AEC : เมดคิ ลั ฮับกบั แพคเกจของนโยบายสาธารณะทน่ี ่าจะมี มตชิ น (กรอบบ่าย) ฉบบั วันท่ี 24 ตุลาคม พ.ศ. 2555
ทุกวนั น้ี เรามีการประชุมเร่ืองเออีซี (AEC) ทว่ั ประเทศไมเ่ วน้ แต่ละวนั ถามวา่ ไดข้ อ้ สรุปอะไรบา้ งคาตอบท่ีตรงกนั ก็ คือ เราต้องเพ่ิมเติมทกั ษะด้านภาษาองั กฤษ คาตอบน้ีที่จริงไม่ตอ้ งประชุมกนั เลยก็รู้กนั ดีอยู่แล้วภาษาองั กฤษของคน ไทยแทบจะนบั ไดว้ า่ อ่อนท่ีสุดในอาเซียน (ASEAN) ที่จริงถา้ สรุปไดแ้ ค่น้ี น่าจะดีกวา่ถ้าเอาเงินงบประมาณที่จดั ประชุมไปแจกเงินให้ท้ังคนจัดและคนท่ีเข้าร่วมประชุม นักเรียน นักศึกษาผปู้ ระกอบการ และขา้ ราชการที่เกี่ยวขอ้ งเรียนภาษาองั กฤษให้ใชก้ ารได้ ทาไมถึงแจกใหค้ นท่ีเขา้ ร่วมประชุมก็เพราะพวกน้ีส่วนใหญ่เป็ นคนท่ีสนใจเออีซี (ถึงแมจ้ ะมีบางคนมาประชุมเพราะที่ทางานไม่มอบหมายงานอะไรใหท้ ากต็ าม) ที่จริงประเทศในอาเซียนไดเ้ ปิ ดเสรีการคา้ บริการและการลงทุนอย่างเป็ นข้นั ตอนมาเป็ นระยะเวลาหน่ึงแลว้ การเปิ ดเสรีใน 3 ปี ขา้ งหนา้ ท่ีเห็นวา่ ใหม่ น่าจะเป็ นการเปิ ดเสรีให้เกิดการเคลื่อนยา้ ยแรงงานทกั ษะสูงและแรงงานวิชาชีพข้นั สูง เช่น แพทย์ นางพยาบาล ผูเ้ ขียนอยากจะขอยกบริการด้านสุขภาพข้ึนมาเป็ นตวั อยา่ ง เพราะเกี่ยวขอ้ งกบั การเปิ ดเสรีของการเคลื่อนยา้ ยแรงงานวชิ าชีพและทกั ษะสูงโดยตรง การให้บริการสุขภาพให้แก่ชาวต่างประเทศในขณะน้ี มกั จะรู้จกั กนั ในนามของ เมดิคลั ทูริสซ่ึม(Medical tourism) หรือการท่องเท่ียวเชิงสุขภาพ ซ่ึงมีคานิยามวา่ หมายถึง ผทู้ ่ีเดินทางจากต่างประเทศมารับบริการดา้ นสุขภาพและการแพทย์ แต่คานิยามน้ี แคบไปแลว้ สาหรับโลกไร้พรมแดนในยุคน้ี เพราะไม่ใช่คนเทา่ น้นั ที่เดินทาง ขอ้ มูลสุขภาพก็เดินทางได้ ยา วคั ซีน ฯลฯ ต่างก็เดินทางไดท้ ้งั น้นั แมแ้ ต่ตวั ผใู้ หบ้ ริการเองก็เดินทางได้ เช่น เฮลิคอปเตอร์พาแพทยไ์ ปใหก้ ารรักษาคนไขท้ ี่พกั อยบู่ นเกาะ การให้บริการสุขภาพจึงไม่ใช่แค่คอยคนไขม้ ารับบริการ ถึงแมว้ า่ การเดินทางของคนไขจ้ ะเป็ นสัดส่วนกลุ่มกอ้ นท่ีใหญ่ท่ีสุดตอนน้ีก็ตามเมื่อมีเออีซีเราตอ้ งขยายการมองภาพสินคา้ และบริการใหมใ่ หก้ วา้ งข้ึน เป็ นการให้บริการสุขภาพแบบไร้พรมแดน (Medical service without frontier) คว า ม เข้ า ใ จ แล ะ ก า รใ ห้ ค า นิ ยา ม ที่ถู ก ต้ อ งนี้ส า คัญม า ก เพ รา ะ เก่ียว ข้ อ งกับ นโยบ า ยก า รล งทุ นขอ งภาคเอกชนและนโยบายของรัฐอย่างยงิ่ คานิยามอย่างแคบจะทาให้เรามี นโยบายปิ ดก้นั เพราะเราอยากเป็ นฮับ(Hub) ท่ีมีผู้รับบริการว่ิงเข้ามาและอยากให้ทุกคน ทุกอย่างมาเมืองไทย แต่หากเข้าใจแนวโน้มสินค้าและบริการอย่างทเี่ ป็ นอยู่ และกาลงั จะเป็ นไปแล้ว เราจะเข้าใจว่า ถึงเราจะปิ ดก้นั ไว้กไ็ ม่สาเร็จ เพราะในท่สี ุดหมอกเ็ ดินทางออกไปได้ ข้อมูลก็เดินทางได้ ยาก็เดินทางได้ ในคานิยามและความเข้าใจสินค้าและบริการสุขภาพอย่างกว้าง การเป็ นพนั ธมติ รกบั โรงพยาบาลทไ่ี ด้มาตรฐานในอาเซียน การขยายการลงทุนต้ังโรงพยาบาลท้งัในและนอกประเทศกลายเป็ นกลยทุ ธ์สาคัญ เม่อื นิยามสินค้าและบริการชัดเจนแล้ว ต่อมากค็ ือ จะทาอย่างไรให้สินค้าของเรามคี วามน่าดึงดูดใจ 2
ความน่ าดึ งดูดใจของสิ นค้าและบริ การด้า น ก า ร แ พ ท ย์ข้ึ น อ ยู่กับ ชื่ อ เ สี ย ง ข อ ง ว ง ก า รแพทยข์ อง ประเทศน้นั ๆ สองเป็ นเร่ืองของความพร้อมและมาตรฐานของสถานพยาบาล ชื่อเสียงน้ีมี 2 องคป์ ระกอบ องคป์ ระกอบดา้ นความรู้ ซ่ึงไม่จาเป็ นตอ้ งอยู่ในภาคเอกชนเท่าน้นั เป็ นองค์ความรู้ในวงการแพทยข์ องรัฐและในสถานศึกษาซ่ึงประเทศไทยก็มีภาษีอยู่ มหาวิทยาลัยวิจัย(Research universities) 3 แห่งคือมหาวิทยาลัยมหิดล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ต่างก็มีผลงานข้ึนทาเนียบ TOP 200 ระดบั นานาชาติ เป็ นที่รู้จกั ในวงการแพทยร์ ะดบั โลก นโยบายสาธารณะในดา้ นการประชาสัมพนั ธ์น้ีก็ตอ้ งเผยแพร่ความเขา้ ใจน้ีออกไปในส่ือต่างๆ ท้งั ใน ซีเอน็ เอ็น และ อลั จาซีราและการจดั ประชุมนานาชาติ ไม่ใช่ทาแต่ โรดโชว์ แค่สถานพยาบาล ตอ้ งใหร้ ู้กนั วา่ มีอะไรที่หมอท่ีอื่นทาไม่ได้ แต่หมอไทยทาได้ ชื่อเสียงน้ีไม่ใช่เฉพาะแค่ตวั หมอหน่ึงหรือสิบทา่ น เป็นชื่อเสียงของวงการท้งั หมดรวมท้งั ตอ้ งสนบั สนุนการประชุมนานาชาติดา้ นการแพทยใ์ นประเทศไทย เม่ือนิยามสินคา้ และบริการชดั เจนแลว้ ถดั ไปก็คือ ตอ้ งเขา้ ใจปัจจยั ที่ทาให้ผูร้ ับบริการหรือขอ้ มูลเคล่ือนมาหาเรา ปัจจยั แรกก็คือ ไม่มีบริการหรือขอ้ มูลประเภทที่ตอ้ งการในประเทศเขาหรือหากมีก็ไม่ได้คุณภาพ กลุ่มน้ีจะเป็นลูกคา้ จากประเทศดอ้ ยพฒั นา ปัจจยั ที่ 2 ก็คือ คุณภาพคุม้ หรือเกินกวา่ ราคา ปัจจยั ที่ 3ก็คือ เวลาในการรอรับบริการ ซ่ึงในประเทศเขาอาจจะใชเ้ วลามาก สองกลุ่มหลงั น้ีเป็ นกลุ่มประเทศพฒั นาแล้ว แต่ตลาดกลุ่มแรกกาลงั เติบโตอย่างกา้ วกระโดด จนเราไม่ตอ้ งแข่งขนั เร่ืองราคาอีกต่อไป ประเด็นนโยบายที่สาคญั ก็คือ ทาอย่างไรให้ฮบั ของเราขยายตวั บุคลากรของเรา (ท้งั ไทยและเทศ) ขยายตวั ท้งัคนไขไ้ ทยและตา่ งชาติไดร้ ับบริการดีข้ึนและถา้ เป็นไปไดค้ า่ บริการของคนไทยถูกลง ดังน้ัน เป้ าหมายของผลประโยชน์ท่ีได้จากเออีซีตวั ช้ีวดั ความสาเร็จในระยะยาว คือ ผลการเคล่ือนยา้ ยบุคลากรทางการแพทยเ์ ป็ นบวกสุทธิ สาหรับคนไทยแลว้ ถา้ ส่งเสริมเมดิคลั ฮบั แลว้ บุคลากรทางแพทยข์ องประเทศไทยหายหน้าไปหมด ประชาชนตอ้ งลาบากแน่ แน่นอนคงมีแพทย์ พยาบาลไทยออกไปบา้ ง แต่คนอื่นก็น่าจะอยากเขา้ มาประเทศไทยรวมท้งั แพทยไ์ ทยที่ไปต้งั รกรากต่างประเทศอาจจะอยากกลบั บา้ น เพราะเมืองไทยแสนน่าอภิรมย์ น่าอยู่ ตน้ ทุนค่าครองชีพต่ากวา่ สิงคโปร์ ถา้ นโยบายของเราไม่ปิ ดก้นั เกินไป และดึงดูดใจมากพอสมควร เราน่าจะได้ดุลมากกว่าเสียดุล ดงั น้ัน เราควรมีนโยบายส่งเสริมหมอคืนถ่ิน 3
ถา้ ไม่อยากให้หมอและพยาบาลไทยออกไปทางานต่างประเทศ เราก็ตอ้ งมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนดา้ นการใหบ้ ริการทางการแพทยเ์ พิ่มข้ึนในประเทศไทย ตอ้ งดูวา่ อตั ราภาษีรายไดข้ องการประกอบกิจกรรมของแพทยเ์ ป็นอยา่ งไร อยา่ ลืมวา่ แพทยใ์ นโรงพยาบาลเอกชนของไทย ไม่ใช่ลูกจา้ งโรงพยาบาลแต่เป็นผปู้ ระกอบการวชิ าชีพอิสระโดยอาศยั บริการของโรงพยาบาลประชาชน ดงั น้นั เราก็ตอ้ งไปดูนโยบายภาษีของเรา โดยเปรียบเทียบกบั นโยบายของประเทศอาเซียนอ่ืนๆ วา่ เป็นอยา่ งไร ขณะท่ีรัฐบาลไทยลดภาษีนิติบุคคลแล้ว แต่ภาษีบุคคลธรรมดายังสูงอยู่ในช่วงเงินเดือนแพทย์พอดี นอกจากนี้การส่ งเสริมการลงทุนของนานาชาติในการต้ังโรงพยาบาลไทย และส่งเสริมโรงพยาบาลไทยให้มสี าขาในต่างประเทศน่าจะเป็ นกลยุทธ์ทส่ี าคญั อีกประเด็นท่ีสาคญั มากก็คือ หากบุคลากรในประเทศไม่เพียงพอ ทาอยา่ งไรสภาวชิ าชีพในท่ีน้ีคือ แพทยสภาจะยอมให้บุคลากรต่างชาติมาให้บริการในประเทศไทย โดยไม่ตอ้ งสอบใบอนุญาตประกอบ โรคศิลปะภาษาไทย แต่ตอ้ งจากดั ให้เป็ นการให้บริการกบั ชาวต่างชาติเท่าน้นั ถา้ ไม่คลายปมตรงน้ีเราก็ ไมไ่ ดป้ ระโยชนจ์ ากเออีซี และโรงพยาบาลไทยอาจจะกลายเป็นโรงพยาบาลบริวารของท่ีอื่นไปหมด โอกาสของเมดิคลั ฮับ ยังมีอกี มาก ในขณะนีเ้ ราทาแค่ขายปลกี (Retailing) คอื ลูกค้าและข้อมูลของลูกค้าเข้ามาทีละคน ตลาดใหญ่น้ันเป็ นตลาดขายส่ง คอื ทาสัญญาล่วงหน้าเป็ นลอ็ ตใหญ่ ทาสัญญาเปลยี่ นเข่าทลี ะ 2,000 ข้าง ทาฟันปลอม 3,000 ชุด!! 4
มาถึงจุดน้ีก็ตอ้ งมาดูนโยบายสาธารณะดา้ นการผลิตบุคลากร ซ่ึงเราตอ้ งเร่งสร้างมาเพ่ิมเติมในระยะยาว แตใ่ นระยะส้ันเราตอ้ งให้บุคลากรต่างชาติเขา้ มา เราก็อาจให้เขาสอนนกั ศึกษาไทยได้ ก็ตอ้ งยอมให้โรงพยาบาลเอกชนเปิ ดโปรแกรมสอนแพทยภ์ าษาองั กฤษโดยรับนกั ศึกษาต่างประเทศดว้ ย หากคิดว่าแมวสีอะไรก็ไม่สาคญั ถา้ จบั หนูได้ หมอชาติอะไรก็ไม่สาคญั ถา้ คนไขก้ บั หมอพูดภาษาองั กฤษได้ ก็น่าจะใหร้ ักษากนั ได้ ทาแบบน้ีประเทศไทยก็จะไม่ขาดหมอ ณ ตรงน้ี กต็ อ้ งมีนโยบายรักษามาตรฐานและถ่ายทอดเทคโนโลยี ซ่ึงในดา้ นการแพทย์ อาจตอ้ งมีเป็ นตวั ช้ีวดั แบบ Process มากกว่าแบบปริมาณ เช่น ไม่ใช่นบั ว่ารักษาคนไขห้ ายไดก้ ่ีคนเท่าน้นั แต่ตอ้ งมีกระบวนการรักษาร่วมกนั ระหวา่ งแพทยไ์ ทยกบั แพทยต์ า่ งชาติ การถ่ายทอดเทคโนโลยีและการปรับระดบัมาตรฐานเขา้ หากนั และใหส้ ูงข้ึนในระยะยาว ขณะน้ีสถาบนั กาลงั ทาวจิ ยั เร่ือง เมดิคลั ทรู ิสซ่ึม ซ่ึงมีอาจารยก์ นั ตส์ ินี กนั ทะวงศว์ าร เป็นนกั วจิ ยั หลกัซ่ึงผเู้ ขียนจะพยายามนาผลการศึกษามาแลกเปล่ียนกนั เป็นระยะๆ ระหวา่ งน้ีกอ็ อกกาลงั กายรักษาสุขภาพกนั ดว้ ยนะคะ 5
Search
Read the Text Version
- 1 - 5
Pages: