Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สัญญาจ้างแรงงาน

สัญญาจ้างแรงงาน

Published by ShirakuraSRC, 2021-10-07 09:11:17

Description: สัญญาจ้างแรงงาน

Search

Read the Text Version

รายงาน สัญญาจา้ งงาน เสนอ ผศ.กนั ตก์ ษิษฐ์ จูรตั น์ จัดทาโดย 635420323 635420330 นายฮาซาน นายสุรชยั ชิรากุรา รายงานน้ีเป็นส่วนหน่ึงของวิชา การภาษีอากรและกฎหมายธุรกิจ (3532204) หลกั สูตรบริหารธุรกิจบณั ฑติ สาขาการจดั การโลจสิ ตกิ ส์ ปี การศกึ ษา 2563 มหาวิยาลยั ราชภฏั กาแพงเพชร แมส่ อด

ก คานา การจา้ งแรงงาน เปน็ สัญญาชนิดหน่ึง และเป็นเอกเทศสัญญาลกั ษณะจา้ งแรงงาน ตามประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณชิ ย์ เปน็ สัญญาที่นายจ้างและลูกจ้างต่างตอบแทนให้กนั และกัน โดยลกู จ้างตอบแทนให้นายจ้างด้วยการ ทํางานใหน้ ายจา้ ง และนายจา้ งตอบแทนด้วยการให้ค่าจ้าง ซ่ึงเรียกวา่ สินจ้างน้นั แก่ลกู จา้ ง สัญญาจา้ งแรงงานตาม ประมวล กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ใชบ้ ังคับแก่นายจ้างและลูกจ้างทุกประเภท ยกเว้นลูกจ้างของทางราชการท่ีมี กฎหมายของราชการสว่ นนัน้ ๆใช้บังคับไว้โดยเฉพาะอยแู่ ลว้

สารบัญ ข ลกั ษณะสำคัญของสัญญาจา้ งแรงงาน 1 แบบของสัญญาจ้างแรงงาน 3 สทิ ธหิ นา้ ทขี่ องนายจา้ งและลกู จา้ ง 3 3 1.นายจา้ งมสี ทิ ธแิ ละหนา้ ท่ี 3 1.1 สิทธนิ ายจ้าง 4 1.2 หน้าทน่ี ายจา้ ง 5 5 2.ลูกจา้ งมีสิทธแิ ละหนา้ ที่ 5 2.1 สิทธลิ กู จ้าง 6 2.2 หนา้ ทลี่ ูกจา้ ง 6 7 ความระงบั แห่งสญั ญาจ้างแรงงาน 7 1. ระยะเวลา 7 2. ตวั คสู่ ัญญา 8 2.1 ลกู จ้างตายหรือทุพพลภาพ 8 2.2 นายจา้ งตาย สัญญาจา้ งระงับหรอื ไม่ 8 3. การบอกเลกิ สญั ญา 9 3.1 สัญญาใช้สทิ ธิบอกเลกิ สญั ญา 9 3.2 สัญญาเลกิ โดยบทบัญญัติของกฎหมาย 9 10 ขอ้ แตกต่างการจา้ งงานแบบทว่ั ไปและการจ้างงานแบบชั่วคราว 18 ลกั ษณะเฉพาะของการจา้ งงานแบบท่ัวไป ลกั ษณะเฉพาะของการจา้ งงานแบบชัว่ คราว ตัวอย่าง(๑) ตัวอย่าง(๒)

1 สญั ญาจา้ งแรงงาน ลักษณะสำคญั ของสญั ญาจ้างแรงงาน การจา้ งแรงงานเกิดขึน้ ระหวา่ งบุคคลสองฝ่าย คือ ฝ่ายนายจา้ ง กบั ฝ่ายลูกจา้ ง ท่มี ีนิติสมั พันธ์ ก่อให้มีสัญญา เกดิ ขึ้น หลักกฎหมายลักษณะจ้างแรงงานตามประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์วางหลัก “จา้ งแรงงานคือสัญญา ซึง่ บุคคลคนหน่งึ เรยี กว่า ลกู จา้ ง ตกลงจะทํางานใหแ้ ก่บคุ คลอกี คนหนึ่ง เรยี กว่า นายจา้ ง และนายจา้ งตกลงจะให้ สนิ จา้ งตลอดเวลาทีท่ ํางานให้” จากหลักกฎหมาย ลักษณะสําคญั ของการจ้างแรงงาน จงึ ได้แก่ 1. จ้างแรงงานเปน็ สญั ญา คอื มีบุคคลสองฝ่าย ได้แก่ ฝา่ ยนายจ้างและฝ่ายลกู จ้าง จะเป็นฝ่ายละหน่ึงคนหรือ หลายคนก็ได้มาตกลงกนั มีนิตสิ ัมพนั ธ์กันในทางกฎหมาย 2. เป็นสญั ญาต่างตอบแทน กล่าวคือ คสู่ ัญญา ไดแ้ ก่ นายจ้างและลกู จ้างต่างกม็ ีหน้าทีต่ ้องตอบแทนหรือต่าง ตอบแทนใหแ้ กก่ ันตามสัญญา 3. วัตถุแหง่ สัญญาคอื งานที่ทําวตั ถแุ หง่ สญั ญา หมายถงึ สาระหลกั ใหญ่ตามจุดประสงค์ของสัญญา คือ งานที่ นายจ้างมอบใหล้ ูกจา้ งทํา ซง่ึ ในทางกฎหมายเรียกวา่ วัตถแุ หง่ สัญญา คอื งานที่ใหล้ กู จ้างทาํ 4. ลูกจ้างต้องทํางานให้นายจ้าง และนายจ้างต้องให้ค่าจา้ งแก่ลูกจ้าง ความหมายนี้เป็นหน้าท่ีของ คู่สัญญา ตอ้ งปฏบิ ตั ติ อบแทนให้กันและกัน คือ ลูกจา้ งตอ้ งทาํ งานให้นายจา้ ง งานทท่ี าํ อาจเปน็ การใช้แรงงาน เชน่ ออกแรง ทาํ สวน งานก่อสรา้ ง งานขับรถประจาํ หรอื งานที่ทําอาจเปน็ งานใชส้ มอง เชน่ จ้างเป็นบรรณาธกิ าร เป็นพนักงาน ประจาํ ห้างรา้ นเป็นพนกั งานพิมพ์หนงั สอื เปน็ ตน้ สว่ นนายจา้ งมีหน้าที่ ตอบแทนด้วยการให้ค่าจ้างหรือสินจ้างแก่ ลูกจ้างค่าจ้างโดยทั่วไปคือเงิน แต่อาจตกลงกันว่าใหห้ รือ รับค่าจ้างเปน็ ทรัพยส์ ินอื่นกไ็ ด้ เช่น ลูกจ้างทํางานบา้ น นายจ้างอาจให้ค่าจ้างลูกจ้างตามที่ตกลงกนั ว่าให้อยู่อาศัยในบ้าน จัดซื้อเสื้อผ้าให้ตามสมควร และให้เงินใช้ราย เดือนบ้างตามสมควร ก็ถือว่าเป็น ค่าจ้างได้ หรือจ้างคนขับรถมาขับรถรับส่งไปทํางาน ระหว่างคอยรับกลับอาจ อนญุ าตใหไ้ ปศกึ ษาต่อ โดยนายจา้ งออกค่าใช้จ่ายให้ หรอื จ้างมาเกี่ยวขา้ วในนา แลว้ ใหน้ ําขา้ วเปลือกท่ีเกี่ยวได้เป็น สินจ้างบางส่วน ตอบแทนสินจ้าง ข้อตกลงนี้ถอื ไดว้ ่าเปน็ คา่ จ้างหรือสินจ้างที่นายจ้างตอบแทนให้ ทั้งนี้ขึ้นอยูก่ บั นายจ้างและลูกจา้ ง คอื คสู่ ัญญาจะตกลงกนั กอ่ นเริม่ สญั ญาจ้าง 5. มุง่ ท่ีผลของงานเฉพาะคราวนั้นๆ กล่าวคอื งานทีท่ าํ ในคร้ังนัน้ ๆ จะสาํ เรจ็ หรือไม่สาํ เร็จกไ็ ด้ ขึน้ อยูก่ ับความ ประสงคข์ องนายจ้าง เชน่ จา้ งสรา้ งบ้านเป็นแรงงานรายวัน จา้ งขบั รถประจําตวั หรือ จา้ งใหน้ าํ เงินไปฝากทธ่ี นาคาร จ้างรถจักรยานยนตร์ บั จ้างไปส่งทีป่ ้ายรถโดยสารประจําทาง เป็นตน้ 6. นายจ้างมอี ํานาจควบคุมบงั คับบญั ชาลูกจา้ ง หมายความวา่ ลกู จา้ งตอ้ งรับคาํ ส่ังเพ่ือทาํ งาน จากนายจา้ ง รับ คําแนะนําหรือแก้ไขตามคําสั่งนายจ้าง และรวมถึงนายจ้างอาจต้องจัดหาอุปกรณ์เครื่องมือ สัมภาระท่ี ใช้ในการ ทํางาน ตลอดถึงการเล้ยี งดูข้าวปลาอาหารระหว่างทล่ี ูกจ้างทาํ งานให้นายจ้างหรือ ไมด่ ้วยก็ได้ 7. ไม่ได้ตกลงเรื่องค่าจ้างกฎหมาย ให้สันนิษฐานว่านายจ้างมีคํามั่นว่าจะให้ค่าจ้าง หมายความว่า เมื่อให้ ลูกจ้างมาทํางานให้นายจ้างแลว้ นายจ้างจะต้องจ่ายคา่ จ้างให้ลกู จ้างเสมอ แม้การจ้างครั้งนั้นไม่ได้มีการตกลงกนั

2 เลยว่าจะให้ค่าจ้าง และตามพฤติการณ์ของลูกจ้างก็ไม่ได้แสดงว่า จะทําให้เปล่าหรือไม่คิดค่าจ้าง กรณีเช่นนี้ กฎหมายให้สนั นิษฐานว่านายจ้างมีคํามน่ั ว่าจะใหค้ ่าจ้าง คือ ตอ้ งใหค้ ่าจ้างเมอ่ื ทํางานให้แล้ว จะไล่กลับหรือนําส่ง กลบั โดยมิให้คา่ จา้ งมิได้ อนึง่ ขอบเขตของสัญญาจ้างแรงงาน หรอื การจ้างแรงงานตามประมว พาณชิ ยน์ มี้ ขี อ้ ยกเว้น คอื มิให้นําไปใช้ แก่นายจ้างและลูกจ้างที่เป็นส่วนของหม่ ข้าราชการที่เป็นนายจ้างหรือลูกจ้างที่รับค่าจ้างเป็นรายเดือนจากส่วน ราชการ ควบคุมบังคับบัญชากํากับดูแลของทางราชการนั้น ไม่จัดอยูใ่ นความหมายของลกู จ้า กฎหมายแพ่งและ พาณิชย์ที่ศึกษาอยู่ขณะนี้ เพราะส่วนราชการจะมีกฎหมายพิเศษแยกไว้ต่ ตามกระทรวง ทบวง กรมนั้นๆ เช่น ลูกจ้างของกระทรวงกลาโหม ลูกจ้างทําหน้าที่เป็นคนขับ ของกองวิทยาลัยเทคนิค สํานักงานคณะกรรมการการ อาชีวศกึ ษา เป็นต้น ยอ่ มไมอ่ ยู่ในบงั คับของคาํ ว่า ลูกจ้าง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณชิ ย์ สิ่งที่ผู้เรียนควรสนใจเป็นพิเศษอีกประการหนึง่ คือ สัญญาจ้างแรงงาน กับสัญญาจ้างทําของ จะมีลักษณะ ใกล้เคียงกันมาก บางครั้งอาจสับสนและไม่แนใ่ จว่า ลักษณะงานแบบนี้เป็นงานจ้างแรงงาน หรือจ้างทาํ ของ ซึ่งมี หลกั การพจิ ารณางา่ ยๆ 2 ประการ คอื ประการแรก อํานาจในการควบคมุ บงั คบั บญั ชาทม่ี ีตอ่ ลกู จา้ งอยู่ทใี่ คร ถ้าอยูท่ ี่นายจา้ ง นั่นคอื การจา้ งแรงงาน แต่ถา้ ไม่อยูท่ ่นี ายจา้ งก็จะเป็นการจา้ งทาํ ของ ประการที่สอง ผลสําเร็จของงานตามที่ตกลงกัน หรือทําในครั้งนัน้ ๆ ถ้าผลจะสําเร็จหรือไม่สําเร็จ ขึ้นอยูก่ ับ นายจา้ ง กจ็ ะเปน็ การจ้างแรงงาน แตถ่ า้ ผลงานทีต่ กลงกันตอ้ งสาํ เร็จแลว้ สง่ มอบก็จะเป็นจ้างทาํ ของ เพราะการจ้าง ทาํ ของ ผู้วา่ จา้ งไม่ต้องไปควบคมุ บังคับบัญชา เม่อื ตกลงกนั แล้วเปน็ หน้าที่ของผู้รบั จา้ ง จะไปดาํ เนินการตามสัญญา แลว้ นําผลงานมาสง่ มอบใหเ้ ม่ืองานทีร่ ับไปเสรจ็ ตามสัญญา และการเรยี กชอ่ื ของค่สู ัญญาจา้ งทาํ ของ จะเรียกต่าง กบั จ้างแรงงาน โดยเรยี กวา่ ผู้ว่าจา้ งฝ่ายหนงึ่ และผู้รบั จา้ งฝ่ายหน่ึง ตวั อย่าง การพิจารณาว่าเป็นจ้างแรงงานหรือจ้างทําของนายรวยให้นายจนมาก่อสร้างบ้าน โดยนายรวยเป็นผู้ มอบหมายงานใหท้ ําและจายกาจ ใหท้ กุ วัน นิติสมั พันธ์ระหว่างนายรวยกับนายจนจงึ เป็นสัญญาจ้างแรงงาน หาใช่ จ้างนายจนมาทา การก่อสรา้ งบา้ นแบบเหมา อนั จะเรยี กวา่ เป็นการจา้ งทําของไม่

3 แบบของสญั ญาจา้ งแรงงาน จากลักษณะสําคัญของสัญญาจ้างแรงงานที่กล่าวข้างต้น กฎหมายมิได้กําหนดไว้แต่อย่างใดว่า สัญญาจ้าง แรงงานจะตอ้ งทาํ กนั อยา่ งไร การทไ่ี มก่ ล่าวหรอื บญั ญัตไิ ว้ เพราะสัญญาจ้างแรงงานไม่มี กฎหมายบัญญัติไว้ให้ต้อง ทําอย่างไร นน่ั คือ เปน็ สญั ญาทไ่ี ม่มแี บบหรอื ไมต่ อ้ งทาํ ตามแบบแต่อย่างใด ซ่ึงต่างกับสัญญาบางชนิดจะมีกฎหมาย บัญญัตไิ ว้โดยแน่ชดั หากไมท่ าํ ตามแบบทก่ี ฎหมายกาํ หนดไว้ สญั ญานนั้ จะไมส่ มบูรณ์ หรือตกเปน็ โมฆะ อันมีผลให้ สญั ญานนั้ เสยี เปลา่ นาํ มาใชบ้ ังคบั กันไม่ได้ ฉะนั้น เม่ือไมม่ กี ฎหมายบังคบั เร่ืองแบบของสัญญาจ้างแรงงานไว้ การทําสัญญาจา้ งแรงงานจงึ ไม่มี แบบแห่ง นติ กิ รรม คูส่ ญั ญาอาจทาํ สัญญากนั ด้วยวาจา คือ พดู และตกลงกนั ตามธรรมดาด้วยปากเปลา่ หรือจะทําสัญญากัน เปน็ หนงั สือระหวา่ งนายจา้ งกบั ลูกจ้างก็ได้ สัญญาดังกล่าวก็ใชบ้ ังคบั กนั ไดเ้ สมอ อน่งึ สัญญาจา้ งแรงงานอาจเกิดขึ้นโดยปริยายก็ได้ เชน่ นายรวยให้นายจนขับรถยนต์ของตน และ จา่ ยค่าจ้าง ให้เปน็ รายเดือนมาตลอด ตอ่ มานายจนเกิดป่วยมาขับรถยนต์ใหน้ ายรวยไมไ่ ด้ จงึ ใหน้ ายมา น้องชายมาขับรถยนต์ แทน และนายรวยก็มิได้ว่าอะไร เช่นนี้ถือว่าสัญญาจ้างแรงงานเพื่อให้นายมาเป็นคนขับรถยนต์เกิดขึ้นแล้วโดย ปรยิ าย สทิ ธิหนา้ ท่ีของนายจ้างและลกู จา้ ง เมอื่ นายจ้างและลกู จา้ งมนี ติ สิ มั พนั ธ์ตามสัญญาจ้างแรงงานตอ่ กันแล้ว จะกอ่ ให้เกิดสทิ ธแิ ละหนา้ ที่ข้นึ ระหว่าง นายจา้ งกับลูกจ้าง มีรายละเอียดดงั นี้ 1.นายจ้างมสี ทิ ธแิ ละหนา้ ที่ 1.1 สทิ ธนิ ายจา้ ง 1) มีสิทธิออกคําส่ังใหล้ ูกจ้างทํางานตามท่ีตกลงหรือมีสัญญาต่อกัน เช่น นายมีตกลงให้ นายจนมาดาย หญ้าและปลูกต้นไม้หน้าบ้านของนายมี นายมยี ่อมมสี ทิ ธอิ อกคาํ ส่ังบอกกล่าวช้ีแนะ หรือ แนะนําให้นายจนทํางาน บริเวณทจี่ ะตอ้ งถากถางดายหญา้ และปลูกตน้ ไม้ได้ 2) มสี ิทธิโอนสิทธกิ ารเป็นนายจ้างของตนให้แก่บุคคลอ่นื ได้เมอ่ื ลกู จา้ งยินยอม เช่น นายมีจ้างให้นายจน มาเปน็ ลกู จ้างประจาํ ร้านของตน ตอ่ มานายมีเลกิ กจิ การรา้ นคา้ ของตน และขายกิจการ ใหน้ ายรวย พรอ้ มโอนสิทธิ การเป็นนายจ้างของนายจนไปให้นายรวยด้วย กรณเี ช่นนี้ จะต้องสอบถ ก่อนว่ายนิ ยอมไปเปน็ ลกู จ้างให้แกน่ ายรวย หรอื ไม่ ถ้านายจนตกลงยนิ ยอมกส็ ามารถโอนสทิ ธไิ ปได้ 3) มสี ิทธิบอกเลกิ สัญญาจ้างได้ ก. ถ้าลูกจ้างให้บุคคลภายนอกมาทํางานแทนตน โดยนายจ้างไม่ยินยอม นายมีจ้างนายจนขับรถยนต์ ประจําบ้าน ต่อมานายจนได้งานอื่นจึงใหน้ ายมาน้องชายมาขับรถย โดยไม่ได้แจ้งให้นายมีทราบและยินยอมก่อน หากนายมไี ม่ชอบนายมา นายมีมีสิทธิบอกเลกิ สัญญ ขบั รถยนต์น้ันได้ เพราะนายจ้างต้องเพ่งเล็งถึงคุณสมบัติของ ลูกจา้ งเป็นสาํ คญั ประกอบด้วย ข. ถ้าลูกจ้างขาดงานไปโดยปราศจากเหตุอันสมควร เช่น ลูกจ้างขาดงานติดย่าง หลายวันทําให้งาน เสียหาย นายจ้างบอกเลิกสัญญาได้ แต่ถ้าลูกจ้างขาดงานไปเพราะได้ข่าวว่าบิดาย จึงรีบไปงานศพโดยกะทนั หัน

4 มิได้บอกกล่าวใหน้ ายจ้างทราบเป็นเวลา 3 วัน อาจถือได้ว่าเป็นการขาด.. ไปโดยมีเหตุผลอันสมควร และเวลาไม่ นานนกั นายจ้างจะหาเป็นเหตบุ อกเลกิ สัญญาหรือเลกิ จา้ งไม่ปะ เว้นแตก่ ารขาดงานน้นั จะทําใหน้ ายจา้ งได้รับความ เสยี หายอย่างใหญ่หลวง” ค. ถ้าลูกจ้างแสดงตนไว้ว่าเป็นผู้มีฝีมือ แต่ปรากฏว่าไร้ฝีมือ เช่น นายมีจ้างนายดํา มาปูกระเบื้องพื้น ห้องน้ํา ก่อนว่าจ้างนายดําคุยอวดอา้ งว่าตนมีฝีมือ สามารถปูกระเบือ้ งไดอ้ ย่างเรียบร้อย สวยงาม เพราะมผี ลงาน กอ่ สรา้ งโรงแรมช้นั หนึง่ มาแล้ว แตผ่ ลงานปูกระเบอื้ งปรากฏวา่ แนวกระเบอื้ ง คดเค้ยี วไม่เรียบรอ้ ย เหมือนหัดปูใหม่ นายมยี ่อมใชส้ ิทธิตามกฎหมายบอกเลิกการจา้ งได้ 4) ว่าจ้างไม่ได้กาํ หนดระยะเวลาไว้ นายจ้างมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ แต่ต้องบอกกล่าว ให้ลูกจ้างทราบ ล่วงหนา้ เม่อื ถึงเดอื นก่อนกาํ หนดจ่ายค่าสินจ้างคราวใดคราวหนึง่ เพอื่ ให้เป็นผลการเลิก สญั ญาเมื่อถึงกําหนดจ่าย สนิ จ้างคราวตอ่ ไปข้างหน้ากไ็ ด้ เช่น จ้างลกู จ้างเป็นรายเดอื น จา่ ยค่าจา้ ง ทกุ สิ้นเดอื น เมือ่ ถงึ วันท่ี 25 พฤษภาคม นายจา้ งไดบ้ อกใหล้ กู จ้างทราบว่าจะเลิกจ้าง และให้มีผลวนั เลิกจา้ ง คือ สิ้นเดือนมถิ นุ ายน เชน่ นีย้ อ่ มทําไดโ้ ดยชอบ ด้วยกฎหมาย สว่ นเรอื่ งค่าชดเชยจากการเลกิ จ้างจะตอ้ ง พิจารณาเปน็ รายๆ ไป 5) มีสทิ ธไิ ล่ลูกจ้างออกจากงานโดยมิต้องบอกกล่าวล่วงหน้าได้ ถา้ ลกู จา้ ง จงใจหรอื ปฏิบัติอย่างใดอย่าง หนึ่ง ดงั นี้ ก. จงใจขัดคาํ สั่งอันชอบดว้ ยกฎหมายของนายจา้ ง ข. ละเลยไม่นําพาต่อคาํ สัง่ อันชอบด้วยกฎหมายของนายจ้าง เป็นประจาํ ค. กระทําความผิดอันร้ายแรง เช่น กระทําใหเ้ กดิ การแตกความสามัคคีในองคก์ ร หรือกระทําความผิด ทางอาญา ง. ละท้งิ หน้าที่การงานที่มอบให้เป็นประจาํ หรอื ทําให้งานเกิดความเสยี หาย หรอื ขาดงานเปน็ ประจํา จ. ไม่สจุ รติ ตอ่ หนา้ ท่อี ันเป็นความผิดร้ายแรง เชน่ ยักยอกเงนิ ของนายจา้ งหรอื ยักยอกเงินบริษัทที่เป็น นายจา้ ง ตวั อย่าง นายดําลกู จา้ งของบริษัท ตอกบตั รบันทึกเวลาทํางานแทนผูอ้ ่นื เป็นพฤติกรรมสอ่ ไปในทาง ไม่สจุ ริต เป็นการ ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับ และกระทําผิดร้ายแรง บริษัทเลิกจ้างได้โดยไม่ต้องบอกกล่าว ล่วงหน้า และไม่ต้องจ่าย ค่าชดเชยการเลิกจา้ งแกน่ ายดําแต่อยา่ งใด 1.2 หนา้ ท่นี ายจา้ ง 1) มหี นา้ ทต่ี อ้ งจา่ ยสนิ จา้ งใหแ้ ก่ลกู จ้างตามระยะเวลาท่ีตกลงกัน หรอื ตามจารตี ประเพณี ที่พึงจะจ่ายต่อ กนั และถ้าไมม่ ีการตกลงท้ังสองประการดังกล่าวแล้ว ใหจ้ ่ายสนิ จา้ งเม่ือทํางานแลว้ เสร็จ 11

5 2) มีหน้าที่ต้องออกใบสําคัญแสดงว่าลูกจ้างมาทํางานนานเท่าไร งานที่ทําเป็นอย่างไร เพื่อให้ลูกจ้าง ยดึ ถอื ไว้เมื่อการจ้างงานสิ้นสดุ ลง ทง้ั น้กี เ็ พือ่ เป็นหลักฐานแกล่ ูกจา้ งในการทจ่ี ะนําใบสาํ คัญน้ี ไปสมคั รงานอ่นื แสดง ใหเ้ หน็ ว่าเคยทาํ งานทใี่ ด มีความชาํ นาญอย่างไรบ้างได้ 12 3) มีหน้าที่ต้องออกค่าเดินทางให้ลูกจ้าง ถ้าเป็นกรณีที่นายจ้างได้นําลูกจ้างนั้นมาจาก ต่างถิ่นหรือ ต่างจงั หวดั เมือ่ การจา้ งส้นิ สุดลง เพอ่ื ให้ลกู จ้างเดินทางกลับภูมิลาํ เนาเดมิ ท้ังน้ใี หอ้ ยู่ในเงื่อนไข ดงั นี้ 13 ก. การจ้างงานมิได้เลกิ เพราะลกู จา้ งกระทาํ ความผดิ และ ข. ลกู จ้างกลับไปยังถน่ิ ภมู ลิ าํ เนาทจี่ ้างมาภายในเวลาอนั สมควร 4) มีหน้าที่รับผดิ ร่วมกับลูกจ้าง กรณไี ดก้ ระทาํ ละเมดิ และเกิดความเสียหายแก่บุคคล ภายนอก ซึ่งลูกจ้าง ได้กระทาํ ไปในทางการท่จี า้ ง เช่น นายมีส่งั ใหน้ ายจนลกู จา้ งขับรถนําของไปส่งในเมอื งระหว่างทางนายจนขับรถโดย ประมาท ซึ่งถือว่าเป็นความผิดของนายจน เป็นเหตุให้เกิดการเกี่ยว กับรถของนายแดง และนายแดงได้รับความ เสียหาย นายมีซึ่งเป็นนายจ้างของนายจนต้องรว่ มะ ชดใชค้ ่าเสียหายใหน้ ายแดง อันเปน็ ผลแหง่ การละเมิดที่นายจน ลูกจ้างได้กระทําไปในทางการทจ่ี ้าง 2.ลกู จา้ งมีสทิ ธแิ ละหนา้ ที่ 2.1 สทิ ธิลูกจา้ ง 1) มีสิทธิไดร้ ับสนิ จ้างตลอดเวลาที่ทาํ งานให้นายจา้ ง 2) มีสิทธิให้บุคคลภายนอกทํางานแทนตนได้ เมอ่ื นายจ้างยินยอม 3) มสี ทิ ธทิ ี่จะไดร้ ับใบสําคัญจากนายจ้าง หลังจากการจ้างแรงงานสิ้นสดุ ลง เพอื่ แสดง ลูกจ้างทํางานมา นานเท่าไร และงานทีท่ ําเปน็ งานอย่างไร เพอ่ื สะดวกในการทลี่ กู จา้ งไปสมคั รงานใหม่ 4) หากลกู จา้ งเป็นบุคคลท่นี ายจ้างไดจ้ ้างมาจากตา่ งถิ่น และออกคา่ เดินทางให้ เมอ่ื มกี ารเลิกจ้างอันมิใช่ เพราะความผิดของลกู จ้างแล้ว ลูกจ้างมสี ทิ ธไิ ดค้ า่ เดินทางขากลับไปยังถน่ิ ทไี่ ดจ้ า้ งมา 5) มสี ทิ ธบิ อกเลกิ สัญญาได้ ถ้าสญั ญาจ้างแรงงานไมไ่ ด้กําหนดเวลาไว้ แตต่ อ้ งบอกกล่าวลว่ งหน้า 2.2 หน้าทล่ี ูกจ้าง 1) ต้องทํางานทร่ี ับจ้างด้วยตนเอง เพราะการจ้างน้ันนายจ้างจะตอ้ งพิจารณาคณุ สมบัติ ของลูกจ้างเป็น สําคัญวา่ เหมาะสมกับงาน หากจะให้บุคคลอ่นื ทําหน้าที่แทน ตอ้ งให้นายจ้างรับรู้และยนิ ยอมดว้ ย 2) ตอ้ งมคี วามสามารถตามท่ีรับรองว่ามคี ณุ สมบัติและฝีมือ จนนายจา้ งตกลงใจจา้ ง หากปฏิบัติงานแล้ว ไม่เปน็ ดังทรี่ บั รองหรือไร้ฝีมอื อาจถูกนายจ้างบอกเลิกจา้ งได้ 3) ต้องทาํ ตามคําส่ังและปฏิบตั หิ นา้ ท่ีให้นายจ้างด้วยความสุจรติ

6 ความระงับแหง่ สัญญาจ้างแรงงาน สัญญาจ้างแรงงานอาจระงับหรอื เลกิ ได้ด้วยเหตุใหญ่ 3 ประการ คือ ระยะเวลา ตวั ค่สู ัญญา และ การบอกเลิก สญั ญา 1. ระยะเวลา 1.1 สญั ญาจ้างกําหนดระยะเวลาไว้สญั ญาจ้างท่ีทํากันไวอ้ าจกําหนดเวลาจ้างเป็นชั่วโมงเปน็ วัน เป็นเดือน หรอื เปน็ ปีกไ็ ด้ เชน่ จา้ งให้ดายหญ้าภายในบรเิ วณบา้ นเปน็ รายวัน จา้ งให้ขับรถประจําบ้าน เป็นรายเดอื น หรือจ้าง ทํางานบ้านจํานวน 2 ปี ทั้งหมดน้ีถอื ว่าเป็นการจ้างแรงงานมกี ําหนดระยะเวลา ฉะนั้นถ้าระยะเวลาจ้างสิน้ สุดลง แล้ว สญั ญาย่อมระงบั หรือเรียกวา่ สัญญาเลกิ กัน แตถ่ า้ ระยะเวลาส้ินสุด ลงแลว้ ลกู จ้างยงั คงทาํ งานต่อไป และตัว นายจา้ งเองก็ไม่ทักทว้ ง กฎหมายใหส้ นั นิษฐานไว้กอ่ นว่า คสู่ ญั ญา คือนายจา้ งและลกู จ้างไดท้ าํ สัญญากนั ใหม่ ตาม กําหนดระยะเวลาเดิม และมขี อ้ ความของสัญญา อย่างเดยี วกนั กับสญั ญาเดิม 1.2 สัญญาจ้างไม่ได้กําหนดระยะเวลาไว้ คู่สัญญาตกลงว่าจ้างกัน แต่ไม่ไดร้ ะบเุ วลาว่าจา้ งกัน นานเท่าไร คูส่ ัญญาฝา่ ยหนึ่งฝา่ ยใดจะเลกิ สัญญาด้วยการบอกกล่าวล่วงหน้าเมื่อถงึ หรือกอ่ นจะถงึ กําหนด จ่ายสินจ้างในคราว ใดคราวหนึ่ง เพื่อใหเ้ ป็นผลเลิกสัญญากนั เมอ่ื ถงึ กําหนดจา่ ยสนิ จา้ งคราวถัดไปข้างหน้า ก็อาจทาํ ได้ แต่ไมจ่ ําเป็นต้อง บอกกล่าวลว่ งหนา้ ถึงสามเดือน อนึ่ง ในเมื่อมีการบอกกล่าวล่วงหน้าแล้ว นายจ้างจะจ่ายสินจ้างให้ลูกจ้างเสียให้ครบจํานวนที่จะต้อง จ่าย จนถงึ เวลาเลกิ สัญญา ตามกาํ หนดท่บี อกกลา่ วน้นั ทีเดียว แลว้ ปลอ่ ยลูกจา้ งออกจากงานเสยี ในทันที ก็อาจทาํ ได้ 5 ตัวอยา่ ง 1 นายรวยจ้างนายจนทาํ สวนเปน็ รายเดือน โดยมิได้กําหนดระยะเวลาไว้ว่าจ้างกเ่ี ดอื น แต่ จา่ ยสนิ จา้ งหรือค่าจา้ ง ใหท้ กุ วนั ท่ี 1 ของเดือน กรณีน้หี ากนายรวยต้องการเลกิ จ้าง ก็บอกล่วงหน้า ใหน้ ายจนทราบก่อนคราวหน่ึงของงวด การจ่ายค่าสินจา้ ง เชน่ ต้องการเลกิ จา้ งสนิ้ เดอื นตลุ าคม ก็ต้องบอกลว่ งหนา้ ก่อนวันที่ 30 กันยายน เมือ่ ถึงวันท่ี 31 ตุลาคม จ่ายเงินเดือนครั้งสุดท้ายให้แล้ว สัญญาก็ระงับ หรือนายรวยซึ่งเป็นนายจ้าง ต้องการให้ลูกจ้างออก ทันทีทันใด จะบอกกล่าว เลิกจ้างแล้วจ่ายเงินค่าจ้างหรือสินจ้างทดแทนให้อีก 1 งวด แล้วให้ลูกจ้างออกไปเลยก็ ย่อมทาํ ได้ แตถ่ ้าจ่ายสินจา้ งกันเป็นครึง่ ปี (ทุก 6 เดือน) หรือทุกปี (รายปี) การบอกเลิกลว่ งหนา้ ก็ไม่ต้องให้นานถึง คร่ึงปีหรือหนึง่ ปี แค่บอกล่วงหนา้ เพยี งสามเดอื นก็พอแล้ว ส่วนลกู จ้างคอื นายจ หากประสงคจ์ ะเลิกสญั ญา ก็ย่อมมี สทิ ธิด้วยการบอกกลา่ วให้นายรวยทราบล่วงหน้าในลกั ษณะน้ี เชน่ เดียวกนั

7 ตวั อยา่ ง 2 นายจนเปน็ ลกู จา้ งรายเดอื นของนายรวย ซงึ่ จ่ายค่าจ้างใหเ้ ดือนละ 1 ครัง้ ในตน้ เดอื นของ เดอื นถดั ไป ต่อมา นายรวยได้แบ่งจา่ ยให้เป็นเดือนละ 2 ครั้ง คือวันที่ 16 และวันที่ 1 ของเดือน ปรากฏว่านายรวยตอ้ งการเลิกจา้ ง เมื่อจ่ายเงินเดือนวันที่ 16 พฤษภาคมแล้ว จึงบอกกล่าวให้นายจน ทราบล่วงหน้า และจ่ายค่าจ้างเมื่อถึงวันที่ 1 มถิ ุนายน และจ่ายครัง้ ท่ี 2 เม่อื ถึงวันที่ 16 มถิ ุนายน ครบเวลาบอกกล่าวลว่ งหน้า 1 เดือนพอดี ปัญหามวี า่ นายรวย บอกเลิกจ้างวันที่ 16 พฤษภาคม เพื่อให้มีผลใช้บังคับได้ในวันที่ 16 มิถุนายนนั้น จะเป็นการถูกต้องตามหลัก กฎหมายหรอื ไม่ คดนี ี้ ได้มีการฟ้องร้องถงึ ศาลชน้ั ฎีกา ซ่ึงศาลฎกี าพพิ ากษาวา่ การเปล่ียนเวลาจ่ายค่าจ้างออกเป็น สองครั้ง หาได้ทาํ ให้นายจนเปลีย่ นฐานะจากลกู จา้ งรายเดือนไปไม่ การทีน่ ายรวยบอกเลิกสัญญาจ้างในตอน จ่าย คา่ จ้างกลางเดือน จงึ ถอื ไมไ่ ดว้ า่ เป็นการบอกกล่าวเมอ่ื ถึงกําหนดจา่ ยค่าจ้างคราวใดคราวหนึ่ง ตามความหมายของ กฎหมาย (มาตรา 582) นายจนมสี ทิ ธิท่จี ะได้รับค่าจา้ งสําหรบั เดอื นมิถุนายน ตงั้ แต่วันที่ 16 ถึงวันท่ี 30 มิถุนายน อีก 2. ตวั คสู่ ัญญา ค่สู ญั ญาไดแ้ ก่นายจ้างและลกู จา้ ง อาจมกี รณีเปน็ สาเหตุใหเ้ ลกิ สญั ญาได้ มีรายละเอียดดังนี้ 2.1 ลูกจ้างตายหรือทุพพลภาพ การที่นายจ้างตัดสินใจจ้างลูกจ้างคนใดคนหนึ่งก็ด้วยเล็งเห็น คุณสมบัติ ของลูกจา้ งวา่ เหมาะสม และเป็นคณุ สมบัติเฉพาะตัวของลูกจ้าง วตั ถแุ ห่งสัญญาคอื งานที่ลกู จ้าง ต้องทาํ ให้นายจ้าง หากลูกจ้างตายย่อมเป็นผลให้สัญญาระงับ แต่ถ้าลูกจ้างไม่ตายเป็นเพียงทุพพลภาพ ไม่สามารถปฏิบัติงานให้ นายจ้างได้ สัญญาก็ตอ้ งระงบั เช่นเดยี วกัน เพราะการชาํ ระหนคี้ อื การทาํ งานให้ นายจ้างตกเปน็ การพ้นวิสัยอันมิใช่ ความผดิ ของลกู จา้ ง ลูกจ้างกพ็ น้ จากการชาํ ระหนีด้ ้วยการเป็น ลูกจ้างนน้ั เว้นเสียแตว่ ่าลกู จ้างปฏบิ ตั งิ านไมไ่ ด้ แล้ว เสนอใหบ้ คุ คลภายนอกมาทําแทนตน โดยนายจา้ งยินยอม สัญญาจา้ งก็เดินตอ่ ไปไดด้ ว้ ยการเปล่ียนตัวลูกจ้างใหม่ 2.2 นายจ้างตาย สัญญาจ้างระงับหรือไม่ กรณีเช่นนี้จะต้องพิจารณาด้วยหลักกฎหมายที่ว่า งานที่จ้างมี สาระสําคญั อยทู่ ่ีตัวบุคคลผเู้ ปน็ นายจ้างหรอื ไม่ ถา้ งานท่ีจา้ งน้นั มสี าระสาํ คัญอยู่ท่ตี ัวบุคคลผู้เปน็ นายจ้าง สัญญาก็ ระงบั แต่ถ้างานนัน้ ไมม่ ีสาระสาํ คัญอยู่ที่ตัวบคุ คลผ้เู ป็นนายจ้าง สัญญากไ็ มร่ ะงบั ตวั อยา่ ง นายรวยจ้างนายจนมาตกแต่งและทาสีบา้ นของตน ปรากฏว่านายรวยซ่งึ เปน็ นายจ้าง ไดถ้ ึงแก่ความตายก่อน งานจะแลว้ เสร็จ เชน่ น้พี ิจารณาได้วา่ งานตกแตง่ และทาสีบา้ นเป็นงานท่ี ไมม่ ีสาระสําคญั อยทู่ ีต่ ัวนายรวย แม้นาย รวยตายไป ทายาทและบริวารของนายรวยกไ็ ด้ประโยชน์ จากงานที่จ้างมาทํานั้น สัญญาจ้างแรงงานเพื่อตกแต่ง และทาสบี า้ นจึงไม่ระงับ และอีกกรณีหนึ่ง นายระยจา้ งพยาบาลมาเฝา้ ดแู ลตนเพราะตนป่วยช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต่อมานายรวยถึงแก่ความตาย พิจารณาตามหลักกฎหมายได้ว่า งานพยาบาลและเฝ้าดูแลนายรวยเป็นงานที่มี สาระสาํ คญั อยทู่ ่ี ตัวบุคคลผเู้ ป็นนายจา้ ง ฉะน้นั เม่อื นายรวยตาย สัญญาจา้ งพยาบาลกร็ ะงับ

8 3. การบอกเลิกสญั ญา การบอกเลิกสัญญาจ้างแรงงาน อาจทําได้โดยคู่สัญญาใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาประการหน่ึง จะอีกประการ หน่งึ คอื เลิกสญั ญาโดยบทบัญญตั ิของกฎหมาย 3.1 สัญญาใช้สิทธิบอกเลิกสญั ญา สทิ ธิของคูส่ ัญญาอาจมีไดเ้ มอ่ื มกี ารกําหนดหรือระบุไว้ ระบญา หากผิด เง่ือนไขหรอื ไม่เป็นไปตามทต่ี กลงกนั ไวใ้ ห้อกี ฝ่ายมีสิทธบิ อกเลกิ สญั ญาได้ ตวั อยา่ ง นายสรศกั ดิ์จ้างนางสาวพ่ิมมาทํางานบา้ น มีขอ้ ตกลงกันว่า ถ้านางสาวยิม้ แตง่ งานเม่อื ใด นายสมศักด์สิ ิทธิบอก เลกิ สญั ญาได้ หรือมีขอ้ ตกลงว่า หากนายสมศักด์ยิ า้ ยภมู ิลาํ เนาไปอยูท่ ี่อน่ื ใด นางสาวยม้ิ มีสิทธิบอกเลิกสญั ญาได้ ก็ ตอ้ งเปน็ ไปตามข้อตกลงน้ี 3.2 สัญญาเลิกโดยบทบญั ญตั ิของกฎหมาย กฎหมายลักษณะจา้ งแรงงานกําหนดให้ และลูกจา้ งมีสทิ ธิบอก เลกิ สัญญาจ้างแรงงานไว้ดงั นี้ 1) นายจา้ งมสี ทิ ธบิ อกเลิกสัญญา ก. ลกู จ้างให้บุคคลภายนอกมาทํางานแทนตน โดยนายจ้างไม่ได้ยนิ ยอม 9 ข. ลูกจา้ งรบั รองตนเองโดยแจ้งชดั หรือโดยปรยิ ายวา่ ตนเป็นผูม้ ีฝีมอื พเิ ศษ ปรากฏวา่ ไม่เป็นดังท่ีรับรอง หรือไรฝ้ มี อื ค. ลูกจา้ งขาดงานไปโดยไมม่ เี หตุอนั ควร ง. จา้ งไม่ไดก้ าํ หนดระยะเวลาไว้ เมือ่ บอกกล่าวล่วงหนา้ ให้ลกู จา้ งทราบแลว้ จ. นายจา้ งไล่ลูกจา้ งออก เพราะลกู จ้างจงใจขัดคาํ สั่งนายจ้าง หรือกระทาํ อยา่ งร้ายแรง 2) ลูกจา้ งมีสทิ ธิบอกเลิกสญั ญา ก. นายจ้างโอนสิทธกิ ารจา้ งให้บคุ คลภายนอก โดยลูกจา้ งไม่ยนิ ยอม ข. จา้ งไมก่ ําหนดระยะเวลา เมอื่ ลกู จ้างบอกกล่าวลว่ งหนา้ ใหน้ ายจา้ งทราบแลว้

9 ขอ้ แตกต่างการจ้างงานแบบทว่ั ไปและการจา้ งงานแบบชั่วคราว ลักษณะเฉพาะของการจา้ งงานแบบทั่วไป • เมือ่ ไมม่ กี ารระบุระยะเวลาสิ้นสดุ การจ้างงานทแี่ น่นอน ตราบใดที่ไม่ถูกเลกิ จ้างหรอื ลาออกจากบริษทั ก็ สามารถทำไปได้จนเกษยี ณอายุ • ทำงานแบบ Full-time ไม่เกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน และไดค้ า่ ตอบแทนเปน็ เงินเดือน • จะมีการขน้ึ เงนิ เดอื นเปน็ ประจำตามขอ้ กำหนดของแต่ละบรษิ ัท และการทำงานติดต่อกนั เป็นเวลาหลายๆ ปี ลกั ษณะเฉพาะของการจา้ งงานแบบช่วั คราว • ส่วนใหญเ่ ปน็ การจ้างงานในระยะสั้น เชน่ สามเดือน หน่ึงปี เป็นตน้ เมอ่ื ถงึ เวลาสน้ิ สดุ การจ้างงานหาก นายจา้ งไม่ตอ้ งการจา้ งต่อ หรือลูกจา้ งไมอ่ ยากทำต่อ ก็สามารถสิ้นสดุ สัญญาจ้างได้ตามกำหนด • ไมร่ ะบเุ วลาทำงานตายตัว สามารถปรับเปล่ยี นได้ตามความเหมาะสม ตามทน่ี ายจา้ งและลกู จ้างตกลงกนั รวมไปถงึ การจา่ ยค่าตอบแทนดว้ ย • โดยปกติไมม่ ีการข้นึ เงนิ เดอื น

10 ตัวอย่าง(๑) สัญญาจา้ งแบบสัญญาจ้างทว่ั ไป

11

12

13

14

15

16

17

18 ตัวอย่าง(๒) สัญญาจ้างลกู จา้ งช่ัวคราว

19

20

21

22

ค บรรณานุกรม https://sites.google.com/site/krubolaborlaw/1-1-laksna-sakhay-khxng- sayya-cang-raengngan https://www.babform.com


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook