วิจัยในชนั้ เรียน การส่งเสริมทกั ษะการอา่ นภาษาองั กฤษโดยใชค้ ำศัพทเ์ ก่ียวกับสภาพภูมิอากาศ สำหรับนักเรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3/2 โรงเรียนชุมชนประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร ปกี ารศึกษา 2560 นางสาวสิรริ ตั น์ สงั สุทธิ ตำแหน่ง ครูชำนาญการ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธิปัตยว์ ิทยาคาร สำนกั งานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษา ปทุมธานี เขต 2
วิจยั ในช้ันเรียน เร่อื ง การสง่ เสริมทักษะการอ่านภาษาองั กฤษโดยใชค้ ำศพั ทเ์ กี่ยวกบั สภาพภมู อิ ากาศ สำหรบั นกั เรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3/2 โรงเรียนชมุ ชนประชาธปิ ัตย์วิทยาคาร ปีการศึกษา 2560 ผูว้ จิ ยั นางสาวสิรริ ตั น์ สังสทุ ธิ ตำแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ชำนาญการ กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร สำนกั งานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาปทุมธานี เขต 2 1
คำนำ การวจิ ัยในคร้ังน้ี มีวัตถุประสงค์เพ่ือให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3/2 ได้มีความรู้ความสามารถในการอ่าน ภาษาอังกฤษมากยิ่งข้ึน โดยใช้กิจกรรมการอ่านคำศัพท์เก่ียวกับสภาพภูมิอากาศเป็นภาษาอังกฤษเป็น สว่ นประกอบ รวมทง้ั การลงมือทำแบบฝึกหัดเพือ่ ทดสอบความรู้ ความเข้าใจ และประเมินผลสมั ฤทธ์ิด้านการอ่าน ภาษาอังกฤษ โดยผู้วิจัยได้จัดทำการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน รวมท้ังทำการคิดวิเคราะห์ผลคะแนนโดย วิธกี ารหาคา่ เฉลย่ี และคา่ รอ้ ยละ ผู้วิจัยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การวิจัยเรื่องนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ศึกษา เพ่ือเป็นแนวทางในการพัฒนา ทางด้านการเรียนการสอนใหม้ ปี ระสิทธภิ าพมากยิ่งขน้ึ นางสาวสิริรัตน์ สงั สุทธิ 2
สารบญั หนา้ 3 บทคดั ย่อ 4 บทที่ 1 บทนำ บทท่ี 2 เอกสารและงานวิจยั ทเี่ กย่ี วข้อง 6 บทท่ี 3 วธิ ีดำเนินการวจิ ัย 8 บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ขอ้ มูล บทที่ 5 สรปุ ผลการวิจยั การอภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ 10 ภาคผนวก 12 13 3
ชื่องานวิจยั การส่งเสริมทกั ษะการอา่ นภาษาอังกฤษโดยใช้คำศพั ทเ์ กี่ยวกบั สภาพภูมิอากาศ สำหรับนักเรยี นชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 3/2 ชื่อผวู้ จิ ยั นางสาวสิรริ ัตน์ สังสุทธิ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ ปีการศกึ ษา 2560 บทคดั ยอ่ การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 3/2 ได้มีความรู้ความสามารถในการอ่าน ภาษาอังกฤษและเข้าใจความหมายมากย่ิงข้ึน โดยใช้กิจกรรมการอ่านจากส่ือสิ่งพิมพ์หรือใบงานท่ีมีประกอบอยู่ รวมทั้งการลงมือทำแบบฝึกหัดเพื่อทดสอบความรู้ ความเข้าใจ และประเมินผลสัมฤทธ์ิทางการพัฒนาด้านการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ โดยผู้วิจัยได้จัดทำการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน รวมทั้งทำการคิดวิเคราะห์ผลคะแนนโดย วธิ กี ารหาค่าเฉลีย่ และคา่ ร้อยละ ผลการวิจัย พบว่า การทดสอบจากทักษะการอ่านภาษาอังกฤษจากคำศัพท์เกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ และทำแบบฝึกหัดที่กำหนดให้น้ัน ทำให้นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถทำแบบทดสอบหลังเรียนได้ดีย่ิงข้ึน ดังจะเห็นไดจ้ ากการเปรียบเทยี บผลการทดสอบกอ่ นเรียนและหลังเรยี นของนกั เรยี นที่เพ่มิ ข้ึน 4
บทที่ 1 บทนำ ความเปน็ มาและความสำคัญของปญั หา เนื่องจากกาอ่านคำศัพท์ภาษาอังกฤษน้นั มคี วามจำเปน็ อยา่ งยง่ิ ทน่ี ักเรยี นจะต้องมพี ้ืนฐานความร้ทู างดา้ น กระบวนการทักษะการอา่ นและเขียน เพราะหากว่าถ้านักเรยี นขาดทักษะกระบวนการทักษะด้านใดดา้ นหน่ึงแล้ว ก็จะเป็นปัญหาที่สำคัญมากแก่ผู้เรียนและครูผู้สอน เพราะจะทำให้การเรียนการสอนขาดประสิทธิภาพและ ผลสมั ฤทธ์ิทางการศกึ ษาวิชานีไ้ มด่ ีเท่าทค่ี วร จากการท่ีได้สอนนักเรียนท้ังระดับช้ันประถมศึกษาปีท่ี 3/2 ได้พบว่านักเรียนบางคนยังขาดทักษะ กระบวนการอ่านอยมู่ าก ดังนั้นจึงเห็นควรนำนกั เรยี นท่ยี ังขาดทกั ษะนีท้ ง้ั ระดับชนั้ มาทำการวจิ ยั ในชนั้ เรียน ทางเลอื กทค่ี าดวา่ จะแก้ปัญหา 1. จงู ใจให้นกั เรียนสนใจในความสำคัญของการอ่าน และ การเขยี นประโยคภาษาองั กฤษ 2. บนั ทกึ สาเหตุและปญั หาของความบกพรอ่ งทางกระบวนการอา่ น และเขียนของนกั เรียน 3. ให้ผเู้ รียนฝึกทกั ษะกระบวนการเขียน จากแบบฝกึ ตา่ ง ๆ รวมทง้ั การเขียนคำศพั ทก์ อ่ นเรยี นทุกครงั้ 4. ใหแ้ บบฝึกการเขียนคำศพั ทเ์ พม่ิ เติม จุดมุ่งหมาย เพอื่ ให้นกั เรยี นมีความรู้ความสามารถในทักษะกระบวนการอา่ นภาษาอังกฤษเพิม่ ข้นึ จากเดมิ รอ้ ยละ 50 เปน็ ร้อยละ80 ตวั แปรที่ศึกษา 1. แบบฝึกหดั ที่เนน้ ทกั ษะกระบวนการอ่าน 2. ระดับผลสัมฤทธขิ์ องคะแนนก่อนเรยี นและหลงั เรยี น กรอบแนวคดิ ในการวจิ ยั การวิจัยในครั้งน้ีมุ่งเน้นที่การส่งเสริมทักษะกระบวนการอ่านภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 3/2 ผู้วิจัยไดจ้ ัดทำแบบฝึกอยา่ งงา่ ย ๆ เพือ่ ให้นักเรียนไมเ่ บือ่ และสนุกสนานในการเรียน ทง้ั ยังสามารถนำไปใช้ในการทำ แบบฝึกหัดหรือข้อสอบท่ีผู้วิจัยได้จัดทำข้ึน ผู้วิจัยได้ทำการเปรยี บเทียบผลคะแนนก่อนเรียนและหลังเรยี น เพื่อศึกษา การพัฒนาของนักเรียนหลังจากที่ได้มีการฝึกทักษะกระบวนการต่าง ๆ วา่ มีความแตกต่างหรือมีการเปล่ียนแปลง โดยมพี ัฒนาการท่ดี ขี ึ้นหรือไม่ อยา่ งไร ประโยชน์ที่คาดว่าจะไดร้ บั 1. ไดเ้ พม่ิ พนู ทกั ษะกระบวนการอ่านคำศพั ทภ์ าษาองั กฤษ 2. ไดแ้ นวคิดทวี่ า่ การเรียนภาษาอังกฤษ จำเปน็ ทจี่ ะต้องรูค้ ำศพั ท์ และเขียนคำศัพท์ภาษาองั กฤษไดถ้ ูกต้อง 5
ขอบเขตของการวิจัย ในการศึกษาวิจัยในคร้ังนี้เป็นการใช้แบบฝึกอย่างง่าย ๆ เพื่อช่วยฝึกและเพ่ิมพูนทักษะกระบวนการอ่าน ภาษาอังกฤษ และไดก้ ำหนดขอบเขตการวิจัยไวด้ งั น้ี 1. ประชากร ประชากรท่ีใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/2 โรงเรียนชุมชน ประชาธิปัตยว์ ทิ ยาคาร ปีการศึกษา 2560 จำนวนทั้งส้นิ 23 คน 2. เน้ือหา / หลักวิชา ทักษะการอ่านคำศัพท์เกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศภาษาอังกฤษจากการทำ แบบฝกึ หัดทสี่ อดคล้องกบั หลกั สูตรของโรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ตั ยว์ ิทยาคาร 6
บทที่ 2 เอกสารและงานวิจยั ที่เกย่ี วข้อง เหตุผลและแนวคิดของทฤษฎี Constructionisim ทฤษฎที ี่ Seymour Papert ไดเ้ ร่ิมพัฒนาขึน้ ตัง้ แต่ ปี ค.ศ. 1960 ทใี หค้ วามสำคัญด้านกระบวนการพัฒนาการเรยี นรู้ของเด็ก Piaget เช่อื ว่า เด็กสามารถสร้างความรู้ ขึน้ เองได้ โดยเด็กจะเป็นเสมอื นนักทดลองรุ่นเยาวท์ ีส่ รา้ งและทดสอบทฤษฎีที่เกย่ี วกบั สิ่งต่างๆ อยตู่ ลอดเวลา และ เม่ือเด็กมีโอกาสได้สร้างความรู้นั้นด้วยตัวของเขาเอง เขาก็จะเข้าใจสิ่งต่างๆ อย่างลึกซึ้ง สามารถจัดระบบ โครงสร้างความรู้ของตนเองและมคี วามสามารถในการเรยี นรู้ไดเ้ ป็นอยา่ งดี (Mindstorms, 1993) การเรยี นรู้ที่ผู้เรยี นสำคญั ทสี่ ดุ แนวคดิ ท่ีสำคญั เก่ยี วกับการเรยี นรทู้ ีผ่ เู้ รยี นสำคญั ที่สุด มใิ ชเ่ รือ่ งใหม่ ไดม้ ีการใชแ้ นวคิดน้ีสืบต่อกันมาอย่าง กว้างขวางในสังคมไทย การเรียนรู้ตามแนวพุทธธรรมเน้น “คน” เป็นศูนย์กลาง กระบวนการเรียนรู้จึงเป็น กระบวนการพัฒนา “คน” ท้ังในลักษณะที่เป็นปัจเจกชน (คือคนแต่ละคน) และการพัฒนา “กลุ่มคน” ให้อยู่ ร่วมกันได้อย่างสันติ เม่ือ “คน” มีความสำคัญท่ีสุดของการเรียนรู้วิธีการ ฝึกฝนอบรมจังเป็นการพัฒนาทุก องค์ประกอบของความเป็น “คน” การเรียนรู้ตามวิถีชีวิตไทยแบบด้ังเดิม มีลักษณะเป็นการสั่งสอนรายบุคคล เมือ่ อยใู่ นครอบครัว พ่อแม่สอนลกู ชายให้ขยันอา่ นออก เขียนได้ สอนลกู หญิงให้ทำงานบ้าน งานเรอื น รจู้ ักรกั นวล สงวนตัว เมอ่ื เติบโตขึน้ ผู้ชายไดบ้ วชเรียนกบั พระทีว่ ดั ไดฝ้ ึกงานอาชีพ การทำมาหากิน ส่วนผหู้ ญิงฝึกคณุ สมบัติของ กลุ สตรแี ละฝกึ งานอาชพี กระบวนการเรียนรู้ตามวถิ ีวัฒนธรรมไทย สรุปได้คือ 1. เปน็ กระบวนการบม่ เพาะ ซึมซบั ลกั ษณะประเพณีอันดีงาม 2. กระบวนการถา่ ยทอดปลูกฝังวฒั นธรรมประเพณีอันดงี าม 3. กระบวนการเรยี นวิชาความรู้ 4. กระบวนการอบรมกริ ยิ ามารยาททั้งทางกาย วาจา ใจ ตามหลกั คุณธรรม 5. กระบวนการฝกึ ปฏิบัตดิ ว้ ยการทำใหด้ แู ล้วฝึกทำให้เป็น 6. กระบวนการสง่ เสรมิ สมั มาทิฏฐิ ให้ลกู หลานเปน็ คนคดิ ดี คิดชอบ ส่ือประกอบการเรยี นรู้ นอกจากเครอ่ื งใชใ้ นครัวเรือน เคร่อื งมอื ทำมาหากนิ แล้วเดก็ ไดเ้ รยี นรู้ จากธรรมชาตสิ ิ่งแวดล้อม นทิ านพื้นบ้าน ของเล่น การละเลน่ บทกลอน สุภาษิต ปรศิ นาคำทายการเรยี นร้ขู องเด็ก และเยาวชนไทย มลี กั ษณะสัมพันธแ์ ละสัมผัสกับส่ิงแวดล้อม บูรณาการระหว่างความรู้ ความสามารถปฏิบตั ไิ ด้จริง และความมคี ุณธรรม สมควรทีน่ กั การศกึ ษาทั้งหลายจะได้สนใจค้นคว้า เพือ่ นำมาประยุกตใ์ ช้ให้สอดคลอ้ งกับกาลสมัย การจดั กระบวนการเรียนรูท้ ผี่ ู้เรียนสำคญั ที่สุดควรคำนึงถึงประเดน็ ทส่ี ำคญั ดงั ต่อไปนี้ 1. สมองของมนษุ ย์มศี ักยภาพในการเรียนรสู้ ูงสดุ สมองของมนุษย์ประกอบด้วยเซลล์สมองประมาณหน่ึงแสนล้านเซลล์ เป็นโครงสร้างที่มหัศจรรย์ โดยธรรมชาตสิ มองมีความพร้อมท่จี ะเรียนรู้ตัง้ แต่แรกเกิด มีความตอ้ งการ ท่ีจะเรียนรู้สามารถเรยี นรูใ้ ห้บรรลุอะไร ก็ได้ มนุษย์ต้องการเรียนรู้เก่ียวกับตนเอง ธรรมชาติ และทุกอย่างรอบตัวมนุษย์สามารถเรียนรู้ส่ิงต่างๆ ได้ต้อง อาศยั สมองและระบบประสาทสัมผัส ซ่ึงเปน็ พ้ืนฐานของการรับรู้ซง่ึ รับความรู้สกึ จากอวัยวะรบั ความรู้สึก คือ ตา หู 7
จมูก ล้ิน กาย ใจ กระบวนการเรียนรู้ท่ีมีประสิทธิภาพ ผู้สอนจะต้องสนใจ และให้ผู้เรียน ไดพัฒนาความสัมพันธ์ ระหว่างสมอง (Head) จิตใจ (Heart) มือ (Hand) และสขุ ภาพองคร์ วม (Health) 2. ความหลากหลายของสติปญั ญา คนแต่ละคนมีความสามารถ หรือความเก่ง แตกต่างกัน และมีรูปแบบการพัฒนาเฉพาะของแต่ละคน ส่ิงแวดล้อมท่ีแตกต่างกัน ส่งผลต่อการพัฒนาเสริมสร้างความสามารถให้แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด โฮเวิร์ด การ์ด เนอร์ ได้ศกึ ษาเกี่ยวกับความหลากหลายของสติปญั ญา และไดจ้ ำแนกความสามารถของคนไว้ 10 ประเภท คือด้าน ภาษา ดนตรี ตรรกะและคณิตศาสตร์ การเคลอื่ นไหว ศิลปะ/มิตสิ ัมพันธ์ ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล/การส่ือสาร ด้านความรู้สึก/ความลึกซึ้งภายในจิตใจ ด้านความเข้าใจส่ิงแวดล้อม ด้านจิตวิญญาณ และด้านจิตนิยม การจัด กระบวนการเรียนรู้ควรจัดกิจกรรมที่หลากหลายเพ่ือส่งเสริมศักยภาพ ความเก่ง /ความสามารถของผู้เรียนเป็น รายบคุ คล เพ่อื ให้ผู้เรยี นได้พัฒนาเตม็ ตามศกั ยภาพของแต่ละบุคคล ซ่งึ สามารถเก่งได้หลายดา้ น 3. การเรยี นรเู้ กิดจากประสบการณ์ตรง สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ ได้ดำเนินการรวบรวมแนวคิดทางทฤษฎีการเรียนรู้และ เสนอแนวทางการจดั กระบวนการเรียนรดู้ ังนี้ 3.1 จัดกิจกรรมการเรียนการสอนใหส้ อดคล้องกับความแตกต่างระหว่างบุคคลให้ผู้เรียนไดพ้ ัฒนาเต็ม ตามความสามารถท้งั ดา้ นความรู้ จิตใจ อารมณ์และทกั ษะตา่ งๆ 3.2 ลดการถ่ายทอดเนื้อหาวิชาลง ผู้เรียนกับผู้สอนมีบทบาทร่วมกัน ใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ในการแสวงหาความรู้ ให้ผู้เรียนได้เรียนจากสถานการณ์จริงท่ีเป็นประโยชน์และสัมพันธก์ ับชีวิตจริง เรียนรู้ความ จริงในตวั เองและความจริงในสง่ิ แวดลอ้ มจากแหล่งเรียนรู้ท่หี ลากหลาย 3.3 กระตุ้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพโดยการทดลองปฏิบัติด้วย ตนเอง ครูทำหน้าท่ี เตรียมการ จัดสิ่งเร้า ใหค้ ำปรกึ ษา วางแนวกิจกรรม และประเมนิ ผล 8
บทที่ 3 วธิ ดี ำเนินการวจิ ยั 1. ประชากร และกลุ่มตวั อย่างในการวิจยั การวิจัยในครั้งนี้ เป็นการใช้แบบฝึกอย่างง่ายๆ เพื่อช่วยฝึกและเพิ่มพูนทักษะกระบวนการอ่านคำศัพท์ ภาษาองั กฤษเกย่ี วกับสภาพภูมิอากาศ และไดก้ ำหนดขอบเขตการวิจัยไวด้ ังน้ี 1. ประชากร ประชากรท่ีใช้ในการวิจัยคร้ังนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3/2 โรงเรียนชุมชน ประชาธปิ ัตยว์ ทิ ยาคาร ปีการศึกษา 2560 จำนวนทง้ั ส้ิน 23 คน 2. เนือ้ หา / หลักวิชา ทกั ษะการอ่านคำศพั ทเ์ ก่ยี วกับสภาพภูมอิ ากาศภาษาอังกฤษจากการอา่ นและทำ แบบฝึกหัด ที่สอดคลอ้ งกับหลกั สตู รของโรงเรยี นวัดราษฎรบ์ ำรุง 2. เครอื่ งมือที่ใชใ้ นการวิจยั 1. ทดสอบวดั ความรู้กอ่ นเรียน (Pre-test) 2. แบบฝึกหัดเกี่ยวกับกระบวนการอ่าน และการเขยี น 3. ทดสอบวัดความรู้หลังเรียน (Post-test) 3. ขัน้ ตอนการดำเนนิ การ ในการดำเนินการศึกษาวิจัยในครั้งนี้มีการดำเนนิ การและรายละเอียดเป็นขั้นตอนดังน้ี 1. ข้ันวเิ คราะห์ 1.1 วเิ คราะหผ์ ู้เรยี น การวิเคราะห์ผเู้ รยี นไดก้ ำหนดไวด้ ังนี้ ประชากร คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3/2 โรงเรียนชุมชนประชาธิปัตย์วิทยาคาร ปกี ารศกึ ษา 2560 จำนวนทง้ั สิ้น 23 คน 1.2 วเิ คราะห์เนือ้ หา ขัน้ ตอนการดำเนนิ การมดี ังน้ี เนือ้ หาท่ีจะใชส้ รา้ งแบบทดสอบ และแบบฝึกหัด คือเน้ือหาวชิ าภาษาองั กฤษ แบบฝึกหัดท่ีใช้ ในการทดลองเป็นการวงกลมคำศัพท์เกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศและการเติมคำศัพท์ ซึ่งนำมาจากหนังสือ เรียนวชิ าภาษาองั กฤษทใ่ี ช้สอนในระดบั ประถมศึกษาปที ่ี 3 2. ขน้ั ออกแบบ ขั้นออกแบบทดสอบ และแบบฝึกหดั มีขัน้ ตอนดังน้ี ทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) เป็นแบบฝึกหัดวงกลมคำศัพท์และเติมคำศัพท์ภาษาอังกฤษเก่ียวกับสภาพ ภูมิอากาศ ซ่ึงเป็นแบบฝึกท่ีใชใ้ นการพัฒนาทักษะกระบวนการอ่านคำศัพท์ภาษาอังกฤษเกย่ี วกบั สภาพภูมิอากาศ โดยมรี ปู ภาพเปน็ สว่ นประกอบ ซงึ่ ผวู้ ิจยั ได้คดั เลอื กไว้ ทดสอบหลังเรียน (Post-test) เป็นแบบฝึกหัดวงกลมคำศัพท์และเติมคำศัพท์ภาษาอังกฤษเก่ียวกับสภาพ ภมู ิอากาศแบบเดียวกับแบบทดสอบก่อนเรยี น 3. ขัน้ ดำเนนิ การ 9
มกี ารดำเนินการดังนี้ 3.1 ทำการทดลองกับนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 3/2 โดยให้นักเรียนวงกลมคำศัพท์เกี่ยวกับสภาพ ภูมิอากาศและเติมคำศพั ท์ลงในแบบทดสอบ และทำการบนั ทกึ คะแนน 3.2 ดำเนินการพัฒนาทักษะกระบวนการอ่านคำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศโดย การแสดบตั รภาพคำศพั ทใ์ หด้ คู รูนำนกั เรียนออกเสยี งแล้วใหน้ ักเรียนออกเสียงตาม 3.3 ทำการทดสอบอกี ครง้ั โดยใหน้ ักเรยี นเตมิ คำศัพทล์ งในแบบฝกึ หัด และทำการบนั ทึกผลคะแนน วธิ ดี ำเนนิ การวิจยั ระยะเวลาในการดำเนนิ งาน วัน เดอื น ปี กิจกรรม หมายเหตุ 5 พฤศจิกายน 2560 12-16 พฤศจิกายน 2560 -นกั เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน ผู้วิจยั บันทกึ คะแนน 19 พฤศจกิ ายน 2560 -นักเรียนอ่านคำศัพท์ภาษาอังกฤษเก่ียวกับสภาพ ภูมิอากาศกอ่ นเรยี น ผวู้ จิ ัยบันทกึ คะแนน -นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลังเรียน ผู้วจิ ยั บันทึกคะแนน 4. ข้ันวิเคราะห์ข้อมูล - วิเคราะห์ผลจากคะแนนที่ไดจ้ ากการทำแบบฝึกหัดกอ่ นเรยี น - วิเคราะห์ผลจากคะแนนท่ไี ดจ้ ากการทำแบบฝกึ หัดหลงั เรยี น 10
บทท่ี 4 ผลการวิเคราะหข์ อ้ มูล การเกบ็ รวบรวมข้อมูลวเิ คราะหข์ อ้ มลู เกบ็ ข้อมูลวเิ คราะหข์ ้อมูลจากการทำแบบทดสอบก่อนเรยี น - หลงั เรยี น จดั ทำตารางเปรียบเทยี บผลตา่ ง ระหวา่ งก่อนฝกึ และ หลังฝึก หาผลต่างจากการปฏิบตั ดิ งั น้ี ตารางแสดงผลการเปรียบเทียบคะแนนกอ่ นเรยี น – หลังเรียน กอ่ นเรยี น หลังเรียน ที่ ชอ่ื – นามสกุล 15 คะแนน 15 คะแนน ผลต่าง หมายเหตุ 1 เด็กชายสริ ภัทร มากทรพั ย์ 13 15 2 2 เด็กชายพรเทพ แจง้ ตระกูล 12 14 2 3 เด็กชายณฐั พงษ์ เขยี วไพรี 11 13 2 4 เด็กชายกณั ณ์กิตติกร อนศุ าสนนนั ท์ 13 15 2 5 เดก็ ชายธีรภทั ร แจ่มแจง้ 11 13 2 6 เดก็ ชายธนภัทร เยือกเย็น 12 15 2 7 เด็กชายพชรพล ขุนบรุ ี 12 14 2 8 เด็กชายรัตนพ์ ล ม่วงขำ 11 14 3 9 เด็กชายอิทธิกร ประจงมลู 13 15 2 10 เด็กชายก้องกติ ตกิ ร พมุ่ ไม้ 10 15 5 11 เดก็ ชายชโยดม ชมภูวงั 12 15 3 12 เด็กชายวฒั นพฒั น์ สุรวิ งศ์ 13 15 2 13 เดก็ หญงิ วิภาพร เนยี มสขุ 13 15 2 14 เดก็ หญงิ ดวงพร แก้วจำบัง 12 14 2 15 เด็กหญิงกญั ญ์วรา พุ่มอรุณ 12 15 2 16 เดก็ หญิงพุฒิธาดา วบิ ูลยช์ ัยสิทธิ์ 14 15 1 17 เด็กหญิงอภิญญา คำนวล 12 15 3 18 เดก็ หญิงจิดาภา เสอื โพธิ์ 12 14 2 19 เด็กหญิงเบญจพร เย็นทะชิต 12 14 2 20 เดก็ หญงิ ณฐั นนั ท์ ดวงประสาท 13 14 1 21 เด็กหญิงยุวดี โพธิ์ไพร 9 11 3 22 เด็กหญิงกรี ตกิ า หงษ์ทอง 12 15 3 23 เดก็ หญงิ สุชาดา มงุ่ ธริ าช 14 15 1 จากตารางจะเห็นว่านกั เรียนมีผลสัมฤทธใิ์ นการคิดหาคำตอบทีถ่ กู ต้องสงู กวา่ ก่อนการทดลอง 11
บทที่ 5 สรุปผลการวจิ ัย การอภปิ รายผล และขอ้ เสนอแนะ สรุปผลการวจิ ยั จากการศึกษาและวิเคราะห์คะแนนท่ีได้จากการทดสอบก่อนเรียนน้ัน แสดงให้เห็นว่านักเรียนยังขาด พื้นฐานการอ่านคำศัพท์ภาษาอังกฤษเก่ียวกับสภาพภูมิอากาศ หรือมีพื้นฐานความรู้มาบ้างแต่ไม่สามารถอ่าน คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศได้ถูกต้อง แต่หลังจากนักเรียนได้เรียนและทำแบบฝึกหัดเพ่ิมเติมทำให้ นักเรียนมีความรู้ และสามารถอ่านเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษเก่ียวกับสภาพภูมิอากาศและเข้าใจความหมาย มากย่ิงข้ึน สามารถทำแบบทดสอบหลังเรียนได้คะแนนเพ่ิมขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีนักเรียนบางคนที่มีค่าคะแนนจาก การทำแบบฝึกหัดไม่ค่อยดีเท่าที่ควรน้ัน ก็อาจเป็นเพราะว่านักเรียนยังขาดความต่อเน่ืองในการทำความเข้าใจ และเน่ืองจากผู้วิจัยเองก็มีโอกาสได้พบกับผู้เรียนเพียงสัปดาห์ละ 1 ครง้ั เท่าน้ัน และในบางคร้ังก็มีกิจกรรมต่างๆ ของทางโรงเรียนมาค้ันความต่อเน่ืองของการเรียนรู้และดึงความสนใจของนักเรียนไปด้วย และอีกสาเหตุ จากการสอบถามโดยตรงจากนักเรียนทำให้ผู้วิจัยได้พบข้อมูลเพ่ิมเติมว่า นักเรียนไม่ได้กลับไปทบทวนและทำ ความเขา้ ใจเพมิ่ เติมนอกหอ้ งเรียน ดังน้ันผูว้ ิจยั จงึ เล็งเห็นวา่ ปัญหานค้ี วรจะนำไปพฒั นาในคร้ังต่อไป อภิปรายผลจากการศกึ ษา จากการสรา้ งแบบฝกึ หัดภาษาองั กฤษในครัง้ นีส้ ามารถอภปิ รายผลไดด้ งั นี้ 1. สงั เกตไดว้ า่ นกั เรียนสามารถพฒั นาความรู้ โดยดผู ลการเปรยี บเทียบคะแนนกอ่ นเรียนและหลงั เรยี น 2. จากการวจิ ัยคร้งั นท้ี ำใหน้ ักเรยี นได้เรยี นรกู้ ารคำศัพท์ภาษาอังกฤษเก่ยี วกับสภาพภมู ิอากาศเพม่ิ ข้ึน 3. จะเห็นได้ว่าเม่ือนักเรียนได้รับการสอนท่ีเน้นย้ำในจุดที่นักเรียนมักจะสับสนหรือผิดพลาดบ่อยๆทำให้ นักเรยี นผิดพลาดนอ้ ยลง ขอ้ เสนอแนะ 1. ในการอ่านคำศัพท์ภาษาอังกฤษนักเรียนควรเลือกอ่านนิทานที่มีคำศัพท์ภาษาอังกฤษง่ายๆจะทำให้ นกั เรยี นเข้าใจความหมายและชอบการอา่ นภาษาอังกฤษเพ่ิมข้นึ 2. ในการวิจยั ครั้งตอ่ ไปควรมเี วลาในการพบและตดิ ตามผลจากนกั เรยี นมากกวา่ นี้ 12
ภาคผนวก 13
Snowy มหี มิ ะตก 14
Windy มลี มพดั 15
Sunny มแี สงแดด 16
Rainy มฝี นตก 17
18
Search
Read the Text Version
- 1 - 19
Pages: