Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 3_เล่ม ภูเก้า-merged

3_เล่ม ภูเก้า-merged

Description: 3_เล่ม ภูเก้า-merged

Search

Read the Text Version

หนังสืออา่ นเพ่มิ เติม เรื่องเมืองหนองบัวลาภนู ครเขื่อนขันธก์ าบแกว้ บวั บาน สาระทกั ษะการเรียนรู้ ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้ เลม่ ท่ี ๓ นางนวพรรษ จันทราทลู ครู ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอเมืองหนองบัวลาภู สานกั งาน กศน.จังหวัดหนองบวั ลาภู สานักงาน กศน. สานกั งานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร



ก คำนยิ ม หนังสืออ่ำนเพ่ิมเติม เรื่องเมืองหนองบัวลำภูนครเข่ือนขันธ์กำบแก้วบัวบำน เป็นหนังสือ ท่ีใช้ประกอบกำรจัดกำรเรียนรู้รำยวิชำทักษะกำรเรียนรู้ สำระทักษะกำรเรียนรู้ สำหรับนักศึกษำ หลักสูตรกำรศึกษำนอกระบบระดับกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑ ระดับมัธยมศึกษำตอนต้น โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือพัฒนำทักษะกำรเรียนรู้ของนักศึกษำ ในด้ำนกำรเรียนรู้ด้วยตนเอง กำรใช้แหล่งเรียนรู้ และเพื่อกระตุ้นให้นักศึกษำ เกิดกำรใฝ่เรียนใฝ่รู้ โดยให้นักศึกษำเรียนรู้ผ่ำนเร่ืองเล่ำ และเรียนรู้จำก สถำนที่แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น และเพื่อให้นักศึกษำมีควำมพึงพอใจต่อกรเรียนและเกิดควำมรัก ควำมภำคภูมิใจในท้องถิ่นของตนเอง อีกทั้งยังมีกำรจัดทำภำพประกอบที่สวยงำม สอดคล้องกับ เน้ือเร่ือง ทำให้เข้ำใจเน้อื เร่ืองไดง้ ่ำยและชดั เจน ขอช่ืนชมในควำมพยำยำมในกำรพัฒนำกำรเรียนกำรสอน และจัดทำส่ือประกอบกำรจัดกำรเรียนรู้ ขอเป็นกำลังใจให้กำรพัฒนำงำนและผลิตหนังสือที่มีคุณค่ำ ตอ่ นักศึกษำและสังคมตอ่ ไป (นำยวินัย แสงใส) ผู้อำนวยกำร กศน.อำเภอเมอื งหนองบวั ลำภู

ข คำนำ หนงั สอื อ่ำนเพม่ิ เติมเร่ืองเมอื งหนองบัวลำภนู ครเข่อื นขนั ธก์ ำบแกว้ บัวบำน ผ้เู รยี บเรียงจดั ทำข้ึน เพ่ือใช้เป็นส่ือประกอบกำรเรียนรู้วิชำทักษะกำรเรียนรู้ (ทร ๒๑๐๐๑) สำระทักษะกำรเรียนรู้ สำหรับ นักศึกษำหลักสูตรกำรศึกษำนอกระบบระดับกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑ ระดับมัธยมศึกษำ ตอนต้น ทั้งนี้เนื้อหำแบ่งออกเป็น ๖ เล่ม มีกำรจัดกำรเรียนรู้เล่มละ ๒ ชั่วโมง รวมเวลำเรียน ๑๒ ช่ัวโมง โดยมวี ตั ถุประสงคเ์ พอ่ื ใหผ้ ู้เรียนศึกษำเรียนรู้ประวตั ศิ ำสตร์ควำมเปน็ มำและเอกลักษณ์ของจังหวัด หนองบัวลำภู รวมท้ังเผยแพร่ควำมรู้เกี่ยวกับแหล่งเรียนรู้ในจังหวัดหนองบัวลำภู ให้ผู้เรียนได้ศึกษำ ค้นคว้ำให้มีควำมรคู้ วำมเข้ำใจ และมเี จตคติท่ดี ีเกิดควำมภำคภมู ิใจในท้องถิ่นของตน หวังเป็นอย่ำงย่ิงว่ำ หนังสืออ่ำนเพ่ิมเติมเล่มน้ี จะเป็นประโยชน์ต่อครู ผู้เรียน และผู้ท่ีสนใจ ได้เป็นอย่ำงดี ผู้จัดทำขอขอบคุณผู้เสียสละในกำรช่วยเหลือในกำรจัดทำหนังสือเล่มน้ี ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เช่ียวชำญและผู้เกี่ยวข้องทุกท่ำนท่ีให้คำแนะนำในกำรพัฒนำหนังสือ คณะครูและนักศึกษำ กศน. ทใี่ หค้ วำมรว่ มมอื ในกำรใชห้ นงั สืออำ่ นเพมิ่ เติม

สำรบัญ ค คำนยิ ม หนำ้ คำนำ สำรบญั ก คำชแี้ จง ข จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ ค แบบทดสอบก่อนเรยี น ง เนอื้ เร่ือง ญ กิจกรรมพฒั นำกำรเรยี นรู้ ๑ เฉลยกิจกรรมท้ำยบท ๓ แบบทดสอบหลังเรียน ๑๐ เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรียน ๑๓ บรรณำนกุ รม ๑๖ ประวตั ผิ ู้จัดทำ ๑๘ ๑๙ ๒๐

ง คำช้ีแจงกำรใชห้ นงั สอื อ่ำนเพม่ิ เตมิ หนังสืออ่ำนเพิ่มเติมเรื่องเมืองหนองบัวลำภูนครเขื่อนขันธ์กำบแก้วบัวบำน สำระทักษะกำรเรยี นรู้ วิชำทักษะกำรเรียนรู้ (ทร ๒๑๐๐๑) สำหรับนักศึกษำระดับมัธยมศึกษำตอนต้น หลักสูตรกำรศึกษำ นอกระบบระดับกำรศึกษำข้ันพื้นฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑ จัดทำขึ้นโดยกำหนดจุดประสงค์ กำร เรียนรู้ ซ่ึงผู้เรียนสำมำรถศึกษำเนื้อหำ ปฏิบัติกิจกรรมพัฒนำกำรเรียนรู้และประเมินผลกำรเรียนรู้ได้ ด้วยตนเองตำมขั้นตอนที่กำหนดไว้ โดยมีกำรเฉลยคำตอบไว้ท้ำยเล่ม ทั้งนี้เนื้อหำในกำรเรียนรู้ แบง่ ออกเปน็ ๖ เล่ม มกี ำรจดั กำรเรียนรเู้ ลม่ ละ ๒ ช่วั โมง รวมเวลำเรียน จำนวน ๑๒ ชัว่ โมง เล่มท่ี ๑ นครเขือ่ นขนั ธ์กำบแกว้ บวั บำน จำนวน ๒ ชั่วโมง เลม่ ที่ ๒ ศำลสมเด็จพระนเรศวรมหำรำช จำนวน ๒ ชั่วโมง เลม่ ที่ ๓ อทุ ยำนแหง่ ชำติภเู กำ้ - ภูพำนคำ จำนวน ๒ ชว่ั โมง เลม่ ที่ ๔ แผ่นดินธรรมหลวงปขู่ ำว จำนวน ๒ ชั่วโมง เล่มท่ี ๕ เด่นสกำวถ้ำเอรำวณั จำนวน ๒ ชั่วโมง เลม่ ที่ ๖ พิพิธภัณฑห์ อยหนิ ๑๕๐ ล้ำนปี จำนวน ๒ ชวั่ โมง

จ ผเู้ รยี นสำมำรถศกึ ษำเนอ้ื หำและประเมนิ ผลกำรเรยี นรไู้ ด้ดว้ ยตนเองตำมขน้ั ตอนทกี่ ำหนดดงั น้ี วตั ถปุ ระสงค์

ฉ ขอบข่ำยและสว่ นประกอบ หนังสืออ่ำนเพ่ิมเติม มีองค์ประกอบ คือ ปกนอก ปกใน คำนิยม คำนำ สำรบัญ คำชี้แจงกำรใช้หนังสืออ่ำนเพิ่มเติม จุดประสงค์กำรเรียนรู้ แบบทดสอบก่อนเรียน เนื้อเรื่อง กิจกรรมพัฒนำกำรเรียนรู้ พร้อมเฉลยคำตอบ แบบทดสอบหลังเรียน พร้อมเฉลยคำตอบ แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน บรรณำนกุ รมและประวตั ผิ ู้จัดทำ กำรนำหนงั สอื อำ่ นเพม่ิ เตมิ ไปใช้

ช ประโยชนต์ อ่ ผเู้ รยี น ประโยชนต์ อ่ ผสู้ อน

ซ คำแนะนำสำหรบั ครู หนังสืออ่ำนเพ่ิมเติมเรื่องเมืองหนองบัวลำภูนครเข่ือนขันธ์กำบแก้วบัวบำน สำระทักษะกำรเรียนรู้ รำยวิชำทักษะกำรเรียนรู้ (ทร ๒๑๐๐๑) สำหรับนักศึกษำระดับมัธยมศึกษำตอนต้น เป็นหนังสือ อ่ำนเพิ่มเติมท่ีจัดทำข้ึน เพ่ือใช้เป็นเครื่องมือสำหรับกำรเรียนกำรสอนให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ มีกำรพัฒนำ ผลสัมฤทธ์ทิ ำงกำรเรยี นสูงข้นึ บรรลุตำมจุดประสงค์กำรเรียนรู้ ในกำรเรยี นกำรสอนโดยใชห้ นงั สอื อำ่ นเพมิ่ เตมิ ครปู ฏบิ ตั ดิ งั นี้

ฌ คำแนะนำสำหรบั ผเู้ รยี น ๑. ศกึ ษำคำชแ้ี จงกำรใช้ สำระสำคัญ และจุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ ๒. ทำแบบทดสอบก่อนเรียน เพื่อวัดพนื้ ฐำนควำมรู้ควำมเขำ้ ใจของผูเ้ รยี นในเรื่องท่ีกำลงั จะเรียน วำ่ อย่ใู นเกณฑใ์ ด ๓. ศึกษำเนอ้ื หำสำระและทำกิจกรรมพฒั นำกำรเรียนรู้ ๔. ทำแบบทดสอบหลังเรียน เพือ่ วดั พน้ื ฐำนควำมร้คู วำมเขำ้ ใจของผู้เรียนวำ่ เพิม่ มำกขึ้นกว่ำ กอ่ นเรียนหรือไม่ ๕. ผเู้ รยี นปฏบิ ัติกิจกรรมดว้ ยควำมตัง้ ใจ มคี วำมรบั ผดิ ชอบ มคี วำมซือ่ สัตยต์ ่อตนเอง ไม่เปดิ ดู เฉลยก่อน เมอื่ เกิดปัญหำให้สอบตำมครูผสู้ อน และหำกทำคะแนนไมผ่ ่ำนเกณฑส์ ำมำรถ กลบั มำทบทวนเนื้อหำสำระและทำใบงำนกจิ กรรมหรอื แบบทดสอบใหมจ่ นผำ่ นเกณฑ์

ญ จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ ๑. บอกและอธิบำยลกั ษณะของภเู ก้ำ - ภพู ำนคำได้ ๒. ปฏิบัติตนในกำรดูแลรักษำทรพั ยำกรธรรมชำติและส่ิงแวดล้อมในทอ้ งถิ่นได้ ๓. บอกประโยชน์ของกำรดูแลรักษำทรัพยำกรธรรมชำติและสงิ่ แวดลอ้ มแลว้ นำไปปฏิบตั ิ ในชีวติ ประจำวันไดอ้ ย่ำงเหมำะสม

หนงั สอื อา่ นเพม่ิ เตมิ เลม่ ท่ี ๓ อทุ ยานแหง่ ชาตภิ เู กา้ – ภพู านคา ๑ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เลม่ ที่ ๓ อทุ ยานแหง่ ชาติภเู กา้ – ภพู านคา ใหน้ กั ศกึ ษากาเคร่ืองหมาย X ทบั หนา้ ขอ้ ทถ่ี กู ตอ้ งทีส่ ดุ เพยี งข้อเดยี ว ๑. อทุ ยานแหง่ ชาติภเู กา้ -ภพู านคา ต้งั อยู่อาเภอใด ก. อาเภอเมอื งหนองบัวลาภู ข. อาเภอสุวรรณคูหา ค. อาเภอโนนสงั ง. อาเภอนาวงั ๒. อทุ ยานแห่งชาติภูเก้า-ภพู านคา ตดิ กับอาเภอใด ก. อาเภอเมืองขอนแก่น ข. อาเภออุบลรตั น์ ค. อาเภอนา้ พอง ง. อาเภอพล ๓. ภูพานคา เป็นส่วนหนึง่ ของเทอื กเขาใด ก. เทือกเขาตะนาวศรี ข. เทอื กเขาแดนลาว ค. เทือกเขาภพู าน ง. เทอื กเขาอัลไต ๔. ภเู ก้า ประกอบดว้ ยภเู ขากี่ลูก ก. ๘ ลูก ข. ๙ ลกู ค. ๑๐ ลูก ง. ๑๑ ลกู

หนงั สอื อา่ นเพมิ่ เตมิ เลม่ ท่ี ๓ อทุ ยานแหง่ ชาตภิ เู กา้ – ภพู านคา ๒ ๕. ขอ้ ใดไม่ใช่ภเู ขาในภูเก้า ก. ภูชฟ้ี า้ ข. ภฝู าง ค. ภูหนั ง. ภขู มุ ปนู ๖. ศาลาบนยอดหินท่ีเรียกวา่ หออะไร ก. หอสวรรค์ ข. หอนางคอย ค. หอไอเฟล ง. หอไตร ๗. แหลมใดอยูใ่ นภูเก้า-ภูพานคา ก. แหลมพรหมเทพ ข. แหลมสาราญ ค. แหลมฉบงั ง. แหลมเกตุ ๘. สวนหนิ ตง้ั อย่อู ุทยานใด ก. อทุ ยานภูเก้า – ภพู านคา ข. อทุ ยานแห่งชาติเขาใหญ่ ค. อุทยานแห่งชาติทบั สกั ง. อทุ ยานแหง่ ชาติแก่งกระจาน ๙. ข้อใดไมใ่ ช่ ภูเขา ๙ ลูกในภูเกา้ ก. ภฝู าง ภขู มุ ปูน ภูหนั ข. ภเู มย ภคู ้อหมอ้ ภูชนั้ ค. ภเู พราะ ภูลวก ภวู ัด ง. ภูเมย ภูช้ฟี า้ ภชู ้นั ๑๐. สภาพป่าโดยท่ัวไปของอุทยานแหง่ ชาตภิ เู ก้าภพู านคาเปน็ ปา่ ประเภทใด ก. ปา่ เบญจพรรณ ข. ปา่ ชายเลน ค. ป่าดงดิบ ง. ปา่ เตง็ รัง

หนงั สอื อา่ นเพมิ่ เตมิ เลม่ ที่ ๓ อทุ ยานแหง่ ชาตภิ เู กา้ – ภพู านคา ๓ อทุ ยานแห่งชาตภิ ูเกา้ – ภูพานคา ภาพอุทยานแห่งชาติภูเก้า-ภูพานคา ท่ีมา : http://www.pทaม่ี rาk.d: np.go.th/visitor/nationparkshow อุทยานแหง่ ชาติภูเก้าh-tภtpพู :/า/นwคwาw.pไaดr้รkับ.dกnpาร.gปoร.tะhก/vาiศsiเtปorน็ อทุ ยานแห่งชาติ ลาดบั ท่ี ๕๐ เม่ือ พ.ศ. ๒๕๒๘ ครอบคลุมพื้น/nทa่ี tio๓n๒pa๒rkshตoาwร.าpงhกp?ิโลPTเมAต_CรOอDยEู่ในเขตอาเภออุบลรัตน์ และอาเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น และอาเภอโนนสัง จังห=ว1ัด05ห0นองบัวลาภู บริเวณอุทยานเป็นเทือกเขาหินทราย ๒ แห่งท่ีอยู่ห่างกัน ผืนป่าส่วนใหญ่เป็นป่าเต็งรังที่เหลือเป็นป่าเบญจพรรณ และป่าดิบแล้ง โดยมี ท่ีทาการอุทยานฯ อยู่ทร่ี ิมทะเลสาบเหนอื เขอ่ื นอบุ ลรตั น์ ซึง่ อย่ใู นบรเิ วณภพู านคา อุทยานแห่งนี้เป็นแนวเทือกเขาส่วนใหญ่ มีทัศนียภาพงดงามทอดยาวในพ้ืนที่อาเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลาภู และที่ตั้งของที่ทาการอุทยานแห่งชาติภูเก้าอยู่ในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลาภู ซึ่งอยู่ ห่างจากตัวจังหวดั ไปตามเสน้ ทาง หนองบัวลาภู – ขอนแกน่ ระยะทางประมาณ ๕๓ กโิ ลเมตร ในอดีตบริเวณสันภูเก้า มีป่าไม้นานาพรรณอุดมสมบูรณ์ด้วยป่ารกชัฏ และมีสัตว์ป่านานาชนิด เป็นจานวนมากมาย แต่ในปัจจุบันสภาพป่าไม้และสัตว์ป่าที่มีอยู่เดิมเบาบางลงไปมาก เพราะมีการบุกรุก ทาลายทรัพยากรธรรมชาติ จนนับวันจะลดน้อยลงไปเร่ือย ๆ ในท่ีสุดก็อาจจะไม่มีสภาพด้ังเดิมเหลือไวใ้ ห้ เห็นอีก ดังน้ันรัฐบาลจึงประกาศให้บริเวณภูเก้าภูพานคา ซ่ึงเป็นป่าสงวนแห่งชาติเดิม ให้เป็นเขต อุทยานแห่งชาติ ทัง้ นเี้ พ่อื ตอ้ งการอนรุ กั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ทัง้ ป่าไม้และสัตวป์ า่ ที่ยงั เหลืออยู่ไมม่ ากนัก ให้คงอยู่เป็นมรดกของธรรมชาติต่อไป อุทยานภเู ก้าภูพานคา มที ศั นยี ภาพเหนือเขื่อนอบุ ลรัตน์ ระหวา่ งเขตจงั หวดั หนองบวั ลาภูกับเขต จังหวัดขอนแก่นจะเป็นจุดกลางของกลุ่มภูเขาสองเทือก คือ ภูเก้า และภูพานคา กลุ่มภูเขาท่ีอยู่ทางทิศ ตะวันตกของตัวเข่ือนเป็นภูเขาน้อยใหญ่สลับซับซ้อนอยู่จานวน ๙ ลูก คือ ภูฝาง ภูขุมปูน ภูหัน ภูเมย ภคู ้อมอ้ ภชู นั ภูเปราะ ภูลวก และภูวดั จึงเรยี กวา่ “ภเู กา้ ” ดงั กล่าวแล้ว

หนงั สอื อา่ นเพมิ่ เตมิ เลม่ ที่ ๓ อทุ ยานแหง่ ชาตภิ เู กา้ – ภพู านคา ๔ ภาพแผนท่ีอทุ ยานแหง่ ชาติภูเกา้ -ภูพานคา ทม่ี า : http://www.park.dnp.go.th/visitor/nationparkshow.php?PTA=๑๐๕๐ สว่ นภูพานคาอยทู่ างดา้ นตะวันออกของตัวเข่อื นเป็นแนวภเู ขาท่เี ริ่มจากตวั เขื่อนทอดยาวไปทางทิศ เหนือจดลาน้าโขงท่ีหนองคาย ภูเก้าภูพานคามีตานานเล่าขาน ซึ่งขาวบ้านเล่าติดต่อกันมานานช่ัวอายุของ คนในพื้นท่ีเป็นเร่ืองราวมากมายหลายตานาน เขตน้ีเป็นเขตป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์มายาวนานพร้อมทั้งมี สัตว์ป่านานาชนิด นอกจากน้ีในเขตอุทยานภูเก้า ภูพานคา ยังมีถ้าที่สวยงามอีกมากมาย เช่น“ถ้าพรานหมา” (พรานที่เป็นค่ตู ่อสกู้ ับปหู่ ลุบในอดีต ทป่ี ู่หลุบพา่ ยแพ้แล้วจึงเขา้ มาอาศัยอยูก่ ับ “ พระวอ พระตา”) และ ถ้าท่ีมีความสาคัญอีกถ้าหนึ่งท่ีคนทั่วไปรู้จักดี คือ “ถ้ากลองเพล” ซึ่งเป็นถ้าท่ีหลวงปู่ขาว อนาลโย พระเถระผู้ใหญ่ที่มีชื่อเสียงแห่งวัดถ้ากลองเพล ท่ีท่านได้ธุดงค์มาบาเพ็ญภาวนาที่ถ้าแห่งน้ี เป็นต้น ทัศนียภาพที่สวยงามจึงเป็นที่นิยมและสนใจของนักท่องเที่ยว ที่นิยมป่าดงพงไพรโดยทั่วไปและชาว จังหวัดหนองบัวลาภู เปรียบเสมือนสมบัติหรือมรดกทางธรรมชาติของท่ีน้ี คงเหลือน้อยลงไปเร่ือย ๆ สุดท่จี ะหวงแหนไวใ้ ห้เปน็ มรดกตกทอดไปสู่ลกู หลานใหย้ าวนานคงจะเป็นไปได้ยาก เพราะความเห็นแกไ่ ด้ เห็นแก่ตัวของมนุษย์ท่ีไม่รู้จักคุณค่าของธรรมชาติน้ันเอง สภาพของพื้นที่จึงอยู่ในสภาพน่าอนาถใจ เปน็ อย่างยิ่ง” ภาพอุทยานแห่งชาติภูเก้า-ภูพานคา

หนงั สอื อา่ นเพมิ่ เตมิ เลม่ ที่ ๓ อทุ ยานแหง่ ชาตภิ เู กา้ – ภพู านคา ๕ ภพู านคา เดมิ นนั้ ชาวเมอื งหนองบวั ลาภู เรยี กแหง่ นี้วา่ “ภพู าน” ไม่มคี าว่า “ภูพานคา” แตอ่ ยา่ งใด ตอ่ มาเม่ือได้เปลีย่ นชอื่ หมู่บ้านเตาถา่ นเปน็ หมู่บ้าน “ภพู านทอง” และเปล่ียนช่ือ “หมูบ่ ้านชา้ งอตี ุ้ม” เปน็ บ้านภูพานคา ตาบลโนนทัน แล้ว จึงนยิ มเรยี กภพู านว่าภูพานคาในภายหลงั เมอื่ ไมน่ านมานเ้ี อง เพือ่ ให้ สอดคลอ้ งกับคาขวัญจงั หวดั ที่วา่ “อทุ ยานแหง่ ชาตภิ ูเก้าภูพานคา” เทือกเขาภูพานอยู่ทางด้านทศิ ตะวันออกของเข่ือนอบุ ลรัตน์ ซง่ึ เปน็ เขตตดิ ตอ่ กับจังหวัดขอนแก่น ตามหลักเขตทีปักเป็นทางการ เป็นแนวภูเขาท่ีเร่ิมจากตัวเข่ือน ทอดยาวไปทางทิศเหนือจดลาน้าโขง จังหวัดหนองคาย แต่ในแต่ละตอนของเทือกเขาภูพานแห่งน้ี แม้จะเป็นแนวติดต่อกันยาวเป็นเทือก ก็ตาม แต่มีส่วนท่ีอยู่หลายตอนหลายท่ี ซึ่งแต่ละแห่งหรือแต่ละตอนที่ห่างกันนั้น ชาวพื้นเมืองของ หนองบัวลาภดู ง้ั เดมิ พากันเรียกชอ่ื สว่ นหน่งึ ทห่ี า่ งจากกันของเทอื กเขาภพู านแต่ละแห่ง มีชอ่ื ต่าง ๆ ของ แตล่ ะแหง่ อยู่มากคือ ตอนที่เร่ิมตน้ จากเข่ือนอุบลรัตน์ เรียกหัวภพู าน ท่ีทอดยาวมาทางทิศเหนือเร่ือยจน เกือบจะถงึ สถานีถา่ ยทอด ไทยทวี ี ช่อง ๓ ทเี่ ห็นกันอยูท่ ุกวนั น้เี รยี กทแ่ี ห่งนัน้ ภผู าเพซงึ่ มถี ้าและลาห้วยอยู่ เรยี กถ้านนั้ ว่า ถา้ เงอื ก ซึ่งชาวบา้ นทงั้ สมยั ก่อนและขณะน้รี ูจ้ กั สถานที่แหง่ น้ีดี ภาพอุทยานแห่งชาตภิ ูเก้า-ภูพานคา ทีม่ า : http://www.park.dnp.go.th/visitor/nationparkshow.php?PTA=๑๐๕๐ ภเู กา้ เปน็ เทือกเขาหินทรายสลบั ซับซ้อน คลา้ ยกระทะหงาย ประกอบดว้ ยภเู ขาซ้อนกันถงึ ๙ ลูก คือ ภูฝาง ภูขุมปูน ภูหัน ภูเมย ภูค้อม้อ ภูชัน ภูเปราะ ภูลวก และภูวัด พื้นที่เช่นนี้ทาให้ สันนิษฐานได้ว่า พ้ืนที่ส่วนน้ีน่าจะเป็นซากภูเขาไฟโบราณที่ดับสนิทไปแล้วหลายร้อยล้านปี หรือมิฉะน้ันก็ เป็นการโก่งตัวของเปลือกโลกในบริเวณน้ีข้ึนมาเป็นขอบเทือกเขา เทือกเขาภูเก้าเป็นเทือกเขาสองช้ัน ชั้นนอกเป็นภูเขาสูงและมีความลาดชันมาก ไหล่เขาด้านในมีความลาดชันไม่มากนัก พ้ืนท่ีส่วนใหญ่ มลี ักษณะ สงู ๆ ต่า ๆ บางแห่งเป็นทร่ี าบประกอบด้วยป่าไม้ มีสตั วป์ ่านานาชนดิ ถ้า นา้ ตก ลานหินลาด และหินลักษณะแปลกๆ คล้ายปราสาทถ้าพลาไฮ มีภาพเขียนรูปฝ่ามือ และภาพแกะสลักของมนุษย์ ยุคก่อนประวัติศาสตร์ และศาลาบนยอดหินท่ีเรียกว่า หอสวรรค์ สามารถชมวิวได้ มีหมู่บ้านจานวน ๓ หมู่บ้านท่ีอาศัยอยู่ในบริเวณส่วนกลางของตัวภูเก้า คือ บ้านดงบาก บ้านวังมน และบ้านชัยมงคล และมสี ถานท่ีน่าสนใจอยูห่ ลายแหง่ ได้แก่

หนงั สอื อา่ นเพมิ่ เตมิ เลม่ ที่ ๓ อทุ ยานแหง่ ชาตภิ เู กา้ – ภพู านคา ๖ วัดพระพทุ ธบาทภเู ก้า ซง่ึ ปรากฏรอยเท้าคน และสนุ ขั ขนาดใหญ่สลักบนหนิ อนั เกี่ยวโยงกบั นิทาน พื้นบ้านเรื่อง พระสุพรหมวิโมขา กับหมาเก้าหาง และตามผนังถ้าบริเวณวัดยังมีภาพเขียนสี ภาพสลัก สมัยก่อนประวัติศาสตร์ และยังมีถ้ามึ้ม และถ้าอาจารย์สิม ท่ีเป็นแหล่งโบราณคดีท่ีสาคัญของจังหวัด ตลอดจนมจี ดุ ชมวิวท่ีสวยงามดว้ ย ภาพอุทยานแหง่ ชาตภิ เู ก้า-ภพู านคา ที่มา : http://www.park.dnp.go.th/visitor/nationparkshow.php?PTA=๑๐๕๐ เสาหินหามต่าง เป็นลานหินท่ีมีก้อนหินรูปทรงแปลก ๆ ต้ังซ้อนกันอยู่ เป็นประติมากรรม ธรรมชาติ หามต่าง ๆ หรือหามต้ังเป็นปรากฏการณ์ของธรรมชาติ เช่นเดียวกับเสาเฉลียงท่ีผาแต้ม คือ เกิดจากการกัดเซาะของน้า สายลม และแสงแดด มีลกั ษณะเป็นแท่งหินต้ังขึน้ สว่ นบนเปน็ แผน่ หนิ วางอยู่ โดยไม่ติดกันมองดูคลา้ ยดอกเห็ด รอยเท้านายพรานและรอยเท้าสุนขั เป็นรอยเท้าขนาดใหญ่ ๒ รอย ลักษณะคล้ายรูปเท้ามนุษย์ และสนุ ขั ขนาดใหญ่สลักบนหนิ อนั เก่ยี วโยงกบั นิทานพื้นบ้าน เร่ือง“ท้าวสพุ รหมวโิ มกขากบั หมากเก้าหาง” ภาพอุทยานแหง่ ชาตภิ ูเก้า-ภพู านคา ที่มา : http://www.park.dnp.go.th/visitor/nationparkshow.php?PTA=๑๐๕๐

หนงั สอื อา่ นเพมิ่ เตมิ เลม่ ที่ ๓ อทุ ยานแหง่ ชาตภิ เู กา้ – ภพู านคา ๗ ถ้าเสือตก ถ้าพลานไฮ ถ้าจันได ถ้าอาจารย์สิม ถ้ามึ้ม เป็นแหล่งโบราณคดีที่น่าสนใจ มีการสารวจพบภาพเขียนสีในรูปแบบต่าง ๆ และภาพสลักบนผนังถ้า สันนิษฐานว่าเขียนและสลักข้ึน ในสมัยกอ่ นประวัติศาสตร์ ภาพแหล่งท่องเที่ยวในอทุ ยานแห่งชาติภูเก้า-ภูพานคา ทมี่ า : http://www.park.dnp.go.th/visitor/nationparkshow.php?PTA=๑๐๕๐ หอสวรรค์ เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ บริเวณเทือกเขาภูเก้า มองเห็นทิวทัศน์ของที่ราบจังหวัด หนองบัวลาภู และผืนป่าเขียวขจีของอุทยานแห่งชาติกว้างไกลไปจนถึงหินขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ริมหน้าผา ความสงู ๓๐ เมตร มีบันไดขน้ึ ไปบนกอ้ นหินซึ่งมีศาลาตั้งอยู่ ชาวบา้ นจึงเรียกจดุ ชมววิ บนหนิ กอ้ นน้ีว่า “ หอสวรรค์ ” ภาพแหล่งทอ่ งเท่ียวในอทุ ยานแห่งชาติภูเกา้ -ภพู านคา ที่มา : http://www.park.dnp.go.th/visitor/nationparkshow.php?PTA=๑๐๕๐

หนงั สอื อา่ นเพมิ่ เตมิ เลม่ ท่ี ๓ อทุ ยานแหง่ ชาตภิ เู กา้ – ภพู านคา ๘ น้าตกตาดฟ้า อยู่บริเวณเทือกเขาภูเก้าเป็นน้าตกที่สวยงามมีน้ามากเฉพาะฤดูฝนเป็นน้าตก ขนาดเลก็ ไหลตามลาธารเล็ก ๆ ท่ามกลางปา่ เบญจพรรณ น้าตกตาดโตน เปน็ นา้ ตกขนาดเล็ก เกิดจากน้าซับไหลลงมารวมกันไหลผา่ นหนิ ต่างระดบั ซง่ึ อยู่โซนภูเก้า-ภูพานคา ประมาณ ๓๐๐ เมตร ภาพแหลง่ ทอ่ งเที่ยวในอทุ ยานแห่งชาตภิ ูเกา้ -ภูพานคา ทีม่ า : http://www.park.dnp.go.th/visitor/nationparkshow.php?PTA=๑๐๕๐ สถานที บทวนสัญญาณของทหารและสถานีถ่ายทอดสัญญาณของช่อง ๓ และชอ่ ง ๙ ที่ “ภูโหลน่ ” เป็นภาษาของถ่ินใช้เรียก สภาพพ้ืนที่ของภูพานท่ีเทือกเขาขาดช่วงกันเป็นบางตอน ระหว่างท่ีภูเขาขาด ชว่ งกันน้จี ะเรยี กวา่ “ภโู หล่น”ถา้ เปน็ ท่รี าบเสมอกันเปน็ บริเวณกว้างจะเรียกทน่ี น้ั ว่า “บ๋า”อย่างนี้ เป็นต้น สว่ นที่อยูท่ างซา้ ยมอื ถา้ หากเดนิ ทางจากถนนสายหนองบวั ลาภู – อดุ รธานี หรอื ตรงข้ามกบั สถานี ถ่ายทอดสัญญาณโหล่น ที่เป็นเทือกเขาสูงชันนั้น ชาวบ้านด้ังเดิมจะเรียกส่วนท่ีสูงชันน้ันว่า “ภูชัน” เพราะมีความสูงชันเมื่อเดินเข้าไปใกล้กับตีนเขาแห่งนี้ โดยได้แหงนหน้าขึ้นดูความสูงเวลาข้ึนจะเป็นทาง ทล่ี าบากมากเพราะความสูงชนั แต่ส่วนที่ติดกันไปทางด้านทิศเหนือของภูชันน้ัน ชาวบ้านเรียกกันว่า “ภูถ้าพระ” เพราะใน สมัยก่อนมีพระพุทธรูปอยู่ในถ้านี้ขนาดต่าง ๆ เป็นจานวนมาก ชาวบ้านก็พากันไปรดสรงอยู่เป็นประจา หลังจากน้ันเม่ือถึงเดือนเจ็ดข้างขึ้น ชาวบ้านจึงพากันทาบุญ “ชาฮะ” หรือชาระ ก่อนท่ีจะลงมือทานากัน แตเ่ ด๋ียวนี้ไม่มีพระเหลอื อยู่แล้ว ไม่ทราบวา่ หายไปไหนหมด มีแต่ชือ่ เรียกขานกันวา่ “ภูถา้ พระ” เท่าน้นั ท่ีมา : http://www.park.dnp.go.th/visitor/nationparkshow.php?PTA=๑๐๕๐

หนงั สอื อา่ นเพม่ิ เตมิ เลม่ ท่ี ๓ อทุ ยานแหง่ ชาตภิ เู กา้ – ภพู านคา ๙ ส่วนที่ทอดยาวไปทางทิศตะวันตกของสนามยิงปืนจังหวัดทหารบก ที่เห็นกันอยู่ทุกวันน้ีชาวบ้าน เรียกแห่งนั้นว่า “ภูถ้ากกเป็น” ที่ต่อกันไปทอดยาวไปอีกเรียกว่า “ภูช่องช้างตาย” ที่ซึ่งมีหินตั้งเป็นช่อ ขนาดยาวข้ึนสู่อากาศหรือข้ึนสู่ท้องฟ้า เรียกว่า “ภูหินช่อฟ้า” ซ่ึงสถานท่ีน้ีคนส่วนมากรู้จักกันดี ทั้งเป็น ทางการและชาวบ้านธรรมดาท่ัวไป นอกจากมเี ปน็ ช่อแลว้ ยงั มถี ้าขนาดกวา้ งหลายถา้ เปน็ ทีอ่ ยู่อาศัยของ คนท่ีไปหากิน และไปหาของป่าก่อนถึงหน้าถึงกาลทานา เช่น ไปหาปอมาทาเชือกในสมัยก่อน อาศัย หลับนอนค้างคืนหรอื เม่อื เวลาฝนตก เข้าไปหลบอาศัยอยใู่ นถ้าแหง่ นโ้ี ดยไมเ่ ปยี กฝนหรือลมพายุแต่อย่าง ใดเลย และท่สี าคญั อีกประการหน่งึ ในสมัยทผี่ ูก้ อ่ การรา้ ยกอ่ กวนในสมยั น้ัน ก็อาศัยถา้ แหง่ นเี้ ป็นท่ีตั้ง และหลบซ่อนซึ่งยากแก่การปราบปรามของเจ้าหน้าที่ของบ้านเมืองในสมัยน้ันเป็นอย่างมาก แต่เด๋ียวน้ี ผ้กู ่อการร้ายไมม่ แี ลว้ เป็นแต่เพียงอดีตให้กล่าวถึงเทา่ นัน้ ที่ต่อไปจากน้ีอีกชาวบ้านเรียกกันว่า “ภูผาข่า” เพราะพื้นที่เต็มด้วยข่าป่ามากจึงเรียกว่าภูผาข่า และต่อจากน้ันไปอีกชาวบ้านเรียกตอนนั้นว่า “ภูผายุง” เพราะสถานที่นี้มีต้นไม้ “พยุง” ข้ึนอยู่มากจึง เรียกกันว่าภูผายุง ท่ีต่อกันไปอีกเรียกว่า “ภูผ้าขาว” และต่อไปอีกเรียกว่า “ภูช่องเก้ิง” ต่อกันไปอีก เรียกว่า “ภูช่องน้าจ้ัน” เพราะมีน้าไหลอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าฤดูไหน น้าจะไหลเร็วและใสดี ต่อกันไปอีก เรียกท่ีน้ันว่า “ภูช่องกกบก” เพราะมีไม้บกขนาดใหญ่และเกิดชุกชุมในพ้ืนที่น้ัน ต่อจากนั้นไปอีกเรียกท่ี น้ันว่า “ภูช่องคาไก่” เพราะว่าไก่ป่าจานวนมากชอบพากันมากินน้าเพราะเป็นน้าท่ีซึมอยู่ตลอดทั้งปีไม่ขาดเลย ในบริเวณนนั้ จึงเรียกกนั ว่า “ภชู อ่ งคาไก”่ ตอนนี้เป็นตอนสาคัญที่เป็นเส้นทางท่ี “พระวอพระตา” ใช้เดินทางจากเวียงจันทน์มาสู่ หนองบัวลาภูและทางหนองบัวลาภูในสมัยนั้นก็ใช้เส้นทางนี้เดินทางไปสู่เวียงเช่นกัน ที่เรียกภูตอนน้ีเรียก กันว่าภู “ช่องข้าวสาร” น้ัน เพราะว่าในสมยั ที่ “พระวอพระตา” ยกทัพไพร่พลกลับหนองบัวลาภูในสมยั นั้น สัมภาระต่าง ๆ ที่ขนมานั้นท่ีสาคัญก็คือ “ข้าวสารบรรจุใส่ภาชนะเป็นเวลานานจึงเสร็จ และท่ีสุด ก็ถึงเวลาค่าจึงพากันพักที่นั้น ชาวบ้านจึงพากันเรียกสถานที่นั้น ที่เป็นพื้นที่ภูเขาอันเป็นส่วนหนึ่ง ของภพู าน” เรยี ก “ภูชอ่ งขา้ วสาร” สืบตอ่ กนั มาจนตราบเทา่ ทกุ วนั น้ี อุทยานแหง่ ชาตภิ ูเกา้ -ภพู านคา กอ่ ตั้งขึ้นเมอ่ื พ.ศ. ๒๕๓๘ ครอบคลมุ พื้นท่ี ๓๓๓ ตารางกโิ ลเมตร โดยมีท่ีทาการอุทยานฯ อย่ทู ร่ี ิมทะเลสาบเหนือเขือ่ นอบุ ลรัตน์ ซ่งึ อยู่ในเขตจงั หวัดขอนแกน่ เชงิ เขาภพู านคา เขตอาเภอโนนสงั จงั หวัดหนองบัวลาภู

หนงั สอื อา่ นเพมิ่ เตมิ เลม่ ที่ ๓ อทุ ยานแหง่ ชาตภิ เู กา้ – ภพู านคา ๑๐ กจิ กรรมพฒั นาการเรยี นรู้ ๑. กิจกรรมท่ี ๑ “ภูเขา ๙ ลูก” ให้นักศึกษาเขียนช่ือภูเก้าลงในแผนผังแล้วตรวจคาตอบ จากเฉลยคาตอบทา้ ยเล่ม ๒. กิจกรรมที่ ๒ “ภาพนาสู่คาตอบ” ให้นักศึกษาดูภาพแล้วตอบคาถามแล้วตรวจคาตอบ จากเฉลยคาตอบท้ายเล่ม ๓. ให้นักศกึ ษานาคะแนนที่ได้ไปเปรยี บเทียบกับเกณฑป์ ระเมนิ ระดับความสามารถ เพือ่ ประเมิน ว่า นักศึกษามีความสามารถอยู่ในระดับใด แล้วนาท้ัง คะแนนและระดับความสามารถ ใส่ไว้ ในตารางประเมินความสามารถ ซงึ่ อยตู่ อนท้ายของกิจกรรม

หนงั สอื อา่ นเพม่ิ เตมิ เลม่ ท่ี ๓ อทุ ยานแหง่ ชาตภิ เู กา้ – ภพู านคา ๑๑ กจิ กรรมที่ ๑ “ภเู ขา ๙ ลูก” ใหน้ กั ศึกษาเขียนชอื่ ภเู กา้ ลงในแผนผงั ท่ีกาหนดให้ ภเู กา้

หนงั สอื อา่ นเพมิ่ เตมิ เลม่ ที่ ๓ อทุ ยานแหง่ ชาตภิ เู กา้ – ภพู านคา ๑๒ กจิ กรรมที่ ๒ “ ภาพนาสคู่ าตอบ ” ใหน้ กั ศึกษาดภู าพแลว้ ตอบคาถาม

หนงั สอื อา่ นเพม่ิ เตมิ เลม่ ที่ ๓ อทุ ยานแหง่ ชาตภิ เู กา้ – ภพู านคา ๑๓ ตรวจคาตอบ กจิ กรรมที่ ๑ ภเู ขา ๙ ลกู ประกอบดว้ ย ภูวัด ภูฝาง ภูลวก ภูขมุ ปูน ภเู ก้า ภูเปราะ ภูหนั ภชู นั ภเู มย ภูค้อม้อ

หนงั สอื อา่ นเพมิ่ เตมิ เลม่ ที่ ๓ อทุ ยานแหง่ ชาตภิ เู กา้ – ภพู านคา ๑๔ ตรวจคาตอบ กจิ กรรมท่ี ๒ “ภาพนาสคู่ าตอบ” อ่างเก็บนา้ เขอื่ นอุบลรตั น์เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่โอบล้อมดว้ ยภูเขาหินทรายสูง ตระหงา่ น มีทัศนียภาพที่สวยงาม จึงเปน็ สถานท่พี ักผ่อนหยอ่ นใจทส่ี าคญั จุดชมววิ ชอ่ งเขาขาด บริเวณน้ีเป็นจดุ ทส่ี ามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของเขื่อนอุบล รตั น์ เพราะเป็นมมุ สงู อย่ชู ว่ งสนั เขาภูพานคา ทาให้เหน็ ทศั นยี ภาพมมุ กว้าง มองได้ไกล ซง่ึ ณ จุดน้เี ป็นจดุ แบง่ เขตระหว่างอาเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น และอาเภอโนนสงั จงั หวัดหนองบวั ลาภูในช่วงเยน็ (พลบคา่ )บริเวณนี้จะสวงามมากในการชมพระอาทติ ยต์ ก นา้ ตกตาดโตน เป็นนา้ ตกขนาดเลก็ เกิดจากนา้ ซบั ไหลลงมารวมกนั ไหลผ่านหนิ ต่าง ระดบั ซึ่งอยู่โซนภูเกา้ ห่างจากดา่ นตรวจตาดโตนของอุทยานแห่งชาติภูเก้า – ภูพานคา ประมาณ ๓๐๐ เมตร เสาหนิ หามตา่ ง เป็นลานหนิ ทม่ี ีกอ้ นหินรูปทรงแปลก ๆ ต้ังซ้อนกันอยู่ เป็น ประตมิ ากรรมธรรมชาติ หามต่างหรือหามต้ัง เป็นปรากฎการณ์ของธรรมชาติ เช่นเดยี วกบั เสาเฉลียงท่ีผาแตม้ คือ เกิดจากการกัดเซาะของน้า สายลม และแสงแดด มีลักษณะเปน็ แท่งหนิ ตงั้ ขึ้นสว่ นบนเปน็ แผ่นหินวางอย่โู ดยไมต่ ิดกนั มองดคู ลา้ ยดอก เห็ด ผาหินมะลึกคกึ คัก มีลักษณะเปน็ หน้าผาสงู สามารถมองเห็นภพู านคามุมกว้างไดอ้ ย่าง ชดั เจน เปน็ กอ้ นหินกว้างประมาณ ๓ เมตร ยาว ๘ เมตร และสามารถโยกกอ้ นหนิ ได้ ด้วยแรงคนเพียงคนเดียว ร้อยเทา้ ไดโนเสาร์

หนงั สอื อา่ นเพมิ่ เตมิ เลม่ ท่ี ๓ อทุ ยานแหง่ ชาตภิ เู กา้ – ภพู านคา ๑๕ เกณฑก์ ารประเมนิ ระดบั ความสามารถ/คะแนน ๓๙ – ๔๕ ดมี าก ๓๑ – ๓๘ ดี ๒๕ – ๓๐ พอใช้ ๐ – ๒๔ ตอ้ งปรับปรงุ บนั ทกึ ผลการประเมนิ ตนเอง กจิ กรรมที่ คะแนนท่ีได้ ๑. (๑๐ คะแนน) ๒. (๑๐ คะแนน) รวม

หนงั สอื อา่ นเพม่ิ เตมิ เลม่ ที่ ๓ อทุ ยานแหง่ ชาตภิ เู กา้ – ภพู านคา ๑๖ แบบทดสอบหลงั เรยี น เลม่ ที่ ๓ อทุ ยานแหง่ ชาติภเู กา้ – ภพู านคา ใหน้ กั ศกึ ษากาเครอื่ งหมาย X ทบั หนา้ ขอ้ ท่ีถกู ตอ้ งทสี่ ดุ เพยี งขอ้ เดยี ว ๑. อทุ ยานแห่งชาติภูเกา้ -ภพู านคา ตั้งอย่อู าเภอใด ก. อาเภอเมืองหนองบัวลาภู ข. อาเภอสวุ รรณคูหา ค. อาเภอโนนสัง ง. อาเภอนาวัง ๒. อุทยานแห่งชาติภูเกา้ -ภพู านคา ตดิ กบั อาเภอใด ก. อาเภอเมอื งขอนแก่น ข. อาเภออบุ ลรตั น์ ค. อาเภอนา้ พอง ง. อาเภอพล ๓. ภพู านคา เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาใด ก. เทือกเขาตะนาวศรี ข. เทือกเขาแดนลาว ค. เทอื กเขาภพู าน ง. เทือกเขาอลั ไต ๔. ภูเก้า ประกอบดว้ ยภเู ขาก่ีลูก ก. ๘ ลูก ข. ๙ ลกู ค. ๑๐ ลกู ง. ๑๑ ลูก

หนงั สอื อา่ นเพมิ่ เตมิ เลม่ ที่ ๓ อทุ ยานแหง่ ชาตภิ เู กา้ – ภพู านคา ๑๗ ๕. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ภูเขาในภูเก้า ก. ภชู ้ีฟา้ ข. ภฝู าง ค. ภหู ัน ง. ภขู มุ ปนู ๖. ศาลาบนยอดหนิ ท่เี รยี กวา่ หออะไร ก. หอสวรรค์ ข. หอนางคอย ค. หอไอเฟล ง. หอไตร ๗. แหลมใดอยู่ในภเู กา้ -ภพู านคา ก. แหลมพรหมเทพ ข. แหลมสาราญ ค. แหลมฉบัง ง. แหลมเกตุ ๘. สวนหนิ ตง้ั อยูอ่ ุทยานใด ก. อุทยานภูเก้า – ภพู านคา ข. อทุ ยานแหง่ ชาตเิ ขาใหญ่ ค. อทุ ยานแห่งชาตทิ ับสกั ง. อุทยานแหง่ ชาติแก่งกระจาน ๙. ข้อใดไมใ่ ช่ ภเู ขา ๙ ลกู ในภูเก้า ก. ภูฝาง ภขู มุ ปนู ภูหนั ข. ภูเมย ภคู ้อหม้อ ภูชน้ั ค. ภเู พราะ ภูลวก ภูวัด ง. ภเู มย ภูช้ฟี ้า ภูช้นั ๑๐. สภาพปา่ โดยท่วั ไปของอทุ ยานแห่งชาตภิ ูเกา้ ภพู านคาเปน็ ป่าประเภทใด ก. ป่าเบญจพรรณ ข. ป่าชายเลน ค. ป่าดงดบิ ง. ปา่ เต็งรัง

หนงั สอื อา่ นเพม่ิ เตมิ เลม่ ท่ี ๓ อทุ ยานแหง่ ชาตภิ เู กา้ – ภพู านคา ๑๘ เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรยี น เลม่ ท่ี ๓ อทุ ยานแหง่ ชาตภิ เู กา้ – ภพู านคา ข้อ คาตอบ ๑ค ๒ข ๓ค ๔ข ๕ก ๖ก ๗ข ๘ก ๙ง ๑๐ ง

หนงั สอื อา่ นเพมิ่ เตมิ เลม่ ที่ ๓ อทุ ยานแหง่ ชาตภิ เู กา้ – ภพู านคา ๑๙ บรรณานุกรม กลมุ่ งานยทุ ธศาสตร์และข้อมลู เพอ่ื การพฒั นาจงั หวัด สานกั งานจงั หวดั . จังหวดั หนองบัวลาภู [ออนไลน]์ . เข้าถึงไดจ้ าก http://www. nongbualamphu. go.th/๓๙๐/ สืบค้นวันที่ ๑๘ มถิ นุ ายน ๒๕๖๐. การทอ่ งเท่ียวแห่งประเทศไทย. คมู่ ือทอ่ งเที่ยวสาหรบั เยาวชน. กรุงเทพฯ : การท่องเท่ยี วฯ, ๒๕๓๗. จังหวัดหนองบัวลาภ.ู วัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัตศิ าสตร์ เอกลกั ษณแ์ ละภมู ิปญั ญาจังหวัด หนองบวั ลาภู. ฉะเชงิ เทรา : บริษัท โรงพิมพ์ประสานมติ ร, ๒๕๔๙. ท่องท่วั ไทย. อุทยานแห่งชาตภิ ูเก้า – ภูพานคา เทย่ี วขอนแก่น – ทอ่ งทั่วไทย [ออนไลน์]. เข้าถงึ ได้จาก https://www.ท่องทัว่ ไทย.com/อุทยานแห่งชาติภเู กา้ -ภูพานคา-ขอนแก่น/ สบื ค้นวันท่ี ๑๘ มถิ ุนายน ๒๕๖๐. วิกีพีเดยี สารานุกรมเสรี. อุทยานแหง่ ชาติภูเกา้ – ภูพานคา [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก https://th.wikipedia.org/wiki/อุทยานแห่งชาตภิ เู กา้ -ภูพานคา สืบค้นวนั ท่ี ๑๘ มถิ ุนายน ๒๕๖๐. สานักงานวัฒนธรรมจังหวัดหนองบัวลาภู. แหลง่ ท่องเที่ยว...ทางธรรมชาติ และวฒั นธรรมจงั หวดั หนองบวั ลาภู. หนองบวั ลาภู : สานักงานวฒั นธรรมจังหวัดหนองบัวลาภ,ู มปป. สานักอทุ ยานแห่งชาต.ิ ภเู ก้า – ภูพานคา [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ได้จาก http://www.park.dnp.go.th/visitor/nationparkshow.php?PTA_CODE=๑๐ สืบคน้ วันที่ ๑๘ มถิ ุนายน ๒๕๖๐.

หนงั สอื อา่ นเพมิ่ เตมิ เลม่ ท่ี ๓ อทุ ยานแหง่ ชาตภิ เู กา้ – ภพู านคา ๒๐ ประวตั ผิ จู้ ดั ทา ชอ่ื นางนวพรรษ จันทราทลู วนั เดอื น ปเี กดิ ๒๒ กรกฏาคม ๒๕๑๗ สถานที่ทางาน ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมืองหนองบัวลาภู สานกั งาน กศน. สานกั งาน กศน.จังหวดั หนองบัวลาภู สานักงานปลัดกระทรวงศกึ ษาธิการ กระทรวงศกึ ษาธิการ ประวตั กิ ารศึกษา พ.ศ. ๒๕๓๙ ประกาศนยี บัตรวิชาชพี ครู มหาวทิ ยาลยั สโุ ขทัยธรรมาธิราช พ.ศ. ๒๕๔๐ ปรญิ ญาตรีศลิ ปศาสตร์บณั ฑิต (บรรณารักษศาสตรแ์ ละสารนิเทศศาสตร)์ พ.ศ. ๒๕๕๔ ปริญญาโทศกึ ษาศาสตรม์ หาบัณฑิต (การบริหารการศกึ ษา) ประวตั ริ บั ราชการ พ.ศ. ๒๕๔๔ ตาแหนง่ บรรณารกั ษ์ ๓ ห้องสมดุ ประชาชนอาเภอศรีบญุ เรอื ง ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดหนองบวั ลาภู พ.ศ. ๒๕๕๗ ตาแหนง่ ครู คศ.๓ ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอแม่แจม่ สานกั งานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั จงั หวัดเชยี งใหม่ พ.ศ. ๒๕๕๙ ตาแหน่งครู คศ.๓ ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอเมอื งหนองบวั ลาภู สานักงานสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จงั หวดั หนองบวั ลาภู ผลงานดเี ดน่ รางวัลคุรสุ ดดุ ี ดา้ นครูผสู้ อนดีเดน่ ประจาปี ๒๕๕๙


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook