คํานํา เนื่องจากธุรกิจรถยนตในปจุบันมีการแขงขันที่รุนแรงทั้งดานการขายและการ ใหบริการเพ่ือจะทําใหลูกคามีความพึงพอใจสูงสุด ดังนั้นในสวนของศูนยบริการจําเปนที่ จะตอ งใหบรกิ ารลูกคาใหด ีทีส่ ุด ทง้ั ดานฝม อื ของชา งซอ มและการใหบรกิ ารทรี่ วดเร็ว ส่ิงสําคัญที่ชวยทําใหชางใหบริการลูกคาไดอยางรวดเร็วนอกจากฝมือ น้ันคือ เคร่ืองมือและอุปกรณของศูนยบริการน้ันเอง ซ่ึงพนักงานของศูนยบริการสวนใหญไดมี การดูแลบํารุงรักษาเครื่องมืออยูบางแลวแตยังมีบางเร่ืองท่ียังขาดความรูความเขาใจ ทํา ใหบางครั้งเกดิ การเสยี หายตอ เครือ่ งมือ สงผลใหเ ครื่องมอื มีอายุการใชง านทีส่ นั้ ลงและทํา ใหเสียคาใชจายโดยไมจําเปนในการจัดซื้อหรือซอมแซม ทําใหเสียเวลาในการใหบริการ ลูกคาและอาจทาํ ใหเ กดิ อนั ตรายตอ พนักงานได ดังนั้น พนักงานของศูนยบริการควรมีความรูความเขาใจเกี่ยวกับเคร่ืองมือ, การบํารุงรักษาประจําวัน ,การบํารุงรักษาประจําเดือน หรือสามารถซอมเคร่ืองมือหรือ อุปกรณไดดวยตนเอง โดยไมตองเปล่ียนใหมท้ังหมด ซึ่งเปนการลดคาใชจายภายใน ศนู ยบรกิ าร อนึ่งวิธีการบํารุงรักษาในคูมือเลมนี้เปนเพียงสวนหนึ่งท่ีจะชวยใหศูนยบริการ ลดคาใชจายในการสั่งซื้อ,สั่งซอมเคร่ืองมือและชวยใหมีเคร่ืองมือที่พรอมใชงานอยูเสมอ สงผลใหงานบริการรวดเร็วข้ึน ซึ่งรายละเอียดการบํารุงรักษาของเครื่องมือที่มีอยูในคูมือ เลมน้ีอาจจะไมครอบคลุมเคร่ืองมือที่มีอยูในศูนยบริการของทานทั้งหมด ดังน้ันจึงขอให ทานศกึ ษาวธิ กี ารบํารุงรักษาเคร่อื งมอื จากคมู ือที่บริษัทผูผลติ ไดใ หไ วดวย ทางฝายบริหารศูนยบริการและอบรมจึงหวังเปนอยางยิ่งวาเน้ือหาในคูมือเลม นีจ้ ะเปนประโยชนตอศนู ยบ รกิ ารของทานไดเ ปน อยา งดี ฝา ยบริหารศนู ยบ รกิ ารและอบรม บรษิ ทั ตรีเพชรอีซูซเุ ซลส จาํ กดั
สารบัญ หนา หวั ขอเครอื่ งมือ 1–2 3–4 1. เครือ่ งมือประจาํ ตวั ชาง 2. ปนลม 5 3. ประแจปอนด 6 4. เคร่อื งทดสอบหวั ฉีด 7 5. เครื่องมือบรกิ ารแอร 8 – 11 6. เคร่อื งต้ังศนู ยล อ 12 – 13 7. เคร่อื งมอื ถอดยางอัตโนมตั ิ 14 – 15 8. เครือ่ งถวงยางรถเลก็ 16 9. เครื่องมอื เจียรจานเบรก 17 10. แทน หนิ เจยี ร 18 - 19 11. สวา นแบบต้ังโตะ 20 12. แทน อดั โฮดรอลกิ 21 13. ปากกาจบั ช้นิ งาน 22 14. แมแ รง 23 – 28 15. ลฟิ ทย กรถ 29 - 31 16. ปม ลม 32 - 34 17. เครื่องลางชิน้ สวน 18. สายจายลม และนา้ํ มนั แบบมวนเกบ็ อตั โนมัติ 35 – 36 37 ( HOSE REEL ) 19. ถังดับเพลงิ
1. เครือ่ งมือประจําตวั ชา ง - เคร่ืองมือประจาํ ตัวชางเปน ส่งิ ทส่ี าํ คญั ในการประกอบธุรกจิ การใหบรกิ ารซอ มรถยนต ดังน้นั หลงั จากการใชงานทกุ คร้ังควรมกี ารจดั เก็บทดี่ ี และมกี ารดแู ลรักษาเปน ประจาํ เพอ่ื ใหเคร่อื งมือ อยูในสภาพท่พี รอมใชง านอยเู สมอ รูป : เคร่อื งมอื ประจําตวั ชางท่มี กี ารจดั เก็บทดี่ ี รปู : เครื่องมอื ประจาํ ตัวชา งทขี่ าดการจัดเก็บ สภาพหวั คอ นที่บานควรทาํ การเจยี ร และตกแตงใหอ ยใู นสภาพสมบรู ณ สภาพไขควงทปี่ ากสกึ หรอใหแตง ดวยตะไบอยาใชก าร เจยี รเพราะจะทําใหความเหนยี วและความแข็งแรงลดลง
การบํารงุ รักษาประจาํ วนั 1. ทําความสะอาดทุกคร้ังหลังเลิกใชงาน 2. ตรวจเช็กเคร่ืองมอื ทกุ ครั้งหลังเลกิ ใชง านวา เครือ่ งมืออยูในสภาพที่ชาํ รดุ หรอื สญู หายหรือไม 3. ไมควรนาํ อะไหลเกา ของลูกคา หรือเศษขยะมาเก็บไวในตูเครอ่ื งมอื 4. หลังเลกิ ใชง านทุกครง้ั ควรนาํ เครอ่ื งมอื เก็บเขา ที่ใหเ รียบรอย การบาํ รุงรักษาประจําเดอื น ตรวจเช็กความพรอ มของเครอ่ื งมือประจาํ ตัวชา งวาอยใู นสภาพทพี่ รอ มใชง าน,ชํารุด หรอื สูญหาย ขอ ควรระวัง ไมควรนําขวดน้ํามนั เบรกมาวางไวทตี่ เู ครอื่ งมือโดยไมมกี ระดาษหรือยางมารอง เพราะจะทาํ ใหส ขี อง ตูเครื่องมอื หลดุ รอ น หมายเหตุ ♦ เครอ่ื งมือทช่ี าํ รุดไมค วรนําออกมาใชง านเพราะจะทําใหเ กดิ อนั ตรายตอผูป ฏบิ ัติงานและชนิ้ สว นของ รถยนตไ ดรับความเสียหาย เชน สกัดท่หี วั บาน, คอนท่ีดามหลวม, ประแจทีป่ ากชํารดุ และไขควงทีป่ ากชาํ รดุ ♦ ถาพบวา เครือ่ งมอื ประจําตัวชางชํารดุ ควรแจง หัวหนา หรอื เจาหนา ทท่ี ี่รับผดิ ชอบใหรบั ทราบเพ่ือจะ ไดด ําเนนิ การจัดซอ้ื หรอื ส่ังซอมตอไป
2. ปนลม ปน ลมท่ีใชกันอยใู นปจจุบนั มีหลายแบบและหลายขนาดข้ึนอยูกับความเหมาะสมของงานนัน้ ๆหรอื อาจ เรียกตามขนาดของบล็อกที่จะใช เชน นัตหรือโบลต ท่ีไมตองการแรงขันมากก็จะเรียกปนลมขนาดเล็ก ถานัต หรือโบลตใหญข้ึนก็ตองการแรงขันมากก็จะใชปนลมที่มีขนาดใหญข้ึนตามลําดับ หรือเรียกตามขนาดของปน ลม เชน ปน ลมเล็กปน ลมกลาง-ใหญ และปน ลมขาง จุดท่หี ยอดนํา้ มนั หลอ ล่ืน ขนาดของปน ลม จะแบง ตามขนาดของหัวปนลมมขี นาดตั้ง แต 3/8 น้ิว,1/2 นิว้ และ 1 นิว้ ทน่ี ิยมใชกนั มากใน ปจจบุ นั สว นการใชง านตองขึน้ อยูกับขนาดของนตั หรือ โบลตทีจ่ ะทาํ การถอดหรอื ใส ถา เปนการถอดหรือการ คลายนัตทแ่ี นน มากๆ เมอื่ ใชป น ลมแลวนัตหรือโบลตยงั ไมค ลาย ควรใชบ ล็อก และดา มขันแขง็ ทําการคลายนัต กอ นเพอ่ื ปอ งกันปน ลมไดรบั ความเสียหาย การใชง าน และการบํารุงรักษาปน ลม 1. ทําความสะอาดทกุ คร้งั หลังเลกิ ใชง าน 2. ใชนํ้ามันหยอดทุกสัปดาห ( ใชน้ํามันหลอล่ืน SAE เบอร10 ) หยอดท่ีทางลมเขาหรือที่จุดท่ีหยอดนํ้ามัน ของบล็อกลม 3. ตรวจเชก็ จาระบหี ลอเลี้ยงทอ นหนาทุกเดือนหรอื ทกุ การถอดยาง-ใสย าง (1,000 เสน ) * จาระบีท่ีใชจ ะตอ งเปน จาระบกี นั กระแทกผสมกราไฟท อยางเหลว 4. การยิงปน ลมแตละคร้ัง ตอ งไมเ กิน 5 วนิ าที และไมค วรยงิ ซํ้าหลายๆ คร้งั
5. หามใชปนลมเกินกําลัง ถาใชตามขอ 4 แลว ยังไมสามารถคลายนัตออกไดตองเปล่ียนปนลมใหมีขนาด ใหญข้ึน (ในกรณีที่ปนลมขนาด 4 หุน ใหเปล่ียนเปน 6 หุน แลวใชขอลดลม 6 หุน เหลือ 4 หุน ชวยหรือใชนํ้า ยากัดสนิมชวย มิฉะนั้นบลอ็ ก ลมจะเสยี หาย) 6. การใชปน ลมตอ งปรับความแรงลมใหเ หมาะสมในการใชงานแตละครง้ั การตรวจสอบเบ้ืองตน เมอ่ื ปน ลมมีปญ หา เม่อื ไดย ินเสยี งผิดปกติหรอื รสู ึกวาปนลมไมแรงเหมอื นเดมิ ใหหยุดใชง าน แลว ตรวจสอบเบือ้ งตนดังนี้ A. ตรวจสอบวา หยอดน้าํ มนั หรือยัง B. ถอดดูทอนหนา วามจี าระบหี รือไม C. ตรวจสอบโรเตอรว า ติดหรือไม โดยการใชม ือหมุนท่ีแกนโรเตอรจ ะตองหมุนได D. ถาตรวจสอบวาเปนท่ีโรเตอร หรือไมพบสาเหตใุ หตดิ ตอผชู าํ นาญงานเพ่อื ทําการตรวจสอบและซอม เพราะทอ นหลงั มีความละเอียดออนมาก ถา ฝนใชจ ะทาํ ใหเ กดิ การเสียหาย ขอ ควรระวงั 1. ตรวจสอบส่งิ ผิดปกติทุกครง้ั ขณะปฏบิ ตั ิงาน หรือเลกิ ใชง าน ถา พบสง่ิ ผดิ ปกตคิ วรตดิ ตอผดู ูแลเคร่อื งมอื เพ่อื ทาํ การแกไข เชน ปน ลมไมแ รง ก็ไมค วรนาํ ปน ลมออกไปใชงาน 2. ขณะใชง านตองมั่นใจวาภายในสายลม ไมม ีนํา้ ผสมอยู 3. น้ํามนั หลอล่นื ทีใ่ ชต องเปน นํ้ามนั เบอร SAE 10 4. ขณะใชงานระวงั ไมใหป น ลมตกหลน กระแทกกบั พื้น เพราะจะทําใหป น ลมไดร ับความเสียหาย ลกู บล็อก ลกู บลอ็ กที่ใชอ ยูในศนู ยบ ริการจะมีอยูดว ยกัน 2 แบบ คือ 1. แบบ 6 เหลย่ี ม 2. แบบ 12 เหล่ยี ม *แบบ 6 เหล่ียม มีผิวสมั ผสั กบั หวั โบลต-นตั มากทาํ ใหโ อกาสในการล่นื จากหวั โบลต-นตั เกดิ ขน้ึ ไดย าก และเนื่องจากมเี หลยี่ มนอยจึง ไมเหมาะสาํ หรบั ขนั หรอื คลายโบลต-นตั ที่เปน สนมิ หรือตดิ แนนมากๆ การบาํ รงุ รกั ษา 1. ทาํ ความสะอาดทุกครัง้ หลังใชง าน 2. ตรวจสภาพของลกู บล็อกใหอยใู นสภาพท่ีสมบรู ณ ไมมรี อยแตกรา ว 3. ตรวจสภาพเหลย่ี มของลกู บล็อก วา สกึ หรอหรือไม ขอควรระวัง 1. ไมค วรนําลูกบล็อกท่มี รี อยแตกรา วมาใชงาน เพราะจะเกดิ อนั ตรายตอผใู ชง าน 2. ไมควรนําลกู บลอ็ กที่เหลย่ี มของลูกบล็อกสกึ หรอ ออกมาใชง าน เพราะจะทําใหหวั นตั รดู
3. ประแจปอนด ปจจุบันประแจปอนดมีความจําเปนตอศูนยบริการ และสําคัญมากท่ีศูนยบริการมาตรฐานจะตองมี ใช เพราะการกวดขันนัตตางๆ มีความจําเปนจะตองใหไดตามคามาตรฐานตามท่ีคูมือกําหนด ประแจปอนดมี อยูดวยกันหลายแบบ ไดแก 1. แบบแรงบดิ ( RATCHET PRESET TYPE ) 2. แบบเข็ม ( DIAL TYPE ) 3. แบบ ดิจติ อล การใชงานขึ้นอยูตามความเหมาะสมตามขนาดของนอตทเ่ี ราจะทําการตรวจเช็กหรอื กวดขนั ปจจุบันนิยมใชมี ขนาดต้งั แต 1. ขนาด 100-450 กก./ซม. 2. ขนาด 400-1800 กก./ซม. 3. ขนาด 400-2800 กก./ซม. 4. ขนาด 2000-14000 กก./ซม. รูป : ประแจแบบแรงบิดขนาด ( 100-450 กก./ซม. ) จุดที่ปรบั ตั้งคาแรงขนั ลกั ษณะการใชง าน 1. ประแจปอนดสามารถใชก ับลูกบล็อกขนาดตางๆ กัน เพื่อเหมาะสมกับขนาดของ โบลต-นตั 2.ใชป ระแจธรรมดาเพอ่ื เร่มิ ตน การขันโบลต- นัต กอน แลว ใชประแจปอนดขัน ในขัน้ ตอนสดุ ทาย 3.ขณะใชป ระแจปอนดข นั ควรเลือกลกู บล็อกใหเหมาะสมกบั ขนาดของโบลต- นัต แลว ใชม ือซา ยกดบรเิ วณหัว ประแจไว เพอ่ื ปองกันลูกบลอ็ กพลาดหลุดออกจากหัว โบลต-นัต แลวดึงดามจับของประแจปอนดเ ขาหาตวั การบํารงุ รกั ษาประจาํ วัน 1. หลังเลกิ ใชงาน ควรคลายหรือเซท็ คา แรงขนั ใหอยูในตําแหนงทตี่ า่ํ สุด 2. ทาํ ความสะอาดหลังเลกิ ใชงาน การบาํ รุงรกั ษาประจาํ เดอื น ทําการปรับแตงทดสอบเปรียบเทียบแรงขันเดือนละครั้งแบบงายๆซ่ึงสามารถตรวจเช็คไดเอง โดยตั้ง แรงขนั ท่ปี ระแจปอนดแ ลวสวมกบั นัตหรอื โบลทเพ่อื ทจี่ ะทดสอบโดยใชสปรงิ ดงึ ปลายดา มขันทด่ี ามปอนด คา ของนํ้าหนัก (กก.) ท่ีอา นไดจากตาช่ังสปริง เม่ือคูณดวยระยะแขนของดามปอนดแลวจะตองเทากัน กรณีที่คาที่ อา นไดผ ิดพลาดมากควรสงบริษทั ผผู ลิตเพ่อื ทาํ การปรับแตง คาท่ีถกู ตอ งใหใหม ขอ ควรระวงั ♦ ไมค วรนําประแจปอนดไปใชในการคลายโบลต-นตั เชน นัตลอ ,นัตฝาสูบ,นัตกน อาง,เกยี ร,เฟองทา ย ♦ ถา พบสิ่งผดิ ปกติ ควรแจงผรู ับผิดชอบโดยดว น อยาปลอ ยทง้ิ ไว และอยา นาํ ออกมาใชงานเพราะจะทําให คา ทีอ่ านได ไมเปนมาตรฐาน
4. เคร่อื งทดสอบหวั ฉดี ลกั ษณะการใชง าน เครอื่ งทดสอบหวั ฉีดนีใ้ ชเพื่อทดสอบแรงดนั และลักษณะการเปน ละอองของหวั ฉีด เครอ่ื งทดสอบหวั ฉีด ประกอบดวย ถังนํ้ามนั ,คนั โยก, เกจวัดความดัน มีหนว ยวดั เปน กก./ตร.ซม ตง้ั แต 0 - 350 กก./ ตร.ซม. หรือตั้งแต 0 – 500 กก./ตร.ซม วธิ ีการใชงาน 1. ติดตง้ั หวั ฉีดเขา กบั ทอ แรงดนั สูง ของเคร่อื งทดสอบ 2. กดคนั โยกลง ใหน าํ้ มันเขา หัวฉีด 3. ทดสอบแรงดันการฉีดตอนเปดลิ้น 4. ทดสอบลกั ษณะของละอองน้ํามัน ตอ งปด วาลวท่ีไปเกจวดั ความดนั กอน เพราะอาจทาํ ใหเ กจเสยี หายได การบาํ รุงรกั ษา -ทําความสะอาดทกุ ครัง้ หลังเลิกใชง าน ขอ ควรระวัง ∗หา มเอามอื รองนา้ํ มนั ท่ีออกมาจากหวั ฉดี เพราะทาํ ใหบ าดเจ็บได ∗ควรใชผ า ปด จมกู ทุกครงั้ เมอ่ื ทําการเชก็ หวั ฉดี ∗นาํ้ มันทใ่ี ชทดสอบจะตอ งสะอาดปราศจากสิง่ สกปรก
5. เครอื่ งมือบริการแอร โอริง ดา น Low Pressure ดา น High Pressure ระดบั นํา้ มัน การบํารุงรกั ษาเครอ่ื งมอื แอร 1. ทําความสะอาดทุกคร้ังหลังเลิกใชงาน 2. ตรวจสอบความผดิ ปกตขิ ณะปฏิบตั งิ านและเลิกใชงาน 3. ถา พบส่ิงผดิ ปกติควรตดิ ตอผูดแู ลเครื่องมือ มาทาํ การแกไ ขไมควรปลอยทิ้งไว หรือนาํ มาใชง านใหมเ พราะ อาจทําให อุปกรณ ไดร ับความเสยี หายเพ่ิมขนึ้ 4. ตววจเช็กระดบั นาํ้ มัน ทเ่ี ครื่องทําสญู ญากาศ ใหอยูในระดับท่ีกําหนด การบํารุงรักษาเกจวัดนาํ้ ยาแอร 1. ทุกๆสปั ดาห ทาํ ความสะอาด อยาใหม ฝี ุน หรือน้าํ ยาตกคาง เพราะจะทําใหค าท่ีอา นไดไ มต รง 2. ทกุ ๆ 6 เดอื น ตรวจเชก็ ซีลหรอื โอริงที่สายน้ํายา ตรวจสอบความเสียหายอยา งละเอียด ตรวจสอบรอยรวั่ ตามขอตอตางๆ ตรวจสอบวาลวเปด -ปด และปรับตัง้
6. เครอ่ื งต้งั ศนู ยล อ -เครื่องตัง้ ศูนยลอ โดยทว่ั ไปท่ีใชใ นศูนยบรกิ ารมีอยูดวยกนั 2 แบบ คอื 1. แบบหลุม 2. แบบสะพาน 1.เครื่องตัง้ ศูนยล อ แบบหลุม เคร่อื งมือวดั มุมลอแบบระดับนา้ํ การบํารุงรักษาเคร่อื งมอื วดั มมุ ลอแบบระดบั น้าํ - หลังเลิกใชงานควรทาํ ความสะอาดทุกครงั้ โดยเฉพาะบริเวณหนา สัมผสั ซ่งึ เปน แมเหลก็ ขอ ควรระวัง: ระวงั อยา ใหเครื่องมือวดั มมุ ลอ แบบระดบั นํ้าตกหลน กระแทกกับพ้ืน เพราะจะทําใหกระเปาะแกว ไดร ับ ความเสยี หายและไมสามารถใชงานได หนา สัมผสั เปนแมเหล็ก ตัวจบั ขอบกระทะแม็ก การบํารงุ รกั ษาตัวจบั ขอบกระทะแมก็ 1.หลังเลิกใชงานควรทาํ ความสะอาดทกุ คร้งั 2. หลอลน่ื เกลยี วดว ยจาระบี ขอควรระวัง : ระวังอยา ใหต ัวจับขอบกระทะแม็กหลนลงพนื้ เพราะจะทาํ ใหเ กดิ การเสียหายได
แมแ รงลม การบาํ รงุ รกั ษาแมแรงลม 1. หลงั เลิกใชงาน ควรทาํ ความสะอาดทกุ ครั้ง 2. ทําความสะอาดกระบอกไฮโดรลิกดวยผาสะอาด ทําความสะอาดดวยผา ทกุ ครัง้ 3. ตรวจเช็กรอยรั่วของลม ขณะปฏบิ ตั ิงาน ทุกครั้ง 4. ตรวจเช็กรอยแตกรา ว ของตวั แมแ รง ขอ ควรระวัง 1. เมอ่ื ขนึ้ แมแ รงลมทกุ ครง้ั ควรมขี าตง้ั ,STAND รอง เพอ่ื ความปลอดภยั ในการทาํ งาน 2. เม่ือพบวาแมแรงลมร่วั ไมควรนํามาใชงาน ควร ติดตอ ผรู ับผิดชอบดาํ เนนิ การแกไ ข 3. ควรใชไ มรองท่หี วั ลูกสบู ของแมแ รง ทุกครงั้ ที่ใช งานเพ่อื ปอ งกันการเสียหาย แทนเพลทต้งั ศนู ยล อ การบํารงุ รักษาแทน เพลทตัง้ ศูนยล อ ประจําวัน -ทําความสะอาดแทน เพลทตัง้ ศูนยลอ และบรเิ วณโดยรอบทุกวนั หลังเลกิ ใชงานเพ่อื ไมใหมี ฝุน ทรายเขาไปใตแทนเพลทเพราะจะทําใหบ รเิ วณจุด หมุนและลูกปน สกึ หรอได การบาํ รุงรักษาประจาํ สัปดาห - หลอลื่นจุดหมนุ และทาํ ความสะอาดทกุ สัปดาห การบาํ รงุ รกั ษาทุก 6 เดอื น 1. เปดฝาแผน เพลททําความสะอาด ตรวจสอบลกู ปน วา มกี ารสึกหรอหรอื ไม 2. หลอ ลื่น ดวยจาระบีหลอ ลื่นทุกๆ 6 เดอื น
SIDE SLIP TESTER การบํารุงรกั ษา SIDE SLIP TESTER ประจําวนั 1. ทาํ ความสะอาดทกุ ครงั้ หลังเลกิ ใชงาน 2. แผนเล่อื นดา นบนทัง้ ซาย และ ขวาตอง สะอาดและเล่ือนไปแลว จะ ตอ งกลบั เขา ท่ี ( ตรงศูนย ) ทุกครั้ง 3. ทดสอบโดยใชแ รงดึงแผน เลอื่ น SIDE SLIP TESTER ( เลือ่ นได 5 มม.จะตอ ง ออกแรงดงึ ไมเกนิ 8 กก. ) 4. หากเขม็ มิเตอรไ มต รงเลขศนู ยใ หป รับต้ัง ท่ีตัวSIDE SLIP จนกวาเขม็ ของมิเตอรจ ะ อยูทเี่ ลขศูนยก อ นใชง าน การบํารงุ รักษาประจาํ สปั ดาห 1.เปดฝากลาง ฝาขา งซา ยและขวา และฝาฐานมเิ ตอรออกหยอดน้าํ มันเครือ่ งตามจดุ หมุน และลกู ปน ตา งๆ 2.ตรวจดอู ยาใหมีสิ่งสกปรกอยูภ ายในเคร่อื งโดยเฉพาะอยางย่ิงอยา ใหมีนา้ํ ขงั อยู การตรวจสอบและบํารุงรักษาทกุ ๆ 6 เดอื น 1. เปดฝาครอบทั้งหมดออก และยกแผน เลื่อนท้งั สองขา งออก ทาํ ความสะอาดภายในทัง้ หมดดว ย \"นาํ้ มนั กาด\" และหยอดนํา้ มนั เครือ่ งตามจุดหมนุ และลูกปน ท้ังหมด เวลายกหรือถอดช้นิ สว นตางๆ ระวงั อยาใหตกหรือโดนกระแทก 2. เวลาประกอบเครอ่ื งเขาทห่ี ลังจากทาํ ตามขอ ท่ี 1 แลวใหปรบั แขนยดึ ใหพ อดี ไมแนนและหลวม จนเกนิ ไป คอื ตอ งต้ังใหแนน แตเ คล่อื นทไี่ ดสะดวก ขอ ควรระวงั 1. อยานาํ รถทีม่ นี ้าํ หนกั เกินกวากําหนดเขา เครอ่ื งต้งั ศูนย 2. เมือ่ เลกิ ใชงานทุกครง้ั ใหล ็อคตวั ล็อค และปดสวิทชไ ฟฟาทุกครั้ง 3. อยาใชน ้ําฉดี ลา งเครอื่ ง หากทําความสะอาดเคร่ืองใหใ ช ผาชุบนาํ้ มันกาดมาเช็ดถู 4. หากไมจ ําเปนเวลาเดินผานเคร่อื ง อยาเหยียบบนแผน เลอ่ื นหรอื นําสงิ่ ของวางบนเครอ่ื งและ อยา นํารถจอดท้งิ ไวบ นเคร่ืองต้ังศูนยลอ 5. เวลาขับรถทดสอบมมุ ลอ บนแผนเล่อื นใหขบั ชา ๆ ( ความเรว็ ไมเกนิ 10 กม./ชม. ) 6. หา มเบรกรถขณะขับรถผานแผนเลอ่ื น 7. หลังเลกิ ใชง านทุกครงั้ จะตอ งลอ คแผน Plate ของ Side Slip Tester ทกุ คร้ัง และอยา ลืมปดสวทิ ชไฟฟา 8.กอนทีจ่ ะทาํ ความสะอาดSideSlipTesterทุกคร้งั อยา ลมื ถอดปลัก๊ ไฟ หมายเหตุ: ใชจ าระบเี บอร 2 หรอื 3 หรอื นา้ํ มันเครือ่ งหลอล่นื หากพบสง่ิ ผดิ ปกติควรแจง ใหผูรับผดิ ชอบทราบ
2. เครอ่ื งตั้งศนู ยลอแบบสะพาน การบาํ รงุ รกั ษาประจําวนั 1. ทาํ ความสะอาดทกุ วันหลังเลิกใชง าน 2.ใชผาคลมุ กนั ฝุน, กันละอองน้ํา 3. ถายน้ําออกจากกรองดักน้าํ ทกุ วัน การบํารงุ รกั ษาทกุ สปั ดาห -ตรวจเช็กทาํ ความสะอาดเพลทต้งั ศนู ยลอ และหลอ ลน่ื ทกุ สปั ดาห การบํารงุ รักษาทกุ 1 เดอื น 1.อัดจาระบีจุดหมุนสะพานทกุ ๆ 1 เดือน 2.ตรวจระดบั ความสงู ของสะพานท้งั 2ขา งเพื่อความถกู ตองในการปรบั ตั้งศนู ยลอ การบํารงุ รกั ษาทุก 6 เดือน 1. ตรวจสอบลูกปน เชก็ สภาพและหลอลืน่ ทุกๆ 6 เดือน 2. ระบบคอมพวิ เตอรถาชาํ รดุ เสยี หายคา ท่ีอา นไดผิดเพย้ี นควรแจงผรู ับผดิ ชอบ การบาํ รงุ รักษาทุก 1 ป ตรวจเช็กระบบคอมพวิ เตอรทกุ ๆ 1 ป หมายเหตุ♦ใชจาระบเี บอร 2 หรอื 3 หลอ ลนื่
7. เครือ่ งมือถอดยางอัตโนมัติ อุปกรณก ารทํางาน 1. ชุดควบคมุ การลอ็ ค และปลดลอ็ ค ของแทง 3 2 เพลาหกเหล่ยี ม 2. อปุ กรณส ําหรับถอด-ใส ยาง 9 3. ลูกกลง้ิ 4. ชดุ ควบคมุ การโยกของแกนเสาหลกั 5 7 5. ชดุ ควบคมุ การจับยึดขอบกระทะลอ 6 6. ชุดควบคุมแปน กดขอบยาง 7.ชดุ แปน กดขอบยาง 8 7. ชุดควบคมุ ทิศทางการหมุน 8. ชดุ แปน กดขอบยาง 4 9. เหล็กงัดยาง กรองดักนา้ํ ข้นั ตอนการถอดเปล่ยี นยาง 1. ปลอ ยลมยางออกจนหมด 2. ดึงแปนขอบยางออกจากตําแหนงปกติ และนาํ ลอเขามาไวตําแหนงเตรียมกดขอบยางใหห ลดุ จากกระทะลอ กับวงในยางรถยนตจ ะหลุดออกจากขอบกระทะ ใหทําอยา งนีอ้ กี 2-3 ครัง้ โดยการหมุนลอไปตําแหนงท่ียาง ไมห ลดุ 3. ใหนําลอรถมาวางบนจานจบั กระทะลอ แลว เหยียบแปน หมายเลข 5 เพื่อล็อคกระทะลอ กบั จานจับกระทะลอ 4. ดงึ แกน 6 เหล่ยี มลงมาอยเู หนือกระทะลอ และอยูในขอบตําแหนง ในขอบกระทะลอ พรอมลอ็ คใหอ ยู ตาํ แหนงดงั กลาวดวย 5. ใชเ หลก็ งดั ยาง งัดยางใหพ นกระทะขอบลอ โดยใหสัมพนั ธก บั แปนเหลก็ ถอด-ใส ทีต่ ดิ อยูป ลายแกน 6 เหล่ยี ม 6. เหยยี่ บแปนหมายเลข 7 เพอื่ หมนุ จานจบั กระทะลอ จนกระทั้งยางหลุดจากกระทะลอ ทง้ั หมดวง 7. ทาํ ตามขอ 5, อีกครั้ง สาํ หรับขอบยางอกี ดา นของกระทะลอ
8. ปลดลอ็ คแกน 6 เหลย่ี ม เลื่อนขน้ึ ใหอยูในตาํ แหนง เดมิ 9. ปลดลอ็ คจานจับกระทะลอ เพอื่ ใหจานจับกระทะลอเปนอิสระ 10.นํากระทะลอ และยางออกจากเครอ่ื งถอดยาง เพอ่ื นําไปแกไข ขัน้ ตอนการใสย างเขา กบั กระทะลอ 1.ใหทาสารหลอ ลื่น เชนทาน้าํ สบู ท่บี รเิ วณในของขอบยาง 2. นํากระทะลอวางบนจานจบั กระทะลอ และเหยียบแปน หมายเลข (5) เพือ่ ลอ็ คกระทะลอ 3. เลือ่ นแกน 6 เหลย่ี ม ใหเขาอยใู นตําแหนงทาํ งาน แลว กดปมุ หมายเลข 2 4.ใหวางยางดา นหนึ่งอยบู นแปน ถอด-ใส ยาง และเอียงยางใหสัมพนั ธก ันกบั การใสยางดว ยมอื ในระหวางน้ี ให เหยียบ จะถกู ใสในกระทะไปดา นหน่งึ แลว ทําอกี ครัง้ สาํ หรับยางอกี ดา น 5. เตมิ ลมยางใหไดตามพิกัดทกี่ าํ หนด 6. ปลดลอ็ คแกน 6 เหลยี่ ม และผลักใหอยแู หนง ปกติ 7. ปลดล็อคจานจบั กระทะลอ การบาํ รุงรักษาประจําวัน 1. ทาํ ความสะอาดทุกครงั้ หลังเลกิ ใชง าน 2. หมั่นตรวจสอบระดบั นาํ้ ของอปุ กรณด กั นํา้ และปลอยน้าํ บริเวณกรองดกั นา้ํ 3. หลงั การใชงานควรตรวจเช็กนอตและโบลทใ หแนนอยเู สมอ และขนั ดว ยดา มปอนด ในกรณีท่นี อตมกี าร คลายตัว 4. เก็บแทง 6 เหลีย่ ม ( hexagonal shfts ) ทง้ั สอง และลูกลอ หลอ ลื่นของเคร่อื งมือ ( roller of the tool ) ในทๆี่ สะอาด การบาํ รุงรักษาประจําเดอื น 1. ทาํ ความสะอาดทุกครัง้ หลังเลกิ ใชง าน 2. ตรวจสอบนํา้ มนั เกียรท หี่ อ งสงกาํ ลงั ( Gear Box ) เมอื่ ถึงเวลากําหนด โดยใช น้ํามนั มาตรฐาน API DT/101 3. หลงั การใชง านควรตรวจเช็กนอตและโบลทใ หแนน อยูเสมอ และขันดว ยดามปอนด ในกรณที น่ี อตมกี าร คลายตัว 4. เกบ็ แทง 6 เหล่ียม ( hexagonal shfts ) ทั้งสอง และลกู ลอหลอล่ืนของเครือ่ งมอื ( roller of the tool ) ในทีท่ ่ี สะอาดและแหง ( ทาํ ความสะอาดโดยใชน า้ํ มันเคร่ือง ) หมายเหตุ ♦หากพบส่งิ ผิดปกติควรแจงเจา หนา ท่ี ทรี่ บั ผิดชอบ ♦ใชน้ํามนั เครอ่ื งเบอร 40 หลอลน่ื ปริมาณน้ํามันท่ี 15 วนิ าที ตอ 1 หยด ♦ใชน้ํามันเคร่ืองเบอร 40 นํ้ามนั เกียรเบอร API DT100
8. เคร่อื งถวงยางรถเล็ก สปริงฝาครอบลอขณะถวง - กอ นนาํ ลอมาถวง กอ นอน่ื ตอ งทําความสะอาดกระทะลอ และยางกอ น โดยการขจดั สงิ่ แปลกปลอม ออก จากกระทะลอเชน เศษหินที่ติดตามรองยาง เศษดนิ โคลนท่ีติดตามกระทะลอ และจะตอ งเติมลมยางใหถ ูกตอ ง ตามคาที่กาํ หนด ขนั้ ตอนการใชงาน ( เปนไปตามคูมือการใชข องเครอื่ งแตล ะรนุ ) 1. เปดสวิทชเคร่ือง เครือ่ งจะแสดงการทํางานโดยแบงออกเปน 3 สวน ตามแนวนอน สวนแรก ดานบนสุดเปนเครื่องหมาย MT-7501 สวนท่ีสอง เปน ขอมูลกระทะลอ และตําแหนงทไี่ มสมดลุ ของกระทะ สวนทสี่ าม สวนลางสดุ จะแบงเปน 6 ชอง ซง่ึ จะแสดงฟงช่ันตางๆ 2. เลอื กฟงช่ันการทํางาน( เปนไปตามคมู ือการใชของเคร่อื งแตล ะรุน ) ปุม P1 ปอนขอมูลกระทะลอดว ยมือ เลือกหนว ยของนา้ํ หนักเปน กรัม ปมุ P2 เลอื กโปรแกรม OPTIMIZATION ปุม P3 เลือกความถว งแบบละเอียดของการถว งแบบ 1 กรัม หรือ 5 กรัม ปุม P4 เลือกการถว งแบบ STATIC หรอื DYNAMIC ปมุ P5 เลือกการถวงแบบ ALU 6 ปุม P6 เลอื กระบบการวัดแบบ INCE หรือ MM. 3. ใสล อเขา กบั เพลาหมุน - เลอื ก TAPER CONE ใหเหมาะสม มีสามขนาด -ลอธรรมดาใสล อที่เพลาไดเ ลย และตามดว ย TAPER CONE และตวั ล็อคพรอม WASHER ตวั เล็ก ถา เปน MAX ตองใสสปรงิ และ TAPER CONE เขาไปกอ น แลว ตามดว ยลอ ตัวลอ็ คพรอ ม WASHER อนั ใหญ 4. ใสขอ มูลกระทะลอเลื่อนแทง DISTANCE SENSOR ออกจากขอบกระทะเครอ่ื งจะรอ ง \" BEEP \" 1คร้งั เลือ่ นแทง DISTANCE SENSOR กลับท่ีเดิม
5. ใสร ะยะความกวา งกระทะลอ 6. ใสขนาดเสน ผานศูนยกลางกระทะลอ 7. นาํ ฝาครอบลอ เล่อื นลงมาใหเครือ่ งทํางาน เครอ่ื งจะหมนุ 6-7 วินาที แลว จะหยดุ ยกฝาครอบลอ ขึ้นคาของ ตะกั่วทต่ี องการตอกจะอยู ดา นซา ย และขวา ดานซา ยจะตอกตะก่ัวดา นใน ดานขวาจะตอกตะกัว่ ดา นนอก 8. หาตาํ แหนง ท่ตี องการตะกว่ั ดานใน-ดา นนอกหมนุ ลอดว ยมือชา ๆ สงั เกตภุ าพ 3 เหลีย่ ม ดานลางดานบน ของชอ งบอกน้ําหนกั ตะกัว่ ซาย-ขวาตาํ แหนงท่ีถูกตอ งรปู 3 เหลี่ยมตองขนึ้ พรอ มกนั และเปน สเี ขยี ว และที่ ตาํ แหนงนีค้ อื 12 นาฬกิ า 9.ตอกตะกัว่ ทีต่ าํ แหนง ขอ 8 ที่น้ําหนกั ตะกว่ั เทากับทป่ี รากฏบนจอ 10. ลองเดนิ เครื่องอีกครงั้ โดยการปด ฝา 11. ดคู านํ้าหนกั ตะกั่วตองเปน ศนู ยทงั้ สองขาง ถามคี า ตวั เลขปรากฏอยแู ดงวา ลอไมสมดุลยแสดงวาตาํ แหนง ท่ี ตอกตะกัว่ คลาดเคล่ือน การบํารงุ รักษาประจําวัน 1. หลอ ลืน่ จดุ หมุนตา งๆและแกนเพลา 2. ทําความสะอาดโดยรอบ และหนา จอมอนเิ ตอร 3. หลงั การใชง านควรเช็กนอตและโบลทใ หแ นน อยเู สมอ 4. ปลอ ยนํ้าทีบ่ ริเวณกรองดักนา้ํ การบาํ รุงรกั ษาประจาํ เดอื น 1. ตรวจสอบนํ้ามนั เกียรที่เกียรบอ ก เมื่อน้ํามันเกยี รห มดสภาพ 2. ตรวจสอบความตงึ ของสายพานใหตงึ อยูเสมอ 3. หมนั่ ตรวจสอบสปริงฝาครอบ ขอ ควรระวัง ∗การตดิ ต้ังเครอ่ื งไมควรใหโ ดนแสงแดดหรอื ฝนและไมควรตดิ ตงั้ ในพนื้ ท่ที ช่ี ืน้ แฉะเพราะอาจทําใหเคร่อื ง คอมพิวเตอรไดรบั ความเสียหายไดง าย หมายเหตุ ♦ใชนาํ้ มนั เครอ่ื งเบอร 40 หลอ ล่นื ♦การตรวจสอบครั้งใหญต อ งลางดว ย \"นา้ํ มนั กา ด\"
9. เครอ่ื งมอื เจียรจานเบรก จดุ ท่หี ลอ ลืน่ จดุ ท่หี ลอ ลนื่ การบาํ รงุ รักษาประจําวัน 1. ทาํ ความสะอาดบริเวณจดุ ตา งๆของเครอ่ื งเจยี รจานเบรกทกุ ครงั้ หลังเลกิ ใชงาน 2. ทําความสะอาดแผงไฟฟา 3. ทําความสะอาดหนา สัมผัสของแกน ( arbor ) และศนู ยดอกจอก ( cone )กอ นและหลงั การใชงานทุกครัง้ เพือ่ ความถกู ตอ งในการต้งั คา ในการเจยี ร การบํารุงรกั ษาประจาํ เดอื น 1. หลอลื่นและทดสอบจุดหมุนปรับปอ นมีด 2. เปดฝาหลอล่ืนแกนเพลาดา นหนา 3. หลอ ลืน่ รางเลือ่ นทง้ั สองขา ง 4. หลอ ลื่นมือหมุนปรบั เขา -ออก 5. ทาํ ความสะอาดเครอ่ื งเจียรจานเบรกเปนประจาํ การตรวจสอบอ่นื ๆ เพือ่ ความปลอดภยั 1. ตรวจสอบตัว LIMIT SWITCH 2.ตรวจสอบแผงไฟฟา ขอควรระวงั ∗สวมแวนตาทกุ ครัง้ ในขณะปฏบิ ัติงานเพอื่ ปอ งกันเศษเหลก็ จากการเจียร กระเดน็ เขาตา หมายเหต♦ุ ใชน า้ํ มันเครือ่ งหลอล่ืนเกลียวและจุดหมุนตางๆ
10. แทน หนิ เจียร ระยะหาง 4 มม. การด ปอ งกัน -ใชส ําหรบั เจยี ร และขัดผวิ ของชิ้นงาน เครือ่ งมอื เจยี รประกอบดวย มอเตอร,หนิ เจียร,แทน วาง ลกั ษณะการใชงานเพอ่ื ความปลอดภยั 1. กอนใชเคร่ืองหินเจียร ตองตรวจดูหินเจยี รกอนทกุ ครงั้ โดยการเคาะฟง เสียงดู เพราะถา หินเจยี รแตกจะเกิด อันตรายมากตอ ผูปฏบิ ัตงิ านและผูท ี่อยใู กลเ คียง 2. การเปลยี่ นหนิ เจียรจะตองใสแ ผนรองดว ยเสมอ ( ปกตแิ ผน รองจะมากับหนิ เจียร ) 3. เลือกขนาดรูหินเจยี รใหเ ทา กับแกนพอดี 4. เคร่อื งเจียรตอ งมีฝาครอบปองกันอนั ตรายจากหินเจยี รแตก และสเกด็ ของช้ินงานท่ีหินเจียร 5. ตองสวมแวน ตาปอ งกนั สเกด็ ทกุ คร้งั เมอ่ื ปฏิบัตงิ าน 6. ปรบั ระยะหา งหินเจียรกบั แทน วางใหพอดี เพ่ือปองกนั ชน้ิ งานหลุดเขาไปขางใน ( ระยะหา งใบหนิ เจียรกับแทน รอง = 4 มม. ) 7. ถา ชิ้นงานทเี่ จยี รเลก็ ตอ งใชค ีมลอ็ คช้นิ งานไวเ วลาเจียร 8. การใชงานอยา นําชน้ิ งานเจยี รดา นขางของหนิ เจยี ร เพราะหนิ เจียรจะสึกหรอเร็วและแตกราวไดง าย การบํารงุ รักษาประจาํ วัน ทาํ ความสะอาดหินเจียร และบริเวณโดยรอบหลงั เลกิ ใชงานทุกคร้งั การบาํ รุงรกั ษาประจาํ สัปดาห 1.ใชลมเปามอเตอรหินเจียรทุกสปั ดาห 2. ตรวจสอบสภาพความสกึ หรอของหินเจยี รทกุ สปั ดาห ขอ ควรระวัง 1. ไมค วรถอดฝาครอบหนิ เจยี รออก 2. ควรปรับระยะหา งแทนเจยี รกบั ใบหนิ เจียรใหอ ยูในคาทก่ี ําหนด(4 ม.ม.) 3. กอ นทาํ การเจยี รทุกคร้งั ควรเช็กสภาพใบหินเจยี ร กอ นใชงาน
11. สวา นแบบต้ังโตะ จดุ ทหี่ ลอลื่น ดว ยจาระบี ปากกาจับช้นิ งาน -สวานแบบน้สี ามารถเจาะรไู ดโ ตกวา สวา นแบบมอื และสามารถกาํ หนดความลกึ ของรูได เพราะจะมรี ะยะ บอกทก่ี านหมุน วาดอกสวานกินความลึกเทาไร สวา นตงั้ โตะใชมอเตอรไ ฟฟา เปนตน กาํ ลัง และสามารถเปล่ียน ความเร็วรอบได โดยสบั สายพานเปล่ยี นไปทม่ี เู ลยตางกนั ทาํ ใหค วามเรว็ เปล่ียนแปลงได ลกั ษณะการใชง านเพื่อความปลอดภยั 1. ใสด อกสวา นใหอ ยูในตาํ แหนงศูนยกลางกบั ตัวยึด และขนั ใหแนน 2. ถา ชิน้ งานมีขนาดเล็กเกนิ ไป ตองใชปากกาจับชนิ้ งานไว เพ่ือปอ งกันอันตราย 3. ถา ช้ินงานมคี วามแขง็ มาก ใหปรับความเรว็ รอบใหลดลง และตองใชนํ้าหลอเยน็ ดอกสวา นขณะใชง าน การบํารงุ รักษาประจําวนั 1. ทาํ ความสะอาดทกุ คร้งั หลังเลกิ ใชงาน 2. หลังใชง านควรถอดดอกสวา นออกทุกครัง้ การบาํ รุงรกั ษาประจาํ เดือน 1. หลอ ลนื่ ทีต่ ัวปรับระดบั ขนึ้ -ลง 2. ตรวจเชก็ นอตยดึ แทน ใหแนนอยเู สมอ ขอ ควรระวงั 1. ไมค วรออกแรงกดทีก่ า นหมนุ มากเกินไป 2. กอนทําการเจาะทกุ คร้ังควรสวมแวนตาปองกัน 3. ถาพบวาสายไฟหรอื ปล๊กั ของแทน สวา นชํารุด ควรซอมแซมกอ นใชงาน
ดอกสวาน * เปนอุปกรณทีใ่ ชรวมกบั สวานไฟฟา หรอื สวา นลมเปนตวั เจาะรูช้ินงานดอกสวานมอี ยู 2 ลกั ษณะคอื 1.แบบกานตรง มกั จะใชกบั ชน้ิ งานขนาดเล็ก 2.แบบกานเรยี ว มกั จะใชกบั ช้นิ งานขนาดใหญ ลกั ษณะการใชง าน 1. ดอกสวา นตองลบั ใหไดตามคูมอื ทก่ี าํ หนดคอื -ชน้ิ งานทเ่ี ปน เหลก็ กลา ดอกสวา นตองมีมมุ 118 องศา -ชิน้ งานปกติ ดอกสวานตอ งมมี มุ 140 องศา หมายเหตุ : ดอกสวานทใี่ ชก บั ชนิ้ งานท่เี ปน เหลก็ กลา และเหล็กหลอ ตอ งลับใหมีมมุ หลบอกี 10-15 องศา ถามมุ นม้ี ากเกนิ ไปจะทําใหด อกสวา นหกั ได 2. ถา ลับดอกสวานไมเ ทา กัน รูทีเ่ จาะอาจไมต รงหรือใหญเ กินไป การบํารุงรกั ษา 1. ทําความสะอาดทุกคร้ังหลงั ใชงาน 2. เกบ็ ดอกสวานใสกลองทกุ คร้งั หลงั ใชงาน 3. ควรเกบ็ ดอกสวา นในท่ีแหง ไมม คี วามช้ืนเพ่อื ปองกันการเกิดสนมิ ขอควรระวงั ∗ไมควรนาํ ดอกสวา นที่ไมมคี วามคม หรอื ชาํ รุดออกมาใชงาน
12. แทนอดั ไฮดรอลิก วาลว ปด-เปดแรง เกจแรงดัน ดันนา้ํ มัน -ใชสําหรับถอด และประกอบงานทีใ่ ชสวมอดั เชน แบรง่ิ และบูชลกู ปนตา งๆแทน อดั ไฮดรอลกิ มี สว นประกอบดงั นี้ 1.โครงแทน 2.วงแกนเพลาหมุน 3.คนั โยก 4.เกจวดั ความดันไฮดรอลิก วิธกี ารใชง าน 1. ปรับระดบั แทน รองอดั ใหพ อดกี บั ชิน้ งานทอ่ี ัด 2. วางชิน้ งานบนแทน ทจ่ี ัดรองอดั 3. ปดวาลว แรงดันน้ํามัน 4. โยกคนั โยกอัดตวั ท่ี 1 ในกรณีอดั ชน้ิ งานที่ไมต อ งการ แรงดนั มาก 5. โยกคันโยกอัดตัวท่ี 2 ในกรณีทีอ่ ัดชิ้นสวนท่ตี องใช แรงดันมาก 6. เม่ืออัดชิน้ งานเสรจ็ แลว ใหเปดวาลว แรงดนั นา้ํ มันเพ่ือใหลกู สูบคลายตวั กลับ การบํารงุ รักษาประจาํ วนั 1. เชด็ ทําความสะอาดทกุ คร้ังหลังการใชง าน 2. ตรวจดูรอยร่ัวของซลี ทีล่ ูกสบู อัด และรอยรั่วของแรงดันนํ้ามัน 3. ตรวจดรู ะดบั น้ํามันใหอ ยใู นระดบั ทเี่ หมาะสม 4. หลอ ลืน่ เฟองหมุนสลงิ แทน ระดับ ( ใชจ าระบเี บอร 2 หรือ 3 ) 5. ตรวจสายสลงิ ใหอ ยูใ นสภาพท่ีดไี มม กี ารฉกี ขาด ลักษณะการใชงานเพื่อความปลอดภัย 1. ปรบั ระดบั แทนรองลงใหเหมาะสมกบั ชน้ิ งาน แลวลอ็ คดวยสลักทั้งสองขางกอนจงึ คลายสลงิ ใหหยอน 2. จดั เพลาแกนหมนุ ใหพ อดีกับศนู ยก ลางของชนิ้ งานทอี่ ัด 3. เวลาใชต องคอยดแู รงดันดว ย เพราะถาแรงดนั สงู เกนิ ไปอาจทําใหเกดิ อนั ตรายตอผใู ชแ ละเครอ่ื งมือ ขอ ควรระวงั 1. ขณะอัดระวังชน้ิ งานแตก หรอื กระเด็นใสผ ปู ฏิบตั งิ าน 2. เวลาใชอยาใหช นิ้ งานกระแทกลกู สบู อัด 3. ขณะอัดใหด เู กจวดั แรงดัน อยา ใหแรงดนั เกนิ คาท่กี าํ หนดไว 4. หามใชค ันตอ คนั โยกยาวกวาเดมิ 5. หลังจากเลกิ ใชงานใหเปด วาลวนา้ํ มัน เพ่ือใหล กู สบู คลายตวั กลบั ในตาํ แหนง ปกติ หมายเหตุ : ทกุ ครง้ั ทีเ่ ลิกใชง านตอ งปรับระดบั แทน รองแลว ลอ คดวยสลักทัง้ สองขาง เพอ่ื ปลดสลิงใหอ ยใู น สภาพไรน้ําหนกั
13. ปากกาจับชน้ิ งาน -ใชจบั ช้ินงานท่ีตอ งการความมัน่ คง มีอยูดวยกันหลายแบบ ซ่ึงแตละแบบจะมีลักษณะการใชง านตางกัน เชน ปากกาต้ังโตะ สวนใหญจะจบั ชนิ้ งานการตกแตงผิวเชน ในงานตะไบ เปนตน ปากกาจับงานเจาะ ( MACHINE VICE ) ใช สาํ หรบั จบั ชนิ้ งานขณะใชเคร่อื งเจาะ ลักษณะการใชง าน 1. อยาจบั ชิน้ งานดว ยแรงยึดจบั มากเกนิ ไปจะทําใหชน้ิ งานไดร บั ความเสียหาย เพราะ หนา สมั ผัสของปากกาทาํ ดวยเหล็กชุบแข็ง และมีลกั ษณะคลายฟนปลา ดงั นนั้ ควรตอ งมแี ผน ทองแดง หรอื แผน ทองเหลอื ง รองไว ขณะใชง านเพ่อื ปองกนั การเสยี หาย 2. การขนั ปากกาจับยึดชิ้นงานควรใชมอื ไมค วรใชฆ อ นตี เพราะจะทําใหช น้ิ งานเสียหาย 3. ถา จับชน้ิ งานบรเิ วณมมุ ขา งใดขางหน่งึ ควรหาวัสดทุ ่มี คี วามหนาเทากบั ชิ้นงานมารองอีกดา นหน่ึงไว เพ่อื ปอ งกันการชาํ รุดความเสยี หาย การบาํ รุงรักษา 1. ทําความสะอาดทุกคร้ังหลงั เลิกใชงาน 2. หลอ ลืน่ แกนปรับหมนุ ดว ยจาระบเี บอร 2 หรือ 3 3. ตรวจเชก็ สภาพปากกาจับชนิ้ งานวา อยูใ นสภาพท่พี รอ มใชง านเสมอ ถา พบวา ชํารุด ก็ไมควรใชงาน ขอ ควรระวงั ∗ไมค วรใชแ ปป ตอ ท่ดี ามขันปากกาหรือคอนตที ่ดี ามขนั เพือ่ จับยดึ ช้ินงานใหแ นน เพราะจะทําใหชิน้ งาน และ ปากกาไดร บั ความเสยี หาย
14. แมแรง วิธีการใชง าน 1. ในขณะขน้ึ แมแ รงเพอ่ื ยกรถทุกครง้ั ตองดงึ เบรกมือหรือใชทอนไมหนนุ เพ่อื ลอ็ กลอ ไมใ หรถเคลอ่ื นท่ี 2. พยายามใหล อ ของแมแ รงเคลอื่ นท่ไี ดโดยไมต ิดขดั 3. หลังจากทีข่ ึ้นแมแ รงเรยี บรอยแลว ควรใชข าตั้งรองรับรถยนต เพ่ือปอ งกนั อุบัตเิ หตุ การบาํ รุงรักษา 1.ทําความสะอาดทุกครง้ั หลังเลิกใชง าน 2. อัดจาระบี ทุกๆ 1 เดือน ( จาระบีเบอร 2 หรอื 3 ) 3. ตรวจเชก็ รอยรว่ั ซมึ ของน้าํ มนั ไฮดรอลิก ถาพบวามีการรั่วซึมกไ็ มค วรนําออกไปใชง าน เพราะจะทําใหเกิด อนั ตราย ตอผปู ฏบิ ัติงาน และรถยนตไ ด ขอควรระวงั ∗การลงแมแรง ควรคอยๆ ลงอยางชา ๆ ไมค วรลงแมแ รงเรว็ จนเกินไป ∗ควรขนึ้ แมแรงในจดุ ทีช่ ว งลา งมคี วามแข็งแรง หรือในจดุ ทีก่ าํ หนดไวเพ่ือปองกันการเสียหาย
15. ลฟิ ทย กรถ -ลฟิ ทใชต ามศนู ยบริการสวนใหญ มอี ยูด ว ยกนั 3 แบบ คอื 1. แบบเอก็ ซ, แซด (ใชก บั รถขนาดเล็ก) 2. แบบ 2 เสา (ใชก ับรถขนาดเลก็ ) 3. แบบ 2 เสา (ใชกบั รถขนาดใหญ) -ปจ จุบันศนู ยบรกิ ารเปด ใหมน ยิ มใชล ฟิ ทแ บบเอก็ ซ , แบบแซด และลิฟทแ บบ 2 เสา ลิฟทแบบเอ็กซมีขอดี คือ ทําความสะอาดบริเวณโดยรอบไดงาย ,โรงงานดูโลงและมีพื้นที่วาง ลดอุบัติเหตุใน การทํางานของชาง เวลาขับรถเขาลฟิ ท ลฟิ ทแบบเอ็กชม ีขอ เสีย คอื กลไกการทํางานยงุ ยากซับซอน, ยายตําแหนงไมไ ด ลฟิ ทแบบ 2 เสามีขอ ดี คอื งา ยตอ การปฏบิ ัตงิ าน, ดแู ลรกั ษางา ย ลฟิ ทแบบ 2 เสามขี อเสีย คือ ขบั รถเขา ชองซอมไดย ากกวาแบบ เอ็กซ และแบบแซด ลิฟทจะตองมีการดูแลและมีการบํารุงรักษาตามระยะที่บริษัทเคร่ืองมือแนะนําและตองมีการดูแลใน เรื่องความสะอาดอยเู สมอ เพ่อื ไมใ หฝนุ ตา งๆ มผี ลเขา ไปทําใหช นิ้ สวนของลิฟทเกิดการสกึ หรอผดิ ปกติและเกดิ ความเสยี หายได ซง่ึ มีผลกระทบกับเร่อื งคาใชจา ยและความปลอดภยั และสงิ่ ทีส่ าํ คัญอีกอยา งหนึ่งกค็ อื หลงั จาก เลิกใชงานขอใหปรับตําแหนงของลิฟทใหลงตํ่าสุด เพ่ือใหลิฟทอยูในสภาพไมมีการรับน้ําหนักหรือไมมีแรง ดนั ภายในระบบ ซ่งึ สง ผลทาํ ใหล ฟิ ทม ีอายกุ ารใชง านนานขึ้น 1. ลฟิ ทแ บบเอก็ ซ ลฟิ ทเอ็กชท ่ีขาดการบํารงุ รักษามนี ํ้าขงั ภายในหลุม จุดท่อี ดั จาระบี
การบาํ รงุ รกั ษาประจําวนั 1. ทาํ ความสะอาดลิฟทท กุ ครัง้ หลงั เลิกใชงาน 2. ตรวจเชก็ รอยรั่วซมึ ของนํ้ามันไฮดรอลกิ ทุกวนั 3. ทาํ ความสะอาดภายในหลุมลิฟทไมใ หม ีน้าํ ขังและเศษขยะอยูภายใน 4. ทําความสะอาดแผงคอลโทรลหลังเลิกใชงาน 5. ควรปดสวิทชท กุ ครัง้ หลังเลิกใชง าน 6. ควรตรวจเช็กการทาํ งานของเชฟตล้ี อ็ คของขาลิฟทท้ังสองขาง การบํารุงรกั ษาประจาํ เดอื น 1. อดั จาระบี ตามจดุ ตางๆ ของลิฟท 2. หลอ ล่นื จาระบี บริเวณลอ เลือ่ น 3. ตรวจเช็กรอยรว่ั ซึมของกระบอกไฮดรอลิก 4. ตรวจสอบนอตลอ็ ค กระบอกสูบ 5. ตรวจสอบสวิทช ขอ ควรระวงั 1. หามยกรถที่มีนาํ้ หนกั เกนิ มาตรฐานกาํ หนด ( ขนึ้ อยูกับ CAPACITY ของลิฟท ) 2. ในกรณที ร่ี ถมีบนั ไดขางควรนํายางมารองที่แชสซีสทกุ ครงั้ เพือ่ ปองกันบนั ไดขางชํารดุ เสียหาย 3. ถา พบวา มีนาํ้ มนั ไฮดรอลิกร่ัวซมึ ,ลิฟททาํ งานผิดปกตเิ ชนเอียงไมไดร ะดบั หรือช้นิ สวนสกึ หรอผดิ ปกติ หรอื เกนิ มาตรฐาน ควรแจงผรู บั ผดิ ชอบทาํ การแกไข ไมค วรใชง านตอ เพอ่ื ความปลอดภยั เพราะจะทาํ ใหเกิดอันตรายตอ ผูปฏบิ ตั งิ านและรถลูกคาอาจเสยี หายได หมายเหตุ - นํ้ามันไฮดรอลิก ESSO NUTO H46, Arip OSO 46 หรอื เทียบเทา - จาระบี ESSO BEACON EP2 หรือเทียบเทา - กรณุ าศึกษารายละเอียดจากคูม อื ของบริษัทผูผลติ เครือ่ งมือ
2. ลฟิ ทแ บบ 2 เสา ความโตของสลิง = 9 มม. จดุ ที่หลอลืน่ จดุ ท่อี ัดจาระบี การบาํ รงุ รกั ษาประจาํ วัน 1. ทาํ ความสะอาดทุกครั้งหลังเลกิ ใชงาน 2. ตรวจเช็กดรู อยรัว่ ซึมของนํา้ มนั ไฮดรอลิกทุกวัน 3. ตรวจเชก็ กอนยางทฐี่ านรองรับ(ถาแตกหรือสึกหรอควรเปลย่ี นใหมเ พือ่ ปอ งกันอุบัตเิ หตุที่อาจจะเกดิ ขึน้ กับ ตวั รถและผูปฏบิ ตั ิงานได) 4. ตรวจเช็กการทาํ งานของเชฟตลี้ อ็ คทั้งสองขา ง 5. กรุณาปรับลิฟทลงตําแหนง ตาํ่ สดุ หลงั เลิกใชงาน หมายเหตุ : กรณที ีล่ ิฟทอยูในตาํ แหนง ต่ําสุดโซย กลฟิ ทจะอยใู นสภาวะไรน าํ้ หนัก ดังนนั้ โซจ ะตองหยอน แตถ าหากโซย ังมคี วามตงึ อยทู ั้งที่ลิฟทอ ยใู นตาํ แหนงตาํ่ สดุ แลว ตองปรบั ตงั้ ความตงึ ของโซใ หม
การบาํ รงุ รักษาประจาํ เดอื น 1. อดั จาระบตี ามจดุ ตางๆทุกจดุ และหลอลื่นโชแ ละสลิงดว ยน้าํ มนั หรอื จารบี 2. ตรวจสอบความตึงของสลิงหรือโซ พรอ มทาจาระบีหลอ ลน่ื 3. เช็กรอยรั่วซมึ ของกระบอกไฮดรอลกิ 4. ตรวจเชก็ ระดับนา้ํ มนั ไฮดรอลิกใหอยใู นระดับท่ีกาํ หนด 5. หลอ ลน่ื เกลยี วทฐี่ านรองรบั การบาํ รงุ รักษา ทุกๆ 6 เดอื น 1. หยอดนา้ํ มันเครือ่ งทีข่ าลิฟทท ัง้ 2 ขา ง 2. ตรวจระยะยกขาลฟิ ทท ั้ง 2 ขา งตอ งเทา กัน 3. ตรวจสอบความตงึ -หยอนของสลิงหรอื โซ ถาตงึ หรือหยอ นเกินไปควรปรับตัง้ ใหม 4. ตรวจสอบขนาดของสลงิ ตอ งมีเสน ผา ศนู ยกลางไมต่ํากวา 9.00 มม. (ถามีขนาดตํ่ากวา 9.00 มม.ตอ ง เปลย่ี นใหม) 5. ตรวจสอบความมัน่ คงของเสาโดยการถอดขนั นอตยดึ ขาลิฟท 6. เชก็ รอยฉกี ขาดของสลิง(ถา ลวดสลงิ ขาดออกจากเกลยี วสลงิ เกิน 3 เสน ควรเปลีย่ นสลงิ ใหม) ภ ขอ ควรระวัง 1. หามยกรถที่มีน้าํ หนักเกนิ มาตรฐานกําหนดข้นึ มาใชง านกบั ลฟิ ท 2. กอนนําขึ้นลิฟทตองดูตําแหนงขารองรับใหอยูตําแหนงตรงกลางแชสซีสท้ัง 4 มุม และถาความสูงไม พอใหปรบั ชดุ รองรับโดยการหมุนเกลยี วข้นึ (ทวนเขม็ นาฬิกา) 3. เม่อื ขน้ึ ลิฟทไดต าํ แหนงแลว ควรลอ็ คลฟิ ททุกครง้ั เพ่อื ความปลอดภัยในการทํางานซอ ม หมายเหตุ ♦ ถา ตรวจพบส่งิ ผดิ ปกตใิ ดๆ ควรแจงผูรับผิดชอบโดยทนั ที เพ่อื ทําการแกไ ข ♦ นํ้ามนั ไฮดรอลกิ เบอร 46 หรอื 32 ( ถา ยนาํ้ มนั ทกุ ๆ 1 ป ) ♦ จาระบเี บอร 2 หรอื 3
3. ลิฟทย กรถใหญ จดุ ทหี่ ลอ ลืน่ ดวยจาระบี ตรวจเช็กรอยรั่ววาลว คอนโทรล และซลี การบาํ รุงรกั ษาประจําวนั 1. เชก็ รอยร่ัวซึม ของซลี กนั น้าํ มันกระบอกไฮโดรลิกและซลี ชุดคอนโทรล 2. ตรวจเชก็ รอยขีดขวนทกี่ ระบอกไฮโดรลกิ 3. ตรวจดรู อยรัว่ ซึมของลมตามจดุ ตางๆ ของทอ ลม 4. ตรวจเช็กจดุ ตอ ของสายไฟที่เขาตูไฟ 5. ตรวจเช็กทอทางเดนิ สายไฟ 6. ตรวจเชก็ ทิศทางการหมนุ ของมอเตอร 7. ทาํ ความสะอาดแกนไฮดรอลิกดว ยผา สะอาดเปน ประจําทุกวัน 8. ตรวจดู แทนยึดทอ ทางลมและนาํ้ มันตองไมช าํ รดุ
หมายเหตุ : ควรทําความสะอาดกระบอกไฮโดรลกิ และบรเิ วณหลมุ ลิฟทอ ยเู สมอเพอ่ื ปองกนั มใิ หฝนุ หรือเศษ ผงตางๆ ที่อาจเขาไปทาํ ใหซลี กระบอกไฮโดรลกิ เกดิ การสกึ หรอและมีผลใหน ํ้ามนั ร่ัวได การบํารุงรกั ษาประจําเดอื น 1. อดั จาระบีในจดุ ที่กําหนด 2. หลอ ลืน่ โซด วยจาระบี 3. หลอ ล่ืนจาระบรี างบรเิ วณลอ เลอ่ื น 4. อดั จาระบีตวั มอเตอร 5. ตรวจสอบแรงดนั นํา้ มันไฮดรอลิก 6. ขันโบลทย ึดกระบอกซีล (แรงขนั 700 กก/ซม.) 7. ตรวจเชก็ รอยรวั่ ซึมของนํา้ มนั ตามจดุ ตา งๆ ของทอ ทางนา้ํ มัน 8. ควรทําความสะอาดบอลิฟทและดูดน้ําที่ขังออกใหแหง เพราะความชื้นจากนํ้ามีผลทําใหช้ินสวนของ ลิฟทท่ีเปน เหล็กเกิดการเปน สนิมไดงาย และมีผลใหอายกุ ารใชงานสั้นลง ขอ ควรระวัง 1. ขณะยกรถข้ึน พยายามใหความสูงของตัวรถที่ถูกยก ทั้งดานหนา และดานหลังมีความสูงจากพื้นให ใกลเ คียงกัน 2. หามเปดไฮดรอลิกวาลว ตวั ใดตวั หนึง่ 3. อยาเลือ่ นกระบอกไฮดรอลกิ ขณะมีรถอยู 4. อยา ยกรถทม่ี ีนํา้ หนกั เกนิ พกิ ดั 5. อยาใชล ิฟทถารูวา มกี ารร่วั ซมึ หมายเหตุ ♦ จาระบีเบอร 2 หรือ 3 ♦ หากพบสิ่งผดิ ปกตใิ หแจงผูรบั ผิดชอบหรอื บริษัทผจู ําหนา ยเพอื่ ดาํ เนนิ การแกไ ขทันที
16. ปมลม ปมลมถือเปนอุปกรณที่สําคัญมากในศูนยบริการ ทําหนาที่สรางลมที่มีแรงดันสูงเพ่ือจายผานทอสงลม ไปยังอปุ กรณตางๆ เชน ลิฟท ปมนา้ํ มันเครอื่ ง ปนลม และเครอ่ื งมอื ตา งๆ การติดตั้งปมลมที่ดีควรอยูในตําแหนงท่ีมีการถายเทอากาศท่ีดี เพ่ือไมใหหองปมลมมีอุณหภูมิสูงเกินไป ซ่งึ จะมผี ลทาํ ใหลมที่ผลติ ไดจากปม ลมมอี ุณหภมู ิสงู เกดิ การกลน่ั ตัวของนํา้ ในระบบลมไดงาย อีกจุดหนึ่งที่ควรคํานึงถึงในการออกแบบระบบลมของศูนยบริการ ควรจะมีจุดถายน้ําในระบบลม ประมาณ 2-3 จุด ข้ึนอยูกับขนาดของศูนยบริการ เพื่อใหลมที่นําไปใชงานไมเกิดความช้ืนหรือมีน้ําปะปนอยู เพราะถาหากมีความช้ืนหรือน้ําเขา ไปในเคร่อื งมือที่ใชลมแลว จะทําใหเ ครอ่ื งมอื ตางๆ เกิดการเสียหายได ปจจุบันสว นใหญป ม ลมที่ใชใ นศนู ยบ ริการมีอยดู ว ยกันหลายแบบ โดยสว นมากทใ่ี ชง านกันอยทู ว่ั ไปจะมี 1. แบบลูกสูบ 2. แบบ SCREW TYPE หรือ แบบเกลียวอดั อากาศ 1.ปม ลมแบบลกู สบู จดุ ถายนาํ้ ทงิ้ ระดับน้ํามนั เครือ่ ง การบํารุงรกั ษาประจําวัน 1. เช็กระดบั นํา้ ในถังหรือทอทางตางๆ และถายน้ําทิง้ 2. ตรวจดอู ุปกรณไฟฟา ระบบควบคมุ ตางๆ 3. ตรวจดรู ะดบั นาํ้ มันหลอ ล่ืน 4. ตรวจดรู อยแตกรา วของสายพาน หมายเหตุ : จดุ ถา ยนาํ้ ทิ้งควรติดตง้ั วาลวเพ่ือสะดวกในการถา ยน้ําและควรตอ ทอออกไปทิ้งดา นนอกหอ ง ปม ลมเพื่อไมใหเ กิดความช้ืนในบริเวณหองปม ลม การบํารุงรกั ษาตามระยะ - ทุก 500 ชม. ตรวจเช็ก, ทาํ ความสะอาดกรองอากาศ / เช็ก, ทําความสะอาดคูลเลอร ( เฉพาะรุน ) - ทุก 1,000 ชม. เปล่ียนน้ํามันคอมเพรสเซอร (นํา้ มันไฮดรอลกิ เบอร 68 ) - ทกุ 2,000 ชม. เปลยี่ นไสก รองนา้ํ มัน - ทกุ 4,000 ชม. เปลย่ี นกรองอากาศเปลี่ยนกรองแยกนํา้ หมายเหต♦ุ ตรวจสอบระบบไฟฟาของปมลมถาพบส่ิงผดิ ปกติควรแจง ผรู ับผิดชอบโดยเรว็ เพื่อทําการแกไข
2. ปม ลมแบบ SCREW TYPE หรือเกลยี วอัดอากาศ ปม ลมแบบเกลียวอัดอากาศ การระบายความรอนดว ยอากาศ -เปนเครื่องท่ีออกแบบติดตั้งใชงานอยูกับท่ีและอยูในรม มีตัวปมอัดลมเปนแบบสกรู และใชนํ้ามันเครื่อง ชวยอัดลมโดยสกรูถูกขับดวยมอเตอรไฟฟา มีทั้งการระบายความรอนดวยอากาศ และระบายความรอนดวยนํ้า อปุ กรณทส่ี าํ คัญระบบลม(AIR FLOW) 1. กรองอากาศ (AIR INTAKE FILTER) ทาํ หนา ทก่ี รองอากาศใหบ ริสทุ ธิ์ 2. อันโหลดดิ้งวาลว ทาํ หนา ท่ี ปด หรอื เปดอากาศเขา สสู กรูเปน วาลว แบบลูกสูบปกติปด ดวยแรงสปริง กดดนั อยู จะเปด ไดโ ดยการจา ยลมเขาไปดันลูกสูบใหช นะแรงดันสปริง 3. SCREW ELEMENT เปน แบบ ROTARY ทําหนาทอ่ี ดั ลมออกไปใชงานตามตองการ โดยมีระบบนํา้ มันเปนตัวชวยในการอัดลม 4. เชก็ วาลว(CHECK VALVE) ติดตง้ั บรเิ วณชองทางออกของสกรู ปองกนั การไหลยอ นกลับของลม 5. OIL SEPARATOR ไสกรองมหี นาทแ่ี ยกนา้ํ มนั ออกจากลม โดยยอมใหล มผา นออกไป 6. MINIMUM VALVE เปน วาลว ท่ีติดต้งั อยบู นฝาถงั นา้ํ มัน ทําหนาท่ี 2 อยา ง คือ ∗เปนเชค็ วาลวปองกันลมไหลยอ นกลบั ของลมท่ีเครื่องจายออกไป ∗ทําหนาท่ีรักษาแรงดันลมใหค างอยูในถงั นํ้ามนั ตลอดเวลาในขณะเดนิ เครื่องเพอ่ื ทาํ ใหขับดันนาํ้ มนั เครือ่ งไปหมุนเวยี นในระบบ 7. AIR COOLER เปน อุปกรณระบายความรอนของลมกอนสง ไปใชงาน อปุ กรณท ่สี าํ คญั ของระบบนํา้ มัน 1. ถังนํ้ามัน ทาํ หนา ท่ีเปนถงั น้าํ มันและถงั พกั ลมเพอื่ นาํ ลมไปใชใ นการควบคุมระบบ 2. OIL COOLER ทําหนาทรี่ ะบายความรอ นของน้าํ มันเครอื่ งดวยอากาศและนา้ํ 3. THERMOSTATIC VALVE ทาํ หนาที่ควบคมุ การ เปด-ปด วาลว ตามอุณหภูมิที่กําหนด 4. กรองนา้ํ มนั (OIL FILTER) ทาํ หนาทก่ี รองสิง่ สกปรก ทีป่ นมากบั นํ้ามัน 5. OIL STOP VALVE เปน วาลว ปด-เปด ทางน้าํ มันเขาสู SCREW ELEMENT 6. นา้ํ มนั ไฮดรอลิก เบอร 68
การบาํ รุงรกั ษาประจาํ วนั 1. ตรวจเชก็ ระดบั น้าํ มันเครื่องกอ นสตารท เครือ่ ง 2. ตรวจเช็กรอยร่วั ซึมของทอ ทางตา งๆ 3. ตรวจดอู ปุ กรณไ ฟฟา ระบบควบคุมตางๆ 4. ตรวจดูเรอ่ื งฝนุ ,การผุกรอ น การเสียหาย และทาํ ความสะอาดภายนอก 5. ตรวจดูนัต -โบลต ใหอ ยูในสภาพทแ่ี นน อยูเสมอ 6. ถา ยนา้ํ ออกจากถงั พักลมทกุ วนั และในจุดระบายนา้ํ ตางๆในศูนยบริการ การบาํ รงุ รกั ษาตามระยะ 1. เปล่ียนน้ํามันไฮดรอลิก เบอร 68 น้ํามันเคร่ืองท่ีใชเปนของ ATLAS COPCO (GA เปลี่ยนทุกๆ 1,000 ชม. และแบบ ROTO OIL ใชไ ดถ งึ 4,000 ชม. ) 2. กรองอากาศ,กรองน้ํามันเคร่ืองเปล่ียนทุกๆ 1 ป ( กรณีใชงานหนักควรเปล่ียนกรองอากาศเร็วข้ึน )
17. เคร่อื งลางชนิ้ สวน เครื่องลางชนิ้ สวนเปนเคร่อื งมอื ที่อาํ นวยความสะดวก ประหยดั เวลาในการลา งช้ินสวนตางๆ ซงึ่ ตามศูนย บริการนิยมใชงาน เชน เครื่องลางชิ้นสวนทั่วไป, เครื่องลางชิ้นสวนโอเวอรฮอล เปนตน มีอยูดวยกันหลาย ขนาด ขนึ้ อยกู บั ความเหมาะสมของศูนยบรกิ ารที่เลือกใช 1. เคร่อื งลา งชิน้ สว นแบบทว่ั ไป การใชง าน 1. เทนาํ้ มนั เบนซนิ หรือนํ้ามันกาดลงในถาดหรอื ภาชนะ ใสไ วบ นตเู พื่อใชง าน 2. ลา งชิน้ สวนอุปกรณ การบํารุงรักษา 1. ทาํ ความสะอาดทกุ ครง้ั หลงั เลกิ ใชงาน 2. เทนํา้ มันเกา ใสถงั หรือภาชนะและนําตะกอนไปทิ้งทุกๆ วนั 3. เปลย่ี นน้ํามนั เปนประจาํ โดยดจู ากสภาพของนํ้ามนั ขอควรระวัง 1. ควรใชผา ปดจมูก กอนทาํ การลางทุกครั้ง 2. อยาใหน ํา้ มนั กระเดน็ เขา ตา 3. อยาวางเครอ่ื งลางชน้ิ สวนอยใู กลจ ดุ ที่เกดิ ประกายไฟไดงา ยเนือ่ งจากอาจทําใหเกิดไฟไหมได
2. เครือ่ งลา งช้ินสว นสาํ หรบั หองโอเวอรฮอล วาลวถา ยนํ้าท้ิง จดุ ทอี่ ดั จาระบตี รงแกนหมนุ หมุนปมุ ปรับอุณหถูมิ ไปทางขวามอื เพื่ออนุ นาํ้ ใหร อ น วิธีการใชเ คร่อื ง 1. เตมิ นํ้าใหไดร ะดับ เติมนํ้าจนกระทงั่ ไฟดวงสเี หลอื งตดิ 2. เติมผงเคมีผสมกับนา้ํ ท่ีอยภู ายในเครื่องตามสัดสวนที่ระบใุ นคูมือการใช 3. หมุนปมุ ปรบั อณุ หภมู ไิ ปทางขวามือ เพอ่ื อนุ น้าํ ใหร อ น 4. ใหตั้งเทอรโมสตัดไปท่ีอุณหภูมิ 70-80 องศา ( เม่ืออุณหภูมิ 80 องศา ไฟสีแดงจะดับ และเมื่ออุณหภูมิ ตํ่าลง ไฟสีแดงจะตดิ เองโดยอัตโนมัติ ) 5. ปด ฝาเครอ่ื งแลว กดสวิทซ ON ใหเครือ่ งเดนิ ประมาณ 5 นาที เพื่อใหน ้าํ กบั เคมผี สมเขากนั ดี 6. รอใหอ ณุ หภมู ิ 80 องศา นาํ ช้ินงานลงบนตระกรา แลวปดฝา 7. ต้งั เวลาตามความเหมาะสม 8. กดสวิทช ON เครื่องจะทํางานอัตโนมัติตามเวลาที่กําหนด หากตองการนําชิ้นงานออกกอน ใหทําการ กดสวิทซ OFF 9. เม่ือลา งเสร็จแลวใหเปดฝา เพ่อื ใหไ อ ระเหยออก ช้ินงานจะสะอาด และแหงตามตองการ
การบาํ รุงรกั ษาประจําวัน -ทําความสะอาดทุกครงั้ หลงั เลกิ ใชงาน การบาํ รุงรกั ษาประจาํ สัปดาห หลังจากใชง าน 1 อาทติ ย แลว ตอ งทาํ ความสะอาดเครอ่ื ง โดยมีขน้ั ตอนตอไปน้ี 1. ปด เบรกเกอรเพอ่ื ตัดไฟ 2. เปด นํ้าทิง้ โดยทอ ปลอ ยนา้ํ ทงิ้ 3. ยกตะแกรง และใบพดั ท่รี องรบั ตะแกรงออก 4. ยกแผนคร่ึงวงกลมทง้ั สองออก 5. ถอดกรองดูดออก เพอ่ื ทําความสะอาด โดยใช แปรงลวดขัด และน้ํายาลา งออกใหสะอาด 6. ถอดกรองหูหว้ิ ออกลาง โดย ใช แปรงลวดขดั ใหสะอาด 7. ใชน ํา้ ยาลา งภายในใหสะอาด 8. อดั จาระบีลูกปนแกนกลางทกุ ๆ 7 วนั 9. ถอดฝาปด ทองเหลืองแปบ หัวฉีดออก แลวใชนา้ํ ฉดี ภายในทอ แปบ เพื่อไลส ่งิ สกปรกออกใหสะอาด 10. ประกอบกลับอยา งเดิม 11.เมื่อลางทําความสะอาดและประกอบเรียบรอ ยแลว ใหเตมิ นา้ํ ใหถ งึ ปากตะกรา แลว คอยเปดไฟได ขอ ควรระวัง 1. กอนทาํ ความสะอาดเครื่องทกุ ครงั้ จะตองตดั ไฟกอนเสมอ 2. เม่อื ตองการจะนําชิน้ สวนออก ควรจะทง้ิ ไวสักพกั ไมควรเปดฝาโดยทนั ที เพราะความรอ นขณะน้ัน ยงั สงู อยอู าจทาํ ใหเ กดิ อนั ตรายได
18. สายจายลมและนํ้ามันแบบมวนเก็บอตั โนมตั ิ (HOSE REEL) หลกั การทาํ งาน และอุปกรณต างๆ ของเครือ่ งมือ 1. สายมวนเกบ็ อตั โนมัตสิ วนมากจะใชจายนํา้ มันหลอล่ืน หรือจายลมไปยงั จุดทตี่ องการ 2. ระบบการทาํ งาน ดึงสายออกมาตามตอ งการใชง าน และกลไกล็อคทํางานปอ งกันสายมวนกลับ 3. เมื่อเลกิ ใชง านดงึ สายออกเพ่ือปลดล็อค เมื่อปลดลอ็ คไดแ ลว ปลอยสายกลับเขาโรล 4. ไมเ ปลอื งพืน้ ทใ่ี นการตดิ ตง้ั และจัดเกบ็ 5. สายมว นเก็บอตั โนมตั ปิ ระกอบดวยอุปกรณตอไปนี้ - โครงสรา ง - สปรงิ ดึงกระเดอื่ ง - ลานสปรงิ - ตัวลอ็ คสายลม-นาํ้ มนั - สายลม-นา้ํ มนั (10 เมตร ) - ชดุ ซีลจุดหมุน - เฟอ งลอ็ ค - สายเมนลม-นํา้ มนั - กระเด่อื งลอ็ ค วิธกี ารใชงาน 1. ดงึ สายออกจากโรลใหดงึ ตรงๆ จนสายออกมาตามตองการ ( ไมเกิน 10 เมตร ) และใหกลไกล็อคทํางาน ปอ งกนั สายมว นกลบั 2.เมอ่ื เลิกใชง านใหดงึ สายอกี คร้งั เพ่อื ปลดล็อค เมอ่ื ปลดลอ็ คไดแลว คอ ยๆ ปลอยสายกลับเขาโรลเบาๆ เพ่อื ปองกนั การกระแทกซึง่ อาจกอ ใหเกดิ ความเสียหายได 3. กรณที ี่เปน รีลน้ํามนั ควรปดปลายมิเตอรน ้ํามันใหสนิทกอนปลอ ยสายกลับเขาโรลเพ่อื ปอ งกันนํา้ มันหยด การบํารุงรักษา 1.ทาํ ความสะอาดสายลม-นํา้ มนั เมอื่ เลกิ ใชง านทุกครั้ง 2.ตรวจเช็กรอยร่ัวของลม และน้ํามนั ทุกวัน 3.หลอลื่นจุดหมนุ ตางๆ 4.หลอ ล่นื กระเดอ่ื งลอ็ ค และตรวจสอบสปริง
ขอควรระวงั ∗ถาสายลมรว่ั หรอื หลดุ ใหเ ปลีย่ นสายใหม และเข็มขัดใหม ∗ถาสายดึงไมกลบั ใหต รวจเชค็ กลไกล็อคคา งอยูห รอื ไม ถาคางอยใู หใ ชไขควงดา มยาว ปลดล็อคออก และ ตรวจสอบอกี ครัง้ วาเปนเพราะสาเหตุใด ∗หวั เสยี บลมรั่ว หรือหลุดออกจากสายลม ใหเ ปล่ยี นหัวเสียบลมใหม ควรใชหางเสยี บยาวๆ และใชเขม็ ขดั ลอ็ ค 2 ตวั ตอ 1 จดุ ∗ถา สายลม-นํา้ มนั รว่ั ใหป ดเมนจาย และเปลี่ยนสายเสนใหม ∗มิเตอรจายนาํ้ มันควรใชงานอยางระวัง อยา ใหก ระทบกระเทือนอยา งแรง อาจทาํ ใหค าการจายไมถ กู ตอง และ มีราคาสงู มาก หมายเหตุ : ควรมกี ารตรวจสอบความถูกตอ งของมเิ ตอรหัวจา ยนํา้ มันเปน ประจาํ เพอ่ื จะไดจ ายน้ํามันไดอยา ง ถกู ตอง และปอ งกันความผิดพลาดท่อี าจเกิดขึน้ ได
19. ถังดับเพลิงแบบสารเคมี *ถังดบั เพลงิ ทีใ่ ชอ ยูในศูนยบริการโดยทัว่ ไปจะเปนแบบสารเคมซี ึง่ ใชด บั เพลงิ ประเภท ไม,กระดาษ,น้ํามนั และกาช ( ตัวสารเคมไี มเ ปนส่ือไฟฟา ) - รนุ ขนาด 4.2 กก. ฉีดไดอ ยางตอเนอื่ งประมาณ 12-16 วินาที - รนุ ขนาด 6.5 กก. ฉีดไดอ ยา งตอเนือ่ งประมาณ 15-18 วินาที - รุนขนาด 9.0 กก. ฉีดไดอยา งตอ เน่อื งประมาณ 18-21 วนิ าที การตดิ ต้ัง ควรตดิ ตัง้ ในจุดท่หี ยบิ ฉวยไดง า ย หรือบรเิ วณทีค่ าดวามีโอกาสจะเกิดอัคคีภัยได เชน บรเิ วณหนา หอ งลา งช้นิ สว นโดยตดิ กบั ผนงั ท่ีแขง็ แรงพอทจ่ี ะรับนํา้ หนกั ได (สูงจาก พน้ื ไมนอ ยกวา120 ซม.) การใชงาน ขณะเพลิงไหมต องยกถงั ดบั เพลิงเขาดานเหนือลม หา งประมาณ 2.5 เมตร แลวดงึ สลักออกจากคัน บบี พรอมจับปลายสายฉดี แลว ฉีดไปยังฐานของไฟ การตรวจสอบ สงั เกตดูจากมาตรวัดเข็มแรงดนั จะตองชตี้ าํ แหนงกลาง(สีเขียว)แสดงวาเคร่อื งดบั เพลงิ อยใู น สภาพปกตแิ ตถ าไมอ ยใู นตาํ แหนง น้ี \" ใหแจง แกบ ริษทั ผผู ลิตเพ่อื ดาํ เนินการแกไขทนั ท\"ี เชน เขม็ อยใู นพน้ื ที่ ดา นขวามือ (OVER CHARGED) แสดงวา มแี รงดันสงู เกินไปหรอื ดา นซา ยมือ ( RECHAGED ) แสดงวา เคร่อื ง ขดั ขอ งหรอื อยใู นสภาพทีใ่ ชงานไมได คําแนะนําทเี่ ปน ประโยชน 1. เม่ือพบเหตุเพลิงไหมควรตัง้ สตกิ อนอยาตื่นตกใจมากจนเกนิ ไป 2 ใชถ ังดบั เพลิงเขาระงบั เหตุกอ นแตถ าไมส ามารถระงบั เหตไุ ดใ หกดสัญญาณแจง เหตุเพลงิ ไหม ทันที 3. แจง เหตุเพลิงไหมไ ปยังสถานีดบั เพลิงในเขตทองท่ีของทานทนั ทแี ละอพยพคนออกจากสถานท่นี ั้น ขอควรระวัง ∗ขณะยกออกจากทีแ่ ขวน โปรดระวัง เครื่องตกกระแทกเทา ได และขณะฉดี ใชงานตอ งจับปลายสายใหม น่ั เพ่อื ปองกนั การสะบดั ของสาย
Search
Read the Text Version
- 1 - 40
Pages: