T-PIECE ก า ร ใ ส่ ท่ อ ช่ ว ย ห า ย ใ จ แ บ บ O 2 T - P I E C E BCNC 24
ส า ร บั ญ O2 T-Piece - ลักษณะการใช้งาน - วัตถุประสงค์ - ความสำคัญและข้อบ่งใช้ - อุปกรณ์และขั้นตอนการใส่ - การพยาบาลผู้ป่วยขณะ ได้รับ O2 T-Piece - ข้อควรระวัง,ข้อเสนอแนะ - การพิจารณาการถอด ท่อ O2 T-Piece - วิธีการถอด O2 T-Piece
ลักษณะการใช้งาน Oxygen T-piece เป็นอุปกรณ์ให้ออกซิเจน ชนิดต่อกับท่อหลอดลมคอ โดยมีลักษณะลักษณะ เป็นท่อสายลูกฟูก (corrugated tube) สวมยึด ติดกับท่อหลอดลมคอ คล้า ยตัว T ซึ่งตัวของตัวที สวมกับปลายเปิดของท่อหลอดลมคอ โดยที่ปลายหาง T ข้างหนึ่งต่อกับท่อลำเลียง ออกซิเจน ซึ่งนาออกซิเจนมาจากเครื่องทำความชื้น เปิดอัตราการไหลของออกซิเจน 6-10 ลิตร/นาที
วัตถุประสงค์ 1. แก้ไขภาวะออกซิเจนในเลือแดงต่ำ - ทำให้ O2 ในเลือดต่ำโดยวิธีเพิ่ม ประมาณ O2 ในถุงลมปอด 2. ลดพลังงานที่ต้องใช้ในการหายใจ - โดยเฉพาะกับผู้ป่วยโรค ถุงลมโป่งพอง 3. ลดการทำงานของหัวใจ - ระบบทางเดินหายใจ หัวใจ ระบบไหลเวียนโลหิตและหลอด เลือดจากภาวะพร่อง O2
ความสำคัญและข้อบ่งใช้ ข้อบ่งใช้ในการให้ออกซิเจน 1.มีภาวะออกซิเจนในเลือดคือมีภาวะPao2 น้ อยกว่า 60 mmHg หรือSa02 น้ อยกว่า 90% เมื่อหายใจเข้าในบรรยากาศปกติ 2.เสี่ยงต่อการเกิดภาวะ( hypoxemia) ตามมาหลังได้รับการรักษาเบื้องต้น เช่น ผู้ป่วยโดนไฟไหม้ 3.เกิดภาวะบาดเจ็บขั้นรุนแรง(severe trauma) 4.ภาวะกล้ามเนื้ อหัวใจขาดเลือดชนิดเฉียบพลัน (acute myocardial infarction:MI) 5.การให้ออกซิเจนระยะสั้นในการทำผ่าตัด เช่น หลังการดมยาสลบหรือการทำผ่าตัดใหญ่ 6.หัวใจล้มเหลว หัวใจหยุดเต้น การหายใจล้มเหลว หรือหยุดหายใจ 7.มีอาการหรืออาการแสดงของภาวะขาดออกซิเจน เช่น มีอาการหอบเหนื่อย หัวใจเต้นเร็ว มีอาการวุ่นวาย ต่อสู้ สับสน หรือสีผิว สีริมฝีปาก ดูคล้ำเขียว ผู้ที่มีภาวะโลหิตจางมีความดันตก มีปั ญหากล้ามเนื้ อหัวใจขาดเลือด หรือหลอดเลือดใดๆในร่างกายอุดตัน
อุปกรณ์ที่ใช้ 1. แหล่งจ่ายออกซิเจน เช่น central pipeline /cylinder 2. Flowmeter 3. ขวดทำความชื้นชนิด Nebulizer 4. Sterile water สำหรับเติมในขวดทำความชื้น 5. อุปกรณ์ให้ออกซิเจน เช่น T-tube connector / extension tube หรือ Tracheostomy mask 6. สายออกซิเจนชนาดใหญ่ (corrugate tube) 7. สำลีชุบ 70 %alcohol
ขั้นตอนการใส่ วิธีปฏิบัติการให้ออกซิเจนชนิดตัวที (T–piece) 1. ล้างมือให้สะอาด เช็ดให้แห้ง 2. อธิบายให้ผู้ป่วยทราบเกี่ยวกับจุดประสงค์ของการให้ออกซิเจนและห้ามสูบบุหรี่ 3. ต่อเครื่องควบคุมอัตราการไหล (flow meter) ของออกซิเจนกับหัวต่อออกซิเจน 4. เติมน้ำกลั่นปราศจากเชื้อลงในเครื่องทำความชื้น (humidifier) โดยเติมให้ระดับน้ำกลั่นอยู่ระหว่าง ขีดกำหนดปริมาณสูงสุดกับขีดบอกปริมาณต่ำสุด แล้วต่อเข้ากับเครื่องควบคุมอัตราการไหลของ ออกซิเจน 5. ต่อสายยางให้ออกซิเจนเข้ากับเครื่องทำความชื้น 6. ต่อท่อลูกฝูก (corrugate tube) เข้ากับกระบอกออกซิเจนและปลายอีกด้านต่อกับท่อทีพีซ ส่วนอีก ด้านหนึ่งของทีพีซต่อเข้ากับท่อลูกฟูกขนาดสั้น เรียกว่า extension tube ความยาว 10 เซนติเมตร เปิดกระบอกออกซิเจนให้มีการไหลเป็แบบละอองฝอย (jet) และปรับอัตราการไหลของO2 ไม่ควรต่ำกว่า 5- 6 LPM ตรวจสอบละอองควันอากาศที่ปลายท่อลูกฟูกสั้น แล้วจึงต่อปลายทีพีซอีก ข้างเข้ากับท่อหลอดลมคอผู้ป่วย 7.ดูแลท่อลูกฝูกไม่ให้หลุด หรือหักพับงอ และสังเกตรอยรั่วของก๊าซ 8. วัดสัญญาณชีพ วัด O2 sat เป็นระยะ 9. ดูแลเปลี่ยนน้ำกลั่นในขวดทำความชื้นทุก 8 ชั่วโมง และดูแลอย่าให้น้ำแห้ง -เทน้ำในท่อลูกฝูกทิ้งเมื่อมีน้ำขัง ห้ามเทกลับเข้าไปในกระบอกน้ำ
การพยาบาลผู่ป่วยขณะได้รับ O2 T-PIECE 1. ดูแลสภาพทางเดินหายใจให้โล่ง 3. ดูแลไม่ให้สายออกซิเจนหักพับงอ ตลอดเวลา โดยจัดท่านอนหรือให้นั่ง หรือปลายสายอุดตัน ตรวจดูตำแหน่ง ศีรษะสูง ในกรณีที่ผู้ป่วยรู้สึกตัวดีและ ของท่ออกซิเจน รอยต่อต่าง ๆ ให้คงที่ ไม่มีข้อจากัดในการจัดท่า หากมีเสมหะ ไม่หลุดเลื่อน และดูแลเติมน้ำในขวด หรือสารคัดหลั่งบริเวณทางเดินหายใจ ทำความชื้น ให้ดูดออก เพื่อให้ออกซิเจน สามารถ ผ่านเข้าสู่ถุงลมปอดได้สะดวก แลก 4. ติดตามประเมินภาวะขาดออกซิเจน เปลี่ยนแก๊สได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอาการแสดงที่ผิดปกติต่าง ๆ ระดับ ความรู้สึกตัว ระบบ หัวใจ ตรวจสอบ 2. หมั่นดูแลความสะอาดของจมูก ปาก และบันทึกสัญญาณชีพ ความเข้มข้น ใบหน้า เนื่องจากผู้ป่วยอาจจะมีอาการ ของออกซิเจนตามความจำเป็น คอแห้ง ปากแห้ง หรือ เจ็บคอ ในรายที่ ใส่ท่อช่วยหายใจ หรือท่อที่ผ่านในช่อง 5. ดูแลด้านจิตใจของผู้ป่วยและญาติ จมูก ในผู้ป่วยที่ได้รับออกซิเจนแบบ ควรอธิบายวัตถุประสงค์ ความจำเป็นที่ หน้ากาก ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดบริเวณใบหน้า ต้องได้รับออกซิเจน สันจมูก เพราะอาจมีความชื้น ความ ร้อน ทำให้รู้สึกอึดอัด ไม่สุขสบาย
ข้อควรระวัง / ข้อเสนอแนะ 1 ดูแลเปลี่ยนน้ำกลั่นในขวดทำความชื้อทุก 8 ชั่วโมง และดูแลอย่าให้น้ำแห้ง 2 เปลี่ยนสาย T – Piece วันละครั้ง อาจเกิดภาวะปอดแฟบ (lung atelectasis) 3 ออกซิเจนเป็นพิษ (oxygen toxicity)หรือกดการ ทำงานของ cillia ควรระวังการให้ออกซิเจนใน ผู้ป่วยที่ได้รับสารพิษจาก paraquat 4 ควรระวังการให้ความชื้นร่วมกับออกซิเจนโดย เฉพาะการให้ความชื้นแบบ(Nebulizer)สามรถเพิ่ม หาว่าการติดเชื้อแบคทีเรียในทางเดินหายใจได้ 5 การมีความเข้มข้นระดับสูงของออกซิเจนบริเวณที่ เกิดการไฟไหม้จะทำให้ขบวนการติดไฟเพิ่มความ รุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก
เกณฑ์การพิจารณาการถอดท่อ O2 T-piece 1. สามารถ wean 02 T-piece นานเกิน 2 ชม. 2. สามารถไอขับเสมหะออกมาได้แรงพ้นท่อช่วยหายใจ 3. รู้สึกตัวดี GCS > 10 4. ประเมิน Cuff leak test ผ่าน Tolerance of spontaneous breathing trial -02 sat >90% -ABG: pH > 7.32 -PaCO2 increase < 10 mmHg -HR & SBP change < 20% -Conscious ไม่เปลี่ยนแปลงวิธีการ ถอดท่อช่วยหายใจ
วิธีการถอด O2 T-piece ขั้นตอนของการถอดเครื่อง T - piece 1. ควรเริ่มในตอนเข้าหลังจากที่ผู้ป่วยพักผ่อน เต็มที่ 2. หลังจากให้อาหารทางสายยางประมาณ ชั่วโมง เพื่อลดอาการแน่นอึดอัดท้อง 3. วัดสัญญาณชีพก่อนทำการถอดเครื่องช่วย หายใจ 4. ดูดเสมหะก่อนการถอดเครื่องช่วยหายใจ และจัดท่าให้นอนศีรษะสูงเพื่อให้ทรวงอกขยายตัวได้ เต็มที่ 5. ควรให้ FiO = 0.1 หรือ 100% (fraction of inspired oxygen) เนื่องจากปริมาตรในการ หายใจของผู้ป่วยเอง (spontaneoustidal volum) จะน้อยกว่า tidal volume ของเครื่องช่วยหายใจ จึงจำเป็นต้องให้ความเข้มขัน 02 สูงในระยะแรกๆ 6. ระยะเวลาในการให้ผู้ป่วยหายใจทาง T-piece ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงและทนต่อการถอดเครื่องช่วย หายใจของผู้ป่วยเองในระยะแรกควรใช้เวลาประมาณ 15 นาที ทาง T - piece และ 45 นาทีทางเครื่อง ช่วยหายใจสลับกันไปถ้าผู้ป่วยสามารถทนได้ก็ อาจสามารถเพิ่มระยะเวลาในการหายใจทาง T - piece ในรอบต่อๆไปแต่ถ้าไม่สำเร็จอาจลดระยะ เวลาลงน้อยกว่า 15 นาที ก็ได้ ระยะเวลาการถอด เครื่องช่วยหายใจควรทำในช่วงเวรเช้าในช่วงเวรบ่าย และดึกควรให้ผู้ป่วยพักผ่อนพยาบาลควรดูแลผู้ป่วย อย่างใกล้ชิดสังเกตสัญญาณชีพและอาการของ ภาวะพร่องออกซิเจน
T-PIECE ก า ร ใ ส่ ท่ อ ช่ ว ย ห า ย ใ จ แ บ บ O 2 T - P I E C E จัดทำโดย นางสาว วรรณิกา อมรใฝ่กุลจิต เลขที่ 52 นางสาว วิลาวรรณ สรสันต์ เลขที่ 53 นางสาว ศรินธร บัวขม เลขที่ 54 นางสาว สกุลกานต์ ต๊ะลิสังวาลย์ เลขที่ 55 นางสาว สุดารัตน์ ทองเจริญ เลขที่ 56 นางสาว สุดารัตน์ เหมือนมี เลขที่ 57 นางสาว สุธิตา สวัสดี เลขที่ 58 BCNC 24
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: