Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แบบเสนอเพื่อรับการประเมิน Best Practice ปี 2561

แบบเสนอเพื่อรับการประเมิน Best Practice ปี 2561

Published by dlit_sm037, 2020-05-25 23:14:21

Description: การพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาประวัติศาสตร์สากล 1 ในรูปแบบนิตยสารที่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์สำหรับผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

Search

Read the Text Version

ใบสมัครเพ่ือรับรางวลั การปฏบิ ัติท่เี ป็นเลิศ (Best Practice) ครผู สู้ อนวิชาสังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม -------------------- ชือ่ ผู้เสนอขอ นายจิรพล ลวิ า โรงเรยี น เทพราชพทิ ยาสรรค์ อำเภอ สชิ ล จงั หวัด นครศรีธรรมรำช โทรศพั ท์ มือถอื 084-1898732  ข้ำรำชกำรครู  ครูอัตรำจ้ำง ช่อื ผลงำน การพฒั นาเอกสารประกอบการเรยี นรายวิชาประวตั ศิ าสตรส์ ากล 1 ในรปู แบบ นติ ยสาร ที่มีปฏสิ มั พนั ธ์กบั ผ้เู รียน เพื่อพฒั นาทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ สาหรบั นกั เรยี นระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 6 ระดับชั้น  มธั ยมศึกษำตอนต้น  มธั ยมศกึ ษำตอนปลำย ขนำดโรงเรยี น  ใหญ่พเิ ศษ  ใหญ่  กลำง  เลก็ ลงชอ่ื ...................................................................... ผู้เสนอขอ ( นายจริ พล ลวิ า ) ตำแหน่ง ครู อนั ดบั คศ.๑ ลงชือ่ ...................................................................... ผรู้ ับรอง ( นายสมเจตน์ ไชยเมอื ง ) ผูอ้ ำนวยกำรโรงเรียน เทพราชพทิ ยาสรรค์ หมายเหตุ ส่งใบสมัครไปยัง ศูนยพ์ ัฒนำวิชำกำรสงั คมศกึ ษำศำสนำและวฒั นธรรม โรงเรยี นเฉลมิ พระ เกยี รตสิ มเด็จพระศรนี ครินทรฯ์ ภำยในวันอังคำรท่ี ๒๑ สิงหำคม ๒๕๖๑ และเข้ำรบั กำรประเมนิ พร้อมเสนอ ผลงำนและสง่ เอกสำรแบบเสนอขอ ๕ ชุด ในวนั พฤหัสบดี ๒๓ สิงหำคม ๒๕๖๑ เวลำ ๐๙.๐๐ น. ณ ห้อง ประชมุ พดุ ตำน ศูนย์พัฒนำวชิ ำกำรสังคมศกึ ษำศำสนำและวัฒนธรรม โรงเรยี นเฉลิมพระเกียรตสิ มเด็จพระศรี นครินทรฯ์

แบบเสนอเพอ่ื รบั รางวลั วธิ ีการปฏบิ ัติท่ีเป็นเลิศ (Best Practice) ระดบั เขตพืน้ ท่ี ปีการศึกษา 2561 สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามธั ยมศึกษา เขต 12 ชอ่ื ผู้สง่ ประกวด นายจริ พล ลิวา ประเภท ข้าราชการครูและครูอัตราจา้ ง โรงเรยี น/ศนู ยพ์ ัฒนาวิชาการ เทพราชพิทยาสรรค์ ชอ่ื ผลงาน การพฒั นาเอกสารประกอบการเรยี นรายวชิ าประวตั ศิ าสตร์สากล 1 ในรูปแบบนติ ยสาร ท่ี มปี ฏิสัมพนั ธก์ ับผูเ้ รยี น เพ่ือพฒั นาทกั ษะการคิดวิเคราะห์ สาหรบั นกั เรียนระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 1. ความสาคัญของผลงาน 1.1 ความสาคัญสภาพปัญหา ปัจจุบันสังคมโลกเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 อันเป็นยุคของการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วในทุกด้าน รวมทั้ง ทางด้านการศึกษา ผเู้ รยี นในปัจจุบันเป็นเยาวชนในศตวรรษท่ี 21 การจดั การศกึ ษาจงึ ตอ้ งสอดคล้องกับการ สรา้ งทกั ษะในศตวรรษที่ 21 ในดา้ นการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศเพือ่ การศกึ ษา การปรบั ตัวเพอ่ื เรยี นร้สู ิง่ ใหม่ ใช้ทกั ษะในการแกไ้ ขปญั หาต่าง ๆ อยา่ งมีสติ มเี หตุผล มวี ิจารณญาณ ร้เู ทา่ ทันเหตุการณ์ โดยวธิ ีการทดี่ ที สี่ ุด คือ การจัดการศกึ ษาทเ่ี ตรยี มความพร้อมในดา้ นที่จาเปน็ สาหรบั ผเู้ รยี น เพอื่ ใหเ้ ปน็ กาลงั สาคัญท่ีมีคณุ ค่าของ สังคมในศตวรรษท่ี 21 (วิจารณ์ พานิช, 2555) สอดคล้องกับ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเตมิ (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2545 และพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (ฉบับท่ี 3) พ.ศ. 2553 ได้กล่าวถึงอุดมการณ์และหลักการของการจัดการศึกษาตลอดชีวิต เพ่ือพัฒนาสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่ง การเรียนรู้ ส่งเสริมโอกาสทางการศกึ ษาท่ีเท่าเทียมกัน โดยเน้นให้ผู้เรียนได้มโี อกาสพัฒนาตนเองอย่างเต็ม ศกั ยภาพและเป็นไปตามธรรมชาติ มคี วามคิดริเร่มิ สรา้ งสรรค์ และสามารถเรยี นรู้ได้ตลอดชีวิต จากทีก่ ลา่ วมาขา้ งตน้ สอดคลอ้ งกับ แนวโยบายของนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จนั ทรโ์ อชา ในการ ขับเคล่ือนการดาเนินงานทางการศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธกิ ารทม่ี ุ่งเน้นให้มีการใช้สอ่ื การเรยี นการสอน กระต้นุ ผู้เรียนเพ่อื สรา้ งแรงจูงใจในการเรียนร้ใู ห้กับผเู้ รียน มกี ารนาระบบการติดต่อสื่อสารท่ีเก่ียวกับข้อมูล ข่าวสารโดยใช้เทคโนโลยี (ICT: Information Communication Technology) เข้ามาใช้ในการจัดการ เรียนการรู้อย่างเป็นรปู ธรรมและกว้างขวาง และ ดาเนินการจัดการเรียนการสอน โดยเชือ่ ม่ันในแนวคดิ ท่ีว่า การเรียนไม่ใช่เพ่ือการสอบ แต่เรียนให้ได้ทักษะชีวิตสามารถอยู่ในโลกยุคไร้พรมแดนได้ (สานักงาน เลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา, 2559) นอกจากนน้ั ประโยชนข์ องเทคโนโลยีทางการศึกษาทาใหก้ ารเรียนการสอน 1

และการจัดการศึกษาช่วยให้ผเู้ รียนสามารถเรียนรู้ได้อย่างกว้างขวางย่ิงข้ึน รวดเร็วข้ึน ได้เห็นและได้สมั ผัส กับสงิ่ ทีเ่ รียนไดอ้ ย่างเข้าใจมากยิ่งขึน้ (อบุ ลรัตน์ สนุ ทรกลมั พ์, 2542) ท้ังนี้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กล่าวถึงความสาคัญของการจัดการ เรียนการสอน รายวิชาในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรมไว้ โดยเน้นท่ีการพัฒนา ผู้เรยี นใหม้ ีความรคู้ วามเขา้ ใจในการดารงชีวติ การปรับตวั ตามสภาพแวดลอ้ ม เขา้ ใจถงึ การเปลี่ยนแปลงตาม ยคุ สมัย กาลเวลา ตามเหตุปัจจัยต่าง ๆ โดย หลักสูตรแกนกลางการศึกษา ได้มีการกาหนดให้มีการวัดผล การเรียนรูข้ องผู้เรียนไว้ 3 ระดับ คือ ระดบั ชั้นเรียน ระดบั สถานศึกษา และ ระดับชาติ โดยในส่วนของการ ทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (Ordinary National Education Test หรือ O-NET) ของ ผู้เรียนท่ีกาลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6 ท่ัวประเทศ ต้องเข้ารับการทดสอบโดยสถาบันทดสอบทาง การศึกษาแห่งชาติ (องคก์ ารมหาชน) และเน่อื งจากผลการสอบในปกี ารศึกษา 2557 และ 2558 ผู้เรียนได้ คะแนนต่ากว่าร้อยละ 50 ของคะแนนเต็ม โดยเฉพาะกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาแล ะ วัฒนธรรม ซึ่งสะท้องให้เห็นว่า คุณภาพของผู้เรียนที่จบช้ัน ม.6 ยังไม่มีคุณภาพอยู่ในระดับท่ีน่าพอใจ (ธญั ญา เรอื งแก้ว, 2550) ดังน้ันเม่ือพบว่าส่ือการเรียนรูท้ ่ีทันสมัย มีเทคโนโลยีเข้ามาเป็นองค์ประกอบเพิ่มเติม รวมทั้งสามารถ ดึงดูดใจผู้เรียนให้เกดิ ความกระตอื รือร้นเป็นส่วนท่ีสาคัญที่จะช่วย ในการเรยี นรู้รายวิชาประวตั ิศาสตรไ์ ทย ที่จะช่วยให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2551 รวมทั้งแนวคิดของ ผเู้ รยี นในศตวรรษที่ 21 ทเี่ นน้ ให้เกิดการใช้สอ่ื การเรยี นการสอนอย่างแพร่หลาย มีความหลากหลาย และมี การพัฒนาสื่อการเรียนการสอนในทุกรปู แบบอย่างต่อเน่ือง ดังนั้นสื่อการเรียนการสอนจึงเขา้ มามีบทบาท มากต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนในด้านการกระตุ้นความสนใจต่อส่ิงที่เรียนและเป็นเคร่ืองมือสาคัญที่ช่วยให้ ผเู้ รยี นไดเ้ รียนรู้จากการลงมือปฏบิ ตั กิ ิจกรรม เพ่ือให้ได้รับประสบการณ์ทางการเรยี นรู้ทเี่ ป็นรปู ธรรม รวมท้ัง ยงั สามารถสรา้ งส่ือการเรียนรทู้ เี่ ปน็ ตน้ แบบของการเรยี นรู้ เพื่อกระบวนการความคดิ รวบยอดทสี่ ลับซบั ซอ้ น สามารถสร้างสภาพการณ์จัดการเรียนรู้ท่ีเปิดกว้างต่อความสามารถในการเรียนรู้ของผู้เรียน ซ่ึงสามารถ กล่าวไดว้ ่า “สื่อ” คือประสบการณ์ทางการเรียนรู้ของผเู้ รียนท่ีสามารถเรยี นรู้ได้จากส่ือ ดังนนั้ ผสู้ อนจงึ ตอ้ ง เป็นผู้ที่มีความสามารถในการจัดประสบการณ์ เพ่ือการเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสมกับผู้เรียน เพื่อให้ผู้เรียน สามารถบรรลุเป้าหมายของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 และแนวคิดของ ผูเ้ รยี นในศตวรรษที่ 21 2

เอกสารประกอบการเรียนเป็นสื่อการเรียนรู้ทสี่ ามารถเปิดโอกาสใหผ้ ูเ้ รียนได้มโี อกาสการเรียนรไู้ ดด้ ้วย ตนเอง และเมื่อเป็นเอกสารประกอบการเรียนที่สามารถส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยสามารถ เรยี นรู้ได้ทุกสถานท่ี ทุกเวลา และเชื่อมโยงสู่สื่อการเรยี นร้นู อกห้องเรียนด้วยแล้ว จะเป็นประโยชน์เพิ่มขึ้น เปน็ อย่างมาก โดยผู้สอนสามารถใช้เพือ่ ประกอบการจดั การเรียนรูใ้ นรายวิชาใด รายวชิ าหนึง่ ตามหลักสูตรที่ ใช้ในสถานศึกษาท่ีมีหัวข้อครบถ้วนตามรายละเอียดของรายวิชาท่ีกาหนดไว้ในหลักสูตรไม่น้อยกว่า 1 รายวิชา และมีความหมายครอบคลุมในด้านต่างๆ เช่น ความหมาย เน้ือหา กิจกรรมและวิธีการสอน อุปกรณ์ท่ีใช้และวิธีการวดั และประเมินผล ซ่ึงสามารถช่วยประหยัดเวลาในการจัดการเรียนรู้ของผู้สอนได้ ทาให้ผู้สอนมีเวลาและโอกาสในการให้ความสนใจดูแลผูเ้ รียนเป็นรายบุคคลมากข้ึน นอกจากน้ียงั สามารถ ปรบั ใช้กบั ผู้เรียนท่ีมลี กั ษณะเป็นผ้เู รียนท่ีเรยี นช้า ตอ้ งการความเอาใจใส่เป็นพเิ ศษ ซ่ึงยังไมส่ ามารถข้ามข้ัน ไปเรยี นในระดบั ที่สูงขึ้นไดต้ ามปกติ อาจจะใช้ในการสอนซอ่ มเสรอมอีกครง้ั หน่ึงหรือหลาย ๆ ครั้ง โดยการ แนะนาจากครูและเพ่ือนๆ ได้สรา้ งเอกสารประกอบการเรียนโดยใช้รปู แบบของนิตยาสาร มาเพื่อกระตุ้นให้ ผู้เรียนเกิดความสนใจในการเรียนมากขึ้น และผู้เรียนต้องเป็นผู้ที่มีความซ่ือสัตย์ มีความรับผิดชอบ เป็ น บทเรยี นท่ีส่งเสรมิ คณุ ธรรมจริยธรรม นิตยสาร เป็นสื่อท่ีสามารถปรับเป็นสื่อการเรียนรปู้ ระเภทหน่งึ ที่ดึงดูดความสนใจของผู้เรียนมากท่ีสุด สืบเน่ืองจากโลกในสังคมยุคปัจจุบันเป็นโลกแห่งข้อมลู ขา่ วสารทหี่ ลากหลาย และสื่อที่เหมาะสมกับวัยของ ผเู้ รยี นในระดับมธั ยมศึกษาปีที่ 6 น้ันสนใจท่ีจะใช้เวลากับสอ่ื ท่ีมีรูปแบบทันสมยั มีภาพประกอบสวยงามมี ลวดลายท่แี ปลกใหม่ ไม่ใชเ่ ปน็ เพียงตัวหนังสอื เพยี งอย่างเดยี ว ซ่ึงเปน็ ดงั พระราชปรารภของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั จากพระราชนพิ นธ์เรื่อง พระมหาชนก “...เพอ่ื ใหเ้ กดิ ประโยชน์สมบรู ณ์ จึงโปรดใหศ้ ลิ ปนิ ไทย ช้ันนำวำดรปู ประกอบ...” นอกจากนหี้ นังสือที่มีภาพที่นาเสนออย่างนา่ สนใจ สามารถให้ความร้ตู ามรายวิชา ต่าง ๆ ได้ และสามารถนาเนื้อหาออกมาจัดทาเปน็ ภาพประกอบพร้อมคาบรรยายที่สอดคล้องกนั กับคาพุด ทาให้ผูอ้ ่านทัง้ เด็กและผใู้ หญเ่ กดิ ความเพลินเพลินและชวนอา่ น อันเน่ืองมาจากการมีภาพประกอบดงั กล่าว นั้น จากความสาคัญของการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาประวัติศาสตร์สากล 1 ในรูปแบบ นิตยสาร ท่ีมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน สาหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6 เพ่ือพัฒนาทักษะการคิด วเิ คราะห์ ดังกล่าวนั้นจากการสอบถาม สัมภาษณ์ หรือสังเกตจากผู้เรียน ทาให้ผวู้ ิจัยพบว่า ผเู้ รียนกว่าร้อย ละ 80 สนใจในรูปแบบของเอกสารประกอบการเรยี นท่ีมลี ักษณะคลา้ ยนิตยสาร เพอื่ กระตนุ้ ให้ผเู้ รียน ได้รับ การพัฒนาเต็มศักยภาพ กล่าวได้ว่าการใช้ภาพท่ีมีลักษณะทันสมัย สวยงาม และตรงกับวัยของผู้เรียนมา ประกอบในเอกสารประกอบการเรียนรวมทง้ั การจัดรูปแบบเอกสารประกอบการเรียนที่มีความแตกตา่ งจาก 3

เอกสารประกอบการเรียนแบบเดิม ๆ สามารถกระตุ้นความสนใจให้กับผ้เู รยี นทาให้เกิดความกระตือรือร้น อยากเรียน สนุกสนาน ตื่นเต้น อนั สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐานท่กี าหนดให้ผู้สอน ส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนให้แก่ผู้เรียนเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ สามารถแสวงหาความรู้ด้วยตนเองได้ อยา่ งต่อเนื่องตลอดชวี ติ 1.2 แนวทางการแกป้ ัญหาและพัฒนา โรงเรยี นเทพราชพิทยาสรรค์ ตาบลเทพราช อาเภอสิชล จงั หวดั นครศรีธรรมราช สังกัดสานักงานเขต พื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษาเขต 12 เป็นโรงเรียนท่ีจัดการเรียนการสอนในระดับมัธยมศึกษา ตั้งแต่ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 ถงึ มัธยมศึกษาปีท่ี 6 มีครูอาจารยจ์ านวน 11 คน นักเรียนทง้ั สิ้น 92 คน ซึ่งนักเรยี นร้อย ละ 100 มาจากชนบท มีความคิดรเิ ริ่มสรา้ งสรรค์ในระดับปานกลาง เรียนรู้ในกรอบท่ีผู้สอนวางให้เท่าน้ัน ผู้เรียนส่วนใหญ่ขาดความสนใจและไม่ต้ังใจเรียน รวมท้ังทางานท่ีได้รับมอบหมายให้เสร็จและส่งตาม กาหนดเวลา รวมท้ังผเู้ รียนมีความเบื่อหน่ายต่อรายวิชาประวัตศิ าสตร์ไทย ซง่ึ ผู้เรยี นมองว่าเป็นเรอื่ งไกลตัว ไม่มีความสาคัญ และยากที่จะเข้าถึง ประกอบกับเอกสารประกอบการเรียนในรูปแบบกระดาษ เป็นแผ่น ตามทเ่ี คยปฏิบัติมา ผ้เู รียนจะไมส่ นใจ เพราะเป็นเอกสารทมี่ ีตวั หนังสือเยอะ และไม่กระตุ้นความสนใจของ ผู้เรยี นเพยี งพอ ในขณะทเ่ี ปา้ หมายของการจดั การเรยี นรู้รายวชิ าประวตั ิศาสตร์ไทย น้ัน คือให้ผู้เรยี นมีความ พร้อมสาหรับการเป็นเยาวชนในศตวรรษท่ี 21 เป็นพลเมืองที่สมบูรณ์ของโลก รวมทั้งดารงชีวิตในยุค ปจั จบุ นั ได้อยา่ งมคี วามสขุ ด้วยเหตนุ ้ผี ู้วจิ ยั จึงเห็นความจาเปน็ ท่จี ะพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชา ประวัติศาสตรส์ ากล 1 ในรูปแบบนิตยสาร ท่ีมีปฏสิ ัมพนั ธ์กบั ผเู้ รียน สาหรับนกั เรียนระดับช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 6 เพ่ือพฒั นาทักษะการคิดวิเคราะห์ เพ่ือช่วยกระตุ้นความสนใจ แรงจงู ใจ การใหค้ วามชัดเจน และเน้น การพฒั นาทักษะการคิดวเิ คราะห์ของผู้เรียน ดังน้ันผู้วิจัยมีความม่ันใจว่า การใช้ส่ือประเภทเอกสารประกอบการเรียนในรูปแบบนิตยสาร มาสู่ กระบวนการจัดการเรียนรู้ จะชว่ ยให้ผู้เรยี นเรยี นรู้ผา่ นประสาทสัมผัสต่าง ๆ ได้เรว็ ขึ้น มีประสิทธิภาพยิง่ ขึ้น รวมทัง้ จะสามารถนาไปสู่การพฒั นาเอกสารประกอบการเรยี นในรายวิชาอ่ืน ๆ ได้ตอ่ ไป จากหลักการและเหตุผลดังกล่าว ผู้วิจัยจึงมีความสนใจท่ีจะการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน รายวิชาประวัติศาสตร์สากล 1 ในรูปแบบนิตยสาร ท่ีมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน เพ่ือพัฒนาทักษะการคิด วเิ คราะห์ สาหรับนักเรียนระดับช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 6 โรงเรียนเทพราชพิทยาสรรค์ เพ่ือเป็นการแนวทางใน การพัฒนาการเรียนการสอนตามแนวทางของศตวรรษท่ี 21 สร้างส่ือและเทคโนโลยีที่เหมาะสม มี ประสทิ ธภิ าพและสามารถผลติ ตลอดจนใช้นวัตกรรมทางการศึกษาต่อไป 4

2. จดุ ประสงค์และเป้าหมาย 1.1 เพ่ือการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาประวัติศาสตร์ไทย ในรูปแบบนิตยสาร แบบมี ปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน สาหรับนักเรียนระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนเทพราชพิทยาสรรค์ อาเภอสชิ ล จังหวดั นครศรธี รรมราช ทีม่ ปี ระสิทธภิ าพตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐ 1.2 เพ่อื ศกึ ษาดชั นปี ระสทิ ธิผลการเรยี นรู้ของเอกสารประกอบเรียนโดยใชร้ ูปแบบนิตยสารทสี่ รา้ งขึน้ 1.3 เพื่อเปรียบเทียบผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนของผเู้ รียนท่ีใชเ้ อกสารประกอบการเรยี นในรูปแบบนิตยสารท่ี สร้างข้ึนกับเกณฑ์ ร้อยละ ๘๐ 1.4 เพือ่ ศกึ ษาความพงึ พอใจของผ้เู รยี นทมี่ ีตอ่ เอกสารประกอบการเรยี นในรูปแบบนิตยสารท่สี รา้ งข้ึน 3. กระบวนการผลติ ผลงานหรอื ขน้ั ตอนการดาเนนิ งาน การวิจัยเร่ือง การพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรายวชิ าประวัติศาสตร์สากล 1 ในรูปแบบนิตยสาร ท่ีมี ปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรียน เทพราชพิทยาสรรค์ อาเภอสชิ ล จังหวดั นครศรธี รรมราช มขี น้ั ตอนการดาเนนิ งานวิจัย ตามลาดับดงั น้ี 3.1 การออกแบบผลงาน/นวตั กรรม การวิจัยเร่ือง การพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาประวัติศาสตร์สากล 1 ในรปู แบบนิตยสาร ท่มี ีปฏสิ มั พนั ธ์กับผเู้ รียน เพอื่ พัฒนาทักษะการคดิ วิเคราะห์ สาหรับนกั เรยี นระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 6 โรงเรียน เทพราชพิทยาสรรค์ อาเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ดาเนินการออกแบบผลงาน/นวัตกรรม โดยยึด หลักการจัดการความคิดสร้างสรรค์ของกิลฟอร์ด และการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของเพียเจย์ โดยเลือก กลุ่มตัวอย่างจากนักเรยี นระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทพราชพิทยาสรรค์ โดยได้มาจากการเลือกแบบ เจาะจง (Purposive Sampling) 3.2 การดาเนินงานตามกิจกรรม (วงจร PDCA) 1. ข้ันเตรียมการ (Plan) ขั้นที่ 1 เร่ิมต้นศึกษา สาระการเรียนรู้แกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐานกลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคม ศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม พุทธศักราช 2551 และ ศึกษารายละเอียดเก่ียวกับหลักการและวิธีการสร้าง เอกสารประกอบการเรียนในรปู แบบนติ ยสาร เพ่ือเป็นแนวทาง ในการจดั เนื้อหาและเอกสารประกอบการเรยี น ในรูปแบบนติ ยสารได้อยา่ งสมบรู ณ์ 5

ขั้นที่ 2 วิเคราะห์สาระสาคัญ ผลการเรยี นรู้ทค่ี าดหวงั วิเคราะห์พฤตกิ รรม (เฉพาะทีต่ รงกับผลการ เรยี นร)ู้ ศกึ ษาหลักสูตร แบบเรยี น คู่มือครู และเน้อื หาในกลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม พทุ ธศกั ราช 2551 เพ่อื คัดเลือกและกาหนดเนื้อหาของเอกสารประกอบการเรียน ขั้นท่ี 3 เลือกเนื้อหา ของกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ในประเด็นเรอื่ ง ประวัติศาสตร์สากล มาใช้ในการทดลองและแบ่งเน้ือหาออกเป็นส่วนย่อย ๆ โดยกาหนดผลการเรียนรู้ และ เป้าหมายเชิงพฤติกรรม เพ่ือเป็นแนวทางในการจัดทา โครงการสร้างเอกสารประกอบการการเรยี นในรูปแบบ นิตยสารดงั กลา่ ว 2. ขน้ั ดาเนินการ (Do) ขนั้ ท่ี 4 วเิ คราะห์เนอื้ หาเพ่ือจัดทาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาประวัติศาสตร์สากลในรูปแบบ นิตยสารที่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน ตามหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม พุทธศกั ราช 2551 รวมทง้ั สน้ิ 20 ชว่ั โมง ตารางที่ 1 การวเิ คราะห์เน้ือหา รายวิชาประวัติศาสตร์สากล ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 6 หนว่ ย ผลการเรียนรู้ เวลา คะแนน สอบปลาย การ สาระการเรยี นรู้ (ชั่วโมง) เกบ็ ภาค เรยี น 1 ประวตั ิศาสตร์ยโุ รป 1. รู้ เข้าใจและอธบิ ายเรอ่ื งพัฒนาการของมนุษย์ใน 5 20 8 ยุคก่อนประวัติศาสตร์ อารยธรรมโลกยคุ โบราณ ยคุ กลาง การสารวจทางทะเล การปฏริ ูปศาสนา การต่อตา้ นการปฏิรูปศาสนา การปฏวิ ัติ วทิ ยาศาสตร์ การปฏวิ ัตอิ ตุ สาหกรรม และยุคภูมิ ธรรม ได้ 2 ประวัตศิ าสตร์ 2. รู้ เข้าใจและอธิบายพฒั นาการขององั กฤษกอ่ น 5 20 8 องั กฤษ ราชวงศ์ทิวเดอร์ ราชวงศ์ทิวเดอร์ ราชวงศส์ จว๊ ต สงครามกลางเมอื ง ยุคไร้กษตั รยิ ์ การปฏิวัตอิ ัน รงุ่ โรจน์ และราชวงศ์แฮนโนเวอรไ์ ด้ 3 ประวัตศิ าสตร์ 3. รู้ เขา้ ใจและอธิบาย รสุ เซียในยุคก่อน 5 15 7 รุสเซยี ประวตั ศิ าสตร์ ยุคอาณาจักรมัสโควคิ และยุคซาร์ ได้ 4 ประวัติศาสตร์จีน 4. รู้ เขา้ ใจและอธิบายประวตั ศิ าสตรจ์ ีนในยคุ กอ่ น 5 15 7 ประวตั ิศาสตร์ ยุคราชวงศ์ และยุคใหมไ่ ด้ รวม 20 70 30 6

ขั้นท่ี 5 นาเน้ือหาในแต่ละส่วนที่กาหนดไว้ ไปจัดรูปแบบ (Lay Out) ในลักษณะของนิตยสารด้วย โปรแกรม Photoshop Microsoft Word Pages Google Applications และปรับปรุงแก้ไขตามความ เหมาะสม 3. ข้ันตรวจสอบและประเมินผลการพฒั นางาน (Check) ขั้นที่ 6 นาเอกสารประกอบการเรียนที่ได้รับการปรับปรุงแก้ไขแล้วจนสมบูรณ์ ไปทดลองหา ประสิทธิภาพกับผู้เรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรียนเทพราชพิทยาสรรค์ ในปีการศึกษา 2560 เพื่อหา ข้อบกพร่องเบ้ืองต้นในเร่ืองของ ความเหมาะสมของเวลา การส่ือความหมาย และความเหมาะ สมของ ภาพประกอบในรูปแบบนิตยสารน้นั ๆ ข้ันท่ี 7 แก้ไขปรับปรงุ ตามความเหมาะสม หลังการทดลองประสทิ ธิภาพอยา่ งเบอ้ื งตน้ แล้ว 4. ข้นั สรุปและรายงาน (Action) ข้นั ท่ี 8 สรปุ ผลการดาเนนิ การวิจัยการพัฒนาเอกสารประกอบการเรยี นรายวิชาประวัติศาสตร์สากล 1 ในรูปแบบนิตยสาร ท่ีมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียนระดับช้ัน มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 โรงเรยี นเทพราชพิทยาสรรค์ และรายงานผลการใชน้ วตั กรรมดงั กลา่ ว 3.3 ประสิทธภิ าพของการดาเนนิ งาน จากการดาเนินงานวิจัย ผลการใช้การพฒั นาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาประวัติศาสตร์สากล 1 ในรูปแบบนิตยสาร ท่ีมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน เพ่ือพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียนระดับช้ัน มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรียนเทพราชพิทยาสรรค์น้ัน มีประเด็นในเร่ืองของประสิทธภิ าพของการดาเนินงานท่ี ควรนามาอภิปรายคือ 1. ด้านการพฒั นาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาประวตั ิศาสตร์สากล 1 ในรปู แบบนิตยสาร ที่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียนระดับช้ัน มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 โรงเรยี นเทพราชพทิ ยาสรรค์ 1.1 การพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาประวัติศาสตร์สากล 1 ในรปู แบบนิตยสาร ที่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน เพ่ือพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียนระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทพราชพิทยาสรรค์ ซ่ึงผู้วิจัยได้สร้างและพัฒนาขึ้นเป็นการ 7

นาเสนอความรู้ในลักษณะเอกสารท่ีเป็นรูปเล่ม โดยกาหนดผลการเรียนรู้ สาระการ เรยี นรู้ เรยี งตามลาดับเหตกุ ารณท์ างประวัตศิ าสตร์ ทาให้ผู้เรียนสามารถศึกษาค้นคว้าได้ ดว้ ยตนเองตามความสามารถของแตล่ ะบคุ คล 1.2 การนาเสนอในรูปแบบของเอกสารประกอบการเรียนท่ีสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองน้ัน ผู้เรยี นจะได้ฝึกพัฒนาทักษะทางด้านคุณธรรมจริยธรรม และการมีความซื่อสตั ย์อีกด้วย เน่ืองจากถ้าผู้เรียนไม่มีความซื่อสัตย์ต่อตนเองแล้ว ไม่ปฏิบัติตามคาชี้แจงในเอกสาร ประกอบการเรียนที่กาหนดให้ การเรียนรู้กจ็ ะไม่บรรลุวัตถุประสงค์ ตามผลการเรียนรู้ท่ี กาหนดไว้ 1.3 เอกสารประกอบการเรียนท่จี ดั ทาขนึ้ ในรปู แบบของนิตยสารนนั้ สอดคล้องกับแนวคิดทาง จิตวิทยาของนักจิตวิทยาหลายท่านเช่น สไครเวน (Scrivan) ท่ีได้ให้ความเห็นเก่ียวกับ เอกสารประกอบการเรียนว่า ทาให้การเรียนการสอนน่าสนใจข้ึน เพราะเด็กจะง่วนอยู่ กับบทเรียนของตนเองและสามารถเรียนได้เร็วหรือช้าข้ึนอยู่กับอัตราความสนใจของ ผู้เรียน รวมทง้ั ความสามารถในการเรียนของแต่ละบคุ คลนั้นเอง การพัฒนาทกั ษะการคิด วิเคราะห์ของเพียเจย์ ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองผ่านการคิด วเิ คราะห์ประเดน็ ปัญหา เป็นต้น 2. ด้านดัชนีประสทิ ธิผลการเรียนรู้ ของเอกสารประกอบการเรยี นในรปู แบบนิตยสาร 2.1 จากการศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชา ประวัติศาสตร์สากล 1 ในรูปแบบนิตยสาร ท่ีมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน เพ่ือพัฒนาทักษะ การคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทพราชพิทยา สรรค์ จากคะแนนก่อนและหลงั เรยี น พบวา่ ค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากบั 0.73 หรอื ร้อยละ 73 แสดงว่าผู้เรียนมีความรู้เพ่ิมมากขึ้น มีความก้าวหน้าและมีพัฒนาการทางการเรียน มากข้ึน จึงทาให้ประสบความสาเร็จในการเรียน จากการเรียนรู้โดยใช้เอกสาร ประกอบการเรียนในรูปแบบนิตยสารที่มีความน่าสนใจ และกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความ อยากท่ีจะเรยี นรูม้ ากขึน้ 3. ดา้ นของผลสัมฤทธิท์ างการเรียนของผเู้ รยี นที่ใช้เอกสารประกอบการเรียนในรปู แบบนิตยสาร 3.1 จากการเปรยี บเทยี บผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นของผู้เรียนทใ่ี ช้เอกสารประกอบการเรียนใน รูปแบบนิตยสารท่ีสร้างและพัฒนาขึ้นจากเกณฑ์ร้อยละ 80 พบว่าผู้เรียนในระดับช้ัน 8

มัธยมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรียนเทพราชพิทยาสรรค์มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนกับ คะแนนเกณฑ์ร้อยละ 80 แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ 0.01 โดยมี คะแ น น ผลสั ม ฤท ธิ์ท างก ารเรียน จาก การพั ฒ น าเอก สารป ระก อบ ก ารเรีย น รายวิช า ประวัติศาสตร์สากล 1 ในรูปแบบนิตยสาร ที่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน เพ่ือพัฒนาทักษะ การคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6 สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 80 แสดงว่าผู้เรียนมีพัฒนาการทางด้านการเรียนสูงขึ้น มีความก้าวหน้าสูงกว่าเกณฑ์ท่ีตงั้ ไว้ สรปุ ไดว้ า่ เอกสารประกอบการเรียนรายวชิ าประวตั ิศาสตร์สากล 1 ในรปู แบบนติ ยสาร ที่ มีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียนระดับชั้น มัธยมศึกษาปีท่ี 6 ท่ีพัฒนาขึ้นสามารถช่วยให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนที่สูงกว่า เกณฑ์ 4. ดา้ นความพงึ พอใจของผเู้ รียนต่อการพัฒนาเอกสารประกอบการเรยี นรายวชิ าประวัติศาสตร์ สากล 1 ในรูปแบบนิตยสาร ที่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน เพ่ือพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรบั นักเรยี นระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 โรงเรียนเทพราชพิทยาสรรค์ 4.1 ผลจากการสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียนต่อการจัดการเรียนรู้ โดยใช้การพัฒนา เอกสารประกอบการเรียนรายวิชาประวัติศาสตร์สากล 1 ในรูปแบบนิตยสาร ที่มี ปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียนระดับช้ัน มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรยี นเทพราชพิทยาสรรค์ พบว่า ความพึงพอใจของผู้เรยี นที่มีต่อ การเรียนรู้มีค่าสูงสุดคือ สาระการเรียนรู้มีความน่าสนใจและเป็นประโยชน์ต่อผู้เรียน 4.48 และ มคี ่าความพึงพอใจเฉลีย่ รวม 4.38 สว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐานเทา่ กับ 0.62 แสดง ว่าผู้เรียนมีความพึงพอใจมากท่ีได้เรียนรู้โดยใช้การพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน รายวิชาประวัติศาสตร์สากล 1 ในรูปแบบนิตยสาร ท่ีมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรยี น เพื่อพัฒนา ทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียนระดับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรียนเทพราช พิทยาสรรค์ เพราะสอดคล้องกับวัยของผู้เรียน ในช่วงวัยรุ่น ท่ีสนใจเร่ืองราวเก่ียวกับ แฟชน่ั ส่ิงใหม่ และ ความทันสมัยไม่จาเจ เกิดความตนื่ เต้นเร้าใจในการเรียนรู้ 3.4 การใชท้ รัพยากร การพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาประวัติศาสตร์สากล 1 ในรูปแบบนิตยสาร ที่มี ปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน เพ่ือพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรียนเทพราชพิทยาสรรค์ ใช้ทรัพยากรแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ทรัพยากรในการสร้างเอกสาร 9

ประกอบการเรยี น และ ทรัพยากรในการวิจัย ซง่ึ เป็นทรัพยากรท่ไี ด้รบั การสนับสนุนจากโรงเรียนเทพราช พิทยาสรรค์ท้ังสิ้น 4. ผลการดาเนนิ งาน/ผลสัมฤทธิ/์ ประโยชน์ทไี่ ดร้ บั 4.1 ผลท่เี กิดตามจุดประสงค์ 4.1.1 การพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรายวชิ าประวัติศาสตร์สากล 1 ในรูปแบบนติ ยสาร ที่มี ปฏิสมั พนั ธ์กับผู้เรยี น เพ่อื พัฒนาทักษะการคิดวเิ คราะห์ สาหรบั นักเรียนระดับชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรียน เทพราชพิทยาสรรค์ ทีผ่ ู้วิจัยได้สร้างและพัฒนาขึ้นมปี ระสิทธภิ าพ 87.21/82.91 ซ่งึ สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ทตี่ ้ัง ไว้ 4.1.2 ดัชนปี ระสิทธผิ ลของการพฒั นาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาประวัติศาสตร์สากล 1 ใน รูปแบบนิตยสาร ท่ีมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน เพ่ือพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียนระดับช้ัน มัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทพราชพิทยาสรรค์ มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.73 หรือ ร้อยละ 73 น้ันคือ ผเู้ รียนมีความร้เู พ่ิมข้ึนหลังกาศึกษาด้วยการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาประวัติศาสตร์สากล 1 ในรูปแบบนิตยสาร ท่ีมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน เพ่ือพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียนระดับชั้น มัธยมศึกษาปที ี่ 6 โรงเรียนเทพราชพทิ ยาสรรค์ 4.1.3 การเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางเรียนของผู้เรียนที่ใช้การพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน รายวชิ าประวัตศิ าสตร์สากล 1 ในรูปแบบนติ ยสาร ท่ีมีปฏิสมั พันธ์กับผู้เรยี น เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทพราชพิทยาสรรค์ ที่สร้างข้ึนกับเกณฑ์ร้อยละ 80 แตกต่างกันอย่างมีนยั สาคัญทางสถติ ิที่ระดับ 0.01 (P=0.00) เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไวโ้ ดยผู้เรียน ท่ีเรียน การพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาประวัติศาสตร์สากล 1 ในรูปแบบนิตยสาร ที่มีปฏิสัมพันธ์กับ ผู้เรียน เพอื่ พัฒนาทกั ษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนกั เรียนระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 โรงเรยี นเทพราชพิทยา สรรคม์ คี ะแนนผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นหลังเรียนสงู กวา่ เกณฑร์ อ้ ยละ 80 4.1.4 คา่ เฉล่ียความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการใช้การพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชา ประวัติศาสตร์สากล 1 ในรูปแบบนิตยสาร ที่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียนระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทพราชพิทยาสรรค์ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.38 และส่วน เบย่ี งเบนมาตรฐานเท่ากบั 0.62 ผเู้ รียนมคี วามพึงพอใจในระดับ ดมี าก 10

4.2 ผลสัมฤทธ์ิของงาน 4.2.1 ผวู้ ิจัยสามารถสร้าง การพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาประวตั ิศาสตร์สากล 1 ใน รูปแบบนิตยสาร ที่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน เพ่ือพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียนระดับชั้น มัธยมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรียนเทพราชพิทยาสรรค์ และนาไปใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้เรียนได้อย่างเต็ม ศักยภาพ ลดปัญหาเร่ืองการเบอื่ หน่ายช้ันเรียน และรายวชิ าเรียนไดอ้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพ 4.3 ประโยชน์ทีไ่ ด้รบั 4.3.1 ได้พัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาประวัติศาสตร์สากล 1 ในรูปแบบนิตยสาร ท่ีมี ปฏสิ ัมพันธ์กบั ผู้เรยี น เพือ่ พฒั นาทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรยี นระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 โรงเรยี น เทพราชพิทยาสรรค์ เพอ่ื ให้ผู้เรียนมีความกระตือรือร้น เอาใจใส่ ลดความเบ่ือหนา่ ยชน้ั เรียนและรายวชิ าเรียน รวมท้ังมผี ลสมั ฤทธิ์ในทางการเรยี นเพมิ่ ขนึ้ 5. ปัจจยั ความสาเรจ็ 5.1 ปัจจยั ภายใน ความร่วมมือของผเู้ รียน คณะครูและผูบ้ รหิ ารโรงเรียนเทพราชพทิ ยาสรรค์ ท่ีให้ได้ ให้ความร่วมมือในการวิจัย ส่งเสริม และพัฒนาการจัดทาการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชา ประวัติศาสตร์สากล 1 ในรูปแบบนิตยสาร ที่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ สาหรับนักเรียนระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 โรงเรยี นเทพราชพิทยาสรรค์ มาโดยตลอด 5.2 ปัจจัยภายนอก การศึกษาสืบค้นและค้นคว้าจากเอกสารประกอบการเรียน งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง การให้คาปรกึ ษาจากผูม้ ปี ระสบการณใ์ นการวจิ ยั และการสนับสนนุ จากผ้ทู ีม่ สี ว่ นเก่ียวขอ้ งทุกสว่ น 6. บทเรยี นทไ่ี ดร้ ับ ปรบั คณุ ภาพมุ่งพฒั นาตอ่ ไป 6.1 บทเรยี นทีไ่ ดร้ ับ 6.1.1 การจัดทาเอกสารประกอบการเรยี นฯ 6.1.1.1 ควรมีการจัดลาดับเน้ือหาให้สอดคล้องต่อเน่ืองกันมากข้ึน และ จัดกิจกรรม การเรียนรู้ ตลอดจนกิจกรรมฝึกทักษะจากง่ายไปยาก เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้จากการอ่านและคิดสรุป ความได้ด้วยตนเอง 6.1.1.2 การนาเสนอเน้ือหาในแต่ละช่วงควรกะทัดรดั และใช้เวลาไม่นานในการศึกษา จนเกนิ ไป 11

6.1.1.3 ภาพทน่ี ามาใช้ประกอบในเอกสารประกอบการเรียนฯ ควรเลอื กใหเ้ หมะสมกับ วัยวุฒขิ องผู้เรียน เพือ่ ป้องกนั การเบือ่ หน่ายของผ้เู รยี นทีไ่ ดร้ บั สงิ่ เร้าจากภาพท่ไี ม่สอดคลอ้ งกบั วัยของผู้เรยี น 6.1.2 ปรับคุณภาพมุ่งพฒั นาต่อไป 6.1.2.1 ควรมกี ารพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนในรูปแบบนิตยสารในรายวชิ าอ่นื ๆ ของกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม และในระดับช้ันอ่ืน ๆ เพ่ิมเติมเพ่ือกระต้นุ ให้เกิด ความสนใจเรียนและตลอดจนพฒั นาใหใ้ ช้กับส่อื และอปุ กรณอ์ ิเล็กทรอนิกสอ์ น่ื ๆ ไดอ้ ีกด้วย 6.1.3 ขอ้ ควรพึงระวัง 6.1.3.1 การอา้ งอิงทีม่ าของภาพและข้อมูลต่าง ๆ ควรปฏิบตั ิอย่างเคร่งครัดและรัดกุม เพอื่ ปอ้ งกันข้อบกพร่องในเร่ืองการละเมดิ ลขิ สทิ ธิ์ทางปญั ญา 7. การเผยแพร/่ การไดร้ บั การยอมรับ/รางวัลทไ่ี ดร้ ับ ภาพที่ 2 เว็บไซตข์ องโรงเรียน 7.1 การเผยแพร่ เทพราชพทิ ยาสรรค์  เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลนท์ ่ี ภาพท่ี 1 เว็บไซตข์ องผ้วู ิจยั 12

7.2 รางวัลที่ไดร้ ับ ภาพท่ี 1 รางวัลระดบั เหรียญทอง รองชนะเลศิ อนั ดบั ท่ี 2 กจิ กรรม นวัตกรรมทางการศกึ ษาศตวรรษท่ี 21 ครูผสู้ อน ม.ปลาย สาระสงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ระดับชัน้ ม.4-ม.6 งานมหกรรมวิชาการ “อภิวัฒน์ การเรยี นรู้ สศู่ ตวรรษท่ี 21” ภาพท่ี 2 รางวลั เหรียญทองชนะเลศิ ประเภทครผู สู้ อนดีเดน่ กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ งั คมศึกษา ศาสนาและ วัฒนธรรม ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย สถานศกึ ษาขนาดเลก็ งานมหกรรมวชิ าการมัธยมศกึ ษา ครง้ั ที่ 26 ประจาปกี ารศกึ ษา 2559 13

ภาพท่ี 3 รางวัลเหรียญทองชนะเลศิ ประเภทครผู สู้ อนดเี ด่นกลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนาและ วฒั นธรรม ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย สถานศกึ ษาขนาดเลก็ งานมหกรรมวชิ าการมัธยมศกึ ษา ครงั้ ท่ี 27 ประจาปกี ารศึกษา 2560 ลงชื่อ ผเู้ สนอ ( นายจริ พล ลวิ า ) ครูอนั ดับ คศ.๑ ตาแหน่ง เทพราชพิทยาสรรค์ โรงเรียน ลงช่ือ ผู้รับรอง (นายสมเจตน์ ไชยเมอื ง) ตาแหน่งผอู้ านวยการโรงเรียน เทพราชพิทยาสรรค์ 14


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook