กลุ่มภารกจิ ดา้ นการพยาบาล โรงพยาบาลกาฬสินธ์ุ เร่อื ง : แนวทางปฏิบตั กิ ารพยาบาลเพื่อระงับความรู้สึกสำหรบั ผปู้ ว่ ยบาดเจบ็ หลายระบบ ชอื่ - สกลุ ลายเซ็น ตำแหนง่ วนั เดือนปี จัดทำโดย พว. รุง่ ราวรรณ เจริญไธสง พยาบาลวิชาชพี ชำนาญการ ทบทวนโดย นางทองเย่ยี ม บุญสวัสดิ์ พยาบาลวิชาชพี ชำนาญการพเิ ศษ อนมุ ตั โิ ดย นางบศุ รินทร์ เขยี นแมน้ รองผู้อำนวยการฝ่ายการพยาบาล จำนวนหนา้ ทัง้ หมด 16 หน้า ประกาศใชว้ ันที่ เอกสาร ฉบับ ( ✓ ) ควบคมุ ( ) ไมค่ วบคุม บันทึกการปรับปรุง ฉบบั ที่ วดป. รายละเอยี ด แก้ไขโดย อนมุ ตั ิโดย 1 ตุลาคม 65 ฉบับใหม่
แนวทางปฏิบัตกิ ารพยาบาลเพอ่ื ระงับความรูส้ ึกสำหรบั ผู้ป่วยบาดเจบ็ หลายระบบ กลุ่มงานการพยาบาลวิสญั ญี 1. วัตถปุ ระสงค์ 1.1 เพ่ือให้ผู้ป่วยบาดเจ็บหลายระบบท่ีมารับบริการระงับความรู้สึกได้รับการดูแลด้านวิสัญญีตาม มาตรฐานการพยาบาลวิสญั ญี 1.2 เพ่อื ลดโอกาสเกิดการพกิ ารหรอื ภาวะแทรกซอ้ นจากการผา่ ตดั และการระงบั ความรสู้ ึก 1.3 เพ่ือให้วิสัญญีปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติการพยาบาลการระงับความรู้สึกสำหรับผู้ป่วยบาดเจ็บ หลายระบบเกิดความพงึ พอใจ 1.4 ชว่ ยลดการเลื่อนผ่าตดั หรอื การงดผ่าตัดทีเ่ กดิ จากผู้ปว่ ยลดลงเท่ากับศูนย์ 1.5 เพอื่ ให้ผปู้ ่วยและญาตเิ กิดความพึงพอใจ ลดข้อรอ้ งเรียนดา้ นพฤตกิ รรมบริการ 2. ขอบเขต แนวทางน้ีใช้สำหรบั ผู้ป่วยทม่ี อี าการบาดเจ็บหลายระบบ หรือผู้ปว่ ยทไ่ี ด้รบั บาดเจ็บตอ่ ร่างกาย ตั้งแต่ 2 ตำแหนง่ ข้นึ ไปทม่ี ารับบริการระงบั ความรสู้ กึ ทีห่ อ้ งผ่าตัด โรงพยาบาลกาฬสนิ ธุ์ 3. นยิ าม การระงับความรู้สึก หมายถึง การทำให้ผู้ป่วยหลับ ทำให้อยู่นิ่งไม่ขยับ ปราศจากความกลัวและ ความวติ กกังวลไม่สามารถจำเหตุการณท์ ่ีเกิดขน้ึ ในระหว่างการผ่าตัดได้ มี 2 วิธี ไดแ้ ก่ การระงับความรูส้ กึ แบบ ทว่ั ตวั และการระงับความรู้สึกเฉพาะสว่ น การบาดเจ็บหลายระบบ (Multiple Injury Patient) หมายถึง ผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 1 อวัยวะ และอาจมี traumatic shock หรือhemorrhagic hypotension และมีการเปลี่ยนแปลงใน vital functions of organism อั น ใด อั น ห นึ่ งต่ อ ไป น้ี (1) injury severity score >18 (2) hemodynamic instability (3) coagulopathy (4) close head injury (5)pulmonary injury และ(6) abdominal injury การระงับความรู้สึกสำหรับผู้ป่วยบาดเจ็บหลายระบบ หมายถึง การให้บริการระงับความรู้สึก สำหรับผู้ป่วยท่ีได้รับบาดเจ็บมากกว่า 1 อวัยวะ และอาจมี traumatic shock หรือhemorrhagic hypotension และมีการเปลี่ยนแปลงใน vital functions of organism อันใดอันหนึ่งต่อไปน้ี (1) injury
severity score >18 (2) hemodynamic instability (3) coagulopathy (4) close head injury (5)pulmonary injury และ(6) abdominal injury 4. หนา้ ทีร่ ับผิดชอบ ทีมวิสัญญี มีหน้าที่ให้การบริการระงับความรู้สึกสำหรับผู้ป่วยบาดเจ็บหลายระบบ ตามมาตรฐานการ พยาบาลวิสัญญี 9 มาตรฐาน โดยแบง่ การดูแลผูป้ ่วยออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะก่อนระงับความรู้สกึ ระยะ ระงับความรู้สกึ ระยะหลงั ระงับความรสู้ ึก และการติดตามเยีย่ มหลงั ระงบั ความรู้สกึ 5. เอกสารอา้ งอิง ธรี ะเดชากลุ น., พรมชยั น. และ พลแสน น. 2018. ประสิทธิผลการพฒั นาการดแู ลผ้ปู ว่ ยได้รับบาดเจบ็ หลายระบบด้วย Multiple Injury Nursing Management Guideline แผนกอุบัติเหตแุ ละฉกุ เฉิน โรงพยาบาลบุรีรัมย.์ วารสาร การแพทยโ์ รงพยาบาลศรสี ะเกษ สุรนิ ทร์ บรุ รี ัมย์. 33, 2 (ก.ย. 2018), 165–177. มะลิสา โรจนหิรัณย์. (2563). ประสิทธิผลการใช้แนวทางปฏิบัติในการพยาบาลผู้ป่วยบาดเจ็บหลายระบบ หน่วยงานอุบตั ิเหตุ และฉุกเฉินโรงพยาบาล อุดรธานี. วารสารการแพทย์โรงพยาบาลอุดรธานี. 28, 3 (กันยายน – ธันวาคม 2563), 413- 425. วมิ ล อม่ิ อุไร. (2562). การพยาบาลผปู้ ่วยบาดเจบ็ หลายระบบ. วารสารหวั หนิ สขุ ใจไกลกงั วล. 4, 1 (มกราคม – เมษายน 2562). วิไลวรรณ แสงเนยี ม และชนกพร จิตปญั ญา. (2018). The Relationships between Resilience, Coping, Injury Severity Score and the Health-Related Quality of Life in Patients with Multiple Trauma. ว า ร ส า ร พ ย า บ า ล ส ภ า ก า ช า ด ไ ท ย . 11, 2 (2018): July - December . 132-152. สื บ ค้ น จ า ก https://he0 2 . tci- thaijo.org/index.php/trcnj/article/view/164310/128712 อรอุมา ชยั วฒั น์, ปวนี ัส รุ่งวัฒนะกจิ . (2558). การประเมินผปู้ ว่ ยกอ่ นการระงบั ความรสู้ กึ . ใน: มานี รกั ษาเกียรตศิ กั ดิ์, บรรณาธกิ าร. ตำราวิสัญญพี นื้ ฐานและแนวทางปฏิบตั .ิ พมิ พค์ รงั้ ที่1. กรงุ เทพฯ: เอ-พลัสพริน้ . World health organization. The-top-10- causes-of-death 2017 [Internet]. [cited 2019 Feb 10]. Available from: http://www.who.int/news/room/fact-sheets/detail/the-top-10-causes-of death. 6. เป้าหมาย 6.1 ผปู้ ่วยบาดเจบ็ หลายระบบ ที่มารับบริการระงับความรู้สึกไดร้ ับการดูแลด้านวิสัญญตี ามมาตรฐาน การพยาบาลวสิ ญั ญี 6.2 ผู้ป่วยบาดเจ็บหลายระบบ ที่มาระงับความรู้สึกปลอดภัยและไม่มีภาวะแทรกซ้อนเม่ือมารับ บรกิ ารระงบั ความรสู้ ึก
6.3 ผู้ปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติการพยาบาลการระงับความรู้สึกสำหรับผู้ป่วยบาดเจ็บหลายระบบ เกิดความพึงพอใจ 6.4 ลดการเลอื่ นผา่ ตัดหรือการงดผ่าตดั ที่เกิดจากผูป้ ว่ ยลดลง 6.5 ผู้ป่วยและญาติเกิดความพงึ พอใจ ลดข้อร้องเรยี นดา้ นพฤติกรรมบรกิ าร 7. ตัวช้ีวัด ตวั ชี้วัด ค่าเป้าหมาย หมายเหตุ 1. ผูป้ ่วยบาดเจ็บหลายระบบ ปลอดภยั จากภาวะแทรกซอ้ นจาก มากกกวา่ รอ้ ยละ 95 การให้ยาระงับความรสู้ กึ 2. ผ้ปู ่วยบาดเจบ็ หลายระบบ ได้รับการดูแลตามมาตรฐานการ มากกว่าร้อยละ 95 พยาบาลวิสญั ญี 3. พยาบาลวิสัญญปี ฏิบตั ิตามแนวปฏบิ ัตกิ ารระงบั ความรสู้ กึ มากกว่ารอ้ ยละ 95 สำหรบั ผู้ป่วยบาดเจ็บหลายระบบ 4. พยาบาลวิสญั ญีมคี วามพงึ พอใจต่อแนวปฏบิ ัติการระงบั มากกวา่ ร้อยละ 95 ความรู้สึกสำหรบั ผปู้ ว่ ยบาดเจ็บหลายระบบ 5. อตั ราการเลอื่ นผ่าตัดหรือการงดผ่าตดั ที่เกิดจากผปู้ ว่ ยลดลง ร้อยละ 0 6. ผปู้ ่วยและญาติมคี วามพงึ พอใจ มากกวา่ รอ้ ยละ 95 8. วธิ กี ารปฏบิ ัติ 8.1 วิธกี ารปฏบิ ัติ 1) กำหนดปัญหาท่ตี ้องการแกไ้ ขและขอบเขตการดำเนนิ งาน 2) กำหนดทีมพฒั นา 3) กำหนดวัตถุประสงค์ กลุม่ เป้าหมาย 4) กำหนดผลลัพธ์ที่จะได้รับจากการใช้แนวทางปฏิบัติการพยาบาลการระงับความรู้สึกสำหรับ ผู้ปว่ ยบาดเจบ็ หลายระบบ 5) การทบทวนวชิ าการ งานวจิ ยั ท่เี กยี่ วข้อง 6) กำหนดแนวทางปฏิบตั ิการพยาบาลการระงับความรู้สกึ สำหรบั ผู้ปว่ ยบาดเจบ็ หลายระบบ 7) ตรวจสอบคุณภาพของเคร่ืองมือประเมินแนวทางปฏิบัติการพยาบาลการระงับความรู้สึก สำหรบั ผูป้ ่วยบาดเจบ็ หลายระบบ 8) นำเสนอแนวทางปฏิบัติการพยาบาลการระงับความรู้สึกสำหรับผู้ป่วยบาดเจ็บหลายระบบ ต่อกลมุ่ งานการพยาบาลวสิ ญั ญี
9) นำแนวทางปฏบิ ตั กิ ารพยาบาลการระงับความรู้สึกสำหรับผู้ป่วยบาดเจบ็ หลายระบบ ไปใช้ 10) เก็บรวบรวมขอ้ มลู 11) วิเคราะห์และประเมินผล 8.2 ความร้เู กยี่ วกบั การให้ยาระงับความรสู้ กึ ชนิดของการใหบ้ รกิ ารทางวสิ ัญญี ให้ความรเู้ ก่ียวกับการให้ยาระงับความรู้สึก ชนิดของการให้บริการทางวิสญั ญี การให้บริการทาง วิสัญญมี หี ลายวธิ ีขึ้นกับชนดิ ของการผ่าตัด โรคประจำตวั ของผู้ปว่ ย และความเหมาะสมตามสภาวะสุขภาพของ ผู้ป่วยภายใต้ดุลยพินิจของวิสัญญีแพทย์โดยเน้นความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นสำคัญ โดยเทคนิคทางวิสัญญี ได้แก่ 1) การให้ยาระงับความรู้สกึ แบบท้งั ตัว General Anesthesia (GA) วิธีนจี้ ะทำให้ผูป้ ่วยไม่รู้สึกตัว ไม่เห็นหรือไม่ได้ยินระหว่างการผ่าตัดหรือการทำหัตถการ ผู้ป่วยจะได้รับยาระงับความรู้สึกทางสายน้ำเกลือ หรือยาระงบั ความร้สู กึ ทางหน้ากาก หรือทอ่ หายใจ 2) การให้ยาระงับความรู้สึกแบบเฉพาะท่ี Regional Anesthesia (RA) วิธีน้ีทำใหผ้ ู้ปว่ ยชาเฉพาะ สว่ นท่ีจะทำผ่าตดั หรือทำหัตถการ โดยแพทย์อาจฉีดยาชาบริเวณเส้นประสาท ท่ีเก่ยี วข้องหรือฉีดยาชาเขา้ ชอ่ ง ไขสันหลัง (Spinal anesthesia), การฉีดยาชาเข้าช่องนอกไขสันหลัง (Epidural anesthesia) หรือการทำ brachial plexus block โดยทั่วไปผู้ป่วยจะรู้สึกตัวตลอดการผ่าตัด นอกจากนี้วิธีน้ี อาจใช้ร่วมกับการให้ยา ระงบั ความรสู้ ึกทัง้ ตัว 3) การให้ยาสงบประสาท IV Sedation คือ การให้ยาเพื่อทำให้ผู้ป่วยมีอาการง่วงนอน แต่ยัง ติดต่อได้ รับคำส่ังหรือคำพูด Protective reflex ต่างๆยังคงอยู่ การทำ IV Sedation ผู้ป่วยต้องมีการเตรียม ตวั งดน้ำและอาหารมาเชน่ เดยี วกับการเขา้ รบั การใหย้ าระงับความร้สู ึกแบบทง้ั ตวั 4) การให้ยาระงับความรู้สึกแบบเฉพาะส่วน Local หรือ topical anesthesia (LA) คือ การ บรหิ ารยาชาเฉพาะที่ตรงตำแหน่งที่ต้องการทำหัตถการ ไดแ้ ก่ การฉีดยาชารอบ ๆ บาดแผล การพ่นยาชาใน คอกอ่ นส่องกล้องตรวจทางเดนิ อาหาร เป็นต้น 5) การเฝ้าระวังผู้ป่วยเพียงอย่างเดียว Monitor anesthesia care (MAC) วิธีนี้บุคลากรทาง วิสัญญีให้การเฝ้าระวังและประคับประคองสภาวะต่างๆของผู้ป่วยขณะทำหัตถการต่างๆ โดยอาจไม่ได้รับยา ใดๆ หรือได้รับยาออกฤทธ์ิต่อระบบประสาท ได้แก่ ยากล่อมประสาท ยาระงับประสาท ยานอนหลับหรอื ยา ระงบั ปวดอย่างเดยี ว
8.3 การพยาบาลก่อนใหบ้ ริการวิสัญญี มกี ารประเมินปญั หา ความตอ้ งการ และเตรียมความพรอ้ ม ผ้ปู ่วยกอ่ นรบั บรกิ ารวสิ ญั ญี แนวทางปฏิบัติ 1) เยี่ยมผู้ป่วยผ่าตัดล่วงหน้าก่อนได้รับบริการวิสัญญีมีการประเมินและรวบรวมข้อมูลโรคท่ีน ำมาซ่ึง การผ่าตัด ประวัติการเจ็บป่วยในอดีตของที่ผู้ป่วย ประวัติการใช้ยาท่ีมีผลต่อการให้ยาระงับความรู้สึก อาการท่ีแสดงถึงพยาธิสภาพของระบบการทำงานของร่างการผู้ป่วยทุกระบบผลการตรวจทางห้อง ปฏบิ ัติการ 2) ประเมินผู้ป่วยตาม ASA class (American Society of Anesthesiologists) เพ่ือทราบความแข็งแรง สมบูรณ์ และความเสีย่ งของผ้ปู ว่ ยต่อการไดร้ บั บริการวิสัญญี 3) ให้ข้อมูลและคำแนะนำการปฏิบัติตนและความเส่ียงระหว่างการให้บริการทางวิสัญญี เช่น ข้ันตอน เครอ่ื งมอื ของการให้ยาระงับความรูส้ ึก การออกฤทธ์ิและผลขา้ งเคียงจากการให้ยาระงับความรู้สึก การ ดูแลตนเอง ก่อน-ขณะ-หลัง ให้ยาระงับความรู้สึก การประเมินระดับความปวดหลังผ่าตัด ตามแนว ปฏิบัตกิ ารเตรียมผ้ปู ว่ ยผ่าตัดของราชวิทยาลยั วสิ ญั ญปี ระเทศไทย 4) ประสานงานกับทีมสหสาขาวิชาชีพที่เกี่ยวข้องในการให้บริการวิสัญญี เพื่อวางแผนการให้ยาระงับ ความรู้สกึ 5) กรณีผู้ป่วยมีโรคประจำตัวจำแบบเป็นต้องรับประทานยาโรคประจำตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดแบบ Elective case สามารถรบั ประทานยาโรคประจำตัวตามแนวปฏิบัติหรือตามแผนการรักษาของแพทย์ ร่วมกับน้ำเปลา่ ไม่เกิน 30 cc ต่อการรบั ประทานยาทัง้ หมดอยา่ งนอ้ ย 2 ชวั่ โมงก่อนเขา้ รบั การผ่าตดั 6) การส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ในการสง่ ตรวจทางหอ้ งปฏิบัติการสามารถใชเ้ ป็น Screening tests โดย ควรพิจารณาสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย โดยการพิจารณาจากสภาพผูป้ ่วย โรคประจำตัว และชนดิ ของการ ผ่าตดั ดงั ตาราง การประเมนิ CBC Cr E, lyte EKG CXR BS Coag อายุ< 40 ปี แข็งแรง ไมม่ ีโรคประจำตัว √ อายุ≥ 40 ปี แข็งแรง ไม่มโี รคประจำตัว √ √ √ √ √ √ ผปู้ ว่ ยท่ีมารับการผา่ ตัดใหญ่ √√√√√√√ 7) การให้ยา Premedication คอื การใหย้ ากอ่ นการระงบั ความร้สู ึก อาจให้ผปู้ ่วยรบั ประทานมาจาก บ้าน หอผูป้ ว่ ย หรอื ใหท้ ีห่ อ้ งรอผา่ ตัดกอ่ นการใหย้ าระงบั ความรสู้ กึ โดยมีวัตถุประสงค์
- ลดความวติ กกงั วลของผู้ป่วย สงบประสาท (sedation) และจำเหตุการณ์ไม่ได้ (amnesia) - ทำให้ระบบไหลเวยี นเลือดและความดันโลหิตคงท่ี - ลดความเสี่ยงและความรุนแรงในการเกิดภาวะสูดสำลักอาหาร และน้ำย่อยเข้าปอด - รักษาและปอ้ งกนั อาการปวดแผล ซง่ึ มผี ลในการลดการกระต้นุ ระบบประสาทท่ีเก่ยี วขอ้ งกับความ รูส้ ึกปวดทำให้ลดปริมาณความต้องการของยาแก้ปวดทงั้ ในช่วงระหว่างและหลงั ผ่าตัดได้ - ชว่ ยลดความต้องการยาระงับความร้สู กึ ขณะผา่ ตดั - ทำให้การนำสลบราบร่นื ลดการตอบสนองของระบบประสาทอัตโนมัตขิ ณะนำสลบ 8) ยาท่คี วรหยดุ ก่อนมารบั การผ่าตัด - ยาตา้ นเลอื ดแขง็ เป็นลิ่ม Warfarin ควรหยุด 3-5 วัน กอ่ นการผ่าตัด กรณีท่จี ำเป็นต้องป้องกัน การเกดิ Thrombus ให้ Heparin หยดเข้าหลอดเลอื ดดำแทน แล้วติดตามดู PTT 1.5-1.7 เท่า ของปกติ และหยดุ ยา Heparin 6 ชั่วโมง กอ่ นนำผปู้ ว่ ยมาผา่ ตดั และควรเตรียม FFP 10-15 ml/kg เม่ือมปี ญั หาเลือดออกมากขณะผ่าตดั - ยาต้านการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด เช่น Aspirin, Plavix (Clopidogrel) สำหรับการผ่าตัด elective ถ้าหยุดได้ให้หยุดก่อนผ่าตัด 7 วัน แต่ในกรณีที่ไม่สามารถหยุดยาได้หรือจำเป็นต้อง ผ่าตัดฉุกเฉินควรเตรียมเกล็ดเลือดเข้มขน้ ไว้ 6-10 ยนู ติ ขนึ้ อยูก่ บั ชนิดของการผ่าตดั 8.4 การพยาบาลระหว่างให้บริการวิสัญญี ปฏิบัติการให้บริการทางวิสัญญีโดยการให้ยาระงับความรู้สึก มีการตรวจสอบความถูกต้องของตัวผปู้ ่วย เอกสารและการผ่าตดั ของผู้ป่วยให้ถูกต้อง การให้ยาระงับ ความรู้สึกมีการเฝ้าระวังและบันทึกตามมาตรฐานการบริการวิสัญญี อย่างถูกตอ้ งและครบถ้วน รายงานความ เปลยี่ นแปลงทผี่ ิดปกตทิ นั ทแี ก่ทมี สหวิชาชพี ทร่ี ่วมใหบ้ ริการกบั ผู้ป่วย 8.5 การพยาบาลหลังให้บริการวิสัญญี มีการให้บริการเพ่ือความปลอดภยั และสุขสบายของผู้ป่วยหลังให้ บริการทางวิสญั ญี หลังจากผ่าตัดเสร็จเรียบร้อยในรายที่ไดร้ ับยาระงบั ความรู้สึก เมื่อผู้ป่วยตื่นดี สามารถหายใจไดเ้ อง จึง เคลื่อนย้ายผู้ป่วยมายังห้องพักฟ้ืน โดยประสานงานกับพยาบาลห้องพักฟ้ืนถึงสภาพผู้ป่วยก่อนและหลังการ ให้บริการทางวิสัญญี มีการประเมินปัญหาและความต้องการของผู้ป่วยภายในห้องพักฟ้ืนเกี่ยวกับระดับความ รู้สึกตัว ระดับการชา ลักษณะการหายใจ สัญญาณชีพ การประเมินความปวด ลักษณะแผลผ่าตัด และการ ทำงานของท่อระบายต่างๆ รวมถึงการบันทึกและการส่งต่อข้อมูลของผู้ป่วยหลังให้บริการทางวิสัญญีแก่หอ
ผู้ป่วย ทั้งการติดตามเยี่ยมหลัง 24 ชั่วโมงหลังได้รบั บริการทางวิสัญญีเพื่อตดิ ตามปัญหาหรือภาวะแทรกซ้อน และช่วยแกไ้ ข ที่อาจเกดิ ขึ้นกับผู้ป่วยภายหลังไดร้ บั การบริการวสิ ญั ญี 8.6 การเตรียมตวั เฉพาะเพอื่ ระงับความร้สู ึกสำหรบั ผู้ป่วยบาดเจบ็ หลายระบบ กรณีไม่ฉุกเฉนิ (elective case) 1) ผปู้ ่วยจะได้รับการเยี่ยมก่อนผ่าตัด 1 วัน เพ่ือประเมินอาการ ตำแหนง่ ผา่ ตัด ประเมินการบาดเจบ็ และ เตรียมเยี่ยมผปู้ ่วยผ่าตัดล่วงหน้าก่อนได้รับบริการวสิ ัญญี มีการประเมินและรวบรวมข้อมูลโรคที่นำมาซ่ึงการ ผ่าตัด ประวัติการเจ็บป่วยในอดีตของที่ผู้ป่วย ประวัติการใช้ยาที่มีผลต่อการให้ยาระงับความรู้สึก อาการท่ี แสดงถึงพยาธิสภาพของระบบการทำงานของร่างการผู้ป่วยทุกระบบ ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ตาม มาตรฐานการเตรยี มด้านวสิ ญั ญี 2) ประเมนิ ความรู้และให้ความรู้แกผ่ ู้ป่วยและญาติเพอื่ คลายความวิตกกังวล 3) พิจารณาให้ยา Premedication ตามความเหมาะสม ตรวจสอบสารน้ำ และเลือดให้พร้อมใช้ขณะ ผ่าตัด 4) อธิบายความเส่ียงท่อี าจเกดิ ขึน้ ได้แก่ การเสยี เลอื ดมาก การถอดทอ่ หายใจภายหลังผ่าตดั และการถอด ท่อหายใจไมไ่ ดห้ ลงั ผา่ ตัด เปน็ ต้น กรณฉี กุ เฉนิ (emergency case) กรณีน้ีส่วนใหญ่ผ้ปู ่วยจะมีอาการหนัก อาจมีการเปล่ียนแปลงได้ตลอดเวลา เป้าหมายของการผ่าตัด ส่วนใหญ่เพื่อรักษาชวี ิต การผา่ ตัดจะต้องทำอย่างเร่งด่วน ใชเ้ วลาเตรียมสั้นทสี่ ุด ผู้ป่วยจะต้องได้รับการผา่ ตัด เร็วที่สุดผู้ป่วยส่วนมากจะใส่ท่อหายใจมาแล้ว การเตรียมผ่าตัดจะต้องได้รับการเตรียมอย่างเร่งด่วน และ ครบถ้วน ได้แก่ 1) มีการประสานงานส่งต่อข้อมูล อาการของผู้ป่วยก่อนส่งผู้ป่วยมายังห้องผ่าตัด เตรียมห้อง ผ่าตัด เตรียมอุปกรณ์เครื่องมือ อุปกรณ์ช่วยชีวิตให้พร้อมใช้ 2) มีการตรวจสอบผลการตรวจทาง หอ้ งปฏิบัตกิ าร เตรียมเลอื ดและส่วนประกอบของเลอื ดให้พร้อมใช้ 3) การประสานงานวางแผนการย้ายผู้ป่วย กลบั กรณที ำผา่ ตดั เสร็จ 8.7 การดูแลผู้ป่วยครอบคลมุ มาตรฐานการพยาบาลวสิ ัญญี 9 มาตรฐาน มาตรฐานท่ี 1 การพยาบาลระยะกอ่ นใหบ้ รกิ ารทางวสิ ญั ญี มาตรฐานท่ี 2 การพยาบาลระยะให้บรกิ ารทางวสิ ญั ญี
มาตรฐานที่ 3 การพยาบาลระยะหลังใหบ้ รกิ ารทางวิสญั ญี มาตรฐานที่ 4 การดูแลต่อเนอ่ื ง มาตรฐานท่ี 5 การสรา้ งเสริมสขุ ภาพ มาตรฐานท่ี 6 การคุ้มครองภาวะสุขภาพ มาตรฐานที่ 7 การให้ข้อมลู และความรดู้ า้ นสุขภาพ มาตรฐานที่ 8 การพทิ กั ษ์สิทธิผูป้ ว่ ย มาตรฐานท่ี 9 การบันทกึ ทางการพยาบาล
แนวทางปฏบิ ัติการพยาบาลการระงับควา การประเมินปัญหา การวินจิ ฉัยทางการพยาบาล การวางแผนการพยา (ม1,7,8,9) (ม2,7,8,9) (ม3,7,8,9) 1.ระยะกอ่ นระงบั ความร้สู ึก 1. เสี่ยงต่อการเกดิ ภาวะซอ๊ ค 1. เตรยี มผปู้ ่วยเพ่อื ผา่ ตัดม และเสยี ชวี ติ จากการผา่ ตดั เพือ่ ป้องกนั ภาวะซอ๊ คและเ จากการผ่าตดั
ามรสู้ ึกสำหรบั ผู้ป่วยบาดเจบ็ หลายระบบ าบาล การปฏิบตั กิ ารพยาบาล การประเมนิ ผล (ม4,7,8,9) (ม6,7,8,9) มาตรฐาน กรณไี มฉ่ ุกเฉนิ 1. ผปู้ ว่ ยมีสญั ญาณชีพอยู่ใน เสียชีวติ 1. เยี่ยมผู้ป่วยผ่าตัดล่วงหน้าก่อนได้รับบริการ เกณฑท์ ร่ี บั ได้ วิสัญญี มีการประเมินและรวบรวมข้อมูลโรคท่ี 2. ผู้ปว่ ยได้รบั การผ่าตดั ตาม นำมาซ่ึงการผ่าตดั ประวัติการเจ็บป่วยในอดีตของ แผนท่ีวางไว้ อย่างรวดเร็วกรณี ทผี่ ู้ป่วย ประวัติการใช้ยาที่มีผลต่อการให้ยาระงับ ผ่าตัดฉกุ เฉิน ความรสู้ ึก อาการที่ แสดงถงึ พยาธสิ ภาพของระบบ การทำงานของร่างการผู้ป่วยทุกระบบ ผลการ ตรวจทางหอ้ งปฏบิ ัตกิ าร 2.ประเมินผู้ป่วยตาม ASA class เพ่ือทราบความ แข็งแรงสมบูรณ์ และความเส่ียงของผู้ป่วยต่อการ ไดร้ ับบรกิ ารวสิ ัญญี 3. การตรวจร่างกาย ควรตรวจทุกระบบ เช่น ระบบทางเดินหายใจ ระบบประสาท ประเมิน GCS รวมถงึ สว่ นสูง น้ำหนักตัว Vital signs 4. ให้ข้อมูลและคำแนะนำการปฏิบัตติ นและความ เส่ียงระหว่างการให้บริการทางวิสัญญี เช่น ขั้นตอน เคร่ืองมือของการให้ยาระงับความรู้สึก การออกฤทธ์ิและผลข้างเคียงจากการให้ยาระงับ ความรู้สึก การดูแลตนเอง ก่อน-ขณะ-หลัง ให้ยา
การประเมนิ ปัญหา การวนิ ิจฉยั ทางการพยาบาล การวางแผนการพยา (ม1,7,8,9) (ม2,7,8,9) (ม3,7,8,9)
าบาล การปฏิบตั กิ ารพยาบาล การประเมินผล (ม4,7,8,9) (ม6,7,8,9) ระงับความรูส้ ึก การประเมินระดับความปวดหลัง ผา่ ตัด ตามแนวปฏิบัติการเตรียม ผู้ป่วยผ่าตัดของ ราชวทิ ยาลัยวสิ ญั ญีประเทศไทย 5. ซักประวัติการผ่าตัด และการได้รับยาระงับ ความรู้สึกก่อนหน้าน้ี เช่น ประวัติการใส่ท่อช่วย หายใจยาก อาการคลื่นไส้อาเจียนหลังผ่าตัด การ ฟนื้ จากยาสลบช้า การบาดเจ็บของไขสันหลังหรือ เส้นประสาทซ่ึงข้อมูลเหล่าน้ีมีความสำคัญในการ เตรียมความพร้อมเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน ตา่ งๆในการผา่ ตัดคร้งั น้ี 6. ประสานงานกับทีมสหสาขาวิชาชีพท่ีเก่ียวข้อง ในการให้บริการวิสัญญี เพ่ือวางแผนการให้ยา ระงับความรสู้ ึก 7. ตรวจสอบผลการตรวจหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร พร้อมท้ัง รายงานแกไ้ ข กรณีผลตรวจหอ้ งปฏิบตั ิการผดิ ปกติ 8. การตรวจสอบผลการตรวจทางห้องปฏบิ ตั ิการ เตรยี มเลือดและส่วนประกอบของเลือดใหพ้ ร้อมใช้ กรณีฉกุ เฉิน 1. ผู้ปว่ ยจะต้องไดร้ บั การผ่าตดั เรว็ ท่ีสดุ ผู้ปว่ ย ส่วนมากจะใสท่ ่อหายใจมาแล้ว การเตรยี มผ่าตัด จะตอ้ งได้รับการเตรียมอยา่ งเร่งด่วน และครบถ้วน
การประเมนิ ปัญหา การวนิ ิจฉยั ทางการพยาบาล การวางแผนการพยา (ม1,7,8,9) (ม2,7,8,9) (ม3,7,8,9) 2. ผู้ป่วยและญาติมคี วามวิตก 1. ให้ความรู้เกี่ยวกับการผ กงั วลเนื่องจากกลวั การให้ยา ระงบั ความรสู้ ึกและภาวะแ ระงบั ความรสู้ กึ และผา่ ตัด 2. ให้ความรู้เก่ียวกับปฏิบ และหลงั ผ่าตัด
าบาล การปฏบิ ัติการพยาบาล การประเมนิ ผล (ม4,7,8,9) (ม6,7,8,9) 2. มีการประสานงานส่งต่อข้อมูล อาการของ ผู้ป่วยก่อนส่งผู้ป่วยมายังห้องผ่าตัด เตรียมห้อง ผ่าตัด เตรียมอุปกรณ์เครื่องมือ อุปกรณ์ช่วยชีวิต ใหพ้ ร้อมใช้ 3. มีการตรวจสอบผลการตรวจทางห้องปฏบิ ัตกิ าร เตรียมเลือดและสว่ นประกอบของเลอื ดใหพ้ ร้อมใช้ 4. การประสานงานวางแผนการย้ายผู้ป่วยกลับ กรณที ำผา่ ตดั เสรจ็ ผ่าตัดและ 1. วิสัญญีพยาบาลได้แนะนำตัวเพื่อให้ผู้ป่วยเกิด 1. ผู้ป่วยและญาติเขา้ ใจ แทรกซอ้ น ความไว้วางใจ และให้ความร่วมมือปฏิบัติตาม แผนการรักษาและใหค้ วาม บัติตัวก่อน คำแนะนำ ร่วมมือในการผา่ ตัด 2. อธบิ ายให้ผู้ป่วยเข้าใจถงึ ข้ันตอนการผา่ ตดั และ 2. ผู้ป่วยและญาติสามารถ การให้ยาระงับความรู้สึกเพ่ือให้ผู้ป่วยเข้าใจและ ปฏิบัตติ ามคำแนะนำได้ มั่นใจว่าจะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดต้ังแต่ระยะ แรกเร่ิมจนสิ้นสุดการผ่าตัดจนผู้ป่วยปลอดภัยแล้ว จงึ ส่งต่อใหพ้ ยาบาลประจำหอผปู้ ว่ ยดแู ลต่อไป 3. อธิบายถึงแผนการรักษาของแ พทย์ และ แผนการพยาบาล พรอ้ มเปดิ โอกาสให้ซกั ถาม และ ตอบขอ้ สงสยั 4. อธิบายการเตรียมร่างกายทั่วไป เช่น การดูแล
การประเมนิ ปัญหา การวินิจฉยั ทางการพยาบาล การวางแผนการพยา (ม1,7,8,9) (ม2,7,8,9) (ม3,7,8,9) 1. ระยะให้การระงับ 1. เส่ยี งต่อการเกดิ 1. เพอื่ ปอ้ งกันอันตรายจาก ความรสู้ กึ ภาวะแทรกซ้อนระหวา่ งระงับ ภาวะแทรกซอ้ น เชน่ เสียเล ความร้สู กึ เกดิ ภาวะหัวใจเต้นผดิ จงั หว เกดิ หวั ใจหยดุ เตน้ ระวา่ งผ่า
าบาล การปฏบิ ตั กิ ารพยาบาล การประเมินผล (ม4,7,8,9) (ม6,7,8,9) ความสะอาดของร่างกาย โกนผม ตัดเล็บ แปรง ฟนั เปลย่ี นเส้อื ผา้ ในเช้าวันผา่ ตดั 5. อธิบายการเตรียมตัวสำหรับผ่าตัดทั่วไป เช่น การตรวจเลือด การถ่ายภาพรังสีทรวงอก การงด น้ำและอาหารทกุ ชนดิ หลงั เที่ยงคืนก่อนผ่าตดั การ ให้สารนำ้ ทางเสน้ เลือดดำ การใส่สายสวนปสั สาวะ 6. ให้คำแนะนำเร่ืองการปฏิบัติตนก่อน-หลังผ่าตัด เพื่ อ ป้ อ งกั นโรค แท รก ซ้ อ นที่ อ าจ จะ เกิ ด ขึ้ นห ลั ง ผา่ ตดั เชน่ การฝึกการหายใจเพื่อปอ้ งกันปอดแฟบ การพลิกตะแคงตัว การออกกำลังกายโดยเรว็ ทีส่ ดุ 7. พูดคุยแสดงความเป็นมิตร ปลอบโยน และให้ กำลังใจ ตลอดจนตอบปัญหาหรือข้อสงสัยต่างๆ ให้ผู้ป่วยและญาติเข้าใจโดยพิจารณาตามความ เหมาะสม กการเกิด 1. ในระยะนี้ถ้าเป็นกรณีฉุกเฉินจะต้องใช้วิสัญญี 1. ผู้ปว่ ยปลอดภยั จาก ลอื ดมาก พยาบาลอย่างน้อย 2 คน ในการเฝ้าระวังผู้ป่วย ภาวะแทรกซอ้ น วะ หรือ ตลอดเวลาโดยติดตามสภาวะ ออกซิเจนของ าตัด ร่างก าย (oxygenation) ส ภ าวะก าร ห าย ใจ (ventilation) ส ภ า ว ะ ก า ร ไห ล เวี ย น เลื อ ด (circulation) และบันทึกรายละเอียดการระงับ
การประเมินปัญหา การวนิ จิ ฉัยทางการพยาบาล การวางแผนการพยา (ม1,7,8,9) (ม2,7,8,9) (ม3,7,8,9) 2. ระยะหลงั ระงบั ความรู้สึก 1.เสี่ยงตอ่ การเกดิ 1. เพือ่ ปอ้ งกันการเกิด ภาวะแทรกซอ้ นหลงั ผา่ ตัด และการตดิ ตาม ภาวะแทรกซอ้ นหลงั ผ่าตัด 2. ผู้ป่วยไดร้ บั การดแู ลตาม มาตรฐานการเฝา้ ระวังหลงั
าบาล การปฏิบตั ิการพยาบาล การประเมินผล (ม4,7,8,9) (ม6,7,8,9) ความรู้สึกวิธีการยาอุปกรณ์สภาวะต่างๆ ที่เฝ้า ระวังสัญญาณชีพ และภาวะแทรกซอ้ น 2. การเฝ้าระวังท่ีอาจมีเพิ่มเติม คือ Endtidal- CO2 (ET-CO2), Gas monitoring, CVP, อุณหภูมิ , จำนวนปัสสาวะต่อช่ัวโมง และ Arterial line (ตามความจำเปน็ ) 3. การบรหิ ารยาระงบั ความร้สู ึกตามมาตรฐานการ ระงับความรสู้ ึกแตล่ ะชนดิ ที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ ละราย 4. มีการบันทึกการระงับความรู้สึก (anesthetic record) ตลอดเวลา หรือทุกครั้งท่ีมีการเปลี่ยน แปลง 5. ถ้าเกิดภาวะฉุกเฉิน เช่น ผู้ป่วยเกิดภาวะหัวใจ หยุดเต้นทมี จะต้องมาช่วยกันทงั้ หมด ไม่มีการเริ่ม เคสผ่าตัด ยกเวน้ หอ้ งได้เริ่มไปแล้ว กรณีไมฉ่ ุกเฉิน 1. ไม่เกดิ ภาวะแทรกซ้อน 1. ได้รับการดูแลตามมาตรฐานการดแู ลทหี่ อ้ งพัก 2. เกิดการส่งต่อขอ้ มูลด้านการ ม ฟน้ื โดยประเมนิ ภาวะแทรกซ้อนหลงั ระงบั ดแู ลผปู้ ่วยจากวิสัญญีส่หู อ งผ่าตัด ความรูส้ กึ พร้อมทง้ั แกไ้ ขถา้ เกดิ อบุ ัตกิ ารณ์ ได้แก่ ผู้ปว่ ยอย่างถกู ต้องครบถ้วน 1.1 awareness 3. ผ้ปู ว่ ยปลอดภัยจากการเกดิ
การประเมนิ ปัญหา การวนิ ิจฉยั ทางการพยาบาล การวางแผนการพยา (ม1,7,8,9) (ม2,7,8,9) (ม3,7,8,9)
าบาล การปฏิบัตกิ ารพยาบาล การประเมินผล (ม4,7,8,9) (ม6,7,8,9) 1.2 ประเมินเจบ็ คอ ภาวะแทรกซ้อนหลังระงับ 1.3 ประเมินคลนื่ ไสอ้ าเจียน ความรู้สึก หรอื ไม่เกิด 1.4 ประเมินการบาดเจ็บในช่องปาก ภาวะแทรกซ้อน 1.5 ปวดศีรษะ 4. ผูป้ ่วยได้รับการติดตามเย่ียม 1.6 ประเมินดา้ น Neuro-sign หลังผ่าตดั 100% 1.7 ประเมิน GCS 1.8 ประเมิน Pain score การดแู ลและใหก้ าร พยาบาลในหอ้ งพกั ฟน้ื การประเมนิ ความปวดและ การจัดการความปวด ผู้ป่วยต้องไดร้ ับการจดั การ ความปวดที่ pain score >3 ขึ้นไป 2. การส่งผู้ปว่ ยออกจากหอ้ งพกั ฟนื้ ที่ PAR score ≥9 3. การเย่ียมหลังผ่าตัด 24 ชั่วโมงเพื่อติดตาม ภาวะแทรกซ้อน โดยวิสัญญพี ยาบาล 4. ประเมนิ ความพงึ พอใจต่อการใหบ้ รกิ ารดา้ น วสิ ญั ญี กรณฉี ุกเฉนิ ผปู้ ่วยใสท่ อ่ หายใจก่อนมาผ่าตดั 1. เตรียมเครอ่ื งมือและอุปกรณ์ในการส่งตอ่ ผปู้ ่วย กลับไปดูแลต่อเนื่องท่ีหอผู้ป่วย ได้แก่ monitor พ้นื ฐาน BP, HR และ SpO2 ในการนำสง่ ผู้ป่วย 2. เตรยี มเอกสารข้อมูลให้พร้อมในการส่งต่อขอ้ มูล
การประเมนิ ปัญหา การวนิ ิจฉยั ทางการพยาบาล การวางแผนการพยา (ม1,7,8,9) (ม2,7,8,9) (ม3,7,8,9)
าบาล การปฏบิ ตั กิ ารพยาบาล การประเมินผล (ม4,7,8,9) (ม6,7,8,9) ด้านวิสัญญีเพ่ือให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลต่อเนื่องที่ หอผู้ป่วย ได้แก่ ข้อมูลเก่ียวกับวิธีระงับความรู้สึก การเสียเลือดระหว่างผ่าตัด ปัญหาที่เกิดระหว่าง การผา่ ตัด และการดูแลต่อเนอื่ งทห่ี อผูป้ ว่ ย 3. มีการสง่ ต่อข้อมูลไปยงั หอผูป้ ่วยเพอ่ื ให้หอผปู้ ่วย เตรียมพร้อมในการรับผู้ป่วยโดยการกำหนดเวลา สง่ ท่ชี ัดเจน เพื่อจะไดม้ กี ารเตรยี มทมี รบั ผปู้ ่วย
Search
Read the Text Version
- 1 - 24
Pages: