Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ประวัติ ป2

ประวัติ ป2

Description: ประวัติ ป2

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าพ้ืนฐาน ประวตั ศิ าสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 2 กล่มุ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ผเู้ รยี บเรยี ง : นางสาวธนาพร สาระพินิจ

ตัวอยา งแผนการจดั การเรยี นรู หนังสือเรยี นรายวิชาพน้ื ฐาน หนาทพ่ี ลเมือง วัฒนธรรม และการดําเนินชวี ิตในสังคม เศรษฐศาสตรแ ละภมู ิศาสตร ชัน้ ประถมศึกษาปที่ 2 กลุมสาระการเรียนรูสังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ผูเรยี บเรยี ง : นางนิรมล จุลพงษ

รายวิชาประวตั ศิ าสตร ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปท ี่ 2 หนว ยท่ี หนวยการเรียนรู ชั่วโมง 1 วันเวลาในปฏทิ นิ 5 2 เรอื่ งท่ี 1 ปฏิทนิ ของฉนั 4 3 เร่ืองท่ี 2 วนั สาํ คัญในปฏิทนิ 3 4 สืบคน เร่ืองราวของครอบครวั 3 เรื่องที่ 3 เรารเู ร่ืองตางๆ ไดอยา งไร 2 5 เรอื่ งที่ 4 เร่อื งราวของครอบครวั 2 เร่ืองที่ 5 เวลากบั การเปลย่ี นแปลง 4 การเปลีย่ นแปลงในชุมชน 2 เรอ่ื งที่ 6 หมบู า นของเรา 4 เรอ่ื งที่ 7 ตลองสายเกา กบั ถนนสายใหม 4 เรื่องท่ี 8 ศาลาหลงั ใหม 4 บคุ คลสาํ คัญ เรอื่ งที่ 9 พระปยมหาราช 1 เร่อื งที่ 10 ชมุ ชนยั่งยนื 1 เรอ่ื งที่ 11 ศลิ ปน เอก 1 วฒั นธรรมไทย ประเพณีไทย และภมู ปิ ญญาไทย 1 เรอ่ื งที่ 12 บา นสวนของคุณยา เรือ่ งที่ 13 อาหารการกิน 41 เรอ่ื งที่ 14 แตง กายงามอยา งไทย เรื่องท่ี 15 ดดี สีตีเปา รวม

หนว ยที่ 1 วันเวลาในปฏทิ นิ แผนการจดั การเรยี นรทู ่ี 1 ช้ันประถมศกึ ษาปท่ี 2 เร่ืองที่ 1 ปฏทิ ินของฉัน สาระการเรยี นรูประวตั ศิ าสตร จํานวน 5 ชั่วโมง มาตรฐาน ส 4.1 เขา ใจความหมาย ความสําคัญของเวลาและยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตรสามารถใชว ิธกี ารทาง ประวตั ิศาสตรมาวเิ คราะหเหตุการณตางๆ อยางเปน ระบบ 1. ความคดิ รวบยอด วนั เวลา มคี วามสาํ คัญในการดํารงชีวิตของ ควรใหค วามสาํ คัญและใชเ วลาใหคุมคา 2. ตวั ชว้ี ัด ส 4.1 (1) ใชคาํ ระบเุ วลาทีแ่ สดงเหตุการณใ นอดีต ปจ จุบนั และอนาคต 3. จุดประสงคก ารเรียนรู 1. บอกวันเวลาตามปฎทิ นิ ได 2. บอกเวลาแบบไทยได 3. บอกคําแสดงเวลา ในอดตี ปจจบุ นั อนาคตได 4. บอกการนบั เวลาแบบจันทรคติ และ แบบสุรยิ คติได 4. สมรรถนะสาํ คญั ของผเู รยี น 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชทักษะชวี ิต 5. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค 1. รกั ชาติ ศาสน กษตั ริย 2. มวี นิ ยั 3. ใฝเรียนรู 4. มุงม่นั การทาํ งาน 5. รักความเปน ไทย 6. สาระการเรยี นรู 1. คําทแ่ี สดงชว งเวลา ในอดีต ปจจบุ ัน อนาคต 2. วนั เวลาตามระบบสุรยิ คติ และจนั ทรคติทีป่ รากฏในปฏทิ นิ ที่แสดงเหตุการณส าํ คญั ในอดตี และ ปจ จบุ นั 3. วนั สําคัญในปฏทิ ิน 7. ชน้ิ งาน/หลกั ฐานรองรอยแสดงความรู 1. แบบประเมนิ พฤติกรรมและแบบประเมนิ ผลงาน 2. ใบงานเรอื่ ง

8. กจิ กรรมการเรียนรู ชัว่ โมงท่ี 1 1. ครกู ลาวทกั ทายนักเรยี น จากนั้นนาํ ปฏิทินทคี่ รูเตรียมมาแจกใหน กั เรยี นทุกคน พรอ มบอกนักเรยี น วา ทุกคนมปี ฏทิ นิ เปนของตนเองแลว 2. ครใู หนกั เรียนทกุ คนสํารวจปฏิทนิ ของตนเอง แลวใหนักเรียนตอบคําถามครตู ามประเดน็ ตอ ไปน้ี - ปฏทิ ินของนักเรยี นเปน ปฏิทนิ พ.ศ. ท่ีเทา ไหร - ปฏิทนิ ของนักเรยี นมกี ีแ่ ผน - ปฏทิ ินของนักเรยี นมีกเ่ี ดือน 3. ครูใหนกั เรียนสรุปปฏทิ นิ ของฉนั ลงในใบงาน สรุปบทเรยี นตามประเด็นความทคี่ รกู ําหนด ใบสรปุ บทเรียน 1. ปฏทิ ินของฉันเปน ปฏิทิน พ.ศ. .............................. 2. ปฏิทินของฉันมี ...................... แผน 3. ปฏทิ นิ ของฉนั มี ..................... เดือน 4. ปฏิทนิ ของฉันบอกการนับแบบไทยเรียกวา............................................. 5. ฉันชอบปฏิทนิ ของฉันเพราะ...............................................................................................

ชว่ั โมงที่ 2 1. ครทู บทวนบทเรยี นในช่วั โมงท่แี ลวพรอ มอธบิ ายเพ่ิมเติมวา แผน แรกของปฏทิ ินจะปรากฏชื่อเดือน มกราคม ซึ่งเปนเดอื นแรก แลว ใหน ักเรยี นศึกษาปฏทิ ินพรอมตัง้ คําถามในประเดน็ ตอไปนี้ - ในเดอื นมกราคม 2557 มีก่สี ัปดาห - สปั ดาหหนึ่งมีกวี่ นั - ในเดอื นมกราคมมวี ันทางจนั ทรคตวิ นั ใดบา ง - วันทเี่ ปน วันหยดุ ในปฏิทินมักจะเขยี นดว ยสีใด - วนั ทางจันทรคติ หมายถึงอะไร 2. ครใู หนักเรียนเขียนสรปุ ลงในใบงาน 3. ครแู ละนกั เรียนชวยกันสรุปบทเรียน เพ่ือทําความเขาใจปฏิทนิ ใหม ากข้ึน ใบสรปุ บทเรยี น 1. เดอื นมกราคม 2557 มี..............................สปั ดาห 2. สัปดาหหนงึ่ มี.........................วัน 3. เดอื นมกราคมมีวันทางจันทรคติ..................วัน คือ 1)............................................... 2) ................................................... 3)............................................... 4) ................................................... 4. วันที่เปนวนั หยุดในปฏิทินมักจะเขียนดว ยสี............................ 5. วนั ทางจันทรคติ หมายถงึ .........................................................................................................

ช่ัวโมงท่ี 3 1. ครทู บทวนถึงกิจกรรมสรปุ บทเรยี นในชวั่ โมงกอนแลว อธิบายเพิม่ เติมเกย่ี วกบั การนับวนั เดือน ป ในปฏิทนิ เพื่อใหนกั เรยี นเขา ใจมากยิง่ ขึ้นโดยใหน ักเรยี นใชป ฏทิ นิ ของตนเองเปน ส่อื การเรยี น 2. ครูอธิบายถึงคําวา วนั สัปดาห เดอื น และป 3. ครใู หน กั เรียนหาความหมายของคาํ วา วนั สปั ดาห เดอื น และปจากหนงั สือเรยี นประวัติศาสตร ช้นั ประถมศกึ ษาปท ี่ 2 4. ครูใหน ักเรียนทาํ ใบงาน เพ่ือใหเ ขา ใจในบทเรียน 5. ครูสรุปบทเรยี นเก่ยี วกบั วัน สปั ดาห เดอื น และป ใหนกั เรียนเขา ใจ

ใบงานที่ 1 ใหน ักเรียนกาเคร่ืองหมาย หนาขอ ที่ถกู และเคร่ืองหมาย × หนา ขอ ทีผ่ ดิ .............1. ระยะเวลาที่โลกหมนุ รอบตวั เอง 1 รอบ เรยี กเปน 1วัน .............2. ใน 1วนั มกี ลางวัน 12 ชว่ั โมงและกลางคนื 12ชวั่ โมง .............3. หนึง่ สัปดาหม ี 7วัน .............4. วนั แรกของสัปดาหเราเรม่ิ นับจากวันจนั ทร .............5. วันแรกของสปั ดาหเ ราเริม่ นับจากวนั อาทิตย .............6. 1 สัปดาหม ี 7 วันคอื วันอาทติ ย วนั จนั ทร วนั องั คาร วันพุธ วันพฤหสั บดี วันศุกร และวนั เสาร .............7. ในหนึ่งเดอื นมี 4สปั ดาห .............8. เดอื นท้งั หมดมี 12 เดือน รวมเปน 1ป .............9. เดอื นแรกของป เรม่ิ นบั จากเดือนธันวาคม .............10. เดือนแรกของป เรมิ่ นับจากเดือนมกราคม ช่ือ................................................นามสกุล.........................................เลขท่.ี .................... ชัน้ .......................................................

เฉลย ใบงานท่ี 1 ใหนกั เรยี นกาเครื่องหมาย หนา ขอ ที่ถูก และเคร่อื งหมาย × หนา ขอ ท่ผี ดิ  1. ระยะเวลาที่โลกหมนุ รอบตวั เอง 1รอบ เรียกเปน 1วนั  2. ใน 1วนั มกี ลางวัน 12 ช่วั โมงและกลางคนื 12ชัว่ โมง  3. หนึ่งสปั ดาหม ี 7วนั × 4. วนั แรกของสปั ดาหเราเรม่ิ นบั จากวนั จนั ทร  5. วันแรกของสปั ดาหเ ราเร่ิมนับจากวันอาทติ ย  6. 1 สปั ดาหมี 7 วันคอื วันอาทิตย วันจันทร วันองั คาร วันพุธ วนั พฤหัสบดี วนั ศุกร และวนั เสาร  7.ในหนึ่งเดอื นมี 4สปั ดาห  8.เดือนทั้งหมดมี 12 เดือน รวมเปน 1ป × 9.เดอื นแรกของป เริม่ นบั จากเดอื นธันวาคม  10.เดอื นแรกของป เรม่ิ นับจากเดอื นมกราคม

ชัว่ โมงท่ี 4 1. ครูทบทวนความเขา ใจในความหมายของ วัน สัปดาห เดอื น และปจ ากชวั่ โมงทแ่ี ลว กอน 2. ครูใหนกั เรยี นศกึ ษาจากปฏิทนิ ในประเดน็ ตอไปนี้ - ช่อื ของเดือนในปฏิทิน - เดอื นแรกของป - เดอื นสุดทา ยของป - หาความแตกตางของคาํ ลงทายของช่ือเดือนในปฏทิ นิ 3. ครูใหนักเรยี นสรปุ ความรลู งไปในใบสรุปบทเรยี น ตามประเด็นท่คี รกู าํ หนด 4. ครแู จกใบงานใหนกั เรียนทํา 5. ครูอธิบายเพ่มิ เตมิ ถงึ ความแตกตางของชือ่ เดือนในปฏิทิน พรอ มสรุปบทเรยี น ใบสรปุ บทเรยี น 1. บอกชอื่ ของเดือนใน 1 ปตามปฏิทิน 1).................................................. 2).................................................. 3).................................................. 4).................................................. 5).................................................. 6).................................................. 7).................................................. 8).................................................. 9).................................................. 10)................................................ 11)................................................ 12)................................................ 2. ความแตกตา งของช่ือเดือนในปฏทิ นิ .............................................................................................................................. 3. แตกตางกนั อยางไร ..............................................................................................................................

ใบงานที่ 2 คาํ สงั่ : ใหน ักเรยี นจบั คใู หถ กู ตอ ง 1. 12 เดอื น ชอื่ เดอื นทล่ี งทายดวย “ยน” 2. 1 สปั ดาห วนั อาทิตย 3. 1 วนั เดอื นมกราคม 4. 31 วนั การนับเวลาแบบไทย 5. 30 วนั เทา กับ 1 เดอื น 6. 28 หรอื 29 วนั นับเวลาทางจันทรคติ 7. วันแรกของสปั ดาห การนับเวลาแบบสากล 8. เดือนแรกของป เดือนกมุ ภาพนั ธ 9. จนั ทรคติ ชอื่ เดอื นทีล่ งทา ยดว ย “คม” 10. สุริยคติ มี 7 วนั 12. 4 สัปดาห 13. ขา งขึ้นขา งแรม กลางวัน 12 ช่วั โมงกลางคนื 12ชว่ั โมง เทา กบั 1 ป ช่ือ................................................นามสกุล.........................................เลขท่.ี .................... ชัน้ .......................................................

เฉลย ใบงานท่ี 2 1. 12 เดือน คาํ ส่ัง : ใหนักเรียนจับคใู หถ กู ตอ ง 2. 1 สัปดาห ชือ่ เดอื นที่ลงทา ยดวย “ยน” 3. 1 วนั วนั อาทติ ย 4. 31 วัน เดือนมกราคม 5. 30 วัน การนบั เวลาแบบไทย 6. 28 หรือ 29 วัน เทา กบั 1 เดือน 7. วนั แรกของสปั ดาห นบั เวลาทางจันทรคติ 8. เดอื นแรกของป การนบั เวลาแบบสากล 9. จนั ทรคติ เดือนกมุ ภาพันธ 10. สรุ ยิ คติ ช่อื เดือนทีล่ งทา ยดว ย “คม” 12. 4 สัปดาห มี 7 วนั 13. ขางข้ึนขา งแรม กลางวนั 12 ช่ัวโมงกลางคนื 12ชว่ั โมง เทา กบั 1 ป

ชว่ั โมงท่ี 5 1. ครูทกั ทายนักเรยี น และทบทวนบทเรยี นในชั่วโมงทีแ่ ลว เรอื่ งวนั เวลาในปฏิทินในนกั เรยี นเขา ใจ 2. ครตู ้ังคาํ ถามนาํ นักเรียนในประเดน็ การใชประโยชนจากปฏิทิน 3. ครอู ธิบายเพ่มิ เติมวา นอกจากปฏิทนิ จะมปี ระโยชนตา งๆแลวยังบอกใหเรารจู กั เรยี งลําดบั เหตกุ ารณตา งๆดวย เราจงึ ควรที่จะรูจ ักและเรียนรคู ําท่ีบอกถงึ อดีต ปจจุบนั และอนาคต โดยใชป ฏิทนิ ทํา ความเขาใจ เชน - วันนี้ คอื วันองั คารท่ี 6 เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2557 - วานน้ีเปน เปนวันอะไร และพรุงนี้เปน วนั อะไร 4. ครูอธบิ ายเพม่ิ เตมิ อีกวา วันนี้ วานน้ี พรุงนี้ เปนคาํ ทท่ี ําใหนกั เรยี นรูจกั การเรียงลําดับเหตุการณ ในชีวติ ประจาํ วัน เร่ืองราวในแตละวนั มีความเช่ือมโยงตอ เนื่องกนั 5. ครูแจกใบงานที่ 3 ใหน กั เรียนทํา 6. ครสู รปุ บทเรียนวา เรอ่ื งราวในแตล ะวันมีความเชื่อมโยงตอ เนื่องกนั เหตกุ ารณเ ม่ือวานนม้ี ี ความสําคญั กบั วนั น้ี และเหตกุ ารณในวนั น้จี ะมคี วามสําคญั กับวนั พรงุ น้ี 7. ครแู จกใบงานท่ี 4 ใหนักเรียนทาํ 8. ครูเฉลยใบงานที่ 3 และใบงานที่ 4

ใบงานที่ 3 คาํ สัง่ : ใหนกั เรียนอา นประโยคตอไปนี้แลว บอกวา เปน อดตี ปจจุบนั หรืออนาคต ประโยค เปนเหตุการณใ น 1. วนั นคี้ ือวันที่ 7 สิงหาคม 2557 2. เดือนหนา กานดาจะไปเท่ียวสวนสตั ว 3. อกี สามวันขา งหนา จะเปนวันเกิดของสชุ าดา 4. ปกอ นหนา นี้ขาวในนาของปาออ ยโดนนํ้าทวม 5. เดอื นน้ีฉันมนี ดั เลย้ี งสงสรรคก ับเพือ่ นๆ 6. วันกอ นดาราทํากระเปา สตางคห ลนหาย 7. พรงุ นี้ ณเดช จะไปแสดงภาพยนตรท ปี่ ระเทศเกาหลี 8. เม่ือสองวันกอนพอพาฉนั ไปรับประทานอาหารท่ีรานเอ็มเคสุก้ี 9. คราวนีฉ้ ันขอเลยี้ งเธอบา งนะ 10. ฉันตองไปสง งานครเู ด๋ยี วน้ีแลว ช่ือ................................................นามสกุล.........................................เลขท่.ี .................... ชัน้ ......................................................

เฉลย ใบงานท่ี 3 คาํ สั่ง : ใหนกั เรียนอา นประโยคตอไปน้แี ลว บอกวา เปน อดีต ปจจบุ นั หรืออนาคต ประโยค เปน เหตกุ ารณใ น 1. วันนี้คอื วนั ที่ 7 สิงหาคม 2557 ปจ จบุ ัน 2. เดอื นหนา กานดาจะไปเที่ยวสวนสัตว อนาคต 3. อกี สามวันขา งหนา จะเปน วันเกิดของสชุ าดา อนาคต 4. ปกอ นหนานข้ี า วในนาของปา ออยโดนน้ําทวม อดีต 5. เดอื นน้ฉี ันมนี ดั เล้ยี งสงสรรคกับเพ่ือนๆ ปจ จบุ ัน 6. วนั กอนดาราทาํ กระเปาสตางคหลน หาย อดีต 7. พรงุ นีณ้ เดชจะไปแสดงภาพยนตรที่ประเทศเกาหลี อนาคต 8. เม่ือสองวันกอนพอพาฉันไปรบั ประทานอาหารที่รา นเอม็ เคสกุ ้ี อดตี 9. คราวนฉี้ ันขอเลี้ยงเธอบางนะ ปจจุบัน 10. ฉนั ตองไปสงงานครเู ดี๋ยวน้แี ลว ปจ จุบนั

ใบงานที่ 4 คําสง่ั : ใหนักเรียนเตมิ คาํ ท่ีแสดงถึง อดีต ปจจบุ ัน และอนาคต ลงในชองวางใหถูกตอ ง อดตี ปจจบุ ัน อนาคต 1. 2. 3. 4. 5. ช่ือ................................................นามสกุล.........................................เลขท่.ี .................... ชัน้ ......................................................

เฉลย ใบงานท่ี 4 1. วานน้ี 2. สัปดาหก อ น วนั นี้ พรงุ นี้ 3. เดือนกอน สัปดาหห นา สปั ดาหนี้ 4. ปกอน เดือนน้ี เดอื นหนา 5. คราวกอ น ปน ้ี ปหนา คราวน้ี คราวหนา

หนว ยท่ี 1 วันเวลาในปฏทิ นิ แผนการจัดการเรียนรทู ่ี 2 ช้นั ประถมศกึ ษาปที่ 2 เร่ืองท่ี 2 วนั สาํ คญั ในปฏิทนิ สาระการเรียนรปู ระวัตศิ าสตร จํานวน 4 ชวั่ โมง มาตรฐาน ส 4.1 เขา ใจความหมาย ความสําคญั ของเวลาและยุคสมัยทางประวัตศิ าสตรสามารถใชว ธิ กี ารทาง ประวตั ศิ าสตรมาวิเคราะหเ หตุการณตา งๆ อยางเปนระบบ 1.ความคดิ รวบยอด วันเวลา มคี วามสําคัญในการดํารงชวี ิตของ ควรใหค วามสาํ คัญและใชเวลาใหค มุ คา 2.ตัวชีว้ ัด ส 4.1 (1) ใชคําระบุเวลาทีแ่ สดงเหตกุ ารณในอดีต ปจจบุ นั และอนาคต 3.จดุ ประสงคก ารเรยี นรู 1.บอกวนั เวลาตามปฎทิ ินได 2.บอกเวลาแบบไทยได 3.บอกคําแสดงเวลา ในอดีต ปจ จุบนั อนาคตได 4.บอกการนับเวลาแบบจันทรคติ และ แบบสรุ ิยคตไิ ด 4.สมรรถนะสาํ คญั ของผเู รียน 1.ความสามารถในการส่ือสาร 2.ความสามารถในการคดิ 3.ความสามารถในการใชท ักษะชวี ิต 5.คุณลักษณะอนั พึงประสงค 1.รักชาติ ศาสน กษตั ริย 2.มวี นิ ัย 3.ใฝเรียนรู 4.มงุ ม่ันการทาํ งาน 5.รกั ความเปน ไทย 6.สาระการเรยี นรู 1. คําทแี่ สดงชว งเวลา ในอดีต ปจ จุบนั อนาคต 2. วนั เวลาตามระบบสุรยิ คติ และจนั ทรคตทิ ีป่ รากฏในปฏิทนิ ท่ีแสดงเหตุการณสาํ คญั ในอดตี และ ปจจบุ นั 3. วันสาํ คญั ในปฏิทนิ

7.ชน้ิ งาน/หลกั ฐานรอ งรอยแสดงความรู 1.แบบประเมนิ พฤติกรรมและแบบประเมนิ ผลงาน 2.ใบงานเรอ่ื ง 8.กิจกรรมการเรียนรู ช่ัวโมงที่ 1 1. ครูทบทวนบทเรียนแลวใหน กั เรียนเปดปฏทิ นิ ไปท่ี เดอื นเมษายน 2. ครูใหนกั เรียนดปู ฏิทินเดือนเมษายน แลว ใชค ําถามนาํ ในประเดน็ - สีของตวั เลขในปฏิทินมีสอี ะไรบา ง - สแี ดงมกั จะใชเ ขยี นในวนั ใด - สดี าํ มักจะใชเขยี นในวันใด - เดอื นเมษายนมวี ันทีเ่ ขียนดวยสแี ดงทัง้ หมดก่ีวนั 3. ครูอธิบายเพิม่ เติมวา นอกจากปฏิทินจะบอกใหร ูวนั เดือน ปแลวปฏิทินยงั บอกวันสําคัญตา งๆอกี ดวย 4. ครูใหน ักเรยี นหาวนั สาํ คญั ของทกุ เดือนในปฏทิ นิ 5. ครสู รุปบทเรยี นเพ่อื ความเขาใจวา วันสาํ คัญไมไ ดเ ปน วันหยุดทกุ วนั ทางราชการจะกําหนดใหวนั สําคัญบางวันเปนวนั หยดุ ราชการ เพื่อใหเ ราไปรว มประกอบพิธีในวันสาํ คัญตางๆเชน วันปย ะมหาราช เปนตน

ใบงานท่ี 4 คําส่ัง : นาํ หมายเลขหนาขอความมาใสล งในชอ งเดือนทีเ่ ปนวนั สําคญั ใหถกู ตอ ง 1. วันขึ้นปใ หม 2. วันสงทายปเกา 3. วันจักรี 4. วันครู 5. วนั สงกรานต 6. วนั พืชมงคล วนั 7. วันฉัตรมงคล 8. วนั ปยะมหาราช 9.วันแมแหงชาติ 10.วันพอแหง ชาติ เดอื นเมษายน เดือนมกราคม เดือนพฤษภาคม หมายเลข........................... หมายเลข........................... หมายเลข........................... เดือนตลุ าคม เดอื นธันวาคม เดอื นสิงหาคม หมายเลข........................... หมายเลข........................... หมายเลข........................... ช่ือ................................................นามสกุล.........................................เลขท่.ี .................... ชัน้ ......................................................

เฉลย ใบงานท่ี 4 คาํ ส่ัง : นําหมายเลขหนา ขอความมาใสล งในชอ งเดอื นทเ่ี ปนวนั สาํ คญั ใหถูกตอ ง 1. วันข้ึนปใหม 2. วนั สงทายปเกา 3. วนั จกั รี 4. วันครู 5. วันสงกรานต 6. วนั พืชมงคล วนั 7. วนั ฉัตรมงคล 8. วันปย ะมหาราช 9.วนั แมแ หงชาติ 10.วนั พอแหงชาติ เดือนเมษายน เดือนมกราคม เดอื นพฤษภาคม หมายเลข3,5 หมายเลข 1,4 หมายเลข 6,7 เดอื นตลุ าคม เดือนธนั วาคม เดือนสงิ หาคม หมายเลข 8 หมายเลข 2,10 หมายเลข 9

ช่วั โมงท่ี 2 1. ครูทบทวนบทเรยี นในชั่วโมงกอนแลว อธิบายเพิม่ เติมวา วันสําคัญบางวนั ก็อาจไมต รงกนั ทุกป เพราะ เราตองนับตามจนั ทรคติ ถา นบั ตามสรุ ยิ คตจิ ะตรงกันทกุ ป 2. ครอู ธบิ ายการนับวันแบบจันทรคติ เปน การนับแบบไทย โดยยึดดวงจันทรเปน หลัก สวนการนับแบบ สากลหรอื นบั เวลาแบบสรุ ยิ คติ ยดึ พระอาทติ ยเ ปนหลกั 3. ครูใหนักเรียนนําปฏิทนิ ข้นึ มาแลว เปด ไปท่ีเดือน มิถุนายน 2557/2014 4. ครูใหน กั เรยี นสงั เกตครึ่งวงกลมสเี หลือง , วงกลมสเี หลือง , ครง่ึ วงกลมสดี ํา และ วงกลมสีดํา แลว ให นักเรียนศกึ ษาในประเด็นตอไปน้ี - ครง่ึ วงกลมสีเหลือง หมายถงึ อะไร - วงกลมสเี หลือ หมายถงึ อะไร - คร่ึงวงกลมสีดาํ หมายถึงอะไร - วงกลมสดี าํ หมายถงึ อะไร 5. ครูแจกใบงานใหน กั เรยี นทาํ 6. ครอู ธิบายสรปุ วา การนบั เวลาในปฏิทนิ น้ันมกี ารนับอยู 2 แบบ คอื - นบั แบบสรุ ยิ คติ หรอื แบบสากล เวลาจะเทากนั ทกุ ป ยดึ พระอาทิตยเ ปนหลกั - นบั แบบจันทรคติ หรือ แบบไทย เวลาจะไมตรงกัน ยดึ เอาพระจันทรเปน หลัก

ใบงานท่ี 6 ความหมาย คําสั่ง : ใหนักเรยี นบอกความหมายใหถูกตอง ............................................ 1. ครึ่งวงกลมสีเหลือง 2. วงกลมสเี หลอื ง ............................................ 3. คร่ึงวงกลมสดี าํ ............................................ 4. วงกลมสดี ํา ............................................ ............................................ 5. ภาพพระอาทิตย การนบั เวลา ............................................ โดยยดึ พระอาทิตยเปนหลกั ............................................ 6.ภาพพระจันทร การนับโดยยดึ ............................................ พระจนั ทรเ ปนหลัก ............................................ ............................................ 7.พระจนั ทรสีเหลือง 8.พระจันทรสดี าํ 9.ขา งขึน้ ,ขา งแรม 7.วนั พฤหัสบดที ่ี 5 มถิ นุ ายน 2557 ช่ือ................................................นามสกุล.........................................เลขท่.ี .................... ชัน้ ......................................................

เฉลย ใบงานที่ 6 คาํ สั่ง : ใหนกั เรียนบอกความหมายใหถกู ตอง ความหมาย ขึ้น 8 คาํ่ 1. คร่งึ วงกลมสีเหลอื ง ขนึ้ 15 คาํ่ 2. วงกลมสีเหลอื ง แรม 8 คํา่ แรม 15 คา่ํ 3. คร่ึงวงกลมสดี ํา สรุ ยิ คติ 4. วงกลมสีดํา จันทรคติ ขา งขนึ้ 5. ภาพพระอาทิตย การนบั เวลา ขางแรม โดยยดึ พระอาทิตยเ ปนหลัก นบั แบบจนั ทรคติ 6.ภาพพระจันทร การนับโดยยึด นับแบบสรุ ิยคติ พระจันทรเปน หลกั 7.พระจันทรส เี หลอื ง 8.พระจันทรส ดี าํ 9.ขางข้นึ ,ขางแรม 7.วนั พฤหัสบดีที่ 5 มิถนุ ายน 2557

ช่วั โมงท่ี 3 1. ครูทบทวนบทเรียนจากช่ัวโมงกอ น วา การนบั เวลาในปฏิทนิ มี 2 แบบ คอื การนบั แบบจันทรคติกบั การนับแบบสุรยิ คติ ซ่ึงใชก นั มานานแลว แตป จ จบุ ันนยิ มใชแบบสุรยิ คตมิ ากกวา สวนเวลาแบบ จนั ทรคตนิ ิยมใชทางศาสนาและประเพณีไทย 2. ครอู ธิบายเพิม่ เตมิ วาวนั สําคัญท่ีคนไทยนิยมนบั เวลาทางจันทรคตแิ ละคนไทยจําข้ึนใจเพราะมี ประเพณีทสี่ นุกสนาน ไดแ ก ขึ้น 15 คํ่า เดอื น 12 บางทีเราเรยี กวา วนั เพ็ญเดอื น 12 เปน วันลอย กระทง เปน ตน 3. ครูใหนักเรยี นทาํ ใบงานท่ี 7 4. ครสู รปุ บทเรียนวา การนบั เวลาแบบจนั ทรคติ ถา เปนขา งขึ้นใชสัญลักษณเปน รูปวงกลมสีเหลอื ง หมายถงึ ขน้ึ 15 ค่าํ บางทีเรียกวันพระใหญ รูปครง่ึ วงกลมสเี หลือง หมายถึง ข้ึน 8 คาํ่ บางทเี รยี กวาวันพระนอ ย รูปวงกลมและคร่งึ วงกลมสดี ํา หมายถงึ แรม 15 คํ่า และแรม 8 คํา่ ซงึ่ ชาวไทยก็ถือเปน วนั พระใหญ และวันพระนอ ยเชน กนั

ใบงานที่ 7 คําสงั่ : ใหน กั เรยี นเตมิ คําเกยี่ วกับการนับเวลาใหถูกตอง การนับแบบสรุ ิยคติ .................................. ............................ ................................ ................................. ............................ ................................ การนับแบบจนั ทรคติ .............................................. ........................................... .............................................. ........................................... ช่ือ................................................นามสกุล.........................................เลขท่.ี .................... ชัน้ ......................................................

เฉลย ใบงานท่ี 7 คาํ สั่ง : ใหนกั เรยี นเติมคาํ เกยี่ วกับการนบั เวลาใหถูกตอ ง การนบั แบบสรุ ิยคติ ยดึ ยพดึ พรระะจจันนั ททรร์เ ป็ นหหลลกั ัก ขข้า งขึน้น้ ขข้า งแรมม การนบั แบบจนั ทรคติ ยดยึ ึดพพรระะออาาทติ ยเ์เปปน็ นหหลลกั ัก วันวันพพฤฤหหัสสั บบดี ที่ 2255เดเดอื อืนน มมกกรราาคคม พพ..ศ. 2555577

ช่วั โมงที่ 4 1. ครทู กั ทายนักเรียน และทบทวนบทเรียนเรื่องปฏทิ ิน 2. ครอู ธิบายเพิม่ เติมวา เรามีความรเู ร่อื งปฏิทินจนเขาใจดีแลว เราจะใชป ระโยชนจ ากปฏทิ นิ อยางไรบาง 3. ครูแจกใบงานท่ี 8 ใหนกั เรียนทาํ 4. ครูเฉลย ใบงานท่ี 8 5. ครสู รปุ บทเรยี นถึงประโยชนของปฏทิ นิ

ใบงานที่ 8 คาํ ส่งั : ใหน ักเรียน บอกประโยชนของปฏิทนิ อยางนอ ย 5 ขอ ประโยชนของปฏิทิน มอี ะไรบา ง 1……………………………………………………………………………………………. 2……………………………………………………………………………………………. 3.…………………………………………………………………………………………… 4……………………………………………………………………………………………. 5……………………………………………………………………………………………. ช่ือ................................................นามสกุล.........................................เลขท่.ี .................... ชัน้ ......................................................

เฉลย ใบงานที่ 8 คาํ สั่ง : ใหน ักเรียน บอกประโยชนข องปฏทิ นิ อยางนอ ย 5 ขอ ประโยชนของปฏิทิน 1. บอกเวลาทางจันทรคติ ขางขึน้ ขางแรม 2. บอกวัน เดือน ป ตามสุริยคติ 3. บอกวนั สาํ คัญตางๆ 4. ใชเ ตือนความจํา 5. บนั ทึกกาํ หนดนดั หมายตาง ๆ

แผนการจดั การเรยี นรูที่ 3 ช้นั ประถมศกึ ษาปท่ี 2 สาระการเรยี นรปู ระวตั ศิ าสตร เวลา 3 ชว่ั โมง หนวยท่ี 2 สบื คน เรือ่ งราวของครอบครวั เรือ่ งที่ 3 เรารูเ รือ่ งตา งๆ ไดอยา งไร มาตรฐาน ส 4.1 เขา ใจความหมาย ความสาํ คญั ของเวลาและยคุ สมยั ทางประวัติศาสตรส ามารถใชวธิ ีการทาง ประวัติศาสตรมาวิเคราะหเหตกุ ารณต า งๆ อยางเปนระบบ 1. ความคดิ รวบยอด เรื่องราวหรือเหตกุ ารณต า งๆที่เกดิ ข้ึนในชีวิตบางเรอื่ งมีความสําคัญตอ การดํารงชีวิต บางเรื่องอาจเปน จุดเรมิ่ ตน บางเรือ่ งอาจเปนจุดเปลยี่ นในชีวติ การเรยี งลาํ ดบั เหตูการณจงึ เปนสง่ิ จําเปนในการ เชือ่ มโยงเร่อื งราวใหเกิดคณุ คานาจดจาํ 2. ตวั ชี้วัด ส. 4.1 (2) ลําดบั เหตกุ ารณท ีเ่ กิดขึน้ ในครอบครัว หรอื ในชวี ิตของตนเองโดยใชหลักฐานทเ่ี กี่ยวขอ ง 3. จดุ ประสงคก ารเรียนรู 1. บอกคาํ แสดงชวงเวลาในอดีต ปจจบุ นั และอนาคตได 2. เรยี งลาํ ดับเหตุการณในครอบครัวของตนเองได 3. บอกความสมั พันธของคนในครอบครวั ได 4. บอกวธิ ีสบื คนขอมูลครอบครวั ได 4. สมรรถนะสาํ คญั ของผเู รยี น 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชทักษะชวี ติ 5. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค 1. รักชาติ ศาสน กษัตรยิ  2. มีวินยั 3. ใฝเ รียนรู 4. มุงม่นั การทาํ งาน 5. รกั ความเปน ไทย 6. สาระการเรยี นรู 1. คาํ ทีแ่ สดงชวงเวลา ในอดีต ปจ จุบัน อนาคต 2. วันเวลาตามระบบสรุ ยิ คติ และจนั ทรคตทิ ี่ปรากฏในปฏิทนิ ท่แี สดงเหตกุ ารณส าํ คัญในอดีตและ ปจ จบุ นั 3. วันสําคัญในปฏิทิน

7. ชิ้นงาน/หลกั ฐานรอ งรอยแสดงความรู 1. แบบประเมนิ พฤติกรรมและแบบประเมนิ ผลงาน 2. ใบงานเรื่อง 8. กจิ กรรมการเรยี นรู ชว่ั โมงที่ 1 1. ครกู ลา วทักทายแลวแจงใหน กั เรยี นทราบวาจะเรียนเรื่องท่ี 3 เรารูเรอ่ื งตา งๆไดอ ยา งไร 2. ครใู หน กั เรียนศึกษาบทเรียนจากหนงั สือเรยี น ประวตั ิศาสตร ชั้นประถมศึกษาปที่ 2 กระทรวงศึกษาธิการ ศกึ ษาวธิ ีการคนหาขอมลู ของครอบครัว 3. ครอู ธบิ ายเพิม่ เตมิ วา เราตองรูจักความเปนมาของตัวเราและครอบครัวของเราเพอื่ ความภาคภมู ิใจ และดาํ รงไวซ่งึ วงศตระกูลนอกจากนต้ี ัวเราตองกตัญตู อ วงศต ระกูลดว ยการทาํ ความดีสงเสริม ช่ือเสียงทีด่ งี ามของวงศต ระกลู ไวต ราบนานเทา นาน สง ตอ ไปยังรนุ ลูกหลานอกี ดวย 4. ครูแจกใบงานที่ 9 ใหนกั เรยี นทาํ 5. ครสู รปุ บทเรียนวากอ นทเ่ี ราจะสืบคน ขอ มลู ของครอบครัวเรา ควรสืบคน ขอมูลของตวั เราเสยี กอ นโดย การทําใบงานที่ 9 เปนวิธกี ารเรม่ิ แรกในการคนขอมลู ตวั เรา

ใบงานท่ี 9 คาํ สง่ั : สบื คนขอมลู ของตวั เราวา มใี ครบา น ในตน ไมค รอบครัว ตนไมค รอบครวั Family Tree …………………………………………… …………………………………………… ..................................................... ……………………………………………… ………………………… ช่ือ........................ นามสกุล................. เลขท่.ี .................

เฉลย ใบงานท่ี 9 คาํ สงั่ : สืบคนขอ มลู ของตัวเราวา มีใครบา น ในตน ไมครอบครัว ตน ไมครอบครวั Family Tree ปู + ยา ตา + ยาย คณุ พอ คณุ แม ตัวฉัน

ช่วั โมงท่ี 2 1. ครทู บทวนความรูจ ากบทเรียนในช่ัวโมงทแี่ ลว 2. ครแู จกใบความรูเรอ่ื งครอบครัวของฉันใหน ักเรียนศึกษาในประเดน็ ดว ย - คณุ พอ ของพอ เราเรยี กทา นวา …………………. - คุณแมของพอ เราเรยี กทา นวา ………………….. - คุณพอของแม เราเรียกทานวา ...................... - คุณแมของแม เราเรยี กทานวา ..................... - พส่ี าวของพอและแม เราเรียกทา นวา ....................... - พี่ชายของพอและแม เราเรยี กทา นวา ...................... - นอ งชายและนอ งสาวของพอ เราเรียกทา นวา ...................... - นอ ยชายและนอ งสาวของแม เราเรียกทานวา ......................... 3. ครูแจกใบงานท่ี 10 ใหน กั เรยี นปฏิบัติ 4. ครเู ฉลยใบงาน 5. ครูสรุปบทเรียนวาการสบื คน ขอ มูลทําไดห ลายวธิ ี เชน การสอบถาม การดูจากรปู ถา ย เปน ตน

ใบงานท่ี 10 คาํ สัง่ : ใหนกั เรยี น จับคูใหถกู ตอ ง ลงุ พอ ของพอ ปู พอ ของแม ปา แมของพอ แมข องแม ยา พสี่ าวของพอ /พ่ีสาวของ นา แม พี่ชายของพอ /พ่ีชายของ อา แม นอ งสาว / นอ งชายของ ยาย พอ นองสาว / นอ งชายของ ตา แม ช่ือ................................................นามสกุล.........................................เลขท่.ี .................... ชัน้ ......................................................

เฉลย ใบงานที่ 10 คาํ ส่งั : ใหน ักเรยี น จบั คใู หถ กู ตอ ง ลุง พอ ของพอ ปู พอของแม ปา แมของพอ ยา แมข องแม นา อา พี่สาวของพอ /พี่สาวของ ยาย แม ตา พชี่ ายของพอ /พช่ี ายของ แม นองสาว / นองชายของ พอ นอ งสาว / นองชายของ แม

ช่วั โมงท่ี 3 1. ครูทบทวนบทเรียนแลว อธิบายเพิ่มเตมิ วา เราสามารถสบื คนขอมลู ประวตั ขิ องครอบครัวเราไดหลาย วธิ ี 2. ครใู หนกั เรยี นศกึ ษาจากหนงั สือวชิ าประวตั ิศาสตรชั้นประถมศกึ ษาปท ี่ 2 3. ครแู จกใบงานท่ี 11 ใหนักเรยี นทํา 4. ครสู รปุ บทเรยี นวา ขอมลู ครอบครวั เราสามารถสบื คนไดจ ากหลกั ฐานทางราชการ คอื ทะเบยี นบาน และสตู บิ ตั รหรอื ใบแจง เกดิ หรอื อาจจากการสอบถาม , ฟง เร่อื งเลา , ดจู ากรปู ถา ย เปนตน

ใบงานท่ี 11 คาํ สั่ง : ใหน กั เรยี นทําผงั ความคิดแสดงวิธสี บื คน เกย่ี วกบั ประวตั คิ รอบครัว การสืบคนประวตั ิครอบครวั ไดจ ากสิง่ เหลา น้ี ................. ................. ................. ................. ................. ............... ............... ............... ............... ............... ช่ือ................................................นามสกุล.........................................เลขท่.ี .................... ชัน้ ......................................................

เฉลย ใบงานท่ี 11 คาํ สั่ง : ใหนักเรียนทาํ ผังความคดิ แสดงวิธสี บื คน เกีย่ วกับประวตั คิ รอบครัว การสืบคน ประวัติ ครอบครัว ไดจ ากสงิ่ สูติบัตร ภาพถาย ทะเบียนบา น การ ศึกษาจากสง่ิ ของ สอบถาม เครอ่ื งใชตางๆ

แผนการจดั การเรียนรูที่ 4 ชัน้ ประถมศึกษาปท่ี 2 สาระการเรียนรูป ระวัตศิ าสตร เวลา 3 ชว่ั โมง หนว ยท่ี 2 สบื คน เร่ืองราวของครอบครวั เร่อื งท่ี 4 เรอ่ื งราวของครอบครัว มาตรฐาน ส 4.1 เขาใจความหมาย ความสาํ คญั ของเวลาและยคุ สมัยทางประวัติศาสตรสามารถใชว ิธีการทาง ประวตั ิศาสตรมาวเิ คราะหเ หตกุ ารณตางๆ อยางเปนระบบ 1. ความคิดรวบยอด เรอื่ งราวหรือเหตุการณต างๆท่ีเกดิ ขนึ้ ในชวี ิตบางเรอ่ื งมีความสําคัญตอการดาํ รงชวี ิต บางเรือ่ งอาจเปนจุดเริ่มตน บางเร่ืองอาจเปนจดุ เปล่ียนในชวี ิตการเรยี งลาํ ดับเหตกู ารณจ ึงเปน สง่ิ จาํ เปน ในการ เชอื่ มโยงเรอ่ื งราวใหเกิดคุณคา นา จดจํา 2. ตัวช้วี ดั ส. 4.1 (2) ลําดบั เหตกุ ารณท่ีเกิดขนึ้ ในครอบครัว หรอื ในชีวติ ของตนเองโดยใชห ลกั ฐานทเี่ ก่ียวของ 3. จดุ ประสงคก ารเรยี นรู 1. บอกคาํ แสดงชว งเวลาในอดีต ปจจบุ นั และอนาคตได 2. เรียงลาํ ดับเหตุการณในครอบครัวของตนเองได 3. บอกความสมั พนั ธข องคนในครอบครัวได 4. บอกวธิ สี ืบคน ขอ มูลครอบครวั ได 4. สมรรถนะสาํ คญั ของผเู รยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชทกั ษะชวี ิต 5. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค 1. รกั ชาติ ศาสน กษัตริย 2. มีวินยั 3.ใฝเ รียนรู 4. มงุ มน่ั การทาํ งาน 5. รกั ความเปน ไทย 6. สาระการเรยี นรู 1. คําท่แี สดงชวงเวลา ในอดีต ปจ จุบัน อนาคต 2. วนั เวลาตามระบบสรุ ยิ คติ และจนั ทรคติท่ปี รากฏในปฏิทนิ ท่แี สดงเหตกุ ารณส าํ คัญในอดตี และ ปจ จุบัน 3. วันสาํ คญั ในปฏทิ นิ

7. ชนิ้ งาน/หลกั ฐานรอ งรอยแสดงความรู 1. แบบประเมนิ พฤติกรรมและแบบประเมินผลงาน 2. ใบงานเรื่อง 8. กจิ กรรมการเรยี นรู ช่ัวโมงที่ 1 1. ครกู ลา วทกั ทายและทบทวนบทเรยี นในครง้ั กอ นแลว อธิบายเพิม่ เติมวา เรามีวิธงี ายๆทจี่ ะรวบรวม ขอ มูลของครอบครวั ของเราเอาไวด วยการเก็บรวบรวมภาพถา ยเกาๆ จดั เรยี งเปนหมวดหมจู ากรุน คณุ ปยู า ตายาย จนมาถึงรนุ ของนกั เรยี นเอง 2. ครถู ามนักเรยี นวา ทบ่ี านมีรูปถายเกา ๆ ตั้งแตนกั เรยี นยงั เปนเด็กๆอยบู างหรอื ไม 3. รูปถา ยเหลา นั้นบอกเร่อื งราวอะไรเก่ยี วกบั ครอบครวั ของนักเรียนบา ง 4. ครูแจกใบงานที่ 12 ใหนกั เรยี นทํา 5. ครสู รปุ บทเรยี นวา เราสามารถรเู ร่ืองราวของครอบครัวดวยการใชรปู ถายเปนหลกั ฐานในดารลาํ ดับ เรอ่ื งราวของทุกคนในครอบครัวของเราได

ใบงานที่ 12 คําสงั่ : ใหนักเรียนวาดภาพประทับใจ “ครอบครวั ของฉนั ” พรอ มระบายสีใหส วยงาม (หมายเหตุ พิจารณาตามคําตอบของนกั เรียน โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพินิจของครูผูส้ อน) ช่ือ................................................นามสกุล.........................................เลขท่.ี .................... ชัน้ ......................................................

ช่วั โมงที่ 2 1. ครูทบทวนบทเรยี น จากภาพประทบั ใจในครอบครัวของนักเรียนแลว ครอู ธบิ ายเพม่ิ เติมวานกั เรยี น สามารถบอกเลา ถงึ ความภาคภูมใิ จในครอบครัวและบอกเลา เรอ่ื งราวดวยการเขยี นคาํ บรรยายใตภ าพ พอสงั เขป เพือ่ อธิบายความเปน มาของครอบครวั เราไดอ ีกดว ย 2. ครูแจกใบงานที่ 13 ใหน ักเรยี นปฏิบตั ิ 3. ครสู มุ นกั เรยี นออกมาเลา ถงึ สมาชิกในครอบครวั เร่ืองราวความเปนมาของครอบครวั พอสังเขป เชน คณุ ปเู จอคุณยา ทีใ่ ด คณุ แมแตงงานกับคุณพอไดอ ยางไร 4. ครสู รปุ บทเรยี นวา ครอบครัว ความเปนมาของครอบครวั เปนสิ่งที่นกั เรยี นทุกคนตอ งใหความสําคญั เพ่ือดํารงไวซ งึ่ สถาบนั ครอบครัว

ใบงานที่ 13 คําสงั่ : ใหน กั เรยี นเขยี นบรรยาย ความเปน มาของครอบครัวของนักเรียนเองโดยการเติมคาํ ลงในชอ งวาง คุณปูของฉนั คุณยา ของฉนั คุณตาของฉัน คุณยายของฉนั ชอ่ื .............................. ชอ่ื .............................. ชอื่ .............................. ชอื่ .............................. มีอาชีพ....................... มอี าชีพ....................... มีอาชพี ....................... มีอาชีพ....................... คุณพอ ของฉนั คณุ แมข องฉนั ชอื่ .............................. ชือ่ .............................. มอี าชพี ....................... มีอาชพี ....................... ตัวฉนั ชอ่ื ................................................ เรียนอยชู น้ั ........................ ครอบครัวของเรา เปน ครอบครวั ............................ เพราะ........................................ (หมายเหตุ พิจารณาตามคําตอบของนกั เรียน โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพินิจของครูผูส้ อน) ช่ือ................................................นามสกุล.........................................เลขท่.ี .................... ชัน้ ......................................................

ช่วั โมงที่ 3 1. ครทู บทวนบทเรียนเดิมแลว อธบิ ายเพมิ่ เติมวาเราทกุ คนรกั และภาคภมู ิใจในครอบครวั ของเรา บางคน ใฝฝ นวา เมอื่ โตขึน้ อยากจะประกอบอาชพี เหมือนคนรุนปยู า ตายาย และรุนพอ ทัง้ นเ้ี พราะมีความ ภูมใิ จในครอบครัว 2. ครถู ามนักเรียนวา โตข้นึ อยากประกอบอาชีพอะไร 3. ครถู ามนกั เรยี นอกี วา มใี ครเปน แรงบันดาลใจ 4. ครูถามถึงจดุ เดนของบคุ คลท่เี ปน แรงบันดาลใจ 5. ครแู จกใบงานท่ี 14 ใหนักเรยี นทํา 6. ครสู ุมนกั เรยี นออกมาเลาเร่อื งตามใบงานท่ี 14 7. ครูสรปุ บทเรยี นวา แรงบนั ดาลใจเปน สงิ่ สาํ คญั มากย่งิ หากบคุ คลในครอบครัวของเราเปนตน แบบท่ีดยี ิง่ สงเสรมิ ใหเ ราประสบความสาํ เรจ็ ในชีวติ อยางรวดเรว็ เพราะครอบครัวจะสนับสนนุ เราในทกุ ๆสิง่

ใบงานท่ี 14 คําสง่ั : ใหนกั เรียนวาดภาพอาชีพในอนาคตของฉนั ประกอบคําบรรยาย Vk= อาชพี ของฉันคือ............................................ ฉันอยากประกอบอาชพี ...................... เพราะมี .......................เปนแรงบันดาลใจ คณุ ............... มสี ่งิ ทีฉ่ ันประทับใจคือ ....................... ฉนั รูส กึ ภาคภูมใิ จในตวั คุณ ...................... เปนอยางมากและจะ นาํ ไปเปน แบบอยางในการปฏิบตั ิตน (หมายเหตุ พิจารณาตามคําตอบของนกั เรียน โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพินิจของครูผูส้ อน) ช่ือ................................................นามสกุล.........................................เลขท่.ี .................... ชัน้ ......................................................

แผนการจดั การเรียนรทู ่ี 5 ชน้ั ประถมศึกษาปท ี่ 2 สาระการเรียนรูประวัตศิ าสตร เวลา 2 ช่วั โมง หนว ยที่ 2 สบื คนเร่ืองราวของครอบครัว เรอ่ื งท่ี 5 เวลากับการเปลยี่ นแปลง มาตรฐาน ส 4.1 เขา ใจความหมาย ความสําคญั ของเวลาและยุคสมัยทางประวตั ิศาสตรสามารถใชวิธกี ารทาง ประวัตศิ าสตรมาวเิ คราะหเหตการณต างๆ อยางเปนระบบ 1. ความคิดรวบยอด เรื่องราวหรือเหตุการณต างๆท่ีเกิดขน้ึ ในชวี ติ บางเรอ่ื งมคี วามสาํ คญั ตอการดาํ รงชวี ิต บางเรือ่ งอาจเปนจุดเรม่ิ ตน บางเรื่องอาจเปน จุดเปล่ียนในชีวิตการเรียงลาํ ดบั เหตกู ารณจึงเปน สงิ่ จําเปนในการ เชื่อมโยงเรอื่ งราวใหเกดิ คุณคานา จดจาํ 2. ตัวชีว้ ดั ส .4.1 (2) ลาํ ดบั เหตกุ ารณท เ่ี กิดข้ึนในครอบครัว หรอื ในชีวิตของตนเองโดยใชห ลกั ฐานที่เกย่ี วขอ ง 3. จุดประสงคก ารเรยี นรู 1. บอกคาํ แสดงชว งเวลาในอดตี ปจจบุ นั และอนาคตได 2. เรยี งลําดับเหตุการณในครอบครัวของตนเองได 3. บอกความสมั พันธของคนในครอบครัวได 4. บอกวธิ สี บื คนขอ มูลครอบครัวได 4. สมรรถนะสาํ คัญของผเู รยี น 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใชท กั ษะชวี ติ 5. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค 1. รักชาติ ศาสน กษัตรยิ  2. มวี นิ ยั 3. ใฝเรยี นรู 4. มุง ม่ันการทาํ งาน 5. รกั ความเปน ไทย 6. สาระการเรยี นรู 1. คาํ ทแ่ี สดงชว งเวลา ในอดีต ปจ จบุ ัน อนาคต 2. วนั เวลาตามระบบสุรยิ คติ และจันทรคติท่ีปรากฏในปฏิทนิ ที่แสดงเหตกุ ารณส าํ คัญในอดตี และ ปจ จบุ ัน 3. วันสาํ คญั ในปฏทิ ิน

7. ชนิ้ งาน/หลกั ฐานรอ งรอยแสดงความรู 1. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมและแบบประเมนิ ผลงาน 2. ใบงานเรือ่ ง 8. กิจกรรมการเรยี นรู ชั่วโมงท่ี 1 1. ครูทักทายนกั เรียนแลว สนทนาเชอื่ มโยงเกี่ยวกบั เรอื่ งราวทีผ่ า นไปตามกาลเวลาวา เมือ่ เวลาผานไปสิ่ง ทอ่ี ยรู อบๆตวั เรากเ็ ปล่ยี นแปลงไปดว ย 2. ครูอธิบายเพม่ิ เติมวา ในวันๆหน่งึ นักเรยี นทาํ กิจกรรมใดบา ง กจิ กรรมที่เราทาํ น้นั เกดิ ประโยชนห รอื ไม เราสามารถสาํ รวจการดําเนินชวี ติ ในแตล ะวันของเราไดดวยการทาํ เสน เวลาแสดงเหตกุ ารณตลอดวัน 3. ครูแจกใบงานท่ี 15 ใหนักเรยี นทาํ 4. ครูสรปุ บทเรยี นและยกตัวอยางการทาํ เสน เวลาแสดงเหตกุ ารณใ นหนึง่ วนั ของนักเรยี นเพอื่ ความเขา ใจ ตัวอยา งการทาํ เสน เวลาแสดงเหตกุ ารณใ นหนึ่งวนั เวลา 16.00 เลกิ เรยี นเดินทางกลบั บาน 14.00 ลงไปซอ มเชียรกีฬาสี 12.00 พกั กลางวนั 09.00 เรยี นหนังสือ 08.00 เคารพธงชาติ 07.00 ไปโรงเรียน 06.00 ต่นื นอน

ใบงานที่ 15 คําส่งั : ใหนกั เรียนอา นเรื่องราวของ นภิ า แลวทาํ เสน แสดงเหตุการณส ําคญั ใหถูกตอ ง นิภาเกดิ เมอ่ื พ.ศ. 2547 เปน ชาวอุดรธานี พออายไุ ด สามขวบ(2549) นิภาปวย เปน ปอดบวม ตอ งเขา นอนพักรักษาตัวท่โี รงพยาบาลหลายวันพอนภิ าอายุ 4 ขวบคณุ ยาของนิภามาขอรับนภิ าไปอยู กรุงเทพกับคุณยาเนื่องจากคิดถงึ และอยากดูแลสงเสียใหเลาเรยี นดว ยตนเองเพราะนิภาเปนหลานคนแรก ของครอบครวั นภิ าจงึ มาอยูกรุงเทพฯ กับคณุ ยาและเร่มิ เขาเรียนชัน้ อนุบาลตอนอายุ 4 ขวบ นิภาเรยี น อนบุ าลอยู 3 ป จงึ เขาเรยี นช้นั ประถมศึกษาปท ่ี 1 ทโ่ี รงเรียนในกรงุ เทพมหานคร ปจจบุ นั นิภาอยชู นั้ ประถมศึกษาปท่ี 3 แลว ช่ือ................................................นามสกุล.........................................เลขท่.ี .................... ชัน้ ......................................................


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook