Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แบบเสนอเพื่อรับการประเมิน Best Practice ปี 2560

แบบเสนอเพื่อรับการประเมิน Best Practice ปี 2560

Published by dlit_sm037, 2020-05-25 23:08:18

Description: การพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาประวัติศาสตร์ไทย ในรูปแบบนิตยสารแบบมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน สำหรับผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

Search

Read the Text Version

ใบสมคั รเพอื่ รบั รางวัลการปฏิบัตทิ เ่ี ป็นเลศิ (Best Practice) ครูผสู้ อนวชิ าสังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม -------------------- ชอื่ ผู้เสนอขอ นายจริ พล ลิวา โรงเรยี น เทพราชพทิ ยาสรรค์ อาเภอ สชิ ล จังหวัด นครศรีธรรมราช โทรศพั ท์ มอื ถอื 084-1898732 ������ ข้าราชการครู ◻ ครูอัตราจ้าง ชื่อผลงานการพัฒนาเอกสารประกอบการเรยี นรายวิชาประวตั ศิ าสตรไ์ ทย ในรปู แบบนติ ยสาร แบบมีปฏิสมั พันธก์ ับผู้เรยี น สาหรับ นักเรยี นระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๔ ระดบั ชั้น ◻ มธั ยมศึกษาตอนต้น ������ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ขนาดโรงเรียน ◻ ใหญ่พิเศษ ◻ ใหญ่ ◻ กลาง ������ เลก็ ลงช่อื .............................................. ........................ ผ้เู สนอขอ ( นายจิรพล ลวิ า ) ตาแหน่ง ครู อนั ดับ คศ.๑ ลงช่ือ ) ..................................................................... ผูร้ ับรอง ( นางวิมพ์วภิ า รกั สม ผูอ้ านวยการโรงเรยี น เทพราชพทิ ยาสรรค์ หมายเหตุส่งใบสมคั รไปยัง ศูนยพ์ ฒั นาวิชาการสังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรยี นเฉลิมพระเกียรตสิ มเดจ็ พระศรีนครินทร์ ฯ ภายในวันอังคารที่ ๑๕ สงิ หาคม ๒๕๖๐ และเข้ารับการประเมนิ พร้อมเสนอผลงานและสง่ เอกสารแบบเสนอขอ ๕ ชุด ในวัน พฤหสั บดี ๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๐ เว ลา ๐๙.๐๐ น. ณ ห้องประชมุ พดุ ตาน ศนู ย์พัฒนาวิชาการสังคมศกึ ษาศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรยี นเฉลิมพระเกียรติสมเดจ็ พระศรีนครนิ ทรฯ์

แบบเสนอเพื่อรบั รางวลั วิธกี ารปฏบิ ัติท่เี ปน็ เลิศ (Best Practice) ระดบั เขตพนื้ ที่ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๐ สานักงานเขตพืน้ ท่กี ารศึกษามัธยมศึกษา เขต ๑๒ ช่ือผสู้ ง่ ประกวด นายจิรพล ลิวา ประเภท ขา้ ราชการครูและครูอัตราจ้าง โรงเรียน/ศูนยพ์ ฒั นาวชิ าการ เทพราชพิทยาสรรค์ ช่อื ผลงาน การพฒั นาเอกสารประกอบการเรยี นรายวิชาประวัตศิ าสตร์ไทย ในรูปแบบนติ ยสาร แบบมี ปฏิสมั พันธ์กบั ผ้เู รยี น สาหรบั นักเรยี นระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ ๔ ๑. ความสาคัญของผลงาน  ความสาคญั สภาพปญั หา หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ เป็นหลักสูตรท่ีวางกรอบแนวคิดในการ จัดการเรียนรู้ให้ผู้เรียนพัฒนาตนเองได้เต็มศักราช อยู่ในสังคมได้อย่างมีคุณภาพ และเป็นพลเมืองโลกที่ สมบรู ณ์ สามารถจดั การเรียนรไู้ ด้ทุกสถานท่ี ทกุ เวลา และสง่ เสรมิ ให้เกิดการเรยี นรู้ตลอดชวี ิต กลุ่มสาระการเรียนรูส้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรียนเทพราชพิทยาสรรค์ เป็นหน่วยหนึ่งท่ี มุ่งพฒั นาผู้เรยี นให้มีความรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั การเปน็ พลเมืองโลก การอยู่ในสังคม และการพัฒนาตนเอง อย่างเต็มศักยภาพ เพ่ือให้เกิดความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับสาระการเรียนรู้ของกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคม ศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม มีทกั ษะ กระบวนการ สามารถนาเอาเทคโนโลยสี ารสนเทศและเทคโนโลยีต่าง ๆ มาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการเรียนการสอน และการทารายงานทางวิชาการได้อย่างถูกต้องเหมาะสม โดยเฉพาะในส่วนที่เก่ียวข้องกับประวัติศาสตร์ไทย ซึ่งในปัจจุบันมีส่ือท่ีเก่ียวข้องและเป็นประโยชน์ต่อการ จัดการเรียนรู้รายวิชาประวัติศาสตร์ไทย มากมาย ท่ีเป็นในรูปแบบของเอกสารประกอบการเรียน แผ่นพับ เป็นต้น และเม่ือนามาใช้ในการจัดการเรียนรู้ในรูปแบบของการบรรยายทาให้ไม่เป็นท่ีสนใจ ขาดความ เชอื่ มโยงไปยังสอ่ื การเรยี นรนู้ อกห้องเรยี น ผลทาให้ผู้เรยี นเกดิ ความเบื่อหนา่ ยในการเรียน ดังนั้นเม่ือพบว่าสื่อการเรียนรู้ท่ีทันสมัย มีเทคโนโลยีเข้ามาเป็นองค์ประกอบเพิ่มเติม รวมทั้งสามารถ ดึงดูดใจผู้เรียนให้เกิดความกระตือรือร้นเป็นส่วนที่สาคัญที่จะช่วย ในการเรียนรู้รายวิชาประวัติศาสตร์ไทย ที่จะช่วยให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน ๒๕๕๑ รวมทั้งแนวคิดของ ผู้เรียนในศตวรรษที่ ๒๑ ท่เี น้นใหเ้ กิดการใช้ส่อื การเรียนการสอนอย่างแพร่หลาย มีความหลากหลาย และมี การพัฒนาส่ือการเรียนการสอนในทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง1 ดังนั้นสื่อการเรียนการสอนจึงเข้ามามีบทบาท มากต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนในด้านการกระตุ้นความสนใจต่อสิ่งท่ีเรียนและเป็นเครื่องมือสาคัญท่ีช่วยให้ ผเู้ รยี นได้เรียนร้จู ากการลงมอื ปฏบิ ตั ิกิจกรรม เพือ่ ใหไ้ ด้รับประสบการณท์ างการเรียนร้ทู ่ีเปน็ รปู ธรรม รวมท้ัง 1 กมล เวียงสุวรรณ และนิยม เวียงสุวรรณ, แนวคิดการพัฒนาสื่อการเรียนการสอน และแนวทางในการจัดตั้งศูนย์วิทยบริการด้าน นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการศกึ ษา, กรุงเทพฯ : คอมแพคทพ์ รนิ ท์, ๒๕๔๐. หนา้ ๕. 1

ยงั สามารถสรา้ งสือ่ การเรยี นรทู้ เ่ี ป็นตน้ แบบของการเรยี นรู้ เพอื่ กระบวนการความคิดรวบยอดท่ีสลับซับซ้อน สามารถสร้างสภาพการณ์จัดการเรียนรู้ที่เปิดกว้างต่อความสามารถในการเรียนรู้ของผู้เรียน2 ซ่ึงสามารถ กล่าวไดว้ า่ “สื่อ” คือประสบการณ์ทางการเรียนรู้ของผู้เรียนที่สามารถเรียนรู้ได้จากส่ือ ดังนั้นผู้สอนจึงต้อง เป็นผู้ที่มีความสามารถในการจัดประสบการณ์ เพ่ือการเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสมกับผู้เรียน3 เพ่ือให้ผู้เรียน สามารถบรรลุเป้าหมายของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ และแนวคิดของ ผเู้ รียนในศตวรรษที่ ๒๑ เอกสารประกอบการเรียนเปน็ สื่อการเรียนรู้ท่ีสามารถเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้มีโอกาสการเรียนรู้ได้ด้วย ตนเอง และเมื่อเป็นเอกสารประกอบการเรียนท่ีสามารถส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยสามารถ เรียนรู้ได้ทุกสถานที่ ทุกเวลา และเชื่อมโยงสู่ส่ือการเรียนรู้นอกห้องเรียนด้วยแล้ว จะเป็นประโยชน์เพิ่มขึ้น เปน็ อยา่ งมาก โดยผ้สู อนสามารถใชเ้ พอ่ื ประกอบการจัดการเรียนรใู้ นรายวิชาใด รายวิชาหน่ึงตามหลักสูตรท่ี ใช้ในสถานศึกษาท่ีมีหัวข้อครบถ้วนตามรายละเอียดของรายวิชาที่กาหนดไว้ในหลักสูตรไม่น้อยกว่า ๑ รายวิชา และมีความหมายครอบคลุมในด้านต่าง ๆ เช่น ความหมาย เนื้อหา กิจกรรมและวิธีการสอน อุปกรณ์ที่ใช้และวิธีการวัดและประเมินผล ซ่ึงสามารถช่วยประหยัดเวลาในการจัดการเรียนรู้ของผู้สอนได้ ทาให้ผู้สอนมีเวลาและโอกาสในการให้ความสนใจดูแลผู้เรียนเป็นรายบุคคลมากขึ้น นอกจากน้ียังสามารถ ปรบั ใชก้ บั ผู้เรียนทีม่ ีลักษณะเป็นผู้เรียนที่เรียนช้า ต้องการความเอาใจใส่เป็นพิเศษ ซ่ึงยังไม่สามารถข้ามข้ัน ไปเรยี นในระดับท่ีสูงข้ึนได้ตามปกติ อาจจะใช้ในการสอนซ่อมเสรอมอีกครั้งหนึ่งหรือหลาย ๆ คร้ัง โดยการ แนะนาจากครแู ละเพ่ือน ๆ ไดส้ ร้างเอกสารประกอบการเรยี นโดยใชร้ ปู แบบของนิตยาสาร มาเพ่ือกระตุ้นให้ ผู้เรียนเกิดความสนใจในการเรียนมากขึ้น และผู้เรียนต้องเป็นผู้ที่มีความซ่ือสัตย์ มีความรับผิดชอบ เป็ น บทเรยี นท่สี ่งเสรมิ คุณธรรมจรยิ ธรรม นิตยสาร เป็นสื่อที่สามารถปรับเป็นสื่อการเรียนรู้ประเภทหน่ึงท่ีดึงดูดความสนใจของผู้เรียนมากท่ีสุด สืบเนื่องจากโลกในสังคมยุคปัจจุบันเป็นโลกแห่งข้อมูลข่าวสารที่หลากหลาย และสื่อที่เหมาะสมกับวัยของ ผู้เรียนในระดับมัธยมศึกษาปีท่ี ๔ น้ันสนใจที่จะใช้เวลากับสื่อท่ีมีรูปแบบทันสมัย มีภาพประกอบสวยงามมี ลวดลายที่แปลกใหม่ ไมใ่ ช่เปน็ เพยี งตวั หนังสอื เพียงอย่างเดียว ซ่งึ เป็นดังพระราชปรารภของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยูห่ ัว จากพระราชนพิ นธ์เร่อื ง พระมหาชนก “...เพอื่ ใหเ้ กดิ ประโยชน์สมบูรณ์ จึงโปรดให้ศิลปินไทย ชน้ั นำวำดรปู ประกอบ...” นอกจากน้หี นังสอื ทมี่ ภี าพที่นาเสนออย่างน่าสนใจ สามารถให้ความรู้ตามรายวิชา ต่าง ๆ ได้ และสามารถนาเน้ือหาออกมาจัดทาเป็นภาพประกอบพร้อมคาบรรยายที่สอดคล้องกันกับคาพุด ทาให้ผู้อ่านท้ังเดก็ และผู้ใหญเ่ กิดความเพลินเพลินและชวนอ่าน อันเนื่องมาจากการมีภาพประกอบดังกล่าว นั้น4 2 ชัยยงค์ พรหมวงศ์, “กระบวนการสันนิเวทนาการและระบบส่ือการสอน” ใน เอกสารการสอนชุดวิชาเทคโนโลยีและการสื่อสาร การศกึ ษา หนว่ ยท่ี ๑-๕ : ๑๒, นนทบุรี : มหาวิทยาลัยสโุ ขทัยธรรมาธิราช, ๒๕๒๙. หนา้ ๒๕. 3 ไชยยศ เรอื งสุวรรณ, เทคโนโลยที างการศกึ ษา : หลกั การและแนวปฏิบตั ิ, กรุงเทพฯ : วฒั นาพานิช, ๒๕๓๓. หน้า ๘๐. 4 จฑุ าทพิ ย์ จนั ทรส์ ุวรรณ, บทเรยี นสาเรจ็ รูปประกอกบภาพการต์ ูน เรือ่ งดิน กลุ่มสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิต ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๕, วิทยานิพนธ์ กศ.ม. มหาสารคาม : มหาวิทยาลยั มหาสารคาม, ๒๕๔๑. หน้า ๕๑. 2

จากความสาคัญของการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาประวัติศาสตร์ไทย ในรูปแบบ นิตยสาร แบบมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน สาหรับนักเรียนระดับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๔ ดังกล่าวนั้นจากการ สอบถาม สัมภาษณ์ หรือสังเกตจากผู้เรียน ทาให้ผู้วิจัยพบว่า ผู้เรียนกว่าร้อยละ ๘๐ สนใจในรูปแบบของ เอกสารประกอบการเรียนที่มีลักษณะคล้ายนิตยสาร เพื่อกระตุ้นให้ผู้เรียน ได้รับการพัฒนาเต็มศักยภาพ กล่าวได้ว่าการใช้ภาพที่มีลักษณะทันสมัย สวยงาม และตรงกับวัยของผู้เรียนมาประกอบในเอกสาร ประกอบการเรียนรวมท้ังการจัดรูปแบบเอกสารประกอบการเรียนที่มีความแตกต่างจากเอกสาร ประกอบการเรียนแบบเดิม ๆ สามารถกระตุ้นความสนใจให้กับผู้เรียนทาให้เกิดความกระตือรือร้น อยาก เรียน สนุกสนาน ตื่นเต้น5 อันสอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐานที่กาหนดให้ผู้สอน ส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนให้แก่ผู้เรียนเพ่ือให้เกิดการเรียนรู้ สามารถแสวงหาความรู้ด้วยตนเองได้ อยา่ งต่อเนอื่ งตลอดชวี ติ  แนวทางการแก้ปญั หาและพฒั นา โรงเรียนเทพราชพิทยาสรรค์ ตาบลเทพราช อาเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช สังกัดสานักงานเขต พื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต ๑๒ เป็นโรงเรียนท่ีจัดการเรียนการสอนในระดับมัธยมศึกษา ตั้งแต่ มัธยมศึกษาปีท่ี ๑ ถึง มัธยมศึกษาปีที่ ๖ มีครูอาจารย์จานวน ๑๑ คน นักเรียนทั้งส้ิน ๖๕ คน ซ่ึงนักเรียน ร้อยละ ๑๐๐ มาจากชนบท มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในระดับปานกลาง เรียนรู้ในกรอบท่ีผู้สอนวางให้ เทา่ น้ัน ผเู้ รยี นสว่ นใหญ่ขาดความสนใจและไม่ตงั้ ใจเรียน รวมทั้งทางานทีไ่ ด้รับมอบหมายใหเ้ สร็จและส่งตาม กาหนดเวลา รวมทง้ั ผู้เรียนมีความเบ่ือหน่ายต่อรายวิชาประวัติศาสตร์ไทย ซ่ึงผู้เรียนมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว ไมม่ คี วามสาคญั และยากทีจ่ ะเข้าถึง ประกอบกบั เอกสารประกอบการเรียนในรูปแบบชีทเป็นแผ่นตามที่เคย ปฏิบัติมา ผู้เรียนจะไม่สนใจ เพราะเป็นเอกสารท่ีมีตัวหนังสือเยอะ และไม่กระตุ้นความสนใจของผู้เรียน เพียงพอ ในขณะทเ่ี ป้าหมายของการจดั การเรยี นรรู้ ายวชิ าประวัติศาสตร์ไทย น้ัน คือให้ผู้เรียนมีความพร้อม สาหรับการเป็นเยาวชนในศตวรรษท่ี ๒๑ เป็นพลเมืองที่สมบูรณ์ของโลก รวมทั้งดารงชีวิตในยุคปัจจุบันได้ อย่างมีความสุข ด้วยเหตุน้ีผู้วิจัยจึงเห็นความจาเป็นท่ีจะการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชา ประวัติศาสตร์ไทย ในรูปแบบนติ ยสาร แบบมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน สาหรับนักเรียนระดับช้ันมัธยมศึกษา ปที ี่ ๔ เพอื่ ชว่ ยกระตุน้ ความสนใจ แรงจูงใจ การให้ความชัดเจน และเนน้ ให้เกดิ อารมณ์รน่ื เรงิ ของผูเ้ รียน ดังน้ันผู้วิจัยมีความมั่นใจว่า การใช้ส่ือประเภทเอกสารประกอบการเรียนในรูปแบบนิตยสาร มาสู่ กระบวนการจัดการเรียนรู้ จะช่วยใหผ้ ูเ้ รียนเรียนรผู้ า่ นประสาทสัมผัสต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น มีประสิทธิภาพย่ิงขึ้น รวมทัง้ จะสามารถนาไปสู่การพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนในรายวชิ าอืน่ ๆ ไดต้ อ่ ไป 5 นวลจันทร์ วเิ ศษ, พัฒนาบทเรียนสาเร็จรูปการ์ตูน ประกอบกิจกรรมการเรียนการสอนเร่ืองการประหยัด กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคม ศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๔, รายงานการศกึ ษาคน้ คว้าอสิ ระ กศ.ม. มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, ๒๕๔๖. หนา้ ๖๕. 3

จากหลักการและเหตุผลดังกล่าว ผู้วิจัยจึงมีความสนใจที่จะการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน รายวิชาประวัติศาสตร์ไทย ในรูปแบบนิตยสาร แบบมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน สาหรับนักเรียนระดับช้ัน มัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนเทพราชพิทยาสรรค์ เพื่อเป็นการแนวทางในการพัฒนาการเรียนการสอนตาม แนวทางของศตวรรษที่ ๒๑ สร้างสื่อและเทคโนโลยีท่ีเหมาะสม มีประสิทธิภาพและสามารถผลิตตลอดจน ใช้นวัตกรรมทางการศึกษาต่อไป ๒. จดุ ประสงคแ์ ละเป้าหมาย  เพื่อการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาประวัติศาสตร์ไทย ในรูปแบบนิตยสาร แบบมี ปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน สาหรับนักเรียนระดับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๔ โรงเรียนเทพราชพิทยาสรรค์ อาเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ท่ีมปี ระสิทธิภาพตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐  เพ่อื ศกึ ษาดชั นีประสทิ ธิผลการเรยี นร้ขู องเอกสารประกอบเรียนโดยใชร้ ปู แบบนิตยสารท่สี ร้างขน้ึ  เพื่อเปรยี บเทยี บผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นของผเู้ รียนท่ใี ชเ้ อกสารประกอบการเรียนในรูปแบบนิตยสารที่ สรา้ งขึน้ กบั เกณฑ์ ร้อยละ ๘๐  เพื่อศึกษาความพงึ พอใจของผ้เู รียนทม่ี ตี อ่ เอกสารประกอบการเรียนในรูปแบบนิตยสารท่สี รา้ งขึ้น ๓. กระบวนการผลติ ผลงานหรอื ข้นั ตอนการดาเนนิ งาน การวิจัยเรอื่ ง การพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาประวัติศาสตร์ไทย ในรูปแบบนิตยสาร แบบมี ปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน สาหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนเทพราชพิทยาสรรค์ อาเภอสิชล จงั หวดั นครศรีธรรมราช มีขนั้ ตอนการดาเนนิ งานวิจัย ตามลาดบั ดงั นี้ ๓.๑ การออกแบบผลงาน/นวัตกรรม การวิจัยเร่ือง การพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาประวัติศาสตร์ไทย ในรูปแบบนิตยสาร แบบมีปฏิสมั พนั ธ์กบั ผู้เรยี น สาหรบั นกั เรียนระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ ๔ โรงเรียนเทพราชพิทยาสรรค์ อาเภอสิ ชล จังหวดั นครศรีธรรมราช ได้ดาเนนิ การออกแบบผลงาน/นวตั กรรม โดยยึดหลักการจดั การความคิดสร้างสรรค์ ของกิลฟอร์ด โดยเลือกกลุ่มตัวอย่างจากนักเรียนระดับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๔ โรงเรียนเทพราชพิทยาสรรค์ โดย ไดม้ าจากการเลอื กแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ๓.๒การดาเนินงานตามกิจกรรม (วงจร PDCA) ๑. ข้ันเตรยี มการ (Plan) ข้ันท่ี ๑ เร่ิมต้นศึกษา สาระการเรียนรู้แกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐานกลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคม ศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม พุทธศักราช ๒๕๕๑ และ ศึกษารายละเอียดเก่ียวกับหลักการและวิธีการสร้าง เอกสารประกอบการเรียนในรูปแบบนิตยสาร เพ่ือเป็นแนวทาง ในการจัดเน้ือหาและเอกสารประกอบการเรียน ในรปู แบบนิตยสารได้อย่างสมบูรณ์ 4

ข้นั ท่ี ๒ วิเคราะห์สาระสาคัญ ผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวัง วิเคราะห์พฤติกรรม (เฉพาะที่ตรงกับผลการ เรยี นรู้) ศกึ ษาหลกั สตู ร แบบเรยี น คูม่ อื ครู และเนื้อหาในกล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ เพอื่ คดั เลือกและกาหนดเนอ้ื หาของเอกสารประกอบการเรยี น ขั้นท่ี ๓ เลือกเน้ือหา ของกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ในประเด็นเรื่อ ประวัติศาสตร์ไทย มาใช้ในการทดลองและแบ่งเน้ือหาออกเป็นส่วนย่อย ๆ โดยกาหนดผลการเรียนรู้ และ เป้าหมายเชิงพฤติกรรม เพ่ือเป็นแนวทางในการจัดทา โครงการสร้างเอกสารประกอบการการเรียนในรูปแบบ นติ ยสารดงั กลา่ ว ๒. ข้ันดาเนินการ (Do) ข้ันที่ ๔ วิเคราะห์เน้ือหาเพ่ือจัดทาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาประวัติศาสตร์ไทยในรูปแบบ นิตยสาร ตามหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม พุทธศักราช ๒๕๕๑ รวมท้ังส้ิน ๒๐ ช่วั โมง ตารางที่ ๑ การวเิ คราะหเ์ น้อื หา รายวชิ าประวัตศิ าสตร์ไทย ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๔ หน่วย ผลการเรยี นรู้ เวลา ข้อสอบ แบบทดสอบ การ สาระการเรยี นรู้ (ชว่ั โมง) (ข้อ) ย่อย เรยี น (ขอ้ ) 1 เวลา และยคุ สมยั 1. รแู้ ละเข้าใจเรอื่ งสทิ ธมิ นุษยชน เหน็ คุณคา่ ในการ 2 10 10 ทางประวัติศาสตร์ รักษาและปกปอ้ งสิทธขิ องตนเองและผอู้ น่ื ไทย 2 การสร้างองค์ 2. รู้ เขา้ ใจและยอมรบั ความเหมือน ความแตกตา่ ง 2 10 10 ความรใู้ หม่ทาง ของความหลากหลายทางชีวภาพเชอื้ ชาติ ประวัตศิ าสตรไ์ ทย เศรษฐกิจ สงั คม วฒั นธรรม ศาสนาและชวี ติ ความ เปน็ อยู่ และยอมรบั ผลกระทบของสภาพแวดลอ้ ม ทเี่ กิดขึ้น 3 วิเคราะหป์ ระเดน็ 3. ตระหนักในความสาคญั ของความเสมอภาคและ 2 10 20 สาคญั ทาง ความยตุ ธิ รรมในสังคม มีส่วนรว่ มในการสร้างความ ประวตั ศิ าสตร์ไทย เป็นธรรมในสังคม 4 ผลงานของบคุ คล 4. รแู้ ละเข้าใจธรรมชาติของความขดั แยง้ หาทางลด 2 5 10 สาคญั ในการ ปญั หาความขดั แยง้ โดยปราศจากความรุนแรง สรา้ งสรรค์ ชาตไิ ทย 5 การสร้างสรรค์ 5. รู้และเขา้ ใจการพ่งึ พาอาศัยซง่ึ กนั ระหว่างคน 2 5 10 วัฒนธรรมและ ธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคมท่มี ีผล 5

หนว่ ย ผลการเรียนรู้ เวลา ขอ้ สอบ แบบทดสอบ การ สาระการเรียนรู้ (ช่ัวโมง) (ขอ้ ) ยอ่ ย เรียน ต่อความสมั พนั ธข์ องชมุ ชนโลก (ข้อ) ภมู ปิ ญั ญาไทย รวม ๒๐ ๔๐ ๖๐ ข้ันที่ ๕ นาเนื้อหาในแต่ละส่วนท่ีกาหนดไว้ ไปจัดรูปแบบ (Lay Out) ในลักษณะของนิตยสารด้วย โปรแกรม Photoshop และปรบั ปรุงแกไ้ ขตามความเหมาะสม ๓. ขน้ั ตรวจสอบและประเมินผลการพัฒนางาน (Check) ข้ันท่ี ๖ นาเอกสารประกอบการเรียนที่ได้รับการปรับปรุงแก้ไขแล้วจนสมบูรณ์ ไปทดลองหา ประสิทธิภาพกบั ผู้เรยี นช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี ๔ โรงเรยี นเทพราชพิทยาสรรค์ เพ่ือหาข้อบกพร่องเบ้ืองต้นในเรื่อง ของ ความเหมาะสมของเวลา การสื่อความหมาย และความเหมาะสมของภาพประกอบในรูปแบบนิตยสาร น้ัน ๆ ขั้นท่ี ๗ แก้ไขปรับปรงุ ตามความเหมาะสม หลังการทดลองประสทิ ธภิ าพอยา่ งเบือ้ งต้น แล้ว ๔. ข้ันสรุปและรายงาน (Action) ขั้นท่ี ๘ สรุปผลการดาเนินการวิจัยการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาเหตุการณ์ ปัจจุบนั ในรปู แบบนติ ยสารสาหรับนกั เรยี นชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ ๔ โรงเรียนเทพราชพิทยาสรรค์ และรายงานผล การใช้นวตั กรรมดงั กลา่ ว ๓.๓ประสทิ ธิภาพของการดาเนินงาน จากการดาเนินงานวิจัย ผลการใช้เอกสารประกอบการเรียนรายวิชาประวัติศาสตร์ไทยในรูปแบบ นิตยสาร แบบมีปฏิสัมพันธ์ สาหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๔ โรงเรียนเทพราชพิทยาสรรค์นั้น มีประเดน็ ในเรื่องของประสทิ ธภิ าพของการดาเนนิ งานที่ควรนามาอภิปรายคือ ๑. ด้านการพฒั นาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาประวัติศาสตร์ไทยในรูปแบบนิตยสารแบบ มีปฏสิ ัมพันธ์ สาหรับนักเรยี นในระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ ๔ โรงเรียนเทพราชพิทยาสรรค์  การพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาประวัติศาสตร์ไทย ในรูปแบบนิตยสาร แบบมีปฏิสมั พนั ธก์ ับผเู้ รยี น สาหรับนักเรยี นระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๔ โรงเรียนเทพราช พิทยาสรรค์ ซ่ึงผู้วิจัยได้สร้างและพัฒนาขึ้นเป็นการนาเสนอความรู้ในลักษณะเอกสารท่ี เป็นรูปเล่ม โดยกาหนดผลการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ เรียงตามลาดับเหตุการณ์ทาง 6

ประวตั ศิ าสตร์ ทาให้ผเู้ รยี นสามารถศึกษาค้นคว้าได้ด้วยตนเองตามความสามารถของแต่ ละบคุ คล  การนาเสนอในรูปแบบของเอกสารประกอบการเรียนท่ีสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองน้ัน ผู้เรียนจะได้ฝึกพัฒนาทักษะทางด้านคุณธรรมจริยธรรม และการมีความซ่ือสัตย์อีกด้วย เนื่องจากถ้าผู้เรียนไม่มีความซื่อสัตย์ต่อตนเองแล้ว ไม่ปฏิบัติตามคาช้ีแจงในเอกสาร ประกอบการเรียนท่ีกาหนดให้ การเรียนรู้ก็จะไม่บรรลุวัตถุประสงค์ ตามผลการเรียนรู้ที่ กาหนดไว้  เอกสารประกอบการเรยี นทจี่ ัดทาขึ้นในรปู แบบของนิตยสารน้นั สอดคล้องกับแนวคิดทาง จิตวิทยาของนักจิตวิทยาหลายท่านเช่น สไครเวน (Scrivan) ที่ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับ เอกสารประกอบการเรียนว่า ทาให้การเรียนการสอนน่าสนใจข้ึน เพราะเด็กจะง่วนอยู่ กับบทเรียนของตนเองและสามารถเรียนได้เร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับอัตราความสนใจของ ผเู้ รียน รวมท้ังความสามารถในการเรยี นของแตล่ ะบคุ คลนน้ั เอง ๒. ดา้ นดชั นปี ระสทิ ธผิ ลการเรยี นรู้ ของเอกสารประกอบการเรียนในรปู แบบนติ ยสาร  จากการศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชา ประวัติศาสตร์ไทย ในรูปแบบนิตยสาร แบบมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน สาหรับนักเรียน ระดับชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๔ โรงเรยี นเทพราชพทิ ยาสรรค์ จากคะแนนกอ่ นและหลังเรียน พบวา่ ค่าดัชนปี ระสทิ ธิผลเท่ากับ ๐.๗๓ หรือร้อยละ ๗๓ แสดงว่าผเู้ รยี นมีความรู้เพ่ิมมาก ขึน้ มคี วามกา้ วหน้าและมพี ฒั นาการทางการเรยี นมากขึ้น จงึ ทาให้ประสบความสาเร็จใน การเรียน จากการเรียนรู้โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนในรูปแบบนิตยสารท่ีมีความ น่าสนใจ และกระตนุ้ ให้ผู้เรยี นเกดิ ความอยากที่จะเรยี นรู้มากข้นึ ๓. ดา้ นของผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรยี นทใ่ี ช้เอกสารประกอบการเรยี นในรปู แบบนติ ยสาร  จากการเปรียบเทียบผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนของผู้เรยี นที่ใช้เอกสารประกอบการเรียนใน รูปแบบนิตยสารท่ีสร้างและพัฒนาข้ึนจากเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ พบว่าผู้เรียนในระดับช้ัน มัธยมศึกษาปีท่ี ๕ โรงเรียนเทพราชพิทยาสรรค์มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนกับ คะแนนเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ ๐.๐๑ โดยมี คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชา ประวัติศาสตร์ไทย ในรูปแบบนิตยสาร แบบมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน สาหรับนักเรียน ระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๔ สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ แสดงว่าผู้เรียนมีพัฒนาการ ทางด้านการเรียนสูงข้ึน มีความก้าวหน้าสูงกว่าเกณฑ์ที่ต้ังไว้ สรุปได้ว่าเอกสาร ประกอบการเรียนรายวชิ าเหตกุ ารณ์ปัจจบุ ันในรูปแบนติ ยสารที่พัฒนาข้ึนสามารถช่วยให้ ผู้เรียนมีผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนท่ีสงู กวา่ เกณฑ์ 7

๔. ด้านความพงึ พอใจของผเู้ รยี นตอ่ การพฒั นาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาประวัติศาสตร์ ไทย ในรปู แบบนิตยสาร แบบมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน สาหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ท่ี ๔ โรงเรียนเทพราชพิทยาสรรค์  ผลจากการสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียนต่อการจัดการเรียนรู้ โดยใช้การพัฒนา เอกสารประกอบการเรียนรายวิชาประวัติศาสตร์ไทย ในรูปแบบนิตยสาร แบบมี ปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน สาหรับนักเรียนระดับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๔ โรงเรียนเทพราช พิทยาสรรค์ พบว่า ความพึงพอใจของผู้เรียนท่ีมีต่อการเรียนรู้มีค่าสูงสุดคือ สาระการ เรียนรู้มีความน่าสนใจและเป็นประโยชน์ต่อผู้เรียน ๔.๔๘ และ มีค่าความพึงพอใจเฉลี่ย รวม ๔.๓๘ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ ๐.๖๒ แสดงว่าผู้เรียนมีความพึงพอใจมากท่ี ได้เรียนรู้โดยใช้การพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาประวัติศาสตร์ไทย ใน รปู แบบนติ ยสาร แบบมีปฏิสมั พนั ธ์กับผ้เู รียน สาหรบั นกั เรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนเทพราชพิทยาสรรค์ เพราะสอดคล้องกับวัยของผู้เรียน ในช่วงวัยรุ่น ท่ีสนใจ เรือ่ งราวเก่ยี วกับแฟช่ัน สง่ิ ใหม่ และ ความทันสมัยไม่จาเจ เกิดความตื่นเต้นเร้าใจในการ เรียนรู้ ๓.๔การใช้ทรพั ยากร การพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาประวัติศาสตร์ไทย ในรูปแบบนิตยสาร แบบมี ปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน สาหรับนักเรียนระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนเทพราชพิทยาสรรค์ ใช้ ทรัพยากรแบ่งเป็น ๒ ประเภท คือ ทรัพยากรในการสร้างเอกสารประกอบการเรียน และ ทรัพยากรใน การวจิ ัย ซ่ึงเป็นทรพั ยากรท่ีได้รับการสนับสนนุ จากโรงเรียนเทพราชพิทยาสรรค์ทัง้ สนิ้ ๔. ผลการดาเนินงาน/ผลสมั ฤทธิ์/ประโยชนท์ ีไ่ ด้รับ ๔.๑ผลท่ีเกดิ ตามจดุ ประสงค์  การพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาประวัติศาสตร์ไทย ในรูปแบบนิตยสาร แบบมี ปฏสิ ัมพนั ธ์กับผ้เู รียน สาหรับนกั เรียนระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี ๔ โรงเรียนเทพราชพิทยาสรรค์ ที่ ผูว้ ิจยั ได้สร้างและพัฒนาขึ้นมปี ระสทิ ธภิ าพ ๘๗.๒๑/๘๒.๙๑ ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ที่ต้ังไว้  ดัชนีประสิทธิผลของการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาประวัติศาสตร์ไทย ในรูปแบบ นิตยสาร แบบมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน สาหรับนักเรียนระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนเทพ ราชพิทยาสรรค์ มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ ๐.๗๓ หรือ ร้อยละ ๗๓ นั้นคือผู้เรียนมีความรู้ เพ่ิมข้ึนหลังกาศึกษาด้วยการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาประวัติศาสตร์ไทย ใน รูปแบบนิตยสาร แบบมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน สาหรับนักเรียนระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรยี นเทพราชพิทยาสรรค์ 8

 การเปรยี บเทยี บผลสัมฤทธิ์ทางเรียนของผู้เรียนท่ีใช้การพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชา ประวัติศาสตร์ไทย ในรูปแบบนิตยสาร แบบมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน สาหรับนักเรียนระดับช้ัน มัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนเทพราชพิทยาสรรค์ ที่สร้างข้ึนกับเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ แตกต่างกัน อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๑ (P=๐.๐๐) เป็นไปตามสมมติฐานท่ีต้ังไวโดยผู้เรียน ที่ เรียนจากการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาประวัติศาสตร์ไทย ในรูปแบบนิตยสาร แบบมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน สาหรับนักเรียนระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนเทพราชพิทยา สรรค์มีคะแนนผลสัมฤทธทิ์ างการเรียนหลังเรียนสงู กวา่ เกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐  ค่าเฉลี่ยความพึงพอใจของผู้เรียนท่ีมีต่อการใช้การพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชา ประวัติศาสตร์ไทย ในรูปแบบนิตยสาร แบบมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน สาหรับนักเรียนระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนเทพราชพิทยาสรรค์ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๓๘ และส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐานเทา่ กบั ๐.๖๒ ผู้เรยี นมีความพึงพอใจในระดบั ดีมาก ๔.๒ผลสัมฤทธ์ขิ องงาน  ผู้วิจัยสามารถสร้าง การพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาประวัติศาสตร์ไทย ในรูปแบบ นิตยสาร แบบมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน สาหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๔ โรงเรียนเทพ ราชพิทยาสรรค์ และนาไปใช้เพ่ือให้เกิดประโยชน์แก่ผู้เรียนได้อย่างเต็มศักยภาพ ลดปัญหาเร่ือง การเบอื่ หนา่ ยชนั้ เรียน และรายวิชาเรยี นได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ๔.๓ประโยชน์ทไ่ี ดร้ บั  ได้การพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนรายวิชาประวัติศาสตร์ไทย ในรูปแบบนิตยสาร แบบมี ปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน สาหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนเทพราชพิทยาสรรค์ เพอื่ ให้ผู้เรียนมคี วามกระตือรือร้น เอาใจใส่ ลดความเบ่ือหน่ายชั้นเรียนและรายวิชาเรียน รวมทั้ง มผี ลสัมฤทธิ์ในทางการเรียนเพมิ่ ขึ้น ๕. ปัจจยั ความสาเรจ็  ปจั จยั ภายใน ความร่วมมือของผู้เรียน คณะครูและผู้บริหารโรงเรียนเทพราชพิทยาสรรค์ ที่ให้ได้ ให้ความร่วมมือในการวิจัย ส่งเสริม และพัฒนาการจัดทาการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน รายวิชาประวัติศาสตร์ไทย ในรูปแบบนิตยสาร แบบมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน สาหรับนักเรียน ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรยี นเทพราชพทิ ยาสรรค์ มาโดยตลอด  ปัจจัยภายนอก การศึกษาสืบค้นและค้นคว้าจากเอกสารประกอบการเรียน งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง การให้คาปรึกษาจากผู้มีประสบการณใ์ นการวิจยั และการสนบั สนนุ จากผูท้ ี่มสี ว่ นเกย่ี วข้องทกุ ส่วน 9

๖. บทเรยี นท่ีไดร้ ับ ปรับคณุ ภาพมงุ่ พฒั นาตอ่ ไป ๖.๑บทเรยี นท่ไี ดร้ ับ  การจัดทาเอกสารประกอบการเรียนฯ o ควรมีการจัดลาดับเน้ือหาให้สอดคล้องต่อเน่ืองกันมากข้ึน และ จัดกิจกรรมการเรียนรู้ ตลอดจนกิจกรรมฝึกทักษะจากง่ายไปยาก เพ่ือให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้จากการอ่านและคิด สรปุ ความไดด้ ้วยตนเอง o การนาเสนอเนอ้ื หาในแต่ละชว่ งควรกะทดั รัด และใช้เวลาไม่นานในการศกึ ษาจนเกินไป o ภาพท่ีนามาใช้ประกอบในเอกสารประกอบการเรียนฯ ควรเลือกให้เหมะสมกับวัยวุฒิของ ผู้เรียน เพ่ือป้องกันการเบ่ือหน่ายของผู้เรียนที่ได้รับสิ่งเร้าจากภาพที่ไม่สอดคล้องกับวัยของ ผ้เู รยี น ๖.๒ปรบั คุณภาพมุง่ พฒั นาตอ่ ไป  ควรมกี ารพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนในรปู แบบนิตยสารในรายวิชาอ่ืน ๆ ของกลุ่มสาระการ เรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม และในระดับชั้นอ่ืน ๆ เพ่ิมเติมเพื่อกระตุ้นให้เกิดความ สนใจเรยี นและตลอดจนพฒั นาใหใ้ ช้กับสื่อและอุปกรณ์อิเล็กทรอนกิ สอ์ ื่น ๆ ไดอ้ ีกด้วย ๖.๓ขอ้ ควรพึงระวงั  การอ้างองิ ท่มี าของภาพและขอ้ มลู ต่าง ๆ ควรปฏบิ ัติอยา่ งเคร่งครัดและรดั กมุ เพ่ือปอ้ งกัน ข้อบกพร่องในเร่อื งการละเมิดลขิ สทิ ธ์ิทางปัญญา ๗. การเผยแพร/่ การไดร้ ับการยอมรบั /รางวัลทีไ่ ดร้ ับ ภาพท่ี ๑ เว็บไซต์ของ ๗.๑ การเผยแพร่ โรงเรยี นเทพราชพิทยาสรรค์  เผยแพรท่ างสอ่ื สงั คมออนไลน์ที่ ภาพที่ ๑ เวบ็ ไซตข์ องผู้วจิ ยั 10

๗.๒การได้รบั การยอมรับ/รางวลั ทไ่ี ดร้ ับ ลงชื่อ ผเู้ สนอ ( นายจิรพล ลิวา ) ครอู นั ดบั คศ.๑ ตาแหน่ง เทพราชพทิ ยาสรรค์ โรงเรยี น ลงช่อื ผู้รบั รอง ( นางวมิ พว์ ภิ า รกั สม ) ตาแหนง่ ผ้อู านวยการโรงเรียน เทพราชพทิ ยาสรรค์ 11


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook