OSS Handbook

ก คำนำ คมู่ ือการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จด้านการลงทุน (One Stop Service: OSS) เล่มน้ี จัดทาขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือให้ เจ้าหน้าท่ีผู้ปฏิบัติงานประจาศูนย์บริการเบ็ดเสร็จด้านการลงทุนใช้เป็น คู่มือสาหรับการปฏิบัติหน้าท่ีในการให้ข้อมูล คาปรึกษา และอานวย ความสะดวกด้านการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ตลอดจนเพ่ือศึกษา ข้อมูลเก่ียวกับความก้าวหน้าของการพัฒนาพ้ืนท่ีเขตพัฒนาเศรษฐกิจพเิ ศษ และติดตามความก้าวหน้าการดาเนินการภายใต้แผนงานบูรณาการพัฒนา พน้ื ที่เขตเศรษฐกจิ พเิ ศษ กระทรวงมหาดไทยหวังเป็นอยา่ งย่ิงว่า คู่มือเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ แก่ผู้ปฏิบัติงานประจาศูนย์บริการเบ็ดเสร็จด้านการลงทุนทุกท่าน ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยขอขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ให้การสนับสนุน ข้อมูล หากมีข้อบกพร่องประการใด คณะผู้จัดทายินดีนอ้ มรับข้อเสนอแนะ เพื่อปรับปรุงคู่มือให้มีความสมบูรณ์ครบถ้วนต่อไป ขอขอบคุณมา ณ โอกาสน้ี กระทรวงมหาดไทย สิงหาคม 2563

ข สำรบญั หน้า ความเปน็ มาของเขตพฒั นาเศรษฐกจิ พเิ ศษ 1 การพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกจิ พเิ ศษของไทย 3 การกาหนดพ้นื ท่เี ขตพฒั นาเศรษฐกิจพิเศษ 4 พืน้ ท่ีเขตพัฒนาเศรษฐกจิ พเิ ศษ ศกั ยภาพ และกิจการเป้าหมาย 8 สทิ ธปิ ระโยชน์และประเภทกิจการท่ีได้รับการสนบั สนุน 18 สทิ ธิประโยชน์ด้านการลงทุนในเขตพฒั นาเศรษฐกิจพเิ ศษ กลไกการขบั เคลือ่ นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ 22 รา่ งระเบยี บสานกั นายกรฐั มนตรี ว่าด้วยการพัฒนาเศรษฐกิจพเิ ศษ พ.ศ. .... 25 กรอบแนวคิดการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพเิ ศษ 27 แผนแมบ่ ทภายใตย้ ุทธศาสตร์ชาติ ประเดน็ เขตเศรษฐกจิ พิเศษ 34 ภารกจิ ของกระทรวงมหาดไทยในการขบั เคลื่อนเขตพัฒนา 36 เศรษฐกจิ พิเศษ แผนงานบูรณาการพฒั นาพนื้ ที่เขตเศรษฐกจิ พิเศษ และการจัดทา 46 คาของบประมาณภายใตแ้ ผนงานบรู ณาการพัฒนาพน้ื ทเี่ ขต เศรษฐกจิ พิเศษ ขอ้ มูลการประสานงาน 56 ภาคผนวก – กฎหมายทเ่ี กี่ยวขอ้ งกบั เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ 69

1 ควำมเปน็ มำของเขตเศรษฐกิจพเิ ศษ ทำไมตอ้ งมี “เขตเศรษฐกจิ พิเศษ” แนวคิดการพัฒนา “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” เป็นแนวทางการพัฒนาท่ีมี การศึกษากันมาอย่างยาวนานในประเทศไทย เนื่องจากเป็นแนวคิดท่ีมีวัตถุประสงค์ หลกั ในการกระจายการพัฒนาไปสพู่ ้ืนที่ต่าง ๆ โดยใช้กจิ กรรมทางเศรษฐกิจเป็นตวั นา ในการพัฒนา ซ่ึงนอกจากจะช่วยกระจายการพัฒนาไปสู่พื้นที่เฉพาะและพ้ืนที่ ใกล้เคียงโดยตรงแล้ว ยังเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและศักยภาพใน การแข่งขันของประเทศ การจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ เป็นการสร้างแรงจูงใจให้มี การลงทุนภายในประเทศ โดยกาหนดรูปแบบการบริหาร ให้สิทธิพิเศษแก่ผู้ลงทุน พัฒนาพื้นที่ให้เป็นประตูการค้าในการผลิต และระบายสินค้า โดยอาศัยวัตถุดิบและ แรงงานจากในประเทศและประเทศเพ่ือนบ้าน พร้อมปรับปรุงกฎหมายเพื่อสนบั สนุน การลงทนุ ในประเทศ แนวคิดการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษของไทย เป็นแนวคิดที่มีที่มาจาก การพัฒนาเศรษฐกจิ ของประเทศในรูปแบบต่างๆ เช่น - นคิ มอุตสาหกรรม (Industrial Estate) - การพัฒนาพน้ื ที่เฉพาะเขตอุตสาหกรรมเพ่ือการสง่ ออก (Export Processing Zone: EPZ) - เขตการคา้ เสรี (Free Trade Zone: FTZ) - เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน (Special Border Economic Zone: SBEZ) ซึ่งเป็นรูปแบบการพฒั นาพ้ืนทตี่ ามแนวชายแดน การพัฒนาพื้นที่เฉพาะในประเทศไทยเริ่มจากประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี 339 ในปี พ.ศ. 2515 ให้มีการจัดต้ังนิคมอุตสาหกรรมภายใต้การบริหารของการนคิ ม อุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) โดยผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมจะได้ สิทธิประโยชน์ตามท่ีกาหนด อย่างไรก็ตาม การดาเนินการของนิคมอุตสาหกรรมยังมี ข้อจากัดหลายด้าน ได้แก่ ขอบเขตของกิจกรรมท่ีจากัดอยู่เฉพาะด้านอุตสาหกรรม กนอ.ขาดอิสระด้านการเงิน ขาดความคล่องตัวในการจัดหาท่ีดิน และไม่มีอานาจ ในการจดทะเบยี น อนมุ ตั ิ อนญุ าตแทนหน่วยงานอ่ืน ๆ ข้อจากัดข้างต้น ทาให้เกิดการพัฒนาแนวคิด “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ซ่ึงหมายถึง พ้ืนที่แห่งหน่ึงท่ีได้รับการกาหนดและพัฒนาขึ้นมาภายใต้กฎหมายและ การบริหารจัดการในลักษณะเฉพาะ โดยจะมีการปรับปรุงลักษณะทางกายภาพของ

2 พ้ืนที่เพื่อให้เกิดความพร้อมที่จะรับการลงทุนจากต่างประเทศ เช่น การให้สิทธิ ประโยชน์ทางภาษี การอานวยความสะดวกในกจิ การและบรกิ ารข้นั พ้ืนฐาน การจัดให้ มีระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ ซ่ึงการพัฒนาพื้นท่ีเขตเศรษฐกิจพิเศษนั้น นบั ได้ว่าเปน็ การพฒั นาเศรษฐกจิ ควบคู่กับการพฒั นาสงั คม แนวคดิ การพฒั นาเขตเศรษฐกิจพเิ ศษชายแดน มีจดุ ริเริ่มมาจากมติคณะรัฐมนตรี เม่ือวันที่ 31 มีนาคม 2556 เห็นชอบแนวทางการศึกษาแผนยุทธศาสตร์การพัฒนา เขตเศรษฐกิจพิเศษในพ้ืนที่ที่มีศักยภาพ ซึ่งมอบหมายให้สานักงานคณะกรรมการ พัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ดาเนินการจัดจ้างบริษัทที่ปรึกษา ทาการศึกษาวิจัยความเหมาะสมในการจัดต้ังเขตเศรษฐกิจพิเศษ รวมถึงแผน ยุทธศาสตร์การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ พื้นที่ในการศึกษาแบ่งเป็น 5 กลุ่มพ้ืนที่หลัก 10 จงั หวัด ได้แก่ ภำคเหนือ ประกอบดว้ ย จังหวดั เชียงราย และจังหวัดตาก ภำคกลำง ประกอบด้วย จงั หวดั กาญจนบรุ ี ภำคตะวันออกเฉยี งเหนอื ประกอบด้วย จงั หวัดมกุ ดาหาร จงั หวัด นครพนม และจงั หวัดหนองคาย ภำคตะวันออก ไดแ้ ก่ จงั หวดั ตราด และจงั หวัดสระแก้ว ภำคใต้ ประกอบด้วย จังหวัดสงขลา และจงั หวัดนราธิวาส การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนของไทยเกิดจากข้อได้เปรียบทาง ยุทธศาสตร์ของไทยท่ีเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กอปรกับ การเติบโตของอาเซียน และกรอบความร่วมมือต่าง ๆ ในภูมิภาค ซ่ึงการพัฒนา “เมืองชายแดน” เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ เป็นการส่งเสริมการพัฒนาในลักษณะคลัสเตอร์ เพอื่ สง่ เสรมิ การเชอ่ื มโยงกับพนื้ ท่ีตอนใน และประเทศเพ่อื นบา้ น ซ่งึ จะเพิ่มโอกาสทาง เศรษฐกจิ และความสามารถในการแข่งขันของพืน้ ที่ สร้างประโยชน์จากความเช่ือมโยง กบั ฐานการผลติ หลกั ของประเทศและประเทศเพ่ือนบา้ น สามารถดึงดดู การลงทุนจาก ในและตา่ งประเทศ และสามารถตอบสนองต่อเป้าหมายการพัฒนาประเทศในภาพรวม ตามท่ีแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2555 - 2559) กาหนดทิศทางการพัฒนาพื้นที่ชายแดนให้เป็นประตูเศรษฐกิจเช่ือมโยงภูมิภาค และ สร้างเครือข่ายระบบการผลิตร่วมเพอ่ื บรรลปุ ระโยชน์รว่ มกนั

3 SEZs in Thailand นโยบำยเขตพฒั นำเศรษฐกิจพเิ ศษของไทย ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) ด้านการสร้าง ความสามารถในการแข่งขัน มีเป้าหมายหลักในการยกระดับประเทศไทย เป็นประเทศท่ีพัฒนาแลว้ มีเศรษฐกิจที่เติบโตอยา่ งมีเสถียรภาพ ยัง่ ยืน และมี ขดี ความสามารถในการแข่งขนั สูงขึน้ โดยสร้างและพฒั นาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ชายแดนให้เป็นเครื่องมือในการพัฒนำเศรษฐกิจและกระจำยควำมเจริญ ส่ภู ูมภิ ำค ยกระดบั รำยได้และคณุ ภำพชีวิตของประชำชน และแก้ไขปัญหำ ควำมมั่นคงบริเวณชำยแดน โดยพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดน ท้ังทางด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว โดยคานึงถึงศักยภาพของ พื้นท่ี และความเชือ่ มโยงกับการพฒั นาเขตเศรษฐกจิ พเิ ศษของประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมท้ังการจัดผังเมือง ระบบสาธารณูปโภค รวมถงึ การอานวยความสะดวก ทางการค้า การลงทุน ข้อมูลแรงงาน กฎระเบียบต่างๆ โดยมีมาตรการ สนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมและบริการเป้าหมายโดยคานึงถึงความ ยงั่ ยนื ดา้ นการบริหารจดั การทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม หลักกำรดำเนนิ งำนของนโยบำยเขตพัฒนำเศรษฐกิจพเิ ศษ มดี ังนี้  มุ่งพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภายใต้กฎหมายและกลไก ท่เี ก่ยี วข้อง  การพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษท่ีเน้นการมีส่วนร่วมของ ทุกภาคสว่ น o รัฐ : ให้สิทธิประโยชน์ จัดโครงสร้างพื้นฐาน แก้ไข กฎระเบียบ o เอกชน : ลงทุนในเขตพฒั นาเศรษฐกิจพเิ ศษ o ประชาชน : มสี ว่ นรว่ ม ไดร้ ับประโยชน์จากการพัฒนา  พัฒนาเขตเศรษฐกจิ พิเศษได้ตามสถานการณ์  สามารถพฒั นาเขตเศรษฐกิจพิเศษได้ตามสถานการณ์

4 Special Economic Zone รัฐบาลภายใต้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ประกาศพื้นท่ีเขต พัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ระยะที่หนึ่งและระยะท่ีสอง รวม 10 จังหวัด ตามประกาศคณะกรรมการนโยบายเขตพฒั นาเศรษฐกิจพเิ ศษ (กนพ.) ดงั น้ี ประกำศคณะกรรมกำรนโยบำยเขตพัฒนำเศรษฐกิจพิเศษท่ี 1/2558 เร่ือง กำหนดพื้นท่ีเขตพัฒนำเศรษฐกิจพิเศษ ประกำศ ณ วันที่ 19 มกรำคม 2558 1) เขตพัฒนำเศรษฐกิจพิเศษจังหวดั ตำก ประกอบดว้ ย 14 ตาบล ใน 3 อาเภอ ได้แก่ - อาเภอแมส่ อด 8 ตาบล ไดแ้ ก่ แม่สอด แมต่ าว ท่าสายลวด แมก่ าษา พระธาตุผาแดง แม่ปะ แมก่ ุ และมหาวัน - อาเภอพบพระ 3 ตาบล ได้แก่ พบพระ ช่องแคบ และวาเล่ห์ - อาเภอแม่ระมาด 3 ตาบล ได้แก่ แมจ่ ะเรา แมร่ ะมาด และขะเนจื้อ 2) เขตพัฒนำเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดมุกดำหำร ประกอบด้วย 11 ตาบล ใน 3 อาเภอ ได้แก่ - อาเภอเมืองมุกดาหาร 5 ตาบล ได้แก่ ศรีบุญเรือง มุกดาหาร บางทรายใหญ่ คาอาฮวน และนาสีนวน - อาเภอหว้านใหญ่ 4 ตาบล ได้แก่ บางทรายน้อย ชะโนด หว้านใหญ่ และบ่งขาม - อาเภอดอนตาล 2 ตาบล ไดแ้ ก่ โพธไิ์ ทร และดอนตาล 3) เขตพัฒนำเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดสระแก้ว ประกอบด้วย 4 ตาบล ใน 2 อาเภอ ได้แก่ - อาเภออรัญประเทศ 3 ตาบล ไดแ้ ก่ บ้านด่าน ป่าไร่ และทา่ ข้าม - อาเภอวัฒนานคร 1 ตาบล ได้แก่ ผักขะ

5 4) เขตพัฒนำเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดตรำด ประกอบด้วย 3 ตาบล ใน 1 อาเภอ ได้แก่ - อาเภอคลองใหญ่ 3 ตาบล ไดแ้ ก่ คลองใหญ่ หาดเลก็ และไมร้ ูด 5) เขตพัฒนำเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดสงขลำ ประกอบด้วย 4 ตาบล ใน1 อาเภอ ได้แก่ - อาเภอสะเดา 4 ตาบล ได้แก่ สะเดา สานกั ขาม สานักแต้ว ปาดงั เบซาร์ ประกำศคณะกรรมกำรนโยบำยเขตพัฒนำเศรษฐกิจพเิ ศษท่ี 2/2558 เรือ่ ง กำหนดพืน้ ทเ่ี ขตพัฒนำเศรษฐกิจพิเศษ ระยะท่ี 2 ประกำศ ณ วันท่ี 24 เมษำยน 2558 6) เขตพัฒนำเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดเชียงรำย ประกอบด้วย 21 ตาบล ใน 3 อาเภอ ไดแ้ ก่ - อาเภอเชียงของ 7 ตาบล ไดแ้ ก่ ครึง่ บุญเรอื ง รมิ โขง เวยี ง ศรีดอนชัย สถาน และหว้ ยซ้อ - อาเภอเชียงแสน 6 ตาบล ได้แก่ บ้านแซว ป่าสัก แม่เงิน โยนก เวยี ง และศรีดอนมลู - อาเภอแม่สาย 8 ตาบล ได้แก่ เกาะชา้ ง บ้านด้าย โป่งงาม โปง่ ผา แมส่ าย เวียงพางคา ศรเี มืองชุม และห้วยไคร้ 7) เขตพัฒนำเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดหนองคำย ประกอบด้วย 13 ตาบล ใน 2 อาเภอ ไดแ้ ก่ - อาเภอเมืองหนองคาย 12 ตาบล ได้แก่ ค่ายบกหวาน ในเมือง บา้ นเด่อื พระธาตุบงั พวน โพธ์ชิ ัย โพนสว่าง มชี ยั เวียงคกุ สีกาย หนองกอมเกาะ หาดคา และหนิ โงม - อาเภอสระใคร 1 ตาบล ได้แก่ ตาบลสระใคร

6 8) เขตพัฒนำเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดนครพนม ประกอบด้วย 13 ตาบล ใน 2 อาเภอ ได้แก่ - อาเภอเมืองนครพนม 10 ตาบล ได้แก่ กุรุคุ ท่าค้อ นาทราย นาราชควาย ในเมอื ง บ้านผึง้ โพธิ์ตาก หนองญาติ หนองแสง และอาจสามารถ - อาเภอท่าอุเทน 3 ตาบล ได้แก่ โนนตาล รามราช และเวินพระบาท 9) เขตพัฒนำเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดกำญจนบุรี ประกอบด้วย 2 ตาบล ใน 1 อาเภอ ได้แก่ - อาเภอเมอื งกาญจนบรุ ี ไดแ้ ก่ ตาบลแกง่ เสยี้ น และบา้ นเกา่ 10) เขตพัฒนำเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดนรำธิวำส ประกอบด้วย 5 ตาบล ใน 5 อาเภอ ได้แก่ - อาเภอเมอื งนราธิวาส 1 ตาบล ได้แก่ ตาบลโคกเคยี น - อาเภอตากใบ 1 ตาบล ไดแ้ ก่ ตาบลเจะ๊ เห - อาเภอยี่งอ 1 ตาบล ได้แก่ ตาบลละหาร - อาเขตแวง้ 1 ตาบล ไดแ้ ก่ ตาบลโละ๊ จูด - อาเภอสุไหงโก-ลก 1 ตาบล ไดแ้ ก่ ตาบลสุไหงโก-ลก

7 พนื้ ที่เขตพัฒนำเศรษฐกิจพเิ ศษ พน้ื ท่เี ขตพัฒนำ ขนำด จ.เชยี งราย เศรษฐกิจพิเศษ ตร.กม. ไร่ จ.หนองคาย 10 พื้นท่ี 6,220.05 3,886,481.58 จ.นครพนม จ.มุกดาหาร เขตพัฒนำเศรษฐกจิ พเิ ศษระยะที่ 1 จ.ตาก จ.ตาก 1,419.00 886,875.00 จ.กาญจนบุรี จ.มุกดาหาร 578.50 361.542.50 จ.สระแกว้ จ.สระแก้ว 332.00 207,500.00 จ.ตราด จ.ตราด 50.20 31,375.00 จ.สงขลา 552.30 345,187.50 เขตพัฒนำเศรษฐกิจพิเศษระยะที่ 2 จ.หนองคาย 437.67 296,042.00 จ.นราธิวาส 235.17 146,995.62 จ.เชียงราย 1,523.63 952,226.46 จ.สงขลา จ.นราธวิ าส จ.นครพนม 794.79 495,743.75 จ.กาญจนบุรี 260.79 162,993.75

8 เขตพฒั นำเศรษฐกจิ พิเศษตำก “ศนู ยเ์ ปลย่ี นถ่ำยสนิ ค้ำระหวำ่ งประเทศ เครอื ขำ่ ยอุตสำหกรรม ทใี่ ชแ้ รงงำนเขม้ ขน้ ” กจิ กำรเป้ำหมำยท่ีได้รับ กิจกำรเป้ำหมำยทีไ่ ด้รบั กำรส่งเสรมิ ในพ้ืนที่ กำรประกำศเพิ่มเติมในพ้นื ที่ 1. เกษตร ประมง และกิจกำร 1. กิจกำรผลิตผลิตภัณฑ์จำกผลพลอยได้ ที่เกย่ี วขอ้ ง หรอื เศษวัสดทุ ำงกำรเกษตร 2. ผลติ ภณั ฑ์เซรำมกิ ส์ 2. กจิ กำรอบพืชและไซโล 3. ส่งิ ทอ เคร่ืองนงุ่ ห่ม เครื่องหนัง 3. กิจกำรผลติ โครงสร้ำงโลหะ 4. เคร่อื งเรอื น 4. กจิ กำรผลิตสง่ิ พิมพ์ทว่ั ไป 5. อัญมณี เคร่อื งประดับ 5. กิจกำรผลิตอำหำรสตั ว์ 6. เครอื่ งมอื แพทย์ 6. กิจกำรผลติ วสั ดกุ อ่ สร้ำง และคอนกรีต 7. ยำนยนต์ เครอื่ งจกั ร และชน้ิ ส่วน 7. กจิ กำรผลติ ส่ิงปรุงแตง่ ประทนิ รำ่ งกำย 8. เครื่องใชไ้ ฟฟ้ำ อิเลก็ ทรอนิกส์ 8. กจิ กำรผลิตผลติ ภณั ฑ์พลำสตกิ 9. กำรผลิตพลำสติก 9. กจิ กำรผลิตส่งิ ของจำกเย่ือหรอื กระดำษ 10. กำรผลิตยำ 10. กจิ กำรพฒั นำอำคำร/ คลงั สนิ คำ้ 11. โลจสิ ติกส์ 12. นคิ มอุตสำหกรรม 13. กำรท่องเทย่ี ว ศกั ยภำพและโอกำสของเขตพัฒนำเศรษฐกจิ พิเศษตำก  ต้ังอยูบ่ นแนวระเบียงเศรษฐกจิ ตะวันออก – ตะวันตก (East – West Economic Corridor)  สำมำรถเช่อื มโยงไปยังเมียนมำ อินเดยี และจนี ตอนใต้  พน้ื ทฝ่ี ง่ั เมยี นมำมีแรงงำนรองรบั กำรพัฒนำพ้นื ท่ี แม่สอดและดำเนินอตุ สำหกรรมกำรผลิตร่วมได้  มโี ครงกำรจดั ต้ังนคิ มอุตสำหกรรม โดยกำรนิคม อตุ สำหกรรมแห่งประเทศไทย

9 เขตพัฒนำเศรษฐกิจพเิ ศษมกุ ดำหำร “ศูนย์คำ้ ส่งและขนส่งต่อเน่ืองหลำยรปู แบบ” กิจกำรเป้ำหมำยทไ่ี ด้รับ กิจกำรเป้ำหมำยทีไ่ ด้รับ กำรสง่ เสริมในพ้ืนท่ี กำรประกำศเพ่ิมเตมิ ในพน้ื ท่ี 1. กจิ กำรผลติ ผลิตภัณฑ์จำกผลพลอยได้ 1. เกษตร ประมง และกจิ กำร หรือเศษวัสดุทำงกำรเกษตร ท่ีเก่ยี วข้อง 2. กจิ กำรอบพืชและไซโล 3. กจิ กำรผลติ โครงสร้ำงโลหะ 2. เคร่อื งใชไ้ ฟฟ้ำ อิเลก็ ทรอนิกส์ 4. กิจกำรผลิตสิ่งพิมพ์ทั่วไป 3. โลจสิ ตกิ ส์ 5. กจิ กำรผลิตอำหำรสตั ว์ 4. นคิ มอุตสำหกรรม 6. กจิ กำรผลิตวัสดกุ ่อสรำ้ ง และคอนกรตี 5. กำรทอ่ งเที่ยว 7. กจิ กำรผลติ สง่ิ ปรงุ แต่งประทินร่ำงกำย 8. กิจกำรผลิตผลติ ภณั ฑพ์ ลำสตกิ 9. กจิ กำรผลิตสง่ิ ของจำกเย่ือหรอื กระดำษ 10. กจิ กำรพัฒนำอำคำร/ คลงั สนิ คำ้ ศักยภำพและโอกำสของเขตพฒั นำเศรษฐกิจพิเศษมกุ ดำหำร  ตงั้ อยบู่ นแนวระเบียงเศรษฐกจิ ตะวันออก – ตะวนั ตก (East – West Economic Corridor) สำมำรถเช่ือมโยงเข้ำสู่ลำว เวยี ดนำม จนี โดยมีสะพำน มิตรภำพ 2 เป็นจุดสำคัญ สำมำรถขนสง่ สินค้ำ ไปยงั ลำว เวยี ดนำม จนี ตอนใต้  สำมำรถร่วมดำเนินกจิ กำรในลกั ษณะอุตสำหกรรม กำรผลิตร่วม Co- Production กับเขตพัฒนำ เศรษฐกิจพิเศษสะหวนั – เซโน ได้

10 เขตพฒั นำเศรษฐกิจพเิ ศษสระแก้ว “ศนู ยอ์ ุตสำหกรรมแปรรูปสนิ คำ้ เกษตรและกำรขนส่งต่อเน่ือง หลำยรูปแบบ” กจิ กำรเปำ้ หมำยที่ได้รบั กจิ กำรเป้ำหมำยทไ่ี ดร้ บั กำรสง่ เสรมิ ในพื้นท่ี กำรประกำศเพิ่มเตมิ ในพน้ื ท่ี 1. เกษตร ประมง และกิจกำร 1. กจิ กำรผลิตผลิตภัณฑ์จำกผลพลอยได้ ท่ีเก่ียวขอ้ ง หรอื เศษวสั ดุทำงกำรเกษตร 2. ส่ิงทอ เคร่ืองนุ่งหม่ เครอ่ื งหนงั 2. กจิ กำรอบพืชและไซโล 3. เครือ่ งเรอื น 3. กิจกำรผลติ โครงสร้ำงโลหะ 4. อัญมณี เคร่อื งประดบั 4. กิจกำรผลิตสิ่งพมิ พ์ทวั่ ไป 5. เครอ่ื งมอื แพทย์ 5. กจิ กำรผลติ อำหำรสตั ว์ 6. ยำนยนต์ เครื่องจักร และชนิ้ ส่วน 6. กจิ กำรผลติ วัสดกุ อ่ สร้ำง และคอนกรีต 7. เครือ่ งใช้ไฟฟ้ำ อิเลก็ ทรอนกิ ส์ 7. กิจกำรผลิตส่งิ ปรงุ แต่งประทนิ ร่ำงกำย 8. กำรผลิตพลำสตกิ 8. กจิ กำรผลติ ผลิตภัณฑ์พลำสติก 9. กำรผลิตยำ 9. กิจกำรผลิตสงิ่ ของจำกเยื่อหรือกระดำษ 10. โลจิสติกส์ 10. กิจกำรพฒั นำอำคำร/ คลงั สินคำ้ 11. นิคมอุตสำหกรรม 12. กำรท่องเทีย่ ว ศกั ยภำพและโอกำสของเขตพัฒนำเศรษฐกิจพเิ ศษสระแก้ว  เป็นพ้นื ทคี่ ้ำสง่ ระหว่ำงประเทศที่มศี ักยภำพ เช่ือมโยงอรัญประเทศ – แหลมฉบัง  อย่ใู นแนวระเบียงเศรษฐกิจตอนใต้ GMS Southern Economic Corridor  สำมำรถร่วมดำเนินกจิ กำรในลักษณะ อตุ สำหกรรมกำรผลติ ร่วม Co- Production กบั เขตพัฒนำเศรษฐกจิ พเิ ศษปอยเปต – โอเนียง ได้

11 เขตพฒั นำเศรษฐกจิ พเิ ศษตรำด “ศนู ยก์ ลำงกำรค้ำสง่ ขนส่งต่อเน่ืองระหว่ำงประเทศ และศูนย์กลำง ใหบ้ ริกำรกำรท่องเท่ียวระดับภมู ิภำค” กิจกำรเป้ำหมำยทไี่ ดร้ ับ กจิ กำรเปำ้ หมำยที่ได้รับ กำรสง่ เสริมในพื้นท่ี กำรประกำศเพ่ิมเติมในพืน้ ท่ี 1. กจิ กำรผลิตผลติ ภณั ฑ์จำกผลพลอยได้ 1. เกษตร ประมง และกจิ กำร หรอื เศษวสั ดุทำงกำรเกษตร ท่ีเกย่ี วขอ้ ง 2. กิจกำรอบพืชและไซโล 3. กิจกำรผลิตส่งิ พิมพ์ท่วั ไป 2. กลุ่มกจิ กรรมโลจสิ ติกส์ 4. กจิ กำรผลิตอำหำรสัตว์ 3. กลมุ่ นิคมอุตสำหกรรม 5. กจิ กำรผลิตวัสดุก่อสรำ้ ง และคอนกรตี 4. กำรท่องเท่ียว 6. กจิ กำรผลติ ส่งิ ปรุงแต่งประทินรำ่ งกำย 7. กิจกำรผลติ ผลติ ภัณฑพ์ ลำสตกิ 8. กจิ กำรพัฒนำอำคำร/ คลงั สินค้ำ ศักยภำพและโอกำสของเขตพฒั นำเศรษฐกิจพเิ ศษตรำด  ตง้ั อยบู่ นแนวระเบียงเศรษฐกจิ ตอนใต้ สำมำรถเข้ำถึงทำ่ เรือแหลมฉบัง และท่ำเรือสหี นุวลิ ล์ได้  มฐี ำนกำรทอ่ งเทีย่ วในพ้นื ท่ี สำมำรถเชือ่ มโยงกับเขตพัฒนำเศรษฐกิจพิเศษ เกำะกงได้

12 เขตพฒั นำเศรษฐกจิ พเิ ศษสงขลำ “อุตสำหกรรมแปรรูปเพอ่ื กำรส่งออก กำรขนสง่ ต่อเน่ืองหลำย รูปแบบ” กิจกำรเป้ำหมำยท่ไี ดร้ ับ กิจกำรเป้ำหมำยทไี่ ด้รบั กำรส่งเสริมในพนื้ ที่ กำรประกำศเพิ่มเตมิ ในพืน้ ท่ี 1. เกษตร ประมง และกจิ กำร 1. กจิ กำรผลิตผลติ ภัณฑจ์ ำกผลพลอยได้ ท่ีเกย่ี วข้อง หรอื เศษวสั ดุทำงกำรเกษตร 2. สง่ิ ทอ เคร่ืองนุง่ หม่ เครื่องหนัง 2. กจิ กำรอบพืชและไซโล 3. เคร่อื งเรอื น 3. กิจกำรผลติ โครงสร้ำงโลหะ 4. โลจสิ ติกส์ 4. กจิ กำรผลิตสิง่ พิมพ์ทั่วไป 5. นิคมอตุ สำหกรรม 5. กิจกำรผลิตอำหำรสตั ว์ 6. กำรท่องเที่ยว 6. กจิ กำรผลติ วสั ดกุ ่อสร้ำง และคอนกรตี 7. กจิ กำรผลติ สิง่ ปรุงแตง่ ประทินรำ่ งกำย 8. กจิ กำรผลติ ผลิตภัณฑพ์ ลำสตกิ 9. กจิ กำรผลติ สิง่ ของจำกเย่ือหรอื กระดำษ 10. กจิ กำรพัฒนำอำคำร/ คลังสนิ คำ้ ศกั ยภำพและโอกำสของเขตพัฒนำเศรษฐกจิ พิเศษสงขลำ  มดี ำ่ นสะเดำและด่ำนปำดังเบซำร์เป็นดำ่ นทำงบก และตั้งอยู่ใกล้ท่ำเรอื ปีนัง และทำ่ เรือกลำงของมำเลเซียมีกำรเช่อื มโยงทำงรถไฟระหว่ำงไทย – มำเลเซีย ผำ่ นทำงปำดังเบซำร์  มฐี ำนกำรผลิต และอตุ สำหกรรมในพนื้ ที่ เป็นพน้ื ที่ภำยใต้โครงกำรควำมร่วมมอื เขตเศรษฐกิจสำมฝ่ำยอนิ โดนเี ซยี – มำเลเซีย – ไทย (IMT-GT) สำมำรถขยำย ควำมรว่ มมือกำรคำ้ กำรลงทนุ ระหว่ำงสะเดำ – บกู ิตกำยฮู ตี มั และขยำย ควำมรว่ มมอื ทำงกำรค้ำ – กำรลงทนุ ในแนวทำงด่วนเหนอื – ใต้ ได้

13 เขตพัฒนำเศรษฐกิจพเิ ศษเชียงรำย “ฐำนกำรท่องเท่ียว แหล่งผลิตอำหำร สนิ ค้ำเกษตร ศนู ยก์ ลำงกำรขนส่ง สินค้ำระหว่ำงประเทศ กำรขนส่งต่อเนื่องหลำยรูปแบบ” กจิ กำรเป้ำหมำยท่ีได้รับ กจิ กำรเป้ำหมำยที่ไดร้ ับ กำรส่งเสริมในพ้ืนท่ี กำรประกำศเพิ่มเติมในพนื้ ท่ี 1. เกษตร ประมง และกิจกำร 1. กจิ กำรผลติ ผลิตภณั ฑจ์ ำกผลพลอยได้ ที่เกี่ยวข้อง หรือเศษวัสดทุ ำงกำรเกษตร 2. สิง่ ทอ เครื่องนุ่งห่ม เครื่องหนงั 2. กจิ กำรอบพืชและไซโล 3. เครอ่ื งเรอื น 3. กจิ กำรผลติ โครงสร้ำงโลหะ 4. อัญมณี เคร่อื งประดบั 4. กจิ กำรผลิตสง่ิ พิมพ์ทั่วไป 5. เคร่ืองมือแพทย์ 5. กจิ กำรผลติ อำหำรสตั ว์ 6. กำรผลิตพลำสตกิ 6. กจิ กำรผลิตวสั ดุก่อสร้ำง และคอนกรีต 7. กำรผลิตยำ 7. กิจกำรผลิตส่ิงปรุงแตง่ ประทนิ ร่ำงกำย 8. โลจสิ ตกิ ส์ 8. กจิ กำรผลิตผลิตภณั ฑพ์ ลำสติก 9. นิคมอตุ สำหกรรม 9. กจิ กำรผลิตสง่ิ ของจำกเย่ือหรือกระดำษ 10. กำรท่องเทย่ี ว 10. กิจกำรพฒั นำอำคำร/ คลังสนิ คำ้ ศกั ยภำพและโอกำสของเขตพฒั นำเศรษฐกิจพิเศษเชียงรำย  อยู่บนแนวระเบียงเศรษฐกิจเหนือ – ใต้ ซ่ึงสำมำรถเช่ือมโยงกับสำธำรณรัฐ ประชำชนจีนตอนใต้ไดท้ ั้งทำงบกและทำงน้ำ ผ่ำนถนน R3A (ผ่ำนดำ่ นเชยี งของ และ สปป.ลำว) และ ถนน R3B (ผ่ำนด่ำนแม่สำย และเมียนมำ) และท่ำเรือ เชียงแสน  มีศักยภำพกำรใหบ้ รกิ ำรด้ำนโลจิสตกิ ส์ แกจ่ ีนตอนใต้ เมียนมำ และ สปป.ลำว  มโี อกำสขยำยควำมเช่ือมโยงด้ำน กำรท่องเทย่ี ว และอุตสำหกรรมไปยงั จนี ตอนใต้ เมียนมำ และ สปป.ลำว

14 เขตพฒั นำเศรษฐกิจพเิ ศษหนองคำย “กำรค้ำระหว่ำงประเทศ กำรทอ่ งเที่ยว กำรขนส่งต่อเนื่องหลำยรูปแบบ” กิจกำรเป้ำหมำยที่ไดร้ บั กำร กจิ กำรเป้ำหมำยท่ไี ดร้ ับกำร ส่งเสรมิ ในพน้ื ที่ ประกำศเพิ่มเตมิ ในพ้นื ท่ี 1. กจิ กำรผลิตผลิตภณั ฑจ์ ำกผล 1. เกษตร ประมง และกจิ กำร พลอยไดห้ รือเศษวสั ดทุ ำงกำรเกษตร ที่เกี่ยวข้อง 2. กจิ กำรอบพชื และไซโล 3. กจิ กำรผลิตโครงสร้ำงโลหะ 2. ส่งิ ทอ เครื่องนงุ่ ห่ม เครอ่ื งหนงั 4. กจิ กำรผลติ ส่งิ พมิ พ์ทัว่ ไป 3. โลจิสตกิ ส์ 5. กิจกำรผลติ อำหำรสตั ว์ 4. นคิ มอุตสำหกรรม 6. กจิ กำรผลิตวัสดุก่อสร้ำง 5. กำรทอ่ งเท่ียว และคอนกรีต 7. กิจกำรผลิตสิ่งปรงุ แต่งประทนิ ร่ำงกำย 8. กจิ กำรผลติ ผลิตภณั ฑพ์ ลำสตกิ 9. กจิ กำรผลิตสงิ่ ของจำกเย่ือหรอื กระดำษ 10. กิจกำรพฒั นำอำคำร/ คลงั สนิ คำ้ ศักยภำพและโอกำสของเขตพัฒนำเศรษฐกจิ พเิ ศษหนองคำย  เปน็ ช่องทำงกำรค้ำชำยแดนของไทย กบั สปป.ลำว ที่มีมลู ค่ำกำรค้ำชำยแดน สูงสดุ  สำมำรถเชอ่ื มโยงกับเวียงจนั ทน์ไดท้ ้งั ทำงถนนและทำงรถไฟ  สำมำรถเช่อื มโยงกับเขตเศรษฐกิจพเิ ศษใน สปป.ลำว ได้ อำทิ เขตเศรษฐกิจ พเิ ศษเฉพำะเวียงจันทน์ – โนนทอง/ เขตพัฒนำรวมไซเสดถำ/ เขตเศรษฐกจิ เฉพำะบึงธำตหุ ลวง และเขตเศรษฐกจิ เฉพำะลองแทงห์

15 เขตพฒั นำเศรษฐกิจพเิ ศษนครพนม “ธรุ กจิ กำรค้ำชำยแดน และพ้ืนทบี่ ริกำรโลจิสติกส์” กจิ กำรเปำ้ หมำยทไ่ี ด้รบั กจิ กำรเป้ำหมำยท่ีไดร้ บั กำรสง่ เสริมในพน้ื ที่ กำรประกำศเพ่ิมเตมิ ในพนื้ ที่ 1. กิจกำรผลติ ผลิตภัณฑจ์ ำกผลพลอยได้ 1. เกษตร ประมง และกิจกำร หรอื เศษวสั ดทุ ำงกำรเกษตร ท่ีเกีย่ วข้อง 2. กจิ กำรอบพืชและไซโล 3. กจิ กำรผลิตโครงสร้ำงโลหะ 2. ผลิตภณั ฑ์เซรำมกิ ส์ 4. กจิ กำรผลิตสงิ่ พมิ พ์ท่ัวไป 3. สิง่ ทอ เครื่องนงุ่ ห่ม เครือ่ งหนัง 5. กจิ กำรผลติ อำหำรสัตว์ 4. เครอื่ งเรอื น 6. กิจกำรผลิตวัสดุกอ่ สร้ำง และคอนกรีต 5. อญั มณี เคร่ืองประดบั 7. กจิ กำรผลิตสิง่ ปรุงแตง่ ประทินร่ำงกำย 6. เครอื่ งมอื แพทย์ 8. กจิ กำรผลิตผลติ ภัณฑ์พลำสติก 7. ยำนยนต์ เคร่ืองจกั ร และช้นิ ส่วน 9. กจิ กำรผลิตส่งิ ของจำกเย่ือหรอื กระดำษ 8. เคร่อื งใช้ไฟฟ้ำ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 10. กิจกำรพัฒนำอำคำร/ คลังสนิ คำ้ 9. กำรผลิตพลำสตกิ 10. กำรผลิตยำ 11 โลจิสตกิ ส์ 12. นิคมอตุ สำหกรรม 13. กำรท่องเทย่ี ว ศกั ยภำพและโอกำสของเขตพฒั นำ เศรษฐกิจพิเศษนครพนม  เปน็ ช่องทำงกำรค้ำผ่ำนแดนไปยังเวยี ดนำม และจีนตอนใต้ และมศี ักยภำพเป็นช่องทำง ขนสง่ ไปยงั เวยี ดนำม และตะวันออกไกล  มีเสน้ ทำงคมนำคมเชื่อมโยงกบั เส้นทำงรถไฟสำยหลกั ของประเทศ (ทำงรถไฟ สำยบำ้ นไผ)่  เป็นแหลง่ ผลติ สนิ คำ้ เกษตรท่มี คี ุณภำพ ซึ่งสำมำรถสนบั สนนุ อุตสำหกรรม เกษตรแปรรูปได้

16 เขตพฒั นำเศรษฐกิจพเิ ศษกำญจนบรุ ี “นิคมอตุ สำหกรรม กำรท่องเทย่ี วเชิงอนรุ กั ษ์ กำรเกษตร และกำรคำ้ ผ่ำนแดน” กิจกำรเปำ้ หมำยท่ีได้รบั กจิ กำรเป้ำหมำยที่ไดร้ ับ กำรสง่ เสรมิ ในพืน้ ท่ี กำรประกำศเพิ่มเตมิ ในพืน้ ท่ี 1. เกษตร ประมง และกจิ กำร 1. กจิ กำรผลิตผลิตภณั ฑ์จำกผลพลอยได้ ที่เก่ียวข้อง หรือเศษวสั ดทุ ำงกำรเกษตร 2. ผลิตภณั ฑ์เซรำมิกส์ 2. กิจกำรอบพชื และไซโล 3. สง่ิ ทอ เครื่องน่งุ ห่ม เคร่ืองหนงั 3. กจิ กำรผลิตโครงสร้ำงโลหะ 4. เครอื่ งเรือน 4. กิจกำรผลติ สิง่ พิมพ์ท่วั ไป 5. อัญมณี เครอื่ งประดบั 5. กิจกำรผลิตอำหำรสัตว์ 6. เครื่องมอื แพทย์ 6. กจิ กำรผลติ วสั ดุก่อสรำ้ ง และคอนกรตี 7. ยำนยนต์ เครอ่ื งจกั ร และชน้ิ ส่วน 7. กจิ กำรผลิตส่ิงปรงุ แตง่ ประทินรำ่ งกำย 8. เครอ่ื งใช้ไฟฟ้ำ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ 8. กิจกำรผลิตผลิตภัณฑพ์ ลำสตกิ 9. กำรผลิตพลำสติก 9. กจิ กำรผลติ สิง่ ของจำกเยื่อหรอื 10. กำรผลติ ยำ กระดำษ 11. โลจสิ ติกส์ 10. กจิ กำรพัฒนำอำคำร/ คลงั สินคำ้ 12. นิคมอุตสำหกรรม 13. กำรท่องเทย่ี ว ศกั ยภำพและโอกำสของเขตพฒั นำเศรษฐกิจพเิ ศษกำญจนบรุ ี  ทต่ี ้งั อยบู่ นแนวเช่ือมโยงระหว่ำงเขตเศรษฐกิจ พิเศษทวำย – พื้นทีช่ ำยฝั่งทะเลตะวนั ออก  สำมำรถขนส่งสนิ คำ้ ออกทำงทะเลทำงทำ่ เรอื ทวำยสูม่ หำสมทุ รอนิ เดีย ตะวันออกกลำง และยโุ รป และท่ำเรือแหลมฉบังสูป่ ระเทศ ในมหำสมุทรแปซฟิ ิค  ศนู ยก์ ลำงทำงเศรษฐกจิ ภำคตะวันตกเชื่อมโยงระเบยี งเศรษฐกิจ GMS ตอนใต้ เช่อื มโยงทวำย – กำญจนบุรี – กทม. – พนมเปญ – โฮจมิ ินห์

เขตพฒั นำเศรษฐกจิ พเิ ศษนรำธวิ ำส 17 “กำรค้ำชำยแดน อุตสำหกรรมอำหำร และกำรขนส่งต่อเน่ืองหลำย รปู แบบ” กจิ กำรเป้ำหมำยทไี่ ดร้ บั กจิ กำรเปำ้ หมำยทไี่ ดร้ ับ กำรส่งเสริมในพืน้ ที่ กำรประกำศเพิ่มเติมในพ้ืนที่ 1. กจิ กำรผลิตผลติ ภัณฑจ์ ำกผล ใชส้ ิทธิประโยชน์ภำยใตม้ ำตรกำร พลอยได้หรอื เศษวสั ดุทำงกำรเกษตร สง่ เสริมกำรลงทุนในจงั หวัดชำยแดน 2. กิจกำรอบพชื และไซโล ภำคใต้ โดยผ่อนปรนเง่ือนไขประเภท 3. กิจกำรผลติ โครงสร้ำงโลหะ กจิ กำรตำมนโยบำยเขตพัฒนำ 4. กจิ กำรผลิตสง่ิ พิมพ์ทวั่ ไป เศรษฐกจิ พิเศษ 5. กิจกำรผลติ อำหำรสตั ว์ 6. กจิ กำรผลิตวสั ดุก่อสรำ้ ง และคอนกรีต 7. กจิ กำรผลติ ส่ิงปรงุ แต่งประทิน รำ่ งกำย 8. กิจกำรผลติ ผลติ ภณั ฑพ์ ลำสตกิ 9. กจิ กำรผลิตสง่ิ ของจำกเย่ือหรอื กระดำษ 10. กิจกำรพัฒนำอำคำร/ คลงั สินคำ้ ศกั ยภำพและโอกำสของเขตพัฒนำเศรษฐกจิ พิเศษนรำธิวำส  เชือ่ มโยงกบั มำเลเซยี ผ่ำนทำงหลวงเอเชยี หมำยเลข 18 และสำมำรถเชอื่ มตอ่ ไป ยงั สงิ คโปร์ได้  มีทำ่ เรือพำณชิ ยส์ ำหรับขนส่งสนิ คำ้ ประมง ไม้ สินคำ้ อุปโภคบริโภคได้  มโี ครงขำ่ ยเส้นทำงรถไฟจำกสำยใตจ้ ำกกรงุ เทพฯ ไปยังชุมทำงหำดใหญ่ – ปำดงั เบซำร์ – บตั เตอร์เวอรธ์ – สงิ คโปร์

18 INVESTMENT INCENTIVES สิทธปิ ระโยชน์ และประเภทกิจกำรที่ไดร้ บั สิทธิประโยชน์ดำ้ นกำรลงทุน ในเขตพฒั นำเศรษฐกิจพิเศษ กิจการท่ีเข้าไปลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ จะได้รับการสนับสนุน จากภาครัฐ เช่น มาตรการสนับสนุนด้านภาษี การอานวยความสะดวก ของหน่วยงานต่างๆ โดยการลงทุนในประเภทกิจการที่กาหนดจะได้รับสิทธิ ประโยชน์ด้านภาษีอาการ ได้แก่ มาตรการของสานักงานคณะกรรมการ ส่งเสริมการลงทุน (BOI) และมาตรการของกระทรวงการคลงั มำตรกำรส่งเสริมกำรลงทุนของสำนักงำนคณะกรรมกำรส่งเสริมกำรลงทนุ ตามประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนท่ี 4/2557 ลงวันท่ี 18 ธ.ค. 2557 เร่ืองนโยบายส่งเสริมการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษได้กาหนด สิทธิประโยชน์สาหรับกิจการท่ีลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเป็น 2 กรณี ได้แก่ 1. กรณีกิจการตามบัญชีแนบท้ายประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการ ลงทุน ที่ 2/2557 เรื่องนโยบายและหลักเกณฑ์การส่งเสริมการลงทุน ลงวันท่ี 3 ธันวาคม 2557 2. กรณีกิจการเป้าหมายตามที่คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนา เศรษฐกิจพเิ ศษ กรณีกิจกำรทั่วไป กรณีกิจกำรเป้ำหมำย ตำมบัญชีประเภทของ BOI (13 กลุ่มอตุ สำหกรรม) ยกเวน้ ภาษีเงินไดน้ ติ ิบุคคลเพิ่มเติมจาก ยกเวน้ ภาษีเงินไดน้ ิติ หลกั เกณฑ์ปกติ 3 ปี แต่รวมแลว้ ไม่เกิน บุคคลสูงสดุ 8 ปี (จากัด 8 ปี วงเงินไม่เกินร้อยละ 100)

19 กรณกี ิจกำรท่ัวไป กรณีกจิ กำรเป้ำหมำย ตำมบัญชีประเภทของ BOI (13 กลุ่มอตุ สำหกรรม) หากเป็นกจิ การในกลุ่ม A1 หรือ A2 ซง่ึ ได้ ลดหย่อนภาษีเงนิ ได้นิติ ยกเวน้ ภาษีเงินได้นติ ิบุคคล 8 ปีอยู่แลว้ บคุ คลร้อยละ 50 เพ่ิมอีก ให้ไดร้ บั การลดหย่อนภาษีเงินไดน้ ติ บิ คุ คล 5 ปี ร้อยละ 50 เพ่ิมอีก 5 ปี - หักค่าขนส่ง ไฟฟ้า ประปา 2 เท่า เป็นระยะเวลา 10 ปี - หักค่าติดต้ังหรือก่อสร้างส่ิงอานวยความสะดวกได้ ร้อยละ 25 ของเงนิ ลงทุน นอกเหนือจากการหักค่าเส่อื มราคาตามปกติ - ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร - ยกเว้นอากรขาเข้าวตั ถดุ ิบที่ใช้ผลติ เพื่อส่งออก - อนุญาตให้ใช้แรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือ - สิทธปิ ระโยชนอ์ ่ืนๆ ท่ีไมใ่ ชภ่ าษีอากร เช่น การถือครองท่ีดิน การนา ช่างฝมี ือต่างด้าวมาทางาน สทิ ธิประโยชนส์ ำหรับ SMEs ไทย 1. กาหนดเงินลงทุนข้นั ต่าของแต่ละโครงการไมน่ ้อยกว่า 500,000 บาท (ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวยี น) 2. อนุญาตให้นาเครื่องจักรใช้แล้วในประเทศมาใช้ในโครงการท่ีขอรับ การส่งเสริมได้มีมูลค่าไม่เกิน 10 ล้านบาท โดยจะคานวณราคา เครื่องจักรใช้แล้วในประเทศโดยใช้มูลค่าตามบัญชี และต้องลงทุน ใหม่ในเคร่ืองจักรหลักเป็นสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของมูลค่า เครอ่ื งจักรที่ใช้ในโครงการ

20 กลุ่มอุตสำหกรรมเป้ำหมำยในเขตพัฒนำเศรษฐกิจพเิ ศษ คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ได้กาหนดกิจการ เป้าหมายในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษแต่ละพื้นที่แตกต่างกันตามศักยภาพ และความต้องการของประชาชนในพน้ื ท่ี โดยจัดกลุ่มประเภทกิจการไดเ้ ปน็ 13 กลุ่มอุตสาหกรรม 66 ประเภทกิจการ และกาหนดกิจการเป้าหมายที่ให้ ส่งเสรมิ เฉพาะพ้ืนทเี่ ขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษอีก 10 ประเภท ดงั นี้ 13 กลุ่มอตุ สำหกรรม (66 ประเภทกิจกำร) 1. กลุ่มอุตสาหกรรมการเกษตร ประมง และกจิ การทเี่ กีย่ วข้อง 2. กลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตผลติ ภัณฑ์เซรามิกส์ 3. กลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอ เคร่ืองนุ่งหม่ และเคร่ืองหนัง 4. กลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตเครอื่ งเรือน 5. กลุ่มอุตสาหกรรมอัญมณี และเคร่ืองประดับ 6. กลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตเครอ่ื งมือแพทย์ 7. กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ เคร่ืองจักร และช้ินสว่ น 8. กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 9. กลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตพลาสติก 10. กลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตยา 11. กลุ่มอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ 12. กลุ่มนิคมหรือเขตอุตสาหกรรม 13. กลุ่มอุตสาหกรรมสนับสนุนการท่องเท่ยี ว กิจกำรเป้ำหมำยที่ประกำศเพ่ิมเติมในพ้ืนท่ี 1. กิจการอบพืชและไซโล 2. กจิ การผลิตผลิตภัณฑ์จากผลพลอยได้หรือเศษวสั ดุทางการเกษตร 3. กิจการผลิตโครงสร้างโลหะสาหรับงานก่อสร้างหรืองานอุตสาหกรรม 4. กิจการผลิตสิ่งพิมพ์ทวั่ ไป 5. กจิ การผลิตอาหารสัตว์หรือส่วนผสมอาหารสัตว์

21 6. กจิ การผลิตวัสดุก่อสร้างและกจิ การผลิตผลิตภัณฑ์คอนกรีตอัดแรง สาหรบั งานสาธารณปู โภค 7. กจิ การผลติ สิง่ ปรุงแต่งสาหรับประทินร่างกาย เช่น สบู่ ยาสระผม ยาสฟี ัน 8. กิจการผลิตผลิตภณั ฑ์พลาสติกสาหรบั สินค้าอุปโภค เชน่ บรรจุภัณฑ์ พลาสติก 9. กิจการผลิตสง่ิ ของจากเย่ือหรือกระดาษ เช่น กล่องกระดาษ 10. กจิ การพัฒนาอาคารสาหรับโรงงานอุตสาหกรรมและ/หรือคลังสนิ ค้า มำตรกำรของกรมสรรพำกร สาหรับกิจการที่ไม่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน หรือไม่ผ่านเงื่อนไขขนาด การลงทุนข้ันต่าของ BOI สามารถขอรับสิทธิประโยชน์ภายใต้มาตรการของ กรมสรรพากร กระทรวงการคลังได้ โดยมาตรการของกระทรวงการคลังจะให้ สทิ ธิลดหย่อนอัตราภาษีเงินได้นิตบิ ุคคลจากร้อยละ 20 เหลือร้อยละ 10 เปน็ เวลา 10 รอบระยะเวลาบัญชี สาหรับกิจการท่ีจัดตั้งใหม่ หรือการขยาย อาคารถาวรที่ใช้ในการประกอบกิจการ สาหรับรายได้ท่ีเกิดขึ้นจากการผลิต สินค้าเพ่ือทดแทนการนาเข้า หรือเพ่ือการส่งออกเป็นหลัก และการผลิต สินค้าที่มีแนวโน้มจะสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน หรือรายได้ที่ เกิดจากการให้บริการและมีการใช้บริการน้ันในเขตพฒั นาเศรษฐกิจพิเศษ มำตรกำรสนับสนนุ ดำ้ นแรงงำน  อนญุ าตให้แรงงานต่างดา้ วเดินทางเข้ามาทางานแบบไป-กลบั หรอื ไม่เกิน 7 วนั  มีการฝึกอบรมแรงงานไทยและแรงงานต่างดา้ ว  สาหรับกิจการที่ได้รับการส่งเสรมิ การลงทนุ จาก BOI ในพืน้ ที่เขต พัฒนาเศรษฐกิจพิเศษอนุญาตให้ใชแ้ รงงานต่างด้าวที่ถูกกฎหมาย ท้งั ผชู้ านาญการและแรงงานต่างด้าวไร้ฝีมอื ที่มา : สานกั งานคณะกรรมการสง่ เสรมิ การลงทนุ

22 SEZ MECHANISM กลไกขับเคลื่อนเขตพัฒนำเศรษฐกิจพิเศษ : คณะกรรมกำรนโยบำย เขตพัฒนำเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคาส่ังที่ 72/2557 เร่ือง แต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) ลงวันท่ี 19 มิถุนายน 2557 กาหนดให้คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เป็นกลไกหลักในการขับเคล่ือนเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ โดยองค์ประกอบ ของคณะกรรมการ ประกอบด้วยนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เลขาธิการ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นเลขานุการ และ ปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นกรรมการ โดยคาส่ังดังกล่าว กาหนดให้ กนพ. มอี านาจหนา้ ทพี่ ิจารณาให้ความเห็นชอบรา่ งหลักเกณฑ์สนบั สนนุ การจัดตั้ง เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ตลอดจนให้ความเห็นชอบแผนแม่บท แผนงาน โครงการที่เก่ียวข้อง รวมถึงมีอานาจหน้าท่ีกากับดูแล ติดตาม ประเมินผล และออกระเบียบ ประกาศ และคาส่ังที่เก่ียวขอ้ ง ต่อมา คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษได้มีคาสง่ั กนพ. ท่ี 1/2558 และ 2/2558 เร่ือง แต่งต้ังคณะอนุกรรมการนโยบาย เขตพัฒนาเศรษฐกจิ พิเศษ ไดแ้ ต่งตง้ั คณะอนุกรรมการจานวน 6 คณะ เพื่อ ขับเคลอ่ื นการดาเนนิ งานเขตพฒั นาเศรษฐกจิ พเิ ศษ ดังนี้ 1) คณะอนุกรรมกำรด้ำนกำรจัดหำท่ีดินและบริหำรจัดกำร (รมว.มท. เป็นประธาน/ ผู้แทน สป.มท. เป็นเลขานุการ) มีอานาจหน้าท่ี พิจารณากาหนดพื้นที่ของทางราชการเพ่ือนามาใช้ประโยชน์ในการพัฒนา เขตพัฒนาเศรษฐกจิ พเิ ศษ ฯลฯ 2) คณะอนุกรรมกำรด้ำนสิทธิประโยชน์ กำหนดพ้ืนที่ และ ศูนย์บริกำรเบ็ดเสร็จด้ำนกำรลงทุน (รมว.กค. เป็นประธาน/ ผู้แทน มท. เป็น อนุกรรมการ) มีอานาจหนา้ ท่ีกาหนดให้การสิทธปิ ระโยชน์ที่เกี่ยวกับภาษีอากร และมิใช่ภาษอี ากร ฯลฯ

23 3) คณะอนุกรรมกำรศูนย์บริกำรเบ็ดเสร็จด้ำนแรงงำน สำธำรณสุข และควำมม่ันคง (รมว.รง. เป็นประธาน/ ผู้แทน มท. เป็น อนุกรรมการ) มีอานาจหน้าท่ีจัดระบบแรงงานต่างด้าว จัดต้ังศูนย์ OSS ด้าน แรงงานต่างดา้ ว 4) คณะอนุกรรมกำรด้ำนโครงสร้ำงพ้ืนฐำนและด่ำนศุลกำกร (รมว.คค. เป็นประธาน/ ผู้แทน มท. เป็นอนุกรรมการ) มีอานาจหน้าที่ จดั ทาแผนพัฒนาโครงสรา้ งพ้นื ฐานด้านต่างๆ ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพเิ ศษ 5) คณะอนุกรรมกำรด้ำนกำรตลำดและประชำสัมพันธ์ (รมว.พณ. เปน็ ประธาน) มีอานาจหนา้ ที่จัดทาข้อมูลการประชาสัมพันธ์ 6) คณะอนุกรรมกำรขับเคล่ือนเขตพัฒนำเศรษฐกิจพิเศษระดับ พ้ืนที่ (รมว.ประจาสานักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน/ ปมท. และรองปลัด สานักนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายเป็นรองประธาน/ ผวจ. 10 จังหวดั เป็นอนุกรรมกำร) มีอานาจหน้าที่ติดตามความก้าวหน้าการดาเนินงาน เขตพัฒนาเศรษฐกิจพเิ ศษ ทั้งน้ี คาส่ังหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 9/2562 เร่ือง การยกเลิกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ คาสั่งคณะรักษา ความสงบแห่งชาติ และคาสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ บางฉบับที่หมดความจาเป็น ลงวันที่ 9 กรกฎาคม 2562 ได้มีผลยกเลิก ประกาศ คสช. คาสั่ง คสช. และคาส่ังหัวหน้า คสช. ท่ีเก่ียวข้องกับเขต พัฒนาเศรษฐกจิ พเิ ศษ จานวน 4 คาสัง่ ได้แก่ (1) คาสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 72/2557 เรื่อง แต่งต้ัง คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ลงวันท่ี 19 มถิ ุนายน 2557 (2) คาสง่ั คณะรักษาความสงบแหง่ ชาติ ท่ี 109/2557 เรื่อง แตง่ ต้ัง กรรมการเพ่ิมเติมในคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ลงวันท่ี 28 กรกฎาคม 2557

24 (3) คาส่ังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 3/2558 เรื่อง แต่งต้ัง คณะกรรมการขับเคล่ือนนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ลงวันท่ี 13 มีนาคม 2558 (4) คาส่ังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ท่ี 5/2558 เร่ือง แต่งตั้ง รองประธานกรรมการและกรรมการเพิ่มเติมในคณะกรรมการนโยบาย เขตพัฒนาเศรษฐกิจพเิ ศษ ลงวนั ที่ 10 เมษายน 2558 คาสั่งหัวหน้า คสช. ข้างต้น จึงเป็นผลให้คณะกรรมการนโยบาย เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) และคณะอนุกรรมการฯ ทง้ั 6 คณะข้างต้น ต้องยุติบทบาทลง อย่างไรก็ตาม กระทรวงมหาดไทย ส่วนราชการ และ หน่วยงานทีเ่ กี่ยวข้องยงั คงปฏิบตั ิหน้าท่ีในการสนับสนุนการพฒั นาเขตพัฒนา เศรษฐกิจพิเศษตามภารกิจ อานาจหน้าท่ีของส่วนราชการ รวมถึงมีการ ดาเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีที่เก่ียวข้องเพื่อสนับสนุนการขับเคล่ือน เขตพฒั นาเศรษฐกจิ พิเศษซึ่งเป็นนโยบายสาคญั ของรฐั บาล ท้ังนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมติในคราวการประชุมเม่ือวันที่ 9 มิถุนายน 2563 เห็นชอบในหลักการของ “ร่างระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการ พัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ พ.ศ. ….” ตามท่ีสานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอ ซึ่งร่างระเบียบสานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วย การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ พ.ศ. .... จะเป็นกลไกในระดับนโยบายและ ระดับพน้ื ท่ีในการบริหารจัดการ กากบั ตดิ ตาม และสนบั สนุนการดาเนินงาน การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยจะส่งผลให้มี การบริหารจัดการและขับเคล่ือนพ้ืนท่ีเขตเศรษฐกิจพิเศษทั้งหมดอย่าง บูรณาการ และมปี ระสทิ ธภิ าพ

25 รำ่ งระเบียบสำนักนำยกรัฐมนตรี ว่ำดว้ ยกำรพัฒนำเขตเศรษฐกจิ พเิ ศษ พ.ศ. ....  หลักการและความสาคัญ : กาหนดหลักการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อเป็นเคร่ืองมือขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาเชิงพื้นท่ี ระดับภาค ตลอดจนบูรณาการการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษของ ประเทศอย่างเป็นระบบ โดยมีกลไกบริหารจัดการท้ังในระดับนโยบาย และระดับพ้นื ท่ี  เขตเศรษฐกจิ พิเศษ ประกอบด้วยพืน้ ท่ีต่อไปน้ี o เขตพัฒนาเศรษฐกจิ พเิ ศษชายแดน 10 แห่ง o พ้ืนที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (Southern Economic Corridor : SEC) o พื้นท่ีระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ (Northern Economic Corridor : NEC-Creative LANNA) o พื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ (Northeastern Economic Corridor : NeEC - Bioeconomy) o พื้นท่ีระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคกลาง – ตะวันตก (Central – Western Economic Corridor)  แผนพัฒนา หมายถึง แผนพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษแต่ละแห่ง ซ่ึงประกอบด้วย รายละเอียดเก่ียวกับบริเวณพ้ืนท่ีที่กาหนดให้เป็น เขตเศรษฐกิจพิเศษ วัตถุประสงค์ เป้าหมาย ศักยภาพหลักของพื้นท่ี แนวทางการพัฒนา มาตรการ แผนงานโครงการ แผนงบประมาณ หน่วยงานรับผิดชอบหลัก - หน่วยงานสนับสนุน การสนับสนุนจาก ภาครัฐ และลกั ษณะการใชป้ ระโยชน์พื้นที่  แผนงานโครงการ หมายถึง แผนงานหรือโครงการและงบประมาณ ท่ีจาเป็นต่อการพัฒนาท่ีหน่วยงานจัดทาขึ้นเพ่ือจัดตั้ง และดาเนินการ เขตเศรษฐกจิ พิเศษแต่ละแห่งให้เป็นไปตามแผนพฒั นา

26  กลไกการบริหาร : คณะกรรมการนโยบายพฒั นาเขตเศรษฐกจิ พิเศษ (กพศ.) o นายกรัฐมนตรี : ประธานกรรมการ o รองนายกรฐั มนตรี : รองประธานกรรมการ o รมว.มท. : กรรมการ o เลขาธกิ าร สศช. : กรรมการและเลขานกุ าร  อานาจหน้าท่ี กพศ. : กาหนดนโยบาย บริหารการพัฒนาเขตเศรษฐกจิ พิเศษ กาหนดพ้ืนที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ แต่งต้ังคณะอนุกรรมการ อนุมัติแผนงาน โครงการ งบประมาณ และกากับ ติดตาม ประเมนิ ผล  สานกั งาน : สานกั งานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ทาหนา้ ที่ เลขานุการของ กพศ. โดยรบั ผดิ ชอบงานด้านวชิ าการ ธุรการ และอานวยการ ในการปฏิบตั ิหน้าทขี่ อง กพศ.

27 กรอบแนวคดิ กำรพัฒนำระเบยี งเศรษฐกิจพิเศษ (Economic Corridor) การกาหนดพื้นท่ีระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ (Economic Corridor) เป็น เครื่องมือของรัฐบาลในการพัฒนาพื้นท่ีระดับภาค และทาให้เกิดความ เชอ่ื มโยงกับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทดี่ าเนินการแลว้ เพือ่ กระจาย ความเจริญทางเศรษฐกิจและสังคมจากศูนย์กลางสู่พ้ืนท่ีใหม่ พร้อมกับ พัฒนาเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับศักยภาพของพ้ืนที่ โดยสานักงานสภา พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้จัดทากรอบแนวคิดการพัฒนา เศรษฐกจิ หลกั เชิงพ้นื ที่ ประกอบดว้ ย พ้ืนที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ ภำคเหนือ (Northern Economic Corridor : NEC-Creative LANNA) พนื้ ทีร่ ะเบียงเศรษฐกิจพเิ ศษภำค ตะวนั ออกเฉียงเหนอื (Northeastern Economic Corridor : NeEC - Bioeconomy) พื้นท่ีระเบยี งเศรษฐกิจพเิ ศษภำคใต้ (Southern Economic Corridor : SEC) พื้นทรี่ ะเบยี งเศรษฐกจิ พิเศษภำค กลำง – ตะวันตก (Central – Western Economic Corridor)

28 ท้งั น้ี สามารถสรุปความเชอ่ื มโยงระหวา่ งแผนพัฒนาระดับภาค และ แผนพฒั นาเศรษฐกิจพิเศษได้โดยสังเขป ดังนี้ 1. พน้ื ที่ระเบยี งเศรษฐกิจพเิ ศษภำคเหนือ (NEC-Creative LANNA) แผนพัฒนาภาคเหนือ (พ.ศ. 2560 - 2564) กาหนดเป้าหมายการพัฒนาเป็น “ฐำนเศรษฐกิจสรำ้ งสรรค์ท่มี มี ูลคำ่ สูง และเช่ือมโยงเศรษฐกิจกับประเทศใน กลุ่มอนุภูมิภำคลุ่มแม่น้ำโขง” โดยกาหนดพื้นท่ีตามศักยภาพ โอกาส และ ขอ้ จากัดได้ 3 กล่มุ ได้แก่ (1) กลุ่มพื้นท่ีภำคเหนือตอนบน - พื้นที่พัฒนำเศรษฐกิจเชิงสร้ำงสรรค์ Creative Lanna Cluster ประกอบดว้ ยจังหวัดเชียงใหม่ เชียงรำย ลำพูน ลำปำง โดยมีแนวทางการพัฒนาในการต่อยอดหัตถกรรม Creative Crafts และม่งุ เน้นการสรา้ งแบรนด์ Lanna Heritage สร้าง เมืองวัฒนธรรมใน GMS ตอนบน ส่งเสริมสินค้าสร้างสรรค์ และ Lanna Wellness Cluster (2) กลุ่มพ้ืนท่ีภำคเหนือตอนล่ำง – เติบโตบนฐำนกำรเกษตร พ้ืนท่ี เศรษฐกิจฐำนชีวภำพหลักของประเทศ Bio Economy Cluster ประกอบด้วยกลุ่มจังหวัดภำคเหนือตอนล่ำง 1 – 2 (นครสวรรค์ กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก ตำก เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุตรดิตถ์ อุทัยธำนี) โดยมุ่งเน้นการพัฒนาแหล่งอุตสาหกรรมฐานชีวภาพ และ อุตสาหกรรมแปรรูป และสง่ เสริม Start Up ด้านเกษตร (3) กลุ่มพ้ืนที่ที่ยังมีข้อจำกัดเชิงกำยภำพ – พื้นท่ีต้นน้ำ มีข้อจำกัดกำร ใช้ที่ดินสูง พื้นท่ีเร่งรัดกำรพัฒนำ Highland Development Cluster ประกอบด้วยจังหวัดแม่ฮ่องสอน แพร่ พะเยำ และน่ำน โดยมุ่งเน้นการพัฒนา ปรับปรุงโครงสร้างพ้ืนฐาน สร้างความมั่นคง ในทดี่ ินทากนิ

29 2. พ้ืนที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภำคตะวันออกเฉียงเหนือ (NeEC - Bioeconomy) แผนพัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี 12 (พ.ศ. 2560 - 2564) กาหนดเป้าหมายการพัฒนา ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ใหเ้ ปน็ “ศนู ยก์ ลางเศรษฐกิจของอนภุ มู ภิ าคลมุ่ แมน่ ้าโขง” โดยกาหนดพน้ื ทตี่ ามศักยภาพ โอกาส และข้อจากดั ได้ 4 กลมุ่ ได้แก่ (1) พื้นท่ีภำคอีสำนตอนบนเติบโตบนฐำนกำรค้ำชำยแดน (Niche Products Developing Cluster) ป ร ะ ก อ บ ด้ ว ย จั ง ห วั ด เ ล ย หนองบัวลาภู หนองคาย อุดรธานี บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มกุ ดาหาร โดยมงุ่ เนน้ การพฒั นาศูนย์กลางแฟชน่ั ผา้ ไหม โคเน้ือ พชื ผัก ไมด้ อก และสมนุ ไพร

30 (2) พื้นท่ีศักยภำพด้ำนกำรท่องเท่ียว (New Tourism Attraction Cluster) ประกอบด้วยจังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรสี ะเกษ และจงั หวดั รมิ แม่นา้ โขง (3) พื้นที่เติบโตบนฐำนเกษตรมูลค่ำสูง (Premium Agro Industry & Bio Economy Cluster) ประกอบด้วยกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนกลางและตอนล่าง 1-2 มีจุดเน้นในการพัฒนาข้าวหอมมะลิ การแปรรูปเนื้อ และพัฒนาอตุ สาหกรรมชีวภาพ (4) พื้นท่ีพัฒนำเป็นฐำนอุตสำหกรรมอนำคต (New Industry Node) ประกอบด้วยการพัฒนาอุตสาหกรรมการบิน ในจังหวัดนครพนม ร้อยเอ็ด และการพัฒนาอุตสาหกรรมระบบรางในจังหวัดขอนแก่น และนครรำชสมี ำ

31 3. พ้นื ทีร่ ะเบยี งเศรษฐกิจพิเศษภำคใต้ (SEC) พ้ืนท่ีเป้าหมายของระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ ประกอบด้วย 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช โดยกรอบการพฒั นาพืน้ ที่ระเบยี งเศรษฐกจิ พิเศษภาคใต้ ประกอบดว้ ย (1) กำรพัฒนำประตูกำรค้ำฝั่งตะวันตก (Western Gateway) โดย มีวัตถุประสงค์เพ่ือเพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐานด้านการ ขนส่งและระบบโลจิสติกส์เพ่ือเชื่อมโยงฝ่ังอ่าวไทย – ฝั่งอันดามัน – ประเทศแถบเอเชียใต้ และ EEC และพัฒนาโลจิสติกส์ให้ได้ มาตรฐานสากล (2) กำรพัฒนำประตูสู่กำรท่องเที่ยวอ่ำวไทยและอันดำมัน (Royal Coast and Andaman Route) โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือพัฒนา ความเช่อื มโยงการท่องเท่ียวฝ่ังอ่าวไทย – ฝ่งั อันดามัน และพฒั นา โครงสรา้ งพ้ืนฐานดา้ นการทอ่ งเที่ยว (3) กำรพัฒนำอุตสำหกรรมฐำนชีวภำพและกำรแปรรูปกำรเกษตร มูลค่ำสูง (Bio-based and processed Agricultural Products) โดยมีวตั ถุประสงค์เพ่ือสนับสนุนการนาเทคโนโลยีมาใชใ้ นการผลิต การพัฒนาอุตสาหกรรมปาล์มน้ามัน ยางพารา การเกษตร และ การแปรรูปอาหารทะเล (4) กำรอนรุ ักษท์ รพั ยำกรธรรมชำติ กำรสง่ เสริมวฒั นธรรม และกำร พัฒนำเมืองน่ำอยู่ (Green, Culture, Smart and Livable Cities ) มีวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์และฟ้ืนฟูทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดล้อมท้ังทางบกทางทะเล การส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถ่ิน และการพฒั นาเมอื งน่าอยู่

32 4. พื้นท่ีระเบียงเศรษฐกจิ พเิ ศษภำคกลำงและภำคตะวนั ตก (Central-Western Economic Corridor: CWEC) พ้ื น ท่ี เ ป้ า ห ม า ย ข อ ง ร ะ เ บี ย ง เ ศ ร ษ ฐ กิ จ พิ เ ศ ษ ภ า ค ก ล า ง ต ะ วั น ต ก ครอบคลุม พื้นท่ี 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา และนครปฐม เพื่อดาเนินการขับเคล่ือนฐานการผลิตด้าน อุตสาหกรรมเกษตร อาหาร แปรรูป และอุตสาหกรรมไฮเทคระดับ มาตรฐานสากล เชื่อมโยงประตูการค้า การลงทุน และการท่องเท่ียว ระหว่าง เขตเศรษฐกิจพิเศษทวายกับพื้นท่ีภาคกลางตะวันตก และเขตพัฒนาเศรษฐกิจ พิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยกรอบการพัฒนาพื้นท่ีระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ ภาคกลางและภาคตะวันตก สรุปได้ดงั นี้

33 (1) กำรพัฒนำฐำนกำรผลิตสินค้ำเกษตรและอุตสำหกรรมไฮเทค มำตรฐำนสำกล (Agro and High-Tech Industrial base) โดยมุ่งเพ่ิม ศักยภาพการเป็นฐานการผลิตสินค้าเกษตร เกษตรอาหารแปรรูปมูลค่าสูง และยกระดับฐานการผลิตอุตสาหกรรมไฮเทคชั้นนาที่เช่ือมโยงกับห่วงโซ่ การผลิตระดบั โลก (2)กำรพัฒนำเขตกำรท่องเท่ียวเชิงมรดก ประวัติศำสตร์ และกำร อนุรักษ์ (Heritage and Green Tourism District) โดยการอนุรักษ์และ ฟื้นฟูบูรณะโบราณสถานพร้อมกับการยกระดับคุณภาพและมาตรฐานธุรกิจ การทอ่ งเที่ยวและบริการ (3)กำรพัฒนำเมืองน่ำอยู่และเมืองอัจฉริยะ (Livable & Smart City) โดยวางแผนบริหารจัดการพ้ืนที่และพัฒนาเมืองเพ่ือรองรับกิจกรรม ทางเศรษฐกิจ

34 SEZ MASTERPLAN แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ เป็นแผนระดับที่ 2 ที่มี ความสาคัญในการเป็นแนวทางการพัฒนา และขับเคล่ือนประเทศเพ่ือบรรลุ เป้าหมายตามที่กาหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ โดยถ่ายทอดเป้าหมายและ ประเด็นยุทธศาสตร์ไปสู่แนวทางการปฏิบัติในแผนระดับต่างๆ แผนแม่บท ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประกอบด้วย 23 แผนแม่บท โดยแผนแม่บท ฉบับที่ 9 ประเด็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ประกอบด้วย 3 แผนย่อย ซ่ึงจะเป็น แนวทางในการขับเคล่ือนการพัฒนาเชิงพ้ืนท่ี ส่งเสริมการเพ่ิมผลิตภาพ สรา้ ง มูลค่าเพิ่ม รวมทั้งปรับโครงสร้างภาคการผลิตและบริการในปัจจุบันสู่ การผลติ และบรกิ ารแห่งอนาคต ดงั น้ี 1. การพัฒนาเขตพฒั นาพเิ ศษภาคตะวันออก 2. การพฒั นาพืน้ ทีร่ ะเบยี งเศรษฐกิจภาคใต้ 3. การพฒั นาเขตพัฒนาเศรษฐกจิ พิเศษชายแดน กำรพัฒนำเขตเศรษฐกิจพิเศษชำยแดน แผนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน มีวัตถุประสงค์สาคัญ เพอื่ ใหเ้ กิดการกระจายความเจริญสภู่ ูมิภาค โดยใชโ้ อกาสจากอาเซียน ลดความ เหลื่อมล้าทางรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และเสริมสร้าง ความมั่นคงในพ้ืนที่บริเวณชายแดน รวมท้ังเพ่ิมความสามารถในการแข่งขัน และการเช่ือมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน

SEZ MASTERPL เปำ้ หมำย ตัวชี้วัด 2561 – 1. การขยายตัวของ อตั ราการขยายตัวของ ขยาย ผลิตภณั ฑม์ วลรวมของ ผลิตภณั ฑ์มวลรวมของ ร้อยล พน้ื ทเ่ี ขตพัฒนาเศรษฐกิจ เขตพฒั นาเศรษฐกิจพเิ ศษ พเิ ศษชายแดนเพิ่มข้นึ ชายแดน (รอ้ ยละต่อป)ี 10,0 2. การลงทุนในเขตพัฒนา มลู ค่าการลงทนุ ในเขต ลา้ นบ เศรษฐกจิ พเิ ศษชายแดน พัฒนาเศรษฐกจิ พิเศษ เพิม่ ข้ึน ชายแดน (ล้านบาท) 1 เม 3. เมืองในพื้นท่เี ขตพัฒนา จานวนเมอื งในเขตพัฒนา (สงข เศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่ เศรษฐกิจพเิ ศษชายแดนที่ ได้รบั การพฒั นาใหเ้ ป็น ได้รบั การพัฒนาใหเ้ ป็น เมืองน่าอยู่มากข้ึน เมืองน่าอยู่ (จานวนเมือง) * เป็นเมอื งศูนยก์ ลางทางเศรษฐกจิ และเมอื งขนาดกลางในแผนแม่บทฯ ประเดน็ พื้นที่และเ

35 LAN INDICATORS ค่ำเปำ้ หมำย – 2565 2566 – 2570 2571 – 2575 2576 - 2580 ยตัว ขยายตวั ขยายตัว ขยายตัว ละ 3.0 รอ้ ยละ 3.0 ร้อยละ 3.0 รอ้ ยละ 3.0 000 10,000 10,000 10,000 บาท ล้านบาท ลา้ นบาท ลา้ นบาท มอื ง 6 เมอื ง - 3 เมอื ง ขลา) (ตาก สระแกว้ (นครพนม นราธวิ าส และ เชียงราย* ตราด) กาญจนบุรี* หนองคาย * มกุ ดาหาร*) เมืองน่าอยู่อจั ฉริยะดว้ ย

36 MOI Mission in SEZ Development ภำรกจิ ของกระทรวงมหำดไทยในเขตพัฒนำเศรษฐกจิ พิเศษ สานักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะฝ่ายเลขานุการของคณะ อนุกรรมการด้านการจัดหาท่ีดินและบริหารจัดการ ซึ่งเป็นคณะอนุกรรมการ ภายใต้คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) ที่มี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นประธานอนุกรรมการ มีอานาจหน้าท่ี ในการพิจารณากาหนดพ้ืนที่ของทางราชการที่สามารถนามาใช้ประโยชน์ ในการพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ และดาเนินการเพ่ือให้ได้มาซ่ึงที่ดิน เพ่ือใชป้ ระโยชน์ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ตามระเบียบและขั้นตอนร่วมกับ ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ได้แก่ กรมท่ีดิน กรมโยธาธิการและผังเมือง การไฟฟ้าส่วนภมู ิภาค และการประปาส่วนภูมิภาค ได้มีการเตรียมความพร้อมด้านผังเมือง ไฟฟ้า ประปา และการจัดทาข้อมูล เพื่อรองรับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซ่ึงท่ีผ่านมาผลการดาเนินงาน ในการจดั หาทีด่ ินของรฐั เพอ่ื นามาใชป้ ระโยชน์ในเขตพฒั นาเศรษฐกิจพิเศษ มคี วามคืบหน้า ดงั นี้ ผลกำรจัดหำที่ดินของรัฐเพ่ือนำมำใช้ประโยชน์ในเขตพัฒนำ เศรษฐกจิ พเิ ศษ การจัดหาทด่ี ินของรัฐเป็นการจัดหาทด่ี ินที่มีอยู่แล้ว จานวนประมาณ 600 - 2,000 กว่าไร่ มาดาเนินการวิเคราะห์และเสนอพ้ืนที่ท่ีเหมาะสมเพื่อ เสนอประกาศเป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ โดยนามาถอนสภาพและ ดาเนินการร่วมกับกระทรวงการคลังในการกาหนดอัตราค่าเช่า/ค่าธรรมเนียม ให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) หรือเอกชนเช่าเพ่ือนาพื้นที่ ไปพัฒนา โดยความคืบหน้าในการจัดหาที่ดิน และการพัฒนาที่ดินใน เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ มีรายละเอียด ดงั นี้

จังหวัด จำนวนพ้นื ที่ แปลงที่ 1 : เอกชนเช่ำ คณะรัฐมนตรีม 1,067-2-27.7 ไร่ กิจการร่วมค้าไอซีบี ตาก อ 1. ตำก ต.ท่าสายลวด อยรู่ ะหวา่ งการรอลงนามสญั อ.แมส่ อด แปลงที่ 2 : กนอ.เช่ำ โดย กนอ. ออกแ 671-2-05 ไร่ ในปี 2564 และจะเสร็จปี 2 แปลงที่ 1 : กนอ.เช่ำ เช่าที่ดินจากกรม 629-1-70 ไร่ โดยคาดวา่ จะแลว้ เสร็จในเด 2. สงขลำ แปลงท่ี 2 : กนอ.เช่ำ กนอ. ออกแบบนิ 298-2-00 ไร่ แก้ไขปญั หาการบุกรุกของร เช่าตอ่ ไป แปลงท่ี 3 : อบจ.สงขลำใช้ประโยชน์ 126-2-38.7 ไร่ ปัจจุบันปรับพ้ืนที่เพื่อก่อสร แล้วเสร็จ โดยจะเรม่ิ กอ่ สร้า

37 หนว่ ยงำนใชป้ ระโยชน์/เช่ำ และกำรพฒั นำในพน้ื ทพ่ี ัฒนำฯ มีมติเม่ือวันที่ 3 มีนาคม 2563 เห็นชอบผลการคัดเลือกให้ อินดัสเทรียล พาร์ค เป็นผู้ได้รับสิทธิพัฒนาพื้นท่ี (ปัจจุบัน ญญา) แบบนิคมฯ และจัดทา EIA แล้วเสร็จ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้าง 2565 มธนารักษ์เมื่อ 8 ส.ค. 2560 และอยู่ระหว่างก่อสร้างนิคมฯ ดือน ต.ค. 2563 คม และจัดทา EIA แล้วเสร็จ ปัจจุบัน จ.สงขลา อยู่ระหว่าง ราษฎรในพืน้ ท่ี ซงึ่ เมือ่ แล้วเสรจ็ กรมธนารกั ษจ์ ะจดั ให้ กนอ. อบจ.สงขลา เช่าท่ีดินจากกรมธนารักษ์ เม่ือ 19 ก.ค. 2560 ร้างศูนย์คมนาคมขนส่งแล้ว และได้ศึกษารูปแบบการลงทุน างในปี 2563 - 2565

จงั หวัด จำนวนพ้ืนที่ แปลงที่ 1 : กรมศุลกำกรใช้ประโยชน์ โ แห่งใหม่ (บ.ป่าไร)่ จะแลว้ เ 3. 525-3-00 ไร่ กนอ.เชำ่ กนอ. เช่าที่ดนิ จา สระแกว้ เสรจ็ และเรมิ่ เปิดดาเนนิ กา แปลงท่ี 2 : มนี กั ลงทนุ เข้าใช้พืน้ ท่แี ลว้ 660-2-23 ไร่ 4. 1081-0-23.1 ไร่ กนพ. มีมติให้กรมธนารักษ มกุ ดำหำร ต.คาอาฮวน ประมูลให้เอกชนลงทุน แ สนบั สนุนให้เกดิ การลงทนุ ใ อ.เมอื งมุกดาหาร 5. 718-0-46 ไร่ กนพ. มีมติให้กรมธนารัก หนองคำย ต.สระใคร เตรียมประมูลให้เอกชนลง อ.สระใคร เพ่อื สนบั สนุนใหเ้ กดิ การลง เอกชนเชำ่ บรษิ ทั พร็อพเพ 895-0-44 ไร่ เมื่อ 23 พ.ย. 2559 ปัจจุบ 6. ตรำด ตลาดการค้าชายแดน แล บรกิ ารการค้าระหวา่ งประเ

38 หน่วยงำนใช้ประโยชน/์ เช่ำ และกำรพัฒนำในพื้นทพ่ี ฒั นำฯ โดยกรมศุลกากรอยู่ระหว่างก่อสร้างด่านศุลกากรอรัญประเทศ เสร็จปี 2563 ากกรมธนารกั ษ์เม่อื 18 ก.พ. 2559 โดยกอ่ สร้างนิคมฯ แล้ว ารเมอ่ื ก.ค. 2562 โดยโรงงานทยอยเปิดดาเนินการปจั จุบัน ษ์ ประกาศให้เอกชนเป็นผู้เช่าพ้ืนที่ โดยอยู่ระหว่างการเตรียม และให้กรมธนารักษ์ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพ่ือ ในทีร่ าชพัสดุ กษ์ ประกาศให้เอกชนเป็นผู้เช่าพ้ืนที่ โดยอยู่ระหว่างการ งทุน และให้กรมธนารักษ์ประสานกับหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง งทุนในทร่ี าชพสั ดุ พอรต์ ี้ เพอรเ์ ฟค จากดั (มหาชน) เชา่ ทดี่ นิ จากกรมธนารักษ์ บัน อยู่ระหว่างการปรับแผนการดาเนินงานเพื่อก่อสร้าง ละพัฒนาเป็นเมืองศูนย์กลางการท่องเท่ียวนานาชาติและ เทศครบวงจร

จังหวดั จำนวนพน้ื ที่ 7. 1,335-2-28.10 เอกชนเช่ำ ไดผ้ ู้ลงทนุ คอื นครพนม ไร่ จากกรมธนารักษ์ เมื่อ 15 ส่งเสริมกิจกรรมท่องเท่ียว ต.อาจสามารถ OTOP และอตุ สาหกรรมท อ.เมือง นครพนม 8. 2,979-0-72 ไร่ เอกชนเช่ำ บริษัท พร้อมเพ ต.บา้ นเกา่ 13 พ.ย. 2561 ปัจจุบัน อ กำญจนบุรี อ.เมือง ราษฎรครอบครองใช้ประโ กาญจนบุรี พาณชิ ยกรรมและโลจิสตกิ ส

39 หน่วยงำนใชป้ ระโยชน์/เชำ่ และกำรพัฒนำในพ้ืนทพ่ี ฒั นำฯ บรษิ ทั เจซเี ค อินเตอร์เนช่ันแนล จากดั (ลงนามสญั ญาเช่า 5 ก.ค. 2562) โดยบริษัทเตรียมเข้าใช้พ้ืนท่ี เพื่อจะพัฒนา วเชิงวัฒนธรรม พาณิชยกรรม ศูนย์กระจายสินค้า SMEs ทว่ั ไป พรียงชัย ก่อสร้าง จากัด เช่าที่ดินจากกรมธนารักษ์ เม่ือวันท่ี อยู่ระหว่างเตรียมการให้บริษัทเข้าใช้พ้ืนที่ (เนื่องจากยังมี โยชน์) โดยจะมีการพัฒนาโครงการลงทุนด้านอุตสาหกรรม ส์

9. จังหวัดเชยี งรำย คณะอนุกรรมการด้านการจัดหาท่ีดนิ และบริหารจัด โดยเห็นควรให้ส่งเสริม/สนับสนุนตามมาตรการส่งเสริมก ผังเมืองแทนการจัดหาที่ดนิ 10. จังหวัดนรำธิวำส ศูนย์อานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ การจัดทาแผนแม่บทเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนราธิว การสนับสนุนงบประมาณจากสานักงบประมาณ

40 ดการให้ยกเลิกการจัดหาที่ดินของรัฐเพ่ือใช้เป็นพื้นที่พัฒนา ารลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ และมาตรการทาง จังหวัดนราธิวาส และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่าง วาส พร้อมรายละเอียดการจัดซื้อท่ีดินเพื่อเสนอขอรับ

41 (2) กำรจัดตั้งศูนย์บริกำรเบ็ดเสร็จด้ำนกำรลงทุน (One Stop Service : OSS) คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) ไดเ้ หน็ ชอบ ให้ศูนย์ดารงธรรมจังหวัดเป็นที่ตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เป็นหน่วยงาน อานวยความสะดวกเก่ียวกับข้อมูลเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษในระดับพ้ืนที่ ท้ังน้ี เพื่อให้การขับเคล่ือนนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษในระดับพื้นท่ีมี ประสิทธิภาพมากย่ิงขึ้น ในวันท่ี 27 พฤษภาคม 2558 รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงมหาดไทยจึงได้มอบนโยบายให้ศูนย์ดารงธรรมจังหวัด ทั้ง 76 จังหวัด เป็นหน่วยงานอานวยความสะดวกเกี่ยวกับข้อมูลเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ในระดับพื้นที่ เพ่ือทาหน้าที่ในการให้ข้อมูลให้คาปรึกษา และอานวยความ สะดวกแก่ นักลงทุนและผู้ประกอบการ รวมทั้งให้บริการข้ึนทะเบียน SMEs โดยแบ่งจังหวัดออกเปน็ 2 กล่มุ ได้แก่ 1) จงั หวัดทเ่ี ปน็ พ้ืนทเี่ ขตพฒั นาเศรษฐกจิ พิเศษ 10 จังหวัด ใหท้ าหน้าท่ี ให้บริการใน 3 ลักษณะ ดังนี้ (1) ใหข้ ้อมลู คาแนะนา และคาปรกึ ษาในการลงทุน (2) การรบั เรื่อง สง่ ต่อ และตดิ ตามการรับคาขอต่างๆ (3) การอนุมัติ อนุญาต วิเคราะห์เรื่องเพื่อประสานการดาเนินการกับ ส่วนราชการ และการนัดหมายหนว่ ยงานท่ีเกย่ี วข้องในการให้ข้อมูล 2) จังหวัดท่ีไม่ได้เป็นพื้นท่ีเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ให้ทาหน้าที่ให้ ข้อมูลการค้า การลงทุน คาปรึกษา วิเคราะห์เรื่อง ประสานการดาเนินการ และ ประสานการนัดหมายหนว่ ยงานที่เกี่ยวข้องในการใหข้ ้อมลู ภายใน 7 วัน

42 รูปแบบกำรให้บริกำรของศนู ย์บรกิ ำรเบด็ เสรจ็ ด้ำนกำรลงทุน (OSS) ในพน้ื ที่เขตพัฒนำเศรษฐกิจพิเศษ ศนู ย์บริกำรเบ็ดเสร็จดำ้ นกำรลงทนุ (OSS) มีกำรให้บริกำรใน 3 ลักษณะ ดังนี้ 1) การให้ข้อมูล คาแนะนา และคาปรึกษา 2) การรบั เรอื่ ง ส่งต่อ และตดิ ตาม 3) การอนมุ ัติ การอนุญาต เฉพาะทด่ี าเนินการแบบเบ็ดเสร็จ โดยเจ้าหนา้ ทป่ี ระจาศนู ย์ กำรให้ขอ้ มูลและคำแนะนำแกน่ กั ลงทุน ประกอบด้วย  คาปรกึ ษาเก่ยี วกบั การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษทั จากดั และการประกอบธรุ กิจของคนต่างด้าว  คาปรกึ ษาเกี่ยวกบั พิธกี ารศุลกากร  คาแนะนาการขอติดตั้งนา้ ประปา ไฟฟา้ ในพืน้ ที่  คาแนะนาในการจัดหาพน้ื ท่ีก่อสรา้ งโรงงานในพนื้ ท่ี  คาแนะนาในการจดทะเบียนแรงงานตา่ งด้าวไรฝ้ ีมอื  คาแนะนาเก่ยี วกบั การยืน่ แบบคาขอออนไลน์ของหนว่ ยงาน ทเ่ี กย่ี วข้องในการประกอบธุรกิจ กำรรบั เรอ่ื ง ส่งต่อ และติดตำม ที่ รับเร่อื ง ส่งต่อ และตดิ ตำม หน่วยงำน 1. รับคาขอใบอนุญาตการประกอบธรุ กจิ ของ กรมพฒั นาธุรกิจการค้า คนต่างด้าวตามมาตรา 1 และรับคาขอ หนังสือการประกอบธรุ กจิ ของคนต่างดา้ ว ตามมาตรา 11 และมาตรา 12 เพ่ือส่งให้ สานักบริหารการประกอบธุรกจิ ของคน ตา่ งดา้ ว