38 ขั้นตอนที่ 2 การสร้างนวัตกรรม ผู้วิจัยศึกษาหลักการ แนวคิด ทฤษฎีจากวรรณกรรม และงานวิจัยท่ีเกย่ี วข้องกบั นวัตกรรม เพือ่ ให้ได้แนวทางในการสรา้ งนวัตกรรม ขนั้ ตอนท่ี 3 การทดลองใช้เพ่ือหาประสิทธิภาพของนวัตกรรม ข้ันตอนท่ี 4 การใชป้ ระโยชน์ ขน้ั ตอนท่ี 1 การกาหนดโจทยว์ จิ ัยเพ่ือสรา้ งนวัตกรรม กระบวนการ R&D ขน้ั ตอนท่ี 2 การสรา้ งนวตั กรรม ข้นั ตอนท่ี 3 การทดลองใชเ้ พ่ือหาประสิทธิภาพของนวตั กรรม ขั้นตอนที่ 4 การใช้ประโยชน์ ภาพที่ 12 กระบวนการวิจยั และพฒั นา กระบวนการวจิ ยั และพฒั นาประสบการณเ์ พ่ือการเรยี นรูอ้ าชีวศกึ ษาเกษตร สาหรบั ประสบการณเ์ พ่ือการเรยี นรู้อาชีวศึกษาเกษตร เป็นรปู แบบการจัดการเรียนการสอน ซึ่งผู้สอนสร้างขึ้น จึงเป็นส่ิงใหม่สาหรับการจดั การเรียนการสอน ซ่ึงย่อมต้องมีการปรับปรงุ หลงั จาก ใช้จัดการเรียนการสอนกับกลุ่มผู้เรียนกลุ่มหนึ่งไปแล้ว เพ่ือนาไปใช้กับกลุ่มใหม่จึงเห็นได้ว่า ประสบการณ์เพื่อการเรียนรอู้ าชีวศึกษาเกษตร จงึ เป็นสิ่งใหม่เสมอ ซ่ึงกค็ ือ นวตั กรรม Learning Experience (L.E.) = Innovation สาหรับขั้นตอนของกระบวนการ R&D ประสบการณ์เพ่ือการเรียนรู้อาชีวศึกษาเกษตร ยึดหลักกระบวนการ R&D ของ ดร.โสภณ ธนะมัย แต่ได้ปรับเปล่ียนจากเดิมซ่ึงต้องมีการกาหนด โจทยก์ ารวจิ ยั ซึง่ เป็นข้ันตอนแรก เปลยี่ นเป็น 4 ขน้ั ตอน ดงั นี้ ขนั้ ท่ี 1 สรา้ งนวัตกรรม ขั้นท่ี 2 ทดลองใช้ตารางประสบการณเ์ พ่ือการเรียนรู้ ขน้ั ที่ 3 ทดสอบความแตกตา่ งของคะแนนจากการทดลอง ขั้นท่ี 4 เผยแพรผ่ ลการวิจยั ขันตอนท่ี 1 สร้างนวัตกรรม คือสร้างตารางประสบการณ์เพ่ือการเรียนรู้อาชีวศึกษา เกษตร ที่ประกอบด้วยกาหนดเนื้อหาความรู้ วัตถุประสงค์การสอน วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม จัดสถานการณ์การเรียนรู้ประกอบด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ที่ผู้สอนสร้างข้ึนและกิจกรรมที่ผู้เรียน กระทา สอ่ื ชว่ ยสอน และการประเมินผล
39 ขันตอนท่ี 2 ทดลองใช้ตารางประสบการณ์เพ่ือการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการทดลองท่ี เหมาะสม ท้ังนี้ขอแนะนารูปแบบการทดลอง 2 รูปแบบ คือ รูปแบบท่ี 1 แบบกลุ่มเดียวมีการ ทดสอบคร้ังเดียว (One Shot Case Study) และรูปแบบท่ี 2 แบบกลุ่มเดียวแต่มีการทดสอบก่อน ทดลองและหลังทดลอง (One Group Pretest-Posttest Design) ซงึ่ มีความง่าย ไมย่ งุ่ ยากซับซ้อน (Simplicity) และมีความเพียงพอ (Sufficiency) ท่ีจะทดสอบเพื่อพิสูจน์ประสิทธิภาพของ L.E. อาชวี ศกึ ษาเกษตรได้แล้ว 1. กลมุ่ เดียวมีการทดสอบครงั เดยี ว (One Shot Case Study) ข้อดี ง่ายและสะดวกเหมาะสมสาหรับการทดลองกับกลุ่มผู้ถูกทดลองท่ีไม่สามารถ ทาการทดสอบก่อนทาการทดลองได้ แต่ก็สามารถเปรียบเทียบผลการทดลองกับคะแนนที่เป็น มาตรฐานโดยท่ัวไปได้ ข้อเสีย ผลการทดสอบที่ได้ไม่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากไม่มีการควบคุมตัวแปร แทรกซ้อนเลย และไม่มีการเปรียบเทียบผลการทดลองโดยใช้กลุ่มของผู้ทดลอง ผลที่ได้จากการ ทดสอบ อาจจะไมใ่ ชม่ าจากผลการทดลอง เพราะมีการทดสอบเพยี งคร้งั เดยี ว ลกั ษณะแบบการทดลอง XT สัญลักษณ์ X คือ การใหต้ วั แปรทดลอง (ตารางประสบการณเ์ พือ่ การเรยี นร)ู้ แก่กล่มุ ผู้ถูกทดลอง T คอื การทดสอบกลมุ่ ผถู้ กู ทดลอง หลังทาการทดลอง วิธีการ 1. มกี ล่มุ ผ้ถู ูกทดลอง 1 กลุม่ 2. ทาการทดลอง 3. ทาการทดสอบกลมุ่ ผูถ้ ูกทดลองหลงั การทาการทดลอง 2. กลุม่ เดยี วแตม่ ีการทดสอบก่อนและหลัง (One Group Pretest-Posttest Design) ขอ้ ดี การทดลองแบบนีพ้ ฒั นาดีขนึ้ กว่าแบบท่ี 1 เพราะมกี ารทดสอบคร้ังแรกก่อน การทดลอง ทาใหส้ ามารถเปรียบเทียบผลการทดลองได้โดยใชก้ ลุม่ ตนเองเปน็ ตัวเปรียบเทยี บ ข้อเสีย ในการสรุปผลการทดลองไม่ค่อยแน่ใจว่าความแตกต่างของผลการทดสอบ 2 ครงั้ นนั้ เป็นผลมาจากตารางประสบการณ์เพอื่ การเรียนรู้ทีท่ ดลองใชก้ ับกลุ่มผู้ถูกทดลอง เนื่องจาก ไม่มกี ลมุ่ ควบคมุ ตัวแปรแทรกซ้อน ที่อาจจะเปน็ ตวั แปรท่ที าให้เกิดผลการทดลอง
40 ลกั ษณะแบบการทดลอง T1 X T2 สัญลักษณ์ T1 คอื การทดสอบกลมุ่ ผถู้ ูกทดลอง กอ่ นทาการทดลอง X คอื การให้ตวั แปรทดลอง (ตารางประสบการณ์เพือ่ การเรียนรู)้ แกก่ ลมุ่ ผถู้ กู ทดลอง T2 คือ การทดสอบกลุ่มผถู้ ูกทดลอง หลังทาการทดลอง วิธกี าร 1. มีกล่มุ ผู้ถูกทดลอง 1 กลุม่ 2. ทาการทดสอบกลมุ่ ผถู้ ูกทดลอง กอ่ นทาการทดลอง 3. ทาการทดลอง 4. ทาการทดสอบกลุม่ ผถู้ ูกทดลอง หลังทาการทดลอง 5. ตรวจสอบความแตกต่างระหว่างผลการทดสอบครง้ั ที่ 1-2 ขันตอนที่ 3 ทดสอบความแตกตา่ งของคะแนนจากการทดลอง กรณีที่ 1 การทดลองแบบกลุ่มเดียว มีการทดสอบครั้งเดียว เป็นการทดสอบความ แตกต่างของคะแนนจากการทดสอบเปรยี บเทยี บกับคะแนนมาตรฐาน กรณีที่ 2 การทดลองแบบกลุ่มเดียว แต่มีการทดสอบก่อนและหลัง เป็นการทดสอบ ความแตกต่างของคะแนนจากการทดสอบทงั้ 2 คร้ัง คอื ก่อนการทดลองและหลงั การทดลอง ท้ัง 2 กรณี ทดสอบความแตกต่างด้วยค่าสถิติ t-test เม่ือกลุ่มผู้ถูกทดลองมีจานวน (n) นอ้ ยกวา่ 30 คน หรือ Z-test เม่อื n มากกวา่ 30 คน หรือเท่ากบั 30 คน กรณีท่ี 1 ทดสอบความแตกต่างของคะแนนเฉล่ยี กบั คะแนนมาตรฐานทั่วไป สาหรบั กลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่ (n มากกวา่ หรอื เทา่ กับ 30) ใช้ Z-test ซึ่งมสี ตู ร ดงั นี้ (พวงรตั น,์ 2543) z= x-̅ u0 S √n เมอื่ x̅ คอื ค่าเฉล่ยี ของข้อมลู ชดุ นั้น u0 คือ ค่าเฉลย่ี ของคะแนนทเี่ ปน็ มาตรฐานทวั่ ไป S คือ คา่ เบีย่ งเบนมาตรฐาน n คอื จานวนคนในกลุม่ ตวั อยา่ ง
41 สาหรบั กลุ่มตัวอย่างขนาดเล็ก (n น้อยกว่า 30) ใช้ t-test ซงึ่ มสี ตู ร ดงั น้ี x-̅ u0 t= S √n ท้งั 2 สูตร ค่า df (degree of freedom) = n-1 กรณีที่ 2 ทดสอบความแตกต่างของคะแนนเฉล่ียของกลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่มท่ีเกี่ยวข้อง กนั (Dependent Sample) เป็นการทดลองวัดจากกลมุ่ ตัวอยา่ งเดียวกัน 2 ครง้ั การทดสอบแบบน้ีกลุ่มตัวอย่างมักจะมีจานวนไมม่ ากนัก เปน็ กลมุ่ ตัวอยา่ งขนาดเล็ก สถิติท่ี ใชจ้ งึ เปน็ t-test ซ่งึ มสี ูตรดังนี้ (พวงรัตน,์ 2543) t = ΣD √n∑D2n − (∑D)2 − 1 เมอื่ D คือ ผลต่างของคะแนนแตล่ ะคู่ n คือ จานวนคู่ คา่ df (degree of freedom) = n-1 ขันตอนที่ 4 เผยแพร่ผลงานวจิ ัย การเผยแพร่ผลการวิจัย ทาได้โดยเขียนรายงานวจิ ัย และ/หรือนาเสนอผลงานเพื่อเผยแพร่ และ/หรือบทคัดย่อให้สาธารณะ ชุนชนวิชาการ วงการวิชาชีพ ฯลฯ ได้รับทราบ ก่อให้เกิด ประโยชนจ์ ากนวัตกรรม คอื ตารางประสบการณเ์ พ่ือการเรียนรทู้ ี่ไดส้ รา้ งขน้ึ มา ตวั อย่างการวิจัยและพัฒนาประสบการณ์เพอ่ื การเรยี นรอู้ าชีวศึกษาเกษตร กรณที ่ี 1 การทดลองแบบกลมุ่ เดยี วมีการทดสอบครงั เดยี ว จากการวิจัยเรื่อง การจัดประสบการณ์เพ่ือการเรียนรู้เร่ืองข้ันตอนการเพาะเล้ียงไรแดง สาหรบั ผเู้ รยี นระดับประกาศนียบัตรวชิ าชีพ (ปวช.) แผนกวิชาประมง วทิ ยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี นครศรีธรรมราช โดยได้นาชุดตารางประสบการณ์เพ่ือการเรียนรู้ ท่ีสร้างข้ึนไปทาการทดลองแบบ กลุ่มเดียว มีการทดสอบคร้ังเดียว และทาการทดสอบความแตกต่างของคะแนนเฉลี่ย เปรียบเทียบ กบั คะแนนมาตรฐาน (ร้อยละ 80 ของคะแนนเตม็ ) รายละเอยี ดการวิจยั ดงั นี้ 1. นวตั กรรม ในการวิจัยคร้ังนี้ คือ ชดุ ตารางประสบการณ์เพื่อการเรียนรู้ เรอ่ื ง ข้ันตอน การเพาะเล้ียงไรแดง ดงั ตารางท่ี 10
1 ตารางที่ 10 ประสบการณ์เพอื่ การเรยี นรเู้ ร่อื งข้ันตอนการเพาะเล้ยี งไรแดง เนอื หาความรู้ วตั ถุประสงคก์ าร วตั ถปุ ระสงค์เชงิ สถา สอน พฤติกรรม กจิ กรรมการเรียนรู้ในเนือหาควา สร้างขึน เนอื หา Knowing พทุ ธพิ สิ ัย เพ่อื ให้ผเู้ รยี นเขียน F2.1: ผูส้ อนอธิบาย “วิธีการเ ขอ้ เทจ็ จริงเกณฑ์/มาตรฐาน จา สรุปขนั้ ตอนการ แดง” โดยใช้ Power Point ขนั้ ตอนการเพาะเลย้ี งไรแดง เพาะเลยี้ งไรแดง วดี ทิ ศั น์ 1.ตากบ่อทง้ิ ไว้ 1 วนั เพอ่ื ให้ผเู้ รียน ไดถ้ กู ต้องตาม F2.2 ผสู้ อนนาผ้เู รียนทัศนศึก 2.เปดิ น้าและกรองลงบ่อให้ได้ สามารถสรปุ ขนั้ ตอน ในเวลา เพาะเลย้ี งไรแดงของ วษ.ท. ระดบั ความลึก 20เซนตเิ มตร ขนั้ ตอนการ 10 นาที นครศรธี รรมราช ปรมิ าตรนา้ 10 ลูกบาศกเ์ มตร เพาะเล้ียงไร 3.ละลายอาหารเพาะเลี้ยงไรแดง แดงได้ โดยผ่านอวนไนลอ่ นสฟี ้าตามสตู ร ทก่ี าหนดพร้อมเตมิ อากาศลงใน F1.2: กลมุ่ 1 ผู้สอนใหผ้ เู้ รยี นา้ เขยี นสรปุ ”ขน้ั ตอนการเพาะเล 4.เตมิ นา้ เขยี ว (Chlorella)ลงใน ในกระดาษ A4 บอ่ ประมาณ 1,000ลติ ร (1 ตนั ) กลมุ่ 2 ไมไ่ ด้เขยี นสรปุ ทง้ิ ไว้ประมาณ 3 วัน เพือ่ รอให้น้า การเพาะเลย้ี งไรแดง” ในกระ มสี ีเขียวของ Chlorella มากขึน้ F2.3, 1.3: ผู้สอนและผเู้ รยี นร ในระหวา่ งนคี้ วรคนนา้ บอ่ ยๆเพือ่ ข้ันตอนการเพาะเลีย้ งไรแดง ป ป้องกันการตกตะกอน Power Point 5.เติมนา้ สะอาดโดยผา่ นผา้ กรอง ใหไ้ ดร้ ะดับความลกึ 40 – 50 เซนตเิ มตร คนน้าใน บ่อให้ทัว่ ทงิ้ ไว้ 1 วัน 2
42 านการณ์การเรยี นรู้ สอื่ ช่วยสอน การประเมนิ ผล ามรทู้ ผ่ี ้สู อน กจิ กรรมทผ่ี เู้ รยี นกระทา เพาะเล้ยี งไร ผู้เรยี นฟงั และดู ใช้ Power 1. Power Point ผ้เู รยี นเขียนสรปุ และ Point และ การเพาะเลยี้ ง ข้นั ตอนการ วดี ิทัศน์ ไรแดง เพาะเลี้ยงไรแดง ได้ กษาฟาร์ม ผเู้ รยี นทศั นศึกษาฟารม์ 2. วดี ทิ ศั น์ การ ถูกต้องตามข้นั ตอน เพาะเล้ยี งไรแดงของ วษท. เพาะเลยี้ ง ในเวลา 10 นาที นครศรธี รรมราช ให้ผเู้ รยี นแต่ ไรแดง ละคนเขียนสรปุ ”ข้นั ตอนการ 3. ฟารม์ เพาะเล้ียงไรแดงในกระดาษ เพาะเลีย้ ง A4 ไรแดง วษท. นครศรีธรรมราช ยนแตล่ ะคน ลยี้ งไรแดง ป “ข้ันตอน ะดาษ A4 รว่ มกนั สรปุ ผ้สู อนและผเู้ รียนรว่ มกันสรปุ ประกอบ ขน้ั ตอนการเพาะเลยี้ งไรแดง
43 2. กลุ่มผู้ถูกทดลอง ผู้เรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพแผนกวิชาประมงวิทยาลัยเกษตรและ เทคโนโลยนี ครศรีธรรมราช จานวน 15 คน 3. ทดสอบความแตกต่างของคะแนนเฉลี่ยของผลการทดสอบกับค่าคะแนนมาตรฐานร้อยละ 80 โดยใช้ค่าสถติ ิ t-test (กลุม่ ผู้เรียนมีจานวนน้อยกวา่ 30 คน) ดงั สตู ร t= x-̅ u0 S √n เมือ่ x̅ คือ ค่าเฉล่ียของข้อมูลชดุ นนั้ คือ ค่าคะแนนมาตรฐานรอ้ ยละ 80 S คอื ค่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน n คอื จานวน ผ้เู รียน รายละเอยี ดการคานวณหาค่าสถิติ t-test สามารถศึกษาได้จากหนังสือเกี่ยวกับ สถิตกิ ารวิจัยทาง พฤติกรรมศาสตร์/สงั คมศาสตร์/การศกึ ษาโดยท่ัวไป 4. ผลการทดสอบ ผ ล ก า ร เ ป รี ย บ เ ที ยบ ค ะแ น น หลั ง ก า รจั ด ปร ะส บก า ร ณ์ เ พ่ื อ ก า ร เรี ย นรู้ เ รื่อง ข้ั น ต อน การ เพาะเลี้ยงไรแดงกบั เกณฑค์ ะแนนมาตรฐานท่ีกาหนด (คะแนนร้อยละ 80 ของคะแนนเต็ม) จากการจัดประสบการณ์เพ่ือการเรียนรู้เรื่องข้ันตอนการเพาะเลี้ยงไรแดง นาคะแนนหลัง เรยี น มาเปรียบเทียบกบั เกณฑ์คะแนนมาตรฐานที่กาหนด ได้ผลดงั ตารางที่ 11 ตารางท่ี 11 คา่ เฉล่ยี ค่าเบยี่ งเบนมาตรฐาน คะแนนหลงั การจัดประสบการณเ์ พ่ือการเรยี นรู้ เรอื่ งขนั้ ตอนการเพาะเลย้ี งไรแดงเทยี บกับเกณฑ์คะแนนมาตรฐานร้อยละ 80 ผเู้ รยี น วั ต ถุ ป ร ะ ส ง ค์ จานวน คะแนนเตม็ เกณฑ์ร้อย คะแนนหลังเรยี น t การสอน ผเู้ รียน ละ 80 x̅ SD กลมุ่ 1 จดจา 71 0.8 0.85 0.38 0.36ns กลมุ่ 2 จดจา 81 0.8 0.63 0.52 0.97ns จากตารางท่ี 11 เนอ้ื หาการจัดประสบการณ์เพื่อการเรยี นรเู้ รื่องขัน้ ตอนการเพาะเลยี้ งไรแดง มี วัตถุประสงค์การสอนคือ จดจา คะแนนเฉลี่ยหลงั การจดั ประสบการณเ์ พือ่ การเรียนรูเ้ รื่องขั้นตอนการ เพาะเลี้ยงไรแดง ของกลุ่มที่ 1 เท่ากับ 0.85 กลุ่มท่ี 2 เท่ากับ 0.63 คะแนนร้อยละ 80 ของ คะแนนเต็ม คือ 0.80 คะแนน เม่ือนาคะแนนหลังเรียนของทั้งสองกลุ่มเปรียบเทียบกับคะ แนน มาตรฐาน 0.80 คะแนน พบวา่ ไมม่ ีความแตกตา่ งอยา่ งมีนัยสาคัญทางสถิตทิ ่ีระดบั 0.05
44 จากผลการทดลองประสบการณ์เพ่ือการเรียนรู้กับผู้เรียน ปวช. ทั้ง 2 กลุ่ม เห็นได้ว่า การ วัดผลความสาเร็จ “ข้ันตอนการเพาะเลี้ยงไรแดง” ผู้เรียน กลุ่มที่ 1 ได้คะแนนเฉลี่ยสูงกว่า คะแนน มาตรฐาน ร้อยละ 80 แต่ผู้เรียน กลุ่มที่ 2 ได้คะแนนเฉล่ียต่ากว่าคะแนนมาตรฐาน ร้อยละ 80 จึง เป็นหน้าที่ของผู้วิจัย ต้องหาสาเหตุแล้วปรับ “สถานการณ์การเรียนรู้”ใหม่ รวมทั้งทาการทดลองซ้า กบั ผู้เรยี นกลมุ่ น้ี เม่ือเสร็จส้ินการทดลองกับกลุ่มผู้เรียนทั้ง 2 กลุ่มแล้ว ผู้วิจัยต้องนาตารางประสบการณ์เพื่อ การเรียนรู้เร่ืองดังกล่าว ทดลองใช้กับผู้เรียนระดับ ปวช. กลุ่มอ่ืนต่อไป แล้วปรับปรุงตาราง ประสบการณ์เพ่อื การเรียนรู้ใช้กบั ผเู้ รยี นกลุ่มตอ่ ไปด้วย จงึ ทาให”้ ตารางประสบการณเ์ พื่อการเรียนรู้” นเี้ ป็น “นวัตกรรม”ตลอดไป การค้นหาสาเหตุที่ทาให้คะแนนต่านั้น ต้องมุ่งไปท่ีลักษณะเฉพาะ (Attributes) ของผู้ถูก ทดลองว่า กลุ่มตัวอย่างผู้เรียนแต่ละคนนั้นเป็นอย่างไร ซ่ึงอาจมีบาง Attribute เป็นตัวแปรส่งผลต่อ คะแนนท่ีได้ของผู้เรียน เช่น อายุ อาชีพ หน้าท่ีการงาน สถานภาพทางสังคม ประสบการณ์เก่ียวกับ เนื้อหาความรทู้ ่ีเรยี น ภารกจิ สว่ นตวั ในวันที่มาเรยี นจนออ่ นล้าต่อการเรยี น และอ่ืนๆ นอกจาก Attributes ของผู้เรียนแล้ว ต้องตรวจสอบหน่วยทดลอง คือ ชั้นเรียนด้วยว่า เป็น ปัจจัยแทรกซ้อนที่มีผลต่อการทดลองหรือไม่ เช่น ช้ันเรียนมีอากาศร้อนเกินไป มีเสียงดังรบกวนจาก ภายนอกชั้นเรยี น เป็นต้น และอ่ืนๆ ทีจ่ ะมผี ลกระทบต่อหนว่ ยการทดลอง กรณีที่ 2 การทดลองแบบกลุม่ เดยี ว แต่มกี ารทดสอบกอ่ นและหลงั การวิจัยเร่ืองการจัดประสบการณ์เพ่ือการเรียนรู้ เร่ืองลักษณะ ไรแดงเพศเมียและเพศผู้ สาหรับผู้เรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ แผนกวิชาประมง วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี นครศรีธรรมราช การวิจัยครั้งนี้ได้นาประสบการณ์เพ่ือการเรียนรู้ที่สร้างขึ้นไปทาการทดลองแบบ กลุ่มเดียว แต่มีการทดสอบก่อนและหลัง ทาการทดสอบความแตกต่างของคะแนนจากการทดสอบ 2 ครั้ง คอื ก่อนการทดลอง และหลังการทดลอง รายละเอียดการวิจยั ดงั นี้ 1. นวัตกรรมในการวิจัยครั้งน้ี คือ ตารางประสบการณ์เพ่ือการเรียนรู้เร่ืองลักษณะไรแดง เพศเมียและเพศผู้ ดังตารางท่ี 12
1 ตารางท่ี 12 ประสบการณเ์ พือ่ การเรียนรู้ เรือ่ งลกั ษณะไรแดงเพศเมียและเพศผู้ เนอื หาความรู้ วตั ถุประสงค์ วัตถุประสงค์ สถานการณ์ก การสอน เชงิ พฤติกรรม กิจกรรมการเรียนรใู้ นเนอื หาความรู้ที่ผู้สอน สร้างขนึ เนอื หา knowing พุทธิพิสยั เพื่อใหผ้ ู้เรียน F2.1 ผสู้ อนอธิบาย “ลักษณะไรแดง ความคดิ รวบยอด นาไปใช้ สามารถแยก เพศเมีย เพศผู้” ด้วย Power Point ไรแดงเพศเมีย ภาพแสดงเพศ (5 นาท)ี มขี นาดใหญ่ ลาตัว เพือ่ ใหผ้ ู้เรยี น ผู้ เพศเมยี ของ F1.1 ผสู้ อนให้ผู้เรยี นจดบันทึกลงใน อว้ นกลม มขี นาด สามารถ ไรแดง จานวน กระดาษ (5 นาที) เฉลย่ี 1.25 จาแนกเพศ 10 ภาพ ได้ F2.2 ผสู้ อนให้ผ้เู รียนดู “ตัวอย่าง ไร มลิ ลเิ มตร เมียและเพศ ถกู ต้อง.ใน แดงเพศเมยี เพศผู้” ในแก้วน้า ดว้ ยตา ไรแดงเพศผู้ ผขู้ องไรแดง เวลา 5 นาที เปล่าเปรียบเทยี บกับภาพไรแดง (5 มขี นาดเล็กและ ได้ นาท)ี ลาตัวยาวกวา่ เพศ F2.2 ผสู้ อนใหผ้ ู้เรยี นดู “ตัวอย่าง ไร เมีย มีขนาดเฉล่ยี แดงเพศเมีย เพศผู้” ด้วยกล้อง 0.6 มลิ ลเิ มตร จลุ ทรรศน์ เปรียบเทียบกบั ภาพไรแดง เพศผเู้ พศเมีย (5 นาที) F2.3 ผสู้ อนแจกภาพไรแดงเพศเมยี เพศผู้เพ่ือให้ผเู้ รียนแยกภาพจานวน 10 ภาพภายใน 5 นาที 2
45 การเรียนรู้ ส่อื ชว่ ยสอน การ น กิจกรรมทผ่ี ูเ้ รยี นกระทา ประเมนิ ผล ผเู้ รยี นฟงั คาอธบิ ายพร้อมดู 1.Power ผ้เู รยี น Power Point และจดบนั ทกึ Point สามารถแยก “ลักษณะเพศเมียและเพศผู้ ลักษณะไร ภาพแสดง ของไรแดง “ลงในกระดาษ แดงเพศเมีย เพศผู้ เพศ เพศผู้ และ เมยี ของไร ผู้เรียนดูตัวอย่าง ไรแดงเพศ ภาพไรแดง แดง จานวน า เ มี ย เ พ ศ ผู้ ” ด้ ว ย ก ล้ อ ง 2. ตวั ไรแดง 10 ภาพ ได้ จุลทรรศน์ เปรียบเทียบกับ เพศเมยี เพศ ถกู ตอ้ ง.ใน ภาพไรแดงเพศผเู้ พศเมยี ผู้ เวลา 5 นาที 3. กลอ้ ง จุลทรรศน์ 4. กระดาษ A 4 สาหรบั ผ้เู รยี นแยกภาพไรแดงเพศผู้ จดบันทกึ เพศเมยี
46 2. กลุ่มผู้ถูกทดลอง ในการวิจัยครั้งนี้ คือผู้เรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ แผนกวิชา ประมง วทิ ยาลัยเกษตรและเทคโนโลยนี ครศรธี รรมราช จานวน 7 คน 3. ทดสอบความแตกต่างของคะแนนจากการทดสอบก่อน-หลัง โดยใช้ค่าสถิติ t-test แบบ t- dependent ซึง่ มสี ูตรดงั นี้ D t = nD2 - (D)2 n-1 เมื่อ D คือ ผลต่างของคะแนนในแต่ละคู่ n คอื จานวนคู่ 4. ผลการทดสอบ 1. ตารางประสบการณ์เพื่อการเรียนรู้ เรื่องลักษณะไรแดงเพศเมียและเพศผู้ วัตถุประสงค์ การสอน: นาไปใช้ คะแนนเฉล่ียของผู้เรียนก่อนทดลอง เท่ากับ 7.14 คะแนน หลังการทดลองเท่ากับ 8.86 เมื่อทดสอบโดยค่าสถิติ t-dependent ที่ df=6 ระดับความเช่ือม่ัน .05* มีค่า 2.447 แต่ค่า t ท่ี คานวณได้ มคี า่ 2.27 แปลวา่ การจัดประสบการณเ์ พ่ือการเรยี นรู้เรอื่ งน้ี ทาให้ผเู้ รียนได้ความรูเ้ พิ่มขึ้น จริง เชือ่ ได้ 95% คา่ สถติ ิ ค ะ แ น น ������̅ ������̅ t หลังทดลอง 2.27* พฤติกรรม เต็ม กอ่ นทดลอง 8.86 แยกเพศไรแดงเพศเมียและผู้ 10 7.14 วตั ถปุ ระสงคก์ ารสอน: นาไปใช้ ผลจากการทดลองใช้ตารางประสบการณ์เพื่อการเรียนรู้ เรื่อง ลักษณะไรแดงเพศเมียและ เพศผู้ พบว่า กลุ่มผู้ถูกทดลองผู้เรียนระดับ ปวช. ทาคะแนนผลการทดสอบหลังเรียนสูงกว่าก่อน เรียน ในการทดลองใช้ตารางประสบการณเ์ พ่ือการเรยี นรู้ทสี่ ร้างขึ้น ถึงแม้จะรู้วา่ ตารางประสบการณ์ เพ่ือการเรียนรู้มีประสิทธิภาพ แต่ผู้วิจัยจะหยุดทดลองเพียงเฉพาะกระทากับกลุ่มผู้ถูกทดลองกลุ่มนี้ เพยี งกลมุ่ เดียวไม่ได้ จะตอ้ งทาการทดลองกับผ้เู รียน ระดบั ปวช. กลุ่มอืน่ ๆอกี ท้งั นีเ้ พอื่ เปน็ การยืนยัน ผลการทดลองครั้งแรก หรืออาจจะพบข้อผิดพลาดจากการทดลอง ซึ่งต้องนาตารางประสบการณ์เพ่ือ การเรียนรู้นี้มาปรับแก้ เพ่ือนาไปทดลองใหม่ ดังน้ัน ตารางประสบการณ์เพื่อการเรียนรกู้ ็จะเป็น “สิ่ง ใหม่”ตอ่ ไป
47 บรรณานุกรม โกวิท ประวาลพฤกษ์ และสมศักด์ิ สินธุระเวชญ์. 2523. การประเมินในชันเรียน.กรุงเทพ: วัฒนา พานิช. บุญธรรม จิตตอ์ นนั ต.์ 2540. ส่งเสรมิ การเกษตร.กรุงเทพ: สานกั พิมพม์ หาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์. พวงรัตน์ ทวีรัตน์. 2543. วิธีการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์. พิมพ์คร้ังท่ี 8. สานักทดสอบทางการศึกษาและจิตวทิ ยา มหาวิทยาลัยศรีนครนิ ทรวโิ รฒ ประสานมติ ร ลาวณั ย์ วจิ ารณ์. 2561. การสร้างประสบการณเ์ พือ่ การเรียนรสู้ ิ่งแวดล้อม กบั R&D ทาง การศึกษา แนวทางสกู่ ารปฏิบัติ. ปทมุ ธานี: โรงพมิ พ์มหาวิทยาลยั รังสติ . . 2561. R&D: L.E. อาชีวศึกษาเกษตรแนวทางสู่การปฏิบัติ. ปทุมธานี: โรงพิมพ์ มหาวิทยาลัยรงั สิต. สมสุดา ผู้พัฒน์ และโสภณ ธนะมัย.2534. คู่มือการเขียนเอกสารประกอบการสอนและ แผนการ สอน. กองวิทยาลยั เกษตรกรรม กรมอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศึกษาธกิ าร. โสภณ ธนะมัย. 2561. ถอดรหัสคิด (Think: An Introductory Analysis). ปทุมธานี:โรงพิมพ์ มหาวิทยาลยั รังสิต. . 2561. หลักและกระบวนการ R&D ทางการศกึ ษา. ปทุมธานี: โรงพมิ พ์มหาวิทยาลัยรังสติ .
Search