ใบงานท่ี 6 การปลูกผักชฝี ร่ัง เสนอ อาจารย์ ดร.กนั ต์กนิษฐ ธนชั พรพงศ์ ผู้รว่ มทีมวจิ ยั 1.รหสั นกั ศกึ ษา 644110045 ชอ่ื สกุล นายพีรพัฒน์ กลั่นภกั ดี ปี 2 หอ้ ง 2 2.รหสั นกั ศึกษา 644110063 ชอื่ สกุล นางสาว อรญิ ชยา รงุ่ เรือง ปี 2 ห้อง 2 3.รหสั นกั ศึกษา 644110065 ชอื่ สกลุ นางสาว อารญี า ศรสี งสาร ปี 2 หอ้ ง 2 รายงานนี้เป็นสว่ นหนงึ่ ของการเรยี นรายวิชาเศรษฐศาสตรเ์ บ้อื งตน้ SE 62608 ภาคการศกึ ษาท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565 สาขาวชิ าสังคมศกึ ษา คณะมนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร มหาวทิ ยาลยั ราชภฎั หมบู่ า้ นจอมบึง
ก กิตตกิ รรมประกาศ โครงงานน้สี าเร็จลุล่วงไดด้ ว้ ยความกรุณาจากอาจารย ดร.กันตกนษิ ธนัชพรพงศ อาจารยท่ปี รึกษา โครงงานทไ่ี ด้ คาเสนอแนะ แนวคิด ตลอดจนแก้ไขขอ้ บกพร้องตา่ งๆมาโดยตลอด จนโครงงานเล่มนเ้ี สร็จ สมบูรณ ผูศ้ ึกษาจึงขอกราบขอบพระคณุ เปน็ อย่างสูง ขอกราบขอบพระคณุ พ่อ คุณแม่ และผู้ปกครอง ท่ใี หค้ าปรกึ ษาในเรือ่ งตา่ งๆรวมทง้ั เปน็ กาลงั ใจท่ีดี เสมอมา สดุ ท้ายขอขอบคณุ เพ่ือนๆทชี่ ว่ ยให้คาแนะนาดีๆเกยี่ วกบั การเลือกคา และเกยี่ วกับโครงงานช้ินน้ี
ข บทคัดย่อ เน่อื งจากในปัจจบุ นั สารพิษในผักมคี ่อนข้างมาก ผูค้ นจงึ ต้องการท่จี ะปลูกผักทีป่ ลอดสารพิษไวท้ าน ผจู้ ัดทาจึงคดิ คน้ สวนผักไฮโดรโปนกิ สอเนกประสงคขึ้น โดยทีจ่ ะปลกู ผักชีฝร่ังไว้ในกระบอกไมไ้ ผ่ โดยทีแ่ บ่งเป็น 2 กระบอก กระบอกท่ี 1 จะปลูกปรมิ าณ 19 ตน้ กระบอกที่ 2 จะปลกู ประมาณ 8 ตน้ ซึ่งไมใ่ สป่ ๋ยุ คอยเติมน้าให้น้าเต็มตลอดและมาดูผลในภายหลังว่าจะ เป็นอย่างไร
สารบัญ ค ชอื่ เร่อื ง หนา้ 1 บทท่ี 1 บทนา 4 ความเปน็ มาและความสาคัญของปัญหา 6 คาถามการวจิ ยั วัตถุประสงคการวิจยั ขอบเขตของการวิจัย o ขอบเขตเวลา o ขอบเขตพ้นื ท่ี o ขอบเขตประชากร นยิ ามศพั ทเฉพาะ สมมติฐานการวิจยั ประโยชนทีค่ าดวา่ จะได้รับ กรอบแนวคดิ การวิจัย บทที่ 2 เอกสารและงานวิจยั ทเี่ ก่ยี วขอ้ ง ความหมาย คาจากดั ความ แนวคิด ทฤษฎีท่เี กยี่ วข้อง งานวจิ ัยทเ่ี ก่ียวขอ้ ง บทที่ 3 ระเบียบวิธดี าเนนิ การวิจัย ประชากรทใ่ี ช้ในการวิจยั กลุม่ ตัวอยา่ งท่ใี ช้ในการวจิ ยั และการสุ่มกลมุ่ ตวั อย่าง วิธีดาเนนิ การวจิ ยั (กระบวนการวจิ ัย) เครอื่ งมือท่ใี ช้ในการเกบ็ ขอ้ มลู
ระยะเวลา ง พน้ื ท่ีท่ีทาการวิจัย การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล 9 สถิตทิ ี่ใช้ในการวเิ คราะหข้อมลู 10 บทท่ี 4 การรายงานผลการวิจยั 12 วตั ถุประสงคการวจิ ยั 13 รายงานผลการวจิ ยั (นาเสนอตาราง) 14 บทท่ี 5 การสรุปและอภิปรายผลการวจิ ยั วตั ถุประสงคการวจิ ัย การสรปุ ผลการวิจยั (บรรยายสรปุ ) การอภปิ รายผลการวิจยั ขอ้ เสนอแนะ o ขอ้ เสนอแนะในการทาวิจยั ครง้ั ต่อไป o ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย บรรณานกุ รม ภาคผนวก เครอื่ งมือการเกบ็ ขอ้ มลู
-1- บทที่ 1 บทนา 1.ความสาคัญและความเปน็ มา การปลกู ผักสลัดดว้ ยวิธีไฮโดรโปนิกสไวร้ ับประทานเองหรือปลกู ไว้ขายเป็นรายได้เสริมนน้ั กาลังเปน็ ที่ นิยมในปัจจุบัน เพราะใช้พน้ื ท่ีในการปลูกน้อย อย่างไรก็ตามการปลกู ผักสลัดในพนื้ ท่ี คอนโดหรือหอ้ งเชา่ มี ข้อจากัดใน เรอ่ื งแสงแดด แต่ในพน้ื ที่ของ คอนโดน้ันมแี สงแดดส่องเข้ามาถึงนอ้ ย ในบ้างหอ้ งก็ไมม่ แี สงแดด ส่องเขา้ มาเลย เนือ่ งจากหอ้ งอย่ตู รง จดุ อบั ของตึก ทาให้ผกั สลดั ไมส่ ามารถเจรญิ เตบิ โตได้หรอื คุณภาพของผัก สลดั ต่ากวา่ ที่ควรจะเปน็ ยิ่ง ปลูกในฤดูฝนหรือฤดูหนาวแสงแดดนั้นไมค่ ่อยมีหรือความเขม้ ของแสงแดดนอ้ ย ไม่ เหมาะแก่การปลกู ผกั สลัดเปน็ อยา่ งยง่ิ โดยผกั สลักทป่ี ลูกในคอนโดนั้นลาต้นจะยืดคลา้ ยต้นถ่ัวงอกเป็น ลกั ษณะของผัก สลัดท่ีไม่แข็งแรง สาเหตุที่ลาตน้ ยืดคลา้ ยถว่ั งอกนนั้ เป็นเพราะผักสลัดต้องการยืดลาต้นเพือ่ ไป หา แสงแดด ใบของผักสลัดนัน้ มแี ตก่ า้ น พ้ืนทข่ี องใบนอ้ ย ผวู้ ิจัยจงึ นาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยสร้าง ระบบปลูกผกั ระบบปลูกผักไฮโดรโปนกิ สแบบอัตโนมัตทิ ่ีสามารถปลูกผักสลัดในคอนโดได้ เทคโนโลยี สามารถปลูกพืชไดท้ ง้ั ปี เป็นการเพ่ิมมูลคา่ ของผลผลติ ให้สูงขึ้นกวา่ แบบเก่า 50-100% และยงั สามารถออกแบบให้ประหยัดพ้ืนท่กี าร ปลูกไดด้ ้วย ดูแลไดท้ ่ัวถึง เนื่องจากเปน็ ระบบที่ง่ายตอ่ การควบคมุ และป้องกนั โรคและแมลง ไม่ใชส้ ารเคมีกาจดั แมลง 100% และไมม่ ปี ัญหาในการกาจัดวัชพืชในพื้นท่ีปลูก ประหยัดนา้ และปยุ๋ เพราะสามารถควบคมุ ได้ตามท่ีพชื ตอ้ งการ ไมต้ อ้ งไถพรวน สามารถลดการทาลายหรอื ชะลา้ งหน้าดิน มีผลผลติ สมา่ เสมอ และอายุเกบ็ เกย่ี วเรว็ ขึ้น เน่อื งจากพชื สามารถนาธาตอุ าหารไปใชไ้ ด้อย่างสมา่ เสมอ ผลผลิตทไ่ี ดม้ คี วามสะอาด สด คุณภาพดี และที่สาคัญคือ ปลอดสารพิษ สามารถพัฒนาการปลูกไปในเชิงพาณิชยได้ 2. คาถามการวจิ ัย การปลูกพชื แบบไม่ใช้ดนิ จะผลเสยี หรือผลดีอยา่ งไร ปลกู พชื แบบไฮโดรโปนิกสการจดั การดูแลในรปู แบบใด 3. วัตถปุ ระสงค์การวจิ ัย การกาหนดแนวทางหรือขอบเขตการศกึ ษาคน้ คว้า เพ่อื บง่ บอกสิ่งทจี่ ะต้องทาในการศกึ ษาวจิ ยั ตอ่ ไป อยา่ งชัดเจน รวมถงึ เปน็ การกาหนดขอบเขตการวิจยั ดว้ ยวา่ คอื อะไร นอกจากนี้ วตั ถุประสงคของการวจิ ยั ทดี่ ี น้นั จะตอ้ งมคี วามสมเหตุสมผลในการทาการศกึ ษาวิจยั ทัง้ ในเรือ่ งช่วงเวลาและทรพั ยากรทต่ี อ้ งการใช้งานอกี ด้วย จะกลา่ วถงึ สิง่ ทีค่ าดหวังว่าจะเกดิ ขึ้นในการศึกษาวิจัย เพือ่ แสดงรายละเอียดเกยี่ วกบั เป้าหมาย จงึ ตอ้ ง
-2- เขียนใหค้ รอบคลุมงานวจิ ยั ทีต่ อ้ งการศกึ ษาท้งั หมด เป็นการศึกษาวา่ การปลกู ผกั ชใี บเลอ่ื ยด้วยนา้ สามารถทาให้ ผักชีใบเลื่อยเตบิ โตไดข้ นาดไหน และการปลูกในกระบอกไมไ้ ผ่จะมลี กั ษณะออกมาเป็นแบบไหน 4. ขอบเขตของการวิจยั 4.1 ขอบเขตเวลา การศึกษาครง้ั นท้ี าการทดลองในภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565 ระยะเวลาในการทดลอง 6 สัปดาห สัปดาหละ 3 วนั วันละ 10 นาทใี นช่วงเวลา 07.00-08.00 น. รวมเปน็ ระยะเวลาในการทดลองทัง้ ส้นิ 18 ครง้ั 4.2 ขอบเขตพื้นที่ ในพื้นท่หี อพกั (หอสวรส) ในอาเภอจอมบึง จังหวัดราชบรุ ี 4.3 ขอบเขตประชากร ประชากรทใี่ ชใ้ นการศกึ ษาคน้ คว้าครัง้ นีเ้ ปน็ นักศกึ ษา มหาวิทยาลยั ราชภัฎหมบู่ ้านจอมบงึ ช้นั ปี 2 หมู่ 2 สาขาสงั คมศึกษา 5. นยิ ามศพั ทเ์ ฉพาะ นับเป็นวธิ ีการใหม่ในการปลูกพชื โดยเฉพาะการปลกู ผักและพืชที่ใชเ้ ป็นอาหาร เนื่องจากประหยัด พน้ื ท่ี และไมป่ นเปื้อนกบั สารเคมตี ่าง ๆ ในดนิ ทาให้ได้พืชผกั ที่สะอาดเปน็ อาหาร ปจั จุบันนีใ้ นเทคนิคการปลูก พชื แบบไร้ดินหลายแบบดว้ ยกัน การปลูกพืชโดยไม่ใชด้ ินสามารถปลกู ได้แม้แตต่ ามอพารเมน้ ต บรเิ วณหลงั บ้าน รมิ หน้าต่าง บนดาดฟ้า สาหรับผู้ปลูกสมคั รเลน่ ตา่ งๆ กส็ ามารถนาวิธนี ี้มาใช้ในชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ย่างไม่ ยากนัก นอกจากนผี้ ู้ปลกู สามารถพัฒนาวธิ กี ารปลกู พืชออกเปน็ แบบต่างๆ ได้ โดยเพียงแต่ลงทุนลงแรงเพียง เลก็ นอ้ ย ก็จะได้พืชผกั อนามัยไวร้ บั ประทาน ซงึ่ เป็นพืชผกั ทส่ี ะอาดปราศจากสารกาจัดแมลง 6. สมมตฐิ านการวจิ ัย งานวิจัยน้ไี ด้พฒั นาระบบปลกู พชื ไฮโดรโปนกิ สแบบอัตโนมตั ิโดยตรวจวดั และควบคุมปัจจยั หลักท่ีมี ผลตอ่ การเจรญิ เตบิ โตของพชื เช่น คา่ อุณหภูมิในอากาศและในน้า คา่ ความ เป็นกรด-ดา่ ง รวมไปถงึ การ ควบคุมปรมิ าณแสง อณุ หภูมคิ วามชื้น และอากาศภายในพน้ื ทีเ่ พาะปลกู ไดย้ ง่ิ ไปกวา่ น้ี ระบบสามารถผสมนา้ กับสารละลายธาตุอาหารในสัดส่วนที่ เหมาะสมต่อพืชไฮโดรโป นิกสจากการควบคมุ ปัจจยั ท่ีมีผลต่อการ เจริญเตบิ โตของพืชน้ัน จะสง่ ผลให้พืชผักมีผลผลติ และ คณุ ภาพสงู ขึน้ ระบบอตั โนมัติจะทาใหล้ ดเวลาการดูแล พืช รวมไปถึงการบรหิ ารทรพั ยากรนา้ อย่างคุม้ ค่า การทางานของระบบในแตล่ ะส่วนจะติดตอ่ กันผ่านเครือข่าย ไรส้ าย 7. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1. สามารถเพ่มิ ผลผลติ จากการปลูกพชื ในระบบปลูกพืชไฮโดรโปนกิ สแบบอตั โนมตั ิ 2. สามารถลดเวลาในการดแู ลพชื ทีป่ ลกู แบบไฮโดรโปนกิ ส 3. สามารถใชท้ รพั ยากรนา้ และสารละลายธาตุอาหารได้อยา่ งคมุ้ คา่
-3- 8. กรอบแนวคดิ การวิจัย งานวจิ ัยน้ีมีแนวคดิ สาหรบั การพัฒนาระบบปลูกพืชอัตโนมตั ิท่ีนอกจากจะชว่ ยให้เกษตรกร ลดเวลาใน การปลกู พืชหรือดูแลพืชแล้ว ยงั สามารถควบคมุ ตัวแปรท่ี เกย่ี วขอ้ งกับการเจรญิ เตบิ โตของ พชื ใหอ้ ยู่ในชว่ งที่ เหมาะสม เพือ่ ให้พืชสามารถเจริญเติบโตไดอ้ ย่างเต็มที่ โดยปัจจัยที่ เหมาะสมต่อการ เจรญิ เตบิ โตของพชื นั้น จะประกอบไปด้วย แสง อณุ หภูมินา้ แต่เน่ืองจากการปลูกพชื ไฮโดรโป นิกสแบบปกตินน้ั ตวั แปรท่ีสง่ ผลต่อ การเจริญเตบิ โตของพืชดังกลา่ วจะไม่คงที่ เชน่ ในแตล่ ะวนั พชื อาจจะไดร้ บั แสงไมเ่ พยี งพอ อุณหภมู ิไม่ เหมาะสมต่อการปลูก ปรมิ าณน้าที่ไม่เพยี งพอ สาหรบั การปลกู พชื ไรด้ ินหรือการปลูกพชื แบบไฮโดรโปนิกส แบบปกติในปัจจบุ ันนั้น แมว้ ่าจะมีการควบคุม บางตวั แปรแลว้ แต่ยงั ไม่สามารถครอบคลุมตัวแปรท้ังหมด ยกตวั อย่างเชน่ ปรมิ าณแสงท่ไี ด้รับอาจจะ ไม่เพยี งพอในบางวนั อุณหภูมใิ นประเทศเขตร้อนยังมีอณุ หภูมิท่สี ูง การควบคุมอณุ ภูมิจงึ ทาได้ยาก การให้นา้ แมว้ ่าจะมีระบบทส่ี นบั สนุนใหเ้ พียงพอ แต่เกษตรกรยงั ขาดความ แมน่ ยา ในการให้นา้ ทเ่ี หมาะสม รวมไปถึงบางระบบจะใชป้ ริมาณนา้ ค่อนข้างมากเกินความจาเปน็ เป็นตน้
-4- บทที่ 2 เอกสารและงานวจิ ยั ท่ีเก่ียวข้อง 1. ความหมาย คาจากัดความ การปลกู แบบไฮโดรโปนิกส เป็นการปลูกพืชโดยไม่ใชด้ นิ นับเปน็ วิธกี ารใหม่ในการปลูกพืช โดยเฉพาะ การปลูกผักและพืชท่ีใช้เปน็ อาหาร เนื่องจากประหยดั พ้ืนที่ และไมป่ นเปอื้ นกบั สารเคมีต่างๆ ในดนิ ทาให้ได้ พืชผกั ท่ีสะอาดเปน็ อาหาร ปจั จบุ นั นใี้ นเทคนคิ การปลูกพืชแบบไร้ดินหลายแบบด้วยกนั ตัวอยา่ งของความพยายามในชว่ งแรกๆ ท่ปี ลกู พืชไรด้ ิน ก็คอื สวนลอยบาบิโลน เมอื่ ราว 600 ปีกอ่ น ครสิ ตกาล และสวยลอยแหง่ อัสเต็กซ ในชว่ งคริสตศตวรรษที่ 11 นกั วิจยั การปลกู พชื ไร้ดนิ คนแรกๆ ก็คือ จอหน วูดวารด (John Woodward) ชาวองั กฤษ เมอ่ื พ.ศ. 2002 เขาไดป้ ลูกพืชในน้า โดยไดเ้ ติมดนิ ลงไปหลายชนดิ การปลูกพืชครั้งนน้ั เปน็ การสาธิตว่า นอกจากน้าแลว้ ในโลกเรานนั้ มสี สารหลายขนิดท่ีพืชตอ้ งการ ครนั้ เมือ่ กลางครสิ ตศตวรรษท่ี 19 นกั สรรี วิทยาพืช (plant physiologists) ชาวเยอรมนั ชือ่ ไอซาสส (ISachs) และคนอพ (Knop) ไดป้ ลูกพืชในสารละลายอย่างงา่ ยของ เกลอื อนินทรีย เมอื่ พ.ศ. 2472 ศาสตราจารย Gericke แหง่ มหาวทิ ยาลยั แคลฟิ อรเนีย ทีเ่ มืองเดวิส ได้สาธติ ว่าพชื จะ เตบิ โตโดยไมใ่ ช้ดนิ สามารถเตบิ โตไปได้จนโตเต็มที่ ครง้ั นั้นเขาไดป้ ลูกมะเขอื เทศในนา้ จนได้ผลขนาดใหญ่ อย่างนา่ แปลกใจ และเขาไดเ้ ทียบคาศัพทในภาษากรกี ทม่ี ีความหมายว่า การเกษตร คอื geoponics ซง่ึ หมายถึง ศาสตรแหง่ การปลกู พชื โดยใช้ดิน ดว้ ยเหตนุ ีเ้ ขาจึง คิดคาใหม่วา่ \"ไฮโดรโปนกิ ส\" (hydroponics) ซ่ึง หมายถึง การปลกู พชื ในน้า จากภาษากรกี hydros (น้า) และ ponos (แรงงาน) 2. แนวคดิ ทฤษฎีท่ีเก่ียวขอ้ ง การปลกู พืชแบบไฮโดรโปนกิ ส (Hydroponic) เป็นการปลกู พืชแบบหนงึ ทน่ี ิยมมากในปัจจุบนั เนือ่ งจากการปลูพชื แบบไฮโดรโปนิกสนัน้ จะเปน็ การปลูกพืชแบบไร้ดินทาใหส้ ามารถหลกี เลีย่ งปัจจยั ต่าง ๆ ที่ ไม่เอ้อื อานวยตอ่ การปลกู พชื แบบทั่วไป ยกตัวอย่างเช่น สภาพดนิ ปลูกที่ไม่เหมาะสม สภาพอากาศแปรปรวน รวมไปถึงขนาดของพ้ืนท่ีในการปลกู เป็นต้น ซ่ึงการควบคุมปัจจยั ทางสภาพแวดลอ้ มได้อย่างถูกต้องและ แมน่ ยาจะส่งผลให้พืชมีผลผลิตทด่ี ีและมีคุณภาพสูงขึ้น ขอ้ ดีสาหรบั การปลกู พืชไร้ดนิ คือ เกษตรกรสามารถ ปลกู พชื ในสภาพแวดล้อมท่ไี มเ่ หมาะสมตอ่ การปลูกพืชได้ซึ่งสามารถปลกู พชื ไดต้ ลอดปี สามารถลดค่าใช้จ่ายใน การเตรยี มดินปลกู และลดภาระในการกาจดั วัชพชื นอกจากนพี้ ชื จะเจรญิ เติบโตเร็วและให้ผลผลิตท่ีมากกว่า การปลูกแบบธรรมดา ยง่ิ ไปกวา่ น้ันเกษตรกรยงั สามารถใชํน้ า้ และธาตอุ าหารได้อย่างมีอีกท้ังยงั ต้องมี ผู้เช่ียวชาญและมีประสบการณในการควบคมุ ดแู ลอยา่ งใกลช้ ดิ นอกจากนี้วสั ดุปลกู บางชนดิ ยงั ย่อยสลายยาก เชน่ ไนเตรท ซึง่ อาจจะส่งผลกบั คณุ ภาพน้าไดโ้ ดยทั่วไปพืชจะพยายามใชเ้ อนไซดในพืชมาเร่งปฏิกิรยิ าเพ่อื เปลยี่ นไนเตรทให้เป็นแอมโมเนยี และกรดอะมโิ นซงึ่ กระบวนการนจี้ ะมแี สงแดดเป็นปัจจัยทีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั กระบวนการนีซ้ งึ่ ถา้ ควบคุมอากาศให้เหมาะสมจะทาใหไ้ นเตรทของพชื ลดนอ้ ยลง สาหรบั ผกั ทน่ี ิยมปลกู แบบไร้ ดิน แบ่งเปน็ หลายกลุม่ ดงั น้ี กล่มุ ผักสลัดไฮโดรโปนกิ ส เชน่ บัตเตอรเฮด กรนี โอ๊ค เรดโอ๊ค กรนี คอส เรดคอ
-5- รอล เปน็ ต้น และกลุ่มผกั สวนครัว เช่น ผกั คะน้า ผักบุ้งจีน กวางตงุ้ ผกั กาดขาวไดโตเกียว ผักกาดฮ่องเต้ผักโขม เปน็ ต้น 3. งานวิจยั ทเี่ กีย่ วข้อง (Mayra Erazo et al, 2015) ได้ออกแบบและใช้งานเครอื ขา่ ยเซน็ เซอรไรส้ ายสาหรับตรวจจับ โรงเรอื นทปี่ ลูกกุหลาบ โดยใชก้ ารสื่อสารตามมาตรฐาน ZigBee สาหรบั ตรวจวัดอุณหภูมิความชนื้ ปรมิ าณ ความชื้นในดนิ กา๊ ซคารบอนไดออกไซดค่าความสวา่ ง อีกทงั้ ยังได้ควบคุมระบบน้า อากาศ และแสงในโรงเรือน ซงึ่ งานวจิ ัยน้มี ีวตั ถุประสงคเพือ่ พัฒนาระบบตรวจวัดต้นทนุ ต่าและประหยดั พลังงานสาหรบั เกษตรกรในฟารม ขนาดเลก็ ถงึ ขนาดกลาง ผลการวิจยั พบวา่ หลงั จากสามเดือนทร่ี ะบบได้ถกู ใชง้ าน ระบบทน่ี าเสนอไดแ้ สดงให้ เห็นประสิทธิภาพในการป้องกนั โรคของดอกกุหลาบและเพ่มิ ประสทิ ธภิ าพของสกี ลีบดอกโดยพบว่าระดบั แสง ในโรงเรือนสง่ ผลต่อเฉดสขี องกหุ ลาบ นอกจากน้ีงานวิจัยนีย้ งั ไดท้ าการตรวจวดั กา๊ ซคารบอนไดออกไซดเพ่อื ป้องกันกหุ ลาบเสยี หายจากการเป็นน้าแขง็ อีกด้วย
-6- บทที่ 3 ระเบียบวธิ ดี าเนนิ การวิจัย 1. ประชากรทีใ่ ช้ในการวจิ ยั ประชากรท่ีใชใ้ นการศึกษาคน้ คว้าคร้ังนีเ้ ปน็ นักศกึ ษา มหาวิทยาลัยราชภฎั หมบู่ ้านจอมบงึ ช้ันปี2หมู่ 2 สาขาสงั คมศกึ ษา 2. กลมุ่ ตวั อย่างทีใ่ ชใ้ นการวจิ ัยและการสุ่มกลุ่มตัวอยา่ ง ประชากรท่ใี ช้ในการศกึ ษาคน้ ควา้ คร้งั นเ้ี ป็นนักศกึ ษา มหาวทิ ยาลัยราชภัฎหมบู่ า้ นจอมบงึ ช้ันปี2หมู่ 2 สาขาสังคมศกึ ษา การศึกษาคร้ังน้ที าการทดลองในภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565 ระยะเวลาในการทดลอง 6 สัปดาหสปั ดาหละ 3 วนั รวมเปน็ ระยะเวลาในการทดลองทัง้ สนิ้ 18 คร้ัง 3. วิธดี าเนนิ การวิจัย(กระบวนการวจิ ยั ) 1. กระบอกไมไ้ ผท่ ่ใี ชใ้ นการปลูกพืชไฮโดรโปนิกสแบบธรรมชาติ ในส่วนของการปลูกพชื วัสดุหลักจะใช้เปน็ กระบอกไมไ้ ผ่ ขนาดเส้นผา่ ศนู ยกลางประมาณ 10 เซนติเมตร ซึง่ จะช่วยไดเ้ ป็นเวลายาวนาน ซึ่งกระบอกไมไ้ ผ่ทีใ่ ชก้ ็จะเป็นกรระบอกไมไ้ ผส่ ดๆ เพราะมีความชมุ่ ช้นื อยู่ในผิวทาใหไ้ มไ้ ผไ่ ม่ดูดน้าและมคี วามแขง็ แรง ทนทาน และเป็นวสั ดุท่ีสามารถหาได้ในท้องถนิ่ 2. ฟองน้าโอเอซิส เปน็ วสั ดุทีใ่ ช้ในการเพิ่มความอุ้มน้าให้แกพ่ ืชผักและพยงุ ลาตน้ ของพชื ผกั ซ่ึงเป็นวัสดุท่มี ีนา้ หนกั เบา การนากระบอกไมไ้ ผม่ ามาเจาะรดู ว้ ยสว่าน เป็นรเู ล็กๆเพอ่ื ปลกู ผกั และรใู หญ่เพือ่ เติมน้า 1 รู นาโอเอซิสมาตัดให้พอดีกับรูเลก็ ท่ีเจาะไว้และมาเจาะรูโอเอซสิ ทตี่ รงกลาง นาผักชีฝรงั่ ใสไ่ ปในโอเอซิสและใสลงรูเล็กที่เจาะไว้ นาน้าเตมิ ลงไปในรูใหญ่ และจะเป็นการจดบันทกึ แต่ละสัปดาหของความเปลีย่ นแปลงของพืชท่ีทาการปลูก รูปท่ี 1.1 รปู ท่ี 1.2
-7- รูปท่ี 1.3 รปู ท่ี 1.4 4. เครื่องมือที่ใชใ้ นการเกบ็ ข้อมูล เลม่ รายงานปลูกผักไฮโดรโปนิกส (ผกั ชีฝร่งั ) แบบบันทกึ การเจรญิ เตบิ โต 5. ระยะเวลา การศึกษาครัง้ นี้ทาการทดลองในภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565 ระยะเวลาในการทดลอง 6 สัปดาห สปั ดาหละ 3 วนั วนั ละ 10 นาทใี นช่วงเวลา 07.00-08.00 น. รวมเป็นระยะเวลาในการทดลองท้งั ส้ิน 18 ครั้ง 6. พน้ื ทที่ ีท่ าการวจิ ยั ในพืน้ ทห่ี อพกั (หอสวรส) ในอาเภอจอมบงึ จังหวัดราชบรุ ี
-8- 7. การเก็บรวบรวมขอ้ มลู ปลูกจานวน 19 ต้น ปลูกจานวน 8 ต้น ลกั ษณะการเติบโต/แต่ละสปั ดาห สัปดาหท่ี 1 ตน้ เฉามี ใบตก ต้นเฉามี ใบตก สัปดาหที่ 2 สัปดาหท่ี 3 ตน้ เฉามี ใบตก ใบมีลักษณะสี ลาต้นเป็นกอ ใบเขยี วชอุม่ สูงประมาณ 1-2 สปั ดาหท่ี 4 นา้ ตาล บางต้น เซนติเมตร สปั ดาหท่ี 5 ใบเร่ิมเขยี ว ต้นมีความสูง ลาต้นเป็นกอ ใบเขยี วชอุ่ม สงู ประมาณ 3-4 ประมาณ 2-3 เซนตเิ มตร และมี เซนตเิ มตร สปั ดาหที่ 6 2-3 ต้นท่ีตายลง ลาตน้ เป็นกอ ใบเขยี วชอมุ่ สูงประมาณ 4-5 ต้นมีความสงู ประมาณ 3-4 เซนติเมตร ลาตน้ โตเท่ากัน เซนตเิ มตร และมี 6-9 ต้นท่ตี าย ลง ลาตน้ เปน็ กอ ใบเขียวชอมุ่ สูงประมาณ 6-7 เซนตเิ มตร ลาต้นโตเท่ากัน ต้นมคี วามสูงประมาณ 3-4 เซนติเมตร และมี 9-10 ต้นทต่ี าย ลง ต้นส่วนกลางจะรอดอยหู่ ลาย ตน้ ต้นมคี วามสูงประมาณ 5-6 ลาต้นเป็นกอ ใบเขยี วชอมุ่ สงู ประมาณ 7-10 เซนติเมตร และมี10-11 ต้นท่ตี าย เซนตเิ มตร ต้นเริ่มมีตน้ ออ่ นแทรกออกมา ลง ตารางท่ี 1 8. สถติ ทิ ใี่ ชใ้ นการวเิ คราะหข์ ้อมลู สถิตพิ รรณนา เป็นการนาเสนอข้อมูลทีเก็บรวบรวมมา โดยนามาบรรยาย ถึงลักษณะของข้อมลู ทีเก็บ มาได้ ในรปู แบบของ หลักสาคญั ของสถิติเชิงพรรณนา กค็ อื เก็บขอ้ มลู ชนิดใดมาได้ ก็จะต้องอธบิ ายได้เฉพาะ ข้อมลู ชนดิ นนั ไมส่ ามารถอ้างอิงถงึ ขอ้ มลู ในสว่ นอื่นๆได้
-9- บทที่ 4 การรายงานผลการวิจยั 1. วัตถุประสงคก์ ารวิจยั การกาหนดแนวทางหรอื ขอบเขตการศึกษาคน้ คว้า เพื่อบง่ บอกสง่ิ ทจ่ี ะตอ้ งทาในการศกึ ษาวจิ ัยตอ่ ไป อยา่ งชดั เจน รวมถึงเป็นการกาหนดขอบเขตการวิจยั ด้วยวา่ คอื อะไร นอกจากน้ี วตั ถปุ ระสงคของการวจิ ัยทีด่ ี น้ันจะต้องมคี วามสมเหตสุ มผลในการทาการศึกษาวิจัยทั้งในเร่อื งชว่ งเวลาและทรัพยากรท่ีตอ้ งการใช้งานอกี ด้วย จะกลา่ วถงึ สิ่งทค่ี าดหวงั วา่ จะเกดิ ขน้ึ ในการศึกษาวิจัย เพอ่ื แสดงรายละเอียดเกยี่ วกับเป้าหมาย จึงตอ้ ง เขยี นให้ครอบคลุมงานวจิ ยั ท่ีตอ้ งการศกึ ษาทง้ั หมด เป็นการศกึ ษาวา่ การปลกู ผกั ชีใบเลื่อยดว้ ยนา้ สามารถทาให้ ผักชีใบเล่ือยเติบโตไดข้ นาดไหน และการปลูกในกระบอกไมไ้ ผจ่ ะมีลักษณะออกมาเป็นแบบไหน 2. รายงานผลการวจิ ัย (นาเสนอตาราง) ลกั ษณะการเตบิ โต/แต่ละสปั ดาห ปลูกจานวน 19 ตน้ ปลกู จานวน 8 ต้น สปั ดาหที่ 1 สปั ดาหที่ 2 ต้นเฉามี ใบตก ตน้ เฉามี ใบตก ต้นเฉามี ใบตก ใบมีลักษณะสี ลาตน้ เป็นกอ ใบเขยี วชอุม่ สงู น้าตาล บางตน้ ประมาณ 1-2 เซนติเมตร สปั ดาหท่ี 3 ใบเร่ิมเขยี ว ตน้ มคี วามสงู ลาต้นเปน็ กอ ใบเขยี วชอมุ่ สงู ประมาณ 2-3 เซนติเมตร และมี ประมาณ 3-4 เซนติเมตร 2-3 ตน้ ท่ตี ายลง สัปดาหท่ี 4 ตน้ มคี วามสงู ประมาณ 3-4 ลาต้นเป็นกอ ใบเขยี วชอุ่ม สูง เซนตเิ มตร และมี 6-9 ตน้ ที่ตาย ประมาณ 4-5 เซนตเิ มตร ลาต้น ลง โตเท่ากัน สปั ดาหท่ี 5 ต้นมคี วามสงู ประมาณ 3-4 ลาต้นเป็นกอ ใบเขียวชอุ่ม สงู เซนติเมตร และมี 9-10 ตน้ ท่ตี าย ประมาณ 6-7 เซนตเิ มตร ลาตน้ ลง ต้นส่วนกลางจะรอดอยหู่ ลาย โตเท่ากนั ต้น สัปดาหท่ี 6 ต้นมคี วามสงู ประมาณ 5-6 ลาตน้ เปน็ กอ ใบเขยี วชอุ่ม สูง เซนติเมตร และมี10-11 ต้นทตี่ าย ประมาณ 7-10 เซนติเมตร ต้น ลง เรม่ิ มีตน้ อ่อนแทรกออกมา ตารางที่ 2
- 10 - บทที่ 5 การสรปุ และอภิปรายผลการวิจยั 1. วตั ถุประสงคก์ ารวจิ ยั การกาหนดแนวทางหรอื ขอบเขตการศกึ ษาคน้ คว้า เพือ่ บ่งบอกส่ิงท่จี ะตอ้ งทาในการศึกษาวิจัยต่อไป อยา่ งชดั เจน รวมถึงเป็นการกาหนดขอบเขตการวิจยั ด้วยวา่ คอื อะไร นอกจากน้ี วตั ถปุ ระสงคของการวิจยั ท่ดี ี นัน้ จะต้องมคี วามสมเหตสุ มผลในการทาการศกึ ษาวจิ ัยทั้งในเรื่องชว่ งเวลาและทรพั ยากรท่ีตอ้ งการใช้งานอีก ด้วย จะกลา่ วถงึ สง่ิ ท่คี าดหวงั วา่ จะเกิดข้นึ ในการศึกษาวจิ ัย เพื่อแสดงรายละเอยี ดเกย่ี วกบั เป้าหมาย จึงต้อง เขียนใหค้ รอบคลุมงานวจิ ยั ทต่ี ้องการศกึ ษาทั้งหมด เปน็ การศกึ ษาวา่ การปลกู ผกั ชใี บเลือ่ ยด้วยนา้ สามารถทาให้ ผักชีใบเลือ่ ยเติบโตได้ขนาดไหน และการปลูกในกระบอกไมไ้ ผจ่ ะมลี กั ษณะออกมาเป็นแบบไหน 2. การสรุปผลการวิจัย (บรรยายสรปุ ) ระยะเวลาทงั้ หมดทที่ าการปลูกผัก ทัง้ หมด 6 สัปดาหนนั้ ในการทาหรอื การปลกู ทุกขั้นตอนนั้นยอ่ มมี ปัญญาเสมอ อย่างการหา ณวัตกรรมในการปลูกหรอื พชี เชิง ณวัตกรรม กว่าจะหาอุปกรณพืชทีล่ งตัวนั้นใช้ เวลาอยู่พอสมควร พอมาถงึ ข้นั ตอนการปลูกน้ันกม็ ปี ํญหาในเวลาการปลกู ที่พืชตาย อยูห่ ลายครงั้ จนรู้ถึง วิธีการปลูกทชี่ ดั เจน และถูกตอ้ ง และปัญหาที่เกดิ ต่อมา คอื การหาทป่ี ลูก การวาง ที่ถกู ตอ้ งและปลอดภยั คอื สนุ ัขและแมว มากินหรือถอนตน้ ไมอ้ อกต้องคอยดู เรอื่ งของฝน ฟ้า อากาศ ท่ีไม่สามารถ รูไ้ ด้เลยวา่ แตล่ ะวนั จะเปน็ อย่างไร 3. การอภปิ รายผลการวจิ ัย การพัฒนาฐานข้อมูลผกั ชใี บเร่อื ย ในเรื่องการปลูกพชื เชงิ ณวตั กรรม ซงึ่ ในการอภปิ รายผล ดงั นี้ ผกั ชีฝร่ัง เปน็ ไมล้ ม้ ลุกเมอื งรอ้ นปีเดยี วหรอื หลายปี ในวงศผกั ชี (Apiaceae) มถี ่นิ กาเนิดในประเทศ เมก็ ซิโกและทวปี อเมรกิ าใต้ แตม่ ีการปลกู เล้ยี งไปทัว่ โลก ผักชฝี รงั่ มีชื่อพื้นเมอื งอื่นดังน้ี ผักชดี อย (เหนอื , เชียงใหม่) มะและเด๊าะ (กะเหรีย่ ง, แมฮ่ อ่ งสอน) หอมปอ้ มกุลา (เหนือ) ผักหอมเป (อีสาน) ผกั ชีฝรัง่ มีลาตน้ เต้ยี ตดิ ดิน ใบออกรอบโคนต้น ไมม่ กี ้านใบ ใบรูปหอก ยาวรี โคน ใบสอบลง ขอบใบจักรแบบฟนั เล่อื ย และที่ปลายจกั รมีหนามอ่อนๆ ดอกมีกา้ นชูสงู แตกก่ิงช่อดอกตรงปลาย ดอกเป็นกระจุกกลม สขี าวอมเขียว ตรงโคนช่อดอกมใี บประดบั รูป ดาว มกี ลิน่ หอมทงั้ ต้นและใบ ใบ ตาเป็นยาทาแกแ้ ผลเร้ือรงั และแกบ้ วม ท้งั ต้น แกแ้ มลงสัตวกัดต่อย แกป้ วด ศรี ษะ อาหารเป็นพษิ ผักพนื้ บา้ น อาหารพื้นเมอื ง
- 11 - ระบบฐานขอ้ มูลประกอบด้วยฟงั กชน่ั การ เพ่ิมข้อมลู การลบข้อมลู การคน้ หาขอ้ มลู การปรับปรงุ แก้ไขขอ้ มลู และการแสดงผลขอ้ มูล โดยมกี ารนาเสนอรปู ภาพ เรื่อง การปลกู ผกั ชีฝร่ัง หรือผกั ชใี บเร่ือย และมรี ายละเอียด ของผักชฝี รง่ั หรือผกั ชีใบเร่ือย สอดคล้องกบั ชือ่ ภาษาไทย ช่ือภาษาองั กฤษ ชื่อวิทยาศาสตร วงศ ชอ่ื อ่ืน ลักษณะ การใช้เป็นอาหารคุณประโยชน และ วธิ ีปลกู รูปที่ 1.5 4. ข้อเสนอแนะ 4.1 ขอ้ เสนอแนะในการทาวจิ ัยคร้ังตอ่ ไป ผจู้ ดั ทำควรนำเวลำที่หำผกั กบั นวตั กรรมกำรปลกู ใหไ้ ดเ้ รว็ กวำ่ นีอ้ ีกซกั หน่อย และควรศกึ ษำ วธิ ีกำรปลกู ผกั ชนิดนี้ ใหถ้ กู ตอ้ ง เพ่อื ลดกำรตำย ของผกั และเวลำ ของกำรปลกู ผกั ใหมด่ ว้ ย 4.2 ขอ้ เสนอแนะเชิงนโยบาย ................................................................................................................................................................ ..............................................................................................................................................................................
- 12 - บรรณานุกรม https://www.scimath.org/article/item/4833-2016-08-08-08-18-35#:~ https://www.google.com/search?q=%E0%B8%9C%E0%B8%B1%E0%B8%81% E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%9D%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9% 88%E0%B8%87&source=lnms&tbm=isch&sa=X&ved=2ahUKEwjf3da1ks75AhVr SWwGHWy-AMoQ_AUoAXoECAIQAw&biw=1536&bih=656&dpr=1.25#imgrc https://www.sgethai.com/article/%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%99- %E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%9C%E0%B8 %B1%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%AE%E0%B9%82%E0%B8%94%E0 %B8%A3%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%81 %E0%B8%AA%E0%B9%8C/ https://esc.doae.go.th/wp-content/uploads/2018/11/hydroponics.pdf http://research.rmu.ac.th/rdi-mis//upload/fullreport/1631595835.pdf
ภาคผนวก - 13 - ชือ่ รูปภาพ หน้า รปู ที่ 1.1 เจาะรูกระบอกไมไ้ ผ่ 6 รปู ที่ 1.2 ตดั โอเอซิส 6 รปู ที่ 1.3 นาผกั ใส่โอเอซสิ 7 รูปท่ี 1.4 นาผักลงไปปลกู ในกระบอกไมไ้ ผ่ 7 ตารางที่ 1 ตารางเกบ็ ขอ้ มูล 8 ตารางที่ 2 ตารางเกบ็ ข้อมลู 9 รูปท่ี 1.5 ผลหลงั จากการปลูกผ่านไป 6 สัปดาห 11
- 14 - เครื่องมือการเก็บข้อมูล เปน็ แบบฟอร์มบันทึกการเจริญเตบิ โตของพชื ในแต่ละสปั ดาห์ ลักษณะการเตบิ โต/แต่ละสปั ดาห ปลูกจานวน 19 ตน้ ปลูกจานวน 8 ต้น สัปดาหที่ 1 สัปดาหท่ี 2 สัปดาหท่ี 3 สัปดาหที่ 4 สปั ดาหท่ี 5 สปั ดาหท่ี 6 และมาดผู ลว่ากระบอกทป่ี ลกู เยอะหรอื ปลูกนอ้ ยเจริญเติบโตมากน้อยมากกวา่ กนั ขนาดไหนลกั ษณะ เป็นแบบไหน โดยทีไ่ ม่ใส่ปุ๋ย
Search
Read the Text Version
- 1 - 19
Pages: