Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ระเบียบการวัดและประเมินผลและประเมินผล พ.ศ.2566

ระเบียบการวัดและประเมินผลและประเมินผล พ.ศ.2566

Published by macnattanon32, 2023-06-11 06:43:16

Description: ระเบียบการวัดและประเมินผลและประเมินผล พ.ศ.2566
โรงเรียนบ้านบึงทับช้าง

Search

Read the Text Version

ระเบียบการวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2566 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พทุ ธศกั ราช 2560) โรงเรยี นบ้านบงึ ทบั ช้าง สำนักงานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต 1 สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

ร ะ เ บี ย บ ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล พ . ศ . 2 5 6 5 | ก คำนำ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 เป็นหลักสูตรแกนกลางของประเทศ มีจุดประสงค์ที่จะพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีขีดความสามารถ ในการแข่งขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มศักยภาพของผู้เรียนให้สูงขึ้น สามารถดารงชีวิตอย่างมีความสุข บนพื้นฐานของความเป็นไทยและความเป็นสากล รวมทั้งมีความสามารถในการประกอบอาชีพ หรือศึกษาต่อ ตามความถนดั ความสนใจและความสามารถของแต่ละบคุ คล การวัดผลประเมินผลการเรียนเป็นมาตรการหนึ่งที่จะช่วยให้ได้มาซึ่งข้อมูลมาพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุ เป้าหมายของหลักสูตร เพื่อความเข้าใจตรงกันและมีแนวทางปฏิบัติ ในเรื่องการประเมินผลการเรียนไปในทิศทาง เดียวกัน โรงเรียนบ้านบึงทับช้าง จึงได้จัดทำระเบียบการวัดผลประเมินผลการเรียน เพื่อให้ผู้บริหาร ครู และ ผูท้ ่ีเกี่ยวขอ้ งเข้าใจสาระและเจตนารมณข์ องระเบียบ ตลอดจนแนวปฏบิ ัติที่ถกู ตอ้ ง โรงเรียนบ้านบึงทับช้าง ได้นำระเบียบการวัดและประเมินผลไปใช้ประกอบกับหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนบ้านบึงทับช้าง พุทธศักราช 2551 และได้มีการปรับปรุงในบางกลุ่มสาระการเรียนรู้ ดังนั้นระเบียบ การวัดและประเมินผลจึงต้องมีการปรับปรุงเพื่อให้มีความสอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียน บ้านบึงทับช้าง พุทธศักราช 2566 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.2566) โรงเรียนบ้านบึงทับช้าง ขอขอบคุณ คณะกรรมการบริหารหลักสูตรและวิชาการของสถานศึกษา ที่ได้ร่วมกันปรับปรุงระเบียบการวัดผลประเมินผล ของโรงเรียนมา ณ ที่นี้ด้วย โรงเรียนบ้านบึงทับช้าง หวงั เปน็ อยา่ งยิ่งวา่ ระเบยี บการวัดผลประเมินผลการเรียนฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการปฏบิ ัติงานด้านการวัดผล ประเมินการเรยี น อันจะนำไปสู่การพฒั นาคณุ ภาพของผู้เรยี นอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพและเกิดประสิทธิผล คณะผจู้ ดั ทำ

ร ะ เ บี ย บ ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล พ . ศ . 2 5 6 5 | ข สำรบญั เร่อื ง หนา้ คำนำ ก สารบัญ ข ประกาศโรงเรียนบ้านบงึ ทบั ช้าง เรื่อง ให้ใชร้ ะเบียบการวัดและประเมินผล 2 ตอนที่ 1 ระเบียบสถานศกึ ษาวา่ ด้วยการวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ตามหลกั สูตร 3 แกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 โรงเรียนบา้ นบึงทบั ช้าง ตอนท่ี 2 แนวปฏิบัติการวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ ตามหลกั สตู รสถานศึกษา 19 โรงเรียนบ้านบงึ ทบั ช้าง พุทธศักราช 2551 บรรณานุกรม 30 ภาคผนวก 31 ตำส่ังแต่งตัง้ คณะกรรมการปรับปรุง และพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา พ.ศ.2566 32

ร ะ เ บี ย บ ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล พ . ศ . 2 5 6 5 | 1 ระเบียบสถานศกึ ษาวา่ ด้วยการวดั และประเมนิ ผลการเรียน ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง 2560) โรงเรยี นบ้านบึงทบั ชา้ ง พ.ศ. 2566

ร ะ เ บี ย บ ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล พ . ศ . 2 5 6 5 | 2 ประกาศโรงเรยี นบา้ นบึงทับช้าง เรอ่ื ง ให้ใชร้ ะเบียบการวัดและประเมนิ ผลโรงเรียนบา้ นบึงทับช้าง พ.ศ. 2566 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง 2560) ------------------------------------------------------- ระเบียบวัดผลประเมินผลโรงเรียนบ้านบึงทับช้าง พุทธศักราช 2566 เป็นระเบียบวัดผลประเมินผล ที่มีความสอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านบึงทับช้าง พุทธศักราช 2566 ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) และได้ดำเนินการตามคำส่ัง กระทรวงศึกษาธิการ ที่ สพฐ 1239/2560 ลงวันที่ 7 เดอื น สิงหาคม พ.ศ. 2560 เรือ่ งใหใ้ ชห้ ลักสตู รแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 โดยระเบียบนี้กำหนดให้ใช้ควบคู่กับหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียน บ้านบึงทับช้าง พุทธศักราช 2566 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.2560) คณะกรรมการการศึกษาขน้ั พนื้ ฐานได้มีมตเิ ห็นชอบใหใ้ ช้ระเบียบวัดผลประเมินผลโรงเรียนบ้านบึงทับช้าง พุทธศักราช 2566 ในระดับประถมศึกษา โดยเริ่มใช้ในปีการศึกษา 2566 เมื่อวันท่ี 4 เดือน พฤษภาคม พ.ศ.2566 จึงประกาศใหใ้ ชร้ ะเบียบวดั ผลประเมินผลโรงเรียนบา้ นบงึ ทับช้าง พุทธศักราช 2566 ประกาศ ณ วนั ที่ ๑ เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. 2566 (นายสขุ มุ พิมพาชาติ) (นางกนกธร คจลั เบิรก์ ) ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผูอ้ านวยการโรงเรียนบ้านบงึ ทับช้าง

ร ะ เ บี ย บ ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล พ . ศ . 2 5 6 5 | 3 ระเบยี บโรงเรียนบา้ นบึงทับชา้ ง วา่ ดว้ ยการวัดผลและประเมินผลการเรียน ระดับประถมศกึ ษา พทุ ธศักราช 2566 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.2560) ------------------------------------------------------------------- ตามที่โรงเรียนบ้านบึงทับช้าง ได้ประกาศใช้หลักสูตแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2566 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ตามคำส่ัง กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ที่ สพฐ. 1239/2560 ลงวันที่ 8 เดือน สงิ หาคม พ.ศ. 2560 เรือ่ งให้ใช้หลักสตู รแกนกลาง การศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.2560) จงึ เปน็ การสมควรทกี่ ำหนดระเบยี บโรงเรียน บ้านบงึ ทบั ช้าง วา่ ด้วยการวดั ผลและประเมนิ ผลการเรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) เพื่อให้สามารถดาเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับคำสั่ง ดังกล่าว ฉะนั้นอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 39 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชก าร กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 และกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการ คณะกรรมการบริหารหลักสูตร และ งานวิชาการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโดยความเห็นขอบของคระกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงวางระเบียบ ไวด้ งั ตอ่ ไปนี้ ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบโรงเรียนบ้านบึงทับช้าง ว่าด้วยการวัดและประเมินผลการเรียน ระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ข้อ 2 ระเบียบน้ีให้ใช้บังคบั ต้ังแตป่ กี ารศกึ ษา 2566 เปน็ ตน้ ไป ขอ้ 3 ใหย้ กเลิกระเบียบ ข้อบังคับ ที่ขัดแยง้ กบั ระเบยี บน้ี ใหใ้ ช้ระเบียบน้แี ทน ข้อ 4 ให้ใช้ระเบียบนี้ควบคู่กับหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านบึงทับช้าง พุทธศักราช 2566 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.2560) ขอ้ 5 ให้ผูบ้ รหิ ารสถานศึกษารักษาการใหเ้ ปน็ ไปตามระเบียบน้ี หมวดท่ี 1 หลักการวัดและประเมนิ ผลการเรยี น ขอ้ 6 การประเมนิ ผลการเรียนใหเ้ ปน็ ไปตามหลักการในต่อไปนี้ 6.1 สถานศึกษาเป็นผู้รับผิดชอบประเมินผลการเรียนของผู้เรียนโดยความเห็นชอบ ของคณะกรรมการบรหิ ารหลกั สูตรและวชิ าการ 6.2 การวัดและประเมินผลการเรียนต้องสอดคล้องและครอบคลุมมาตรฐานการเรียนรู้และ ตัวช้วี ัดทีก่ ำหนดในตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.2560)

ร ะ เ บี ย บ ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล พ . ศ . 2 5 6 5 | 4 6.3 การประเมินผลการเรียนต้องประกอบด้วย การประเมินเพื่อปรับปรุงพัฒนาผู้เรียน การจัดการเรียนการสอน และการประเมนิ ผลเพือ่ ตดั สินผลการเรยี น 6.4 การประเมินผลเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการจัดการเรียนการสอนต้องดำเนินการ ด้วยวธิ ีการท่ีหลากหลาย เหมาะสมกับสิง่ ท่ีตอ้ งการวัด ธรรมชาติของรายวชิ า และระดบั ชั้น 6.5 ใหม้ ีการประเมินความสามารถของผู้เรียนในการอ่าน คิด วิเคราะห์ และเขียนในแตล่ ะชัน้ 6.6 ให้มกี ารประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผู้เรียนในแต่ละช้ัน 6.7 ให้มกี ารประเมนิ คุณภาพผูเ้ รียนในระดบั ชาตใิ นแตล่ ะช่วงช้นั 6.8 เปดิ โอกาสใหผ้ ้เู รยี นตรวจสอบผลการประเมนิ การเรียนได้ 6.9 ใหม้ ีการเทียบโอนผลการเรียนระหวา่ งสถานศึกษาและรปู แบบการศึกษาตา่ ง ๆ หมวดที่ 2 วธิ ีการวัดและประเมนิ ผลการเรียน ข้อ 7 การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ เป็นกระบวนการที่ให้ผู้สอนใช้พัฒนาคุณภาพผู้เรียน เพื่อให้ได้ข้อมูลสารสนเทศ ที่แสดงพัฒนาการความก้าวหน้าและความสำเร็จทางการเรียนของผู้เรียน ใหเ้ ป็นการประเมนิ เพอ่ื ปรบั ปรุงการเรยี นมากกว่าการตดั สินผลการเรยี น ประกอบดว้ ย 7.1 การประเมินผลระดับชั้นเรียนเป็นการวัดความก้าวหน้าทั้งด้านความรู้ ทักษะกระบวนการ คณุ ธรรม จริยธรรม และค่านยิ มทีพ่ งึ ประสงค์ 7.2 การประเมินผลระดับสถานศึกษาเพื่อตรวจสอบความก้าวหน้า การเรียนรู้เป็นรายปี และช่วงชั้น สำหรับสถานศึกษานำข้อมูลที่ได้ใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงและการพัฒนาการเรียนการสอนและ คุณภาพของผู้เรยี นใหเ้ ปน็ ไปตามมาตรฐานการเรียนรู้ รวมทงั้ พจิ ารณาตัดสินการเลือ่ นชว่ งชั้น 7.3 การประเมินผลระดับเขตพื้นที่การศึกษา เป็นการประเมินด้วยแบบประเมินผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนที่เป็นมาตรฐาน เพื่อตรวจสอบคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาและคุณภาพการศึกษาของชาติ สำหรับนำผลการประเมินไปวางแผนดำเนินการปรับปรุงแก้ไขการจัดการเรียนการสอน และพัฒนาการผู้เรียน ใหไ้ ดม้ าตรฐาน 7.4 การประเมนิ ผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นระดบั ชาติ เปน็ การประเมินด้วยแบบประเมินผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนที่เป็นมาตรฐานระดับชาติ เพื่อตรวจสอบคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาและคุณภาพการศึกษา ของชาติ สำหรับนำผลการประเมินไปวางแผนดำเนินการปรับปรุงแก้ไขการจัดการเรียนการสอน และพัฒนาการ ผู้เรียนใหไ้ ด้มาตรฐาน 7.5 การประเมินเพื่อตัดสินผลการเรียน เป็นการประเมินเพื่อสรุปความสำเร็จในการเรียนรู้ ของผเู้ รยี นในการจบชว่ งช้ันและจบหลักสตู รการศกึ ษาในระดับตา่ งๆ ซง่ึ จะทำให้ผู้เรียนไดร้ ับการรับรองความรู้และ วุฒกิ ารศึกษาจากสถานศกึ ษา ข้อ 8 แนวดำเนินการประเมินผลการเรียนของสถานศึกษา เพื่อให้การวัดและประเมินผลการเรียนของสถานศึกษาสอดคล้องกับตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560) มีการดำเนินการตามหลักการกระจายอำนาจ มีการประเมินผูเ้ รียนตามหลกั การวัดและประเมินผลการเรยี น มีการตรวจสอบและกำกับติดตามประเมินคุณภาพ

ร ะ เ บี ย บ ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล พ . ศ . 2 5 6 5 | 5 การประเมนิ ผลการเรียนอยา่ งเปน็ ระบบและมีประสิทธภิ าพ จึงกำหนดแนวดำเนินการวดั และประเมินผลการเรียน ของสถานศึกษา ดงั นี้ 8.1 สถานศึกษาโดยคณะกรรมการบริหารหลักสูตรและวิชาการของสถานศึกษา โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน กำหนดรูปแบบ ระบบและระเบียบประเมินผล ของสถานศึกษา เพอื่ ใชเ้ ป็นแนวปฏบิ ัตใิ นการประเมนิ ผลการเรยี นของสถานศกึ ษา 8.2 สถานศึกษาโดยคณะกรรมการบริหารหลักสูตรและวิชาการของสถานศกึ ษา กำหนดตัวชี้วดั ในแตล่ ะรายวิชา และแต่ละกลุม่ สาระการเรียนรโู้ ดยวเิ คราะห์จากมาตรฐานการเรียนรู้ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และมาตรฐานการอ่าน คิด วิเคราะห์ และเขียนและหลักสูตรระดับท้องถิ่น เพื่อใช้เป็นเป้าหมายในการวัดและ ประเมนิ ผลการเรียนรูร้ ายภาค 8.3 คณะอนุกรรมการระดับกลุ่มวิชาให้ความเห็นชอบของรูปแบบ วิธีการ เครื่องมือสำหรับการ ประเมิน และผลการตัดสนิ การประเมนิ ผลการเรียนรายวชิ าของผ้สู อน 8.4 ผู้สอนจัดการเรียนการสอน ตรวจสอบพัฒนาการของผู้เรียน และประเมินสรุปผลสัมฤทธิ์ ของผู้เรียนด้วยวิธกี ารหลากหลายตามสภาพจริง โดยนำตัวช้ีวัด ไปใช้เป็นข้อมูลรวมกับการประเมินปลายภาค 8.5 หัวหน้าสถานศึกษาอนุมตั ิผลการเรยี นปลายภาค และการผา่ น จบการศกึ ษา 8.6 สถานศกึ ษาจัดทำรายงานผลการดำเนนิ การประเมินผลการเรียนประจำปีโดยความเห็นชอบ ของคณะกรรมการบรหิ ารหลักสูตรและวชิ าการของสถานศึกษา เสนอต่อคณะกรรมการสถานศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน ขอ้ 9 ให้มีการประเมนิ ผลการเรียนในดา้ นต่างๆ ประกอบด้วย 9.1 การประเมินผลการเรียนในแต่ละรายวิชาของแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ซึ่งสถานศึกษา วิเคราะห์จากมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชีว้ ดั การประเมินรายวิชาให้ตัดสินผลการประเมินเป็นระดับผลการเรยี น 8 ระดบั ดงั นี้ “4” หมายถงึ ผลการเรียนดเี ย่ยี ม “3.5” หมายถึง ผลการเรียนดีมาก “3” หมายถึง ผลการเรียนดี “2.5” หมายถงึ ผลการเรียนคอ่ นข้างดี “2” หมายถงึ ผลการเรยี นน่าพอใจ “1.5” หมายถึง ผลการเรียนพอใช้ “1” หมายถึง ผลการเรยี นผ่านเกณฑ์ข้นั ต่ำท่ีกำหนด “0” หมายถึง ผลการเรียนตำ่ กว่าเกณฑข์ นั้ ตำ่ ทีก่ ำหนด 9.2 การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ประกอบด้วย กิจกรรมแนะแนวกิจกรรมนักเรียนและ กิจกรรมบำเพ็ญเพื่อสาธารณประโยชน์ การร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเป็นการประเมินความสามารถและ พัฒนาการของผู้เรียน ในการเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนในแต่ละภาคเรียนตามเกณฑ์ของแต่ละกิจกรรมและ ตัดสินผลการประเมินเป็น 2 ระดับ ดงั นี้ “ผ่าน” หมายถงึ ผ่านเกณฑ์ทสี่ ถานศกึ ษากำหนด “ไมผ่ ่าน” หมายถงึ ไมผ่ ่านเกณฑ์ท่ีสถานศกึ ษากำหนด

ร ะ เ บี ย บ ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล พ . ศ . 2 5 6 5 | 6 9.3 การประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ เป็นการประเมินพัฒนาทางด้านคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอันพึงประสงคข์ องผเู้ รียน ตามคุณลักษณะทีส่ ถานศึกษากำหนด การประเมนิ คุณลักษณะ อันพึงประสงคจ์ ะประเมินเป็นรายคณุ ลักษณะทุกภาคเรียน และตัดสนิ ผลการประเมินเป็น 4 ระดับ ดงั น้ี ดีเยี่ยม หมายถึง ผู้เรียนมพี ฤติกรรมตามตวั บ่งชผี้ ่านเกณฑ์ รอ้ ยละ 80 – 100 ของจำนวนตวั บ่งช้ีคุณลักษณะนั้นๆ แสดงว่าผู้เรยี นมีคุณลักษณะ นน้ั ๆ จนสามารถเป็นแบบอย่างแกผ่ อู้ ื่นได้ ดี หมายถงึ ผเู้ รยี นมีพฤติกรรมตามตวั บง่ ชผ้ี า่ นเกณฑ์ รอ้ ยละ 65 – 79 ของจำนวนตวั บง่ ช้คี ุณลักษณะน้ันๆ แสดงวา่ ผู้เรยี นมีคุณลักษณะ นัน้ ๆ ดว้ ยการปฏิบัติด้วยความเต็มใจ ผ่าน หมายถึง ผู้เรยี นมพี ฤติกรรมตามตัวบง่ ชี้ผ่านเกณฑ์ รอ้ ยละ 50 – 64 ของจำนวนตวั บ่งชค้ี ุณลกั ษณะนั้นๆ ไดป้ ฏบิ ัตติ นด้วยความ พยายามปฏบิ ัติตนตามคำแนะนำ ไมผ่ า่ น หมายถึง ผเู้ รยี นมพี ฤติกรรมตามตัวบง่ ชผี้ ่านเกณฑ์ ต่ำกวา่ รอ้ ยละ 50 ของจำนวนตัวบ่งชี้ในคุณลกั ษณะน้นั แสดงว่าผู้เรยี นมีคณุ ลกั ษณะ นั้นๆ ต้องมีผูอ้ ื่นคอยกระตุ้นเตอื น * เมอ่ื เลื่อนชัน้ จะพิจารณาจากผลการประเมิน ดเี ย่ียม, ด,ี ผา่ น โดยตอ้ งมผี ลการประเมินอยใู่ นระดบั “ผ่าน” ขนึ้ ไป 9.4 การประเมนิ ความสามารถอา่ น คิด วเิ คราะห์ และเขียน เปน็ การประเมนิ ทกั ษะการคดิ และ การถ่ายทอดความคิดด้วยทักษะการอ่าน การคดิ วเิ คราะห์ ตามเงอื่ นไข และวิธีการทีส่ ถานศึกษากำหนดและ ตัดสนิ ผลการประเมินเปน็ 4 ระดับ ดงั นี้ - ดเี ยี่ยม - ดี - ผ่าน - ไมผ่ ่าน *เม่ือเลื่อนชั้นจะพจิ ารณาจากผลการประเมิน ดเี ยีย่ ม, ด,ี ผา่ น โดยต้องมผี ลการประเมินอย่ใู นระดบั “ผา่ น” ข้นึ ไป 9.5 การตดั สนิ ผลการเรียนเล่ือนชัน้ เปน็ การนำผลการประเมินในดา้ นต่างๆ มาประมวลสรุป เพอ่ื ตัดสนิ ให้ผูเ้ รียนผา่ นระดับต่างๆ ตามเกณฑ์การตัดสนิ ผลการเรียนแต่ละระดับชนั้ ข้อ 10 เกณฑ์การตัดสินผลการเรียนจบหลกั สูตรสถานศกึ ษาเพื่อให้ผูเ้ รียนหลักสูตรการศึกษาขัน้ พื้นฐาน ที่ผ่านการศึกษาแต่ละชั้น และจบหลักสูตรสถานศึกษาครบถ้วนตามโครงสร้างของหลักสูตรของสถานศึกษาและ มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาจึงกำหนดเกณฑ์การตัดสินผลการเรียน การจบหลักสูตรการศึกษาภาคบังคับ ไว้ดงั นี้

ร ะ เ บี ย บ ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล พ . ศ . 2 5 6 5 | 7 10.1 เกณฑ์การจบระดบั ประถมศึกษา (1) ผ้เู รยี นเรยี นรายวชิ าพ้นื ฐาน จำนวน 5,040 ชวั่ โมง และรายวิชาเพมิ่ เติม/กิจกรรมเพ่ิมเติม จำนวน 720 ชว่ั โมง (2) ผเู้ รียนตอ้ งมผี ลการประเมินรายวชิ าพน้ื ฐาน ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ตามทสี่ ถานศึกษา กำหนดทกุ รายวชิ า (3) ผเู้ รยี นต้องมผี ลการประเมนิ การอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขียน ระดบั “ผ่าน” ขน้ึ ไป (4) ผู้เรียนต้องมีผลการประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั “ผา่ น” ข้นึ ไป (5) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมิน ตามท่สี ถานศึกษากำหนด หมวดที่ 3 เกณฑ์การวดั และประเมินผลการเรียน ข้อ 11 การตดั สนิ ผลการเรยี นใหถ้ อื ปฏิบัตดิ งั นี้ 11.1 พิจารณาตัดสินว่า ผู้เรียนผ่านเกณฑ์การประเมินรายวิชาตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ ทงั้ 8 กลุ่ม และได้รบั ผลการเรยี น 1 ถึง 4 11.2 การตัดสินพิจารณาว่าผู้เรียนจะนับจำนวนชั่วโมง/จำนวนหน่วยกิตจะต้องได้รับ ผลการเรยี น 1 ถึง 4 11.3 ได้รับการประเมินการอ่าน คิด วิเคราะห์ และเขียน เป็นรายปี/ภาค และนำไปตัดสิน การเลื่อนชั้น โดยถ้าผ่านเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนดให้ได้ผลการประเมินเป็นดีเยี่ยม ดี และผ่าน ถ้าไม่ผ่านเกณฑ์ การประเมนิ ใหไ้ ดผ้ ลการประเมนิ “ไม่ผ่าน” 11.4 ได้รับการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนเป็นรายปี/ภาค และนำไปตัดสิน การเล่ือนช้ัน โดยถา้ ผ่านเกณฑท์ ่ีสถานศึกษากำหนดให้ได้ผลการประเมินเป็นดีเยยี่ ม ดี และผา่ น ถ้าไมผ่ ่านเกณฑ์ การประเมนิ ใหไ้ ดผ้ ลการประเมินเป็น “ไมผ่ ่าน” 11.5 ไดร้ บั การตัดสนิ การเข้าร่วมกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียนเป็นรายภาคโดยถ้าผ่านเกณฑก์ าร ประเมนิ ให้ไดผ้ ลประเมนิ เปน็ “ผ” และถ้าไมผ่ ่านเกณฑ์ใหผ้ ลประเมินได้ “มผ” 11.6 วดั ผลปลายภาคเฉพาะผมู้ ีเวลาเรียนตลอดภาคเรยี นไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของเวลาเรียน ในรายวชิ าน้นั ใหอ้ ยูใ่ นดลุ พนิ ิจของคณะกรรมการกลมุ่ สาระการเรียนรู้ เสนอผา่ นคณะกรรมการบริหารหลกั สตู ร และวิชาการเห็นชอบ และเสนอผูบ้ ริหารสถานศึกษาอนุมัติ 11.7 ผเู้ รยี นท่ีมีเวลาเรียนไม่ถึงรอ้ ยละ 80 ของเวลาเรียนในรายวชิ านัน้ และไม่ไดร้ ับการผอ่ น ผนั ให้เข้ารับการวดั ผลปลายภาคเรียนให้ไดผ้ ลการเรียน “มส” 11.8 ผ้เู รยี นท่ีมผี ลการเรียนตำ่ กว่าเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนดให้ได้ระดับผลการเรียน “0” 11.9 ผู้เรียนที่ทุจริตในการสอบหรือทุจริตในงานที่มอบหมายให้ทำในรายวิชาใด ครั้งใด กต็ าม ให้ได้คะแนน “0” ในครงั้ นน้ั 11.10 ผเู้ รยี นที่ไม่ได้วัดผลรายภาค ไมไ่ ด้สง่ งานท่ีได้รับมอบหมายให้ทำ หรือมีเหตุสุดวิสัยที่ทำ ใหป้ ระเมินผลการเรยี นไม่ได้ ใหไ้ ด้ผลการเรียน “ร” กรณีที่ผู้เรียนได้ผลการเรียน “ร” เพราะไม่ส่งงานนั้น จะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะอนุกรรมการ กลุ่มสาระการเรียนรู้

ร ะ เ บี ย บ ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล พ . ศ . 2 5 6 5 | 8 11.11 การกำหนดคะแนนระหวา่ งเรียนและปลายปี เพ่ือใช้ตัดสนิ ผลการเรยี น รายภาคเรียน กำหนดดงั นี้ 1) รายวิชาของกลุม่ สาระการเรียนรู้ ให้นำคะแนนระหว่างเรยี นรวมกบั ปลายภาคเรียน แล้วนำมาตัดสนิ ผลการเรียน ดังนี้ 1.1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย, คณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, สังคมศึกษาและวฒั นธรรม ภาษาตา่ งประเทศ ศิลปะ และการงานอาชพี กำหนดดังนี้ คะแนนระหว่างปี ภาค 70 คะแนน คะแนนปลายปี ภาค 30 คะแนน รวม 100 คะแนน 1.2 กลุม่ สาระการเรยี นรู้สขุ ศึกษาและพลศึกษา กำหนดดังนี้ คะแนนระหวา่ งปี ภาค 80 คะแนน คะแนนปลายปี ภาค 20 คะแนน รวม 100 คะแนน ขอ้ 12 การเปลย่ี นผลการเรียนให้ถือปฏบิ ัตดิ ังน้ี 12.1 การเปลีย่ นผลการเรยี น “0” ควรจัดให้มีการสอนซ่อมเสริมในตัวชี้วัดที่ผู้เรียนสอบไม่ผ่านก่อน แล้วจึงสอบแก้ตัวให้และให้ สอบแกต้ ัวไดไ้ มเ่ กนิ 2 ครัง้ ท้ังนต้ี อ้ งดำเนินการใหเ้ สร็จส้นิ ภายในปกี ารศกึ ษาน้ัน ถ้าผ้เู รยี นไม่ดำเนนิ การสอบแกต้ วั ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้นี้ ใหอ้ ยู่ในดลุ ยพนิ ิจของสถานศึกษา ทจี่ ะพิจารณาขยายเวลาออกไปอีกไมเ่ กิน 1 ภาคเรยี น ถ้าสอบแก้ตัว 2 ครั้งแล้ว ยังได้ระดับผลการเรียน “0” อีกให้แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการ เกย่ี วกับการแก้ผลการเรยี นของผูเ้ รียนโดยปฏิบตั ดิ ังน้ี 1) ให้เรยี นซ้ำรายวิชาถา้ เปน็ รายวชิ าพื้นฐาน 2) ให้เรียนซ้ำหรือเปลี่ยนรายวิชาเรียนใหม่ ถ้าเป็นรายวิชาเพิ่มเติม โดยให้อยู่ในดุลยพินิจ ของสถานศึกษา * ในกรณีทีเ่ ปลยี่ นรายวชิ าเรียนใหม่ ให้หมายเหตุในระเบียนแสดงผลการเรียนว่าเรยี นแทนรายวชิ าใด 12.2 การเปล่ยี นผลการเรียน “ร” การเปล่ยี นผลการเรยี น “ร” มี 2 กรณี ดังน้ี 1) มีเหตุสุดวิสัย ทำให้ ประเมินผลการเรียนไม่ได้ เช่น เจ็บป่วย เมื่อผู้เรียนได้เข้าสอบหรือ ส่งผลงานท่ตี ิดคา้ งอย่เู สร็จเรียบร้อย หรือแก้ปญั หาเสร็จสนิ้ แลว้ ให้ไดร้ ะดับผลการเรยี นตามปกติ (ตัง้ แต่ 0 – 4) 2) ถ้าสถานศึกษาพจิ ารณาแล้วเหน็ วา่ ไมใ่ ชเ่ หตสุ ุดวสิ ัย เมอ่ื ผู้เรียนได้เข้าสอบ หรือส่งผลงานทตี่ ดิ ค้างอยูเ่ สรจ็ เรยี บร้อย หรอื แกป้ ัญหาเสร็จสน้ิ แลว้ ให้ได้ระดบั ผลการเรยี นไม่เกิน “1” การเปลี่ยนผลการเรียน “ร” ให้ดำเนินการแก้ไขตามสาเหตุให้เสร็จสิ้นภายในปีการศึกษานั้น ถา้ ผ้เู รยี นไม่มาดำเนินการแก้ “ร” ตามระยะเวลาทก่ี ำหนดไว้ให้เรยี นซ้ำรายวชิ า ยกเวน้ มีเหตสุ ุดวิสัย ให้อยู่ในดุลย พินิจของสถานศึกษาที่จะขยายเวลาการแก้ “ร” ออกไปอีกไม่เกิน 1 ภาคเรียนแต่เมื่อพ้นกำหนดนี้แล้วให้ปฏิบัติ ดังนี้

ร ะ เ บี ย บ ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล พ . ศ . 2 5 6 5 | 9 (1) ใหเ้ รยี นซ้ำรายวิชา ถ้าเปน็ รายวิชาพน้ื ฐาน (2) ให้เรียนซ้ำหรือเปลี่ยนรายวิชาเรียนใหม่ ถ้าเป็นรายวิชาเพิ่มเติม โดยให้อยู่ในดุลยพินิจ ของสถานศกึ ษา ในกรณีท่ีเปล่ียนรายวชิ าเรยี นใหม่ ใหห้ มายเหตุในระเบยี นแสดงผลการเรียนว่า เรียนแทน รายวิชาใด 12.3 การเปลี่ยนผลการเรยี น “มส” การเปลี่ยนผลการเรยี น “มส” มี 2 กรณี ดงั นี้ 1) กรณีผู้เรียนได้ผลการเรียน “มส” เพราะมีเวลาเรียนไม่ถึงร้อยละ 80 แต่มีเวลาเรียน ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของเวลาเรียนทั้งหมด ให้สถานศึกษาจัดให้เรียนเพิ่มเติมโดยใช้ชั่วโมงสอนซ่อมเสริม หรือ เวลาว่าง หรือวันหยุด หรือมอบหมายงานให้ทำ จนมีเวลาเรียนครบตามที่กำหนดไว้สำหรับรายวิชานั้นแล้วจึงให้ สอบเป็นกรณีพิเศษ ผลการสอบแก้ “มส” ให้ได้ระดับผลการเรียนไม่เกิน “1” การแก้ “มส” กรณีนี้ให้กระทำ ให้เสรจ็ สน้ิ ในปีการศึกษาน้ัน ถา้ ผ้เู รยี นไม่มาดำเนินการแก้ “มส” ตามระยะเวลาท่ีกำหนดไว้น้ีให้เรียนซ้ำ ยกเว้น มีเหตุสุดวิสัย ให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษาที่จะขยายเวลาการแก้ “มส” ออกไปอีกไม่เกิน 1 ภาคเรียน แตเ่ มอื่ พน้ กำหนดน้แี ลว้ ให้ปฏิบตั ิดังน้ี - ให้เรียนซ้ำรายวชิ า ถา้ เป็นรายวชิ าพืน้ ฐาน - ให้เรียนซ้ำหรือเปลี่ยนรายวิชาเรียนใหม่ ถ้าเป็นรายวิชาเพิ่มเติมโดยให้อยู่ในดุลยพินิจ ของสถานศกึ ษา 2) กรณีผเู้ รียนได้ผลการเรยี น “มส” และมีเวลาเรียนนอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 60 ของเวลาเรียนทั้งหมด ให้สถานศึกษาจัดให้เรียนซ้ำในรายวิชาพื้นฐานและรายวิชาเพิ่มเติม หรือเปลี่ยนรายวิชาใหม่ได้ สำหรับรายวิชา เพิม่ เตมิ เท่านนั้ *ในกรณที ่เี ปลย่ี นรายวิชาเรียนใหม่ ให้หมายเหตุในระเบียนแสดงผลการเรยี นวา่ เรยี นแทนรายวชิ าใด ในกรณภี าคเรยี นที่ 2 หากผ้เู รยี นยังมีผลการเรียน “0” “ร” “มส” ใหด้ ำเนนิ การใหเ้ สรจ็ สิ้นก่อนเปิด เรียนปีการศึกษาถัดไป สถานศึกษาอาจเปิดการเรียนการสอนในภาคฤดูร้อนเพื่อแก้ไขผลการเรียนของผู้เรียน ได้ ทั้งนี้ โดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา/ต้นสังกัดควรเป็นผู้พิจารณาประสานใหม้ ีการดำเนินการเรียนการสอน ในภาคฤดูร้อนเพ่ือแกไ้ ขผลการเรียนของผเู้ รยี น 12.4 การเปล่ียนผลการเรียน “มผ” หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กำหนดให้ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรม พัฒนาผู้เรียน 3 กิจกรรม คือ 1) กิจกรรมแนะแนว 2) กิจกรรมนักเรียน ซึ่งประกอบด้วย กิจกรรม ลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด ผู้บำเพ็ญประโยชน์ หรือกิจกรรมชมรม โดยผู้เรียนเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง 1 กิจกรรมและ เลือกเขา้ รว่ มกจิ กรรมชุมนุม หรือชมรมอกี 1 กจิ กรรม 3) กจิ กรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ในกรณีที่ผู้เรยี นได้ผลการเรียน “มผ” สถานศึกษาต้องจัดซ่อมเสริมให้ผูเ้ รียนทำกิจกรรมจนครบตามเวลา ทีก่ ำหนด หรอื ปฏิบัติกจิ กรรมเพ่ือพฒั นาคณุ ลักษณะท่ตี ้องปรบั ปรงุ แกไ้ ข แล้วจึงเปลี่ยนผลการเรียนจาก “มผ” เป็น “ผ” ท้ังนด้ี ำเนินการใหเ้ สรจ็ สนิ้ ภายในปกี ารศึกษาน้ั ยกเวน้ มีเหตุสุดวสิ ัยให้อยู่ในดลุ ยพนิ ิจของสถานศกึ ษา

ร ะ เ บี ย บ ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล พ . ศ . 2 5 6 5 | 10 12.5 การเปลี่ยนแปลงผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับ “ไม่ผ่าน” ให้คณะกรรมการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ดำเนินการจัดกิจกรรมซ่อมเสริม ปรับปรุงแก้ไข หรือตาม วธิ กี ารที่คณะกรรมการกำหนด เพ่อื ใหผ้ เู้ รียนผ่านเกณฑท์ ีส่ ถานศึกษากำหนด ข้อ 13 การตดั สินใหผ้ ูเ้ รยี นเลือ่ นช้นั / ซำ้ ช้นั ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ 1) ตัดสินผลการเรียนเป็นรายวิชา ผู้เรียนต้องมีเวลาเรียนตลอดภาคเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของเวลาเรียนทง้ั หมดในรายวิชาน้ันๆ 2) ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินทุกตัวชี้วัด และผ่านตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด คอื ตวั ช้วี ดั ทีต่ ้องผ่าน ไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ 60 ของแต่ละรายวิชา 3) ผู้เรยี นต้องได้รับการตัดสนิ ผลการเรยี นทุกรายวิชา 4) ผู้เรียนต้องได้รับการประเมิน และมีผลการประเมินผ่านตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด ในการอา่ น คิดวิเคราะหแ์ ละเขยี น คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น ถ้าผู้เรียนไม่ผ่านให้ดำเนินการสอนซ่อมเสริม แล้วทำการประเมินจนผู้เรียนสามารถผ่านเกณฑ์การ ประเมินที่สถานศกึ ษากำหนด 13.1 การเลอ่ื นชั้น ผเู้ รยี นจะไดร้ ับการตัดสินผลการเรียนทกุ ภาคเรยี นและได้รับการเล่ือนชนั้ เมื่อส้นิ ปกี ารศึกษาโดยมี คุณสมบัตติ ามเกณฑ์ ดังนี้ 1) รายวชิ าพื้นฐาน ได้รบั การตดั สินผลการเรยี นผา่ นทุกรายวิชา 2) รายวิชาเพิม่ เติม ไดร้ ับการตัดสนิ ผลการเรยี นผ่านตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด 3) ผู้เรียนตอ้ งรับการประเมินและมผี ลการประเมินผ่านตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนดในการ อ่าน คิดวเิ คราะห์และเขียน คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงคแ์ ละกจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน 4) ระดบั ผลการเรียนเฉล่ยี ในปกี ารศึกษานัน้ ควรไดไ้ มต่ ่ำกว่า 1.00 ทั้งนีร้ ายวิชาใดที่ไมผ่ า่ นเกณฑ์การประเมนิ สถานศึกษาสามารถซ่อมเสรมิ ผู้เรียนให้ไดร้ ับการ แกไ้ ขในภาคเรียนถดั ไป 13.2 การเรียนซ้ำ สถานศกึ ษาจะจัดให้ผ้เู รยี นเรยี นซำ้ ใน 2 กรณี ดังน้ี กรณีท่ี 1 เรยี นซ้ำรายวชิ า หากผเู้ รยี นไดร้ ับการสอนซ่อมเสริมและสอบแก้ตัว 2 ครัง้ แล้วไม่ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน ใหเ้ รียนซ้ำรายวิชาน้ัน ทง้ั น้ีใหอ้ ย่ใู นดลุ ยพนิ จิ ของสถานศึกษาในการจัดให้เรยี นซ้ำในชว่ งใด ช่วงหนง่ึ ท่ีสถานศกึ ษาเหน็ ว่าเหมาะสม เชน่ พักกลางวัน วันหยดุ ชว่ั โมงว่างหลังเลิกเรยี น ภาคฤดูรอ้ น เป็นต้น กรณที ่ี 2 เรยี นซ้ำช้นั มี 2 ลักษณะ คือ - ผูเ้ รยี นมรี ะดับผลการเรียนเฉลย่ี ในปีการศึกษานนั้ ต่ำกว่า 1.00 และมแี นวโนม้ ว่าจะเปน็ ปญั หาต่อการเรยี นในระดับช้ันที่สูงขึน้ - ผูเ้ รียนมีผลการเรยี น 0, ร, มส เกนิ ครงึ่ หนึง่ ของรายวชิ าที่ลงทะเบียนเรยี นในปีการศกึ ษานนั้ ทั้งนี้ หากเกิดลักษณะใดลักษณะหนึ่ง หรือทั้ง 2 ลักษณะให้สถานศึกษาแต่งตั้งคณะกรรมการ การพิจารณา หากเห็นว่าไม่มีเหตุผลอันสมควรก็ให้ซ้ำชั้น โดยยกเลิกผลการเรียนเดิมและให้ใช้ผลการเรียนใหม่ แทน หากพิจารณาแล้วไม่ตอ้ งเรยี นซ้ำช้ัน ใหอ้ ยู่ในดลุ ยพนิ ิจของสถานศกึ ษาในการแก้ไขผลการเรยี น

ร ะ เ บี ย บ ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล พ . ศ . 2 5 6 5 | 11 13.3 การสอนซอ่ มเสริม การสอนซ่อมเสริม เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการจัดการเรยี นรูแ้ ละเป็นการให้โอกาสแก่ผู้เรียน ใหม้ ีเวลาเรียนรู้ส่ิงต่างๆ เพมิ่ ขึ้น จนสามารถบรรลุตามมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชวี้ ดั ที่กำหนดไว้ การสอนซ่อมเสริม เป็นการสอนกรณีพิเศษนอกเหนือไปจากการสอนตามแผนจัดการเรียนรู้ปกติเพื่อแก้ไขข้อบกพร่ องที่พบในผู้เรียน โดยจดั กระบวนการเรยี นรู้ท่ีหลากหลายและคำนึงถึงความแตกตา่ งระหว่างบุคคลของผเู้ รียน การสอนซ่อมเสรมิ สามารถดำเนินการได้ในกรณีดังต่อไปน้ี 1) ผเู้ รียนมคี วามร้/ู ทักษะพื้นฐานไมเ่ พยี งพอทจ่ี ะศึกษาในแตล่ ะรายวชิ านั้น ควรจดั การซอ่ มเสรมิ ปรบั ความร้/ู ทกั ษะพน้ื ฐาน 2) การประเมินระหวา่ งเรยี น ผเู้ รียนไม่สามารถแสดงความรู้ ทกั ษะกระบวนการหรือ เจตคต/ิ คุณลักษณะที่กำหนดไว้ตามมาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชีว้ ดั 3) ผลการเรยี นไม่ถึงเกณฑ์ และ/หรอื ตำ่ กวา่ เกณฑ์การประเมิน โดยผเู้ รยี นได้ระดบั ผลการเรียน “0” ต้องจัดการสอนซอ่ มเสรมิ กอ่ นจะใหผ้ ู้เรียนสอบแก้ตวั 4) ผู้เรียนมผี ลการเรียนไม่ผา่ น สามารถจดั สอนซ่อมเสรมิ ในภาคฤดูรอ้ น ทั้งนใ้ี หอ้ ยู่ในดุลยพินิจ ของสถานศึกษา หมวดที่ 4 การเทียบโอนผลการเรียน ข้อ 14 การเทียบโอนผลการเรียน เป็นการนำผลการเรียนซึ่งเป็นความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ ของผ้เู รยี นทเี่ กิดจากการศกึ ษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอัธยาศัย มาประเมนิ เป็นส่วนหนึ่ง ของการศกึ ษาตามหลักสูตรใดหลกั สูตรหนงึ่ แนวการดำเนนิ การเทียบโอนผลการเรียนใหเ้ ป็นไปตามระเบียบสถานศึกษาวา่ ด้วยการเทียบโอน ผลการเรียน ดังน้ี 14.1 ผ้ขู อเทยี บโอนต้องขนึ้ ทะเบยี นเป็นนักเรียนของสถานศึกษา ทั้งนโ้ี ดยผู้ขอเทียบโอนจะต้อง ไม่เป็นผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ในระบบโดยสถานศึกษาดังกลา่ วดำเนนิ การเทียบโอนผลการเรียน ในภาคเรียนแรกที่ขึ้น ทะเบยี นเป็นนักเรียน ยกเว้นกรณมี ีเหตุจำเปน็ 14.2 จำนวนสาระการเรียนรู้ รายวิชา จำนวนหน่วยกิตที่จะรับเทียบโอน และอายุของผลการ เรียนที่จะนำมาเทียบโอน ให้อยู่ในดุลพินิจของคณะกรรมการบริหารหลักสูตรและวิชาการของสถานศึกษา ทั้งน้ี เมือ่ เทียบโอนแล้วต้องมเี วลาเรียนอยูใ่ นสถานศกึ ษาทจ่ี ะรบั เทยี บโอนไม่น้อยกวา่ 1 ภาคเรียน 14.3 การเทียบโอนผลการเรยี นใหด้ ำเนินการในรูปของคณะกรรมการการเทยี บโอนผลการเรียน จำนวนไมน่ ้อยกว่า 3 คนแต่ไมเ่ กนิ 5 คน ขอ้ 15 การเทยี บโอนให้ดำเนนิ การดังน้ี 15.1 การเทียบระดบั การศึกษา หมายถึงการนำผลการเรียน ความรแู้ ละประสบการณท์ ไ่ี ด้ จากการศึกษาตามอัธยาศัย และการศกึ ษานอกระบบ ไม่แบ่งระดบั มาประเมนิ เพื่อเทยี บเท่าการศกึ ษาระดับใด ระดบั หน่งึ มี แนวทางการเทียบระดบั การศกึ ษาดังนี้ 1) ผู้ขอเทียบระดับการศึกษาจะตอ้ งไม่เป็นผทู้ ่กี ำลงั ศึกษาอยใู่ นสถานศึกษาในระบบ หรือสถานศึกษานอกระบบที่จดั การศกึ ษาเปน็ ระบบเดยี วกันกับการศึกษาในระบบ และเป็นผูส้ ำเร็จการศกึ ษาตาม หลกั สตู รของกระทรวงศึกษาธิการ ในระดบั ท่ีต่ำกวา่ ระดับการศกึ ษาท่ขี อเทียบ 1 ระดบั

ร ะ เ บี ย บ ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล พ . ศ . 2 5 6 5 | 12 ผู้ไม่เคยมีวุฒิการศึกษาใดๆ จะขอเทียบระดับการศึกษาได้ไมเ่ กินระดบั ประถมศึกษา 2) ใหส้ ถานศึกษาซึง่ เปน็ ทีท่ ำการเทียบระดบั การศึกษา ดำเนนิ การเทียบระดับด้วยการ ประเมินความรูค้ วามสามารถ และประสบการณข์ องผขู้ อเทียบระดบั ด้วยวิธกี ารทหี่ ลากหลายท้ังดว้ ยการทดสอบ การประเมนิ แฟ้มผลงาน การสังเกตพฤติกรรมตา่ งๆ ใหค้ รอบคลมุ คุณลักษณะของผู้เรยี นทัง้ ดา้ นพุทธพิ ิสัย จติ พสิ ัย และทักษะพิสัย ตามเกณฑ์มาตรฐานของหลกั สูตรท่ีขอเทยี บระดับ 3) ผผู้ ่านการประเมินจะไดร้ ับหลกั ฐานแสดงผลการประเมินเทยี บระดับความรแู้ ละใบ ประกาศนยี บตั รรับรองระดับความรู้ของกระทรวงศึกษาธกิ าร 15.2 การเทยี บโอนผลการเรยี น หมายถงึ การนำผลการเรยี นซง่ึ เปน็ ความร้ทู ักษะ และ ประสบการณ์ของผเู้ รียนท่ีเกิดจากการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ การศึกษาตามอธั ยาศยั และผล การศกึ ษา จากตา่ งสถานศึกษามาประเมินเป็นส่วนหนึ่งของการศกึ ษา ตามหลกั สูตรใดหลักสูตรหนึ่งท่กี ำลังศึกษา มแี นวการดำเนินการดังนี้ 1) คณะกรรมการบรหิ ารหลกั สตู ร และวิชาการของสถานศึกษากำหนดจำนวนรายวชิ า จำนวนหนว่ ยกติ ท่สี ถานศกึ ษาจำกัดให้ผู้เรยี นสามารถขอเทียบโอนได้ในการศึกษาตามหลกั สตู รของสถานศึกษา แต่ละช่วงช้ัน ทั้งน้ผี ู้เรียนจะต้องเหลอื รายวิชาทีจ่ ะต้องศึกษาในสถานศึกษาอีกอย่างน้อย 1 ภาคเรยี น พรอ้ มกบั การกำหนดแนวทางและวธิ กี ารเทียบโอนท้งั กรณีเทยี บโอนผลการเรียนเดิมที่ผูเ้ รยี นศึกษาก่อนเข้าศึกษาใน สถานศกึ ษา และกรณเี ทยี บโอนผลการเรยี นทผ่ี เู้ รยี นขออนุญาตไปศึกษาตา่ งสถานศึกษา จะต้องจดั ทำเปน็ ระเบียบการเทยี บโอนผลการเรยี นของสถานศกึ ษาให้สอดคล้องกับกฎกระทรวงวา่ ด้วยการเทียบโอนผลการเรียน ดว้ ย 2) สถานศึกษาแต่งต้ังคณะกรรมการดำเนนิ การเทยี บโอนผลการเรยี นของสถานศึกษา ใหป้ ฏบิ ัติหนา้ ที่กำหนดสาระ จดั สรา้ งเครอ่ื งมือ สำหรบั การเทียบโอนผลการเรยี น และดำเนินการเทียบโอนผล การเรียน 3) คณะกรรมการดำเนินการเทียบโอนผลการเรียน ทำการเทียบโอนผลการเรียนให้ ผเู้ รยี นในกรณีต่อไปน้ี กรณีการเทียบโอนผลการเรยี นเดิม ทเี่ รียนศกึ ษามาก่อนเข้าศึกษาในสถานศึกษาให้ ดำเนินการดงั น้ี 1) ใหด้ ำเนินการให้เสรจ็ ในภาคเรียนแรกทผี่ เู้ รยี นเขา้ ศึกษาในสถานศึกษา 2) ใหเ้ ทยี บโอนผลการเรยี นเปน็ รายวชิ า 3) ผเู้ รยี นยน่ื คำร้องเป็นลายลกั ษณ์อกั ษรขอเทยี บความรู้ตามรายวชิ าในหลกั สูตรของ สถานศกึ ษา ตามจำนวนรายวชิ าท่ีสถานศึกษากำหนดไว้ในระเบียบการเทยี บโอนผลการเรียนของสถานศกึ ษาให้ ผู้เรียนยืน่ คำร้อง พร้อมเอกสารหลักสตู รท่นี ำมาขอเทยี บ และเอกสารการศกึ ษาท่ีไดร้ บั มา (ถา้ ผู้เรยี นม)ี 4) คณะกรรมการดำเนินการเทียบโอนผลการเรียนพิจารณาหลักสูตรและหลักฐาน เอกสารเดมิ ของผ้เู รียน เพอ่ื เปรยี บเทียบหลักสูตรทีเ่ รียนมากับหลกั สูตรของสถานศกึ ษาในรายวิชาทขี่ อเทียบ ถ้ามี จุดประสงค์และเน้ือหาสาระตรงกนั ไมน่ ้อยกว่าร้อยละ 60 ใหร้ ับเทียบโอนได้ และให้ได้ระดบั ผลการเรียนตามที่ ได้มาในกรณีที่ผู้เรียนย้ายสถานศึกษา แต่ถ้าเป็นกรณีเทียบโอนผลการเรียนจากสถานศึกษาต่างระบบ

ร ะ เ บี ย บ ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล พ . ศ . 2 5 6 5 | 13 ให้คณะกรรมการดำเนนิ การเทยี บโอนพิจารณาว่าควรยอมรับผลการเรียนเดิมหรือไม่ ถ้าไมย่ อมรบั ก็ต้องประเมินให้ ใหมด่ ว้ ยวิธีการต่างๆ ท่ีเหมาะสม 5) คณะกรรมการดำเนินการเทียบโอนผลการเรียน จัดให้มีการประเมินความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ของผู้เรียนใหม่ ตามตัวชี้วัดของรายวิชาที่ผู้เรียนขอเทียบในกรณีที่ผู้เรียนไม่มี เอกสาร หลักฐานการศึกษาเดิมมาแสดง หรือหลักสูตรที่ผู้เรียนนำมาขอเทียบโอนมีความสอดคล้องกับตัวชี้วัด และเนื้อหาสาระของหลักสูตรที่ขอเทียบไม่ถึงร้อยละ 60 ผู้เรียนที่ผ่านการประเมินจะได้รับการเทียบโอนผล การเรียนได้ โดยได้ระดับผลการเรียนตามที่ประเมินได้ ส่วนผู้ที่ไม่ผ่านการประเมินจะไม่ได้รับการเทียบโอนผล การเรยี น กรณผี ู้เรยี นขออนญุ าตไปศึกษารายวชิ าใดรายวิชาหน่งึ ตา่ งสถานศึกษาหรือขอศึกษา ด้วยตนเองให้ดำเนินการดังนี้ 1) ให้ดำเนินการโดยผู้เรียนยื่นคำร้องไปศึกษาต่างสถานที่หรือต่างรูปแบบ ต่อคณะกรรมการเทียบโอนผลการเรียน ซึ่งจะพิจารณาผลการเรียนและความจำเป็นของผู้เรียนตามระเบียบ การจัดการศึกษา 3 รูปแบบ ของสถานศกึ ษาทจ่ี ะจดั การศึกษาในระบบ 2) รายวิชาที่ผู้เรียนขอไปศึกษาต่างสถานท่ี หรือต่างรูปแบบต้องมีจุดประสงค์และ เนอื้ หาสาระสอดคลอ้ งกับรายวิชาในหลักสตู รของสถานศกึ ษาทจี่ ะนำมาเทยี บโอนไมน่ ้อยกว่า รอ้ ยละ 60 3) กรณีผู้เรียนขอไปศึกษาต่างสถานศึกษาหรือระบบที่มีสถานศึกษาจัดการเรียน การสอนแน่นอน ถ้าเห็นควรอนุญาตให้ไปเรียนได้ให้มีการประสานงาน เรื่องการจัดการเรียนการสอน การประเมนิ ผล และการรับโอนผลการเรียนก่อน เมื่อได้ตกลงรว่ มกนั เรยี บร้อยแลว้ จึงจะอนุญาตเม่ือศึกษาสำเร็จ ใหร้ ับโอนผลการเรียนไดท้ นั ที 4) กรณผี ู้เรยี นขออนุญาตศกึ ษาด้วยตนเอง หรือศกึ ษาในสถานศกึ ษาท่ีไม่สามารถติดต่อ ประสานได้ ถ้าคณะกรรมการพิจารณาความจำเป็นแล้ว เห็นควรอนุญาต เมื่อผู้เรียนมารายงานผลการเรียน ให้คณะกรรมการดำเนินการเทียบโอนผลการเรียนทำการเทียบโอนผลการเรียนให้ผู้เรียน เช่นเดียวกันกรณีการ เทียบโอนผลการเรียนเดมิ ท่ผี ู้เรยี นศึกษามาก่อนเข้าศึกษาในสถานศึกษา 5) คณะกรรมการดำเนินการเทียบโอนผลการเรียน รายงานผลการเทียบโอน ให้คณะกรรมการบริหารหลักสูตรและวิชาการของสถานศึกษาให้ความเห็นชอบ และเสนอผู้บริหารสถานศึก ษา อนุมตั ผิ ลการเทียบโอนผลการเรยี น หมวดที่ 5 เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา ข้อ 16 ใหส้ ถานศึกษาจดั ให้มีเอกสารหลักฐานการประเมินผลการเรยี นตา่ งๆ ดงั นี้ 16.1 ระเบียนแสดงผลการเรียน (Transcript) (ปพ.1) เป็นเอกสารบันทึกผลการเรียน ของผู้เรยี นตามสาระการเรยี นร้กู ลมุ่ วชิ าและกจิ กรรมต่างๆ ท่ีไดเ้ รยี นในแต่ละชนั้ ของหลกั สูตรการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน เพื่อให้เป็นหลักฐานแสดงสถานภาพและความสำเรจ็ ในการศึกษาของผู้เรียนแต่ละคนใช้เป็นหลักฐานในการสมัคร เข้าศกึ ษาตอ่ ทำงานหรือดำเนินการในเรื่องอ่นื ท่เี กีย่ วข้อง

ร ะ เ บี ย บ ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล พ . ศ . 2 5 6 5 | 14 16.2 แบบรายงานผู้สำเร็จการศึกษา (ปพ.3) เป็นแบบรายงานรายชื่อข้อมูลของผู้สำเร็จ การศึกษาภาคบังคับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อใช้เป็นหลักฐานสำหรับตรวจสอบยืนยันและรับรอง ความสำเรจ็ และวฒุ ิการศึกษาของผูส้ ำเรจ็ การศกึ ษาแตล่ ะคน ต่อเขตพื้นที่การศึกษาและกระทรวงศกึ ษาธกิ าร 16.3 แบบแสดงผลการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (ปพ.4) เป็นเอกสารรายงาน พัฒนาการด้านคุณลักษณะของผู้เรียนเกี่ยวกับคุณธรรมจริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ทสี่ ถานศึกษากำหนดขนึ้ เพื่อพัฒนาผู้เรียนเป็นพิเศษ เพือ่ การแกป้ ญั หาหรอื สร้างเอกลกั ษณ์ใหผ้ ้เู รียนตามวิสัยทัศน์ ของสถานศึกษา เป็นการรายงานผลการประเมินที่แสดงถึงสภาพหรือระดับคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม หรือ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนในแต่ละชั้น สถานศึกษาต้องจัดทำเอกสารนี้ให้ผู้เรียนทุกๆ คน ควบคู่กับ ระเบียนแสดงผลการเรียนของผู้เรียน เพื่อนำไปใช้เป็นหลักฐานแสดงคุณลักษณะของผู้เรียนเพื่อประกอบ ในการสมัครศกึ ษาต่อหรอื สมคั รทำงาน 16.4 แบบแสดงผลการพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน (ปพ.5) เป็นเอกสารสำหรับผู้สอนใช้บันทึก เวลาเรียน ขอ้ มูลผลการวัดและประเมนิ ผลการเรียน ข้อมลู การพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนแต่ละ คนที่เรียนในห้องเรียนกลุ่มเดียวกัน เพื่อใช้เปน็ ขอ้ มูลในการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน ปรับปรุง แก้ไข ส่งเสรมิ และตัดสินผลการเรยี นของผู้เรียน รวมทั้งใช้เป็นหลักฐานสำหรับตรวจสอบ ยืนยัน สภาพการเรียน การมีส่วนรว่ ม ในกจิ กรรมต่างๆ และผลสมั ฤทธ์ิของผเู้ รยี นแตล่ ะคน 16.5 แบบรายงานผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนรายบุคคล (ปพ.6) เป็นเอกสารสำหรับบันทึก ขอ้ มลู เกี่ยวกับผลการเรยี น พัฒนาการในด้านตา่ งๆ และขอ้ มลู อืน่ ๆ ของผ้เู รียน 16.6 ใบรบั รองผลการศึกษา (ปพ.7) เป็นเอกสารทส่ี ถานศึกษาออกให้ผเู้ รยี นเป็นการเฉพาะกิจ เพื่อรับรองสถานภาพทางการศึกษาของผู้เรียนเป็นการชั่วคราว ทั้งกรณีผู้เรียนยังไม่สำเร็จการศึกษาและสำเร็จ การศกึ ษาแลว้ 16.7 ระเบียนสะสม (ปพ.8) เป็นเอกสารสำหรับบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับพัฒนาการและผลงาน ด้านต่าง ของผ้เู รียนทงั้ ทส่ี ถานศึกษาและท่บี า้ น เพื่อประโยชน์ในการแนะแนวผูเ้ รยี นในทกุ ๆ ด้าน 16.8 สมุดบันทึกผลการเรียน (ปพ. 9) เป็นสมุดบันทึกผลการเรียนรู้ที่สถานศึกษาจัดทำข้ึน เพื่อบันทึกรายการรายวิชาต่างๆ ที่ผู้เรียนจะต้องเรียนในแต่ละชั้น ตามโครงสร้างหลักสูตรของสถานศึกษา พรอ้ มดว้ ยผลการประเมินการเรียนของแตล่ ะรายวชิ า และสถานศึกษาออกให้ผู้เรียนสำหรับใช้ศึกษาและนำแสดง ให้บุคคลหรือหน่วยงานที่สนใจได้ทราบโครงสร้างหลักสูตรและรายละเอียดของรายวิชาต่างๆ ของสถานศึกษา พรอ้ มด้วยผลการเรียนของผเู้ รยี นจากการเรยี นแต่ละรายวิชา กรณที ่ผี ู้เรยี นยา้ ยสถานศกึ ษา ข้อมูลในสมุดบนั ทึกผล การเรียนรู้จะเป็นประโยชน์ในการนำไปใช้เป็นข้อมูลในการเทียบโอนผลการเรียนจากสถานศึกษาเดิมไปเป็นผล การเรียนตามหลักสตู รของสถานศึกษาใหม่ หมวด 6 การรายงานผลการเรียน ข้อ 17 ให้มีการรายงานผลการเรียน เพื่อเป็นการแจ้งผลการเรียนรู้และพัฒนาการในด้านต่างๆ ซงึ่ เปน็ การรายงานความก้าวหน้าของผู้เรียนให้ผูเ้ รยี นและผ้เู กยี่ วข้องรบั ทราบเป็นระยะหรืออยา่ งน้อยภาคเรียนละ ๑ คร้ัง เพอ่ื ใช้เป็นขอ้ มูลในการปรบั ปรงุ แกไ้ ขและส่งเสรมิ พฒั นาการเรียนของผ้เู รยี นให้ประสบความสำเร็จอย่างมี ประสิทธิภาพ รวมทั้งใช้เป็นขอ้ มลู สำหรบั ออกเอกสารหลักฐานการศึกษา การตรวจสอบ ยนื ยัน รบั รองผลการเรยี น และวฒุ ิการศึกษาของผ้เู รยี น

ร ะ เ บี ย บ ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล พ . ศ . 2 5 6 5 | 15 17.1 จุดมุ่งหมายการรายงานผลการเรยี น 17.1.1 เพอ่ื แจง้ ใหผ้ ้เู รียน ผู้เกี่ยวขอ้ งทราบความกา้ วหน้าของผู้เรยี น 17.1.2 เพ่ือใหผ้ ู้เรียน ผเู้ ก่ียวข้องใช้เปน็ ข้อมลู ในการปรบั ปรงุ แกไ้ ข สง่ เสริมและพฒั นา การ เรยี นของผู้เรยี น 17.1.3 เพอื่ ให้ผู้เรียน ผเู้ กี่ยวข้องใชเ้ ป็นข้อมลู ในการวางแผนการเรยี น กำหนดแนวทาง การศกึ ษาและการเลือกอาชพี 17.1.4 เพอ่ื เป็นข้อมลู ให้ผทู้ ่ีมหี น้าเก่ียวข้อง ใช้ดำเนนิ การออกเอกสารหลักฐานการศกึ ษา ตรวจสอบและรบั รองผลการเรยี น หรอื วุฒทิ างการศึกษาของผ้เู รียน 17.1.5 เพือ่ เป็นข้อมูลสำหรับสถานศึกษา เขตพืน้ ทกี่ ารศึกษาและหนว่ ยงานตน้ สังกัดใช้ ประกอบในการกำหนดนโยบาย วางแผนในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา 17.2 ขอ้ มูลในการรายงานผลการเรยี น 17.2.1 ข้อมูลระดับชั้นเรียน ประกอบด้วย ผลการประเมินความรู้ ความสามารถ พฤติกรรม การเรียน ความประพฤติและผลงานในการเรียนของผู้เรียน เป็นข้อมูลสำหรับรายงานให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้แก่ ผู้เรียน ผู้สอนและผู้ปกครอง ได้รับทราบความก้าวหน้า ความสำเร็จในการเรียนของผู้เรียนเพื่อนำไปใช้ ในการวางแผนกำหนดเปา้ หมายและวิธกี ารในการพัฒนาผู้เรยี น 17.2.2 ข้อมูลระดับสถานศึกษา ประกอบด้วย ผลการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ 8 กลมุ่ สาระ ผลการประเมินการอา่ น คิดวเิ คราะห์และเขียน ผลการประเมินคุณลักษณะอัน พึงประสงค์ ผลการประเมนิ กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียนรายภาค ผลการประเมนิ ความก้าวหนา้ ใน การเรยี นรู้ /รายภาค โดยรวมของสถานศึกษา เพอ่ื ใชเ้ ป็นข้อมลู และสารสนเทศในการพัฒนา การเรียนการสอนและคุณภาพของผู้เรียน ให้เป็นไปตามมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด การตดั สิน การเล่อื นชนั้ และการซ่อมเสริมผู้เรยี นที่มีข้อบกพร่องให้ผ่าน ระดับชนั้ และเปน็ ขอ้ มลู ในการออกเอกสารหลักฐานการศึกษา 17.2.3 ข้อมูลการประเมินคุณภาพระดับเขตพื้นที่การศึกษา ได้แก่ ผลการประเมินคุณภาพ ของผู้เรียนด้วยแบบประเมินที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจัดทำขึ้นในกลุ่มสาระการเรียนรู้สำคัญในระดับช้ัน ที่นอกเหนือจากการประเมินคุณภาพระดับชาติ เป็นข้อมูลที่ผู้เกี่ยวข้องใช้วางแผนและดำเนินการพัฒนาคุณภาพ การศกึ ษาของสถานศึกษาในเขตพ้ืนท่ีการศึกษาเพื่อใหเ้ กิดการยกระดับคณุ ภาพและมาตรฐานการศกึ ษาของผู้เรียน และสถานศกึ ษา 17.2.4 ข้อมูลผลการประเมินคุณภาพระดับชาติ ได้แก่ ผลการประเมินคุณภาพของผู้เรียน ด้วยแบบประเมินที่เป็นมาตรฐานระดับชาติในกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่สำคัญระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งดำเนินการโดยหน่วยงานระดับชาติ เป็นข้อมูลที่ผู้เกี่ยวข้องใช้วางแผนและดำเนินการ พัฒนาคุณภาพการศึกษาในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดการยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของผู้เรียน สถานศึกษา ท้องถิ่น เขตพื้นที่การศึกษาและประเทศชาติ รวมทั้งนำไปรายงานในเอกสารหลักฐานการศึกษา ของผเู้ รียน 17.2.5 ข้อมูลพัฒนาการของผู้เรียนด้านอื่นๆ ประกอบด้วย ข้อมูลเกี่ยวกับพัฒนาการทาง ด้านร่างกาย จติ ใจ อารมณ์ สงั คมและพฤติกรรมต่างๆ เปน็ ข้อมลู ส่วนหนง่ึ ของการแนะแนวและจัดระบบ การดแู ล ช่วยเหลอื เพื่อแจ้งให้ผูเ้ รียน ผู้สอน ผู้ปกครองและผู้เก่ียวข้องได้รับทราบข้อมูล โดยผู้มีหน้าที่รับผิดชอบแตล่ ะฝา่ ย

ร ะ เ บี ย บ ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล พ . ศ . 2 5 6 5 | 16 นำไปใช้ปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาผู้เรียนให้เกิดพัฒนาการอย่างถูกต้องเหมาะสม รวมทั้งนำไปจัดทำเอกสาร หลักฐานแสดงพัฒนาการของผ้เู รยี น 17.3 ลักษณะข้อมูลสำหรับการรายงาน การรายงานผลการเรียน สถานศึกษาสามารถเลือกลักษณะข้อมูลสำหรับการรายงานได้หลาย รูปแบบ ใหเ้ หมาะสมกับวิธกี ารรายงาน โดยคำนงึ ถึงประสิทธิภาพของการรายงานและการนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ ของผู้รับรายงานแตล่ ะฝ่าย ลกั ษณะขอ้ มลู มีรปู แบบดงั น้ี 17.3.1 รายงานเปน็ ตวั เลข ตวั อักษร คำ หรือข้อความที่เป็นตัวแทนระดบั ความรู้ ความสามารถของผ้เู รยี นทเี่ กิดจากการประมวลผล สรปุ ตดั สินขอ้ มลู ผลการเรียนรู้ของผู้เรยี น ได้แก่ 1) คะแนนที่ได้กับคะแนนเต็ม 2) คะแนนร้อยละ 3) ระดบั ผลการเรยี น “ 0 - 4” ( 8 ระดบั ) หรอื ตามที่สถานศึกษากำหนดและ เงื่อนไขของผลการเรยี น ได้แก่ “ผ” “มผ” “ร” “มส” 4) ผลการประเมินคุณภาพ “ดีเย่ยี ม” “ด”ี “ผ่าน” 5) ผลการตัดสนิ ผ่านระดับช้นั “ผ่าน” “ไม่ผ่าน” 17.3.2 รายงานโดยใช้สถิติ เป็นการรายงานจากข้อมูลที่เป็นตัวเลข ตัวอักษร หรือข้อความ ให้เป็นภาพแผนภูมิหรือเส้นพัฒนาการ ซึ่งจะแสดงให้เห็นพัฒนาการความก้าวหน้าของผู้เรียนว่าดีขึ้นหรือ ควรได้รบั การพัฒนาอย่างไร เมอ่ื เวลาเปลี่ยนแปลงไป 17.3.3 รายงานเปน็ ข้อความ เปน็ การบรรยายพฤติกรรมหรอื คณุ ภาพทผ่ี ปู้ ระเมนิ สงั เกตพบ เพื่อรายงานให้ทราบว่าผู้เรียนมีความสามารถ มีพฤติกรรม ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ตามมาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวช้ีวัดและบุคลกิ ภาพอย่างไร เชน่ 1) ผ้เู รียนมีความเช่ือมน่ั ในตนเองสงู ชอบแสดงความคิดเห็นและมีเหตุผล 2) ผเู้ รียนสนใจอา่ นเรอื่ งตา่ งๆ หลากหลายประเภท สามารถสรุปใจความของเร่ืองได้ ถกู ต้องสมบูรณ์ 3) ผูเ้ รยี นมผี ลการเรยี นในกลุ่มสาระการเรยี นรู้เป็นทน่ี า่ พอใจ แต่ควรมกี ารพัฒนาดา้ น การเขยี น โดยได้รบั ความรว่ มมือจากผู้ปกครองในการฝึกหรือส่งเสริมใหน้ ักเรยี นมีทักษะในการเขียนสูงขนึ้ 17.4 เป้าหมายการรายงาน การดำเนินการจดั การศึกษา ประกอบด้วยบคุ ลากรหลายฝ่ายมารว่ มมือประสานงานกัน พัฒนาผู้เรียนทั้งทางตรง และทางอ้อม ใหม้ ีความรู้ความสามารถ คณุ ธรรม จริยธรรมและค่านิยม อันพึงประสงค์ โดยผมู้ ีส่วนเก่ียวขอ้ ง ควรได้รับการรายงานผลการประเมินของผเู้ รยี นเพ่ือใชเ้ ปน็ ขอ้ มูลในการดำเนนิ งาน ดงั น้ี

ร ะ เ บี ย บ ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล พ . ศ . 2 5 6 5 | 17 กลุ่มเป้าหมาย การใชข้ ้อมูล - ปรบั ปรุง แกไ้ ขและพฒั นาการเรยี น รวมทั้งพัฒนาร่างกาย อารมณ์ ผู้เรียน สังคม และพฤติกรรมตา่ งๆของตน - วางแผนการเรยี การเลือกแนวทางการศึกษา และอาชพี ในอนาคต - แสดงผลการเรียน ความรู้ ความสามารถ และวฒุ ิการศึกษาของตน ผสู้ อน - วางแผนและดำเนนิ การปรับปรงุ แก้ไขและพฒั นาผเู้ รยี น - ปรับปรุง แก้ไขและพัฒนาการจัดการเรียนการสอน ครวู ดั ผล - ตรวจสอบความถูกต้องในการประเมินผลของผ้สู อน/ผู้เรียน - พฒั นาระบบ ระเบียบและแนวทางการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ นายทะเบียน - จดั ทำเอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา ครูแนะแนว - ให้คำแนะนำผู้เรยี นในด้านตา่ งๆ คณะกรรมการบรหิ ารหลักสตู ร - พิจารณาให้ความเหน็ ชอบผลการเรยี นของผูเ้ รียน และวชิ าการของสถานศกึ ษาและ - พฒั นาแนวทางการจดั การศึกษาของสถานศึกษา คณะกรรมการอ่ืนๆ ผบู้ ริหารสถานศกึ ษา - พจิ ารณาตัดสิน และอนมุ ัติผลการเรียนของผเู้ รียน - พัฒนากระบวนการจัดการเรียนของสถานศกึ ษา - วางแผนการบริหารจดั การศกึ ษาดา้ นต่างๆ - รับทราบผลการเรยี นและพัฒนาการของผเู้ รียน ผูป้ กครอง - ปรับปรุง แก้ไขและพฒั นาการเรียนของผู้เรยี น รวมท้ังการดูแลสุขภาพ อนามยั ร่างกาย จติ ใจ อารมณ์ สังคมและพฤตกิ รรมต่างๆ ของผเู้ รียน - พจิ ารณาวางแผนและสง่ เสริมการเรยี น การเลือกแนวทางการศึกษา และอาชีพในอนาคตของผูเ้ รียน ฝา่ ย/หน่วยงานที่มหี น้าที่ - ตรวจสอบ และรบั รองผลการเรียนและวฒุ ิการศึกษาของผเู้ รียน ตรวจสอบรับรองความรู้และวุฒิ - เทียบระดับ/วฒุ ิการศึกษาของผเู้ รยี น การศึกษา/สถานศกึ ษา - เทียบโอนผลการเรียน สำนกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษา/ - ยกระดับและพฒั นาคุณภาพการศกึ ษาของสถานศึกษาในเขตพ้ืนท่ี หน่วยงานตน้ สงั กดั การศกึ ษา - นเิ ทศ ติดตาม และใหค้ วามชว่ ยเหลอื การพฒั นาคุณภาพการศึกษาของ สถานศกึ ษาทมี่ ผี ลการประเมินต่ำกวา่ คา่ เฉลยี่ ของสำนักงานเขตพน้ื ที่ การศึกษา

ร ะ เ บี ย บ ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล พ . ศ . 2 5 6 5 | 18 17.5 วธิ ีการรายงาน การรายงานผลการเรียนใหผ้ ูเ้ กยี่ วขอ้ งรบั ทราบ สามารถดำเนินการไดด้ ังนี้ 17.5.1 การรายงานผลการเรียนในเอกสารหลกั ฐานการศึกษา ได้แก่ - ระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ.1 ) - แบบรายงานผูส้ ำเร็จการศึกษา (ปพ.3) - แบบบันทึกผลการเรียนประจำรายวชิ า (ปพ.5) - แบบรายงานผลการพฒั นาคุณภาพผูเ้ รียนรายบุคคล (ปพ.6) - ระเบียนสะสม (ปพ.8) - ใบรับรองสภาพการเปน็ นักเรียน 17.5.2 การรายงานคุณภาพการศึกษาให้ผเู้ กยี่ วขอ้ งทราบ สามารถรายงานไดห้ ลายวธิ ี เชน่ - รายงานคณุ ภาพการศึกษาประจำปี - การใหค้ ำปรึกษาหารือเปน็ รายบคุ คล - การให้พบครูทปี่ รึกษาหรือการประชมุ เครือขา่ ยผู้ปกครอง - การให้ข้อมลู ทาง Internet ผา่ น Web site ของสถานศึกษา 17.6 การกำหนดระยะเวลาในการรายงาน ให้มีการรายงานผลการเรียนภายใน 2 สัปดาห์ หลังการประเมินผลปลายภาค เพื่อนำข้อมูล การรายงานไปใช้ในการดำเนินการปรับปรุงแก้ไขและส่งเสริมการเรยี นของผู้เรยี นตามบทบาทหน้าที่ของแต่ละฝ่าย โดยยึดหลักการรายงานให้เร็วที่สุดภายหลังการประเมินผลแต่ละครั้ง เพื่อให้การรายงานเกิดประโยชน์และ มปี ระสิทธภิ าพในการนำไปใช้สงู สดุ ประกาศ ณ วันที่ 4 เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. 2566 (นายสุขมุ พิมพาชาติ) ประธานคณะกรรมการสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านบึงทับชา้ ง (นางกนกธร คจัลเบริ ์ก) ผู้อำนวยการโรงเรยี นบ้านบึงทับช้าง

ร ะ เ บี ย บ ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล พ . ศ . 2 5 6 5 | 19 แนวปฏบิ ตั กิ ารวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2566 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 สว่ นที่ 1 การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 8 กลุ่มสาระ สว่ นท่ี 2 การประเมนิ กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น ส่วนท่ี 3 การประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ส่วนที่ 4 การประเมินการอ่าน คิด วิเคราะห์ และเขียน ส่วนท่ี 5 เกณฑ์การตดั สินการเลือ่ นชั้น และจบหลกั สตู ร สว่ นที่ 6 การประเมินผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นระดบั ชาติ

ร ะ เ บี ย บ ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล พ . ศ . 2 5 6 5 | 20 แนวปฏบิ ตั กิ ารวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ เป้าหมายสำคัญของการประเมินผลการเรียนหลักสูตรสถานศึกษาตามแนวทางหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 คือ เพื่อนำผลการประเมินไปพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุมาตรฐาน การเรียนรู้ในแต่ละรายวิชา ของกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่างๆ โดยการนำผลการประเมินไปใช้เป็นข้อมูลในการ ปรับปรุง แก้ไข ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาการของผู้เรียนโดยตรง นำผลไปปรับปรุงแก้ไขผลการจัด กระบวนการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมทั้งนำไปใช้ในการพิจารณาตัดสินความสำเร็จทางการศึกษาของ ผ้เู รยี น ตลอดจนความสำเรจ็ ของผสู้ อนอีกด้วย การวัดและประเมินผลการเรียนรูต้ ามหลักสตู รการศกึ ษาของสถานศึกษา โรงเรยี นบ้านบึงทับชา้ ง ประกอบด้วย สว่ นที่ 1 การประเมินผลการเรยี นรู้ตามกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ 8 กลมุ่ การประเมนิ ผลการเรียนรตู้ ามกล่มุ สาระการเรยี นรูท้ ัง้ 8 กลมุ่ โรงเรียนไดด้ ำเนินการประเมนิ ผลใน ลักษณะต่างๆ ดงั ต่อไปน้ี 1. การประเมนิ ผลก่อนเรยี น การประเมินผลก่อนเรียน กำหนดให้ครูผู้สอนในแต่ละรายวิชาทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ต้องประเมินผล ก่อนเรียน เพื่อหาสารสนเทศของผู้เรียนในเบื้องต้น สำหรับนำไปจัดกระบวนการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับพื้นฐาน ของผู้เรียน ตามแนวทางการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ แต่จะไม่นำผลการประเมินนี้ไปใช้ใน การพจิ ารณาตัดสนิ ผลการเรียน การประเมนิ ผลกอ่ นเรียนประกอบดว้ ยการประเมนิ ดังต่อไปน้ี 1.1 การประเมนิ ความพร้อมและพ้ืนฐานของผู้เรียน เป็นการตรวจสอบความรู้ ทักษะ และความพร้อมต่างๆ ของผู้เรียนที่เป็นพื้นฐาน ของเรื่องใหม่ๆ ที่ผู้เรียนต้องเรียนโดยใช้วิธีการที่เหมาะสม เพื่อจะได้ทราบว่าผู้เรียนมีความพร้อมและพื้นฐาน ที่จะเรียนทุกคนหรือไม่ แล้วนำผลการประเมินมาปรับปรุง ซ่อมเสริม หรือเตรียมผู้เรียนให้มีความพร้อมและ พื้นฐานพอเพียงทุกคนซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนประสบความสำเร็จในการเรียนได้เป็นอย่างดี การประเมินพื้นฐานและ ความพร้อมของผู้เรียนก่อนเรียน จึงมีความสำคัญและจำเป็นที่ผู้สอนทุกคนจะต้องดำเนินการ เพื่อเตรียมผู้เรียน ให้มีความพร้อม ในการเรียนทุกครั้งจะทำให้การเรียนการสอนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถคาดหวัง ความสำเร็จได้ อย่างแนน่ อน การประเมินความพรอ้ มและพนื้ ฐานของผเู้ รยี นก่อนเรยี นมแี นวปฏบิ ตั ิดังน้ี 1) วิเคราะห์ความรูแ้ ละทักษะท่ีเปน็ พื้นฐานก่อนเรียน 2) เลอื กวธิ ีการและจดั ทำเครื่องมือสำหรบั ประเมนิ ความรู้ และทักษะพ้ืนฐาน อยา่ งเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ 3) ดำเนนิ การประเมินความร้แู ละทกั ษะพื้นฐานของผเู้ รียน 4) นำผลการประเมนิ ไปดำเนินการปรับปรงุ ผู้เรยี นให้มีความรู้และทักษะพื้นฐาน อยา่ งพอเพยี งก่อนดำเนินการสอน 5) จัดการเรยี นการสอนในเรื่องที่จัดเตรยี มไว้

ร ะ เ บี ย บ ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล พ . ศ . 2 5 6 5 | 21 1.2 การประเมินความรอบร้ใู นเรอื่ งท่จี ะเรียนก่อนการเรียน เป็นการประเมินผู้เรียนในเรื่องที่จะทำการสอน เพื่อตรวจสอบว่าผู้เรียนมีความรู้และทักษะ ในเรื่องที่จะเรียนนั้นมากน้อยเพียงไร เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเบื้องต้นของผู้เรียนแต่ละคนว่า เริ่มต้นเรียนเรื่องนั้นๆ โดยมีความรู้เดิมอยู่เท่าไรเพื่อจะได้นำไปเปรียบเทียบกับผลการเรียนภายหลัง การเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนตาม แผนการเรียนรู้แล้ว วา่ เกดิ พัฒนาการหรือเกดิ การเรียนรู้เพ่ิมขึ้นหรือไม่เพียงไร ซึง่ จะทำให้ทราบถึงศักยภาพในการ เรียนรู้ของผเู้ รยี น และประสิทธิภาพในการจัดกจิ กรรมการเรียน ซ่งึ จะใช้เปน็ ประโยชนใ์ นการสนองตอบการเรียนรู้ ของผู้เรียนแต่ละคนแต่ละกลุ่มต่อไป แต่ประโยชน์ที่เกิดขึ้นในเบื้องต้นของการประเมินผลก่อนเรียน ก็คือผู้สอน สามารถนำผลการประเมินไปใช้เป็นข้อมูลในการจัดเตรยี ม วิธีการจัดกิจกรรมการเรียนใหส้ อดคล้องกับความรู้เดิม ของผู้เรียนว่าต้องจัดอย่างเข้มข้นหรือมากน้อยเพียงไร จึงจะทำให้แผนการเรียนรู้มีประสิทธิภาพ สามารถทำให้ ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และพัฒนาการต่างๆ ตามตัวชี้วัดด้วยกันทุกคน ในขณะที่ไม่ทำให้ผู้เรียนมีพื้นความรู้เดิม อยู่แล้วเกิดความรู้สึกเบื่อหน่าย และเสียเวลาเรียนในสิ่งที่ตนรู้แล้ว การประเมินความรอบรู้ก่อนเรียนมีขั้นตอน การปฏิบัติเหมือนกับการประเมินความพร้อมและพื้นฐานของผู้เรียนต่างกันเฉพาะความรู้ ทักษะที่จะประเมิน เท่านนั้ 2. การประเมินระหวา่ งเรียน การประเมินระหว่างเรียนเป็นการประเมินที่มุ่งตรวจสอบพัฒนาการของผู้เรียนว่าบรรลุจุดประสงค์ การเรียนรู้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ที่ครูได้วางแผนไว้หรือไม่ เพื่อนำสารสนเทศที่ได้จากการประเมิน ไปสกู่ ารปรับปรุงแกไ้ ขข้อบกพรอ่ งของผู้เรียน และส่งเสริมผเู้ รียนให้มีความรคู้ วามสามารถและเกิดพฒั นาการสูงสุด ตามศกั ยภาพ การประเมินผลระหว่างเรยี นมีแนวทางในการปฏิบตั ิตามข้ันตอน ดงั น้ี 2.1 วางแผนการเรียนรู้และการประเมินผลระหว่างเรียน ผู้สอนจัดทำแผนการเรียนรู้ กำหนดแนวทางการประเมินผลให้สอดคล้องกับตัวชี้วัด ซึ่งในแผนการเรียนรู้จะระบุภาระงานที่จะทำให้ผู้เรียน บรรลุตามตวั ช้วี ดั อยา่ งเหมาะสม 2.2 เลอื กวธิ ีการประเมนิ ที่สอดคลอ้ งกับภาระงานหรือกิจกรรมหลักท่กี ำหนดให้ผเู้ รียนปฏิบัติ ทงั้ น้ีวธิ กี ารประเมนิ ทีเ่ หมาะสมอยา่ งย่งิ สำหรับการประเมินระหว่างเรยี น ไดแ้ ก่ การประเมนิ จากสิง่ ทผ่ี เู้ รยี นได้ แสดงให้เหน็ วา่ มีความรู้ ทักษะ และความสามารถ ตลอดจนมคี ุณลักษณะท่ีพงึ ประสงค์อันเปน็ ผลจากการเรียนรู้ ตามท่ีผู้สอนไดจ้ ดั กระบวนการเรยี นรูใ้ หว้ ิธกี ารประเมินท่ีผู้สอนสามารถเลือกใชใ้ นการประเมนิ ระหวา่ งเรียน มีดังนี้ 1) การประเมนิ ดว้ ยการสอื่ สารส่วนบุคคล ได้แก่ (1) การถามตอบระหว่างทำกจิ กรรมการเรียน (2) การพบปะสนทนาพูดคยุ กบั ผเู้ รยี น (3) การพบปะสนทนาพดู คุยกับผู้เกีย่ วข้องกบั ผู้เรยี น (4) การสอบปากเปล่าเพื่อประเมินความรู้ ความเขา้ ใจ และทัศนคติ (5) การอา่ นบันทกึ เหตุการณ์ต่างๆ ของผู้เรยี น (6) การตรวจแบบฝึกหดั และการบ้าน พร้อมให้ข้อมูลป้อนกลับ

ร ะ เ บี ย บ ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล พ . ศ . 2 5 6 5 | 22 2) การประเมินจากการปฏิบัติ (Performance Assessment) เป็นวธิ ีการประเมนิ งานหรอื กิจกรรมที่ผสู้ อนมอบหมายให้ผู้เรยี นปฏิบัติเพ่อื ใหไ้ ด้ขอ้ มูล สารสนเทศว่า ผเู้ รียนเกดิ การเรยี นร้มู ากน้อยเพียงใด การประเมินการปฏบิ ัติผสู้ อนต้องเตรยี มการในสิง่ สำคญั 2 ประการ คือ (1) ภาระงานหรือกจิ กรรมที่จะให้ผูเ้ รียนปฏบิ ัติ (Tasks) (2) เกณฑก์ ารให้คะแนน (Rubrics) วิธีการประเมินการปฏิบตั ิจะเปน็ ไปตามลักษณะงาน ดงั นี้ ก. ภาระงานหรือกิจกรรมที่ผู้สอนกำหนดให้ผู้เรียนทำเป็นรายบุคคล/กลุ่ม จะประเมิน วธิ ีการทำงานตามขั้นตอนและผลงานของผเู้ รยี น ข. ภาระงานหรือกิจกรรมที่ผู้เรียนปฏิบัติเป็นปกติในชีวิตประจำวันจะประเมินด้วย วิธีการสังเกต จดบนั ทึกเหตกุ ารณ์เกี่ยวกับผเู้ รียน ค. การสาธิต ได้แก่ การให้ผู้เรียนแสดงหรือปฏิบัติกิจกรรมตามที่กำหนด เช่น การใช้เครื่องมอื ปฏบิ ตั ิงาน การทำกายบรหิ าร การเล่นดนตรี จะประเมนิ วิธีการและขน้ั ตอนในการสาธติ ของผู้เรียน ดว้ ยวิธีการสงั เกต ง. การทำโครงงาน การจัดการเรยี นรู้ตามหลกั สตู รการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน กำหนดใหผ้ ู้สอน ต้องมอบหมายให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติโครงงานอย่างน้อย 1 โครงงานในทุกช่วงชั้น ดังนั้นผู้สอนจึงต้องกำหนดภาระ งานในลักษณะของโครงงานให้ผเู้ รยี นปฏบิ ัตใิ นรปู แบบหนึ่ง ใน 4 รูปแบบตอ่ ไปน้ี (1) โครงงานสำรวจ (2) โครงงานสงิ่ ประดิษฐ์ (3) โครงงานแกป้ ัญหาหรือการทดลองศึกษาค้นควา้ (4) โครงงานอาชีพ วิธีการประเมนิ ผลโครงงาน ใชก้ ารประเมิน 3 ระยะ คือ 1) ระยะก่อนทำโครงงาน โดยประเมินความพร้อมด้านการเตรียมการ และความเป็นไปได้ ในการปฏิบตั งิ าน 2) ระยะทำโครงงาน โดยประเมินการปฏิบัติจริงตามแผน วิธีการและขั้นตอนกำหนดไว้ และ การปรับปรุงงานระหว่างปฏิบตั งิ าน 3) ระยะสน้ิ สดุ การทำโครงงาน โดยประเมนิ ผลงานและวธิ กี ารนำเสนอผลการดำเนินโครงงาน การกำหนดใหผ้ เู้ รยี นทำโครงงาน สามารถทำได้ 3 แบบ คอื 1) โครงงานรายบุคคล เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เลือกปฏิบัติงานตามความสามารถ ความถนัด และความสนใจ 2) โครงงานกลุ่ม เป็นการทำโครงงานขนาดใหญ่และซับซ้อนต้องให้ผู้เรียนที่มีความสามารถ ต่างกนั หลายด้านช่วยกันทำ การประเมินโครงงานควรเนน้ การประเมินกระบวนการกล่มุ 3) โครงงานผสมระหวา่ งรายบุคคลกบั กลุ่ม เป็นโครงงานท่ผี ู้เรียนทำร่วมกัน แต่เม่ือเสร็จงานแล้ว ให้แต่ละคนรายงานผลดว้ ยตนเอง โดยไมต่ อ้ งได้รับการช่วยเหลอื จากสมาชกิ ในกลุ่ม

ร ะ เ บี ย บ ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล พ . ศ . 2 5 6 5 | 23 ในการประเมนิ การปฏิบตั ิงานดงั กล่าวมาขา้ งต้น ผูส้ อนจำเปน็ ต้องสร้างเคร่อื งมอื เพื่อใช้ ประกอบการประเมินการปฏิบตั ิ เชน่ - แบบวัดภาคปฏิบัติ - แบบสังเกตพฤตกิ รรม - แบบตรวจสอบรายการ - เกณฑ์การให้คะแนน (Rubrics) เป็นตน้ 3) การประเมินตามสภาพจรงิ (Authentic Assessment) การประเมินสภาพจริง เป็นการประเมินจากการปฏิบัติงานหรือกิจกรรมอย่างใดอย่างหน่ึง โดยงานหรือกิจกรรมที่มอบหมายให้ผู้เรียนปฏิบัติจะเป็นงาน หรือสถานการณ์ท่ีเป็นจริง (Real life) หรือ ใกล้เคียงกับชีวิตจริง จึงเป็นงานที่มีสถานการณ์ซับซ้อน (Complexity) และเป็นองค์รวม (Holistic) มากกว่างาน ปฏบิ ัติในกจิ กรรมการเรยี นทัว่ ไป วิธีการประเมินสภาพจริงไม่มีความแตกต่างจากการปฏิบัติ (Performance Assessment) เพียงแต่อาจมีความยุ่งยากในการประเมินมากกว่า เนื่องจากเป็นสถานการณ์จริง หรือต้องจัดสถานการณ์ ให้ใกล้จริง แต่จะเกิดประโยชน์กับผู้เรียนมาก เพราะจะทำให้ทราบความสามารถที่แท้จรงิ ของผู้เรียนว่ามีจุดเด่น และขอ้ บกพร่องในเรื่องใด อนั จะนำไปส่กู ารแก้ไขทต่ี รงประเดน็ ท่ีสุด 4) การประเมินด้วยแฟม้ สะสมงาน (Portfolio Assessment) การประเมินด้วยแฟ้มสะสมงาน เป็นวิธีการประเมินท่ีช่วยสง่ เสริมให้การประเมินตามสภาพจริง มีความสมบูรณ์สะท้อนศักยภาพที่แท้จริงของผู้เรียนมากขึ้น โดยการให้ผู้เรียนได้เก็บรวบรวม (Collect) ผลงาน จากการปฏิบัติจริงทั้งในชั้นเรียนหรือในชีวิตจริงที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ตามสาระการเรียนรู้ต่ างๆ มาจัดแสดง อย่างเป็นระบบ (Organized) โดยมีจุดประสงค์เพื่อสะท้อนให้เห็น (Reflect) ความพยายาม เจตคติ แรงจูงใจ พฒั นาการ และความสัมฤทธิผ์ ล (Achievement) ของการเรียนรขู้ องผู้เรียน การวางแผนดำเนินงาน การประเมิน ดว้ ยแฟ้มผลงานทีส่ มบรู ณ์จะชว่ ยให้ผสู้ อนสามารถประเมนิ จากแฟ้มสะสมงานแทนการประเมนิ จากการปฏบิ ตั ิจริง การประเมินดว้ ยแฟ้มสะสมงานมแี นวทางในการดำเนินงานดงั น้ี 1) กำหนดโครงสร้างของแฟ้มสะสมงานจากวตั ถุประสงค์ของแฟ้มสะสมงานวา่ ตอ้ งการสะท้อน สง่ิ ใดเกี่ยวกับความสามารถและพัฒนาการของผู้เรยี น ท้ังน้ีอาจพิจารณาจากตัวช้วี ดั ตามสาระการเรียนรู้ที่สะท้อน ได้จากการให้ผเู้ รียนจัดทำแฟม้ สะสมงาน

ร ะ เ บี ย บ ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล พ . ศ . 2 5 6 5 | 24 การประเมนิ ผลการอา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขยี น กำหนดผลจาก การประเมนิ ดงั น้ี ชว่ งคะแนน 86-100 หมายถงึ ผลการประเมนิ อยใู่ นระดับ ดเี ย่ียม ช่วงคะแนน 70-85 หมายถึง ผลการประเมินอยู่ในระดับ ดี ช่วงคะแนน 50-69 หมายถึง ผลการประเมนิ อยใู่ นระดับ ผา่ น ช่วงคะแนน 0-49 หมายถึง ผลการประเมนิ อยใู่ นระดับ ไม่ผ่าน และแยกให้คะแนนเป็นข้อ ๆ ดังน้ี 1. การอ่าน 35 คะแนน 2. การคดิ 30 คะแนน 3. การเขยี น 35 คะแนน รวมคะแนนการประเมินผลการอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขยี น เป็น 100 คะแนน (หรืออาจเปล่ียนแปลงได้ตามแตล่ ะระดับชัน้ ) การประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ทำผลการประเมินเป็น 4 ระดบั คือ โดยพิจารณาผลการประเมินดังน้ี ชว่ งคะแนน 86-100 หมายถึง ผลการประเมินอยู่ในระดบั ดเี ยี่ยม ชว่ งคะแนน 70-85 หมายถงึ ผลการประเมนิ อยู่ในระดับ ดี ช่วงคะแนน 50-69 หมายถึง ผลการประเมินอย่ใู นระดบั ผ่าน ช่วงคะแนน 0-49 หมายถงึ ผลการประเมินอย่ใู นระดบั ไมผ่ า่ น และแยกใหค้ ะแนนเปน็ ข้อ ๆ ดงั น้ี คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๘ ประการ ได้แก่ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ 15 คะแนน คะแนน ตวั ช้ีวดั 4 คะแนน 3 คะแนน เปน็ พลเมืองดขี องชาติ 4 คะแนน ธำรงไว้ซ่งึ ความเป็นชาติไทย 4 คะแนน ศรัทธา ยึดมัน่ และปฏบิ ตั ิตนตามหลกั ศาสนา 15 คะแนน เคารพเทดิ ทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ รวม 2. ซื่อสตั ย์สจุ รติ 10 คะแนน คะแนน ตวั ชี้วัด 5 คะแนน 5 คะแนน ประพฤตติ รงตามความเปน็ จริงตอ่ ตนเองทั้งทางกาย วาจา ใจ 10 คะแนน ประพฤตติ รงตามความเป็นจริงตอ่ ผ้อู นื่ ท้ังทางกาย วาจา ใจ รวม

ร ะ เ บี ย บ ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล พ . ศ . 2 5 6 5 | 25 3. มีวินัย 15 คะแนน คะแนน ตัวชี้วดั 15 คะแนน 15 คะแนน ปฏิบตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว โรงเรยี น และสงั คม คะแนน 8 คะแนน รวม 7 คะแนน 4. ใฝ่เรียนรู้ 15 คะแนน ตัวชี้วดั 15 คะแนน ตงั้ ใจ เพียรพยายามในการเรยี นและเขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้ คะแนน แสวงหาความรจู้ ากแหลง่ เรยี นร้ตู า่ งๆ ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรียน 5 คะแนน ด้วยการเลอื กใช้ส่ือ อย่างเหมาะสม สรุปเปน็ องคค์ วามรู้ และ 5 คะแนน สามารถนำไปใช้ในชีวติ ประจำวนั ได้ 10 คะแนน รวม คะแนน 5 คะแนน 5. อยอู่ ย่างพอเพียง 10 คะแนน 5 คะแนน ตวั ช้วี ัด 10 คะแนน ดำเนนิ ชวี ิตอย่างพอประมาณ มีเหตผุ ล รอบคอบ มีคุณธรรม คะแนน มภี มู คิ ุ้มกนั ในตัวท่ดี ี และปรบั ตัวเพ่ืออยูใ่ นสงั คมได้อยา่ งมคี วามสุข 4 คะแนน 3 คะแนน รวม 3 คะแนน 10 คะแนน 6. มุ่งมน่ั ในการทางาน 10 คะแนน ตัวช้วี ัด ตง้ั ใจและรับผิดชอบในหนา้ ท่ีการงาน ทำงานด้วยความเพยี รพยายามและอดทนเพ่ือให้งานสำเรจ็ ตามเป้าหมาย รวม 7. รกั ความเปน็ ไทย 10 คะแนน ตวั ชว้ี ดั ภาคภูมใิ จในขนบธรรมเนยี มประเพณี ศิลปะ วฒั นธรรมไทยและ มคี วามกตัญญู กตเวที เห็นคุณคา่ และใชภ้ าษาไทยในการสอื่ สารได้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม อนุรักษ์ และสืบทอดภูมิปญั ญาไทย รวม

ร ะ เ บี ย บ ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล พ . ศ . 2 5 6 5 | 26 8. มีจติ สาธารณะ 15 คะแนน คะแนน ตวั ชว้ี ดั 8 คะแนน 7 คะแนน ช่วยเหลือผอู้ ่นื ดว้ ยความเตม็ ใจโดยไมห่ วังสง่ิ ตอบแทน 15 คะแนน เข้ารว่ มกจิ กรรมท่ีเปน็ ประโยชน์ตอ่ โรงเรยี น ชมุ ชนและสังคม รวม การประเมินการเขา้ รว่ มกิจกรรมของผู้เรียน กำหนดการประเมนิ เป็น 2 ระดับ ดงั น้ีคือ ผ่าน หมายถึง ผ่านเกณฑ์ ไม่ผา่ น หมายถึง ไม่ผา่ นเกณฑ์ การเลอ่ื นช้ัน สถานศึกษากำหนดกฎเกณฑ์การเลื่อนชั้น โดยพิจารณาให้สอดคล้องกับเกณฑ์การตัดสินผลการเรียน ตลอดจนกำหนดเกณฑ์เกี่ยวกับการผ่านตวั ช้ีวัดทช่ี ดั เจนและประกาศให้ทราบท่วั กนั ดงั นี้ 1. ผ้เู รยี นต้องมีเวลาเรยี นตลอดปกี ารศึกษาไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ 80 ของเวลาเรียนทั้งหมด 2. ผู้เรียนต้องไดร้ บั การประเมินทุกตวั ช้ีวดั และต้องผ่านทุกตวั ชวี้ ัดของแตล่ ะรายวชิ า 3. ผู้เรียนต้องได้รับการตัดสินผลการเรียน และผ่านทุกรายวิชาของกลุ่มสาระการเรียนรู้โดยมีเกณฑ์ การผ่าน ดงั นี้ 3.1 เวลาเรยี นในแต่ละรายวชิ าของกลุ่มสาระการเรยี นรไู้ ม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 80 ของเวลาเรียนทง้ั หมด 3.2 ตอ้ งไดร้ บั การประเมินทุกตวั ช้วี ัด และผ่านตวั ช้วี ดั ช้นั ปไี มน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ 100 ของตัวชวี้ ดั ในรายวิชา 3.3 ระดับผลการเรียนต้ังแตร่ ะดับ 1 ขึน้ ไป 4. การประเมินการอ่าน คดิ วิเคราะห์ และเขยี น ผเู้ รียนตอ้ งไดร้ ะดับผลการเรยี นต้ังแตร่ ะดับ ผ่านเกณฑ์ การประเมนิ ขนึ้ ไป 5. การประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ผเู้ รยี นตอ้ งไดผ้ ลการประเมินระดบั ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ข้นึ ไป 6 การประเมิน การเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ผู้เรียนต้องได้ผลการประเมินระดับผ่านโดยมีเกณฑ์ การผา่ น ดงั นี้ 6.1 ผเู้ รยี นต้องมเี วลาเข้ารว่ มกจิ กรรมแต่ละปีไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ 80 ของเวลาเรยี น 6.2 ผู้เรยี นผ่านจดุ ประสงค์การเรียนรูไ้ ม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 100 ของจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ในกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น 6.3 ผูเ้ รยี นเข้ารว่ มกจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณะประโยชนต์ ามเวลา ที่กำหนดไวใ้ นโครงสร้าง ของหลักสตู ร โดย ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 1 - 6 จำนวน 10 ช่ัวโมง

ร ะ เ บี ย บ ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล พ . ศ . 2 5 6 5 | 27 การพิจารณาเลื่อนชั้น ถ้าผู้เรียนมีข้อบกพร่องเพียงบางตัวชี้วัด ซึ่งพิจารณาเห็นว่าสามารถพัฒนาและ สอนซอ่ มเสรมิ ได้ กใ็ หอ้ ยู่ในดลุ ยพนิ ิจของคณะกรรมการท่ีจะผอ่ นผนั ใหเ้ ล่ือนชั้นได้ ในกรณีที่ผู้เรียนมีสติปัญญาและความสามารถดีเลิศ สามารถเรียนรู้ได้เร็วเป็นพิเศษ สถานศึกษา จะให้โอกาสผเู้ รียนเล่ือนชั้นระหว่างปีการศึกษา โดยสถานศกึ ษาแต่งต้ังคณะกรรมการประกอบดว้ ยคณะกรรมการ บริหารหลักสูตรและวิชาการและผู้แทนของเขตพื้นที่การศึกษาอย่างน้อย 1 คน เมื่อผู้เรียนมีคุณสมบัติครบถ้วน ตามเง่ือนไขท้ัง 3 ประการ ตอ่ ไปนี้ 1) มีผลการเรยี นปกี ารศึกษาทีผ่ า่ นมาและมีผลการเรยี นระหวา่ งปอี ยใู่ นเกณฑด์ ีเยี่ยม 2) มวี ุฒิภาวะเหมาะสมที่จะเรียนในชนั้ ทส่ี งู ข้ึน 3) ผ่านการประเมนิ ผลความรู้ความสามารถตามตัวช้ีวดั รายปีท้ังหมดในภาคเรียนท่ี 2 ปี ปัจจุบัน และภาคเรียนที่ 1 ของปีการศกึ ษาถดั ไป การอนุมัติให้เลื่อนไปเรียนชั้นสูงได้ 1 ระดับชั้นนี้ ต้องได้รับการยินยอมจากนักเรียนและผู้ปกครองและ ดำเนนิ การใหเ้ สรจ็ สิ้นภายในวนั ที่ 1 กนั ยายนของปกี ารศกึ ษานัน้ สำหรับในกรณที ีพ่ บว่ามผี เู้ รยี นกลุ่มพเิ ศษประเภทต่าง ๆ ทีม่ ปี ญั หาในการเรยี นรู้สถานศึกษาจะดำเนินงาน ร่วมกบั สำนกั งานเขตพื้นทีก่ ารศึกษาหาแนวทางการแกไ้ ขและพัฒนา การเรียนซำ้ ช้นั หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 กำหนดว่า หากผ้เู รียนไม่ผา่ นรายวชิ าจำนวน มากและมีแนวโน้มว่าจะเป็นปัญหาต่อการเรียนในระดับชั้นที่สูงขึ้น สถานศึกษาอาจตั้งคณะกรรมการพิจารณา ให้เรยี นซ้ำชน้ั ได้ ทงั้ นใี้ หค้ ำนึงถึงวุฒภิ าวะและความรู้ความสามารถของนกั เรยี นเป็นสำคญั ผู้เรียนที่ไม่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์การอนุมัติเลื่อนชั้นเรียน จะต้องจัดให้เรียนซ้ำชั้น ในกรณีที่ผู้เรียนขาด คุณสมบัตขิ ้อใดขอ้ หนึ่ง คณะกรรมการอาจใชด้ ุลพนิ ิจให้เลื่อนชน้ั ได้ หากพิจารณาเหน็ วา่ 1) ผู้เรยี นมีเวลาเรียนไมถ่ ึงรอ้ ยละ 80 อันเน่ืองจากสาเหตจุ าเป็น หรือเหตุสดุ วิสยั แตม่ คี ุณสมบัติ ตามขอ้ อนื่ ๆ ครบถ้วน 2) ผู้เรียนผ่านมาตรฐานและตัวชี้วัดไม่ถึงเกณฑ์ตามที่กำหนดในแต่ละรายวิชา และเห็นว่า สามารถสอนซอ่ มเสรมิ ได้ในปกี ารศกึ ษาถัดไปและมีคณุ สมบัติข้ออืน่ ๆ ครบถ้วน 3) ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 มีผลการประเมินกลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทยและ คณิตศาสตร์ อยู่ในเกณฑ์พอใช้ และผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4-6 มีผลการประเมินกลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรมอยู่ในเกณฑผ์ ่าน การสอนซ่อมเสริม การสอนซ่อมเสริม เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการจัดการเรียนรู้และเป็นการให้โอกาสแก่ผู้เรียนได้มีเวลา เรียนรู้สิ่งต่างๆ เพิ่มขึ้น จนสามารถบรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดที่กำหนดไว้ การสอนซ่อมเสริม เป็นการสอนกรณีพิเศษนอกเหนือไปจากการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้ปกติ เพื่อแก้ไขข้อบกพร่องที่พบ ในผู้เรียน โดยจัดกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลายและคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลของผู้เรียน การสอน ซ่อมเสริมสามารถดาเนนิ การไดใ้ นกรณีดงั ต่อไปน้ี

ร ะ เ บี ย บ ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล พ . ศ . 2 5 6 5 | 28 1. ผู้เรียนมีความรู้/ทักษะพื้นฐานไม่เพียงพอที่จะศึกษาในแต่ละรายวิชานั้น จะจัดการสอนซ่อมเสริม ปรับความรู้/ทักษะพ้นื ฐาน 2. การประเมินระหว่างเรียน ผู้เรียนไม่สามารถแสดงความรู้ ทักษะกระบวนการหรือเจตคติ/คุณลักษณะ ทก่ี ำหนดไว้ตามมาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ดั 3. ผลการเรยี นไม่ถึงเกณฑ์และ/หรือตำ่ กวา่ เกณฑ์การประเมิน ตอ้ งจดั การสอนซ่อมเสริมก่อนจะให้ผู้เรียน สอบแก้ตัว เกณฑ์การจบระดบั ประถมศึกษา (1) ผ้เู รยี นเรียนรายวชิ าพ้นื ฐาน จำนวน 5,040 ชว่ั โมง และรายวชิ าเพ่มิ เติม/กิจกรรมเพิ่มเติม จำนวน 720 ชว่ั โมง (2) ผู้เรียนตอ้ งมีผลการประเมินรายวิชาพ้ืนฐาน ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินตามทีส่ ถานศึกษา กำหนดทกุ รายวิชา (3) ผู้เรียนตอ้ งมีผลการประเมนิ การอา่ น คิดวเิ คราะห์ และเขียน ระดับ “ผา่ น” ขนึ้ ไป (4) ผเู้ รียนตอ้ งมผี ลการประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ระดบั “ผา่ น” ข้นึ ไป (5) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมิน ตามท่สี ถานศึกษากำหนด การประเมนิ ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนระดบั ชาติ การประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยแบบประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่เป็นระดับมาตรฐาน ระดับชาติ กระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดให้มีการประเมินเพื่อตรวจสอบคุณภาพการศึกษาทุกระดับชั้น เพื่อให้การดำเนินงานเปน็ ไปอย่างมีประสิทธภิ าพ โรงเรียนจึงไดก้ ำหนดแนวทางปฏบิ ตั ไิ ว้ ดังนี้ ๑. ผู้แทนสถานศกึ ษาเขา้ รบั การประชมุ ชแี้ จงวิธีการดำเนินการทดสอบรว่ มกับสำนักงานเขตพ้นื ที่ ๒. จัดส่งรายชื่อคณะกรรมการดำเนินงานประเมินคุณภาพการศึกษา ประกอบด้วย ประธานกรรมการ คณะกรรมการกลาง กรรมการควบคุมห้องสอบ คณะกรรมการตรวจคำตอบชนิดเขียนตอบ และกรรมการรับ– สง่ ข้อสอบ ส่งไปให้สานักงานเขตพน้ื ท่ีเพ่ือแตง่ ตั้ง ๓. คณะกรรมการบริหารหลักสูตรและวิชาการ ประชุมชี้แจงคณะกรรมการดำเนินการประเมินคุณภาพ ตามคำสั่งจากข้อ 2 ถึงวิธีการดำเนินการสอบ เพื่อให้เกิดความเข้าใจและปฏิบัติได้ตรงกันตามแนวปฏิบัติในคู่มื อ การประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน เพื่อให้เกิดความยุติธรรมและเป็นไปตาม การดำเนินการสอบ แบบทดสอบมาตรฐานอยา่ งเคร่งครัด ๔. คณะกรรมการกลางจัดพิมพร์ ายชื่อพร้อมกำหนดรหสั / เลขทนี่ กั เรียนตามจำนวนนกั เรียน /หอ้ งเรียน ทีก่ ำหนดไวใ้ นคู่มือ นำไปประกาศไวห้ น้าห้องสอบแต่ละห้องเพื่อให้นักเรียนได้ทราบว่า ตนเองเลขท่ีเท่าไรสอบห้อง ทเ่ี ท่าใด พรอ้ มติดเลขท่ขี องนักเรียนไว้บนโต๊ะทน่ี งั่ สอบ ๕. คณะกรรมการบริหารหลักสูตรและวิชาการประชุมชี้แจงนักเรียนให้ตระหนักถึงความสำคัญ ของการประเมนิ ผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นระดับชาติ ทัง้ ในด้านสว่ นตัวระดับโรงเรียนระดับเขตและระดบั ชาติ ควรให้ ความร่วมมือตง้ั ใจในการสอบอยา่ งเตม็ ความสามารถ

ร ะ เ บี ย บ ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล พ . ศ . 2 5 6 5 | 29 ๖. กรณีที่นักเรียนไม่ได้รับการประเมินตามวันเวลาที่กำหนด ให้สถานศึกษาแต่งตั้งผู้รับผิดชอบติดตาม และประสานงานกับเขตพื้นที่ดำเนินการประเมินให้เสร็จสิ้นภายใน ๒ สัปดาห์ หลังจากทราบรายชื่อนักเรียน ทย่ี งั ไมไ่ ด้รบั การประเมิน ๗. เม่ือสำนกั งานเขตพ้ืนท่ีแจ้งผลการประเมินมายังสถานศึกษา ใหน้ ำผลการประเมนิ มาทบทวนคุณภาพ ร่วมกันระหว่างคณะกรรมการบริหารหลกั สูตรและวิชาการกับคณะกรรมการสถานศึกษา และแจ้งผลการประเมิน ให้ผู้เกี่ยวข้องทราบผล และดำเนินการต่อไปโดยเฉพาะผู้เรียนและครูผู้สอนนำไปพิจารณา ในการพัฒนาปรับปรุง ตนเองตอ่ ไป

ร ะ เ บี ย บ ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล พ . ศ . 2 5 6 5 | 30 บรรณำนุกรม สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน. (๒๕๕๑). แนวปฏิบัตกิ ารวัดและประเมินผลการเรียนร้.ู กรุงเทพฯ : องคก์ ารรับส่งสนิ คา้ และพสั ดภุ ณั ฑ์ (ร.ส.พ).

ร ะ เ บี ย บ ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล พ . ศ . 2 5 6 5 | 31 ภำคผนวก

ร ะ เ บี ย บ ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล พ . ศ . 2 5 6 5 | 32

ร ะ เ บี ย บ ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล พ . ศ . 2 5 6 5 | 33

ร ะ เ บี ย บ ก า ร วั ด แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล พ . ศ . 2 5 6 5 | 34


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook