Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานการฝึกโครงการพัฒนาทักษะวิชาชีพ-สุธาทิพย์ 20

รายงานการฝึกโครงการพัฒนาทักษะวิชาชีพ-สุธาทิพย์ 20

Published by Sutatip Kaonak, 2020-04-12 09:39:37

Description: รายงานการฝึกโครงการพัฒนาทักษะวิชาชีพ-สุธาทิพย์ 20

Search

Read the Text Version

1 บทที่ 1 ส่ วนนาโครงการ 1.1 ความเป็ นมาและความสาคญั ของการฝึ กโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ ปัจจุบนั โรคหืดเป็ นโรคท่ีพบบ่อยและมีอุบตั ิการณ์เพิ่มข้ึน ทว่ั โลกประเทศไทยพบอุบตั ิการณ์ของโรคหืด ถึง 10-12% ในเดก็ และ 6.9% ในผใู้ หญ่ โรคหืดเป็นโรคเร้ือรังท่ีมีผลกระทบต่อผปู้ ่ วยค่อนขา้ งสูง จากการ สารวจพบวา่ ผปู้ ่ วยโรคหืดมากกวา่ คร่ึงไม่สามารถทากิจกรรมไดเ้ ช่นคนปกติ ผปู้ ่ วยโรคหืด 21.7% ยงั ตอ้ งเขา้ รับการรักษาดว้ ยอาการหอบรุนแรงที่หอ้ งฉุกเฉินอยา่ งนอ้ ยหน่ึงคร้ังในระยะเวลาหน่ึงปี ท่ีผา่ นมา และ 14.8% ตอ้ งเขา้ นอนรับการรักษาในโรงพยาบาล จากขอ้ มูลของกระทรวงสาธารณสุขพบวา่ จานวนผปู้ ่ วย ที่เขา้ นอนรับการรักษาในโรงพยาบาลเนื่องจากโรคหืดก็เพิ่มข้ึนทุกปี นบั ต้งั แต่ 66,679 คนในปี พ.ศ. 2538 เป็น 102,245 คนในปี พ.ศ.2545 (ตารางที่1) และมีผเู้ สียชิวติ ดว้ ยโรคหืด 806 คนในปี พ.ศ. 2540 เพ่มิ เป็น 1697 คนในปี พ.ศ.2546 (ตารางที่2) และคาดวา่ มีผปู้ ่ วยโรคท่ีมีอาการหอบรุนแรงจนตอ้ ง ไปรับการรักษาที่หอ้ งฉุกเฉินไม่ต่ากวา่ ปี ละ 1 ลา้ นคน จากสถานการณ์และความสาคญั ดงั กล่าวนางสาวสุธาทิพย์ ขาวนาค นักศึกษาช้ันปี ที่2 หลกั สูตร ฉุกเฉินการแพทย์ รุ่นที่ 15 เล็งเห็นว่าประชาชนหมู่ท่ี2 ตาบลน้าตก อาเภอทุ่งสง จงั หวดั นครศรีธรรมราช มี ความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหอบหืด จึงเห็นความสาคญั ในสุขภาพอนามยั ของประชาชนและเพ่ือให้ทนั สถานการณ์ ในปัจจุบนั เพ่ือเป็ นการป้องกนั ควบคุม แกไ้ ขปัญหาโรคหอบหืด จึงไดจ้ ดั ทาโครงการเสริมสร้างให้ความรู้ และป้องกนั โรคหอบข้ึน 1.2 วตั ถุประสงค์ 1.2.1 เพื่อใหป้ ระชาชนที่มีความเสี่ยงเขา้ ร่วมกิจกรรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ 1.2.2 เพ่อื เป็ นการป้องกนั เฝ้าระวงั และควบคุมการระบาดของโรคหอบหืด 1.2.3 เพือ่ จะทาใหผ้ ปู้ ่ วยโรคหืดจะมีคุณภาพชีวติ ที่ดีข้ึน

2 1.3 กระบวนการเตรียมฝึ กโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ 1.3.1 กรอบแนวคิดการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ การฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ ปัญหาดา้ นสุขภาพในชุมชนหมู่บา้ นวงั ธน หมู่ท่ี2 ตาบลน้าตก อาเภอทุ่งสง จงั หวดั นครศรีธรรมราช ภาพที่ 1.1 กรอบแนวคิดการเตรียมฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ

3 บทท่ี 2 บริบทชุมชน เคร่ืองมือ 7 ชิ้น เครื่องมือ 7 ชิ้น เป็นเคร่ืองมือท่ีใชใ้ นการเขา้ ถึงพ้นื ที่ของชุมชน และบ่งบอกถึงความสาคญั ของกลุ่ม ผคู้ นวา่ มีความผกู พนั ธุ์ในวงศส์ กลุ เดียวกนั สามารถช่วยแนะนาปัญหาบางอยา่ งของครอบครัวท่ีสามารถเกิดข้ึน ไดแ้ ละยงั ทาใหร้ ู้จกั กลุ่มงานต่างๆ ในชุมชน สามารถเขา้ หาชุมชนไดง้ ่ายข้ึน ไดเ้ รียนรู้การรักษาตนเองของคน ในชุมชน เขา้ ใจวถิ ีชีวิตของคนในชุมชนและท่ีสาคญั เป็ นเคร่ืองมือท่ีใชเ้ ป็ นใบเบิกทางเพื่อการกลมกลืนเขา้ หา กบั ชุมชนน้นั 1. แผนทเ่ี ดนิ ดนิ

4 2. ผงั เครือญาติ ผงั เครือญาติ คือ การถอดความสัมพนั ธ์ในเชิงเครือญาติ หรือเชิงสานเลือดในชุมชน มีความสาคญั ต่อ การทาความเขา้ ใจชุมชนและสังคม ไม่วา่ จะเป็ นสังคมเมืองหรือสังคมชนบท เพราะเครือญาติเป็ นความสาคญั ที่เป็ นรากฐานท่ีสุดของชีวิตครอบครัว การทาผงั เครือญาติจึงมีส่วนสาคัญในการทาความเข้าใจระบบ ความสาคญั ในครอบครัวและชุมชน เป้าหมายสาคัญของผงั เครือญาติ 1.เขา้ ใจโครงสร้างความสมั พนั ธ์เชิงเครือญาติซ่ึงเป็นรากฐานของครอบครัวและชุมชน 2.รู้จกั ตวั บุคคลและความสัมพนั ธ์ทางสังคมของทา่ นน้นั ไดใ้ นระยะเวลาส้ัน 3.ช่วยสร้างความสัมพนั ธ์และความสนิทสนมคุน้ เคยระหว่างเจา้ หน้าท่ีกบั ชาวบา้ นไดอ้ ย่างรวดเร็วและเกิด ความไวใ้ จซ่ึงกนั และกนั 4.ทาใหท้ ราบเกี่ยวกบั สุขภาพหรือโรคติดต่อของคนในครอบครัว เพอ่ื ป้องกนั และแกไ้ ขปัญหาสุขภาพน้นั ๆได้ สัญลกั ษณ์แทนบุคคลในผงั เครือญาติ สญั ลกั ษณ์แทนบุคคลท่ีเสียชีวติ แลว้ สัญลกั ษณ์แทนผชู้ าย สัญลกั ษณ์แทนผหู้ ญิง สญั ลกั ษณ์แทนการแต่งงาน

นายเฉียว ทองชู นายสมทรง กองเงิน แผนผงั เค นางศรีวรรณ กอง นางสมจติ ต์ กองเงิน เงิน นางแคลว้ ล นางสาวพชั ราวดี ทองชู นางภรธิรัช กอง นางสาวองั คณา กองเงิน นายอาทติ ย์ กองเงิน นายอนริ ุจน์ กองเงิน

ครือญาติ 5 ละอองแกว้ นายสทุ น ขาวนาค นายวชิ ยั รอดบตุ ร นางแสงงระวี ขาวนาค นางมาลี ลหี ล้าน้อย งเงิน นางสาวสธุ าทพิ ย์ ขาวนาค นายสทุ ธิพงษ์ ขาวนาค ด.ญ.ญาณิศา รอดบตุ ร ด.ช.ปัณทตั รอดบตุ ร

6 3.โครงสร้างองค์กรชุมชน รายชื่อประธานและอาสาสมคั รชุมชน นายคเณศ หนูอินทร์แกว้ ประธาน นายไสว วสิ ุทธยารัตน์ นางแสงระวี ขาวนาค รองประธาน สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข มีชยั หนูอินทร์แกว้ รองประธาน

7 กล่มุ สตรี นางศรีวรรณ กองเงิน หัวหน้ากล่มุ สตรี คณะกรรมการพฒั นาสตรีเป็นกลุ่มเป้าหมายในการดาเนินการขบั เคล่ือนการดาเนินงานจดั ประชุมสตรี ในหมู่บา้ นเพ่ือแนะนาการจดั ทาครอบครัวพฒั นาตามคุณลกั ษณะท่ีกาหนดร่วมกบั ครอบครัวเป้าหมายที่เขา้ ร่วมโครงการวางแผนการพฒั นาประสานองคก์ รหน่วยงานที่เก่ียวขอ้ งเพอื่ ร่วมส่งเสริมและพฒั นาครอบครัว กล่มุ ผู้สูงอายุ นางสุมลุ ฑา วงศ์แก้ว หัวหน้ากล่มุ ผู้สูงอายุ ชมรมผสู้ ูงอายเุ ป็นการรวมกลุ่มของผสู้ ูงอายทุ ี่มีอายเุ กิน ๖๐ ปี ข้ึนไปอยา่ งนอ้ ย ๒๐ คนและอาจมีคนวยั อื่น ท้งั วยั ทางาน เด็ก เยาวชน เขา้ ร่วมเป็นสมาชิกสมทบ แต่ไม่ควรเกิน ๑ ใน 4 ของสมาชิกท่ีเป็ นวยั สูงอายุโดย มีวตั ถุประสงค์ตรงกนั ในการดาเนินกิจกรรมท่ีเป็ นประโยชน์ท้งั ต่อตนเองครอบครัว ชุมชนสังคมและ มีการ กาหนดระเบียบขอ้ บงั คบั ในการบริหารชมรม ท้งั น้ี ชมรมผูส้ ูงอายุอาจอยู่ภายใตส้ ังกดั หน่วยงานองคก์ รหรือ อาจเป็นชมรมอิสระที่ไมส่ ังกดั หน่วยงานใดก็ได้

4.ระบบสุขภาพ คลนี ิค ระบบสุขภาพชุมช ตาบลน้าตก อ คลีนิค นครศ หมอสาวคลีนิค

8 วดั ถ้าพระพทุ ธ ศาสนา ชน หมูบ่ า้ นวงั ธน หมูท่ ่ี2 อาเภอทุ่งสง จงั หวดั ศรีธรรมราช สถานทอ่ี อกกาลงั กาย สนามวอลเลยบ์ อล

9 5. ปฏทิ นิ ชุมชน กมุ ภาพนั ธ์ มนี าคม เมษายน มถิ ุนายน มกราคม -แขง่ กีฬาประจาตาบล -กิจกรรมวนั สงกรานต์ -วนั ข้ึนปี ใหม่ -รดน้าดาหวั ผใู้ หญ่ - กิจกรรมวนั เด็ก แห่งชาติ กรกฎาคม สิงหาคม พฤษภาคม กนั ยายน ตุลาคม พฤศจกิ ายน ธนั ยาคม -ลอยกระทง -วนั สิ้นปี -บุญสารทเดือนสิบ -ประเพณีชกั พระ กจิ กรรมภายในแต่ละเดือน เดือน กจิ กรรม มกราคม -กิจกรรมวนั ข้ึนปี ใหม่ - กิจกรรมวนั เด็กแห่งชาติ มนี าคม -แข่งกีฬาประจาตาบล เมษายน -วนั สงกรานต์ กนั ยายน -รดน้าดาหวั ผใู้ หญ่ ตุลาคม -บุญสารทเดือนสิบ พฤศจิกายน ธันวาคม -ประเพณีชกั พระ -ลอยกระทง -วนั สิ้นปี

10 6. ประวตั ิศาสตร์ชุมชน ประวตั คิ วามเป็ นมา ตามท่ีเล่าต่อ ๆ กนั มาน้นั ต.น้าตก ต้งั มาจากชื่อน้าที่ตกมาจากท่ีสูงจากหนา้ ผาที่มีความกวา้ งและสูง ในอดีต น้าตกแห่งน้ีเป็นน้าตกที่มีปริมาณน้าท่ีมาก ชาวบา้ นในอดีตจึงไดใ้ ชช้ ่ือน้าตกแห่งน้ีเป็ นชื่อตาบลท่ีใชเ้ รียกกนั มาจนถึงปัจจุบนั ในปัจจุบนั น้าตกน้ีชาวบา้ นไดต้ ้งั ชื่อเรียกวา่ น้าตกธารทิพย์ ซ่ึงต้งั อยหู่ มูท่ ี่ 3 ต.น้าตก พืน้ ที่ -ตาบล.น้าตกเป็ นตาบลท่ีมีลกั ษณะภูมิประเทศเป็นท่ีราบเชิงภูเขามีเทือกเขาเป็นแนวก้นั เขต เป็ นตาบลท่ีมี ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทางธรรมชาติ เหมาะแก่การเพาะปลูก -ลกั ษณะภูมิประเทศดงั กล่าว ทาใหร้ าษฎรที่อาศยั อยใู่ นพ้นื ที่ประกอบอาชีพทาสวนยาง และสวนผลไมเ้ ป็น อาชีพหลกั นอกจากทาสวนแลว้ ชาวบา้ นบางส่วนยงั ไดท้ าหตั ถกรรม และคา้ ขายเป็นอาชีพเสริม การคมนาคม มีถนนสายบ่อลอ้ - ลาทบั ตดั ผา่ น พ้ืนท่ีหมูท่ ่ี 1, 3 และ 5 การปกครอง ต.น้าตกแบ่งการปกครองออกเป็ น 6 หมูบ่ า้ น และในปี 2540 ไดย้ กฐานะจากสภาตาบลเป็น อบต.น้าตก เขตพืน้ ท่ี ทศิ เหนือ ติด ติดกบั ตาบลท่ีวงั อาเภอทุง่ สง จงั หวดั นครศรีธรรมราช ทศิ ใต้ ติด ตาบลในเตา อาเภอหว้ ยยอด จงั หวดั นครศรีธรรมราช ทศิ ตะวนั ออก ติด ตาบลสามตาบล อาเภอจุฬาภรณ์ ตาบลควนหนองหงษ์ และตาบลเขาพระทอง อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช ทศิ ตะวนั ตก ติด ตาบลกะปาง จงั หวดั นครศรีธรรมราช และตาบลหนองบวั อาเภอรัษฎา จงั หวดั ตรัง อาชีพ อาชีพหลกั ประกอบอาชีพทานาและทาสวน ทาไร่ อาชีพเสริม คา้ ขาย

11 สาธารณูปโภค - ราษฎรมีไฟฟ้าใชเ้ กือบทุกครัวเรือน - มีโทรศพั ทส์ าธารณะ จานวน 10 แห่ง - มีประปาใชป้ ระมาณ 60 ครัวเรือน การเดินทาง เส้นทางคมนาคมในตาบลบา้ นวงั ธน คือ 1. มีถนนคอนกรีต การสัญจรไปมาสะดวก 2. จาก อ.ทุง่ สงใชเ้ ส้นทางถนนสาย ทุง่ สง - หว้ ยยอด ถึงสี่แยกกะปางเล้ียวซา้ ยเขา้ ถนนสายบอ่ ลอ้ - ลา ทบั ถึงสามแยกบา้ นมะขาม เล้ียวซา้ ย อบต.น้าตก ต้งั อยดู่ า้ นขวา รวมระยะทาง 32 กม. จาก อ.ทุ่งสง

12 7.ประวตั ิบุคคลสาคญั 1. ประวตั ิชีวติ นายคเณศ หนูอินทร์แกว้ (ประธานชุมชนหมู่ที่ 2 ณ ปัจจุบนั ) ข้อมูลทวั่ ไป ชื่อ นายายคเณศ หนูอินทร์แกว้ (ประธานชุมชนหมู่ที่ 2 ณ ปัจจุบนั ) เกิดเม่ือวนั ท่ี 19 มีนาคม พ.ศ. 2516 ปัจจุบนั อายุ 47 ปี สัญชาติ ไทย ศาสนา พุทธ ที่อยอู่ าศยั บา้ นเลขท่ี 98 หมูท่ ่ี2 ต.น้าตก อ.ทุง่ สง จ.นครศรีธรรมราช มีพนี่ อ้ งท้งั หมด 2 คน ตนเป็ นบุตรคนท่ี 2 ไม่มีโรคประจาตวั ประวตั ิด้านการศึกษา -ปริญญาตรี ประวตั ดิ ้านการทางาน “ ดารงตาแหน่งประธานชุมชนหมู่ท่ี 2 ต้งั แต่ปี พ.ศ. 2553” เป็นตน้ ไป

13 2. ประวตั ิชีวติ นางแสงระวี ขาวนาค (สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข) ข้อมูลทวั่ ไป ชื่อ นางแสงระวี ขาวนาค (สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข) เกิดเม่ือวนั ท่ี 26 กนั ยายน พ.ศ. 2513 ปัจจุบนั อายุ 49 ปี สัญชาติ ไทย ศาสนา พทุ ธ ท่ีอยอู่ าศยั บา้ นเลขที่ 69 หมู่ที่2 ต.น้าตก อ.ทุง่ สง จ.นครศรีธรรมราช มีพน่ี อ้ งท้งั หมด 8 คน ตนเป็ นบุตรคนท่ี 4 ไมม่ ีโรคประจาตวั ประวตั ิด้านการศึกษา - จบช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 6 จากโรงเรียนบา้ นวดั ถ้าพระพุทธ อาเภอทุ่งสง จงั หวดั นครศรีธรรมราช - จบช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 6 กศน.น้าตก ประวตั ิด้านการทางาน สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข

14 บทที่ 3 การวนิ ิจฉัยชุมชน การศึกษาชุมชนหมู่บา้ นวงั ธน หมูท่ ่ี2 ตาบลน้าตก อาเภอทุง่ สง จงั หวดั นครศรีธรรมราช ในคร้ังน้ีเป็น การศึกษา ในรูปแบบ การสารวจ สังเกต การสัมภาษณ์ ซ่ึงมีข้นั ตอนในการวนิ ิจฉยั ชุมชนมีดงั น้ี 2.1 การเก็บรวบรวมขอ้ มูล 2.2 การวเิ คราะห์ขอ้ มูล 2.3 ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มูล 2.4 ปัญหาและการจดั ลาดบั ความสาคญั ของปัญหา 2.5 การวเิ คราะห์สาเหตุของปัญหา 3.1 การเกบ็ รวบรวมข้อมูล 3.1.1 การรวบรวมขอ้ มูลปฐมภูมิ เป็นการเกบ็ ขอ้ มูลเพิม่ เติมจากแหล่งทุติยภูมิ ซ่ึงขอ้ มูลดงั กล่าวมี ความสาคญั มาก เพราะช่วยใหม้ องเห็นสภาพปัญหาในชุมชนชดั เจนข้ึน และขอ้ มูลที่ไดเ้ ป็นขอ้ มูลปัจจุบนั มาก ท่ีสุด วธิ ีการเก็บรวบรวมขอ้ มูลปฐมภูมิประกอบดว้ ย 3.1.1.1 การสงั เกต เป็นการสงั เกตสภาพทวั่ ไปของชุมชนและพฤติกรรมตา่ งๆ ของประชาชนใน ชุมชน โดยที่ผถู้ ูกสังเกตไม่รู้ตวั เพือ่ นาขอ้ มูลมาสนบั สนุนในการวเิ คราะห์ปัญหา 3.1.1.2 การสมั ภาษณ์ เป็นการสมั ภาษณ์จากแบบสอบถามที่เตรียมคาถามต่างๆ ไวพ้ ร้อมแลว้ และ จดั พิมพไ์ วเ้ ป็นแบบฟอร์มเดียวกนั สาหรับใชก้ บั ผถู้ ูกสอบถามทุกคน โดยคาถามจะเป็ นท้งั คาถามแบบปลาย ปิ ดและแบบปลายเปิ ด เพือ่ เปิ ดโอกาสใหผ้ ถู้ ูกสมั ภาษณ์แสดงความคิดเห็น 3.1.2 การรวบรวมขอ้ มูลทุติยภูมิ เป็นการรวบรวมขอ้ มูลทุติยภูมิ หรือขอ้ มูลที่รวบรวมไวเ้ ป็ นองคก์ รใน หมูบ่ า้ น ซ่ึงขอ้ มูลดงั กล่าวน้นั ทาใหท้ ราบวา่ ควรหาขอ้ มูลดา้ นใดเพิ่มเติม เพ่ือนามาใชใ้ นการสนบั สนุนใน กระบวนการคิดวเิ คราะห์ปัญหา การเกบ็ รวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามแบ่งออกเป็ น 5 ข้นั ตอน ดงั นี้ ตอนที่ 1 ขอ้ มูลทว่ั ไป ตอนที่ 2 ขอ้ มูลความรู้เกี่ยวกบั โรคหอบหืด ตอนท่ี 3 ขอ้ มูลดา้ นสุขภาพในชุมชน ตอนท่ี 4 ขอ้ มูลความรู้เก่ียวกบั โรค ตอนท่ี 5 ขอ้ มูลความรู้เก่ียวกบั การดูแลสุขภาพเบ้ืองตน้

15 3.2 การวเิ คราะห์ข้อมูล ขอ้ มูลที่ไดจ้ ากการรวบรวมน้นั จะนามาวเิ คราะห์ตามข้นั ตอนการวเิ คราะห์ขอ้ มูล ดงั น้ี 3.2.1 บรรณาธิการขอ้ มูลดิบเป็นการตรวจสอบความถูกตอ้ งและความสมบูรณ์ของขอ้ มูล 3.2.2 การแจกแจงความถ่ี โดยใชโ้ ปรแกรมสาเร็จรูป แลว้ นามาวเิ คราะห์ขอ้ มูลในรูปแบบ ร้อยละ และ นาเสนอในรูปแบบก่ึงบทความ ก่ึงตารางเพ่ือความสะดวก การเปรียบเทียบขอ้ มูลสาหรับขอ้ มูลเชิงปริมาณ 3.2.3 การสรุปขอ้ มูลเชิงปริมาณคุณภาพ นาเสนอในรูปแบบบทความ เพอ่ื ความเขา้ ใจ 3.3 ผลการวเิ คราะห์ข้อมูล จากการศึกษาชุมชนหมูบ่ า้ นวงั ธน หมู่ท่ี2 ตาบลน้าตก อาเภอทุ่งสง จงั หวดั นครศรีธรรมราช จานวน ครัวเรือนโดยประมาณ 10 หลงั คาเรือน ไดร้ วบรวมขอ้ มูลจากรายงานต่างๆ จากสานกั งานกระทรวง สาธารณสุข จงั หวดั นครศรีธรรมราชและอาสาสมคั รสาธารณสุขประจาหมู่บา้ นในชุมชน ซ่ึงจะนาเสนอ ตามลาดบั ดงั ต่อไปน้ี 3.3.1 ขอ้ มูลทวั่ ไป จากการสารวจแบบสอบถามประชาชนในชุมชน หมู่บา้ นวงั ธน หมูท่ ี่2 ตาบลน้าตก อาเภอทุง่ สง จงั หวดั นครศรีธรรมราช ทาใหท้ ราบถึงบริบทของชุมชน และปัญหาดา้ นสุขภาพ ตางรางที่ 1 แสดงค่าร้อยละของสถานภาพทวั่ ไปของผู้ตอบแบบสอบถามในด้านเพศ N=10 เพศ จานวน ร้อยละ ชาย 3 30 หญิง 7 70 รวม 10 100 จากตางรางที่ 1 พบวา่ สถานภาพทว่ั ไปของผตู้ อบแบบสอบถามเป็นเพศหญิงร้อยละ 70 ผตู้ อบ แบบสอบถามเพศชายร้อยละ 30 สรุปไดว้ า่ คนในชุมชน สวนใหญ่เป็ นเพศหญิงมากกวา่ เพศชาย

16 ตางรางท่ี 2 แสดงค่าร้อยละของสถานภาพทวั่ ไปของผู้ตอบแบบสอบถามในด้านอายุ N=10 อายุ จานวน ร้อยละ ต่ากวา่ 20ปี 1 10 20-30ปี 1 10 31-40ปี 1 10 41-50ปี 4 40 51-60ปี 1 10 60ปี ข้ึนไป 2 20 รวม 10 100 จากตางรางที่ 2 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามในดา้ นอายสุ ่วนใหญ่อยใู่ นช่วง41-50ปี ร้อยละ40 รองลงมา อาย6ุ 0ปี ข้ึนไป ร้อยละ20 สรุปไดว้ า่ คนในชุมชนส่วนใหญ่อายุ41-50ปี ตางรางที่ 3 แสดงคา่ ร้อยละของสถานภาพทว่ั ไปของผตู้ อบแบบสอบถามในดา้ นสถานภาพ N=10 สถานภาพ จานวน ร้อยละ โสด 3 30 สมรส 7 70 หยา่ 0 0 รวม 10 100 จากตารางที่ 3 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามดา้ นสถานภาพโสด ร้อยละ 30 สถานภาพสมรส ร้อยละ 70 สรุปไดว้ า่ ประชากรในชุมชนส่วนใหญท่ ี่ทาแบบสอบถามมีสถานภาพสมรสเป็นส่วนใหญ่

17 ตารางที่ 4 แสดงค่าร้อยละของสถานภาพทว่ั ไปของผู้ตอบแบบสอบถามในด้านระดบั การศึกษาสูงสุด N=10 ระดบั การศึกษาสูงสุด จานวน ร้อยละ 0 0 ต่ากวา่ ประถมศึกษา 3 30 0 0 ประถมศึกษา 4 40 0 0 มธั ยมศึกษาตอนตน้ (ม.1-ม.3) 0 0 มธั ยมศึกษาตอนปลาย (ม.4-ม.6) ประกาศนียบตั รวชิ าชีพ(ปวช.) หรือเทียบเทา่ ประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สูง (ปวส.) หรือ เทียบเท่า ปริญญาตรี 1 10 ปริญญาโท 2 20 ปริญญาเอก 0 0 รวม 10 10 จากตารางท่ี 4 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามในดา้ นการศึกษามธั ยมศึกษาตอนปลาย (ม.4-ม.6) ร้อยละ 40 รองลงมาระดบั ประถมศึกษา ร้อยละ 30 และระดบั ปริญญาโท ร้อยละ 20 ตามลาดบั สรุปไดว้ า่ ประชากร ในชุมชนส่วนใหญ่ท่ีทาแบบสอบถามมีระดบั การศึกษามธั ยมศึกษาตอนปลาย (ม.4-ม.6) มากที่สุด

18 ตารางท่ี 5 แสดงค่าร้อยละของสถานภาพทวั่ ไปของผ้ตู อบแบบสอบถามในด้านอาชีพหลกั ของครอบครัว N=10 อาชีพหลกั ของครอบครัว จานวน ร้อยละ รับจา้ งทวั่ ไป 0 0 5 50 เกษตรกร/ทานา/ทาไร่/ทาสวน 3 30 ขา้ ราชการ/ลูกจา้ งหรือพนกั งาน 1 10 ของรัฐ 1 10 0 0 คา้ ขาย/ธุรกิจ 10 100 วา่ งงาน/ไมม่ ีงานทา อ่ืนๆ รวม จากตารางท่ี 5 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามในดา้ นอาชีพหลกั ของครอบครัวทาอาชีพเกษตรกรมาก ท่ีสุด ร้อยละ 50 รองลงมาคือ อาชีพขา้ ราชการ/ลูกจา้ งหรือพนกั งานของรัฐร้อยละ 30, อาชีพคา้ ขาย/ธุรกิจ ส่วนตวั ร้อยละ 10, อาชีพวา่ งงาน/ไมม่ ีงานทาร้อยละ 10 สรุปไดว้ า่ ประชากรส่วนในชุมชนส่วนใหญ่ท่ีทา แบบสอบถามอาชีพหลกั ของครอบครัวคือ อาชีพเกษตรกร ตารางท่ี 6 แสดงค่าร้อยละของสถานภาพทว่ั ไปของผู้ตอบแบบสอบถามในด้านโรคประจาตวั N=10 โรคประจาตวั จานวน ร้อยละ ไมม่ ีโรคประจาตวั 8 80 มีโรคประจาตวั 2 20 10 100 รวม

19 จากตารางที่ 6 พบว่า ผตู้ อบแบบสอบถามในดา้ นโรคประจาตวั เป็ นผทู้ ่ีไม่มีโรคประจาตวั ร้อยละ 80 รองลงมาเป็ นผูท้ ี่มีโรคประจาตวั ร้อยละ 20 สรุปไดว้ า่ ประชากรในชุมชนส่วนใหญ่ที่ทาแบบสอบถามไม่มี โรคประจาตวั ตางรางที่ 7 แบบสอบถามข้อมูลสภาพปัญหาของประชาชนด้านเศรษฐกจิ ระดับปัญหา ปัญหาด้านเศรษฐกจิ มากทส่ี ุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยทสี่ ุด รายไดจ้ ากการประกอบอาชีพหลกั ไมเ่ พียงพอ (5) (4) (3) (2) (1) 32 3 1 0 ไมม่ ีอาชีพเสริม 23 4 2 0 กูเ้ งินจากหน้ีระบบเพิ่มข้ึน 24 5 1 0 ครัวเรือนมีรายไดไ้ ม่เพียงพอในการใชจ้ า่ ย 55 1 2 0 ประจาเดือน ผลผลิตทางการเกษตรตกต่า/ขาดทุน 13 4 2 0 การวา่ งงานของคนในชุมชนเพม่ิ ข้ึน 14 3 2 10 ขาดท่ีดินทากินเป็ นของตนเอง 24 3 1 0 ภยั แลง้ ซ้าซาก 23 2 1 2 การเล่นการพนนั ในชุมชน 32 1 2 0 ขาดความรู้เก่ียวกบั เศรษฐกิจพอเพียง 02 3 2 1 จากตารางที่ 7 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามขอ้ มูลสภาพปัญหาของประชาชนดา้ นเศรษฐกิจ สรุปไดว้ า่ ปัญหาทางดา้ นเศรษฐกิจ มีค่าเฉลี่ยเลขคณิตสูงที่สุด คือ 2.22 และมีค่าเบี่ยงเบนเลขมาตรฐานอยทู่ ี่ 0.79

20 ตารางที่ 8 แบบสอบถามข้อมูลสภาพปัญหาของประชาชนด้านสังคม ระดับปัญหา ปัญหาด้านสังคม มากทส่ี ุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยทส่ี ุด ยาเสพติดระบาดในชุมชนเพิ่มข้ึน (5) (4) (3) (2) (1) 25 2 1 0 กลุ่มคนในชุมชนขาดความเขา้ ใจซ่ึงกนั และกนั 05 2 2 1 ทะเลาะเบาะแวง้ กนั ขาดความสามคั คี คนในชุมชนขาดจิตสานึกในการพฒั นาตนเอง 23 2 1 2 ความเหลื่อมล้าทางสังคมของคนรวยและคนจนใน 23 4 0 1 ชุมชน สุขลกั ษณะเช่น ขยะมูลฝอย/ฝ่ นุ ละอองมลพษิ ใน 06 1 2 1 ชุมชนเพมิ่ ข้ึน สุขภาพของคนในชุมชนมีการเจบ็ ป่ วยและเกิดโรค 03 2 0 5 ระบาด ขาดสวสั ดิการของหมู่บา้ น 05 3 1 1 ความเชื่อและประเพณีของหมู่บา้ นทาใหข้ ดั แยง้ ทาง 2 4 3 1 0 สังคม เยาวชนทะเลาะววิ าทและไม่ไดเ้ รียนต่อ 05 3 1 1 ขาดคนกลางในการแกป้ ัญหาความขดั แยง้ ของคนใน 1 2 5 1 1 หมู่บา้ น คนในชุมชนขาดความช่วยเหลือและเอ้ือเฟ้ื อเผอื่ แผ่ 32 1 4 0 จากตารางที่ 8 พบว่า ผูต้ อบแบบสอบถามขอ้ มูลสภาพปัญหาของประชาชนดา้ นสังคม สรุปไดว้ ่า ปัญหาทางดา้ นสงั คม มีค่าเฉลี่ยเลขคณิตสูงท่ีสุด คือ 2.00 และมีคา่ เบ่ียงเบนเลขมาตรฐานอยทู่ ี่ 0.43

21 ตารางที่ 9 แบบสอบถามข้อมูลสภาพปัญหาด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมและการท่องเทย่ี ว ระดบั ปัญหา ปัญหาด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและ มากทสี่ ุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยทส่ี ุด สิ่งแวดล้อมและการท่องเทย่ี ว (5) (4) (3) (2) (1) ระบบสาธารณูปโภคบริโภคของชุมชน เช่นประปา 1 5 1 0 3 ไฟฟ้าไม่เพียงพอ ขาดความรู้ดา้ นสุขลกั ษณะและมีการดูแลความ 06 0 2 2 สะอาดของหมู่บา้ น ป่ าเส่ือมโทรมและมีการทาลายทรัพยากรของชุมชน 0 5 2 0 3 เพิ่มข้ึน ทรัพยากรและส่ิงแวดลอ้ มไม่เอ้ือตอ่ การบริหาร 10 2 0 7 จดั การท่องเท่ียว มีการบุกรุกท่ีดินสาธารณะเพ่ิมข้ึน 23 0 2 3 แหล่งทอ่ งเที่ยวในชุมชนขาดการส่งเสริมสนบั สนุน 2 2 4 1 1 และพฒั นา ประชาชนในชุมชนขาดความรู้ในการบริหารจดั การ 2 2 2 0 4 ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มของชุมชน ขาดการมีส่วนร่วมในการบริหารจดั การ 12 2 0 5 ทรัพยากรธรรมชาติของคนในชุมชน จากตารางที่ 9 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามขอ้ มูลสภาพ ปัญหาดา้ นการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอ้ มและการท่องเที่ยว สรุปไดว้ า่ ปัญหาดา้ นการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มและการ ทอ่ งเที่ยว มีคา่ เฉลี่ยเลขคณิตสูงที่สุด คือ 2.00 และมีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานอยทู่ ี่ 0.60

22 ตารางที่ 10 แบบสอบถามข้อมูลสภาพปัญหาของประชาชนด้านอื่นๆ ระดับปัญหา ปัญหาด้านอ่ืนๆ มากทสี่ ุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยทส่ี ุด การคมนาคมสญั จรไม่สะดวก (5) (4) (3) (2) (1) 45 0 1 0 ชุมชนขาดความเขม้ แขง็ ในดา้ นการรวมกลุ่ม 14 4 0 1 มีโรคติดตอ่ ภายในชุมชน 13 2 3 1 ประชาชนขดั แยง้ แบ่งพรรคแบ่งพวก 04 4 2 0 เยาวชนขาดจิตสานึกในการพฒั นาตนเอง 05 1 2 2 ขาดแคลนแหล่งเงินทุนเพ่ือพฒั นาอาชีพ 15 4 0 0 ขาดแหล่งน้า เพื่อการเกษตรเพ่อื การประกอบอาชีพ 3 5 2 0 0 ขาดการสืบสานวฒั นธรรมและภูมิปัญญาทอ้ งถิ่น 05 3 1 3 จากตารางที่ 10 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามขอ้ มูลสภาพปัญหาดา้ นอ่ืนๆ สรุปไดว้ า่ ปัญหาดา้ นอ่ืนๆ มี คา่ เฉลี่ยเลขคณิตสูงที่สุด คือ 2.05 และมีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานอยทู่ ี่ 0.42

23 ตารางท่ี 11 แบบสอบถามข้อมูลสภาพปัญหาด้านสุขภาพและพฤตกิ รรมการดูแลสุขภาพตวั เอง และครอบครัว ปัญหาดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมการดูแลสุขภาพ มากทส่ี ุด มาก ระดับปัญหา น้อยทส่ี ุด ตวั เองและครอบครัว (5) (4) ปานกลาง น้อย (1) (3) (2) ทานอาหารแตล่ ะม้ือครบท้งั 5 หมู่ 52 3 0 1 สามารถไปพบแพทย์ หรือบุคลากรสาธารณสุข หรือ 1 7 0 0 2 ผใู้ หบ้ ริการสุขภาพไดท้ ุกเม่ือ ตามที่ตอ้ งการ มีการจดั โครงการอบรมดา้ นสุขภาพใหก้ บั คนใน 04 1 1 1 ชุมชนอยเู่ ป็นประจา สามารถเตือนผอู้ ่ืนท่ีมีพฤติกรรมเส่ียงตอ่ สุขภาพ เช่น 0 4 4 0 4 ลดการด่ืมสุรา ไมส่ ูบบุหรี่ในพ้นื ที่สาธารณะ เจบ็ ป่ วยเลก็ นอ้ ย เช่น ไขห้ วดั ปวดกลา้ มเน้ือ/ปวด 53 2 2 0 ทอ้ ง/โรคกระเพาะ โรคไม่ติดต่อ เช่น ความดนั โลหิตสูง โรคเบาหวาน 03 3 0 4 โรคหวั ใจ ปัญหาสุขภาพจิต เช่น วติ กกงั วล/เครียด ติดยา/สาร 10 3 1 7 เสพติด ตรวจสุขภาพเป็ นประจาทุกปี 54 0 0 4 ดูแลสุขภาพดว้ ยตนเอง เช่น ซ้ือยากินเอง เช็ดตวั ลด 16 1 1 3 ไข้ มีความรู้พ้นื ฐานดา้ นการแพทยฉ์ ุกเฉิน สามารถปฐม 3 0 0 0 10 พยาบาลเบ้ืองตน้ ได้ เช่น การช่วยฟ้ื นคืนชีพข้นั พ้นื ฐาน(CPR) เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินโทร1669 01 3 1 6 จากตารางที่ 11 และ 11.1 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามขอ้ มูลสภาพปัญหาดา้ นสุขภาพ สรุปไดว้ า่ ปัญหา ดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตวั เองและครอบครัว มีคา่ เฉลี่ยเลขคณิตสูงที่สุด คือ 2.24 และมีค่า เบี่ยงเบนมาตรฐานอยทู่ ี่ 0.77

ตารางท่ี 12 แสดงค่าเฉลย่ี ส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐานของปัญหาในชุมชน 24 ปัญหา ֿx S.D. ปัญหาดา้ นเศรษฐกิจ 2.22 0.79 ปัญหาดา้ นสงั คม 2.00 0.43 ปัญหาดา้ นการจดั การ 2.00 0.60 ทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดลอ้ มและการท่องเที่ยว 2.05 0.42 ปัญหาดา้ นอื่นๆ 2.24 0.77 ปัญหาดา้ นสุขภาพและพฤติกรรม การดูแลสุขภาพตวั เอง 2.10 0.18 และครอบครัว ค่าเฉลย่ี รวม จากตารางที่ 12 สรุปไดว้ า่ ปัญหาดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตวั เอง และครอบครัว มี คา่ เฉลี่ยเลขคณิตสูงท่ีสุดคือ 2.24 และมีคา่ เบี่ยงเบนมาตรฐานอยทู่ ี่ 0.77 รองลงมาคือมีดา้ นปัญหาดา้ นเศรษฐกิจ มีคา่ เฉลี่ยเลขคณิตสูงท่ีสุดคือ 2.22 และมีคา่ เบ่ียงเบนมาตรฐานอยทู่ ี่ 0.79 สรุปการทาประชาคม ชุมชนหมู่บ้านวงั ธน หมู่ท2ี่ ตาบลน้าตก อาเภอทุ่งสง จังหวดั นครศรีธรรมราช วนั จนั ทร์ ที่ 13 เมษายน 2563 เวลา 14.00-16.00 น. ที่ศาลาประชุมประจาหมู่ท่ี2 ตาบลน้าตก อาเภอทุง่ สง จงั หวดั นครศรีธรรมราช ผตู้ อบแบบสอบถาม 10 ชุด สรุปปัญหาของชุมชนหมูท่ ี่2 ตาบลน้าตก อาเภอทุ่งสง จงั หวดั นครศรีธรรมราชไดด้ งั น้ี 1. ปัญหาดา้ นเศรษฐกิจ มีคา่ เฉล่ีย 2.22 มีคา่ ระดบั ความพึงพอใจ อยใู่ นเกณฑป์ านกลาง 2. ปัญหาดา้ นสังคม มีคา่ เฉลี่ย 2.00 มีคา่ ระดบั ความพึงพอใจ อยใู่ นเกณฑป์ านกลาง 3. ปัญหาดา้ นการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มและการทอ่ งเที่ยว มีค่าเฉลี่ย 2.00 มี คา่ ระดบั ความพึงพอใจ อยใู่ นเกณฑป์ านกลาง 4. ปัญหาดา้ นอ่ืนๆ มีค่าเฉลี่ย 2.05 มีคา่ ระดบั ความพึงพอใจ อยใู่ นเกณฑป์ านกลาง 5. ปัญหาดา้ นสุขภาพและพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตวั เอง และครอบครัว มีค่าเฉล่ีย 2.24 มีค่า ระดบั ความพึงพอใจ อยใู่ นเกณฑน์ อ้ ยนกั ศึกษาไดเ้ ล็งเห็นวา่ ปัญหาดา้ นสุขภาพ ที่มีคา่ ระดบั ความพึงพอใจ อยู่ ในเกณฑน์ อ้ ย ท่ีควรไดร้ ับการแกไ้ ข ทางนกั ศึกษาจึงไดม้ าทาประชาคมในวนั และเวลาดงั กล่าว

25 การคดิ คะแนนจดั ลาดับความสาคญั ของปัญหาด้านสุขภาพ เกณฑ์การจัดความสาคญั ของปัญหาของ John J. Hanlon A = ขนาดของปัญหาใหค้ ะแนนระหวา่ ง 0-10 B = ความรุนแรงของปัญหา ใหค้ ะแนนระหวา่ ง 0-20 C = ประสิทธิภาพของการปฏิบตั ิงาน ใหค้ ะแนนระหวา่ ง 0-10 D = ขอ้ จากดั ใหค้ ะแนน 0-1 สูตร Basic priority rating (B.P.R) = ( A+B ) x C x D 3 คะแนนขององค์ประกอบ คะแนนรวม ปัญหา ขนาดของ ความ ความยาก ความ วธิ ีบวก วธิ ีคูณ ปัญหา รุนแรง ง่าย สนใจ 1.โรคหอบหืด 6 10 6 1 26 360 2.ไขเ้ ลือดออก 4 9 5 1 22 180 3.โรคเบาหวาน 4 7 5 1 15 140 4.ติดสุราเร้ือรัง 4 6 5 1 14 120 5.โรคเก่ียวกบั ขอ้ และกระดูก 4 5 4 1 10 80 จากตาราง พบวา่ ปัญหาชุมชนอนั ดบั ท่ี 1 คือ โรคหอบหืด อนั ดบั ที่ 2 คือ ไขเ้ ลือดออก อนั ดบั ที่ 3 คือ โรคเบาหวาน อนั ดบั ท่ี 4 คือ ติดสุราเร้ือรัง และลาดบั ท่ี 5 คือ โรคเก่ียวกบั ขอ้ และกระดูก ตามลาดบั ที่มา : ภาควชิ าเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ ( รศ.ดร.เพญ็ ประภา ศิวิโรจน์ ) [email protected]

26 บทท่ี 4 แผนงานโครงการ จากการสารวจชุมชนหมูท่ ี่2 ตาบลน้าตก อาเภอทุ่งสง จงั หวดั นครศรีธรรมราช ไดล้ งสารวจพ้นื ท่ี โดยใชแ้ บบสอบถามขอ้ มูลวเิ คราะห์เพ่ือจดั ลาดบั ความสาคญั ของปัญหา เพือ่ หาวธิ ีการแกป้ ัญหาใหก้ บั ชุมชน จากการศึกษาพบวา่ ชุมชนมีปัญหาดา้ นสุขภาพของคนในชุมชน เป็นอนั ดบั แรก ดงั น้นั จึงนาปัญหาดา้ นสุขภาพ โรคหอบหืด มาจดั โครงการเพ่ือใหค้ วามรู้กบั คนในชุมชน เกิดความรู้ ความเขา้ ใจ ในการควบคุมป้องกนั โรคหอบหืดที่ถูกวธิ ีและเหมาะสม 4.1 แผนงาน / โครงการ จากปัญหาท่ีพบ พบวา่ เป็ นปัญหาที่ทางชุมชนมีความตอ้ งการใหด้ าเนินการ จากปัญหาดงั กล่าว จึงได้ จดั ทาโครงการเพือ่ แกป้ ัญหาสุขภาพของชุมชน 1 โครงการโดยมีรายละเอียดดงั น้ี ช่ือกจิ กรรม/โครงการ : เสริมสร้างใหค้ วามรู้และป้องกนั โรคหอบหืด ช่ือ-สกลุ ผู้สนอกจิกรรม/โครงการ : นางสาวสุธาทิพย์ ขาวนาค สังกดั : หลกั สูตรประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สูงสาขาปฏิบตั ิการฉุกเฉินการแพทย์ รุ่นท่ี 15 ช้นั ปี ท่ี2

27 1.หลกั การและเหตุผล/ทม่ี า/ปัญหา 1.1 หลกั การและเหตุผล ปัจจุบนั โรคหืดเป็ นโรคท่ีพบบ่อยและมีอุบตั ิการณ์เพิม่ ข้ึน ทว่ั โลกประเทศไทยพบอุบตั ิการณ์ของ โรคหืดถึง 10-12% ในเด็ก และ 6.9% ในผใู้ หญ่ โรคหืดเป็นโรคเร้ือรังท่ีมีผลกระทบต่อผปู้ ่ วยค่อนขา้ งสูง จาก การสารวจพบวา่ ผปู้ ่ วยโรคหืดมากกวา่ คร่ึงไมส่ ามารถทากิจกรรมไดเ้ ช่นคนปกติ ผปู้ ่ วยโรคหืด 21.7% ยงั ตอ้ ง เขา้ รับการรักษาดว้ ยอาการหอบรุนแรงที่หอ้ งฉุกเฉินอยา่ งนอ้ ยหน่ึงคร้ังในระยะเวลาหน่ึงปี ท่ีผา่ นมา และ 14.8% ตอ้ งเขา้ นอนรับการรักษาในโรงพยาบาล จากขอ้ มูลของกระทรวงสาธารณสุขพบวา่ จานวนผปู้ ่ วย ท่ีเขา้ นอนรับการรักษาในโรงพยาบาลเนื่องจากโรคหืดก็เพ่ิมข้ึนทุกปี นบั ต้งั แต่ 66,679 คนในปี พ.ศ. 2538 เป็น 102,245 คนในปี พ.ศ.2545 (ตารางท่ี1) และมีผเู้ สียชิวติ ดว้ ยโรคหืด 806 คนในปี พ.ศ. 2540 เพ่ิมเป็น 1697 คนในปี พ.ศ.2546 (ตารางท่ี2) และคาดวา่ มีผปู้ ่ วยโรคที่มีอาการหอบรุนแรงจนตอ้ ง ไปรับการรักษาที่ห้องฉุกเฉินไม่ต่ากวา่ ปี ละ 1 ลา้ นคน จากสถานการณ์และความสาคญั ดงั กล่าวนางสาวสุธาทิพย์ ขาวนาค นักศึกษาช้นั ปี ท่ี2 หลกั สูตร ฉุกเฉินการแพทย์ รุ่นที่ 15 เล็งเห็นว่าประชาชนหมู่ท่ี2 ตาบลน้าตก อาเภอทุ่งสง จงั หวดั นครศรีธรรมราช มี ความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหอบหืด จึงเห็นความสาคญั ในสุขภาพอนามยั ของประชาชนและเพ่ือใหท้ นั สถานการณ์ ในปัจจุบนั เพื่อเป็ นการป้องกนั ควบคุม แกไ้ ขปัญหาโรคหอบหืด จึงไดจ้ ดั ทาโครงการเสริมสร้างให้ความรู้ และป้องกนั โรคหอบข้ึน 1.2 วตั ถุประสงค์ 1.2.1 เพ่อื ใหป้ ระชาชนท่ีมีความเส่ียงเขา้ ร่วมกิจกรรมปรับเปล่ียนพฤติกรรมสุขภาพ 1.2.2 เพื่อเป็ นการป้องกนั เฝ้าระวงั และควบคุมการระบาดของโรคหอบหืด 1.2.3 เพื่อจะทาใหผ้ ปู้ ่ วยโรคหืดจะมีคุณภาพชีวติ ท่ีดีข้ึน 1.3 กลุ่มเป้าหมาย อสม. และตวั แทนครัวเรือนหมู่ท่ี2 ตาบลน้าตก อาเภอทุ่งสง จงั หวดั นครศรีธรรมราช จานวน 100 คน

28 1.4 เป้าหมาย 1.4.1 เป้าหมายเชิงคุณภาพ - ประชาชนมีความรู้ ความเขา้ ใจ ในการดูแลและป้องกนั โรคหอบหืด 1.4.2 เป้าหมายเชิงปริมาณ - อสม. และตวั แทนครัวเรือนหมู่ที่2 ตาบลน้าตก อาเภอทุ่งสง จงั หวดั นครศรีธรรมราช เขา้ ร่วมโครงการร้อยละ 60 1.5 ระยะเวลาดาเนินการ ต้งั แตว่ นั ที่ 12 เมษายน – 14 เมษายน 2563 1.6 ดัชนีตวั ชี้วดั ความสาเร็จ 1.6.1 ประชาชนเกิดความรู้ ความเขา้ ใจ ในการควบคุมป้องกนั โรคไขห้ วดั ใหญ่ 1.6.2 เพือ่ ใหป้ ระชาชนท่ีมีความเส่ียงเขา้ ร่วมกิจกรรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพมากข้ึน 1.6.3 ไดร้ ับความร่วมมือจากประชาชนทุกครัวเรือนในการเสริมสร้างความรู้โรคหอบหืด และป้องกนั ตนเองเป็นอยา่ งดี 1.7 ผู้รับผดิ ชอบโครงการ นางสาวสุธาทิพย์ ขาวนาค นกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉินการแพทย์ รุ่นท่ี 15 ช้นั ปี ท่ี 2 1.8 สถานทดี่ าเนินโครงการ ศาลาประจาหมู่ที่2 ตาบลน้าตก อาเภอทุง่ สง จงั หวดั นครศรีธรรมราช 1.9 ผลทคี่ าดว่าจะได้รับ 1.9.1 ประชาชนกลุ่มเส่ียงเป็นโรคหอบหืดมีความรู้ความเขา้ ใจในการป้องกนั ควบคุมโรคหอบหืด 1.9.2 อตั ราความพงึ พอใจของประชาชนท่ีเขา้ โครงการ(ร้อยละ60)พงึ พอใจ 1.9.3 เกิดความเขม้ แขง็ ข้ึนภายในครอบครัว ชุมชน และมีคุณภาพชีวติ ที่ดีข้ึน

29 2.แผนการดาเนินงาน 2.1 วธิ ีการดาเนินงาน กระบวนการ กจิ กรรม เวลาดาเนินการ ผ้รู ับผดิ ชอบ การวางแผน 1. ประชุมวางแผน กาหนดวตั ถุประสงค์ 12เมษายน น.ส.สุธาทิพย์ ขาวนาค งบประมาณ ดัชนีช้ีวดั ความสาเร็จ พฒั นา 2563 นกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉินการแพทย์ โครงการฉบบั สมบูรณ์เพื่อขออนุมตั ิ รุ่นท่ี 15 ช้นั ปี ที่ 2 2. เมื่อโครงการได้รับอนุมัติแล้ว จึง มอบหมายหน้าท่ีรับผิดชอบภายในกลุ่ม พร้อมท้งั ประสานผทู้ ่ีเกี่ยวขอ้ ง ประสานงาน ชุมชน จดั เตรียมวสั ดุ อุปกรณ์ที่ตอ้ งใช้ การปฏิบตั ิ 1.จัดโครงการตามกาหนดการ 13เมษายน น.ส.สุธาทิพย์ ขาวนาค 2563 นกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉินการแพทย์ 1.1 วนั จัดกจิ กรรม รุ่นที่ 15 ช้นั ปี ที่ 2 1.1.1 ทาแบบทดสอบก่อนให้ความรู้ 1.1.2 การบรรยายใหค้ วามรู้เก่ียวกบั โรค หอบหืดและวธิ ีการป้องกนั 1.1.3 กิจกรรมตอบคาถามเก่ียวกบั ความรู้ โรคหอบหืด 1.1.4 จดั กิจกรรมกลุ่ม ระดมสมองภายใน กลุ่ม 1.1.5 ทาแบบทดสอบหลงั ใหค้ วามรู้ 1.1.6 ทาแบบประเมินความพึงพอใจ 1.2 วนั เดนิ รณรงค์ 1.2.1 ใหค้ วามรู้เร่ืองโรคหอบหืด 1.2.2 เดินรณรงคป์ ้องกนั โรคหอบหืด 1.2.3 แจกแผน่ พบั โรคหอบหืด

30 กระบวนการ กจิ กรรม เวลาดาเนินการ ผู้รับผดิ ชอบ ประเมินผล ประเมินผลตามวตั ถุประสงคด์ ว้ ย 13 เมษายน น.ส.สุธาทิพย์ ขาวนาคนกั ศึกษา การปรับปรุง 1.แบบลงทะเบียนเขา้ ร่วมโครงการ 2563 หลกั สูตรฉุกเฉินการแพทย์ หรือนาผลการ 2.ประเมินความรู้ก่อน-หลงั ใหค้ วามรู้ รุ่นท่ี 15 ช้นั ปี ที่ 2 ประเมินไปใช้ 3.สังเกตการมีส่วนร่วมของผู้เข้าร่ วม 14 เมษายน ประโยชน์ โครงการ 2563 น.ส.สุธาทิพย์ ขาวนาคนกั ศึกษา 1. ประชุมผูจ้ ดั ทาโครงการเพ่ือสรุปผล หลกั สูตรฉุกเฉินการแพทย์ การดาเนินงานและเสนอแนะแนวทาง รุ่นท่ี 15 ช้นั ปี ท่ี 2 เพื่อปรับปรุงพฒั นา 2.2 ผลการดาเนินงาน 2.2.1 การดาเนินงานในข้นั ตอนการวางแผน - ประสานงานกบั แกนนา อสม.หมูท่ ่ี2 ตาบลน้าตก อาเภอทุ่งสง จงั หวดั นครศรีธรรมราช นางสาวสุธาทิพย์ ขาวนาค นกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉินการแพทย์ จดั ประชุมกนั กบั แกนนาอสม.หมูท่ ี่ 2 เพื่อสอบถามปัญหาต่างๆท่ีเกิดข้ึนในชุมชน และไดม้ ีการประชุมกนั ภายในกลุ่มเพื่อวางแผนการดาเนินงาน กาหนดวตั ถุประสงค์ วางแผนการใชง้ บประมาณ หนา้ ท่ีรับผดิ ชอบ เพ่ือใหก้ ารดาเนินงานโครงการเป็ นไป อยา่ งมีประสิทธิภาพ - ติดต่อประสานงานกบั ผทู้ ี่เก่ียวขอ้ งในชุมชน นางสาวสุธาทิพย์ ขาวนาค นกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉินการแพทย์ ไดต้ ิดตอ่ จดั การขอสถานที่ในการ ทากิจกรรมเพ่อื ใหก้ ารดาเนินงานโครงการเป็ นไปอยา่ งมีประสิทธิภาพ - ติดต่อขอใชส้ ถานท่ี 2.2.2 การดาเนินงานในข้นั ตอนการปฏบิ ตั ิ - เสนอร่างโครงการและปรับแกไ้ ขโครงการรณรงคป์ ้องกนั และควบคุมโรคหอบหืด หมู่ที่2 ตาบล น้าตก อาเภอทุ่งสง จงั หวดั นครศรีธรรมราช - จดั เตรียมเอกสารในการทาโครงการ

31 - จดั เตรียมสถานท่ีในการจดั ทาโครงการรณรงคป์ ้องกนั และควบคุมโรคหอบหืด หมู่ที่2 ตาบลน้าตก อาเภอทุง่ สง จงั หวดั นครศรีธรรมราช - ดาเนินงานกิจกรรมโครงการรณรงคป์ ้องกนั และควบคุมโรคหอบหืด หมูท่ ี่2 ตาบลน้าตก อาเภอทุ่ง สง จงั หวดั นครศรีธรรมราชดว้ ยการบรรยายใหค้ วามรู้เก่ียวกบั โรคหอบหืด นางสาวสุธาทิพย์ ขาวนาค นกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉินการแพทย์ ไดเ้ ขา้ รับการอบรมใหค้ วามรู้เก่ียวกบั การดูแลตวั เองการรักษาอาการและการป้องกนั เก่ียวกบั โรคหอบหืด - รณรงคใ์ หค้ วามรู้เร่ืองโรคหอบหืด 2.3 จานวนผู้เข้าร่วมโครงการ อสม. และตวั แทนครัวเรือนหมูท่ ่ี2 ตาบลน้าตก อาเภอทุ่งสง จงั หวดั นครศรีธรรมราช จานวน 60 คน 2.4 สถานทดี่ าเนินการ ศาลาประจาหมูท่ ี่2 ตาบลน้าตก อาเภอทุ่งสง จงั หวดั นครศรีธรรมราช 2.5 งบประมาณ งบประมาณรายจา่ ยประจาปี 2562 เงินแบง่ ผลจากการขายขา้ วสารประจาชุมชนตามโครงการ เศรษฐกิจพอเพยี ง (สนบั สนุนจากอสม. หมูท่ ่ี2 ตาบลน้าตก อาเภอทุ่งสง จงั หวดั นครศรีธรรมราช) จานวนเงิน 5,000 บาท (เกา้ พนั หา้ ร้อยบาทถว้ น) โดยนาไปใชจ้ า่ ยดงั น้ี 1. คา่ อาหารวา่ งและน้าเปล่า จานวน80 คนๆละ 1 ม้ือๆละ 20 บาท เป็นเงิน 1,600 บาท 2. ค่าอาหารกลางวนั จานวน80 คนๆละ 1 ม้ือๆละ 25 บาท เป็นเงิน 2,000 บาท 3. ค่าวทิ ยากร จานวน 2 ชว่ั โมงๆละ 100 บาท เป็นเงิน 200 บาท 4. คา่ จดั ทาป้ายประชาสัมพนั ธ์ เป็นเงิน 200 บาท 5. คา่ วสั ดุที่ใชใ้ นโครงการ เป็นเงิน 100 บาท รวมเป็ นเงิน 4,100 บาท (สี่พนั หน่ึงร้อยบาทถ้วน)

32 3. เคร่ืองมือและวธิ ีการในการประเมนิ ผล หลงั จากที่ไดด้ าเนินงานตามแผนของโครงการแลว้ น้นั ซ่ึงในข้นั ตอนสุดทา้ ยจะเป็นกิจกรรมในการ ประเมินผลโครงการ หากพิจารณาถึงความสัมพนั ธ์ระหวา่ งการวางแผนกบั การประเมินผลโครงการ พบวา่ กิจกรรมท้งั สองมีความสมั พนั ธ์ที่ตอ้ งดาเนินการควบคูก่ นั โดยการวางแผนโครงการเป็ นกิจกรรมของการ กาหนดแนวทางการนาไปปฏิบตั ิเพื่อการบรรลุวตั ถุประสงค์ ส่วนการประเมินผลโครงการเป็นกิจกรรมสุดทา้ ย ในการพิจารณาผลการดาเนินงานเป็ นไปตามแผนท่ีกาหนดหรื อไม่ 3. 1 เครื่องมือทใ่ี ช้ในการเกบ็ ข้อมูล 3. 1. 1 แบบทดสอบความรู้ทศั นคติและพฤติกรรมก่อน-หลงั ใหค้ วามรู้ เคร่ืองมือที่ใชใ้ นการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลเพอ่ื การประเมินในคร้ังน้ีเป็นแบบสอบถามท่ีผรู้ ับผดิ ชอบโครงการ ไดส้ ร้างข้ึนใหส้ อดคลอ้ งกบั วตั ถุประสงคแ์ ละตวั ช้ีวดั ของโครงการซ่ึงมีรายละเอียดดงั น้ี ส่วนที่ 1 ขอ้ มูลพ้นื ฐานส่วนบุคคล ไดแ้ ก่ เพศอายรุ ะดบั การศึกษาอาชีพ ส่วนท่ี 2 ความรู้เรื่องโรคหอบหืดแบบสอบถามเป็นแบบเลือกคาตอบเพยี งคาตอบเดียวคือถูกหรือผดิ จานวน 10 ขอ้ กาหนดเกณฑ์การใหค้ ะแนนดงั น้ี ตอบถูกไดค้ ะแนนเทา่ กบั 1 คะแนน ตอบผดิ ไดค้ ะแนนเท่ากบั 0 คะแนน ส่วนที่ 3 ทศั นคติต่อการป้องกนั และควบคุมโรคโรคหอบหืดแบบสอบถามเป็นแบบเลือกคาตอบ เพยี งคาตอบเดียว คือ เห็นดว้ ยอยา่ งยง่ิ เห็นดว้ ย ไมแ่ น่ใจ ไมเ่ ห็นดว้ ย ไม่เห็นดว้ ยอยา่ งยงิ่ ขอ้ คาถามมีท้งั ดา้ น บวกและดา้ นลบจานวน 10 ขอ้ กาหนดเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดงั น้ี คาถามเชิงบวก คาถามเชิงลบ เห็นดว้ ยอยา่ งยงิ่ ได้ 5 คะแนน ได้ 1 คะแนน เห็นดว้ ย ได้ 4 คะแนน ได้ 2 คะแนน ไม่แน่ใจ ได้ 3 คะแนน ได้ 3 คะแนน ไมเ่ ห็นดว้ ย ได้ 2 คะแนน ได้ 4 คะแนน ไม่เห็นดว้ ยอยา่ งยง่ิ ได้ 1 คะแนน ได้ 5 คะแนน

33 ส่วนที่ 4 พฤติกรรมการปฏิบตั ิตวั ป้องกนั โรคโรคหอบหืดแบบสอบถามเป็นแบบเลือกตอบเพยี ง คาตอบเดียว คือ ปฏิบตั ิเป็นประจา 7 วนั /สปั ดาห์ ปฏิบตั ิบ่อยคร้ัง 5-6 วนั /สัปดาห์ ปฏิบตั ินานๆ คร้ัง 3-4 วนั / สปั ดาห์ ปฏิบตั ิบางคร้ัง 1-2 วนั /สัปดาห์ ไมไ่ ดป้ ฏิบตั ิเลย ขอ้ คาถามเชิงบวก จานวน 10 ขอ้ กาหนดเกณฑก์ าร ใหค้ ะแนน ดงั น้ี ปฏิบตั ิเป็นประจา (7 วนั / สัปดาห์) ได้ 5 คะแนน ปฏิบตั ิบ่อยคร้ัง (5-6 วนั / สปั ดาห์) ได้ 4 คะแนน ปฏิบตั ินานๆคร้ัง (3-4 วนั / สปั ดาห์) ได้ 3 คะแนน ปฏิบตั ิบางคร้ัง (1-2 วนั / สปั ดาห์) ได้ 2 คะแนน ไม่ไดป้ ฏิบตั ิเลย ได้ 1 คะแนน 3.1.2 แบบประเมินความพึงพอใจการเขา้ ร่วมโครงการ โดยเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนความพึงพอใจ ดงั น้ี ระดบั ความพึงพอใจมากที่สุด 5 คะแนน ระดบั ความพึงพอใจมาก 4 คะแนน ระดบั ความพงึ พอใจปานกลาง 3 คะแนน ระดบั ความพึงพอใจนอ้ ย 2 คะแนน ระดบั ความพึงพอใจนอ้ ยที่สุด 1 คะแนน 3.2 วธิ ีการเกบ็ รวบรวมข้อมูล 3.2.1 นาสมุดบนั ทึกการสารวจและแบบฟอร์มบนั ทึกใหผ้ เู้ ขา้ ร่วมโครงการบนั ทึก ณ วนั ทาโครงการ 3.2.2 ใหท้ าแบบทดสอบหลงั ใหค้ วามรู้ ทศั นคติ และพฤติกรรม จดั เก็บสมุดบนั ทึกการสารวจคืนจาก ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ นามาประเมินผล 3.2.3 หลงั จากจดั ทาโครงการ 1 สปั ดาห์ ทางผจู้ ดั ทาโครงการลงพ้ืนท่ีท่ีจดั ทาโครงการอีกคร้ังโดยทา แบบบนั ทึกการสารวจการแพร่ระบาดของเช้ือโรค ผลการสารวจคร้ังที่ 1 จากการสารวจของผูเ้ ขา้ ร่วมโครงการ กบั คร้ังท่ี 2 จากการลงสารวจเองของทางผจู้ ดั ทาโครงการนามาเปรียบเทียบและประเมินผล

34 3. 3 การวเิ คราะห์ข้อมูล การวเิ คราะห์ขอ้ มูลดงั รายละเอียดต่อไปน้ี 1. การวเิ คราะห์ขอ้ มูลส่วนบุคคลใชส้ ถิติการแจกแจงความถ่ี (Frequency) และร้อยละ Percentage) 2. การประเมินความพึงพอใจการประเมินความรู้ใชส้ ถิติค่าเฉลี่ย (X) และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S. D.) 3. 4 เกณฑ์ทใี่ ช้ในการวเิ คราะห์ข้อมูล 3.4.1 แบบทดสอบความรู้ทศั นคติและพฤติกรรมก่อน-หลงั ใหค้ วามรู้ 3.4.1.1 การแปลผลคะแนน สาหรับเกณฑก์ ารประเมินระดบั ความรู้เก่ียวกบั เร่ืองโรคหอบหืด แบง่ ออกเป็น 3 ระดบั โดยใชว้ ธิ ีการกาหนดเกณฑ์ตามช่วงคะแนนตามหลกั วธิ ีคิดของบลูม Bloorn ซ่ึงมีระดบั คะแนนดงั น้ี ร้อยละ (ของคะแนนเตม็ ) ระดบั ความรู้ ระดบั ดี 80. 00 ข้ึนไป (8-10ขอ้ ) ระดบั ปานกลาง 50. 00-79. 99 (5-7ขอ้ ) ระดบั ควรปรับปรุง 1. 00-49. 99 (0-5ขอ้ ) 3.4.1.2 การแปลผลคะแนนสาหรับเกณฑก์ ารประเมินทศั นคติเกี่ยวกบั การป้องกนั และควบคุม โรคไขเ้ ลือดออกโดยใชว้ ธิ ีการกาหนดเกณฑต์ ามช่วงคะแนนตามหลกั วธิ ีคิดของเบสท์ ดงั น้ี ระดบั ทศั นคติ คา่ ระคบั คะแนนเฉลี่ย ระดบั สูง 3. 67 - 5. 00 ระดบั ปานกลาง 2. 34 - 3. 66 ระดบั ต่า 1. 00 - 2. 3 3.4.1.3 การแปลผลคะแนนสาหรับเกณฑบ์ ง่ ช้ีพฤติกรรมการออกกาลงั กายโดยใชว้ ธิ ีการกาหนด เกณฑต์ ามช่วงคะแนนตามหลกั วธิ ีคิดของเบสท์ ดงั น้ี ระดบั พฤติกรรม ค่าระดบั คะแนนเฉล่ีย ระดบั สูง 3.67 - 5.00 ระดบั ปานกลาง 2.34 - 3.66 ระดบั ต่า 1.00 - 2.33

35 3.4.2 แบบประเมินความพงึ พอใจการเขา้ ร่วมโครงการโดยเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนความพึงพอใจ ดงั น้ี คะแนนเฉลี่ยสูงกวา่ 4. 50 มีความพึงพอใจในระดบั มากท่ีสุด คะแนนเฉล่ียระหวา่ ง 3. 50-4. 49 มีความพงึ พอใจในระดบั มาก คะแนนเฉล่ียระหวา่ ง 2. 50-3. 49 มีความพงึ พอใจในระดบั ปานกลาง คะแนนเฉล่ียระหวา่ ง 1. 50-2. 49 มีความพงึ พอใจในระดบั นอ้ ย คะแนนเฉลี่ยต่ากวา่ 1. 50 มีความพงึ พอใจในระดบั นอ้ ยที่สุด 4. ผลการประเมนิ การดาเนินโครงการ 4.1 ข้อมูลทวั่ ไปของผู้ตอบแบบประเมิน ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการมี 60 คนจากจานวนท้งั หมด 100 คนคิดเป็นร้อยละ 60 ซ่ึงขอ้ มูลทว่ั ไปในเร่ืองเพศ อายุ ระดบั การศึกษา อาชีพ สถานภาพ มีขอ้ มูลดงั ตารางต่อไปน้ี ตารางท่ี 4.1.1 เพศของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ เพศ จานวน ร้อยละ ชาย 10 16.67 หญิง 50 83.33 รวม 60 100 จากตารางแสดงขอ้ มูลเพศของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการพบวา่ เพศหญิงมีจานวน 50 คนคิดเป็ นร้อยละ 83.33 และเพศชายมีจานวน 10 คนคิดเป็นร้อยละ 16.67 ตารางท่ี 4.1.2 อายขุ องผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ อายุ จานวน ร้อยละ ต่ากวา่ 20 ปี 10 16.67 20-40 22 36.67 41-50 25 41.66 50 ปี ข้ึนไป 3 5 รวม 60 100 จากตารางแสดงขอ้ มูลอายขุ องผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ พบวา่ อายุ 50 ปี ข้ึนไปมีจานวน 3 คนคิดเป็นร้อยละ 5 อายุ 41-50 ปี มีจานวน 25 คนคิดเป็นร้อยละ 41.66 อายุ 20-40 ปี มีจานวน 22 คนคิดเป็ นร้อยละ 36.67 อายุ ต่ากวา่ 20 ปี มีจานวน 10 คนคิดเป็นร้อยละ 16.67 ตามลาดบั

36 ตารางท่ี 4.1.3 ระดบั การศึกษาของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ ระดบั การศึกษา จานวน ร้อยละ ประถมศึกษา 13 21.67 มธั ยมศึกษาตอนตน้ (ม.1-ม.3) 30 50 มธั ยมศึกษาตอนปลาย (ม.4-ม.6) 7 11.67 ประกาศนียบตั รวชิ าชีพ(ปวช.) 5 8.33 ปริญญาตรี 5 8.33 รวม 60 100 จากตารางแสดงขอ้ มูลระดบั การศึกษาของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ พบวา่ ระดบั ประถมศึกษามีจานวน 13 คน คิดเป็ นร้อยละ 21.67 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ (ม.1-ม.3) มี 30 คน คิดเป็นร้อยละ 50 ระดบั มธั ยมศึกษา ตอนปลาย (ม.4-ม.6) มี 7 คน คิดเป็นร้อยละ 11.67 ประกาศนียบตั รวชิ าชีพ(ปวช.) มี 5 คน คิดเป็ นร้อยละ 8.33 และระดบั ปริญญาตรี มี 5 คน คิดเป็นร้อยละ 8.33 ตามลาดบั ตารางที่ 4.1.4 อาชีพของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ อาชีพหลกั ของครอบครัว จานวน ร้อยละ นกั เรียน/นกั ศึกษา 10 16.67 ขา้ ราชการ 5 8.33 เกษตรกรรม 35 58.33 คา้ ขาย/ธุรกิจ 3 5 4 6.67 รับจา้ งทวั่ ไป/ลูกจา้ ง 3 5 วา่ งงาน/ไมม่ ีงานทา อ่ืนๆ 0 0 รวม 60 100 จากตารางแสดงขอ้ มูลอาชีพของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ พบวา่ อาชีพเกษตรกรรม มีจานวน 35 คน คิดเป็ น ร้อยละ 58.33 อาชีพนกั เรียน/นกั ศึกษามีจานวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 16.67 อาชีพขา้ ราชการมีจานวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 8.33 อาชีพรับจา้ งทว่ั ไป/ลูกจา้ ง มีจานวน 4 คน คิดเป็ นร้อยละ 6.67 อาชีพคา้ ขาย/ธุรกิจมี จานวน 3 คน คิดเป็ นร้อยละ 5 วา่ งงาน/ไม่มีงานทา มีจานวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 5 และอาชีพอ่ืนๆ มีจานวน 0 คน คิดเป็ นร้อยละ 0 ตามลาดบั

37 4.2 ผลการทดสอบความรู้จากการเข้าร่วมโครงการ ตางรางท่ี 4.2.1 ผลการทดสอบความรู้จากการเข้าร่วมโครงการ รายการ ผ่านเกณฑ์ ไม่ผ่านเกณฑ์ สูงสุด ต่าสุด เฉลย่ี จานวน ร้อยละ จานวน ร้อยละ ก่อนเขา้ อบรม 6 3 0.06 - - - - ผลการทดสอบ - - - 40 60.67 20 39.33 หลงั เขา้ อบรม 12 8 0.04 - - - - ผลการทดสอบ - - - 73 82.02 16 17.98 จากตารางท่ี 4.2.1 พบวา่ แกนนาอสม. ท่ีเขา้ ร่วมโครงการมีคะแนนทดสอบความรู้ก่อนเขา้ รับการ บรรยายเกี่ยวกบั โรคหอบหืดไดค้ ะแนนสูงสุด 6 คะแนนคะแนนต่าสุด 3 คะแนนและมีคะแนนเฉลี่ย 0. 06 คะแนนมีจานวนผผู้ า่ นเกณฑ์จานวน 40 คนคิดเป็ นร้อยละ 60.67 มีจานวนผไู้ ม่ผา่ นเกณฑจ์ านวน 20 คนคิดเป็ น ร้อยละ 39.33 และหลงั จากการเขา้ รับการบรรยายเก่ียวกบั โรคหอบหืด มีผทู้ ดสอบความรู้ไดค้ ะแนนสูงสุด 12 คะแนนคะแนนต่าสุด 8 คะแนนและมีคะแนนเฉลี่ย 0. 04 คะแนน มีจานวนผผู้ า่ นเกณฑจ์ านวน 73 คนคิดเป็ น ร้อยละ 82. 02 ซ่ึงผา่ นตามตวั ช้ีวดั ในหวั ขอ้ จุดประสงคม์ ีผเู้ ขา้ ร่วมโครงการร้อยละ 60 มีความรู้เก่ียวกบั การ ควบคุมป้องกนั โรคหอบหืดในระดบั ดี ตารางที่ 4.2.2 คะแนนการทดสอบประเมนิ ความรู้ก่อนเข้าร่วมโครงการอย่างละเอยี ด คะแนน จานวน(คน) ร้อยละ 2 10 16.67 3 12 20 4 12 20 5 20 33.33 6 6 10 รวม 60 100 จากตารางท่ี 4.2.2 พบวา่ คะแนนทดสอบการประเมินความรู้ก่อนเขา้ ร่วมโครงการ มีคะแนนสูงสุด 6 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 10 และต่าสุด 2 คะแนน คิดเป็ นร้อยละ 16.67

38 ตารางท่ี 4.2.3 คะแนนการทดสอบประเมินความรู้หลงั เข้าร่วมโครงการอย่างละเอยี ด คะแนน จานวน(คน) ร้อยละ 8 20 33.33 9 25 41.67 10 15 25 รวม 60 100 จากตารางที่ 4.2.3 พบวา่ คะแนนทดสอบการประเมินความรู้หลงั เขา้ ร่วมโครงการ มีคะแนนสูงสุด 10 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 25 และคะแนนต่าสุด 8 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 33.33 4.3 ผลการทาแบบประเมินความพงึ พอใจ ตารางที่ 4.3.1 ค่าเฉลย่ี ของความพงึ พอใจต่อโครงการภาพรวม ลาดบั ที่ ประเดน็ ระดบั ความพงึ พอใจ xֿ S.D. แปลผล 1. ความพึงพอใจดา้ นกระบวนการ ข้นั ตอนการจดั 4.673 0.193 มากท่ีสุด กิจกรรม 4.786 0.173 มากที่สุด 2. ความพึงพอใจดา้ นวทิ ยากร 4.678 0.219 มากท่ีสุด 3. ความพึงพอใจดา้ นส่ิงอานวยความสะดวก 4.743 0.183 มากท่ีสุด 4. ความพึงพอใจดา้ นคุณภาพการจดั กิจกรรม จากตารางที่ 4.3.1 คา่ เฉล่ียของความพึงพอใจต่อโครงการภาพรวม พบวา่ มีความพงึ พอใจดา้ นคุณภาพ การใหบ้ ริการมากที่สุด (xֿ = 4. 833) รองลงมาความพงึ พอใจดา้ นเจา้ หนา้ ที่ผใู้ หบ้ ริการ (xֿ =4, 786) และความ พงึ พอใจดา้ นกระบวนการ/ข้นั ตอนการดาเนินโครงการ (xֿ = 4. 673) นอ้ ยท่ีสุด

39 ตารางที่ 4.3.2 ค่าเฉลย่ี ของผลประเมนิ ความพงึ พอใจของผู้เข้าร่วมโครงการ รายละเอยี ด ระดบั ความพงึ พอใจ xֿ S.D. แปลผล 1. ความพงึ พอใจด้านกระบวนการข้ันตอนการจัดกจิ กรรม 4.55 0.52 สูง 2.23 1.22 สูง 1.1 รูปแบบกิจกรรมการจดั กิจกรรม 4.41 0.57 สูง 1.2 ลาดบั ข้นั ตอนในการจดั กิจกรรม 2.23 1.22 ต่า 1.3 ระยะเวลาท่ีใชใ้ นการจดั กิจกรรม 4.50 0.55 สูง 1.4 เอกสารและสื่อประกอบในการจดั กิจกรรม 1.5 ความเหมาะสมของการจดั กิจกรรม 4.56 0.59 สูง 2. ความพงึ พอใจด้านวทิ ยากร 4.45 0.54 สูง 2.1 การถ่ายทอดความรู้ของวทิ ยากรมีความชดั เจน 4.43 0.61 สูง 2.2 การตอบขอ้ ซกั ถามในการจดั กิจกรรม 2.11 1.09 ต่า 3. ความพงึ พอใจด้านสิ่งอานวยความสะดวก 4.29 0.72 สูง 3.1 สถานท่ีจดั กิจกรรม 3.2 มีการใชเ้ ทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสม 4.29 0.65 สูง 4. ความพงึ พอใจด้านคุณภาพการจัดกจิ กรรม 3.84 0.34 สูง 4.1 ท่านไดร้ ับประโยชน์จากการเขา้ ร่วมกิจกรรมอยา่ ง คุม้ ค่า 4.2 ทา่ นสามารถนาความรู้ที่ไดร้ ับไปประยกุ ตใ์ ชใ้ น ชีวติ ประจาวนั ผลรวม

40 4.4 สรุปผลการดาเนินงานโครงการ โครงการเสริมสร้างความรู้และป้องกนั โรคหอบหืด หมู่ที่2 ตาบลน้าตก อาเภอทุ่งสง จงั หวดั นครศรีธรรมราช มีวตั ถุประสงค์เพ่ือป้องกนั เฝ้าระวงั และควบคุมการระบาดของโรคหอบหืด ส่งเสริมให้ สถาบนั ครอบครัวมีความเขม้ แข็งมีคุณภาพชีวติ ดีข้ึน ลดปัญหาความเสี่ยงโรคหอบหืด เป้าหมายเชิงคุณภาพ คือ ประชาชนมีความรู้ ความเขา้ ใจ ในการดูแลและป้องกนั โรคหอบหืด และเป้าหมายเชิงปริมาณ คือ อสม. และตวั แทนครัวเรือน หมู่ท่ี2 ตาบลน้าตก อาเภอทุ่งสง จงั หวดั นครศรีธรรมราช เขา้ ร่วมโครงการร้อยละ 60 ผรู้ ับผดิ ชอบโครงการ นางสาวสุธาทิพย์ ขาวนาค นกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉินการแพทย์ รุ่นท่ี 15 ช้นั ปี ที่ 2 โครงการน้ีไดด้ าเนินโครงการท่ีหมู่ท่ี2 ตาบลน้าตก อาเภอทุ่งสง จงั หวดั นครศรีธรรมราช ต้งั แต่วนั ท่ี 11 เมษายน-13 เมษายน 2563 ข้นั ตอนการดาเนินงานที่สาคญั คือ วนั จดั กิจกรรม ให้ผูเ้ ขา้ ร่วม โครงการทาแบบทดสอบก่อนและหลงั ให้ความรู้ มีการบรรยายให้ความรู้เก่ียวกบั โรคหอบหืดและวิธีการ ป้องกนั ของโรคหอบหืดรวมท้งั ทากิจกรรมกลุ่ม (Focus Group) เพื่อระดมสมอง และทาแบบประเมินความพึง พอใจส่วนวนั เดินรณรงคม์ ีใหค้ วามรู้เร่ืองการป้องกนั โรคหอบหืดพร้อมท้งั แจกแผน่ พบั แก่ประชาชน สรุปจากการทาโครงการอบรมให้ความรู้ป้องกันโรคหอบหืดในคร้ังน้ีพบว่าหลงั จากที่ กลุ่มเป้าหมายที่เขา้ ร่วมรับฟังการให้ความรู้เร่ืองการป้องกนั โรคหอบหืด กลุ่มเป้าหมายมีความรู้ความเขา้ ใจ และรู้จกั เลือกใชว้ ธิ ีการป้องกนั ตนเองและครอบครัวให้ห่างไกลจากโรคโรคหอบหืด โดยอาศยั หลกั การ และ วธิ ีการป้องกนั ตนเองแบบอื่นร่วมดว้ ยทาใหอ้ ตั ราป่ วยในหมูบ่ า้ นลดลง 4.5 ประโยชน์จากการทากจิ กรรม - ทาให้เกิดการพฒั นาความคิดและไดฝ้ ึ กทกั ษะการวางแผนอยา่ งเป็ นระบบและการกาหนด รูปแบบ ตา่ งๆใหส้ อดคลอ้ งกนั - ทาให้ไดเ้ รียนรู้เก่ียวกบั การทางานประสานงานและติดต่อกบั หน่วยงานต่าง ๆ พร้อมท้งั มีการวาง แผนการทางานอยา่ งมีระบบ - ไดฝ้ ึกทกั ษะการทางานร่วมกบั คนในชุมชน เพอ่ื ใชเ้ ป็นแนวทางแก่การทางานในอนาคต - การรู้จกั รับฟังความคิดเห็นของผอู้ ่ืนรวมไปถึงการประสานงานหรือการติดต่อกบั หน่วยงานต่างๆ - ทาใหร้ ู้จกั การแกป้ ัญหาเฉพาะหนา้ เมื่อเจอเหตุการณ์ที่ไม่ไดเ้ ป็ นไปตามแผนที่กาหนดไว้

41 4. 6 ปัญหาและอปุ สรรค - การดาเนินโครงการไม่เป็นไปตามระยะเวลาท่ีกาหนด - ผสู้ ูงอายมุ ีเวลาจากดั ทาใหต้ อ้ งเร่งการจดั กิจกรรม - นกั ศึกษาผบู้ รรยายใหค้ วามรู้มีความต่ืนเตน้ พูดเร็วจึงทาใหผ้ สู้ ูงอายฟุ ังไมท่ นั - เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายมีจานวนมากนกั ศึกษาผบู้ รรยายจึงไมส่ ามารถตอบขอ้ ซกั ถามไดอ้ ยา่ งทว่ั ถึง 4.7 ข้อเสนอแนะ 1. ควรมีความพร้อมในการดาเนินโครงการมากกวา่ น้ี 2. การทากิจกรรมควรใชร้ ะยะเวลาใหส้ ้ันกระชบั 3. ควรใหผ้ เู้ ขา้ ร่วมโครงการมีส่วนร่วมมากข้ึนเช่นการถาม-ตอบเป็นตน้ 4. สื่อท่ีใชค้ วรเนน้ ที่รูปภาพมากกวา่ ตวั หนงั สือรวมถึงควรใชต้ วั อกั ษรท่ีเห็นชดั เจน 5. ปรับการพดู ใหช้ า้ ลง 5. แนวทางการพฒั นางาน 5. 1 แนวทางการพฒั นางาน จากการจดั ประชุมกลุ่มเพอ่ื พจิ ารณาหาขอ้ ผดิ พลาคปัญหาและอุปสรรคของการทางานร่วมไป ถึงขอ้ เสนอแนะจากผูด้ ูแลโครงการ ซ่ึงนามาสะทอ้ นถึงขอ้ ผดิ พลาด และสาเหตุท่ีเกิดข้ึน และนามา พฒั นาในการจดั โครงการหรือกิจกรรมอ่ืน ๆ ร่วมกบั ชุมชนต่อไป ปัญหา สาเหตุ แนวทางการแก้ไข การดาเนินโครงการท่ีไม่ เวลาในการประสานงานรวม การดาเนินงานคร้ังต่อไปจะตอ้ ง เป็ นไปตามระยะเวลาท่ีกาหนด ไปถึงการบรรยายปรับแก้ล่าช้า มีการวางแผนและจดั สรรเวลาใน และประชาสมั พนั ธ์ยงั ไมท่ วั่ ถึง และการไม่รู้กาหนดการทาให้ การดาเนินงานให้เป็ นระบบไม่ยืด ระยะเวลาดาเนินงานไม่สัมพนั ธ์ ย้ื อ เ กิ น ไ ป เ พ่ื อ ใ ห้ ร ะ ย ะ เ ว ล า กับระยะเวลาที่กาหนดและการ เหมาะสมตามที่กาหนด ประชาสัมพนั ธ์ไมท่ วั่ ถึง

42 ก า ร พู ด ต้อ ง มี ค ว า ม มั่น ใ จ เน่ืองจากขาดประสบการณ์จึง การดาเนินงานในคร้ังต่อไปจะมี ใบหนา้ ยมิ้ และการใชน้ ้าเสียง ตอ้ ง ทาให้การพูดติดขัดและสถานที่ การวางแผน การเตรียมความพร้อม สม่าเสมอ เป็ นลานกวา้ งจึงทาให้เวลาพูดจะ ก่อนการเป็นกิจกรรม ไมค่ ่อยไดย้ นิ นาเสนอวิชาการส่ือที่ควร เนื่องจากขาดประสบการณ์ใน ในการวางแผนจัดทากิจกรรม เนน้ ท่ีรูปภาพมากกวา่ ตวั หนงั สือ การนาเสนองานในแหล่งชุมชน คร้ังต่อไปจะต้องมีการคานึงถึง จึงมีการเนน้ ไปท่ีวชิ าการ ก ลุ่ ม เ ป้ า ห ม า ย แ ล ะ ร ะ ดับ ค ว า ม รู้ ความสนใจของกลุ่มเป้าหมายท้งั น้ี สื่อจะตอ้ งมีเน้ือหาที่กระชบั และสื่อ ใหเ้ ขา้ ใจไดง้ ่าย

43 บทท่ี 5 สรุปผลโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ อภิปรายผลและขอ้ เสนอแนะการจดั โครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพคร้ังน้ีมีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือให้ นกั ศึกษาสามารถปฏิบตั ิกระบวนการศึกษาชุมชนและแกไ้ ขปัญหาสุขภาพที่เก่ียวขอ้ งกบั งานดา้ นสุขภาพซ่ึง ประกอบดว้ ยการศึกษาชุมชนการเตรียมชุมชนและการวนิ ิจฉยั ชุมชนพร้อมท้งั การแกไ้ ขปัญหาและพฒั นา ชุมชนซ่ึงประกอบไปดว้ ยการวางแผนการดาเนินการตามแผนและการประเมินผลการดาเนินงานโดยมี รายละเอียดดงั น้ี 5.1 สรุปผลโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ 5.2 อภิปรายผลโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ 5.3 ขอ้ เสนอแนะโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ 5.4 สรุปผลโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ 5.1.1 ขอ้ มูลทว่ั ไปจากการศึกษาชุมชนหมู่ท่ี2 ตาบลน้าตก อาเภอทุ่งสง จงั หวดั นครศรีธรรมราช สารวจชุมชน โดยใชแ้ บบสอบถามพบวา่ ประชากรท่ีตอบแบบสอบถามมีช่วงอายุ41-50 ปี ร้อยละ 40 ช่วงอายุ 60 ปี ข้ึนไป ร้อยละ 20 สรุปไดว้ า่ ประชากรในชุมชนท่ีทาแบบสอบถามอยใู่ นช่วงอายุ 41-50 ปี ปี ข้ึนไป เป็น เพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 50 เป็นเพศชาย คิดเป็นร้อยละ 10 ประชากรส่วนใหญท่ ่ีตอบแบบสอบถามมีการศึกษา ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย ร้อยละ 40 รองลงมาระดบั การศึกษาประถมศึกษา ร้อยละ 30 ระดบั ปริญญาโท ร้อยละ 20 5.1.2 ขอ้ มูลดา้ นระบบสุขภาพจากการท่ีประชากรตอบแบบสอบถาม สรุปไดว้ า่ ปัญหาปัญหาดา้ นสุขภาพ มีค่าเฉล่ียเลขคณิตสูงท่ีสุดคือ 2. 23 และมีค่าเบ่ียงเบนมาตรฐานอยทู่ ่ี 0. 77 รองลงมา คือ มีดา้ นเศรษฐกิจ ค่าเฉลี่ยเลขคณิตสูงที่สุดคือ 2.22 และมีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานอยทู่ ี่ 0.79

44 5.2 อภิปรายผล จากการศึกษาชุมชนหมู่ท่ี2 ตาบลน้าตก อาเภอทุ่งสง จงั หวดั นครศรีธรรมราช และการจดั ลาดับ ความสาคญั ของปัญหาโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนโดยการทาประชาคมซ่ึงพบวา่ ปัญหาท่ีสมควรคาเนินการ แกไ้ ขเป็ น อนั ดบั แรกคือ ด้านสุขภาพ โรคหอบหืด ด้วยเหตุผลดงั กล่าวจึงไดจ้ ดั ทาโครงการเพ่ือดาเนินการ แกไ้ ขปัญหาดา้ นสุขภาพเรื่องโรคหอบหืด ในชุมชนหมู่ที่2 ตาบลน้าตก อาเภอทุ่งสง จงั หวดั นครศรีธรรมราช โดยมีกิจกรรมในโครงการประกอบดว้ ย 3 กิจกรรมหลกั คือ การบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกบั โรคไขห้ วดั ใหญ่ และวธิ ีการป้องกนั โรคหอบหืด กิจกรรมตอบคาถามเก่ียวกบั ความรู้โรคหอบหืด เดินรณรงคป์ ้องกนั โรคหอบ หืด หลงั จากใหค้ วามรู้ ซ่ึงสามารถอภิปรายผลไดด้ งั น้ีคือ 5.2.1 กิจกรรมใหค้ วามรู้เร่ืองโรคหอบหืด พบวา่ มีตวั แทนครัวเรือนและผูน้ าชุมชนเขา้ ร่วมในกิจกรรม คิดเป็ นร้อยละ 100 และผูเ้ ขา้ ร่วมโครงการ ไดค้ วามรู้เชิงทฤษฎีเพ่ิมมากข้ึน โดยส่วนใหญ่อยูใ่ นระดบั ดี ซ่ึง บรรลุตามเป้าหมาย และการที่ประชาชนมีความรู้เก่ียวกบั โรคหอบหืด มากข้ึนทาใหป้ ระชาชนมีความรู้ 5.2.3 กิจกรรมเดินรณรงคป์ ้องกนั โรคหอบหืด พบวา่ ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการมีความรู้ในเชิงปฏิบตั ิเพ่ิมมาก ข้ึน พบว่า ประชาชนไดใ้ ห้ความสนใจ และร่วมกิจกรรมเป็ นอย่างดี โดยประชาชนที่เขา้ ร่วมโครงการส่วน ใหญ่มีความพึงพอใจอยูใ่ นระดบั ดี มากกวา่ ร้อยละ 50 ซ่ึงจากการจดั ทาโครงการดงั กล่าวน้ีทาให้ประชาชนมี ความรู้ทกั ษะและสามารถปฏิบตั ิไดจ้ ริงในเร่ืองโรคหอบหืด 5.3 ข้อเสนอแนะการจัดโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ 5.3.1 ขอ้ เสนอแนะ 5.3.1.1 ในการจดั โครงการ ควรมีการประชาสัมพนั ธ์ใหท้ ว่ั ถึง และใหเ้ ขา้ ใจวตั ถุประสงคข์ องกิจกรรม 5.3.1.2 ควรมีการดึงประชาชนเขา้ มามีส่วนร่วมในกิจกรรมให้มากที่สุด โดยมีกิจกรรมสันทนาการ ละลายพฤติกรรมก่อนเขา้ เน้ือหาบทเรียน 5.3.1.3 ควรมีการเพ่ิมระยะเวลาในการจดั กิจกรรมโดยการติดตามและประเมินผลโครงการอย่าง ตอ่ เนื่อง เพ่ือประเมินวา่ ประชาชนมีความรู้ในเรื่องโรคหอบหืด มากแค่ไหน

45 ภาคผนวก

46 ภาพกจิ กรรม

47

48 แบบสอบถามข้อมูลสภาพปัญหาของประชาชนในชุมชน (บา้ นวงั ธน หมู่ท่ี2 ต.น้าตก อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช) ตอนท1่ี ข้อมูลทวั่ ไป 1. ชื่อ……………………..................นามสกลุ ................................................. 2. เพศ 1.หญิง 2. ชาย 3. อายุ 3.2 20-30ปี 3.1 ต่ากวา่ 20ปี 3.3 31-40ปี 3.4 41-50ปี 3.5 51-60ปี 3.6 60ปี ข้ึนไป 4. สถานภาพสมรส 4.1 โสด 4.2 สมรส 4.3 หยา่ ร้าง อ่ืนๆ ระบุ………………………….. 5. ระดับการศึกษาสูงสุด 5.1ต่ากวา่ ประถมศึกษา 5.2 ประถมศึกษา 5.3มธั ยมศึกษาตอนตน้ (ม.1-ม.3) 5.4มธั ยมศึกษาตอนปลาย(ม.4-ม.6) 5.5 ประกาศนียบตั รวชิ าชีพ(ปวช.) หรือเทียบเทา่ 5.6ประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สูง(ปวส.) หรือ เทียบเท่า 5.7 ปริญญาตรี 5.8ปริญญาโท 5.9 ปริญญาเอก 5.10อ่ืนๆ ระบุ…………… 6. อาชีพหลกั ของครอบครัว 6.1รับจา้ งทวั่ ไป 6.2 เกษตรกร/ทานา/ทาไร่/ทาสวน 6.3ขา้ ราชการ/ลูกจา้ งหรือพนกั งานของรัฐ 6.4คา้ ขาย/ธุรกิจ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook