๔๗ ลำดับ ชอ่ื หนว่ ยการเรยี นรู/้ สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา น้ำหนัก ท่ี มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้วี ัด (ช่วั โมง) คะแนน ต ๓.๑ ป.๓/๑ ความหมาย เพื่อใหส้ ามารถนำคำศัพท์ ต ๔.๑ ป.๒/๑ น้นั ๆ ไปใช้ได้ถูกต้อง ทำใหส้ ามารถพดู และถาม-ตอบให้ขอ้ มลู เกย่ี วกับสิ่งต่าง ๆ ในห้องเรียน เชน่ จำนวนของสิ่งของ หรือ การฝึกใชโ้ ครงสรา้ งคำถาม Yes-No ซง่ึ เป็นการเรียนรู้ภาษาองั กฤษ เพ่อื นำไปใชส้ อ่ื สารในชวี ิตประจำวนั ได้ ๔ My friends - การสนทนาเพื่อขอ และให้ข้อมูล ๑๕ ๕ ต ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๔ เก่ยี วกับตนเอง เพื่อน ครอบครวั และ ต ๑.๒ ป.๓/๒, ป.๓/๔ เรอื่ งใกล้ตัวเปน็ ภาษาองั กฤษ ใชท้ ักษะ ต ๑.๓ ป.๓/๑ กระบวนการเป็นการเรียนร้ทู ่ีนักเรียน สามารถสร้างองคค์ วามรูด้ ้วยตนเอง ซึง่ นกั เรยี นสามารถนำไปใช้ในการสอื่ สารใน ชวี ติ ประจำวนั ได้อยา่ งถูกต้องคลอ่ งแคล่ว ๕ My pets - การเรียนรู้คำศัพทเ์ กยี่ วกบั สัตวเ์ ล้ยี ง ๑๗ ๗ ต ๑.๑ ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔ กริ ยิ าอาการตา่ ง ๆ ของสัตว์ ทำใหผ้ ้เู รยี น ต ๑.๒ ป.๓/๔, ป.๓/๕ สามารถพูดใหข้ ้อมูลเก่ยี วกบั สตั วเ์ ล้ียงท่ี ต ๒.๒ ป.๓/๑ ชอบหรือไม่ชอบ ตำแหน่งทอ่ี ยู่ของสัตว์ ต ๔.๒ ป.๓/๑ เลีย้ งง่ายๆได้ การพูดคุยเกยี่ วกับสัตว์ เลยี้ งและการทำสมดุ ภาพคำศัพท์ เก่ียวกับสตั ว์เลีย้ งทำใหผ้ เู้ รียนสนกุ สนาน มเี จตคติท่ดี ีต่อการเรยี นและสามารถ สื่อสารไดด้ ี ลำดับ ชอื่ หน่วยการเรยี นรู้/ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา นำ้ หนกั ท่ี มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวช้วี ดั (ช่ัวโมง) คะแนน - การฝึกทกั ษะการฟัง และการพดู ๖ My fruit เก่ยี วกบั ผลไมเ้ ป็นประจำจะทำให้ใช้ ๑๖ ๖ ต ๑.๑ ป.๓/๒, ป.๓/๔ ภาษาได้อยา่ งคล่องแคล่วรวมไปถึง ต ๑.๒ ป.๓/๔ การถามและตอบเพือ่ หาข้อมูลเก่ยี วกบั ต ๒.๑ ป.๓/๒, ป.๓/๓ ผลไมท้ ช่ี อบ จากการฟงั หรอื การอา่ น เป็นทกั ษะทางภาษาอยา่ งหน่ึงเพอื่ ใหเ้ กดิ ความรคู้ วามเข้าใจ อันจะทำให้สามารถ พฒั นาทักษะตา่ ง ๆ ได้ดยี งิ่ ขึ้น
๔๘ ลำดบั ช่อื หน่วยการเรียนร้/ู สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา น้ำหนัก ท่ี มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ัด (ชว่ั โมง) คะแนน ๗ Keeping Healthy - การถาม-ตอบเก่ยี วกับสุขภาพ โรคภัย ต ๑.๑ ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔ ไข้เจบ็ การพูดใหข้ อ้ มูลเก่ยี วกับการออก ๑๗ ๗ ต ๑.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๔ กำลังกาย ตลอดจนการฟังนทิ านเปน็ ต ๑.๓ ป.๓/๑ เทคนิคช่วยฝกึ การฟงั เหมาะสมกบั วัย ๑๗ ๗ ต ๒.๑ ป.๓/๑ ของผู้เรียน ซง่ึ เป็นสว่ นหนึ่งของ การส่อื สารในชีวิตประจำวันที่ผู้เรยี นควร ๘ Plants we eat รู้เพ่ือนำไปใช้ได้เหมาะสมกบั วัยและ ต ๑.๑ ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔ สถานการณ์ที่เกดิ ขึน้ ในชีวติ ได้อยา่ ง ต ๑.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๓, ป.๓/๔ ถูกต้องและมีประสิทธภิ าพ ต ๑.๓ ป.๓/๑ - การเรยี นร้เู กี่ยวกบั คำศัพท์ การสะกด คำ และความหมายของคำศัพทผ์ ัก ผลไม้ และสว่ นต่าง ๆ ของพืช การพูดถามตอบ ให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ผัก ผลไม้ และส่วน ต่าง ๆ ของพืชที่เรารับประทานได้ รวมไปถึงการอ่านเรอ่ื งเกี่ยวกับผัก ผลไม้ แลว้ สามารถตอบคำถามหรือพดู เก่ียวกบั บทอ่านได้ เป็นการใชภ้ าษาเพ่ือ การสื่อสารเก่ียวกับสิ่งท่ีพบเห็น เปน็ การเรยี นรทู้ ่บี รู ณาการทางภาษา ทำใหผ้ เู้ รียนเหน็ ความเชื่อมโยงของสาระ การเรยี นรู้ต่าง ๆ มากข้นึ ลำดับ ช่อื หนว่ ยการเรียนร/ู้ สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เวลา น้ำหนกั ที่ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด (ช่ัวโมง) คะแนน - การเรยี นรูค้ ำศัพท์เกยี่ วกบั อาหาร และ ๙ My meals มือ้ อาหาร นำไปสู่การสะกดคำ อ่านออก ๑๖ ๖ ต ๑.๑ ป.๓/๒, ป.๓/๓ เสียงคำและประโยคตามหลกั การอา่ น ต ๑.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๓, ป.๓/๔ รวมไปถงึ สามารถเลือกคำศัพทใ์ หต้ รงกบั ภาพที่ถูกต้อง นอกจากนกี้ ารฝึกสนทนา พูดถามตอบ พูดขอและให้ข้อมลู งา่ ยๆ เกี่ยวกับอาหารทีช่ อบยังเป็นการฝึกใช้ ประโยคจากสถานการณ์จริง เป็นเทคนคิ การฝกึ ภาษาเพื่อการส่อื สารท่ีนกั เรยี น
๔๙ ๑๐ Go shopping สามารถนำไปใช้ไดจ้ รงิ ใน ชวี ิตประจำวัน ๑๔ ๔ ต ๑.๑ ป.๓/๒, ป.๓/๓ ได้เหมาะสมกับสถานการณ์ ต ๑.๒ ป.๓/๑ - การเรยี นรกู้ ารอ่านออกเสียงคำศัพท์ ๑๘ ๙ และการสะกดคำเกย่ี วกับสิง่ ของท่ี ๑๑. Going places ตอ้ งการซ้ือเปน็ พนื้ ฐานของการเลอื ก เวลา น้ำหนัก ต ๑.๑ ป.๓/๒, ป.๓/๓, คำศัพทใ์ หต้ รงกับภาพท่กี ำหนด และ (ช่ัวโมง) คะแนน ป.๓/๔ นำไปสูก่ ารพดู โตต้ อบบทสนทนาเกยี่ วกับ ต ๑.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๔ สิ่งที่ตอ้ งการซื้อ การสอบถามราคาได้ ๑๗ ๗ ต ๑.๓ ป.๓/๑ เปน็ การฝกึ ใช้ภาษาจากสถานการณ์จริง นักเรียนจงึ สามารถนำคำศัพท์ไปใช้ใน ๑๙๘ ๘๐ ลำดับ ชอื่ หนว่ ยการเรียนรู้/ ชวี ติ ประจำวันไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ ๒ ๒๐ ที่ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั - การเรียนรู้คำศัพทเ์ กย่ี วกับสถานที่ 120 ๑๐๐ ๑๒ Care & Clean ยานพาหนะ และการบอกทศิ ทางและ ต ๑.๑ ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔ วธิ กี ารไปยังสถานท่ี ต่าง ๆ จะทำผเู้ รยี น ต ๑.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๕ สามารถนำ คำศพั ท์ และประโยคท่ฝี กึ ใช้ ต ๑.๓ ป.๓/๑ ในหอ้ งเรยี นไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั ต ๓.๑ ป.๓/๑ เก่ียวกับวธิ กี ารเดนิ ทาง หรือการบอก ทศิ ทางได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ระหวา่ งปี อกี ท้ังยังได้อ่าน ฟงั หรอื ดูส่ือการสอนท่ี ปลายปี สอดคล้องกับเน้ือหาการเรียนรู้ เพือ่ เป็น รวม การฝกึ ทักษะการฟังอกี ด้วย สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด - การเรยี นรคู้ ำศัพท์เก่ยี วกับสัตว์ มลภาวะ และการรักษาสภาพแวดล้อม เพอ่ื ชีวิตท่ดี ผี ่านการเรยี นภาษาเปน็ การบูรณาการวิชาอื่นกบั ภาษาทช่ี ว่ ยให้ ผูเ้ รียนไดร้ ับประโยชนใ์ นการเรียนร้ดู ้าน คุณธรรม จรยิ ธรรม ตลอดจนการพดู ให้ ขอ้ มลู เกีย่ วกับมลภาวะในดา้ นตา่ ง ๆ รวมทั้งคำขวญั ในการรณรงคล์ ดมลภาวะ และการอนุรกั ษ์ธรรมชาติสิ่งแวดล้อม เป็นการสอื่ สารท่ีพบเห็น ในชีวิตประจำวนั
๕๐ อ ๑๔๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๔ โครงสรา้ งรายวิชาพืน้ ฐาน ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๔ กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ เวลา ๑2๐ ช่วั โมง ลำดับ ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้/ สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เวลา น้ำหนกั ที่ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัด (ชวั่ โมง) คะแนน - การเรยี นร้เู กย่ี วกับสมาชกิ ใน ๑ Me and My Family ครอบครัว การให้ข้อมูลเกีย่ วกบั ๒๖ ๑๓ ต ๑.๑ ป.๔/๒, ป. ๔/๓, ป.๔/๔ ครอบครวั เพื่อแสดงสายสมั พันธ์ ต ๑.๒ ป.๔/๑, ป. ๔/๔, ป.๔/๕ ของครอบครวั ซงึ่ เปน็ ส่วนหนงึ่ ของการ ๒๗ ๑๔ ต ๑.๓ ป.๔/๑ สอ่ื สารในชีวติ ประจำวนั ทผ่ี ูเ้ รียนควรรู้ ต ๒.๒ ป.๔/๑ เพือ่ นำไปใชใ้ ห้ไดเ้ หมาะสมกบั วยั และมี ๒๕ ๑๑ ต ๓.๑ ป.๔/๑ ประสิทธภิ าพ ต ๔.๒ ป.๔/๑ - การสอบถามขอ้ มูลทัว่ ไปเป็นพนื้ ฐาน สำคญั ตอ่ การส่ือสาร โดยนักเรยี นต้อง ๒ Life at school สามารถใช้ให้เหมาะสมกับบริบท และ ต ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, เจตนาของตน การสอบถาม และการให้ ป.๔/๔ ขอ้ มลู เกยี่ วกบั รายวิชาตา่ ง ๆ ตลอดจน ต ๑.๒ ป.๔/๒, ป.๔/๓ การรูค้ ำศัพท์ท่ีเกีย่ วข้องซึ่งจำเปน็ ตอ่ ต ๑.๓ ป.๔/๑, ป.๔/๒ นักเรียนในวยั นี้ เพื่อใหส้ ามารถนำไป ต ๒.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒ ประยกุ ต์ใชใ้ นการสอื่ สารใหม้ ี ต ๒.๓ ป.๔/๑ ประสทิ ธิภาพต่อไป ต ๓.๑ ป.๔/๑, ป. ๔/๒ ต ๔.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๓ - การใหข้ ้อมูลเกยี่ วกบั อาหาร ตลอดจน ต ๔.๒ ป.๔/๑ ความร้ใู นคำศัพท์เก่ยี วกบั อาหารท่มี ี ประโยชน์ เป็นความจำเป็นหนง่ึ ในการ ๓ Good Food สื่อสารเบื้องต้น สำหรบั นักเรียนในวยั น้ี ต ๑.๑ ป.๔/๓, ป.๔/๔ เพ่อื ใหส้ ามารถใชภ้ าษาทถี่ ูกต้องพร้อม ต ๑.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๓ กบั นำเสนอเน้ือหาความรู้ท่ีถูกตอ้ งด้วย ต ๒.๒ ป.๔/๒ ต ๔.๒ ป.๔/๑ ลำดบั ช่อื หน่วยการเรียนร้/ู สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา นำ้ หนกั ที่ มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชีว้ ดั (ชว่ั โมง) คะแนน - การขอและให้ข้อมลู รวมทั้งการรู้ ๔ Our Free Time คำศัพทท์ เ่ี กีย่ วข้องกับงานอดเิ รกเปน็ ๒๖ ๑๓ ต ๑.๑ ป.๔/๒, ป.๔/๓ สง่ิ จำเปน็ ในการใชภ้ าษา เพ่ือ ต ๑.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๔ แลกเปล่ียนขอ้ มลู ความสนใจสว่ น ต ๑.๓ ป.๔/๑, ป.๔/๒
๕๑ ลำดบั ชอื่ หน่วยการเรียนร/ู้ สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา นำ้ หนัก ที่ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้วี ดั (ชวั่ โมง) คะแนน ต ๒.๒ ป.๔/๑ บุคคลซงึ่ นำไปสู่การสรา้ งสัมพันธ์ใน ๒๖ ๑๓ ต ๓.๑ ป.๔/๑ สังคมทดี่ ี ๒๘ ๑๖ ต ๔.๑ ป.๔/๑ ๑๕๘ ๘๐ ๒ ๒๐ ต ๔.๒ ป.๔/๑ ๑๖๐ ๑๐๐ ๕ Seasons & Festivals - การใหห้ รือขอข้อมลู เกี่ยวกับฤดกู าล ต ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓ สภาพอากาศ เป็นสิ่งจำเปน็ ในการ ต ๑.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๔ สื่อสารซง่ึ ผู้เรียน ควรร้เู พื่อนำไปสกู่ าร ต ๑.๓ ป.๔/๑, ป.๔/๒ ส่อื สารทมี่ คี ุณภาพต่อไป ต ๒.๒ ป.๔/๑ ต ๓.๑ ป.๔/๑ ต ๔.๑ ป. ๔/๑ ต ๔.๒ ป.๔/๑ ๖ Country & City Life - การขอและให้ข้อมลู เก่ียวกับ ความ ต ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๓, ป.๔/๔, เป็นไปได้ในการกระทำ เปน็ มารยาท ป.๔/๕ ทางสังคมอย่างหนึ่งท่ี นกั เรียนควร ต ๑.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๔, ป.๔/๕ ทราบและตระหนักใน ความสำคญั และ ต ๑.๓ ป.๔/๑, ป.๔/๒ นำไปใชใ้ หถ้ ูกตอ้ ง ต ๒.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒ ต ๓.๑ ป.๔/๑ ต ๔.๑ ป.๔/๑ ต ๔.๒ ป.๔/๑ ระหว่างเรยี น ปลายปี รวม
๕๒ อ ๑๕๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๕ โครงสร้างรายวิชาพืน้ ฐาน ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๕ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ เวลา ๑2๐ ชว่ั โมง ลำดบั ช่ือหน่วยการเรียนรู้/ สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา นำ้ หนัก ที่ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วดั (ชั่วโมง) คะแนน ๑ About Me ต ๑.๒ ป.๕/๔ - การพดู และเขียนสอื่ สารเพื่อขอ และ ๘ ๓ ต ๑.๓ ป.๕/๑ ให้ขอ้ มูลช่ือเมือง และประเทศท่อี ยู่ ๒ My Home ต ๑.๒ ป.๕/๔ อาศัย บา้ นเลขที่ และที่อยู่ รวมทัง้ ระบุ ต ๑.๓ ป.๕/๑ ตำแหน่ง สถานที่อยู่ โดยการวาด ๓ My Body ต ๑.๒ ป.๕/๔ แผนผัง และอธบิ ายข้อมลู เพื่อให้ ต ๑.๓ ป.๕/๑ ต ๔.๑ ป.๕/๑ ผเู้ รียนได้ฝกึ ทักษะการใชภ้ าษา ๔ My Family เพ่อื การส่ือสาร และการอธิบายเกย่ี วกับ ต ๑.๒ ป.๕/๔ ต ๑.๓ ป.๕/๑, ป.๕/๒ ขอ้ มลู ส่วนตวั ในชีวติ จริงได้อย่างม่ันใจ และมปี ระสิทธิภาพยิ่งขน้ึ - ขอ้ มลู เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย สว่ นต่าง ๆ ๘ ๓ ของบา้ น ลักษณะ และการทำกิจกรรม ตา่ ง ๆ ในบ้าน เป็นข้อมูลใกลต้ ัว ซง่ึ ผเู้ รียน ควรเรยี นร้เู พือ่ นำไปใช้ สนทนา แลกเปลย่ี นข้อมลู หรอื การอธบิ าย เพื่อให้ขอ้ มลู ในชวี ิตจริง ไดอ้ ย่างม่นั ใจยง่ิ ขึ้น - การเรยี นรูค้ ำศัพทเ์ กยี่ วกับอวัยวะ ๘๓ ตา่ ง ๆของร่างกาย และความสามารถ ซ่งึ อวยั วะตา่ ง ๆ เพ่ือนำมาใช้ในการ บอกเล่า อธบิ าย ให้ขอ้ มูลเกย่ี วกับ รปู ร่างลกั ษณะของตนเอง และบุคลคล อนื่ ที่พบเหน็ ชว่ ยเพม่ิ พูนข้อมูลคำศพั ท์ ทีใ่ ช้ในชวี ติ ประจำวนั พฒั นาทกั ษะ การใช้ภาษาอังกฤษเพ่ือการใหข้ อ้ มูล และการส่ือสารทั้งใน ด้านการฟัง พูด อา่ น และการเขยี น - คำศพั ท์เกย่ี วกบั สมาชกิ ในครอบครัว ๙ ๕ ขอ้ มูลความสัมพันธ์ของสมาชกิ และ การปฏิบัตกิ ิจกรรมต่าง ๆ ซง่ึ กระทำ เป็นนิสัยหรอื เปน็ กจิ วัตรทุกวัน เปน็ ขอ้ มลู ใกล้ตวั ซึง่ ตอ้ งจำเปน็ ต้องเรยี นรู้
๕๓ ลำดบั ชอ่ื หน่วยการเรียนร้/ู สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา นำ้ หนัก ท่ี มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชวี้ ัด (ช่ัวโมง) คะแนน เป็นพ้ืนฐาน เพ่ือเพ่ิมพูนคำศัพทแ์ ละ ๕ My Routines นำไปใชใ้ นการแนะนำ การอธิบาย ๘๓ ต ๑.๒ ป.๕/๔ ข้อมูล การให้ข้อมลู สนทนาแลกเปลีย่ น ต ๑.๓ ป.๕/๒ ขอ้ มลู ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง และมัน่ ใจ ในสถานการณก์ ารใชภ้ าษาเพื่อสื่อสาร ขอ้ มูลจริงในชวี ติ ประจำวัน - การเรยี นรคู้ ำศัพทเ์ กีย่ วกบั กิจวตั ร ประจำวัน และความถีใ่ นการทำ กิจกรรม โดยใช้การแสดงตารางข้อมูล ประกอบการอธบิ ายข้อมลู ดว้ ย โครงสรา้ งประโยค Present Simple Tense เพ่ือให้ขอ้ มูลเกยี่ วกบั การทำ กจิ กรรม เปน็ การฝกึ ทักษะการพดู การเขยี น และเปน็ การเรยี นรู้ภาษา อังกฤษเพ่ือนำไปใช้ในการสือ่ สาร ในชวี ิตประจำวนั ได้อย่างถูกต้อง และ มน่ั ใจยิ่งข้ึน ลำดับ ชื่อหน่วยการเรียนรู้/ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา น้ำหนกั ที่ มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชี้วัด (ช่วั โมง) คะแนน ๖ Our Health ต ๑.๓ ป. ๕/๒ - การใหข้ อ้ มูลคำศัพท์ชนิดของอาหาร ๙ ๕ ต ๑.๓ ป. ๕/๓ ต ๑.๒ ป. ๕/๔ จดั กล่มุ อาหารท่ีมปี ระโยชนแ์ ละไม่มี ต ๑.๓ ป. ๕/๓ ประโยชน์ การถามและใหข้ ้อมลู ๗ Friends ต ๑.๑ ป.๕/๓ เกี่ยวกบั ปญั หาสขุ ภาพ รวมทั้งการให้ คำแนะนำในการดแู ลรกั ษาสุขภาพที่ ถกู ต้อง เป็นการฝึกทักษะการ ส่ือสาร ท้งั การฟัง พูด อ่าน และเขยี นเพือ่ นำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวันให้ และเพื่อ เรยี นรูก้ ารใช้ภาษาในการนำเสนอขอ้ มูล ได้ถูกตอ้ ง - การแนะนำเพอ่ื น การอธบิ ายเพอื่ บอก ๘ ๓ ขอ้ มลู ลักษณะรปู รา่ งและบคุ ลิกภาพ
๕๔ ลำดบั ชอื่ หน่วยการเรียนรู้/ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา นำ้ หนัก ที่ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้วี ัด (ช่ัวโมง) คะแนน ต ๑.๒ ป.๕/๕ ต ๑.๓ ป.๕/๒, ป.๕/๓ นิสัยของเพอื่ น เป็นข้อมูลพื้นฐานใกลต้ ัว ๘ About School ทใ่ี ช้พดู คยุ สื่อสารในชีวติ ประจำวนั และ ต ๑.๑ ป.๕/๑ ต ๑.๒ ป.๕/๔ ในชวี ิตความเป็นอยู่ จึงมีความสำคญั ต ๑.๓ ป.๕/๑, ป.๕/๒ จำเปน็ ตอ้ งเรยี นร้เู พือ่ การนำภาษาไป ใช้ไดอ้ ยา่ งถูกต้องและมปี ระสิทธิภาพ - การบอกวิธีการเดินทางไปโรงเรยี น ๙ ๕ การเรียนรู้คำศัพท์เกย่ี วกับบุคคล สถานทต่ี ่าง ๆ และวชิ าท่เี รียนภายใน โรงเรยี นรวมท้งั คำสั่งท่ีใช้ในห้องเรียน การปฏิบตั ิตามคำสงั่ รวมท้ังการถาม และการบอกข้อมลู วิชาท่ีชอบเรยี น เป็นการพัฒนาทกั ษะในการฟัง พดู อ่าน และเขียนเพอื่ การส่อื สารในชวี ิตจริง ลำดับ ชอื่ หน่วยการเรียนรู้/ สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา นำ้ หนกั ท่ี มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชวี้ ัด (ชั่วโมง) คะแนน ๙ Weekend Activities - การเรียนรู้คำศัพท์เกย่ี วกับกิจกรรม ต ๑.๓ ป.๕/๑, ป.๕/๒ ในวันหยุดสุดสปั ดาห์ เพือ่ ใชใ้ นการบอก ๙ ๕ ต ๔.๑ ป.๕/๑ เลา่ การใหข้ ้อมูล การตอบคำถาม เกี่ยวกับกิจกรรมที่ทำเป็นประจำ ๙ ๕ ๑๐ The Climate ความถีใ่ นการทำกิจกรรมนนั้ ๆ ต ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป. ๕/๓, กิจกรรมท่เี คยทำ และกจิ กรรมท่ี ป.๕/๔ วางแผนจะทำ รวมท้ังการชักชวนผ้อู น่ื ต ๑.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๔ ให้ทำกจิ กรรมเปน็ พ้ืนฐานการใช้ภาษา ต ๒.๒ ป.๕/๑ เพื่อการสื่อสารในชวี ิตประจำวัน ดงั น้นั จึงมีความสำคัญที่จะต้องเรียนรู้ ฝึกฝน เพ่อื ให้เกดิ ความมัน่ ใจ และเกิด ประสิทธิภาพในการสือ่ ความ - การเรียนรคู้ ำศัพท์ และสำนวนภาษา การถาม-ตอบทีเ่ กยี่ วกับฤดกู าล สภาพอากาศเครื่องแตง่ กาย รวมท้งั สงิ่ ของท่จี ำเปน็ ต้องใชใ้ นฤดูกาล หรือ สภาพอากาศตา่ ง ๆ ตลอดจนการฝกึ
๕๕ ต ๓.๑ ป.๕/๑ อ่านและเขียนรายงานสภาพอากาศน้ัน ต ๔.๑ ป.๕/๑ เป็นเร่อื ง ใกล้ตวั ท่ีควรเรยี นรู้ เพ่อื สร้าง ความมั่นใจในการใชภ้ าษาและพฒั นา ทกั ษะความสามารถด้านการส่อื สารใน ชีวิตประจำวัน ลำดับ ช่ือหน่วยการเรียนรู/้ สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา น้ำหนัก ท่ี มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ดั (ชัว่ โมง) คะแนน ๑๑ The Plants ต ๑.๑ ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ - การเรยี นรู้คำศัพท์เก่ยี วกับชนดิ และ ๙ ๕ ต ๑.๒ ป.๕/๔ ต ๑.๓ ป.๕/๑, ป.๕/๒ สว่ นประกอบของต้นพชื ดอกไม้ ผลไม้ ต ๓.๑ ป.๕/๑ ต ๔.๒ ป.๕/๑ และพชื ผกั สวนครวั รวมทัง้ สีและรสชาติ ๑๒ The Animal World นับเป็นขอ้ มูลจำเป็นใกล้ตัว ซึ่งจะ ต ๑.๑ ป.๕/๒, ป.๕/๔ ต ๑.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๔ สามารถนำไปใชใ้ นการพูดเพื่อให้ข้อมูล ต ๑.๓ ป.๕/๑ ต ๒.๒ ป.๕/๑ หรอื แลกเปลี่ยนข้อมูลการอธิบาย ต ๓.๑ ป.๕/๑ และการสนทนาในชีวิต ประจำวัน ๑๓ People Expression ต ๑.๑ ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ เป็นประโยชน์พืน้ ฐานท่ีจะชว่ ยฝึกฝน ต ๑.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๔ ต ๑.๓ ป.๕/๑ และเพิ่มพูนทกั ษะในการใช้ภาษา เพ่ือส่ือสารให้ดีขึน้ - สตั ว์เปน็ ส่ิงมีชวี ติ ทอ่ี าศัยในแวดล้อม ๙ ๕ และใกล้ชิดกับมนุษย์มาก ดงั นัน้ การเรียนรคู้ ำศัพท์เกยี่ วกับชนิด ชีวติ ความเป็นอยู่ของสตั วต์ า่ ง ๆ รวมทง้ั ลกั ษณะและความสามารถของสัตว์ ประเภท ต่าง ๆ โดยการฝึกสนทนา ถาม-ตอบ การพูดหรอื เขยี นอธิบาย ข้อมลู จึงนับเป็นประโยชน์ช่วยใหเ้ กดิ ความมั่นใจในการส่อื สารเพ่ิมขน้ึ - คำศัพท์เกีย่ วกับอวัยวะประสาทสัมผสั ๑๐ ๖ ทง้ั ห้า อารมณ์ ความรู้สึกของบคุ คลที่ รวมท้ังการสนทนาเกี่ยวกับการแตง่ กาย ตามโอกาสต่าง ๆ เปน็ ขอ้ มลู ใกล้ตัว
๕๖ ลำดบั ชอ่ื หน่วยการเรยี นร/ู้ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา น้ำหนัก ที่ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วดั (ชัว่ โมง) คะแนน ต ๒.๑ ป.๕/๒, ป.๕/๓ ต ๒.๒ ป.๕/๒ ซงึ่ จำเป็นต้องเรียนรูเ้ ปน็ พ้นื ฐานเพ่อื ต ๔.๒ ป.๕/๑ เพม่ิ พนู คำศพั ท์และนำไปใชใ้ นการ ๑๔ Everyday Food ต ๑.๑ ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ แนะนำ การอธบิ ายข้อมูล การใหข้ อ้ มลู ต ๑.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๔ ต ๑.๓ ป.๕/๑ สนทนาแลกเปล่ยี นข้อมลู ได้อยา่ ง ต ๒.๒ ป.๕/๒ ต ๓.๑ ป.๕/๑ ถูกต้อง คล่องแคลว่ และมัน่ ใจใน ต ๔.๒ ป.๕/๑ สถานการณก์ ารใชภ้ าษาเพ่ือส่ือสาร ๑๕ Getting Information ต ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓ ขอ้ มูลจริงในชวี ติ ประจำวัน ต ๑.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๔ ต ๑.๓ ป.๕/๑ - การพูดคยุ เก่ียวกับอาหาร ๑๐ ๖ ต ๒.๒ ป.๕/๑ ในชีวิต ประจำวนั เป็นขอ้ มูลที่ใกลต้ วั ๑๖ It’s my favor! ต ๑.๑ ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ จำเปน็ ต้องเรียนรู้คำศัพทป์ ระเภท และ ต ๑.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๕ ต ๒.๒ ป.๕/๑ ชนิดอาหารต่าง ๆ การเขียนรายการ ต ๓.๑ ป.๕/๑ ต ๔.๑ ป.๕/๑ อาหารเพื่อสง่ั ซ้ือ สำนวนการสัง่ อาหาร ๑๗ World Connection การพดู อธบิ ายขน้ั ตอนการทำอาหาร ต ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓ ต ๑.๒ ป.๕/๒, ป.๕/๓ อันจะเปน็ ข้อมลู พ้นื ฐานและโครงสรา้ ง ต ๑.๓ ป.๕/๑, ป.๕/๒ ต ๒.๒ ป.๕/๑ ประโยคทีจ่ ำเป็นท่ีจะชว่ ยให้ใชภ้ าษา ในการสอ่ื สารไดด้ แี ละมนั่ ใจขึ้น - การเรยี นรูป้ า้ ย สัญลกั ษณใ์ นที่ ๘๓ สาธารณะตา่ ง ๆ รวมทัง้ การศึกษา ขอ้ มูลตา่ ง ๆ เพื่อการเดนิ ทาง และ การพูดหรือเขียนรายงานข้อมูลจาก ส่อื ตา่ ง ๆ ชว่ ยเพ่ิมพูนทกั ษะ ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ ในชวี ิตประจำวนั ไดด้ ีขน้ึ - การพดู หรอื เขยี นเพ่ือถ่ายทอดข้อมลู ๙ ๕ เก่ียวกบั กจิ กรรมทีโ่ ปรดปรานยามว่าง และประสบการณท์ ่สี รา้ งความ ประทบั ใจ รวมทั้งการอ่านเร่ืองราว ประสบการณ์ต่าง ๆ ใกล้ตวั จะทำใหเ้ รา เพมิ่ พนู คำศัพท์และสามารถฝึกภาษา เพอื่ ใชส้ อื่ สารได้อีก วิธีหนึง่ - การเรยี นรเู้ กยี่ วกบั สถานท่ีต่าง ๆ ท่มี ี ๙ ๕ ช่อื เสียงในโลก นบั ว่าเปน็ ความรู้ที่เป็น ประโยชน์ สามารถนำไปใชส้ ่ือสารใน ชวี ติ ประจำวนั เพื่อบอกข้อมลู ความ ต้องการและการวางแผนการเดินทางไป
๕๗ ลำดับ ชื่อหน่วยการเรียนร/ู้ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา นำ้ หนัก ที่ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ัด (ชว่ั โมง) คะแนน ต ๓.๑ ป.๕/๑ ในสถานทนี่ น้ั ๆ เพื่อทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อยา่ งเหมาะสมดยี งิ่ ขน้ึ ๑๘ To the market - การเรยี นรคู้ ำศัพทป์ ระเภทของรา้ นคา้ ๙ ๕ ต ๑.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๔, ป.๕/๕ และสินค้าในร้านคา้ อีกทั้งการใช้ภาษา ต ๑.๓ ป.๕/๓ ในการถาม-ตอบเกีย่ วกับการซ้ือขาย ต ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๓ เปน็ ส่วนหนง่ึ ของการดำรงชวี ิตอยู่ใน สงั คม ซ่ึงผเู้ รียนจะต้องเรียนรู้และใชใ้ ห้ ถูกต้อง โดยเฉพาะการออกเสียงสูง-ต่ำ ท้ายประโยคเพ่ือบ่งบอกหนา้ ทท่ี าง ภาษา ในบริบทน้นั ๆ นับเป็น ความสำคัญที่ส่งผลต่อประสิทธภิ าพ ในการใช้ภาษา ระหวา่ งเรยี น ๑๕๘ ๘๐ ปลายปี ๒ ๒๐ รวม ๑๖๐ ๑๐๐
๕๘ อ ๑๖๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๖ โครงสร้างรายวชิ าพื้นฐาน ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๖ กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาต่างประเทศ เวลา ๑2๐ ชวั่ โมง ลำดับ ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้/ สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา นำ้ หนัก ที่ มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวช้ีวดั (ชวั่ โมง) คะแนน ๑ People in my family - การเรียนรู้โครงสรา้ งทางภาษา ๑๑ ๖ ต ๑.๑ ป ๖/๒, ป ๖/ ๔ สำนวนภาษา และคำศัพท์ ๑๑ ๖ ต ๑.๒ ป ๖/๑, ป ๖/๒, ป ๖/๔ บอกลักษณะของตนเองและบุคคล ๑๑ ๖ ต ๑.๓ ป ๖/๑, ป ๖/๓ ใกล้ตัว ทำให้ผู้เรียนสามารถพูดขอ ต ๒.๑ ป ๖/๑, ป ๖/๓ และใหข้ ้อมูลสว่ นตวั ของตนเอง ต ๓.๑ ป ๖/๑ แกผ่ ้อู ่ืนทราบได้ ต ๔.๑ ป ๖/๑ ๒ A day in the life - การเรยี นรโู้ ครงสร้างทางภาษา ต ๑.๑ ป ๖/๒, ป ๖/๓, ป ๖/๔ สำนวนภาษา คำศพั ท์ และฝกึ พูด ต ๑.๒ ป ๖/๑, ป ๖/๔ ถาม-ตอบเกยี่ วกับพระพุทธศาสนา ต ๑.๓ ป๖/๑, ป ๖/๓ หรือศาสนาท่ตี นเองนบั ถือการอ่าน ต ๒.๑ ป ๖/๓ เนื้อเรอ่ื งสน้ั ๆ เก่ยี วกบั ความเชือ่ ต ๒.๒ ป ๖/๑ ทางศาสนาจะเป็นประโยชนต์ ่อ ต ๓.๑ ป ๖/๑ การนำไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั ต ๔.๑ ป ๖/๑ ในอนั ท่ีจะอยู่รว่ มกนั ในสงั คมด้วยดี ต ๔.๒ ป ๖/๑ ๓ Hobbies and Sports - การเรียนรู้โครงสร้างทางภาษา ต ๑.๑ ป ๖/๒, ป ๖/๓, ป ๖/๔ คำศัพท์ และฝึกพดู ถาม-ตอบ และ ต ๑.๒ ป ๖/๑, ป ๖/๒, ป ๖/๔, ป ๖/๕ อ่านเนอ้ื เรื่องสนั้ ๆ เก่ียวกบั กีฬา ต ๑.๓ ป ๖/๑, ป ๖/๒, ป ๖/๓ อปุ กรณ์กฬี าทต่ี นชอบ การใช้ ต ๒.๑ ป ๖/๓ คณุ ศัพท์แสดงความรู้สึกต่าง ๆ ต ๒.๒ ป ๖/๑ ในขณะเลน่ กีฬา หรือสถานการณ์ ต ๓.๑ ป ๖/๑ ต่าง ๆ ซึ่งจะเปน็ ประโยชนต์ อ่ ต ๔.๑ ป ๖/๑ การนำไปสื่อสารในชวี ติ ประจำวนั ลำดับ ชื่อหน่วยการเรียนร/ู้ สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา น้ำหนัก ที่ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วดั (ชั่วโมง) คะแนน ๔ What will you be? - การเรยี นรโู้ ครงสรา้ งทางภาษา ๑๑ ๖ ต ๑.๑ ป ๖/๑, ป ๖/๒, ป ๖/๓, ป๖/๔ สำนวนภาษา คำศพั ท์ ต. ๑.๒ ป ๖/๑,ป ๖/๒, ป ๖/๔, ป ๖/๕
๕๙ ลำดับ ชอ่ื หน่วยการเรียนร้/ู สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา นำ้ หนัก ท่ี มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชว้ี ัด (ชว่ั โมง) คะแนน ต ๑.๓ ป ๖/๑ ต ๒.๑ ป ๖/๑,ป ๖/๓ บอกลกั ษณะและคำศัพท์ ต ๒.๒ ป ๖/๑ ต ๓.๑ ป ๖/๑ บอกอาชพี ตา่ ง ๆ ทสี่ นใจและอาชพี ต ๔.๑ ป ๖/๑ ในท้องถิน่ ทำให้ผเู้ รยี นสามารถ ๕ Enjoy Your Shopping ต ๑.๑ ป ๖/๑, ป ๖/๒, ป ๖/๓, พูดขอและให้ข้อมลู สว่ นตัว ป ๖/๔ ต. ๑.๒ ป ๖/๑, ป ๖/๒, ป ๖/๔, ของตนเอง แกผ่ อู้ น่ื ทราบไดด้ ้วย ป ๖/๕ ต ๑.๓ ป ๖/๑ การพูด/การเขยี น ต ๒.๑ ป ๖/๑, ป ๖/๓ ต ๒.๒ ป ๖/๑ การฟงั พดู อา่ น และเขยี นเก่ียวกับ ๑๑ ๖ ต ๓.๑ ป ๖/๑ ต ๔.๑ ป ๖/๑ การซือ้ ขายสนิ คา้ เปน็ ทักษะการ ๖ Giving Directions สอ่ื สารท่ีนนำไปใชใ้ นสถานการณ์ ต ๑.๑ ป ๖/๑, ป ๖/๓, ป ๖/๔ ต ๑.๒ ป ๖/๑, ป ๖/๒, ป ๖/๔, จรงิ ในชวี ติ ประจำวนั และยงั ป ๖/๕ ต ๑.๓ ป ๖/๑ บรู ณาการกบั กลมุ่ สาระ การเรยี นรู้ ต ๒.๑ ป ๖/๑, ป ๖/๓ ต ๔.๑ ป ๖/๑ - การเรยี นรู้คำศัพท์เกีย่ วกับ ๑๑ ๖ สิง่ ที่ต้องใช้ในการเดินทาง และสถานท่ีทจ่ี ะเดนิ ทางไปนั้น ทำใหผ้ เู้ รยี นสามารถพดู และเขยี น แสดงความคดิ เห็น หรือถาม-ตอบ เกย่ี วกับสิ่งทตี่ ้องใช้ในการเดินทาง และบอกถงึ สถานทท่ี ี่จะเดินทาง ซ่ึงจะเป็นพื้นฐานความรู้เกีย่ วกับ การใชภ้ าษาอังเพ่ือการส่ือสาร ในชีวิตประจำวัน ลำดับ ช่อื หน่วยการเรยี นรู้/ สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา น้ำหนกั ที่ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชว้ี ดั (ช่วั โมง) คะแนน ๗ Come Rain and Shine - การเรียนรคู้ ำศัพทเ์ ก่ยี วกบั สภาพ ๑๑ ๖ ต ๑.๑ ป ๖/๒, ป ๖/๓, ป ๖/๔ ต ๑.๒ ป ๖/๑, ป ๖/๒, ป ๖/๓, อากาศในแตล่ ะวนั และรจู้ กั ฤดกู าล ป ๖/๔, ป ๖/๕ ต ๑.๓ ป๖./๑,ป ๖/๓ ตา่ ง ๆ ประโยคและสำนวนในการ พดู และเขียน เป็นการเรยี นรู้
๖๐ ลำดบั ชอื่ หน่วยการเรียนรู้/ สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา น้ำหนัก ที่ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวัด (ช่ัวโมง) คะแนน ภาษาองั กฤษเพ่ือนำไปสื่อสารใน ๘ My Happiness Time ชีวิตประจำวัน ๑๐ ๕ ต ๒.๑ ป ๖/๓ - การทบทวนคำศัพท์ ประโยค ต ๒.๒ ป ๖/๑ และสำนวนต่าง ๆ จากท่ีไดเ้ รียนรู้ ๑๐ ๕ ต ๔.๑ ป ๖/๑ มาแล้ว หรอื ประสบการณเ์ ก่ยี วกับ ต ๔.๒ ป ๖/๑ ขอ้ มูลวันสำคัญของเทศกาล ๑๐ ๕ งานฉลอง เครื่องแต่งกาย ฤดูกาล ๙ Enjoy Your Shopping อาหาร เครื่องด่มื ทำใหผ้ ู้เรยี นไดน้ ำ ต ๑.๑ ป.๖/๑ สง่ิ ทเ่ี รียนมาใช้ซ้ำ ๆ ทำให้ใช้ภาษา ต ๑.๒ ป.๖/๑ ไดด้ ีขึ้น เกดิ ความจำทคี่ งทน ต ๑.๒ ป.๖/๒ - การเรียนรูค้ ำศัพท์ ประโยค และ ต ๑.๒ ป.๖/๓ สำนวนเกย่ี วกบั การซ้ือของ ต ๑.๒ ป.๖/๔ เป็นการฝึกทักษะทางภาษาอังกฤษ เกี่ยวกบั การซ้ือขาย ๑๐ Food and Drinks ทีจ่ ำเปน็ ในการนำไปใช้ส่อื สารใน ต ๑.๒ ป.๖/๑ ชีวิตประจำวัน ต ๑.๒ ป.๖/๒ - การเรยี นรู้คำศัพทเ์ กีย่ วกบั อาหาร ต ๑.๒ ป.๖/๓ เครือ่ งด่ืมและส่ิงของต่าง ๆ การใช้ ต ๑.๒ ป.๖/๔ ประโยคเพื่อบอกราคาสนิ คา้ การ ต ๑.๒ ป.๖/๕ ถาม-ตอบเกย่ี วกับอาหารและ ร้านค้าท่ีต้องการ เปน็ การเรียนรู้ ภาษาองั กฤษเพ่ือนำไปใชส้ อ่ื สาร แลกเปลีย่ นข้อมูลเก่ียวกบั ตนเอง และผอู้ ่นื ลำดบั ช่อื หน่วยการเรียนร้/ู สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา น้ำหนกั ท่ี มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ดั (ชวั่ โมง) คะแนน - การเรยี นร้คู ำศัพทเ์ ก่ยี วกับ ๑๑ At Your Services การบรกิ ารทีจ่ ำเป็นในการนำไปใช้ ๑๐ ๕ ต ๑.๓ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓ ในชีวิตประจำวัน เช่น รถโดยสาร โรงพยาบาล ร้านอาหาร เปน็ ต้น การใช้ Passive Voice ในประโยค เพ่อื ใชใ้ นการส่อื สารแลกเปลย่ี น
๖๑ ลำดบั ช่อื หน่วยการเรยี นรู้/ สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เวลา น้ำหนัก ที่ มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วดั (ชว่ั โมง) คะแนน เรยี นรกู้ ารใชภ้ าษาในการนำเสนอ ๑๒ Place to Visit ขอ้ มูลได้ถูกต้อง ๑๑ ๖ ต ๑.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, - การเรียนร้คู ำศัพทเ์ ก่ยี วกับ ป.๖/๕ ชื่อสถานทตี่ า่ ง ๆ การถามและตอบ ๑๑ ๖. ต ๑.๓ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓ เก่ยี วกบั การบอกทิศทางและ สถานท่ตี า่ ง ๆ โดยใชโ้ ครงสรา้ ง ๑๓ Come Rain and Shine ประโยค Present Simple Tense ต ๑.๓ ป.๖/๑, ป.๖/๓ และ Present Perfect Tense ต ๓.๑ ป.๖/๑ เพอ่ื ให้ผู้เรยี นได้ฝกึ ทักษะการใช้ ต.๔.๑ ป.๖/๑ ภาษาเพื่อการส่ือสาร และการ ต.๔.๒ ป.๖/๑ อธิบายเกี่ยวกับข้อมลู ได้อยา่ งม่ันใจ มีประสิทธภิ าพในการสอื่ สาร แลกเปลีย่ นขอ้ มูลเกีย่ วกบั ตนเอง และผูอ้ ื่น - การฟงั /พูด และบรรยาย เกยี่ วกบั สภาพอากาศ และเสื้อผ้า เครือ่ งแตง่ กาย เปน็ การขยายวง คำศัพท์ การใช้ประโยค Gerund “ing” และประโยค Present Continuous Tense เพื่อใช้ในการ ส่อื สาร เรยี นรู้การใชภ้ าษาในการ นำเสนอข้อมูลได้ถกู ต้อง ลำดบั ชือ่ หน่วยการเรียนรู้/ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา นำ้ หนกั ท่ี มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชวี้ ดั (ช่ัวโมง) คะแนน - การเรียนรคู้ ำศัพทเ์ กีย่ วกบั ๑๔ My Favorite Festival วฒั นธรรมและประเพณตี า่ ง ๆ ๑๑ ๖ ต ๑.๑ ป.๖/๒ ของไทยและต่างชาติ คำศัพท์ ต ๑.๑ ป.๖/๓ การใชป้ ระโยคถามตอบ เพื่อให้ ต ๑.๑ ป.๖/๔ ข้อมลู หรือแลกเปลย่ี นขอ้ มูล ต ๑.๒ ป.๖/๕ การอธิบายและการสนทนาในชีวิต ต ๒.๑ ป๖/๑ ประจำวนั เป็นประโยชนพ์ ้ืนฐานที่ ต ๒.๑ ป๖/๒ จะช่วยฝกึ ฝนและเพิ่มพูนทกั ษะใน ต ๒.๑ ป๖/๓ การใชภ้ าษาเพื่อส่ือสารให้ดีข้ึน ต ๒.๒ ป๖/๒
๖๒ ลำดับ ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้/ สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา นำ้ หนัก ที่ มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชว้ี ดั (ชว่ั โมง) คะแนน ระหวา่ งปี ๑๕๘ ๘๐ ปลายปี ๒ ๒๐ รวม ๑๖๐ ๑๐๐
๖๓ โครงสร้างรายวิชา รหสั วชิ า อ๑๑๒๐๑ รายวิชาภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร ๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ จํานวน 40 ชั่วโมง
๖๔ โครงสร้างรายวิชา รหสั วชิ า อ๑2๒๐๑ รายวิชาภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร 2 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 2 จํานวน 40 ชั่วโมง
๖๕ โครงสร้างรายวิชา รหสั วชิ า อ๑3๒๐๑ รายวิชาภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร 3 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 จํานวน 40 ชั่วโมง
๖๖ โครงสร้างรายวิชา รหสั วชิ า อ๑4๒๐๑ รายวิชาภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร 4 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 จํานวน 40 ชั่วโมง
๖๗ โครงสร้างรายวิชา รหสั วชิ า อ๑5๒๐๑ รายวิชาภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร 5 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 จํานวน 40 ชั่วโมง
๖๘ โครงสร้างรายวิชา รหสั วชิ า อ๑6๒๐๑ รายวิชาภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร 6 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 จํานวน 40 ชั่วโมง
๖๙ ส่อื /แหลง่ เรียนรู้ สื่อการเรียนรู้เป็นเครือ่ งมือส่งเสรมิ สนับสนุนการจัดการกระบวนการเรียนรู้ ให้ผู้เรียนเข้าถึงความรู้ ทักษะกระบวนการ และคุณลักษณะตามมาตรฐานของหลักสูตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ สื่อการเรียนรู้ มีหลากหลายประเภท ทงั้ ส่อื ธรรมชาติ สื่อส่ิงพิมพ์ สือ่ เทคโนโลยี และเครือข่ายการเรยี นรตู้ ่าง ๆ ที่มีในท้องถ่ิน การเลือกใช้สื่อควรเลือกให้มีความเหมาะสมกับระดับพัฒนาการ และลีลาการเรียนรู้ที่หลากหลายของผู้เรียน การจดั หาสอ่ื การเรียนรู้ ผเู้ รยี นและผู้สอนสามารถจดั ทำและพัฒนาขึน้ เอง หรือปรับปรุงเลือกใช้อย่างมีคุณภาพ จากสื่อต่าง ๆ ท่ีมีอยู่รอบตัวเพื่อนำมาใช้ประกอบในการจัดการเรียนรู้ที่สามารถส่งเสริมและสื่อสารให้ผู้เรียน เกิดการเรียนรู้ โดยสถานศึกษาควรจัดให้มีอย่างพอเพียง เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียน เกิดการเรียนรู้อย่างแท้จริง สถานศึกษาเขตพนื้ ที่การศึกษา หน่วยงานทีเ่ ก่ียวข้องและผู้มหี นา้ ท่จี ัดการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน ควรดำเนนิ การดงั น้ี ๑. จดั ใหม้ แี หลง่ การเรียนรู้ ศนู ย์ส่อื การเรยี นรู้ ระบบสารสนเทศการเรียนรู้ และเครือข่ายการเรียนรู้ ที่มีประสิทธิภาพทั้งในสถานศึกษาและในชุมชน เพื่อการศึกษาค้นคว้าและการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การเรียนรรู้ ะหว่างสถานศึกษา ท้องถิ่น ชมุ ชน สงั คมโลก ๒. จัดทำและจัดหาสื่อการเรียนรู้สำหรับการศึกษาค้นคว้าของผู้เรยี น เสริมความรู้ให้ผูส้ อน รวมท้ัง จัดหาสงิ่ ท่ีมีอยูใ่ นทอ้ งถ่นิ มาประยกุ ต์ใช้เป็นสอื่ การเรียนรู้ ๓. เลอื กและใชส้ ือ่ การเรียนรู้ที่มีคณุ ภาพ มีความเหมาะสม มีความหลากหลาย สอดคล้องกับวิธีการ เรยี นรู้ ธรรมชาติของสาระการเรียนรู้ และความแตกตา่ งระหว่างบคุ คลของผเู้ รยี น ๔. ประเมินคณุ ภาพของสื่อการเรียนร้ทู เ่ี ลือกใช้อย่างเปน็ ระบบ ๕. ศกึ ษาคน้ คว้า วิจัย เพื่อพฒั นาสอื่ การเรยี นรใู้ หส้ อดคลอ้ งกับกระบวนการเรียนรขู้ องผเู้ รยี น ๖. จัดให้มีการกำกับ ตดิ ตาม ประเมินคุณภาพและประสิทธภิ าพเก่ียวกับส่ือและการใชส้ อ่ื การเรียนรู้ เปน็ ระยะ ๆ และสมำ่ เสมอ ในการจัดทำ การเลือกใช้ และการประเมินคุณภาพสื่อการเรียนรู้ที่ใช้ในสถานศึกษาควรคำนึงถึง หลักการสำคัญของสื่อการเรียนรู้ เช่น ความสอดคล้องกับหลักสูตร วัตถุประสงค์การเรียนรู้ การออกแบบ กิจกรรมการเรียนรู้ การจัดประสบการณ์ให้ผู้เรียน เนื้อหามีความถูกต้องและทันสมัย ไม่กระทบความมั่นคง ของชาติ ไมข่ ัดตอ่ ศีลธรรม มกี ารใช้ภาษาท่ีถูกต้อง รปู แบบการนําเสนอท่เี ขา้ ใจง่าย และนา่ สนใจ
๗๐ การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ คะแนน ๘๐ อตั ราสว่ นคะแนน ๗๐ คะแนนระหวา่ งปีการศกึ ษา : สอบปลายปกี ารศกึ ษา = ๘๐ : ๒๐ ๑๐ ๒๐ รายการวัด ๑๐๐ ➢ ระหว่างภาค มีการวัดและประเมนิ ผล ดังนี้ ๑. คะแนนระหวา่ งปีการศึกษา ๑.๑ วัดโดยใชแ้ บบทดสอบ ๑.๒ วัดทักษะ/กระบวนการ/สมรรถนะ (เลอื กวัดตามแผนการจดั การเรยี นร)ู้ ๑.๒.๑ ภาระงานทีม่ อบหมาย - การทำใบงาน/แบบฝกึ หดั /สมดุ งาน - การศึกษาค้นควา้ /การนำเสนองาน - การร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ ๑.๒.๒ ทกั ษะการสอื่ สารทางภาษาอังกฤษ และสมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน - การอ่าน - การเขียน - การฟัง ดู พดู ๑.๓ วัดคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๒. คะแนนสอบกลางปกี ารศกึ ษา วดั และประเมินผลโดยใชแ้ บบทดสอบ ➢ คะแนนสอบปลายปีการศึกษา มีวดั และประเมนิ ผลโดยใช้แบบทดสอบ รวม เกณฑก์ ารวัดผลประเมินผล ๑. การวดั และประเมินผลโดยใชแ้ บบทดสอบ ๑.๑ เกณฑ์ให้คะแนนแบบทดสอบแบบเลือกตอบ พิจารณาจากความถูกผิดของการเลือกตอบ ตอบถกู ให้ ๑ คะแนน ตอบผดิ ให้ ๐ คะแนน ๑.๒ เกณฑ์ให้คะแนนแบบทดสอบแบบถูกผดิ พจิ ารณาจากความถกู ผดิ ของคาํ ตอบ ตอบถูกให้ ๑ คะแนน ตอบผิดให้ ๐ คะแนน ๑.๓ เกณฑ์ให้คะแนนแบบทดสอบแบบเติมคํา พิจารณาจากความถูกผิดของคําตอบ ตอบถูกให้ ๑ คะแนน ตอบผดิ ให้ ๐ คะแนน ๑.๔ เกณฑ์การให้คะแนนแบบทดสอบแบบเขียนตอบ พิจารณาจากคำตอบในภาพรวมท้ังหมด โดยกำหนดระดบั คะแนนเป็น ๔ ระดบั ดงั นี้
๗๑ ระดบั คะแนน เกณฑ์การให้คะแนน ๔ ตอบได้ถูกต้อง สามารถอธบิ ายเหตผุ ลไดช้ ดั เจน พรอ้ มแสดงแนวคิดเชงิ เปรยี บเทยี บ ๓ ตอบได้ถกู ตอ้ ง สามารถอธบิ ายเหตุผลไดอ้ ยา่ งชัดเจน ๒ ตอบได้ถกู ต้อง สามารถอธบิ ายเหตผุ ลไดเ้ ปน็ บางสว่ น แตย่ ังไม่อยา่ งชัดเจน ๑ ตอบไดถ้ ูกต้อง แต่ไมส่ ามารถอธิบายเหตผุ ลได้ ๐ ตอบไม่ถกู ต้อง และไมส่ ามารถอธบิ ายเหตุผลได้ ๒. การวัดและประเมนิ ผลด้านทักษะ/กระบวนการ/สมรรถนะ ๒.๑ ภาระงานที่มอบหมาย ได้แก่ ใบงาน/แบบฝึกหัด/แบบฝึกทักษะ กำนดเกณฑ์ การประเมินผลการทำใบงาน/แบบฝึกหดั /แบบฝกึ ทกั ษะ เปน็ ๔ ระดับ ดงั น้ี ระดับคุณภาพ เกณฑก์ ารให้คะแนน ๔ - ทำใบงาน/แบบฝกึ หดั /แบบฝกึ ทกั ษะครบถว้ นและเสร็จตามกาํ หนดเวลา (ดีมาก) - ทำใบงาน/แบบฝกึ หดั /แบบฝกึ ทักษะได้ถกู ต้อง - แสดงลำดบั ขัน้ ตอนของการทำใบงาน/แบบฝึกหัด/แบบฝกึ ทกั ษะชดั เจนเหมาะสม ๓ (ด)ี - ทำใบงาน/แบบฝกึ หดั /แบบฝกึ ทกั ษะครบถว้ นและเสร็จตามกาํ หนดเวลา - ทำใบงาน/แบบฝึกหัด/แบบฝกึ ทกั ษะได้ถกู ต้อง ๒ - สลบั ขน้ั ตอนของการทำใบงาน/แบบฝึกหัด/แบบฝกึ ทกั ษะ หรือไม่ระบุขนั้ ตอนของ (พอใช)้ การทำใบงาน/แบบฝกึ หัด/แบบฝึกทักษะ ๑ - ทำใบงาน/แบบฝกึ หดั /แบบฝกึ ทักษะครบถว้ น แต่เสรจ็ หลงั กาํ หนดเวลาเล็กนอ้ ย (ปรบั ปรุง) - ทำใบงาน/แบบฝกึ หดั /แบบฝกึ ทักษะข้อไมถ่ ูกต้อง - สลบั ข้นั ตอนของการทำใบงาน/แบบฝกึ หัด/แบบฝึกทักษะ หรอื ไม่ระบขุ ้ันตอนของ การทำใบงาน/แบบฝกึ หดั /แบบฝกึ ทักษะ - ทำใบงาน/แบบฝกึ หดั /แบบฝกึ ทกั ษะไมค่ รบถ้วน หรอื ไมเ่ สรจ็ ตามกําหนดเวลาเล็ก - ทำใบงาน/แบบฝกึ หัด/แบบฝกึ ทักษะไมถ่ กู ตอ้ ง - แสดงลำดบั ข้ันตอนของการทำใบงาน/แบบฝกึ หดั /แบบฝึกทกั ษะไมส่ ัมพนั ธก์ ับโจทย์ หรอื ไม่แสดงลำดบั ขัน้ ตอน ๒.๒ ทกั ษะการส่ือสารทางภาษาองั กฤษ และสมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน (๑) การวดั ผลและประเมนิ การเรียนรู้ด้านภาษา การวัดผลและประเมินการเรียนรู้ด้านภาษาเป็นงานที่ยากซึ่งต้องการความเข้าใจที่ถูกต้อง เก่ยี วกับการพัฒนาทางภาษา ดงั นัน้ ผปู้ ฏิบัติหนา้ ท่ีวดั ผลการเรียนรู้ดา้ นภาษาจำเป็นตอ้ งเข้าใจหลักการของการ เรียนรู้ภาษาไทย เพือ่ เป็นพนื้ ฐานการดาํ เนินงาน ดังนี้ (๑.๑) ทักษะทางภาษาทั้งการฟัง การดู การพูด การอ่าน และการเขยี นมคี วามสำคัญ เท่า ๆ กนั และทักษะเหล่านจ้ี ะบูรณาการกันในการเรียนการสอนจะไม่แยกฝึกทักษะทลี ะอย่างจะต้องฝึกทักษะ ไปพร้อม ๆ กัน และทกั ษะทางภาษาทกั ษะหนงึ่ จะสง่ ผลตอ่ การพัฒนาทกั ษะทางภาษาอ่ืน ๆ ดวั ย (๑.๒) ผู้เรียนต้องได้รับการพัฒนาความสามารถทางภาษาพร้อมกับการพัฒนา ความคิดเพราะภาษาเป็นสื่อของความคิด ผู้ที่มีทักษะและความสามารถในการใช้ภาษาจะช่วยให้ผู้เรียนมี
๗๒ ความสามารถในการคิดด้วยขณะเดียวกนั การเรียนภาษาจะเรียนร่วมกันกับผู้อืน่ มีการติดต่อส่ือสาร ใช้ภาษา ในการตดิ ต่อกบั เพ่ือน กับครู จึงเปน็ การฝึกทักษะทางสังคมด้วย เมือ่ ผเู้ รยี นได้ใช้ภาษาในสถานการณ์จริงท้ังใน บริบททางวิชาการในห้องเรียนและในชุมชน จะทำให้ผู้เรียนได้ใช้ภาษาและได้ฝึกทักษะทางสังคมใน สถานการณจ์ ริง (๑.๓) ผู้เรียนตอ้ งเรียนรู้การใช้ภาษาพูดและภาษาเขยี นอย่างถกู ต้องด้วยการฝึกการ ใช้ภาษามิใช่เรียนรู้กฎเกณฑ์ทางภาษาแต่เพียงอย่างเดียว การเรียนภาษาจะต้องเรียนรู้ไวยากรณ์หรือหลัก ภาษาการสะกดคํา การใช้เครื่องหมายวรรคตอน และนําความรู้ดังกล่าวไปใช้ในการฝึกฝนการเขียนพัฒนา ทักษะ ทางภาษาของตน (๑.๔) ผู้เรียนทุกคนจะได้รับการพัฒนาทักษะทางภาษาเท่ากัน แต่การพัฒนาทาง ภาษา จะไมเ่ ทา่ กนั และวธิ ีการเรียนรู้จะต่างกนั (๑.๕) ภาษากับวัฒนธรรมมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด หลักสูตรจะต้องให้ ความสำคญั และใช้ความเคารพและเห็นคุณคา่ ของเชื้อชาติ และพฒั นาความรสู้ ึกทด่ี ีเกี่ยวกบั ภาษาต่างประเทศ และกระตนุ้ ให้ผเู้ รียนสามารถเรยี นภาษาต่างประเทศด้วยความสุข (๒) วิธีการเกบ็ รวบรวมข้อมลู ผลการเรียนของผ้เู รียน วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ถูกนำมาใช้ในการประเมินโดยทั่วไป ได้แก่ การสังเกต การตรวจงานหรอื ผลงาน การทดสอบความรู้ การตรวจสอบการปฏบิ ัติ และการแสดงออกอย่างไรก็ตาม มีการ นําเสนอแนวทางการเก็บรวบรวมข้อมูล โดยพิจารณาจากเปูาประสงค์ของการประเมินที่เฉพาะเจาะจงใน รายละเอียด เพื่อข้อมูลที่ได้จะสามารถนำมาใช้ประโยชน์ต่อการปรับปรุงพัฒนากระบวนการเรียนรู้ได้อย่าง แทจ้ ริง ดังน้ี (๒.๑) การให้ตอบแบบทดสอบ ทง้ั ในลักษณะทเี่ ปน็ แบบเลือกคําตอบ ไดแ้ ก่ ข้อสอบ แบบเลือกตอบ ถูก-ผิด จับคู่ และข้อสอบชนิดให้ผู้สอบสร้างคําตอบ ได้แก่ เติมข้อความในช่องว่างคําตอบส้ัน เป็นประโยค เป็นข้อความ แผนภูมิการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยวีการนี้เหมาะกับการวัดความรู้เกี่ยวกับ ข้อเท็จจริง ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการ ซึ่งมีข้อดีที่ใช้เวลาในการดำเนินการน้อย ง่าย และสะดวกต่อการ นําไปใชใ้ หผ้ ลการประเมินที่ตรงไปตรงมา เนอื่ งจากมีเกณฑ์การประเมนิ ชัดเจน แต่ไมเ่ หมาะกับการนําไปใช้กับ ผลการเรยี นรทู้ ่ีเปน็ เจตคตคิ า่ นิยม (๒.๒) การพิจารณาจากผลงาน เช่น เรียงความ รายงานการวิจัย บันทึกประจำวัน รายงานการทดลอง บทละครบทร้อยกรอง แฟูมผลงาน เป็นต้น ผลงานจะเป็นตัวแสดงให้เห็นการนําความรู้ และทักษะไปใช้ในการปฏิบตั งิ านของผูเ้ รียน จุดเด่นของการประเมินโดยดูจากผลงานนีค้ ือจะแสดงให้เหน็ สิ่งท่ี นักเรียนสามารถทำได้ มีการกำหนดเกณฑ์การประเมิน เพื่อให้ผู้เรียนสามารถประเมินตนเองได้ เพื่อการ ปรับปรุงพัฒนาตนเองของผู้เรยี น เพื่อนก็สามารถใช้เกณฑ์ในการประเมินผลงานของผู้เรียนได้เช่นกนั จุดด่อน ของการประเมินจากผลงาน คือ ต้องมีการกำหนดเกณฑ์การประเมินร่วมกัน ต้องใช้เวลาในการประเมินมาก รวมทั้งตวั แปรภายนอกอาจเข้ามามีอทิ ธิพลตอ่ การประเมนิ ได้ง่าย (๒.๓) พจิ ารณาการปฏบิ ตั ิ โดยผ้สู อนสามารถสังเกตการนําทักษะและความรไู้ ปใช้ได้ โดยตรงในสถานการณ์ที่ให้ปฏิบัติจริง วิธีการนี้ถูกนําไปใช้อย่างกว้างขวางในการประเมินมีคุณค่ามาก หาก ผู้เรียนได้นําไปใช้ในการประเมนิ ตนเองเพ่ือสร้างแรงจงู ใจในการปรับปรุงพฒั นาตนเองให้ดีขึ้น ในกระบวนการ ประเมินจะมีเครื่องมือประกอบการดำเนินการคือ แบบสํารวจรายการ ประมาณค่า และเกณฑ์การให้ระดับ คะแนน (scoring rubric)
๗๓ (๒.๔) พิจารณากระบวนการ วิธีการนี้จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเรียนรู้ กระบวน การคิดของผู้เรียนมากกว่าที่จะดูผลงานหรือการปฏิบัติ ซึ่งจะทำให้เข้าใจกระบวนการคิดที่ผู้เรียนใช้ วิธีการ ท่คี รผู ู้สอนใชอ้ ยู่เป็นประจำในกระบวนการเรียนการสอน คอื การให้นักเรียนคิดดัง ๆ การต้ังคําถามให้นักเรียน ตอบ โดยครจู ะเปน็ ผสู้ ังเกตวิธกี ารคิดของผูเ้ รียน วิธีการเช่นนี้เป็นกระบวนการทีจ่ ะให้ข้อมูลเพื่อการวินิจฉัย และเป็นข้อมูลย้อนกลับ แก่ผู้เรียน โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเหมาะกับการประเมินพัฒนาการด้านคุณธรรม จริยธรรม และลักษณะนิสัยจากแนวทางการเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อการประเมินผลการเรียนรู้ดังกล่าวข้างต้น สามารถนํามาพิจารณา กำหนดแนวทางการเก็บรวบรวมข้อมูล ทักษะทางภาษาได้โดยการสังเกตผ่าน พฤตกิ รรมการปฏบิ ัตติ ่าง ๆ ของผู้เรยี น การรว่ มกจิ กรรมตา่ ง ๆ การปฏิสัมพันธก์ ับกลุ่มหรือบคุ คล วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อการประเมินที่เหมาะสม คือ การใช้ข้อสอบซึ่งอาจเป็น แบบเลือกตอบ หรือให้สร้างคําตอบการประเมินด้วยการกำหนดประเด็นการประเมินที่แจกแจงระดับ การปฏิบัติ (Rubric) ซึ่งเป็นเครื่องมือประเมินผลการเรียนรู้ที่ได้รับการยอมรับและถูกนำมาใช้ใน การประเมินผลการเรียนอย่างกว้างขวาง และมีประสิทธิภาพสำหรับการประเมินการปฏิบัติหรือผลงานที่ไม่มี คําตอบถูกเพียงคําตอบเดียว หรือการแก้ปัญหาทางเดียว แต่จะมีคําตอบที่หลากหลาย การตัดสินผลการ ประเมินจำเป็นต้องมีเกณฑ์การประเมินที่แสดงระดับคุณภาพที่ต้องการการประเมินความสามา รถหรือทักษะ ทางภาษา เครื่องมือประเภทนี้น่าจะเป็นเครื่องมือที่สามารถนําไปใช้ได้อย่างสอดคล้อง แต่เนื่องจากสร้างยาก แต่หากสามารถพัฒนาขึ้นใช้ได้ จะช่วยให้ผลการประเมินเที่ยงตรง เชื่อถือได้ และยุติธรรม รวมทั้งมีคุณค่าต่อ การปรับปรงุ และพฒั นาตนเองของผเู้ รียน เนอื่ งจากระบคุ วามคาดหวังของการปฏบิ ัตไิ ว้อยา่ งชัดเจน (๓) การประเมนิ ผลสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน การประเมินผลสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ประเมินโดยใช้แบบประเมินสมรรถนะสำคัญ ของผ้เู รียน โดยกำหนดเกณฑ์ในการประเมนิ ดังน้ี ระดับคุณภาพ เกณฑ์การใหค้ ะแนน (๓) ดีเยย่ี ม ผู้เรยี นปฏบิ ัตติ นตามสมรรถนะจนเปน็ นสิ ยั และนาํ ไปใช้ในชีวติ ประจำวนั เพ่ือ ประโยชนส์ ขุ ของตนเองและสังคม โดยพจิ ารณาจากผลการประเมนิ ระดบั ดีเย่ยี ม (๒) จำนวน ๓-๕ สมรรถนะ และไมม่ สี มรรถนะใดได้ผลการประเมินตำ่ กวา่ ระดับดี ดี ผเู้ รยี นมสี มรรถนะในการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ เพื่อให้เปน็ การยอมรบั ของสังคม พจิ ารณา (๑) จาก พอใช้ ๑. ไดผ้ ลการประเมินระดบั ดีเย่ียม จำนวน ๑-๒ สมรรถนะ และไม่มี สมรรถนะใดไดผ้ ลการประเมินต่ำกวา่ ระดับดี หรือ ๒. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับดีเย่ยี ม จำนวน ๒ สมรรถนะ และไม่มี สมรรถนะใดได้ผลการประเมนิ ต่ำกว่าระดบั ผ่าน หรือ ๓. ไดผ้ ลการประเมินระดบั ดี จำนวน ๔-๕ สมรรถนะ และไม่มี สมรรถนะใดไดผ้ ลการประเมินตำ่ กว่าระดับผ่าน ผู้เรยี นรับรู้และปฏบิ ัติตามกฎเกณฑ์และเงื่อนไขทส่ี ถานศึกษากำหนด พิจารณาจาก ๑. ไดผ้ ลการประเมินระดับผา่ น จำนวน ๔-๕ สมรรถนะ และไม่มสี มรรถนะ ใดไดผ้ ลการประเมินตำ่ กว่าระดบั ผ่าน หรอื
๗๔ (๐) ๒. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับดี จำนวน ๒ สมรรถนะ และไม่มสี มรรถนะใด ปรบั ปรุง ได้ผลการประเมนิ ต่ำกว่าระดับผา่ น ผเู้ รยี นรับร้แู ละปฏิบตั ไิ ด้ไม่ครบตามเกณฑแ์ ละเง่ือนไขทีก่ ำหนด โดยพิจารณา จากผลการประเมินระดบั ตอ้ งปรบั ปรงุ ตง้ั แต่ ๑ สมรรถนะ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ ๓ คะแนน พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัตสิ ม่ำเสมอ ให้ ๒ คะแนน พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั บิ ่อยครง้ั ให้ ๑ คะแนน พฤติกรรมท่ีปฏิบัตบิ างคร้ัง ให้ ๐ คะแนน พฤติกรรมท่ีปฏบิ ตั ิน้อยคร้ัง เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ ระดับคณุ ภาพ ดีเย่ยี ม (๓) ชว่ งคะแนน ๑๓-๑๕ ดี (๒) ๙-๑๒ ผา่ น (๑) ๕-๘ ไมผ่ า่ น (๐) ต่ำกว่า ๕
๗๕ แบบประเมนิ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน ช่อื ................................................นามสกลุ ................................................เลขที่..............ชนั้ ................. คำชี้แจง : ใหผ้ ้สู อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี น และขีด ลงในชอ่ งท่ีตรงกบั คะแนน ระดบั คุณภาพ สมรรถนะดา้ น รายการประเมนิ ดเี ย่ยี ม ดี ผ่าน ไม่ผา่ น (๓) (๒) (๑) (๐) ๑. ความสามารถ ๑.๑ มีความสามารถในการรบั -ส่งสาร ในการสอื่ สาร ๑.๒ มีความสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจของตนเอง โดยใช้ภาษาอยา่ งเหมาะสม ๑.๓ ใช้วธิ กี ารสื่อสารทเี่ หมาะสม มีประสิทธิภาพ ๑.๔ เจรจาต่อรองเพื่อขจัดและลดปญั หาความขัดแยง้ ต่าง ๆ ได้ ๑.๕เลือกรับและไม่รบั ข้อมูลข่าวสารด้วยเหตผุ ลและถูกต้อง สรุปผลการประเมิน รวม .......... คะแนน ระดบั ............... ๒. ความสามารถ ๒.๑ มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ ในการคิด ๒.๒ มที กั ษะในการคดิ นอกกรอบอยา่ งสรา้ งสรรค์ ๒.๓ สามารถคดิ อยา่ งมวี ิจารณญาณ ๒.๔ มคี วามสามารถในการสร้างองคค์ วามรู้ ๒.๕ ตัดสนิ ใจแกป้ ัญหาเกยี่ วกับตนเองไดอ้ ย่างเหมาะสม สรปุ ผลการประเมิน รวม .......... คะแนน ระดบั ............... ๓. ความสามารถ ๓.๑ สามารถแกป้ ัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เผชิญได้ ในการแกป้ ัญหา ๓.๒ ใชเ้ หตผุ ลในการแก้ปญั หา ๓.๓ เขา้ ใจความสัมพนั ธแ์ ละการเปลย่ี นแปลงในสังคม ๓.๔ แสวงหาความรู้ ประยกุ ต์ความรู้มาใช้ในการปอู งกนั และ แกไ้ ขปญั หา ๓.๕ สามารตดิ สินใจได้เหมาะสมตามวัย สรุปผลการประเมนิ รวม .......... คะแนน ระดบั ............... ๔. ความสามารถ ๔.๑ เรยี นรดู้ ว้ ยตนเองไดเ้ หมาะสมตามวยั ในการใช้ ๔.๒ สามารถทำงานกลุ่มร่วมกับผ้อู ่ืนได้ ทักษะชีวติ ๔.๓ นําความรทู้ ่ีไดไ้ ปใช้ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจำวนั ๔.๔ จดั การปัญหาและความขัดแยง้ ได้เหมาะสม ๔.๕ หลกี เลย่ี งพฤตกิ รรมไม่พึงประสงค์ท่สี ง่ ผลกระทบต่อตนเอง สรปุ ผลการประเมนิ รวม .......... คะแนน
๗๖ ระดบั คณุ ภาพ สมรรถนะด้าน รายการประเมนิ ดเี ย่ยี ม ดี ผา่ น ไม่ผา่ น (๓) (๒) (๑) (๐) ระดบั ............... ๕. ความสามารถ ๕.๑ เลือกและใชเ้ ทคโนโลยไี ดเ้ หมาะสมตามวยั ในการใช้ ๕.๒ มที กั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เทคโนโลยี ๕.๓ สามารถนําเทคโนโลยีไปใช้พฒั นาตนเอง ๕.๔ ใชเ้ ทคโนโลยีในการแก้ปัญหาอยา่ งสร้างสรรค์ ๕.๕ มีคุณธรรม จรยิ ธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยี สรปุ ผลการประเมนิ รวม .......... คะแนน ระดับ ............... ระดับคณุ ภาพตามเกณฑ์การประเมนิ ในหลักสูตรรายชั้น ลงช่ือ................................................................ผปู้ ระเมิน
๗๗ ๓. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ การประเมินผลคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ประเมินโดยใช้แบบประเมินคุณลักษณะ อันพงึ ประสงค์ กำหนดเกณฑ์ในการประเมนิ ดังน้ี ระดบั คณุ ภาพ เกณฑก์ ารให้คะแนน (๓) ดเี ย่ียม ผู้เรยี นปฏบิ ตั ิตนตามคุณลักษณะจนเปน็ นสิ ยั และนําไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั เพ่ือประโยชนส์ ขุ ของตนเองและสงั คม โดยพจิ ารณาจากผลการประเมินทัง้ ๘ คณุ ลกั ษณะ คือ ได้ระดบั ๓ (๒) จำนวน ๕-๘ คณุ ลกั ษณะ และไม่มีคุณลักษณะใดไดผ้ ลการประเมินต่ำกวา่ ระดบั ๒ ดี ผูเ้ รยี นมคี ุณลักษณะในการปฏบิ ตั ิตามกฎเกณฑ์ เพื่อให้เปน็ การยอมรบั ของสงั คม พจิ ารณาจาก (๑) ๑. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ๓ จำนวน ๑-๔ คณุ ลกั ษณะ และไมม่ ีคุณลกั ษณะใด ผ่าน ไดผ้ ลการประเมินตำ่ กว่าระดบั ๒ หรือ ๒. ไดผ้ ลการประเมิน ระดบั ๓ จำนวน ๔ คุณลกั ษณะ และไมม่ คี ณุ ลักษณะใด (๐) ไดผ้ ลการประเมนิ ตำ่ กวา่ ระดบั ๑ หรอื ไม่ผา่ น ๓. ได้ผลการประเมนิ ระดับ ๒ จำนวน ๕-๘ คุณลกั ษณะ และไมม่ คี ณุ ลักษณะใด ได้ผลการประเมินตำ่ กว่าระดบั ๑ ผูเ้ รยี นรับร้แู ละปฏบิ ตั ิตามกฎเกณฑ์ และเง่ือนไขทสี่ ถานศกึ ษากำหนด พจิ ารณาจาก ๑. ได้ผลการประเมิน ระดับ ๑ จำนวน คณุ ลักษณะ และไมม่ คี ณุ ลกั ษณะใด ได้ผลการประเมินตำ่ กวา่ ระดับ ๑ หรือ ๒. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับ ๒ จำนวน ๔ คณุ ลกั ษณะ และไมม่ คี ณุ ลกั ษณะใด ไดผ้ ลการประเมินตำ่ กว่าระดับ ๑ ผเู้ รยี นรับรูแ้ ละปฏบิ ตั ไิ ดไ้ ม่ครบตามเกณฑ์และเงอ่ื นไขท่กี ำหนด โดยพจิ ารณาจาก ผลการประเมิน ระดับ ๐ ตั้งแต่ ๑ คุณลกั ษณะข้นึ ไป เกณฑ์การให้คะแนน ให้ ๓ คะแนน พฤติกรรมทปี่ ฏิบัตสิ ม่ำเสมอ ให้ ๒ คะแนน พฤติกรรมท่ปี ฏิบตั บิ ่อยครัง้ ให้ ๑ คะแนน พฤติกรรมทปี่ ฏบิ ัตบิ างคร้งั ให้ ๐ คะแนน พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ตั นิ ้อยครง้ั
๗๘ แบบประเมินคณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค์ ชื่อ................................................นามสกลุ ................................................เลขท.ี่ .............ชน้ั ................. คำชแ้ี จง : ให้ผูส้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียน และขีด ลงในชอ่ งทีต่ รงกับคะแนน คุณลักษณะ รายการระเมิน ระดับคุณภาพ ไมผ่ ่าน (๐) ดเี ยย่ี ม ดี ผา่ น (๓) (๒) (๑) ๑. รกั ชาติ ศาสน์ ๑.๑ ยืนตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาติได้ กษตั รยิ ์ ๑.๒ เขา้ รว่ มกิจกรรมท่ีสรา้ งความสามคั คี ๒. ซอ่ื สัตย์ สุจรติ และเปน็ ประโยชนต์ อ่ โรงเรยี น ๓. มีวนิ ยั รบั ผดิ ชอบ ๑.๓ เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาทตี่ นนบั ถือ ปฏบิ ตั ติ ามหลักศาสนา ๔. ใฝ่เรยี นรู้ ๑.๔ เข้าร่วมกจิ กรรมที่เกยี่ วกบั สถาบนั ๕. อยูอ่ ย่าง พระมหากษัตรยิ ต์ ามท่ีโรงเรียนจัดขึ้น พอเพยี ง ๒.๑ ใหข้ ้อมูลท่ีถกู ต้อง และเป็นจรงิ ๖. ม่งุ มนั้ ในการ ๒.๒ ปฏิบัตใิ นสง่ิ ทีถ่ ูกตอ้ ง ทำงาน ๓.๑ ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ๗. รักความเป็น ข้อบังคบั ของโรงเรียน ไทย ๓.๒ มีความตรงตอ่ เวลาในการปฏิบตั ิกจิ กรรม ต่าง ๆ ในชวี ิตประจำวนั ๔.๑ รู้ จักใชเ้ วลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ และนำไป ปฏิบตั ไิ ด้ ๔.๒ รจู้ กั จัดสรรเวลาใหเ้ หมาะสม ๔.๓ เชื่อฟังคำสง่ั สอนของบดิ า-มารดา ครู ๔.๔ ตงั้ ใจเรียน ๕.๑ ใช้ทรัพยส์ ินและส่งิ ของของโรงเรยี นอย่าง ประหยัด ๕.๒ ใชอ้ ปุ กรณ์การเรยี นอยา่ งประหยดั และรคู้ ุณคา่ ๕.๓ ใช้จ่ายอยา่ งประหยดั และมีการเกบ็ ออมเงนิ ๖.๑ มีความตงั้ ใจและพยายามในการทำงาน ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย ๖.๒ มีความอดทนและไม่ท้อแทต้ ่ออุปสรรค เพ่อื ใหง้ านสำเรจ็ ๗.๑ มีจิตสำนกึ ในการอนรุ ักษ์วฒั นธรรม และภมู ปิ ญั ญาไทย ๗.๒ เหน็ คุณคา่ และปฏบิ ัตติ นตามวฒั นธรรมไทย
คณุ ลักษณะ รายการระเมนิ ๗๙ ระดับคณุ ภาพ ดีเย่ียม ดี ผา่ น ไม่ผา่ น (๓) (๒) (๑) (๐) ๘. มจี ติ ๘.๑ รู้จักช่วยพอ่ แม่ ผู้ปกครอง และครทู ำงาน สาธารณะ ๘.๒ รู้จักการดูแลรกั ษาทรัพยส์ มบตั แิ ละ สงิ่ แวดล้อมของห้องเรยี นและโรงเรยี น ระดับคณุ ภาพตามเกณฑก์ ารประเมินในหลักสตู รรายชั้น ลงชอื่ ................................................................ผู้ประเมิน
๘๐ ๔. เกณฑก์ ารตดั สินผลการเรยี น ๔.๑ เกณฑก์ ารตัดสินระดบั ผลการเรยี น ระดับผลการเรยี น ความหมาย ช่วงคะแนน ๔ ผลการเรียนดีเย่ยี ม ๘๐ - ๑๐๐ ๓.๕ ผลการเรยี นดมี าก ๗๕ - ๗๙ ๓ ๗๐ - ๗๔ ๒.๕ ผลการเรียนดี ๖๕ - ๖๙ ๒ ผลการเรียนค่อนข้างดี ๖๐ - ๖๔ ๑.๕ ผลการเรยี นปานกลาง ๕๕ - ๕๙ ๑ ๕๐ - ๕๔ ๐ ผลการเรียนพอใช้ ผลการเรยี นผ่านเกณฑ์ขั้นตำ่ ๐ - ๔๙ ผลการเรียนตำ่ กว่าเกณฑ์ ๔.๒ เกณฑก์ ารตัดสินผลการเรยี น ร และ มส. (๑) ตัดสนิ ผลการเรยี น ร หมายถึง รอการตัดสินและยังตัดสินผลการเรียนไม่ได้เนื่องจาก ผู้เรียนไม่มีข้อมูลผล การเรียนในรายวิชาครบถ้วน ได้แก่ ไม่ได้วัดผลกลางภาคเรียน/ปลายภาคเรยี น ไม่ได้ส่งงานที่มอบหมายให้ทำ ซึ่งงานนั้นเป็นสว่ นหน่งึ ของการตัดสินผลการเรยี น หรอื มีเหตุสุดวิสัยทท่ี ำใหป้ ระเมนิ ผลการเรียนไมไ่ ด้ ตดั สินผลการเรยี น มส. หมายถงึ ผ้เู รียนไมม่ สี ทิ ธิเขา้ รบั การวดั ผลปลายภาคเรียน เน่อื งจากผเู้ รยี น มีเวลาเรียน ไมถ่ ึงรอ้ ยละ 8๐ ของเวลาเรยี นทัง้ หมด และไม่ไดร้ บั การผ่อนผนั ให้เข้ารบั การวดั ผลปลายภาคเรยี น
๘๑ ๕. การประเมินการอา่ น คิดวเิ คราะห์และการเขียน เกณณ์การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะหแ์ ละการเขยี น คะแนนเตม็ ๒๐ คะแนน ระดับคณุ ภาพ ความหมาย ช่วงคะแนน ดเี ยย่ี ม ๑๖ - ๒๐ ดี มีผลงานที่แสดงถงึ ความสามารถในการอ่าน คิดวเิ คราะห์และเขียน ๑๓ - ๑๕ ผา่ น ทีม่ ีคณุ ภาพดีเลศิ อยเู่ สมอ ๑๐ - ๑๒ ไม่ผา่ น มีผลงานท่แี สดงถงึ ความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ๙ - ๑๐ ที่มคี ุณภาพเปน็ ทย่ี อมรบั ได้ มีผลงานทแ่ี สดงถงึ ความสามารถในการอ่าน คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขียน ที่มคี ณุ ภาพเปน็ ทย่ี อมรับได้ แตย่ งั มขี อ้ บกพร่อง บางประการ ไมม่ ีผลงานทแ่ี สดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวเิ คราะห์และเขียน หรอื ถา้ มผี ลงาน ผลงานน้ันยงั มขี ้อบกพร่องท่ี ตอ้ งการไดร้ บั การปรบั ปรุงแก้ไขหลายประการ
๘๒ อภธิ านศัพท์ การเดาความหมายจากบริบท (context clue) การเดาความหมายของคำศัพท์หรือข้อความที่ไม่ทราบความหมายโดยไม่ต้องเปิดพจนานุกรม เป็นการเดาความหมายนัน้ โดยอาศัยการชีแ้ นะจากคำศพั ท์หรือข้อความท่ีแวดล้อมคำศัพท์หรอื ข้อความที่อ่าน เพ่ือช่วยในการทำความเข้าใจหรอื ตีความหมายของคำศพั ท์หรือข้อความท่ีไมเ่ ข้าใจความหมาย การถ่ายโอนขอ้ มลู การแปลงข้อมูลที่ผู้ส่งสารต้องการจะสื่อสารให้ผู้รับสารเข้าใจความหมายในรูปแบบที่ต้องการ เช่น การถ่ายโอนข้อมูลที่เป็นคำ ประโยค หรือข้อความไปเป็นข้อมูลที่เป็นกราฟ สัญลักษณ์ รูปภาพ แผนผัง แผนภูมิ ตาราง ฯลฯ หรือการถ่ายโอนข้อมูลที่เป็นกราฟ สัญลักษณ์ รูปภาพ แผนผัง แผนภูมิ ตาราง ฯลฯ ไปเป็นขอ้ มูลทเ่ี ป็นคำ ประโยค หรอื ขอ้ ความ ทกั ษะการส่ือสาร ทักษะการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ซึ่งเป็นเครื่องมือในการรับสารและส่งสาร ด้วยภาษา นัน้ ๆ ได้อย่างส่ือความหมาย คลอ่ งแคลว่ ถกู ต้อง เขา้ ถงึ สารได้อย่างชัดเจน บทกลอน (nursery rhyme) บทร้อยกรองสำหรบั เด็ก ท่ีมีคำคล้องจองและมีความไพเราะ เพือ่ ชว่ ยใหจ้ ดจำได้งา่ ย บทละครสั้น (skit) งานเขียนหรือบทละครสั้นที่มีการแสดงออกด้วยท่าทางและคำพูด ทำให้เกิดความสนุกสนาน อาจเป็นเรอ่ื งที่มาจากนทิ าน นยิ าย ชวี ิตของคน สัตว์ ส่ิงของ หรอื ตัดตอนมาจากงานเขียน ภาษาท่าทาง การสื่อสารโดยการแสดงท่าทางแทนคำพูดหรือการแสดงท่าทางประกอบคำพูด เพื่อให้ความหมาย มีความชัดเจนยิ่งขึ้น การแสดงท่าทางต่าง ๆ อาจแสดงได้ลักษณะ เช่น การแสดงออกทางสีหน้า การสบตา การเคล่ือนไหวศีรษะ มอื การยกมือ การพยกั หน้า การเลิกค้ิว เป็นต้น วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา วิถีการดำเนินชีวิตของคนในสังคมที่ใช้ภาษานั้น นับตั้งแต่วิธีการกินอยู่ การแต่งกาย การทำงาน การพักผ่อน การแสดงอารมณ์ การสื่อความ ค่านิยม ความคิด ความเชื่อ ทัศนคติ ขนบธรรมเนียมประเพณี เทศกาล งานฉลอง และมารยาท เป็นต้น สอ่ื ที่ไมใ่ ชค่ วามเรยี ง (non-text information) สิ่งที่ใช้สื่อสารแทนคำ วลี ประโยค และข้อความ เช่น กราฟ สัญลักษณ์ รูปภาพ สิ่งของ แผนผัง แผนภูมิ ตาราง เป็นต้น
Search