Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ภาษี สิริทอน

ภาษี สิริทอน

Published by Sirithon Mangphai, 2021-02-19 05:00:40

Description: ภาษี สิริทอน

Search

Read the Text Version

ภาษเี งนิ ได้นิตบิ ุคคล

คานา รายงานเล่มน้ีเป็นส่วนหน่ึงของวชิ าภาษีอากร โดยมีเน้ือหาเกี่ยวกบั ภาษีเงินไดน้ ิติบุคคล ความหมาย ผมู้ ีหนา้ ที่เสียภาษีเงินไดน้ ิติบุคคล เงินไดท้ ี่ไดร้ ับยกเวน้ ภาษีเงินไดน้ ิติบุคคล นิติบุคคลที่ไมต่ อ้ งเสียภาษีเงินได้ ฐานภาษีของภาษีเงินไดน้ ิติบุคคล อตั ราภาษี และการคานวณภาษี การยน่ื แบบแสดงรายการและชาระภาษี สถานที่ยนื่ แบบแสดงรายการภาษี ภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลสาหรับการจาหน่ายกาไรไปนอกประเทศ ภาษีเงินได้ นิติบุคคลสาหรับเงินไดท้ ี่จ่ายจากหรือในประเทศไทย ภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลคานวณจากกาไรสุทธิ บญั ชีอตั รา ภาษีเงินไดน้ ิติบุคคล และมีเน้ือหาอีกมากมายจากท่ีกลา่ วมาขา้ งตน้ รายงานเลม่ น้ีจดั ทาข้ึนเพื่อใหน้ กั เรียน นกั ศึกษา หรือครูอาจารย์ ไดศ้ ึกษาเพ่ิมเติมเกี่ยวกบั ภาษีเงินไดน้ ิติบุคคล หากเน้ือหาของรายงานเล่มน้ี ผิดพลาด หรือไมส่ มบูรณ์ประการใด ผจู้ ดั ทา จึงขออภยั มา ณ ที่น้ีดว้ ย นางสาว สิริทอน มง่ั ผาย) ผจู้ ดั ทา

สารบญั ความหมายของภาษีเงินไดน้ ิติบุคคล ผมู้ ีหนา้ ที่เสียภาษเี งินไดน้ ิติบุคคลนิติ บุคคลที่ไม่ตอ้ งเสียภาษเี งินได้ เงินไดท้ ี่ไดร้ ับยกเวน้ ภาษีเงินไดน้ ิติบุคคล ฐานภาษขี องภาษเี งินไดน้ ิติบุคคล อตั ราภาษี และการคานวณภาษี การยน่ื แบบแสดงรายการและชาระภาษี สถานท่ียน่ื แบบแสดงรายการภาษี ภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลสาหรับเงินไดท้ ่ีจ่ายจากหรือในประเทศไทย ภาษเี งินไดน้ ิติบุคคลสาหรับการจาหน่ายกาไรไปนอกประเทศ ภาษเี งินไดน้ ิติบุคคลคานวณจากกาไรสุทธิ บญั ชีอตั ราภาษีเงินไดน้ ิติบุคคล

ความหมาย ผ้มู ีหน้าท่ีเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษเี งนิ ได้นิตบิ ุคคล เป็นเครื่องมือของรัฐประเภทหน่ึง ผมู้ ีหนา้ ท่เี สียภาษีเงินไดน้ ิติบุคคล ไดแ้ ก่ บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติ ที่จดั เก็บจากผปู้ ระกอบการที่มีรายไดจ้ ากการประกอบ บุคคล ท่ีจดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ และ กิจการหรือเนื่องจากการประกอบกิจการของบริษทั หรือ หมายความรวมถึงนิติบคุ คลอนื่ ๆ ทไี่ ม่ไดจ้ ดทะเบยี นตามประมวล หา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลในแตล่ ะรอบระยะเวลาบญั ชี มี กฎหมายแพง่ และพาณิชย์ ดว้ ย ดงั น้ี กาหนดสิบสองเดือนตอ่ หน่ึงรอบระยะเวลาบญั ชี • บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลท่มี ีหนา้ ทเ่ี สียภาษีเงินไดน้ ิติบคุ คล นอกจากน้ียงั มีวธิ ีการจดั เก็บวธิ ีอ่ืนอีก คือ เกบ็ จากยอด รายรับหรือยอดขายก่อนหกั รายจ่ายใด ๆ หรือเกบ็ จากคา่ มีดงั น้ี โดยสาร คา่ ระวางฯ ของกิจการขนส่งระหวา่ งประเทศ (1) บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบคุ คลที่ต้งั ข้ึนตามกฎหมายไทย หรือเกบ็ จากการจาหน่ายเงินกาไรไปต่างประเทศ (2) บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบคุ คลที่ต้งั ข้ึนตามกฎหมายต่างประเทศ เป็ นตน้ (3) กิจการซ่ึงดาเนินการเป็นทางคา้ หรือหากาไร (4) กิจการร่วมคา้ (Joint Venture) (5) มูลนิธิหรือสมาคมทปี่ ระกอบกิจการซ่ึงมรี ายได้ (6) นิติบคุ คลท่อี ธิบดีกาหนดโดยอนุมตั ิรัฐมนตรีและประกาศในราช กิจจานุเบกษา

(1) บริษทั หรือห้างหุ้นส่วนนิตบิ ุคคลทีต่ ้ังขึน้ ตามกฎหมายไทย ไดแ้ ก่ ก. บริษทั จากดั ข. บริษทั มหาชน จากดั ค. หา้ งหุน้ ส่วนจากดั ง. หา้ งหุน้ ส่วนสามญั จดทะเบยี น (2) บริษทั หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลทต่ี ้ังขนึ้ ตามกฎหมายต่างประเทศ ซ่ึงมีหนา้ ทเ่ี สียภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลในประเทศไทย ก็ต่อเม่ือเขา้ เงื่อนไขขอ้ ใด ขอ้ หน่ึง ดงั ต่อไปน้ี ก. บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบคุ คลต่างประเทศน้นั เขา้ มากระทากิจการในประเทศไทย (มาตรา 66 วรรคแรก แห่งประมวลรัษฎากร) ข. บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบคุ คลต่างประเทศน้นั กระทากิจการในทอี่ ืน่ ๆ รวมท้งั ในประเทศไทย (มาตรา 66 วรรคสอง แห่งประมวล รัษฎากร) ค. บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลต่างประเทศน้นั กระทากิจการอืน่ ๆรวมท้งั ในประเทศไทยและกิจการทกี่ ระทาน้นั เป็นกิจการขนส่งระหว่าง ประเทศ (มาตรา 67 แห่งประมวลรัษฎากร) ง. บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลต่างประเทศน้นั มิไดป้ ระกอบกิจการในประเทศไทย แต่ไดร้ ับเงินไดพ้ ึงประเมินตามมาตรา 40 (2) (3) (4) (5) หรือ (6) ท่ีจ่ายจากหรือในประเทศไทย (มาตรา 70)

จ. บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบคุ คลต่างประเทศทีเ่ สียภาษีเงินไดน้ ิติบคุ คลในประเทศไทย ตามมาตรา 76 วรรคสอง และมาตรา 76 ทวิ แห่ง ประมวลรัษฎากร ไดจ้ าหน่ายเงินกาไรหรือเงินประเภทอน่ื ทก่ี นั ไวจ้ ากกาไร หรือถือไดว้ ่าเป็นเงินกาไรออกไปจากประเทศไทย (มาตรา 70 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร) ฉ. บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลต่างประเทศน้นั มิไดเ้ ขา้ มาทากิจการในประเทศไทยโดยตรง หากแต่มีลูกจา้ งหรือผทู้ าการ แทนหรือผทู้ าการติดต่อ ในการประกอบกิจการในประเทศไทย ซ่ึงเป็นเหตุใหไ้ ดร้ ับเงินไดห้ รือผลกาไรในประเทศไทย (มาตรา 76 ทวิ) (3) กจิ การซึ่งดาเนินการเป็ นทางค้า หรือหากาไร โดย ก. รัฐบาลต่างประเทศ ข. องคก์ ารของรัฐบาลต่างประเทศ ค. นิติบคุ คลอืน่ ทีต่ ้งั ข้ึนตามกฎหมายของต่างประเทศ (4) กจิ การร่วมค้า (Joint Venture) ไดแ้ ก่ กิจการทีด่ าเนินการร่วมกนั เป็นทางคา้ หรือหากาไร ระหวา่ งบคุ คลดงั ต่อไปน้ีคือ ก. บริษทั กบั บริษทั ข. บริษทั กบั หา้ งหุน้ ส่วนนิติบคุ คล ค. หา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลกบั หา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคล ง. บริษทั และหรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลกบั บุคคลธรรมดา

จ. บริษทั และหรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลกบั คณะบุคคลท่มี ิใช่นิติบคุ คล ฉ. บริษทั และหรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบคุ คลกบั หา้ งหุน้ ส่วนสามญั ช. บริษทั และหรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบคุ คลกบั นิติบุคคลอนื่ (5) มูลนิธิหรือสมาคมที่ประกอบกจิ การซ่ึงมีรายได้แต่ไม่รวมถึงมูลนิธิหรือสมาคมทรี่ ัฐมนตรีประกาศกาหนดใหเ้ ป็นองคก์ ารหรือสถาน สาธารณกศุ ล (6) นิติบุคคลที่อธิบดกี าหนดโดยอนุมตั ิรัฐมนตรีและประกาศในราชกจิ จานุเบกษาใหเ้ ป็นบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบคุ คลตามประมวล รัษฎากร

นิตบิ ุคคลที่ไม่ต้องเสียภาษีเงนิ ได้ นิติบคุ คลอ่ืนๆ นอกจากทีก่ ล่าวในขา้ งตน้ และเฉพาะทต่ี ้งั ข้ึนตามกฎหมายไทย เช่น กระทรวง ทบวง กรม องคก์ าร ของรฐั บาลหรือ สหกรณ์ ไม่มีหนา้ ทต่ี อ้ งเสียภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลแต่อยา่ งใด อยา่ งไรก็ตาม ยงั มีนิติบุคคลอีกบางประเภทที่เขา้ ลกั ษณะตอ้ งเสียภาษีเงินไดน้ ิติบคุ คลตามประมวลรัษฎากร แต่ไดร้ ับการยกเวน้ ตาม บทบญั ญตั ิของกฎหมายต่างๆ ไดแ้ ก่ (1) บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบคุ คลตามขอ้ ผกู พนั ทีป่ ระเทศไทยมีอยตู่ ามสญั ญาวา่ ดว้ ยความร่วมมือทางเศรษฐกิจ หรือทางเทคนิค ระหว่างรัฐบาลไทยกบั รัฐบาลต่างประเทศ (2) บริษทั จากดั ที่ไดร้ ับการยกเวน้ ภาษีเงินไดต้ ามกฎหมายวา่ ดว้ ยการส่งเสริมการลงทุน (3) บริษทั จากดั และนิติบุคคลทม่ี ีสภาพเช่นเดียวกบั บริษทั จากดั ซ่ึงต้งั ข้ึนตามกฎหมายไทยหรือกฎหมายต่าง ประเทศไดร้ ับการ ยกเวน้ ภาษีเงินไดน้ ิติบคุ คลตามพระราชบญั ญตั ิภาษีเงินไดป้ ิ โตรเลยี ม (4) บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบคุ คลทอ่ี ยใู่ นประเทศทีม่ ีอนุสญั ญาว่าดว้ ยการเวน้ การเก็บภาษีซอ้ นกบั ประเทศไทย ตามเงื่อนไขท่ี กาหนดในอนุสญั ญา

ฐานภาษขี องภาษีเงนิ ได้นิตบิ ุคคล ฐานภาษีของภาษีเงินไดน้ ิติบุคคล ภาษีเงินไดน้ ิติบุคคล คานวณจากเงินไดท้ ี่ใชเ้ ป็นหลกั ฐานในการคานวณภาษีคูณดว้ ยอตั รา ภาษีท่ีกาหนด ดงั น้นั เงินไดท้ ี่ตอ้ งเสียภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลหรือฐานภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลน้นั โดยทว่ั ไปไดแ้ ก่กาไรสุทธิท่ีคานวณตาม เงื่อนไขท่ีกาหนด แตเ่ พ่ือความเป็นธรรมและอุดช่องวา่ งในการจดั เกบ็ ภาษีเงินได้ จึงไดม้ ี การบญั ญตั ิจดั เก็บภาษีเงินได้ นิติบุคคล จากเงินไดห้ รือฐานภาษี ท่ีแตกต่างกนั ดงั น้ี (1) กาไรสุทธิ (2) ยอดรายไดก้ ่อนหกั รายจ่าย (3) เงินไดท้ ่ีจ่ายจากหรือในประเทศไทย (4) การจาหน่ายเงินกาไรออกไปจากประเทศไทย

เงนิ ได้ท่ไี ด้รับยกเว้นภาษีเงนิ ได้นิตบิ ุคคล 1. ยกเวน้ ตามอนุสญั ญาภาษีซอ้ น 2. ยกเวน้ ตามพระราชบญั ญตั ิภาษีเงินไดป้ ิ โตรเลียม 3. ยกเวน้ ค่าลงทะเบียนหรือคา่ บารุงจากการรับบริจาคของมูลนิธิหรือสมาคม 4. ยกเวน้ เงินไดจ้ ากกิจการของโรงเรียนเอกชนที่มูลนิธิหรือสมาคมจดั ต้งั ข้ึนตามกฎหมายวา่ ดว้ ยโรงเรียนเอกชน กาไรสุทธิท่ีจะตอ้ งเสียภาษีเงินไดน้ ิติบุคคล ไดม้ าจากรายไดข้ องกิจการหรือเนื่องจากกิจการหกั ดว้ ยรายจ่ายของกิจการ ตามเงื่อนไขท่ีระบุไวใ้ น มาตรา ๖๕ ทวิ และ มาตรา ๖๕ ตรี แห่ง ประมวลรัษฎากร

อตั ราภาษี และการคานวณภาษี (1) อตั ราภาษี ก. กรณีลดอตั ราภาษี ใหค้ านวณภาษี ดงั น้ี (1.1) กรณีเป็นบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลที่ไม่ใช่บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลตาม (1.2) สาหรับรอบระยะเวลาบญั ชีทเ่ี ร่ิม ในหรือหลงั วนั ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2558 แต่ไม่เกินวนั ท่ี 31 ธนั วาคม พ.ศ. 2558 ใหค้ านวณภาษีในอตั ราร้อยละ 20 ของกาไรสุทธิ (1.2) กรณีเป็นบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลทมี่ ีทนุ จดทะเบยี นท่ชี าระแลว้ ในวนั สุดทา้ ยของรอบระยะเวลาบญั ชีไม่เกิน 5 ลา้ นบาท และมีรายไดจ้ ากการขายสินคา้ และการใหบ้ ริการในรอบระยะเวลาบญั ชี ไม่เกิน 30 ลา้ นบาท ต่อเนื่องกนั ต้งั แต่รอบระยะเวลาบญั ชีทีเ่ ริ่มในหรือ หลงั วนั ท่ี 1 มกราคม พ.ศ. 2555 เป็นตน้ มา โดยในรอบระยะเวลาบญั ชีที่เร่ิมในหรือหลงั วนั ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2558 เป็นตน้ ไป ใหค้ านวณภาษี ในอตั รา ดงั น้ี กาไรสุทธิ อตั ราภาษรี ้อยละ ยกเวน้ ไม่เกิน 300,000 บาท 15 เกิน 300,000 บาท แตไ่ ม่เกิน 3,000,000 บาท 20 เกิน 3,000,000 บาท ข้ึนไป

(1.3) กรณีเป็นกิจการสานกั งานปฏิบตั ิการภูมิภาคใหค้ านวณภาษีในอตั ราร้อยละ 10 ของกาไรสุทธิ สาหรับรายไดท้ ี่ไดร้ ับจากวิสาหกิจใน เครือหรือสาขาต่างประเทศของสานกั งานฯ ดงั ต่อไปน้ี (ก) รายไดจ้ ากการใหบ้ ริการของสานกั งานฯ ไดแ้ ก่ วิสาหกิจในเครือหรือสาขาต่างประเทศของสานกั งานฯ (ข) ดอกเบ้ียรับ ท้งั น้ี เฉพาะดอกเบ้ียเงินกูย้ มื ท่สี านกั งานฯ ไดก้ มู้ าเพอื่ ใหก้ ูย้ มื ต่อ (ค) ค่าสิทธิ รวมท้งั ค่าสิทธิทีไ่ ดร้ ับจากบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลที่เกี่ยวขอ้ ง ซ่ึงไดแ้ ก่ บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติ บุคคลที่นาผลการวจิ ยั และพฒั นาเทคโนโลยขี องสานกั งานไปใชใ้ นการผลิตสินคา้ หรือใหบ้ ริการแก่สานกั งานฯ วิสาหกิจในเครือหรือสาขา ต่างประเทศของสานกั งาน ฯ ท้งั น้ี เฉพาะค่าสิทธิท่ีเกิดจากผลการวจิ ยั และพฒั นาเทคโนโลยขี องสานกั งานฯ ทีก่ ระทาข้ึนในประเทศไทย (1.4) กรณีเป็นกิจการนาเขา้ ส่งออกไปนอกราชอาณาจกั รในเขตปลอดอากรหรือระหว่างเขตปลอดอากรตามกฎหมายว่าดว้ ย ศุลกากร ทีไ่ ดร้ ับอนุญาตจากกระทรวงพลงั งานใหค้ า้ น้ามนั เช้ือเพลงิ ใหค้ านวณภาษีในอตั ราร้อยละ 10 ของกาไรสุทธิในรอบระยะเวลาบญั ชีที่ เร่ิมในหรือหลงั วนั ท่ี 1 มกราคม พ.ศ. 2547 เป็นตน้ ไป สาหรับรายไดจ้ ากการประกอบธุรกรรมการซ้ือขายน้ามนั เช้ือเพลิง รวมถึงการซ้ือและ ขายน้ามนั เช้ือเพลิงตามสญั ญาซ้ือขายลว่ งหนา้ ดว้ ย ท้งั น้ี บริษทั ซ่ึงประกอบกิจการท่มี ีรายไดจ้ ากการประกอบธุรกรรมและการซ้ือขายน้ามนั เช้ือเพลิงไดแ้ จง้ การเป็นผไู้ ดร้ ับอนุญาตจากกระทรวงพลงั งานในรอบระยะเวลาบญั ชีใด ใหไ้ ดร้ ับสิทธิลดอตั ราภาษีเงินไดน้ ิติบุคคล ต้งั แต่รอบ ระยะเวลาบญั ชีน้นั เป็นตน้ ไป

(1.5) กรณีเป็นกิจการต้งั อยใู่ นเขตพฒั นาพิเศษเฉพาะกิจซ่ึงประกอบดว้ ย จงั หวดั นราธิวาส จงั หวดั ปัตตานี จงั หวดั ยะลา จงั หวดั สงขลาเฉพาะ ในทอ้ งท่อี าเภอจะนะ อาเภอเทพา อาเภอนาทวี และอาเภอ สะบา้ ยอ้ ย และจงั หวดั สตูล และมีรายไดท้ ี่เกิดข้ึนจากการผลติ สินคา้ หรือการขาย สินคา้ หรือการใหบ้ ริการ ในเขตพฒั นาพเิ ศษเฉพาะกิจ ใหค้ านวณภาษีในอตั ราร้อยละ 3 ของกาไรสุทธิ สาหรับ 3 รอบระยะเวลาบญั ชี ต้งั แต่ รอบระยะเวลาบญั ชี 2558 ทเี่ ร่ิมในหรือหลงั วนั ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2558 ถงึ รอบระยะเวลาบญั ชี 2560 ทส่ี ิ้นสุดภายในหรือหลงั วนั ท่ี 31 ธนั วาคม พ.ศ. 2560 (1.6) กรณีกิจการเป็นศูนยก์ ลางการหาสินคา้ เพอื่ การผลติ ระหว่างประเทศ ใหค้ านวณภาษีในอตั ราร้อยละ 15 ของกาไรสุทธิ (1.7) กรณีไดร้ ับอนุมตั ิจากกรมสรรพากรใหเ้ สียภาษีจากยอดรายรับก่อนหกั รายจ่าย ใหเ้ สียภาษีในอตั ราร้อยละ 5 ของยอดรายรับ ข. ภาษีจากกาไรสุทธิเฉพาะกรณีทไี่ ดจ้ ากการประกอบกิจการวเิ ทศธนกิจตามประกาศกระทรวงการคลงั เร่ืองการประกอบกจิ การวเิ ทศ ธนกิจของธนาคารพาณิชย์ ลงวนั ที่16 กนั ยายน 2535 ร้อยละ 10

(2) การคานวณภาษีเงนิ ได้นิติบุคคลจากกาไรสุทธิ บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบคุ คลที่มีหนา้ ท่เี สีย ภาษีเงินไดน้ ิติบคุ คลจากกาไรสุทธิและ ตอ้ งคานวณภาษีเงินได้ นิติบคุ คล และยน่ื แบบแสดงรายการและชาระภาษีปี ละ 2 คร้ัง ดงั น้ี ก. การคานวณเงินไดน้ ิติบคุ คลคร่ึงรอบระยะเวลาบญั ชีน้นั ไดม้ ีบญั ญตั ิไวใ้ นมาตรา 67 ทวิ แห่งประมวล รัษฎากรดงั น้ี (1) ในกรณีบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบคุ คล นอกจากที่กลา่ วใน (2) ใหจ้ ดั ทาประมาณการกาไร สุทธิ หรือขาดทุนสุทธิ ซ่ึงไดจ้ าก กิจการหรือเนื่องจากกิจการทไ่ี ดก้ ระทาหรือจะไดก้ ระทาในรอบระยะเวลาบญั ชีน้นั แลว้ ใหค้ านวณและชาระภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลจากจานวน ก่ึงหน่ึงของประมาณการกาไรสุทธิในรอบระยะเวลาบญั ชีน้นั (2) ในกรณีบริษทั จดทะเบียนธนาคารพาณิชยต์ ามกฎหมายว่าดว้ ยการธนาคารพาณิชยห์ รือ บริษทั เงินทนุ บริษทั หลกั ทรัพย์ หรือ บริษทั เครดิตฟองซิเอร์ หรือ บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคล ตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเงื่อนไขท่อี ธิบดีกาหนดใหค้ านวณและชาระภาษี จากกาไรสุทธิ ของรอบระยะเวลาหกเดือนนบั แต่วนั แรกของรอบระยะเวลาบญั ชีตามเง่ือนไขทีร่ ะบุไวใ้ นมาตรา 65 ทวิ และ 65 ตรี

ภาษีเงินไดน้ ิติบคุ คลคร่ึงรอบระยะเวลาบญั ชีน้ีใหถ้ อื เป็นเครดิตในการเสียภาษีเงินไดน้ ิติบคุ คลเม่ือสิ้น รอบระยะเวลาบญั ชีคือ เอาไปหกั ออกจากภาษีทต่ี อ้ งเสียจากกาไรสุทธิของท้งั รอบระยะเวลาบญั ชีและในกรณีทีภ่ าษีทเี่ สีย ไวค้ ร่ึงรอบระยะเวลาบญั ชีสูงกว่าภาษีทจ่ี ะตอ้ ง เสียท้งั รอบระยะเวลาบญั ชี บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วน นิติบุคคลก็มีสิทธิขอคืนภาษีทชี่ าระไวเ้ กินได้ กรณีที่บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลมีรอบระยะเวลาบญั ชีแรกหรือรอบระยะเวลาบญั ชีสุดทา้ ย นอ้ ยกว่า 12 เดือน ไม่ตอ้ ง ยนื่ แบบแสดงรายการและเสียภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลคร่ึงรอบระยะเวลาบญั ชี ข. การคานวณเงินไดน้ ิติบคุ คลจากกาไรสุทธิ เม่ือสิ้นรอบระยะเวลาบญั ชี การคานวณกาไรสุทธิของบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติ บคุ คลใหค้ านวณกาไรสุทธิตามเง่ือนไขทบ่ี ญั ญตั ิไวใ้ น ประมวลรัษฎากร โดยนากาไรสุทธิดงั กล่าวคูณดว้ ยอตั ราภาษี เงินไดน้ ิติบคุ คล จะ ไดภ้ าษีเงินไดน้ ิติบคุ คล ทตี่ อ้ งชาระ ถา้ คานวณกาไรสุทธิออกมาแลว้ ปรากฏว่า ไม่มีกาไรสุทธิ หรือขาดทุนสุทธิ บริษทั ไม่ตอ้ งเสียภาษีเงิน ไดน้ ิติบคุ คล ถา้ การจดั ทาบญั ชีของบริษทั ไดจ้ ดั ทาข้ึนตามหลกั บญั ชีโดยไม่ไดป้ ฏิบตั ิตามเงื่อนไขในประมวลรัษฎากรเม่ือ จะคานวณภาษี บริษทั จะตอ้ งปรับปรุงกาไรสุทธิดงั กลา่ วใหเ้ ป็นไปตามเงื่อนไขทบี่ ญั ญตั ิไวใ้ น ประมวลรัษฎากรแลว้ จึง คานวณภาษีเงินไดน้ ิติบุคคล

การ ่ืยนแบบแสดงรายการและชาระ การยน่ื แบบแสดงรายการและชาระภาษี ภา ีษ บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลที่เสียภาษีเงินไดจ้ ากกาไรสุทธิจะตอ้ งยนื่ แบบ แสดงรายการและชาระภาษีดงั น้ี (1) การเสียภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลคร่ึงรอบ จะตอ้ งยน่ื แบบแสดงรายการพร้อมชาระภาษี(ถา้ มี) ตามแบบ ภ.ง.ด.51 ภายใน 2 เดือนนบั จากวนั สุดทา้ ยของทุก 6 เดือนแรกของรอบระยะเวลาบญั ชี (2) การเสียภาษีเงินไดจ้ ากกาไรสุทธิเม่ือสิ้นรอบ ระยะเวลาบญั ชีจะตอ้ งยนื่ แบบแสดงรายการพร้อมชาระภาษี (ถา้ มี) ตามแบบ ภ.ง.ด.50 ภายใน 150 วนั นบั แต่วนั สุดทา้ ยของรอบระยะเวลาบญั ชี

สถานทย่ี ่ืนแบบแสดงรายการภาษี ในเขตกรุงเทพมหานคร ให้ยื่น ณ (1) สานกั งานสรรพากรพ้นื ทสี่ าขา (สรรพากรเขต/อาเภอ เดิม) ในทอ้ งทท่ี ่ีสานกั งานใหญ่ต้งั อยู่ ในเขตจงั หวดั อ่ืน ให้ย่ืน ณ (1) ทวี่ ่าการอาเภอหรือกิ่งอาเภอทอ้ งที่ทีส่ านกั งานใหญต่ ้งั อยู่ ในกรณีสานกั งานสรรพากรอาเภอมิไดต้ ้งั อยู่ ณ ท่วี ่าการอาเภอใหย้ นื่ ณ สานกั งานสรรพากรอาเภอ หมายเหตุ การยนื่ แบบแสดงรายการภาษี ภ.ง.ด.50 , ภ.ง.ด.51 , ภ.ง.ด.53 และ ภ.ง.ด.54 สามารถยน่ื ผา่ น เวบ็ ไซตข์ องกรมสรรพากรกไ็ ด้

ภาษีเงนิ ได้นิตบิ ุคคลสาหรับเงนิ ได้ทจ่ี ่ายจากหรือในประเทศไทย ผู้มีหน้าท่ีเสียภาษี ไดแ้ ก่ บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลทต่ี ้งั ข้ึนตามกฎหมายของต่างประเทศทมี่ ิไดป้ ระกอบกิจการในประเทศไทย และ ไดร้ ับเงินไดพ้ ึงประเมินตามมาตรา 40(2)(3)(4)(5) หรือ (6) ที่จ่ายจากหรือในประเทศไทย การเสียภาษีกรณีน้ีกฎหมายใหเ้ สียโดยวิธีหกั ภาษี คือ ผจู้ ่ายเงินได้ ดงั กล่าวจะตอ้ งหกั ภาษีจากเงินไดพ้ งึ ประเมินทจ่ี ่ายตามวธิ ีการและอตั ราดงั หวั ขอ้ ถดั ไป ท้งั น้ีไม่ว่าใครจะเป็นผจู้ ่ายเงินไดก้ ็ตาม ภาษีทห่ี กั ไวใ้ นกรณีน้ีเป็น ภาษีที่เสียเดด็ ขาดจึงเสร็จสิ้นเป็นรายคร้ังไปถา้ กรณีทเ่ี ป็นการจ่ายเงินไดด้ งั กลา่ วใหก้ บั บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลในต่างประเทศซ่ึงเป็นสาขาของ บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบคุ คลทตี่ ้งั ข้ึนตามกฎหมายไทย ผจู้ ่ายเงินไดไ้ ม่มีหนา้ ทีต่ อ้ งหกั ภาษีตามฐานน้ีเพราะผรู้ ับเงินไดไ้ ม่ใช่ผมู้ ีหนา้ ทเี่ สียภาษีฐานน้ีแต่ อยา่ งใด เงินได้ทีต่ ้องหักภาษี เงินไดข้ องบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบคุ คลต่างประเทศ ซ่ึงผจู้ ่ายมีหนา้ ทต่ี อ้ ง หกั ภาษี ไดแ้ ก่ เงินไดพ้ ึงประเมินตาม มาตรา 40(2)(3)(4)(5) หรือ (6) (1) เงินไดพ้ งึ ประเมินตามมาตรา 40(2) ไดแ้ ก่ เงินไดเ้ น่ืองจากหนา้ ท่หี รือ ตาแหน่งงานที่ทา หรือจากการรับ ทางานให้ (ค่าธรรมเนียมค้าประกนั เงิน กยู้ มื ในทางปฏิบตั ิถือเป็นเงินไดพ้ งึ ประเมิน ประเภทที่ 8) (2) เงินไดพ้ ึงประเมินตามมาตรา 40(3) ไดแ้ ก่ ค่าแห่งก๊ดู วิลล์ ค่าแห่งลิขสิทธ์ิ หรือสิทธิอยา่ งอื่น เงินปี หรือเงินไดม้ ีลกั ษณะเป็นเงินรายปี อนั ไดม้ า จากพนิ ยั กรรม นิติกรรมอยา่ งอืน่ หรือคาพิพากษาของศาล

(3) เงินไดพ้ ึงประเมินตามมาตรา 40(4) ไดแ้ ก่เงินไดท้ เ่ี ป็น (ก) ดอกเบ้ียพนั ธบตั ร ดอกเบ้ยี เงินฝาก ดอกเบ้ียหุน้ กู้ ดอกเบ้ียตวั๋ เงิน ดอกเบ้ียเงินกยู้ มื ไม่ว่าจะมีหลกั ประกนั หรือไม่ก็ตาม กรณีไดเ้ งินไดท้ ีเ่ ป็นดอกเบ้ียจากรัฐบาล หรือสถาบนั การเงินทมี่ ีกฎหมายโดยเฉพาะของ ประเทศไทย จดั ต้งั ข้ึนสาหรับใหก้ ูย้ มื เพ่ือส่งเสริม เกษตรกรรม พาณิชยกรรม หรืออุตสาหกรรม ไม่ตอ้ งเสีย ภาษีฐานน้ี (มาตรา 70 วรรค 2 ) (ข) เงินปันผล เงินส่วนแบง่ ของกาไรหรือประโยชนอ์ ืน่ ใดท่ีไดจ้ ากบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วน นิติบุคคลหรือกองทุนรวม (ค) เงินโบนสั ท่ีจ่ายแก่ผถู้ อื หุน้ หรือผเู้ ป็นส่วนในบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคล (ง) เงินลดทุนของบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคล เฉพาะส่วนทีจ่ ่ายไม่เกินกว่ากาไรและ เงินที่กนั ไวร้ วมกนั (จ) เงินเพิ่มทนุ ของบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบคุ คล ซ่ึงต้งั กาไรที่ไดม้ าหรือเงินท่ีกนั ไว้ รวมกนั (ฉ) ผลประโยชน์ท่ีไดจ้ ากการท่บี ริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบคุ คลควบเขา้ กนั หรือรับช่วงกนั หรือเลิกกนั ซ่ึงตีราคาเป็นเงินไดเ้ กินกว่า เงินทุน (ช) ผลประโยชนท์ ่ไี ดจ้ ากการโอนการเป็นหุน้ ส่วน หรือโอนหุน้ หุน้ กู้ พนั ธบตั ร หรือ ตวั๋ เงิน หรือตราสารแสดงสิทธิในหน้ีท่บี ริษทั หรือ หา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลหรือบุคคลอื่นเป็นผอู้ อก ท้งั น้ีเฉพาะ ซ่ึงตีราคาเป็นเงินไดเ้ กินกวา่ ท่ีลงทุน (4) เงินไดพ้ ึงประเมินตามมาตรา 40(5) ไดแ้ ก่ เงินหรือประโยชนอ์ ยา่ งอืน่ ทไ่ี ดเ้ น่ืองจากการใหเ้ ช่า ทรัพยส์ ิน (5) เงินไดพ้ ึงประเมินตามมาตรา 40(6) ไดแ้ ก่ เงินไดจ้ ากวชิ าชีพอิสระ คือวิชากฎหมาย การประกอบ โรคศิลปะ วิศวกรรม สถาปัตยกรรม การบญั ชี ประณีตศิลปกรรม

วธิ ีการคานวณหักภาษีฐานนี้ มีหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการแยกออก ตามประเภทของเงินได้ ดงั น้ี (1) เงินไดพ้ ึงประเมินมาตรา 40(2)(3)(4)(5) และ (6) นอกจากเงินไดพ้ งึ ประเมินตามมาตรา 40(4)(ข) ดงั จะกล่าวต่อไปใน (2) ใหค้ านวณหกั ภาษีในอตั ราร้อยละ 15 (2) เงินไดพ้ งึ ประเมินตามมาตรา 40(4)(ข) ใหค้ านวณหกั ภาษีในอตั ราร้อยละ 10 การยนื่ แบบแสดงรายการชาระภาษี การหกั ภาษีเงินไดน้ ิติบุคคล ณ ท่จี ่ายสาหรับบริษทั ต่างประเทศขา้ งตน้ ผจู้ ่ายเงินไดจ้ ะตอ้ งหกั ภาษี ณ ที่ จ่าย และยน่ื แบบแสดงรายการและนาส่งภาษีภายใน 7 วนั นบั แต่วนั สิ้นเดือนของเดือนทจ่ี ่ายเงินไดพ้ ึงประเมินแบบแสดงรายการที่ยนื่ ไดแ้ ก่ แบบ ภ.ง.ด.54 (ถา้ ไม่มี การส่งเงินไดไ้ ปต่างประเทศกไ็ ม่ตอ้ งยนื่ )

ภาษีเงนิ ได้นิตบิ ุคคลสาหรับการจาหน่ายกาไรไปนอกประเทศ ผู้มหี น้าทเ่ี สียภาษฐี านนี้ ไดแ้ ก่ บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบคุ คลซ่ึง (3) การปฏิบตั ิอยา่ งอน่ื อนั ก่อใหเ้ กิดผลตาม (1) หรือ (2) จาหน่ายเงินกาไรหรือเงิน ประเภทอน่ื ใดท่ีกนั ไวจ้ ากกาไรหรือทีถ่ ือ ไดว้ ่าเป็นเงินกาไรออกไปจากประเทศไทยใหเ้ สียภาษีเงินไดโ้ ดย อตั ราภาษีและการคานวณภาษี วิธีการเสียภาษีการ หกั ภาษีจากจานวนเงินท่ีจาหน่าย จาหน่ายเงินกาไรไปต่างประเทศน้ี ใหเ้ สียภาษีโดยหกั จากจานวน เงินทจี าหน่ายในอตั ราร้อยละ 10 การจาหน่ายเงินกาไรน้นั ใหห้ มายความรวมถึง (1) การจาหน่ายเงินกาไร หรือเงินประเภทอ่ืนใดที่ การย่ืนแบบแสดงรายการและชาระภาษี บริษทั หรือหา้ ง หุน้ ส่วนนิติบคุ คลที่จาหน่ายเงินกาไรไปต่างประเทศ จะตอ้ งยน่ื กนั ไวจ้ ากกาไรหรือทถี่ ือไดว้ ่าเป็นเงินกาไร จากบญั ชีกาไร แบบแสดงรายการและชาระภาษี ภายในเจด็ วนั นบั แต่วนั สิ้นเดือน ขาดทุนหรือบญั ชีอืน่ ใดไปชาระหน้ี หรือหกั กลบลบหน้ี ของเดือนทีจ่ าหน่ายเงินกาไร แบบแสดงรายการทใี่ ชย้ นื่ ไดแ้ ก่ หรือไปต้งั เป็นยอดเจา้ หน้ีในบญั ชี ของบุคคลใด ๆ ใน ภ.ง.ด. 54 (ยนื่ ทกุ คร้ังทีม่ ีการจาหน่ายเงิน กาไรออกไปจาก ต่างประเทศ หรือ ประเทศไทย ถา้ เก็บกาไรไวใ้ นประเทศไทยไม่ตอ้ งเสียภาษีฐาน น้ี) (2) ในกรณีท่ีมิไดป้ รากฏขอ้ เทจ็ จริงดงั กล่าวใน (1) แต่ไดม้ ีการขออนุญาตซ้ือและโอนเงินตรา ต่างประเทศ ซ่ึง เป็นกาไรหรือเงินประเภทอนื่ ใดทีก่ นั ไวจ้ ากกาไร หรือทถ่ี อื ไดว้ ่าเป็นเงินกาไรออกไป ต่างประเทศ หรือ

ภาษเี งนิ ได้นิตบิ ุคคลคานวณจากกาไรสุทธิ ผมู้ ีหนา้ ที่เสียภาษีเงินไดจ้ ากกาไรสุทธิ 1) บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลท่ีต้ังขึน้ ตามกฎหมายไทย ก. บริษทั จากดั ข. บริษทั มหาชน จากดั ค. หา้ งหุน้ ส่วน จากดั ง. หา้ งหุน้ ส่วนสามญั จดทะเบียน ในกรณีท่บี ริษทั หา้ งหา้ งหุน้ ส่วนนิติบคุ คลทีต่ ้งั ข้ึนตามกฎหมายไทยมีสาขาไม่วา่ จะอยใู่ นหรือนอก ประเทศไทย จะตอ้ งนากาไรสุทธิของ สาขามารวมกาไรสุทธิของสานกั งานใหญเ่ พือ่ เสียภาษีเงินไดน้ ิติบุคคลใน ประเทศไทย (2) บริษทั หรือห้างหุ้นส่วนนิตบิ ุคคลท่ตี ้งั ขนึ้ ตามกฎหมายของต่างประเทศ บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบคุ คลทีต่ ้งั ข้ึนตามกฎหมายของต่างประเทศ และมีหนา้ ทีเ่ สียภาษีเงินไดน้ ิติบคุ คลในประเทศไทย ไดแ้ ก่ (ก) บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบคุ คลท่ีต้งั ข้ึนตามกฎหมายของต่างประเทศและกระทากิจการในท่อี ่ืนๆ รวมทง้ั ในประเทศไทย ไดแ้ ก่ บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบคุ คลที่ต้งั ข้ึนตามกฎหมายของต่างประเทศดงั กลา่ ว จะตอ้ งนากาไรสุทธิเฉพาะ ทไี่ ดจ้ ากการกระทากิจการ ในประเทศไทยมาเสียภาษีเงินไดน้ ิติบคุ คล

(ข) บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบคุ คล ซ่ึงต้งั ข้ึนตามกฎหมายของต่างประเทศมีลูกจา้ งหรือผทู้ าการแทน หรือผทู้ าการติดต่อในการ ประกอบกิจการในประเทศไทย ซ่ึงเป็นเหตุใหไ้ ดร้ ับเงินไดห้ รือผลกาไรในประเทศไทย ใหถ้ อื วา่ บคุ คลผจู้ า้ งเป็นลกู จา้ ง หรือผทู้ า การแทน หรือผทู้ าการติดต่อเช่นว่าน้นั ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล เป็นตวั แทนของบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบคุ คล ซ่ึงต้งั ข้ึนตามกฎหมายของต่างประเทศและใหบ้ คุ คลน้นั มีหนา้ ท่แี ละ ความรับผดิ ชอบในการยน่ื รายการและเสียภาษีเงินไดเ้ ฉพาะท่ี เกี่ยวกบั เงินไดห้ รือผลกาไรดงั กลา่ ว (3) กจิ การซ่ึงดาเนินการเป็ นทางการค้าหรือหากาไรโดยรัฐบาลต่างประเทศองคก์ ารของรัฐบาลต่างประเทศ หรือนิติบคุ คลอืน่ ท่ตี ้งั ข้ึนตามกฎหมายของต่างประเทศ (4) กจิ การร่วมค้า

บญั ชีอตั ราภาษีเงนิ ได้นิตบิ ุคคล บญั ชีอตั ราภาษีเงินได้ (1) สาหรับบคุ คลธรรมดา เงินไดส้ ุทธิไม่เกิน 300,000 บาท ร้อยละ 5 เงินไดส้ ุทธิส่วนที่เกิน 300,000 บาท แต่ไม่เกิน 500,000 บาท ร้อยละ 10 เงินไดส้ ุทธิส่วนที่เกิน 500,000 บาท แต่ไม่เกิน 750,000 บาท ร้อยละ 15 เงินไดส้ ุทธิส่วนท่ีเกิน 750,000 บาท แต่ไม่เกิน 1,000,000 บาท ร้อยละ 20 เงินไดส้ ุทธิส่วนที่เกิน 1,000,000 บาท แต่ไม่เกิน 2,000,000 บาท ร้อยละ 25 เงินไดส้ ุทธิส่วนที่เกิน 2,000,000 บาท แต่ไม่เกิน 5,000,000 บาท ร้อยละ 30 เงินไดส้ ุทธิส่วนที่เกิน 5,000,000 บาท ร้อยละ 35 (พระราชบญั ญตั ิ แกไ้ ขเพม่ิ เติมประมวลรัษฎากร (ฉบบั ท่ี 44) พ.ศ. 2560 ใชบ้ งั คบั สาหรับเงินไดพ้ ึงประเมินประจาปี ภาษี พ.ศ. 2560 ท่ี จะตอ้ งยน่ื รายการใน พ.ศ. 2561 เป็นตน้ ไป)

บัญชีอตั ราภาษีเงนิ ได้นิตบิ ุคคล (2) สาหรับบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบคุ คล (ก) ภาษีจากกาไรสุทธิของบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคล ร้อยละ 20 (พระราชบญั ญตั ิแกไ้ ขเพ่ิมเติมประมวลรัษฎากร (ฉบบั ที่ 42) พ.ศ.2559 ใชบ้ งั คบั สาหรับรอบระยะเวลาบญั ชีเริ่มในหรือหลงั 1 ม.ค.2559 เป็น ตน้ ไป) (ค) ภาษีตามมาตรา 70 เฉพาะกรณีการจ่ายเงินไดพ้ ึงประเมินตามมาตรา 40(4)(ข) ร้อยละ 10 (ง) ภาษีตามมาตรา 70 ทวิ ร้อยละ 10\" (พระราชกาหนดแกไ้ ขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบบั ที่ 16) พ.ศ.2534 ใชบ้ งั คบั 1 เม.ย. 2535 เป็นตน้ ไป) (ดูพระราชกฤษฏีกา (ฉบบั ที่ 270) พ.ศ.2537) \"(จ) (ยกเลิกโดยพระราชบญั ญตั ิ แกไ้ ขเพ่ิมเติมประมวลรัษฎากร (ฉบบั ที่ 52) พ.ศ. 2562 ใหใ้ ชบ้ งั คบั ต้งั แต่วนั ท่ี 20 สิงหาคม พ.ศ. 2562 เป็นตน้ ไป ) \"

จัดทาโดย นางสาวสิริทอน มงั่ ผาย เลขที่ 16 แผนกพาณชิ ยการ (สายตรง) ระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้ันสูง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook