Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงงานธุงโมบาย

โครงงานธุงโมบาย

Published by dcwo_2525, 2023-02-27 08:15:50

Description: โครงงานธุงโมบาย

Search

Read the Text Version

1 โครงงาน“ธงุ โมบาย” กศน.ตาบลโคกลา่ ม โดย นางพมิ ลวรรณ พิมเรอื ง นายณรงค์ แกว้ ชนะ นางบุญ ทารมิ ที่ปรึกษา วา่ ที่ร้อยตรีหญิงสุณิษา ผากาเกตุ นางณัฏฐธิดา ไทยสงคราม นางสาวสุกัญญา ธราวธุ ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565 ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอจตุรพักตรพมิ าน สานักงานการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จังหวัดร้อยเอ็ด สานกั งานปลัดกระทรวงศกึ ษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ

2 กติ ติกรรมประกาศ โครงงาน ธงุ โมบาย ประสบความสาเร็จลลุ ่วงไปได้ดว้ ยดี เพราะได้รับความชว่ ยเหลอื จาก คณะครู กศน.ตาบลโคกลา่ ม ท่ไี ด้ให้คาปรึกษา คาติชมและคาแนะนาต่างๆตลอดระยะเวลาของการทา โครงงานช้นิ นี้เพ่ือใหโ้ ครงงาน“ธุงโมบาย”เปน็ ไปตามจดุ ประสงค์ท่ีได้ตง้ั ไว้ คณะผ้จู ดั ทาขอขอบพระคุณคณะครู กศน.ตาบลโคกล่าม เปน็ อยา่ งสูงที่ให้ความช่วยเหลือทงั้ โครงงาน“ธงุ โมบาย” และยงั ให้คาแนะนาเกยี่ วกบั การเขียนโครงงานตลอดจนรูปแบบของการพัฒนาการ เป็นธุงใหม้ คี วามหลากหลาย คณะผู้จดั ทาหวงั เป็นอย่างย่ิงว่าโครงงานเรอ่ื งน้จี ะสามารถทาประโยชน์ต่อผู้ที่มี ความสนใจเกย่ี วกับการทาธุงในรปู แบบตา่ งๆไมม่ ากก็น้อย คณะผจู้ ัดทา กศน.ตาบลโคกลา่ ม

3 บทคัดย่อ โครงงาน“ธงุ โมบาย” ในคร้ังน้ี บรรลุผลตามวตั ถุประสงคเ์ กดิ ข้นึ ด้วยความรว่ มมือของนักศึกษา ครู และเครือขา่ ย โดยมีการจัดกิจกรรมในหลายรปู แบบใหน้ ักศึกษาได้ปฏบิ ัติอนั จะนาไปสกู่ ารปลูกฝงั และสรา้ ง เสรมิ คุณธรรม นกั ศึกษามีประสบการณ์ในการทาธุงและสามารถนาไปใชใ้ นการดาเนินชีวิตได้และสามารถสร้าง รายไดใ้ หก้ ับตนเองครอบครวั จากการทาโครงงาน“ธุงโมบาย” ผู้จดั ทาโครงงานได้รบั ความรู้และประสบผลสาเร็จ ดงั นี้ รูจ้ ักขนั้ ตอน ในการทาโครงงาน สามารถนาจดั กิจกรรมเพ่ือให้เกดิ ประโยชน์ตอ่ สงั คมและชุมชน ใชเ้ วลาวา่ งให้เกดิ ประโยชน์ และสามารถนาไปเผยแพรแ่ ละเป็นบคุ คลตัวอย่างและเป็นแบบอยา่ งทีด่ ใี ห้กับสงั คมได้อยา่ งมี คุณภาพ

สารบัญ 4 เรอ่ื ง กิตติกรรมประกาศ หน้า บทท่ี 1 บทนา บทคัดย่อ สารบญั ๑ 3 บทท่ี 2 เอกสารท่ีเกย่ี วขอ้ ง 7 บทที่ 3 วิธดี าเนินการ 9 บทท่ี 4 ผลการดาเนนิ งาน 10 บทที่ 5 สรปุ ผลและการอภิปรายผลการประดิษฐ์

5 บทท่ี 1 บทนา ท่ีมาและความสาคัญ ความเปน็ มาและความสาคญั ของวิธแี ละแนวทางปฏบิ ัตงิ านทเ่ี ปน็ เลิศ ประวัติศาสตร์และสงั คมของคน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือคนโบราณมคี วามเชื่อว่าพระภกิ ษุ ผูท้ ไ่ี ด้ดารงตนอยูใ่ นสมณเพศตลอดชีวิตจนแก่ ชรา และเป็นผทู้ มี่ าสอนหลักธรรม พรอ้ มกับการต้ังถิ่นฐานจนชาวบ้านเกดิ ความศรัทธาและความเคารพบูชามี การนาธงุ มาสักการะบูชา พทุ ธศาสนกิ ชนชาวโบราณจงึ ถอื ว่าธงุ เครือ่ งสักการะบชู า ใช้ในพิธีกรรมทางพุทธ ศาสนาในงานบญุ และขบวนแห่ ต่างจะประดับประดาในงานพธิ ีเพื่อความสวยงาม มีความแตกต่างกันตาม ความเช่อื ในพธิ ีกรรมของแต่ละท้องถนิ่ นิยมทาธุง 2 รปู แบบ คือ 1)ธงุ ผ้า มีความยาวประมาณ 1-3 เมตร ทอ ด้วยผ้าลายขิดหรอื ลวดลายทเ่ี ปน็ เอกลักษณ์พนื้ บ้าน 2)ธุงใยแมงมมุ ใชเ้ สน้ ฝาู ยหรือเส้นไหมหลายสีมาสาน คลา้ ยกบั ใยแมงมุม เปน็ รปู สี่เหล่ยี ม รูปหกเหล่ียม นามาประกอบเปน็ ตน้ ธงุ และเมอ่ื ถึงเทศกาลชาวบา้ นพร้อม ใจกนั ทานธุง เพ่ือถวายเปน็ พุทธบชู าเปน็ จานวนมาก จนกลายเป็นทะเลธุงทีมองไปไกลสวยงามตระการตา การประกอบอาชพี หัตถกรรมเป็นภูมิปญั ญาท้องถิน่ แขนงหนึง่ ทถี่ า่ ยทอดกันมาแต่รุ่นปูุย่า ตายาย ช่วยเหลือเกื้อกลู กันในการทามาหากนิ สร้างรายไดส้ ร้างความเขม้ แข็งให้กบั ชุมชน แต่สงิ่ เหล่านกี้ าลังจะเลือน หายไป หากผนู้ าท้องถน่ิ หรือคนในชุมชนขาดความสานกึ ไมเ่ หน็ คุณค่าและความสาคญั จะทาใหส้ ญู หายไปตาม การเปลย่ี นแปลงขวี ิตในยุคปัจจบุ นั จึงจะเป็นอยา่ งยง่ิ ท่จี ะต้องมีการอนุรักษ์และสืบสานให้คงอยู่ โดยปัจจบุ นั จะมเี พยี งบางชุมชนท่ยี งั มีความรัก ความเชือ่ และความศรัทธาในงานหตั ถกรรมท้องถ่ิน จึงไดม้ ีการนา เทคโนโลยีใหมๆ่ มาพฒั นาปรับปรุงหตั ถกรรมให้ดยี ิ่งขึ้น เพื่อเปน็ ช่องทางในการประกอบอาชีพทาให้เกิดรายได้ ตอ่ ตนเอง ชมุ ชน สังคมเกิดความรกั ความสามัคคีและสถานศกึ ษา กศน.มีบทบาทภารกิจด้านการจดั การศึกษา นอกระบบ ระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน การจดั การศกึ ษาต่อเน่ืองและการจัดการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ใหก้ บั ทุก กลุ่มเปูาหมาย เกดิ กระบวนการเรยี นรูต้ ามศักยภาพของนักศึกษา สามารถนความรู้ ทักษะไปใช้ในการพฒั นา ตนเอง ชุมชน สังคมต่อไป ดังนน้ั กศน.ตาบลโคกลา่ มจึงได้จดั ทาโครงงาน ธุงโมบาย เพื่ออนุรกั ษ์สืบสาน ศลิ ปหตั ถกรรมท้องถนิ่ ข้ึน วตั ถปุ ระสงค์ ๑. เพอื่ ใหน้ ักศึกษามีความรู้ ความเขา้ ใจและมที ักษะในการเรยี นร้เู ก่ียวกับการทาธุงโมบายได้อย่าง ครบถ้วนและถูกต้อง ๒. เพ่ือให้นกั ศกึ ษามกี ระบวนการคดิ อย่างมเี หตผุ ล สามารถนาเทคโนโลยีมาใขใ้ นการศกึ ษาสืบคน้ ได้ อยา่ งถูกต้อง ๓. เปน็ การสืบสานศลิ ปะหัตถกรรมในท้องถนิ่ ให้คงอยตู่ ลอดไป สมมุติฐาน สามารถนาเสน้ ได้มาประดิษฐ์เป็นธงุ โมบายเพอ่ื ใชใ้ นพธิ ีตา่ งๆและสร้างรายได้ ตัวแปรทศ่ี ึกษา ตัวแปรต้น คอื นกั ศึกษา ตัวแปรตาม คอื การประดิษฐธ์ ุง ลวดลายของธุง ตัวแปรควบคมุ คือ ลวดลายของธงุ และลกั ษณะของธงุ

6 ประโยชน์ท่คี าดวา่ จะได้รับ 1. นกั ศึกษามีความรู้ ความเข้าใจประวัติความเปน็ มาของธุงและเกิดทักษะการคดิ เป็นแก้ปัญหาเปน็ 2. นกั ศึกษาไดอ้ าชีพทีส่ ามารถสรา้ งรายไดใ้ ห้กับตนเอง ครอบครวั ชุมชนและสังคม ขอบเขตการศึกษา กล่มุ เปา้ หมาย นกั ศึกษา กศน.ตาบลโคกลา่ มระดับ ระยะเวลาในการปฏิบัตงิ าน ระยะเวลาในการปฏิบัติงาน วนั ท่ี 1 - 15 เดือนมิถนุ ายน พ.ศ.๒๕65 สถานทีใ่ นการดาเนินการโครงงาน กศน.ตาบลโคกลา่ มและพ้นื ท่ีตาบลโคกล่าม นิยามศัพท์เฉพาะ ธงุ โมบาย

7 บทท่ี 2 เอกสารประกอบและทฤษฏีทเี่ กีย่ วขอ้ ง ธุงใยแมงมุม เปน็ สัญลกั ษณ์ของความเช่ือเกีย่ วกบั โชคลางของชาวอีสาน และประเทศอื่นๆ ในดนิ แดน อษุ าคเนย์ ซงึ่ มีความเชอ่ื พื้นฐานจากวัฒนธรรมของผี พราหมณแ์ ละพุทธ ท่หี ลอมรวมเป็นเอกลกั ษณ์อนั โดด เดน่ ของภูมิภาค งานเทศกาลมาฆบูชา “มาฆปูรมี ทวารวดีมงิ่ เหล้า” เมืองฟูาแดดสงยาง ณ พระธาตุยาคู ตาบลหนอง แปนอาเภอกมลาไสย จังหวดั กาฬสินธุ์ อุษาคเนย์ มคี วามเช่ือเกย่ี วข้องกบั พระพุทธศาสนาอยู่มาก วัฒนธรรมราษฎรห์ รอื วัฒนธรรมหลวงล้วน ได้รบั อิทธพิ ลจากทัง้ จีนและอินเดยี พทุ ธศาสนาจงึ ไดร้ บั การผนวกเขา้ กบั ศาสนาพรามหณ์และศาสนาผี อนั เป็น ความเชื่อของท้องถ่ิน สงั เกตได้จากประเพณีวฒั นธรรมท่สี ืบทอดกันตอ่ ๆ มา แม้จะใชภ้ าษาเรยี กแตกต่างกัน แตป่ ระเพณีก็มีความคล้ายคลึงกัน เกี่ยวโยงกับชว่ งเวลาสาคัญในห้วงเดียวกันอยู่มาก เช่น ประเพณกี ารเทศน์ มหาชาติ มีทั้งในไทย กัมพชู า ลาวและพม่า นอกจากประเพณดี งั กล่าวแลว้ เครื่องประกอบพิธีกรรมก็มีความ คล้ายคลึงกนั เชน่ ธรรมมาส ใบลานและธงชัย ซง่ึ ใชป้ ระกอบพธิ ีกรรมเกย่ี วข้องกับพระพทุ ธศาสนาและพธิ ีการ สาคญั ของผู้คนเสมอมา ความหมาย ธง เปน็ ภาษามาตรฐานในประเทศไทย ซง่ึ ภาคอีสานจะเรยี กว่า ธงุ ภาคเหนอื เรียกว่า ตุง ชาวไทย ใหญ่ เรียกวา่ ตาข่อน ประเทศพมา่ เรียกวา่ ตะขุ่น ประเทศลาว จะเรยี กวา่ ทง หรือ ทุง ซง่ึ ภาษาอสี านและ ภาษาลาวมคี วามคลา้ ยคลงึ กัน ใชค้ าว่า ธงุ / ทงุ ออกเสยี งเหมอื นกนั แตด่ ้วยภาษาลาวไม่มี “ธ” ทาให้ใช้ “ท” เป็นตัวอักษรแทน “ธ” ซึ่งภาษาอสี านใช้พยญั ชนะแบบไทย จงึ ใช้ “ธ” เป็นพยญั ชนะเท่านนั้ ในดา้ น ความหมายและการออกเสียงถอื ได้วา่ ท้ังสองคาน้ีไมม่ ีความแตกตา่ งกนั คาวา่ ธง/ทงุ /ตงุ / มาจากรากศัพท์เดียวกัน ในภาษาบาลีใช้คาว่า บาลี ธช ภาษาสันสกฤตใช้คาวา่ ธฺวชฺ เมือ่ อาณาจักรต่างๆ ในอษุ าคเนย์รับมาใช้ จึงปรับเปลย่ี นไปตามความถนัดของการออกเสยี งในทอ้ งถนิ่ ของตนเอง คติความเช่ือ ธงุ เปน็ เครอ่ื งประกอบพธิ ีกรรมสาคัญของชาวอีสานมาอย่างยาวนาน เช่อื กันว่าสามารถใช้ปอู งกันสิ่ง เลวร้ายหรอื สิ่งไมด่ ีท่ีมองไม่เหน็ ภูตผวี ิญญาณต่างๆ ทจี่ ะมารบกวนงานบญุ หากเหน็ ธงุ แล้วจะถอยออกไป พรอ้ มกนั น้นั ยงั เปน็ การบอกกล่าวบวงสรวงเทพยดาในพนื้ ท่ีว่ามีการทาบุญ และมพี ิธีการสาคัญใหม้ าช่วย ปกปูองค้มุ ครอง

8 ธุงของอสี านนยิ มทอเปน็ ผนื ยาวๆ มรี ปู สตั ว์หรือรปู ภาพตา่ งๆ ตามความเช่ือบนผนื ธุง เชน่ จระเข้ เสอื ตะขาบ นางเงือก เทวดา และอืน่ ๆ นอกจากนัน้ ยังมีการดัดแปลงวัสดุธรรมชาตอิ ื่นมาเป็นธงุ ดว้ ย ทงั้ นี้ วิทยา วุฒิไธสง (2561) ได้แบง่ ประเภทของธุงอสี าน 6 ประเภท ดังนี้ 1) ธงุ ราว ทาจากผา้ หรือกระดาษอาจเป็นรปู สามเหล่ียม สเี่ หล่ียม หรอื อื่นๆ นามารอ้ ยเรยี งเปน็ ราว แขวนโยง 2) ธุงไชย เป็นเคร่ืองหมายของชัยชนะหรือสริ ิมงคลทอจากเสน้ ดา้ ยหรือเส้นไหมสลบั สี บางครง้ั ใชไ้ ม้ไผ่ คัน่ นยิ มใช้ลายประจายาม ลายปราสาท ลายเครือเถา ลายสตั ว์ ลายดอกไม้ 3) ธุงสบิ สองราศี นิยมทาดว้ ยกระดาษ ลกั ษณะของตุงสบิ สองราศี มรี ูปนักษตั รหรือสัตว์ สิบสองราศใี น ผนื เดียวกนั เช่อื วา่ ในครอบครัวหนงึ่ อาจมสี มาชกิ หลายคน แตล่ ะคนอาจมีการเกิดในปีตา่ งกัน หากมีการนาไป ถวายเท่ากับว่าทุกคนในครอบครัวไดร้ บั อานิสงคจ์ ากการทานตงุ เทา่ ๆ กนั ถือวา่ เปน็ การสมุ่ ทาน ใช้เปน็ ตุงบูชา เจดยี ์ทรายในวันสงกรานต์ 4) ธุงเจดีย์ทราย ใช้ปกั ประดบั ที่เจดยี ์ทราย ทาจากกระดาษสตี ่างๆ ให้หลากสี ตดั ฉลุลายด้วยรูปทรง สวยงาม เม่อื ได้ตุงนามาร้อยกับเสน้ ด้าย ผูกตดิ กับกิง่ ไมห้ รอื กง่ิ ไผ่ ปักไวท้ เี่ จดยี ท์ รายในวดั ธงุ ตะขาบ ธงุ จระเข้ เป็นผ้าผนื ท่มี รี ปู จระเขห้ รือตะขาบไวต้ รงกลาง เป็นสญั ลกั ษณ์ในงานทอดกฐนิ ใชแ้ ห่นาขบวนไปทอดยังวดั บน ความเชือ่ เก่ยี วกบั จา้ วแหง่ สัตวใ์ นท้องถิน่ ท่ีจะมาชว่ ยปกปอู งคุ้มครอง ในงานบุญกุศลบางแหง่ อาจมีรูปเสือที่ เปน็ เจ้าแหง่ ปุาร่วมดว้ ย 5) ธงุ ไส้หมู เป็นงานศิลปะประดิษฐท์ เ่ี กิดจากการตดั กระดาษสีหรือกระดาษแก้วสตี ่างๆ เมอ่ื ใช้กรรไกรตัด สลบั กันเปน็ ลายฟนั ปลาจนถึงปลายสุด แลว้ คล่ีออกและจบั หงายจะเกดิ เป็นพวงกระดาษสวยงาม นาไปผูกติด กับคันไมไ้ ผห่ รือแขวนในงานพธิ ีตา่ งๆ เช่น ตกแต่งปราสาทศพ ปักเจดีย์ทราย ประดับครัวทาน และอน่ื ๆ 6) ธุงใยแมงมุม เป็นตุงท่ีทาจากเส้นด้ายจากเสน้ ฝูายหรือเสน้ ไหม ผูกโยงกันคล้ายใยแมงมุม นยิ มใชแ้ ขวน ตกแต่งไวห้ น้าพระประธาน หรอื โดยรอบในงานพธิ ีกรรม ในการปกปูองคุ้มครองคลา้ ยกบั ตงุ ไชย ซ่ึงเปน็ ที่ แพร่หลายในภาคอสี าน เช่น การประดบั ธุงใยแมงมมุ ของวัดไชยศรี งานบญุ ผะเหวดบ้านสาวะถี และการ ประดบั ในงานร่วมสมัย

9 ธงุ ใยแมงมุม เป็นตุงท่ีทาจากเส้นดา้ ยจากเสน้ ฝูายหรือเสน้ ไหม ผูกโยงกนั คลา้ ยใยแมงมุม นยิ มใชแ้ ขวน ตกแต่งไว้หนา้ พระประธาน หรือโดยรอบในงานพิธกี รรม ในการปกปูองภยั อันตราย การถวายธุง ถือไดว้ ่าเปน็ การสรา้ งบญุ กุศล เมื่อถวายธุงแล้วจะได้บุญ จะได้เกาะชายผ้าธุงข้ึนสวรรค์ และอุทิศกุศลผลบญุ ให้กบั ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว โดยการนาขา้ วตม้ เงนิ มาแขวนหางธงุ เพ่ืออุทิศใหก้ ับคนตายหรือ แขวนหางธุงเพ่ือนาพาตนข้ึนสวรรค์ นอกจากนี้ยังเช่ือวา่ การทานธุงในชาตินเี้ พ่อื เปน็ อานสิ งสใ์ นชาตหิ น้า เช่น ถา้ ชาตินร้ี ปู ร่างไม่สูง ชาตหิ น้าจะได้สูง และการถวายธุงทุกเดือนเมษายนในชว่ งสงกรานต์ ยังเชอื่ ว่าจะทาให้ได้ บุญ ไดค้ วามงาม และความร่มเยน็ เปน็ สขุ การสร้างมลู ค่าของธุงใยแมงมุมในภาคอีสาน ปจั จบุ ันมีหลายพน้ื ท่ีท่ไี ด้นาวัฒนธรรมมาสร้างมลู ค่า จดั แสดงเปน็ สถานท่ีท่องเท่ยี วและสร้างรายได้ให้ เกิดข้ึนกับชุมชน ในงานมาฆปูรมี ณ พระธาตุยาคู ตาบลหนองแปน อาเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งมี เอกลกั ษณ์อันโดดเด่น เป็น “ทะเลธุงใยแมงมมุ ” สสี ันสดใสงดงาม ผูกเปน็ ธงยาวกับเสาไมไ้ ผ่ เรยี งกนั เป็นทาง ยาวสดุ สายตา มีพระธาตุยาคูต้งั เปน็ ฉากสง่างามอยเู่ บ้ืองหลงั ธงุ ใยแมงมุมหลากสเี หล่านี้ สะท้อนความเช่ือของพ้นื ทใี่ นชุมชน โดยมลี กั ษณะสาคัญคือ ธงุ ใยแมงมุม ทาด้วยเสน้ ด้ายหรือเส้นไหมผูกคล้าย งาน “ทะเลธุงใยแมงมมุ ” การทาให้วัฒนธรรมความเชอื่ เป็นสินค้าทางวฒั นธรรมท่ีสร้างรายได้ให้คน ในตาบลหนองแปน อาเภอกมลาไสย จังหวดั กาฬสนิ ธ์ุ ใยแมงมุม ทั้งประเภทสด่ี ้านหรือหกด้าน ทามาจากเส้นไหมหรอื เส้นด้ายท่ีมหี ลากหลายสีสนั มดั กับไม้ไผท่ ี่เหลา แลว้ แต่จะกาหนดขนาด มัดและม้วนจนเป็นวงรอบคล้ายใยแมงมมุ ท่ีโยงไปโยงมา การทแ่ี มงมมุ มใี ยนีเ่ องท่ี ชาวบ้านใชแ้ ทนการเช่อื มโยงวญิ ญาณ บญุ กุศล ไปสภู่ พหลังความตายได้ โดยเปาู หมายคือสวรรคน์ นั่ เอง เมื่อ เสรจ็ แล้วก็นามาร้อยเขา้ ด้วยกันกลายเปน็ สายเดยี วกันหรือตามรูปแบบต่างๆ ท่ีออกแบบใหส้ วยงาม แล้วนาไป ตกแตง่ มณฑลพิธหี รอื พื้นทีศ่ ักดิ์สิทธ์ิ พรอ้ มกนั นนั้ ธงุ ใยแมงมุม ยังสะท้อนความเชอื่ หลายอยา่ งด้วยกนั ทง้ั ตานาน เรอ่ื ง พระยาคนั คาก เม่อื ครั้งไปปราบพระยาแถนที่ไม่ยอมใหฝ้ นแกโ่ ลกมนษุ ย์ ทาใหพ้ ระยาคันคากต้องไปรบ คราวน้ันไดร้ ับความ ร่วมมอื จากบริวารทเี่ ป็นสัตว์มากมายท่ีชว่ ยสร้างถนนเช่ือมโยงจากโลกไปสวรรค์ ดินแดนแห่งพระยาแถน สตั ว์ ที่ว่ามีแมงมุมรว่ มด้วย ทชี่ ักใยและเชื่อมโยงให้ถนนรว่ มกบั สัตว์อ่นื ๆ สรา้ งจนถึงสวรรค์แดนพระยาแถนได้ และ คราวนั้น พระคันคากกต็ ่อสู้ชนะ หรือการเดินทางเขา้ ปาุ ของพระเวสสนั ดร นางมัทรี กณั หาและชาลี ที่ต้องเดนิ เขา้ ปาุ หมิ พานต์ ซ่งึ พระเวสสันดรได้ออกบวชบาเพ็ญทานบารมกี ่อนเสวยชาติเปน็ สมเดจ็ พระสัมมาสมั พุทธเจา้

10 รวมถึงเปน็ กุศโลบาย หมายถึง สายใยนาสพู่ ระธรรม เปน็ บุญเป็นกศุ ลให้คนทปี่ ระดษิ ฐ์ธงุ แมงมมุ ถวายเป็นพุทธ บูชา ได้ยึดเกาะสายใยน้ีสภู่ พแห่งพระศรีอริยเมตไตรยหรอื สนู่ ิพพานการท่ชี าวบ้านในอาเภอกมลาไสย จงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ ได้ร่วมกันทาธงุ ใยแมงมุม เปน็ การสะท้อนความเช่อื ในการปอู งกันสิง่ อปั มงคลไมใ่ หเ้ กดิ ข้ึนใน งาน เมือ่ หลอมรวมจากหลายพื้นที่เป็นทะเลธงุ ใยแมงมุม จงึ กลายเปน็ สถานที่ท่องเท่ียว ใหค้ นไปเทย่ี วชมและ สรา้ งรายไดใ้ ห้กับชุมชนผ่านความเชื่อของท้องถนิ่ ดังกลา่ วแสดงให้เหน็ วา่ วฒั นธรรมและประเพณีไม่ใช่เพียง ความเช่ือเท่านนั้ หากแต่มีรากความคิดของการกระทาตา่ งๆ เป็นมรดกท่ีทรงคุณคา่ สามารถสรา้ งรายได้ใหก้ ับ ผสู้ ืบทอดไปพร้อมกันดว้ ย การสรา้ งมูลค่าของธุงใยแมงมุมในภาคอสี าน โดยเฉพาะในงานมาฆปูรมี ณ พระธาตยุ าคู ตาบลหนอง แปน อาเภอกมลาไสย จงั หวัดกาฬสินธุ์ สะท้อนให้เราเห็นว่าพื้นทที่ างวัฒนธรรม ตลอดจนความเชื่อของ ทอ้ งถ่ิน สามารถสร้างมลู คา่ ให้กบั ชมุ ชนและท้องถ่ินได้ หากเราเห็นคุณคา่ และตระหนักถงึ ความสาคัญของการ พัฒนาตอ่ ยอด วัฒนธรรมเหลา่ นีจ้ ึงไม่ใช่เพียงความเชอื่ ทง่ี มงาย แต่เป็นมรดกทางความคิดทที่ รงคุณคา่ และมา จากภูมปิ ัญญาของท้องถ่นิ อย่างแทจ้ รงิ

11 บทที่ 3 วธิ ีดาเนินการ วธิ ีดาเนินงาน 1. ข้ันตอนการเตรียมการ 1.1 ประชุมหารือวางแผนการทางาน 1.2 แบ่งหน้าท่คี วามรับผิดชอบ 1.3 ขอคาปรึกษาจากครทู ีป่ รึกษาและผูน้ าชมุ ชนทกุ หมูบ่ ้าน 2. ข้ันตอนการดาเนนิ งาน 2.1 ตง้ั ชือ่ โครงงาน 2.2 ประชมุ แกนนาผู้ดาเนินการ และกลุ่มเปูาหมายเพ่ือกาหนดกิจกรรม 2.3 คน้ ควา้ หาข้อมูลจากสถานท่ีต่างๆ 2.4 จดั ทาโครงงาน “การทาธุงโมบาย” 2.5 ประชาสมั พันธโ์ ครงงาน “การทาธงุ โมบาย” 2.6 ดาเนินการทากิจกรรมโดยการมสี ว่ นรว่ มของผูน้ าชมุ ชน 2.7 ประเมิน สรุปผลการทาโครงงาน 2.8 สรปุ ผล รายงานโครงงาน วัสด/ุ อุปกรณ์ 1. มีด 2. ไมไ้ ผ่ 3. ดา้ นไหมพรม 4. กรรไกร 5. เข็ม 6. เชือก 7. กาวรอ้ น 8. ลกู ปัดคละสี 9. ลูกระฆังพลาสติก วธิ ที า 1. วางไมไ้ ผ่ทาบกันเป็นเครอ่ื งหมายกากบาท

12 2. ใช้ด้ายไหมพรมพันรอบๆไม้ไผไปเรื่อยๆ 3. เปล่ียนสดี า้ ยไหมพรมตามความตอ้ งการ

13 บทที่ 4 ผลการดาเนินการ ผลการดาเนินงาน ผลที่เกิดตามวัตถุประสงค์ เพ่อื ใหน้ กั ศึกษาและประชาชนทวั่ ไปมคี วามรู้ ความเขา้ ใจและมที ักษะในการเรยี นรูเ้ กยี่ วกับธุงโมบาย ประวตั ิความเปน็ มาและวิธีการทาธงุ ได้อย่างครบถว้ นและถูกต้อง อกี ท้ังยังมีกระบวนการคดิ อย่างมีเหตุผลและ สามารถนาเทคโนโลยีมาใช้ในการศึกษาสบื คน้ ได้อยา่ งถูกต้องและเปน็ การสืบสาน สง่ เสริม ฟืน้ ฟู ภูมปิ ญั ญา ทอ้ งถน่ิ ปราชญ์ชาวบา้ น ศลิ ปหัตถกรรมในทอ้ งถิ่นให้คงอยตู่ ลอดไป ผลสมั ฤทธิข์ องงาน เพอ่ื อนรุ กั ษ์ สืบสานศลิ ปหัตถกรรมท้องถ่ิน พบวา่ จากการท่ี กศน.ตาบลโคกล่ามได้นาโครงงาน การ ทาธงุ โมบาย มาต่อยอดพัฒนา เพื่อให้นักศึกษาได้เลอื กเรยี นรตู้ ามความถนัดและความสนใจ ส่งผลใหน้ กั ศกึ ษา และประชาชนท่ัวไปที่สนใจเก่ียวกับการทาธงุ โมบาย สามารถเล่าถงึ ประวัตคิ วามเป็นมาของธงุ โมบาย รวู้ ธิ ีการ ทาธงุ โมบายได้อยา่ งถูกต้องและสวยงาม มคี ุณธรรม จริยธรรม และค่านยิ มพงึ ประสงค์ เห็นคุณค่าของตนเอง มีวนิ ัยและปฏิบตั ติ นตามหลักพุทธศาสนาท่ีตนเองนับถือ ยึดหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง สามารถนา เทคโนโลยีมาประยกุ ต์ใช้ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม มีจติ สานึกในการอนรุ กั ษ์ศลิ ปหัตถกรรม วัฒนธรรมและ ภูมิปญั ญาท้องถน่ิ การอนุรักษ์และพฒั นาส่ิงแวดล้อม มีจติ สาธารณะทมี่ ุ่งทาประโยชน์และสรา้ งสง่ิ ดงี ามใน สงั คมและอยู่รว่ มกันในสงั คมอยา่ งมีความสุข

14 บทที่ 5 สรปุ และอภิปรายผล สรุปผลการศกึ ษา การศกึ ษาการทาธงุ โมบาย เป็นการนาสิ่งทใ่ี กล้ตัวมาประยุกต์ใชใ้ ห้เกิดประโยชน์ เปน็ การฝึกให้ใช้ ความคิดสรา้ งสรรค์ เพือ่ ที่จะนามาพัฒนาเป็นอาชพี เสรมิ ได้ ประโยชนท์ ไ่ี ดร้ บั สาหรับสถานศึกษา มีผลงานเปน็ เชิงประจักษ์และเป็นรูปธรรมที่เกิดจากการจดั การเรยี นร้แู บบโครงงานใว้ เผยแพรแ่ ละประชาสมั พนั ธ์ สาหรบั ครผู ู้สอน มที กั ษะในการจัดการเรยี นการสอนรวมท้งั นาไปประยุกต์ใช้ในการวางแผนการจัดการเรียน การสอนในรูปแบบโครงงานรายวชิ าอ่นื ๆได้ สาหรับนักศกึ ษา กศน. 1. นกั ศึกษาได้เรยี นร้วู ธิ กี ารทาธุงโมบายและรจู้ ักแสวงหาความรู้ดว้ ยตนเอง รู้จกั คิดอย่าง เปน็ ระบบ โดยใชก้ ระบวนการเรยี นรแู้ บบโครงงานเปน็ รปู แบบในการจดั การเรียนรู้ 2. ทาใหก้ ารเรียนมีความหมายต่อชีวติ และนกั ศกึ ษาสามารถประยุกต์ไปใช้ได้ในชีวิต สอดคลอ้ งกบั การดาเนินชีวติ จรงิ และม่งุ การเรียนแบบบรู ณาการ ไมแ่ ยกสว่ นหรอื ตดั ตอนเปน็ ท่อนๆของ กระบวนการเรยี นรู้ โดยนักศึกษาเปน็ ผูจ้ ัดกระบวนการเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง ด้วยการชี้แนะของผสู้ อนอนั จะนาไปสู้ การคดิ เปน็ โดยใชข้ ้อมลู ที่มอี ย่ใู นสงั คม ตนเอง และวชิ าการอยา่ งเหมาะสม 3. นกั ศึกษาไดเ้ รียนรวู้ ิธีการแสวงหาความรเู้ พื่อทจ่ี ะนามาใช้เปน็ ข้อมูลในการแกป้ ัญหาชีวิต ของตนเองในวนั ขา้ งหนา้ รวมทงั้ วิธีวเิ คราะห์ สังเคราะห์ข้อมูล เพือ่ การตัดสินใจทเ่ี หมาะสม (คดิ เปน็ ) กับชีวติ ของตนเอง 4. ชมุ ชนเป็นภมู ปิ ญั ญาเบอื้ งตน้ และมีสว่ นรว่ มในการจดั การศึกษาให้แก่นักศกึ ษาซง่ึ เปน็ สมาชกิ ในชมุ ชน 5. เป็นการส่งเสริมให้ท้องถน่ิ มีส่วนรว่ มในการพฒั นาหลักสตู รของตนเอง เพื่อใหน้ กั ศึกษา ได้รบั ประโยชนจ์ ากการเรียนรู้จากท้องถนิ่ ของตนเอง เป็นการเช่ือมโยงระหวา่ งการเรียนรู้กบั ชวี ติ จรงิ และการ ทางาน รวมทงั้ ให้นักศึกษามีความรักและความผกู พนั กับทอ้ งถนิ่ ของตน มีการสง่ เสริมใหใ้ ชภ้ ูมปิ ัญญาและ วัฒนธรรมในทอ้ งถิน่ ในการจัดการศึกษา 6. เปน็ การส่งเสรมิ การเปน็ ทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพของสังคมในดา้ นศีลธรรมสนั ติภาพ การธารงไวซ้ ง่ึ สงั คมประชาธิปไตย การรว่ มรักษาสง่ิ แวดล้อม ก่อใหเ้ กิดศรัทธาเช่อื ม่ันภูมิใจในภมู ิปญั ญาและ วัฒนธรรมของท้องถ่ิน ชมุ ชน และชาติ ขอ้ เสนอแนะ จากการศึกษาโครงงานการทาธุงโมบายสามารถพฒั นาใหเ้ ป็นอาชพี เสรมิ ได้

15 ภาคผนวก

16 ภาพกิจกรรม โครงงาน “การทาธงุ โมบาย”

17 ภาพกิจกรรม โครงงาน “การทาธงุ โมบาย”

18 ภาพกิจกรรม โครงงาน “การทาธงุ โมบาย”

19 ภาพกิจกรรม โครงงาน “การทาธงุ โมบาย”



20



21



22



23


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook