วิจัยในชั้นเรียน ปี 61

วิจยั ในชน้ั เรยี น การพฒั นาทกั ษะการอ่านออกเสียงคำศัพทภ์ าษาอังกฤษ สำหรับนักเรยี นชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 3 โรงเรียนชุมชนประชาธิปตั ยว์ ทิ ยาคาร ปกี ารศกึ ษา 2561 นางสาวสิรริ ตั น์ สังสทุ ธิ ตำแหน่ง ครูชำนาญการ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ โรงเรียนชุมชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร สำนักงานเขตพืน้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษา ปทมุ ธานี เขต 2

วจิ ยั ในช้ันเรยี น เรอ่ื ง การพฒั นาทักษะการอา่ นออกเสียงคำศัพท์ภาษาอังกฤษ สำหรับนักเรียนชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 3 โรงเรยี นชมุ ชนประชาธิปตั ยว์ ทิ ยาคาร ปีการศึกษา 2561 ผ้วู ิจัย นางสาวสริ ิรัตน์ สังสุทธิ ตำแหนง่ ครู วิทยฐานะ ชำนาญการ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ โรงเรียนชุมชนประชาธิปัตยว์ ิทยาคาร สำนกั งานเขตพื้นทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 2

ช่ืองานวจิ ัย การพัฒนาทกั ษะการอา่ นออกเสยี งคำศพั ทภ์ าษาอังกฤษสำหรบั นักเรียนชั้น ประถมศึกษาปที ่ี 3 โรงเรียนชุมชนประชาธิปัตยว์ ทิ ยาคาร ช่อื ผวู้ จิ ยั นางสาวสริ ริ ัตน์ สังสุทธิ กลุม่ สาระการเรียนรู้ ภาษาตา่ งประเทศ ปกี ารศกึ ษา 2561 บทคดั ย่อ การทำวจิ ยั เรื่อง การพฒั นาทกั ษะการอ่านออกเสียงคำศัพท์ภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 3 โรงเรียนชุมชนประชาธิปัตย์วิทยาคาร มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านคำศัพท์ภาษาอังกฤษของ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยผู้วิจัยได้สร้างชุดฝึกการอ่านคำศัพท์ จำนวน 13 ชุด โดยจัดทำเป็น หมวดหมู่ จำนวน 13 ชุด เพราะกลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษา ดังนั้นการเรียนรูค้ ำศัพท์ให้มาก ท่ีสดุ จึงเป็นสง่ิ สำคัญมาก หลงั จากการฝึกอา่ นซำ้ แลว้ ซ้ำอกี ทำใหน้ กั เรยี นไดเ้ รยี นรู้คำศพั ท์มากขน้ึ จนสามารถอ่าน บทความสนั้ ๆ ได้อยา่ งน่าพอใจ ผลสรปุ แลว้ นักเรยี นมีทกั ษะการอา่ นเพ่ิมขน้ึ รอ้ ยละ 70 ความสำคญั ของการวจิ ัย การอ่านออกเสียงเป็นทกั ษะพื้นฐานในการเรียนภาษาองั กฤษ หากนักเรียนมีพืน้ ฐานในการออก เสียงที่ดี จะสง่ ผลให้นกั เรียนมีการพัฒนาทักษะการเรยี นในด้านอื่น ๆ ไดด้ ดี ้วยเชน่ กนั เนือ่ งด้วยการมีทักษะการ อ่านทถ่ี กู ต้องจะทำใหน้ ักเรียนเขียนตัวสะกดได้ถูกตอ้ ง นอกจากนีก้ ารอ่านออกเสียงได้ถกู ต้องก็จะทำให้นักเรียนมี ความมั่นใจและมีเจตคติที่ดีต่อการเรยี นวิชาภาษาอังกฤษมากย่ิงขึ้น และทำให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ท่ีได้จาก การเรยี นภาษาองั กฤษไปพัฒนาตนเองและตอ่ ยอดในการศกึ ษาตอ่ ในระดบั ทีส่ งู ข้ึนต่อไป จุดประสงค์ของการวิจัย 1. เพื่อพัฒนาทกั ษะการอา่ นคำศพั ทภ์ าษาอังกฤษของนักเรยี นระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 3 2. เพื่อใหน้ ักเรยี นระดับชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 มีเจตคติทดี่ ีตอ่ การเรยี นวิชาภาษาอังกฤษ ขอบเขตของการวิจยั การวจิ ยั ครง้ั น้ิ เปน็ การศกึ ษาทักษะการอา่ นภาษาองั กฤษของนักเรียนระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 ปีการศกึ ษา 2561 โรงเรียนชมุ ชนประชาธิปตั ย์วิทยาคาร ประชากรและกลุ่มเป้าหมาย ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนชุมชน ประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร จำนวน 25 คน วิธีดำเนนิ การวจิ ัย 1. นกั เรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น ( Pretest ) 2. สรา้ งและกำหนดรปู แบบการพฒั นาทักษะการอา่ น และแบบฝกึ หัดเพื่อพัฒนาทักษะการอา่ น ตามขนั้ ตอน ต่อไปนี้ 2.1 แจงตารางเทยี บพยัญชนะและสระใหน้ กั เรียนศึกษาพร้อมทงั้ อธิบายประกอบ 2.2 ทบทวนความรู้เกีย่ วกบั การออกเสียงสระ 2 ประเภท คือ สระเด่ยี วและสระผสม 2.3 นกั เรยี นทำแบบฝึกชุดที่ 1 ได้แก่ หมวดคำส่งิ ของในหอ้ งเรยี น

2.3 นกั เรียนทำแบบฝกึ ชดุ ท่ี 1 ไดแ้ ก่ หมวดคำสตั ว์ 2.4 นกั เรียนทำแบบฝึกชดุ ท่ี 1 ไดแ้ ก่ หมวดคำผลไม้ 2.5 นักเรียนทำแบบฝึกชดุ ท่ี 1 ไดแ้ ก่ หมวดคำส่วนตา่ ง ๆ ของรา่ งกาย 2.6 นักเรียนทำแบบฝึกชดุ ที่ 1 ไดแ้ ก่ หมวดคำอาหาร และ เครื่องดมื่ 2.7 นักเรยี นทำแบบฝกึ ชดุ ที่ 1 ไดแ้ ก่ หมวดคำของเล่น 2.8 นักเรยี นทำแบบฝึกชุดที่ 1 ไดแ้ ก่ หมวดคำเครื่องนุ่งหม่ 2.9 นกั เรยี นทำแบบฝึกชุดที่ 1 ไดแ้ ก่ หมวดคำอาชีพ 2.10 นกั เรียนทำแบบฝกึ ชดุ ท่ี 1 ได้แก่ หมวดคำจำนวนนบั 2.11 นักเรียนทำแบบฝกึ ชุดท่ี 1 ไดแ้ ก่ หมวดวันทง้ั 7 2.12 นกั เรียนทำแบบฝกึ ชุดที่ 1 ไดแ้ ก่ หมวดสี 2.13 นกั เรียนทำแบบฝกึ ชดุ ท่ี 1 ได้แก่ หมวดคำกรยิ า 2.14 นกั เรยี นทำแบบฝกึ ชดุ ท่ี 1 ได้แก่ หมวดคำครอบครวั 3. นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน ( Posttest ) เครื่องมอื ท่ีใช้ในการวจิ ยั เครือ่ งมอื ที่ใชใ้ นการวจิ ัย ไดแ้ ก่ แบบทดสอบและแบบฝึก ดังนี้ 1. แบบทดสอบก่อนและหลังเรยี น 2. แจงตารางเทียบพยญั ชนะและสระให้นกั เรียนศกึ ษาพรอ้ มทง้ั อธบิ ายประกอบ 3. ทบทวนความรู้เกีย่ วกบั การออกเสยี งสระ 2 ประเภท คอื สระเดยี่ วและสระผสม 4. นกั เรียนทำแบบฝึกชุดที่ 1 ไดแ้ ก่ หมวดคำสิง่ ของในห้องเรียน 5. นักเรยี นทำแบบฝึกชุดที่ 1 ไดแ้ ก่ หมวดคำสัตว์ 6. นักเรยี นทำแบบฝึกชุดท่ี 1 ได้แก่ หมวดคำผลไม้ 7. นักเรยี นทำแบบฝึกชุดท่ี 1 ไดแ้ ก่ หมวดคำส่วนตา่ ง ๆ ของรา่ งกาย 8. นักเรยี นทำแบบฝึกชุดท่ี 1 ไดแ้ ก่ หมวดคำอาหาร และ เครอื่ งด่ืม 9. นักเรยี นทำแบบฝกึ ชุดท่ี 1 ได้แก่ หมวดคำของเล่น 10. นักเรยี นทำแบบฝกึ ชุดท่ี 1 ไดแ้ ก่ หมวดคำเครื่องนงุ่ หม่ 11. นกั เรยี นทำแบบฝกึ ชุดที่ 1 ไดแ้ ก่ หมวดคำอาชพี 12. นักเรยี นทำแบบฝกึ ชุดที่ 1 ได้แก่ หมวดคำจำนวนนับ 13. นกั เรียนทำแบบฝกึ ชุดท่ี 1 ไดแ้ ก่ หมวดวนั ทั้ง 7 14. นักเรียนทำแบบฝึกชุดที่ 1 ไดแ้ ก่ หมวดสี 15. นกั เรยี นทำแบบฝกึ ชุดที่ 1 ได้แก่ หมวดคำกริยา 16. นกั เรยี นทำแบบฝึกชุดท่ี 1 ไดแ้ ก่ หมวดคำครอบครัว สรุปผลการวจิ ัย จากการวจิ ัยในครัง้ นี้ พบว่า หลังจากนักเรียนได้อ่านชดุ ฝึก จากแบบฝึกทัง้ 13 ชดุ นักเรียนมีทักษะ การอ่านดีขนึ้ และมคี วามม่ันใจในการอา่ นมากข้ึน ขอ้ เสนอแนะ การอา่ นเป็นทักษะซึ่งจะสมฤทธิ์ผลได้จากการกระทำอยา่ งตอ่ เนอื่ ง หรอื สมำ่ เสมอ ดงั นน้ั จงึ ควรมีการ พัฒนาทักษะการอา่ นต่อไป โดยการกระตนุ้ ใหน้ กั เรยี นเหน็ ความสำคญั และรักการอา่ น โดยครผู ้สู อนเรียก นกั เรียนมาอา่ นให้ฟังเป็นระยะ ๆ และควรพัฒนาทกั ษะการอา่ นออกเสียง กบั นกั เรียนระดบั ช้นั อืน่ ๆ

เอกสารอา้ งองิ มลวิ ลั ย์ พงศ์สเุ สนีย์ ,การวิจยั ในช้นั เรยี น เรือ่ งการพัฒนาทักษะการอา่ นออกเสียงภาษาองั กฤษของ นกั เรยี นระดบั ปวช. 1 สาขาวชิ าชา่ งอิเลก็ ทรอนิกส์ และช่างไฟฟ้า วทิ ยาลยั สารพัดช่างนครปฐม บญุ เสริม สมั มนาวงค์ , My E Book เสรมิ การเรียนรู้ พ้ืนฐานภาษาอังกฤษ กล่มุ สาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ ชว่ งชน้ั ท่ี 1 และผู้เริ่มเรียน บญุ เสริม สมั มนาวงค์ , My E Book เสริมการเรียนรู้ พืน้ ฐานภาษาอังกฤษ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาตา่ งประเทศ ชว่ งชั้นท่ี 2

ภาคผนวก

1. คำศัพทห์ มวด ส่ิงของในหอ้ งเรยี น ( Things in the classroom ) Vocabulary Reading Meaning Book บคุ๊ หนังสือ Pen เพน ปากกา Pencil เพนซลิ ดินสอ Ruler รูเลอร์ ไม้บรรทดั Chair แชร์ เก้าอ้ี Desk เดส โต๊ะเรียน Bag แบค กระเปา๋ Box บอ็ ค กลอ่ ง Door ดอร์ ประตู Window วินโดว์ หนา้ ตา่ ง 2. สตั ว์ ( Animals ) Vocabulary Reading Meaning Cat แคท แมว Fish ฟชิ ปลา Pig พกิ หมู ชา้ ง Elephant แอลเลฟิ แฟน้ เสือ Tiger ไทเกอร์ วัว Cow คาว เปด็ Duck ดัค ไก่ Chicken ชคิ เค้น เป็ด Dog ด็อก มด Ant แอนท์ กงุ้ Prawn พรอน ห่งิ หอ้ ย Firefly แมลงปอ ไฟเออรไ์ ฟร์ เตา่ Dragonfly ดรากอ้ นไฟร หมแี พนด้า Turtle เทอรเ์ ทิล ค้างคาว Panda นก Bat แพนดา้ แมงมมุ Bird แบท คางคก Spider เบิรด์ ปู Toad สไปเดอร์ หมโี คล่า Crab โทด สิงโต Koala แครบ Lion โคอาล่า ไลอ้อน

Buffalo บัฟฟาโล ควาย Kangaroo แคงการู จงิ โจ้ Penguin เพนกวิน นกเพนกวนิ Hippopotamus ฮปิ โปโปเทมัส ฮปิ โป Starfish สตารฟ์ ิช ปลาดาวทะเล Camel คาเมล อูฐ Porcupine พอร์ควิ ไพน์ เม่น ปลาไหล Eel อีล นกยูง Peacock พคี อ็ ค ตกั๊ แตน Grasshopper แกลส้ ฮ้อปเปอร์ ผงึ้ ปลาฉลาม Bee บี แกะ Shark ชารค์ นกกระจอกเทศ Sheep ชพี ม้าลาย Ostrich ออสตริส นกอินทรยี ์ Zebra ซบี ร้า ลิง Eagle อีเกิ้ล จระเข้ Monkey มังค้ี ผเี ส้ือ Crocodile คร็อคโคดาย แรด Butterfly บตั เตอรฟ์ ลาย หงส์ Rhino ไรนอ หมู Swan สวอน ปลาวาฬ Pig พิก หมี whale เวล ยีราฟ Bear แบร์ งู Giraffe จรี าฟ กระตา่ ย Snake สเนค็ ปลาหมกึ Rabbit แรบบทิ octopus ออ็ คโทพัส

3. หมวดผลไม้ และ ผัก ( Fruits and vegetables ) Vocabulary Reading Meaning Orange ออเร้น ส้ม Durian ดูเรยี น ทเุ รียน แมงโกสทีน มงั คดุ Mangosteen พี เอ้กแพลน มะเขอื พวง Pea eggplants สตรอเบอร่ี สตรอเบอร่ี แรมบูแทน เงาะ Strawberry โคโคนัท มะพร้าว Rambutan กิงเกอร์ ขิง Coconut คอรน์ ข้าวโพด กวั ว่า ฝรั่ง Ginger บานานา่ กลว้ ย Corn มาเรียน พรมั มะปราง Guava พาพายา่ มะละกอ Banana แบมบู ชทู หนอ่ ไม้ Marian plum แครอท แครอท Papaya ชลิ ลิ พริก Bamboo shoot ไชนสิ แคบเบท ผักกาดขาว Carrot บีน สเปรา้ ถว่ั งอก Chili พาย แอบเพลิ้ สับปะรด Chinese cabbage ไชนสิ คาร์ท คะน้า Bean sprouts คอลี่ฟลาวเวอร์ กะหล่ำดอก Pineapple บิทเทอร์ คิวคัมเบอร์ มะระ Chinese kale มัสรูม เห็ด Cauliflower คัสตาร์ด แอบเพ้ิล น้อยหนา่ Bitter cucumber โรส แอบเพ้ิล ชมพู่ Mushroom ไอว่ี กอรด์ ตำลึง Custard apple เกรฟ องุน่ Rose apple เชอร์ร่ี ลูกเชอร่ี Ivy gourd ไลม มะนาว Grapes พัมกน้ิ ฟกั ทอง Cherry มอรน์ ิ่ง กลอรี่ ผกั บุง้ Lime วอเทอร์เมลอน แตงโม Pumpkin แมงโก มะม่วง Morning glory กรีน ออนเนยี น ต้นหอม Watermelon กาลคี กระเทียม Mango ฮอลล่ี เบซิล กะเพรา Green onion Garlic Holly basil

Parsley พาร์สเลย์ ผกั ชี Tamarind แทมมารีน มะขาม Chinese pear ไชนิส แพร์ ลกู สาลี่ ออนเนียน หอมหวั ใหญ่ Onion แอบเพิ้ล ลกู แอบเปิ้ล Apple ลนิ้ จ่ี Lychee ลิ้นช่ี มะเขอื เทศ Tomato โทเมโท้ แตงกวา cucumber คิวคัมเบอร์ 4. หมวดสว่ นตา่ ง ๆ ของรา่ งกาย ( Parts of body ) Vocabulary Reading Meaning Hair ผม Head แฮร์ หัว Brain เฮด สมอง Eye เบรน ตา Ear อาย หู Eyebrow เอยี ร์ ค้ิว Cheek อายโบร แกม้ Chin ชีค คาง Lip ชิน รมิ ฝปี าก Mouth ลิป ปาก Teeth เม้า ฟัน Neck ทีส คอ Shoulder เนค ไหล่ Leg โชเดอร์ ขา Knee เลค เข่า Foot นี เท้า toe ฟุต นว้ิ เท้า โท

5. หมวด อาหารและเคร่ืองดื่ม ( Food and Drink ) Vocabulary Reading Meaning Egg เอ็ก ไข่ Ice cream ไอครีม ไอศกรมี Coffee คอฟฟ่ี กาแฟ Tea ที ชา Water วอร์เตอร์ น้ำ Bread เบรด ขนมปงั Milk มิลค์ นม Cake เคก้ ขนมเคก้ Rice ไรส์ ข้าว soup ซปุ น้ำซปุ 6. หมวด ของเลน่ ( toys ) vocabulary reading meaning Ball บอล ลูกบอล doll ดอล ตุก๊ ตา 7. หมวด เครอ่ื งนุ่งห่ม ( Cloth ) vocabulary reading meaning Shirt เช้ิต เส้ือยดื skirt สเกิต กระโปรง Jeans จนี ส์ กางเกงยนี ส์ Pants แพน กางเกงขายาว Shorts ช้อต กางเกงขาส้นั Uniform ยนู ฟิ อร์ม ชุดนักเรยี น Hat แฮท หมวก Gloves โกรป ถงุ มือ Cap แคป หมวกแกป๊ Umbrella อัมเบรลล่า ร่ม Socks ซ้อค ถุงเทา้

8. อาชีพ ( Occupation ) vocabulary reading meaning Teacher ทิชเชอร์ ครู Student สทวิ เดน้ นกั เรียน Doctor ดอกเทอร์ หมอ Soldier โซเจอร์ ทหาร Nurse เนสิ นางพยาบาล Policeman โพลสิ แมน ตำรวจ carpenter คาร์เพนเทอร์ ช่างไม้ actor แอคเทอร์ นกั แสดง Businessman บสิ สเิ นสแมน นกั ธรุ กิจ Dentist เดนทสิ หมอฟนั Painter เพนเทอร์ ชา่ งทาสี Postman โพสแมน บรุ ุษไปรษณยี ์ Gardener การ์เดนเนอร์ ชาวสวน Lawyer ลอเยอร์ นักกฎหมาย Reporter รีพอร์ทเทอร์ นกั ขา่ ว

9. จำนวนนับ ( one - a hundred ) vocabulary reading meaning One วัน หนง่ึ Two ทู สอง Three ทรี สาม Four โฟร์ สี่ Five ไฟร์ ห้า Six ซิก หก Seven เซเวน เจด็ Eight เอท แปด Nine นาย เกา้ Ten เทน สิบ Eleven อีเลฟเวน สบิ เอ็ด Twelve ทเวล สบิ สอง Thirteen เทอทีน สิบสาม Fourteen โฟทีน สบิ ส่ี Fifteen ฟิฟทนี สิบห้า Sixteen ซกิ ทนี สิบหก Seventeen เซเวนทีน สิบเจ็ด Eighteen เอททีน สิบแปด Nineteen นายทีน สบิ เกา้ Twenty ทเวนตี้ ยส่ี บิ Thirty เทอรต์ ี้ สามสิบ Forty ฟอร์ต้ี ส่สี ิบ Fifty ฟฟิ ต้ี ห้าสิบ Sixty ซิกต้ี หกสิบ Seventy เซเวนต้ี เจด็ สิบ Eighty เอทต้ี แปดสิบ Ninety นายต้ี เกา้ สิบ One hundred วัน ฮันเดรด หนึง่ ร้อย

10. วันทง้ั 7 ( Days of the week ) vocabulary reading meaning Sunday ซันเด วนั อาทิตย์ Monday มนั เด วันจันทร์ Tuesday ทิวสเด วนั องั คาร Wednesday เวสเด วนั พุธ Thursday เทิสเด วันพฤหสั บดี Friday ฟลายเดย์ วนั ศุกร์ Saturday แซทเทอเด วันเสาร์ vocabulary 11. สี ( Colours ) meaning White reading สีขาว Black สดี ำ Blue ไว สีฟ้า Red แบรค สแี ดง Purple บรู สีมว่ ง Yellow เรด สีเหลือง Pink เพอเพิล สชี มพู Green เยลโล สีเขียว Orange พิง สีแสด Brown กรีน สีนำ้ ตาล ออเร้น บราว 12. หมวดคำกรยิ า ( Verbs ) vocabulary reading meaning Walk วอค เดนิ Sit ซดิ นง่ั Stand สแตน ยนื Run รัน ว่งิ Jump จัม้ กระโดด Fly ฟลาย บนิ Point to พ้อย ทู ช้ีไปท่ี Put พดุ วาง Clap แครบ ปรบมอื Shake เชค เขยา่

13. หมวดครอบครัวของฉัน ( My family ) vocabulary reading meaning Father ฟารเ์ ทอร์ พ่อ Mother มาเทอร์ แม่ Sister ซสิ เตอร์ พีส่ าว , นอ้ งสาว Brother บราเทอร์ พช่ี าย ,นอ้ งชาย Son ซนั ลกู ชาย Daughter ดอรเ์ ทอร์ ลกู สาว Nephew เนฟฟิล หลานชาย Niece นิส หลานสาว Uncle องั เคิล ลงุ Aunt อาน ปา้ Cousin เคาซนึ ลูกพลี่ กู น้อง