การสรา้ งสรรค์ผลงานศิลปะภาพพิมพ์ 1 ความหมายและความเป็นมาเกย่ี วกบั ภาพพิมพ์ ความเป็นมาของทัศนศิลปป์ ระเภทภาพพมิ พ์ มีหลกั ฐานการสรา้ งสรรค์ผลงานมาตง้ั แต่ครง้ั ก่อนประวตั ศิ าสตร์ มนุษยโ์ ครมันยอง (Cro-Magnon)เป็นมนษุ ยเ์ ผ่าพนั ธแุ์ รกท่ีเริม่ สรา้ งผลงานศิลปะภาพพิมพ์ มปี รากฏอยู่ท่ถี ้า ลาสโก (Las-caux Cave)ประเทศฝรัง่ เศษ และถา้ อัลตามิรา (Altamira Cave) ประเทศสเปน เป็นภาพ ลายเส้นรูปสัตว์ นบั เปน็ หลักฐานของกระบวนการพิมพ์ของมนุษย์เมื่อครัง้ บรรพกาล นอกจากนี้ ยงั ปรากฏ หลักฐานเรมิ่ ตน้ ของการพิมพ์ผ่านฉากพิมพ์(Stencil)ดว้ ยการใช้มือวางเป็นลวดลายบนผนังถา้ โดยใหม้ ือเปน็ แมพ่ ิมพแ์ ลว้ พ่นหรอื เปา่ สลี งบนหลงั มือ ส่วนทีเ่ ปน็ มือจะบงั สไี ว้ สจี ะพ่นผา่ นชอ่ งวา่ งของนิ้ว ปรากฏเป็นภาพ แสดงขอบเขตรปู นอกของฝา่ มืออย่างชัดเจน นับเป็นกรรมวิธีการพมิ พ์แบบงา่ ย ภาพพมิ พ์มปี ระวตั คิ วามเปน็ มาเร่มิ ตงั้ แตส่ มยั กอ่ นประวัติศาสตร์ (200,000 ปีกอ่ น คริสตกาล) โดยมนุษย์โคร มันยอง ดังพบภาพพิมพร์ ูปมือบนผนังถา้ ในถ้าลาสโควซ์ ประเทศฝร่ังเศสและถา้ อลั ตามริ า ประเทศสเปน ต่อมาชาวอียปิ ต์และชาวเมโสโปเตเมยี รูจ้ กั การพมิ พภ์ าพแบบใชแ้ รงกดประทับบนผวิ วัสดุท่อี ่อนน่มิ เช่น ดนิ ข้ผี ึ้ง จากนน้ั มนุษย์คดิ คน้ กระดาษข้ึนได้จงึ เปลี่ยนวสั ดุรองรับท่ีเป็นดินหรือขี้ผง้ึ มาเปน็ กระดาษแทน นับแต่น้ัน มาภาพพิมพ์กไ็ ดพ้ ัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ทัง้ ในดา้ นรูปแบบ กลวธิ กี ารพิมพ์ตามวิวัฒนาการของมนุษยแ์ ละความ เจริญก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยมี าจนถึงปจั จุบนั ความเจริญกา้ วหน้าทางด้านการพิมพเ์ ปน็ สิ่งทชี่ ว่ ยสง่ เสรมิ ความเจรญิ กา้ วหน้าทางด้านศิลปะวทิ ยาการ เพราะวา่ มนุษยส์ รา้ งสรรค์กระบวนการพิมพภ์ าพข้นึ มากเ็ พื่อตอบสนองความต้องการ ในการเผยแพร่ความคดิ และความรู้ของมนษุ ย์ให้กระจายไปได้อยา่ งแพร่หลาย ตลอดจนเพอ่ื เกบ็ รกั ษาความรู้ตา่ งๆ ไวใ้ ห้คนรุน่ หลังได้ ศกึ ษาถงึ ความเปน็ มาของความรู้ในเรือ่ งต่างๆ ดังนั้นเพ่ือใหเ้ ห็นภาพรวมของพัฒนาการทางดา้ นการพิมพ์ภาพที่ ก่อประโยชนใ์ หม้ นษุ ย์อยา่ งมากในปัจจบุ ัน จงึ ขอกล่าวถึงประวัติความเป็นมาของภาพพิมพ์ในกลมุ่ ประเทศตะวันออก กลุ่มประเทศตะวนั ตกหรอื ยุโรปและในประเทศไทย ววิ ฒั นาการดา้ นการพิมพใ์ นกลุม่ ประเทศตะวันออก คือ จีน ญปี่ ุน่ น้ัน แสดงใหเ้ ห็นวา่ จนี เป็นชนชาติ แรกที่คิดค้นการทา้ ภาพพมิ พ์ขน้ึ โดยการแกะสลักลงบนหิน หยก งาช้าง กระดูกสตั ว์ และเขาสัตว์ เพื่อทา้ เปน็ แม่พิมพ์แลว้ กดแม่พมิ พ์ลงบนดนิ เหนยี ว ครง่ั ขผ้ี ึ้งหรอื กระดาษให้เกิดลักษณะเปน็ รอย ความร้กู ารพิมพน์ ี้ได้ เผยแพร่ไปยังประเทศตะวันตกและประเทศเพื่อนบ้านท่สี า้ คัญได้แก่ ประเทศญี่ปุน่ เกาหลี ซ่ึงประเทศเกาหลไี ด้ พัฒนาความร้เู รื่องการพิมพ์น้ีจนสามารถท้าตัวเรียงพิมพ์ เป็นโลหะสา้ เรจ็ ในส่วนของประเทศญี่ปุ่นก็ได้ พัฒนาการพมิ พข์ น้ึ จนเปน็ ท่ียอมรบั ในด้านของภาพพิมพ์ท่ีมคี ุณค่า ซ่ึงมสี กลุ ชา่ งภาพพิมพ์แกะไมท้ ่มี ีช่ือเสียง คอื สกุลช่างอูกโิ ยเอะที่สามารถสรา้ งสรรคผ์ ลงานภาพพมิ พ์ไดอ้ ย่างงดงามและมีเอกลักษณเ์ ฉพาะตวั ดังจะเห็น ได้จากประเทศญปี่ ุน่ ได้ให้อิทธพิ ลแก่ศลิ ปะของประเทศทางตะวนั ตกหรอื ยโุ รปในชว่ งครสิ ต์ศตวรรษที่ 19ส่วน
ภาพพมิ พใ์ นกลมุ่ ประเทศตะวันตกมีพัฒนาการมาอยา่ งยาวนานและต่อเนื่อง นบั ต้ังแตส่ มัยก่อนประวัติศาสตร์ ทีร่ ู้จกั กระบวนการพมิ พ์โดยการวางมอื ทาบบนผนังถ้าแล้วเป่าสี หรอื ทาสบี นฝา่ มือ จากนั้นกดประทบั เป็นรปู มอื ไวบ้ นผนังถ้า ต่อมาอารยธรรมอียปิ ต์ไดร้ ู้จักนา้ ภาพแกะสลกั เล็กๆ กดลงบนดินให้เกดิ เปน็ รอยข้ึน สว่ นใน ดินแดนเมโสโปเตเมียค้นพบการใช้ ดินเหนียวแกะเปน็ ตราสัญลักษณ์และน้าไปตากแดดให้แหง้ หรือนา้ ไปเผาไฟ เพ่ือใหเ้ กดิ เปน็ แม่พิมพ์กดประทับ ต่อมาในปี ค.ศ. 1450 โจฮัน กูเต็นเบริ ์ก ได้คิดประดิษฐแ์ ทน่ พิมพ์อย่างง่าย ข้นึ จากน้ันในชว่ ง ค.ศ. 15 อัลเบรชท์ ดือเรอร์ ได้คิดคน้ กลวธิ ภี าพพมิ พ์ร่องลกึ พอถึง ค.ศ. 16 ทอมสั บิวิค ได้ คิดคน้ กลวิธีภาพพมิ พ์ลายแกะไม้ได้สา้ เรจ็ หลงั จากนัน้ วิลเลยี ม เบลก ได้พยายามปรับปรุงภาพพิมพผ์ วิ นนู ดว้ ยวิธกี ารสรา้ งภาพผลงาน ลงบน แผน่ โลหะโดยให้กรดท้าปฏกิ ิริยากบั แผน่ โลหะจนได้แม่พิมพ์ผวิ นนู และในประเทศเยอรม์ นั ไดม้ กี ารคิดค้นกลวิธี ภาพพิมพม์ ชั ฌิมรงค์ ในปี ค.ศ. 1660 เฮอรค์ ิวลสิ ซีเกอร์ ได้คิดกลวิธภี าพพิมพ์อยา่ งสนี า้ พอถงึ ค.ศ. 1793 อะลวั ส์ เซเนเฟลเดอร์ ได้คน้ พบกลวธิ ีภาพพิมพห์ ิน และในระหวา่ งปี ค.ศ. 1864-1901 อองรี เดอ ตูลสู โลเต รก ไดน้ ้ากลวิธีภาพพิมพห์ นิ มาพัฒนาให้เข้ากับระบบธรุ กิจ โดยทา้ โปสเตอร์หลายๆ สีออกสู่สาธารณชน ค.ศ. 1907 ซามเู อล ไซมอน ได้พัฒนาและปรับปรงุ กลวิธภี าพพมิ พผ์ ่านฉาก โดยใชเ้ สน้ ไหมมาทา้ เปน็ แม่พมิ พ์จน สา้ เร็จ เรยี กอีกอยา่ งวา่ “กลวิธีภาพพิมพต์ ะแกรงไหม” ซงึ่ กลวธิ ีน้เี ป็นทนี่ ยิ มอย่างมากของศิลปนิ ใน ค.ศ. 20 เชน่ รอเบิรต์ เราเชนเบิรก์ แอนดี วอร์โฮล เปน็ ตน้ ส้าหรับภาพพิมพ์ในประเทศไทยน้นั ระยะเริ่มแรกท้าขึ้นเพ่ือประโยชนใ์ ชส้ อยเชงิ พาณชิ ยศ์ ิลป์ โดยพิมพ์ เป็นภาพประกอบหนงั สือและหนงั สอื เปน็ ส่วนใหญ่ หลงั จากนัน้ ไดร้ บั การพฒั นาจนกลายเป็นงานภาพพิมพ์ ระยะต่อมาในระบบการศึกษา โดยมคี ณะจติ รกรรมและประตมิ ากรรม มหาวิทยาลยั ศิลปากรเปน็ ผู้บุกเบกิ การ เรยี นการสอนทางด้านภาพพิมพ์เปน็ แหง่ แรก และก็มสี ถาบนั อื่นๆ เปดิ ตามมา จนกระท่ังปจั จุบันภาพพิมพ์ของ ศิลปินไทยเป็นทยี่ อมรับในระดบั นานาชาติ การพมิ พภ์ าพเปน็ งานท่ีพฒั นาต่อเน่ืองมาจากการวาดภาพ ซ่งึ การวาดภาพไม่สารถสร้างผลงาน๒ชิน้ ทม่ี ี ลักษณะเหมือนกันทุกประการได้ จงึ มีการพฒั นาภาพพมิ พ์ข้ึนมา โดยจนี ถอื ว่าเปน็ ชาติแรกที่นา้ เอาวธิ กี ารพิมพ์ มาใช้อย่างแพรห่ ลายมานานนับพันปี จากนั้นจึงไดแ้ พรห่ ลายออกไปในภูมิภาคต่างๆ ของโลกสว่ นชาตติ ะวันตก ถอื เปน็ ผู้พฒั นาการพิมพ์ภาพแบบสมยั ใหม่ มีการนา้ เอาเคร่ืองจักรกลตา่ งๆ เข้ามาช่วยในการพมิ พ์ ท้า ใหก้ ารพิมพ์มกี ารพัฒนาไปอย่างรวดเรว็ ในปจั จบุ ัน ในช่วงสมยั กอ่ นประวตั ิศาสตร์ ได้พบหลกั ฐานเป็นจา้ นวน มากเกีย่ วกบั วิธีการแกะสลักอันเปน็ พ้ืนฐานของการสร้างภาพพิมพ์ เช่นการน้าภาพแกะสลักขนาดเล็กไปกดลง บนดินใหเ้ กดิ ให้เกิดเปน็ รอยในแถบล่มุ แม่น้าไทกรสี -ยูเฟรทีสหรือดินแดนเมโสโปเตเมีย และได้พฒั นาจนเกิด อักษรรูปลิ่ม (cuneiforms) ขึ้นมา ทางแถบเอเชีย จนี เป็นชนชาติแรกทีร่ ู้จกั สร้างสรรค์งานภาพพิมพ์ มาอยา่ งยาวนาน ต้ังแต่ต้นพทุ ธกาล เชน่ การรจู้ ักแกะสลกั ตราประทบั บนวัตถุตา่ งๆ ต้งั แต่เม่ือประมาณ ๑,๘๐๐ ปีล่วงมาแล้ว
นอกจากนี้ ชาวจนี ยังรู้จักภาพพิมพน์ นู คือ การพมิ พ์ภาพท่ตี ้องใช้แมพ่ ิมพ์ท่มี ผี วิ นูน โดยนา้ กระดาษวางทาบ ลงบนแมพ่ ิมพ์และใชผ้ า้ แตะลงบนกระดาษ สว่ นนนู ของแม่พมิ พจ์ ะทบั กระดาษให้ติดสีซงึ่ จะได้ภาพงานศลิ ปะที่ ตอ้ งการ ศิลปะการพมิ พภ์ าพทเี่ กิดข้ึนตงั้ แต่สมัยโบราณ ไม่จ้ากัดวา่ จะเป็นภาพหรืออักษรเพียงอยา่ งเดียว แต่มีการ ใชภ้ าพและอกั ษรผสมกนั ดว้ ย ในประเทศจนี มกี ารแกะแม่พิมพไ์ ม้เปน็ ตัวอักษรและภาพประกอบสา้ หรับ พระพทุ ธศาสนามาตงั้ แต่พุทธศตวรรษที่ ๕-๖ สา้ หรับการพมิ พภ์ าพในประเทศไทย มมี านานแลว้ ดังปรากฏการพิมพ์ภาพบนผนงั ถา้ เชิงผาในจังหวัดอดุ รธานี และกาญจนบุรี มกี ารคน้ พบภาชนะดินเผาทม่ี ีรอยพิมพ์จากลูกกลง้ิ และลูกกลิ้งดินเผาทน่ี ้ามาพิมพ์เป็น ภาพตอ่ เนื่องไดอ้ ยา่ งสวยงาม นอกจากน้ี ยังมกี ารใช้เชอื กพิมพบ์ นภาชนะดนิ เผาอีกด้วย ในดา้ นของสงิ่ ท่ี นา้ มาใชส้ ีจากยางไม้ เปลือกไม้ แร่ ดิน 2 ความรู้พ้นื ฐานเกย่ี วกบั ภาพพิมพ์ ความรูพ้ ้นื ฐานเก่ียวกบั ภาพพิมพ์ ภาพพิมพท์ ีภ่ าษาองั กฤษใช้วา่ Graphic arts มาจากคา้ สองคา้ รวมกนั คือค้าว่า \"Graph\" แปลว่า เขียน เเละ \"Arts\"แปลวา่ การทา้ ใหเ้ กิดความงามหรอื รปู ทรง เมื่อรวมค้าทัง้ สองเขา้ ดว้ ยกนั จงึ มีความหมายว่า ศลิ ปะเเหง่ การเขยี น โดยจะต้องรวมถึงรูปแบบต่างๆ ของการเเสดงออกในทางศิลปะท่มี องเห็นได้ ไดเ้ เก่ จติ รกรรม งาน วาดเส้น งานภาพพิมพ์ การถ่ายรปู และงานพิมพ์หนงั สอื ลกั ษณะทางกายภาพของภาพพิมพใ์ นสมัยปจั จบุ ัน หมายถึง งานศิลป์ทม่ี ีพืน้ ผวิ เเบนราบ(Flat surface) แบบ ๒ มิติ คอื มีความกวา้ งเเละความยาว ปราศจากความหนาหรอื ความลกึ วธิ กี ารพมิ พ์มีทงั้ การใชส้ ีเเบบสี เดยี ว (Monochrome) และเเบบหลายสี (Polychrome) ซึ่งใช้วธิ กี าร /\"กดให้ติด\"/ โดยการสร้างรปู หรอื เครื่องหมายลงบนวัสดผุ วิ ราบด้วยการกดหรอื ประทับจากเเมพ่ ิมพ์ ค้าวา่ Graphic arts ในความเข้าใจท่ัวไป เป็นการสรา้ งสรรคใ์ หเ้ ป็นศิลปะเพยี งอย่างเดียว กลา่ วคือใช้ค้า ว่า \"ภาพพมิ พ์\" หรอื \"ศิลปะภาพพิมพ์\"ในความหมายเดยี วกัน เเต่ในประเทศสหรฐั อเมริกาเเละประเทศทาง ตะวนั ตกไม่นิยมเรียกศลิ ปะเเบบนว้ี ่า Graphic arts เพราะอาจจะสบั สนกับศลิ ปะชนดิ อ่ืนๆ จงึ เรียกวา่ \"Prints\" หรือ \"Printings\" มากกว่า ดงั น้ัน ค้าว่า Graphic arts นอกจากจะหมายถึงภาพพมิ พ์หรือศิลปะภาพเเลว้ ยงั มี ความหมายรวมไปถงึ Prints และ Printings อีกดว้ ย มนุษย์สมยั ก่อนประวัติศาสตรบ์ งั เอญิ เอามือท่ีเป้ือนดินโคลนไปจบั หรือวางทาบตามผนงั ถ้า ท้าให้เกิดรอย ฝา่ มอื ขน้ึ ดว้ ยเหตนุ ม้ี นุษย์จึงน้ามอื ไปจ่มุ สีแล้วเอามาวางทาบบนผนงั ถา้ เกิดเป็นรูปมือในลักษณะต่างๆ ซึ่งเรา เรยี กวิธีการแบบนีว้ า่ “การพิมพภ์ าพ” และเรยี กภาพทีเ่ กดิ ขน้ึ ว่า “ภาพพิมพ์” จากนน้ั ก็ได้พฒั นามาอย่าง ต่อเน่ืองดว้ ยการหาวัสดตุ า่ งๆ เช่น ไม้ แผ่นโลหะ แผน่ หนิ แผน่ ยาง ผา้ ไหม ฯลฯ มาใชพ้ ิมพ์แทนท่มี อื จนเกดิ กระบวนการพิมพ์ขึน้ มา 4 กระบวนการหลกั ๆ คอื ภาพพมิ พผ์ ิวนนู ภาพพิมพร์ อ่ งลกึ ภาพพิมพ์พื้นราบ และ ภาพพมิ พ์ตะแกรงไหม ซ่ึงการพิมพ์ท้ัง 4 กระบวนการน้ี ได้รบั การพัฒนาคิดคน้ ขึน้ มา เพอ่ื ใช้พิมพภ์ าพและ ตวั อักษรให้ไดเ้ ปน็ จ้านวนมากส้าหรบั ใชใ้ นวงการธรุ กิจ การคา้ โดยพมิ พเ์ ป็นหนังสือ แผ่นพับ ปา้ ยโฆษณา แผน่
ปิดภาพยนต์ เสื้อผา้ หบี หอ่ บรรจภุ ัณฑ์ กลอ่ งขนม กล่องไม้ขดี ถงุ ใสข่ อง เป็นต้นแต่อย่างไรก็ตาม เน่อื งจาก กระบวนการพิมพ์นน้ั สามารถสร้างภาพไดส้ วยงามเหมือนกับ ผลงานจิตรกรรม อีกทั้งยังสามารถพิมพ์ภาพซ้าๆ ท่เี หมอื นกนั ไดเ้ ปน็ จา้ นวนมาก แตจ่ ติ รกรรมไม่ สามารถท้าภาพซา้ กันได้ ถงึ แมท้ ้าซา้ ก็ไม่เหมอื นเดมิ จงึ ท้าให้ไม่ เอือ้ อา้ นวยต่อการสะสมและจัดจา้ หนา่ ย ดังนั้นศลิ ปนิ จงึ ได้นา้ กระบวนการพมิ พ์ทั้ง 4 กระบวนการนั้นมาใชใ้ น การสร้างสรรค์ ผลงานศิลปะ เพอื่ เอ้ืออา้ นวยต่อการสะสมและจดั จ้าหนา่ ยให้ไดม้ ากข้ึน จนกระท่ังเม่ือประมาณ 50 มานเ้ี อง ภาพพมิ พ์ไดร้ ับการยอมรับในวงการศลิ ปะวา่ มีคุณคา่ เป็นศลิ ปะอีกแขนงหน่ึงที่สามารถถ่ายทอด จนิ ตนาการ อารมณ์ ความรู้สึกได้อยา่ งดเี ยีย่ มจากท่ีกล่าวมาขนึ้ ตน้ จะเหน็ ได้ว่าภาพพมิ พ์นั้น มีจุดมุ่งหมายใน ทา้ อยู่ 2 ลักษณะ คือ ภาพพิมพ์งานพาณิชย์ท่ีพมิ พ์ เพ่ือใชเ้ ปน็ สอื่ โฆษณา มนษุ ยส์ มยั กอ่ นประวตั ิศาสตรบ์ งั เอิญเอามอื ท่เี ปื้อนดินโคลนไปจบั หรอื วางทาบตามผนงั ถา้ ทา้ ให้เกิด รอยฝ่ามอื ขนึ้ ดว้ ยเหตุนมี้ นุษย์จงึ นา้ มือไปจมุ่ สีแล้วเอามาวางทาบบนผนังถ้าเกดิ เปน็ รปู มือในลักษณะต่างๆ ซึ่ง เราเรียกวิธกี ารแบบนีว้ ่า “การพิมพภ์ าพ” และเรยี กภาพที่เกดิ ข้ึนว่า “ภาพพมิ พ์” จากนั้นกไ็ ด้พัฒนามาอยา่ ง ต่อเนอื่ งดว้ ยการหาวัสดตุ ่างๆ เช่น ไม้ แผ่นโลหะ แผ่นหนิ แผ่นยาง ผ้าไหม ฯลฯ มาใชพ้ ิมพ์แทนท่ีมือ จนเกดิ กระบวนการพิมพข์ ึน้ มา 4 กระบวนการหลกั ๆ คอื ภาพพมิ พ์ผวิ นูน ภาพพมิ พร์ อ่ งลึก ภาพพิมพ์พน้ื ราบ และ ภาพพิมพ์ตะแกรงไหม ซ่ึงการพิมพท์ ง้ั 4 กระบวนการน้ี ได้รับ การพัฒนาคิดค้นขึน้ มา เพ่อื ใช้พมิ พ์ภาพและ ตวั อกั ษรให้ได้เป็นจา้ นวนมากสา้ หรับใช้ในวงการธรุ กิจ การค้า โดยพมิ พ์เป็นหนงั สือ แผน่ พับ ป้ายโฆษณา แผน่ ปดิ ภาพยนต์ เส้ือผ้า หีบห่อ บรรจภุ ัณฑ์ กล่องขนม กล่องไม้ขดี ถงุ ใสข่ อง เปน็ ตน้ แต่อยา่ งไรกต็ าม เนือ่ งจาก กระบวนการพมิ พน์ ั้นสามารถสรา้ งภาพไดส้ วยงามเหมือนกับ ผลงานจิตรกรรม อกี ทัง้ ยังสามารถพิมพภ์ าพซ้าๆ ที่เหมอื นกันได้เป็นจา้ นวนมาก แตจ่ ติ รกรรมไม่ สามารถทา้ ภาพซา้ กนั ได้ ถึงแมท้ า้ ซ้าก็ไม่เหมือนเดิม จงึ ท้าให้ไม่ เอื้ออ้านวยต่อการสะสมและจัดจา้ หนา่ ย ดงั น้นั ศิลปนิ จงึ ได้นา้ กระบวนการพิมพท์ ั้ง 4 กระบวนการน้ันมาใชใ้ น การสร้างสรรค์ ผลงานศลิ ปะ เพ่ือเอ้ืออ้านวยต่อการสะสมและจดั จา้ หน่ายให้ได้มากข้นึ จนกระท่ังเม่ือประมาณ 50 มาน้เี อง ภาพพมิ พ์ได้รับการยอมรับในวงการศลิ ปะว่ามีคุณคา่ เป็นศลิ ปะอีกแขนงหนึง่ ทส่ี ามารถถ่ายทอด จินตนาการ อารมณ์ ความร้สู ึกได้อยา่ งดเี ย่ยี มจากท่ีกลา่ วมาข้นึ ตน้ จะเหน็ ไดว้ ่าภาพพิมพ์นนั้ มจี ุดม่งุ หมายใน ท้าอยู่ 2 ลักษณะ คือ ภาพพิมพ์งานพาณิชยท์ ่ีพมิ พ์ เพื่อใชเ้ ป็นสอ่ื โฆษณา ประชาสมั พนั ธ์หรอื สา้ หรับสรา้ ง ความสวยงามให้กับผลติ ภณั ฑ์ กบั ภาพพิมพ์งานศลิ ปะท่ีพิมพ์ เพื่อเปน็ สื่อในการแสดงออกทางอารมณ์ ความรูส้ กึ ของศลิ ปนิ สา้ หรับเอกสารประกอบการสอนเลม่ นี้ ผู้เขียนมุ่งเนน้ เฉพาะภาพพิมพ์งานศลิ ปะ ดังนน้ั จงึ ขอกล่าวเฉพาะเน้ือหาสาระท่เี ก่ยี วกับศลิ ปะภาพพมิ พ์หรือภาพพิมพ์ต้นฉบบั เทา่ นนั้ ซ่ึงในการศึกษาผ้เู รียน จา้ เปน็ ต้องมีความรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกับความหมาย ประเภท รปู แบบ การเซน็ ชือ่ และการเขียนขอ้ ความต่างๆ ลงในภาพพิมพ์ตน้ ฉบับ ภาพพมิ พ์พิสูจน์ ตลอดจนการเกบ็ รกั ษาผลงานภาพพมิ พ์ ภาพพมิ พ์ในสหรัฐอเมริกาใชค้ ้าว่า “Printmaking” สา้ หรบั เรียกกระบวนการพิมพ์ท่ี สร้างสรรค์เพื่อเปน็ ศลิ ปะและใชค้ ้าวา่ “Print” สา้ หรบั เรียกกระบวนการพิมพ์ทเ่ี ปน็ งานพิมพ์ท่วั ไป โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกบั งาน พาณิชย์ต่างๆ (พีระพงษ์ กลุ พิศาล, 2531:68) ภาพพมิ พ์ คอื กระบวนการถ่ายทอดผลงานจากแม่พิมพช์ นดิ แผ่นโลหะ แผ่นไม้ แท่นหนิ ตะแกรงไหม แลว้ ผ่านกระบวนการพิมพ์ ซ่งึ จะไดผ้ ลงานที่เหมือนๆ กนั เป็นจา้ นวนมากในดา้ นวิจิตรศิลป์
2.1ประเภทของภาพพิมพ์ ภาพพิมพ์มีกลวธิ แี ตกตา่ งกันข้ึนอยูก่ บั ลกั ษณะของแม่พิมพ์ ดงั น้นั การแบ่งประเภทของภาพพิมพ์จึงพจิ ารณา จากลกั ษณะแมพ่ ิมพเ์ ปน็ หลัก สามารถแบง่ ออกได้ 4 กระบวนการหลัก คอื ภาพพิมพ์ผวิ นนู ภาพพิมพ์ร่องลึก ภาพพิมพ์พ้ืนราบ และภาพพิมพ์ตะแกรงไหม 2.1.1. ภาพพมิ พ์ผิวนูน (Relief Printing) คือ กระบวนการพิมพ์ท่พี ิมพ์จากผวิ สว่ นท่ีอยู่สงู บนแมพ่ ิมพ์ ดังนนั้ สว่ นท่ีถูกแกะเซาะออกไปหรือสว่ นทเี่ ป็นรอ่ งลึกลงไปจะไม่ถกู พิมพ์ ซึ่งแม่พิมพ์ในลกั ษณะน้ี เช่น แมพ่ มิ พแ์ กะ ไม้ แม่พิมพ์แกะยาง แม่พิมพ์กระดาษแข็ง แม่พิมพว์ ัสดุ เม่อื เวลาพิมพแ์ ม่พิมพ์เหล่าน้จี ะใชเ้ คร่อื งมือประเภท ลกู กล้ิง ลูกประคบหนงั ทาหมึกลงบนสว่ นนูนของแม่พิมพ์ แล้วน้าไปพมิ พ์ลงบนกระดาษอาจจะพิมพ์ ด้วยมือ หรือแทน่ พิมพ์ หมึกก็ติดกระดาษเกิดเป็นรปู ขึน้ มา The Kissผลงาน Edvard Munch 2.1.2 ภาพพิมพ์รอ่ งลกึ (Intaglio Printing) คือ กระบวนการพิมพท์ ี่พิมพจ์ ากส่วนทอี่ ยูล่ ึกเป็นร่องของแม่พมิ พ์ ซง่ึ แม่พมิ พจ์ ะมสี ว่ นท่ีนูนและร่องเหมือนกบั แม่พิมพผ์ ิวนูน แต่เวลาพมิ พ์ตอ้ งอุดหมึกลงไป ในรอ่ งลึกและเช็ด บรเิ วณท่ีไมต่ ้องการจะพมิ พ์ออก แลว้ น้ากระดาษเปียกน้าหมาดๆ วางลงบนแม่พิมพ์ จากน้นั พิมพด์ ้วยแท่น พมิ พ์ท่ีมีแรงกดสงู เพ่ือกดกระดาษให้ไปดดู ซบั หมึกข้นึ มา ซึ่งกลวิธีท่รี วมอยู่ภายใตก้ ระบวนการนี้ ได้แก่ ภาพ พิมพภ์ าพถา่ ย ภาพพิมพ์มชั ฌมิ รงค์ ภาพพิมพอ์ ย่างสนี ้า ภาพพิมพจ์ ารเขม็ ภาพพมิ พ์แกะลายเส้น ภาพพมิ พ์กดั กรด ภาพพิมพ์แบบเขยี นถา่ น ภาพพมิ พ์ กดั กรดพนื้ น่ิม ภาพพิมพ์กดั กรดรปู นนู
ชวี ิตหมายเลข 5 ผลงานกมล ศรีวชิ ยั นันท์ 2.1.3. ภาพพิมพ์พืน้ ราบ (Planographic Printing หรือ Lithograph) คือ กระบวนการพมิ พ์ที่พิมพ์จากพนื้ แบนราบ สว่ นที่ถูกพมิ พ์และส่วนท่ีไมต่ ้องการพิมพน์ ัน้ จะอยู่ในระนาบแม่พิมพ์ บริเวณทั้งสองจะต่างกนั เพียง ส่วนที่ต้องการพมิ พ์จะเป็นไขหรอื น้ามนั แต่อีกสว่ นที่ไม่ต้องการพิมพ์จะช่มุ ด้วยนา้ เมื่อเวลาพิมพ์จะใชล้ ูกกลิง้ ท่ี มหี มึกเช้ือน้ามนั ติดอยู่ กลง้ิ ลงบนแม่พิมพ์ท่มี ีน้าหมาดๆ เม่ือกลง้ิ หมกึ ซ่ึงเป็นไขผ่านไปบนแม่พิมพ์ หมกึ เช้ือ นา้ มนั จะตดิ ลงบนสว่ นทเี่ ปน็ ไขของแม่พิมพ์เทา่ น้นั จากน้ันน้าเอากระดาษมาปดิ ทบั บนแม่พิมพ์ เพื่อรดี กดให้ หมกึ ติดกระดาษเกิดเป็นรปู ภาพตามทตี่ ้องการ กลวิธีทีร่ วมอยูภ่ ายใต้กระบวนการน้ี ไดแ้ ก่ ภาพพิมพ์ครัง้ เดยี ว และภาพพมิ พห์ นิ Brustbild Einer Arbeitfrau ผลงาน Kathe Kollwit
2.1.4. ภาพพมิ พ์ตะแกรงไหม (Silk Screen) คอื กระบวนการพิมพท์ ี่พิมพ์ โดยใชไ้ มป้ าดสีรีดเนือ้ สีผ่านตะแกรง เน้อื ละเอียดลงมาส่วู สั ดทุ ตี่ ้องการ พิมพ์ ซงึ่ บริเวณทีไ่ ม่ถูกพิมพ์จะเปน็ บริเวณตะแกรง ที่ถูกกันเอาไวไ้ ม่ให้สีลอด ผา่ นลงมาสู่วสั ดุทีต่ อ้ งการพิมพ์ Marilyn ผลงาน Andy Warhol 3 การออกเเบบสาหรับการพิมพ์ภาพเบอ้ื งตน้ การออกเเบบสา้ หรบั การพมิ พ์ภาพเบื้องตน้ การทา้ งานศิลปะ ไม่วา่ จะเป็นงานวาดภาพ งานปั้นหรอื งานพมิ พ์ภาพ ควรออกเเบบภาพรา่ งหลายๆ รปู แบบ เพ่อื หาจดุ ดเี เละจดุ บกพร่อง เเล้วปรบั เเกเ้ เบบจนลงตัว เม่อื ลงมือปฏบิ ัตจิ ริงจะทา้ ให้งานทีส่ ้าเรจ็ ออกมามีความ สมบูรณ์เเละมีคณุ ค่าทางด้านสนุ ทรนี ภาพ การออกเเบบสา้ หรบั การพมิ พ์ภาพหมายถึง การสร้างแนวทางในการพิมพ์ โดยเลือกเเละนา้ วัสดุต่างๆ อาจเปน็ วสั ดุธรรมชาตหิ รือวสั ดุสงั เคราะห์ทาคิดรปู แบบหรือดดั เเปลงรปู ทรงของวสั ดุ เเล้วจดั วางตามหลักการ ออกเเบบให้ได้ความงามตามหลักองค์ประกอบศลิ ป์ คอื มีความเปน็ เอกภาพ มีความสมดุล มคี วามกลมกลืน เเละมีการสร้างจุดเด่นของภาพให้น่าสนใจ ซง่ึ นอกจากจะใชค้ วามคดิ สร้างสรรค์เเล้ว ยงั ต้องอาศัยทักษะเเละ วิธกี ารในการพิมพ์ตลอดจนการใช้เทคนิคต่างๆ ของกรรมวิธีการพมิ พภ์ าพเบ้ืองต้นสามารถกระทา้ ได้ ดังน้ี
3.1 การออกแบบส้าหรับการพมิ พภ์ าพจากวสั ดุธรรมชาติ เป็นการออกแบบทใ่ี ช้ตัววสั ดุเปน็ แมพ่ มิ พ์ ซงึ่ มีรปู ทรงจากธรรมชาติ เพยี งแต่ต้องเลือกแลว้ น้ามาจัด องค์ประกอบ เชน่ จะพิมพ์ภาพจากแม่พิมพ์ใบไม้ ในการออกแบบจะตอ้ งเลือกสรรใบไม้ที่มีรปู ทรง ขนาด หรือ รปู ร่างทีแ่ ปลกแตกตา่ งกัน หรืออาจเป็นใบไมท้ ี่มีรหู รือมีรอยแหวง่ เวา้ จากการถูกหนอนเจาะ เมื่อเลือกได้แล้ว จึงนา้ มาจดั องค์ประ 3.2 การออกเเบบส้าหรับการพิมพภ์ าพจากวสั ดุสงั เคราะห์
วัสดสุ งั เคราะห์ คือ สิ่งทีม่ นุษย์ไดน้ า้ เอาวสั ดธุ รรมชาตมิ าดดั แปลงหรือใช้สารเคมตี ่างๆนา้ มาผสมผสาน หรอื ประกอบกันใหเ้ กิดเป็นรูปทรงใหม่ เป็นวัสดเุ เบบใหม่ ซึง่ เเต่ละชนดิ จะมีลักษณะพน้ื ผิวท่ีเเตกตา่ งกัน คือ ผิวเรยี บ หยาบ ขรขุ ระ เป็นต้น การพิมพ์ภาพจากวัสดุสังเคราะห์ เป็นการออกเเบบโดยการเลอื กสรรวสั ดุตา่ งๆ ไม่วา่ จะเป็นผ้า โลหะ พลาสตกิ กระดาษ เชือก หนงั ฯลฯ ท่มี รี ูปทรง ขนาด พื้นผิวที่เหมาะสม ซง่ึ ถา้ มรี ปู ทรงทีเ่ เปลกใหม่อาจนา้ มา จดั องค์ประกอบในการพิมพ์ภาพไดเ้ ลยโดยไมต่ ้องดัดเเปลง ทั้งน้กี ารออกแบบสรา้ งเเม่พิมพจ์ ากวสั ดุสงั เคราะห์ อาจใช้วธิ หี ัก ตัด เจาะ เพื่อเปลีย่ นรูปทรงเดมิ ให้เข้ากบั เเบบเเละองคป์ ระกอบศลิ ปท์ ตี่ ้องการ การสร้างเเม่พิมพ์จากวัสดุสงั เคราะหค์ วรสงั เกตความเเตกตา่ งดา้ นขนาดเเละดา้ นพ้ืนผิวจากนั้นนา้ มาจัด วางดคู วามหมายเหมาะสมของต้าเเหนง่ ของวัสดเุ เตล่ ะชนิ้ ตามความคอดท่ีออกเเบบไว้โดยใช้หลักมาจดั วางดู ความเหมาะสมจองตา้ เเหน่งของวสั ดเุ เต่ช้นิ ตามความคดิ ที่ออกเเบบไว้โดยใช้หลกั ของการจดั องค์ประกอบ ศิลป์ สว่ นไม้ชนดิ ต่างๆ จะมผี ิวสมั ผสั ท่ีแตกตา่ งกนั เชน่ เรยี บ หยาบ ขรุขระ เปน็ ต้น ลักษณะการน้าไมม้ าเปน็ แมพ่ ิมพ์ อาจนา้ มาออกแบบและแกะเปน็ ลวดลายหรอื รูปภาพ จะไดแ้ ม่พมิ พท์ ี่มรี อยนนู แลว้ ใช้รอยนนู เปน็ สว่ น พิมพใ์ ห้ปรากฏเป็นภาพอยา่ งท่ีเรยี กกันว่าภาพพิมพ์แกะไม้ เเบบเเล้วจงึ น้าเข้าสกู่ ระบวนการพมิ พ์ภาพตอ่ ไป 4 เทคนิคการพมิ พภ์ าพเบื้องต้น เทคนคิ การพิมพ์ภาพเบ้อื งตน้ ผลงานศิลปะท่สี รา้ งสรรคด์ ้วยกระบวนการทางภาพพมิ พม์ ีเทคนิคมากมายตามวิธีการของการพิมพภ์ าพแต่ละ อยา่ ง ได้แก่ ภาพพมิ พแ์ กะไม้ ภาพพมิ พโ์ ลหะ ภาพพมิ พ์หนิ ภาพพมิ พ์ตะแกรงหินไหม เป็นต้น โดยขึ้นอยู่กับ วัสดุทใ่ี ชท้ า้ แม่พมิ พเ์ ปน็ ส้าคญั ซงึ่ ตวั วัสดทุ ่ีน้ามาใช้อาจมีการเปลีย่ นแปลงไปบา้ งตามการเวลาและยุคสมยั ซ่งึ ผู้ ปฏบิ ตั ิจ้าเปน็ ตอ้ งเรยี นรแู้ ละปรบั ปรงุ เทคนคิ และวิธกี ารทางการพมิ พใ์ นแต่ละคร้ังให้เหมาะสม อย่างไรกต็ าม แมว้ ัสดอุ าจมกี ารเปล่ียนแปลง แตว่ ธิ กี ารพมิ พภ์ าพไม่ค่อยมีการเปล่ียนแปลงมากนัก ซึ่งผศู้ ึกษา การพมิ พภ์ าพควรท้าความเข้าใจ เพ่อื ช่วยใหก้ ารลงมอื ปฏบิ ัติงานจรงิ ด้าเนินไปด้วยความสะดวกและปลอดภยั โดยสามารถจ้าแนกเทคนิคการพมิ พภ์ าพเบ้ืองต้นอย่างกวา้ งๆได้๔เทคนิคด้วยกัน คือ 4.1 เทคนิคการพมิ พ์นนู (Relief printing) เทคนิคน้ีมวี ธิ ีการไมย่ ุ่งยาก วสั ดอุ ปุ กรณ์หาได้ง่าย สามารถพบเหน็ การณ์พมิ พแ์ บบนี้อยู่ทั่วไป ซ่ึงเปน็ เทคนิค การสร้างสรรคแ์ บบงา่ ยๆ คือ สร้างแม่พิมพด์ ้วยวัตถุอย่างไดอย่างหนึ่งให้เกิดสว่ นลกึ และส่วนนนู เป็นภาพและ ลวดลายขึ้น สว่ นลกึ และนูนอาจเกดิ จากการแกะ การหล่อการกด การใช้กรดกัดหรือวิธีการอน่ื ใดก็ได้ หลงั จาก นนั้ นา้ สีไปทาหรือกล้งิ ผา่ นสว่ นบนสุดทีน่ ูนของแม่พมิ พ์ แล้วนา้ แมพ่ มิ พไ์ ปกดแนบกบั สงิ่ ทต่ี ้องการจะพมิ พจ์ ะได้ ภาพพิมพ์ทีต่ ้องการ
อน่งึ เทคนิคการพิมพ์แบบนี้ ผู้สรา้ งแม่พิมพ์ต้องค้านงึ ถึงลักษณะของภาพทจี่ ะเกิดขึน้ ดว้ ยๆ คือ \"จะ กลบั จากซ้ายไปขวา\" แบบเงาในกระจกเงา การออกแบบจงึ ควรคา้ นงึ ถงึ ปรากฏการณก์ ลับซ้ายขวาของพ้นื รองรบั วา่ จะออกแบบภาพลวดลายอย่างไรจึงจะได้ภาพทีส่ อดคล้องกับสภาพความเป็นจรงิ หรอื ตรงกับ จดุ มงุ่ หมายของการณ์สรา้ งสรรคง์ านภาพพิมพแ์ ตล่ ะลักษณะ เทคนิคการพิมพ์นูนจะประกอบดว้ ยการพมิ พ์หลายอย่าง เชน่ ภาพพิมพ์แกะไม(้ Wood cut) การพิมพ์แกะยาง (Lino cut) การพิมพโ์ ลหะ (Metal etching) การพิมพ์กระดาษแขง็ (Cardboard printing) เป็นต้น ตัวอย่างภาพพิมพ์นูน 4.2 เทคนคิ การพิมพร์ ่องลกึ (Intaglio printing) กระบวนการพิมพ์เเบบน้ีจะต่างไปจากการพิมพท์ ว่ั ไป เป็นเทคนคิ การพิมพ์ท่ตี รงกนั ข้ามกบั เทคนิคเเมพ่ ิมพ์ นูน คอื เเม่พิมพน์ นู น้ัน ภาพพมิ พ์จะเกดิ จากส่วนนนู ของเเมพ่ มิ พต์ ดิ สีพิมพ์เเละประทับรอยลงบนพน้ื ผวิ ที่ รองรบั เเต่เทคนิคเเม่พิมพ์ร่องลกึ เป็นการสร้างเเเมพ่ ิมพ์โดนใช้ส่วนท่ีเป็นร่องของเเม่พมิ พ์เปน็ ตัวพิมพ์ เป็นการ พมิ พ์ใหต้ ดิ เป็นภาพจากหมึกพิมพ์ที่ขงั อยตู่ ามสว่ นท่ีต้่ากวา่ พน้ื ผิวของเเผ่นเเม่พิมพ์ โดยเริม่ ต้นจากการสร้าง ภาพหรือริ้วรอยลงบนเเม่พิมพด์ ว้ ยการเเกะ ขดี ขูดใหเ้ ปน็ รอยบนเเผน่ โลหะด้วยของเเหลม จากนนั้ น้าไปแชก่ รด กัดเปน็ ร่อง เเลว้ ใช้หมึกพิมพ์ทอ่ี ยูใ่ นร่องตดิ กับผวิ ของวัตถุทีต่ ้องการพิมพ์ โลหะท่ีใช้เป็นเเม่พมิ พ์ร่องลกึ นี้ อาจจะเปน็ แผ่นทองเเดง สงั กะสีอะลูมเิ นียม เเมกนีเซียม เเมกนเี ซยี มหรือพลาสติกก็ได้ กรรมวิธภี าพพิมพร์ ่อง ลึกท่ีเราคุ้นเคยมากก็คือ ภาพพิมพื์เคนคิ กดั กรดหรือ \"เอตชิง\" (Etching) โดยการกดั เสน้ หรือลายผิวต่างๆ ใน เเผ่นโลหะดว้ ยน้ายากดั เเม่พมิ พ์ประเภทต่างๆ
ตวั อย่างภาพพิมพร์ อ่ งลึก 4.3 เทคนคิ แม่พิมพ์ราบ ( planographic printing การพมิ พแ์ บบน้ีไม่ต้องแกะแม่พิมพ์ให้เปน็ ร่องลึกอยา่ ง ๒ วธิ แี รก เนอ่ื งจากแม่พิมพ์มีลักษณะเปน็ พื้นราบ ดงั นน้ั จึงเรียกวา่ ภาพพิมพร์ าบ (Surface printing or Planer printing) วิธีการพมิ พ์ราบทส่ี ้าคญั คือกรรมวิธที เ่ี รยี กวา่ ภาพพิมพ์หิน หรอื Lithography มาจาก ภาษากรีกว่า “lithos” ท่ีแปลว่า หิน กับค้าว่า “grapho” ท่ีแปลวา่ เขยี น เทคนคิ วิธกี ารพมิ พ์ภาพ จะใชว้ ัสดุทม่ี ีส่วนผสมของไข นา้ มาเขียนภาพบนแผ่นหนิ ผิวหนา้ เรียบ ขัน้ ตอนนี้ อาสยั วธิ กี ารทางเคมีเข้าร่วมด้วย โดยใชก้ าวอารบิกและน้ากรดดินประสิว เปน็ ต้น เพื่อช่วยให้ไขเหลือติดอยู่กบั แม่พิมพ์ตามทต่ี ้องการ เวลาพิมพก์ ็ใช้นา้ เคลอื บผิวหน้าของแผน่ หินแล้วกลิ้งหมกึ หมึกจะติดเฉพาะสว่ นไขที่ เขยี นเป็นลวดลาย สว่ นบรเิ วณอนื่ ๆ หมึกจะไมต่ ดิ เพราะมีนา้ เคลือบไว้ จากน้ันจึงท้าการพมิ พ์ดว้ ยเครอื่ งรดี พิมพ์หนิ เกร็ดศลิ ป์ กาวอารบิก (Gum Arabic) ภาษาไทยเรียกวา่ กาวกระถิน เปน็ สารประกอบธรรมชาตชิ นิดหนึ่ง มาจากน้ายางท่ีไหลออกมาจากผวิ เปลือกของล้าต้นของพชื ในกลุม่ อะคาเซีย (Acacia) โดยน้ายางจะไหลเกาะกนั เปน็ กอ้ น เม่ือกระทบความร้อน จากแสงแดดจะแหง้ แข็งตวั เกาะอย่ตู ามกิ่งก้านและลา้ ตน้ มีสสี นั แตกตา่ งกันไปตัง้ แตข่ าวใสจนถึงเหลืองอ้าพัน นา้ ยางจากพชื กลุ่มนถ้ี ูกรวบรวมนา้ มาจา้ หน่ายในเชงื พาณิชย์มานานกว่า ๔,๐๐๐ ปี โดยในระยะแรกได้ น้ามาใช้ในรูปแบบของกาวเพ่ือผสมสีส้าหรบั เขียนอักขระและรปู ภาพตามความเช่อื ของชาวอยิ ิปต์โบราณ น้า ยางของพืชกล่มุ นี้มหี ลายชนดิ แต่ชนิดที่ใช้น้ายางคุณภาพดีทส่ี ดุ คือ อะคาเซยี เซเนกัล (Acacia Senegal) ที่ เจริญเตบิ โตได้ดใี นพน้ื ท่ีตอนกลางของประเทศซูดานในทวีปแอฟริกา จึงมชี ่ือเรียกและเป็นท่ีรูจ้ กั กนั วา่ กัม ซดู าน (Sudan Gum) ในทางทศั นศิลป์ กาวอารบิกใชเ้ ป็นตวั ประสานผงสี (Binder) ที่มีอยูใ่ นหลอดสีเพือ่ ให้สี ยดึ ติดกับพน้ื ผวิ ท่ีจะระบาย ใช้ผสมกับสีน้าและสีโปสเตอร์ หากเตมิ ลงในสนี ้ามากๆ จะท้าให้สีข้ึนเงา โปรง่ แสง แห้งช้า และลดการซึมเขา้ หากันของสี
ตวั อยา่ งภาพพิมพแ์ ม่พิมพ์ราบ 4.4 เทคนคิ การพิมพ์ลายฉลุ (Stencil printing ) การพิมพล์ ายฉลุเปน็ กระบวนการพิมพแ์ บบเดียวท่ีภาพพมิ พ์ปรากฏตรงกับแม่พิมพ์ไมก่ ลับซา้ ยขวาการพมิ พ์ แบบนเ้ี ปน็ การพิมพ์ผา่ นฉากพิมพ์ทปี่ ล่อยใหส้ ีพิมพ์ผ่านจากด้านบนแม่พิมพ์ทะลลุ งมายงั พ้นื รองรบั ข้างล่าง เป็น เทคนคิ การพิมพ์ทีม่ วี ธิ กี ารตา่ งๆมากมายเชน่ การพิมพ์กระดาษฉลุ การพิมพส์ ีผ่านใบไม้หรอื วสั ดุ ไปจนถึงการพิมพ์ตะแกรงไหมการพิมพ์คะแกรงไหมหรือที่นิยมเรียกกันวา่ \"ซิ ลคก์ รีน\" (Silk Screen) คอื การใช้ผ้าไหม(Silk) ทผ่ี ลติ ขนึ้ เพ่ือการพมิ พโ์ ดยเฉพาะนา้ มาขึงให้ตึงบนกรอบไมห้ รอื กรอบโลหะแลว้ สรา้ งภาพขน้ึ บนผา้ ไหม ซ่ึงมีสภาพเปน็ ฉากพิมพ(์ Screen) ปดิ กน้ั สว่ นท่ีไม่ต้องการใหเ้ กดิ เป็น ภาพทึบตันและปลอ่ ยส่วนที่ส่วนตอ้ งการใหเ้ ป็นภาพโปรง่ การปิดก้งั บนผ้าไหมมหี ลายวิธี เชน่ ระบายด้วย ชะเเลก็ สีนา้ มันตดิ ฟิลม์ ตลอดจนถงึ การใช้นา้ ยาไวแสง เม่ือน้าแม่พิมพไ์ ปวางทาบลงบนสิง่ ท่ีจะพิมพเ์ ชน่ กระดาษ ผา้ แกว้ พลาสตกิ หรอื โลหะเทสีลงบนแม่พิมพ์ แล้วใช้ยางปาดทม่ี ผี วิ หน้าเรยี บ ปาดสใี หผ้ ่านแม่พิมพ์ ทะลอุ อกไปตดิ บนพื้นรองรับ ก็จะไดภ้ าพพมิ พ์ตามทตี่ ้องการ
ตัวอยา่ งภาพพมิ พ์ลายฉลุ 5 การพมิ พจ์ ากแมพ่ ิมพ์แบบต่างๆ การพมิ พภ์ าพจากแม่พิมพ์แบบตา่ งๆ เทคนคิ การพิมพภ์ าพที่กลา่ วมาแล้วในก่อนหน้านี้ แสดงใหเ้ หน็ ถึงวธิ ีการและวสั ดอุ ุปกรณ์ทม่ี คี วามเก่ียวขอ้ งไป ตามเทคนิคตา่ งๆ อันเปน็ ลกั ษณะเฉพาะของแตล่ ะวธิ ี เพ่อื ใหผ้ ู้เรยี นรมู้ ีความเขา้ ใจและมีประสบการณ์ตรงกบั เทคนิคการพิมพ์ภาพจากแม่พิมพ์ต่างๆ เพม่ิ มากขนึ้ ในหวั ข้อน้ีจึงจะอธบิ ายเทคนคิ การพิมพบ์ างวิธีเพ่ือเป็น แบบอย่าง เปน็ ตน้
5.1 การพิมพ์ดว้ ยชิน้ วัสดุสิ่งของ การเรียนรเู้ ร่อื งการพิมพภ์ าพเพื่อให้เกดิ ผลดีต่อการสรา้ งสรรค์ภาพพิมพน์ ัน้ จา้ เป็นต้องเรียนรถู้ ึงองคป์ ระกอบ ที่เกี่ยวข้องกบั การปฏิบัตงิ าน วสั ดอุ ุปกรณ์ และจุดมุ่งหมายของการปฏบิ ตั ิงานในแตล่ ะครั้ง สา้ หรับการพิมพ์ ภาพจากแมพ่ มิ พ์แบบต่างๆ ล้าดบั แรกจะเป็นเทคนคิ การณ์พิมพภ์ าพด้วยวัสดุสง่ิ ของต่างๆ ทั้งท่เี ปน็ วัสดุจาก ธรรมชาตแิ ละวัสดุสงั เคราะห์ ก่อนการลงมือท้าแม่พิมพ์ จ้าเปน็ ตอ้ งเข้าใจธรรมชาตขิ องวัสดสุ ่ิงของแตล่ ะชนดิ ว่ามีคุณสมบตั ิทางกายภาพของ ผิวพน้ื รอ่ งรอย ลวดลาย มีความน่าสนใจ เหมาะจะนา้ มาเป็นวัสดหุ ลกั สา้ หรับการพิมพห์ รือไม่ เพราะบางวัสดุ มรี อ่ งรอย พืน้ ผวิ ของตัวเอง สามารถนา้ ไปพิมพ์กบั ภาพไดโ้ ดยตรง แตบ่ างวัสดุอาจต้องน้ามาดัดแปลงรูปแบบ ลวดลายหรือร่องรอยกอ่ นน้าไปพิมพ์ ตวั อยา่ งวดี ีโอ การพิมพภ์ าพด้วยชน้ิ วสั ดุสิง่ ของ https://www.youtube.com/watch?v=hp2M6jNQpdM https://www.youtube.com/watch?v=1AwLd8vUBdc 5.2 การพมิ พด์ ว้ ยแม่พมิ พ์แกะไม้ ภาพพิมพ์แกะไมเ้ ป็นศิลปะภาพพิมพผ์ ิวนูนทตี่ ้องระมดั ระวังเรอ่ื งของความปลอดภยั ขณะลงมอื ปฏิบตั ิงาน เนือ่ งจากอปุ กรณเ์ คร่ืองมือแกะไม้มคี วามคมมากนอกจากน้ี ยงั ต้องค้านึงถึงหมกึ หรือสที ีใ่ ช้พมิ พ์ตอ้ งมเี ข้มข้น และความเหนียวพอเหมาะเพ่ือทหี่ มึกพิมพจ์ ะสามารถเกาะอยู่บนส่วนนนู ของแม่พิมพไ์ ด้ไม่ไหลเยม้ิ ลงสู่ร่องท่ี แกะไว้ ตวั อย่างวีดีโอ การพมิ พ์ด้วยแม่พมิ พ์แกะไม้ https://www.youtube.com/watch?v=w4tmUarpFkg https://www.youtube.com/watch?v=7a5orvSpIkM 5.3 การพมิ พ์ดว้ ยแม่พิมพแ์ ผ่นกระจก ดารพมิ พภ์ าพโดยใช้แผน่ กระจกเป็นกรรมวธิ ที ่เี รยี กว่าการพมิ พภ์ าพครัง่ เดยี วหรอื Monoprint โดยอาศยั กระจกเป็นเสมือนแม่พิมพ์รองรับสสี นั ผิวพ้ืน ทจี่ ะกอ่ ให้เกิดเรื่องราวและความหมายเม่ือปรากฏออกมาเป็น ภาพพมิ พ์แลว้ ตามขน้ั ตอนดงั นี้ ตวั อยา่ งวีดโี อ การพมิ พด์ ้วยแม่พิมพ์แผ่นกระจก https://www.youtube.com/watch?v=ODhbqNStvyY
Search
Read the Text Version
- 1 - 14
Pages: