การปลูกและการแปรรูปมะม่วง

การปลูกและการแปรรปู มะม่วง ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อำเภอสามรอ้ ยยอด สำนกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยจงั หวดั ประจวบคีรีขันธ์ สำนกั งานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั สำนักงานปลัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร กระทรวงศกึ ษาธิการ

ความสำคัญของหลักสูตร อาชีพของเกษตรกรส่วนใหญ่ในอำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประกอบอาชีพด้าน เกษตรกรรม มกี ารปลูกพชื อายุสนั้ และ ไมย้ นื ตน้ มากมายหลายชนิด เช่น มะม่วง ขนุน ชมพู่ กลว้ ย ฝรงั่ สบั ปะรด ฯลฯ มผี ลผลติ สตู่ ลาดตลอดปี โดยเฉพาะมะม่วงของอาเภอสามรอ้ ยยอด จังหวดั ประจวบคีรขี ันธ์ ทเ่ี ป็นไม้ผลเศรษฐกิจมีผลผลติ ที่สำคัญในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกจิ ตอ่ อำเภอสามรอ้ ยยอด เปน็ อับดับ 2 รอง จากสับประรด และเป็นไม้ผลเศรษฐกิจชนิดหนึ่งของประเทศท่ีส่งออกมะม่วงท้ังผลสดและผลิตภัณฑ์ท่ีแปรรูป จากมะม่วงเป็นอันดับ 3 ของประเทศ ดังนั้นทุกปี อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกับชมรม กำนันผู้ใหญ่บ้าน เทศบาลตำบลไร่เก่า เทศบาลตำบลไร่ใหม่ องค์การบริหารส่วนตำบลทุกตำบล สหกรณ์ชาวไร่ สับประรดสามร้อยยอด จำกัด กลุ่มผู้ปลูกสับประรด กลุ่มผู้ปลูกมะม่วง กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจ ชุมชน กศน.อำเภอสามร้อยยอด และหน่วยงานราชการต่าง ๆ ของอำเภอสามร้อยยอด ตลอดจนประชาชน กำหนดจดั งานเทศกาลมะม่วงและของดสี ามร้อยยอดข้นึ ทุกปี ณ บริเวณสนามทว่ี ่าการอำเภอสามร้อยยอด โดย มีวัตถุประสงค์เพ่ือประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ผลผลิตไม้ผลของเกษตรกร โดยเฉพาะมะม่วง และสถานท่ี ท่องเที่ยวอันวิจิตรงดงามพร้อมทั้งล้ำค่าที่เลื่องลือ เช่น องค์พ่อปู่แห่งเขาสามร้อยยอด ถ้ำพระยานคร ถ้ำแก้ว หาดนมสาว ทงุ่ บึงบวั สามร้อยยอด ฯลฯ ของอำเภอสามร้อยยอดและเป็นงานสบื สานประเพณีท้องถน่ิ ประจำทุกปี ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสามร้อยยอด สำนักงานส่งเสริม การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เหน็ ถึงความสำคัญของการปลูกและ การแปรรูปมะมว่ งทเี่ ปน็ พืชไม้ผลทางเศรษฐกิจของอำเภอสามร้อยยอดและตอ่ ประเทศดังกล่าว จึงมแี นวทางใน การพัฒนาหลกั สูตรรายวซิ าเลือก อช13414 การปลูกและการแปรรูปมะม่วง จงั หวัดประจวบคีรีขนั ธ์ 1 ระดับ ประถมศึกษา อช23734 การปลกู และการแปรรูปมะมว่ ง จังหวดั ประจวบคีรีขนั ธ์ 2 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น และ อช331112 การปลูกและการแปรรูปมะม่วง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 3 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ซึ่ง เป็นหลักสูตรที่ตอบสนองกับอาชีพของคนในพ้ืนที่ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอำเภอ สามรอ้ ยยอด และทกุ อำเภอในจังหวดั ประจวบคีรีขันธ์ สามารถนำไปใช้จดั การศึกษานอกระบบระดับการศึกษา ข้ันพ้ืนฐานให้กับนักศึกษาในสังกัด จึงเป็นหลักสูตรท่ีมีคุณค่าและประโยชน์กับผู้เรียน ช่วยให้ศูนย์การศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทุกอำเภอในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์สามารถจัดการเรียนรู้ท่ีมี ความหมาย เป็นการจัดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลอย่างแท้จริง เพ่ือให้การจัดการศึกษา นอกระบบระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐานของรายวิซา การปลูกและการแปรรูปมะม่วง จังหวัดประจวบศรีขันธ์ ทั้ง 3 ระดับ บรรลุมาตรฐานการเรียนรู้และให้นักศึกษาเกิดความภาคภูมิใจในอาชีพน้ี รวมถึงภาคภูมิใจในการเป็น คนอำเภอสามร้อยยอด และคนจงั หวัดประจวบคีรขี ันธ์

ประวตั ขิ องมะม่วง เป็นพืชท่ีมีถ่ินกำเนิดในอินเดีย เพราะการที่ภูมิภาคน้ันมีความหลากหลายทางพันธุกรรมและ ร่องรอยฟอสซิลท่ีหลากหลาย นับย้อนไปได้ถึง 25-30 ล้านปีก่อน มะม่วงมีความแตกต่างประมาณ 49 สาย พนั ธ์กุ ระจายอยู่ตามประเทศในเขตรอ้ นตงั้ แต่อนิ เดยี ไปจนถงึ ฟลิ ิปปินส์ จากนัน้ จงึ แพรห่ ลายไปทว่ั โลก มะมว่ ง ในประเทศไทยจัดเป็นผลไม้ท่ีปลูกกันอย่างแพร่หลาย จนเป็นผลไม้เศรษฐกิจที่สำคัญ และนอกจากน้ัน เมอื งไทยก็ยงั มีผลไมเ้ ศรษฐกิจอีกมากมายหลากหลายพันธุ์ เชน่ ทุเรียน เงาะ ส้ม มังคุด องุน่ เป็นตน้ มะม่วงตามทำเนียบต้นไม้ของกรมป่าไม้จัดได้ว่าเป็นต้นไม้จากต่างประเทศ แต่คนไทยส่วนใหญ่ เข้าใจว่าเป็นไม้ดั้งเดิมของไทยซึ่งความจริงแล้วมะม่วงมีถ่ินกำเนิดมาจากประเทศอินเดีย และพม่าและ ได้เข้า มาเป็นที่นิยมในประเทศไทยเม่ือหลายร้อยปีก่อนจึงทำให้กลายเป็นไม้พ้ืนเมืองไปส่วนในประเทศอินเดียที่เป็น ถ่นิ กำเนิดถือว่ามะมว่ ง เป็นผลไม้โบราณท่ีสุดของอนิ เดียหรือเรียกได้ว่าเป็นผลไม้ประจำชาติอนิ เดยี เลยก็ว่า ได้ มะม่วงมีความสำคัญต่อศาสนาฮินดูหรือพราหมณ์เป็นอย่างมาก เช่น นิยายโบราณของฮินดูเล่ากันว่า พระ ประชาบดีเสกสรรค์ขึน้ มาส่วนกาพย์ในภาษาสนั สกฤตก็เต็มไปด้วยการยกย่องสรรเสรญิ ดอก ผล ต้น และพุ่ม ท่ีงดงามให้เป็นภาพศิลป์อย่างดีเลิศและเป็นกาพย์ท่ีแสดงความรู้สึกท่ีเป็นอมตะซ่ึงต้ังแต่สมัยโบราณมาจนถึง ปัจจุบันน้ี ชาวฮินดูยังใช้ส่วนต่าง ๆ ของมะม่วงในพิธีบูชา และบวงสรวงเทพเจ้า เช่น ดอกมะม่วง ในฤดู แรกสามารถนำมาบวงสรวงพระสุรัสวดี และในเดือนต่อมาก็จะบวงสรวงแด่พระศิวะซ่ึงพู่ของยอดมะม่วงจะ นำมาใชใ้ นพิธี และการบวงสรวงเทพเจ้าเชน่ กนั กิ่งมะม่วงแห้งใชโ้ หมกรรมพิธีกองกณู ฑบ์ ูชาเทพเจา้ สว่ นหมตู่ ้น มะม่วงก็เป็นท่ีประทับของ พระพุทธเจ้าซึ่ง นางอัมพปาลี (อัมดาราริกา) ได้เป็นผู้ถวายสวนมะม่วงแด่ พระพุทธเจ้า และต่อมาพระพุทธเจ้ากไ็ ดแ้ สดงยมกปาฏหิ าริย์ทตี่ น้ มะม่วงแห่งนน้ั (ต้นรามพฤกษ) สำหรับมะม่วงของไทยน้ัน ลองนับดูก็เห็นว่ามีมากหลายสิบชนิดเหมือนกัน กล่าวกันว่า พระวิมาดาเธอ กรมพระสุทธาสินนาฎ ปิยมหาราชปดิวรัดา (ประสูติวันท่ี 4 กันยายน 2406 สิ้นพระชนม์ วนั ที่ 24 มิถุนายน 2472) ได้ทรงรวบรวมปลูกไว้ที่ โรงเล้ยี งเด็กถึง 30 ชนิดดว้ ยกัน ชอ่ื ของมะมว่ งก็นบั วา่ แปลก บางชื่อไม่ทราบว่าผู้ต้ังเอาสาเหตุอะไรมาตั้ง ลักษณะการตั้งช่ือมะม่วงของไทยเรานั้นบางทีก็ต้ังตามลักษณะ รปู ร่างของมะมว่ ง เชน่ อกรอ่ ง เพราะมีรอ่ งทอ่ี กมะม่วง ชนิดทมี่ ีสแี ดงเคลือบก็ให้ชอื่ วา่ แก้มแหม่ม ชื่อนี้เข้าใจว่า จะตั้งในสมัยรัตนโกสินทร์คือตอนที่รู้จักแหม่มฝรั่งกันแล้ว เห็นแก้มแหม่มแดง ๆ ก็เลยเอาไปต้ังเป็นชื่อมะม่วง ที่ผิวคล้ำค่อนไปทางดำก็เรียกว่าทองดำ มีอยู่ชนิดหนึ่ง เรียกว่าอีแรดหรืออ้ายแรด น่ีเห็นจะเรียกตามลักษณะ อีกเหมือนกัน เพราะมีเขาเหมือนนอแรด บางทีก็ตั้งตามรสของมะม่วง เช่น มันกรอบก็เรียกว่าแตงกวา นอกจากน้ีก็มีท่ีหาสาเหตุไม่พบอีกหลายสิบชื่อเช่น พิมเสน (มีบางท่านเข้าใจผิดว่าชื่อเดิมคือสามเสน เพราะ ปลูกที่ สามเสนมาก่อน เห็นจะรวบรัดกันมากไปนัก) หนังกลางวัน น้ําดอกไม้ ทองปลายแขน แก้วกะร่อน ตลับนาค ทุเรยี น นา้ํ ตาลทราย น้ําตาล

ลักษณะทางพฤกษศาสตรข์ องมะมว่ ง มะม่วงเป็นพืชอยู่ในสกุล Mangifera ซึ่งเป็นไม้ผลเมืองร้อนในวงศ์ Anacardiaceae ชื่อ วิทยาศาสตร์ : Mangifera indica มะม่วงจัดเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวจำพวกไม้เนื้ออ่อนที่มีอายุหลายปี มีช่อ ดอกที่ส่วนยอดของลำต้น ซึ่งมะม่วง เป็นไม้พุ่มขนาดกลาง ใบโต ยาว ปลายแหลม ขอบใบเรียบ ใบอ่อนสีแดง ออกดอกเป็นช่อตามปลายก่ิง ดอกขนาดเล็ก สีขาว ผลอ่อนสีเขียว ผลแก่สีเหลือง เมล็ดแบน เปลือกหุ้มเมล็ด แข็ง สามารถปลกู ในสภาพดินทั่วไปท่ีเหมาะสม คือ ดินร่วน ดินร่วนปนทราย มคี วามเป็นกรดอ่อน ๆ ถึงเป็น กลาง (pH. 6.5 - 7.5 ) และมีการระบายน้ำได้ดี สำหรับต้นมะม่วงจะประกอบดว้ ยสว่ นต่าง ๆ ทีส่ ำคัญ ดงั นี้ ดอก ออกเป็นชอ่ ชอ่ หนง่ึ มี ใบ ลักษณะของใบเป็นรูปหอก มี ประมาณ 15-20 ดอก ลักษณะของดอก สเี ขียวเข้ม เปน็ ไม้ใบเด่ยี วจะออกเรียงกนั เปน็ สีเหลอื งอ่อน หรอื สนี วล ๆ เป็นดอกท่ี เป็นคู่ ๆ ไปตามกา้ นใบ ขอบใบเรยี บไม่มี มขี นาดเล็ก หยัก ปลายใบแหลม สว่ นโคนใบมน เน้อื ใบค่อนขา้ งจะหนา ตน้ เปน็ พรรณไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ แตกก่ิงก้านสาขาออกไปรอบต้นมากมายจนดู หนาทบึ เปลือกของต้นจะมสี ีน้ำตาลดำ พน้ื ผิว เปลอื กขรุขระ เปน็ ร่องไปตามแนวยาวของลำต้น ผล เม่ือดอกโรยก็จะตดิ ผล มีลกั ษณะตา่ งกันแล้วแตล่ ะพนั ธุ์ เชน่ บางทมี ีเปน็ รูปมนรี ยาวรี หรอื เปน็ รูปกลมป้อม ผลอ่อนมเี ป็นสเี ขยี ว เม่อื แก่หรือสุกเตม็ ที่กจ็ ะเปลย่ี นเปน็ สีเหลืองสด ภายในผลมเี มล็ด ผลหนง่ึ มเี มลด็ เดยี ว

ภาพลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของมะม่วง การขยายพันธุ์ : เป็นพรรณไม้กลางแจ้ง ท่ีชอบแสงแดดจัด เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนผสมพิเศษ ขยายพันธ์ุ ด้วยการเพาะเมลด็ ตอนกิ่ง หรอื การทาบกง่ิ ประโยชน์และความสำคญั ของมะมว่ ง 1. เป็นอาหารทีม่ ีคณุ ค่าทางโภชนาการ และสว่ นประกอบของต้นมะมว่ ง มีสรรพคณุ : ❖ เปลือกลำต้น ใช้เปลือกลำต้นสด นำมาต้มเอาน้ำกินเป็นยาแก้ไข้ แก้โรคคอตีบ แก้ เยือ่ ปากอกั เสบ เยอื่ เมอื กในจมกู อักเสบ หรือใชส้ วนล้างช่องคลอดแกอ้ าการตกขาว ❖ ใบ ใช้ใบสดประมาณ 15-30 กรัม นำมาต้มเอาน้ำกิน เป็นยาแก้ลำไส้อักเสบเร้ือรัง แก้ซางตานขโมยในเด็ก แก้อืดแน่น หรือใช้ใบสดตำให้ละเอียดพอกบริเวณแผลสด หรือใชล้ า้ งบาดแผล เปน็ ต้น ❖ ผล ใช้ผลสด นำมากินเป็นยาแก้คลื่นไส้ อาเจียนวิงเวียน แก้โรคเลือดออกตามไรฟัน ขับปัสสาวะ เป็นยาระบาย แก้อาการปวดเม่ือยเม่ือมีประจำเดือน แก้บิดถ่ายเป็น เลือด และใชเ้ ป็นยาบำรุงกระเพาะอาหาร เปน็ ต้น และ ❖ เมล็ด ใช้เมล็ดสด ประมาณ 2-3 เม็ด นำมาต้มเอาน้ำกินเป็นยาถ่ายพยาธิตัวกลม แกท้ ้องร่วง แก้บดิ เร้ือรงั รดิ สีดวงทวาร ตกขาว ตกเลอื ด ทอ้ งอดื แกไ้ ส้เลอ่ื น และแก้ ไอ สำหรับสรรพคุณของมะม่วงในการแพทย์ทางเลือก โดยส่วนประกอบต่าง ๆ ของมะม่วง นำมาใช้รักษาโรคต่างๆ เช่น แก้โรคคอตีบ แก้เยื่อปากอักเสบ เย่ือเมือกในจมูกอักเสบ ยาแก้ลำไส้ อกั เสบเรื้อรงั แก้ซางตานขโมยในเด็ก แก้อดื แนน่ 2. การแปรรปู มะมว่ งในวถิ ีชวี ิต ประกอบดว้ ย การทำมะมว่ งกวน และการดองมะมว่ ง 3. การแปรรูปมะม่วงในโรงงานอุตสาหกรรม มีหลากหลายชนิด ได้แก่ เน้ือมะม่วงสุกแช่เยือก แขง็ มะม่วงกระปอ๋ ง นำ้ มะม่วงบรรจุภณั ฑ์ มะมว่ งอบแห้ง มะม่วงดอง และมะมว่ งกวน 4. เปน็ สว่ นผสมของเครื่องสำอางมะมว่ งช่วยบำรุงผวิ พรรณให้เปลง่ ปลั่งสดใสอยเู่ สมอ 5. แปรรปู เป็นเคร่ืองใชใ้ นครวั เรอื น ผลติ ภัณฑ์เครอื่ งใชเ้ ฟอร์นเิ จอร์

พันธ์ุท่ีนิยมรับประทานดิบ คือ มีรสหวาน มัน แต่พอสุกจะมีรสหวานชีด ไม่อร่อย หรือบาง พนั ธม์ุ รี สเปรยี้ ว นิยมรบั ประทานกบั นำ้ ปลาหวาน เช่น (1) มะม่วงเขยี วเสวย รสมันอมเปรย้ี ว (2) มะม่วงแรด รสชาติอมเปรี้ยว (3) มะมว่ งฟ้าลน่ั มีรสมนั

พันธ์ุท่ีนิยมรับประทานสุก คือ มีรสเปร้ียวตอนยังดิบ แต่เมื่อสุกแล้วเนื้อมะม่วงจะเหลิอง หวาน อรอ่ ย นยิ มรับประทานกับขา้ วเหนยี วมนู เชน่ (1) มะม่วงน้ำดอกไม้ (2) มะมว่ งนำ้ ดอกไมส้ ีทอง (3) มะม่วงอกร่อง ผลเปน็ รปู กลมรแี ละยาว ทรงผลสวย (2) มะม่วงอกร่อง เน้อื สุกรสชาติหวานหอม เมล็ดบางเสยี้ นน้อย รับประทานอร่อยมาก

พันธุ์ที่นิยมนำมาแปรรูป คือ เมื่อแก่จัดมีรสมันอมเปร้ียว เมื่อสุกมีรสหวานอมเปร้ียว หรือหวานชืด จึงนิยม นำมาแปรรปู เปน็ มะม่วงดอง มะม่วงกวน และอื่นๆ เช่น (1) มะม่วงแกว้ (2) มะมว่ งสามฤดู

ข้าวเหนยี วมะม่วง สว่ นผสม ข้าวเหนียวมะมว่ ง • ข้าวเหนยี ว 350 กรัม • กะทิ 1 กระป๋อง • น้ำตาลทราย 3/4 ถว้ ย • เกลือ 1+1/4 ชอ้ นชา • แป้งขา้ วเจา้ 1 ชอ้ นชา • ใบเตย 4-5 ใบ วิธที ำ ขา้ วเหนียวมะม่วง 1. ล้างขา้ วเหนียวใหส้ ะอาดแลว้ แชน่ ำ้ ทิง้ ไว้ขา้ มคนื 2. เตมิ นำ้ ลงในซ้งึ น่ึง นำข้ึนตัง้ ไฟค่อนขา้ งแรง รอจนน้ำเดือด จากนั้นสะเดด็ น้ำข้าวเหนยี วขนึ้ มาห่อผ้าขาวบาง วางใบเตยลงไปประมาณ 2 ใบ แลว้ นำไปนง่ึ 3. นง่ึ ประมาณ 30 นาทีจนขา้ วเหนียวสกุ 4. นำกะทิมาแบง่ ไว้ 3/4 ถ้วย สำหรับกะทิสว่ นทเ่ี หลือให้นำไปใส่หม้อเลก็ ๆ เติมน้ำตาลและเกลอื 1 ชอ้ นชาลง ไป จากน้ันนำไปตั้งบนไฟอ่อน 5. ใส่ใบเตยท่เี หลือลงในหม้อกะทิ ใช้ทัพพคี นเร่ือย ๆ จนน้ำตาลละลาย อยา่ ให้กะทเิ ป็นก้อน รอจนกะทเิ ดือด จงึ ปิดเตาและยกลงพักไว้ 6. ตกั ข้าวเหนยี วท่ีสุกแล้วใส่ลงในอ่างผสม เทกะทิร้อน ๆ ใสล่ งไป คนเรว็ ๆ ให้ท่วั แลว้ ปิดฝาใหข้ ้าวเหนยี วระอุ อกี ประมาณ 15 นาที 7. นำกะทิ 3/4 ถว้ ยท่ีแบง่ ไวม้ าผสมกับแป้งขา้ วเจา้ และเกลือ นำไปตัง้ ไฟแลว้ คนเร่ือย ๆ จนกะทิข้นและเดอื ด เพอื่ ใชเ้ ปน็ กะทิสำหรบั ราดหน้า 8. ตักข้าวเหนยี วใสจ่ าน ราดดว้ ยนำ้ กะทิทเี่ ตรียมไว้ เสริ ์ฟพร้อมมะม่วงสกุ

มะมว่ งกวน ส่วนผสม • มะม่วงสุก • น้ำตาลทราย หรอื น้ำตาลกรวด • เกลอื • สารสม้ • นำ้ วธิ ที ำ 1. นำมะม่วงสุกท่ีปอกเปลือกแล้วแชล่ งในสารสม้ พอประมาณ แชท่ ิ้งไว้ 5 นาที 2. หัน่ มะม่วงเอาแต่เนื้อ แลว้ นำมาบดหรือปัน่ ใหล้ ะเอียด 3. ใสม่ ะมว่ งบดลงไปในกระทะ เตมิ น้ำตาลทรายลงไป จากน้นั กก็ วนไปเรื่อย ๆ อยา่ งน้อย 1-2 ชว่ั โมง หม่ันเตมิ น้ำและค่อย ๆ กวนให้เขา้ กนั ในระหวา่ งทกี่ วน ให้ใส่สารส้มลงไปด้วยเล็กนอ้ ย 4. เม่ือกวนเสร็จแลว้ ตกั ข้นึ มาใส่ภาชนะท่ที นความร้อนได้ดี ทิ้งไว้ประมาณ 6-8 ชวั่ โมง กอ่ นจะนำไปตาก 5. นำถาดมารองดว้ ยพลาสติก เพอื่ ให้มะมว่ งกวนลอกออกได้ง่าย ๆ 6. นำมะม่วงกวนมาหยอดเปน็ แผ่นวงกลม หรอื เทลงไปเลยก็ได้ แล้วเกลยี่ บางๆ แหง้ แลว้ ค่อยมาตัดเป็น ช้นิ ๆ 7. ตากมะมว่ งกวนให้แหง้ ท้งั สองดา้ น โดยใช้แดดแรง เตม็ ๆ 1 วัน หากไม่มแี ดดให้นำออกมาตากอีก จนกว่าจะแห้ง 8. เสร็จแล้วลอกมะมว่ งกวนออกจากแผ่นพลาสติก มว้ นเปน็ ชิ้นสวย ๆ แล้วจัดเรียงใสก่ ลอ่ ง

แกงสม้ มะม่วงนำ้ ดอกไม้ ส่วนผสม ปลาสด (ขอดเกลด็ ) 4 ตัว มะมว่ งดิบ (ปอกเปลือก) 1 ลูก เครือ่ งแกงส้ม 1 ช้อนโต๊ะ กะปิ 1 ช้อนชา มะนาว 1/2 ช้อนโต๊ะ ผงเตมิ ทิพ 1 ชอ้ นชา นำ้ ตาลปี๊บ 1 ชอ้ นชา เกลอื เลก็ น้อย นำ้ สะอาด 1 ถว้ ยตวง ข้ันตอน วิธเี ตรยี มปลา นำปลาขอดเกลด็ เอาพุงออก ล้างให้สะอาดใสต่ ะกรา้ พกั ให้สเด็ดน้ำ วธิ ีเตรียมมะมว่ งดบิ นำมะมว่ งดิบปอกเปลอื ก ล้างให้สะอาด นำผ่าเป็นชิน้ นำเครอ่ี งแกงใสก่ ะปิ ใส่น้ำ ละลายตัง้ ไว้ วิธที ำแกงสม้ นำหม้อต้งั ไฟปานกลางใส่นำ้ ซุป รอใหเ้ ดอื ด ใส่เครอ่ื งแกงสม้ ใสก่ ะปิ ละลายใหเ้ ข้ากนั ใส่ มะมว่ ง ใสป่ ลา (หา้ มคน) รอใหเ้ ดอื ด ปรุงรสดว้ ย ผงเติมทิพ น้ำตาลปบ๊ี ใสน่ ำ้ มะนาว เกลือเลก็ น้อย ชมิ รส ตามใจชอบตักใสถ่ ว้ ย กนิ คู่ ข้าวสวยรอ้ น ๆ

มะมว่ งนำ้ ปลาหวาน วัตถดุ บิ มะม่วงน้ำปลาหวาน 1.นำ้ ปลา 5 ช้อนโต๊ะ 2.น้ำเปลา่ 4 ช้อนโตะ๊ 3.น้ำตาลปีบ๊ 500 กรัม 4.กะปิ 3 ชอ้ นชา 5. กุ้งแห้ง 3 ช้อนโต๊ะ 6. กุ้งแห้งปน่ 1 ½ ถ้วยตวง 7. หอมแดงซอย 15 ลกู 8. พรกิ จินดาซอย 15 เมด็ 9. พริกแหง้ 2 ช้อนโต๊ะ 10. มะม่วงดิบ ตามชอบ วิธที ำมะม่วงนำ้ ปลาหวาน STEP 1 : ซอยพริกและหอม ห่นั หัวขั้วพริกจินดาและนำมาซอยเตรยี มไว้ ซอยหอมแดงเปน็ แวน่ ๆ เตรียมไว้ STEP 2 : ทำน้ำปลาหวาน ต้มน้ำปลาด้วยไฟแรงเพ่ือไลก่ ลนิ่ คาวออก ประมาณ 5 - 10 วินาที ปดิ ไฟกอ่ นใส่นำ้ ตาลปี๊บ นำ้ เปลา่ และกะปิลงไป เปิดไฟอ่อน คนใหล้ ะลายเข้ากนั ใชไ้ ฟอ่อนเคย่ี วให้นำ้ ตาลปปี๊ ละลาย เค่ียวต่อไปจนเร่มิ ใส ใสพ่ รกิ แห้ง กุง้ แห้งป่น หอมแดง และพริกขห้ี นูซอยใสล่ งไปในนำปลาหวาน คลกุ เคล้าให้เข้ากนั ก่อน ปิดไฟยกลงให้หายร้อน อ่านต่อได้ที่ https://www.wongnai.com/recipes/sweet-fish-sauce-with-raw- mango?ref=ct