ประวัติ ป1

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าพืน้ ฐาน ประวัติศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ผเู้ รยี บเรียง : นางราตรี โตจั่น

1 ตัวอยา งแผนการจัดการเรยี นรู หนังสอื เรยี นรายวิชาพน้ื ฐาน ประวัตศิ าสตร ชั้นประถมศึกษาปท ่ี 1 กลมุ สาระการเรียนรูสังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ผูเรียบเรียง : นางนริ มล จลุ พงษ

รายวชิ าประวตั ิศาสตร์ 2 ระดับช้ันประถมศึกษาปี ที่ 1 ช่ัวโมง หน่วยท่ี หน่วยการเรียนรู้ 2 1 ตนเองและครอบครัว 1 2 เรื่องท่ี 1 ฉนั คือใคร 2 เร่ืองที่ 2 ครอบครัวของฉนั 2 วนั เวลา 2 เร่ืองท่ี 3 วนั น้ีวนั อะไร 2 เร่ืองที่ 4 วนั สาํ คญั 2 เร่ืองที่ 5 ช่วงเวลาวนั หน่ึงของฉนั 2 2 3 ความเปลย่ี นแปลง 2 เร่ืองที่ 6 ชีวติ สมยั คุณป่ ู 2 เร่ืองที่ 7 เม่ือก่อนกบั วนั น้ี 2 เรื่องที่ 8 ยา้ ยบา้ น 2 2 4 สัญลกั ษณ์ทแี่ สดงความเป็ นชาตไิ ทย 2 เรื่องท่ี 9 ประเทศของเรา 2 เร่ืองที่ 10 ธงไตรรงค์ 2 เร่ืองที่ 11 คนไทยไหวส้ วย เรื่องท่ี 12 ภาษาไทยของเรา 33 5 วฒั นธรรมและภูมิปัญญาในท้องถ่นิ เร่ืองท่ี 13 มรดกป่ ูยา่ เรื่องที่ 14 สมุนไพรในสวน เร่ืองที่ 15 มรดกวฒั นธรรมในชุมชน เร่ืองท่ี 16 เราคือคนไทย เร่ืองท่ี 17 ความภูมิใจในความเป็นไทย รวม

หนว ยที่ 1 ตนเองและครอบครัว แผนการจดั การเรียนรทู ี่ 1 3 เรอ่ื งที่ 1 ฉันคอื ใคร สาระการเรียนรูประวตั ศิ าสตร ชน้ั ประถมศึกษาปท่ี 1 จํานวน 2 ชว่ั โมง มาตรฐาน ส 4.1 เขา ใจความหมาย ความสาํ คัญของเวลาและยคุ สมัยทางประวตั ศิ าสตร สามารถใชว ธิ กี าร ทางประวตั ิศาสตรมาวเิ คราะหเ หตกุ ารณต า งๆอยา งเปนระบบ 1. ความคิดรวบยอด การบอกเลาประวตั ิความเปนมาของตนเองและครอบครวั ดวยการลาํ ดบั ชวงเวลาท่นี า จดจําเปน สิง่ สาํ คัญท่เี ราควรทําและจดจาํ ชวงเวลานัน้ ไวดวยความภาคภูมใิ จ 2. ตวั ชี้วดั ส 4.1 (3) บอกประวัติความเปน มาของตนเองและครอบครัวอยางงาย โดยสอบถามผเู กยี่ วขอ ง 3. จดุ ประสงคก ารเรียนรู บอกเลา ประวัติความเปนมาของตนเองและครอบครวั ได 4. สมรรถนะสาํ คญั ของผเู รียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใชทกั ษะชีวติ 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค 1. รักชาติ ศาสน กษตั รยิ  2. มวี ินัย 3. ใฝเรียนรู 4. มุงม่นั การทาํ งาน 5. รักความเปน ไทย 6. สาระการเรยี นรู 1. วธิ ีสบื คนประวัตคิ วามเปน มาของตนเองและครอบครวั อยา งงายๆ 2. การบอกเลา ประวัติความเปน มาของตนเองและครอบครวั 7. ช้ินงาน/หลกั ฐานรองรอยแสดงความรู 1. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมและแบบประเมนิ ผลงาน 2. ใบงาน 8. กิจกรรมการเรียนรู ชว่ั โมงที่ 1 1. ครูสนทนากบั นกั เรียนดว ยการแนะนาํ ตนเองเพอ่ื เปนตัวอยางวิธีการแนะนําตนเองใหก ับนกั เรยี นแลว ถามวานกั เรียนในหองน้รี จู ักกนั ทกุ คนหรอื ยัง 2. ครูถามนักเรยี นถึงประวตั ิของตวั นักเรยี นเองเชน ช่ือ นามสกลุ วนั เดอื น ปเกิด ชอื่ บิดา มารดา อาชพี ของบิดา มารดา จํานวนสมาชกิ ของครอบครวั ความสามารถพเิ ศษ แลวใหน กั เรยี นออกมาแนะนาํ ตนเองหนา ชนั้ เรียน 3. ครูแจกใบงานที่ 1 กจิ กรรมมติ รสัมพันธ ใหน ักเรยี นทาํ ความรูจักเพอ่ื นโดยใหนักเรยี นเดินไปใหเ พือ่ นลง ช่อื อยา งนอย 5 คน

4 8. กจิ กรรมการเรยี นรู ชัว่ โมงที่ 1 1. ครูสนทนากบั นกั เรยี นดวยการแนะนําตนเองเพือ่ เปน ตัวอยา งวิธีการแนะนําตนเองใหก บั นกั เรียนแลว ถามวานักเรียนในหอ งนร้ี ูจกั กนั ทุกคนหรือยงั 2. ครถู ามนักเรียนถึงประวัติของตัวนักเรียนเองเชน ชื่อ นามสกุล วัน เดอื น ปเ กิด ชื่อบดิ า มารดา อาชพี ของบิดา มารดา จํานวนสมาชกิ ของครอบครัว ความสามารถพเิ ศษ แลว ใหนักเรยี นออกมาแนะนําตนเองหนา ช้นั เรียน 3. ครแู จกใบงานที1่ กจิ กรรมมติ รสัมพันธ ใหน ักเรยี นทําความรูจกั เพือ่ นโดยใหน ักเรยี นเดินไปใหเพื่อนลง ช่ืออยางนอย 5 คน 9. สอื่ /แหลงเรียนรู 1. หนังสือเรียนรายวิชาพน้ื ฐาน ประวัตศิ าสตร ชั้นประถมศกึ ษาป 1 2. ใบงานท่ี 1 กจิ กรรมมิตรสมั พนั ธ 10. การวดั และประเมนิ ผล 10.1 วิธวี ัด - สังเกตการณต อบคําถาม - ตรวจใบงาน

5 ใบงานท่ี 1 เรื่อง มติ รสมั พนั ธ คําส่งั : ใหน กั เรียนใสช อื่ เพือ่ นท่ีเรารจู กั 5 คน ชือ่ -สกุล/ชอื่ เลน เพอื่ นคนที่ 1 2 3 4 5 พิจารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น อยูในดุลยพินจิ ของครูผสู อน ชอื่ .........................................................นามสกลุ ...................................................... เลขที่................................. ช้นั .....................................................................................

6 ชั่วโมงที่ 2 1. ครทู บทวนความรูแ ละอธิบายเพิ่มเติมถงึ การรูจกั ตนเองวา เปนใคร มาจากไหนดวยการสอบถามจาก ผูป กครองเพื่อใหเ รารูจ ักเร่ืองราวของตนเอง 2. ครูแจกใบงานที่ 2 เร่อื ง ฉนั คอื ใคร ใหน กั เรียนทํา 3. ครูเฉลยใบงานแลว อธบิ ายสรปุ ใหนักเรียนเหน็ ความสําคญั ของการรจู กั ตนเองวาเปน ใครมาจากไหนเปน คนอยางไรชอบอะไรไมชอบอะไรและควรบอกใหเพื่อนๆ รดู วยเพ่ือจะไดเรียนรซู ึ่งกันและกันถอ ยทถี อ ยอาศยั เปน เพือ่ นรวมช้นั เรยี นและอยูรว มกนั อยางสันติสุข 9. ส่ือ/แหลงเรียนรู 1. หนังสอื เรียน รายวิชาพนื้ ฐาน ประวัตศิ าสตร ช้ันประถมศกึ ษาป 1 ของกระทรวงศึกษาธิการ 2. ใบงานเร่อื งฉนั คือใคร 10. การวดั และประเมินผล 10.1 วธิ วี ดั - ตรวจใบงาน - สงั เกตการณต อบคาํ ถาม

7 ใบงานท่ี 2 เรอ่ื ง ฉนั คอื ใคร คุณปู คณุ ยา คณุ ตา คุณยาย ชื่อ......................... ช่อื ...................... ชอื่ ...................... ช่อื .................... คุณพอ คณุ แม ชือ่ .................................... ชอื่ ....................................... ชื่อ...................................................... ชื่อ.........................................................นามสกลุ ...................................................... เลขท่ี................................. ช้นั ....................................................................................

8 เฉลย ใบงานท่ี 2 เรอ่ื ง ฉนั คือใคร ตวั อยา่ ง (จะใส่ชื่อจริงหรือชื่อเล่น หรือไม่ใส่นามสกลุ กไ็ ด)้ คณุ ปู คุณยา คุณตา คุณยาย ช่ือ....สละ.... ชื่อ....กลั ยา...... ช่อื .....เฉลมิ พล ชือ่ ...วรนช... คณุ พอ คุณแม ช่อื ......วีระพนั ธ. ........ ชือ่ .....เนตรนภวด.ี .......... ชอ่ื .........ณัฐนนท ปล้ืมอารมณ..............

9 หนวยท่ี 1 ตนเองและครอบครัว แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ 2 ชั้นประถมศกึ ษาปท ่ี 1 เรอ่ื งท่ี 2 ครอบครวั ของฉนั สาระการเรียนรปู ระวตั ศิ าสตร จํานวน 1 ชั่วโมง มาตรฐาน ส 4.1 เขาใจความหมาย ความสาํ คัญของเวลาและยคุ สมยั ทางประวตั ศิ าสตร สามารถใชวธิ ีการทาง ประวตั ิศาสตรม าวเิ คราะหเหตกุ ารณตางๆอยา งเปน ระบบ 1. ความคดิ รวบยอด การเรยี นรปู ระวัติความเปน มาของครอบครวั ทาํ ใหเ รารจู กั ตัวเราและเกิดความภาคภมู ใิ จ ในตนเองและครอบครวั และยังทําใหเกิดความเขา ใจเหตกุ ารณต า งๆท่เี กิดขน้ึ กบั ครอบครวั ผา นการณเวลา ทีน่ าจดจําและยงั กอ ใหเกดิ ความเขาใจความหมายของชว งเวลาอกี ดว ย 2. ตวั ชวี้ ัด ส 4.1 (3) บอกประวัตคิ วามเปน มาของตนเองและครอบครวั อยางงาย โดยสอบถามผูเก่ียวของ 3. จดุ ประสงคก ารเรยี นรู 1. บอกเลา ประวตั ิความเปน มาของตนเองและครอบครวั ได 4. สมรรถนะสาํ คญั ของผเู รยี น 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใชทกั ษะชวี ิต 5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค 1. รักชาติ ศาสน กษตั รยิ  2. มวี นิ ยั 3. ใฝเ รียนรู 4. มุง มัน่ การทาํ งาน 5. รกั ความเปน ไทย 6. สาระการเรยี นรู 1. วธิ สี บื คนประวตั คิ วามเปนมาของตนเองและครอบครวั อยา งงายๆ 2. การบอกเลา ประวตั คิ วามเปน มาของตนเองและครอบครวั 7. ชนิ้ งาน/หลกั ฐานรอ งรอยแสดงความรู 1. แบบประเมนิ พฤติกรรมและแบบประเมนิ ผลงาน 2. ใบงาน

10 8. กจิ กรรมการเรยี นรู 1. ครูทบทวนความรจู ากนั้นสนทนาถึงครอบครัวของนักเรียนดวยคาํ ถามนํางายๆ เชน คณุ ตาคอื ใคร คณุ ปคู ือใคร เปนตน 2. ครูถามนกั เรยี นวาบานของนกั เรียนมีสมาชกิ กี่คนประกอบดว ยใครบา ง แลวอธบิ ายเพิ่มเตมิ ถงึ การเรยี งลําดับเครอื ญาตใิ นบา นของนกั เรียนเชน นา หมายถึง นอ งของแม เปนตน 3. ครูแจกใบงานท่ี 3 เร่อื งครอบครวั ของฉัน ใหท ํา 4. ครูตรวจใบงานท่ี 3 เร่ืองครอบครัวของฉัน พรอมกับสรปุ บทเรยี น 9.ส่ือ/แหลงเรยี นรู 1 .หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพ้นื ฐาน ประวตั ศิ าสตร ช้นั ประถมศึกษาป 1 ของกระทรวงศึกษาธกิ าร 2. ใบงานท่ี 3 เรือ่ งครอบครัวของฉัน 10. การวัดและประเมินผล 10.1 วธิ วี ัด - สังเกตการณต อบคาํ ถาม - ตรวจใบงานเรือ่ งครอบครวั ของฉัน

11 ใบงานท่ี 3 เร่ือง ครอบครัวของฉนั คําสง : ใหนักเรียนโยงภาพใหถ ูกตอง คณุ พอ ตวั ฉนั คณุ ยาย คุณปู คณุ ยา คุณตา คุณแม ชอื่ .........................................................นามสกุล...................................................... เลขท.่ี ................................ ช้นั ....................................................................................

12 เฉลย ใบงานที่ 3 เรื่อง ครอบครวั ของฉนั คาํ สง : ใหน ักเรยี นโยงภาพใหถูกตอง คุณพอ ตวั ฉัน คุณยาย คุณปู คุณยา คุณตา คุณแม

13 แบบทดสอบกอนเรียน-หลังเรียน หนวยการเรียนรูท่ี 1 ตนเองและครอบครวั คาํ ช้ีแจง ใหนักเรียนเลือกคําตอบท่ีถูกตองท่ีสุดเพียงขอเดียว 1. ใครใหข อ มลู เกย่ี วกับครอบครัวไดด ที ่ีสุด 6. ขอ ใดเปน ผลดขี องการศกึ ษาประวัตคิ วามเปนมาของ ก. คณุ ครู ครอบครัว ข. ตายาย ก. ทาํ ใหฐ านะม่นั คง ค. พระสงฆ ข. ทาํ ใหช่อื เสยี งโดงดงั ค. เกดิ ความผูกพนั ในครอบครัว 2. ขอ ใดไมใชคาํ ถามเก่ยี วกับประวัติความเปน มาของ ครอบครัว 7. การนําขอ มูลของครอบครัวทีส่ ืบคนไดม าเปรยี บเทยี บกนั ก. วันนวี้ นั ทเี่ ทา ใด จดั เปน ข้ันตอนใดของวิธกี ารทางประวัตศิ าสตร ข. เปน คนจงั หวดั อะไร ก. นาํ เสนอขอ มลู ค. เคยประกอบอาชพี อะไร ข. รวบรวมขอ มลู ค. ตรวจสอบขอ มลู 3. นักเรยี นรสู ึกอยางไร ถา คุณปเู ปนชาวไร ก. อับอาย 8. ถานกั เรียนปฏิบัติตวั ไมด ีจะสงผลตอ วงศตระกลู อยางไร ข. รงั เกยี จ ก. ทําใหเ ส่อื มเสยี ชอื่ เสียง ค. ภาคภมู ใิ จ ข. เปน ท่ยี อมรบั ของครอบครวั อ่ืน ค. ไมมอี ะไรเกดิ ขน้ึ เพราะเราทําตวั เอง 4. ขอใดไมใ ชวิธีการนําเสนอประวตั ิความเปน มาของ ครอบครัว 9. การสบื คน ประวัตคิ วามเปน มาของครอบครวั ขอ มูลจาก แหลงใดนา เช่ือถอื มากท่ีสุด ก. รองเพลง ก. สจู บิ ัตร ข. เขียนเรียงความ ข. หนังสอื พิมพ ค. เลา เปน เรอ่ื งราว ค. ทะเบยี นบา น 5. ขอใดเปนขั้นตอนการสบื คน ประวตั คิ วามเปนมาของ ครอบครัว 10. นักเรยี นควรทําอยางไร ถา ตองการทราบทม่ี าของชอ่ื ก. เลอื กขอมลู ทีน่ า อบั อาย ตนเอง ข. สอบถามขอมูลจากพอแม ค. สอบถามความคดิ เหน็ ของเพ่ือน ก. ดจู ากสตู ิบัตร ข. สอบถามพอแม ค. สอบถามนายอําเภอ 1. ข 2. ก 3. ค 4. ก 5.ข ไดค ะแนน คะแนนเตม็ 6. ค 7. ค 8. ก 9. ค 10. ข 1100

14 หนว ยที่ 2 วนั เวลา แผนการจัดการเรยี นรูที่ 3 ช้ันประถมศึกษาปท ่ี 1 เรื่อง 3 วันนี้วันอะไร สาระการเรยี นรูประวตั ศิ าสตร จํานวน 2 ชวั่ โมง มาตรฐาน ส 4.1 เขา ใจความหมาย ความสําคัญของเวลาและยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร สามารถใชวิธกี าร ทางประวตั ศิ าสตรมาวิเคราะหเ หตุการณตา งๆอยา งเปนระบบ 1. ความคดิ รวบยอด เวลาเปนสิ่งมีคาเราควรทาํ ความเขา ใจการนบั เวลาใหถูกตอ งเพราะชว งเวลามคี วามสําคัญ ตอการดํารงชีวติ ประจาํ วันของทกุ คนและเราควรใชเวลาใหเกิดประโยชนอยางคุมคา 2. ตัวชว้ี ดั ส 4.1 (1) บอกวนั เดือนป และการนับเวลาตามปฏิทินท่ใี ชใ นชวี ติ ประจําวนั ส 4.2 (2) เรียงลําดบั เหตุการณใ นชวี ิตประจําวนั ตามวันเวลาทเี่ กดิ ข้ึน 3. จดุ ประสงคก ารเรยี นรู 1. บอกชอื่ วันในหนง่ึ สัปดาหไ ด 2. บอกสีประจาํ วันในหน่งึ สปั ดาหไ ด 4. สมรรถนะสาํ คัญของผเู รียน 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใชท ักษะชวี ิต 5. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค 1. รักชาติ ศาสน กษตั รยิ  2. มีวนิ ยั 3. ใฝเ รยี นรู 4. มงุ มั่นการทาํ งาน 5. รกั ความเปน ไทย 6. สาระการเรยี นรู 1. ชอื่ วนั เดอื น ป ตามระบบสรุ ิยคตทิ ่ปี รากฏในปฏิทนิ 2. ชอื่ วัน เดอื น ป ตามระบบจนั ทรคติทีป่ รากฏในปฏิทนิ 3. ใชคําบอกเวลา เชน วนั นี้ เดือนนี้ ตอนเชา ตอนกลางวัน ตอนเย็น ตอนคาํ่ เลาเหตุการณใ นปจ จุบนั 7. ชนิ้ งาน/หลกั ฐานรอ งรอยแสดงความรู 1. แบบประเมนิ พฤติกรรมและแบบประเมนิ ผลงาน 2. ใบงาน

15 8. กิจกรรมการเรยี นรู ชั่วโมงท่ี 1 1. ครูสนทนากบั นักเรยี นถึงวันท่นี ักเรียนมาโรงเรยี นวา มากี่วนั คอื วนั อะไรบาง แลว หยุดกว่ี นั เรียกวา วนั อะไรบา ง ครูสรุปใหนักเรยี นฟง แลวเขยี นบนกระดานวาสปั ดาหห น่ึงมี 7 วนั คอื วันจนั ทร วนั องั คาร วนั พุธ วันพฤหัสบดี วันศุกร วนั เสาร และวนั อาทิตย 2. ครูหยบิ กระดาษสีขนึ้ มาอธบิ ายถึงสีประจาํ วนั แลว แจกใบงานท่ีท่ี 4 เรอ่ื งสปี ระจาํ วันใหน กั เรยี น โยงภาพใหถกู ตอ ง 3. ครเู ฉลยใบงานท่ี 4 เรื่อง สปี ระจาํ วนั 4. นกั เรยี นและครูชว ยกนั สรปุ บทเรียน 9. ส่ือ/แหลง เรยี นรู 1. หนงั สือเรยี นรายวิชาพื้นฐาน ประวัติศาสตร ชนั้ ประถมศกึ ษาป 1 ของกระทรวงศึกษาธกิ าร 2. ใบงาน 10. การวดั และประเมนิ ผล 10.1 วิธวี ดั - สังเกตการณต อบคาํ ถาม - ตรวจใบงาน

16 ใบงานที่ 4 เรอื่ ง สีประจาํ วัน คําสัง่ : ใหนักเรียนโยงภาพสปี ระจาํ วนั ใหถกู ตอ ง วันจันทร วันองั คาร วนั พุธ วันพฤหสั บดี วนั ศกุ ร วันเสาร วนั อาทิตย ชอ่ื .........................................................นามสกลุ ................................................... เลขท่.ี ................................ ชน้ั .....................................................................................

17 เฉลย ใบงานที่ 4 เร่ือง สีประจาํ วนั คาํ ส่งั : ใหน ักเรยี นโยงภาพสปี ระจําวนั ใหถ กู ตอง วันจันทร วนั อังคาร วนั พธุ วันพฤหัสบดี วันศกุ ร วันเสาร ชว่ั โมงท่ี 2 วันอาทิตย

18 ชวั่ โมงท่ี 2 1. ครอู ธบิ ายความสําคัญของการนบั วัน เดือน ป ตามปฏิทินใหน ักเรยี น ทราบวา - 7 วัน เปน 1 สปั ดาห - 4 สัปดาหเ ปน 1 เดือน - 12 เดือน เปน 1 ป - 1 ป มี 365 วัน 2. ครอู ธิบายเพมิ่ เตมิ เกย่ี วกบั พระจันทรข างข้ึน - ขางแรม และใหน กั เรียนฟง ครูสนทนากับนกั เรยี นถงึ การ นับเวลาแบบเวลาในระบบจันทรคติ เปนการบอกเวลาโดยการอาศัยการดพู ระจนั ทรเ ปน หลกั เปนการนับเวลาแบบ ไทย นอกจากน้ียังมกี ารนบั ตามปฎทิ ินทีเ่ รียกวาการนับแบบสรุ ยิ คติโดยยดึ พระอาทิตยเ ปน หลัก 3. ครนู าํ ปฏทิ นิ อันใหญ เดอื นพฤษภาคม2557 ติดทีห่ นา กระดาน แลว ใหนักเรียนสงั เกตดูวา เดอื น พฤษภาคมมีกส่ี ัปดาหแ ลว ถามนาํ วาปฎทิ นิ บอกอะไรแกเ ราบา ง 4. ครแู จกใบงานที่ 5 เร่อื ง วนั เดอื น ป ในปฎทิ ินใหนกั เรยี นทํา 5. ครูเฉลยใบงานที่ 5 เร่อื ง วัน เดอื น ป ในปฎทิ ิน 6. นักเรียนและครชู วยกันสรุปบทเรียน 9. สือ่ /แหลงเรียนรู 1. หนงั สือเรียนรายวชิ าพน้ื ฐาน ประวตั ิศาสตร ชั้นประถมศึกษาป 1 ของกระทรวงศึกษาธิการ 2. ใบงาน 10. การวดั และประเมินผล 10.1 วิธีวัด - สังเกตการณตอบคาํ ถาม - ตรวจใบงาน พฤษภาคม 2557 อ จ อ พ พฤ ศ ส ๑๒๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ข้ึน ๘ ค่ํา เดอื น ๖ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ขนึ้ ๑๕ คํ่า เดอื น ๖ ๑๘ ๑๙ ๒๐ ๒๑ ๒๒ ๒๓ ๒๔ แรม ๘ ค่าํ เดอื น ๖ ๒๕ ๒๖ ๒๗ ๒๘ ๒๙ ๓๐ ๓๑ แรม ๑๕ ค่าํ เดอื น ๖ ๑ วนั แรงงานแห่งชาติ ๕ วนั ฉตั รมงคล ๙ วนั พชื มงคล ๑๓ วนั วสิ าขบชู า

19 ใบงานที่ 5 เรอื่ ง วนั เดือน ป ในปฏทิ ิน คาํ สง่ั : ใหน กั เรียนกาเครือ่ งหมาย  ลงในชองทเี่ หน็ วา ถกู 1. 1 สัปดาห มกี ่ี วัน 2. 1 เดอื น มี ก่ี สปั ดาห 3. 1 ป มี ก่ี เดอื น 4. 12 เดอื น เทา กับ ก่ี ป 5. เดือนท่ี 1 ของทกุ ปคือเดือนใด เดือนกมุ ภาพนั ธ์ เดือนมกราคม เดือนเมษายน 6. เดอื นมกราคมมี ก่ี วนั 7. เดอื นกุมภาพนั ธ มกี ี่วนั 8. เดอื นเมษายนมีกวี่ ัน

20 9. การนับเวลาแบบจนั ทรคตยิ ดึ สิง่ ใดเปนหลัก 10. การนบั เวลาแบบสรุ ิยคตยิ ดึ สิง่ ใดเปน หลัก 11. วันทีเ่ ปนขา งข้นึ ในปฏทิ นิ จะปรากฏรปู ใดเปนสญั ลกั ษณ 12. วนั ที่เปนขางแรม ในปฏทิ นิ จะปรากฏรปู ใดเปนสัญลกั ษณ ช่ือ......................................................นามสกุล...................................................... เลขท่.ี ................................ ช้ัน.....................................................................................

21 เฉลย ใบงานที่ 5 เร่อื ง วนั เดือน ป ในปฏทิ นิ คําสง่ั : ใหน ักเรยี นกาเครื่องหมาย  ลงในชองทเี่ หน็ วา ถูก 1. 1 สัปดาห มีก่ี วัน 2. 1 เดอื น มี ก่ี สัปดาห   3. 1 ป มี ก่ี เดอื น   4. 12 เดอื น เทากับ ก่ี ป เดือนเมษายน 5. เดือนที่ 1 ของทุกปค อื เดอื นใด เดือนมกราคม   เดือนกมุ ภาพนั ธ์ 6. เดือนมกราคมมี ก่ี วัน  7. เดือนกุมภาพันธ มีกีว่ นั 8. เดือนเมษายนมีก่ีวัน 

22 9. การนบั เวลาแบบจันทรคติยดึ สงิ่ ใดเปน หลัก  10. การนบั เวลาแบบสรุ ยิ คตยิ ึดสิง่ ใดเปนหลัก  11. วันทีเ่ ปน ขา งขน้ึ ในปฏิทนิ จะปรากฏรูปใดเปน สญั ลักษณ  12. วนั ที่เปน ขา งแรม ในปฏทิ ินจะปรากฏรูปใดเปนสญั ลกั ษณ 

23 หนวยท่ี 2 วนั เวลา แผนการจดั การเรียนรูท่ี 4 ช้นั ประถมศกึ ษาปท่ี 1 เรื่องท่ี 4 วนั สาํ คญั สาระการเรยี นรูประวัตศิ าสตร จาํ นวน 2 ชวั่ โมง มาตรฐาน ส 4.1 เขาใจความหมาย ความสําคัญของเวลาและยคุ สมัยทางประวตั ศิ าสตร สามารถใชว ิธกี าร ทางประวตั ศิ าสตรมาวิเคราะหเ หตุการณต า งๆอยางเปน ระบบ 1. ความคดิ รวบยอดเวลาเปน ส่งิ มคี าเราควรทําความเขาใจการนับเวลาใหถ กู ตอ งเพราะชวงเวลามีความสาํ คัญ ตอการดาํ รงชีวิตประจําวนั ของทุกคนและเราควรใชเวลาใหเ กิดประโยชนอ ยางคุม คา 2. ตัวชี้วัด ส 4.1 (1) บอกวนั เดือนป และการนับเวลาตามปฏิทนิ ทีใ่ ชในชีวิตประจําวนั ส 4.2 (2) เรียงลําดบั เหตกุ ารณใ นชีวติ ประจําวนั ตามวนั เวลาท่ีเกดิ ขนึ้ 3. จุดประสงคก ารเรยี นรู 1. บอกวนั สาํ คัญในปฏทิ นิ ได 2. ปฎิบัตติ นในวันสาํ คัญตามปฎิทนิ ไดถ ูกตอ ง 3. บอกความหมายของวันสําคัญตา งๆได 4. สมรรถนะสาํ คญั ของผเู รยี น 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใชทกั ษะชวี ติ 5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค 1. รักชาติ ศาสน กษัตรยิ  2. มีวนิ ัย 3. ใฝเ รยี นรู 4. มงุ มั่นการทาํ งาน 5. รกั ความเปน ไทย 6. สาระการเรยี นรู 1. ชือ่ วนั เดอื น ป ตามระบบสุรยิ คตทิ ่ีปรากฏในปฏิทิน 2. ช่อื วัน เดือน ป ตามระบบจันทรคติทป่ี รากฏในปฏทิ ิน 3. ใชค ําบอกเวลา เชน วันนี้ เดือนน้ี ตอนเชา ตอนกลางวัน ตอนเย็น ตอนคํ่า เลาเหตกุ ารณในปจจุบนั 7. ชิ้นงาน/หลกั ฐานรองรอยแสดงความรู 1. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมและแบบประเมนิ ผลงาน 2. ใบงาน

24 8. กจิ กรรมการเรยี นรู ชั่วโมงที่ 1 1. ครูนําปฏิทินเดือนธนั วาคม 2557 ขึน้ มาตดิ บนกระดานและสนทนากบั นักเรยี นถึงประโยชน ของปฏทิ นิ วานอกจากจะบอกวัน เดอื น ป วันพระแลว ปฏทิ ินยังบอกวนั สาํ คัญตางๆอีกดว ย 2. ครใู หน ักเรยี นสงั เกตปฏิทนิ เดือนธันวาคม แลวถามนักเรยี นวา มวี นั ใดบา งที่เปน วันสําคัญในเดือน ธันวาคมนี้ 3. ครแู จกใบงาน เรื่องวนั สําคญั ในเดอื นธันวาคม 4. นกั เรียนและครูชว ยกนั สรปุ บทเรยี น 9. ส่ือ/แหลงเรียนรู 1. หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพ้ืนฐาน ประวตั ิศาสตร ชน้ั ประถมศึกษาป 1 ของกระทรวงศึกษาธกิ าร 2. ใบงาน 10. การวัดและประเมินผล 10.1 วิธวี ดั - สงั เกตการณต อบคาํ ถาม - ตรวจใบงาน

25 ใบงานที่ 6 เร่อื ง วนั สําคญั ในเดือนธนั วาคม คาํ สง่ั : ใหนกั เรยี นจับคูว นั สาํ คญั ในเดือนธนั วาคมใหถกู ตอ ง 10 ธนั วาคม 30 ธนั วาคม 5 ธนั วาคม ช่อื .........................................................นามสกลุ .................................................. เลขท.่ี ................................ ช้ัน.....................................................................................

26 เฉลย ใบงานที่ 6 เรอื่ ง วันสาํ คญั ในเดือนธันวาคม คาํ สั่ง : ใหนกั เรียนจับควู นั สาํ คัญในเดอื นธนั วาคมใหถ ูกตอ ง 10 ธนั วาคม 30 ธันวาคม 5 ธนั วาคม

27 ชว่ั โมงที่ 2 1. ครสู นทนากับนักเรียน ถงึ ความสําคญั ของวนั ตา งๆ ในปฏทิ ิน เชน วันที่ 5 ธนั วาคม แลว ถามนกั เรียน ถงึ ความสําคญั ของวันสําคญั ตา งๆ 2. ครแู จกใบงานเรื่อง การแสดงความจงรกั ภักดีตอ พระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว 3. นกั เรียนและครูชวยกันสรุปบทเรยี น 9. สื่อ/แหลง เรียนรู 1. หนังสือเรียนรายวิชาประวัตศิ าสตร ช้นั ประถมศกึ ษาป 1 2. ใบงาน 10. การวดั และประเมินผล 10.1 วธิ ีวัด - สังเกตการณต อบคาํ ถาม - ตรวจใบงาน

28 ใบงานที่ 7 เรือ่ ง การแสดงความจงรักภกั ดีตอ พระเจา อยูห วั คาํ สั่ง : ใหนกั เรียนกาเคร่อื งหมาย  ส่ิงที่เราแสดงออกถงึ การจงรักภักดีตอพระบาทสมเด็จพระเจา อยหู วั

29 เฉลย ใบงานท่ี 7 เร่ือง การแสดงความจงรกั ภักดีตอ พระเจา อยูหัว คาํ สั่ง : ใหน ักเรยี นกาเครอ่ื งหมาย  ส่ิงท่เี ราแสดงออกถงึ การจงรกั ภกั ดตี อพระบาทสมเดจ็ พระเจาอยหู ัว    

30 หนวยท่ี 2 วันเวลา แผนการจดั การเรยี นรูท่ี 5 ช้ันประถมศกึ ษาปท่ี 1 เร่อื งที่ 5 ชวงเวลาวันหนึง่ ของฉัน สาระการเรยี นรูประวตั ศิ าสตร จํานวน 2 ชั่วโมง มาตรฐาน ส 4.1 เขา ใจความหมาย ความสาํ คญั ของเวลาและยคุ สมยั ทางประวัตศิ าสตร สามารถใชว ิธกี าร ทางประวัตศิ าสตรมาวเิ คราะหเหตุการณต า งๆอยางเปน ระบบ 1. ความคดิ รวบยอด เวลาเปน สง่ิ มคี า เราควรทําความเขา ใจการนับเวลาใหถ กู ตอ งเพราะชวงเวลามคี วามสาํ คญั ตอ การดาํ รง ชีวิตประจาํ วนั ของทกุ คนและเราควรใชเ วลาใหเกิดประโยชนอยางคุม คา 2. ตัวชวี้ ดั ส 4.1 (1) บอกวันเดอื นป และการนบั เวลาตามปฏิทนิ ที่ใชในชวี ติ ประจําวัน ส 4.2 (2) เรียงลําดบั เหตกุ ารณในชีวติ ประจาํ วนั ตามวันเวลาทีเ่ กิดขนึ้ 3. จุดประสงคก ารเรียนรู 1. บอกเวลา เชน วนั น้ี เดอื นนี้ ตอนเชา ตอนกลางวัน ตอนเย็น ตอนคา่ํ ได 4. สมรรถนะสาํ คญั ของผเู รยี น 1 .ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชท กั ษะชวี ติ 5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค 1. รักชาติ ศาสน กษตั รยิ  2. มวี นิ ัย 3 .ใฝเ รียนรู 4. มุงมั่นการทาํ งาน 5. รกั ความเปน ไทย 6. สาระการเรยี นรู 1. ชอื่ วนั เดอื น ป ตามระบบสุรยิ คติท่ปี รากฏในปฏิทนิ 2. ช่อื วนั เดือน ป ตามระบบจันทรคตทิ ปี่ รากฏในปฏทิ นิ 3. ใชคาํ บอกเวลา เชน วนั น้ี เดือนน้ี ตอนเชา ตอนกลางวัน ตอนเย็น ตอนคาํ่ เลา เหตุการณใ นปจ จบุ นั 7. ชิน้ งาน/หลกั ฐานรอ งรอยแสดงความรู 1. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมและแบบประเมนิ ผลงาน 2. ใบงาน

31 8. กจิ กรรมการเรยี นรู ช่วั โมงท่ี 1 1. ครสู นทนากบั นกั เรียนถงึ ชีวิตประจาํ วนั ของนักเรียนต้งั แตเ ชา จนกระทั่งหมดเวลาไปหนงึ่ วนั แลว นํา บัตรคาํ ขน้ึ มาอธิบายชว งเวลาในแตละวัน เชน เชา สาย บา ย เยน็ คา่ํ ดึก พรอ มอธิบายใหน กั เรียนเขา ใจ 2. ครแู จกใบงาน เร่อื งชว งเวลาใน 1วนั ใหน กั เรยี นทาํ 3. ครเู ฉลยใบงานพรอ มตรวจใหคะแนน 4. นกั เรยี นและครชู ว ยกันสรปุ บทเรยี น 9. ส่ือ/แหลงเรยี นรู 1. หนังสอื เรียนรายวชิ าพน้ื ฐาน ประวตั ิศาสตร ชน้ั ประถมศึกษาป 1 ของกระทรวงศึกษาธกิ าร 2. ใบงาน 10. การวดั และประเมินผล 10.1 วธิ ีวัด - สังเกตการณตอบคาํ ถาม - ตรวจใบงาน

32 ใบงานท่ี 8 เร่อื ง ชว งเวลาในหนง่ึ วนั คําสง่ั : ใหนักเรยี นโยงภาพใหส มั พนั ธก นั ตอนสาย 1. ตอนกลางวนั ตนื่ นอนลา งหนา แปรงฟน ตอนเชา เวลา 06.00 น. ตอนกลางคนื 2. ชว ยคุณแมทาํ อาหารเวลา เวลา 18.00 น. 3. เรียนหนังสอื เวลา 09.00 น. 4. ทาํ การบา น เวลา 17.00 น. 5. รบั ประทานอาหารเที่ยง ตอนเยน็ เวลา 12.00 น. 6. เขานอน ตอนคา่ํ เวลา 20.00 น. ชือ่ .........................................................นามสกลุ ................................................... เลขท.่ี ................................ ช้นั .....................................................................................

33 ใบงานท่ี 8 เฉลย เรอ่ื ง ชวงเวลาในหน่งึ วัน คาํ สง่ั : ใหน ักเรยี นโยงภาพใหส ัมพนั ธกนั ตอนสาย 1. ตน่ื นอนลา งหนาแปรงฟน ตอนกลางวนั เวลา 06.00 น. ตอนเชา 2. ชวยคณุ แมท ําอาหารเวลา ตอนกลางคนื เวลา 18.00 น. ตอนเยน็ ตอนคา่ํ 3. เรียนหนังสือ เวลา 09.00 น. 4. ทําการบา น เวลา 17.00 น. 5. รบั ประทานอาหารเทย่ี ง เวลา 12.00 น. 6. เขานอน เวลา 20.00 น.

34 ชัว่ โมงที่ 2 1. ครทู บทวนบทเรียนในช่ัวโมงท่ีแลว แลวซกั ถามถึงประโยชนข องการแบงชวงเวลาในหน่ึงวัน 2. นักเรียนและครชู ว ยกันสรุปถึงประโยชนของการแบงชว งเวลา คอื ชวยลาํ ดบั เหตุการณก อนหลงั เชือ่ มโยงเหตกุ ารณในชวี ติ ประจาํ วัน 3. ครแู จกใบงานที่ 9 เร่ือง ลาํ ดับเหตกุ ารณ ใหนักเรียนทาํ 4. ครเู ฉลยใบงานท่ี 9 เรอ่ื ง ลําดับเหตุการณ 5. ครแู จกใบงานที่ 10 เรอื่ ง เวลาหน่งึ วนั ของฉัน 6. ครูอธบิ ายสรุปถงึ ความสาํ คัญในการลาํ ดับชวงเวลาในการดําเนนิ ชวี ิตประจําวันเพอ่ื เชอ่ื มโยงเหตกุ ารณ ไดอยา งถูกตอ ง

35 ใบงานที่ 9 เรอื่ ง การเรยี งลําดบั เหตกุ ารณ คาํ สั่ง : ใหนักเรียนเติมหมายเลข เรยี งลําดบั เหตกุ ารณ กอนหลงั ใหถ ูกตอ ง ลาํ ดบั การเจรญิ เตบิ โตของแอปเปล ชือ่ .........................................................นามสกลุ ................................................... เลขท่.ี ................................ ชน้ั .....................................................................................

36 เฉลย ใบงานท่ี 9 เรื่อง การเรียงลําดบั เหตกุ ารณ คาํ สั่ง : ใหนกั เรยี นเตมิ หมายเลข เรยี งลําดบั เหตุการณ กอนหลังใหถกู ตอ ง ลาํ ดับการเจรญิ เตบิ โตของแอปเปล 45 61 23

37 ใบงานท่ี 10 เร่อื ง เวลาหน่ึงวนั ของฉนั คาํ ส่ัง : ใหน ักเรยี นนาํ หมายเลขจากภาพไปใสใ นชองใหต รงกบั เวลาทกี่ ําหนดให 1. เคารพธงชาติ 2. เรยี นหนงั สอื 3.รบั ประทานอาหาร 4.โรงเรียนเลกิ /กลับบา น 5.ชวยพอแมท ํางานบา น 6.ทําการบาน/ทบทวนบทเรยี น 7.ดทู วี ี 8.เขา นอน เหตกุ ารณตอนเชา เหตุการณตอนสาย เหตุการณต อนบาย เหตุการณต อนเยน็ เหตุการณต อนคํา่ ภาพหมายเลข ภาพหมายเลข ภาพหมายเลข ภาพหมายเลข ภาพหมายเลข .................................. .................................. .................................. .................................. .................................. .................................. .................................. ................................... ................................... .................................. ชื่อ.........................................................นามสกุล...................................................เลขท.่ี ................................ ชนั้ .....................................................................................

38 เฉลย ใบงานที่ 10 เรือ่ ง เวลาหนง่ึ วนั ของฉนั คําสง่ั : ใหน ักเรยี นนาํ หมายเลขจากภาพไปใสใ นชอ งใหต รงกับเวลาทกี่ าํ หนดให 1.เคารพธงชาติ 2. เรียนหนงั สอื 3.รับประทานอาหาร 4.โรงเรยี นเลกิ /กลับบาน 5.ชว ยพอแมท าํ งานบา น 6.ทําการบา น/ทบทวนบทเรียน 7.ดูทีวี 8.เขานอน เหตกุ ารณต อนเชา เหตกุ ารณต อนสาย เหตุการณต อนบา ย เหตุการณตอนเยน็ เหตุการณตอนคํ่า ภาพหมายเลข ภาพหมายเลข ภาพหมายเลข ภาพหมายเลข ภาพหมายเลข ................4.............. .........1 และ 3........... ................2.............. ..........5 และ 6........... .........7 และ 8...........

39 แบบทดสอบกอนเรียน-หลังเรียน หนวยการเรียนรูท่ี 2 วนั เวลา คาํ ช้ีแจง ใหนักเรียนเลือกคาํ ตอบที่ถูกตองท่ีสุดเพียงขอเดียว 1. ประวตั ศิ าสตรเกยี่ วขอ งกับชวงเวลาใด 6.  สัญลักษณน้ใี นปฏิทนิ อานวา อยางไร ก. อดีต ก. วันแรม 1 คาํ่ ข. ปจจุบัน ข. วนั ขนึ้ 15 ค่าํ ค. อนาคต ค. วนั แรม 15 คา่ํ 2. ปฏทิ นิ หมายถงึ อะไร 7. เดอื นใดมีจาํ นวนวันตา งจากพวก ก. แบบบันทึกความจํา ก. เมษายน ข. แบบบันทกึ การวางแผนลวงหนา ข. กรกฎาคม ค. เครอ่ื งมอื ทช่ี วยใหร จู ักวัน เดอื น ป ค. พฤศจิกายน 3. เครอื่ งมอื ทใี่ ชบ อกวัน เดือน ป และชว ยเตือนความจาํ 8. นักเรียนควรตื่นนอนในชว งเวลาใด เรอื่ งราวตางๆ คือขอใด ก. เชา ก. ปฏทิ นิ ข. สาย ข. สมุดบนั ทึก ค. เท่ียง ค. หนังสือพมิ พ 9. วันที่ 5 ธันวาคมของทุกป เปนวันใด 4. วันสุดทายของปใ นปฏิทนิ คือวนั ใด ก. วันสงกรานต ก. วันท่ี 1 เดอื นมกราคม ข. วันขึ้นปใหม ข. วนั ที่ 1 เดือนธันวาคม ค. วันพอแหงชาติ ค. วันที่ 31 เดอื นธนั วาคม 10. ขอใดไมใ ชป ระโยชนข องปฏิทิน 5. เดอื นทีล่ งทายดวย “คม” มกี ว่ี นั ก. ใชบอกวนั ท่ี ก. 30 วัน ข. ใชบ อกชั่วโมง ข. 31 วัน ค. ใชบอกวนั สําคญั ค. 28 หรือ 29 วัน 1.ก 2. ค 3. ก 4. ค 5. ข ไดค ะแนน คะแนนเต็ม 6.ค 7. ข 8. ก 9. ค 10.ข 1100

40 หนว ยท่ี 3 ความเปลย่ี นแปลง แผนการจัดการเรยี นรทู ี่ 6 ชนั้ ประถมศกึ ษาปท ี่ 1 เรือ่ งที่ 6 ชวี ิตสมัยคุณปู สาระการเรยี นรปู ระวตั ศิ าสตร จาํ นวน 2 ชั่วโมง มาตรฐาน ส 4.2 เขา ใจพฒั นาการของมนษุ ยชาตจิ ากอดตี จนถึงปจ จบุ ันในดา นความสมั พนั ธและการเปลีย่ นแปลง ของเหตกุ ารณอ ยางตอ เนอ่ื ง ตระหนักถึงความสาํ คญั และสามารถวเิ คราะหผ ลกระทบท่เี กดิ ขนึ้ 1. ความคดิ รวบยอด ความเปลยี่ นแปลงจากอดตี สปู จ จุบนั ของสภาพแวดลอ มยอมสงผลกระทบตอ การดาํ รงชวี ิต ของมนษุ ยทุกดานมนุษยจาํ เปน ตอ งพัฒนาทุกสิ่งอยางใหเขากบั ยุคสมยั เพื่อความอยูร อด 2. ตวั ชวี้ ดั ส 4.2 (1) บอกความเปล่ยี นแปลงของสภาพแวดลอ ม สิ่งของ เครือ่ งใช หรอื การดําเนินชีวติ ของตนเองกับสมัยของ คณุ ปู คณุ ยา คณุ ตา คณุ ยาย ส 4.2 (2) บอกเหตกุ ารณท ่ีเกดิ ข้ึนในอดตี ทม่ี ีผลกระทบตอตนเองในปจจบุ ัน 3. จดุ ประสงคก ารเรียนรู 1. บอกความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดลอม สง่ิ ของเครื่องใชหรอื การดําเนนิ ชีวิตของอดีตกบั ปจจุบัน 2. บอกเหตุการณ และผลของการเปล่ยี นแปลงของสง่ิ ตา งๆตามกาลเวลาได 3. บอกเหตุการณสําคญั ท่เี กดิ ขึน้ ในครอบครัว ทมี่ ผี ลกระทบตอ ตนเองในปจจบุ นั ได 4. สมรรถนะสาํ คัญของผเู รยี น 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใชท ักษะชีวิต 5. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค 1. รกั ชาติ ศาสน กษัตรยิ  2. มวี ินัย 3. ใฝเรียนรู 4. มงุ มั่นการทาํ งาน 5. รักความเปน ไทย 6. สาระการเรยี นรู 1. ความเปลีย่ นแปลงของสภาพแวดลอ ม สงิ่ ของเครื่องใช หรอื การดาํ เนินชีวติ ของอดีตกบั ปจ จบุ ันท่เี ปน รปู ธรรมและใกลตวั 2. สาเหตุและผลของการเปลี่ยนแปลงของส่ิงตางๆตามกาลเวลา 3. เหตกุ ารณสาํ คัญทเ่ี กดิ ขึ้นในครอบครัวท่ีมผี ลกระทบตอ ตนเองในปจ จุบันเชน การยายบาน การยาย โรงเรยี น การเลอื่ นชั้น การไดร ับรางวลั

41 7. ช้ินงาน/หลกั ฐานรอ งรอยแสดงความรู 1. แบบประเมนิ พฤติกรรมและแบบประเมินผลงาน 2. ใบงาน 8. กจิ กรรมการเรยี นรู ช่ัวโมงท่ี 1 1. ครใู หน ักเรียนดบู ตั รภาพสิ่งของเครอื่ งใชภายในบา นทค่ี รเู ตรียมมา แลว ถามนักเรยี นวาสง่ิ เหลา น้ี เรยี กวาอะไร นกั เรียนเคยเหน็ หรือไม เครือ่ งใชเหลา น้นี กั เรยี นเคยใชส ่งิ ใดและใชทาํ อะไร 2. ครูใหนกั เรียนเปดหนงั สือเรียน รายวิชาประวัติศาสตร ชน้ั ประถมศึกษาปท ี่ 1 เรือ่ งท่ี 6 ตงั้ แตห นา 33-35 แลวใหน กั เรียนบอกเคร่อื งใชในอดีตที่พบในบทเรียน 3. ครแู จกใบงาน เรือ่ งเครื่องใชในภาพเรียกวา อะไร 4. ครเู ฉลยใบงานพรอ มตรวจใหค ะแนน 5. นกั เรยี นและครูชวยกนั สรปุ บทเรยี น 9. ส่ือ/แหลง เรียนรู 1. หนงั สอื เรียนรายวชิ าพ้ืนฐาน ประวัตศิ าสตร ชัน้ ประถมศึกษาป 1 ของกระทรวงศึกษาธิการ 2. ใบงาน 10. การวดั และประเมนิ ผล 10.1 วธิ ีวดั - สงั เกตการณต อบคําถาม - ตรวจใบงาน

42 ใบงานท่ี 11 เรอื่ ง เครอื่ งใชใ นภาพเรยี กวาอะไร คาํ ส่งั : ใหน ักเรียนจับคใู หถกู ตอ ง โทรศพั ท 1. 2. พดั วี 3. เทป 4. เคร่อื งเลนแผน เสยี ง 5. ตะเกียง 6. กระทะ 7. วทิ ยุ 8. กลอ งถายรูป 9. เตารีด 10. โทรทัศน

43 เฉลย ใบงานที่ 11 เรอื่ ง เคร่ืองใชใ นภาพเรียกวา อะไร คาํ ส่ัง : ใหน กั เรียนจับคใู หถ กู ตอ ง โทรศัพท 1. 2. พัดวี 3. เทป 4. เคร่ืองเลนแผนเสยี ง 5. ตะเกยี ง 6. กระทะ 7. วิทยุ 8. กลอ งถา ยรปู 9. เตารีด 10. โทรทศั น

44 ชวั่ โมงที่ 2 1. ครูทบทวนบทเรียนในชัว่ โมงกอน 2. ครอู ธบิ ายถึงความเหมาะสมในเครื่องมือ เคร่อื งใชในสมัยกอ นทเี่ หมาะสมกับชีวิตของคนในสมัยน้นั ท่ี คุน เคยกบั ชีวิตที่เรยี บงา ยตามธรรมชาติ สวนของใชใ นชีวิตของคนในสมยั ปจจุบนั ก็เหมาะสมกับชวี ิตท่ี รีบเรง แขง ขนั กนั ของคนในสมยั ปจจบุ ัน 3. ครแู จกใบงานเรอ่ื ง เครื่องใชในอดตี และปจ จุบันใหนกั เรยี นทํา 4. นกั เรยี นและครรู ว มกันสรปุ บทเรยี น

45 ใบงานท่ี 12 เร่อื ง เคร่อื งใชในอดตี และปจจบุ นั คําส่งั : ใหน กั เรยี นจบั คเู ครื่องใชทส่ี มั พันธก นั ชื่อ................................................. 1. นามสกลุ ................................... 2. 3. เลขที.่ ......................................... 4. ชั้น............................................. 5. 6. 7. 8. 9. 10.

46 เฉลย ใบงานที่ 12 เร่ือง เครือ่ งใชในอดตี และปจจบุ นั คําสั่ง : ใหน กั เรยี นจบั คูเครื่องใชท ส่ี มั พันธก นั 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10.

47 หนวยท่ี 3 ความเปล่ียนแปลง แผนการจดั การเรยี นรทู ่ี 7 ชั้นประถมศึกษาปท่ี 1 เรื่องท่ี 7 เม่ือกอ นกับวนั นี้ สาระการเรยี นรูประวตั ศิ าสตร จาํ นวน 2 ชวั่ โมง มาตรฐาน ส 4.2 เขาใจพฒั นาการของมนุษยชาตจิ ากอดตี จนถึงปจ จุบันในดานความสมั พนั ธแ ละการเปลี่ยนแปลง ของเหตุการณอ ยา งตอเนื่อง ตระหนกั ถงึ ความสาํ คญั และสามารถวเิ คราะหผลกระทบท่ีเกดิ ขึ้น 1. ความคดิ รวบยอด ความเปล่ยี นแปลงจากอดีตสปู จจุบันของสภาพแวดลอ มยอมสง ผลกระทบตอการดํารงชวี ิต ของมนุษยท กุ ดานมนุษยจ ําเปน ตอ งพัฒนาทกุ สง่ิ อยางใหเ ขา กับยคุ สมยั เพ่อื ความอยูรอด 2. ตวั ช้วี ดั ส 4.2 (1) บอกความเปลีย่ นแปลงของสภาพแวดลอ ม สิ่งของ เคร่ืองใช หรอื การดําเนินชวี ิตของตนเองกับสมยั ของ คุณปู คุณยา คณุ ตา คุณยาย ส 4.2 (2) บอกเหตกุ ารณทเี่ กดิ ข้นึ ในอดตี ท่ีมผี ลกระทบตอตนเองในปจจุบัน 3. จุดประสงคก ารเรยี นรู 1. บอกความเปล่ียนแปลงของสภาพแวดลอม สงิ่ ของเครอื่ งใชห รอื การดาํ เนนิ ชวี ิตของอดีตกับปจจุบนั ได 2. บอกเหตกุ ารณ และผลของการเปล่ยี นแปลงของสง่ิ ตางๆ ตามกาลเวลาได 3. บอกเหตกุ ารณส าํ คัญทเี่ กดิ ข้ึนในครอบครัว ท่มี ผี ลกระทบตอตนเองในปจ จบุ นั ได 4. สมรรถนะสาํ คัญของผเู รยี น 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชทักษะชีวิต 5. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค 1. รักชาติ ศาสน กษตั รยิ  2. มวี ินัย 3. ใฝเรยี นรู 4. มุงมั่นการทาํ งาน 5. รกั ความเปน ไทย 6. สาระการเรยี นรู 1. ความเปลีย่ นแปลงของสภาพแวดลอม สงิ่ ของเครอื่ งใช หรือการดําเนินชวี ติ ของอดีตกับปจจบุ ันท่เี ปน รปู ธรรมและใกลตวั 2. สาเหตุและผลของการเปล่ียนแปลงของสิ่งตา งๆตามกาลเวลา 3. เหตุการณส าํ คญั ทเี่ กิดข้ึนในครอบครัวท่ีมผี ลกระทบตอตนเองในปจจบุ ันเชน การยา ยบา น การยา ย โรงเรยี น การเล่อื นช้ัน การไดร ับรางวัล

48 7. ชิ้นงาน/หลกั ฐานรองรอยแสดงความรู 1. แบบประเมนิ พฤติกรรมและแบบประเมินผลงาน 2. ใบงาน 8. กจิ กรรมการเรยี นรู ชวั่ โมงที่ 1 1. ครทู บทวนบทเรียนในช่งั โมงกอนแลว สนทนากับนกั เรียนถึงการดําเนินชวี ติ ของคนสมยั กอน แลวถาม นักเรียนถึงความเปล่ียนแปลงของวถิ กี ารดาํ เนนิ ชวี ติ ต้ังแตอดีตจนถึงปจ จุบัน 2. ครอู ธบิ ายเช่อื มโยงถงึ การเปลยี่ นแปลงดานความเปน อยู สภาพแวดลอ ม อาหารการกิน เครอ่ื งมอื เคร่อื งใช จากอดตี จนถงึ ปจจุบันและใชบ ตั รภาพประกอบคาํ อธิบายใหนักเรียนเขา ใจ 3. ครูแจกใบงาน เรอื่ งจากอดีตจนถงึ ปจจุบันใหน กั เรยี นทาํ 4. ครเู ฉลยใบงานพรอ มตรวจใหคะแนน 5. นักเรยี นและครูชว ยกนั สรปุ ถึงสภาพการเปล่ียนแปลงของสภาพแวดลอมจากอดตี สงผลใหม สี ิง่ ใหม เกดิ ขน้ึ แทนสิง่ เกาหลายสง่ิ อยางเพ่ือใหเ กิดความเหมาะสมกบั การดาํ เนินชีวติ ของผคู น ซง่ึ มีทงั้ ขอดีและ ขอเสีย การดาํ เนินชวี ติ ของผูคนจงึ ตอ งมีการปรบั ตัวใหเ ขากับยุคสมัยยอมรับการเปลี่ยนแปลงทเ่ี กดิ ขนึ้ เพอ่ื การดาํ รงชวี ิตอยางมีความสขุ 9. ส่อื /แหลงเรยี นรู 1. หนังสือเรยี นรายวิชาพื้นฐาน ประวัตศิ าสตร ช้นั ประถมศกึ ษาป 1 ของกระทรวงศึกษาธกิ าร 2. ใบงาน 10. การวัดและประเมนิ ผล 10.1 วธิ ีวดั - สังเกตการณตอบคําถาม - ตรวจใบงาน

49 ใบงานท่ี 13 เร่อื ง จากอดตี สปู จจบุ นั คําส่งั : ใหน กั เรียนจบั คูววิ ัฒนาการจากอดตี สูป จจบุ นั ใหถ กู ตอ ง 1.อาชีพทาํ นา เมือง 2. ตลาดนํ้า ฟาสฟูด 3.บา นทรงไทย ลอยโคม พนกั งานออฟฟต 4. ภูเขาตน ไม ซุปเปอรม าเกต็ 5. อาหาร เลย 6. การละเลน คอนโดมเิ นยี ม 7. ลอยกระทง แท็บแล็ต 8. การแตง กาย ชุดสูท 9.ขนมไทย