กลยุทธ์ในการจัดการเรียนรู้ 64

กลยทุ ธใ์ นการจดั การเรียนรู้ วิชาภาษาองั กฤษพ้นื ฐาน รหสั อ13101 ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปี ที่ 3 ปี การศกึ ษา 2564 นางสาวสริ ริ ตั น์ สังสทุ ธิ ตำแหนง่ ครู วิทยฐานะชำนาญการ กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาต่างประเทศ โรงเรยี นชุมชนประชาธิปัตยว์ ิทยาคาร สานักงานเขตพนื้ ที่การศึกษาประถมศึกษาปทมุ ธานี เขต 2

กลยุทธ์ในการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าภาษาอังกฤษพนื้ ฐาน รหัส อ13101 ของ นางสาวสิรริ ัตน์ สงั สทุ ธิ ประจำปีการศึกษา 2564 1 กลยุทธท์ ่ี 1 การสอนภาษาองั กฤษเพ่อื การสือ่ สาร (Communicative Language Teaching : CLT) การสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสือ่ สาร (Communicative Language Teaching : CLT) เป็นแนวคิด ในการสอนภาษาที่มุ่งเน้นความสำคัญของตัวผู้เรียน ให้ผู้เรียนได้ใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารใน ชีวิตประจำวันได้จริง มีการจัดลำดับการเรียนรู้เป็นขั้นตอนตามกระบวนการใช้ความคิดของผู้เรียน ซึ่งเชื่อม ระหว่าง ความรู้ทางภาษา ทักษะทางภาษาและความสามารถในการสื่อสาร เพื่อให้ผู้เรียนต้องคำนึงถึงการ สื่อสารในชีวิตจริง กิจกรรมและภาระงานต่าง ๆ ท่เี กย่ี วข้องกบั การส่ือสารจรงิ สอ่ื ทีใ่ ชก้ ็เป็นส่ือจริง แต่ก็ไม่ได้ ละเลยความรู้ด้านไวยกรณ์ เมื่อเกิดความผิดพลาดทางด้านไวยกรณ์เพียงเล็กน้อย แต่ยังสามารถสื่อสารได้ ครูผู้สอนไมค่ วรขดั จงั หวะโดยการแก้ไขให้ถูกต้องทนั ที ควรแกไ้ ขเมือ่ ความผิดพลาดน้นั ทำให้เกดิ ความไม่เข้าใจ หรือสื่อสารไม่ประสบความสำเร็จเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อทำให้ผู้เรียนมีเจตคติที่ดีต่อการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการ สื่อสาร (Davies & Pearse, 2000 ;Brown, 2001 ; Richard, 2006 อ้างถึงใน สำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน, ม.ป.ป. : 37) ขั้นตอนจดั การเรียนการสอนตามแนวการสอนเพ่อื การสอ่ื สาร มนี ักวิชาการหลายท่านได้กล่าวถงึ กระบวนการสอนภาษาเพื่อการส่ือสารเปน็ 2W3P จึงเป็น ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ 5 ขั้น (ภุชงค์ มัชฌิโม, 2559 : 56 – 57 ; อัมราภรณ หนูยอด และณัฐกร หิรัญโท, 2560 : 64) ดงั นี้ 1. ขั้นนำสู่บทเรียน (Warm up/Lead in) มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้นักเรียนเกิดความพร้อม แล้ว อยากรู้ อยากเรียนในบทใหม่ เนื้อหาจะเชื่อมโยงไปสู่สาระสำคัญของบทนั้น ๆ เมื่อครูครูผู้สอนเห็นว่า นักเรียนมีความพร้อม เกิดความสนุกและสนใจอยากเรียนแล้วก็เริ่มเรียนเนื้อหาต่อไป กิจกรรมที่กำหนดไว ้ ในข้นั น้ีมหี ลากหลาย เชน่ เล่นเกมปรศิ นาคำทาย เพือ่ ทบทวนความรู้ทีเ่ รียนมาแลว้ 2. ขน้ั นำเสนอ (Presentation) ในขัน้ นคี้ รจู ะใหข้ อ้ มูลทางภาษาแก่นกั เรียน มีการนำเสนอ ศัพท์ใหม่ โครงสร้างทางไวยากรณ์ เนื้อหาใหม่ ให้เข้าใจทั้งรูปแบบและความหมาย กิจกรรมที่กำหนดไว้ ประกอบด้วย การให้ฟังเนื้อหาใหม่ ให้นักเรียนฝึกพูดตาม ในขั้นนี้ครูเป็นผู้ให้ความรูทางภาษาที่ถูกต้องและ เป็นแบบอยา่ งที่ถกู ต้องในการออกเสียง คอื Informant (ผู้ใหความรู้) รปู แบบของภาษาจงึ เน้นท่ีความถูกต้อง (Accuracy) เป็นหลัก ในขั้นนำเสนอนี้ เน้นการให้ผู้เรียนได้เขาใจความหมาย (Meaning) ของไวยากรณ์ที่ นำเสนอ ก่อนแลวตามด้วยรู้จกั รปู แบบหรือโครงสร้างทางไวยากรณ์นัน้ ๆ (Form) และจบลงด้วยการออกเสียง (Pronunciation) ดังนัน้ ในขนั้ นส้ี ามารถที่จะจดจำประเดน็ สำคัญในการนำเสนอในรูปอักษรย่อ คอื MFP 3. ขั้นฝึก (Practice) ในขั้นนี้นักเรียนจะได้ฝึกใช้ภาษาที่เรยี นมาแล้วในขั้นนำเสนอ โดยมี วตั ถปุ ระสงค์ ใหน้ ักเรียนใชภาษาได้ถูกต้อง ขณะเดียวกนั ก็เน้นเรื่องการใช้ภาษาให้คล่องแคล่ว (fluency) การ ฝึกอาจจะฝึก ทั้งชั้น เป็นกลุ่ม เป็นคู่หรือรายบุคคล ขั้นนี้เปนโอกาสที่ครูจะแก้ไขข้อผิดพลาดของนักเรยี นใน การใช้ภาษา ซึ่งการแก้ไขข้อผิดพลาดน้ันควรทำหลงั การฝึก หากทำระหว่างทีน่ ักเรียนกำลังลองผิดลองถูกอยู่

ความมั่นใจ ที่จะใช้ภาษาให้คล่องแคล่วอาจลดลงได้ หรืออาจจะเป็นโอกาสให้นักเรียนได้ฝึกอย่างอิสระ Learning by Doing 4. ขั้นการใช้ภาษา (Production) มีจุดมุงหมายเพื่อให้นักเรียนนำคำหรือประโยคที่ฝึก มาแล้ว มาใช้ในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ในรูปแบบกิจกรรมหลากหลาย เพือ่ ให้เกิดความคล่องแคล่ว (fluency) และ เกิด ความสนุกสนาน ในขั้นนี้เป็นขั้นที่เน้นนักเรียนเป็นผู้ทำกิจกรรม ครูคอยให้ความช่วยเหลือถ้านักเรียน ผิดพลาด อย่าขดั จังหวะ ให้ปล่อยไปกอ่ น เพอ่ื ใหน้ กั เรียนรู้สึกสบายใจ กิจกรรมท่กี ำหนดไว้มีหลากหลาย เช่น การเลน่ เกม การทำชิน้ งาน การทำแบบฝกึ การนำเสนอผลงาน 5. ขั้นสรปุ (Wrap up) เป็นข้ันสุดท้ายของการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนในแต่ละช่ัวโมง จุดประสงค์ คือ เพื่อสรุปสิ่งที่ได้เรียนแล้ว กิจกรรมที่เสนอแนะไว้อาจจะเป็นการนำเสนอรายงานของกลุ่มทำ แบบฝกึ หัด เพอ่ื สรปุ ความรู้หรือเล่นเกมเพอ่ื ทดสอบส่ิงทีเ่ รยี นมาแล้ว กลยุทธท์ ่ี 2 การจัดการเรยี นการสอนผ่าน Line application/You tube การจัดการศึกษาในยุคของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถ เปลี่ยนแปลงกระบวนการ เรียนรู้และความต้องการของการศึกษาในอนาคต สื่อและอุปกรณ์ การศึกษารูปแบบใหม่จะเข้ามาแทนที่ส่ือ แบบเก่า มแี หล่งทรัพยากรการเรยี นรูท้ ่ีหลากหลายนบั เป็น สงิ่ ทช่ี ว่ ยสนับสนนุ การเรียนรู้ในสภาพแวดล้อมทาง การศกึ ษาแบบใหม่ ทำใหก้ ารเรยี นการสอนไม่ จำกัดอยู่เฉพาะในห้องเรยี นและอยู่ภายใตก้ ารควบคุมของผู้สอน เท่านั้น แต่ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ จากแหล่งความรู้ที่หลากหลาย โดยเฉพาะเครือข่ายอินเทอร์เน็ต กระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียนจัดว่า สำคัญอย่างยิ่งในการจัดการศึกษาที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางการ เรียนรู้ โดยแนวคิดมุ่งเน้นใน เรื่องการคิดและแก้ปัญหาเป็น ซึ่งแนวคิดนี้จะต้องอาศัยเทคโนโลยีและการ เชื่อมโยงเป็นเครือข่ายที่ มีทั่วโลกมาพัฒนาศักยภาพของผู้เรียน มาปรับเปลี่ยนแนวทางการเรียนรู้ใหม่จาก แนวทางและ วธิ ีการสง่ั สอน มาเป็นการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับแหล่งการเรียนรู้ใหม่ทางสารสนเทศ ซึ่งเป็นการ จดั สภาพแวดลอ้ มใหม่ในการเรียนรู้ที่เน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมคิดแก้ปัญหาและน าความรทู้ ไ่ี ดม้ าน้ัน ไปใช้จริง ในชวี ติ ประจ าวัน (จฑุ ามาศ ใจสบาย, 2562) มีหลายการศึกษาทีม่ ีการนำอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ตหรือ โทรศัพท์มือถือแบบ สมาร์ทโฟน (Smart Phone) และสือ่ สารที่เช่อื มต่อเครือข่ายระบบสัญญาณอินเตอร์เน็ต มาเป็น เครื่องมือพัฒนาจัดการเรียนแบบออนไลน์ มีโปรแกรมหรือแอพพลิเคชั่นเพื่อการศึกษาที่สามารถ น ามาใชใ้ นการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ของผเู้ รียน สร้างแรงจูงใจให้ผเู้ รียนมีความกระตือรอื ร้น 2 ในการเรียน มีปฏิสัมพันธ์ การแบ่งปันประสบการณ์ความรู้ซึ่งกนั และใช้เป็นเครื่องมือในการเข้าถึง แหล่งเรียนรู้และองค์ ความรู้ตา่ ง ๆ ท้ังในรปู แบบออฟไลนแ์ ละออนไลน์ที่สนองต่อความสามารถใน การปรบั ตัวเข้ากับความต้องการ ทางการเรียนรู้ของรายบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งไลน์ (LINE) เป็น แอพพลิเคชั่นไลน์สำหรับการสนทนาบน อุปกรณ์การสือ่ สารรูปแบบสมาร์ทโฟนท่ีกำลังได้รับความ นิยมเป็นอย่างมาก ปัจจุบันมีการใช้ของทุกกลุม่ วยั เนื่องจากช่วยตอบสนองเชื่อมต่อและสื่อสารกัน ในกิจกรรมในชีวิตประจำวันระหว่างบุคคล (Electronic Transactions Development agency: Public Organization, 2018; Thai Public Broadcasting Service, 2015; Waewsak, 2013 (อ้างอิงใน(บุษบา ทาธง, ปริญดา ศรีธราพิพัฒน์และ บุษกร แก้วเขียว (2562)) แอพพลิเคชัน่ ไลน์จงึ เป็นวิธกี ารสอน รปู แบบหน่งึ ท่ีใช้เพอ่ื มงุ่ ส่งเสริมทักษะและผลลัพธก์ ารเรียนรู้ของนักศึกษา พยาบาลกลุ่มวยั รุ่นและ วยั ผ้ใู หญท่ ่ีสามารถเรยี นรไู้ ดท้ กุ ที่ ทุกเวลาตามความต้องการ ซึ่งสอดคล้องกบั ผเู้ รยี นใน ศตวรรษ ที่ 21 ผลการวจิ ยั ทีไ่ ด้จะนำไปพัฒนาการเรียนการสอนตอ่ ไป

กลยุทธท์ ่ี 3 การจัดการเรยี นการสอนผ่านคลิปการสอนท่คี รสู ร้างข้นึ การจัดการเรียนการสอนทีด่ ีจะต้องมีการพัฒนาสื่อการเรียนการสอนให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงตาม สถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันและสามารถ เขา้ ถงึ การเรียนรู้ได้อยา่ งอสิ ระ ทกุ ที่ ทุกเวลาคือการเรียนรู้ และการสรา้ งสรรคน์ วตั กรรมเครือ่ งมือที่ชว่ ยให้การ เรยี นการสอนเกิดประสิทธภิ าพต่อตวั ผู้เรียนซ่งึ เป็นผู้รบั ความรู้และนำความรู้ท่ีได้ไปใช้ประโยชน์ได้จริง คือการ เรียนผ่านระบบ เครือข่ายอินเทอร์เนต็ เป็นรปู แบบที่ผูเ้ รียนต้องดำเนนิ กิจกรรมการเรียนด้วยตนเอง ผู้เรียนมี อิสระในการเลือก เนื้อหา เลือกเวลาศึกษาและกิจกรรมต่างๆ และประกอบสำคัญของสื่อการเรียนการสอน ออนไลน์ ผู้สอน เตรียมเนื้อหาจัดโครงสร้างการเรียนแบบ ผสมให้เหมาะสมกับองค์ประกอบและแบบฝึกหัด การควบคุมสื่อการเรียนการสอนออนไลน์ ผู้เรียนต้องสังเคราะห์และสร้างองค์ความรู้ประสบการณ์ผ่านการ จัดการเรียนจากคลิปการสอนท่คี รูเตรียมให้

ตัวอยา่ งการเขยี นแผนการจัดการเรยี นรูต้ ามแนวทางการสอนภาษาองั กฤษเพ่ือการสอ่ื สาร (CLT) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 72 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2564 รายวชิ าภาษาองั กฤษพืน้ ฐาน รหัสวชิ า อ 13101 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 เรอื่ ง Around town เวลา 20 ช่ัวโมง แผนการจดั การเรยี นรเู้ รือ่ ง Review: place and transport เวลา 1 ช่ัวโมง ชือ่ ครูผูส้ อน นางสาวสิรริ ัตน์ สงั สุทธิ สอนวนั ท่ี 1 ธนั วาคม พ.ศ. 2564 มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชว้ี ดั มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น อยา่ งมเี หตผุ ล ตัวชี้วัด ป.3/2 อ่านออกเสียงคำ สะกดคำ อ่านกลุ่มคำ ประโยคและบทพูดเข้าจังหวะ (chant) ง่ายๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอ่าน ป.3/4 ตอบคำถามจากการฟงั หรอื อา่ นประโยค บทสนทนา หรอื นทิ านงา่ ยๆ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. นักเรยี นสามารถอ่านออกเสยี ง สะกดคำศพั ท์ และรู้ความหมายของคำศัพท์เกี่ยวกบั place ได้ 2. นกั เรียนสามารถอา่ นออกเสียง สะกดคำศัพท์ และรคู้ วามหมายของคำศพั ท์เก่ียวกับ transport ได้ 3. นักเรียนสามารถเขียนคำศัพท์เกีย่ วกบั transport ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง 4. นักเรียนสามารถเขียนคำตอบจากการอา่ นประโยคท่กี ำหนดเก่ยี วกับ place ได้อยา่ งถูกตอ้ ง สาระสำคญั การเรยี นรู้การอา่ นออกเสียง สะกดคำศพั ท์ และเข้าใจความหมายของคำศัพท์เกย่ี วกบั สถานที่และการ เดนิ ทาง เปน็ กระบวนการฝกึ ทกั ษะทางภาษา และพื้นฐานสำคญั สำหรบั การเรียนภาษาองั กฤษเพอื่ การสือ่ สาร และทำให้ผูเ้ รียนสามารถนำไปประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ สาระการเรยี นรู้ zoo shop swimming pool bus car ความรู้ - คำศัพทเ์ กย่ี วกับสถานที่ (place) bank supermarket hospital - คำศัพทเ์ ก่ียวกับการเดินทาง (transport) boat train bike plane ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด - เขียนคำศพั ท์ - เขียนคำตอบจากการอา่ นประโยค - อา่ นออกเสยี ง - สะกดคำ - ร้แู ละเข้าใจความหมายของคำศพั ท์ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ - ใฝ่เรยี นรู้ - มุ่งมั่นในการทำงาน

การอ่าน คดิ วิเคราะหแ์ ละเขยี น - กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั ที่ 1 ขัน้ นำเขา้ สบู่ ทเรยี น (Warm up) 5 นาที 1. ครูส่งคลิปการสอนลงในไลนห์ ้องของนักเรียน โดยวิธกี ารนำเข้าสบู่ ทเรยี นท่ีครไู ด้จดั ทำไว้ในคลิปการสอน คือ 1.1 ใหน้ กั เรยี นฟังเพลง “I go to school by ………….” 1.2 เมื่อเพลงจบแลว้ ครูพดู เชญิ ชวนใหน้ กั เรยี นดูภาพ แล้วใช้คำถามกระตุ้นการคิดให้ นกั เรยี นตอบ จากนัน้ พูดให้นกั เรยี นคดิ เชอ่ื มโยงเขา้ สเู่ นือ้ หาท่ีจะเรียนในช่วั โมงนี้ ขัน้ ที่ 2 ขน้ั นำเสนอเนอ้ื หา (Presentation) 15 นาที 1.ครูสง่ คลปิ การสอนลงในไลน์ห้องของนกั เรยี น place transport

โดยวธิ ีการสอนทค่ี รไู ดจ้ ดั ทำไวใ้ นคลิปการสอน คือ 1.1 ครูสอนทบทวนคำศัพท์เกีย่ วกับสถานท่ี (place) โดยมคี ำศัพท์ทีเ่ ก่ยี วขอ้ ง ดงั น้ี bank, supermarket, hospital, zoo, shop, swimming pool 1.2 ครูสอนอ่านออกเสียง สะกดคำศัพท์ และบอกความหมายของคำศัพทเ์ ก่ียวกับสถานท่ี (place) โดยครพู ดู เชญิ ชวนใหน้ กั เรยี นดคู ลิปการสอน พูดกระตุ้นใหน้ กั เรียนมีส่วนรว่ มในการเรยี นและฝึกออก เสียงตามครู 1.3 ครสู อนทบทวนคำศัพท์เก่ียวกับการเดนิ ทาง (transport) โดยมีคำศัพท์ท่ีเก่ยี วขอ้ ง ดังน้ี boat, train, bike, plane, bus, car 1.4 ครูสอนอา่ นออกเสยี ง สะกดคำศพั ท์ และบอกความหมายของคำศพั ท์เกี่ยวกับการ เดินทาง(transport) โดยครพู ูดเชิญชวนให้นักเรียนดูคลิปการสอน พดู กระตนุ้ ใหน้ ักเรียนมีส่วนรว่ มและฝึกออก เสียงตามครู 1.5 ครูให้พูดเชิญชวนใหน้ กั เรียนกลบั มาฝกึ การอ่านออกเสยี งตามและสะกดคำศพั ท์ใน slide น้ีบอ่ ยๆ เพอ่ื ใหเ้ กิดความชำนาญมากยิ่งขนึ้ ขนั้ ที่ 3 ขั้นฝึกปฏบิ ตั ิ (Practice) 15 นาที 1.ครูสง่ คลปิ การสอนลงในไลน์หอ้ งของนักเรยี น place transport โดยวธิ ีการฝกึ ทีค่ รไู ดจ้ ดั ทำไว้ในคลปิ การสอน คอื 1.1 ครูใหน้ ักเรยี นทำกจิ กรรม “Matching” โดยครพู ดู เชญิ ชวนและกระตุ้นใหน้ ักเรียนอา่ น ออกเสียงคำศพั ท์เกยี่ วกบั สถานท่ี (place) จากนนั้ ครพู ดู เรา้ ความสนใจของนกั เรยี นใหม้ สี ว่ นร่วมในการฝึกจับคู่ คำศพั ท์กับรปู ภาพ

1.2 ครใู หน้ ักเรียนทำกจิ กรรม “finding the missing words” โดยครพู ดู เชิญชวนและ กระตุน้ ให้นกั เรียนอา่ นออกเสยี งคำศพั ทเ์ กยี่ วกบั การเดินทาง (transport) จากนั้นครูพดู เร้าความสนใจของ นกั เรียนให้มสี ว่ นรว่ มในการค้นหาตัวอกั ษรทห่ี ายไปและนำมาเตมิ คำศพั ท์ให้สมบรู ณ์ ขนั้ ท่ี 4 ขั้นนำไปใช้ (Production) 20 นาที 1.ครูสง่ คลิปการสอนลงในไลนห์ อ้ งของนักเรียน โดยวธิ ีการทำแบบฝกึ หดั ที่ครไู ด้จดั ทำไวใ้ นคลิปการสอน คือ 1.1 ครูและนักเรียนร่วมกันคิดหาคำตอบในการทำแบบฝกึ หัดร่วมกนั โดยครู อา่ น แปล และสรปุ ใจความสำคญั ของแบบฝึกหดั รวมท้ังพูดกระตนุ้ ให้นกั เรียนคิดหาคำตอบแลว้ ตรวจคำตอบกับเฉลยของครใู น คลิปการสอน 1.2 ครูให้นกั เรียนสง่ งานในไลนส์ ว่ นตัวของครู 1.3 ครูส่งงานทต่ี รวจแล้วกลับใหใ้ นไลนส์ ่วนตัวของนกั เรียน ขนั้ ที่ 5 ขัน้ สรุปบทเรียน (Wrap up) 5 นาที 1.ครูสง่ คลปิ การสอนลงในไลนห์ ้องของนกั เรียน โดยวิธกี ารสรปุ ท่ีครูได้จดั ทำไว้ในคลปิ การสอน คือ 1.1 ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรุปองค์ความรู้หรือเนอ้ื หาสำคญั ท่ีไดเ้ รียนในชัว่ โมงน้ี โดยครูจดั ทำ Mind mapping แล้วเกร่นิ นำและพูดกระตุ้นให้นักเรยี นคดิ ตามและสามารถสรปุ องคค์ วามรู้ด้วยตนเอง 1.2 ครูให้นักเรียนเปิดคลิปการสอนดซู ้ำๆ เพอ่ื ใหเ้ กิดความเขา้ ใจในเนื้อหาทีเ่ รียนมากยิ่งขึ้น

ส่อื / แหลง่ การเรียนรู้ 1. หนังสือแบบฝึกหัดวชิ าภาษาอังกฤษรายวิชาพ้ืนฐาน smile3 หนา้ 42 2. คลิปการสอน การวดั และการประเมนิ ผลการจดั การเรยี นรู้ 1. การประเมนิ ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นตามจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ วธิ กี ารวดั ผล เครื่องมอื - - 1. นกั เรียนสามารถอา่ นออกเสียง สะกดคำศัพท์ และรูค้ วามหมาย - ของคำศพั ทเ์ กย่ี วกบั place ได้ - 2. นกั เรยี นสามารถอ่านออกเสยี ง สะกดคำศพั ท์ และรูค้ วามหมาย แบบฝึกหดั ของคำศพั ท์เกี่ยวกบั transport ได้ ตรวจแบบฝึกหัด/ความถูกต้อง แบบฝึกหัด 3. นกั เรยี นสามารถเขียนคำศัพท์เก่ียวกับ transport ได้อย่าง ในการทำแบบฝึกหดั ถกู ต้อง 4. นกั เรยี นสามารถเขยี นคำตอบจากการอา่ นประโยคท่ีกำหนด ตรวจแบบฝึกหัด/ความถกู ต้อง เก่ียวกบั place ได้อยา่ งถูกต้อง ในการทำแบบฝกึ หดั หมายเหตุ : การประเมนิ ผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นตามจุดประสงคก์ ารเรียนรูใ้ นแต่ละข้อ สามารถ ปรับเปล่ยี นไดภ้ ายใต้ดุลยพนิ ิจของครผู ู้สอน และความเหมาะสมสอดคล้องกบั วิธกี ารเรียนรู้ตามสถานการณ์ ปจั จบุ นั 2. การประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ วิธกี ารประเมิน เครื่องมือ ตรวจสอบการส่งงาน แบบฝกึ หดั ตัวช้ีวัด ตรวจสอบการส่งงาน แบบฝึกหัด ขอ้ ท่ี 4 ใฝเ่ รียนรู้ ตัวชีว้ ดั ที่ 4.1 ตงั้ ใจ เพยี รพยายามในการเรยี นรแู้ ละเขา้ รว่ ม กจิ กรรมในการเรยี นรู้ ข้อที่ 6 ม่งุ มัน่ ในการทำงาน ตวั ชว้ี ัด 6.1 ตั้งใจและรับผิดชอบในการปฏบิ ตั หิ น้าที่ การงาน

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 72 กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 รายวิชาภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน รหัสวิชา อ 13101 ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 3 หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 4 เร่อื ง Around town เวลา 20 ชัว่ โมง แผนการจดั การเรียนรเู้ รอื่ ง Review: place and transport เวลา 1 ชว่ั โมง ครูผสู้ อน นางสาวสิรริ ตั น์ สงั สุทธิ สอนวนั ที่ 1 ธนั วาคม พ.ศ. 2564 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ผลการจดั การเรียนรู้ 1. นักเรยี นสามารถอา่ นออกเสียง สะกดคำศัพท์ และร้คู วามหมาย จำนวนเรยี นทั้งหมด................................ คน ของคำศัพทเ์ กยี่ วกับ place ได้ จำนวนนกั เรยี นทผ่ี า่ นการประเมนิ ................ คน คดิ เป็นร้อยละ ......... จำนวนนักเรียนทีไ่ มผ่ ่านการประเมนิ ................คน คิดเป็นรอ้ ยละ............. 2. นักเรียนสามารถอ่านออกเสียง สะกดคำศพั ท์ และรูค้ วามหมาย จำนวนเรยี นท้ังหมด................................ คน ของคำศพั ท์เกยี่ วกับ transport ได้ จำนวนนักเรยี นทผ่ี ่านการประเมิน................ คน 3. นักเรยี นสามารถเขยี นคำศพั ท์เกี่ยวกับ transport ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง คิดเป็นร้อยละ ......... จำนวนนกั เรียนท่ไี มผ่ ่านการประเมิน................คน 4. นักเรยี นสามารถเขียนคำตอบจากการอ่านประโยคทีก่ ำหนด เกย่ี วกบั place ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง คิดเป็นรอ้ ยละ............. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ จำนวนเรียนท้งั หมด................................ คน จำนวนนกั เรยี นที่ผา่ นการประเมิน................ คน คิดเป็นร้อยละ ......... จำนวนนกั เรียนทไ่ี ม่ผา่ นการประเมิน................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ............. จำนวนเรียนท้ังหมด................................ คน จำนวนนกั เรียนท่ผี า่ นการประเมิน................ คน คดิ เปน็ ร้อยละ ......... จำนวนนกั เรียนทไี่ ม่ผา่ นการประเมิน................คน คิดเปน็ ร้อยละ............. ผลการจดั การเรียนรู้ ขอ้ ที่ 4 ใฝ่เรียนรู้ จำนวนเรียนทง้ั หมด................................ คน ตัวช้วี ัด 4.1 ตง้ั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเข้ารว่ มกิจกรรม จำนวนนกั เรียนทีผ่ า่ นการประเมนิ ................ คน การเรียนรู้ คดิ เป็นร้อยละ ......... จำนวนนกั เรียนที่ไม่ผา่ นการประเมิน................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ............. ขอ้ ที่ 6 การใฝ่เรียนรูแ้ ละมงุ่ มั่นในการทำงาน จำนวนเรยี นทง้ั หมด................................ คน ตัวชี้วัด 6.1 ต้งั ใจและรบั ผิดชอบในการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี การงาน จำนวนนักเรียนทผ่ี ่านการประเมิน................ คน คดิ เปน็ ร้อยละ ......... จำนวนนักเรียนทไ่ี ม่ผา่ นการประเมนิ ................คน คิดเป็นร้อยละ.............

ตวั อย่างคลปิ การสอนที่ครูจดั ทำขึ้นตามแนวทางการสอนภาษาอังกฤษเพอ่ื การสอ่ื สาร (CLT) คลิปการสอนชวั่ โมงท่ี 12 (ใชส้ อนประกอบแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 72)



















บทบาทของผ้ปู กครองในชว่ งการสอน On line

ผลงานนักเรยี นในชว่ งการสอน On line

การสง่ งานนกั เรยี นในชว่ งการสอน On line

การมอบหมายงานนกั เรียนในช่วงการสอน On line

การเขา้ เรยี นของนักเรยี นในช่วงการสอน On line

โรงเรยี นชมุ ชนประชาธิปัตยว์ ิทยาคาร สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาปทุมธานี เขต 2