42 ตารางท่ี 5 แหลงซ้ือยารกั ษาสวิ (N=130) รา นขายยา แหลง ซื้อ จาํ นวน รอ ยละ (คน) คลินิกแพทย, คลินกิ รา นขายยา 40 30.8 ความงาม รา น BOOT 2 44 1.5 33.8 รานเพชรรตั นเภสัช 1 0.8 รา นคา ราน SAFE DRUG 1 0.8 คลินิกแพทย 22 16.9 พรเกษมคลนิ กิ 7 5.4 ราชเทวีคลนิ ิก 4 3.1 คลินิกหมอประทปี 3 2.3 วงษฏาคลนิ ิก 1 0.8 ราชวิถีคลนิ กิ ,วงษฏาคลนิ กิ 1 44 0.8 33.8 ราชวถิ คี ลนิ ิก 1 0.8 คลนิ ิกราชเทวี 1 0.8 คลนิ กิ ธนาวรรณ 1 0.8 คลินิกแพทยว ชิระ จ.สมุทรสงคราม 1 0.8 คลนิ ิกแพทยผ วิ หนัง 1 0.8 คลินกิ ความงาม 1 0.8 หา งสรรพสินคา 14 10.8 รานสะดวกซ้อื 2 1.5 รา นคา 3 2.3 SEVEN-ELEVEN 1 24 0.8 18.5 TESCO LOTUS 2 1.5 ทองตลาด 1 0.8 ตลาดนครปฐม 1 0.8
43 ตารางท่ี 5 (ตอ) โรงพยาบาล แหลง ซอื้ จาํ นวน รอยละ (คน) ศนู ยความงาม โรงพยาบาลพญาไท 1 0.8 โรงพยาบาลจฬุ าฯ 16 0.8 4.6 ผูแ ทนขายตรง โรงพยาบาล 3 2.3 รา นขาย สถาบนั โรคผวิ หนงั 1 0.8 เครอื่ งสําอาง PANCOSMETIC 2 1.5 รานเสริมสวย NEO บิวตี้ 15 0.8 3.8 ศนู ยค วามงาม 1 0.8 หมอมวลชน 1 0.8 AMWAY 12 0.8 1.5 ผแู ทนขายตรง 1 0.8 รา นขายเคร่อื งสําอาง 34 2.3 3.1 BODY SHOP 1 0.8 รานเสรมิ สวย 11 0.8 0.8
44 ตารางท่ี 6 ระยะเวลาท่ีใชย ารักษาสิว (N=111) ระยะเวลาท่ีใช จํานวน (คน) รอยละ 5 วัน 1 0.9 1 สัปดาห 1 0.9 2 สัปดาห 2 1.8 3 สัปดาห 3 2.7 6 สัปดาห 1 0.9 นอยกวา 1 ป 1 เดอื น 12 62 10.8 55.9 2 เดือน 13 11.7 3 เดือน 12 10.8 4 เดอื น 3 2.7 5 เดือน 2 1.8 6 เดอื น 11 9.9 7 เดอื น 1 0.9 1 ป 21 18.9 1 ป- 4 ป 2 ป 15 44 13.5 39.6 3 ป 4 3.6 4 ป 4 3.6 5 ปข นึ้ ไป 5 ป 2 1.8 6 ป 25 1.8 3.6 7 ป 1 0.9
45 ช่อื ยารักษาสวิ จากการศึกษาพบวา กลุมตัวอยางใชยารักษาสิว จํานวน 137 คน โดยจํานวน 76 คน ไมทราบชื่อยารักษาสิว (รอยละ 55.5) และจํานวน 61 คน (รอยละ 44.5) ทราบช่ือยารักษาสิว เมื่อใหระบุช่ือยารักษาสิว มีจํานวน 14 คน (รอยละ 10.2) ตอบวาทราบโดยไมระบุช่ือยารักษา สิว และจํานวน 47 คน (รอยละ 34.3) ตอบวาทราบโดยระบุช่ือยารักษาสิว (ตารางที่ 7) โดยยา รักษาสิวท่ีกลุมตัวอยางใชมากที่สุดคือ คลินดาเอ็มโลช่ัน จํานวน 15 คน (รอยละ31.9) รองลงมาคือ เคเอครีม, พอนดครีม, สกาแครครีม, ผงพิเศษตรารมชูชีพ และโอเลยครีม ชนิดละ 2 คน (รอยละ 4.3) (ตารางที่ 8) วธิ ีใชยารักษาสิว จากการศึกษาพบวา กลุมตัวอยางใชยารักษาสิว จํานวน 137 คน โดยจํานวน 34 คน (รอยละ 24.8) ไมทราบวิธีใชยารักษาสิว และจํานวน 103 คน (รอยละ 75.2) ทราบวิธีใชยา รักษาสิว เม่ือใหระบุวิธีการใชยา มีจํานวน 40 คน (รอยละ 29.2) ตอบวาทราบโดยไมระบุวิธีใช ยารักษาสวิ และจาํ นวน 63 คน (รอยละ 46.0) ตอบวา ทราบโดยระบุชื่อยารักษาสิว (ตารางท่ี 7) โดยมีวิธใี ชที่สรุปไดเ รียงตามลาํ ดบั คือ ทาหรอื แตม บรเิ วณที่เปนสิว, ใชลางหนา และรับประทาน (ตารางท่ี 9) ขอ ควรระวังของยารักษาสิว จากการศึกษาพบวา กลมุ ตัวอยา งใชย ารกั ษาสิว จํานวน 137 คน โดยจํานวน 72 คน (รอยละ 52.5) ไมทราบขอควรระวงั ของยารกั ษาสวิ และจํานวน 65 คน (รอ ยละ 47.5) ทราบขอ ควรระวังของยารกั ษาสิว เมื่อใหร ะบุขอควรระวงั ของยารกั ษาสวิ จาํ นวน 36 คน (รอ ยละ 26.3) ตอบวาทราบโดยไมระบุขอควรระวังของยารักษาสิว และจํานวน 29 คน (รอยละ 21.2) ตอบวา ทราบโดยระบุขอควรระวังของยารักษาสิว (ตารางที่ 7) โดยขอควรระวังของยารักษาสิวท่ีตอบ มากท่ีสดุ คือ ถา เกิดอาการคนั ใหหยดุ ใช, ถา มอี าการแพใ หหยดุ ใช, หากมีผื่นควรหยุดใช จํานวน 4 คน (รอยละ 13.8) รองลงมาคือ หามรับประทาน และอยาใหเขาตา ในจํานวนเทากันคือ 3 คน (รอยละ 10.3) (ตารางที่ 10)
46 ตารางที่ 7 ความรูเกย่ี วกบั ชื่อยา, วธิ ีใชยา, ขอ ควรระวังของยารักษาสิว (N=137) ขอมลู การใชยา ชื่อยา(คน) วธิ ใี ชยา(คน) ขอควรระวงั ของยา(คน) 76 (รอ ยละ 55.5) 34 (รอ ยละ 24.8) 72 (รอ ยละ 52.5) ไมท ราบ 14 (รอ ยละ 10.2) 40 (รอ ยละ 29.2) 36 (รอยละ 26.3) 47 (รอยละ 34.3) 63 (รอยละ 46.0) 29 (รอ ยละ 21.2) ทราบ ไมร ะบุ ระบุ ตารางที่ 8 ชอื่ ยารักษาสวิ (N=47) จํานวน(คน) รอ ยละ 15 31.9 ช่ือยารกั ษาสวิ 2 4.3 คลนิ ดาเอม็ โลชั่น 2 4.3 เคเอครีม 2 4.3 พอนดค รีม 2 4.3 สกาแครค รมี 2 4.3 ผงพเิ ศษตรารม ชูชีพ 22 46.8 โอเลยครีม อืน่ ๆ เชน Clearasil, Eucerin,Pancosmetic ตารางท่ี 9 วิธใี ชย ารกั ษาสิว (N=63) จาํ นวน(คน) รอยละ 33 52.4 วธิ ีใช 5 7.9 ทา, แตมบรเิ วณท่ีเปน สิว 4 6.3 ทาทวั่ หนา กอนนอน 3 4.8 ใชล า งหนา 3 4.8 ทาหลงั ลางหนา เชา-กอนนอน 2 3.2 ทาหวั สิว เชา เย็น 2 3.2 ทากอนลา งหนา , ทากอนลา งหนา 10 นาที ยาทา, ยารบั ประทาน
ตารางที่ 9 (ตอ ) 47 วิธีใช จาํ นวน(คน) รอ ยละ ตามแพทย, สัง่ อานท่รี ะบขุ า งกลอง 2 3.2 อ่นื ๆ เชน ทา3-4ครั้งตอวัน, ยาทา, ใชลา งหนา 9 14.3 ตารางที่ 10 ขอ ควรระวังของยารักษาสวิ (N=29) รอยละ 13.8 ขอ ควรระวัง จาํ นวน(คน) 10.3 ถาเกดิ อาการคนั ใหห ยุดใช, ถามีอาการแพใ หหยุดใช, 10.3 หยุดใชห ากมอี าการแพ, หากมีผืน่ ควรหยดุ ใช 4 6.9 3 6.9 หา มรบั ประทาน 3 51.7 2 อยาใหเขาตา 2 อยาทาบริเวณรอบดวงตา, ทาบางๆ อยา ใหเ ขาตา 15 อยา ใหเ ขาตา หากเกิดอาการระคายเคืองใหหยดุ ใช แลว ไปพบแพทย อ่ืนๆ เชน หา มโดนแสงแดด, หา มทาใกลต า, ปาก และ ขางจมกู , หามใชใ นขณะต้งั ครรภ
48 ปจจัยที่มีผลตอความรูในการรักษาสิวของนักศึกษาระดับปริญญาตรี ในเขตอําเภอ เมือง จังหวดั นครปฐม การศึกษาปจจัยท่ีมีผลตอความรูในการรักษาสิวของนักศึกษาระดับปริญญาตรี ในเขต อาํ เภอเมือง จงั หวดั นครปฐม คาสถิตทิ ใี่ ชค อื • การทดสอบคา ทชี นดิ ทเี่ ปนอิสระ (Independent t-test) ไดแ ก เพศ, อาย,ุ สาขาวชิ าท่ศี ึกษา • การวเิ คราะหค วามแปรปรวนทางเดยี ว (One way ANOVA) ไดแก สถาบนั การศกึ ษา, รายได, ความรุนแรงของสวิ , ความกงั วลเรอื่ งสวิ , แหลงความรู สมมติฐานของการวจิ ัย 1. นักศกึ ษาท่ีมเี พศแตกตา งกนั มคี วามรใู นการรักษาสวิ แตกตางกัน 2. นกั ศึกษาที่มอี ายแุ ตกตา งกนั มคี วามรูในการรักษาสวิ แตกตา งกนั 3. นกั ศกึ ษาท่ีเรยี นในสาขาวชิ าแตกตา งกนั มคี วามรูใ นการรกั ษาสิวแตกตา งกนั 4. นกั ศกึ ษาท่ีเรียนในสถาบนั การศกึ ษาแตกตางกนั มีความรูในการรกั ษาสวิ แตกตางกนั 5. นักศึกษาที่มีรายไดแตกตางกันมคี วามรใู นการรกั ษาสวิ แตกตางกนั 6. นักศึกษาทมี่ ีความรนุ แรงของสิวแตกตา งกนั มคี วามรูใ นการรักษาสวิ แตกตา งกนั 7. นักศกึ ษาที่มคี วามกงั วลเรอื่ งสิวแตกตางกนั มีความรูใ นการรกั ษาสวิ แตกตา งกัน 8. นักศกึ ษาที่มแี หลง ความรูในการรกั ษาสวิ แตกตางกนั มีความรใู นการรกั ษาสวิ แตกตา ง กัน จากการศกึ ษาความรูในการรกั ษาสิวของนกั ศกึ ษาระดบั ปริญญาตรี ในเขตอาํ เภอเมอื ง จงั หวดั นครปฐม ของกลมุ ตัวอยา งจาํ นวน 431 คน ดวยแบบทดสอบ 30 ขอ มคี ะแนนเตม็ 30 คะแนน (รอ ยละ 100) พบวา
49 เพศ กลุมตัวอยางเปนเพศหญิง จํานวน 315 คน (รอยละ 73.1) มีคะแนนความรูในการ รักษาสิวเฉล่ียเทากับ 10.3 (+3.9) คะแนน และเปนเพศชาย จํานวน 116 คน (รอยละ 26.9) มี คะแนนความรูในการรักษาสิวเฉลี่ยเทากับ 9.1 (+4.3) คะแนน เม่ือทดสอบทางสถิติพบวา นักศึกษาท่ีมีเพศแตกตางกันมีความรูในการรักษาสิวแตกตางกัน อยางมีนัยสําคัญทางสถิติท่ี ระดับ 0.05 (t=-2.710, df=429, p-value=0.007, 95%CI=-2.04994,-0.32641) พบวากลุม นักศึกษาเพศหญิงมคี วามรูในการรกั ษาสิวสงู กวากลุมนกั ศกึ ษาเพศชาย อายุ กลุมตัวอยางมีอายุ 18-21 ป จํานวน 358 คน (รอยละ 83.1) มีคะแนนความรูในการ รักษาสิวเฉล่ียเทากับ 9.9 (+4.1) คะแนน และอายุ 22-27 ป จํานวน 73 คน (รอยละ 16.9) มี คะแนนความรูในการรักษาสิวเฉล่ียเทากับ 10.1 (+4.1) คะแนน เมื่อทดสอบทางสถิติพบวา นักศึกษาท่ีมีอายุแตกตางกันมีความรูในการรักษาสิวไมแตกตางกัน (t=-0.397, df=429, p- value=0.692, 95%CI=-1.23484,-0.82013) สาขาวชิ าทศี่ กึ ษา กลุมตัวอยางเรียนในสายศิลปและสังคมศาสตร จํานวน 240 คน (รอยละ 55.7) มี คะแนนความรูในการรักษาสิวเฉล่ียเทากับ 9.8 (+4.2) คะแนน และสายวิทยาศาสตร จํานวน 191 คน (รอยละ 44.3) มีคะแนนความรูในการรักษาสิวเฉล่ียเทากับ 10.1 (+3.9) คะแนน เมื่อ ทดสอบทางสถิติพบวา นักศึกษาที่มีสาขาวิชาที่ศึกษาแตกตางกันมีความรูในการรักษาสิวไม แตกตางกนั (t=-0.905, df=429, p-value=0.366, 95%CI=-0.41826,1.13218) สถาบนั การศกึ ษา กลุมตัวอยางศึกษาในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม จํานวน 210 คน (รอยละ 48.7) มี คะแนนความรูในการรักษาสิวเฉล่ียเทากับ 9.6 (+4.0) คะแนน, มหาวิทยาลัยศิลปากร จํานวน 184 คน (รอยละ 42.7) มีคะแนนความรูในการรักษาสิวเฉลี่ยเทากับ 10.0 (+4.1) คะแนน และ มหาวิทยาลัยคริสเตียน จํานวน 37 คน (รอยละ 8.6) มีคะแนนความรูในการรักษาสิวเฉล่ีย เทากับ 11.9 (+4.0) คะแนน เมื่อทดสอบทางสถิติพบวา นักศึกษาที่มีสถาบันการศึกษา แตกตางกันมีความรูในการรักษาสิวแตกตางกัน อยางมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (F=5.453, df=2, p-value=0.005) กลุมนักศึกษาของมหาวิทยาลัยคริสเตียนมีความรูในการ
50 รักษาสิวแตกตางจากกลุมนักศึกษาของมหาวิทยาลัยศิลปากร (p-value=0.029, 95%CI=- 3.7221,-0.1593) โดยกลุมนักศึกษาของมหาวิทยาลัยคริสเตียนมีความรูในการรักษาสิว มากกวากลมุ นักศกึ ษาของมหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร และกลุมนักศกึ ษาของมหาวทิ ยาลัยคริสเตียน มีความรูในการรักษาสิวแตกตางจากกลุมนักศึกษาของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม (p- value=0.005, 95%CI=0.6037,4.1294) โดยกลุมนกั ศกึ ษาของมหาวทิ ยาลัยครสิ เตยี นมคี วามรู ในการรักษาสิวมากกวากลุมนักศึกษาของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม แตกลุมนักศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากรและกลุมนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ไมมีความแตกตางของ ความรูในการรักษาสิว (p-value=0.578, 95%CI=-0.5725,1.4243) รายได กลุมตัวอยา งมีรายไดร ะหวาง 1,000-30,000 บาท มรี ายไดเทากับ 4,237.7 (+2,951.2) บาท โดยรายไดไมเกิน 2,000 บาท จํานวน 64 คน (รอยละ 15.3) มีคะแนนความรูในการรักษา สิวเฉลี่ยเทากับ 8.8 (+3.9) คะแนน, รายได 2,001-5,000 บาท จํานวน 282 คน (รอยละ 67.6) มีคะแนนความรูในการรักษาสิวเฉล่ียเทากับ 10.1 (+4.0) คะแนน, รายได 5,001-10,000 บาท จํานวน 62 คน (รอยละ 14.9) มคี ะแนนความรูในการรกั ษาสิวเฉลยี่ เทากับ 10.2 (+4.0) คะแนน และรายได 10,000 ข้ึนไป จํานวน 9 คน (รอยละ 2.2) มีคะแนนความรูในการรักษาสิวเฉล่ีย เทากับ 8.6 (+4.8) คะแนน เมื่อทดสอบทางสถิติพบวา นักศึกษาที่มีรายไดแตกตางกันมี ความรูในการรักษาสิวไมแ ตกตางกัน (F=2.287, df=3, p-value=0.078) ความรนุ แรงของสวิ กลุมตัวอยางมีสิวในความรุนแรงเล็กนอย จํานวน 244 คน (รอยละ 75.1) มีคะแนน ความรูในการรักษาสิวเฉล่ียเทากับ 10.1 (+4.0) คะแนน รองลงมาคือความรุนแรงปานกลาง จํานวน 54 คน (รอ ยละ 16.6) มคี ะแนนความรูในการรกั ษาสวิ เฉลยี่ เทากับ 10.2 (+4.9) คะแนน และความรุนแรงมาก จํานวน 27 คน (รอยละ 8.3) มีคะแนนความรูในการรักษาสิวเฉลี่ยเทากับ 10.4 (+4.1) คะแนน เมื่อทดสอบทางสถิติพบวา นักศึกษาท่ีมีความรุนแรงของสิวแตกตางกันมี ความรูในการรกั ษาสวิ ไมแตกตา งกัน (F=0.084, df =2, p-value=0.920)
51 ความกงั วลเรอื่ งสวิ กลมุ ตวั อยางไมมคี วามกังวล จาํ นวน 29 คน (รอยละ 8.9) มคี ะแนนความรูในการรกั ษา สิวเฉลี่ยเทากับ 8.8 (+4.2) คะแนน, ความกังวลนอย จํานวน 80 คน (รอยละ 24.6) มีคะแนน ความรูใ นการรักษาสิวเฉล่ยี เทา กับ 10.1 (+4.2) คะแนน, ความกังวลปานกลางจํานวน 155 คน (รอยละ 47.7) มีคะแนนความรูในการรักษาสิวเฉลี่ยเทากับ 10.0 (+3.8) คะแนน และความ กังวลมาก จํานวน 61 คน (รอยละ 18.8) มีคะแนนความรูในการรักษาสิวเฉล่ียเทากับ 11.3 (+4.6) คะแนน เมื่อทดสอบทางสถิติพบวา นักศึกษาที่มีความกังวลเร่ืองสิวแตกตางกันมี ความรูในการรักษาสิวแตกตางกัน อยางมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ 0.05 (F=2.734, df=3, p- value=0.044) โดยกลุมนักศึกษาท่ีมีความกังวลมากมีความรูในการรักษาสิวแตกตางจากกลุม นักศึกษาท่ีไมมีความกังวลอยางมีนัยสําคัญ (p-value=0.007, 95%CI=-4.3215,-0.6858) โดย กลุมนักศกึ ษาที่มีความกังวลมากมีความรูใ นการรกั ษาสวิ สงู กวากลมุ นักศึกษาที่ไมมคี วามกังวล และกลุมนักศึกษาท่ีมีความกังวลมากมีความรูในการรักษาสิวแตกตางจากกลุมนักศึกษาที่มี ความกังวลปานกลางอยางมีนัยสําคัญ (p-value=0.036, 95%CI=-2.5191,-0.0829) โดยกลุม นักศึกษาที่มีความกังวลมากมีความรูในการรักษาสิวสูงกวากลุมนักศึกษาท่ีมีความกังวลปาน กลาง แตกลมุ นักศึกษาที่ไมม ีความกังวลกบั กลุมนักศึกษาทมี่ คี วามกังวลนอ ย (p-value=0.147, 95%CI=-3.0383,0.4555), กลุมนักศึกษาท่ีไมมีความกังวลกับกลุมนักศึกษาท่ีมีความกังวล ปานกลาง (p-value=0.148, 95%CI=-2.8332,0.4279), กลุมนักศึกษาท่ีมีความกังวลนอยกับ กลุมนักศึกษาที่มีความกังวลมาก (p-value=0.083, 95%CI=-2.5822,0.1576) และกลุม.. นักศึกษาที่มีความกังวลปานกลางกับกลุมนักศึกษาท่ีมีความกังวลนอย (p-value=0.875, 95%CI=-1.1982,1.0208) ไมม คี วามแตกตา งของความรใู นการรักษาสิว แหลง ความรู กลุมตัวอยางท่ีมีแหลงความรูที่เลือกอันดับ 1 เปน สื่อสารมวลชน จํานวน 195 คน (รอยละ 46.3) มีคะแนนความรูในการรักษาสิวเฉลี่ยเทากับ 9.8 (+4.1) คะแนน, สื่อสิ่งตีพิมพ จํานวน 65 คน (รอยละ 15.4) มีคะแนนความรูในการรักษาสิวเฉล่ียเทากับ 9.7 (+4.0) คะแนน, ส่ือเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส จํานวน 20 คน (รอยละ 4.8) มีคะแนนความรูในการรักษาสิวเฉล่ีย เทากับ 12.9 (+3.3) คะแนน, สื่อบุคคล จํานวน 141 คน (รอยละ 33.5) มีคะแนนความรูในการ รักษาสิวเฉล่ียเทากับ 9.8 (+4.1) คะแนน เม่ือทดสอบทางสถิติพบวา นักศึกษาท่ีมีแหลงความรู ในการรักษาสิวแตกตางกันมีความรูในการรักษาสิวแตกตางกัน อยางมีนัยสําคัญทางสถิติท่ี
52 ระดับ 0.05 (F=3.661, df=417, p-value=0.013) กลุมนักศึกษาท่ีมีแหลงความรูเปนส่ือสาร มวลชนมีความรูในการรักษาสิวแตกตางจากกลุมนักศึกษาท่ีมีแหลงความรูเปนสื่อเทคโนโลยี อิเล็กทรอนิกสอยางมีนัยสําคัญ (p-value=0.018, 95%CI=-5.6888,-0.3600) โดยกลุมนักศึก ษาที่มีแหลงความรูเปนส่ือเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกสมีความรูในการรักษาสิวสูงกวากลุม นักศึกษาท่ีมีแหลงความรูเปนส่ือสารมวลชน, กลุมนักศึกษาท่ีมีแหลงความรูเปนสื่อส่ิงตีพิมพมี ความรูในการรักษาสิวแตกตางจากกลุมนักศึกษาท่ีมีแหลงความรูเปนส่ือเทคโนโลยี อิเล็กทรอนิกสอยางมีนัยสําคัญ (p-value=0.030, 95%CI=-6.0132,-0.2098) โดยกลุมนักศึก ษาที่มีแหลงความรูเปนส่ือเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกสมีความรูในการรักษาสิวสูงกวากลุม นักศึกษาท่ีมีแหลงความรูเปนสื่อสิ่งตีพิมพ และกลุมนักศึกษาที่มีแหลงความรูเปนส่ือบุคคลมี ความรูในการรักษาสิวแตกตางจากกลุมนักศึกษาที่มีแหลงความรูเปนสื่อเทคโนโลยี อิเล็กทรอนิกสอยางมีนัยสําคัญ (p-value=0.017, 95%CI=0.3868,5.8097) โดยกลุมนักศึกษา ท่ีมีแหลงความรูเปนส่ือเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกสมีความรูในการรักษาสิวสูงกวากลุมนักศึกษาท่ี มีแหลงความรูเปนสื่อบุคคล แตกลุมนักศึกษาที่มีแหลงความรูเปนสื่อสารมวลชนกับกลุม นักศึกษาท่ีมีแหลงความรูเปนสื่อส่ิงตีพิมพ (p-value=0.999, 95%CI=-1.5381,1.7125), กลุม นักศึกษาที่มีแหลงความรูเปนส่ือสารมวลชนกับกลุมนักศึกษาท่ีมีแหลงความรูเปนส่ือบุคคล (p- value=0.999, 95%CI=-1.1806,1.3283) และกลุมนักศึกษาท่ีมีแหลงความรูเปนส่ือสิ่งตีพิมพ กับกลุมนักศึกษาที่มีแหลงความรูเปนสื่อบุคคล(p-value=1.000, 95%CI=-1.7146,1.6880) ไม มคี วามแตกตา งของความรใู นการรักษาสวิ
53 บทท่ี 5 สรปุ อภปิ รายผลและขอเสนอแนะ การศึกษาวิจัยเร่ืองปจจัยท่ีมีผลตอความรูในการรักษาสิวของนักศึกษาระดับปริญญา ตรี ในเขตอําเภอเมือง จังหวัดนครปฐม มีวัตถุประสงคเพื่อศึกษาความรูในการรักษาสิวของ นักศึกษาระดับปริญญาตรี ในเขตอําเภอเมือง จังหวัดนครปฐม และเพ่ือศึกษาปจจัยท่ีมีผลตอ ความรูในการรักษาสิวของนักศึกษาระดับปริญญาตรีในเขตอําเภอเมือง จังหวัดนครปฐม โดย ดําเนินการเก็บรวบรวมขอมูลกับกลุมตัวอยางในอําเภอเมือง จังหวัดนครปฐม จํานวน 431 คน การกลุมเลือกตัวอยางเพื่อเก็บขอมูลไมไดอาศัยความนาจะเปน (Non Probability) โดยใชวิธี เลือกตัวอยางแบบบังเอิญ (Accidental Sampling) เครื่องมือท่ีใชในการศึกษาวิจัยคร้ังน้ีเปน แบบสอบถามท่ีผูวิจัยไดสรางและพัฒนาเครื่องมือข้ึนเอง สถิติท่ีใชในการวิเคราะห คือ คารอย ละ, คาเฉลี่ย (X), คาสวนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) และวิเคราะหหาความสัมพันธของปจจัย ตางๆ ที่มีความสัมพันธกับความรูในการรักษาสิวของนักศึกษาระดับปริญญาตรี ในเขตอําเภอ เมือง จงั หวัดนครปฐม คา สถิติทใี่ ชคือ การทดสอบคาทีชนดิ ที่เปน อสิ ระ (Independent t-test) และการวเิ คราะหค วามแปรปรวนทางเดยี ว (One way ANOVA) สรปุ ผลการวจิ ยั จากการวเิ คราะหข อมูล สามารถสรุปผลการวจิ ัยไดดงั ตอไปน้ี 1. กลุมตัวอยางสวนใหญ (รอยละ 73.1) เปนเพศหญิงมีอายุระหวาง 18-27 ป อายุ เฉลย่ี 20.6 (+1.4) ป โดยสว นใหญ (รอยละ 83.1) มอี ายุระหวา ง 18-21 ป รอ ยละ 55.7 เรียนใน สายศิลปและสังคมศาสตร รอยละ 48.7 ศึกษาในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม มีรายได 1,000-30,000 บาท รายไดเฉลี่ย 4,237.7 (+2,951.20) บาท กลุมตัวอยางรอยละ 75.4 คิดวา การมีสิวทําใหมีปญหาในการดําเนินชีวิตประจําวัน ซึ่งรอยละ 43.6 ของกลุมน้ีระบุวาสิวเปน ปญ หาตอ การดาํ เนินชวี ิตในปจ จบุ นั รอยละ 75.1 มสี วิ ในระดบั รนุ แรงเล็กนอย และรอยละ 47.7 มคี วามกงั วลปานกลางในเรือ่ งท่เี ปน สวิ 2. แหลงความรูเก่ียวกับการรับทราบหรือคนหาขอมูลในการรักษาสิวท่ีกลุมตัวอยาง เลอื กตอบมากทส่ี ดุ คือ โทรทัศน (ชว งโฆษณา) (รอ ยละ18.1) เมอื่ นําแหลง ขอมลู ขา วสารมา
54 จัดเปนประเภทของแหลงขอมูลขาวสาร พบวา สื่อบุคคล มีการเลือกตอบมากที่สุด (รอยละ 36.9) 3. ความรใู นการรักษาสวิ ของนกั ศกึ ษาระดับปริญญาตรี ในเขตอําเภอเมอื ง จงั หวัด นครปฐม พบวากลมุ ตัวอยา งสว นใหญ (รอ ยละ 87.5) มีความรรู ะดับตํา่ 4. แนวทางการดูแลรักษาสิว กลมุ ตวั อยา ง (รอยละ 31.8) ใชย ารักษาสวิ มรี ายละเอียดดงั น้ี • แหลงซ้ือยารักษาสิวท่ีระบุมากท่ีสุด 2 แหลง ไดแก รานขายยา และ คลินิก แพทย, คลินิกความงาม ในจํานวนที่เทากัน (รอยละ 33.8) สําหรับแหลงซื้อท่ีระบุนอยท่ีสุด ไดแก รานเสรมิ สวย (รอ ยละ 0.8) • ระยะเวลาทใ่ี ชย ารักษาสิวมากท่ีสุดคือ ระยะเวลา 1 ป (รอยละ 18.9) สําหรับ ระยะเวลาท่ใี ชยารกั ษาสิวนานทสี่ ุด คือ 7 ป (รอยละ 0.7) • ชอื่ ยารกั ษาสิวท่ีกลมุ ตวั อยางใชม ากทส่ี ดุ คอื คลนิ ดาเอม็ โลชัน่ (รอ ยละ 31.9) • วิธใี ชย ารักษาสวิ มวี ธิ ใี ชท ่ีสรุปไดคือ ทาหรอื แตม บริเวณทีเ่ ปนสวิ , ใชล า งหนา และใชรับประทาน • ขอควรระวังของยารักษาสิวที่ตอบมากท่ีสุดคือ ถาเกิดอาการคันใหหยุดใช, ถา มอี าการแพใหห ยดุ ใช, หากมผี ืน่ ควรหยุดใช (รอ ยละ 13.8) 5. ปจ จัยทีม่ ีผลตอ ความรใู นการรักษาสิวของนักศึกษาระดับปริญญาตรี ในเขตอําเภอ เมือง จังหวัดนครปฐม ไดแก เพศ, สถาบันการศึกษา, ความกังวลเรื่องสิวและแหลงความรู และ ปจจัยท่ีไมมีผลตอความรูในการรักษาสิว ไดแก อายุ, สาขาวิชาที่ศึกษา, รายได, ความรุนแรง ของสิว อภปิ รายผลการวิจัย จากการสรุปผลการวิจัยสามารถนํามาอภิปรายตามวัตถุประสงคและสมมติฐานของ การวิจัยไดดงั รายละเอยี ดตอไปน้ี 1. ขอ มูลท่ัวไปของกลมุ ตัวอยาง จากการศกึ ษาวิจยั พบวา เพศ, สถาบันการศกึ ษา, ความกังวลเร่อื งสวิ และแหลงความรู มผี ลตอความรูใ นการรกั ษาสิวของนักศกึ ษาระดบั ปริญญาตรี ในเขตอําเภอเมอื ง จังหวดั
55 นครปฐม ดานเพศและความกังวลในการเกิดสิว สอดคลองกับการศึกษาของพรศรี แหยมอุบล (2547 : 52-60) ดานเพศพบวา นักเรียนระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ในเขตอาํ เภอเมอื ง จงั หวดั นครปฐม ท่ีเพศแตกตางกันมีพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองแตกตางกัน โดยพบวานักเรียน เพศหญงิ มีการดแู ลสขุ ภาพดีกวานักเรียนเพศชาย ทง้ั นเ้ี พราะนกั เรยี นเพศหญงิ มคี วามสนใจเอา ใจใสตอการดูแลสุขภาพ จึงทําใหมีการศึกษาคนควาเพื่อสืบคนและหาแนวทางในเรื่องที่ตนมี ปญหาและพยายามหาวิธีในการแกไขกับปญหาท่ีเปน และดานความกังวลในการเกิดสิว นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ในเขตอําเภอเมือง จังหวัดนครปฐม ท่ีมีภาวะสุขภาพใน ปจจุบันตางกันมีพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตางกัน โดยกลุมที่มีโรคประจําตัวมีพฤติกรรมการ ดูแลสุขภาพดีกวากลุมท่ีไมมีโรคประจําตัว เน่ืองจากการรับรูตอโอกาสเส่ียงของโรคที่เปนเปน สง่ิ กระตุนใหบคุ คลมีพฤติกรรมเกี่ยวกบั การปอ งกนั โรค ผทู ่ีมรี ะดบั การรับรูสูงตอโอกาสเสี่ยงของ การเปนโรคยอมใหความรวมมือในการปฏิบัติตนเพ่ือดูแลสุขภาพมากกวาผูที่ไมรับรูหรือมีการ รบั รูอยใู นระดับตํา่ สถาบันการศึกษาพบวา กลุมตัวอยางนักศึกษาของมหาวิทยาลัยคริสเตียนสวนใหญ (รอยละ 64.9) เปนเพศหญิงและศึกษาในคณะพยาบาลศาสตร ซึ่งเปนเพศที่ใหความสนใจใน เร่ืองความสวยความงามและเอาใจใสตอสขุ ภาพประกอบกับสายการเรียนท่ีเก่ียวกับสุขภาพ จึง นาที่จะมีผลตอระดับความรูในการรักษาสิว ซ่ึงผลการศึกษาตรงกันขามกับกลุมนักศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร(รอยละ 20.1)และนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม(รอยละ76.7) ศึกษาในสายศิลปและสังคมศาสตร ดังน้ันความรูในการรักษาสิวจึงมีนอยกวาหากไมไดศึกษา คนควา เพ่ิมเติม 2. แหลงความรูเกย่ี วกบั การรบั ทราบหรอื คนหาขอมูลในการรกั ษาสิว จากการศึกษาวิจัยพบวา แหลงความรูเก่ียวกับการรับทราบหรือคนหาขอมูลในการ รักษาสิวท่ีกลุมตัวอยางเลือกตอบมากท่ีสุด คือ โทรทัศน (ชวงโฆษณา) รอยละ 18.1 สอดคลอง กับการศึกษาของวีรศักด์ิ เจียมอนุกูลกิจ และ อนุเทพ ขวัญเลิศมงคล (2540 :17-54) ท่ีพบวา ส่ือโทรทัศนเปนสื่อที่ใหขอมูลขาวสารแกประชาชนมากที่สุด เนื่องจากในปจจุบันพบวาสื่อ โทรทศั นเปนส่ือท่มี ที ุกครัวเรือนสามารถเขาถึงไดงายและเปน ส่ือท่มี กี ารสอดแทรกขอ มลู ขาวสาร ความรู มีการนําเสนอที่มีประสิทธิภาพสูง สําหรับสื่อเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส (Internet) มี คะแนนความรูสูงกวากลุมอ่ืน เน่ืองจากขอมูลความรูจากการคนควาทาง Internet มีหลาย รปู แบบ เชน บทความ ภาพเคล่ือนไหว รูปภาพ และมขี อมูลความรใู นดานตางๆ ที่มกี ารนาํ มา
56 เผยแพรขอมูลจํานวนมากและสามารถคนควาหาขอมูลไดงาย สามารถพิมพบทความมาศึกษา ได แตพบวากลุมตัวอยางมีการใชส่ือน้ีเพียงรอยละ 6.8 เทาน้ัน สําหรับหนวยงานราชการ (อย.) โทร 1559 กลุมตัวอยางมีการเลือกตอบรอยละ 0.2 แสดงวากลุมตัวอยางใหความสนใจ ตอสื่อนี้นอ ยมาก ซึง่ ขอ มลู ท่ไี ดจ ากหนวยงานนมี้ คี วามนาเชื่อถือมากสุดเพราะบทความไดมีการ ดําเนนิ การโดยผเู ช่ยี วชาญ เมื่อนําแหลงขอมูลขาวสารดังกลาวมาจัดเปนประเภทของแหลงขอมูลขาวสาร พบวา สื่อบุคคล (ตารางที่ 2) มีการเลือกตอบมากที่สุด รอยละ 36.9 เน่ืองจากมีหลากหลายประเภท โดยเฉพาะเพอ่ื น, พี,่ คนรจู กั เปนกลมุ บุคคลใกลชดิ สามารถเขา ถงึ งาย และขอคําปรกึ ษาไดง า ย เนื่องจากอยูในวัยที่ใกลเคียงกันและมีประสบการณในเรื่องสิวเปนอยางดี เมื่อมีการใช ผลิตภัณฑรักษาสิวแลว เกิดผลดีก็มีการบอกตอถงึ ประสทิ ธิภาพ เมอื่ ใชแลวเห็นวาไมดีก็เกิดอคติ บอกตอในแงลบ แตเมื่อพิจารณาในแงความถูกตองของขอมูลความรูเรื่องรักษาสิวตองมีการ พิจารณาเปนกรณี เน่ืองจากอาจพบวามีการโฆษณาชวนเช่ือ เพ่ือหวังผลทางการคา ในสื่อ ประเภทน้ันๆ ดวย ไดแก ผูแทนสินคาขายตรง, รานเสริมสวย, รานขายยา, คลินิกแพทย, คลินิก ความงาม 3. ความรูใ นการรักษาสวิ ของนกั ศกึ ษา จากการศกึ ษาวิจัยพบวา รอยละ 87.5 มีความรูระดับต่ํา มีความรูระดับปานกลาง รอย ละ 11.4 และ มีความรูระดับสูง รอยละ 0.2 สอดคลองกับการศึกษาของบุปผา ศิริรัศมี (2540 : 25-62) ที่พบวา กลุมตัวอยางสวนใหญมีความรูเกี่ยวกับยาปฏิชีวนะในระดับปานกลางหรือต่ํา กลุมตัวอยางมคี วามเชอ่ื ผดิ ๆ เกี่ยวกับสิว ดงั น้ี - สิวบริเวณใบหนาเกิดจากความสกปรก ฝุนละออง (รอยละ97.9) ซึ่งความจริงแลว พบวา ฝุนละอองไมส ามารถลงไปอดุ ตันรขู ุมขนได แตสิ่งที่อดุ ตนั รขู มุ ขนแลวทาํ ใหเ กิดสวิ คอื เครา ตินซ่ึงสรางจากหนังกําพรา ดังน้ันสิ่งอุดตันรูขุมขนมาจากภายในรางกายไมใชมาจากภายนอก รา งกาย (เรวตั ิ เจรญิ สวสั ดิ์ 2535 : 41-42) - การรับประทานอาหารพวกชอ็ กโกแลต ลูกนัต นม เนย ไขมนั ทําใหสิวกําเริบ (รอยละ 81.7) ซง่ึ ความจริงแลว พบวา การรบั ประทานอาหารมันไมไดทําใหตอมไขมันทํางานเพิ่มขึ้น ส่ิง ทีท่ าํ ใหตอ มไขมันทาํ งานเพ่มิ ข้ึนไดแก ฮอรโมนเพศซง่ึ จะมมี ากเม่ือเขาสูวัยรุน ดังน้ันเราจึงพบวา วัยรุนมีสิวแตในวัยเด็กไมมีสิวเพราะในวัยเด็กยังไมมีฮอรโมนเพศดังกลาว (เรวัติ เจริญสวัสดิ์ 2535 : 41-42)
57 - การลางหนาบอยๆ (มากกวา 5 ครั้งตอวัน) สามารถปองกันการเกิดสิวได (รอยละ 32.5) ซึ่งความจริงแลว พบวา การลางหนาดวยสบูซึ่งมีฤทธเปนดาง และมีสารชําระลางทําให ผิวหนังไดรับการระคายเคือง ย่ิงจะทําใหสิวอักเสบมากข้ึน จึงไมแนะนําใหผูท่ีเปนสิวลางหนา บอยเกินไป และใหใชสบูออนลางหนาวันละ 1-2 คร้ัง หากรูสึกวาหนามันอยูใหใชกระดาษซับ หรือกระดาษทชิ ชูซับบรเิ วณดงั กลาวกเ็ พียงพอแลว (เรวตั ิ เจรญิ สวัสดิ์ 2535 : 41-42) - การลางหนาดวยสบูท่ีมีสวนผสมของยาฆาเช้ือชวยปองกันการเกิดสิว (รอยละ 63.8) ซ่ึงความจริงแลว พบวา แบคทีเรียท่ีกอใหเกิดสิวจะสะสมอยูในทอไขมันสวนท่ีอยูลึกลงไปใต ผิวหนังซึง่ ผลิตภณั ฑท ําความสะอาดจะเขาไปไมถึง (พิมลพรรณ พิทยานุกูล 2545 : 47) และถา ฟอกมากอาจทาํ ใหเกดิ สวิ ชนิดทีเ่ รียกวา Acne Detergicans (พิชิต สุวรรณประกร 2528 : 170) 4. แนวทางการดูแลรกั ษาสวิ การใชย ารกั ษาสวิ (ยารับประทาน, ยาทา, ผลติ ภณั ฑป องกันการเกดิ สวิ ) แหลงซ้อื ยารกั ษาสิว จากการศึกษาวิจยั พบวา แหลง ซอ้ื ยารกั ษาสิวที่ระบุมากท่ีสุดเทากนั 2 แหลง ไดแ ก รา น ขายยา และ คลินิกแพทย, คลินิกความงาม รองลงมาไดแก รานคา ซึ่งผลการศึกษาคร้ังนี้ แตกตา งจากการศึกษาของวลลี ักษณ พร้งิ พัฒนพงษ (2545 : 39-75) ทีพ่ บวา กลมุ ตวั อยา งนยิ ม ซ้ือผลิตภัณฑรักษาสิวจากรานคามากที่สุด เนื่องจากกลุมตัวอยางมีความแตกตางกัน ในดาน วุฒิการศึกษาและอาชีพ แตสอดคลองในเรื่องสําหรับแหลงซื้อที่ระบุนอยท่ีสุด ไดแก รานเสริม สวย (รอยละ 0.8) เม่ือพิจารณาประเภทของการจําหนายพบวา กลุมตัวอยางซ้ือผลิตภัณฑ รักษาสิวถูกตองตามประเภทการจําหนายและการซ้ือผลิตภัณฑรักษาสิวท่ีระบุวาเปน เครื่องสําอางสามารถซ้ือไดจากหลายแหลง ผลิตภัณฑรักษาสิวท่ีเปนยาจะวางจําหนายในราน ขายยาหรอื ตอ งมใี บส่ังยาจากแพทยเ ทา นน้ั และอกี สวนหน่ึงเปน เคร่อื งสําอางซงึ่ เปนผลิตภัณฑท่ี สามารถวางจําหนายไดทั่วไป และระบบการกระจายผลิตภัณฑหรือเรียกงายๆ วา การขายน้ัน สามารถขายไดทุกรูปแบบการขายและทุกแหงโดยไมมีขอจํากัด ตัวอยางเชน แผงลอย รานชํา รานคา รานยา รานเสริมสวย สถานเสริมความงาม หางสรรพสินคาหรือการขายตรง (พรพิมล ขัตตนิ านนท และ พรพรรณ สุนทรธรรม 2540 : 93-94) และสอดคลองกับการศึกษาของสมชาติ วิศิษฐชัยชาญ (2550 : 32) ที่พบวา เพศหญิงจํานวนหนึ่งตองการผูใหคําปรึกษาเร่ืองผิวพรรณ ไดอยางถูกวิธี ซึ่งพบวาหญิงสาวจํานวนไมนอยที่เลือกไปพบแพทยผูเช่ียวชาญเฉพาะทาง ใน
58 กลุมนักศึกษาพบวาจุดประสงคท่ีมาพบแพทยเพื่อตองการใหหนาใสและผิวเนียน และปญหาท่ี กอ ใหเ กิดความกงั วลแกเ พศหญงิ มากท่ีสดุ คือปญหาสวิ ระยะเวลาทใี่ ช จากการศึกษาวิจัยพบวา รอยละ 81.0 ระบุระยะเวลาที่ใชยารักษาสิว โดยระยะเวลาที่ ใชยารักษาสิวมากท่ีสุดคือระยะเวลา 1 ป (รอยละ 18.9) รองลงมาไดแก 2 ป (รอยละ 13.5) สําหรับระยะเวลาที่ใชยารักษาสิว กลุมตัวอยางใชยารักษาสิวนานที่สุด คือ 7 ป (รอยละ 0.7) ท้ังนี้เพราะ การรักษาท่ีสิวถูกตองเหมาะสม จะเร่ิมดีข้ึนในเวลาประมาณ 2-3 เดือน และจะดีขึ้น มากในเวลา 4-8 เดอื น หลงั จากนั้นอาจตอ งใชยาควบคุมโรคไวเปนระยะเวลาหนึ่งจนกวาจะพน วัยท่ีเปนสิว (เพ็ญวดี ทิมพัฒนพงศและคณะ 2543 : 89-92) และชวงระยะเวลาของการมีสิว (Acne Life ) จะอยทู ่ีประมาณ 8 -14 ป (สุรพล ลิขิตวฒั นานรุ กั ษ 2550) ชื่อยารักษาสิว จากการศึกษาวิจัยพบวา ยารักษาสิวท่ีกลุมตัวอยางใชมากที่สุดคือ คลินดาเอ็มโลชั่น (รอยละ 31.9) รองลงมาคือ เคเอครีม, พอนดครีม, สกาแครครีม, ผงพิเศษตรารมชูชีพ และ โอเลยครีม ในจํานวนที่เทากัน (รอยละ 4.3) ซึ่งสามารถแบงประเภทของผลิตภัณฑรักษาสิว เปน 2 กลุมคือ ยาและเครื่องสําอาง ไมพบการใช สเตียรอยดในการรักษาสิว ผูปวยโรคผิวหนัง ท่ีไดรับยาสเตียรอยดในรปู ของยาฉดี และยากินจะเปน สิวไดมากข้ึน สวนสเตยี รอยดในรูปของยา ทานั้นถาใชสเตียรอยดทาท่ีหนาเปนเวลานานและสเตียรอยดน้ันมีความเขมขนสูงจะเกิดสิวได ยิ่งสเตียรอยดมีความเขมขนสูงเทาใดโอกาสเกิดสิวจากสเตียรอยดก็ยิ่งสูงข้ึน (กนกกร สุนทร ขจิต 2545 : 139) การซ้ือยารักษาสิวในรานขายยามีการระบุชื่อได เน่ืองจากมีฉลากยาระบุถึง ชื่อผลิตภัณฑและคําแนะนําหรือคําเตือนหรือวิธีใช สอดคลองกับการศึกษาของวลีลักษณ พริ้งพัฒนพงษ (2545 : 39-75) ในเร่ืองการแสดงขอความบนฉลากผลิตภัณฑรักษาสิวเปนไป ตามกฎหมายกําหนด 4 ขอแรก ไดแก ชื่อผลิตภัณฑ ประเภทหรือชนิดของผลิตภัณฑ ช่ือ สวนประกอบหรือสาระสําคัญและคําแนะนําหรือคําเตือนหรือวิธีใช และการซ้ือจากคลินิก แพทย, คลินิกความงาม สวนใหญไมทราบชื่อยารักษาสิว ยกเวนผูที่รักษาจากคลินิกแพทย, คลินิกความงามมานาน และสอดคลองกับการศึกษาของสมชาติ วิศิษฐชัยชาญ (2550 : 32) พบวา การใชบริการของคลินิกความงามเปนทางเลือกหนึ่งที่ไดรับนิยมจากลูกคาชวงอายุ 25- 35 ป พบการใชบริการจากหลายๆ แหง จนมีความรูความเขาใจเรื่องของยาและวิธีการดูแล ผิวหนา โดยคนกลุมนี้จะเปนคนที่ชอบเปล่ียนสถานบริการไปเรื่อยๆ เปนคนที่ชอบลองและมี
59 ประสบการณการรักษาจากหลายคลินิกและมักมีความคาดหวังสูงในการเขารับการรักษา โดย สาเหตุของการเกดิ พฤติกรรมนส้ี ว นใหญมาจากการรกั ษาท่ีไมเปน ทีพ่ งึ พอใจ เชน ระยะเวลาทีใ่ ช ในการรักษานานเกินไป ผลิตภัณฑรักษาสิวท่ีกลุมตัวอยางใชสวนใหญเปนผลิตภัณฑท่ีมีการ โฆษณาทางโทรทัศน นิตยสารสุขภาพ นิตยสารบันเทิง ซ่ึงผลิตภัณฑดังกลาวสามารถเขาถึง แหลงซ้ือไดง า ย และราคาไมแพง รวมถึงมกี ารบอกตอ ของสรรพคุณทีผ่ ูใชพบวา ใชแลว ดขี น้ึ วิธีใชย ารกั ษาสวิ จากการศึกษาวิจัยพบวา ยารักษาสิวมีวิธีใชท่ีสรุปไดคือ ทาหรือแตมบริเวณท่ีเปนสิว, รับประทานและใชลา งหนา ซึ่งเปน วธิ ใี ชข องยารกั ษาสวิ ท่มี ีวางจาํ หนา ยในทอ งตลาด ดังเอกสาร วิชาการของเพ็ญวดี ทิมพัฒนพงศและคณะ (2543 : 89-92) และสุชาดา นิลกําแหง (2549) และเอกสารวิชาการของประวิตร พิศาลบุตร (2549) กลาวถึง การลางหนาดวย Cleanser หรือ สบอู อ นๆ ท่ีเหมาะสม คือการลา งหนาเพียง วนั ละ 2 คร้ัง ใหเ ลอื กใช Cleanser ท่รี ะบุวา ไมท าํ ให เกิดคอมิโดน \"Non-Comedogenic\" ขอ ควรระวังของยารักษาสิว จากการศึกษาวิจัยคร้ังนี้พบวา ขอควรระวังของยารักษาสิวที่ตอบมากที่สุดคือ ถาเกิด อาการคันใหหยุดใช, ถามีอาการแพใหหยุดใช, หากมีผ่ืนควรหยุดใช (รอยละ 13.8) การแพยา (Drug Allergy หรือ Drug Hypersensitivity) หมายถึง ปฏิกิริยาตอบสนองตอยาเฉพาะบุคคล เน่ืองจากเคยไดรับยาชนิดน้ัน หรือไดรับสารท่ีมีสูตรโครงสรางคลายคลึงกับยานั้นมากอน แลว เกิดการกระตุนใหรางกายสรางสารภูมิคุมกันทางอิมมูโนวิทยาขึ้น โดยที่ไมขึ้นกับขนาดยาท่ี ไดรับ (ปราโมทย ตระกูลเพียรกิจ 2543 : 180-181) อาการแพยามีดังนี้ ผ่ืนลมพิษ ผ่ืนคัน ผื่น แดง หรือตุมใสเลก็ ๆ ขึ้นทั่ว ตวั หนา บวม หนังตาบวม หากเกิดอาการแพย า ใหห ยดุ ยาทนั ที และ รีบนํายาทส่ี งสยั นัน้ กลับไปพบแพทยหรือเภสัชกร เพื่อพิจารณาวายาตัวไหนท่ีมีโอกาสทําใหเกิด ผ่ืนแพยาไดมากที่สุด และแพทยจะไดพิจารณาเปล่ียนยาตัวใหมให (กลุมงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลสงเสรมิ สุขภาพ ศูนยอนามัยที่ 12 ยะลา 2550)
60 ขอ เสนอแนะของการวิจัย ขอเสนอแนะที่ไดจ ากผลการวจิ ัย 1. แหลง ขอ มูลเกี่ยวกบั ความรใู นการรกั ษาสวิ ท่ีเหมาะสมกับกลมุ นักศึกษาระดบั ปริญญา ตรี ไดแก สื่อโทรทัศน (ชวงโฆษณา), Internet, สื่อบุคคล โดยเผยแพรประชาสัมพันธกับกลุม นักศึกษาใหไดรับความรู ขอมูลขาวสาร ในดานความรูทางวิชาการเรื่องความรูเก่ียวกับสิว การ รักษาสิว และขอควรระวังจากการใชยารักษาสิว โดยขอมูลท่ีใชในการเผยแพรตองมีความ ชดั เจน เขา ใจงาย ไมเกดิ ความสบั สน 2. นําขอมูลที่ไดจากการศึกษาวิจัยนําไปใชในการวางแผนดําเนินงานคุมครองผูบริโภค ดานยา โดยมีการควบคุมเก่ียวกับแหลงซ้ือ-ขายใหมีการจําหนายในสถานที่ที่ถูกตองตาม ประเภทของการจาํ หนายตามกฎหมาย และควบคุมกํากบั การโฆษณาที่ทาํ ใหผบู ริโภคเขา ใจผดิ ขอ เสนอแนะในการทาํ วจิ ยั คร้งั ตอ ไป 1. การศึกษาคร้ังนที้ าํ ในกลุม นักศึกษาระดบั ปริญญาตรี ในอําเภอเมอื ง จังหวดั นครปฐม เทาน้นั ดงั นน้ั ควรมกี ารศกึ ษาเพม่ิ เติมใน นักเรยี นระดบั มัธยมศึกษาตอนตน นกั เรยี นมธั ยม ศึกษาตอนปลาย นกั เรยี นอาชวี ศกึ ษา และในวัยทท่ี ํางาน 2. ควรมีการเก็บขอ มลู ในรปู แบบอืน่ ๆ เชน การสงั เกต การสัมภาษณ
61 บรรณานกุ รม กนกกร สนุ ทรขจิต. การเปลยี่ นแปลงของผวิ หนงั และฮอรโมน วยั ทารก-วยั รนุ -วยั เจรญิ พันธ-ุ การ ตั้งครรภ-วยั ทอง-สวิ -ฝา หลกั การรักษาและการปองกัน. กรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พ ครุ สุ ภาลาดพราว, 2545. กรมสุขภาพจติ . โจไ ทยเพย้ี นกนิ ยารกั ษาสิว-หนา ใส [ออนไลน] . สบื คน เมือ่ วนั ท่ี 20 มกราคม 2550. สบื คน จาก http://www.dmh.moph.go.th/main.asp. กระทรวงสาธารณสุข. สธ.หว งวยั รนุ ใชย ารักษาสวิ เตือนเกิดผลขางเคยี งรุนแรง [ออนไลน] . สืบคน เม่อื วนั ท่ี 20 มกราคม 2550. สบื คน จาก http://www.moph.go.th /todaynews-show.php?ContentID=10520. กลุมงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลสงเสริมสขุ ภาพ ศูนยอนามยั ท่ี 12 ยะลา. แพย าคอื อะไร [ออนไลน] . สบื คนเมอ่ื วนั ที่ 28 กมุ ภาพนั ธ 2550. สืบคน จาก http://hpc12. anamai.moph.go.th/artic_news/p_mc.htm. ดวงตา สติ ตะไพโรจน. สวิ กบั วยั รนุ [ออนไลน] . สบื คน เมอ่ื วนั ท่ี 24 มิถนุ ายน 2549. สืบคน จาก http://www.huachiewhospital.com/read-05.html. ธานนิ ทร ศลิ ปจารุ. การวิจยั และวิเคราะหข อ มูลทางสถติ ดิ ว ย SPSS. พมิ พครง้ั ท่ี 4. กรุงเทพฯ : ว.ี อนิ เตอร พรนิ้ ท, 2548. บรรจบ ชุณหสวัสดกิ ุล. ชุดธรรมชาตบิ ําบดั และรักษาตนเอง หมอบรรจบ ตอบปญ หาสขุ ภาพ วัยรุน. กรุงเทพมหานคร : สาํ นักพิมพรวมทรรศน. 2543. บัณฑติ วทิ ยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร. คูมือการพิมพว ิทยานพิ นธ พ.ศ. 2543. นครปฐม : มหาวทิ ยาลยั ศิลปากร, 2543. บุญใจ ศรีสถิตยนรากรู . ระเบียบวธิ กี ารวิจยั ทางการพยาบาลศาสตร. กรงุ เทพฯ : สาํ นกั พิมพ จฬุ าลงกรณ, 2546. บญุ ธรรม กิจปรดี าบริสุทธ.์ิ เทคนิคการสรางเครอ่ื งมือรวบรวมขอมูลสาํ หรบั การวิจัย. พมิ พค ร้ังท่ี 6. กรุงเทพฯ : จามจุรี, 2549. บปุ ผา ศิรริ ัศม.ี “รายงานการวิจยั เร่ืองพฤตกิ รรมสขุ ภาพในเร่ืองการใชยาปฏชิ วี นะของประชาชน ในจังหวัดนครปฐม.” สถาบนั วจิ ยั ประชากรและสงั คม มหาวิทยาลัยมหดิ ล ศาลายา, 2540.
62 ประวิตร พิศาลบุตร. ยารกั ษาสวิ อนั ตราย [ออนไลน] . สืบคน เม่อื วนั ที่ 20 มกราคม 2550. สบื คน จาก http://www.halathailand.com/healthy/subindex.php?Page=.com/ healthy/subinpage=content&subcategory=&subcatname=&subcat=&id= 168. ประวติ ร พิศาลบตุ ร. โรคสิวโรคผวิ หนงั ยอดฮติ อันดบั 1 [ออนไลน] . สืบคนเมอื่ วนั ที่ 18 กรกฎาคม 2549. สบื คน จาก http://www.elib-online.com/doctors3/skin_ acne08.html. ปราโมทย ตระกูลเพยี รกิจ. “อาการไมพ ึงประสงคจ ากการใชย า.” ใน โอสถกรรมศาสตร., 185- 202. เฉลมิ ศรี ภมุ มางกูรและกฤตตกิ า ตัญญะแสนสขุ , บรรณาธกิ าร. กรุงเทพฯ : บริษัท นวิ ไทยมิตรการพิมพ (1996) จํากดั . 2543. พรพิมล ขตั ตินานนท และ พรพรรณ สุนทรธรรม. เครือ่ งสําอางกบั งานคมุ ครองผบู รโิ ภค. กรงุ เทพฯ: ม.ป.ท., 2540. พรศรี แหยมอบุ ล. “พฤตกิ รรมการดูแลสขุ ภาพตนเองของนกั เรยี น ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย ในเขตอาํ เภอเมอื ง จงั หวัดนครปฐม.” วทิ ยานพิ นธป ริญญามหาบัณฑติ สาขาวชิ า จติ วิทยาชมุ ชน บณั ฑติ วทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลัยศิลปากร, 2547. พชั ราภรณ ปญญาวุฒไิ กรและอษุ าวดี มาลีวงศ. “การบรกิ ารยาในอกี 10 ปข างหนา ” เอกสาร สรุปสถานการณ (Position paper) ระบบบริการเภสชั กรรม. สถาบนั วจิ ยั ระบบ สาธารณสขุ , 2547 : 3. พิชติ สุวรรณประกร. ตาํ รบั ยาและวธิ ีรกั ษาโรคผวิ หนงั . กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ัทโพสตพ ับลชิ ชิง จาํ กัด, 2528. พมิ ลพรรณ พทิ ยานุกลู . “หลกั 9 ประการกอ นตัดสินใจซือ้ เครอื่ งสาํ อาง.” ฉลาดซ้ือ 8, 47 (กุมภาพนั ธ- มนี าคม 2545) : 49. เพญ็ วดี ทมิ พฒั นพงศแ ละคณะ. “แนวทางการรกั ษาสวิ .” วารสารสมาคมโรคผวิ หนงั แหง ประเทศไทย. 16, 2 (เมษายน-มิถนุ ายน 2543) : 89-92. โมนา อศั วษิ ณ.ุ คุยกบั หมอขอผวิ สวย. พิมพคร้งั ที่ 4. กรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พก รงุ เทพ, 2544. เรวัตร เจริญสวัสดิ์. “สวิ กับความเชือ่ ผิดๆ.” ใกลหมอ 16,12 (กุมภาพนั ธ 2535) : 41-42. วรวฒุ ิ เจรญิ ศิริ. สวิ และปจจยั ทท่ี าํ ใหเกดิ สวิ [ออนไลน] . สบื คน เม่ือวนั ที่ 18 กรกฎาคม 2549. สบื คน จาก http://www.lifedd_net./demo5.php.
63 วลลี ักษณ พรงิ้ พฒั นพงษ. “ปจ จยั ทมี่ ผี ลตอการเกิดอาการขางเคยี งจากการใชผ ลิตภัณฑรกั ษา สวิ ในวยั รุน จงั หวดั นครปฐม.” วทิ ยานพิ นธป ริญญามหาบณั ฑิต สาขาวิชาการ คมุ ครองผบู รโิ ภคดานสาธารณสขุ บัณฑิตวทิ ยาลยั มหาวิทยาลัยศลิ ปากร, 2545. วิสิฏฐ ศรสี นทิ . รกั ษาสวิ อยา งไรจงึ ปลอดภัย [ออนไลน] . สบื คนเม่อื วนั ท่ี 22 กรกฎาคม 2549. สบื คนจาก http://www.netanart.com. วีรศกั ด์ิ เจียมอนกุ ูลกิจ และ อนุเทพ ขวัญเลิศมงคล. “รายงานการวจิ ยั เรอื่ งการสํารวจพฤตกิ รรม การบรโิ ภคผลิตภัณฑดานสาธารณสขุ ของประชาชน ในเขตสาธารณสุขท่ี 3.” สํานกั งานสาธารณสขุ จงั หวดั ระยอง, 2540. สมเจตน ไวยาการณ. หลกั การวิจยั . นครปฐม : โรงพมิ พม หาวิทยาลยั ศิลปากร, 2544. สมชาติ วิศษิ ฐชยั ชาญ. “หญิงไทยสวยใสเพื่อความสําเรจ็ ในงาน” กรงุ เทพธุรกจิ , 5 มกราคม 2550, 32. สุชาดา นลิ กาํ แหง. สวิ [ออนไลน] . สบื คน เมือ่ วนั ท่ี 24 กนั ยายน 2549. สบื คน จาก http:// www.gpo.or.th/rdi/html/acne.html. สุนันทา โอศริ ิ. “ขอมูลเบื้องตน ในการประชมุ เชงิ ปฏบิ ตั ิการเรอื่ งอนาคตระบบยาของคนไทยใน ระบบสุขภาพแหงชาติ (พ.ศ. 2546-2555) 15-16 สงิ หาคม 2546.” เอกสารสรุป ประเดน็ สําคญั (Issues Paper) ระบบยา-ระบบสุขภาพ. สถาบนั วจิ ยั ระบบ สาธารณสขุ , 2547 : 2-6. สุปราณี ธรณนธิ ิกุล. “แผลเปน จากการแกะสวิ .” ใกลห มอ 18, 7 (มกราคม 2536) : 78. สุรพล ลขิ ิตวฒั นานรุ ักษ. สวิ โรคที่ใคร ๆ ก็รแู ตใ ชวาจะเขาใจ [ออนไลน] . สบื คนเมอ่ื วันท่ี 26 กมุ ภาพนั ธ 2550. สืบคน จาก http://www.thainakarin.co.th/co.th /tipsdetailth. php?id=23.
64 ภาคผนวก ก แบบสอบถาม
65 แบบสอบถาม เรื่อง ปจจัยท่มี ีผลตอ ความรใู นการรกั ษาสวิ ของนักศึกษาระดับปริญญาตรี ในเขตอาํ เภอเมอื ง จังหวัดนครปฐม คาํ ช้แี จง แบบสอบถามนเี้ ปน สว นหนงึ่ ของการศกึ ษาคนควา ดว ยตนเองของนักศึกษาปริญญา โทหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิทยาการสังคมและการจัดการระบบสุขภาพ คณะ เภสัชศาสตร มหาวิทยาลัยศิลปากร มีวัตถุประสงคเพ่ือศึกษาความรูในการรักษาสิวของ นักศึกษาระดับปริญญาตรี ในเขตอําเภอเมือง จังหวัดนครปฐม และเพ่ือศึกษาปจจัยที่สงผล กระทบตอระดับความรูในการรักษาสิวของนักศึกษาระดับปริญญาตรี ในเขตอําเภอเมือง จงั หวัดนครปฐม แบบสอบถามชดุ น้ี แบง ออกเปน 2 ตอน ดงั นี้ ตอนที่ 1 เปนแบบสอบถามเกีย่ วกับขอ มูลทัว่ ไปของผูตอบแบบสอบถาม ตอนท่ี 2 เปนแบบสอบถามเก่ียวกับความรูในการรักษาสิวของนักศึกษาระดับปริญญาตรี ใน เขตอาํ เภอเมอื ง จังหวัดนครปฐม แบบสอบถามชดุ น้ี มที ัง้ หมด 5 หนา ผูวิจัยขอความกรุณาตอบใหครบทุกขอ เน่ืองจากทุกขอมีความสําคัญย่ิงในการ วิเคราะหผล ท้ังนี้ขอมูลจากการตอบจะถูกเก็บไวเปนความลับ และใชในการวิเคราะหสําหรับ งานวิจัยคร้ังนี้เทาน้ัน การนําเสนอผลการวิเคราะหจะเปนในภาพรวมไมมีการบงช้ีถึงผูตอบ แบบสอบถามเฉพาะราย แตอยา งใดทั้งส้ินและขอขอบพระคุณทุกทานที่ไดเสียสละเวลาในการ ตอบแบบสอบถาม นางสาวพลู ศรี เขตโสภณ นักศึกษาปรญิ ญาโท สาขาวิทยาการสังคมและการจดั การระบบสุขภาพ คณะเภสชั ศาสตร บัณฑติ วทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร
66 ID _____ ตอนท่ี 1 เปนแบบสอบถามเกี่ยวกบั ขอ มลู ทัว่ ไปเกย่ี วกบั ผตู อบแบบสอบถาม คาํ สง่ั กรณุ าทาํ เคร่ืองหมาย ( / ) ลงใน ท่เี หมาะสมกบั คําตอบของทา นมากทสี่ ุด 1. เพศ 1.ชาย 2. หญงิ 2. อายุ _________ ป (นบั ปเต็ม ถา เกนิ 6 เดือน นับเปน 1 ป) 3. ปจ จุบนั กาํ ลังศกึ ษาอยูในคณะ______________________ 4. สถาบันการศึกษาของทา นคือ______________________ 1. มหาวทิ ยาลยั ศิลปากร 2. มหาวทิ ยาลัยครสิ เตยี น 3. มหาวิทยาลยั ราชภฏั นครปฐม 5. รายไดท ท่ี านไดร บั ตอเดือน (เปน รายไดท ีไ่ ดร ับจากผปู กครองรวมรายไดพเิ ศษอน่ื )____บาท 6. ทา นเคยมปี ญ หาในเรื่องสวิ ของตนเองหรอื ไม 1. มี 2. ไมมี (ขา มไปทาํ ขอ 10) 7. ปญ หาเรอื่ งสวิ ของทา นเปนปญ หา 1.ในอดีตเคยเปน แตใ นปจ จบุ นั ไมม ปี ญ หา 2. กําลงั เปน ปญหา
67 8. ทานคดิ วาระดบั ความรนุ แรงของสิวทเ่ี ปนอยูใ นระดบั ใด 1. มีหวั สวิ ไมอ ักเสบเปน สว นใหญจํานวนไมม าก หรือมสี วิ อกั เสบขนาดเลก็ รว มดว ย จาํ นวนนอย 2. มีตุมแดงขนาดเล็กและตุมแดงขนาดเล็กมีหนองที่ยอดจํานวนมาก มีกอนแดง ภายในมีหนองปนเลอื ดจํานวนนอย 3. มีตุมแดงขนาดเล็กและตุมแดงขนาดเล็กมีหนองที่ยอด มีกอนแดงภายในมีหนอง ปนเลอื ดจํานวนมาก 9. จากปญหาสวิ ของทา นในขอ 8 ทําใหท า นมคี วามกงั วลในเร่ืองดงั กลาวระดบั ใด 1. ไมก งั วล 2. นอย 3. ปานกลาง 4. มาก 10. ทา นสามารถรบั ทราบหรอื คน หาขอ มลู หรอื ความรูในการรกั ษาสวิ จากแหลง ใดมากทสี่ ุด (3 ลาํ ดับ) เรียงตามลําดบั แหลง ขอมูลท่ีไดรบั มากทส่ี ุด (1) ไปหานอยทส่ี ดุ (3) โทรทัศน (ชวงรายการ) โทรทศั น (ชวงโฆษณา) หนงั สอื พมิ พร ายวนั วารสารสขุ ภาพ/นติ ยสารสุขภาพ วารสารบนั เทงิ /นติ ยสารบนั เทงิ หนงั สอื วชิ าการความรูเรอื่ งสวิ วทิ ยุ Internet รา นขายยา รานเสริมสวย แผน พบั โฆษณา ผูแ ทนสินคา ขายตรง ระบยุ ห่ี อ________ หนว ยงานราชการ (อย.) โทร 1559 โรงพยาบาล คลนิ กิ แพทย, คลนิ กิ ความงาม พอ -แม ผปู กครอง เพื่อน,พ,่ี คนรจู ัก อ่นื ๆ(โปรดระบ)ุ ____________
68 ตอนที่ 2 เปนแบบสอบถามเกย่ี วกบั ความรใู นการรักษาสวิ ของนกั ศึกษาระดบั ปริญญาตรี ใน เขตอาํ เภอเมือง จงั หวดั นครปฐม คําสัง่ กรณุ าทาํ เคร่อื งหมาย ( / ) ลงใน ท่ีเหมาะสมกบั คาํ ตอบของทา นมากทส่ี ุด ลาํ เร่อื ง ใช ไม ไม ดับ ใช ทราบ 1 สิวเกดิ จากความผิดปกตขิ องตอมไขมัน 2 สวิ เกดิ จากเชอื้ แบคทเี รียทีม่ ชี ่อื วา P. Acnes 3 สวิ บรเิ วณใบหนา เกดิ จากความสกปรก ฝุนละออง 4 ผทู ี่เปน สวิ รุนแรงเม่อื หายแลว มกั จะทงิ้ รอยแผลเปนชนิดนนู และชนดิ บมุ 5 สวิ แบงออกเปน 2 กลุมใหญๆ คือ สวิ ไมอักเสบและสิวอกั เสบ 6 การใชเครือ่ งสาํ อางแตง หนา มีผลทําใหส วิ ลดนอยลงเน่ืองจาก เคร่อื งสาํ อางมีผลปอ งกนั การเกดิ สวิ 7 เครือ่ งสําอางราคาแพงสามารถปองกนั การเกดิ สิวได 8 การรบั ประทานอาหารพวกชอ็ กโกแลต ลกู นตั นม เนย ไขมนั ทําใหส วิ กาํ เรบิ 9 การลา งหนาดว ยสบทู ม่ี ีสว นผสมของยาฆา เชื้อชวยปองกัน การเกิดสวิ 10 การลา งหนาบอ ย ๆ (มากกวา 5 ครั้งตอ วนั ) สามารถปองกนั การเกิดสิวได 11 ยาคมุ กาํ เนดิ ชนิดรับประทานทกุ ชนิดสามารถนาํ มาใชร กั ษา สิวได 12 การรบั ประทานยาคมุ กําเนิดเพือ่ รักษาสวิ จะมีวิธีใชท ี่ เหมือนกบั การรบั ประทานเพอื่ ปองกันการตงั้ ครรภ 13 อาการขางเคยี งของการใชย าคุมกาํ เนดิ รักษาสวิ คอื คลน่ื ไส อาเจยี น ปวดศรี ษะ เกิดฝา 14 ผูชายสามารถใชยาคุมกาํ เนดิ มารกั ษาสวิ ได
69 ลาํ เรือ่ ง ใช ไม ไม ดบั ใช ทราบ 15 ยาในกลุมตานเชอ้ื แบคทีเรยี ชนดิ รบั ประทานสามารถนาํ มาใช รกั ษาสิวท่ีเกดิ จากเช้อื P. Acnes 16 Tetracycline เปนยาตา นเชอื้ แบคทเี รยี ตวั แรกทคี่ วรจะ เลอื กใชร ักษาสิว 17 ยาในกลุมตา นเชื้อแบคทเี รยี ชนิดทารกั ษาสวิ หากทายา บอ ยๆ จะเพม่ิ ประสทิ ธิภาพในการรกั ษาสวิ ไดมากยิ่งขนึ้ 18 ยาทารักษาสวิ ทกุ ชนิด หากใชแลว มีสิวเหอ ระคายเคอื ง หนา ลอก แหง แสดงวาเกดิ อาการแพยาตองหยดุ ยาทันที 19 ยารับประทานรกั ษาสิวกลุมกรดวติ ามนิ เอเหมาะกบั การรกั ษา สวิ ชนดิ รนุ แรง 20 ยารับประทานรกั ษาสิวกลุมกรดวติ ามนิ เอเหมาะกับหญงิ ที่ ต้ังครรภ และใหนมบตุ รเนื่องจากมีสรรพคณุ ในการบํารงุ รา งกาย 21 ยาทารกั ษาสิวชนิดกรดวิตามนิ A ออกฤทธิก์ ําจดั หัวสวิ ดวย การยับยง้ั การเกดิ โคมโิ ดน 22 ยาทารกั ษาสวิ ชนิดกรดวติ ามนิ A ควรทายาตอนเชา เน่อื งจากมฤี ทธใ์ิ นการปอ งกนั แสงแดด 23 การรกั ษาสวิ ดว ยยาทาสวิ ทถ่ี กู ตอง นยิ มใชย าทาสวิ ท่ี สามารถรกั ษาไดท้งั สิวและฝา เนือ่ งจากทําใหสิวหายไดอยา ง รวดเร็ว 24 การรกั ษาสวิ ดว ยยาสเตียรอยดมผี ลทาํ ใหเ กิดสวิ อุดตัน จาํ นวนมากภายหลงั การรกั ษา 25 เมือ่ รกั ษาสวิ หายแลว ใหหยดุ ยาทกุ ชนิดทใ่ี ชทนั ที 26 การกดสวิ เปน วธิ กี ารรักษาสวิ ชนดิ ทีม่ ีอาการอกั เสบเปน หนอง 27 การใชแ สงเลเซอรเ ปนวธิ กี ารรกั ษาสวิ เบือ้ งตน ท่ปี ลอดภยั ทีส่ ุด และมรี าคาเหมาะสม
70 ลํา เรอ่ื ง ใช ไม ไม ดับ ใช ทราบ 28 การรกั ษาสวิ โดยแพทยเ ปนการรกั ษาท่ไี ดผ ลดี ปลอดภยั และ ไมเกดิ อาการขา งเคียงทกุ ครงั้ 29 การรักษาสวิ ดว ยเทคโนโลยรี าคาแพงและทนั สมยั เปน วธิ กี าร รกั ษาสวิ ท่ดี เี หมาะกับสวิ ทกุ ประเภท 30 การรกั ษาสวิ ทดี่ คี ือการปอ งกนั การเกิดสิวตลอดชวงอายุทเ่ี ปน สวิ 31.ในปจ จุบันทานใชยารกั ษาสิวหรอื ไม (ยารับประทาน, ยาทา,ผลิตภณั ฑป อ งกนั การเกดิ สิว) 1ใช (ตอบคําถามขอดา นลา งน)ี้ 2 ไมใช • แหลงทีท่ า นซอ้ื หรือไดรบั ยารกั ษาสวิ ทใ่ี ชในปจ จุบัน โปรดระบ.ุ ...................................................................... • ทานใชย ารักษาสิวนี้มาเปนระยะเวลานาน ระบุ ________________ • ทานทราบชอื่ ยารกั ษาสวิ ท่ีใชอ ยใู นปจ จบุ ันหรอื ไม 1 ไมท ราบ 2 ทราบ โปรดระบ.ุ .................................... • ทา นทราบวิธใี ชยารักษาสวิ ท่ีใชอ ยูในปจจุบันหรือไม 1 ไมท ราบ 2 ทราบ โปรดระบุ....................................... • ทา นทราบขอควรระวังของยารกั ษาสวิ ท่ีใชอยใู นปจ จุบนั หรือไม 1 ไมทราบ 2 ทราบ โปรดระบ.ุ ....................................... .............................................................................................................................. ขอความกรณุ าตรวจสอบอีกคร้ังวา ทา นไดต อบคําถามครบถวนทกุ ขอแลว ขอขอบพระคุณท่กี รณุ าตอบแบบสอบถาม
71 ภาคผนวก ข หนังสือขออนญุ าต
ท่ี ศธ 0520.107 (นฐ)/ 5779 72 (สําเนา) บณั ฑิตวิทยาลยั มหาวทิ ยาลัยศลิ ปากร พระราชวังสนามจนั ทร นครปฐม 73000 วนั ที่ 15 พฤศจิกายน 2549 เรื่อง ขอความอนุเคราะหใ นการเกบ็ รวบรวมขอมลู เรยี น อธิการบดมี หาวทิ ยาลยั คริสเตยี น ดว ย นางสาวพลู ศรี เขตโสภณ นักศึกษาระดับปริญญามหาบัณฑิต สาขาวิชา วิทยาการสังคมและการจัดการระบบสุขภาพ มหาวิทยาลัยศิลปากร กําลังทําสารนิพนธ เรื่อง “ปจจัยที่มีผลตอความรูในการรักษาสิวของนักศึกษาระดับปริญญาตรี ในเขตอําเภอเมือง จังหวัดนครปฐม” มีความประสงคจะขอเก็บรวบรวมขอมูลจากนักศึกษาระดับปริญญาตรี ช้ันป ที่ 1-4 ทุกคณะวิชา ในมหาวิทยาลัยของทาน เพ่ือประกอบการทําสารนิพนธ ในการนี้บัณฑิต วิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร จึงขอความอนุเคราะหจากทานโปรดอนุญาตใหนักศึกษา ดังกลา วไดเกบ็ รวบรวมขอ มูลดวย จงึ เรยี นมาเพอ่ื โปรดใหค วามอนเุ คราะห จกั เปน พระคณุ ยงิ่ ขอแสดงความนับถอื (รองศาสตราจารย ดร. ศริ ชิ ัย ชินะตงั กรู ) คณบดบี ัณฑิตวิทยาลัย สํานักงานบัณฑติ วทิ ยาลยั โทร. 0-3424-3435, 0-3421-8788 ปณิธานของบณั ฑติ วิทยาลยั “มุงมน่ั ใหบรกิ าร พฒั นางานใหม คี ณุ ภาพ”
ท่ี ศธ 0520.107 (นฐ)/ 5780 73 (สาํ เนา) บัณฑติ วิทยาลัย มหาวทิ ยาลัยศิลปากร พระราชวงั สนามจนั ทร นครปฐม 73000 วนั ท่ี 15 พฤศจกิ ายน 2549 เรื่อง ขอความอนเุ คราะหในการเกบ็ รวบรวมขอ มลู เรียน อธิการบดมี หาวทิ ยาลยั คริสเตยี น ดวย นางสาวพูลศรี เขตโสภณ นักศึกษาระดับปริญญามหาบัณฑิต สาขาวิชา วิทยาการสังคมและการจัดการระบบสุขภาพ มหาวิทยาลัยศิลปากร กําลังทําสารนิพนธ เรื่อง “ปจจัยที่มีผลตอความรูในการรักษาสิวของนักศึกษาระดับปริญญาตรี ในเขตอําเภอเมือง จังหวัดนครปฐม” มีความประสงคจะขอเก็บรวบรวมขอมูลจากนักศึกษาระดับปริญญาตรี ชั้นป ที่ 1-4 ทุกคณะวิชา ในมหาวิทยาลัยของทาน เพื่อประกอบการทําสารนิพนธ ในการน้ีบัณฑิต วิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร จึงขอความอนุเคราะหจากทานโปรดอนุญาตใหนักศึกษา ดงั กลา วไดเกบ็ รวบรวมขอมูลดวย จงึ เรยี นมาเพอ่ื โปรดใหค วามอนุเคราะห จกั เปน พระคณุ ยงิ่ ขอแสดงความนับถือ (รองศาสตราจารย ดร. ศิริชัย ชนิ ะตงั กูร) คณบดบี ณั ฑิตวทิ ยาลยั สาํ นกั งานบัณฑติ วทิ ยาลยั โทร. 0-3424-3435, 0-3421-8788 ปณธิ านของบณั ฑติ วิทยาลยั “มงุ มัน่ ใหบริการ พฒั นางานใหม ีคุณภาพ”
74 (สาํ เนา) บนั ทกึ ขอความ สว นราชการ บณั ฑติ วทิ ยาลัย มหาวทิ ยาลัยศิลปากร ที่ ศธ 0520.107 (นฐ)/ 5781 วนั ท่ี 15 พฤศจิกายน 2549 เรื่อง ขอความอนุเคราะหในการเกบ็ รวบรวมขอ มลู เรียน อธกิ ารบดีมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั นครปฐม ดว ย นางสาวพลู ศรี เขตโสภณ นักศึกษาระดับปริญญามหาบัณฑิต สาขาวิชา วิทยาการสังคมและการจัดการระบบสุขภาพ มหาวิทยาลัยศิลปากร กําลังทําสารนิพนธ เรื่อง “ปจจัยที่มีผลตอความรูในการรักษาสิวของนักศึกษาระดับปริญญาตรี ในเขตอําเภอเมือง จังหวัดนครปฐม” มีความประสงคจะขอเก็บรวบรวมขอมูลจากนักศึกษาระดับปริญญาตรี ชั้นป ที่ 1-4 ทุกคณะวิชา ในมหาวิทยาลัยของทาน เพื่อประกอบการทําสารนิพนธ ในการน้ีบัณฑิต วิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร จึงขอความอนุเคราะหจากทานโปรดอนุญาตใหนักศึกษา ดงั กลาวไดเกบ็ รวบรวมขอ มูลดว ย จึงเรียนมาเพอ่ื โปรดใหความอนุเคราะห จกั เปน พระคณุ ยิ่ง ขอแสดงความนับถอื (รองศาสตราจารย ดร. ศริ ิชยั ชินะตงั กูร) คณบดีบณั ฑิตวิทยาลยั ปณิธานของบณั ฑิตวทิ ยาลยั “มุงมั่นใหบ รกิ าร พฒั นางานใหม ีคณุ ภาพ”
ชื่อ-สกุล 75 ที่อยู ประวัตผิ วู จิ ยั ประวัติการศกึ ษา พ.ศ. 2539 นางสาวพลู ศรี เขตโสภณ 33/436 หมู 1 ต.ทาจนี อ.เมอื งฯ จ.สมทุ รสาคร 74000 พ.ศ. 2548 โทรศพั ท 0840705677 ประวตั ิการทาํ งาน สําเรจ็ การศกึ ษาปริญญาเภสัชศาสตรบณั ฑติ พ.ศ. 2540–2541 จากมหาวทิ ยาลัยศลิ ปากร ศึกษาตอ ระดบั ปริญญามหาบัณฑิต พ.ศ. 2541–2542 สาขาวทิ ยาการสงั คมและการจดั การระบบสุขภาพ พ.ศ. 2542–2543 บัณฑติ วทิ ยาลัย มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร พ.ศ. 2543–2546 เภสัชกร 3 กองยา กรมวทิ ยาศาสตรการแพทย จ.นนทบรุ ี พ.ศ. 2546–2549 เภสชั กร 4 โรงพยาบาลเขายอย จังหวัดเพชรบุรี หวั หนา ฝายเภสชั กรรมชุมชน โรงพยาบาลเขายอ ย พ.ศ. 2549–ปจ จุบัน จังหวดั เพชรบรุ ี เภสัชกร โรงพยาบาลบา นแพว (องคก ารมหาชน) จงั หวัดสมุทรสาคร ผจู ดั การฝา ยเภสชั กรรม โรงพยาบาลบานแพว (องคการ มหาชน) จงั หวดั สมุทรสาคร เภสชั กร โรงพยาบาลบา นแพว (สาขาพรอมมิตร)
Search