …………… …………… …………… …………… …………… ……… …………………………………………………… …………… …………… …………… …………… …………… ……… …………………………………………………… …………… …………… …………… …………… …………… ……… …………………………………………………… …………… …………… …………… …………… …………… ……… …………………………………………………… …………… …………… …………… …………… …………… ……… …………………………………………………… …………… …………… …………… …………… …………… ……… …………………………………………………… …………… …………… …………… …………… …………… ……… …………………………………………………… …………… …………… …………… …………… …………… ……… …………………………………………………… …………… …………… …………… …………… …………… ……… …………………………………………………… …………... …………… …………… …………… …………… ……… …………………………………………………… …………… …………… …………… …………… ……… …………………………………………………… …………… …………… …………… ……… …………………………………………………… …………… …………… …………… ……… …………………………………………………… …………. …………… …………… ……… …………………………………………………… …………… …………… …………… ……… …………………………………………………… …………… …………… …………… ……… …………………………………………………… …………… …………… …………… ……… …………………………………………………… …………… …………… …………… ……… …………………………………………………… …………… …………… ………….. ……… …………………………………………………… …………… …………… …………… ……… …………………………………………………… ………….. …………… …………… ……… …………………………………………………. …………… …………… - -
เกณฑก์ ารตรวจให้คะแนน ใบงานที่ 2.3 (การบันทึกรายการรบั และจ่ายเงินในสมุดเงินสด) 1. สว่ นหวั แบบฟอรม์ 3 บรรทัดแรก1คะแนน ถา้ เขยี นไม่ครบ เช่น ขาดไป 1 บรรทัด กห็ กั ตามสว่ น (-1/3) 2. สว่ นตัวของแบบฟอรม์ แบง่ เป็น3ชอ่ งใหญ่ เขยี นหัวช่องตา่ งๆ ถกู ต้อง 1 คะแนน ถา้ เขียนไมค่ รบหักชอ่ งละ 1/3 คะแนน 3. การตเี ส้นแบบฟอรม์ ถูกต้อง สะอาด รวมทง้ั ตอนขีดเสน้ ปิดบัญชยี อดรวม 1 คะแนน 4. การบันทึกรายการในชอ่ งตา่ ง ๆ ตั้งแตช่ อ่ ง วัน เดือน ปี รายการ และ จํานวนเงิน (รายรบั รายจ่าย คงเหลอื ) ต้งั แต่วนั ท่ี 1 มิถุนายน เปน็ ต้นมา บรรทัดละ 1/3 คะแนน ในแต่ละรายการท้งั 3 ช่องใหญ่จะตอ้ งถกู ต้องหมด ถ้าผดิ ชอ่ งใดช่องหนง่ึ จะไม่ได้คะแนนเลย ให้หกั ออก 1/3 คะแนน รวม ทัง้ สนิ้ 18 รายการ รวม 6 คะแนน 5. ชอ่ งรวมและยอดยกมา 1คะแนน ถ้าผิดชอ่ ง 1/3 คะแนน 6. รวมคะแนนทง้ั สน้ิ (ขอ้ 1-5) = 10คะแนน
ใบงานท่ี 2.4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2บัญชีครวั เรือน เรอื่ ง การบนั ทึกรายการรบั -จา่ ยในสมุดเงนิ สด คาํ สัง่ 1. ให้นกั เรยี นแต่ละคนทําแบบทดสอบที่ 1 บันทกึ รายการรบั และจา่ ยเงินในสมุดเงนิ สด ตามโจทย์ ข้างลา่ งน้ี ด.ช.เอกภพ เอกปญั ญา เป็นนักเรียนช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2ได้รบั เงนิ ไปโรงเรยี นสัปดาหล์ ะ 500.- บาทตอนเย็นหลังเลิกเรยี น ด.ช.เอกภพ ได้ทํางานหารายไดพ้ ิเศษ ชว่ ยรดน้ําต้นไม้ให้เพื่อนบ้านทุกวนั ๆ ละ 1 ช่ัวโมง รวมท้ังวนั หยุดด้วย ถ้าในวันท่ี 1 กรกฎาคม 25.... เขามเี งนิ คงเหลือยกมาจากวนั ท่ี 30 มิถุนายน 25.... จํานวน 75.- บาท ในระหว่างวันท่ี 1 – 7 กรกฎาคม 25.... เขามรี ายรับและรายจา่ ย ดงั นี้ กรกฎาคม 1 ไดร้ บั เงินจากผ้ปู กครองประจําสัปดาห์ 500.- บาท จ่ายค่าอาหารกลางวนั 25.- บาท จ่ายค่ารถรบั จา้ ง 10.- บาท 30.-บาท 2 จ่ายคา่ อาหารกลางวนั 40.- บาท จา่ ยค่าเช่าหนงั สือการต์ ูน 35.- บาท จ่ายค่ากระดาษทาํ รายงาน 50.-บาท 42.- บาท 3 จ่ายคา่ วัสดุในการเรยี น 60.- บาท จา่ ยค่าอาหารกลางวนั 20.-บาท จ่ายคา่ เชา่ คอมพวิ เตอร์ 35.- บาท 5.-บาท 4 จ่ายคา่ รถประจําทาง 28.- บาท จ่ายค่าอาหารกลางวัน 22.- บาท 80.-บาท 5 จ่ายคา่ ทําบญุ 40.- บาท จ่ายคา่ อปุ กรณ์การเรียน 100.-บาท จา่ ยคา่ ถา่ ยเอกสาร 6 จ่ายค่าอุปกรณท์ ําโครงงาน จ่ายคา่ สโี ปสเตอรเ์ พื่อเรียนศิลปะ 7 ไดร้ บั เงนิ คา่ ชว่ ยรดนา้ํ ต้นไมใ้ ห้เพือ่ นบา้ น คะแนนเต็ม 10 คะแนน เกณฑ์การประเมนิ ผ่านเกณฑ์ 60% เทา่ กบั 6 คะแนน คะแนนทไ่ี ด้ ............... คะแนน ผา่ น ไมผ่ ่าน
……………………………………………………. ……………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… พ.ศ. 25…… รายการ รายรบั จานวนเงนิ คงเหลือ เดอื น วันท่ี ………… รายจา่ ย ……………… ……… …………………………………………………… ………… …………… - ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ……..…… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ..………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… …………. ………… …………… ………………. ………. …………………………………………………… ………… ………….. …………
……………………………………………………. ……………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… พ.ศ. 25…… รายการ รายรบั จานวนเงิน คงเหลอื เดอื น วนั ท่ี ………… รายจา่ ย ……………… ……… …………………………………………………… ………… …………… - ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ……..…… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ..………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… …………. ………… …………… ………………. ………. …………………………………………………… ………… ………….. …………
……………………………………………………. ……………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… พ.ศ. 25…… รายการ รายรบั จานวนเงิน คงเหลอื เดอื น วนั ท่ี ………… รายจา่ ย ……………… ……… …………………………………………………… ………… …………… - ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ……..…… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ..………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… …………. ………… …………… ………………. ………. …………………………………………………… ………… ………….. …………
……………………………………………………. ……………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… พ.ศ. 25…… รายการ รายรบั จานวนเงนิ คงเหลือ เดอื น วนั ท่ี ………… รายจา่ ย ……………… ……… …………………………………………………… ………… …………… - ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ……..…… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ..………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… …………. ………… …………… ………………. ………. …………………………………………………… ………… ………….. …………
……………………………………………………. ……………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………… พ.ศ. 25…… รายการ รายรบั จานวนเงิน คงเหลอื เดอื น วนั ท่ี ………… รายจา่ ย ……………… ……… …………………………………………………… ………… …………… - ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ……..…… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ..………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… ………… ………… …………… ……………… ……… …………………………………………………… …………. ………… …………… ………………. ………. …………………………………………………… ………… ………….. …………
ใบงานท่ี 2.5 เรือ่ ง ประเภทของสถาบนั การเงิน สถาบนั การเงนิ ทีส่ าํ คญั คาํ ช้แี จง ใหน้ กั เรียนอธบิ ายบทบาทและหนา้ ที่ของสถาบันการเงนิ ท่ีสําคัญ สถาบันการเงินที่ บทบาทหนา้ ท่ี สาคญั 1. ธนาคารพาณชิ ย์ …………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………. 2. ธนาคารออมสนิ ……………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………. 3. ธนาคารเพอื่ ……………………………………………………………………………………………. การเกษตรและ …………………………………………………………………………………………….. สหกรณก์ ารเกษตร …………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………….. 4.ธนาคารอาคาร …………………………………………………………………………………………….. สงเคราะห์ …………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………….. 6. ธนาคารอสิ ลาม …………………………………………………………………………………………… แห่งประเทศไทย ………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………..
ใบงานที่ 2.6 เรือ่ ง การออม การใชบ้ ริการออมเงินกบั สถาบนั การเงนิ (ธนาคารโรงเรยี น) ความพอประมาณ ความมเี หตุผล ภมู ิคุ้มกนั ในตวั ท่ดี ี ...................................................... ............................................................. .............................................................. ...................................................... ............................................................. .............................................................. ...................................................... ............................................................. .............................................................. ...................................................... ............................................................. ............................................................. ...................................................... .... .............................................................. ......... .............................................................. ……………………………………………………. การใช้บริการออมเงินกบั ธนาคารโรงเรียน เง่อื นไขความรู้ เง่อื นไขคุณธรรม ........................................................................ .......................................................................... ........................................................................ .......................................................................... ........................................................................ .......................................................................... ........................................................................ .......................................................................... ................................................................ .................................................................. .
Search